New-Car-Bookings-Motor-Show-2018

บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เผยยอดจองรถยนต์หลังการจัดงาน Motor Show 2018 ที่ได้รับการตอบรับดีเยี่ยมเฉกเช่นทุกปี กับยอดจองรถของแต่ละค่ายที่น่าพึงพอใจ … ยอดรวม 12 วัน ยอดจองทั้งหมด (รถยนต์/รถจักรยานยนต์) 42,499 คัน

ยอดจองรถยนต์ วันที่ 29 มี.ค. – 9 เม.ย. 2560 รวม 36,093 คัน

ยอดจองรถยนต์ วันที่ 28 มี.ค. – 8 เม.ย. 2561 รวม 36,587 คัน

ภาพรวมยอดจองรถยนต์ในงาน Motor Show 2018 โตเพิ่มขึ้น 18% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการเปิดตัวสินค้าใหม่ภายในงาน โดยเฉพาะกับตลาดรถหรูที่ส่อแววสดใส ผู้ประกอบการต่างพอใจกับยอดจองในแต่ละวัน ที่สำคัญในกลุ่มของรถยนต์ลักชัวรี่ และรถสปอร์ต ได้กระแสตอบรับจากผู้บริโภคที่สนใจเพิ่มมากขึ้น

ขณะที่ตลาดรถในกลุ่ม C-Segment และ B-Segment ยังคงทรงตัว เนื่องจากมีการเปิดตัวก่อนหน้างานมาได้ระยะเวลาหนึ่ง ด้านตลาดรถปิกอัพ แน่นอนว่า ยังคงได้รับความนิยม จากผู้ประกอบการในเชิงพาณิชย์ เนื่องราคาพืชผลทางการเกษตรมีทิศทางที่ดีขึ้น ขณะเดียวกันผู้ประกอบการก็มีการแข่งกันดุเดือด ทั้งโปรโมชั่น และแคมเปญที่ออกมาในช่วงนี้

โดยยอดจองรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่เกิดขึ้นภายในงาน มียอดรวมทั้งสิ้น 42,499 คัน แบ่งออกเป็นรถยนต์ 36,587 คัน ขณะที่รถจักรยานยนต์ มียอดจองในปีนี้ 5,912 คัน เติบโตเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาเกือบเท่าตัว

ซึ่งในกลุ่มรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า มียอดจองมากที่สุด 2,628 คัน, อันดับ 2 ยามาฮ่า 737 คัน และอันดับ 3 คาวาซากิ 554 คัน

สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า ในปีนี้ได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมเป็นจำนวนมาก โดยทางค่าย Fomm (ฟอมม์) แบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติญี่ปุ่น ซึ่งทำการเปิดตัวยานยนต์ไฟฟ้าเป็นครั้งแรกภายในงาน สามารถสร้างยอดจองได้ถึง 354 คัน

ยอดจองรถยนต์ 10 อันดับของ Motor Show 2018 วันที่ 28 มี.ค. – 8 เม.ย. 2561 

1. Toyota 5,689 คัน

Toyota-C-HR

2. Honda 5,133 คัน

Honda-Civic-Hatchback-Red

3. Mazda 5,021 คัน

Mazda3

4. Isuzu 3,920 คัน

Isuzu-D-Max-X-Series

5. Mercedes-Benz 2,297 คัน

Mercedes-Benz-CLS-300-d-AMG-Premium

6. Mitsubishi 2,108 คัน

Mitsubishi-Pajero-Sport

7. Suzuki 2,039 คัน

Suzuki-Swift

8. MG 1,994 คัน

MG-ZS

9. Nissan 1,819 คัน

Nissan-NP300-Navara

10. Ford 1,809 คัน

Ford-Ranger-Raptor

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Bangkok-Motorshow

Motor-Expo-2017-Booking

บริษัท สื่อสากล จำกัด เผยยอดจองรถยนต์ในงาน Motor Expo 2017 ที่ได้รับการตอบรับดีเยี่ยมเฉกเช่นทุกปี กับยอดจองรถของแต่ละค่ายที่น่าพึงพอใจ … มาดูยอดจองในงานของปีนี้กันเลยครับ

ยอดจองรถยนต์ วันที่ 29 พ.ย. – 11 ธ.ค. 2560 39,832 คัน

ยอดจองรถยนต์ วันที่ 30 พ.ย. – 12 ธ.ค. 2559 32,422 คัน

จากตัวเลขแสดงให้เห็นว่า ยอดจองรถยนต์ในงาน Motor Expo 2017 มีมากกว่าตัวเลขของปีที่แล้วพอสมควร ซึ่งมีแนวโน้มของผู้สนใจ และมีกำลังซื้อ มาจับจองรถยนต์ใหม่กันมากขึ้น

ราคาเฉลี่ยของรถที่ขายได้ในงานเพิ่มขึ้นเป็น 1,271,837 บาท (ปีก่อน 1,177,393 บาท) เงินหมุนเวียนภายในงานราว 52,000 ล้านบาท ผู้เข้าชมงานจำนวน 1,360,605 คน เพิ่มขึ้น 14.2%

Motor-Expo-2017

รถเก๋งได้รับความสนใจสูงสุด มีสัดส่วนยอดขาย 38.7% ลดลงจากปีก่อน (44.1%) แบ่งเป็นเก๋งซีดาน 25% และแฮทช์แบคท้ายลาด 13.7% โดย 5 อันดับแรก ได้แก่ Honda City, Honda Civic, Mazda2, Honda Jazz และ Nissan Note

ขณะที่รถกิจกรรมการแจ้ง (SUV) มีสัดส่วน 33.9% เพิ่มขึ้นจากปีก่อน (25.1%) 5 อันดับแรก ได้แก่ MG ZS, Mitsubishi Pajero Sport, Mazda CX-5, Ford Everest และ Honda HR-V

รถกระบะมีสัดส่วน 17.9% ลดลงจากปีก่อน (20.3%) 5 อันดับแรก ได้แก่ Ford Ranger, Isuzu D-Max, Toyota Hilux Revo, Mitsubishi Triton และ Nissan NP300 Navara

ในส่วนของยอดขายรถจักรยานยนต์ รวม 7,711 คัน สูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้เล็กน้อย อันดับ 1 ได้แก่ GPX 1,115 คัน อันดับ 2 Kawasaki 904 คัน อันดับ 3 Ryuka 831 คัน อันดับ 4 Yamaha 805 คัน และ อันดับ 5 Honda 741 คัน

ยอดจองรถยนต์ 10 อันดับแรกของ Motor Expo 2017 วันที่ 29 พ.ย. – 11 ธ.ค. 2560

1. Honda 6,488 คัน

Honda-Civic

2. Toyota 5,456 คัน

Toyota-Hilux-Revo-Rocco

3. Mazda 5,015 คัน

Mazda-CX-5

4. Isuzu 4,479 คัน

Isuzu-D-Max

5. Mercedes-Benz 2,701 คัน

Mercedes-AMG-GT-R

6, MG 2,366 คัน

MG-ZS

7. Nissan 2,275 คัน

Nissan-Navara

8. Mitsubishi 2,260 คัน

Mitsubishi-Triton-Athlete

9. Ford 2,253 คัน

Ford-Ecosport

10. Suzuki 1,361 คัน

Suzuki-Ciaz

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Motor Expo

ECO-Sticker

เวลาดู “รถยนต์ใหม่” คุณสามารถสแกน “QR Code” ดูสเปคได้จาก “ECO Sticker”

BMW-i8-ECO-Sticker

หลายท่านที่ไปเดินดูรถในงาน Motor Expo 2017 แล้วอาจจะสังเกตว่า บริเวณกระจกรถทุกคันที่นำมาจัดแสดงภายในงาน จะมีติดกระดาษแผ่นหนึ่งไว้ มีรายละเอียดต่างๆ ของรถคันนั้น ระบุอยู่ หลายคนไม่ทราบว่ามันคืออะไร? ติดไว้เพื่ออะไร?

เพื่อความรู้และประโยชน์ของผู้บริโภค MR.CARRO ขออธิบายรายละเอียดของ “ECO Sticker” ให้ทุกท่านได้รับทราบครับ.

ระบบป้ายข้อมูลรถยนต์ตามมาตรฐานสากล (ECO Sticker)

Lexus-NX

จากมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2555 ได้อนุมัติในหลักการร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์ (ภาษี CO2) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ควบคู่ไปกับการมอบหมายให้กระทรวงอุตสาหกรรมกำหนดแนวทางให้ผู้ประกอบอุตสาหกรรมยานยนต์และผู้นำเข้า ต้องติดป้ายแสดงการประหยัดพลังงานและปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) หรือ ECO Sticker ที่จะนำมาใช้ดำเนินการควบคู่กัน

ECO-Sticker

กระทรวงอุตสาหกรรม (สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม และสถาบันยานยนต์) และกระทรวงการคลัง (กรมสรรพสามิต กรมศุลกากร) ได้ร่วมมือกันในการเตรียมระบบงานเพื่อรองรับการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี … ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านราคาจำหน่ายในรถยนต์หลากหลายรุ่น ตั้งแต่ในวันที่ 1 มกราคม 2559 เป็นต้นมา

ECO-Sticker

ECO-Sticker

และรถยนต์ต้องติดป้ายแสดงการประหยัดพลังงานและปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) หรือ ECO Sticker ซึ่งในหลายประเทศก็ใช้ระบบนี้เช่นกัน โดยฉลาก ECO Sticker ระบุถึงข้อมูลรายละเอียดทางเทคนิคเกี่ยวกับตัวรถ ซึ่งผู้บริโภคสามารถดูข้อมูลใช้ประกอบการตัดสินใจซื้อรถได้ อีกทั้งยังมีข้อมูลต่างๆ อาทิ รายละเอียดเครื่องยนต์ อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง, มาตรฐานระบบเบรก, การทดสอบชน และอุปกรณ์มาตรฐานที่ติดตั้งมาจากโรงงาน

ECO-Sticker

เมื่อสแกน QR Code แล้ว จะได้ข้อมูลแบบนี้ครับ

นอกจากนี้ยังมี QR Code หมายเลขทะเบียน (ECO Sticker ID) เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจในการเลือกซื้อรถยนต์ บนพื้นฐานข้อมูลที่ถูกต้อง แม่นยำ และสามารถตรวจสอบได้ทันที

โดยหากผู้ซื้อรถยนต์พบว่า คุณสมบัติของรถยนต์คันที่ซื้อ หรือ VIN บนรถยนต์นั้นไม่ตรงกับข้อมูลบน ECO Sticker ก็สามารถแจ้งตำแหน่งได้ นอกจากนี้ ยังทำให้ผู้ซื้อสามารถทราบข้อมูลรถยนต์อื่นๆ นอกเหนือจากที่ปรากฏบน ECO Sticker หรือดาวน์โหลดโบรชัวร์ของรถยนต์คันนั้น ค่าใช้จ่ายด้านพลังงานต่อเดือน และสามารถค้นหาและเปรียบเทียบรถยนต์คันนั้น กับรถยนต์คันอื่นๆ ในระบบได้

ขอขอบคุณข้อมูลจาก car.go.th