รวม 10 จุด "เคาท์ดาวน์ปีใหม่ 2020" ทั่วกรุงเทพฯ ที่คุณไม่ควรพลาด!

ช่วงนี้ก็ล่วงเข้าสู่ปลายเดือนธันวาคมกันแล้ว ก่อนถึงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2563 นี้ ถ้าคุณกำลังมองหาสถานที่เคาท์ดาวน์ รอนับถอยหลัง 5 4 3 2 1 กับครอบครัวหรือเพื่อนฝูงอยู่ Carro ขอเสนองาน “เคาท์ดาวน์ปีใหม่” (Countdown 2020) ที่มีศิลปินชื่อดังมาร่วมแสดงกันอย่างคับคั่ง พร้อมมองพลุหลากสีสันที่ยิงขึ้นฟ้าด้วยบรรยากาศสนุกสนาน

ส่วนใครที่จะขายรถเก่าเพื่อซื้อรถยนต์คันใหม่ ฉลองเทศกาลปีใหม่ 2563 นี้ ทาง Carro ก็มีความยินดีที่พร้อมรับซื้อรถของคุณ ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ Carro Express คลิกที่นี่ https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook Carro Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothai หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

คนกรุงเทพฯ ถ้าไม่สะดวกไปต่างจังหวัด หรือที่ไกลๆ ช่วงปีใหม่ 2563 ลองเปลี่ยนบรรยากาศมานับเคาท์ดาวน์ในกรุงเทพฯ ดู เพราะที่เที่ยวสำหรับเคาท์ดาวน์ในกรุงเทพฯ มีมากมายให้เลือก ตามไปดูกันเลย

Countdown-In-Bangkok-2020

1. ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ (Central World)

เริ่มต้นด้วยที่แรก กับสถานที่ “เคาท์ดาวน์ปีใหม่” สุดฮิตในตำนานอย่าง Central World ที่เป็นจุด Countdown ยอดฮิตมานาน กับงาน “AIS Bangkok Countdown 2020” ณ ลานด้านหน้าห้างศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ การันตีด้วยเวทีใหญ่ที่สุด 220 เมตร ย้ำความเป็น World of Best Entertainment Countdown จุดเคาท์ดาวน์ที่ดีที่สุด มันส์ที่สุด และแฮปปี้ที่สุดตลอดกาล

พร้อมด้วยตำแหน่งไทม์สแควร์แห่งเอเชีย และเป็นสถานที่เคาท์ดาวน์ติดอันดับโลก จาก CNN เพราะมีการจัดแสดงที่อลังการ โดยจัดแสดงพลุ ดอกไม้ไฟ ให้คุณสนุกไปกับเหล่าดารา ศิลปินชื่อดังมากมาย ที่มาร้องเพลงร่วมส่งท้ายปีเก่าไปกับคุณ

ส่วนถ้าใครไม่สะดวกที่จะมาร่วมงาน ในปีนี้ ทางเซ็นทรัล ยังได้จัดพร้อมกันอีก 11 สาขาทั่วประเทศ ที่เซ็นทรัลพลาซา และเซ็นทรัล เฟสติวัล และ เซ็นทรัล ภูเก็ต

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่: Central World

Countdown-In-Bangkok-2020

2. ASIATIQUE The Riverfront

ถ้าคุณกำลังหาสถานที่ “เคาท์ดาวน์ปีใหม่” ในกรุงเทพฯ บวกกับบรรยากาศสุดโรแมนติกริมแม่น้ำเจ้าพระยา “เอเชียทีค” เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวที่เหมาะมากเลยทีเดียว และปีนี้ ASIATIQUE Thailand Countdown 2020 มาในคอนเซปต์ “Boost Your Energy Up” ในวันที่ 31 ธันวาคม 2562 นี้ 17.00 น. เป็นต้นไป เตรียมชาร์ทความสนุก รับปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง ท่ามกลางบรรยากาศมันส์ๆ ตื่นตาไปกับเวที แสง สี เสียง สนุกสุดเหวี่ยงไปกับมหกรรมคอนเสิร์ต จากศิลปินแถวหน้าของเมืองไทย

และพลาดไม่ได้กับการการแสดงพลุจากทีม PYRO 2000 แชมป์โลกจากประเทศอังกฤษ ที่กวาดแชมป์มาแล้วทั่วโลก บินตรงเพื่อมาออกแบบโชว์พลุสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่เอเชียทีคโดยเฉพาะ โดยแบ่งเป็น 5 โชว์พลุประสารทพรให้กับทุกคน ได้แก่ รื่นรมย์ Pleasant, รุ่งเรือง Prosperity, สุขเกษมเปรมปรีย์ Happiness, โชคดีมีชัย Lucky และสดชื่นเบิกบานใจ Blissful and Blossom

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่: Asiatique

Countdown-In-Bangkok-2020

3. Iconsiam

สำหรับ Iconsiam แหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตริมแม่น้ำเจ้าพระยา ทั้งคนไทยและชาวต่างประเทศ ก็จัดงาน “เคาท์ดาวน์ปีใหม่” อย่างยิ่งใหญ่ โดยร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และพันธมิตรสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา สร้างมหาปรากฏการณ์ “Amazing Thailand Countdown 2020” เฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ สุดยิ่งใหญ่ตระการตา ภายใต้แนวคิด มหัศจรรย์พร 7 ประการ ในวันที่ 31 ธันวาคม 2562 ตั้งแต่ 17.00 น. ณ ริเวอร์พาร์ค ไอคอนสยาม

เพื่อตอกย้ำให้แม่น้ำเจ้าพระยาสายประวัติศาสตร์ เป็นจุดหมายปลายทางสำคัญแห่งการท่องเที่ยว และเป็นแลนด์มาร์คของการเฉลิมฉลองค่ำคืนส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ให้ที่มีชื่อเสียงไปในระดับโลก

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่: Iconsiam

Countdown-In-Bangkok-2020

4. Future Park & Zpell

สำหรับคนที่บ้านอยู่ชานเมือง เลยกรุงเทพฯ ไปนิดหน่อย แค่ปทุมธานี หากไม่อยากฝ่าเข้ามาเบียดเสียดฝูงชนย่านใจกลางเมือง ก็มาร่วม “เคาท์ดาวน์ปีใหม่” กันได้ที่ “Future Park & Zpell Countdown 2020” ระเบิดสีสันความสุข กับคอนเสิร์ตยิ่งใหญ่ข้ามปี!!

พบศิลปินเบอร์ Top ของเมืองไทย

19.00 น. YOUNGOHM
20.00 น. LAZYLOXY & OG-ANIC
21.00 น. 25 HOURS
22.00 น. MODERN DOG
23.20 น. COCKTAIL

พบกันวันสิ้นปี 31 ธันวาคม 2562 ตั้งแต่เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป ที่ Short Stay ลานจอดรถด้านหน้าศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่: Future Park & Zpell

Countdown-In-Bangkok-2020

5. Crystal Design Center (CDC)

สำหรับคนที่อยู่ในย่านเลียบทางด่วน เอกมัย-รามอินทรา สามารถมาชิคๆ ชิวๆ “เคาท์ดาวน์ปีใหม่” กันได้ที่ CDC Countdown 2020ฟรีคอนเสิร์ตเคาท์ดาวน์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี!!! ยกทัพศิลปิน Joeyboy, Paradox, Cocktail, Zeal และ นิวจิ๋ว

รับบัตรเข้างานฟรี! พร้อมเครื่องดื่ม และลุ้นรับ iPhone 11 คลิก https://bit.ly/35DjDUK

มาร่วมมันส์ไปด้วยกัน วันอังคารที่ 31 ธันวาคม นี้ 17.00 น. เป็นต้นไป ที่ Crystal Arena CDC เลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา ขอบอก งานนี้มีรถ Shuttle Bus รับ-ส่ง ฟรีด้วยนะ!

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่: Crystal Design Center

Countdown-In-Bangkok-2020

6. Mega Bangna

อันนี้แม้จะเลยเขตกรุงเทพฯ เข้าไปเขตจังหวัดสมุทรปราการนิดหน่อย แต่ก็ถือว่าอยู่ใกล้ๆ กรุงเทพฯ ละกัน ในการร่วมนับถอยหลังข้ามปี “เคาท์ดาวน์ปีใหม่” กับงาน “The Forestias by MQDC Presents Mega Countdown 2020” สนุกมันส์ข้ามปีกับคอนเสิร์ตยิ่งใหญ่เต็มรูปแบบจากศิลปินดัง ตอกย้ำแลนด์มาร์คงานเคาท์ดาวน์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด แห่งกรุงเทพตะวันออก

พบกับศิลปินดัง ได้แก่ นนท์-ธนนท์, วง Getsunova, วงโปเตโต้, วงสล็อต แมชชีน, Poly Cat, UR Boy TJ และ กอล์ฟ ฟักกลิ้ง ฮีโร่ ในวันอังคารที่ 31 ธันวาคมนี้ ตั้งแต่เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป ณ ศูนย์การค้าเมกาบางนา

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่: Mega Bangna

Countdown-In-Bangkok-2020

7. คิง เพาเวอร์ มหานคร

สำหรับใครที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศ ไป “เคาท์ดาวน์ปีใหม่” แบบสูงๆ แบบหรูๆ ดูบ้าง ก็เชิญไปได้ที่ “คิง เพาเวอร์ มหานคร” มาร่วมนับถอยหลังสู่ปีใหม่บนรูฟท็อปบาร์ที่สูงที่สุดในประเทศไทย พร้อมชมการแสดงพลุจากทั่วกรุงเทพฯ ในแบบ 360 องศา บนชั้น 78 ของคิง เพาเวอร์ มหานคร

และสนุกไปกับแชมเปญปาร์ตี้และการแสดงการเหล่าศิลปินชั้นนำ ตั้งแต่เวลา 21.00 – 01.30 น. พร้อมฟรีโฟลว์แชมเปญ และหอยนางรมแบบไม่จำกัด บัตรราคาเริ่มต้นที่ 25,000++ บาท/ท่าน

และสำหรับท่านที่ต้องการเก็บความประทับใจ กับพระอาติทย์ตกสุดท้ายของปี บนรูฟท็อปบาร์ที่สูงที่สุดในประเทศไทย ระหว่างเวลา 17.00-19.30 น. สามารถซื้อบัตรเข้าชมได้ในราคา 4,500++ บาท/ท่าน (สำหรับผู้ใหญ่) พร้อมรับแชมเปญ 1 แก้ว

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่: King Power Mahanakhon

Countdown-In-Bangkok-2020

8. Seacon Square

มหกรรมฟรีคอนเสิร์ต! เต็มรูปแบบ จากศิลปินดังที่จะทำให้คุณต้องกรี๊ดกันแบบสุดเสียง เต้นกันให้สุดแรง เติมเต็มความสุขสนุกสุดมันส์แบบไร้ขีดจำกัด กับงาน “SEACON Countdown Concert 2020” ต้อนรับ “เคาท์ดาวน์ปีใหม่” ตลอด 3 คืนเต็ม 29-31 ธ.ค. 2562 ลานหน้าซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ ตั้งแต่ 20.30 – 00.00 น.

อาทิตย์ที่ 29 ธ.ค. 2562 เปิดเวทีความมันส์กับวง “Cocktail” วงร็อกนักร้องเสียงเอกลักษณ์ และ “ปาล์มมี่” ศิลปินฮิปปี้สุดเซอร์ที่มีเสน่ห์เฉพาะตัวแบบไม่เหมือนใคร

จันทร์ที่ 30 ธ.ค. 2562 สนุกไปกับดนตรีแนวอัลเทอร์เนทีฟร็อก วงร็อกหัวใจวัยรุ่นผงาดง้ำค้ำวงการเพลง กับวง “Paradox” ตอกย้ำความมันส์อย่างต่อเนื่องกับ “Clash” ร็อกระดับตำนาน

อังคารที่ 31 ธ.ค. 2562 สนุกส่งท้ายในคืนข้ามปีไปกับวง “ETC” ที่ขนเพลงฮิตให้อินและฟินไปพร้อมกัน แล้วมาเคาท์ดาวน์รับศักราชใหม่ไปพร้อมกับวง “Mild” ที่มาในแนวดนตรีป็อป ผสมผสานกับฮิปฮอปอย่างลงตัว

ยินดีต้อนรับทุก “ธีมมันส์” ของการแต่งตัว โดดเด่นสะดุดตาผู้คน รับรางวัลเด็ดไปเลย!

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่: Seacon Square

https://www.brandbuffet.in.th/wp-content/uploads/2015/12/TheStreetRachada_Countdown.jpg

9. The Street Ratchada

ศูนย์การค้าเดอะสตรีท รัชดา เตรียมกิจกรรม “เคานท์ดาวน์ปีใหม่” กับงาน “The Street Countdown 2020” สุดอลังการและยิ่งใหญ่ที่สุดในย่านรัชดา และปาร์ตี้กับศิลปินสุดคูลล์ ที่มาสร้างความสนุกภายในงาน อาทิ ACTART, VARINZ, Z TRIP, KANOM, NONNY9, เต-นิว

พร้อมชมพลุฉลองการปีใหม่ ในวันที่ 31 ธ.ค. 2562 ตั้งแต่เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป ณ ลานด้านหน้า เดอะ สตรีท รัชดา

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่: The Street Ratchada

Countdown-In-Bangkok-2020

10. ตึกใบหยก 2

ส่วนใครที่อยาก “เคาท์ดาวน์ปีใหม่” แบบแข่งกันกินไปด้วย ก็ต้องไปที่ Baiyoke Marathon Rally Buffet Count Down Party 2020 บุฟเฟ่ต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบปี ทานได้ไม่จำกัด (แต่ไม่ฟรี ราคาเริ่มต้น 2,900 บาท ที่นั่งมีจำนวนจำกัด) เริ่มตั้งแต่เวลา 19.30 น. จนถึงเคาท์ดาวน์ ซึ่งใครเก็บ RC ครบ 10 RC ลุ้นชิงรางวัลรวมกว่า 200,000 บาท

ร่วมชมพลุ ชมวิวแบบ 360 องศา ระหว่างเก็บ RC แวะนวดผ่อนคลาย ความเหนื่อยล้า พร้อมชมวิวสุดชิลของกรุงเทพฯ Sky Relax ชั้น 69 และเคาท์ดาวน์แบบสูงที่สุด ดาดฟ้าพื้นหมุน ชั้น 84

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่: Baiyoke Sky Hotel

เอาล่ะ ใครที่สะดวกจะไปเคาท์ดาวน์ที่ไหน ก็เตรียมตัววางแผนกันได้ตั้งแต่เนิ่นๆ เลยนะครับผม …

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่ มาขายรถกับทาง Carro Express สิ! คลิกเลยที่ https://th.carro.co/sell-car/express รับรองได้เงินเร็ว ไว ทันใจแน่นอน!

Carro Automall ตลาดรถ

ส่วนใครสนใจจะซื้อรถมือสอง Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

9-Tourist-Attractions-Near-Bangkok-At-Winter

ขับรถเล่น รับลมหนาวกับ 9 ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ

1. ยอดเขาเทวดา อุทยานแห่งชาติพุเตย จังหวัดสุพรรณบุรี

ความเย็นยะเยือกรับลมหนาว ทะเลหมอกบนยอดเขาที่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,123 เมตร ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยว มีพื้นที่เกือบ 2 แสนไร่ เหมาะกับนักเดินทางขาลุย ที่ชื่นชอบธรรมชาติมีครบทั้งป่าไผ่ น้ำตก ไร่ข้าวโพด และข้าวไร่

เที่ยวหน้าหนาว-ยอดเขาเทวดา

2. วังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา

เจ้าของฉายา สวิตเซอร์แลนด์แดนอีสาน ซึ่งได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 7 แหล่งโอโซนบริสุทธิ์ของโลก ยังมีอากาศเย็นสบายตลอดปี มีทิวทัศน์สวยงามรายล้อม และที่เที่ยวน่าสนใจอีกมากมาย เที่ยวได้ทั้งครอบครัว

เที่ยวหน้าหนาว-วังน้ำเขียว

3. เขาพะเนินทุ่ง อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี

อีกหนึ่งแหล่งชมทะเลหมอกใกล้กรุงเทพฯ ที่นี่มีทะเลหมอกปกคลุมเหนือยอดเขาทั้งปี ทำให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสได้ในยามเช้า ซึ่งสามารถเลือกชมทะเลหมอกได้ 2 จุด คือ จุดชมวิวกิโลเมตรที่ 30 และ 36 บอกเลยว่าเย็นสบายเว่อร์

เที่ยวหน้าหนาว-เขาพะเนินทุ่ง

4. ทุ่งทานตะวัน เขาจีนแล จังหวัดลพบุรี

ช่วงอากาศหนาวจะมีนักเที่ยวแวะเวียนเพื่อมาชมดอกทานตะวันเป็นจำนวน เพราะที่นี่เป็นทุ่งทานตะวันที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และมีกิจกรรมต่าง ๆ ให้ได้ร่วมสนุกมากมาย เช่น ปั่นจักรยานชมทุ่งทานตะวัน นั่งรถไฟชมทุ่ง ขี่ม้า และถ่ายรูปกับดอกทานตะวันยักษ์ เป็นต้น

เที่ยวหน้าหนาว-ทุ่งทานตะวัน

5. ไร่องุ่น อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี

มีไร่องุ่นจำนวนมาก และมีผลิตภัณฑ์จากองุ่นที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นองุ่นสด ไวน์ น้ำองุ่น หรือแยมองุ่น ฉะนั้นหน้าหนาวนี้ไปเที่ยวเด็ดองุ่นจากต้นชิมกันสด ๆ ที่ไร่องุ่นมวกเหล็ก ใกล้ ๆ กรุงเทพฯ เดินทางไม่ไกล สามารถไปเช้ากลับเย็นได้แบบชิล ๆ เลยล่ะ

เที่ยวหน้าหนาว-ไร่องุ่น

6. อัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม

เมื่อเข้าฤดูหนาวก็เป็นช่วงบรรยากาศสุดแสนจะโรแมนติก โดยเฉพาะถ้าได้พักรีสอร์ทริมน้ำ อากาศเย็น ๆ มีลดพัดสบาย นอกจากนี้ยังได้สัมผัสกับบรรยากาศของตลาดน้ำ ล่องเรือไหว้พระ ชิมอาหาร และผลไม้อร่อย ๆ จากชาวสวนอัมพวา เหมาะจะเป็นสถานที่พักผ่อนในวันหยุดสั้น ๆ

เที่ยวหน้าหนาว-อัมพวา

7. เที่ยวเมืองเก่า จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

เที่ยวในช่วงฤดูหนาวจะได้บรรยากาศที่แสนจะเย็นสบายไม่ร้อน การเดินชมเมืองเก่าและวัดโบราณต่างๆ ทำให้เกิดความเพลิดเพลิน โดยเฉพาะวัดไชยวัฒนารามในยามเย็นจะสวยงามมาก ๆ จนหลายคนต้องตกตะลึงเลยล่ะค่ะ

เที่ยวหน้าหนาว-อยุธยา

8. เขื่อนขุนด่านปราการชล จังหวัดนครนายก

เป็นเมืองแห่งน้ำตก ที่ในหน้าหนาวจะได้สัมผัสกับสายน้ำอันเยือกเย็น การเดินทางนั้นถือว่าสะดวก และง่ายเพราะใกล้กับกรุงเทพฯ เหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมแอดเวนเจอร์ เพราะมีทั้ง ล่องแพ ล่องแก่ง ขับรถ ATV เป็นต้น

เที่ยวหน้าหนาว-เขากระโจม

9. เขากระโจม จังหวัดราชบุรี

อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวช่วงหน้าหนาว เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบเดินทางแบบสมบุกสมบัน เพราะเป็นเทือกเขาที่มีความสลับซับซ้อน แต่มีความสูงชันไม่มาก และเมื่อได้ไปถึงบนยอด จะได้พบกับวิวธรรมชาติที่เป็นทะเลหมอกตรงหน้า

เที่ยวหน้าหนาว-วังน้ำเขียว

ประกันภัยรถยนต์ตัวช่วยเพิ่มความปลอดภัย

ไม่ว่าจะเดินทางใกล้หรือไกล มือใหม่หัดขับ หรือขับรถมานานแล้ว สิ่งหนึ่งที่สร้างความอุ่นใจในขณะขับรถได้ตลอดทุกเส้นทาง นั้นคือ ประกันภัยรถยนต์ ซึ่งมีให้เลือกหลากหลายแตกต่างกันออกไป ราคาประกันชั้น 1 ก็จะมีความแตกต่างจากชั้น 2 , ชั้น 2+ , ชั้น 3 และชั้น 3+ ซึ่งก่อนการเลือกซื้อประกันรถยนต์อาจพิจารณาได้ดังนี้

  • ควรเลือกซื้อกับตัวแทนหรือบริษัทที่มีใบอนุญาตเพื่อความปลอดภัย
  • ควรมีเบี้ยราคาประกัน 1 , ชั้น 2 , ชั้น 2+ , ชั้น 3 และชั้น 3+ ให้ได้เปรียบเทียบ
  • การทำธุรกรรมทางการเงิน ควรมีหลากหลายช่องทางให้ได้ชำระ
  • เป็นระบบโบรกเกอร์ประกันภัยที่มีศูนย์รวมบริการประกันแบบครบครัน
  • มีข้อเสนอพิเศษก่อนจะตัดสินใจซื้อที่ไหนดีควรจะเช็คโปรโมชั่นเสียก่อน

สนใจทำประกันรถยนต์ชั้น 1 กับ rabbit finance คลิกเข้ามาตอนนี้คุณจะได้รับการเปรียบเทียบจาก 30 บริษัทชั้นนำ และลูกค้าใหม่ยังได้ส่วนลดสูงสุด 15% หรือหากมีข้อสงสัย เราก็มีเจ้าหน้าที่เฉพาะด้านที่คอยให้คำปรึกษาลูกค้าอย่างใกล้ชิด

King-Rama-10-Royal-Barge-Procession

การเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร โดยริ้วกระบวน “พยุหยาตราทางชลมารค” เป็นอีกพิธีในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกพุทธศักราช 2562 โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มีขึ้นในวันที่ 12 ธันวาคม 2562 ซึ่งจัดขึ้นตามโบราณราชประเพณี เพื่อให้พสกนิกรได้เฝ้าฯ ถวายพระพรชัยมงคล

พิธีการขบวน “พยุหยาตราทางชลมารค” จะใช้เรือจำนวน 52 ลำ โดยเรือพระที่นั่งใช้ 4 ลำใหญ่ เรือนำ คือ เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช เชิญพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ ซึ่งเป็นพระมงคลที่นำขบวนทุกครั้งในประเทศไทย ลำที่ 2 คือ เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ เป็นเรือที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ลำที่ 3 คือ เรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ เป็นของสมเด็จพระบรมวงศ์ และลำที่ 4 คือ เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ เป็นเรือพระที่นั่งสำรอง

จากนั้นเป็นเรือดั้ง เรือแซง เรือรูปสัตว์ และเรือมีชื่อต่างๆ ทั้งหมด 52 ลำ เรียกว่า ขบวนพยุหยาตราใหญ่

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดขบวนราบเพิ่ม กล่าวคือเดิมเมื่อขบวนเรือมาถึงท่าราชวรดิฐ จะเสด็จเข้าประทับที่พระที่นั่งราชกิจวินิจฉัย แล้วขึ้นรถยนต์พระที่นั่งเสด็จกลับพระที่นั่งอัมพรสถาน แต่ได้เปลี่ยนแปลงเพิ่มเติม โดยเมื่อเรือมาถึงท่าราชวรดิฐ จะเสด็จฯ ขึ้นที่พลับพลา ก่อนเสด็จฯ ไปยังพระที่นั่งราชกิจวินิจฉัย

จากนั้นจะมีขบวนราบ ซึ่งมีลักษณะคล้ายขบวน “พยุหยาตราทางสถลมารค” แต่มีขนาดย่อมกว่าโดยขบวนราบจะเริ่มจากท่าราชวรดิฐ มาตามถนนมหาราช ก่อนเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนพระลาน แล้วเลี้ยวขวาเข้าพระบรมมหาราชวังที่ประตูวิเศษไชยศรี แล้วเสด็จไปสู่พระที่นั่งอาภรณ์ภิโมกข์ เพื่อเปลี่ยนฉลองพระองค์ แล้วเสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งกลับพระที่นั่งอัมพรสถาน

ทาง CARRO รวบรวมวิธีการเดินทาง สำหรับทุกท่านที่อยากไปร่วมงานชมขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ด้วยระบบขนส่งมวลชนกันครับ ซึ่งหลายภาคส่วนร่วมอำนวยความสะดวก และไม่เก็บค่าบริการ

การเดินทางโดยรถเมล์

BMTA-Free-Shuttle-Bus-12-Dec-2019

เดินทางด้วยรถเมล์ เป็นวิธีเดินทางสำหรับที่ไม่รีบร้อนและมีเวลา จัดเดินรถโดยสารให้บริการฟรี จำนวน 19 เส้นทาง ในวันที่ 12 ธันวาคม 2562 ตั้งแต่เวลา 9.00 – 22.00 น. หรือจนกว่าจะส่งประชาชนออกจากพื้นที่หมด แบ่งเป็น

1. จัดรถโดยสารปรับอากาศชานต่ำ ใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) และรถโดยสารปรับอากาศยูโรทู วิ่งในเส้นทางเดินรถเฉพาะกิจ (จอดรับ – ส่งทุกป้าย) จำนวน 6 เส้นทาง โดยมีรายละเอียดดังนี้

  • เส้นทางที่ 1 อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ – สนามหลวง จอดรับ – ส่ง บริเวณหน้าร้านอาหารสกายไฮ
  • เส้นทางที่ 2 สถานีขนส่งกรุงเทพ (จตุจักร) – สนามหลวง จอดรับ – ส่ง บริเวณใต้สะพานพระราม 8 (ฝั่งพระนคร)
  • เส้นทางที่ 3 วงเวียนใหญ่ – สนามหลวง จอดรับ – ส่ง บริเวณสถานีรถไฟธนบุรี และบริเวณหน้าวัดกัลยาณมิตร
  • เส้นทางที่ 4 สนามศุภชลาศัย – สนามหลวง จอดรับ – ส่ง บริเวณ ม.เทคโนโลยีราชมงคลพระนคร วิทยาเขตเทเวศร์
  • เส้นทางที่ 5 สถานีขนส่งกรุงเทพ (สายใต้ใหม่) – สนามหลวง จอดรับ – ส่ง บริเวณใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า (ฝั่งธนบุรี)
  • เส้นทางที่ 6 สถานีรถไฟหัวลำโพง – สนามหลวง จอดรับ – ส่ง บริเวณใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า (ฝั่งพระนคร)

2. จัดรถโดยสารปรับอากาศชานต่ำ ใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) และรถโดยสารปรับอากาศยูโรทู
วิ่งในเส้นทางเดินรถ Shuttle Bus (รับจากจุดจอด – จุดส่ง) จำนวน 11 เส้นทาง โดยมีรายละเอียด ดังนี้

  • เส้นทางที่ 1 เมืองทองธานี, ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ – สนามหลวง จอดรับ – ส่ง บริเวณใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า (ฝั่งพระนคร)
  • เส้นทางที่ 2 สโมสรตำรวจ, ม.เกษตรศาสตร์ – สนามหลวง จอดรับ – ส่ง บริเวณใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า (ฝั่งพระนคร)
  • เส้นทางที่ 3 สโมสรทหารบก, กทม.2 – สนามหลวง จอดรับ – ส่ง บริเวณ ม.เทคโนโลยีราชมงคลพระนคร วิทยาเขตเทเวศร์
  • เส้นทางที่ 4 ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต – สนามหลวง จอดรับ – ส่ง บริเวณ ม.เทคโนโลยีราชมงคลพระนคร วิทยาเขตเทเวศร์
  • เส้นทางที่ 5 ที่จอดรถ MRT สำนักงานใหญ่, MRT ลาดพร้าว, ศาลอาญา, จอดรับ – ส่ง บริเวณ ม.เทคโนโลยี สำนักงานอัยการสูงสุด, SCB สำนักงานใหญ่ – สนามหลวง ราชมงคลพระนคร วิทยาเขตเทเวศร์
  • เส้นทางที่ 6 อีเกีย, เมกาบางนา, ไบเทคบางนา – สนามหลวง จอดรับ – ส่ง บริเวณ ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์
  • เส้นทางที่ 7 ท่าเรือคลองเตย, โรงงานยาสูบ, จอดรับ – ส่ง บริเวณ ม.ธรรมศาสตร์ แอร์พอร์ต เรลลิ้งก์ มักกะสัน – สนามหลวง ท่าพระจันทร์
  • เส้นทางที่ 8 สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า จอดรับ – ส่ง บริเวณ เจ้าคุณทหารลาดกระบัง – สนามหลวง หน้าร้านอาหารสกายไฮ
  • เส้นทางที่ 9 เซ็นทรัลพระราม 2, โรงเรียนบางมดวิทยา – สนามหลวง จอดรับ – ส่ง บริเวณท่าเตียน
  • เส้นทางที่ 10 พุทธมณฑลสาย 4, เซ็นทรัลศาลายา, อู่บรมราชชนนี, จอดรับ – ส่ง บริเวณใต้สะพาน วิทยาลัยทองสุข – สนามหลวง พระราม 8 (ฝั่งธนบุรี)
  • เส้นทางที่ 11 เซ็นทรัลเวสเกต – สนามหลวง จอดรับ – ส่ง บริเวณใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า (ฝั่งธนบุรี)

BMTA-Free-Shuttle-Bus-12-Dec-2019

3. จัดรถโดยสารธรรมดา วิ่งในเส้นทางเดินรถ Shuttle Bus แทนเรือข้ามฟาก (รับจากจุดจอด – จุดส่ง) จำนวน 2 เส้นทาง โดยมีรายละเอียด ดังนี้

  • เส้นทางที่ 1 สะพานกรุงธน (หน้าโรงเรียนเขมะสิริอนุสรณ์) – สนามหลวง จอดรับ – ส่ง บริเวณใต้สะพานพระพุทธยอดฟ้า (ฝั่งพระนคร)
  • เส้นทางที่ 2 สะพานกรุงธน (หน้าสถานีดับเพลิงสามเสน) – สนามหลวง จอดรับ – ส่ง บริเวณใต้สะพานพระพุทธยอดฟ้า (ฝั่งพระนคร)

การเดินทางโดยรถไฟฟ้า BTS / รถโดยสารด่วนพิเศษ BRT

https://btsapp1.bts.co.th/WebApplication/storage_file/files/%E0%B9%91%E0%B9%92%20%E0%B8%98%E0%B8%84%20Banner%20web-06.jpg

รถไฟฟ้า BTS อำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่จะเข้าเฝ้าฯ รับเสด็จ และเข้าชมพระราชพิธีในการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ในวันที่ 12 ธันวาคม 2562

โดยประชาชน สามารถเดินทางรถไฟฟ้า BTS ฟรีตลอดเส้นทาง ในวันพฤหัสบดีที่ 12 ธันวาคม 2562 ตั้งแต่เวลา 06.00 – 24.00 น. สายสุขุมวิท ตั้งแต่สถานีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ถึงสถานีเคหะฯ และสายสีลม ตั้งแต่สถานีสนามกีฬาแห่งชาติ ถึงสถานีบางหว้า และรถโดยสารด่วนพิเศษ BRT

โดยผู้โดยสารรถไฟฟ้า BTS และรถโดยสารด่วนพิเศษ BRT สามารถกดรับบัตรโดยสารฟรีได้ทุกสถานี หรือรับบัตรฟรีที่ห้องจำหน่ายตั๋ว สำหรับผู้ใช้บัตรแรบบิทแบบเติมเงิน ระบบจะไม่ตัดเงินในวันดังกล่าว

ส่วนผู้โดยสารที่ใช้บัตรแรบบิทประเภทเติมจำนวนเที่ยว ต้องกดรับบัตรโดยสารเที่ยวเดียวจากตู้จำหน่ายบัตร หรือรับบัตรฟรีที่ห้องจำหน่ายตั๋วทุกสถานี

การเดินทางโดยรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT

https://admin.bemplc.co.th/Upload/FreeRide01_45343633_1575633046..jpg

รถไฟฟ้า MRT ให้บริการรถไฟฟ้า MRT สายเฉลิมรัชมงคล (สายสีน้ำเงิน) และรถไฟฟ้า MRT สายฉลองรัชธรรม (สายสีม่วง) ยกเว้นค่าโดยสารรถไฟฟ้าในวันพฤหัสบดีที่ 12 ธันวาคม 2562 ตลอดระยะเวลาการเปิดให้บริการ

นอกจากนี้ รฟม. ได้จัดให้บริการที่จอดรถฟรีทุกอาคารและลานจอดรถ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนที่จะเดินทางเข้าร่วมงานในวันดังกล่าว ได้แก่ MRT สายสีน้ำเงิน อาคารจอดแล้วจร จำนวน 4 แห่ง บริเวณสถานีลาดพร้าว, สถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย, สถานีหลักสอง และลานจอดแล้วจร จำนวน 9 แห่ง บริเวณสถานีรัชดาภิเษก, สถานีห้วยขวาง, สถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย, สถานีพระราม 9, สถานีเพชรบุรี, สถานีศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์, และสถานีสามย่าน

รถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง จำนวน 4 แห่ง บริเวณสถานีคลองบางไผ่, สถานีสามแยกบางใหญ่, สถานีบางรักน้อยท่าอิฐ และสถานีแยกนนทบุรี 1

การเดินทางโดยรถไฟฟ้า ARL (แอร์พอร์ต เรล ลิงค์)

Airport-Rail-Link-Free-12-Dec-2019

รถไฟฟ้า Airport Rail Link อำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชนที่จะเข้าร่วมงานพระราชพิธี เปิดให้โดยสารฟรีในวันที่ 12 ธันวาคม 2562 ตั้งแต่เวลา 05.30 – 24.00 น. โดยประชาชนสามารถขอรับคูปองเดินทางฟรีได้ที่เจ้าหน้าที่ประจำสถานีบริเวณห้องจำหน่ายตั๋วทุกสถานี

การโดยสารด้วยเรือโดยสารสาธารณะ

Chaophraya-Boat-Free-12-Dec-2019

กรมเจ้าท่า ร่วมกับบริษัทเอกชนต่างๆ จัดเรือบริการฟรี วันที่ 12 ธันวาคม 2562

1. บริษัทเรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด และบริษัท วรรณงามนาวา จำกัด จัดเรือบริการฟรี

  • ด้านเหนือ ให้บริการเรือ ตั้งแต่ ท่าเรือนนทบุรี – ท่าเรือซังฮี้ เวลา 12.00 น. – 18.00 น. ในทุกๆ 1 ชั่วโมง
  • ด้านใต้ ให้บริการเรือ ตั้งแต่ ท่าเรือสาทร – ท่าเรือสะพานพุทธฯ เวลา 7.00 น. – 18.00 น. ในทุกๆ 1 ชั่วโมง

SanSaab-Boat-Free-12-Dec-2019

2. บริษัท ครอบครัวขนส่ง 2002 จำกัด จัดบริการเรือฟรี

ให้บริการเรือ ตั้งแต่ ท่าเรือประตูน้ำ – ท่าเรือผ่านฟ้าลีลาศ เวลา 7.00 น. – 20.00 น. ให้บริการทุกๆ 10 นาที

การเดินทางโดยรถไฟ รฟท.

SRT-Train-Free-12-Dec-2019

รฟท. จัดเดินขบวนรถไฟพิเศษ ในโอกาสเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ในวันที่ 12 ธันวาคม 2562 เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสาร ใน 4 เส้นทางหลัก คือ อยุธยา นครปฐม ฉะเชิงเทรา และมหาชัย โดยไม่เสียค่าโดยสาร (บริการฟรี) ประกอบด้วย
  • เส้นทางที่ 1 อยุธยา – กรุงเทพ ขบวนที่ 320 (09.30-11.00 น.) กรุงเทพ – อยุธยา ขบวนที่ 321 (20.15-21.50 น.)
  • เส้นทางที่ 2 นครปฐม – ธนบุรี ขบวนที่ 322 (09.55-10.50 น.) ธนบุรี – นครปฐม ขบวนที่ 333 (20.00-21.00 น.)
  • เส้นทางที่ 3 ฉะเชิงเทรา – กรุงเทพ ขบวนที่ 326 (09.20 – 10.45 น.) กรุงเทพ – ฉะเชิงเทรา ขบวนที่ 325 (20.05 – 21.25 น.)
  • เส้นทางที่ 4 มหาชัย – วงเวียนใหญ่ ขบวนที่ 4322 (09.35 – 10.30 น.) วงเวียนใหญ่ – มหาชัย ขบวนที่ 4347 (20.10 – 21.00 น.)

ผู้โดยสาร สามารถขอรับตั๋วโดยสารขบวนรถดังกล่าวฟรี ที่สถานีต้นทาง และสถานีที่ขบวนรถผ่าน โดยแสดงบัตรประชาชนต่อเจ้าหน้าที่เพื่อทำการออกตั๋วโดยสาร หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน Call Center 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง

ขอขอบคุณเนื้อข่าวจาก สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ และ phralan.in.th/

Carro-Frank-Tourist-Attraction-In-Thailand-Like-Overseas

สวัสดีครับ บรรยากาศเทศกาลและวันหยุดเริ่มใกล้เข้ามา ตอนนี้หลายคนก็คงจะเริ่มวางแผนท่องเที่ยวกันแล้ว วันนี้เลยจะขอแนะนำที่เที่ยวใกล้กรุงเทพที่เราขับรถไปเที่ยวได้แบบสบายๆ ขับไปไม่นาน แต่รับรองว่าน่าตื่นตา และน่าสนใจเหมือนหลุดไปเมืองนอกเลยครับ

1. Strawberry Town ระยอง

ใครอยากไปสัมผัสบรรยากาศเมืองกังหัน “ประเทศเนเธอร์แลนด์” พร้อมชมดอกไม้งามๆ ขอเชิญที่ Strawberry Town จ.ระยอง เลยครับ ไปไม่ยากครับ เพรราะ อยู่ที่เดี่ยวกับ Brookside Valley Resort แถว อ.เมืองระยองเลย โดยใน Strawberry Town มีกิจกรรมมากมายให้เลือกทำ จะเที่ยวแบบผจญภัย เที่ยวธรรมชาติ หรือจะมาแชะภาพสวยๆ กับน้องแกะก็สามารถทำได้ครับ

นอกจากจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตแล้ว ที่ Strawberry Town ยังได้รับความนิยมจากคู่แต่งงานมาถ่ายพรีเวดดิ้งกันด้วยนะครับ โดยใครจะไป ที่นี่เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 6 โมงเช้าถึง 6 โมงเย็น ค่าเข้าชมคนละ 60 บาท ที่เราสามารถนำไปแลกเป็นอาหารสัตว์หรือส่วนลดค่าอาหารเมื่อทานครบ 300 บาท ได้ครับ

2. Mimosa พัทยา

ใครที่ต้องการบรรยากาศโรแมนติก ไม่ควรพลาดที่นี่เลยครับ Mimosa พัทยาอยู่ตรงข้ามกับโรงแรมแอมบาสเดอร์จอมเทียน ใครอยากไปชมวิวสวยๆ ในเมืองโรแมนติกสีสันสดใสเหมือนอยู่ที่ฝรั่งเศส ถ่ายรูปมุมไหนก็สวย เหมาะมากสำหรับสายโซเชียล มาถ่ายรูปที่นี่การันตีว่ายอดไลค์ยอดแชร์ตรึม

มีร้านค้า ของที่ระลึก และร้านอาหารมากมายให้บริการ ยิ่งตอนกลางคืน ขอบอกว่าตอนกลางคืนแสง สี เสียง สาวๆ ครบครันนะครับ ที่นี่เปิดบริการทุกวันด้วยนะครับตั้งแต่ 10 โมงเช้าถึง 4 ทุ่มค่าเข้าชมผู้ใหญ่คนละ 150 บาท เด็กคนละ 75 บาทครับ

3. Canopy Walkway เชียงใหม่

เปลี่ยนบรรยากาศ มาชื่นชมธรรมชาติบนยอดไม้กันบ้าง Canopy Walkway อยู่ที่สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ อ.แม่ริม เชียงใหม่ครับ อันนี้อาจจะไกลซักหน่อย แต่คุ้มค่าการเดินทางแน่ๆ ครับ

โดย Canopy Walkway เป็นเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติที่ยาวเกือบ 400 เมตรที่ความสูงกว่า 800 เมตรจากระดับน้ำทะเล จุดเด่นคือวิวจากมุมสูงของป่าเบญจพรรณแบบ 360 องศา แถมมีมุมพื้นกระจกให้ชมวิวอีกด้วย วิวสวย อากาศดีแบบนี้ ไม่ไปไม่ได้แล้ว โดยที่นี่ เปิดให้บริการตั้งแต่ 8 โมงครึ่งถึง 4 โมงครึ่งเย็นของทุกวัน

ค่าเข้าชมผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท รถยนต์คันละ 100 บาท มีรถรางให้บริการกันเมื่อยด้วยนะครับ

จะเที่ยวไกลใกล้ ก็อย่าลืมต่อประกันรถยนต์ด้วยนะครับ จะได้มีความคุ้มครองไว้ดูแลตลอดการเดินทาง หรือจะซื้อประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลไว้เพิ่มเติมความคุ้มครองระหว่างเที่ยวไทยก็ได้นะ

ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก Frank.co.th ประกันที่รวดเร็ว เรียบง่าย และจริงใจกับคุณ

Travel-Loy-Krathong-Festival

เวลาผ่านไปไวจริงๆ เผลอแป๊บเดียว “เทศกาลลอยกระทง” ของไทย ก็กลับมากันอีกครั้งแล้ว! ซึ่งหลายคนในวันนี้ ช่วงค่ำๆ ก็จะพาครอบครัว หรือพาแฟน ออกไปลอยกระทงกันในยามค่ำคืนกัน …

แต่ที่แน่ๆ ล่ะ ปัญหารถติด ก็เป็นสิ่งที่หลักเลี่ยงไม่ได้แน่ ในคืนที่คนออกมางานกันเยอะๆ แบบนี้ อีกทั้งอันตรายรอบด้านในคืนนี้ ทั้งเด็กแว๊น เด็กสก๊อย พลุ ประทัด โจรผู้ร้าย เป็นต้น (แน่นอน วันนี้แบบนี้ ก็เห็นมีเรื่องกันแทบทุกปี) …

แต่จะมีวิธีเที่ยวให้สุขใจในคืนนี้ ต้องทำอย่างไร MR.CARRO จะมาเล่าให้ฟัง

Maintenance-Car

1. ระวัง! สภาพรถก่อนออกเดินทาง

อันนี้ถือว่าสำคัญเลยล่ะ ถ้าสภาพรถไม่พร้อม แทนที่จะได้เดินทาง กลับต้องเสียเวลารอช่างซ่อม หรือรอรถยก มายกรถไปที่อู่ซ่อมรถแทน …

อย่าลืมดูส่วนประกอบต่างๆ ของรถยนต์ เช่น เครื่องยนต์ เกียร์ ช่วงล่าง เบรก แบตเตอรี่ น้ำมันเครื่อง ชุดสายพานต่างๆ หรือของเหลวต่างๆ โดยเบื้องต้นก่อนออกเดินทาง เพราะถ้าคุณอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน เวลาเดินทางจะได้ไม่ลำบากใจ

โคมลอย

2. ระวัง! พลุ ดอกไม้ไฟ และโคมลอย

ถึงเทศกาลลอยกระทงทุกปีทีไร มักจะต้องมีข่าวเกี่ยวกับฟืนไฟทุกที ไม่ว่าจะเป็นพลุ ประทัด ดอกไม้ไฟ หรือโคมลอย ถ้าคุณพอทราบล่วงหน้าว่าจุดไหนที่มีการละเล่นแบบนี้เยอะๆ ควรเลี่ยงได้เลยยิ่งดี เพราะสิ่งของเหล่านี้ตกไปโดนรถของคุณ ทั้งดินปีนทั้งเชื้อไฟ นี่ถือว่าเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีเลย ที่อาจทำให้รถยนต์ไฟไหม้ได้

เอาเป็นว่าก่อนจะออกไปลอยกระทงที่ไหน ควรหาที่จอดรถยนต์ในร่ม หรือในตึกอาคารได้ ก็ดีเลยครับ อย่างน้อยๆ รถคุณก็ปลอดภัยห่างไกลจากสิ่งเหล่านี้หน่อย

3. ระวัง! ขโมย

เพราะ “ขโมย” และ “โจรผู้ร้าย” ก็จัดว่ามีความขยันอยู่พอตัว เพราะออกปฏิบัติการทุกวันไม่มีวันหยุด และในสถานที่มืดๆ เปลี่ยวๆ ไม่มีผู้คน โจรที่ชอบทำงานแนวนี้มาก เพราะมีสมาธิในการทำงาน และในที่คนเดินเบียดเสียดกันมากๆ เช่น ย่านที่จัดงานลอยกระทง บรรดาโจรขโมยก็ชอบ เพราะมันล้วงกระเป๋า กรีดกระเป๋าได้ง่ายดี

ทางที่ดีคือ ไม่ควรจอดรถในซอยเปลี่ยวๆ หรือที่มืดๆ เปลี่ยวๆ และไม่ควรนำของมีค่าไว้ในรถ เพราะอาจจะโดนทุบกระจกรถ โจรกรรมสิ่งของได้ ทางที่ดีควรซ่อนไว้ในฝากระโปรงท้ายรถ หรืออย่านำพกติดไว้ในรถเลยดีกว่า

Car-Accident

4. ระวัง! เมาไม่ขับ!

เชื่อเถอะ เทศกาลลอยกระทงแบบนี้ พี่ไทยก็ยังขอเมาได้ด้วย หลายคนเลือกที่จะไปเที่ยวผับ บาร์ ร้านอาหารต่างๆ ที่มีจัดงานเทศกาลลอยกระทง สนุกสนานกับการทานอาหาร กินดื่มจนเพลิน

แต่ถ้าคุณรู้ตัวว่าเมาแล้ว ก็ไม่ควรขับรถกลับบ้าน ควรจะหาเพื่อนที่ไม่ได้กินเหล้า เบียร์ เป็นคนขับรถแทน หรือขึ้นรถแท็กซี่กลับบ้าน เพราะถ้าเมาแล้วขับและไปเกิดอุบัติเหตุเข้า คุณจะได้ย้ายบ้านไปอยู่คุกแทน เพราะโดนหลายข้อหาเลยทีเดียว

ลอยกระทง-30-สวนสาธารณะ-2563

ภาพจาก สำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร

ส่วนวันนี้ ใครที่อยู่ในกรุงเทพฯ ถ้าอยากจะไปลอยกระทงกันในค่ำคืนนี้ ก็สามารถไปร่วมงานกันได้ 30 สวนสาธารณะ เช่น สวนลุมพินี, สวนจตุจักร, สวนวชิรเบญจทัศ, สวนสราญรมย์, สวนรมณีนาถ, สวนสันติชัยปราการ, สวนเสรีไทย, สวนนวมินทร์ภิรมย์, สวนสันติภาพ, สวนกีฬารามอินทรา, สวนรมณีย์ทุ่งสีกัน, สวนวนธรรม, สวน 50 พรรษา มหาจักรีสิรินธร, อุทยานเบญจสิริ, สวนพระนคร

สวน 60 พรรษา สมเด็จพระบรมราชินีนาถ, สวนหนองจอก, สวนราษฎร์ภิรมย์, สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ พระชนมพรรษา (ฝั่งพระนคร), สวนธนบุรีรมย์, สวนทวีวนารมย์, สวนหลวงพระราม 8, สวนสิริธราพฤกษาพรรณ, สวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (บางกอกน้อย), สวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (สาทร), สวนสาธารณะบึงน้ำลาดพร้าว 71, สวนวารีภิรมย์, สวนบึงกระเทียม, สวนพระยาภิรมย์ และสวนบางแคภิรมย์

หรือตามมหาวิทยาลัยต่างๆ ก็ได้เช่นกัน อาทิ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หรือมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน เป็นต้น

ลอยกระทง-2563

ภาพจาก สำนักงานสวนสาธารณะ สำนักสิ่งแวดล้อม กทม

หรือตามสถานที่ใกล้ๆ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา อย่างเช่น ICONSIAM, ท่ามหาราช, เอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟร้อนท์, ล้ง 1919, ยอดพิมาน ริเวอร์ วอล์ค, วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร, วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร, วัดประยูรวงศาวาสวรวิหาร หรือจะเป็นที่ริมเขื่อนศาลากลางจังหวัดสมุทรปราการ ก็ได้เช่นกัน

แต่ถ้าใครอยากขายรถคันเดิม เปลี่ยนรถใหม่ ขายรถด่วน เพื่อรับเงินก้อนไปใช้ สามารถขายรถคันเก่ากับ CARRO ได้ ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ CARRO Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ครับ —> เพิ่มเพื่อน

3-Way-To-Deny-Squeegee-Boys

อีกหนึ่งปัญหาสังคมของไทยที่มีมานานมากแล้ว ซึ่งไม่มีหน่วยงานไหนเข้ามาแก้ไข และพบเห็นได้บ่อยในถนนบางเส้นของกรุงเทพฯ นั่นคือ “เด็กเช็ดกระจก” “คนขายพวงมาลัย” หรือแม้กระทั่ง “คนขายกล้วยแขก” ก็ตาม …

3-Way-To-Deny-Squeegee-Boys

รถติดหนักๆ กระจกเลอะๆ แบบนี้ เด็กเช็ดกระจก เด็กขายพวงมาลัย ชอบแน่นอน!

เพราะว่าเมื่อรถของเราขับมาติดไฟแดงเมื่อไหร่ คนเช็ดกระจกก็จะรีบออกมาให้บริการ (โดยคนขับรถหลายคนไม่เต็มใจ) ในทันที! ซึ่งอุปกรณ์ที่ใช้ ก็ดูท่าว่ากระจกรถเราน่าจะสกปรกมากขึ้นซะอีกด้วย และหลายคนก็ไม่ชอบอยู่แล้ว เพราะรถของเรา จู่ๆ ใครทะลึ่ง (เอาผ้าอะไรก็ไม่รู้ เยินมาเลย หรือไม้เช็ดกระจก) มาเช็ดกระจกรถเรา บางทีทำเป็นรอยอีก!

แต่หลายคนก็เลือกตัดความรำคาญ ด้วยการหยิบยื่นเงินให้ 5 บาท 10 บาท หรือ 20 บาท ประมาณนี้ เพื่อตัดปัญหาน่ารำคาญใจ เพราะหลายครั้งที่มีข่าวว่าคันไหนไม่ยอมให้เช็ด หรือมีปัญหา ก็มักจะถูกด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย โวยวาย ขูดรถ ทุบรถ ไม่ต่างอะไรจากมาเฟียคุมถนนทีเดียว

แล้วจะมีวิธีหนีคนกลุ่มนี้ได้อย่างไรบ้างล่ะ Mr.Carro ขอนำแนวคิดต่างๆ มานำเสนอกัน 3 วิธี

3-Way-To-Deny-Squeegee-Boys

ช่วยสไปเดอร์แมนซื้อหน่อยสิคร้าบ!

1. โบกมือไม่เอา

วิธีนี้ถือเป็นวิธีที่ Basic มาก เพราะเมื่อเด็กเช็ดกระจก หรือเด็กขายพวงมาลัยหลายคนเห็น ก็อาจจะเดินไปจากรถคุณก็ได้

2. เลื่อนรถหนี

ถ้าคุณรู้ว่า แยกไฟแดงไหนที่มีปัญหารถติดนานๆ หนัก (ดูบทความ – 10 แยกไฟแดงรถติดนรกที่สุด ติดได้ ติดดี ติดทุกวัน เพิ่มเติม) ให้จอดรถเว้นระยะห่างจากคันหน้าสักหน่อย

พอเมื่อเด็กเช็ดกระจก หรือเด็กขายพวงมาลัย เดินมาใกล้รถเรา คุณก็ขยับไปข้างหน้าทีละนิดๆ จนกว่าเขาจะเดินหนีไปเอง

3-Way-To-Deny-Squeegee-Boys

อย่าเพิ่งไล่ผมเลยนะคร้าบ!

3. ก้มหน้าหาของ

ถ้าหากเด็กเช็ดกระจก หรือเด็กขายพวงมาลัย เดินมาใกล้รถเรา ข้างหน้าก็รถติด ไม่รู้จะหลบไปไหน ให้ก้มหน้าหาของครับ! ไม่ต้องไปสบตามองหน้า เดี๋ยวรอไม่ไหว ไฟเขียวพอดี พวกเขาเหล่านี้ก็เดินหนีไปเองครับ

ยังไงก็ลองดูกันได้นะครับ เพราะผมก็เคยลองทำตาม 3 วิธีดังกล่าวดู ซึ่งก็ได้ผลอยู่นะครับ เพราะร้อยทั้งร้อย เด็กจะไม่เดินกลับมาเช็ดกระจกรถเราอีกครับ แต่จะเดินไปคันข้างหลัง เพื่อหาเหยื่อคันต่อไปแทนครับ (นอกเสียจากว่า จะเล่นบทลูกตื้อจริงๆ จนต้องภาวนาให้ไฟเขียวเร็วๆ ซะที!)

ถ้าคุณตัดสินใจอยากขายรถคันเดิม เพื่อไปซื้อรถคันใหม่ หรือรับเป็นเงินก้อนไปใช้ สามารถขายรถคันเดิมกับ Carro ได้ ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ Carro Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook Carro Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ครับ —> เพิ่มเพื่อน

ขอขอบคุณเนื้อหา และภาพประกอบจาก

Travel-The-Golden-Mount-And-Wat-Saket

ช่วงนี้ก็เข้าสู่หน้าหนาวกันแล้ว เป็นธรรมดาของวัดหลายๆ วัด ก็จะจัดกิจกรรมรื่นเริงต่างๆ กันมากมาย โดยหลายคนมักจะนึกถึงงานวัดสุดคลาสสิกอย่าง “งานนมัสการพระบรมสารีริกธาตุ” หรือ “งานภูเขาทอง” หรือ “งานวัดภูเขาทอง” ที่จัดกันประจำทุกปี ณ บริเวณพระบรมบรรพต หรือ ภูเขาทอง และลานพระวิหาร ของวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร

สำหรับ “วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร” หรือที่คุ้นหูกันในชื่อ “วัดสระเกศ” เป็นวัดโบราณในสมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมชื่อว่า “วัดสะแก”

ต่อมาพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 โปรดเกล้าฯ ให้ปฏิสังขรณ์และขุดคลองรอบพระอาราม แล้วพระราชทานนามใหม่ว่า “วัดสระเกศ” ซึ่งแปลว่า ชำระพระเกศา เนื่องจากพระองค์เคยประทับทำพิธีพระกระยาสนาน (อาบน้ำ) เมื่อเสด็จกรีธาทัพกลับจากกัมพูชามาปราบจลาจลในกรุงธนบุรี และเสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติในปี 2325

งานวัดภูเขาทอง-2562

โดยปกติของงานวัดภูเขาทอง มักจะจัดคาบเกี่ยวกับช่วงเทศกาลลอยกระทง โดยจัดงานกัน 10 วัน 10 คืน ซึ่งในปีนี้จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 4 – 13 พ.ย. 2562

โดยปีนี้ (2562) ยังมีพิธีอัญเชิญผ้าแดงห่มองค์พระบรมบรรพต (ภูเขาทอง) ซึ่งเป็นการร่วมจารึก ชื่อ-สกุล ลงบนผ้าแดง แล้วอัญเชิญผ้าแดงไปห่มองค์พระบรมบรรพต (ภูเขาทอง) ในวันขึ้น 8 ค่ำ เดือน 12 ในเวลา 6.00 น. ของเช้าวันที่ 4 พฤศจิกายน จากนั้นตั้งแต่เวลา 7.00 – 24.00 น. ของวันที่ 4 – 13 พฤศจิกายน 2562 ก็จะเป็นงานสมโภชองค์พระบรมสารีริกธาตุ

สำหรับใครที่สนใจอยากไปเที่ยว “งานวัดภูเขาทอง” Mr.Carro ก็จะมาแนะนำ 5 วิธีเดินทางไปงาน ซึ่งก็มีหลากหลาย ตามความสะดวกครับ

MRT-Blue-Line

รถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) มาภูเขาทอง สะดวกที่สุดอีกหนึ่งวิธี นั่นคือ ลงสถานีสามยอด (BL30) แล้วเดินไปตามถนนเจริญกรุง เข้าถนนวรจักร ต่อรถเมล์สาย 8, 37 หรือ 48 หรือจะต่อรถตุ๊กๆ ไป ก็ถึงงานภูเขาทองได้ …

BTS-Skytrain

รถไฟฟ้าบีทีเอส (BTS) มาภูเขาทอง เพียงลงที่สถานีสนามกีฬาแห่งชาติ แล้วต่อรถเมล์สาย 47 หรือ 48 ก็มาที่งานได้เช่นกัน …

SRT-Train

รถไฟ รฟท. ไม่ว่าคุณจะมาจากขบวนไหน สายตะวันออก, สายเหนือ หรือสายอีสาน ให้ลงรถไฟที่ “ป้ายหยุดรถยมราช” (เฉพาะขบวนรถที่จอดเท่านั้น โปรดตรวจสอบขบวนรถที่คุณโดยสารมาอีกครั้ง ว่าจอดหรือไม่)

เมื่อลงรถไฟแล้ว ให้เดินไปยังป้ายรถเมล์ถนนหลานหลวง สามารถต่อรถเมล์ได้หลายสาย ตามรายละเอียดด้านล่าง

BMTA-Bus

รถเมล์ (Bus) ที่ผ่านรอบๆ วัดสระเกศราชวรวิหาร หรือภูเขาทอง

จากถนนจักรพรรดิพงษ์
– สาย 8, 15, 37, 47, 49

จากถนนบำรุงเมือง
– สาย 15, 47, 48, 508

จากถนนหลานหลวง
– สาย 2, 44, 59, 60, 79, 183, 511

จากถนนมหาไชย
– สาย 56

วิธีสุดท้าย … ถ้าขับรถมาเอง

ต้องขอบอกก่อนว่าในย่านตัวเมืองชั้นใน ที่จอดรถจะหายากมากๆ ยิ่งดึก คนยิ่งมาเยอะ ส่วนใหญ่ต้องจอดรถในบริเวณวัดสระเกศ หรือบริเวณริมถนนย่านนั้น แต่ก็ต้องดูด้วยว่า จุดนั้น ห้ามจอดรถหรือไม่

ถ้าคุณอยากขายรถคันเดิม เปลี่ยนรถใหม่ ขายรถด่วน เพื่อรับเงินก้อนไปใช้ สามารถขายรถคันเก่ากับ Carro ได้ ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ Carro Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook Carro Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ครับ —> เพิ่มเพื่อน

Tokyo-Motor-Show-2019

ประมวลภาพรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุด รถต้นแบบ และอื่นๆ ในงานมหกรรมยานยนต์ Tokyo Motor Show 2019 งานแสดงรถยนต์อีกหนึ่งงานในญี่ปุ่น จัดต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 1954 ถึงปัจจุบันเป็นครั้งที่ 46

Tokyo-Motor-Show-2019

ปีนี้จัดขึ้นภายใต้ธีม Open Future สื่อให้เห็นว่างานในปีนี้ เป็นยิ่งกว่ามหกรรมรถยนต์และจักรยานยนต์ ยานพาหนะเชิงพาณิชย์ และการจัดแสดงเกี่ยวกับอุตสาหกรรมยานยนต์ แต่ยังครอบคลุมถึงนวัตกรรมและพัฒนาการใหม่ๆ ในอุตสาหกรรมอื่นๆ และพื้นที่จัดงานในปีนี้ ยังใหญ่โตกว่าเดิมอีกด้วย

Tokyo-Motor-Show-2019

โดยงานนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 24 ตุลาคม – 4 พฤศจิกายน 2562 ณ Tokyo Big Sight เมือง Tokyo ประเทศญี่ปุ่น … ทาง Carro ขอรวบรวมภาพบรรยากาศ พร้อมรถเปิดตัวใหม่มาให้ชมกันครับ

Honda-Fit

Honda Fit

Honda-Vezel-Touring-Modulo-X

Honda Vezel Touring Modulo X

Suzuki-Wakuspo

Suzuki Wakuspo

Suzuki-Hanare

Suzuki Hanare

Suzuki-Hustler-Concept

Suzuki Hustler Concept

Toyota-Mirai-Concept

Toyota Mirai Concept

Toyota-Yaris

Toyota Yaris

Toyota-GrandAce

Toyota GrandAce

Nissan-Ariya-Concept

Nissan Ariya Concept

Nissan-Imk-Concept

Nissan Imk Concept

Subaru-WRX-STI-EJ20-Final-Edition

Subauu WRX STi EJ20 Final Edition

Subaru-Viziv-Adrenaline-Concept

Subaru Viziv Adrenaline Concept

Mitsubishi-Super-Height-K-Wagon-Concept

Mitsubishi Super Height K-Wagon Concept

Mitsubishi-Mi-Tech-Concept

Mitsubishi Mi-Tech Concept

Daihatsu-Compact-SUV-Concept

Daihatsu Compact SUV Concept

Daihatsu-IcoIco

Daihatsu IcoIco

Daihatsu-Copen-GR-Sport

Daihatsu Copen GR Sport

Daihatsu-WakuWaku

Daihatsu WakuWaku

Mazda-MX-30

Mazda MX-30 Concept

Lexus-LF-30-Electrified

Lexus LF-30 Electrified

Alpine-A110-S

Alpine A110S

Mercedes-Benz-Vision-EQS

Mercedes-Benz Vision EQS

ถ้าคุณตัดสินใจอยากขายรถคันเดิม เพื่อไปซื้อรถคันใหม่ หรือรับเป็นเงินก้อนไปใช้ สามารถขายรถคันเดิมกับ Carro ได้ ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ Carro Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook Carro Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ครับ —> เพิ่มเพื่อน

ขอบคุณภาพจาก http://car.watch.impress.co.jp/

5 วิธี ที่ทาสแมวต้องรู้! เมื่อเอาแมวติดรถไปด้วย

ใครหลายคนที่เป็น “ทาสแมว” ก็มักจะหลงไหลแมวเป็นพิเศษ เพราะแมวนั้นเป็นสัตว์ที่มีหน้าตาดูน่าเกรงขาม (เหมือนเสือตัวน้อยๆ) แต่ก็แฝงไปด้วยความน่ารักในตัว กับความออดอ้อนเก่ง นวดเก่ง ที่ทำให้ใครต่อใคร มักหลงไหลเจ้าเหมียวไปด้วย

การท่องเที่ยวของคนเรามักจะมีอยู่เสมอๆ นอกจากคนไปเที่ยวแล้ว บางทีอยากจะพาสัตว์เลี้ยงคู่ใจ ออกเดินทางไปเที่ยวพร้อมกันด้วยเช่นกัน

แล้วถ้า “ทาสแมว” จะพา “เจ้านาย” ของคุณไปเที่ยวพร้อมกันล่ะ คุณจะเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ให้ทั้งคุณและเจ้าเหมียว มีความสุขในระหว่างการเดินทางไปพร้อมกัน ลองอ่านเคล็ดไม่ลับดูกัน …

5-Ways-To-Keep-Cat-With-Your-Car

1. เตรียมพร้อมก่อนการเดินทาง

เตรียมปลอกคอ เขียนชื่อ-เบอร์โทร ของเจ้าของแมวเอาไว้ไปด้วย พร้อมกับสายรัดแมว เผื่อเจ้าเหมียวอาจจะเตลิดหนีหายไป ระหว่างที่เราพาแมวไปเที่ยวด้วยกัน

ก่อนเดินทางสัก 2-3 ชั่วโมง ก็จัดการเตรียมตัวให้แมวทานอาหาร พร้อมกับเปิดประตูกระเป๋าสัตว์เลี้ยงไว้ ให้แมวจะได้สำรวจซะให้พอ เพราะถ้าแมวรู้สึก OK แล้ว ทาสแมวก็จะไม่ต้องลำบาก ตอนเวลาขับรถ

5-Ways-To-Keep-Cat-With-Your-Car

2. สร้างความคุ้นเคย

“กลิ่น” ประจำตัวของแมว นี่ก็ถือว่าสำคัญ เพราะเป็นการทำให้แมวสร้างความคุ้นเคยต่อสถานที่นั้นๆ คุณอาจจะปล่อยให้เขาใช้หัวถูภายในรถ เพื่อให้กลิ่นของเจ้าเหมียวติดอยู่ในรถ หรือนำสิ่งของที่เขาคุ้นเคย อย่างเช่น ห้องน้ำแมว เบาะที่นอน ผ้าห่ม หรือผ้าเช็ดตัวของเจ้าเหมียวติดไปด้วย

5-Ways-To-Keep-Cat-With-Your-Car

3. ของจำเป็น X ที่ลับเล็บ

อย่าลืมเตรียมกระบะทราย สำหรับการขับถ่ายของเจ้าเหมียว ชามใส่อาหาร และชามใส่น้ำ รวมถึงชุดปฐมพยาบาลของแมวไว้ด้วยก็ดี และอย่าลืมที่ลับเล็บสําหรับแมวไปด้วย (ถ้าไม่มี ก็ใช้กล่องไปรษณีย์ หรือลังกระดาษก็ได้) เพราะสามารถช่วยให้แมวแก้เครียดได้ และช่วยให้แมว ไม่ไปขีดข่วนเบาะรถของคุณแทน

5-Ways-To-Keep-Cat-With-Your-Car

4. กระเป๋าสัตว์เลี้ยง

กรณีที่เดินทางไปด้วยกันหลายๆ คน หรือแม้กระทั่งขับรถแค่เพียงคนเดียว การใช้กระเป๋าใส่แมว หรือที่กั้นสัตว์เลี้ยงไว้ภายในรถ เป็นสิ่งที่ควรทำ เพราะเจ้าเหมียวอาจซน จนทำให้คุณเสียสมาธิหรือเกิดอันตรายตอนขับรถได้

ระหว่างยกกระเป๋าสัตว์เลี้ยงไปที่รถ พยายามหาผ้าปิดที่ด้านหน้าของช่องตรง เพื่อที่ไม่ให้แมวรู้สึกตื่นตกใจเวลาเห็นสิ่งต่างๆ

5-Ways-To-Keep-Cat-With-Your-Car

5. อย่าลืมสเปรย์แมวติดตัว

อย่าลืมพกสเปรย์ฟีโรโมนอย่าง Feliway ซึ่งเป็นสเปรย์ที่เลียนแบบกลิ่นฟีโรโมน ที่แมวชอบปล่อยออกมาตอนผ่อนคลายสบายใจในอาณาเขตของตัวเอง เลยช่วยปลอบแมวให้สงบเวลาอยู่บนรถได้ ไปด้วย ไม่งั้นแมวของคุณอาจจะเกิดอาการตกใจ หรือหงุดหงิดได้

แค่นี้ คุณกับแมว ก็เดินทางไปด้วยกันอย่างมีความสุขแล้วครับ

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่กำลังอยากขายรถคันเดิม เอาเงินไปซื้อรถคันใหม่ มาขายรถคันเดิมกับ CARRO Express สิ! หรือจะ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

ถ้าใครกำลังอยากซื้อรถใหม่ แต่กำลังเงินซื้อรถมือหนึ่งไม่ไหว CARRO อยากให้ลองเปิดใจกับรถมือสอง เนื่องจากรถมือสองสภาพดีสมัยนี้มีให้เลือกเยอะแยะ แถมถ้าเป็นรถรุ่นประหยัดน้ำมันได้ก็ยังดี ซึ่ง CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์ให้คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น!

รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check มากกว่า 200 จุด และยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ให้คุณเลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา พร้อมรับประกันคุณภาพรถนานถึง 2 ปี หรือ 20,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! เรามีรถให้คุณเลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Official โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

Department-Of-Rail-Transport-Reduce-Train-Fare

ข่าวดี ของนักเดินทาง! กรมการขนส่งทางราง เตรียมเริ่มไอเดียลดค่าครองชีพ ด้วยมาตรการลดราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้าแบบรายเดือน และช่วงนอกเวลาเร่งด่วน (Off-Peak) เริ่ม ธ.ค.นี้ คาดคนใช้เพิ่ม 1.5 แสนเที่ยวคนต่อวัน

นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยว่า วันที่ 6 ก.ย. 2562 เป็นครั้งแรกที่คณะกรรมการพิจารณาโครงสร้างอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าได้ประชุมเพื่อพิจารณาแนวทางลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน ตามที่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้มีคำสั่งแต่งตั้งเมื่อวันที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา

โดยเสนอมาตรการจูงใจให้ใช้รถไฟฟ้ามากขึ้น ด้วยการให้ผู้โดยสารซื้อตั๋วรถไฟฟ้าระบบใดก็ได้ครบ 15,000 บาท สามารถนำมาลดหย่อนภาษีเงินได้ส่วนบุคคล ซึ่งรูปแบบคล้ายกับนโยบายช็อปช่วยชาติที่ผ่านมานั่นเอง

เพื่อจูงใจคนเดินทางมากขึ้น ลดความแออัดช่วงเร่งด่วน คาดว่าจะทำให้ผู้โดยสารรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้นทุกระบบ 10% หรือประมาณ 1.5 แสนเที่ยวคนต่อวัน จากปัจจุบันอยู่ที่ 1.33 ล้านเที่ยวคนต่อวัน คาดว่าภายในเดือน ก.ย.นี้ จะเสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมพิจารณา และเริ่มทดลองได้ภายในปีนี้

มาตรการลดค่าครองชีพ ด้วยการลดค่าโดยสารรถไฟฟ้า มี 2 แนวทาง คือ

1. ลดค่าโดยสารรถไฟฟ้ารายเดือนลง และ

2. ลดค่าโดยสารรถไฟฟ้าในช่วงที่ผู้โดยสารไม่นิยมเดินทาง (Off-peak) โดยปัจจุบันมีรถไฟฟ้าในระบบ 4 ประเภท ได้แก่ 

Airport-Rail-Link

1. รถไฟฟ้าแอร์พอร์ทเรลลิงค์ ปัจจุบันมีค่าโดยสารที่จัดเก็บอยู่ที่ 15-45 บาท/คน/เที่ยว เฉลี่ยเดินทางต่อคนอยู่ที่ 31 บาท/คน/เที่ยว หากลดราคาเป็นตั๋วรายเดือนจะอยู่ที่ 25-30 บาท/เที่ยว

แนวทางการลดราคา คือ ลดราคาช่วง Off-peak อยู่ที่ 15-25 บาท/เที่ยว โดยแอร์พอร์ตลิงก์จะลดราคาสูงสุดช่วงไม่เร่งด่วนให้ 40% ส่วนบัตรรายเดือนอยากให้แต่ละระบบกำหนดราคาอยู่ที่ 300-500 บาท

โดยแอร์พอร์ตลิงก์ มีช่วงเร่งด่วน 3 ช่วง คือ 05.30-07.00 น. ช่วง 10.00-17.00 น. และช่วง 20.00-24.00 น.

MRT-Purple-Line

2. รถไฟฟ้าสายสีม่วง ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ปัจจุบันมีค่าโดยสารที่จัดเก็บอยู่ที่ 14-42 บาท/คน/เที่ยว เฉลี่ยเดินทางต่อคนอยู่ที่ 21 บาท/คน/เที่ยว หากลดราคาตั๋วรายเดือนอยู่ที่ 15-20 บาท/เที่ยว

แนวทางการลดราคา คือ ลดราคาช่วง Off-peak อยู่ที่ 14-25 บาท/เที่ยว

โดยสายสีม่วง มีช่วงเวลาเร่งด่วนอยู่ที่ ช่วง 06.30-08.30 น. และช่วง 17.00-19.30 น.

MRT-Blue-Line

3. รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ปัจจุบันมีค่าโดยสารที่จัดเก็บอยู่ที่ 16-42 บาท/คน/เที่ยว เฉลี่ยเดินทางต่อคนอยู่ที่ 25 บาท/คน/เที่ยว หากลดราคาตั๋วรายเดือนจะอยู่ที่ 20-25 บาท/เที่ยว

แนวทางการลดราคา คือ ลดราคาช่วง Off-peak อยู่ที่ 16-30 บาท/เที่ยว

โดยสายสีน้ำเงิน มีช่วงเวลาเร่งด่วนอยู่ที่ 06.00-09.00 น. และช่วง 16.00-19.30 น.

สายสีม่วงและสายสีน้ำเงินจะทำโปรโมชั่นร่วมกัน จากปัจจุบันราคาสูงสุดอยู่ที่ 70 บาทต่อเที่ยว ทาง BEM อยู่ระหว่างเสนอให้บอร์ดพิจารณาลดราคาอาจจะเป็น 48 บาทต่อเที่ยว

BTS-Skytrain

4. รถไฟฟ้าบีทีเอส ของบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ปัจจุบันมีค่าโดยสารที่จัดเก็บอยู่ที่ 16-44 บาท/คน/เที่ยว เฉลี่ยเดินทางต่อคนอยู่ที่ 29 บาท/คน/เที่ยว ลดราคาตั๋วรายเดือนอยู่ที่ 26 บาท/เที่ยว

ช่วง Off-peak ไม่มี เนื่องจากมีปริมาณคนเดินทางในทุกช่วงเวลา แต่ที่มากๆ จะเป็นช่วง 07.00-09.00 น. และ 16.00-20.00 น.

สำหรับรถไฟฟ้า BTS ปัจจุบันได้ดำเนินการจำหน่ายตั๋วเดือนอยู่แล้ว มีค่าโดยสารเฉลี่ยอยู่ที่ 26 บาท/เที่ยว โดยลดลงจากค่าโดยสารโดยเฉลี่ยต่อเที่ยว 29 บาท ลงมาที่ 12%

ส่วนบัตรโปรโมชั่นรายเดือนแบบจำกัดเที่ยว ที่มีให้เลือกตั้งแต่ 15-50 เที่ยว พร้อมทั้งคงราคาในส่วนต่อขยายไว้ที่ 15 บาท

ทั้งนี้ รถไฟฟ้าทั้ง 4 แบบ ช่วงเร่งด่วนจะมีรถไฟฟ้าให้บริการ 6 ชั่วโมง และมีคนใช้บริการ 60% ส่วนช่วงไม่เร่งด่วนจะให้บริการอยู่ที่ 13 ชั่วโมง และมีผู้ใช้บริการอยู่ที่ 40% ซึ่งเวลาการให้บริการยังเหลื่อมล้ำกันอยู่ให้ทำเป็นมาตรฐานเดียวกัน

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก ประชาชาติธุรกิจ