New-Motorcycle-Tax-In-Thailand-2020

คณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบให้ปรับภาษีรถจักรยานยนต์ใหม่ ตามการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซให้ได้ 20-25% ในปี 2572 ซึ่งจะเริ่มจัดเก็บภาษีใหม่ใน 1 ม.ค. 2563 นี้

New-Motorcycle-Tax-In-Thailand-2020

นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวานนี้ (7 พ.ค.) เห็นชอบการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถจักรยานยนต์ใหม่ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563

โดยปรับรูปแบบการเก็บภาษีตามความจุของกระบอกสูบ เป็นการจัดเก็บตามปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เพื่อลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กในประเทศ สำหรับอัตราภาษีใหม่ ประกอบด้วย

1. รถจักรยานยนต์แบบพลังงานไฟฟ้า จะคิดภาษีอยู่ที่ร้อยละ 1

2. รถจักรยานยนต์ทั้งแบบที่ใช้น้ำมัน และแบบไฮบริด ที่ใช้ได้ทั้งน้ำมันและใช้ไฟฟ้า แยกเป็น

– ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไม่เกิน 10 กรัม/กิโลเมตร (ก.ม.) คิดภาษีร้อยละ 1
– ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เกิน 10 กรัม/ก.ม. แต่ไม่เกิน 50 กรัม/ก.ม. คิดภาษีร้อยละ 3
– ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เกิน 50 กรัม/ก.ม. แต่ไม่เกิน 90 กรัม/ก.ม. คิดภาษีร้อยละ 5
– ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เกิน 90 กรัม/ก.ม. แต่ไม่เกิน 130 กรัม/ก.ม. คิดภาษีร้อยละ 9
– ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เกิน 130 กรัม/ก.ม. คิดภาษีร้อยละ 18

3. รถจักรยานยนต์ต้นแบบที่ผลิต หรือนำเข้ามาเพื่อนำไปวิจัย พัฒนา หรือทดสอบสมรรถนะ ที่ไม่เคยขายในท้องตลาดเป็นการทั่วไปในประเทศ และไม่เคยได้รับการยกเว้นภาษีสรรพสามิตมาก่อน หรือเคยได้รับยกเว้นภาษีสรรพสามิตมาแล้วแต่ได้เลิกการวิจัย พัฒนา หรือทดสอบสมรรถนะ จะไม่เสียภาษี

4. รถจักรยานยนต์อื่นๆ นอกจากนี้ คิดภาษีที่ร้อยละ 20 รถจักรยานยนต์ทั่วไปปรับขึ้นอีก 200 บาท ส่วนรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ ปรับขึ้นอีกประมาณ 1,500 บาท

Old-Cars-From-Japan

นอกจากนี้ ครม.ยังมีมติเห็นชอบร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้รถยนต์ที่ใช้แล้วเป็นสินค้าที่ต้องห้ามหรือต้องขออนุญาตในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. …. มีมติอนุมัติ

1. อนุมัติในหลักการร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้รถยนต์ที่ใช้แล้วเป็นสินค้าที่ต้องห้ามหรือต้องขออนุญาตในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. …. ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา โดยให้รับข้อสังเกตของกระทรวงการคลังไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ และ

2. ให้กระทรวงพาณิชย์รับข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง สรุปผลการประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 7 พฤษภาคม 2562

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก Workpoint