8 สถานที่ ไหว้พระขอพรความรัก พร้อมที่จอดรถ

เผลอแป๊บเดียว ก็ล่วงเข้ามาในช่วงเทศกาล “วาเลนไทน์ 2565” กันแล้ว หลายคนที่ยังเป็นโสด หรือกำลังจีบกันอยู่ หลายๆ คนที่เป็นชาวสายมู อยากมีแฟนสมใจปรารถนา มีความรักเบิกบานในช่วงวาเลนไทน์ 2565 และอยากไหว้พระเพื่อความเป็นสิริมงคล พร้อมอธิษฐานขอพรให้สมหวังในความรักไปด้วย

อ่านเพิ่มเติม >> 5 สิ่งที่หนุ่มๆ ควรซื้อให้สาวๆ ติดรถในวันวาเลนไทน์

อ่านเพิ่มเติม >> 7 ของติดรถที่สาวๆ ควรเซอร์ไพรส์แฟนหนุ่ม ในวาเลนไทน์

อ่านเพิ่มเติม >> 5 วิธี เซอร์ไพรส์แฟนกับรถคู่ใจ ในวาเลนไทน์ ดีต่อใจสุดๆ!

CARRO จัดให้เลยครับ แนะนำ 8 สถานที่ดังๆ ไหว้พระขอพรเรื่องความรักในกรุงเทพฯ CARRO ขอแนะนำทุกท่าน สมหวังความรักกันในวันวาเลนไทน์นะครับ

ภาพจาก Hindu Meeting (Fan Page)

1. วัดพระศรีมหาอุมาเทวี (วัดแขก, วัดแขกสีลม)

สถานที่ยอดฮิตของคนกำลังมีความรัก มักนิยมมาไหว้พระขอพร สักการะบูชาพระแม่อุมาเทวีกันที่ “วัดแขก” , “วัดแขกสีลม” หรือ “วัดพระศรีมหาอุมาเทวี” ซึ่งจัดเป็นวัดในศาสนาฮินดู มีอายุเก่าแก่มากกว่า 100 กว่าปี ด้วยสถาปัตยกรรมแบบอินเดียตอนใต้ ซึ่งมีช่างผู้ชำนาญการชาวทมิฬ รัฐทมิฬนาฑุ ประเทศอินเดียเป็นผู้อำนวยการก่อสร้าง ท่ามกลางย่านสีลมที่ในอดีต มีคนเชื้อสายอินเดียอพยพมาอยู่กันมากพอสมควร

โดยเชื่อกันว่าพระแม่อุมาเทวี ทรงเป็นมารดาแห่ง พระพิฆเนศ และเป็นชายาแห่งพระศิวะ พระแม่อุมาเป็นเทวีมีความรักต่อพระศิวะมาก การได้กราบสักการะท่าน จึงเป็นการเสริมดวงเรื่องความรัก ประสบความสำเร็จในการใช้ชีวิตคู่ และมีบุตรที่ดี รวมทั้งประทานปัจจัยเพียบพร้อมในการเลี้ยงดูบุตรให้เติบโตเป็นคนดี

เคล็ดลับการไหว้ ต้องสักการะพระพิฆเนศก่อนไหว้ท่าน โดยห้ามถวายของคาวเด็ดขาด ถวายได้เฉพาะ นม ผลไม้ ขนมอินเดียที่ทำจากนมน้ำตาลต่างๆ แต่หากใครไม่สะดวกพกพาเครื่องบูชามาเอง ก็สามารถซื้อเครื่องบูชาของทางวัดได้ ซึ่งมีให้เลือกทั้งถาดชุดเล็ก ราคา 60 บาท และถาดชุดใหญ่ ราคา 100 บาท

วัดแขกเปิดให้สักการะทุกวัน โดยเวลาเปิด วันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 6.00 – 20.00 น. (วันศุกร์ เปิดถึง 21.00 น.) วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 6.00 – 20.30 น. (ขณะนี้ประตูเข้า-ออกวัด ใช้ประตูทางฝั่งถนนปั้นเป็นหลัก ส่วนผู้เข้าวัดจะต้องได้รับการฉีดวัคซีนไม่ต่ำกว่า 2 เข็ม พร้อมแสดงหลักฐานการฉีด และต้องสวมหน้ากากอนามัยทุกท่าน)

ในช่วงวันขึ้น 1-9 ค่ำ ของทุกๆ ปี ตั้งแต่ปลายเดือนกันยายน – ต้นเดือนตุลาคม รวม 9 วัน 9 คืน ทางวัดจะมีเทศกาลนวราตรี ซึ่งเป็นงานแห่พระแม่อุมาเทวี และเชื่อกันว่าช่วงเวลานี้พระแม่และขบวนเทพ จะเสด็จมายังโลกเพื่อประทานพรให้กับมนุษย์ และในเดือนพฤศจิกายน ก็จะมีเทศกาลดิวาลี หรือเทศกาลแห่งแสงสว่าง อีกด้วย

หมายเหตุ: ขณะนี้ทางวัดพระศรีมหาอุมาเทวี (วัดแขกสีลม) ได้จัดทำปฏิทินกำหนดการพิธีบูชา ตลอดปี 2565 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยปีนี้ไม่มีการพิมพ์แจกใบปลิว แต่จัดทำเป็นฉบับ Digital สามารถเข้าไปดาวน์โหลดได้ที่ลิงก์นี้ https://sv1.picz.in.th/images/2021/12/19/6aaumu.jpg

สถานที่จอดรถใกล้เคียง:

  • Central Silom Tower (เซ็นทรัลสีลม)
  • Jewelry Trade Center (จิวเวลรี่ เทรด เซ็นเตอร์)
  • Holiday Inn Bangkok Silom
  • โรงแรมนารายณ์
  • สุสานฮกเกี้ยน
  • สุสานบาบ๋า
  • สุสานและฌาปนสถานสมาคมจีนแคะ ซอยสีลม 9
  • อาคารกองบุญมา

ภาพจาก Hindu Samaj Bangkok วัดเทพมณเทียร สมาคมฮินดูสมาช

2. วัดเทพมณเฑียร เสาชิงช้า

วัดเทพมณเฑียร นับได้ว่าเป็นวัดที่สร้างขึ้นชาวอินเดียที่อพยพมาอยู่ในไทยอีกวัดหนึ่ง ในนาม “ฮินดูสภา” ซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนเป็น “สมาคมฮินดูสมาช” จนถึงปัจจุบัน ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามวัดสุทัศน์เทพวราราม ข้างโรงเรียนเบญจมราชาลัย เป็นเทวาลัยอีกสถานที่หนึ่งที่คนอยากมีคู่ หรือคนโสด นิยมมาไหว้ขอพร สามารถสักการะได้ตั้งแต่ช่วง 8.30 12.00 น. และ 17.00 – 20.30 น. (วันศุกร์ ปิด 20.00 น.)

ภายในจะมีพระกฤษณะ และพระแม่ราธา ซึ่งการบูชาจะต้องเตรียมดอกไม้ธูปเทียนไปให้เรียบร้อย โดยที่ทางวัดไม่มีจำหน่าย และควรสวดบูชาพระพิฆเนศก่อน

โดยเชื่อว่าพระกฤษณะ ปางหนึ่งของพระนารายณ์อวตาร ส่วนพระแม่ราธา ก็คือพระลักษมีที่อวตารลงมาคู่กับท่านบนโลกมนุษย์ในมหากาพย์ “มหาภารตะ” ซึ่งเมื่อยามที่พระกฤษณะใช้ชีวิตอยู่บนโลกมนุษย์ ท่านมีสนมหลายคน แต่ท่านก็มีจิตใจรักมั่นต่อพระแม่ราธาฝังอยู่ในใจของท่านเสมอ

สถานที่จอดรถใกล้เคียง:

  • สามารถจอดรถได้ในวัด
  • The Old Siam Plaza (ดิโอลด์สยามพลาซ่า)

ภาพจาก เทวาลัยพระพิฆเนศ-สี่แยกรัชดา ห้วยขวาง

3. เทวาลัยพระพิฆเนศ สี่แยกรัชดา ห้วยขวาง

สักการะพระพิฆเณศ เทพแห่งความสำเร็จและอุปสรรค ที่บริเวณสี่แยกห้วยขวาง คุณสามารถสักการะองค์ประธานปางยืนด้านหน้า ก่อนเข้าไปสักการะองค์เทพปางครอบครัวพระศิวะ อันประกอบด้วย พระศิวะ พระแม่อุมา และพระพิฆเนศด้านใน

เพื่อขอพรด้านความรักและความราบรื่นในครอบครัว ทีเด็ดสุดท้ายคือด้านในสุดของศาล จะมีพระพิฆเนศปางอุ้มพระชายา ได้แก่ นางสิทธิ และพุทธิ ด้านใน ซึ่งสามารถมาขอพรเรื่องปรีชาญาณและความมั่งมีศรีสุข รวมถึงเรื่องความรักได้

การขอพรปกติใช้ธูป 5 ดอก แต่ถ้ามีบริวารเยอะอาจใช้ 32 ดอก บอกชื่อ-นามสกุล กราบสักการะองค์พระพิฆเนศ ผู้เป็นใหญ่ในสถานที่แห่งนี้ 32 ช่องพรหม 16 ช่องฟ้า 15 ช่องดิน ทูลถึงท่านและทวยเทพทุกพระองค์ และอย่าลืมไปกระซิบข้างหูของหนูมุสิกะ เพื่อย้ำเตือนให้พรที่ขอไปถึงพระพิฆเนศ หากใครต้องการขอเรื่องความรัก และการงาน ที่นี่ก็มีพระตรีมูรติด้วยเช่นกัน

สถานที่จอดรถใกล้เคียง:

  • ลานจอดรถ MRT ห้วยขวาง
  • The Street รัชดา
  • Big C รัชดาภิเษก
  • โรงแรม The Emerald

ศาลพระตรีมูรติ หน้าห้างสรรพสินค้า CentralWorld

4. ศาลพระตรีมูรติ หน้าห้างสรรพสินค้า CentralWorld

ศาลพระตรีมูรติ ที่หลายคนอาจคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว ซึ่งตั้งอยู่ที่บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้า CentralWorld (เซ็นทรัลเวิลด์) ที่เหล่าคนโสดรวมถึงคนที่มีคู่แล้ว ต่างนิยมมาไหว้ขอพรกันเป็นอย่างมาก แต่ในวันพฤหัสบดี ผู้คนจะมาไหว้กันมากเป็นพิเศษ

ซึ่งเครื่องสักการะบูชา ที่คนนิยมนำมาถวายนั้น ได้แก่ ดอกกุหลาบแดง 9 ดอก หรือพวงมาลัยดอกกุหลาบ 1 พวง เป็นสัญลักษณ์แห่งความรัก รวมถึงพลังชีวิต, ธูปสีแดง จำนวน 9 ดอก เทียน 1 คู่ (งดการจุดจริง), น้ำแดง 1 ขวด และผลไม้ที่มีสีแดง เช่น แอปเปิ้ล ฯลฯ

หลายคนที่สมหวังก็จะนำเครื่องบูชามาถวายเพิ่มเติม อาทิ มะพร้าว น้ำอ้อย นมสด หรือของหวาน (แต่ของคาวทุกชนิด ห้ามถวายนะครับ)

สถานที่จอดรถใกล้เคียง:

  • ลานจอดรถในห้างสรรพสินค้า CentralWorld (เซ็นทรัลเวิลด์)
  • Big C ราชดำริ
  • The Market Bangkok

ภาพจาก Gaysorn Village

5. พระแม่ลักษมี เกสรวิลเลจ

พระแม่ลักษมี บริเวณหน้าเกสรวิลเลจ ก็เป็นที่นิยมของคนมาขอพรเรื่องความรักด้วยเช่นกัน ซึ่งพระแม่ลักษมี เป็นพระชายาคู่บารมี และซื่อสัตย์ของพระนารายณ์ หรือ พระวิษณุ ที่ได้รับการยกย่องว่ามีสิริโฉมงดงามเหนือเทวีใดๆ เป็นเทวีแห่งความรักที่บริบูรณ์

และในวรรณคดีรามเกียรติ์ พระนางลักษมีได้อวตารไปเป็นนางสีดาเพื่อเป็นมเหสีของพระนารายณ์ที่อวตารเป็นพระราม ทำให้พระองค์ยังเป็นสัญลักษณ์ของความรักอันซื่อสัตย์และภักดีอีกด้วย

จากข้างต้นนั้น ทำให้หลายคนศรัทธา นิยมมาขอให้สมหวังในความรักกับพระแม่ลักษมี และยังขอได้ในเรื่องรักแท้ และซื่อสัตย์กับเราเพียงคนเดียวอีกด้วย หากท่านใดสนใจ สามารถเข้ามาสักการะพระแม่ได้ที่ชั้น 4 ศูนย์การค้าเกษร (หัวมุมดาดฟ้า) ตั้งแต่เวลา 10.00 – 18.00 น. โดยของไหว้ได้แก่ดอกบัวสีชมพู น้ำอ้อย หรือผลไม้รสอ่อนๆ เช่น มะพร้าว

สถานที่จอดรถใกล้เคียง:

  • CentralWorld (เซ็นทรัลเวิล์ด)
  • Big C ราชดำริ
  • The Market Bangkok
  • Gaysorn Village (เกสรวิลเลจ)
  • Amarin Plaza (อัมรินทร์พลาซ่า)

ภาพจาก ศาลเจ้าแม่ประดู่

6. ศาลเจ้าแม่ประดู่ เยาวราช

สักการะเทพเจ้าจีน เจ้าแม่ประดู่ ณ ศาลเจ้าแม่ประดู่ เป็นศาลเจ้าจีนที่สร้างโดยชาวจีนโพ้นทะเลที่อพยพมาในไทย มีอายุกว่า 170 ปี อยู่ในย่านเยาวราช โดยสามารถไหว้ขอพระกันได้เลย

หากใครต้องการขอเรื่องความรัก สำหรับคู่รัก ขอแนะนำให้เตรียมธูปไว้จุดตามประตูต่างๆ ด้วยกัน 7 จุด เทียนแดง 1 คู่ และผลไม้รสหวาน 5 อย่าง แต่ละอย่างต้องนำมาถวายจำนวนเป็นเลยคู่ มาไหว้ขอพรความรักได้ที่นี่เลย

สถานที่จอดรถใกล้เคียง:

  • ศูนย์การค้า I’m Chinatowm

8 สถานที่ดัง ไหว้พระขอพรความรัก สละโสดในช่วงวาเลนไทน์ 2565

ภาพจาก ตลาดน้ำขวัญ เรียม

7. ศาลขวัญเรียม

สักการะศาลแห่งตำนานคู่รักของคลองแสนแสบ ศาลขวัญเรียม ที่เชื่อว่าสามารถมาขอพรให้สมหวังในเรื่องความรักและครอบครัว ตามตำนานรักอมตะ ขวัญ-เรียม ที่ทั้งคู่สาบานว่า จะรักกันจวบจนความตายจะมาพรากจากนั่นเอง

มีหลายท่านที่ได้มาบนบานศาลกล่าว แล้วสมหวังดั่งที่ขอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความรัก ครอบครัว หน้าที่การงาน แม้กระทั่งโรคภัยไข้เจ็บ และพอสมหวังก็มาแก้บน ทั้งซื้อรูปปั้นควาย ชุดไทย ขลุ่ย น้ำแดง รวมไปถึง รำแก้บน ก็มากมาย

สถานที่จอดรถใกล้เคียง:

  • ตลาดน้ำขวัญเรียม
  • อาคารจอดรถวัดบางเพ็ญใต้

8 สถานที่ดัง ไหว้พระขอพรความรัก สละโสดในช่วงวาเลนไทน์ 2565

ภาพจาก บารมีหลวงพ่อเกษร วัดท่าพระ

8. วัดท่าพระ

วัดท่าพระ เป็นวัดโบราณซึ่งมีการสันนิษฐานว่าสร้างในสมัยอยุธยาตอนปลาย เดิมเรียกว่าวัดเกาะ มีพระพุทธรูปหลวงพ่อเกษร เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย เนื้อโลหะ หน้าตักกว้าง 40 นิ้ว สูงจากปลายรัศมีถึงทับเกษร 63 นิ้ว ศิลปะอยุธยาตอนต้นประดิษฐานอยู่

ชาวบ้านมักนิยมมาสักการะท่าน เชื่อว่าลอยน้ำมาที่คลองหน้าวัด และสามารถขอพรในเรื่องความรัก ความเมตตา และความสุขในชีวิตได้

สถานที่จอดรถใกล้เคียง:

  • ภายในวัดท่าพระ

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่ มาขายรถกับทาง CARRO Express ได้ที่  https://th.carro.co/sell-car/express หรือถ้าหากต้องการซื้อรถคุณภาพเยี่ยม CARRO เราก็มีพร้อมให้คุณเลือกอย่างมากมายด้วยเช่นกัน พร้อมรับประกันสูงสุดถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร กับ CARRO Automall ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://th.carro.co/taladrod/

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

หากใครอยากซื้อรถมือสองสภาพเยี่ยม ราคาสบายๆ และมั่นใจได้ในเรื่องคุณภาพทุกคัน CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ ตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลา 1 นาที!

ซึ่งรถของ CARRO Automall เรามีให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพอย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 200 จุด รวมไปถึงการการปรับสภาพ (Car Reconditioning) ด้วยทีมช่างมืออาชีพ ที่ผ่านการผึกอบรมตามมาตรฐานคาร์โรกว่า 40 คน พร้อมให้บริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว กว่า 20 คัน/วัน

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์

เรารับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร! (CARRO Quality Assurance) อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม กับ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

รวมอัตราค่าที่จอดรถห้างสรรพสินค้า 10 ย่านดังในกรุงเทพฯ

อีกหนึ่งข้อสงสัยที่คนเมืองกรุงโดยเฉพาะสาวๆ ต้องคิดคำนวณกันแบบไม่ตก ในระหว่างการเดินทางไปทำธุระบางอย่าง หรือเลือกช้อปสินค้าต่างๆ ที่ห้างสรรพสินค้า ว่าการคิดค่าที่จอดรถของแต่ละที่นั้น มีอัตราเท่าไร มีค่าธรรมเนียมต่างหากหรือไม่ จอดห้างไหนที่ใกล้ๆ กัน แต่มีอัตราค่าจอดที่ถูกกว่า

ซึ่งแค่สำหรับการวนหาที่จอดรถนั้นเหมือนดั่งหาขุมทรัพย์แล้ว เราต้องช้อปให้ถึงเท่าไร หรือใช้บริการอะไร ถึงจะได้จอดฟรี!

วันนี้ Carro จึงได้รวบรวมมาให้คุณที่นี้แล้ว สำหรับ 10 ย่านดัง กับค่าที่จอดรถในห้างสรรพสินค้ายอดนิยม รวมถึง Community Mall ยอดนิยมในกรุงเทพฯ ประจำปี 2565 จะมีที่ไหนบ้าง ไปดูกัน

Ladprao-Area

1. ลาดพร้าว

มาเริ่มกันที่ย่านแรกอย่าง “ลาดพร้าว” ซึ่งย่านนี้มีห้างสรรพสินค้าดังคือ CentralPlaza Lardprao, Union Mall มีอัตราอัตราค่าที่จอดรถ ดังนี้

  • CentralPlaza Lardprao (เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว) เรทสตาร์ท 1 ชั่วโมงแรกฟรี 3 ชั่วโมงต่อมาคิด 20 บาท, 4 ชั่วโมงเป็นต้นไป คิด 50 บาท แต่คุณสามารถแสตมป์บัตรได้ โดยนำใบเสร็จสินค้าราคา 2,000 บาท เป็นส่วนลดค่าบริการจอดรถ 3 ชั่วโมงแรก (มูลค่า 20 บาท), ใบเสร็จสินค้าราคา 4,000 บาท ส่วนลดค่าบริการจอดรถ 4 ชั่วโมงแรก (มูลค่า 40 บาท) และใบเสร็จสินค้าราคา 7,000 บาท เป็นส่วนลดค่าบริการจอดรถ 6 ชั่วโมงแรก (มูลค่า 60 บาท)
  • ส่วนบริการ Quick Parking บริการที่จอดรถแบบเร่งด่วน ชั้น G จอดฟรี!! 2 ชั่วโมงแรก ชั่วโมงถัดไป 50 บาท สำหรับลูกค้าที่ใช้บริการไม่เกิน 2 ชม. สามารถจอดรถได้ที่ชั้น G
  • และตั้งแต่ 4 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป จอดฟรี!! 60 นาทีแรก ชั่วโมงถัดไป 50 บาท สามารถจอดรถได้ที่ชั้น G (ทางเข้าลานจอดรถป้อม 1, ป้อม 2)
  • Union Mall (ยูเนี่ยน มอลล์) ศูนย์การค้ายูเนี่ยน มอลล์ บริการจอดรถฟรี 3 ชั่วโมงแรก (*หลังจากนั้นคิดค่าบริการตามอัตราปกติ หากจอดรถค้างคืน เหมาจ่าย 500 บาท) มีผลตั้งแต่วันที่ 3 กันยายน 2564 เป็นต้นไป
  • Big C Extra ลาดพร้าว 2 (บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า ลาดพร้าว 2) บริการจอดรถฟรี 3 ชั่วโมงแรก หากเกิน 2 ชั่วโมง คิดค่าบริการชั่วโมงละ 20 บาท
  • Central Festival Eastville (เซ็นทรัล เฟสติวัล อีสต์วิลล์) จอดฟรีตลอดวัน ยกเว้น QUICK PARKING จอดรถฟรี 2 ชั่วโมงแรก หากเกิน 2 ชั่วโมง คิดค่าบริการ 50 บาท ทุกๆ 1 ชั่วโมง (เศษของนาทีคิดเป็น 1 ชั่วโมง)
  • The Mall บางกะปิ (เดอะมอลล์ บางกะปิ) จอดรถฟรีทั้งวัน ตั้งแต่เวลา 6.00-23.00 น. ตั้งแต่วันที่ 3 กันยายน 2564

Siam-Area

2. สยาม

ส่วนย่านที่สองคือ “สยาม” เป็นอีกหนึ่งย่านที่ใครหลายคนคงคิดว่ามีราคาอัตราค่าที่จอดรถที่ค่อนข้างแพง แต่ทว่าหากคุณลองเทียบกันดูแล้ว ก็จะพบว่ามันไม่ได้แพงอย่างที่คุณคิดสักเท่าไร

  • Siam Paragon (สยามพารากอน) และ Siam Car Park คิดอัตราเดียวกัน คือ
    – จอดรถฟรี 2 ชั่วโมงแรก ชั่วโมงต่อไปเริ่มที่ 30 บาท / ชั่วโมงที่ 7 เป็นต้นไป ชั่วโมงละ 60 บาท (ลูกค้าบัตร One siam จอดรถฟรี 6 ชั่วโมง)
    – จอดฟรี 3 ชั่วโมงแรก : เมื่อดูหนังที่ Paragon Cineplex, เข้าชม Sea Life Bangkok Ocean World หรือเล่น Fitness First Platinum Siam Paragon
    – จอดฟรี 4 ชั่วโมงแรก : เมื่อแสดงใบเสร็จ 800 บาทขึ้นไป
    – จอดฟรี 6 ชั่วโมงแรก : เมื่อแสดงใบเสร็จ 3,000 บาทขึ้นไป หรือใช้บริการที่ KidZania Bangkok
    – จอดฟรี 8 ชั่วโมงแรก : เมื่อแสดงใบเสร็จ 6,000 บาทขึ้นไป
  • Siam Center (สยามเซ็นเตอร์) ,Siam Discovery (สยามดิสคัพเวอรี่) จอดรถฟรี 2 ชั่วโมงแรก (เฉพาะเสาร์-อาทิตย์) ชั่วโมงต่อไปชั่วโมงละ 30 บาท แต่หากจอดเกิน 6 ชั่วโมงคิดชั่วโมงละ 60 บาท ซึ่งคุณสามารถลดค่าจอดด้วยการซื้อสินค้าครบตามกำหนดดังนี้ 800 บาท ฟรี 2 ชั่วโมง, 3,000 บาท ฟรี 4 ชั่วโมง

แต่ในปี 2564 นี้ Siam Discovery , Siam Center และ Siam Paragon ให้จอดรถฟรีตั้งแต่ 18.00 – 22.00 น.!

  • Siam Square One (สยามสแควร์วัน) ฟรีแค่ 15 นาทีแรก ชั่วโมงถัดไปคิดชั่วโมงละ 20 บาท ไม่มีการแสตมป์ส่วนลดของบัตรจอดรถ
  • Siam Square (สยามสแควร์) หรือฝั่งตึกสยามสแควร์ เริ่มจอดฟรี 15 นาที ชั่วโมงแรก 10 บาท ส่วนชั่วโมงที่ 2-4 ชั่วโมงละ 20 บาท และชั่วโมงที่ 5 เป็นต้นไปชั่วโมงละ 30 บาท
  • อาคารวิทยกิตต์ (ศูนย์หนังสือจุฬา) 4 ชั่วโมงแรก ชั่วโมงละ 10 บาท ชั่วโมงที่ 5 ขึ้นไป ชั่วโมงละ 20 บาท
  • MBK Center (มาบุญครอง) 4 ชั่วโมงแรก เหมาจ่าย 40 บาท หลังจากนั้นชั่วโมงละ 20 บาท
  • หอศิลป์กรุงเทพฯ 15 นาทีแรกจอดฟรี 15 นาที ถึง 2 ชั่วโมง 20 บาท หากชั่วโมงที่ 3-4 ชั่วโมงละ 30 บาท และ 5 ชั่วโมงขึ้นไป ชั่วโมงละ 40 บาท หากชมนิทรรศการ สาารถประทับตราบัตรจอดรถฟรี 2 ชั่วโมง ที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ชั้น 5

Samyan-Area

3. สามย่าน

ส่วนย่านที่สามคือ “สามย่าน” เป็นอีกหนึ่งย่านที่พัฒนาจากตึกแถวเก่า ให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว และศูนย์กลางการเรียนรู้ หรือ Edutainment Center ที่ขยายออกมาจากฝั่งสยาม เอาใจคนที่อยู่ในฝั่งสี่พระยา ถนนพระรามที่ 4 ให้มาเจอะเจอกัน มีทั้งแหล่งชิม แหล่งช้อป พร้อมโซนให้บริการ 24 ชั่วโมง และอุโมงค์ สามย่านมิตรทาวน์ ที่หลายคนชอบมาถ่ายรูปกัน

Ratchaprasong-Area

4. ราชประสงค์ – ชิดลม – เพลินจิต

ขึ้นชื่อว่า “ราชประสงค์” ในย่านนี้จัดว่าเป็นศูนย์รวมห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ และร้านค้าดังๆ เอาไว้มากมายนานหลายสิบปี รวมไปถึงยังเป็นย่านธุรกิจ โรงแรม โรงพยาบาล และยังเป็นที่ชุมนุมทางการเมืองอีกด้วย เป็นย่านที่เรียกได้ว่าคึกคักที่สุดในกรุงเทพฯ รวมไปถึงรถติดที่สุดในกรุงเทพฯ อีกจุดด้วย

  • CentralWorld (เซ็นทรัลเวิลด์) จอดรถฟรี 2 ชั่วโมงแรก และเมื่อซื้อสินค้าหรือบริการตั้งแต่ 500 บาทขึ้นไป นำไปประทับตราที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ รับฟรีเพิ่มอีก 5 ชม. ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป
  • Amarin Plaza (อัมรินทร์พลาซ่า) ค่าจอดรถ 3 ชั่วโมง 10 บาท เพียง Shopping ในอัมรินทร์ พลาซ่า และนำไป Stamp ที่ประชาสัมพันธ์ได้ค่ะ
  • Gaysorn Village (เกสรวิลเลจ) จอดฟรี 30 นาทีแรก ชั่วโมงต่อไปคิดชั่วโมงละ 30 บาท ซื้อสินค้าครบตั้งแต่ 500 บาท รับสิทธิ์จอดฟรี 4 ชั่วโมง
  • บิ๊กซี ราชดําริ จอดฟรี 1 ชั่วโมง
  • The Market Bangkok จอดฟรี 2 ชั่วโมง ชั่วโมงที่ 3-7 ชั่วโมงละ 20 บาท ชั่วโมงที่ 8 เป็นต้นไป ชั่วโมงละ 50 บาท
  • Central Chidlom (เซ็นทรัลชิดลม) จอดฟรี 2 ชั่วโมงแรก ชั่วโมงที่ 3-5 ชั่วโมงละ 30 บาท ชั่วโมงที่ 6 ขึ้นไป คิดชั่วโมงละ 60 บาท
  • Central Embassy (เซ็นทรัลเอ็มบาสซี) จอดฟรี 2 ชั่วโมงแรก ชั่วโมงที่ 3-5 ชั่วโมงละ 30 บาท ตั้งแต่ชั่วโมงที่ 6 คิดชั่วโมงละ 60 บาท – ใช้จ่ายครบ 800 บาทขึ้นไป ฟรี 4 ชั่วโมงแรก ใช้จ่ายครบ 3,000 ฟรี 6 ชั่วโมงแรก ใช้จ่ายครบ 6,000 ฟรี 8 ชั่วโมงแรก
  • The Mercury Ville @Chidlom (เดอะเมอร์คิวรี่ วิลล์ แอท ชิดลม) จอดฟรี 15 นาทีแรก เกิน 15 นาที นับเป็น 1 ชั่วโมง คิดอัตราค่าจอด 50 บาท/ชั่วโมง ส่วนวันเสาร์ – อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ จอดฟรี! 3 ชั่วโมง

Pratunam-Area

5. ประตูน้ำ

ย่านค้าส่งสินค้าเสื้อผ้า และของประดับที่เก่าแก่ในกรุงเทพฯ มาพร้อมความคับคั่งของรถที่ติดขัดแทบทุกวัน

Sukhumvit-Area

6. สุขุมวิท

ย่านสุขุมวิท จัดว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวและย่านธุรกิจอันดับต้นๆ ของกรุงเทพฯ เลย เป็นศูนย์รวมของชาวต่างประเทศ โดยเฉพาะญี่ปุ่น และยังมีผับ บาร์ ต่างๆ มากมาย ที่จอดรถย่านนี้อาจหายากหน่อย มาดูกันว่าค่าจอดรถแต่ละที่ แพงเท่าไหร่กัน

  • Korean Town (โคเรียนทาวน์) เข้าไปก็จ่ายก่อนเลย 30 บาท ถ้าเกิน 2 ชั่วโมง จ่ายเพิ่มอีกชั่วโมงละ 20 บาท
  • Terminal21 Asok Shopping Mall (เทอร์มินอล 21) ชั่วโมงที่ 1 – 3 จอดฟรี ชั่วโมงที่ 4 – 6 ชั่วโมงละ 20 บาท ชั่วโมงที่ 7 ชั่วโมงละ 20 บาท ตั้งแต่ชั่วโมงที่ 8 ชั่วโมงละ 50 บาท หากซื้อสินค้าครบ 500 บาท จอดฟรี 6 ชั่วโมง
  • The Emporium / The EmQuertier (ดิ เอ็มโพเรียม และ ดิ เอ็มควอเทียร์) จอดฟรี 2 ชั่วโมงแรก เมื่อซื้อสินค้าและบริการครบ 500 บาท จอดฟรี 4 ชั่วโมง (รวม 2 ชั่วโมงแรก) ชั่วโมงถัดไป ชั่วโมงละ 50 บาท (สำหรับลูกค้าบัตร SCB M จอดรถฟรี 4 ชั่วโมง)
  • Rain Hill Sukhumvit 47 (เรน ฮิลล์ สุขุมวิท 47) 30 นาทีแรกจอดฟรี!!! ซื้อสินค้า/บริการต่อวัน 200 บาทขึ้นไป จอดฟรี 2 ชั่วโมง ชั่วโมงถัดไปชั่วโมงละ 20 บาท เฉพาะโรงเรียนสอนพิเศษ จอดฟรี 4 ชั่วโมง ชั่วโมงถัดไปชั่วโมงละ 20 บาท แสตมป์บัตรได้ที่ เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ชั้น L1
  • J Avenue Thonglor (เจ อเวนิว ทองหล่อ) ค่าที่จอดรถ 3 ชั่วโมงแรก 20 บาท ชั่วโมงต่อไป ชั่วโมงละ 40 บาท
  • Gateway Ekamai (เกทเวย์ เอกมัย) จอดฟรี 2 ชั่วโมงแรก ชั่วโมงที่ 3-6 ชั่วโมงละ 20 บาท ชั่วโมงที่ 7 เป็นต้นไป ชั่วโมงละ 50 บาท
  • Fifty Fifth Thonglor (55 ทองหล่อ) 3 ชั่วโมงแรก 20 บาท ชั่วโมงที่ 4 ชั่วโมงละ 30 บาท ชั่วโมงที่ 5 ขึ้นไป ชั่วโมงละ 100 บาท
  • Park Lane Bangkok Ekamai (พาร์ค เลน เอกมัย) ปั้มบัตรจอดรถ จอดฟรี 3 ชั่วโมง
  • DONKI Mall Thonglor (ดองกิ มอลล์ ทองหล่อ) เปิดทุกวัน 8.00 – 24,00 น. ซื้อของครบ 100 บาท แล้วไปแสตมป์ค่าจอดรถ 3 ชั่วโมงแรกเหมาจ่าย 20 บาท ชั่วโมงที่ 4-5 ชั่วโมงละ 20 บาท ชั่วโมงที่ 6 ชั่วโมงละ 50 บาท
  • Big C Ekamai (บิ๊กซี เอกมัย) จอดฟรี 15 นาทีแรก ไม่มีตราประทับร้านค้า ชั่วโมงละ 30 บาท มีตราประทับร้านค้า 2 ชั่วโมงแรก ฟรี
  • W District (ดับเบิ้ลยู ดิสทริค) ตึก E88 จอดฟรี 1 ชั่วโมง (เมื่อมีตราประทับของ W District) หลังจากนั้นคิดค่าจอดชั่วโมงละ 20 บาท สำหรับลูกค้างานสัมมนาหรือ Event จอดฟรี 10 ชั่วโมง (เมื่อมีตราประทับของ W District)
  • Summer Hill @ BTS Phrakhanong (ซัมเมอร์ฮิลล์ @ BTS พระโขนง) ค่าจอดรถ ชั่วโมงละ 40 บาท
  • Habito Mall (ฮามิโตะ มอลล์) จอดฟรี 30 นาทีแรก จอดฟรี 1 ชั่วโมงแรก (เมื่อมีใบเสร็จ 100 บาทขึ้นไป หรือมีตราประทับ) จอดฟรีเพิ่ม 1 ชั่วโมง (ทุกยอดใบเสร็จ 200 บาท) กรณีไม่มีใบเสร็จ รถยนต์ชั่วโมงละ 20 บาท
  • MaxValu สุขุมวิท 71 จอดฟรี 2 ชั่วโมงแรก
  • Big C Extra อ่อนนุช (บิ๊กซี อ่อนนุช) จอดฟรี 3 ชั่วโมงแรก วันเสาร์-อาทิตย์ จอดฟรีตลอดวัน
  • Century The Movie Plaza อ่อนนุช (เซ็นจูรี่ เดอะมูฟวี่พลาซ่า) จอดฟรี 2 ชั่วโมงแรก ชั่วโมงต่อไปคิดชั่วโมงละ 40 บาท
  • Lotus’s อ่อนนุช (โลตัส อ่อนนุช) จอดฟรี 3 ชั่วโมงแรก
  • The Phyll Sukhumvit 54 (เดอะฟิลล์ สุขุมวิท 54) จอดฟรี 2 ชั่วโมงแรก ชั่วโมงที่ 3 และ 4 ค่าบริการชั่วโมงละ 20 บาท ตั้งแต่ชั่วโมงที่ 5 ขึ้นไป คิดค่าบริการชั่วโมงละ 40 บาท
  • One Udomsuk (โครงการวันอุดมสุข) ชั่วโมงละ 30 บาท

Khlongtoei-Area

7. คลองเตย

ย่านคลองเตย นอกจากจะเป็นแหล่งชุมชนขนาดใหญ่แล้ว ยังเป็นแหล่งธุรกิจ ท่าเรือ และมีสำนักงานต่างๆ เป็นจำนวนมากด้วย

  • K Village (เค วิลเลจ สุขุมวิท 26) 20 นาทีแรกจอดฟรี อัตราค่าที่จอดรถปกติ ชั่วโมงละ 20 บาท (กรณีไม่มีประทับตรา E-Stamp)
  • Suanplern Market (สวนเพลิน มาร์เก็ต) ประทับตราร้าน จอดฟรี 3 ชั่วโมง
  • Big C พระราม 4 (บิ๊กซี พระราม 4) จอดฟรี 3 ชั่วโมงแรก
  • Lotus’s พระราม 4 (โลตัส พระราม 4) จอดฟรี 3 ชั่วโมงแรก

Pinklao-Area

8. ปิ่นเกล้า

มาสู่ย่านเมืองเก่าอย่าง ย่านปิ่นเกล้า ที่รวมแหล่งท่องเที่ยวและสถานที่สำคัญต่างๆ ไว้โดยรอบ

Ratchadapisek-Area

9. รัชดา – พระรามเก้า

ย่าน รัชดา-พระรามเก้า เป็นอีกย่านที่คึกคักทั้งเวลากลางวันและกลางคืน ด้วยมีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย ตลาดนัดทั้งเล็กและใหญ่ รวมไปถึงห้างสรรพค้าหลากหลายรูปแบบ ที่ให้คุณได้เลือกช้อปสินค้าได้อย่างจุใจ จะมีค่าที่จอดในอัตราเท่าไหร่ มาดูกัน

  • Esplanade Ratchadaphisek (เอสพลานาด รัชดาภิเษก) จอดฟรีใน 30 นาทีแรก ชั่วโมงต่อไปคิดเป็นชั่วโมงละ 70 บาท หากคุณซื้อสินค้าหรือบริการครบ 500 บาท ให้นำใบเสร็จไปประทับตรา ใช้เป็นส่วนลดค่าจอดรถ 4 ชั่วโมงแรก 20 บาท ถ้าซื้อสินค้าหรือบริการครบ 1,500 บาท ให้นำใบเสร็จไปประทับตรา ใช้เป็นส่วนลดค่าจอดรถ 5 ชั่วโมงแรก 20 บาท ส่วนลูกค้าที่ใช้บริการโรงภาพยนตร์ หรือ Blu-O ประทับตราจอดรถได้ 5 ชั่วโมงแรก 20 บาท
  • Big C Extra Ratchadaphisek (บิ๊กซี รัชดาภิเษก) จอดฟรี 3 ชั่วโมง ชั่วโมงต่อไปชั่วโมงละ 50 บาท
  • The Street Ratchada (เดอะ สตรีท รัชดา) รถยนต์ จอดฟรี 2 ชั่วโมงแรก ชั่วโมงที่ 3 ชั่วโมงละ 20 บาท ส่วนชั่วโมงที่ 4 ชั่วโมงละ 30 บาท มีใบเสร็จมูลค่า 500 บาทขึ้นไป จอดฟรีเพิ่ม 2 ชั่วโมง ส่วนรถจักรยานยนต์ ฟรี 3 ชั่วโมงแรก ชั่วโมงถัดไปคิดชั่วโมงละ 20 บาท
  • CentralPlaza Grand Rama IX (เซ็นทรัลพระราม 9) จอดฟรี 2 ชั่วโมงแรก ทุกชั่วโมงถัดไป 20 บาท/ชั่วโมง หากซื้อสินค้า หรือบริการจากร้านค้าในศูนย์การค้า (และจากอาคาร G Tower เฉพาะวันหยุด, เสาร์ และอาทิตย์) 500 บาท ขึ้นไป เพิ่มเวลาจอดรถฟรี อีก 2 ชั่วโมง และ 1,500 บาท ขึ้นไป เพื่อเพิ่มเวลาจอดรถฟรี อีก 4 ชั่วโมง
  • Fortune Town (ฟอร์จูนทาวน์) วันจันทร์-ศุกร์ คิดค่าที่จอดรถเริ่มต้นที่ จอดรถฟรี 1 ชั่วโมง ส่วนในชั่วโมงที่ 2-4 คิดค่าบริการชั่วโมงละ 20 บาท เศษของชั่วโมงคิดเป็น 1 ชั่วโมง และในวันเสาร์, วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ จอดรถฟรี 3 ชั่วโมงแรก ชั่วโมงถัดไปคิดค่าบริการชั่วโมงละ 20 บาท เศษของชั่วโมงคิดเป็น 1 ชั่วโมง
  • CW Tower (ซีดับเบิลยู ทาวเวอร์) จอดฟรี 30 นาทีแรก หากสแกนบัตร จอดฟรี 1 ชั่วโมง จากนั้นชั่วโมงละ 30 บาท

Rangsit-Area

10. รังสิต

จบท้ายด้วย ย่านที่ไม่ได้อยู่ในตัวเมืองกรุงเทพฯ เท่าไหร่ แต่ด้วยความเจริญทำให้เราไม่พูดถึงคงไม่ได้อย่างย่าน รังสิต ที่มีห้างสรรพสินค้ายักษ์ใหญ่อย่าง Future Park Rangsit และ Zpell อีกทั้งยังมี Big C, Tesco lotus และ Zeer Rangsit

  • Future Park Rangsit (ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต) + Zpell (สเปลล์) จอดรถฟรี 4 ชั่วโมง ชั่วโมงถัดไป ชั่วโมงละ 10 บาท ซื้อสินค้าภายในศูนย์การค้าครบ 500 บาทขึ้นไป รับสิทธิ์จอดฟรี เพิ่มอีก 4 ชั่วโมง ส่วนลูกค้ากลุ่มโรงเรียน ให้ Stamp จอดฟรีเพิ่ม 8 ชั่วโมง ในวันที่มีเรียนได้ *สิทธิ์บัตร Member / บัตรสมาชิก และสิทธิพิเศษอื่นๆ สอบถามได้ที่ เคาเตอร์ประชาสัมพันธ์ หากจอดก่อน 7.00 สามารถจอดชั้น B (มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม)
  • Big C Rangsit (บิ๊กซี รังสิต) จอดฟรีตลอดทั้งวัน
  • Lotus Rangsit (โลตัส รังสิต) จอดฟรี 3 ชั่วโมงแรก ชั่วโมงถัดไปคิดชั่วโมงละ 50 บาท
  • Zeer Rangsit (เซียร์ รังสิต) จอดรถฟรี 3 ชั่วโมง ชั่วโมงต่อไปชั่วโมงละ 20 บาท

โดยรวมแล้วระบบการคิดอัตราค่าที่จอดรถของแต่ละห้างสรรพสินค้ายอดนิยมในย่านดังต่างๆ ในกรุงเทพฯ ค่อนข้างที่จะหลากหลายพอสมควร ซึ่งหากคุณลองบวกลบกันดูนั้นจะพบว่า หากไม่จอดแช่เกิน 5-6 ชั่วโมง ก็คุ้มค่าพอที่จะเสียเงิน โดยที่ไม่ประทับตราหรือแสตมป์บัตรอะไร

ซึ่งนอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับธุระของคุณอีกด้วย เพราะหากมีการซื้อสินค้าและใช้บริการอะไรบ้าง ตามกำหนดของแต่ละห้างสรรพสินค้า คุณก็ได้จอดฟรีแบบไม่ต้องเสียเงิน ทำให้คุ้มค่าโดยไม่ต้องเสียเงินซ้ำซ้อนค่ะ

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่ มาขายรถกับทาง Carro Express สิ! คลิกเลยที่ https://th.carro.co/sell-car/express รับรองได้เงินเร็ว ไว ทันใจแน่นอน!

Carro Automall ตลาดรถ

ส่วนใครสนใจจะซื้อรถมือสอง Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

หมายเหตุ : *ข้อมูลอัตราค่าที่จอดรถห้างสรรพสินค้า 10 ย่านดังในกรุงเทพฯ ข้างต้นนี้ เป็นข้อมูลที่ Update ณ เดือนสิงหาคม 2565 เมื่อเวลาผ่านไปอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ โปรดสอบถามรายละเอียดหรืออัตราค่าจอดรถ ที่ห้างสรรพสินค้านั้นๆ อีกครั้ง

รวมค่าที่จอดรถในพัทยา ศรีราชา และชลบุรี!

จังหวัดชลบุรี หรือ “เมืองชล” เป็นจังหวัดท่องเที่ยวชายทะเลภาคตะวันออกที่มีชื่อเสียงมานานมากนับตั้งแต่อดีต เป็นจังหวัดที่มีเรื่องราวน่าสนใจมากมาย ทั้งในด้านวัฒนธรรมประเพณี การท่องเที่ยว วิถีชีวิตชุมชน และย่านอุตสาหกรรมระดับนานาชาติ ที่มีนักลงทุนจากทั่วโลกมาตั้งโรงงานผลิตสินค้าต่างๆ มากมายที่นี่

แต่สำหรับคนไทยและชาวต่างประเทศ (โดยเฉพาะคนญี่ปุ่น คนจีน หรือคนฝรั่ง) ชลบุรียังเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะเมืองท่องเที่ยวใกล้ๆ กรุงเทพฯ ที่ใช้เวลาขับรถเพียงไม่กี่สิบนาที หรือไม่เกินสองชั่วโมง ก็เข้าถึงสถานที่เที่ยวชื่อดังมากมาย อาทิ หาดบางแสน ศรีราชา พัทยา หรือสัตหีบ เป็นต้น

อ่านเพิ่มเติม >> รวมอัตราค่าที่จอดรถห้างสรรพสินค้า 10 ย่านดังในกรุงเทพฯ (Update ล่าสุด! ปี 2564)

แต่สำหรับใครที่เป็นชาวชลบุรี หรือกำลังจะไปเที่ยวชลบุรี ศรีราชา หรือพัทยา โดยเน้นการขับรถท่องเที่ยวในเมือง หรือไปตามย่านที่มีศูนย์การค้า CARRO จึงได้รวบรวมอัตราค่าที่จอดรถห้างสรรพสินค้ายอดนิยม รวมถึง Community Mall ยอดนิยมของห้างในพัทยา ห้างในศรีราชา และห้างในชลบุรี! ประจำปี 2564 – 2565 มาให้คุณได้ดูกัน ว่ามีที่ไหนจอดรถฟรีกี่ชั่วโมงบ้าง มาดูกัน

รวมค่าที่จอดรถในพัทยา ศรีราชา และชลบุรี!

บางแสน

มาเริ่มกันที่ย่านแรกอย่าง “บางแสน” สถานที่ยอดฮิตของคนชอบเที่ยวทะเล ชายหาดบางแสน กินอาหารทะเลใกล้กรุงเทพฯ และมีสถานที่ท่องเที่ยวอย่างสถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเลบางแสน และบางแสนนี้ ยังเป็นส่วนหนึ่งของอำเภอเมืองชลบุรีอีกด้วย

รวมค่าที่จอดรถในพัทยา ศรีราชา และชลบุรี!

เมืองชลบุรี

ตัวเมืองชลบุรี ที่นี่เป็นทั้งศูนย์กลางการปกครองอย่างราชการ รัฐวิสาหกิจ รวมไปถึงมีสถานที่ท่องเที่ยวอย่าง ตลาดหนองมน อ่างศิลา เขาสามมุก หรือห้างสรรพสินค้าต่างๆ ซึ่งจัดเป็นสถานที่ที่มีความคึกคักอย่างมากของนักท่องเที่ยว

รวมค่าที่จอดรถในพัทยา ศรีราชา และชลบุรี!

ศรีราชา

ศรีราชา จัดเป็นเขตกึ่งเกษตรกรรมและกึ่งอุตสาหกรรม เนื่องจากการพัฒนาตามโครงการพัฒนาชายฝั่งทะเลตะวันออก มีท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบัง นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง อีสเทอร์นซีบอร์ด นิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง อีกทั้งยังมีแหล่งท่องเที่ยวด้วย เช่น สวนสัตว์เปิดเขาเขียว อ่างเก็บน้ำบางพระ หรือหาดวอนนภา แถมยังมีคนญี่ปุ่นมาอาศัยอยู่ที่นี่จำนวนมากด้วย

รวมค่าที่จอดรถในพัทยา ศรีราชา และชลบุรี!

พัทยา

สถานที่ยอดฮิตและชื่อดังอย่าง “พัทยา” ที่จัดเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลกและเมืองภาพยนตร์ เนื่องด้วยมีการถ่ายทำภาพยนตร์ไม่น้อยกว่า 300 เรื่องต่อปี และรายได้ร้อยละ 90 มาจากการท่องเที่ยว โดยมีสถานีที่ท่องเที่ยวชื่อดังอย่าง หาดจอมเทียน, เกาะล้าน, สวนนงนุช และย่านพัทยาเหนือ, พัทยากลาง และพัทยาใต้ เป็นต้น

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

ถ้าใครอยากขายรถคันเดิม เพื่อนำเงินไปซื้อรถยนต์คันใหม่ มาขายรถกับทาง CARRO Express ได้ที่  https://th.carro.co/sell-car/express หรือถ้าหากต้องการซื้อรถคุณภาพเยี่ยม CARRO เราก็มีพร้อมให้คุณเลือกอย่างมากมายด้วยเช่นกัน พร้อมรับประกันสูงสุดถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร กับ CARRO Automall ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://th.carro.co/taladrod/

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

แต่ถ้าหากช่วงนี้ใครอยากเปลี่ยนรถคันใหม่ มาใช้แทนที่รถคันเดิม CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ ตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลา 1 นาที!

ซึ่งรถของ CARRO Automall เรามีให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพอย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 200 จุด รวมไปถึงการการปรับสภาพ (Car Reconditioning) ด้วยทีมช่างมืออาชีพ ที่ผ่านการผึกอบรมตามมาตรฐานคาร์โรกว่า 40 คน พร้อมให้บริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว กว่า 20 คัน/วัน

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์

เรารับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร! (CARRO Quality Assurance) อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม กับ CARRO Automall สิ!

สำหรับช่วงเปิดตัว Flagship Store แห่งแรกของ CARRO ช่วงปลายปี 2564 นี้ ขอมอบโปรโมชั่นส่วนลดพิเศษ รับส่วนลดสูงสุด 50,000 บาท พร้อมแจก Cash Back มูลค่ารวมกว่า 800,000 บาท! และยังสามารถเลือกรับความคุ้มค่าได้อีกต่อ กับดอกเบี้ยต่ำ 2.69% หรือผ่อน 0% นานสูงสุด 6 เดือน

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

หมายเหตุ : *ข้อมูลอัตราค่าที่จอดรถห้างสรรพสินค้าในพัทยา ศรีราชา และชลบุรีข้างต้นนี้ เป็นข้อมูลที่ Update ณ เดือนธันวาคม 2564 เมื่อเวลาผ่านไปอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ โปรดสอบถามรายละเอียดหรืออัตราค่าจอดรถ ที่ห้างสรรพสินค้านั้นๆ อีกครั้ง

รวมบริการการเดินทาง จุดพักรถ ที่จอดรถและค่าผ่านทางฟรี ช่วงปีใหม่ 2565

ในช่วงใกล้เทศกาลปีใหม่แบบนี้ หลายๆ ท่าน เริ่มวางแผนที่จะไปเที่ยวด้วยกัน เดินทางกลับบ้าน พบปะสังสรรค์กับญาติพี่น้องเฉกเช่นทุกปี ซึ่งก็เป็นช่วงเวลาที่มีผู้คนเดินทางกันจำนวนมาก แม้ว่าช่วงนี้เรายังคงต้องระวังเจ้าโควิด-19 ทั้งสายพันธุ์ที่มีอยู่เดิม หรือสายพันธุ์ใหม่อย่าง “Omicron” (โอไมครอน) ก็ตาม

บรรดาหน่วยงานภาครัฐต่างๆ จึงต้องออกมาหาทางบรรเทาความแออัดจากการเดินทาง อีกนัยหนึ่งคือมอบ “ของขวัญปีใหม่” ลดภาระค่าใช้จ่ายจากการเดินทาง ให้กับประชาชนที่มาใช้บริการ … ที่สำคัญ เมาไม่ขับ ระกว่างเดินทางกลับบ้านนะครับ

CARRO ขอรวบรวมจุดพักรถ จุดช่วยเหลือฉุกเฉิน ที่จอดรถฟรี ค่าผ่านทางฟรี รถเมล์ฟรี ในสถานที่ต่างๆ ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 ให้ทุกท่านได้วางแผนการเดินทางล่วงหน้า ใช้เราเที่ยวด้วยกัน และท่องเที่ยวปีใหม่กันอย่างมีความสุขครับ.

รวมจุดพักรถ ที่จอดรถฟรี ค่าผ่านทางฟรี รถไฟฟ้าฟรี เทศกาลปีใหม่ 2565

จุดพักรถ

กรมทางหลวง เตรียมความพร้อมจุดเช็คอิน 11 จุด ทั่วประเทศ ให้กับประชาชน เน้นความสวยงามและปลอดภัย ตามนโยบาย “คมนาคมสีสัน สร้างสรรค์ประเทศไทย” ให้มีความสวยงามทันช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565

นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยถึงโครงการเตรียมความพร้อมจุดเช็คอินกรมทางหลวงเพื่อรองรับการเดินทางท่องเที่ยวของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 ตามนโยบาย “คมนาคมสีสัน สร้างสรรค์ประเทศไทย” ได้พิจารณาพื้นที่เป็นจุดพักรถ อำนวยความสะดวกในการเดินทางแก่ประชาชน พร้อมส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ เราเที่ยวด้วยกัน และกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นหลังจากโควิดคลี่คลาย

ปัจจุบัน กรมทางหลวงได้ทำความสะอาด ตกแต่ง ปรับปรุงป้ายและจัดเตรียมจุดเช็คอินให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์เพื่อรองรับการเดินทางท่องเที่ยวของประชาชนในช่วงฤดูหนาวและเทศกาลปีใหม่ 2565 ตามนโยบาย “คมนาคมสีสัน สร้างสรรค์ประเทศไทย” ดำเนินการใน 11 จังหวัด จำนวน 11 จุด ได้แก่

1. ดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ บนทางหลวงหมายเลข 1009 ตอน จอมทอง – ดอยอินทนนท์ บริเวณ กม.ที่ 30 – 31
2. โค้งปิ้งงู จังหวัดสกลนคร บนทางหลวงหมายเลข 213 ตอน สร้างค้อ – สกลนคร บริเวณ กม.ที่ 155
3. จุดกางเต็นท์ เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ บนทางหลวงหมายเลข 2196 ตอน นางั่ว – ทุ่งสมอบริเวณ กม.ที่ 23
4. แยกไดโนเสาร์ จังหวัดขอนแก่น บนทางหลวงหมายเลข 12 ตอน ขอนแก่น – พรหมนิมิตร บริเวณ กม.ที่ 562
5. อุโมงค์สัตว์ข้าม จังหวัดปราจีนบุรี บนทางหลวงหมายเลข 304 ตอน สี่แยกกบินทร์บุรี – วังน้ำเขียวบริเวณ กม.ที่ 195
6. จุดพักรถลำตะคอง จังหวัดนครราชสีมา บนทางหลวงหมายเลข 85 ตอน บ่อทอง – มอจะบก บริเวณ กม.ที่ 2
7. จุดกางเต็นท์ หมวดทางหลวงบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี บนทางหลวงหมายเลข 3011 ตอน บ้านไร่ – บ้านใต้ บริเวณ กม.ที่ 24
8. แยกห้วยมงคล จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ บนทางหลวงหมายเลข 37 ตอน วังโบสถ์ – ปราณบุรี บริเวณ กม.ที่ 28
9. โค้งมโนราห์ จังหวัดพัทลุง บนทางหลวงหมายเลข 4 ตอน นาโหนด – ห้วยทราย บริเวณ กม.ที่ 183
10. สวนสาธารณะลานช้าง จังหวัดตรัง บนทางหลวงหมายเลข 404 ตอน ตรัง – บ้านนา บริเวณ กม.ที่ 11
11. จุดพักสูดอากาศบริสุทธ์เขาช้างสี จังหวัดนครศรีธรรมราช บนทางหลวงหมายเลข 4238 ตอน ลานสกา – ไม้หลา บริเวณ กม.ที่ 10

อีกทั้ง กรมการขนส่งทางบก ยังได้ร่วมกับ หน่วยงานภาครัฐและเอกชนมากกว่า 20 หน่วยงาน อาทิ ผู้ผลิตและผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ รถจักรยานยนต์ บริษัทประกันภัย สถานตรวจสภาพรถเอกชน ศูนย์บริการน้ำมัน และศูนย์บริการติดตั้งแก๊ส LPG/NGV จัดกิจกรรม “ตรวจรถฟรี ขับขี่ปลอดภัย” ตลอดเดือนธันวาคม (ระหว่างวันที่ 1-31 ธันวาคม 2564) เพื่อให้ประขาชนนำรถยนต์และรถจักรยานยนต์ทุกยี่ห้อเข้ารับบริการได้ฟรี ณ ศูนย์บริการของภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชนทั่วประเทศ รวมกว่า 2,000 แห่ง ที่มีป้ายประชาสัมพันธ์ “ตรวจรถฟรี ขับขี่ปลอดภัย”

โดยมีบริการตรวจเช็กสภาพรถและอุปกรณ์ส่วนควบเพื่อความปลอดภัยเบื้องต้น 20 รายการ เช่น การตรวจระบบเบรก สภาพยาง อุปกรณ์ปัดน้ำฝน ระดับน้ำมันเครื่องและความสกปรกของน้ำมันเครื่อง ระดับน้ำมันเบรกและน้ำมันคลัตช์ ความตึงของสายพาน แบตเตอรี่ และการทำงานของไฟส่องสว่าง ไฟสัญญาณต่างๆ เป็นต้น ซึ่งจะได้รับการดูแลจากช่างผู้ชำนาญงาน เพื่อให้สภาพรถพร้อมใช้งานอย่างปลอดภัยสำหรับการเดินทางไกลในเทศกาลปีใหม่นี้

รวมจุดพักรถ ที่จอดรถฟรี ค่าผ่านทางฟรี รถไฟฟ้าฟรี เทศกาลปีใหม่

เดินทางด้วยรถไฟ

การรถไฟแห่งประเทศไทย รองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 มั่นใจให้บริการเพียงพอไม่มีผู้โดยสารตกค้าง พร้อมสั่งผนึกกำลังเจ้าหน้าที่การรถไฟฯ และตำรวจรถไฟ คุมเข้มมาตรการความปลอดภัย และกวดขันการเดินรถให้ตรงเวลา

ผู้โดยสารสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง

รวมจุดพักรถ ที่จอดรถฟรี ค่าผ่านทางฟรี รถไฟฟ้าฟรี เทศกาลปีใหม่

เดินทางด้วยรถไฟฟ้าสายสีแดง SRT

บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการส่งมอบความสุขให้แก่ผู้โดยสารต้อนรับเทศกาลปีใหม่ บริษัทฯ จึงได้จัดกิจกรรมสุดพิเศษจัดคาราวานอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง นำโดย “เกรซ นรินทร” มิสไทยแลนด์เวิล์ด 2019 ทูตกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข, “โจ-โจ้” คู่แฝดคนขับรถไฟฟ้าโปรไฟล์สุดฮอตที่ได้รับการพูดถึงในโลกออนไลน์ และเน็ตไอดอลรวม 13 คน มาร่วมอวยพรและส่งมอบความสุข เสิร์ฟอาหารเช้ามื้อแรกของปี ฟรี! ให้แก่ผู้โดยสารที่ใช้บริการรถไฟฟ้าทั้ง 13 สถานี ในวันที่ 1 มกราคม 2565 ตั้งแต่เวลา 6.30 – 8.30 น. เป็นต้นไป

ทั้งนี้ กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัด

หากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ส่วนบริการลูกค้า 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง

รวมจุดพักรถ ที่จอดรถฟรี ค่าผ่านทางฟรี พร้อมส่วนลด ต้อนรับเทศกาลปีใหม่ 2565

เดินทางด้วยรถไฟฟ้า MRT

ขยายเวลาเปิดให้บริการข้ามปีสำหรับรถไฟฟ้า MRT สายเฉลิมรัชมงคล (สายสีน้ำเงิน) และสายฉลองรัชธรรม (สายสีม่วง) เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ 2565 สำหรับประชาชน

โดย รฟม. ได้สั่งการให้ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BEM) ผู้ประกอบการเดินรถไฟฟ้าทั้งสองสาย ขยายเวลาสิ้นสุดการให้บริการรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินและสีม่วง ให้บริการถึง 02.00 น. ของวันที่ 1 มกราคม 2565 โดยให้ขบวนรถไฟฟ้าเที่ยวสุดท้ายสายสีม่วง ออกจากสถานีเตาปูน เวลา 02.00 น.

รวมจุดพักรถ ที่จอดรถฟรี ค่าผ่านทางฟรี รถไฟฟ้าฟรี เทศกาลปีใหม่

เดินทางด้วยรถเมล์ ขสมก.

องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จัดรถให้บริการฟรีงานสวดมนต์ข้ามปีวันขึ้นปีใหม่ 65

รวมจุดพักรถ ที่จอดรถฟรี ค่าผ่านทางฟรี รถไฟฟ้าฟรี เทศกาลปีใหม่

เดินทางด้วยรถ บขส.

บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 ที่จะถึงนี้ บขส.ได้จัดโครงการ “บขส. ส่งความสุขปีใหม่ 2565” มอบสิทธิส่วนลด 10% ทุกเส้นทาง ทุกที่นั่ง เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ 2565 และแบ่งเบาภาระค่าครองชีพให้กับประชาชนผู้ใช้บริการของ บขส.

สำหรับโครงการ “บขส. ส่งความสุขปีใหม่ 2565” ให้สิทธิส่วนลดค่าโดยสารเฉพาะผู้ใช้บริการ บขส.ที่ซื้อตั๋วโดยสาร ผ่านช่องทาง Application “E-Ticket” และ Website บขส. https://tcl99web.transport.co.th/Home และเดินทางระหว่างวันที่ 20 ธันวาคม 2564 – 20 มกราคม 2565 เท่านั้น

ผู้เข้าร่วมโครงการจะได้รับส่วนลดค่าโดยสาร 10% (ไม่รวมค่าธรรมเนียม) และไม่สามารถใช้ส่วนลดนี้ร่วมกับรายการส่วนลดประเภทอื่น ๆ ได้ รวมทั้งไม่สามารถแลกเป็นเงินสด เปลี่ยนแปลง หรือคืนตั๋วโดยสารทุกกรณี

ทั้งนี้ บขส.ขอสงวนสิทธิในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขและยกเลิกสิทธิ โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Call center 1490 เรียก บขส.ตลอด 24 ชั่วโมง

จอดรถฟรี

รวมจุดพักรถ ที่จอดรถฟรี ค่าผ่านทางฟรี พร้อมส่วนลด ต้อนรับเทศกาลปีใหม่ 2565

ท่าอากาศยานดอนเมือง จัดพื้นที่จอดรถยนต์สำหรับให้บริการผู้โดยสาร โดยไม่คิดค่าบริการ จำนวน 3 จุด ได้แก่

1.อาคารจอดรถยนต์คลังสินค้า 5 ชั้น เฉพาะชั้น 2 รองรับได้จำนวน 150 คัน
2.ลานจอดรถยนต์หน้าอาคารจอดรถยนต์คลังสินค้า 5 ชั้น รองรับได้จำนวน 150 คัน
3.ลานจอดรถยนต์ระหว่างอาคารจอดรถยนต์คลังสินค้า 5 ชั้น และคลังสินค้า 2 รองรับได้จำนวน 150 คัน

ทั้งนี้ สามารถรองรับรถยนต์ได้ประมาณ 450 คัน โดยมีรถ Shuttle Bus จำนวน 4 คันๆ ละ 30 ที่นั่ง สำหรับวิ่งให้บริการรับ – ส่ง ผู้โดยสารระหว่างที่จอดรถกับอาคารผู้โดยสาร อาคาร 1 และ อาคาร 2 ทุกๆ 15 นาที บริการตลอด 24 ชั่วโมง ไม่คิดค่าบริการ

นอกจากนี้ ทดม.ยังมีรถโดยสารสาธารณะ A1 – A4 ให้บริการ ณ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ อาคาร 1 ชั้น 1 ประตู 6 และอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ อาคาร 2 ชั้น 1 ประตู 12

รวมจุดพักรถ ที่จอดรถฟรี ค่าผ่านทางฟรี พร้อมส่วนลด ต้อนรับเทศกาลปีใหม่ 2565

ส่วนสนามบินสุวรรณภูมิ ได้ยกเว้นค่าจอดรถให้ผู้โดยสารที่นำรถมาจอดที่ลานจอดรถระยะยาวโซน C ซึ่งสามารถจอดรถยนต์ได้ 718 คัน

และได้จัดรถ Shuttle Bus สาย A ที่วิ่งให้บริการรับ-ส่งผู้โดยสารจากศูนย์ขนส่งสาธารณะ (Bus Terminal) ตามลำดับไปยังลานจอดรถระยะยาว โซน C เพื่อรับผู้โดยสารไปส่งยังอาคารผู้โดยสาร ชั้น 1 ประตู 3 และประตู 8 และขึ้นไปที่ชั้น 2 ประตู 5 กลับไปยังศูนย์ขนส่งสาธารณะ (Bus Terminal) ตามลำดับ โดยผู้ใช้บริการรถ Shuttle Bus ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ

ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) บริการจุดจอดรถฟรีในช่วงเทศกาลวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2565 เพื่อเป็นของขวัญแก่ผู้ใช้บริการ ระหว่างวันที่ 29 ธ.ค.64 – 4 ม.ค.65 ณ อาคาร X-Terminal ทภก.

รวมจุดพักรถ ที่จอดรถฟรี ค่าผ่านทางฟรี รถไฟฟ้าฟรี เทศกาลปีใหม่

ค่าเดินทางฟรี

กรมทางหลวง เปิดฟรีมอเตอร์เวย์ จำนวน 3 สายทาง รวม 5 วัน เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางแก่ประชาชนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565

เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 2564 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ได้มีมติอนุมัติยกเว้นค่าธรรมเนียมผ่านทางบนทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองของกรมทางหลวงในช่วงเทศกาลปีใหม่ ตั้งแต่เวลา 0.01 น. ของวันที่ 30 ธันวาคม 2564 ถึง เวลา 24.00 น. ของวันที่ 3 มกราคม 2565 รวม 5 วัน ได้แก่

  • ทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 กรุงเทพ – ชลบุรี – พัทยา – มาบตาพุด
  • ทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 บางปะอิน – บางพลี และ
  • ทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 พระประแดง – บางขุนเทียน

ทั้งนี้ กรมทางหลวงได้คาดการณ์ว่าจะมีปริมาณจราจรเข้าออกกรุงเทพมหานครบนทางหลวงสายหลักและมอเตอร์เวย์ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 (วันที่ 29 ธ.ค. 64 – 4 ม.ค. 65) จำนวน 7,636,816 คัน แบ่งเป็นฝั่งขาเข้า 3,852,687 คัน ฝั่งขาออก 3,784,129 คัน เมื่อเปรียบเทียบกับเทศกาลปีใหม่ 2564 พบว่า ปริมาณจราจรจะเพิ่มขึ้น 20.7% แบ่งเป็นฝั่งขาเข้าเพิ่มขึ้น 19.9% และฝั่งขาออกเพิ่มขึ้น 21.5%

หากประชาชนผู้ใช้ทางต้องการสอบถามข้อมูลการเดินทางเพิ่มเติม หรือแจ้งอุบัติเหตุ สามารถติดต่อได้ที่สายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง) สายด่วนมอเตอร์เวย์ 1586 กด 7 และตำรวจทางหลวง 1193 ตลอด 24 ชั่วโมง

15 ธ.ค. ขึ้นค่าทางด่วน ศรีรัช-วงแหวนรอบนอกฯ รถ 4 ล้อ ปรับเป็น 65 บาท!

ค่าทางด่วนฟรี

การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กําหนดอัตราค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษบูรพาวิถีและทางพิเศษ กาญจนาภิเษก (บางพลี – สุขสวัสดิ์) ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 ฟรี 5 วัน ตั้งแต่เวลา 00.01 น. ของวันที่ 30 ธันวาคม 2564 จนถึงเวลา 24.00 น. ของวันที่ 3 มกราคม 2565

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

แต่ถ้าใครอยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถคันใหม่ มั่นใจตลอดการเดินทางมากขึ้นในปีใหม่ มาขายรถกับทาง CARRO Express ได้ที่  https://th.carro.co/sell-car/express หรือถ้าหากต้องการซื้อรถคุณภาพเยี่ยม CARRO เราก็มีพร้อมให้คุณเลือกอย่างมากมายด้วยเช่นกัน พร้อมรับประกันสูงสุดถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร กับ CARRO Automall ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://th.carro.co/taladrod/

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

ส่วนช่วงปลายปีนี้ ใครอยากซื้อรถมือสองสภาพเยี่ยม ราคาสบายๆ CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ ตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลา 1 นาที!

ซึ่งรถของ CARRO Automall เรามีให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพอย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 200 จุด รวมไปถึงการการปรับสภาพ (Car Reconditioning) ด้วยทีมช่างมืออาชีพ ที่ผ่านการผึกอบรมตามมาตรฐานคาร์โรกว่า 40 คน พร้อมให้บริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว กว่า 20 คัน/วัน

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ 

เรารับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร! (CARRO Quality Assurance) อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม กับ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

รวมข้อมูลที่ตรวจเช็กสภาพรถฟรี ก่อนเที่ยวปีใหม่ 2565!

ช่วงเวลาปีใหม่ของทุกๆ ปี เป็นช่วงที่มีผู้คนเดินทางบนท้องถนนกันสูงมาก และตัวเลขของอุบัติเหตุบนท้องถนนก็สูงมากตามไปด้วย จนต่างชาติ ยกให้ถนนไทยความปลอดภัยน้อยสุดใน ASEAN แล้ว … เพื่อความพร้อมในการเดินทาง ลดปัญหาจากอุบัติเหตุ หรือปัญหารถเสียกลางทาง ทำได้ง่ายๆ ด้วยการนำรถไปตรวจสภาพก่อนออกเดินทาง

ซึ่งในบ้านเรา มีหลายบริษัท หลายหน่วยงาน พร้อมให้ความมั่นใจในการตรวจเช็กรถของคุณ ให้พร้อมใช้งาน ตรวจเปลี่ยนซ่อมแซม ก่อนเดินทางไปเที่ยวเทศกาลปีใหม่ 2565 กันอย่างเต็มที่

CARRO ขอรวบรวมข้อมูลตรวจเช็กรถฟรี ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 ที่กำลังจะมาถึงนี้ เพื่อให้ท่านผู้อ่านเลือกนำรถไปตรวจเช็คได้ตามความสะดวกเลยครับผม.

New Toyota Camry 2022

Toyota (โตโยต้า)

สำหรับช่วงเทศกาลปีใหม่ประจำปี 2565 Toyota ได้ร่วมมือกับภาครัฐโดยกรมขนส่งทางบก ให้บริการตรวจเช็กสภาพรถยนต์ 24 รายการ ฟรี ที่ศูนย์บริการ ผู้แทนจำหน่าย Toyota ทั่วประเทศ เพื่อเตรียมความพร้อมรถยนต์ให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ สร้างความมั่นใจก่อนเดินทาง เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ

บริการตรวจเช็กสภาพรถยนต์ฟรี 24 รายการ ประกอบด้วย

  1. ตรวจเสียงเครื่องยนต์ขณะสตาร์ท
  2. ที่ปัดน้ำฝน/น้ำล้างกระจก
  3. ยางกันฝุ่นเพลาขับ
  4. ลูกปืนล้อ
  5. ลูกหมากปีกนก
  6. สภาพยางรถยนต์
  7. สายพานต่างๆ
  8. ไส้กรองอากาศเครื่องยนต์
  9. รอยรั่วและความผิดปกติของท่อทางน้ำ
  10. รอยรั่วและความผิตปกติของพวงมาลัยพาวเวอร์
  11. รอยรั่วและความผิดปกติของหม้อน้ำ
  12. รอยรั่วและความผิดปกติของเกียร์
  13. รอยรั่วและความผิดปกติของเครื่องยนต์
  14. ระบบฟรีแป้นเหยียบ/คลัตช์/เบรกมือ
  15. ระบบไฟส่องสว่าง/แตร
  16. ระบบเครื่องปรับอากาศ พัดลม และน้ำยา
  17. ระดับน้ำมันพาวเวอร์
  18. ระดับน้ำมันเกียร์
  19. ระดับน้ำมันเครื่อง
  20. ระดับน้ำมันเบรก
  21. ระดับน้ำในถังสำรอง/ระดับน้ำยาหล่อเย็น
  22. เข็มขัดนิรภัย
  23. แบตเตอรี่/ระดับน้ำกลั่น
  24. โช้คอัพหน้าหลัง
  25. *ระดับน้ำมันเฟืองท้าย (เพิ่มเติมเฉพาะรถที่มีอุปกรณ์ดังกล่าว)
  26. *ระดับน้ำมันทรานเฟอร์ (เพิ่มเติมเฉพาะรถที่มีอุปกรณ์ดังกล่าว)

โดยผู้ที่สนใจสามารถนำรถยนต์ไปตรวจเช็กได้ ตั้งแต่วันนี้ – 31 ธันวาคม 2564

เช็กรถฟรี 24 รายการ

Toyota K.Motors (โตโยต้า เค.มอเตอร์ส)

โตโยต้า เค.มอเตอร์ส อำนวยความสะดวก เพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนน ในช่วงหยุดยาว ให้บริการเช็กรถฟรี 24 รายการ มั่นใจ ปลอดภัยทุกการเดินทาง ที่ศูนย์บริการโตโยต้า เค.มอเตอร์ส ทุกสาขา 1 – 31 ธ.ค. 2564 นัดหมายล่วงหน้าโทร 02-662-6555

*รายการตรวจเช็กฟรี 24 รายการ พร้อมทำความสะอาดฆ่าเชื้อฟรี

แบตเตอรี่/ระดับน้ำกลั่น ระดับน้ำมันเกียร์
สภาพยางรถยนต์ ระบบฟรีแป้นเหยียบ/คลัตช์/เบรกมือ
ที่ปัดน้ำฝน/น้ำยาล้างกระจก ยางกันฝุ่นเพลาขับ
ระดับน้ำมันเครื่อง โช้คอัพหน้าหลัง
ระดับน้ำในถังสำรอง/ระดับน้ำยาหล่อเย็น ลูกหมากปีกนก
ระดับน้ำมันเบรก ลูกปืนล้อ
ระดับน้ำมันพาวเวอร์ ระบบเครื่องปรับอากาศ พัดลม และน้ำยา
ไส้กรองอากาศเครื่องยนต์ รอยรั่วและความผิดปกติของเครื่องยนต์
ตรวจเสียงเครื่องยนต์ขณะสตาร์ท รอยรั่วและความผิดปกติของเกียร์
สายพานต่างๆ รอยรั่วและความผิดปกติของหม้อน้ำ
ระบบไฟส่องสว่าง/แตร รอยรั่วและความผิดปกติของท่อทางน้ำ
เข็มขัดนิรภัย รอยรั่วและความผิตปกติของพวงมาลัยพาวเวอร์
ระดับน้ำมันเฟืองท้าย
(เพิ่มเติมเฉพาะรถที่มีอุปกรณ์ดังกล่าว)
ระดับน้ำมันทรานเฟอร์
(เพิ่มเติมเฉพาะรถที่มีอุปกรณ์ดังกล่าว)

Honda (ฮอนด้า)

Honda จัดแคมเปญ “หนาวนี้ เที่ยวไหน ก็อุ่นใจกับฮอนด้า” แคมเปญส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2565 โดย บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับ กรมการขนส่งทางบก เชิญชวนลูกค้าฮอนด้าเตรียมความพร้อมก่อนการเดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 เพิ่มความอุ่นใจและปลอดภัยตลอดทุกการเดินทาง ด้วยบริการตรวจสภาพรถยนต์ฟรี 25 รายการ

รวมถึงข้อเสนอสุดพิเศษเฉพาะลูกค้าฮอนด้า อาทิ โปรโมชั่นยางซื้อ 3 แถม 1 ส่วนลดอะไหล่และแบตเตอรี่รถยนต์ รวมถึงการผ่อนชำระค่าใช้จ่ายงานบริการและยางรถยนต์ นานสูงสุดถึง 10 เดือน พร้อมบริการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคภายในรถยนต์ฟรี เมื่อนำรถยนต์เข้ารับบริการที่ศูนย์บริการฮอนด้า ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2564 – 31 มกราคม 2565

สิทธิประโยชน์สำหรับลูกค้าฮอนด้าในแคมเปญ “หนาวนี้ เที่ยวไหน ก็อุ่นใจกับฮอนด้า”

  • รายการที่ 1 บริการตรวจสภาพรถยนต์ฟรี 25 รายการ (ตามรายการที่กำหนด*)
  • รายการที่ 2 ฟรี บริการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคภายในห้องโดยสารรถยนต์
  • รายการที่ 3 ส่วนลดอะไหล่ 10% สำหรับผลิตภัณฑ์บำรุงรักษาเครื่องยนต์ (Engine Oil Treatment) และนํ้ายาล้างระบบปรับอากาศ (Evaporator Cleaner)
  • รายการที่ 4 ส่วนลดค่าแบตเตอรี่รถยนต์ 100 บาท
  • รายการที่ 5 – ซื้อยางโยโกฮาม่า 3 เส้น รับฟรี 1 เส้น
    – ซื้อยางมิชลิน 4 เส้น รับฟรี กระเป๋าคาด Michelin มูลค่า 900 บาท หรือลำโพงบลูทูธมิชลิน มูลค่า 1,500 บาท
    – ซื้อยางกู๊ดเยียร์ 4 เส้น รับฟรี กระเป๋าล้อลากกู๊ดเยียร์ มูลค่า 1,290 บาท และบัตรของขวัญโลตัส มูลค่า 200 บาท (เฉพาะรุ่นที่ร่วมรายการ**)
  • รายการที่ 6 ผ่อนชำระค่าใช้จ่ายงานบริการ 0% นานสูงสุด 6 เดือน (ตามเงื่อนไขที่กำหนด***)
  • รายการที่ 7 เลือกผ่อนชำระค่าใช้จ่ายสำหรับยางรถยนต์ 0% นานสูงสุด 10 เดือน (ตามเงื่อนไขที่กำหนด****)

นอกจากนี้ ฮอนด้ายังได้ร่วมกับกรมควบคุมมลพิษ กลุ่มอุตสาหกรรมรถยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จัดโครงการ “คลินิกรถ” โดยมีเป้าหมายเชิญชวนให้ลูกค้านำรถยนต์ฮอนด้าที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไปเข้ารับการตรวจเช็กสภาพเครื่องยนต์ เพื่อแก้ปัญหามลพิษฝุ่น PM 2.5 ด้วยบริการตรวจสภาพรถยนต์ฟรี 25 รายการ พร้อมรับสิทธิพิเศษส่วนลด 20% สำหรับกรองนํ้ามันเครื่อง และส่วนลด 10% สำหรับกรองอากาศ เมื่อนำรถยนต์เข้ารับบริการที่ศูนย์บริการฮอนด้า ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2564 – 28 กุมภาพันธ์ 2565

รายการตรวจสภาพรถยนต์ฟรี 25 รายการ

1. ตรวจวัดค่าแบตเตอรี่ด้วยเครื่องทดสอบโวลท์ / แอมแปร์ และตรวจเติมน้ำกลั่น
2. ตรวจเติมระดับน้ำในถังสำรองหม้อน้ำและถังเก็บน้ำล้างกระจก
3. ตรวจการรั่วซึมของท่อยางหม้อน้ำ บน / ล่าง
4. ตรวจทำความสะอาดไส้กรองอากาศ
5. ตรวจระดับน้ำมันเครื่อง
6. ตรวจระดับน้ำมันเบรก / คลัทช์ (สำหรับรุ่นที่มี)
7. ตรวจระดับน้ำมัน พวงมาลัยเพาเวอร์ (สำหรับรุ่นที่มี)
8. ตรวจระดับน้ำมันเกียร์
9. ตรวจสภาพสายพานขับด้านนอก
10. ตรวจสภาพยางปัดน้ำฝน
11. ตรวจระดับหัวฉีดน้ำล้างกระจก
12. ตรวจสภาพยาง วัดแรงดัน / เติมลมยาง 5 เส้น
13. ตรวจการทำงานของ ไฟสัญญาณ / ไฟส่องสว่าง
14. ตรวจการทำงานของ เข็มขัดนิรภัย
15. ตรวจการทำงานของ ระยะแป้นเบรก
16. ตรวจการทำงานของ ระยะยกคันโยกเบรกมือ
17. ตรวจการทำงานของ แม่ปั๊มเบรก และหม้อลมเบรก
18. ตรวจการทำงานของ ระบบปรับอากาศ (ความเย็น / ช่องทางลม)
19. ตรวจสภาพของ ท่ออ่อนเบรก 4 ล้อ
20. ตรวจลูกหมากและยางกันฝุ่นแร็คพวงมาลัย
21. ตรวจยางกันฝุ่นเพลาขับด้านซ้าย
22. ตรวจยางกันฝุ่นเพลาขับด้านขวา
23. ตรวจถังน้ำมันเชื้อเพลิง / ท่อ และข้อต่อท่อน้ำมันเชื้อเพลิง
24. ตรวจการทำงานของเครื่องยนต์ รอบเดินเบา / การรั่วซึม
25. ตรวจช่วงล่าง ลูกยาง และลูกหมากต่างๆ

NISSAN ALWAYS CARES

Nissan (นิสสัน)

Nissan ส่งความห่วงใยผ่านแคมเปญ Nissan Always Cares ชวนลูกค้านำรถเข้าเช็กระยะ ด้วยโปรโมชั่นตรวจเช็กระยะฟรี 28 รายการ พร้อมส่วนลดแพ็คเกจเช็กระยะและเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง พร้อมลุ้นโชคทองและของรางวัลรวมกว่า 1.5 ล้านบาท ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2564 – 28 กุมภาพันธ์ 2565 เพื่อบรรเทาปัญหามลพิษทางอากาศจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5

Nissan Always Cares ให้บริการตรวจเช็กสภาพรถยนต์ฟรี 28 รายการ* พร้อมส่วนลดแพ็คเกจเช็กระยะสูงสุดถึง 44% และสามารถเลือกบริการผ่อนชำระ ดอกเบี้ย 0% นานสูงสุด 10 เดือน เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของลูกค้า พร้อมลุ้นชิงโชครางวัล มูลค่ารวมกว่า 1.5 ล้านบาท เมื่อนำรถเข้าศูนย์บริการนิสสัน และมียอดค่าใช้จ่ายทุกๆ 1,500 บาท

สำหรับลูกค้าที่สนใจ สามารถติดต่อเข้ารับบริการพร้อมรับข้อเสนอพิเศษ ได้ที่ศูนย์บริการนิสสันใกล้บ้าน หรือติดต่อ นิสสัน คอลเซ็นเตอร์ โทร 02-4019600

*สามารถตรวจสอบรายละเอียด และเงื่อนไขเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์ https://www.nissan.co.th/owners/service-package.html

รถยนต์ซูซูกิ จับมือกรมขนส่งทางบก รณรงค์ความปลอดภัยช่วงปีใหม่ ตรวจเช็กสภาพรถยนต์ฟรี โปรโมชั่น

Suzuki (ซูซูกิ)

Suzuki ให้การสนับสนุนกรมการขนส่งทางบก ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน มอบของขวัญปีใหม่ 2565 โดยจัดกิจกรรม “ตรวจรถฟรี ขับขี่ปลอดภัย” เชิญชวนลูกค้า นำรถยนต์ซูซูกิเข้าตรวจสอบความพร้อมก่อนเดินทางปีใหม่นี้ ฟรี!!! ตลอดเดือนธันวาคม

ทั้งนี้ได้จัดบริการพิเศษ ด้วยการตรวจเช็คสภาพรถยนต์โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายสำหรับผู้ใช้รถยนต์ซูซูกิ ซึ่งการให้บริการพิเศษนั้นประกอบด้วย การตรวจเช็คฟรี 15 รายการ ดังนี้ แตร ไฟส่องสว่าง ใบปัดน้ำฝน น้ำฉีดกระจก สภาพแบตเตอรี่ อุปกรณ์สายพานขับ น้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรค เปลี่ยนถ่ายตามระยะ น้ำหล่อเย็น ไส้กรองอากาศ น้ำมันเกียร์ การรั่วซึมของน้ำมัน ระบบปรับอากาศ เบรคมือ แป้นเหยียบเบรคและคลัช ยางรถยนต์และการขันน๊อตล้อ เป็นต้น และเหนือกว่าด้วยเครื่องมือวิเคราะห์ข้อบกพร่องและเช็กความสมบูรณ์ของตัวรถ เสริมความมั่นใจก่อนเดินทางโดยส่งผลการตรวจสอบผ่าน Hello Suzuki Application ระหว่างวันที่ 1 ธันวาคม 2564 – 31 ธันวาคม 2564 เท่านั้น

ทั้งนี้ลูกค้าสามารถเข้ารับบริการดังกล่าว โดยติดต่อนัดหมายล่วงหน้าได้ที่โชว์รูมรถยนต์ซูซูกิใกล้บ้าน หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ SUZUKI Cause We Care โทร 1800-600-900 (ไม่คิดค่าบริการ)

Isuzu D-Max

Isuzu (อีซูซุ)

อีซูซุ มอบสุขทุกเส้นทาง ด้วยของขวัญสุดพิเศษส่งท้ายปี

Isuzu และ กรมการขนส่งทางบก ตรวจเช็กรถฟรี สำหรับรถปิกอัพอีซูซุทุกรุ่น และรถยนต์นั่งอเนกประสงค์อีซูซุทุกรุ่น ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน – 30 ธันวาคม 2564

– ตรวจเช็กการสตาร์ทเครื่องยนต์
– ตรวจเช็กระบบไฟส่องสว่างและไฟสัญญาณต่างๆ
– ตรวจเช็กการทำงานของแตร
– ตรวจเช็กการทำงานของระบบปรับอากาศ
– ตรวจเช็กระบบปัดน้ำฝน
– ตรวจเช็กการทำงานของเข็มขัดนิรภัยทุกจุด
– ตรวจเช็กระยะและการทำงานของเบรกมือ
– ตรวจเช็กระยะฟรีขาเบรกและการทำงานของเบรก
– ตรวจเช็กระยะฟรีขาคลัตช์และการทำงานของคลัตช์
– ตรวจเช็กสภาพยางและความดันลมยาง
– ตรวจเช็กสภาพและระดับน้ำมันเครื่อง
– ตรวจเช็กสภาพและระดับน้ำมันเบรก/น้ำมันคลัตช์
– ตรวจเช็กสภาพและระดับน้ำหล่อเย็นในถังน้ำพัก
– ตรวจเช็กสภาพและระดับน้ำกลั่นแบตเตอรี่
– ตรวจเช็กสภาพและระดับน้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์
– ตรวจเช็กสภาพและทำความสะอาดไส้กรองอากาศ
– ตรวจเช็กสภาพและความตึงของสายพานเครื่องยนต์ทุกเส้น
– ตรวจเช็กระบบช่วงล่าง บูชยาง ยางกันฝุ่นและลูกหมากต่างๆ
– ตรวจเช็กสภาพและการรั่วซึมของโช้กอัพ

Hyundai Staria

Hyundai (ฮุนได)

Hyundai มอบบริการตรวจเช็คสภาพรถยนต์ฟรีสำหรับลูกค้าฮุนได ภายใต้โครงการ “ปีใหม่นี้ ขับขี่ปลอดภัย ให้ฮุนไดดูแลคุณ” เพื่อเชิญชวนลูกค้าเตรียมรถยนต์ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานก่อนเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 นี้

โดยลูกค้าสามารถนำรถยนต์ฮุนไดเข้ารับบริการตรวจเช็กสภาพรถยนต์ฟรี 40 รายการ พร้อมรับส่วนลดพิเศษค่าอะไหล่สูงสุด 15% อาทิ กรองน้ำมันเครื่อง, กรองน้ำมันเชื้อเพลิง,ไส้กรองอากาศ และชุดปัดน้ำฝน เป็นต้น พร้อมรับสิทธิประโยชน์อื่นๆ เพิ่มเติม

รายการตรวจเช็กสภาพรถยนต์ฟรี 40 รายการ มีดังต่อไปนี้

1. ตรวจเช็กสัญญาณไฟเตือนแบตเตอรี่ บนแผงมาตรวัดเรือนไมล์
2. ตรวจเช็กสัญญาณไฟเตือนน้ำมันเครื่อง บนแผงมาตรวัดเรือนไมล์
3. ตรวจเช็กสัญญาณไฟเตือนเครื่องยนต์ บนแผงมาตรวัดเรือนไมล์
4. ตรวจเช็กสัญญาณไฟเตือน ABS บนแผงมาตรวัดเรือนไมล์
5. ตรวจเช็กสัญญาณไฟเตือน AIR BAG บนแผงมาตรวัดเรือนไมล์
6. ตรวจเช็กสัญญาณไฟเตือนเบรคมือ บนแผงมาตรวัดเรือนไมล์
7. ตรวจเช็กสัญญาณบอกตำแหน่งเกียร์ออโต บนแผงมาตรวัดเรือนไมล์
8. ตรวจเช็กสัญญาณไฟเลี้ยว บนแผงมาตรวัดเรือนไมล์
9. ตรวจเช็กสัญญาณไฟฉุกเฉิน บนแผงมาตรวัดเรือนไมล์
10. ตรวจเช็กสัญญาณไฟหรี่ บนแผงมาตรวัดเรือนไมล์
11. ตรวจเช็กสัญญาณไฟสูง บนแผงมาตรวัดเรือนไมล์
12. ตรวจเช็กสัญญาณแตร
13. ตรวจเช็กการทำงานปัดน้ำฝนและการฉีดน้ำล้างกระจก
14. ตรวจการทำงานของกระจกประตูไฟฟ้า
15. ตรวจการทำงานของระบบล็อคประตูไฟฟ้า
16. ตรวจการทำงานของกระจกมองข้างไฟฟ้า
17. ตรวจการทำงานของเข็มขัดนิรภัย ด้านคนขับ
18. ตรวจการทำงานของระบบปรับอากาศ และกรองอากาศแอร์
19. ตรวจเช็กเบรคมือ จำนวนคลิก และระดับคันโยก
20. ตรวจการทำงานของเข็มขัดนิรภัย ด้านผู้โดยสาร
21. ตรวจเช็กแบตเตอรี่ (ที่ต้องเติมน้ำกลั่น), การหลวมของขั้วแบตเตอรี่
22. ตรวจเติมระดับน้ำในถังพักหม้อน้ำ
23. ตรวจเติมระดับน้ำในถังพักน้ำล้างกระจก
24. ตรวจทำความสะอาดไส้กรองอากาศ
25. ตรวจระดับน้ำมันเครื่อง
26. ตรวจระดับน้ำมันเบรค
27. ตรวจระดับน้ำมันคลัทช์หรือน้ำมันเกียร์ออโต้
28. ตรวจระดับน้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์
29. ตรวจสภาพของสายพานด้านหน้าเครื่องยนต์ (รอยแตก, ความตึง)
30. ตรวจสภาพยางปัดน้ำฝน
31. ตรวจเช็กสัญญาณของไฟหน้า สูง,ต่ำ รอบตัวถังรถ
32. ตรวจเช็กสัญญาณของไฟเลี้ยว ซ้าย,ขวา ไฟหรี่ รอบตัวถังรถ
33. ตรวจเช็กสัญญาณของไฟเบรค ไฟถอยหลัง รอบตัวถังรถ
34. ตรวจเช็กการหลวมคลอนและเสียหายของ ลูกหมากเหล็กกันโคลง
35. ตรวจเช็กการหลวมคลอนและเสียหายของ ลูกหมากคันชักคันส่ง
36. ตรวจเช็กการหลวมคลอนและเสียหายของ ปีกนกและบู๊ช
37. ตรวจเช็กการรั่วซึมของ โช๊คอัพ หน้าและหลัง
38. ตรวจเช็กรอยแตก ฉีกขาด ของยางหุ้มเพลาขับใน, นอก
39. ตรวจเช็กรอยแตก ฉีกขาด ของยางหุ้มแร็คพวงมาลัย
40. ตรวจเช็กการรั่วซึมของน้ำมันเครื่อง,น้ำมันเกียร์-เฟืองท้าย,น้ำมันเพาเวอร์

MG (เอ็มจี)

ส่งมอบความสุขให้กับลูกค้า MG ให้เริ่มต้นปีใหม่ 2565 ด้วยความมั่นใจกับบริการตรวจเช็กฟรี พร้อมสิทธิพิเศษ สำหรับลูกค้าคนพิเศษเช่นคุณ

  • ฟรี บริการตรวจเช็กสภาพรถยนต์ให้กับลูกค้ารถยนต์ MG จำนวน 37 รายการ (สิทธิพิเศษนี้ครอบคลุมทั้งการให้บริการที่ศูนย์บริการมาตรฐาน MG และการนัดหมายรับบริการกับรถบริการเคลื่อนที่ Mobile Service)
  • ส่วนลดพิเศษ 10%  สำหรับอะไหล่การบำรุงรักษากว่า 84 รายการ รวมถึง น้ำมันเครื่อง, ไส้กรองน้ำมันเครื่อง, ไส้กรองปรับอากาศ, แบตเตอรี่ และผ้าเบรก
  • ฟรี สเปรย์แอลกอฮอล์แบบพกพาพร้อมสายคล้อง สำหรับลูกค้าที่เข้ารับบริการ และมีค่าใช้จ่ายครบ 1,500 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

ลูกค้าสามารถนำรถยนต์เข้ารับบริการตามโปรโมชันพิเศษข้างต้น ได้ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2564 – 31 มกราคม 2565 สอบถามรายละเอียด หรือนัดหมายจองคิวเข้ารับบริการล่วงหน้าได้ที่ศูนย์บริการ MG ทั้ง 150 แห่งทั่วประเทศ หรือติดต่อลูกค้าสัมพันธ์ โทร. 1267

รายการตรวจเช็กสภาพรถยนต์ ให้กับลูกค้ารถยนต์ MG

ห้องเครื่องยนต์

  1. ตรวจสอบความตึง และสภาพของสายพานขับ
  2. ตรวจสอบสภาพไส้กรองอากาศ
  3. ตรวจสอบสภาพแบตเตอรี่ และขั้วแบตเตอรี่/ไดร์ชาร์จ
  4. ตรวจสอบอาการเสียงดังของเครื่องยนต์ที่รอบเดินเบา
  5. ตรวจอาการสั่นของเครื่องยนต์ที่รอบเดินเบา
  6. ตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่องยนต์ และรอยรั่วซึม
  7. ตรวจสอบระดับน้ำมันเบรก และรอยรั่วซึม
  8. ตรวจสอบระดับน้ำมันเพาเวอร์ และรอยรั่วซึม
  9. ตรวจอสบระดับน้ำหล่อเย็นในถังพัก
  10. ตรวจสอบระดับน้ำฉีดกระจกในถังพัก

ภายในห้องโดยสาร

  1. ตรวจสอบระยะฟรีของขาคันเร่ง
  2. ตรวจสอบระยะฟรีขาเหยียบเบรก
  3. ตรวจสอบระบบกุญแจ และเซ็นทรัลล็อก
  4. ตรวจสอบที่เปิดฝากระโปรงหน้า / หลัง / ถังน้ำมัน
  5. ตรวจสอบการปรับระดับคอพวงมาลัย และระบบบังคับเลี้ยว
  6. ตรวจสอบการทำงานของเข็มขัดนิรภัย
  7. ตรวจสอบการทำงานเบาะนั่ง และพนักพิงศีรษะ
  8. ตรวจสอบระบบเบรกมือไฟฟ้า หรือเบรกมือธรรมดา
  9. ตรวจสอบไฟสัญญาณแผงหน้าปัด
  10. ตรวจสอบระบบปรับอากาศ
  11. ตรวจสอบการทำงานที่ปัดน้ำฝน / สภาพใบปัดน้ำฝน และตำแหน่งน้ำฉีดกระจก
  12. ตรวจสอบการทำงานเสียงแตร
  13. ตรวจสอบการทำงานของระบบกระจกไฟฟ้า
  14. ตรวจสอบการทำงานของกระจกมองข้าง และมองหลัง
  15. ตรวจสอบไฟสัญญาณ / ไฟเตือน
  16. ตรวจสอบไฟส่องสว่างภายในรถ
  17. ตรวจสอบการทำงานของไล่ฟ้ากระจก

ระบบไฟส่องสว่างภายนอก

  1. ตรวจสอบไฟส่องสว่างไฟหน้า
  2. ตรวจสอบไฟตัดหมอกหน้า (เฉพาะรุ่น)
  3. ตรวจสอบไฟส่องสว่างไฟท้าย
  4. ตรวจสอบไฟตัดหมอกท้าย (เฉพาะรุ่น)

ระบบรองรับน้ำหนัก

  1. ตรวจสอบขันน็อตและโบล์ท ระบบรองรับทั้งหมด
  2. ตรวจสอบรอยรั่วซึมระบบเบรก ท่อทางน้ำมันเบรก
  3. ตรวจสอบความหนาผ้าเบรก
  4. ตรวจสอบความหนา และสภาพจานเบรก
  5. ตรวจสอบสภาพล้อ และยางรถยนต์

ตรวจรหัสปัญหา

  1. ตรวจสอบรหัสปัญหาด้วยเครื่องมือ VDI

กรมการขนส่งทางบก ตรวจรถฟรีขับขี่ปลอดภัย และตั้งจุดให้บริการทั่วไทย

กรมการขนส่งทางบก ร่วมกับ หน่วยงานภาครัฐและเอกชนมากกว่า 20 หน่วยงาน อาทิ ผู้ผลิตและผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ รถจักรยานยนต์ บริษัทประกันภัย สถานตรวจสภาพรถเอกชน ศูนย์บริการน้ำมัน และศูนย์บริการติดตั้งแก๊ส LPG/NGV จัดกิจกรรม “ตรวจรถฟรี ขับขี่ปลอดภัย” ตลอดเดือนธันวาคม (ระหว่างวันที่ 1-31 ธันวาคม 2564) เพื่อให้ประขาชนนำรถยนต์และรถจักรยานยนต์ทุกยี่ห้อเข้ารับบริการได้ฟรี ณ ศูนย์บริการของภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชนทั่วประเทศ รวมกว่า 2,000 แห่ง ที่มีป้ายประชาสัมพันธ์ “ตรวจรถฟรี ขับขี่ปลอดภัย”

โดยมีบริการตรวจเช็กสภาพรถและอุปกรณ์ส่วนควบเพื่อความปลอดภัยเบื้องต้น 20 รายการ เช่น การตรวจระบบเบรก สภาพยาง อุปกรณ์ปัดน้ำฝน ระดับน้ำมันเครื่องและความสกปรกของน้ำมันเครื่อง ระดับน้ำมันเบรกและน้ำมันคลัตช์ ความตึงของสายพาน แบตเตอรี่ และการทำงานของไฟส่องสว่าง ไฟสัญญาณต่างๆ เป็นต้น ซึ่งจะได้รับการดูแลจากช่างผู้ชำนาญงาน เพื่อให้สภาพรถพร้อมใช้งานอย่างปลอดภัยสำหรับการเดินทางไกลในเทศกาลปีใหม่นี้

นอกจากนี้ บางหน่วยงานยังมีส่วนลดค่าอะไหล่บางรายการ มีของที่ระลึก รวมไปถึงบริการอำนวยความสะดวกอื่นๆ ให้แก่เจ้าของรถอีกด้วย

ซึ่งกรมการขนส่งทางบก ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ที่มีความห่วงใยและต้องการส่งมอบความปลอดภัยให้แก่ประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง ได้แก่

– ราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ (ร.ย.ส.ท.)
– สมาคมผู้ประกอบการรถจักรยานยนต์ไทย
– สมาคมการค้าไทย-ยุโรป (TEBA)
– สมาคมตรวจสภาพรถเอกชนไทย
– สมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์
– สถาบันยานยนต์
– บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด
– บริษัท ฮอนด้าออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด
– บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด
– บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด
– บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด
– บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด
– บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด
– บริษัท ไทยฮอนด้า แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด
– บริษัท ไทยยามาฮ่า มอเตอร์ จำกัด
– บริษัท คาวาซากิ มอเตอร์ เอ็นเตอร์ไพรส์ (ประเทศไทย) จำกัด
– บริษัท ซูซูกิ โมโตเซลส์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด
– บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน)
– บริษัท เทเวศประกันภัย จำกัด (มหาชน)
– บริษัท บี-ควิก จำกัด
– บริษัท ฟอร์ซเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด (ศูนย์บริการ AutoQuiks)
– บริษัท ทีซี ซูบารุ (ประเทศไทย) จำกัด
– บริษัท คาร์เวิลด์ คลับ จำกัด
– บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด
– บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย)
– บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด
– บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด

วิริยะประกันภัย

วิริยะประกันภัย มอบความสุขและเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน บริษัทฯ จึงได้ร่วมกับ กรมการขนส่งทางบก จัดกิจกรรม “ตรวจรถฟรี ขับขี่ปลอดภัย เทศกาลปีใหม่ 2565” ให้ความสำคัญของการดูแลบำรุงรักษารถให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานก่อนการเดินทาง

ทั้งนี้ ลูกค้าวิริยะประกันภัยและประชาชนทั่วไป สามารถนำรถยนต์เข้ามารับบริการตรวจเช็คสภาพเบื้องต้นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ จำนวน 20 รายการ อาทิ ตรวจระดับน้ำมันเครื่อง ตรวจสภาพยาง ตรวจสภาพการทำงานของไฟส่องสว่างและไฟสัญญาณ ตรวจสอบระดับน้ำกลั่นในแบตเตอรี่ ขั้วแบตเตอรี่ ตรวจสอบเบรก คลัตซ์ ตรวจสภาพการทำงานของเครื่องยนต์ ณ ศูนย์ซ่อมมาตรฐานวิริยะประกันภัยที่ติดป้ายประชาสัมพันธ์กิจกรรม “ตรวจรถฟรี ขับขี่ปลอดภัย เทศกาลปีใหม่ 2565”

พร้อมรับของที่ระลึกฟรี! ถุงผ้า “CARE INSURANCE” เมื่อลงทะเบียนตอบแบบสอบถาม โดยสามารถเข้ารับบริการได้ตั้งแต่บัดนี้ ไปจนถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2564

สำหรับศูนย์ซ่อมมาตรฐานวิริยะประกันภัยที่เข้าร่วมโครงการให้บริการตรวจรถฟรี จำนวน 32 แห่ง ได้แก่

1) อู่ร่วมมิตรการาจ 2) บริษัท นิวเพื่อนยนต์ จำกัด 3) บริษัท ไทยรัตน์ยานยนต์ จำกัด 4) หจก. งามวงศ์วาน คาร์แคร์ 5) บริษัท อู่นำชัย รัตนาธิเบศร์ จำกัด 6) บริษัท เจริญกิจ ออโต้ เซอร์วิส จำกัด 7) บริษัท เจริญกิจ ราชพฤกษ์ จำกัด 8) บริษัท เซอร์กิต ติวานนท์ จำกัด 9) บริษัท คุงการาจ จำกัด 10) บริษัท อู่นำชัย เตาปูน จำกัด 11) บริษัท เซอร์กิตบริการ จำกัด 12) บริษัท อู่กังวานชัยการช่าง จำกัด 13) บริษัท อู่วิชัยยนต์ จำกัด 14) บริษัท ทรัพย์สิทธิ คาร์ อินเตอร์ จำกัด 15) บริษัท เทวินทร์ คาร์เซ็นเตอร์ จำกัด 16) บริษัท อู่บอส 888 การาจ จำกัด 17) บริษัท ธนพัฒน์ ออโต้ เซ็นเตอร์ จำกัด 18) บริษัท เพอร์เฟคท์ สปีด ไลน์ จำกัด 19) บริษัท โสฬส ธนบดี จำกัด 20) หจก. เจดีย์ออโต้เซอร์วิส 21) หจก.เป้งการาจ 22) บริษัท เจ.เอส.อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด 23) บริษัท อู่ เอส.เอส. อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด 24) บริษัท รุ่งเจริญ บอดี้ คลีนิค จำกัด 25) บริษัท สุขุมวิท เอ.ที. เซอร์วิส 26) หจก.สุทินคาร์เซอร์วิส 27) บริษัท เฮงบอดี้คาร์ เซอร์วิส จำกัด 28) บริษัท วงษ์ศิริเลิศ คาร์ เซอร์วิส (1997) จำกัด 29) บริษัท เจริญภัณฑ์ยนตรกิจ เซอร์วิส จำกัด 30) บริษัท นที อินเตอร์เซอร์วิส จำกัด สาขา 1 31) บริษัท อู่แม่กลอง จำกัด 32) บริษัท อ.พิพัฒน์ยนต์ (1989) จำกัด

B-Quik

บี-ควิก เอาใจเจ้าของรถทุกยี่ห้อ นำรถเข้าตรวจเช็กสุขภาพฟรี 30 รายการ ที่บี-ควิก ทุกสาขาทั่วไทย ได้ตลอดทั้งปี แจ้งเจ้าหน้าที่ที่สาขาก่อนรับบริการได้เลย สอบถามเพิ่มเติม โทร. 1153

ตรอ.

สมาคมตรวจสภาพรถเอกชนไทย รวบรวมสถานตรวจสภาพรถ หรือ ตรอ. ทั่วประเทศ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการให้บริการประชาชนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 ผู้สนใจสามารถนำรถเข้าตรวจความพร้อมก่อนเดินทางไกลกับ ตรอ. ที่มีป้าย “ตรวจรถฟรี ขับขี่ปลอดภัย”

ใกล้ที่ไหน ไปที่นั่น ขอบคุณทุกภาคส่วนที่มีส่วนช่วยในการลดอุบัติเหตุ

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

ถ้าใครอยากขายรถคันเดิม เพื่อนำเงินไปโปะรถคันใหม่ จะได้ผ่อนดาวน์กันน้อยลง มาขายรถกับทาง CARRO Express ได้ที่  https://th.carro.co/sell-car/express หรือถ้าหากต้องการซื้อรถคุณภาพเยี่ยม CARRO เราก็มีพร้อมให้คุณเลือกอย่างมากมายด้วยเช่นกัน พร้อมรับประกันสูงสุดถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร กับ CARRO Automall ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://th.carro.co/taladrod/

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

ส่วนช่วงปลายปีนี้ ใครอยากซื้อรถมือสองสภาพเยี่ยม ราคาสบายๆ CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ ตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลา 1 นาที!

ซึ่งรถของ CARRO Automall เรามีให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพอย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 200 จุด รวมไปถึงการการปรับสภาพ (Car Reconditioning) ด้วยทีมช่างมืออาชีพ ที่ผ่านการผึกอบรมตามมาตรฐานคาร์โรกว่า 40 คน พร้อมให้บริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว กว่า 20 คัน/วัน

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ 

เรารับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร! (CARRO Quality Assurance) อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม กับ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

รวมที่จอดรถรอบเมืองทองธานี สำหรับเที่ยวงาน Motor Expo 2021

ขึ้นชื่อว่าเป็นย่าน “เมืองทองธานี” แล้ว หลายคนต้องนึกถึงเวลาจัดงาน Event ใหญ่ๆ เช่น มอเตอร์โชว์ แล้วต้องเสียเวลารถติดแหง็กกันบนถนนแจ้งวัฒนะ หรือติดแหง็กตั้งแต่ทางด่วนลงเมืองทองธานี ส่วนหนึ่งเป็นเพราะระบบขนส่งมวลชนมีน้อย และใช้บริการไม่สะดวก จึงทำให้ผู้คนรถยนต์ขับรถมาจำนวนมาก เพราะสะดวกต่อการมางานนั่นเอง แต่นั่นก็ทำให้ต้องเสียเวลาวนหาที่จอด จนรถติดไปทั่ว

แต่สำหรับใครที่จะไปงาน Thailand International Motor Expo 2021 หรือเรียกย่อๆ ว่า Motor Expo 2021 (งานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2021) โดยนำรถยนต์ไปด้วย อาจเกิดความกังวลว่า ไปแล้วจะมีที่จอดรถไหม? ถ้าหาที่จอดรถไม่ได้ ต้องวนไปหาจุดไหนกันต่อ?

ดังนั้น CARRO (คาร์โร) จึงรวบรวมข้อมูลทั้งสถานที่ รวมถึงราคาค่าที่จอดรถ และรายละเอียดอื่นๆ เอาไว้อย่างครบถ้วน สามารถนำรถยนต์ของคุณไปจอดได้ตามอาคารต่างๆ รอบอิมแพค เมืองทองธานี หรือในย่านเมืองทองธานีได้ ดังนี้

รวมที่จอดรถรอบอิมแพ็ค เมืองทองธานี สำหรับงาน Motor Show และ Motor Expo (Update ล่าสุด! ปี 2564)

Motor Expo 2021 [P1 & VIP PARKING] – CHALLENGER 1-3 : Maps

ลานจอดรถในร่ม 1 อาคารอิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ รองรับได้ 2,500 คัน เปิดบริการทุกวัน เวลา 6.00 – 24.00 น.

อัตราค่าบริการ:

  • 3 ชั่วโมงแรก เหมาจ่าย 40 บาท ฟรี 30 นาทีแรก
  • ชั่วโมงถัดไป ชั่วโมงละ 20 บาท เศษนาที คิดเป็น 1 ชั่วโมง
  • เข้าใช้บริการ หลัง 18.00-24.00 น. อัตราเหมาจ่าย 40 บาท (ลูกค้าต้องนำรถเข้าหลัง 18.00 น.)
  • ลูกค้าที่นำรถออกหลัง 24.00 น. มีค่าปรับจอดรถเกินเวลา ชั่วโมงละ 100 บาท
  • ลูกค้าทำบัตรจอดรถสูญหาย ชำรุด มีค่าปรับ 500 บาท

รวมที่จอดรถรอบอิมแพ็ค เมืองทองธานี สำหรับงาน Motor Show และ Motor Expo (Update ล่าสุด! ปี 2564)

Motor Expo 2021 [P2] – Indoor Parking 2 : Maps

ลานจอดรถในร่ม 2 (พี 2) อาคารอิมแพ็ค ฟอรั่ม รองรับได้ 2,374 คัน เปิดบริการทุกวัน เวลา 6.00 – 24.00 น.

อัตราค่าบริการ:

  • 3 ชั่วโมงแรก เหมาจ่าย 40 บาท ฟรี 30 นาทีแรก
  • ชั่วโมงถัดไป ชั่วโมงละ 20 บาท เศษนาที คิดเป็น 1 ชั่วโมง
  • เข้าใช้บริการ หลัง 18.00 – 24.00 น. อัตราเหมาจ่าย 40 บาท (ลูกค้าต้องนำรถเข้าหลัง 18.00 น.)
  • ลูกค้าที่นำรถออกหลัง 24.00 น. มีค่าปรับจอดรถเกินเวลา ชั่วโมงละ 100 บาท
  • ลูกค้าทำบัตรจอดรถสูญหาย ชำรุด มีค่าปรับ 500 บาท

รวมที่จอดรถรอบอิมแพ็ค เมืองทองธานี สำหรับงาน Motor Show และ Motor Expo (Update ล่าสุด! ปี 2564)

Motor Expo 2021 [P3] – Indoor Parking 3 : Maps

ด้านหลังอาคาร 5 รองรับได้ 2,000 คัน เปิดบริการทุกวัน เวลา 06.00 – 24.00 น.

อัตราค่าบริการ:

  • 3 ชั่วโมงแรก เหมาจ่าย 40 บาท ฟรี 30 นาทีแรก
  • ชั่วโมงถัดไป ชั่วโมงละ 20 บาท เศษนาที คิดเป็น 1 ชั่วโมง
  • เข้าใช้บริการ หลัง 18.00 – 24.00 น. อัตราเหมาจ่าย 40 บาท (ลูกค้าต้องนำรถเข้าหลัง 18.00 น.)
  • ลูกค้าที่นำรถออกหลัง 24.00 น. มีค่าปรับจอดรถเกินเวลา ชั่วโมงละ 100 บาท
  • ลูกค้าทำบัตรจอดรถสูญหาย ชำรุด มีค่าปรับ 500 บาท

รวมที่จอดรถรอบอิมแพ็ค เมืองทองธานี สำหรับงาน Motor Show และ Motor Expo (Update ล่าสุด! ปี 2564)

Motor Expo 2021 [P4] – Outdoor Parking 4 : Maps

ลานจอดรถกลางแจ้ง 4 รองรับได้ 1,000 คัน คุณสามารถนำรถไปจอดที่ด้านหลังอาคาร 11-12 โดยให้บริการที่จอดรถ ฟรี!

รวมที่จอดรถรอบอิมแพ็ค เมืองทองธานี สำหรับงาน Motor Show และ Motor Expo (Update ล่าสุด! ปี 2564)

Motor Expo 2021 [P5] – Outdoor Parking : Maps

ลานจอดรถกลางแจ้ง 5 รองรับได้ 623 คัน สามารถนำรถไปจอดที่ด้านหลังอาคาร 7-8 โดยให้บริการที่จอดรถ ฟรี!

รวมที่จอดรถรอบอิมแพ็ค เมืองทองธานี สำหรับงาน Motor Show และ Motor Expo (Update ล่าสุด! ปี 2564)

Motor Expo 2021 – The Portal : Maps

ลานจอดรถกลางแจ้ง อาคารเดอะ พอร์ทอล ไลฟ์สไตล์ คอมเพล็กซ์ รองรับได้ 45 คัน เปิดบริการทุกวัน เวลา 06.00-24.00 น.

อัตราค่าบริการ:

  • จอดฟรี 30 นาทีแรก และหลังจากนั้นคิดในอัตราชั่วโมงละ 20 บาท เศษของนาทีคิดเป็น 1 ชั่วโมง
  • รับสิทธิ์จอดฟรี 2 ชั่วโมงแรกเมื่อแสดงคูปองจอดรถฟรี 2 ชั่วโมง สามารถนำใบเสร็จมูลค่าตั้งแต่ 500 บาทขึ้นไป จากการใช้บริการเฉพาะร้านค้าชั้น 1-3 อาคารเดอะ พอร์ทอล เพื่อแลกคูปองได้ 1 ใบ (รวมใบเสร็จได้)
  • แลกคูปองได้ที่ เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ชั้น 1 และเคาน์เตอร์แคชเชียร์ ชั้น 3 ศูนย์อาหาร Food Arena
  • ไม่อนุญาตให้รถจอดค้างคืน (กรณีจอดรถเกินกาหนดเวลาหลังเที่ยงคืน คิดอัตราค่าปรับ 100 บาทต่อชั่วโมง)
  • ลูกค้าทำบัตรจอดรถสูญหาย ชำรุด มีค่าปรับ 300 บาท

รวมที่จอดรถรอบอิมแพ็ค เมืองทองธานี สำหรับงาน Motor Show และ Motor Expo

Motor Expo 2021 [P] – COSMO BAZAAR : Maps

อาคารจอดรถ คอสโม บาซาร์ รองรับได้ 2,200 คัน เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

อัตราค่าบริการ:

  • จอดฟรี 2 ชั่วโมงแรก
  • ชั่วโมงถัดไป ชั่วโมงละ 20 บาท เศษนาที คิดเป็น 1 ชั่วโมง
  • ลูกค้าทำบัตรจอดรถสูญหาย ชำรุด มีค่าปรับ 500 บาท

รวมที่จอดรถรอบอิมแพ็ค เมืองทองธานี สำหรับงาน Motor Show และ Motor Expo

Motor Expo 2021 [P] – COSMO WALK : Maps

ช้อปปิ้งเพลส ตั้งอยู่ตรงด้านข้างของมหาวิทยาลัยศิลปากร หรือฝั่งตรงข้ามอาคาร คอสโม บาซาร์ บริการที่จอดรถจำนวน 65 คัน พร้อมแล้วให้คุณได้มาช้อปอย่างสนั่นลั่นเมืองทอง!

รวมที่จอดรถรอบอิมแพ็ค เมืองทองธานี สำหรับงาน Motor Show และ Motor Expo

Motor Expo 2021 [P] – Activ Square : Maps

ลานจอดรถแอ็คทีฟ สแควร์ รองรับได้ 950 คัน ให้บริการที่จอดรถ ฟรี! 

รวมที่จอดรถรอบอิมแพ็ค เมืองทองธานี สำหรับงาน Motor Show และ Motor Expo

Motor Expo 2021 [P] – LAKESIDE 3 : Maps

อิมแพ็ค เลคไซค์ ริมทะเลสาบ เมืองทองธานี ริมทะเลสาบ เมืองทองธานี รองรับได้ 4,475 คัน ให้บริการที่จอดรถ ฟรี!

รวมที่จอดรถรอบอิมแพ็ค เมืองทองธานี สำหรับงาน Motor Show และ Motor Expo

Motor Expo 2021 [P] – BEEHIVE Lifestyle Mall : Maps

BEEHIVE (บีไฮฟ) ตั้งอยู่ห่างจากใจกลางกรุงเทพฯ เพียง 30 นาที จากทางด่วน เดินทางสะดวกสบาย ทั้งรถบริการรับ-ส่ง อิมแพ็ค ลิ้งค์ รถโดยสารสาธารณะ และในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีชมพู ที่จะให้บริการผ่านอิมแพ็ค เมืองทองธานี รองรับที่จอดรถได้กว่า 600 คัน

  • จอดรถฟรี 1 ชั่วโมงแรก ชั่วโมงต่อไป ชั่วโมงละ 20 บาท (ใบเสร็จครบ 500 บาท จอดรถฟรี 2 ชั่วโมง, ครบ 1,000 บาท จอดรถฟรี 3 ชั่วโมง หรือครบ 1,500 บาท จอดรถฟรี 4 ชั่วโมง)

แต่ถ้าใครพยายามหาที่จอดรถตามสถานที่เหล่านี้แล้ว แต่ก็ยังหาที่จอดรถไม่ได้ ก็คงต้องพึ่งจอดรถริมถนนรอบๆ เมืองทองธานี แล้วล่ะครับ …

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

ถ้าใครอยากขายรถคันเดิม เพื่อนำเงินไปโปะรถคันใหม่ จะได้ผ่อนดาวน์กันน้อยลง มาขายรถกับทาง CARRO Express ได้ที่  https://th.carro.co/sell-car/express หรือถ้าหากต้องการซื้อรถคุณภาพเยี่ยม CARRO เราก็มีพร้อมให้คุณเลือกอย่างมากมายด้วยเช่นกัน พร้อมรับประกันสูงสุดถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร กับ CARRO Automall ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://th.carro.co/taladrod/

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

และอีกหนึ่งบริการใหม่! CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น!

รถของเราทุกคันผ่านการตรวจสภาพ 200 จุด และยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ให้คุณเลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา พร้อมรับประกันคุณภาพรถนาน 1 ปี หรือสูงสุด 30,000 กิโลเมตร อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย เรามีรถให้คุณเลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

แหล่งที่มาจาก:

รวม 5 วิธี เดินทางไป-กลับ งาน Motor Expo 2021 พร้อมข้อมูลรถ Shuttle Bus รับ-ส่งฟรี!

Motor Expo 2021 (มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 38) หรือ The 38th Thailand International Motor Expo 2021 ภายใต้แนวคิด “มหกรรมสุขสันต์คนรักยานยนต์” หรือ “TIME to ENJOY!” พร้อมนำรถรุ่นใหม่ ทั้งที่เปิดตัวในปีนี้ รวมทั้งรุ่นยอดนิยม มาจัดแสดงส่งท้ายปีเช่นเคย โดยงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2021 ปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 – 12 ธันวาคม 2564 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ 1-3 เมืองทองธานี

สำหรับท่านที่อยากมาชมงาน “Motor Expo 2021” แต่ไม่อยากเสียเวลาขับรถแล้วเจอรถติดๆ บนทางด่วน หรือรถติดแหง็กบนถนนแจ้งวัฒนะ (ซึ่งปกติ เวลาไม่มีงานอะไร ก็รถติดแหง็กประจำอยู่แล้ว) รวมไปถึงต้องเสียเวลามาวนหาที่จอดรถในสถานที่รอบๆ ซะอีก …

CARRO ขอแนะนำ 5 วิธีการเดินทางไปงาน Motor Expo 2021 ตั้งแต่รถ Shuttle Bus ของงาน รวมไปถึงระบบขนส่งมวลชนอื่นๆ เพื่อความสะดวกของผู้อยากมาชมงาน Motor Expo 2021 แต่ไม่อยากขับรถไปที่งานครับ

1. รถ Shuttle Bus งาน Motor Expo

Impact-Mochit

1) เส้นทางหมอชิต – อิมแพ็ค – หมอชิต
– เดินทางโดย MRT ลงที่สถานีจตุจักร และใช้ทางออก 4
– เดินทางโดย BTS ลงที่สถานีหมอชิต และใช้ทางออก 2

หมอชิต-IMPACT รอบแรก 11.00 น. รอบสุดท้าย 20.30 น.
IMPACT-หมอชิต รอบแรก 12.00 น. รอบสุดท้าย 22.30 น.

Impact-Onnut

2) เส้นทางอ่อนนุช – อิมแพ็ค – อ่อนนุช
– เดินทางโดย BTS ลงที่สถานีอ่อนนุช และใช้ทางออก 2
– จุดจอดรถ Shuttle Bus อยู่ตรงลานจอดรถห้างโลตัส (เดินไปทางลานจอดรถด้านข้างห้าง ทางด้านซอยสุขุมวิท 50)

อ่อนนุช-IMPACT รอบแรก 11.00 น. รอบสุดท้าย 20.30 น.
IMPACT-อ่อนนุช รอบแรก 12.00 น. รอบสุดท้าย 22.30 น.

Impact-Silom

3) เส้นทางสีลม – อิมแพ็ค – สีลม
– เดินทางโดย MRT ลงที่สถานีสีลม และใช้ทางออก 1
– เดินทางโดย BTS ลงที่สถานีศาลาแดง และใช้ทางออก 5
– จุดจอดรถ Shuttle Bus อยู่ตรงหน้าพระบรมรูป ร.6 ตรงข้ามโรงแรมดุสิตธานี

สีลม-IMPACT รอบแรก 11.00 น. รอบสุดท้าย 20.30 น.
IMPACT-สีลม รอบแรก 12.00 น. รอบสุดท้าย 22.30 น.

Impact-Rangsit

4) เส้นทางรังสิต – อิมแพ็ค – รังสิต
– จุดจอดรถ Shuttle Bus อยู่บริเวณด้านหลัง Future Park Station (ติดกับศาลพระภูมิ)

รังสิต-IMPACT รอบแรก 11.00 น. รอบสุดท้าย 20.30 น.
IMPACT-รังสิต รอบแรก 12.00 น. รอบสุดท้าย 22.30 น.

*รถ Shuttle Bus ออกทุกๆ 30 นาที หรือรถออกเมื่อผู้โดยสารเต็มคัน เวลาเดินรถอาจเปลี่ยนแปลงตามสภาพจราจร

*หมายเหตุ : ผู้โดยสารทุกท่านต้องสวมหน้ากากอนามัยก่อนขึ้นรถ และตลอดการเดินทาง

MRT-Blue-Line

2. รถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT)

รถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) ลงสถานีสวนจตุจักร เดินทางต่อไปยังปลายทางด้วย :

1. Free Shuttle Bus บริเวณทางออก M4
2. รถประจำทางสาย 52 (ปากเกร็ด – บางซื่อ)
3. รถตู้ปรับอากาศสาย สวนจตุจักร – เมืองทองธานี
4. IMPACT Link Shuttle Bus (เสียค่าบริการ)

BTS-Skytrain

3. รถไฟฟ้าบีทีเอส (BTS)

รถไฟฟ้าบีทีเอส (BTS) ลงสถานีหมอชิต เดินทางต่อไปยังปลายทางด้วย :

1. Free Shuttle Bus บริเวณทางออก M4
2. รถประจำทางสาย 52 (ปากเกร็ด – บางซื่อ)
3. รถตู้ปรับอากาศสาย สวนจตุจักร – เมืองทองธานี

รถตู้-Impact-Link

4. รถตู้

ระหว่างการจัดแสดงงาน Motor Expo 2021 จะมีรถตู้สาธารณะ จากเมืองทองธานี มีรถให้บริการอยู่ 7 เส้นทาง ได้แก่ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ, สีลม, เพลินจิต, เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน, ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต, สนามหลวง และ จตุจักร

รถตู้-เมืองทองธานี-Price-Rate-2020

สำหรับรถตู้สาธารณะ เมืองทองธานี มีรถให้บริการอยู่ 7 เส้นทาง ได้แก่

  • เมืองทองธานี – อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ราคา 35 บาท (ประตู 1)
  • เมืองทองธานี – ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ราคา 35 บาท (ประตู 2)
  • เมืองทองธานี – เพลินจิต ราคา 65 บาท (ประตู 3)
  • เมืองทองธานี – สีลม ราคา 65 บาท (ประตู 3)
  • เมืองทองธานี – สนามหลวง ราคา 46 บาท (ประตู 4)
  • เมืองทองธานี – เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน ราคา 28 บาท (ประตู 5)
  • เมืองทองธานี – จตุจักร ราคา 36 บาท (ประตู 6)

BMTA-Bus

5. รถเมล์

รถเมล์ (Bus)

บริเวณแยกแจ้งวัฒนะ / วิภาวดี-รังสิต
– สาย 29, 59, 95, 95ก, ปอ. 29, 59, 504, 510, 538 (มุ่งสู่ทิศเหนือ)
– สาย 29, 52, ปอ. 29, 59, 504, 510 (มุ่งสู่ทิศใต้)
– สาย 95ข, 150 (มุ่งสู่ทิศตะวันออก)

บริเวณห้าแยกปากเกร็ด
– สาย 33, 90, 359, 367 (มุ่งสู่ทิศเหนือ)
– สาย 32, 33, 51, 90, 104 (มุ่งสู่ทิศใต้)

ถนนแจ้งวัฒนะ
– สาย 150, 356, ปอ.52, ปอ.150, 356
– สาย 166 (ทางด่วน เมืองทองธานี – ปากเกร็ด – อนุสาวรีย์ชัยฯ) เข้าถึงเมืองทองธานี

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

ไหนๆ จะไปดู ไปซื้อรถใหม่ที่งาน Motor Expo 2021 กันแล้ว ถ้าคุณอยากขายรถคันเดิม เอาเงินไปซื้อรถใหม่ มาขายรถคันเดิมกับ CARRO Express สิ! หรือจะ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

ถ้าใครที่กำลังมองหารถคันใหม่ (แต่งบไม่พอ) ในตอนนี้ CARRO Automall เราพร้อมเป็นทางเลือกให้คุณ รวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่งรถทุกคันของ CARRO Automall คุณไม่ต้องกังวลเลยในเรื่องของรถจมน้ำ รถน้ำท่วม หรือรถจมบาดาล เพราะเราไม่นำรถที่ถูกน้ำท่วมมาขายโดยเด็ดขาด และรถทุกคันยังผ่านการตรวจสภาพอย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 200 จุด อีกด้วย

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดในการดูรถเสมือนจริงผ่านระบบออนไลน์ เป็นรายแรกของธุรกิจรถมือสองในประเทศไทย คุณสามารถดูรูปรถทั้งภายนอก ภายใน กันได้แบบ 360 องศา รวมถึงยังสามารถฟังเสียงเครื่องยนต์จากรถคันที่คุณสนใจได้อีกด้วย!

เพราะเรามั่นใจในคุณของรถยนต์ทุกคัน เราจึงกล้ารับประกันคุณภาพรถนานถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร! อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

หากท่านใดที่อยากได้บัตรเข้างาน Motor Expo 2021 ฟรี! ง่ายๆ อ่านกติกากันได้ที่นี่ครับ —> https://th.carro.co/blog/motor-expo-free-ticket/

รวมข้อมูล กล้องจับความเร็วทั่วกรุง และบนทางด่วน Update ล่าสุด! ประจำปี 2564

การขับรถบนท้องถนนทุกวันนี้ บอกได้เลยว่าทุกถนน มีกล้องคอยแอบมองรถคุณอยู่ทุกที่ทุกเวลา ไม่ว่าจะกล้องติดรถยนต์ กล้องตามบ้านเรือน อาคารสถานที่ต่างๆ ทำให้การขับรถแบบตามใจฉัน ขับรถแบบเร่งรีบ เหยียบแบบไม่มีลิมิต ทำไม่ได้แบบในอดีตอีกต่อไป

ไม่เว้นแม้กระทั่งบนถนนสายหลัก หรือทางหลวง ที่ในอดีตคิดว่าถ้าไม่เจอหัวปิงปองแอบซ่อน หรือตั้งด่านรอแจกใบสั่งอยู่ริมทาง ก็สามารถขับซิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบัน มีกล้องตรวจจับความเร็วอยู่ตามจุดต่างๆ คุณอาจจะได้รับใบสั่งส่งถึงบ้าน มาสะสมกันหลายใบเลยทีเดียว!

MR.CARRO รวมข้อมูล กล้องจับความเร็วทั่วกรุง และบนทางด่วน Update ล่าสุด! ประจำปี 2564 มาให้ทุกท่านได้เช็คกันแล้ว ว่าขับรถไปตรงไหน ควรจะใช้ความเร็วไม่เกิน 90 กม./ชม. หรือ 120 กม./ชม. กันจ้า …

รวมข้อมูล กล้องจับความเร็วทั่วกรุง และบนทางด่วน

บนถนนในกรุงเทพฯ และปริมณฑล

1. สะพานภูมิพล (ตรวจจับรถจักรยานยนต์แอบขึ้น)
2. ถนนพหลโยธิน กม. 72-74 ขาเข้า กทม. (ห้ามเกิน 90)
3. ถนนพระราม 2 กม.10 โลตัสพระราม 2
4. ถนนพระราม 2 กม.46
5. แยกติวานนท์ – สะพานพระราม 5
6. ถนนวิภาวดีรังสิต

รวมข้อมูล กล้องจับความเร็วทั่วกรุง และบนทางด่วน

บนทางหลวง (ที่ติดตั้งกล้อง AI Camera ตรวจจับความเร็วได้ทุกเลน)

1. มอเตอร์เวย์ กม.29 ขาออก (ห้ามเกิน 120)
2. มอเตอร์เวย์ กม.51/54 ขาเข้า (ห้ามเกิน 120)
3. มอเตอร์เวย์ กม.58 ขาออก (ห้ามเกิน 120)
4. มอเตอร์เวย์ กม.62 ขาเข้า (ห้ามเกิน 120)
5. มอเตอร์เวย์ กม.112 เข้าออก (ห้ามเกิน 120)
6. บูรพาวิถีขาออก ก่อน กม. 32 ไม่กี่เมตร
7. ถนนมิตรภาพ กม.3 (ห้ามเกิน 90)
8. ถนนมิตรภาพ กม.18,24,25,27 ขาเข้า กทม. กล้องตู้
9. ถนนมิตรภาพ กม.97 ขาเข้า กทม.
10. ถนนมิตรภาพ กม.100 ขาเข้า กทม. กล้องตู้
11. ถนนมิตรภาพ กม.104 ขาออกไปโคราช
12. ถนนมิตรภาพ กม.113 ขาออกไปโคราช
13. ถนนกาญจนาภิเษก กม.60
14. สายเอเชีย กม.19+100
15. สายเอเชีย กม. 38 (ห้ามเกิน 90)
16. สายเอเชีย กม. 45 ขาออก (ห้ามเกิน 90)
17. สายเอเชีย กม 64
18. สายเอเชีย กม. 69.9 (ห้ามเกิน 90)
19. สายเอเชีย กม.121 (ห้ามเกิน 90)
20. สายเอเชีย กม.131 (ห้ามเกิน 90)
21. สายเอเชีย กม.308 (ห้ามเกิน 90)
22. สายเอเชีย ลำปาง-เชียงใหม่ กม.470-471
23. ถนนพหลโยธิน กม. 81 ขาเข้า กทม. (ห้ามเกิน 90)
24. ถนนเพชรเกษม ขาออก เขาย้อยสะพานลอย 2
25. ทางหลวงหมายเลข 9 กม.18 ป้ายคลองหลวง-หนองเสือ 2 ฝั่ง
26. ทางหลวงหมายเลข 9 กม.5 2 ฝั่ง
27. ทางหลวงหมายเลข 9 กม.37 เส้นทึบเปลี่ยนช่องจราจร
28. ถนนพหลโยธิน 103-104
29. ทางหลวงหมายเลข 21 กม.191 ห้วยสะแก เพชรบูรณ์
30. ทางหลวงหมายเลข 3 กม.282 ต.กองดิน แกลง ระยอง
31. ทางหลวงหมายเลข 36 กม.26
32. ทางหลวงหมายเลข 36 กม.18-20 ขาออก ชลบุรี
33. ถนนพระราม 2 กม.76 (ห้ามเกิน 90)

บนทางหลวง (ที่ติดตั้งกล้องตรวจจับความเร็วธรรมดา)

1. ทางหลวงหมายเลข 4 (สีชล 1) ขาเข้า
2. ทางหลวงหมายเลข 4 (สีชล 2) ขาเข้า
3. ทางหลวงหมายเลข 4 (กาญจนดิษฐ์) ขาเข้า
4. ทางหลวงหมายเลข 346 (กำแพงแสน – พนมทวน)
5. ทางหลวงหมายเลข 1 (คลองขลุง 2)
6. ทางหลวงหมายเลข 32 (หางน้ำสาคร)
7. ทางหลวงหมายเลข 36 (มะขามคู่)
8. ทางหลวงหมายเลข 4 (ประจวบคีรีขันธ์ 2)
9. ทางหลวงหมายเลข 35 (ยี่สาร)
10. ทางหลวงหมายเลข 36 (เขาไม้แก้ว 2)
11. ทางหลวงหมายเลข 304 (ท่าตูม)
12. ทางหลวงหมายเลข 2 (สีคิ้ว 2)
13. ทางหลวงหมายเลข 2 (สีคิ้ว 3)
14. สนามบินสุวรรณภูมิ 1
15. สนามบินสุวรรณภูมิ 2
16. ทางหลวงหมายเลข 3315 (บางตีนเป็ด)
17. ทางหลวงหมายเลข 4 (ชุมพร 3)
18. ทางหลวงหมายเลข 354 (เนินผาสุข)
19. ทางด่วนมอเตอร์เวย์ (พานทอง)
20. ทางหลวงหมายเลข 12 (หนองเรือ)
21. ทางหลวงหมายเลข 2 (ปากช่อง 4)
22. ทางหลวงหมายเลข 4 (ประจวบคีรีขันธ์ 3)
23. ทางหลวงหมายเลข 2 (อุดรธานี 2)
24. ทางหลวงหมายเลข 2 (อุดรธานี 3)
25. ทางหลวงหมายเลข 36 (ระยอง)
26. ทางหลวงหมายเลข 4 (เพชรบุรี)
27. ทางหลวงหมายเลข 4 (รัตภูมิ)
28. ทางหลวงหมายเลข 3 (จันทบุรี)
29. ทางหลวงหมายเลข 35 (สมุทรสงคราม)
30. ทางหลวงหมายเลข 340 (หน้าสำนักงานกรมป่าไม้ บ้านหนองแซง) ขาเข้า – ขาออก

รวมข้อมูล กล้องจับความเร็วทั่วกรุง และบนทางด่วน

ขณะที่บนถนนมอเตอร์เวย์ มีการติดตั้งป้าย Your Speed แสดงความเร็วรถของคุณกันถึง 9 จุดทุกเส้นทางของถนนมอเตอร์เวย์ โดยป้ายจะติดคร่อมถนน ขนาดของป้ายคือ 1.20 x 2.40 เมตร กับจอ LED แสดงความเร็วของรถในทุกช่อง โดยแบ่งความเร็วในแต่ละเลนไว้ที่ 80 – 120 กม./ชม. ตรวจวัดความเร็วด้วยระบบเรดาร์ของรถที่ขับผ่านในแต่ละช่อง

โดยจะตรวจวัดค่าความเร็วของรถก่อนถึงป้ายในระยะ 300 เมตร เมื่อถึงในระยะที่เรดาห์สามารถตรวจจับความเร็วได้ ความเร็วของรถคุณจะปรากฏที่จอ LED ทันที เพื่อเป็นการเตือนคุณก่อนจะเจอกล้องจริง

รวมข้อมูล กล้องจับความเร็วทั่วกรุง และบนทางด่วน

บนทางด่วน

ด้าน การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ได้ริเริ่มติดตั้งกล้องตรวจจับความเร็ว และกล้องตรวจจับรถยนต์วิ่งไหล่ทางซ้าย (ช่องทางฉุกเฉิน) รวมถึงการบังคับใช้กฎหมาย โดยมาตรการสำคัญที่จะขับเคลื่อนในช่วงปีงบประมาณ 2563-2565 ประกอบด้วย 2 มาตรการ เริ่มตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน 2564 คือ

1. การติดตั้งป้ายแจ้งเตือนความเร็ว (Your Speed Sign) ที่ทำงานควบคู่ไปกับกล้องตรวจจับความเร็ว เพื่อให้ผู้ใช้ทางพิเศษใช้ความเร็วตามกฎหมายกำหนด โดยจะติดตั้งให้ครอบคลุมทั่วทุกสายทางพิเศษรวมจำนวนทั้งสิ้น 17 จุด บนทางพิเศษ 4 สายทาง

ซึ่ง กทพ. ได้ดำเนินการติดตั้งแล้วเสร็จในเดือน ก.พ. 2564 จำนวน 2 เส้นทาง คือ ทางพิเศษบูรพาวิถี จำนวน 4 จุดเเละทางพิเศษเฉลิมมหานครจำนวน 5 จุด

สำหรับอีก 2 เส้นทางที่อยู่ในระหว่างการดำเนินการ ประกอบด้วย ทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี-สุขสวัสดิ์) จำนวน 4 จุด คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณเดือน ก.ย. 2564 เเละทางพิเศษฉลองรัช จำนวน 4 จุดคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณเดือน ก.ย. 2565

2. การติดตั้งกล้องตรวจจับรถยนต์วิ่งไหล่ทางซ้าย (ช่องทางฉุกเฉิน) เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุในไหล่ทาง โดย กทพ.จะดำเนินการติดตั้ง จำนวน 32 จุด บนทางพิเศษ 4 สายทาง ซึ่ง กทพ. ได้ดำเนินการแล้วเสร็จในเดือน ธ.ค. 2563 จำนวน1 เส้นทาง คือ ทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี-สุขสวัสดิ์) จำนวน 10 จุด

ส่วนอีก 3 เส้นทาง อยู่ในระหว่างการดำเนินการ คาดว่าจะแล้วเสร็จในปลายปี 2564 ประกอบด้วย ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 6 จุด ทางพิเศษฉลองรัช จำนวน 8 จุด และทางพิเศษบูรพาวิถี จำนวน 8 จุด

รวมข้อมูล กล้องจับความเร็วทั่วกรุง และบนทางด่วน

สำหรับตรวจกล้องจับความเร็ว ที่สามารถตรวจจับได้ทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ สามารถบันทึกได้ทั้งภาพนิ่งและภาพวิดีโอ และยังตรวจจับรถจักรยานยนต์ ขับในช่องทางด่วน รถจักรยานยนต์ย้อนศร รถจักรยานยนต์ขับบนฟุตบาท วิ่งปาดทับเส้นทืบ และรถใช้ความเร็ว และอาจปรับใช้กับการจัดการกับกลุ่มเด็กแว้นได้ด้วย

ซึ่งถ้าใครใช้ความเร็วเกินกำหนด ก็จะโดนข้อหาขับรถเร็วกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด (ตาม พรบ. จราจร มาตรา 67 วรรค 1, 152) หรือฝ่าฝืนป้ายจำกัดความเร็ว (พรบ. ทางหลวงฯ มาตรา 5 (2) และมาตรา 69)

ก่อนจะออกเป็นใบสั่งอิเล็กทรอนิกส์ส่งไปยังที่อยู่ของเจ้าของรถ ผู้ที่ได้รับใบสั่งจะต้องชำระภายใน 7 วัน หากไม่ชำระจะมีใบเตือน แต่ถ้าหากยังไม่ชำระอีกภายใน 30 วัน จะนำไปสู่การติดแบล็คลิสต์ ในการต่อทะเบียน ต่อประกันรถ การทำธุรกรรมกับรถในอนาคต

สำหรับการชำระค่าปรับจากใบสั่งอิเล็กทรอนิกส์ สามารถทำได้ 5 ช่องทาง คือ

  • สถานีตำรวจพื้นที่ถูกออกใบสั่ง
  • เคาน์เตอร์ธนาคารกรุงไทย
  • ตู้ ATM ของธนาคารกรุงไทย
  • App KrungThai NEXT
  • ชำระผ่านตู้บริการบุญเติม

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิมตอนนี้ หรือกำลังตัดสินใจจะซื้อรถป้ายแดงอยู่พอดี แต่งบไม่พอ! มาขายรถกับ CARRO Express สิ! Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

อีกหนึ่งบริการใหม่! CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check รับประกันพร้อมโอนทุกคัน ฟรี! ค่าจัดโอน มีให้เลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน อยากซื้อรถคุณภาพเยี่ยม มาซื้อกับ CARRO Automall สิ!

หรือสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall – รถบ้านมือสอง โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall

แหล่งที่มาบางส่วนจาก:

  • ข่าวชาวบ้าน – Thai TV Social
  • การทางพิเศษแห่งประเทศไทย

เพราะเหตุใด? รถญี่ปุ่น และรถ Toyota ถึงได้รับความนิยมอย่างมาก ในอัฟกานิสถาน

นับตั้งแต่ Blogger / Youtuber สายท่องเที่ยวชื่อดังอย่าง “มิ้นท์ I Roam Alone” เดินทางเพียงลำพังไปยังอัฟกานิสถาน ดินแดนที่ได้ชื่อว่าอยู่ในภาวะสงคราม และมีอันตรายมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เพื่อนำข้อมูลการเดินทางมาทำ Content ในช่วงที่ตาลีบันเริ่มประกาศชัยชนะ ต่อสู้กับรัฐบาลอัฟกานิสถาน เข้ายึดพื้นที่อีกครั้ง ภายหลังจากที่สหรัฐอเมริกาเริ่มตัดสินใจถอนทหารออก

ทำให้ความสนใจของคนไทย ในเรื่องราวเกี่ยวกับ “อัฟกานิสถาน” ถูกพูดถึงเป็นจำนวนมากอีกครั้ง ทั้งในด้านสงคราม ความเป็นอยู่ วิถีชีวิต วัฒนธรรมประเพณี หรือการค้าขาย เป็นต้น

MR.CARRO จึงขอนำเสนอเรื่องราวของรถยนต์ในอัฟกานิสถานกันในวันนี้ครับ ว่าทำไมรถญี่ปุ่น ถึงได้ครองใจชาวอัฟกัน และรถ Toyota จึงได้รับความนิยมมากที่สุดในอัฟกานิสถาน ไปอ่านกันเลยครับ …

เพราะเหตุใด? รถญี่ปุ่น และรถ Toyota ถึงได้รับความนิยมอย่างมาก ในอัฟกานิสถาน

โชว์รูมรถ Toyota ในกรุงคาบูล อัฟกานิสถาน

ราคาถูก ทนทาน และคุณภาพเชื่อถือได้ อาจเรียกได้ว่าเป็นวัฒนธรรมใหม่ของชาวอัฟกัน ที่ก่อนจะซื้อรถยนต์จะต้องคำนึงถึง 3 สิ่งนี้ และรถที่ได้รับความเชื่อถือสูงสุดในประเทศนี้ คงต้องยกให้กับ Toyota Corolla (โตโยต้า โคโรลล่า) ที่ไม่ว่าจะมองไปตรงไหนของเมือง ก็ต้องเจอกับรถรุ่นนี้เต็มไปหมด ทั้งในแบบรถเก่าจากยุโรป อเมริกาเหนือ พวงมาลัยซ้าย และรถเก่าจากญี่ปุ่น พวงมาลัยขวา โดยการนำเข้ารถยนต์ไปขายยังอัฟกานิสถาน ยังเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ เกิดการจับจ่ายอย่างมาก

ในประเทศที่แม้กระทั่งถนนลาดยาง ในส่วนที่ดีสุดของเมืองหลวงก็ยังเต็มไปด้วยหลุมบ่อ รถที่ผลิตในญี่ปุ่น จึงเป็นเป็นพาหนะที่ทุกคนเลือก ยกเว้นคนที่รวยมากๆ

“มี Toyota Corolla อยู่ที่นี่ ก่อนที่จะผลิตในญี่ปุ่นด้วยซ้ำ” Mohammad ชาวกรุงคาบูลในวัย 30 กว่าๆ ที่ทำงานในบริษัทต่างชาติพูดติดตลก

เพราะเหตุใด? รถญี่ปุ่น และรถ Toyota ถึงได้รับความนิยมอย่างมาก ในอัฟกานิสถาน

ภาพจาก The Guardian

Mirwais Nabizada วัย 38 ปี ซึ่งขายรถยนต์มือสองในกรุงคาบูลมาเป็นเวลา 20 ปี กล่าวว่ารถเหล่านี้ได้รับความนิยมเพราะไม่แพง เมื่อเทียบกับรถ (ที่ไม่ใช่แบรนด์รถญี่ปุ่น) และอะไหล่ก็หาง่าย

“หลายคนซื้อเพราะความทนทาน ราคาถูก และมีอะไหล่อยู่ทุกที่” เขากล่าว เขามีรถยนต์ 70 คันในโชว์รูมของเขา ทั้งหมดยกเว้นหกคันในจำนวนนั้นที่ไม่ใช่โคโรลล่า

รถยนต์ใช้แล้วประมาณ 90% ถูกซื้อในเยอรมนีและแคนาดา จากนั้นจึงส่งไปยังอัฟกานิสถาน ผ่านดูไบ และเส้นทางบกจากอิหร่าน

“คนส่วนใหญ่ไม่ต้องการซื้อรถใหม่ เพราะมันดึงดูดผู้ลักพาตัวและโจร” Nadir Shah ข้าราชการพลเรือน กล่าว

เพราะเหตุใด? รถญี่ปุ่น และรถ Toyota ถึงได้รับความนิยมอย่างมาก ในอัฟกานิสถาน

ภาพจาก Algulf

Toyota Corolla ที่ขายในอัฟกานิสถาน มักจะนิยมรถยนต์สีดำ, สีน้ำเงิน, สีเขียว, สีเหลือง หรือขาว ซึ่งที่นี่ รถสีขาวเป็นที่ชื่นชอบของผู้ซื้อ เพราะสภาพภูมิประเทศที่นี่ฝุ่นค่อนข้างเยอะ (รวมทั้งมลพิษที่เกิดจากการใช้รถเก่าในเมืองเป็นจำนวนมาก) เมื่อใช้รถสีขาวแล้ว ดูไม่ค่อยสกปรก” Nabizada กล่าว

ในการขับรถ 10 นาที ระหว่างใจกลางเมืองหลวงและย่านสถานทูต สำนักข่าว AFP ได้นับจำนวนรถ Toyota Corolla พบว่ามีมากถึง 194 คัน เมื่อเทียบกับรถยนต์ รถประจำทาง รถบรรทุก และยานพาหนะอื่นๆ ที่พบเห็นอีก 89 คัน

เจ้าของรถชาวอัฟกัน พวกเขารักรถและหวงแหนรถ มักนิยมติดสติ๊กเกอร์บนกระจกบังลมด้านหลัง ด้วยคำว่า “Beautiful Corolla”, “Super Saloon Corolla” และ “Corolla I Love You” เป็นต้น

เพราะเหตุใด? รถญี่ปุ่น และรถ Toyota ถึงได้รับความนิยมอย่างมาก ในอัฟกานิสถาน

ภาพจาก Polarsteps / Ilpost

สำหรับผู้เชี่ยวชาญรถรุ่นนี้ เมื่อเห็นรถก็สามารถทราบได้เลยว่า Toyota Corolla คันนั้น เป็นรถที่ถูกนำเข้ามามาจากอเมริกาเหนือ, ยุโรป ได้จากขนาดของกันชน หรือตำแหน่งของป้ายทะเบียนรถ (สำหรับ Toyota Corolla รุ่น “สามห่วง” พื้นที่ติดป้ายทะเบียนด้านหลัง จะอยู่บริเวณตำแหน่งของแผงทับทิมหลัง ต่างจากในเวอร์ชั่นตลาดโลก เป็นต้น)

และถึงแม้ชาวอัฟกันจะขับรถชิดขวา พวงมาลัยซ้าย แต่ก็มี Toyota Corolla ที่เป็นรถพวงมาลัยขวา (ซึ่งถูกออกแบบมาให้ขับชิดซ้าย แบบในไทย หรือญี่ปุ่น) อยู่มากมายตามท้องถนน

ส่วนรถแท็กซี่เกือบทั้งหมดเป็น Toyota Corolla Van และลูกค้าที่เรียกรถแท็กซี่มักไม่ได้รับการบอกยี่ห้อ แต่จะมองหา “สีเทา 2002” หรือ “สีน้ำตาล 2007”

นายพล Asadullah Khan หัวหน้าตำรวจจราจรกรุงคาบูล กล่าวว่า รถยนต์ Toyota Corolla คิดเป็น 80% ของรถยนต์ 700,000 คัน (ยอด ณ ปี 2013) ที่ขับผ่านถนนที่คับคั่งในกรุงคาบูล ซึ่งมีการจดทะเบียนรถใหม่ หรือรถใช้แล้ว 500 – 600 คัน ในแต่ละวัน

“โคโรลล่า ถือได้ว่าเป็นรถยอดนิยมของมหาชน อีกทั้งยังไม่กินน้ำมันอีกด้วย” เขากล่าว

เพราะเหตุใด? รถญี่ปุ่น และรถ Toyota ถึงได้รับความนิยมอย่างมาก ในอัฟกานิสถาน

ภาพจาก Alarabiya News

แต่ทว่า ความแพร่หลายของ Toyota Corolla กลับถูกใช้เป็นเครื่องมือของพวกกลุ่มตาลีบัน และกลุ่มผู้ไม่หวังดี ที่ใช้รถยนต์รุ่นนี้เป็นระเบิดเคลื่อนที่ (หรือคาร์บอมบ์) ซึ่งซุกซ่อนระเบิดไว้ในรถ และขับรถผ่านด่านตรวจโดยไม่มีใครสังเกต ซึ่งกลุ่มตาลีบันยังต่อสู้กับรัฐบาลที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ มาโดยตลอดนับตั้งแต่ปี 2001

ในส่วนของผู้ซื้อรถยนต์ที่มีกำลังซื้อ เวลานี้เริ่มระมัดระวังการใช้เงินเป็นอย่างมาก เมื่อกองกำลังรบของ NATO และของสหรัฐอเมริกา ต่างเริ่มถอนทัพออกจากอัฟกานิสถานในปี 2020 และถอนกำลังออกจนหมดในเดือนกันยายน 2021 เริ่มส่งผลกระทบทำให้ยอดขายรถลดลง เนื่องจากผู้คนไม่อยากใช้จ่ายเงินในการซื้อรถยนต์ เพราะรู้สึกไม่มั่นใจว่าอนาคตของชีวิตจะเป็นอย่างไร

แม้ว่าในตลาดรถยนต์ของอัฟกานิสถาน แทบทั้งหมดจะเป็นรถมือสองที่มาจากต่างประเทศ ซึ่งก็มีรถแบรนด์อื่นๆ ราคาถูกๆ นำเข้ามาให้เลือก แต่ด้วยค่านิยมของ Toyota Corolla และภาษีรถยนต์ที่จัดเก็บสูงในอัฟกานิสถาน ส่งผลให้ผู้ซื้อไม่สามารถต่อรองราคาได้ ขนาด Corolla เก่าๆ ที่มีรอยบุบ ยังมีราคาจำหน่าย 3,500 ดอลล่าร์สหรัฐฯ ในขณะที่ Corolla รถอายุ 1 ปี วิ่งไมล์น้อย มีราคาขายพุ่งสูงถึง 26,000 ดอลล่าร์สหรัฐฯ!

ในขณะที่ธนาคารโลก ระบุว่ารายได้เฉลี่ยต่อปีของชาวอัฟกันอยู่ที่ประมาณ 470 ดอลลาร์สหรัฐฯ … การที่ชาวอัฟกันจะเก็บเงินซื้อรถยนต์ Toyota Corolla ได้สักคันไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องใช้ความพยายามน่าดู!

เพราะเหตุใด? รถญี่ปุ่น และรถ Toyota ถึงได้รับความนิยมอย่างมาก ในอัฟกานิสถาน

ภาพจาก RT

ค่าธรรมเนียมศุลกากรสำหรับรถยนต์นำเข้าแต่ละคันอยู่ที่ประมาณ 5,000 ดอลล่าร์สหรัฐฯ บวกกับ 1,500 ดอลล่าร์สหรัฐฯ สำหรับการออกใบอนุญาต และภาษีอื่นๆ อีกมากมายที่ต้องชำระเพิ่มเติม Nabizada ซึ่งบอกว่าเขาขายรถได้เพียง 5 คัน/วัน ลดลงจาก 10 คัน/วัน เมื่อเทียบกับหลายปีก่อน

Shaker Bakhter หนึ่งในตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เพียงไม่กี่รายในกรุงคาบูล กล่าวว่า เขาสามารถขาย Toyota Corolla ได้อย่างน้อย 10,000 อัน นับตั้งแต่ทำอาชีพพ่อค้าขายรถมา

และทำไมชาวอัฟกัน จึงยอมจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อซื้อรถยนต์?

“ชาวต่างประเทศ ใช้เงินไปกับการเต้นรำ หรือเล่นโบว์ลิ่ง แต่ชาวอัฟกัน เราลงทุนในสิ่งที่มีประโยชน์” Bakhter กล่าว

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม มาขายรถคันเดิมกับ CARRO Express สิ! Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

แต่ถ้าหากช่วงนี้ใครอยากเปลี่ยนรถคันใหม่ มาใช้แทนที่รถคันเดิม CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น!

รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check มากกว่า 200 จุด และยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ให้คุณเลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา พร้อมรับประกันคุณภาพรถนานถึง 2 ปี หรือ 20,000 กิโลเมตร! อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! เรามีรถให้คุณเลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Thailand  โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

เนื้อหาข่าวจาก:

รวมข้อมูล สี่แยกไฟแดง ที่ติดกล้องจับรถฝ่าไฟแดง

เป็นทราบกันดีว่า ในปัจจุบัน กรุงเทพมหานคร มีความแออัดคับคั่งของรถยนต์บนท้องถนนอย่างมาก ซึ่งปัญหาส่วนหนึ่งมาจากการบริการจัดการปล่อยรถแต่ละแยกไม่ดี ปัญหาฝนตก น้ำท่วม หรือมีอุบัติเหตุ เป็นต้น รวมไปถึงปัญหาผังเมืองที่ตัดถนนไม่ได้เชื่อมต่อกันเป็นโครงข่ายใยแมงมุม ส่งผลให้แยกไฟแดงหลายจุด ต้องกักรถไว้จนติดนานกว่าปกติ และปล่อยไฟเขียวเป็นเพียงเวลาสั้นๆ ทำเอาทั้งคนขี่มอเตอร์ไซค์ รวมถึงคนขับรถ บางส่วนอาจทนรอไม่ไหว จนต้องขับขี่รถฝ่าไฟแดงกันอยู่เป้นประจำ

ด้วยเหตุนี้ ทางกองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) จึงได้นำระบบ Red Light Camera System หรือ RCLS ซึ่งเป็นระบบตรวจจับรถฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจรสีแดงแบบอัตโนมัติมาใช้งาน โดยก่อนถึงแยกที่มีการติดตั้งระบบดังกล่าว จะมีป้ายแจ้งเตือนในระยะ 100 เมตรและ 50 เมตร ก่อนถึงจุดตรวจจับ

รวมข้อมูล สี่แยกไฟแดง ที่ติดกล้องจับรถฝ่าไฟแดง

สำหรับกล้องจับรถฝ่าไฟแดง จะเป็นกล้อง 4K แบบ Overview หรือคมชัดมากถึง 12 ล้านพิกเซล และกล้องตรวจจับความละเอียด 2 ล้านพิกเซล พร้อมเพิ่มระบบอินฟาเรดติดที่กล้องด้วย สามารถบันทึกภาพผู้ฝ่าไฟแดงในรูปแบบภาพนิ่งและวีดิโอ สามารถเก็บข้อมูลไว้ได้ไม่น้อยกว่า 2 เดือน

และยังจับภาพรถที่กระทำความผิดได้ตลอด 24 ชั่วโมง ในทุกสภาพอากาศ แม้ในวันที่ฝนตกหนัก หรือผู้ที่แก้ไขป้ายทะเบียน ขูดขีด พ่นสี ก็ตรวจจับได้หมด แล้วประมวลผลว่าเข้าเงื่อนไขการกระทำผิดฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจรหรือไม่ โดยแสดงผลออกมา 4 ภาพ ได้แก่

  • ภาพก่อนกระทำผิด
  • ภาพระหว่างกระทำผิด
  • ภาพหลังกระทำผิด
  • ภาพที่เห็นป้ายทะเบียนชัดเจน

ซึ่งระบบการตรวจจับจะจับเฉพาะรถที่ฝ่าไฟแดงที่ “พ้นจากเส้นหยุดไปแล้วเต็มคัน” หากรถหยุดไม่ทันเลยจากเส้นหยุดออกไปเล็กน้อย หรืออยู่ในช่วงไฟเหลือง และจอดรถล้ำจุดจอดรถจักรยานยนต์ ระบบจะไม่ออกใบสั่งให้

รวมข้อมูล สี่แยกไฟแดง ที่ติดกล้องจับรถฝ่าไฟแดง

จากนั้นจะส่งภาพและข้อมูล มายังศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร (บก.02) เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของทะเบียนรถ แล้วค่อยออกใบสั่งไปยังระบบ PTM (Police Ticket Management) ของธนาคารกรุงไทย เพื่อออกใบสั่งแบบอัตโนมัติ มาทางไปรษณีย์ไปสวัสดียังผู้ครอบครองรถ หรือเจ้าของรถภายใน 7 วัน

สำหรับความผิดข้อหาฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร มีอัตราโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท ซึ่งในใบสั่งของสำนักงานตำรวจแห่งชาติระบุไว้ที่ 500 บาท สามารถชำระได้ที่สถานีตำรวจ หรือจ่ายค่าปรับผ่านทางแอปพลิเคชัน Krungthai NEXT ธนาคารกรุงไทย ได้ ไม่เสียค่าธรรมเนียม

หรือชำระผ่านเครื่อง ATM/ADM ธนาคารกรุงไทย ค่าธรรมเนียม 15 บาท/รายการ, ไปรษณีย์ไทย ค่าธรรมเนียม 15 บาท/รายการ จุดรับชำระเงิน ตู้บุญเติม CenPay และสาขาธนาคารกรุงไทย ค่าธรรมเนียม 20 บาท/รายการ โดยระบบจะบันทึกข้อมูลค่าปรับอัตโนมัติ ไม่ต้องส่งหลักฐานไปที่สถานีตำรวจอีก

นอกจากนี้ เจ้าของหรือผู้ครอบครองรถสามารถตรวจสอบความผิดย้อนหลังผ่านเว็บไซต์ URL หรือทางเว็บไซต์ บก.จร. www.Trafficpolice.go.th ด้วยรหัสผ่านที่ระบุท้ายใบสั่งได้ โดยสามารถบันทึกข้อมูลของผู้กระทำผิดเก็บไว้ได้ไม่น้อยกว่า 1 ปี

รวมข้อมูล สี่แยกไฟแดง ที่ติดกล้องจับรถฝ่าไฟแดง

จุดติดตั้งระบบตรวจจับรถฝ่าสัญญาณไฟจราจรแบบใหม่ มีทั้งหมด 30 จุด ทั่วกรุงเทพฯ ได้แก่

1. แยกซังฮี้
2. แยกพญาไท ขาเข้า
3. แยกพญาไท ขาออก
4. แยกอุรุพงษ์
5. แยกเหม่งจ๋าย
6. แยกอโศกเพชร
7. แยกประชานุกูล
8. แยกรัชดา-ลาดพร้าว
9. แยกร่มเกล้า
10. แยกโชคชัย 4 ขาเข้า
11. แยกโชคชัย 4 ขาออก
12. แยกนิด้า
13. แยกประเวศ
14. แยกโพธิ์แก้ว
15. แยกคลองตัน
16. แยกรัชดา-พระราม 4
17. แยกศุลกากร
18. แยกวิทยุ-เพลินจิต
19. แยกอโศก-สุขุมวิท
20. แยกอังรีดูนังต์
21. แยกตากสิน
22. แยกบ้านแขก
23. แยกหน้าห้างพาราไดซ์
24. แยกพาราไดซ์ ขาเข้า
25. แยกพาราไดซ์ ขาออก
26. แยกศรีนครินทร์-พัฒนาการ
27. แยกนรินทร ขาเข้า
28. แยกนรินทร ขาออก
29. แยกสาทร ขาเข้า
30. แยกสาทรขาออก

รวมข้อมูล สี่แยกไฟแดง ที่ติดกล้องจับรถฝ่าไฟแดง

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิมตอนนี้ หรือกำลังตัดสินใจจะซื้อรถป้ายแดงอยู่พอดี แต่งบไม่พอ! มาขายรถกับ CARRO Express สิ! Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

อีกหนึ่งบริการใหม่! CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check รับประกันพร้อมโอนทุกคัน ฟรี! ค่าจัดโอน มีให้เลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน อยากซื้อรถคุณภาพเยี่ยม มาซื้อกับ CARRO Automall สิ!

หรือสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall – รถบ้านมือสอง โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall

แหล่งที่มาบางส่วนจาก: