Howto-Payment-Car-Tax-Online

ในสถานการณ์เช่นนี้ แม้ว่าโควิด-19 จะเริ่มระบาดซาลงไปแล้วก็ตาม แต่วิถีชีวิตของผู้คนก็เปลี่ยนไปมาก หรืออย่างที่เรียกกันติดปากว่า “New Normal” หรือ “ความปกติใหม่” ที่เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้คนทั่วโลก นับตั้งแต่การทำงานแบบ Work From Home การเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distrancing) การสั่งอาหารให้มาส่งที่บ้าน หรือการดูแลสุขภาพ ใส่ใจตัวเองมากขึ้น เป็นต้น

ด้วยพฤติกรรมของ New Normal หรือ ฐานวิถีชีวิตใหม่ ผลักดันให้คนหันมาใช้ระบบออนไลน์มากขึ้น บรรดาหน่วยงานราชการต่างๆ ก็เริ่มนำวิถีนี้มาใช้ด้วยเช่นกัน เช่นการจำกัดผู้คนในสถานที่ต่างๆ เพื่อลดความแออัด

แม้แต่การชำระภาษีรถยนต์ประจำปีก็เช่นกัน โดยปกติเรามักไปจ่ายกันที่สำนักงานขนส่งพื้นที่ต่างๆ ธนาคาร ไปรษณีย์ ห้างสรรพสินค้าที่มีจุดบริการของกรมการขนส่งทางบก หรือแม้แต่การเลื่อนล้อต่อภาษีที่ขนส่งฯ เป็นต้น MR.CARRO จะมาแนะนำวิธีการต่อภาษีรถยนต์ช่วงโควิด-19 วิธีการใช้บริการจะต้องทำอย่างไร ง่ายนิดเดียวเองครับ.

รถประเภทไหนบ้าง ที่ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ได้

  • รถเก๋ง รถตู้ รถกระบะ และรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล เท่านั้น
  • รถเก๋ง รถตู้ รถกระบะ อายุต้องไม่เกิน 7 ปี หากเกินกว่านั้นไม่สามารถต่อภาษีออนไลน์ได้
  • รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล อายุต้องไม่เกิน 5 ปี หากเกินไม่สามารถต่อภาษีออนไลน์ได้ต้องไปต่อเองที่ขนส่ง
  • รถที่ค้างชำระภาษี ต้องไม่เกิน 1 ปี และชำระภาษีล่วงหน้าไม่เกิน 3 เดือน หากเกินไม่สามารถต่อภาษีออนไลน์ได้
  • รถที่ต่อภาษีออนไลน์ เป็นรถทะเบียนจังหวัดใดก็ได้

DLT-E-Service

1. ต่อภาษีรถยนต์ช่วงโควิด-19 เริ่มต้นด้วยการเข้าเว็บไซต์ https://eservice.dlt.go.th/esvapp/login.jsf เลือก “ลงทะเบียนสมาชิกใหม่”

DLT-E-Service

2. กรอกรายละเอียดให้ครบ หลังจากนั้นกดปุ่ม “บันทึก” เช่น วันเดือนปีเกิด เลขประจำตัวประชาชน ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่สำหรับการจัดส่งเอกสาร พร้อมขอรับรหัสผ่านเข้าสู่ระบบ

หากลงทะเบียนเอาไว้แล้ว แต่เกิดลืมรหัสผ่านขึ้นมา ก็สามารถขอรับใหม่ได้ โดยกดตรงคำว่า “ลืมรหัสผ่าน” หลังจากนั้นกรอกเลขที่บัตรประชาชนระบบจะสุ่มคำถามพื้นฐานให้ท่านตอบและจะได้รหัสผ่านมา

DLT-E-Service-2

3. เมื่อได้รหัสผ่านมาแล้ว ก็ “เข้าสู่ระบบ”

DLT-E-Service

4. เลือก “ชำระภาษีรถประจำปี” และคลิกไปที่ “ชำระภาษีรถประจำปีผ่านอินเตอร์เน็ต”

DLT-E-Service-4

5. มาถึงหน้านี้ กรณีคุณใช้ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์เป็นครั้งแรก ให้ “ลงทะเบียนรถ” ด้านขวามือของภาพก่อน

โดยกรอกประเภทรถ, จังหวัด, เลขทะเบียนรถ, ชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์ หากชื่อเป็นของบริษัทไฟแนนซ์ ก็ใส่ชื่อบริษัทลงไป แต่ไม่ต้องมีคำหน้าว่า “บริษัท” หรือหากเป็นชื่อของเราเอง ให้ใส่ชื่อเว้นวรรคนามสกุล แล้วกดบันทึก

DLT-E-Service

6. เมื่อปรากฏข้อมูลรถของคุณขึ้นมาใน “รายการข้อมูลทะเบียนรถ” แล้ว ให้กด “ยื่นชำระภาษี” มุมขวาสุด

7. สำหรับรถยนต์ที่ติดแก๊ส ให้กรอกรายละเอียดเกี่ยวกับหลักฐานเพิ่ม อาทิ เลขที่รับรองถังแก๊ส ชื่อ-นามสกุล วิศวกรผู้ตรวจสอบ และวันที่รับรอง

DLT-E-Service

8. ถ้าไม่รถไม่ได้ติดแก๊ส ให้เลือกที่ พ.ร.บ. ต่อ ถ้าคุณมี พ.ร.บ. แล้ว ให้เลือกที่ช่อง “มีแล้ว” ส่วนใครที่ยังไม่มี ให้เลือก “ซื้อเพิ่ม” โดยให้ผู้ยื่นชำระภาษี ซื้อ พ.ร.บ. จากผู้ให้บริการภายนอกได้ แล้วนำข้อมูลมากรอกในระบบให้ถูกต้อง เพื่อใช้ยื่นชำระภาษีรถประจำปีออนไลน์

จากนั้นจะทราบค่าใช้จ่ายที่ต้องเสีย เมื่อเสร็จแล้ว คลิกที่ “กรอกสถานที่จัดส่งเอกสาร” เอาตามที่อยู่ที่คุณสะดวก ไม่จำเป็นต้องตรงกับที่อยู่ในเล่มทะเบียนรถก็ได้ จากนั้น เลือก “วิธีการชำระเงิน”

DLT-E-Service

9. เลือกชำระเงินต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ กับธนาคาร และห้างร้านที่ร่วมรายการได้ เพียง 1 ช่องทาง ตามตัวเลือกด้านล่าง

  • ชำระผ่านการหักจากบัญชีออนไลน์ ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา และธนาคารยูโอบี
  • ชำระผ่านบัตรเครดิต บัตรเดบิต ได้แก่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา และ ธนาคารกรุงเทพ
  • ชำระผ่านเคาน์เตอร์ธนาคาร หรือ ตู้ ATM หรือ Application ของธนาคาร/สถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการ ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารธนชาต ธนาคารเพื่อการเกษตร และสหกรณ์การเกษตร ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารทหารไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารยูโอบี เคาน์เตอร์เซอร์วิส เคาน์เตอร์ห้างเทสโก้โลตัส หรือทรูมันนี่เซอร์วิส (จ่ายผ่านมือถือได้) เป็นต้น

เมื่อเสร็จขั้นตอนเรียบร้อย กรมการขนส่งทางบก จะจัดส่งใบเสร็จรับเงิน ให้ผู้ชำระเงินผ่านทางไปรษณีย์ ตามที่อยู่จัดส่งเอกสารที่กรอกผ่านหน้าเว็บไซต์

อัตราค่าบริการ

  • ค่าจัดส่งเอกสารทางไปรษณีย์ รายการละ 32 บาท
  • ค่าธรรมเนียมธนาคาร รายการละ 20 บาท (กรณีจ่ายผ่านเคาน์เตอร์บริการ หรือหักบัญชีเงินฝาก)
  • ค่าธรรมเนียมการใช้บัตร ร้อยละ 2% และ VAT 7% (กรณีชำระผ่านบัตรเครดิต)

คุณสามารถติดตามสถานะการดำเนินการยื่นชำระภาษี สถานะการจัดส่งเอกสาร หมายเลข EMS เลขกรมธรรม์ หรือปัญหาจากการยื่นชำระ ได้ ที่เมนู “ตรวจสอบผลการชำระภาษี/เปลี่ยนช่องทางชำระเงิน” และยังสามารถพิมพ์ออกมาเป็นรายละเอียดการชำระเงินเป็นราย Reference เพื่อดูได้อีกด้วย

ท้ายสุด เจ้าของรถสามารถนำใบคู่มือจดทะเบียนรถไปปรับบันทึกรายการชำระภาษีได้ ณ สำนักงานขนส่งจังหวัด/สาขา ทั่วประเทศ

เอาล่ะครับ เป็นอย่างไรกันบ้างกับวิธีต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ ซึ่งถ้าใครได้ใช้แล้ว บอกได้เลยว่าสะดวกสบาย ประหยัดเวลาไปได้พอสมควรเลย

ส่วนช่วงนี้ถ้าเกิดใครร้อนเงินเพราะโควิด-19 วิธีขายรถที่ได้เงินเร็วไว ง่ายนิดเดียวเพียงนำรถมาขายกับ CARRO Express ได้เลย ง่ายนิดเดียว แค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand เลยนะจ๊ะ

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand คลิกที่นี่ครับ —> เพิ่มเพื่อน