พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมในกรุงเทพฯ ก่อนซื้อรถซื้อบ้าน ต้องรู้!

ขึ้นชื่อว่า “กรุงเทพฯ” เมืองหลวงของประเทศไทยแล้ว นับได้ว่าเป็นศูนย์รวมของทุกสิ่งมานานตั้งแต่หลายสิบปีก่อน ตั้งแต่มีทุ่งนา โรงงานอุตสาหกรรม ไปจนถึงมีบ้านเรือน หมู่บ้าน มีทางด่วน มีรถไฟฟ้า หรือมีชุมชนแออัดขนาดใหญ่ มีทั้งอยู่รวมกันและกระจายกัน ตั้งแต่ยุคก่อนที่จะมีผังเมืองด้วยซ้ำไป

พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมในกรุงเทพฯ ก่อนซื้อรถซื้อบ้าน ต้องรู้!

และปัญหายอดฮิตสุดๆ ของกรุงเทพฯ นั่นก็คือ “น้ำท่วม” นั่นเอง เพราะฝนตกหนักๆ หรือพายุเข้าทีไร เรื่องน้ำท่วมต้องมีบ้าง จะมากหรือน้อย ก็ขึ้นอยู่กับสภาพพื้นที่เดิม ว่าเป็นที่ราบลุ่ม เป็นโคก ดอน หนอง หรือบึง และระบบการบริหารจัดการน้ำ (เช่น เครื่องสูบน้ำเสีย หรือหากุญแจเครื่องสูบน้ำไม่เจอ) รวมไปถึงปัจจัยอื่นๆ เช่น ท่อระบายน้ำ ท่อตัน ไม่เคยลอกท่อ มีเศษขยะกีดขวางทางระบายน้ำ ฯลฯ

อ่านเพิ่มเติม >> ต้องรู้! วิธีดูรถน้ำท่วม จมน้ำ 5 จุด แบบง่ายๆ

อ่านเพิ่มเติม >> 3 วิธีเคลมประกันภัย เมื่อรถถูกน้ำท่วม

อ่านเพิ่มเติม >> 5 วิธีขับรถลุยน้ำท่วม ที่คุณต้องรู้!

ดังนั้น ก่อนที่คุณจะซื้อรถ ซื้อบ้าน ซื้อคอนโด ควรรู้ไว้หน่อยก็ดีว่าย่านไหนในกรุงเทพฯ เป็นพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม (หรือน้ำรอระบาย) เพื่อช่วยให้คุณเลือกรถได้ตรงกับลักษณะการใช้งาน หรือตกแต่งซ่อมแซมบ้าน ให้รับมือน้ำท่วมได้ทั้งปี

Mr.Carro รวบรวมข้อมูลพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมในกรุงเทพฯ มาให้อ่านกันครับ

พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมในกรุงเทพฯ ก่อนซื้อรถซื้อบ้าน ต้องรู้!

ภาพจาก Chairop Ch

เพราะอะไรกรุงเทพฯ ถึงน้ำท่วมบ่อย?

กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่ตั้งอยู่เหนืออ่าวไทยเพียง 30 กิโลเมตร ผู้เชี่ยวชาญคาดว่า ระดับน้ำทะเลในอ่าวไทยจะสูงขึ้น 19 – 29 ซม. ภายในปี 2050 เพราะโลกร้อนขึ้น

กรมทรัพยากรธรณี และสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย เคยทำสำรวจช่วงปี 2521-2524 พบว่า มีแผ่นดินทรุดตัวมากกว่าปีละ 10 ซม. ขณะที่ การสำรวจของกรมแผนที่ทหาร พบว่าตลอดระยะเวลา 30 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2521 – 2551 กรุงเทพมหานคร มีระดับการทรุดตัวสะสมมากกว่า 1 เมตร โดยมีการทรุดตัวสะสมประมาณปีละ 2-3 ซม.

ทำให้ระดับน้ำสูงขึ้น น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นแม่น้ำสายหลักผ่ากลางกรุงเทพฯ ก็สูงขึ้นตามไปด้วย รวมถึงการสูบน้ำบาดาลมาใช้ในอดีต ทำให้แผ่นดินทรุดลง และการถมคลองเป็นถนนจำนวนมาก จนไม่มีทางน้ำไหลออก

พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมในกรุงเทพฯ ก่อนซื้อรถซื้อบ้าน ต้องรู้!

ภาพจาก RT@Bbikinii

หลายคนที่ซื้อรถมาแล้ว แต่บ้านอยู่ในเขตพื้นที่ต่ำ หรือซอยที่เป็นหมู่บ้านยุคเก่า เจอถนนสายหลักสูงกว่าถนนในซอย ท่อระบายน้ำเล็ก แคบ หรือไม่เคยลอกท่อมานาน จนท่อตัน

และภัยธรรมชาติที่เกิดถี่ขึ้น รวมไปถึงที่ที่เคยเป็นพื้นที่รับน้ำ อย่างทุ่งนา ร่องสวน ป่า หายไป กลายเป็นป่าคอนกรีต (เช่น บ้าน และ คอนโดมิเนียม) แทน และส่วนมากโครงการที่สร้างใหม่ๆ ก็มักทำให้สูงกว่าถนน นี่ก็เป็นปัญหาหลักๆ ของน้ำท่วมในกรุงเทพฯ ที่ถนนต้องเป็นพื้นที่รับน้ำแทนนั่นเอง ….

พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมในกรุงเทพฯ ก่อนซื้อรถซื้อบ้าน ต้องรู้!

เลือกรถแบบไหน ลุยน้ำท่วมกรุงเทพฯ?

ตามปกติแล้ว รถ Eco-Car, รถเก๋ง, รถ Hatchback ที่เราๆ ท่านๆ ใช้งานกันเต็มบ้านเต็มเมือง จะมีระยะต่ำสุดจากพื้น (หรือ ความสูงใต้ท้องรถ) (Ground Clearance) อยู่ในระดับ 120 – 150 มม. (หรือ 12 – 15 ซม.) ซึ่งสามารถลุยน้ำได้ในระดับเกือบๆ ครึ่งล้อ หรือความลึกประมาณ 20 – 30 ซม. เท่านั้น แต่ถ้าลุยน้ำระดับสูงกว่านี้ ไม่ไหวแน่ๆ

สำหรับรถที่ลุยน้ำได้ ที่ดูเหมาะกับการใช้งานในพื้นที่ที่เสี่ยงน้ำท่วมบ่อย เราขอแนะนำรถประเภท รถกระบะ, รถ Crossover SUV หรือรถ SUV และ PPV ที่ออกแบบมาให้ยกสูงหน่อย ใช้ระบบขับเคลื่อนทั้ง 2 ล้อ และ 4 ล้อ ลุยน้ำได้ในระดับหนึ่ง เนื่องจากความอเนกประสงค์ในการใช้งานแล้ว ยังลุยน้ำท่วมได้ไหวอีกต่างหาก (แม้ว่ารถทุกคัน จะไม่ได้ออกแบบมาให้ลุยน้ำเป็นหลักก็ตาม)

โดยรถที่มีระยะต่ำสุดจากพื้น (หรือ ความสูงใต้ท้องรถ) (Ground Clearance) น้อยหรือมาก ก็มีผลต่อการลุยน้ำของรถรุ่นนั้นๆ ด้วย และรถที่ลุยน้ำได้ รวมไปถึงช่วงล่างหน้า เครื่องยนต์ ท่ออากาศ ไดชาร์จ และระบบไฟฟ้าที่ติดตั้งในห้องเครื่องยนต์ ล้วนมีผลต่อการลุยน้ำทั้งสิ้น

พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมในกรุงเทพฯ ก่อนซื้อรถซื้อบ้าน ต้องรู้!

ภาพจาก RT@Bee_Nidarat

รถกระบะ ที่เหมาะกับไว้ใช้ลุยน้ำท่วม อาทิ Toyota Hilux Revo (โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่), Nissan Navara (นิสสัน นาวาร่า), Isuzu D-Max (อีซูซุ ดีแม็คซ์), Mitsubishi Triton (มิตซูบิชิ ไทรทัน), Mazda BT-50 (มาสด้า บีที-50), Ford Ranger (ฟอร์ด เรนเตอร์), MG Extender (เอ็มจี เอ็กซ์เทนเดอร์) หรือ Chevrolet Colorado (เชฟโรเลต โคโรลาโด้) เป็นต้น

รถ PPV ที่เหมาะกับไว้ใช้ลุยน้ำท่วม อาทิ Toyota Fortuner (โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์), Nissan Terra (นิสสัน เทอร์ร่า), Mitsubishi Pajero Sport (มิตซูบิชิ ปาเจโร่ สปอร์ต), Isuzu MU-X (อีซูซุ มิวเอ็กซ์), Ford Everest (ฟอร์ด เอเวอเรสต์) หรือ Chevrolet Trailblazer (เชฟโรเลต เทรลเบลเซอร์) เป็นต้น

พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมในกรุงเทพฯ ก่อนซื้อรถซื้อบ้าน ต้องรู้!

ภาพจาก Tuddao Dao

รถ Crossover SUV ที่เหมาะกับไว้ใช้ลุยน้ำท่วม อาทิ Toyota Corolla Cross (โตโยต้า โคโรลล่า ครอส), Nissan X-Trail (นิสสัน เอ็กซ์เทรล), Honda HR-V (ฮอนด้า เอชอาร์วี), Honda CR-V (ฮอนด้า ซีอาร์วี), Mazda CX-3 (มาสด้า ซีเอ็กซ์-3), Mazda CX-30 (มาสด้า ซีเอ็กซ์-30), Mazda CX-5 (มาสด้า ซีเอ็กซ์-5), Mazda CX-8 (มาสด้า ซีเอ็กซ์-8), MG ZS (เอ็มจี แซดเอส), MG HS (เอ็มจี เอชเอส), Subaru XV (ซูบารุ เอ็กซ์วี), Subaru Forester (ซูบารุ ฟอเรสเตอร์), Haval Jolion Hybrid SUV (ฮาวาล โจไลอ้อน), DFSK Glory 560 (ดีเอฟเอสเค กลอรี่ 560) หรือ DFSK Glory i-Auto (ดีเอฟเอสเค กลอรี่ ไอ-ออโต้) เป็นต้น

ส่วน รถ MPV หรือ Crossover MPV ที่เหมาะกับไว้ใช้ลุยน้ำท่วมได้ อาทิ Toyota Avanza (โตโยต้า อแวนซ่า), Toyota Innova (โตโยต้า อินโนว่า), Honda BR-V (ฮอนด้า บีอาร์วี), Mitsubishi Xpander (มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์), Mitsubishi Xpander Cross (มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส), Suzuki Ertiga (ซูซูกิ เออร์ติก้า), Suzuki XL7 (ซูซูกิ เอ็กซ์แอล7) หรือ Chevrolet Spin (เชฟโรเลต สปิน) เป็นต้น

หรือจะเป็นรถ MPV, Crossover MPV หรือ SUV จากค่ายรถฝั่งยุโรปก็ได้เช่นกันครับ

พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมในกรุงเทพฯ ก่อนซื้อรถซื้อบ้าน ต้องรู้!

จุดไหนในกรุงเทพฯ น้ำท่วมอย่างบ่อย?

จากการสำรวจของสำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร พบว่า ในกรุงเทพฯ มีจุดเสี่ยงน้ำท่วมขัง จำนวน 12 จุด ในพื้นที่ 8 เขต ประกอบด้วย

พื้นที่ฝั่งพระนคร จำนวน 9 จุดใน 6 เขต

  • เขตจตุจักร ถนนรัชดาภิเษก บริเวณหน้าธนาคารกรุงเทพ
  • เขตบางซื่อ ถนนประชาราษฎร์สาย 2 บริเวณแยกเตาปูน
  • เขตหลักสี่ ถนนแจ้งวัฒนะ ช่วงจากคลองประปา ถึงคลองเปรมประชากร
  • เขตดุสิต ถนนราชวิถี บริเวณหน้าราชภัฏสวนดุสิตและเชิงสะพานกรุงธนบุรี
  • เขตราชเทวี ถนนพญาไท บริเวณหน้ากรมปศุสัตว์
  • เขตราชเทวี ถนนศรีอยุธยา บริเวณหน้า สน.พญาไท
  • เขตสาทร ถนนจันทน์ ช่วงจากซอยบำเพ็ญกุศล ถึงที่ทำการไปรษณีย์ยานนาวา
  • เขตสาทร ถนนสวนพลู ช่วงจากถนนสาทรใต้ ถึงถนนนางลิ้นจี่
  • เขตสาทร ถนนสาธุประดิษฐ์ บริเวณแยกตัดถนนจันทน์

พื้นที่ฝั่งธนบุรี จำนวน 3 จุดใน 2 เขต

  • เขตบางขุนเทียน ถนนบางขุนเทียน-ชายทะเล ช่วงจากถนนพระรามที่ 2 ถึงคลองสะแกงาม
  • เขตบางแค ถนนเพชรเกษม ช่วงจากคลองทวีวัฒนา ถึงคลองราชมนตรี
  • เขตบางแค ถนนหมู่บ้านเศรษฐกิจ ช่วงจากถนนเพชรเกษม ถึงวงเวียนกาญจนาภิเษก

พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมในกรุงเทพฯ ก่อนซื้อรถซื้อบ้าน ต้องรู้!

ส่วนจุดอื่นๆ ที่ไม่มีในการสำรวจของสำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร ฝนตกหนักๆ มักเกิดน้ำท่วม (น้ำรอการระบาย) ที่มีทั้งพื้นที่สาธารณะ ซอย ถนน และพื้นที่หมู่บ้าน หรือที่ส่วนบุคคล)

  • เขตห้วยขวาง ถนนสุทธิสารวินิจฉัย, ถนนประชาสุข, ถนนเทียมร่วมมิตร, ซอยทวีมิตร (พระราม 9 ซอย 7), ซอยศูนย์วิจัย
  • เขตคลองเตย ซอยสุขุมวิท 16, ซอยสุขุมวิท 22, ซอยสุขุมวิท 26, ซอยสุขุมวิท 38, ถนนพระรามที่ 4
  • เขตวัฒนา ถนนสุขุมวิท 21, ซอยสุขุมวิท 39, ซอยพร้อมศรี, ถนนสุขุมวิท 55, ถนนสุขุมวิท 63, ซอยสุขุมวิท 69, ถนนสุขุมวิท 71
  • เขตพระโขนง ซอยสุขุมวิท 62, ถนนสุขุมวิท 101/1, ถนนสุขุมวิท 103 (อุดมสุข)
  • เขตสวนหลวง ถนนสุขุมวิท 77, ซอยอ่อนนุช 39, ถนนพัฒนาการ, ซอยพัฒนาการ 28, ซอยพัฒนาการ 30
  • เขตประเวศ ซอยพัฒนาการ 69, ถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9
  • เขตดินแดง ซอยโพธิ์ปั้น
  • เขตจตุจักร ถนนพหลโยธิน (แยกรัชโยธิน-ลาดพร้าว), ถนนรัชดาภิเษก, ซอยรัชดาภิเษก 36, ซอยเสือใหญ่อุทิศ
  • เขตลาดพร้าว ถนนสุคนธ์สวัสดิ์
  • เขตบางกะปิ ถนนรามคำแหง, ซอยรามคำแหง 24, ซอยรามคำแหง 60, ถนนศรีนครินทร์
  • เขตวังทองหลาง ซอยลาดพร้าว 64
  • เขตบางนา ถนนศรีนครินทร์, ถนนสุขุมวิท 107
  • เขตบางเขน ถนนพหลโยธิน
  • เขตหลักสี่ ถนนวิภาวดีรังสิต, ถนนแจ้งวัฒนะ ช่วงหน้าศูนย์ราชการฯ กทม. – ห้าแยกปากเกร็ด
  • เขตบางกอกน้อย ถนนสมเด็จพระปิ่นเกล้า ช่วงแยกบรมราชชนนี – หน้าห้างพาต้า

หากท่านใดมีข้อมูลเพิ่มเติม สามารถนำเสนอมาได้ครับ

พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมในกรุงเทพฯ ก่อนซื้อรถซื้อบ้าน ต้องรู้!

ภาพจาก RT@SuwitKittitien

จากข้อมูลของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย ได้เก็บข้อมูลตลอด 9 ปี (พ.ศ. 2548-2556) พบว่า หลายพื้นที่ในกรุงเทพฯ มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่รอบนอก โดยมีรายละเอียดดังนี้

พื้นที่เสี่ยงอุทกภัยระดับ 1 พื้นที่ที่เกิดน้ำท่วมซ้ำซาก 7-9 ปี และพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยระดับ 2 พื้นที่ที่เกิดน้ำท่วมซ้ำซาก 5-6 ปี ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่รอบนอกกรุงเทพฯ ได้แก่

  • หนองจอก
  • คลองสามวา
  • ลาดกระบัง
  • มีนบุรี

และบางส่วนในเขต

  • สายไหม
  • บางเขน
  • คันนายาว

เอาเป็นว่า ไม่ว่าใครจะซื้อรถ หรือซื้อบ้านในกรุงเทพฯ ข้างต้น ก็ต้องพิจารณาเลือกทั้งบ้านทั้งรถดูกันละกันนะครับ

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่ให้เหมาะกับบ้านของคุณ มาขายรถกับทาง Carro Express สิ! คลิกเลยที่ https://th.carro.co/sell-car/express รับรองได้เงินเร็ว ไว ทันใจแน่นอน!

Carro Automall ตลาดรถ

ส่วนใครสนใจจะซื้อรถมือสอง Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

แหล่งที่มาบางส่วนจาก: