6 อันดับ รถเกียร์ธรรมดาที่ยังมีจำหน่ายในปีนี้

ถ้าจะให้พูดถึงการขับรถในปัจจุบัน เราต้องยอมรับว่า รถยนต์เกียร์ธรรมดา (ที่ไม่ใช่รถตู้ รถกระบะ หรือรถบรรทุก) ค่ายรถส่วนใหญ่มักเลิกผลิตกันแล้ว เนื่องจากตัวเลขยอดขายที่น้อยลงเรื่อยๆ ราคามือสองขายต่อตกมากกว่า อุปกรณ์มาตรฐานน้อย เพราะมักจะเป็นรุ่นเริ่มต้นเสมอ การใช้งานไม่เหมาะกับบรรยากาศรถติดๆ ในเมืองกรุงซะเลย ซึ่งไม่ได้เป็นแค่ในไทย แต่เป็นแบบนี้ในหลายประเทศทั่วโลก

แม้ว่ารถเกียร์ธรรมดา จะทำให้บรรยากาศการขับรถของเราได้สนุกขึ้นมาบ้าง ขาซ้ายไม่ว่าง มือซ้ายไปสับเกียร์กันตลอด ซึ่งหลายคนก็อาจจะยังอยากสัมผัสอะไรแบบนี้กันอยู่

MR.CARRO ขอรวบรวมข้อมูล 6 อันดับ รถเกียร์ธรรมดาป้ายแดง ที่ค่ายรถยังผลิตขายประจำปี 2022 มาให้ทุกท่านได้ทราบครับ.

Suzuki Celerio / ซูซูกิ เซเลริโอ้

1. Suzuki Celerio GL MT ราคา 328,000 บาท

Suzuki Celerio (ซูซูกิ เซเลริโอ) รถ Eco-Car น้องเล็กจาก Suzuki ที่ขายในบ้านเรา ชู 3 จุดเด่น ด้วยห้องโดยสารกว้างขวาง หลังคาตัวรถสูง ให้สมรรถนะเกินตัว ประหยัดน้ำมันเป็นเยี่ยม สูงถึง 22 กม./ลิตร มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินขนาด 3 สูบ 1.0 ลิตร 68 แรงม้า และเกียร์ธรรมดาแบบ 5 สปีด

อุปกรณ์มาตรฐานเด่นๆ : กุญแจรีโมท, เซ็นทรัลล็อค, กระจกไฟฟ้า, ถุงลมนิรภัยคู่หน้า, ระบบเบรก ABS/EBD, ล้อกระทะ 14 นิ้ว พร้อมฝาครอบ

Nissan March / นิสสัน มาร์ช

2. Nissan March 1.2S MT – 1.2E MT ราคา 420,000 – 480,000 บาท

Nissan March (นิสสัน มาร์ช) จัดเป็น “Eco-Car” รุ่นแรกของไทยที่ผลิตขายอย่างเป็นทางการในปี 2553 มีจุดเด่นที่ขนาดตัวรถเล็ก ภายในกว้างขวาง นั่งสบาย ขับง่าย มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร 79 แรงม้า เกียร์ธรรมดา 5 สปีด ประหยัดน้ำมันได้สูงถึง 20 กม./ลิตร

อุปกรณ์มาตรฐานเด่นๆ : สปอยเลอร์หลัง, ไฟท้าย LED (เฉพาะรุ่น E), กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า (เฉพาะรุ่น E), เครื่องเสียง CD/MP3 พร้อมช่อง AUX/USB (เฉพาะรุ่น E), ถุงลมนิรภัยคู่หน้า, ระบบเบรก ABS/EBD, กุญแจรีโมท (เฉพาะรุ่น E) และล้อกระทะ 14 นิ้ว พร้อมฝาครอบล้อ (เฉพาะรุ่น E)

Mitsubishi Mirage / มิตซูบิชิ มิราจ

3. Mitsubishi Mirage GLX MT ราคา 474,000 บาท

Mitsubishi Mirage (มิตซูบิชิ มิราจ) อีกหนึ่งรถ Eco-Car จาก มิตซูบิชิ ตัวรถที่ขนาดเล็กน่ารัก ด้วยดีไซน์สปอร์ตรอบคัน มาพร้อมกับออพชั่นใหม่ๆ และอุปกรณ์ความปลอดภัยเพียบ ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร 78 แรงม้า เกียร์ธรรมดา 5 สปีด ประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 23.3 กม./ลิตร เรียกได้ว่าน่าใช้อีกรุ่นหนึ่งเลยทีเดียว

อุปกรณ์มาตรฐานเด่นๆ : ไฟท้ายแบบ LED, มาตรวัดการขับขี่แบบ High Contrast, จอแสดงผลข้อมูลอเนกประสงค์, สวิตช์ควบคุมระบบเครื่องเสียงบนพวงมาลัย, สวิตช์ควบคุมการสั่งงานด้วยเสียง และปุ่มรับสาย-วางสายโทรศัพท์บนพวงมาลัย, หน้าจอระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อผ่านสมาร์ทโฟน, รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto ระบบสั่งงานด้วยเสียง SIRI และระบบเชื่อมต่อบลูทูธ,ช่องต่ออุปกรณ์ USB และช่องจ่ายกระแสไฟ DC 12 โวลต์, ระบบป้องกันการลื่นไถล, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน และล้อกระทะ 14 นิ้ว พร้อมฝาครอบล้อ

Mitsubishi Attrage / มิตซูบิชิ แอททราจ

4. Mitsubishi Attrage GLX MT ราคา 494,000 บาท

Mitsubishi Attrage (มิตซูบิชิ แอททราจ) ใช้พื้นฐานเดียวกันกับ Mirage แต่ออกแบบเป็นรถ 4 ประตู ตัวรถดีไซน์สปอร์ต ภายในหรูหรา กว้างขวาง มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร 78 แรงม้า เกียร์ธรรมดา 5 สปีด ประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 23.8 กม./ลิตร

อุปกรณ์มาตรฐานเด่นๆ : ไฟท้ายแบบ LED, มาตรวัดการขับขี่แบบ High Contrast, จอแสดงผลข้อมูลอเนกประสงค์, สวิตช์ควบคุมระบบเครื่องเสียงบนพวงมาลัย, สวิตช์ควบคุมการสั่งงานด้วยเสียง และปุ่มรับสาย-วางสายโทรศัพท์บนพวงมาลัย, หน้าจอระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อผ่านสมาร์ทโฟน, รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto ระบบสั่งงานด้วยเสียง SIRI และระบบเชื่อมต่อบลูทูธ,ช่องต่ออุปกรณ์ USB และช่องจ่ายกระแสไฟ DC 12 โวลต์, ระบบป้องกันการลื่นไถล, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน และล้อกระทะ 14 นิ้ว พร้อมฝาครอบล้อ

Suzuki Ciaz / ซูซูกิ เซียส

5. Suzuki Ciaz GL MT ราคา 523,000 บาท

Suzuki Ciaz (ซูซูกิ เซียส) รถยนต์อีโคคาร์ 4 ประตูขนาดเล็ก ตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่นใหม่ และกลุ่มวัยรุ่น ห้องโดยสารดีไซน์ทันสมัย กว้างขวาง สะดวกสบาย พร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระมากมาย ขับง่าย หาที่จอดง่าย มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.2 ลิตร 86 แรงม้า และเกียร์ธรรมดา 5 สปีด

อุปกรณ์มาตรฐานเด่นๆ : ไฟหน้าโปรเจคเตอร์ฮาโลเจน, กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า, เครื่องเสียง CD/MP3 พร้อมช่องต่อ USB, กุญแจรีโมท, ที่เปิดฝาท้ายรถแบบไฟฟ้า, ถุงลมนิรภัย SRS คู่หน้า และล้อกระทะ 15 นิ้ว พร้อมฝาครอบล้อ

Honda Jazz Thai 2021

6. Honda Jazz S MT ราคา 555,000 บาท

Honda Jazz (ฮอนด้า แจ๊ซ) รถยนต์หนึ่งเดียวของฮอนด้า ที่ยังมีรุ่นเกียร์ธรรมดาเหลืออยู่ ตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่นใหม่ และกลุ่มวัยรุ่น ชูจุดเด่นที่ห้องโดยสารกว้างขวาง เบาะนั่งปรับพับได้หลายรูปแบบ เหมาะอย่างยิ่งกับการใข้งานในเมือง ขนของก็ได้ มีออพชั่นแพรวพราว ขับง่าย มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร 117 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และยังรองรับน้ำมันแก๊สโซฮอลล์ E85 อีกด้วย ประหยัดน้ำมัน ใช้งานในเมือง ลงตัวสุดๆ

อุปกรณ์มาตรฐานเด่นๆ : ไฟท้าย LED, กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า, กุญแจรีโมท, พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง, เครื่องเสียงวิทยุ, Bluetooth/USB/AUX, ถุงลมนิรภัยคู่หน้า, ระบบเบรก ABS/EBD, ระบบควบคุมเสถียรภาพ VSA, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA และล้อกระทะ 15 นิ้ว พร้อมฝาครอบล้อ

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

MR.CARRO หวังว่า 6 อันดับ รถธรรมดาป้ายแดงที่ยังมีผลิตขายอยู่ หากใครอยากได้ หรือกำลังตัดสินใจจะซื้อรถป้ายแดง เกียร์ธรรมดาอยู่พอดี แต่งบไม่พอ! ก็มาขายรถคันเดิมของคุณกับทาง CARRO ดูได้ เราให้ราคาที่ดีที่สุด รับประกันความพึงพอใจ พร้อมปิดการขายภายใน 24 ชั่วโมง! กับ CARRO Express ได้ที่  https://th.carro.co/sell-car/express

หรือถ้าหากต้องการซื้อรถคุณภาพเยี่ยม CARRO เราก็มีพร้อมให้คุณเลือกอย่างมากมายด้วยเช่นกัน พร้อมรับประกันสูงสุดถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร กับ CARRO Automall ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://th.carro.co/taladrod/

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

ถ้าใครกำลังมองหารถเกียร์ธรรมดามาใช้สักคัน CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ ตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถหารถเกียร์ธรรมดา และจองรถออนไลน์ได้ในเวลาเพียง 1 นาที เท่านั้น!

ซึ่งรถของ CARRO Automall เรามีให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพอย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 200 จุด รวมไปถึงการการปรับสภาพ (Car Reconditioning) ด้วยทีมช่างมืออาชีพ ที่ผ่านการผึกอบรมตามมาตรฐานคาร์โรกว่า 40 คน พร้อมให้บริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว กว่า 20 คัน/วัน

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์

เรารับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร! (CARRO Quality Assurance) อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม กับ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

หมายเหตุ : ข้อมูลสินค้า 6 อันดับข้างต้นนี้ เป็นข้อมูลสินค้าที่ Update ณ เดือนมกราคม 2565 เมื่อเวลาผ่านไปราคาและอันดับดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ โปรดสอบถามรายละเอียดหรือราคาล่าสุด ที่ตัวแทนจำหน่ายรถรุ่นนั้นๆ อีกครั้ง

NIO รถยนต์ไฟฟ้าหรูจากจีน เปิด Nio ET5 ใหม่ ท้าชน Tesla Model 3!

การเปิดตัวรถรุ่นใหม่ของ NIO (นิโอ) ในแต่ละครั้งต้องบอกได้เลยว่าสร้างเสียงฮือฮา ให้กับคนที่สนใจในรถยนต์ไฟฟ้า (รถ EV) กันได้ตลอด ซึ่งในครั้งนี้ ทาง NIO เปิดตัว Nio ET5 (นิโอ อีที5) เพื่อออกมาท้าชนกับ Tesla Model 3 และ Xpeng P7 แถมชูจุดเด่นที่แบตเตอรี่สามารถให้ระยะทางในการขับขี่ได้มากกว่า 1,000 กิโลเมตร! ต่อการชาร์จแต่ละครั้ง

NIO คนไทยหลายคนอาจจะยังไม่คุ้นเคยกับบริษัทสตาร์ทอัพ ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีนกันนัก ซึ่ง Nio มีจุดเด่นที่ด้านการออกแบบ นวัตกรรม เทคโนโลยี เรียกได้ว่าเหมือนรถยนต์ไฟฟ้าจากฝั่งยุโรปเลยทีเดียว แถมยังได้ชื่อว่าเป็น Tesla (เทสล่า) แห่งประเทศจีนอีกด้วย!

อ่านเพิ่มเติม >> ประวัติย่อๆ ของ NIO และ William Li (วิลเลียม หลี่) หรือ หลี่ปิน มหาเศรษฐีที่ได้ชื่อว่าเป็น Elon Musk (อีลอน มัสก์) แห่งประเทศจีน

NIO รถยนต์ไฟฟ้าสุดหรูจากจีน เปิดตัว Nio ET5 ใหม่ พร้อมท้าชน Tesla Model 3!

NIO ET5 เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 4 ประตูแบบ Fluid Fastback รุ่นล่าสุดของค่าย Nio ซึ่ง NIO ET5 ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 18 ธันวาคม 2021 ที่ผ่านมา นับเป็นรถยนต์ไฟฟ้าในรูปแบบ D-Segment ที่พัฒนาให้เป็นรองจากรุ่นเรืองธงอย่าง NIO ET7 ที่เปิดตัวไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา

NIO รถยนต์ไฟฟ้าสุดหรูจากจีน เปิดตัว Nio ET5 ใหม่ พร้อมท้าชน Tesla Model 3!

ซึ่งโมเดลนี้ยังคงจุดเด่นด้วยรูปทรงล้ำสมัย ดีไซน์ด้านหน้าแบบ X-Bar กับชุดไฟหน้าแบบ LED รูปทรงเรียวเล็ก (แบบตาชั้นเดียวของคนจีน) ประตูกระจกไร้ขอบ มือจับประตูแบบซ่อนแนบสนิทข้างตัวรถ พร้อมชุดหลังคาแบบ Panoramic ที่มีขนาดใหญ่ถึง 1.28 ตร.ม. และตัวรถมีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน Cd. = 0.24 เท่านั้น

มิติตัวรถกว้าง 4,790 มม. ยาว 1,960 มม. สูง 1,499 มม. และระยะฐานล้อ 2,990 มม.

NIO รถยนต์ไฟฟ้าสุดหรูจากจีน เปิดตัว Nio ET5 ใหม่ พร้อมท้าชน Tesla Model 3!

ภายในห้องโดยสารของ Nio ET5 ตกแต่งอย่างเรียบง่าย แต่พ่วงความทันสมัยเต็มที่ด้วย Panoramic Digital Cockpit หรือ PanoCinema ที่ฉายภาพขนาดใหญ่ได้ถึง 201 นิ้ว หรือประมาณ 6 เมตร พร้อมเทคโนโลยี VR ที่พัฒนาร่วมกับ NREAL สำหรับใช้งานในรถรุ่นนี้โดยเฉพาะ พร้อมระบบเสียงรอบทิศทาง Dolby Atmos 7.1.4

อีกหนึ่งความโดดเด่นภายในรถ นั่นคือ หน้าจอขนาดใหญ่บริเวณคอนโซลกลาง พร้อมหน้าจอมาตรวัดความเร็วแบบ HDR ขนาด 10.5 นิ้ว พร้อมระบบแสดงผลแบบเสมือนจริง และยังมีระบบไฟเรืองแสงภายในห้องโดยสาร ปรับได้ถึง 256 สี เป็นต้น

NIO รถยนต์ไฟฟ้าสุดหรูจากจีน เปิดตัว Nio ET5 ใหม่ พร้อมท้าชน Tesla Model 3!

Nio ET5 มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว บริเวณล้อหน้า ให้กำลังสูงสุด 203 แรงม้า และ 285 แรงม้า สำหรับล้อหลัง ให้กำลังรวมสูงสุด 480 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 700 นิวตัน-เมตร ขับเคลื่อนด้วยระบบ All-Wheel Drive

สามารถทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 4.3 วินาทีเท่านั้น มั่นใจด้วยเบรกหน้าแบบ 4-Pot สามารถเบรกจากความเร็ว 100 กม./ชม. จนถึง 0 กม./ชม. ในระยะทางเพียง 33.9 เมตรเท่านั้น

NIO รถยนต์ไฟฟ้าสุดหรูจากจีน เปิดตัว Nio ET5 ใหม่ พร้อมท้าชน Tesla Model 3!

สำหรับชุดแบตเตอรี่ก็มีด้วยกัน 3 แบบ ได้แก่

  • แบตเตอรี่ Standard Range ขนาด 70 kWh ให้ระยะทางในการขับขี่มากกว่า 550 กิโลเมตร ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (ตามมาตรฐาน NEDC/CLTC ของประเทศจีน)
  • แบตเตอรี่ Long Range ขนาด 100 kWh ให้ระยะทางในการขับขี่มากกว่า 700 กิโลเมตร ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (ตามมาตรฐาน NEDC/CLTC ของประเทศจีน) และ …
  • แบตเตอรี่ Ultra Long Range ขนาด 150 kWh แบบ Solid-State ให้ระยะทางในการขับขี่มากกว่า 1,000 กิโลเมตร ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง! (ตามมาตรฐาน NEDC/CLTC ของประเทศจีน)

NIO รถยนต์ไฟฟ้าสุดหรูจากจีน เปิดตัว Nio ET5 ใหม่ พร้อมท้าชน Tesla Model 3!

สำหรับ Nio ET5 ได้ประกาศราคาตัวรถ (ซึ่งเป็นราคาก่อนที่รัฐบาลจีนจะให้เงินอุดหนุน) ไว้ที่ 328,000 หยวน (หรือประมาณ 1,729,200 บาท) และ 358,000 หยวน (ประมาณ 1,887,400 บาท) สำหรับรุ่น BaaS (Battery-as-a-Service) หรือระบบเปลี่ยนแบตเตอรี่ลูกเก่าเป็นลูกใหม่ ที่สถานีแบตเตอรี่ของ NIO โดยไม่ต้องเสียเวลารอคอยในการชาร์จแบตนานๆ ซึ่งเป็นค่ายเดียวในโลก ที่ใช้หลักการเปลี่ยนแบตเตอรี่อย่างรวดเร็ว (Hot Swap) ให้บริการผู้ใช้รถ (แถมต้องจ่ายค่าสมาชิกทุกเดือนด้วยนะครับ)

NIO รถยนต์ไฟฟ้าสุดหรูจากจีน เปิดตัว Nio ET5 ใหม่ พร้อมท้าชน Tesla Model 3!

ทาง NIO เอง พร้อมส่งมอบรถให้แก่ลูกค้าได้ในเดือนกันยายน 2022 นี้ และก็ไม่หยุดอยู่แค่เพียงในประเทศจีน โดยเตรียมวางแผนส่งออกรถยนต์ไฟฟ้าไปจำหน่ายในแถบยุโรป อย่างประเทศนอร์เวย์, เยอรมนี, เนเธอร์แลนด์, สวีเดน และเดนมาร์ก กับอีก 25 ประเทศทั่วโลก ภายในปี 2025 นี้อีกด้วย

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

ถ้าใครอยากขายรถคันเดิม เพื่อนำเงินไปซื้อรถยนต์ไฟฟ้าคันใหม่ มาขายรถกับทาง CARRO Express ได้ที่  https://th.carro.co/sell-car/express หรือถ้าหากต้องการซื้อรถคุณภาพเยี่ยม CARRO เราก็มีพร้อมให้คุณเลือกอย่างมากมายด้วยเช่นกัน พร้อมรับประกันสูงสุดถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร กับ CARRO Automall ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://th.carro.co/taladrod/

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

ส่วนช่วงปลายปีนี้ ใครเงินไม่พอซื้อรถ EV แต่อยากซื้อรถมือสองสภาพเยี่ยม ราคาสบายๆ CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ ตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลา 1 นาที!

ซึ่งรถของ CARRO Automall เรามีให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพอย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 200 จุด รวมไปถึงการการปรับสภาพ (Car Reconditioning) ด้วยทีมช่างมืออาชีพ ที่ผ่านการผึกอบรมตามมาตรฐานคาร์โรกว่า 40 คน พร้อมให้บริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว กว่า 20 คัน/วัน

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์

เรารับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร! (CARRO Quality Assurance) อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม กับ CARRO Automall สิ!

สำหรับช่วงเปิดตัว Flagship Store แห่งแรกของ CARRO ช่วงปลายปี 2564 นี้ ขอมอบโปรโมชั่นส่วนลดพิเศษ รับส่วนลดสูงสุด 50,000 บาท พร้อมแจก Cash Back มูลค่ารวมกว่า 800,000 บาท! และยังสามารถเลือกรับความคุ้มค่าได้อีกต่อ กับดอกเบี้ยต่ำ 2.69% หรือผ่อน 0% นานสูงสุด 6 เดือน

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

แหล่งที่มาบางส่วนจาก:

รวม 15 รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นเด่นๆ ในงาน Motor Expo 2021

ในยุคปัจจุบัน เราคงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า “รถยนต์ไฟฟ้า” หรือ Electric Vehicle (รถ EV) เริ่มมีบทบาทที่สำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ในวงการยานยนต์โลก และวงการยานยนต์ไทย ด้วยยอดขายที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ลดการใช้พลังงานเชื้อเพลิง และช่วยให้สิ่งแวดล้อมดีขึ้น

ยิ่งทางภาครัฐและภาคเอกชน เริ่มออกมาสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า รวมไปถึงระบบ Infrastructure ต่างๆ ทั้งจุดชาร์จในหางสรรพสินค้า จุดชาร์จในปั้มน้ำมัน หรือจุดชาร์จตามหน่วยงานต่างๆ ยิ่งทำให้ความนิยมของรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น ถึงแม้อาจจะยังไม่ครบคลุมทั้งประเทศก็ตาม

ในงาน Motor Expo 2021 (อเตอร์เอ็กซ์โป 2021) ที่จัดขึ้นในเวลานี้ MR.CARRO ขอพาทุกท่านไปชมกับ รถยนต์ไฟฟ้า 15 รุ่นยอดฮิตภายในงาน Motor Expo 2021 จะมีรุ่นใดบ้างที่น่าสนใจ ไปดูกันได้เลยครับ …

ORA Good Cat

1. ORA Good Cat

ORA Good Cat (โอร่า กู๊ดแคท) เรียกได้ว่าแรงจนฉุดไม่อยู่เลยจริงๆ คนดูกันแน่นขนัดในงาน Motor Expo 2021 สำหรับเจ้าแมวเหมียวไฟฟ้าคันนี้ ที่พายอดจองไปอย่างถล่มทลาย กว่าจะได้รับรถก็กลางปีหน้าทีเดียว! แต่ราคาเปิดออกมาก็ดูเหนือความคาดหมายเช่นเดียวกัน กับ 2 รูปแบบแบตเตอรี่ และ 3 รุ่นย่อย พร้อมโปรเด็ด ORA Good Cat Ultra Deal

ORA Good Cat ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 105 กิโลวัตต์ (143 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 210 นิวตัน-เมตร ให้อัตราเร่ง 0-50 กม./ชม. ภายใน 3.8 วินาที จำกัดความเร็วสูงสุดไว้ที่ 152 กม./ชม. ถ่ายทอดกำลังผ่านระบบเกียร์ ORA-Goddess Easy Drive พร้อมระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ

การชาร์จแบบเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC (30%–>80%) ใช้เวลาประมาณ ≈32 นาที และ 40 นาที (ในรุ่น 500 Ultra), ชาร์จแบบเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC (0%–>80%) ใช้เวลาประมาณ ≈45 นาที และ ≈60 นาที (ในรุ่น 500 Ultra) กับการชาร์จไฟบ้านแบบ AC ใช้เวลาประมาณ ≈8 ชั่วโมง และ ≈10 ชั่วโมง (ในรุ่น 500 Ultra)

ในราคาเบาๆ 989,000 – 1,199,000 บาท!

Pocco Duoduo

2. Pocco Duoduo

Pocco Duoduo (ป๊อคโค่ ตั่วตั่ว) หรือ 朋克多多 เป็นรถภายใต้แบรนด์ 朋克 (เผิงเค่อ) มาจากภาษาอังกฤษคำว่า Punk (พังก์) เป็นรถพลังงานไฟฟ้าแบบ Tall Boy 4 ประตู (ดูคล้ายกับรถ K-Car ของญี่ปุ่น) นั่งได้ 4-5 ที่นั่ง ผสมผสานการตกแต่งที่เป็นเอกลักษณ์ จุดชาร์จไฟอยู่บริเวณด้านหน้ารถ โดยใช้สีทูโทนเพื่อให้ดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้น เพิ่งเปิดตัวไปในจีนเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 29 กิโลวัตต์ (39 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 110 นิวตัน-เมตร พร้อมแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนฟอสเฟต มีขนาด 10.3 kWh (ใช้เวลาชาร์จ 6-8 ชั่วโมง) สามารถขับขี่ได้เป็นระยะทางประมาณ 128 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC (ไฟบ้าน 0-100%) ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง

และยังมีแบตเตอรี่ขนาด 14.5 kWh (ใช้เวลาชาร์จ 6-8 ชั่วโมง) ที่เพิ่มระยะทางขึ้นเป็น 178 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC ต่อการชาร์จ (ไฟบ้าน 0-100%) หนึ่งครั้ง ให้เลือก ทำความเร็วได้สูงสุด 100 กม./ชม.

สนนราคารุ่น L เริ่มต้นที่ 389,000 บาท! (รุ่นแบตเตอรี่ 10.3 kWh) และรุ่น K ราคา 449,000 บาท (รุ่นแบตเตอรี่ 14.5 kWh)

Pocco Meimei

3. Pocco Meimei

Pocco Meimei Mini EV (ป๊อคโค่ เม่ยเม่ย) หรือ 朋克美美 เป็นรถพลังงานไฟฟ้าแบบ 3 ประตู 4 ที่นั่ง ขนาดเล็ก ที่เปิดตัวในจีนตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา สามารถขับขี่ในเมืองได้อย่างสะดวก กับนวัตกรรมสุดล้ำ ยิ่งทวีคูณความน่ารัก น่าเลิฟ ถูกใจคุณผู้หญิงอย่างแน่นอน

มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 20 กิโลวัตต์ (27 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 100 นิวตัน-เมตร และกำลังสูงสุด 29 กิโลวัตต์ (39 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 105 นิวตัน-เมตร พร้อมแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนฟอสเฟต มีขนาด 9.2 kWh (ใช้เวลาชาร์จ 6-8 ชั่วโมง) สามารถขับขี่ได้เป็นระยะทางประมาณ 116 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC (ไฟบ้าน 0-100%) ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง

และยังมีแบตเตอรี่ขนาด 14 kWh (ใช้เวลาชาร์จ 6-8 ชั่วโมง) ที่เพิ่มระยะทางขึ้นเป็น 170 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC ต่อการชาร์จ (ไฟบ้าน 0-100%) หนึ่งครั้ง ให้เลือก ทำความเร็วได้สูงสุด 100 กม./ชม.

สนนราคารุ่น L เริ่มต้นที่ 399,000 บาท! (รุ่นแบตเตอรี่ 10.3 kWh) และรุ่น K ราคา 469,000 บาท (รุ่นแบตเตอรี่ 14.5 kWh)

Lexus UX300e

4. Lexus UX 300 e

The New All-Electric Lexus UX 300e (เลกซัส ยูเอ็กซ์300อี) จัดเป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกจากค่ายเลกซัส ภายใต้แบรนด์ “LEXUS ELECTRIFIED” ซึ่ง Lexus ประเทศญี่ปุ่น ได้ประกาศอย่างเป็นทางการในงานโตเกียวมอเตอร์โชว์ 2019 เพื่อใช้เป็นกลยุทธ์ในการดำเนินงานของรถยนต์ไฟฟ้าภายใต้แบรนด์เลกซัสทั่วโลก

โดย The New All-Electric Lexus UX 300e ยนตรกรรมรถยนต์ไฟฟ้า มีรูปลักษณ์ภายนอกโดดเด่นด้วยเส้นสายที่เฉียบคม ภายในออกแบบอย่างปราณีต ให้ความสำคัญกับผู้ขับขี่และผู้โดยสารเป็นหลัก พร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานที่ล้ำสมัยสมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยมเหนือใครจากสถาปัตยกรรมโครงสร้างตัวถังแบบใหม่ GA-C (Global Architecture-Compact Platform) ซึ่งมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ การทรงตัวดีเยี่ยม

พร้อมด้วยระบบการขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้าที่สมบูรณ์แบบ ให้พละกำลังสูงสุดถึง 201 แรงม้า อัตราเร่งแรง ดุดัน มีสมรรถนะอันทรงพลัง โดยระยะทางวิ่งได้สูงสุด 360* กม.ต่อการชาร์จไฟหนึ่งครั้ง (ตามมาตรฐาน NEDC)

และชาร์จแบบ Quick DC Charger 0-80% ได้ภายใน 50 นาที สำหรับการชาร์จแบบกระแสตรงผ่านการชาร์จด้วยเครื่องชาร์จ 50 กิโลวัตต์ ด้วยกำลังไฟ 125 แอมป์ โดยแบตเตอรี่มีขนาด 54 kWh

ราคาก็รับได้ 3,490,000 บาท!

Nissan Leaf

5. Nissan Leaf

Nissan Leaf (นิสสัน ลีฟ) “Simply Amazing” เป็นรถยนต์ไฟฟ้าขายดีที่สุดรุ่นหนึ่งของโลก ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า “100%” และมีอัตราการปล่อยมลพิษเป็น “0” และถือเป็นรถค่ายญี่ปุ่นเจ้าแรก ที่กระโดดลงมาทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยอย่างจริงจัง แม้ว่าราคาของตัวรถจะยังสูงอยู่ก็ตาม

Nissan Leaf ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 320 นิวตัน-เมตร ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลา 7.9 วินาที รองรับการขับขี่เป็นระยะทาง 311 กิโลเมตร ต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน NEDC

ติดตั้งแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนความจุ 40 kWh สามารถชาร์จด้วยกำลังไฟขนาด 3.6 kW ได้ในเวลา 12 ชั่วโมง และกำลังไฟขนาด 6.6 kW ในเวลา 6 ชั่วโมง รองรับการชาร์จด่วนจนถึงระดับ 80% ได้ในเวลา 40 นาที

Nissan Leaf ในราคาพร้อมซื้อ 1,490,000 บาท!

MG-EP-Plus

6. MG EP EV Plus

MG EP (เอ็มจี อีพี) รถยนต์ในรูปแบบ Station Wagon ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% ด้วยแนวคิด “EVeryone ตอบโจทย์ทุกฟังก์ชัน รถยนต์พลังงานไฟฟ้าของทุกคน” มีค่าใช้จ่ายการชาร์จไฟฟ้าตั้งแต่0-100% เฉลี่ยเพียง200 บาทหรือเฉลี่ยค่าใช้จ่ายไม่ถึง 1 บาท/กม. จึงทำให้ประหยัดกว่ารถยนต์น้ำมั 2-3 เท่า

ประกอบด้วยองค์ประกอบพื้นฐาน ได้แก่ ขนาดของห้องโดยสารและพื้นที่ใช้สอย ที่กว้างขวางรองรับการบรรทุกทั้งคนและสิ่งของ โดดเด่นด้วยสมรรถนะของ EV เทคโนโลยีที่ให้กำลังเพียงพอต่อการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน พร้อมระบบความปลอดภัยที่ครบครัน นอกจากนี้ ยังมีหน้าจอ Touchscreen ขนาด 8 นิ้ว ที่รองรับการเชื่อมต่อกับ Apple CarPlay

และในส่วนของรุ่น Plus ได้ติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติมทั้งชุดราวหลังคา (Roof Rail) รองรับน้ำหนักได้ถึง 75 กิโลกรัม, ติดตั้งระบบกรองอากาศ PM 2.5 และแผ่นปิดห้องเครื่องด้านหน้า

และสมรรถนะจาก EV เทคโนโลยี (EV Technology) ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่มีกำลังสูงสุด 163 แรงม้า มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายในเวลาเพียง 8.8 วินาที พร้อมโหมดการขับขี่ให้เลือก 3 รูปแบบ คือ Eco, Normal และ Sport รวมทั้งมีระบบชาร์จไฟกลับเมื่อชะลอความเร็ว หรือ KERS Mode รวม 3 ระดับ

สำหรับแบตเตอรี่ของ NEW MG EP เป็นลิเธียมไอออนแบบโมดูล ที่สามารถแยกซ่อมแต่ละโมดูลได้อิสระ โดยมีขนาดความจุถึง 50.3 kWh ให้ระยะทางในการขับขี่ได้ไกลถึง 380 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง

ซึ่งสามารถชาร์จไฟได้ 2 รูปแบบ คือ การชาร์จในรูปแบบ Normal Charge จาก 0-100% ผ่าน MG Home Charger ที่ใช้เวลา 7.15 ชั่วโมง และรูปแบบ Quick Charge จาก 0-80% ผ่านสถานีอัดประจุไฟฟ้าแบบเร็ว ซึ่งใช้ระยะเวลาเพียง 40 นาที

ในราคาเบาๆ 998,000 บาท!

Mercedes-Benz-EQS-450+-AMG-Premium

7. Mercedes-Benz EQS 450+ AMG Premium

Mercedes-Benz EQS 450+ AMG Premium (เมอร์เซเดส-เบนซ์ อีคิวเอส 450+ เอเอ็มจี พรีเมียม) จัดว่าเป็นรถยนต์ไฟฟ้าคันแรกจากแบรนด์ Mercedes-EQ ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน Motor Expo 2021 ครั้งนี้ ซึ่งเป็นการปรับตัวของ Mercedes-Benz จากเน้นผลิต “รถยนต์ไฟฟ้านำ” (Electric-First) เป็นการผลิต “รถยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น” (Electric-Only) ที่จะเกิดขึ้นภายในปี 2030

โดยรถยนต์คันนี้รังสรรค์ขึ้นด้วยแพลตฟอร์มของยานยนต์ไฟฟ้าใหม่ในทุกรายละเอียด ทั้งการออกแบบโครงสร้างทางวิศวกรรม เรื่อยไปจนถึงดีไซน์ภายนอกและภายใน

มาพร้อมขุมพลังไฟฟ้า 100% จากมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวพร้อมความจุของแบตเตอรี่ขนาด 107.8 kWh ให้แรงม้าสูงสุด 333 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 568 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่งที่ยอดเยี่ยมจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 6.2 วินาที ทำความเร็วสูงสุดได้ 210 กม./ชม. ซึ่งด้วยความจุของแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ทำให้รถยนต์คันนี้สามารถวิ่งได้ไกลสูงสุด 770 กิโลเมตร (WLTP) ต่อการชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม 1 ครั้ง

พร้อมขาย และเปิดราคาอย่างเป็นทางการในปี 2565 จ้า

Tesla Model Y

8. Tesla Model Y

Tesla Model Y (เทสลา โมเดล วาย) รถยนต์ไฟฟ้าชื่อดังที่สุดในโลก ในรูปแบบ Crossover 5 ที่นั่งรุ่นล่าสุด สร้างบนพื้นฐานของ Tesla Model 3 กับราคาที่จับต้องได้ ที่แม้ว่าในบ้านเรา Tesla ยังไม่ได้เข้ามาทำตลาดด้วยตัวเอง แต่ก็มีผู้จำหน่ายอิสระได้นำเข้ามาขายกันหลายเจ้าเลยทีเดียว

ขุมพลัง มีให้เลือกทั้งแบบ Single Motor และ Dual Motor ขับเคลื่อนล้อหลัง และแบบ AWD ในรุ่น Dual Motor มอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 283 แรงม้า พร้อมแบตเตอรี่ที่มีให้เลือกทั้งแบบ Standard Plus, Long Range และ Performance เป็นแบบขนาด 75 kWh

ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 5.6 วินาที (Standard Plus), 5 วินาที (Long Range) และ 3.3 วินาที (Performance) ทำความเร็วได้สูงสุด 217 กม./ชม. (Standard Plus, Long Range) และ 250 กม./ชม. (Performance) ให้ระยะทางวิ่ง 455 กิโลเมตร (Single Motor), 542 กิโลเมตร (Dual Motor) และ 528 กิโลเมตร (Performance) ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (คำนวณตามมาตรฐาน WLTP) โดยใช้เวลาชาร์จประมาณ 6 – 6.5 ชั่วโมง

ราคาพิเศษเพียง 2,990,000 บาท! จองในงานพร้อมรับฟรี Wall box (แท่นชาร์จ) จาก Tesla มูลค่ากว่า 5 หมื่นบาท

Audi e-tron Sportback

9. Audi e-tron Sportback

Audi e-tron Sportback (อาวดี้ อี-ทรอน สปอร์ตแบค) นำเข้ามาประเทศไทยเป็นโมเดลที่ 2 ของรถยนต์ไฟฟ้า Audi สะท้อนวิสัยทัศน์ของ Audi ที่ว่า “รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100 % คือ อนาคต” และสะท้อนปรัชญาพื้นฐาน “Vorsprung Durch Technik” โดยมีความสมบูรณ์แบบทั้งด้านดีไซน์ เทคโนโลยี สมรรถนะอันยอดเยี่ยม

มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ อัจฉริยะแบบไฟฟ้า (electric quattro) ติดตั้งแบตเตอรี่แบบลิเธียม-ไอออน ขนาด 95 kWh สามารถขับขี่ได้เป็นระยะทางราว 463 กิโลเมตรต่อการชาร์จแต่ละครั้ง (ตามมาตรฐาน NEDC)

ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าจำนวน 2 ตัว ให้กำลังสูงสุด 360 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 561 นิวตัน-เมตร พร้อม Boost mode ที่ให้กำลังสูงสุดเพิ่มขึ้นเป็น 408 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 664 นิวตัน-เมตร เป็นเวลานาน 8 วินาที ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 6.6 วินาที และ 5.7 วินาที ใน Boost mode ทำความเร็วสูงสุดได้ 200 กม./ชม.

ในราคาจับต้องได้ เพียง 5,299,000 บาท!

Audi e-tron GT

10. Audi e-tron GT

Audi e-tron GT (อาวดี้ อี-ทรอน จีที) ซุปเปอร์คาร์พลังงานไฟฟ้า 100% สเปคไทยพวงมาลัยขวา เป็นยนตรกรรมที่น่าตื่นเต้นที่สุด ฮอตที่สุด หลังจากการเปิดตัวผ่าน Online World Premier ของ AUDI AG เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมา ผลิตจากโรงงาน Böllinger Höfe ประเทศเยอรมนี

เป็นยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นที่ 3 ที่ทาง อาวดี้ ประเทศไทย นำเข้ามาจำหน่าย พร้อมข้อเสนอราคาพิเศษเริ่มต้นเพียง 6,390,000 บาท สำหรับรุ่น e-tron GT quattro ส่วน e-tron GT quattro Performance ราคาเพียง 6,790,000 บาท และตัวท็อปที่สุดคือ RS e-tron GT quattro เปิดตัวในราคาเพียง 9,490,000 บาท พร้อมออฟชั่นจัดเต็ม คุ้มค่าอย่างแน่นอน

มาพร้อมกับนวัตกรรมไฟหน้า Matrix LED with Laser light กับหลังคาพาโนรามิคผสานเทคโนโลยีอันทันสมัยในการกรองแสง โดยมาพร้อมล้อขนาด 20 นิ้ว ดิสก์เบรก 4 ล้อ พร้อมคาลิเปอร์เบรกสีดำ

การออกแบบที่ยึดมั่นใน DNA ของ Audi สะท้อนให้เห็นความโดดเด่นและแตกต่างอย่างลงตัว ด้วยพลังงานจากมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ของ e-motors ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตำแหน่ง กำลังสูงสุด 530 แรงม้า ใน Boost Mode แรงบิดสูงสุด 630 นิวตันเมตร ส่วนในรุ่น Top อย่าง RS ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตำแหน่ง ให้พละกำลังสูงถึง 646 แรงม้า ใน Boost Mode แรงบิดสูงสุด 830 นิวตันเมตร
มาพร้อมกับระบบ Electric quattro ที่เพิ่มสมรรถนะการขับขี่ การทรงตัว และออกตัวในลักษณะเร่งแซงมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ Audi ไม่หยุดที่จะพัฒนาเทคโนโลยี ที่เรียกกันว่า e-sound เสียงสังเคราะห์ e-tron แบบ Sports เพิ่มสุนทรียภาพในการขับขี่ด้วยเสียงสังเคราะห์ ยกระดับให้ความสนุกสนานในการขับรถไฟฟ้าอย่างสมบูรณ์แบบ

อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. 4.1 วินาที ใน Boost Mode ทำความเร็วได้สูงสุด 245 กม./ชม. แบตเตอรี่ไฟฟ้าแรงสูงลิเธียมไอออน ความจุ 93.4 kWh ทำให้ขับได้กว่า 540 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (ตามมาตรฐานการทดสอบแบบ NEDC)

และในรุ่น Top สุด อย่าง RS ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เพียง 3.3 วินาที ใน Boost Mode ทำความเร็วได้สูงสุด 250 กม./ชม. สามารถขับได้ไกลถึง 504 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (ทดสอบตามมาตรฐาน NEDC)

ราคาเริ่มต้นที่ 6,399,000 บาท

Porsche Taycan 4S Cross Turismo

11. Porsche Taycan 4S Cross Turismo

Porsche Taycan 4S Cross Turismo (ปอร์เช่ ไทคานน์ 4เอส ครอส ทัวริสโม) ใหม่ รถสปอร์ตพลังงานไฟฟ้าคันแรกของแบรนด์ในเวอร์ชั่นออฟโรด (Off-Road) ต่อยอดความสำเร็จจาก Taycan โดยยังคงรักษาไว้ซึ่งความโดดเด่นจากนวัตกรรมระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าแรงดัน 800 โวลต์

และมีช่วงล่างที่ประกอบไปด้วย เทคโนโลยีขั้นสูงพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ All-Wheel Drive และระบบถุงลมปรับระดับอัตโนมัติ Adaptive Air Suspension รองรับสมรรถนะการขับขี่รองรับสมรรถนะการขับขี่รูปเเบบสปอร์ตบนเส้นทาง Off-Road และ On Road

รููปลักษณ์ภายนอกใกล้เคียงรถต้นแบบ Mission E Cross Turismo Concept Study ตัวรถมีเส้นโค้งของแนวหลังคา ลาดยาวจรดท้ายให้อารมณ์สปอร์ต มีชื่อเรียกจากบรรดานักออกแบบของปอร์เช่ ว่า “Flyline” พร้อมพื้นที่เหนือศีรษะภายในห้องโดยสารตอนหลังที่เพิ่มขึ้นถึง 47 มม. พื้นที่ท้ายรถมีความจุุมากขึ้นกว่า 1,200 ลิตร พร้อมฝาท้ายขนาดใหญ่ และสามารถติดตั้งจักรยานไว้บริเวณท้ายรถสูงสุดถึง 3 คัน ด้วยจุดยึดแบบ Universal

Porsche Taycan 4S Cross Turismo มาพร้อมกับพละกำลังสูงสุด 490 แรงม้า และ Overboost เป็น 571 แรงม้า ในโหมด Launch Control ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 4.1 วินาที ความเร็วสูงสุด 240 กม./ชม. สามารถขับขี่ได้เป็นระยะทางประมาณ 388-452 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน WLTP)

ในราคาเริ่มต้น 6,790,000 บาท

Mini Electric

12. Mini Electric

MINI Cooper SE (มินิ คูเปอร์ เอสอี) ใหม่ สืบทอดตำนานความคลาสสิกตามแบบฉบับมินิ 3 ประตู ในรูปแบบรถยนต์ไฟฟ้า

ดีไซน์ภายนอกมาพร้อมการออกแบบที่โดดเด่นและชัดเจน สะท้อนถึงเทคโนโลยีแห่งอนาคตที่ล้ำสมัย มาพร้อมไฟหน้า LED พร้อมล้ออัลลอยน้ำหนักเบาขนาด 17 นิ้ว ลาย MINI Electric Power Spoke พร้อมยางรันแฟลตพิเศษเฉพาะ ฝาครอบที่ชาร์จไฟฟ้าอยู่เหนือล้อหลังด้านขวา ตำแหน่งเดียวกับฝาถังน้ำมันของมินิ 3 ประตู บนฝาแสดงสัญลักษณ์ MINI Electric

ขุมพลังแบบมอเตอร์ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงรุ่นใหม่ล่าสุดที่ BMW Group ได้พัฒนาขึ้น ประกอบด้วยเซลล์แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนจำนวน 12 โมดูล ติดตั้งในรูปทรงตัว T บริเวณใต้รถ จุพลังงานไฟฟ้ารวม 32.6 kWh ให้กำลังสูงสุด 184 แรงม้า และมอบแรงบิดสูงสุด 270 นิวตันเมตร ได้ทันทีที่เท้าแตะคันเร่งแม้จากรถหยุดนิ่ง ส่งความเร็วจาก 0 ถึง 60 กม./ชม. ได้ภายใน 3.9 วินาที โดยมอบพลังหากชาร์จเต็มหนึ่งครั้งสามารถวิ่งได้ระยะทาง 217 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน NEDC)

ตำแหน่งที่ตั้งของแบตเตอรี่แรงดันสูงบริเวณใต้ท้องรถ ระหว่างเบาะนั่งด้านหน้าไปจนถึงบริเวณใต้เบาะหลัง ทำให้มินิ คูเปอร์ เอสอี มีพื้นที่ในการเก็บสัมภาระมากกว่ารุ่นอื่นๆ และเพื่อเป็นการสร้างระยะห่างจากแบตเตอรี่ใต้ท้องรถและพื้นถนน จึงได้รับการออกแบบให้สูงกว่ามินิรุ่นอื่นๆ 18 มิลลิเมตร

MINI Cooper SE ยังติดตั้งระบบการจำลองเสียงเพื่อเตือนคนเดินถนน ซึ่งเป็นเสียงเฉพาะรุ่นเท่านั้น โดยจำลองเสียงผ่านทางระบบลำโพงสำหรับขณะขับขี่ที่ความเร็วต่ำ โดยทุกชิ้นส่วนของระบบการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า จะถูกปกป้องด้วยโครงสร้างที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ และจะหยุดการทำงานทั้งหมดทันทีหากเกิดการชน

มาในราคา 2,290,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม โปรแกรมบำรุงรักษา MSI Standard)

Volvo XC40 Recharge

13. Volvo XC40 Recharge

Volvo XC40 Recharge Pure Electric (วอลโว่ เอ็กซ์ซี40 เพียว อิเล็กทริค) รถยนต์ไฟฟ้าแบบ Crossover SUV ขนาด Compact รุ่นแรกจากค่าย Volvo ที่ทำตลาดอย่างเป็นทางการในไทย เปิดตัว (แต่ไม่มีรถตัวจริงมาโชว์) ไปในงาน Motor Show 2021 ที่ผ่านมา

ภายนอกใช้กระจังหน้าเป็นแบบยูนิบอดี้ เพื่อบ่งบอกให้รู้ว่านี่คือรถตระกูลไฟฟ้าของ Volvo พร้อมการตกแต่งภายในระดับพรีเมียมด้วยวัสดุหนังสีดำ รวมถึงระบบปฏิบัติการ Android Automotive OS ที่พัฒนาร่วมกับ Google ที่ใช้ในการขับขี่ และระบบความปลอดภัยขั้นสูงเต็มรูปแบบ

มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าติดตั้ง 2 ตำแหน่งขนาด 204 แรงม้า ที่ด้านหน้าและด้านหลัง ซึ่งส่งกำลังไปยังล้อโดยตรง ให้กำลังรวมสูงสุด 408 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 660 นิวตันเมตร พร้อมความจุแบตเตอรี่ไฟฟ้าแรงสูงแบบลิเธียมไอออน ขนาด 78 kWh

ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 4.9 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ 180 กม./ชม. ให้ระยะทางวิ่งได้สูงสุด 418 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP  ต่อการชาร์จเต็มในแต่ละครั้ง สามารถชาร์จผ่าน Wallbox ขนาด 11 kw จาก 0-100% ได้ในเวลาประมาณ 6-8 ชั่วโมง และรองรับระบบชาร์จด่วนจนถึงระดับ 80% ในเวลาประมาณ 40 นาที

สำหรับราคาจำหน่าย ยังครอบคลุมถึงค่าบริการชาร์จไฟจาก EA Anywhere เป็นเวลา 1 ปีเต็ม

BMW iX3 M Sport

14. BMW iX3 M Sport

BMW iX3 M Sport (บีเอ็มดับเบิลยู ไอเอ็กซ์3 เอ็ม สปอร์ต) ตัวรถเอกลักษณ์สุดล้ำ ประสานประสิทธิภาพของมอเตอร์ไฟฟ้าเข้ากับความหนาแน่นและความจุพลังงานไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นของแบตเตอรี่แรงดันสูง มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า แผงวงจรไฟฟ้า เทคโนโลยีการชาร์จ และแบตเตอรี่แรงดันสูงรุ่นล่าสุด ที่ได้รับการยกระดับในด้านสมรรถนะการทำงาน การใช้พลังงานไฟฟ้า และระยะทางในการขับขี่ อีกทั้งยังเพิ่มความหนาแน่นและศักยภาพของกำลังไฟฟ้าด้วยการรวมมอเตอร์ไฟฟ้า วงจรอิเล็กทรอนิกส์ และระบบเกียร์ไว้ภายใต้โครงสร้างเดียวกัน เช่นเดียวกับ BMW iX

ระบบขับเคลื่อนรุ่นใหม่ใน BMW iX3 M Sport ส่งพละกำลังสูงสุด 286 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ซึ่งโดดเด่นว่ามอเตอร์ไฟฟ้าในรุ่นอื่นๆ ด้วยความสามารถในการคงแรงบิดได้แม้ระหว่างรอบสูง โลดแล่นจาก 0 ถึง 100 กม./ชม. ภายใน 6.8 วินาที ทำความเร็วสูงสุด 180 กม./ชม.

ขับขี่สนุกอย่างอุ่นใจด้วยระบบป้องกันการลื่นไถลของล้อ (Near-Actuator Wheel Slip Limitation) ปริมาตรความจุแบตเตอรี่เพิ่มขึ้นกว่าเดิมอย่างมากเมื่อเปรียบเทียบกับพื้นที่การติดตั้งและน้ำหนัก ส่วนความจุพลังงานรวมอยู่ที่ 80kWh เพื่อขับเคลื่อนให้ BMW iX3 ขับขี่ได้ไกลถึง 460 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP และ 470 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC

สนนราคา 3,399,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม แพ็คเกจบำรุงรักษา BSI Standard นาน 4 ปี และแท่นชาร์จ BMW i Wallbox จำนวนจำกัด)

BMW iX xDrive50 Sport

15. BMW iX

BMW iX (บีเอ็มดับเบิลยู ไอเอ็กซ์) มาพร้อมเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าใหม่ล่าสุด พร้อมความล้ำยุคด้านเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติและการเชื่อมต่ออีกมากมาย มาพร้อมเทคโนโลยี BMW eDrive และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบไฟฟ้า ซึ่งทำงานร่วมกันเพื่อสร้างสมรรถนะการขับขี่ในระยะยาวไกลยิ่งขึ้นและอัตราเร่งที่ทรงพลัง

BMW iX xDrive50 Sport ส่งพละกำลังรวมสูงสุด 385 กิโลวัตต์/523 แรงม้า ระบบ BMW eDrive เจเนอเรชั่นที่ห้านี้ยังทำงานพร้อมเทคโนโลยีเซลล์แบตเตอรี่ล่าสุด มอบระยะทางขับเคลื่อนตามมาตรฐาน WLTP สูงสุดถึง 630 กิโลเมตร สร้างแรงบิดรวมได้สูงสุดถึง 765 นิวตันเมตร ระบบป้องกันการลื่นไถลของล้อ (Near-Actuator Wheel Slip Limitation) ได้รับการติดตั้งควบคู่กับระบบ AWD เป็นครั้งแรก ช่วยป้องกันการลื่นไถลของล้อและเพิ่มความเสถียรภาพในการควบคุมรถยิ่งขึ้นอีกระดับ จึงโลดแล่นด้วยความเร็วจาก 0 ถึง 100 กม./ชม. ได้ภายใน 4.6 วินาที

แบตเตอรี่แรงดันสูงใน BMW iX xDrive50 Sport มีความจุพลังงานรวม 111.5 kWh หัวชาร์จแบบ Combined Charging Unit (CCU) ได้รับการออกแบบมาเพื่อมอบการชาร์จที่ยืดหยุ่น รองรับการชาร์จแบบ DC ได้สูงสุด 200 กิโลวัตต์ และสำหรับการชาร์จจากเครื่องชาร์จ 100 กิโลวัตต์นั้น จะใช้เวลาราว 56 นาที ในการชาร์จจาก 10% ถึง 80%

ระบบการนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่แบบแปรผัน (Adaptive Recuperation) ช่วยเสริมประสิทธิภาพและระยะการขับขี่ของบีเอ็มดับเบิลยู iX xDrive50 Sport ด้วยการดึงพลังงานจากระบบเบรกกลับมาใช้ใหม่ให้เหมาะสมกับสภาวะการขับขี่ โดยใช้ข้อมูลจากระบบนำทางและเซนเซอร์จากระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ยกตัวอย่างเช่น เมื่อรถเข้าใกล้ทางแยก ระดับการดึงพลังงานกลับมาใช้ใหม่จะเพิ่มสูงขึ้น เพื่อเติมพลังงานไฟฟ้ากลับเข้าสู่แบตเตอรี่แรงดันสูง ในขณะเดียวกันก็จะทำให้ความเร็วการขับขี่ลดลง และจะทำงานสลับกับฟังก์ชั่น Coasting ขณะขับขี่บนท้องถนน ซึ่งช่วยให้รถเคลื่อนที่ได้โดยไม่ต้องใช้พลังงานเมื่อผู้ขับขี่ยกเท้าออกจากแป้นคันเร่ง ผู้ขับขี่สามารถเลือกระดับการนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่ได้ตามต้องการ ระหว่างระดับสูง ปานกลาง และต่ำ โดยเมื่อเลือกขับขี่ด้วยเกียร์ B ระบบ Recuperation จะทำงานที่ระดับสูงสุดโดยอัตโนมัติเพื่อสร้างประสบการณ์ในการขับขี่แบบ One-Pedal Feeling

ราคาเบาๆ เพียง 5,999,000 บาท!

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

ถ้าใครอยากขายรถคันเดิม เพื่อนำเงินไปโปะรถคันใหม่ จะได้ผ่อนดาวน์กันน้อยลง มาขายรถกับทาง CARRO Express ได้ที่  https://th.carro.co/sell-car/express หรือถ้าหากต้องการซื้อรถคุณภาพเยี่ยม CARRO เราก็มีพร้อมให้คุณเลือกอย่างมากมายด้วยเช่นกัน พร้อมรับประกันสูงสุดถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร กับ CARRO Automall ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://th.carro.co/taladrod/

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

และอีกหนึ่งบริการใหม่! CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น!

รถของเราทุกคันผ่านการตรวจสภาพ 200 จุด และยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ให้คุณเลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา พร้อมรับประกันคุณภาพรถนาน 1 ปี หรือสูงสุด 30,000 กิโลเมตร อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย เรามีรถให้คุณเลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

ราคารถใหม่ Isuzu ปี 2022 ทุกรุ่น Update ล่าสุด!

รวมราคารถใหม่ Isuzu (อีซูซุ) Update 8/10/2021

CARRO นำเสนอราคารถใหม่ 2022 รถกระบะ Isuzu (อีซูซุ) และ Isuzu 2022 โฉมใหม่ราคาทุกรุ่น Update ล่าสุด ครบถ้วน

หากช่วงนี้ใครต้องการซื้อรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพได้มาตรฐาน รับประกันพร้อมโอนทุกคัน หรือหารถมือสองยี่ห้อ/รุ่นที่ต้องการ มาซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ที่ CARRO Automall สิ! โทร. 02-508-8690 หรือจะ Inbox มาสอบถามก็ได้ที่ Facebook CARRO Automall – รถบ้านมือสอง ถ้าสะดวก Add Line @carroautomall

แต่ถ้าคุณอยาก “ขายรถ” คันเดิม เพื่อซื้อรถคันใหม่ หรือรับเงินก้อนไปใช้ สามารถขายรถด่วนกับ CARRO ได้ ง่ายๆ ได้เงินไว! และฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย พร้อมปิดการขายภายใน 24 ชั่วโมง! กับ CARRO Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothai หรือคลิกที่นี่ ขายรถด่วน! —> เพิ่มเพื่อน

รถกระบะ Isuzu D-Max 2021

All-New-Isuzu-D-Max-Spark-2019

Spark

  • Cab Chassis ราคา 510,000 บาท
  • Cab Chassis A/T ราคา 545,000 บาท
  • Cab Chassis (Refrigerator) ราคา 515,000 บาท
  • Spark 1.9 Ddi B ราคา 547,000 บาท
  • Spark 1.9 Ddi S ราคา 572,000 บาท
  • Spark 1.9 Ddi S A/T ราคา 607,000 บาท
  • Spark 3.0 Ddi S ราคา 590,000 บาท
  • Spark 4X4 3.0 Ddi S ราคา 675,000 บาท

All-New-Isuzu-D-Max-Hi-Lander-2-Door-2019

Spaceccab / Hi-Lander 2 ประตู

  • Spacecab 1.9 Ddi S ราคา 605,000 บาท
  • Spacecab 1.9 Ddi S A/T ราคา 640,000 บาท
  • Spacecab 3.0 Ddi S ราคา 628,000 บาท
  • Spacecab 1.9 Ddi L ราคา 673,000 บาท
  • Spacecab 1.9 Ddi L DA ราคา 688,000 บาท
  • Spacecab 1.9 Ddi Z ราคา 735,000 บาท
  • Hi-Lander 1.9 Ddi L ราคา 708,000 บาท
  • Hi-Lander 1.9 Ddi L DA ราคา 723,000 บาท
  • Hi-Lander 1.9 Ddi Z ราคา 781,000 บาท
  • Hi-Lander 1.9 Ddi Z A/T ราคา 816,000 บาท
  • Hi-Lander 1.9 Ddi ZP ราคา 848,000 บาท
  • Hi-Lander 1.9 Ddi ZP A/T ราคา 883,000 บาท
  • Hi-Lander 3.0 Ddi ZP ราคา 878,000 บาท

All-New-Isuzu-D-Max-Hi-Lander-4-Door-2019

Cab4 / Hi-Lander 4 ประตู

  • Cab4 1.9 Ddi S ราคา 686,000 บาท
  • Cab4 1.9 Ddi S ราคา 721,000 บาท
  • Cab4 1.9 Ddi L ราคา 764,000 บาท
  • Cab4 1.9 Ddi L DA ราคา 779,000 บาท
  • Cab4 1.9 Ddi Z ราคา 840,000 บาท
  • Hi-Lander 1.9 Ddi L ราคา 802,000 บาท
  • Hi-Lander 1.9 Ddi L DA ราคา 825,000 บาท
  • Hi-Lander 1.9 Ddi Z ราคา 882,000 บาท
  • Hi-Lander 1.9 Ddi Z A/T ราคา 917,000 บาท
  • Hi-Lander 1.9 Ddi Z ราคา 955,000 บาท
  • Hi-Lander 1.9 Ddi ZP A/T ราคา 990,000 บาท
  • Hi-Lander 1.9 Ddi M A/T ราคา 1,023,000 บาท
  • Hi-Lander 3.0 Ddi ZP ราคา 986,000 บาท
  • Hi-Lander 3.0 Ddi M A/T ราคา 1,054,000 บาท

All-New-Isuzu-D-Max-V-Cross

V-Cross

  • V-Cross 3.0 Ddi Z (2 ประตู) ราคา 852,000 บาท
  • V-Cross 3.0 Ddi Z (4 ประตู) ราคา 974,000 บาท
  • V-Cross MAX 3.0 Ddi ZP (4 ประตู) ราคา 1,089,000 บาท
  • V-Cross MAX 3.0 Ddi M A/T (4 ประตู) ราคา 1,157,000 บาท

All-New-Isuzu-D-Max-X-Series-2020

X-Series

  • Speed 1.9 Ddi L M/T (2 ประตู) ราคา 723,000 บาท
  • Speed 1.9 Ddi L M/T (4 ประตู) ราคา 814,000 บาท
  • Hi-Lander 1.9 Ddi Z M/T (2 ประตู) ราคา 838,000 บาท
  • Hi-Lander 1.9 Ddi Z M/T (4 ประตู) ราคา 932,000 บาท
  • Hi-Lander 1.9 Ddi Z A/T (4 ประตู) ราคา 967,000 บาท

รถกระบะ Isuzu D-Max 2022

Isuzu เปิดตัว Isuzu D-Max 2022 ใหม่! พร้อม Isuzu MU-X 2022 ใหม่!

Spark

  • Cab Chassis ราคา 515,000 บาท
  • Cab Chassis A/T ราคา 550,000 บาท
  • Cab Chassis (Refrigerator) ราคา 520,000 บาท
  • Spark 1.9 Ddi B ราคา 552,000 บาท
  • Spark 1.9 Ddi S ราคา 577,000 บาท
  • Spark 1.9 Ddi S A/T ราคา 612,000 บาท
  • Spark 3.0 Ddi S ราคา 595,000 บาท
  • Spark 4X4 3.0 Ddi S ราคา 680,000 บาท

Isuzu เปิดตัว Isuzu D-Max 2022 ใหม่! พร้อม Isuzu MU-X 2022 ใหม่!

Spaceccab / Hi-Lander 2 ประตู

  • Spacecab 1.9 Ddi S ราคา 610,000 บาท
  • Spacecab 1.9 Ddi S A/T ราคา 645,000 บาท
  • Spacecab 3.0 Ddi S ราคา 633,000 บาท
  • Spacecab 1.9 Ddi L ราคา 673,000 บาท
  • Spacecab 1.9 Ddi L DA ราคา 693,000 บาท
  • Spacecab 1.9 Ddi Z ราคา 740,000 บาท
  • Hi-Lander 1.9 Ddi L DA ราคา 728,000 บาท
  • Hi-Lander 1.9 Ddi L DA M/T ราคา 763,000 บาท
  • Hi-Lander 1.9 Ddi Z ราคา 786,000 บาท
  • Hi-Lander 1.9 Ddi Z A/T ราคา 821,000 บาท
  • Hi-Lander 1.9 Ddi ZP A/T ราคา 883,000 บาท
  • Hi-Lander 3.0 Ddi ZP ราคา 888,000 บาท

Isuzu เปิดตัว Isuzu D-Max 2022 ใหม่! พร้อม Isuzu MU-X 2022 ใหม่!

Cab4 / Hi-Lander 4 ประตู

  • Cab4 1.9 Ddi S ราคา 691,000 บาท
  • Cab4 1.9 Ddi S ราคา 726,000 บาท
  • Cab4 1.9 Ddi L DA ราคา 784,000 บาท
  • Cab4 1.9 Ddi L DA A/T ราคา 819,000 บาท
  • Cab4 1.9 Ddi Z ราคา 845,000 บาท
  • Hi-Lander 1.9 Ddi L DA ราคา 830,000 บาท
  • Hi-Lander 1.9 Ddi L DA A/T ราคา 865,000 บาท
  • Hi-Lander 1.9 Ddi Z ราคา 892,000 บาท
  • Hi-Lander 1.9 Ddi Z A/T ราคา 927,000 บาท
  • Hi-Lander 1.9 Ddi ZP ราคา 965,000 บาท
  • Hi-Lander 1.9 Ddi ZP A/T ราคา 1,000,000 บาท
  • Hi-Lander 3.0 Ddi ZP ราคา 996,000 บาท
  • Hi-Lander 3.0 Ddi M ราคา 1,033,000 บาท
  • Hi-Lander 3.0 Ddi M A/T ราคา 1,064,000 บาท

Isuzu เปิดตัว Isuzu D-Max 2022 ใหม่! พร้อม Isuzu MU-X 2022 ใหม่!

V-Cross

  • V-Cross 3.0 Ddi Z (2 ประตู) ราคา 867,000 บาท
  • V-Cross 3.0 Ddi Z (4 ประตู) ราคา 989,000 บาท
  • V-Cross MAX 3.0 Ddi ZP (4 ประตู) ราคา 1,104,000 บาท
  • V-Cross MAX 3.0 Ddi M A/T (4 ประตู) ราคา 1,172,000 บาท

Isuzu เปิดตัว Isuzu D-Max 2022 ใหม่! พร้อม Isuzu MU-X 2022 ใหม่!

X-Series

  • Speed 1.9 Ddi L DA M/T (2 ประตู) ราคา 728,000 บาท
  • Speed 1.9 Ddi L DA M/T (4 ประตู) ราคา 819,000 บาท
  • Hi-Lander 1.9 Ddi Z M/T (2 ประตู) ราคา 843,000 บาท
  • Hi-Lander 1.9 Ddi Z M/T (4 ประตู) ราคา 942,000 บาท
  • Hi-Lander 1.9 Ddi Z A/T (4 ประตู) ราคา 977,000 บาท

suzu-MU-X-The-Onyx-2019

MU-X 2020

  • 1.9 Ddi CD A/T ราคา 1,099,000 บาท
  • 1.9 Ddi DVD M/T ราคา 1,214,000 บาท
  • 1.9 Ddi DVD A/T ราคา 1,264,000 บาท
  • 1.9 Ddi DA DVD Navi A/T (Push Start) ราคา 1,329,000 บาท
  • 3.0 Ddi DA DVD Navi A/T (Push Start) ราคา 1,374,000 บาท
  • 3.0 Ddi 4X4 DA DVD Navi A/T (Push Start) ราคา 1,474,000 บาท
  • 1.9 Navi A/T The Onyx ราคา 1,364,000 บาท
  • 3.0 Navi A/T The Onyx ราคา 1,409,000 บาท

All-New-Isuzu-MU-X-2020

MU-X 2021

  • 1.9 Ddi Active A/T ราคา 1,121,000 บาท (ราคาช่วงแนะนำ 1,109,000 บาท)
  • 1.9 Ddi Luxury M/T ราคา 1,266,000 บาท (ราคาช่วงแนะนำ 1,254,000 บาท)
  • 1.9 Ddi Luxury A/T ราคา 1,304,000 บาท
  • 1.9 Ddi Elegant A/T ราคา 1,349,000 บาท
  • 1.9 Ddi Ultimate A/T ราคา 1,434,000 บาท
  • 3.0 Ddi Ultimate A/T ราคา 1,479,000 บาท
  • 3.0 Ddi 4X4 Ultimate A/T ราคา 1,579,000 บาท

Isuzu เปิดตัว Isuzu D-Max 2022 ใหม่! พร้อม Isuzu MU-X 2022 ใหม่!

MU-X 2022

  • 1.9 Ddi Active A/T ราคา 1,119,000 บาท
  • 1.9 Ddi Luxury A/T ราคา 1,314,000 บาท
  • 1.9 Ddi Elegant A/T ราคา 1,359,000 บาท
  • 3.0 Ddi Elegant A/T ราคา 1,404,000 บาท
  • 1.9 Ddi Ultimate A/T ราคา 1,454,000 บาท
  • 3.0 Ddi Ultimate A/T ราคา 1,499,000 บาท
  • 3.0 Ddi 4X4 Ultimate A/T ราคา 1,599,000 บาท

*หมายเหตุ : รถปิคอัพ Isuzu รุ่น Spark, Spacecab, Hi-Lander 2 ประตู และ Cab 4 สีเมทาลิค เพิ่ม 7,000 บาท กระบะรุ่น Hi-Lander 4 ประตู, V-Cross 4 ประตู และ X-Series สีขาวมุกเพิ่ม 7,000 บาท ส่วน Isuzu MU-X สีขาวมุกเพิ่ม 12,000 บาท

*ราคาดังกล่าว อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

ดูโปรโมชั่น Isuzu ทั้งหมดได้ที่นี่ – https://th.carro.co/blog/isuzu-car-price-list/

ราคารถใหม่ Hyundai (ฮุนได) ทุกรุ่น

รวมราคารถใหม่ Hyundai (ฮุนได) ทุกรุ่น Update 4/7/2021

CARRO นำเสนอราคารถใหม่ 2022 Hyundai (ฮุนได) ทุกรุ่น Update ล่าสุด ครบถ้วน

หากช่วงนี้ใครต้องการซื้อรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพได้มาตรฐาน รับประกันพร้อมโอนทุกคัน หรือหารถมือสองยี่ห้อ/รุ่นที่ต้องการ มาซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ที่ CARRO Automall สิ! โทร. 02-508-8690 หรือจะ Inbox มาสอบถามก็ได้ที่ Facebook CARRO Automall – รถบ้านมือสอง ถ้าสะดวก Add Line @carroautomall

แต่ถ้าคุณอยาก “ขายรถ” คันเดิม เพื่อซื้อรถคันใหม่ หรือรับเงินก้อนไปใช้ สามารถขายรถด่วนกับ CARRO ได้ ง่ายๆ ได้เงินไว! และฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย พร้อมปิดการขายภายใน 24 ชั่วโมง! กับ CARRO Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothai หรือคลิกที่นี่ ขายรถด่วน! —> เพิ่มเพื่อน

Hyundai-H-1

H-1

  • Touring ราคา 1,329,000 บาท
  • Elite ราคา 1,529,000 บาท
  • Impressive ราคา 1,629,000 บาท
  • Deluxe ราคา 1,729,000 บาท

Hyundai-Grand-Starex

Grand Starex

  • Premium ราคา 2,349,000 บาท
  • VIP ราคา 2,399,000 บาท

Hyundai-Staria-2021

All-New Staria 2021

  • Staria S Diesel 2.2 ราคา 1,729,000 บาท
  • Staria SEL Diesel 2.2 ราคา 1,999,000 บาท

ดูโปรโมชั่น Hyundai ทั้งหมดได้ที่นี่ – https://th.carro.co/blog/hyundai-new-car-promotion/

รวมราคารถใหม่ Subaru (ซูบารุ) ทุกรุ่น Update 19/1/2022

CARRO นำเสนอราคารถใหม่ 2022 Subaru (ซูบารุ) ทุกรุ่น Update ล่าสุด ครบถ้วน

หากช่วงนี้ใครต้องการซื้อรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพได้มาตรฐาน รับประกันพร้อมโอนทุกคัน หรือหารถมือสองยี่ห้อ/รุ่นที่ต้องการ มาซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ที่ CARRO Automall สิ! โทร. 02-508-8690 หรือจะ Inbox มาสอบถามก็ได้ที่ Facebook CARRO Automall – รถบ้านมือสอง ถ้าสะดวก Add Line @carroautomall

แต่ถ้าคุณอยาก “ขายรถ” คันเดิม เพื่อซื้อรถคันใหม่ หรือรับเงินก้อนไปใช้ สามารถขายรถด่วนกับ CARRO ได้ ง่ายๆ ได้เงินไว! และฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย พร้อมปิดการขายภายใน 24 ชั่วโมง! กับ CARRO Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothai หรือคลิกที่นี่ ขายรถด่วน! —> เพิ่มเพื่อน

Subaru XV 2021 / ซูบารุ เอ็กซ์วี 2021

XV

  • 2.0i ราคา 970,000 บาท
  • 2.0i-P ราคา 1,015,000 บาท
  • 2.0i-P EyeSight ราคา 1,299,000 บาท
  • 2.0i-P GT ราคา 1,389,000 บาท

Subaru WRX 2017 / ซูบารุ ดับเบิลยูอาร์เอ็กซ์

WRX

  • 2.0 6MT ราคา 2,220,800 บาท
  • 2.0 CVT ราคา 2,320,800 บาท

Subaru BRZ 2019 / ซูบารุ บีอาร์แซด 2019

BRZ

  • 2.0 6MT ราคา 1,850,800 บาท
  • 2.0 6AT ราคา 1,920,800 บาท

Subaru Outback 2021 / ซูบารุ เอาท์แบ็ค 2021

New Outback 2021

  • 2.5 i-T EyeSight ราคา 2,265,200 บาท ราคา Option Pack 433,800 บาท

Subaru Forester 2019 / ซูบารุ ฟอเรสเตอร์ 2019

Forester

  • 2.0i-L ราคา 1,030,000 บาท
  • 2.0i-S ราคา 1,060,000 บาท
  • 2.0i-S Eyesight ราคา 1,130,000 บาท

ดูราคา Subaru ทั้งหมดได้ที่นี่ – https://www.subaru.asia/th/th/home/

ดูโปรโมชั่น Subaru ทั้งหมดได้ที่นี่ – https://th.carro.co/blog/subaru-car-price-list/