New-Year-Car-Care-Resolutions

หลังจากพักผ่อนอย่างหนำใจในช่วงหยุดยาวปีใหม่กันแล้ว บางคนเลือกที่จะพักผ่อนอยู่บ้าน บางคนเลือกขับรถยนต์ออกไปเดินทางท่องเที่ยว แต่พอกลับมาถึงที่พักของเรากลับพบมองว่ารถยนต์ของเรานั้นสกปรกและสภาพดูไม่ได้เลย แบบนี้เราต้องทำอย่างไรให้กลับมาสะอาดเหมือนเดิมนะ

ดังนั้น เพื่อให้รถยนต์คันคู่โปรด คู่ใจของเรากลับมาสวยงาม เหมือนวันที่แรกที่เราซื้อรถยนต์ masii เลยนำเคล็ดลับวิธีการดูแลง่ายๆ ให้คงสภาพใหม่เอี่ยมพร้อมใช้งานอยู่ตลอดเวลามาฝากกันจ้า

กลับมาดูแลรถให้เหมือนใหม่ ต้อนรับปีใหม่กัน

New-Year-Car-Care-Resolutions

ยาง

ยางรถยนต์เป็นส่วนที่สำคัญมากส่วนหนึ่ง นอกจากจะช่วยให้เราสามารถขับขี่รถยนต์ได้ลื่นไหลและนุ่มนวล อีกทั้งยังช่วยในเรื่องของความปลอดภัยให้เราอีกด้วยนะ ซึ่งวิธีดูแลยางนั้นสามารถทำได้ง่ายดาย เพียงหมั่นเช็กและเติมลมยางให้สม่ำเสมอ เติมลมให้พอดี แค่นี้ก็ช่วยป้องกันการสึกหรอของยางได้ดี และคงสภาพรถยนต์ให้เหมือนใหม่ได้

น้ำมันเครื่อง

น้ำมันเครื่องก็เป็นส่วนสำคัญไม่แพ้กับยางรถยนต์ เพราะว่าน้ำมันเครื่องมีหน้าที่หล่อลื่น และช่วยระบายความร้อน แต่หลายๆ คนมักจะไม่สนใจในการถ่ายเปลี่ยนน้ำมันเครื่องกัน ถ้าหากยิ่งทิ้งไว้นานจะยิ่งทำให้เครื่องยนต์เสื่อมสภาพด้วยนะ

ทำความสะอาด

ฤกษ์งามยามดีต้อนรับต้นปี 2020 ด้วยการล้างรถยนต์ทำความสะอาดกันเถอะ นอกจากภายนอกรถยนต์ของเราที่ดูสะอาด สบายตาแล้ว ภายในรถก็ควรดูสะอาด ไม่ให้ฝุ่นเข้ามากระจายตัวอยู่ทั่วภายในเรา โดยหลักๆ วิธีการดูแลจะประกอบไปด้วย

  • ใช้เครื่องดูดฝุ่นทำความสะอาด
  • ผ้าชุบน้ำหมาดๆ ทำความสะอาด
  • ใช้ผลิตภัณฑ์ช่วยทำความสะอาด

New-Year-Car-Care-Resolutions

เข้าศูนย์คาร์แคร์

วิธีที่รวดเร็วและสบายใจเราได้มากที่สุด คงหนีไม่พ้นสำหรับการนำรถยนต์ของเราเข้าไปทำความสะอาดที่คาร์แคร์ เพราะคาร์แคร์จะช่วยดูแลรถยนต์ของเราให้สะอาดสะอ้านเหมือนใหม่ อีกทั้งยังสามารถตรวจเช็กสภาพของรถยนต์ของเราได้อีกด้วยนะคะ

จริงๆ แล้วการทำประกันก็ช่วยเพิ่มความอุ่นใจให้เราเสมอทุกๆ การเดินทางได้เช่นกันนะคะ ถ้าเกิดอุบัติเหตุอะไรขึ้นมาอย่างน้อยประกันก็ช่วยคุ้มครองค่าใช้จ่ายเบื้องต้น คลิกที่นี่ เพื่อเช็กเบี้ยประกันได้ทันที มีข้อมูลอยากสอบถามโทรเข้ามาที่ 02-710-3100

ขอขอบคุณบทความดีๆ จาก www.masii.com

Washing-Car-And-Hot-Brakes

คนใช้รถหลายคนอาจไม่รู้! ว่าอาการพวงมาลัยสั่น โดยเฉพาะเวลาเหยียบเบรก ซึ่งเกิดมาจากจานเบรกคดนั้น นอกจากจะมีอาการจากผ้าเบรกจับจานเบรกไม่สม่ำเสมอ จานเบรกเริ่มบาง หรืออาจจะเป็นที่ยางสึกไม่เท่ากันทั้งเส้น

แต่สิ่งที่หลายคนไม่รู้ และมักชอบปฎิบัติ หลังจากการขับรถใช้งานต่อเนื่องมานานหลายชั่วโมง หรือขับรถขึ้นเขา ลงเขา ใช้งานเบรกมาอย่างหนัก นั่นก็คือ “ล้างรถ” พอตัดสินใจขับรถเข้าคาร์แคร์ ว่าจะล้างรถให้สะอาดซะหน่อย เด็กล้างรถก็ไม่รู้ ฉีดน้ำล้างล้อรถ ทำให้น้ำแรงดันสูงอัดเข้าไปในจานเบรกอย่างแรง จนดิสก์เบรกเกิดอาการ “จานเบรกคด” ขึ้นมา …

ทำไมจานเบรกถึงคดได้ งงมาก ทั้งๆ ที่แค่ฉีดน้ำใส่ เดี๋ยว Mr.Carro จะเล่าให้ฟัง …

Washing-Car-And-Hot-Brakes

การเกิดจานเบรคคด ก็คือ เกิดจากการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอย่างเฉียบพลัน ซึ่งการขับรถมาเป็นเวลานานๆ หลายชั่วโมง (โดยเฉพาะขับรถทางยาวๆ หรือขับรถขึ้น-ลง ทางชันๆ ที่ต้องใช้เบรกมาก) ทำให้จานเบรกมีความร้อนสะสมมากกว่าปกติ เมื่อเจอที่ฉีดน้ำแรงดันสูงฉีดล้างล้อรถ แล้วทะลุซี่ล้อไปโดนกับจานดิสก์เบรกที่ร้อนจัดอยู่ เมื่อเจอกับน้ำเย็นๆ ทันที ก็อาจทำให้จานเบรคคดงอได้

Washing-Car-And-Hot-Brakes

แต่ถ้าคุณอยากล้างรถที่เพิ่งผ่านการใช้งานมาหมาดๆ จริงๆ ก็ขอแนะนำให้ล้างตัวถังรถไปก่อน ลองเอามืออังดูที่บริเวณล้อรถดูก่อน ว่ามีไอร้อนที่แผ่ออกมาจากดิสก์เบรก มากหรือน้อย ถ้าไม่มีแล้ว นั่นล่ะ ถึงจะค่อยฉีดน้ำล้างล้อได้เต็มที่

Washing-Car-And-Hot-Brakes

แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ ก็ล้างแค่บริเวณด้านนอกของล้อก็ได้ พยายามอย่าฉีดน้ำเข้าไปถูกจานดิสก์เบรก โดยใช้วิธีเปิดน้ำแบบไม่ต้องแรง ล้างเฉพาะบริเวณวงล้อรอบนอกก็พอ เพื่อให้เหมือนกับการขับรถลุยฝน ที่มีละอองน้ำกระเซ็นโดนจานเบรคอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้ความร้อนบริเวณจานเบรกค่อยๆ ลดลง

วิธีปฎิบัติง่ายๆ แค่นี้ คุณก็ทำได้ครับ อีกทั้งยังยืดอายุจานเบรกของรถ ให้ใช้งานได้อีกยาวนานอีกด้วย