Carro-The-All-New-Mazda3-2019
Mazda เปิดตัวแนะนำ All-New Mazda3 (มาสด้า3) มาพร้อมแนวคิด “A New Era Begins” เจเนอเรชั่นใหม่ล่าสุด ภายใต้ Concept “Less is More” เน้นความเรียบง่ายแต่งดงาม ยึดหลักปรัชญามนุษย์เป็นศูนย์กลาง นำเอาท่วงท่าการเดินที่เป็นธรรมชาติของมนุษย์มาเป็นต้นแบบในการพัฒนา เกิดเป็นรถยนต์ที่สามารถควบคุมการขับขี่ได้อย่างแม่นยำ และสมดุลในทุกสถานการณ์

ด้วยสกายแอคทีฟแพลตฟอร์มเจเนอเรชั่นใหม่ SkyActiv-Vehicle Architecture ทำงานผสานกับระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง G-Vectoring Control Plus (GVC Plus) อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัย i-ACTIVSENSE
The-All-New-Mazda3-2019
มีให้เลือก 2 สไตล์ ทั้งแบบ Sedan 4 ประตู และ Fastback 5 ประตู ถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ของมาสด้า ประเทศไทย และทั่วโลก เพื่อยกระดับตลาด C-Segment ด้วยเทคโนโลยียานยนต์ที่ถูกคิดค้นและพัฒนาขึ้นในทุกองค์ประกอบ วิวัฒนาการใหม่ของ KODO Design คือ การแสดงออกรูปแบบใหม่ของความสง่างาม จากสุนทรียศาสตร์สไตล์ญี่ปุ่น
The-All-New-Mazda3-2019
All-New Mazda3 เป็นการออกแบบ KODO Design มาผสานกับ “การเคลื่อนไหวที่เป็นหนึ่งเดียว” ทำให้เกิดการแสดงออกที่มีนัยสำคัญและน่าทึ่งกว่ารุ่นก่อนหน้า
The-All-New-Mazda3-2019
The-All-New-Mazda3-2019
การออกแบบรุ่น Fastback ให้อารมณ์มากกว่าเดิม ในขณะที่รุ่น Sedan หรูหรามากขึ้น
The-All-New-Mazda3-2019
เครื่องยนต์ Skyactiv พัฒนาก้าวขึ้นไปอีกระดับ Skyactiv-G ขนาด 2.0 ลิตร ถูกพัฒนาให้แรง และประหยัดน้ำมัน ด้วยเทคโนโลยีที่ฉีดเชื้อเพลิงเข้าสู่ห้องเผาไหม้โดยตรง ผนวกกับหัวฉีดดีไซน์ใหม่ ส่งผลให้มีอัตราส่วนกำลังอัดสูง แรงบิดเพิ่มขึ้น ประหยัดน้ำมันมากขึ้น ด้วยอัตราส่วนกำลังอัด 13.0:1 ให้กำลังสูงสุด 165 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 213 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที ประหยัดน้ำมันสูงสุด 15.9 กม./ลิตร (ผลการทดสอบตามมาตรฐาน UN101 Combine Mode)
The-All-New-Mazda3-2019
ห้องโดยสารหรูหรา ด้วยวัสดุเกรดพรีเมียมครบครันทุกฟังก์ชั่นการใช้งาน คุณภาพสูง ออกแบบและพัฒนาใหม่หมด โดยยึดหลักมนุษย์เป็นศูนย์กลางในการจัดวางตำแหน่งอุปกรณ์ต่างๆ ในตำแหน่งที่เหมาะสม  ไม่ว่าจะเป็นเบาะดีไซน์ใหม่ที่โอบกระชับ รองรับสรีระ ช่วยให้กระดูกเชิงกรานตั้งตรง แนวกระดูกสันหลังคงรูปตัว S เหมือนขณะเดิน เพื่อขับขี่ได้อย่างเป็นธรรมชาติและสมดุล ช่วยลดความเมื่อยล้าจากการขับขี่ สะดวกยิ่งขึ้นด้วยเบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 10 ทิศทาง พร้อมระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่ได้ 2 ตำแหน่ง
The-All-New-Mazda3-2019
แผงหน้าปัดและมาตรวัดดิจิตอลแบบ TFT LCD หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบสีบนกระจกหน้า  เชื่อมต่อสื่อสารแบบไร้ขีดจำกัดด้วย Mazda Connect ที่มาพร้อม Apple CarPlay โดยแสดงข้อมูลผ่านหน้าจอสี Center Display แบบ Widescreen ขนาด 8.8 นิ้ว ควบคุมด้วยปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Commander โดยผู้ขับขี่ไม่ต้องละสายตาจากถนน สัมผัสกับห้องโดยสารที่เงียบขึ้น และระบบเสียงคุณภาพ Bose รอบทิศทาง พร้อมลำโพง 12 ตำแหน่ง
The-All-New-Mazda3-2019
 
Mazda ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยด้วยเทคโนโลยี i-ACTIVSENSE ได้รับการคิดค้นและพัฒนาขีดความสามารถอย่างจริงจัง โดยเน้นการป้องกันเพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ
  • ระบบควบคุมความเร็วและพวงมาลัยตามรถคันหน้า CTS (Cruising & Traffic Support) ที่สามารถควบคุมความเร็วของรถ ช่วยลดความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่
  • ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติแบบ Advance หรือ Advanced SBS (Advanced Smart Brake Support) ที่สามารถตรวจจับรถคันหน้า จักรยาน รวมถึงคนเดินถนน
  • ระบบช่วยหยุดรถเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง SBS-RC (Smart Brake Support-Reverse Crossing)
  • ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
  • ระบบช่วยเบรกและหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง SBS-R (Smart Brake Support-Reverse) ที่สามารถตรวจจับวัตถุในวงกว้างและสูงขึ้น ด้วยจำนวนเซ็นเซอร์ที่มากขึ้น
  • ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ ALH (Adaptive LED Headlamps) ที่ได้รับการพัฒนาให้ลำแสงละเอียดยิ่งขึ้น
  • ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM (Advanced Blind Spot Monitoring)
  • ระบบแสดงภาพ 360 องศา รอบทิศทาง (360° View Monitor)
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LAS (Lane Keep Assist System)
  • ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน LDWS (Lane Departure Warning System)
  • ระบบเตือนเมื่อเกิดความอ่อนล้าขณะขับขี่ DAA (Driver Attention Alert)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ MRCC (Mazda Radar Cruise Control)

และปกป้องทันทีจากอุบัติเหตุด้วยถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง ม่านถุงลมนิรภัย และถุงลมบริเวณหัวเข่าด้านคนขับ รวม 7 ตำแหน่ง

All-New Mazda3 มีให้เลือก 7 สี ประกอบด้วย

  • สีแดง โซล เรด คริสตัล (Soul Red Crystal)
  • สีเทา แมชชีน เกรย์ (Machine Gray)
  • สีขาว สโนว์เฟลก ไวท์ เพิร์ล (Snowflake White Pearl)
  • สีเงิน โซนิค ซิลเวอร์ (Sonic Silver)
  • สีน้ำตาล ไททาเนียม แฟลช (Titanium Flash)
  • สีดำ เจ็ท แบล็ก (Jet Black)
  • สีเทาใหม่ โพลีเมทัล เกรย์ (Polymetal Gray) เฉพาะรุ่นฟาสท์แบค 5 ประตู (และจำหน่ายผ่านระบบออนไลน์เท่านั้น)

ราคาจำหน่าย All-New Mazda3 ทั้งรุ่นฟาสท์แบค 5 ประตู และซีดาน 4 ประตู จำหน่ายในราคาเดียวกัน

  • รุ่น 2.0 C ราคา 969,000 บาท
  • รุ่น 2.0 S ราคา 1,069,000 บาท
  • รุ่น 2.0 SP ราคา 1,198,000 บาท

พร้อมโปรโมชั่น ฟรีค่าแรงเช็คระยะ 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร* ขยายการรับประกันคุณภาพเป็น 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร** พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance

* ฟรีค่าแรงการบำรุงรักษา 5 ปี หรือ 10 ครั้ง ทุก 6 เดือน หรือ ทุก 10,000 กม. ตั้งแต่ 10,000 – 100,000 กม.

** ขยายการรับประกันคุณภาพเป็น 5 ปี หรือ 150,000 กม. อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน

ตามเงื่อนไขโปรแกรม Mazda Added Protection

ถ้าคุณอยากจะขายรถคันเก่า เพื่อไปซื้อ Mazda3 ใหม่ สามารถขายรถคันเดิมกับ Carro ได้ ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ Carro Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook Carro Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ครับ —> เพิ่มเพื่อน

Mazda3-MY2018

Mazda3 รุ่นปี 2018 เพิ่มออพชั่นใหม่ๆ เพียบ ขึ้นราคาอีกรุ่นละ 1 หมื่นบาท

Mazda3-MY2018

ถึงเวลาที่มาสด้าขยับอีกครั้ง ด้วยการเสริมทัพ C-Segment อย่าง Mazda3 (มาสด้า3) คอมแพคคาร์ระดับพรีเมียมที่เทียบเท่ากับคู่แข่งรถยนต์จากค่ายยุโรป เตรียมพร้อมสู้ศึกลุยตลาดก่อนถึงงานมอเตอร์โชว์ปีนี้ ภายใต้แนวคิดสุดหรู Vision Beyond Imagination หรือ มิติใหม่ของความสมบูรณ์แบบที่มีอยู่จริง ที่ยังคงมาพร้อมกับการออกแบบระดับโลกของมาสด้าหรือ “โคโดะ ดีไซน์” ที่สะท้อนความโดดเด่นสง่างามจากการเคลื่อนไหวอันทรงพลังของสิ่งมีชีวิตในธรรมชาติ ผนวกกับเทคโนโลยีสุดล้ำที่ไม่เหมือนใครอย่างสกายแอคทีฟ และระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะ (G-Vectoring Control)

ส่งผลให้รถมาสด้า3 ใหม่ เพิ่มความโดดเด่นมากยิ่งขึ้นเหนือระดับ ด้วยการเพิ่มอุปกรณ์มาตรฐานต่างๆ มากมายจนล้นคัน แต่ปรับราคาเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเพียงแค่ 10,000 บาทเท่านั้น โดยราคาจำหน่ายเริ่มต้นอยู่ที่ 857,000 บาท

Mazda3-MY2018

มาสด้า3 รุ่น 2018 คอลเล็กชั่น มาพร้อมสีใหม่ล่าสุด สีแดง โซล เรด คริสตัล (Soul Red Crystal) ที่เพิ่มภาพลักษณ์ความสปอร์ตพรีเมียมให้กับรถมาสด้า3 ปรับปรุงคุณภาพของทุกองค์ประกอบโดยมีปรัชญา HMI เป็นพื้นฐาน ตั้งแต่รูปลักษณ์ภายนอกและภายใน ฟังก์ชั่นต่างๆ รวมถึงความเงียบภายในห้องโดยสาร

Mazda3-MY2018

มาสด้า3 ยังติดอันดับ Top 3 ของรถยนต์ที่ได้เข้าชิงรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมของโลก เมื่อปี 2557 และรางวัลรถยนต์ออกแบบยอดเยี่ยมของโลก ปี 2557 การเปิดตัว มาสด้า3 รุ่น 2018 คอลเลคชั่น นี้ เป็นอีกหนึ่งในความภาคภูมิใจอย่างยิ่งของชาวมาสด้า เพิ่มระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (ABSM) และระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA) เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่นย่อย เพื่อให้ผู้บริโภคได้สัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกสนาน เร้าใจ และปลอดภัยยิ่งขึ้น

โดยในปีนี้ มาสด้าตั้งเป้ายอดขายเฉพาะมาสด้า3 ประมาณ 6,000 คัน และยอดขายโดยรวมอยู่ที่ประมาณ 60,000 คัน หรือเติบโตเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วประมาณ 17%

Mazda3-MY2018

สำหรับรถยนต์มาสด้า3 ถือเป็นโมเดลหลักสำคัญ ที่ทำให้มาสด้าเติบโตมาอย่างต่อเนื่อง โดยรุ่นแรกขึ้นไลน์การผลิตที่โรงงานออโต้อัลลายแอนซ์ จังหวัดระยอง เมื่อปี 2546 ได้สร้างปรากฏการณ์ต่างๆ ไว้มากมาย และมียอดขายในประเทศไทยสูงถึง 30,000 คัน ถัดมารุ่นที่ 2 เริ่มผลิตขึ้นเมื่อปี 2554 มียอดขาย 13,000 คัน และรุ่นที่ 3 เมื่อปี 2557 จนถึงปัจจุบัน มียอดขายสูงถึง 25,500 คัน รวมทั้ง 3 โมเดล มียอดขายกว่า 68,500 คัน เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่มีความสำคัญอย่างมากในสายผลิตรถยนต์ของมาสด้า สิ่งสำคัญคือรถยนต์มาสด้า3 ได้ก้าวเข้ามาเป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์มาสด้า โดยมียอดขายสูงถึง 1 ใน 3 ของยอดจำหน่ายมาสด้าทั่วโลก ด้วยยอดขายเกือบ 5 ล้านคันใน 142 ประเทศ ที่สำคัญยังได้รับรางวัลและประกาศเกียรติคุณต่างๆ กว่า 180 รางวัล

Mazda3-MY2018

รถยนต์มาสด้า3 รุ่นปี 2018 คอลเลคชั่น ได้เพิ่มออพชั่นล้ำสมัย ตอบสนองกลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่ ประกอบด้วย

ชื่อรุ่น รายการอุปกรณ์มาตรฐานที่เพิ่มเติมจากรุ่นก่อนหน้า
2.0 E (แบบ 4 ประตู) 2.0 E Sports (แบบ 5 ประตู) 1. เพิ่มระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Advance Blind Spot Monitoring, ABSM)
2. เพิ่มระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (Rear Cross Traffic Alert, RCTA)
2.0 C (แบบ 4 ประตู) 2.0 C Sports (แบบ 5 ประตู)
  1. เพิ่มไฟหน้าแบบ LED โปรเจคเตอร์ พร้อม Daytime Running Light
  2. เพิ่มระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกซ้าย-ขวา
  3. เพิ่มเพิ่มระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Advance Blind Spot Monitoring, ABSM)
  4. เพิ่มระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (Rear Cross Traffic Alert, RCTA)
2.0 S (แบบ 4 ประตู) 2.0 S Sports (แบบ 5 ประตู)
  1. เพิ่มเบาะนั่งด้านคนขับแบบปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง
  2. เพิ่มระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกซ้าย-ขวา
  3. เพิ่มระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Advance Blind Spot Monitoring, ABSM)
  4. เพิ่มระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (Rear Cross Traffic Alert, RCTA)
2.0 SP (แบบ 4 ประตู) 2.0 SP Sports (แบบ 5 ประตู)
  1. เพิ่มเบาะนั่งด้านคนขับแบบปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง
  2. เพิ่มระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกซ้าย-ขวา
  3. เพิ่มระบบแสดงภาพ 360 องศา รอบทิศทาง (360° View Monitor)
  4. เพิ่มระบบเซ็นเซอร์กะระยะด้านหน้า 4 จุด

 

Mazda3-MY2018

รถยนต์มาสด้า3 รุ่น 2018 คอลเล็กชั่น มีรูปแบบตัวถังให้เลือกทั้งแบบซีดาน 4 ประตู และแบบแฮตช์แบค 5 ประตู ในรูปแบบเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 2.0 ลิตร

โดยสีภายนอกมี มีให้เลือกทั้งหมด 7 สี ซึ่งสีใหม่ล่าสุดคือ สีแดง โซลเรด คริสตัล, สีเทาแมชชีน เกรย์, สีขาว สโนว์เฟลก ไวท์ เพิร์ล, สีน้ำตาล ไททาเนียม แฟลช, สีเงิน อลูมินัม เมทัลลิค, สีดำ เจ็ท แบล็ก และสีน้ำเงิน อีเทอนอล บลู

Mazda3-MY2018

ราคาจำหน่ายรถยนต์มาสด้า3 รุ่น 2018 คอลเลคชั่น ทั้งรุ่นซีดาน 4 ประตู และรุ่นแฮตช์แบค 5 ประตู

  • รุ่น 2.0 E ราคา 857,000 บาท
  • รุ่น 2.0 C ราคา 951,000 บาท
  • รุ่น 2.0 S ราคา 998,000 บาท
  • รุ่น 2.0 SP ราคา 1,149,000 บาท
mazda-3

Review Mazda3 ใหม่ สปอร์ตกว่าพี่..สวยกว่าพี่..น้องว่าไม่มีแล้วค่ะ !!

กดปุ่มสตาร์ทเครื่อง มาสด้า 3 ใหม่ ที่หลังแป้นพวงมาลัยเบาๆ เสียงคำรามของเครื่องยนต์สกายแอคทีฟ ก้องเข้ามาในห้องโดยสารให้รู้สึกได้ถึงพละกำลัง

และยิ่งเมื่อกดคันเร่งลงไปก็ยิ่งทำให้เห็นว่าเส้นทางแห่งความสนุกเร้าใจได้เริ่มขึ้นแล้ว ด้วยกำลังที่เรียกมาตั้งแต่ตีนต้น แบบชนิดหลังกระแทกเบาะ เมื่อเผลอกดคันเร่งแรงไปหน่อยเดียว

เส้นทางช่วงแรกยังอยู่ในชุมชน ทำให้ได้เห็นถึงความคล่องแคล่ว จากการหลบหลีกรถราเพื่อนร่วมถนนที่ทำได้อย่างสบายมือ และยิ่งเมื่อพ้นตัวเมือง ที่ทั้งทำความเร็วได้มากขึ้น รวมถึงเส้นทางคดโค้ง ช่วยให้ซึมซับถึงเทคโนโลยีสกายแอคทีฟที่มาสด้าภูมิใจนำเสนอมาตลอด ว่าเป็นอีกขั้นของอุตสาหกรรมยานยนต์ ที่พัฒนาขึ้นจากเครื่องยนต์สันดาปแบบเดิมให้มีสมรรถนะสูงขึ้น ประหยัดน้ำมัน และมลพิษลดลง

และมาสด้า 3 แฮทช์แบ็ค 5 ประตู ใหม่นี้ พัฒนาให้เป็นสกายแอคทีฟแบบเต็มรูปแบบ ไม่ใช่แค่เครื่องยนต์เพราะช่วงล่าง พวงมาลัย ตัวถัง ระบบส่งกำลัง เบรก ให้มีความหนึบแน่น และสนุกสนานอยู่ในคันเดียว ภายนอกให้ความรู้สึกราวกับสปอร์ตหรูจากยุโรป กระจังหน้าเอกลักษณ์เฉพาะ ทรงห้าเหลี่ยม ลากยาวถึงไฟหน้า ไบ-ซีนอน พร้อมไฟสว่างกลางวัน หรือ แอลอีดี เดย์ไทม์ เส้นสายด้านข้างพริ้วไหวต่อเนื่องไปจนถึงด้านท้าย เฉียบคม ให้ความรู้สึกถึงพลัง ไฟท้ายดีไซน์สอดรับกับไฟหน้า

ภายในมาสด้าได้ออกแบบใหม่ จนทำให้ห้องโดยสารกว้างขึ้น โดยเฉพาะเบาะนั่งด้านหลัง ที่หลายคนเคยเปรยเบาๆ ว่าทั้งเจนเนอเรชั่น 1-2 ค่อนข้างแคบ  ดีไซน์ทุกอย่างเน้นอารมณ์สปอร์ต พวงมาลัยสามก้าน ตกแต่งด้วยวัสดุมันวาว พร้อมระบบมัลติฟังก์ชั่น แต่ที่ทำให้มาสด้า 3 ใหม่ ต่างจากรถญี่ปุ่นทั่วไป คือ แผงควบคุมอุปกรณ์ที่อยู่ตรงคอนโซลกลาง ที่นอกจากใช้ควบคุมทุกอย่างแล้ว ยังใช้ในการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ ให้เป็นหนึ่งเดียวกับตัวรถ ทำให้เบียดใกล้กับรถยุโรปชั้นดีได้อย่างกระชั้นชิด โดยมีจอแสดงผลดีไซน์โดนๆ อยู่กลางคอนโซลหน้า

และอีกสิ่งที่บ่งชี้ถึงความล้ำสมัย จอกระจกขนาดเล็กแสดงความเร็วแบบดิจิตอล อยู่เหนือมาตรวัดต่างๆ ไสตล์สปอร์ต เลื่อนตัวขึ้นมาเมื่อสตาร์ทเครื่องยนต์ และเลื่อนเก็บเมื่อดับเครื่องยนต์ หลังจากทดสอบไประยะหนึ่ง รับรู้ถึงอารมณ์การขับขี่ ที่ล้อกันไปกับ โคโดะ ดีไซน์ หรือจิตวิญญาณแห่งการเคลื่อนไหว เพราะไม่ว่าจะโค้งไหน เนินไหน ทำได้กระชับฉับไว มั่นใจกับช่วงล่าง ที่เอาอยู่ทุกครั้ง ประกอบกับพวงมาลัยคมกริบ วางรอยล้อได้อย่างใจ

เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ให้ความสะใจทั้งบนย่านความเร็วสูงที่แม้จะขึ้นไปถึงกว่า 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่เรียกมาได้ในเวลาแค่อึดใจ ไม่ว่าจะถนนเปียก หรือแห้ง ก็ยังรู้สึกถึงความเสถียรไม่มีวอกแวกให้ต้องหวาดหวั่น การเข้าโค้ง หรือหลบสิ่งกีดขวาง ที่บังเอิญเส้นทางที่ใช้ในวันนั้น มีพายุฝนพัดผ่าน ทำให้ต้นไม้ล้มเป็นระยะๆ ต้องโยกซ้าย-ขวา กันเป็นพัลวัน แต่ก็ผ่านได้อย่างเนียนๆ

เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดทำงานได้อย่างนุ่มนวล และถ้ายังไม่สะใจ มีโหมดเกียร์ธรรมดา ให้ได้สนุกยิ่งขึ้น มั่นใจกับระบบเบรก เพราะไม่ว่าจะเบรกในย่านความเร็วต่ำแค่กดเบาๆ หรือจังหวะทำความเร็วสูง แม้จะอยู่บนถนนเปียก ก็หยุดได้ฉับไว และไม่มีอาการท้ายปัด ล้อตายเลยแม้แต่น้อย

Mazda-Kai-Concept

ว่าที่ Mazda3 โฉมใหม่ในอนาคต กับรูปแบบของ Kodo Design ใน Generation ถัดไป

Mazda-Kai-Concept

Mazda Kai Concept ที่เปิดตัวไปในงาน Tokyo Motor Show 2017 ครั้งนี้ สร้างความฮือฮาและความน่าสนใจสำหรับสาวกมาสด้าเป็นอย่างมาก ที่หลายคนคาดว่านี่คือ Mazda 3 เจเนอเรชั่นต่อไป ที่มาในรูปแบบ Hatchback 5 ประตู และขุมพลัง Skyactiv-X

Mazda-Kai-Concept

สำหรับชื่อรุ่น “Kai” ในภาษาญี่ปุ่น หมายถึง ผู้บุกเบิก เปรียบเสมือนการนำรูปแบบของ Kodo Design มาเป็นแนวทางในการออกแบบใหม่ และใช้กับรถต้นแบบรุ่นนี้ ซึ่ง Mazda ระบุว่านี่คือรถยนต์ตัวถัง Hatchback ที่มีสัดส่วนในอุดมคติ

Mazda-Kai-Concept

มีมิติตัวถัง ยาว 4,420 มม. กว้าง 1,855 มม. สูง 1,375 มม. และระยะฐานล้อ 2,750 มม.

Mazda Kai Concept มาพร้อมความยาวฐานล้อเพิ่มขึ้น 50 มม. เมื่อเทียบกับ Mazda3 Hatchback โฉมปัจจุบัน ซึ่งจะทำให้พื้นที่ภายในห้องโดยสารกว้างขวางขึ้น ขณะที่เวอร์ชั่นจำหน่ายจริงจะมาพร้อมแพล็ตฟอร์มใหม่ ที่ทำให้ทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารรู้สึกถึงความสบายมากขึ้น

Mazda-Kai-Concept

การออกแบบภายนอก ยังคงใช้กระจังหน้าขนาดใหญ่อันเป็นเอกลักษณ์ของมาสด้า ไฟท้ายแบบโดนัทคู่ สปอยเลอร์หลังขนาดเล็ก ท่อไอเสียปลายคู่ และล้อแม็กขนาด 20 x 9 นิ้ว

Mazda-Kai-Concept

Mazda-Kai-Concept

Mazda-Kai-Concept

ภายในห้องโดยสารของ Mazda Kai Concept มาในโทนสีดำตัดด้วยสีแดง รองรับผู้โดยสาร 4 ตำแหน่ง ออกแบบภายใต้ปรัชญา Jinba-ittai ที่เน้นในด้าน “Less is more” ดูเรียบง่ายและแฝงความสปอร์ต ด้วยพวงมาลัย 3 ก้าน แบบสปอร์ต แผงคอนโซลหน้าตกแต่งโครเมี่ยม พร้อมหน้าจอแสดงผลแบบ 3 วง และหน้าปัดแบบเข็ม

Mazda-Kai-ConceptMazda-Kai-Concept

Mazda-Kai-Concept

Mazda Kai Concept มาพร้อมเครื่องยนต์วางหน้าและขับเคลื่อนล้อหน้า แบบ Skyactiv-X หรือเครื่องยนต์เบนซินที่จุดระเบิดด้วยการอัดแบบ Spark Controlled Compression Ignition (SPCCI) ซึ่งเมื่อเทียบกับ Skyactiv-G ที่มีความจุเดียวกัน จะพบว่าเครื่องยนต์ใหม่ ให้แรงบิดดีขึ้นอย่างน้อย 10% และมีอัตราสิ้นเปลืองต่ำลงถึง 20-30% รวมถึงยังรองรับการติดตั้งซุปเปอร์ชาร์จเจอร์ อีกด้วย