15 ธ.ค. ขึ้นค่าทางด่วน ศรีรัช-วงแหวนรอบนอกฯ รถ 4 ล้อ ปรับเป็น 65 บาท!

หลายท่านพอเห็นข่าวทางด่วนขึ้นราคา ต่างร้องจ๊ากกันเลยทีเดียว โดยเฉพาะคนที่ใช้รถยนต์ขึ้นทางด่วนกันเป็นประจำ รายเพิ่มอีกแล้วครับท่าน

นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค. 2564 เป็นต้นไป บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM จะปรับขึ้นค่าผ่านทางพิเศษ สายศรีรัช-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร (SOE) ที่วิ่งจากจตุจักร – ตลิ่งชัน

ซึ่งได้มีการเปิดบริการครั้งแรกเมื่อ 15 ธันวาคม 2559 ในอัตราค่าผ่านทาง รถ 4 ล้อ 50 บาท, รถ 6-10 ล้อ 80 บาท, มากกว่า 10 ล้อ 115 บาท ซึ่งอัตราค่าผ่านทางเป็นไปตามสัญญา สามารถพิจารณาปรับค่าผ่านทางเพิ่มขึ้นได้ทุกๆ 5 ปี ตามดัชนีผู้บริโภค (CPI = Consumer Price Index) ตามสัญญาสัมปทาน

15 ธ.ค. ขึ้นค่าทางด่วน ศรีรัช-วงแหวนรอบนอกฯ รถ 4 ล้อ ปรับเป็น 65 บาท!

  • สำหรับรถ 4 ล้อ จะปรับขึ้น 15 บาท คือ ปรับจาก 50 บาท เป็น 65 บาท
  • รถ 6-10 ล้อ ปรับขึ้น 25 บาท จาก 80 บาท เป็น 105 บาท
  • รถมากกว่า 10 ล้อ ปรับขึ้น 35 บาท ปรับจาก 115 บาท เป็น 150 บาท

อย่างไรก็ตาม กระทรวงคมนาคมเกรงว่าการปรับขึ้นค่าทางด่วน จะส่งผลกระทบทำให้ประชาชนเดือดร้อนมากขึ้นในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 จึงสั่งการให้ฝ่ายบริหารของ กทพ. ไปหารือกับ BEM เพื่อหามาตรการบรรเทาผลกระทบ และช่วยเหลือประชาชนผู้ใช้ทาง

15 ธ.ค. ขึ้นค่าทางด่วน ศรีรัช-วงแหวนรอบนอกฯ รถ 4 ล้อ ปรับเป็น 65 บาท!

นายสุรเชษฐ กล่าวว่า ได้พูดคุยกับ BEM ครั้งแรกไปแล้วเมื่อวันที่ 11 ต.ค. ซึ่ง BEM ให้ความร่วมมือ จะจัดทำแคมเปญค่าผ่านทางราคาพิเศษ เพื่อเยียวยาประชาชนผู้ใช้ทาง โดยสัปดาห์หน้าจะนัด BEM มาหารืออีกครั้ง เพื่อนำเสนอให้บอร์ด กทพ. พิจารณา คาดว่าภายในต้นเดือน พ.ย. นี้ จะต้องได้ข้อสรุปทั้งหมด

“วันที่ 15 ธ.ค. กทพ.คงต้องอนุมัติให้ปรับขึ้นค่าผ่านทางสายศรีรัช-วงแหวนรอบนอกฯ เพราะเรามีบทเรียนมาแล้ว หากรัฐบาลแข็งขืนไม่ทำตามสัญญาสัมปทานจะถูกฟ้องร้องค่าโง่ ยอมรับว่าหนักใจมากๆ ที่ต้องไปพูดคุยขอให้เอกชนที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาโควิดด้วย

ซึ่งบริษัทชี้แจงว่าบริษัทได้รับผลกระทบจากปริมาณรถที่ผ่านทางปรับลงเหลือ วันละ 5 หมื่นคัน จากปกติวันละ 8 หมื่นค้น ซึ่งเมื่อเทียบแล้วรายได้หายไปเกือบ 50% ทาง BEM ก็ได้ขอทำการสงวนสิทธิ์การปรับขึ้นค่าผ่านทางมาแล้ว ซึ่งเราก็เข้าใจความเดือดร้อนของเอกชน แต่จะพยายามพูดคุยเจรจาหาทางออกที่ดีที่สุด ในรูปแบบแคมเปญ”

15 ธ.ค. ขึ้นค่าทางด่วน ศรีรัช-วงแหวนรอบนอกฯ รถ 4 ล้อ ปรับเป็น 65 บาท!

นายสุรเชษฐ์กล่าวว่า นอกจากนี้ BEM ยังได้เสนอขอชดเชยรายได้ที่ลดลง 50% จากผลกระทบการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 มายัง กทพ. ด้วย ซึ่งต้องดูแลและเยียวยาเอกชนให้เท่าเทียมกับส่วนอื่นๆ ด้วยต่อไป

ทั้งนี้ สำหรับการปรับขึ้นราคาค่าผ่านทาง ถือเป็นการแจ้งให้ประชาชนได้รับทราบว่า เป็นการปฏิบัติตามข้อสัญญา ซึ่งการทางพิเศษฯ ก็พยายามจะทำให้เต็มที่ เพื่อให้ประชาชนได้รับการดูแลและได้รับประโยชน์สูงสุด

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

ถ้าใครที่กำลังมองหารถคันใหม่ในตอนนี้ CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ เราพร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่งรถทุกคันของ CARRO Automall คุณไม่ต้องกังวลเลยในเรื่องของรถจมน้ำ รถน้ำท่วม หรือรถจมบาดาล เพราะเราไม่นำรถที่ถูกน้ำท่วมมาขายโดยเด็ดขาด และรถทุกคันยังผ่านการตรวจสภาพอย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 200 จุด อีกด้วย

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดในการดูรถเสมือนจริงผ่านระบบออนไลน์ เป็นรายแรกของธุรกิจรถมือสองในประเทศไทย คุณสามารถดูรูปรถทั้งภายนอก ภายใน กันได้แบบ 360 องศา รวมถึงยังสามารถฟังเสียงเครื่องยนต์จากรถคันที่คุณสนใจได้อีกด้วย!

เพราะเรามั่นใจในคุณของรถยนต์ทุกคัน เราจึงกล้ารับประกันคุณภาพรถนานถึง 2 ปี หรือ 20,000 กิโลเมตร! อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

แหล่งที่มาจาก:

  • กทพ. หอกระจายข่าว

Update มาตรการล็อกดาวน์! สกัดโควิดระบาด ทางด่วน โทลล์เวย์ มอเตอร์เวย์

ในช่วงที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระบาดระลอกใหม่ เริ่มไม่สามารถควบคุมได้แล้วในหลายจังหวัด ส่งผลให้มียอดผู้ป่วยที่สูงขึ้นมาก โดยรวมทั้งประเทศนับเฉียดหมื่นคนต่อวัน

ทำให้ทางรัฐบาล และศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ต้องออกมาหาทางแก้ปัญหา ด้วยมาตรการ “Lockdown” (ล็อกดาวน์) ยกระดับมาตรการ​เคอร์ฟิว ในส่วนของพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดกันอีกครั้ง หลังจากที่เคยใช้ไปในปี 2563 ที่ผ่านมา เพื่อจำกัดการเคลื่อนย้าย และดำเนินกิจกรรมของบุคคลให้มากที่สุด

สำหรับมาตรการ Lockdown (ล็อกดาวน์) บังคับใช้เฉพาะพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ, นนทบุรี, ปทุมธานี, นครปฐม, สมุทรปราการ, สมุทรสาคร ซึ่งจะเป็นการตั้งด่านบนถนนสายหลักๆ เพื่อตรวจตราความเรียบร้อย เริ่ม 12 ก.ค. 2564 โดยขอความร่วมมือดังนี้

1. ราชการ/เอกชน WFH มากที่สุด ยกเว้นงานบริการประชาชน
2. ระบบขนส่งสาธารณะ งดดำเนินการเวลา 21.00 – 04.00 น.
3. ร้านสะดวกซื้อ ตลาดโต้รุ่ง ปิดเวลา 20.00 – 04.00 น.
4. ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ เปิดเฉพาะ ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านอาหารและเครื่องดื่ม ธนาคารและสถาบันการเงิน ร้านขายยาและเวชภัณฑ์ ร้านอุปกรณ์เครื่องมือสื่อสาร รวมถึงสถานที่ฉีดวัคซีน เปิดถึง 20.00 น.
5. ร้านจำหน่ายอาหารเครื่องดื่ม เปิดถึง 20.00 น. (ห้ามบริโภคในร้าน)
6. ปิดร้านนวดเพื่อสุขภาพ สปา สถานเสริมความงาม
7. สวนสาธารณะ เปิดให้ออกกำลังกาย ถึง 20.00 น.
8. ห้ามรวมกลุ่มที่ไม่ใช่การปฏิบัติหน้าที่เกิน 5 คน

ส่วนทางด่วนอย่าง การทางพิเศษแห่งประเทศไทย จำกัดการให้บริการทางพิเศษทุกด่านฯ ทุกสายทาง เป็นระยะเวลา 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 12 กรกฎาคม – 2 สิงหาคม 2564 ระหว่างเวลา 21.00 – 04.00 น. (เว้นแต่รถที่ได้รับอนุญาตตามข้อกำหนด)

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ EXAT Call Center 1543

ในส่วนของโทลล์เวย์ บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ทางยกระดับดอนเมือง หรือ DMT จะจำกัดการให้บริการ ในระหว่างวันที่ 12 -25 กรกฎาคม นี้ ตั้งแต่เวลา 21.00 -04.00 น.

โดยยกเว้นรถขนส่งผู้ป่วย หรือ บุคคลที่มีความจำเป็นที่ต้องได้รับบริการทางการแพทย์ รวมไปถึง รถขนส่งอาหาร ยา เวชภัณฑ์ เครื่องมือแพทย์ สินค้าอุปโภคบริโภค ขนส่งขนย้ายประชาชน การให้บริการหรืออำนวยประโยชน์หรือความสะดวกแก่ประชาชน การประกอบอาชีพตามรอบเวลาหรือตามเวลาที่กำหนดไว้ ตามประกาศราชกิจจานุเบกษา ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนด การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 27)

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Tollway Call Center 1233

ส่วนมอเตอร์เวย์ กรมทางหลวง แจ้งปิดการจราจรมอเตอร์เวย์สาย 7 และสาย 9 ตั้งแต่ 3 ทุ่ม – ตี 4 เริ่ม 12 ก.ค. นี้ ขานรับมาตรการล็อกดาวน์คุมการแพร่โควิด – 19 โดยจะปิดการจราจรบนทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) ทั้ง 2 สายทางบางส่วนเป็นการชั่วคราว ได้แก่ มอเตอร์เวย์หมายเลข 7 กรุงเทพฯ – ชลบุรี – พัทยา – มาบตาพุด และมอเตอร์เวย์หมายเลข 9 ช่วงบางปะอิน – บางพลี และช่วงสุขสวัสดิ์ – บางขุนเทียน ระหว่างเวลา 21.00 น. – 04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น โดยเริ่มตั้งแต่เวลา 00.01 น. ของวันที่ 12 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป

ทั้งนี้ จะเปิดให้มีการจราจรได้ในบางช่องจราจรเท่าที่จำเป็นเพื่อประโยชน์ในการจราจรของบุคคลที่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ตามข้อ 2 หรือได้รับการยกเว้นตามข้อ 4 ของข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 27)

สำหรับบุคคลที่ได้รับการยกเว้นการห้ามออกนอกเคหสถานในช่วงเวลาดังกล่าว ได้แก่ ผู้ป่วยหรือผู้ปฏิบัติงานในการให้บริการด้านสาธารณสุข ผู้ขนส่งสินค้าเพื่อประโยชน์ของประชาชน ผู้ปฏิบัติงานขนส่งหรือขนย้ายประชาชน ผู้ให้บริการหรืออำนวยประโยชน์หรือความสะดวกแก่ประชาชน และผู้ประกอบอาชีพที่จำเป็น จะต้องปฏิบัติให้เป็นตามข้อกำหนด และสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่บริเวณด่านเก็บเงินค่าผ่านทางมอเตอร์เวย์ เพื่อขออนุญาตใช้เส้นทางได้

สำหรับผู้ที่ต้องการสอบถามข้อมูลการปิดการจราจรเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่สายด่วนกรมทางหลวง โทร. 1586 ตลอด 24 ชั่วโมง

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิมตอนนี้ หรือกำลังตัดสินใจจะซื้อรถป้ายแดงอยู่พอดี แต่งบไม่พอ! มาขายรถกับ CARRO Express สิ! หรือจะ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

และอีกหนึ่งบริการใหม่! CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check รับประกันพร้อมโอนทุกคัน ฟรี! ค่าจัดโอน มีให้เลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน อยากซื้อรถคุณภาพเยี่ยม มาซื้อกับ CARRO Automall สิ!

หรือสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่หาไม่ได้ สามารถสั่งตามออเดอร์ได้ที่นี้ > https://th.carro.co/buy-car หรือโทร. 02-508-8690 อีกทั้งยัง Inbox เข้ามาสอบถามก็ได้เช่นกันได้ที่ Facebook -> CARRO Automall – รถบ้านมือสอง หรือทาง Line เชิญเลยครับที่ @carroautomall

M-FLOW-In-Expressway-And-Motorway

กระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงการแก้ปัญหาจราจรบริเวณด่านเก็บเงินค่าผ่านทาง ของทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) ของกรมทางหลวง (ทล.) และทางด่วน ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ว่า จะเตรียมนำระบบเก็บค่าธรรมเนียมแบบไม่มีไม้กั้น หรือ M-FLOW ที่ใช้เทคโนโลยี AI ในการตรวจจับป้ายทะเบียนรถแบบอัตโนมัติ หรือ Automated License Plate Recognition ซึ่งผู้ใช้งานไม่ต้องชะลอความเร็วเมื่อเข้าสู่ด่านจ่ายเงิน

ซึ่งจะเริ่มใช้งานนำร่องได้ในเดือนตุลาคม 2563 โดยให้กรมทางหลวง และการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ไปร่วมทำงานให้เป็นระบบเดียวกัน หรือ Single Platform System เพื่อให้ใช้งานได้ทั้งมอเตอร์เวย์ และทางด่วน ได้อย่างสมบูรณ์ภายในปี 2564

วิธีการก็จะเป็นการขับรถขึ้นทางด่วนไปตามปกติ แต่จะมีการส่งบิลใบเสร็จไปเก็บเงินเจ้าของรถทุกเดือน ในลักษณะ Post-Paid หรือ “ขึ้นก่อน จ่ายทีหลัง” คล้ายกับบิลค่าไฟฟ้า หรือบิลค่าน้ำประปา และสามารถชำระเงินตามช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ได้อย่างสะดวก แต่ถ้ามีกรณีไม่จ่ายค่าผ่านทาง จะมีการปรับเป็นจำนวน 10-15 เท่า ของยอดที่ใช้งานจริง

ซึ่งกรมทางหลวง จะเปิดประมูลเพื่อจัดจ้างเอกชนเข้ามาติดตั้งระบบ และจัดจ้างเอกชน (Outsource) เพื่อบริหารจัดการระบบ โดยกรมทางหลวง และการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ในฐานะผู้กำกับ จะต้องได้รับค่าผ่านทางครบ 100%

M-FLOW-In-Expressway-And-Motorway

ระบบกล้องตรวจจับป้ายทะเบียนอัตโนมัติ ในการชำระค่าผ่านทางมอเตอร์เวย์ หรือ Automated License Plate Recognition นี้ จะสามารถตรวจจับป้ายทะเบียนได้ชัดเจน ภายใต้ความเร็วช่วงเข้าด่านไม่เกิน 80 กม./ชม. จะรองรับรถได้สูงถึง 1,200 คัน/ชม. มากกว่าระบบอัตโนมัติ M-Pass ที่ปัจจุบันรองรับได้ราว 500-800 คัน/ชม. แต่เป้าหมายของระบบ M-FLOW จะให้สามารถรองรับความเร็วได้ถึง 120 กม./ชม. ซึ่งเป็นความเร็วที่ประกาศใช้บนทางด่วน และมอเตอร์เวย์ โดยจะสามารถรองรับรถได้สูงถึง 2,000-2,500 คัน/ช่องทาง ซึ่งจะทำให้รถเคลื่อนตัวหน้าด่านได้เร็วขึ้น และไม่มีปัญหารถติด

ทางกระทรวงคมนาคมได้วางแผนว่าจะมีการติดตั้งระบบ M-FLOW เพื่อนำร่องการใช้งานบนทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 9 (วงแหวนรอบนอก กทม. ด้านตะวันออก ช่วงบางปะอิน-บางพลี) ที่ด่านทับช้าง1, 2 และด่านธัญบุรี 1, 2 โดยเริ่มทดลองระบบการใช้งานได้ตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้ เป็นต้นไป

ในเดือนเมษายนนี้ จะลงนามสัญญากับที่ปรึกษาเพื่อออกแบบรายละเอียด จัดทำ TOR และกำหนดราคากลางสำหรับประมูล 2 งาน ได้แก่ งานติดตั้งระบบ และงานจัดจ้างบริหารจัดการระบบ ในเดือน มิ.ย. – ก.ค. 2563 เพื่อดำเนินการติดตั้งระบบในเดือน ส.ค. – ต.ค. 2563 และเปิดใช้ระบบในเดือนตุลาคม 2563

โดยจะแก้กฎกระทรวง เรื่องค่าธรรมเนียมให้ครอบคลุมรูปแบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อจูงใจให้ผู้จ่ายค่าผ่านทางด้วยเงินสดหันมาใช้ระบบ M-FLOW มากขึ้น เพราะสะดวก และรวดเร็ว เพียงแค่สมัครยืนยันตัวตนและทะเบียนรถ ส่วนช่องทางเงินสด และช่องทาง M-Pass ยังคงใช้งานได้ตามปกติ

ถ้าหากคุณร้อนเงินในเวลานี้ เพราะโดนโควิด-19 เล่นงาน สามารถมา “ขายรถ” หรือรับเงินก้อนไปใช้ ในยุคโควิด-19 ได้ง่ายๆ กับ CARRO มั่นใจ! ปลอดภัน  และฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น พร้อมปิดการขายภายใน 24 ชั่วโมง! กับ CARRO Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ ขายรถด่วน! —> เพิ่มเพื่อน

Car-Breakdown-On-Expressway

รถเสียบนทางด่วน ไม่ต้องตกใจ! โทรแจ้ง 1543 แล้วรอให้เจ้าหน้าที่มาช่วย

บริการพิเศษ เพื่อคุณคนพิเศษ

บริการพิเศษ เพื่อคุณคนพิเศษ

Posted by การทางพิเศษแห่งประเทศไทย on Wednesday, October 2, 2013

เรื่องราวบนท้องถนนนั้น เป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะรถเก่า (หรือรถใหม่บางรุ่นก็ตาม) ซึ่งบางทีขับไปอยู่ๆ ก็เกิดเสีย ขัดข้องขึ้นมาได้ หรืออาจจะเกิดอุบัติเหตุ น้ำมันหมด ยางแตก ก็ตาม …

Car-Breakdown-On-Expressway

ภาพจาก Twitter pritcha

แต่ถ้าเกิดบนถนนธรรมดา ก็ไม่เท่าไหร่ แต่ดันไปเสีย ยางแตก หรือน้ำมันหมด บนทางด่วนนี่สิ! โชคร้ายเหมือนถูกหวย 90 ล้าน (แต่เป็นหวยปลอม) เลย เพราะจะต้องระวังกับเหตุที่จะเกิดขึ้นมาเพิ่มด้วย!

แต่ทุกปัญหาย่อมมีทางออก Carro ขอแนะนำหากรถเสียบนทางด่วน ต้องทำอย่างไร? เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน ครับ.

Car-Breakdown-On-Expressway

  • เมื่อรู้ว่ารถเกิดปัญหาบนทางด่วน ไม่ว่าจะเหตุใดก็ตาม ตั้งสติให้ดี เเล้วนำรถเข้าชิดไหล่ทางด้านซ้ายของถนน เปิดไฟฉุกเฉินให้เรียบร้อย
  • โทรเเจ้ง 1543 EXAT Call Center สายด่วนการทางพิเศษแห่งประเทศไทย แจ้งเรื่อง เเจ้งพิกัดรถของคุณ สาเหตุอาการของรถ มีคนป่วยหรือบาดเจ็บในรถหรือไม่ หากต้องการรถลาก ควรเเจ้งเจ้าหน้าที่ให้พร้อม
  • หากโทรศัพท์มือถือแบตเตอรี่ดันหมด ให้เดินชิดไหล่ทางที่สุด หาโทรศัพท์ฉุกเฉินบนทางด่วน ที่ถูกติดตั้งไว้ทุกๆ 500 – 1,000 เมตร วิธีใช้ เพียงแค่กดปุ่ม ก็จะมีเจ้าหน้าที่รับสายที่ปลายทาง ให้แจ้งพิกัดหลัก กม. ของรถที่จอดเสียอยู่ โดยดูตัวเลขได้จากขอบทางฝั่งซ้ายเเละขวา แจ้งสาเหตุอาการของรถ และกลับไปนั่งรอในรถของท่าน เพื่อรอให้เจ้าหน้าที่ส่งทีมมาช่วยเหลือ
  • เปิดไฟสัญญาณฉุกเฉินไว้ตลอดเวลา

ขอบคุณข้อมูลจาก : การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กระทรวงคมนาคม
– Pantip เมื่อผมยางแตกบนทางด่วน