รวมวิธีเดินทาง ไปงาน Big Motor Sale

วางแผนการเดินทาง หรือใช้ระบบขนส่งมวลชน ไม่ต้องหาที่จอดรถให้ยุ่งยาก

Big Motor Sale 2022 มหกรรมเปิดโลกยานยนต์

งาน “Big Motor Sale 2022” (Bangkok International Grand Motor Sale 2022) มหกรรมเปิดโลกยานยนต์ งานซื้อขายรถยนต์และมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ที่ใหญ่สุดในไตรมาส 3 ของปี เตรียมจัดขึ้น ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ฮอลล์ 101-104 ตั้งแต่วันที่ 19 – 28 สิงหาคม 2565

สำหรับท่านที่อยากมาชมงาน “Big Motor Sale 2022” แต่ไม่อยากเสียเวลาขับรถแล้วเจอรถติดๆ บนทางด่วน หรือรถติดแหง็กบนถนนสุขุมวิท หรือถนนบางนา-ตราด (ซึ่งปกติ เวลาไม่มีงานอะไร ก็รถติดแหง็กตลอดอยู่แล้ว) รวมไปถึงต้องเสียเวลามาวนหาที่จอดรถในสถานที่รอบๆ ลานจอดรถ BITEC อีก …

Carro ขอแนะนำวิธีการเดินทางไปงาน Big Motor Sale 2022 ในหลากหลายรูปแบบครับผม.

BITEC-Bangna-Map

1. ขับรถไปงานเอง

หากท่านเดินทางมาจากในตัวเมือง โดยใช้ทางด่วนไปบางนา สามารถเลือกที่จะลงทางด่วน แล้วออกเส้นขนานเพื่อไปกลับรถไปไบเทค หรือจะใช้ทางออกสำโรง (สมุทรปราการ) เพื่อไปเข้าประตูทางด้านข้างไบเทค ก็ได้

รถไฟฟ้า BTS

2. รถไฟฟ้าบีทีเอส (BTS)

เดินทางง่ายๆ เพียงแค่มาลงสถานีบางนา ถึงเลย! สะดวก ปลอดภัย (แต่อาจจะเสียเวลา ตอนขัดข้องหน่อยนะ) ซึ่งทาง BITEC ได้ทำทางเชื่อม (Skywalk) จาก ภิรัชทาวเวอร์ แอท ไบเทค ไปยัง BTS บางนา เพิ่มความสะดวกในการเดินเข้ามาในงานมากขึ้น

วินรถตู้ ป้อมตำรวจสี่แยกบางนา ด้านข้าง ไบเทค บางนา

วินรถตู้ ป้อมตำรวจสี่แยกบางนา ด้านข้าง ไบเทค บางนา (ภาพจาก บ้านเราบางนา ลาซาล แบริ่ง)

3. รถตู้

ระหว่างการจัดแสดงงาน Big Motor Sale 2022 จะมีวินรถตู้ จอดอยู่ใกล้ๆ BITEC บางนา ฝั่งถนนสุขุมวิท ไปจุดสำคัญต่างๆ เช่น สายใต้ใหม่ เป็นต้น

หรือบริเวณใต้สกายวอล์ค ฝั่งถนนสุขุมวิท ข้างๆ ป้อมตำรวจสี่แยกบางนา จะมีวินรถตู้ตั้งอยู่เช่นกัน แต่จะเป็นเส้นทางวิ่งไปทางแถวตะวันออก คือ ชลบุรี, ฉะเชิงเทรา, พัทยา, สัตหีบ, ระยอง, จันทบุรี, ตราด และตลาดโรงเกลือ เป็นต้น

รถเมล์ ขสมก.

4. รถเมล์

รถเมล์ที่ผ่านหน้า BITEC บางนา ฝั่งถนนสุขุมวิท ซึ่งจะจอดรถโดยสารที่ BTS บางนา

  • สาย 2 สำโรง – ปากคลองตลาด (มีเสริม ศูนย์สิริกิติ์)
  • สาย 23 สำโรง – เทเวศร์ (มีเสริม วัดภาษี)
  • สาย 25 ปากน้ำ – ท่าช้าง (มีเสริม วัดธาตุทอง)
  • สาย 45 สำโรง – ท่าน้ำสี่พระยา (มีเสริม คลองเตย)
  • สาย 102 ปากน้ำ – ช่องนนทรี
  • สาย 129 บางเขน – สำโรง
  • สาย 142 ปากน้ำ – อู่แสมดำ (มีเสริม การเคหะธนบุรี)
  • สาย 365 ปากน้ำ – บางพลี – โรงไฟฟ้าบางปะกง
  • สาย 507 ปากน้ำ – สายใต้ใหม่
  • สาย 508 ปากน้ำ – ท่าราชวรดิษฐ์
  • สาย 511 ปากน้ำ – สายใต้ใหม่
  • สาย 536 ปากน้ำ – หมอชิต 2
  • สาย 1141 ปากน้ำ – ศรีเอี่ยม – ม.ราม 2

รถเมล์ที่ผ่านตรงข้าม BITEC บางนา ฝั่งถนนบางนา-ตราด ซึ่งจะจอดรถโดยสารที่ ถนนบางนา ตราด กม.1

  • สาย 2 เมกาบางนา – ศูนย์สิริกิติ์ (ป้ายขาว) (มีเสริม BTS อุดมสุข)
  • สาย 23 เมกาบางนา – เทเวศร์ (ป้ายขาว) (มีเสริม วัดภาษี, ประตูน้ำ)
  • สาย 38 ม.ราม 2 – อนุสาวรีย์ชัย (มีเสริม อ่อนนุช, อโศก)
  • สาย 46 ม.ราม 2 – รองเมือง (มีเสริม คลองเตย)
  • สาย 48 ม.ราม 2 – วัดโพธิ์
  • สาย 98 ม.ราม 2 – ห้วยขวาง (มีเสริม อโศก)
  • สาย 132 เคหะบางพลี – พระโขนง
  • สาย 139 ม.ราม 2 – อนุสาวรีย์ชัยฯ
  • สาย 180 ม.ราม 2 – อู่สาธุประดิษฐ์
  • สาย 365 ปากน้ำ – บางพลี – โรงไฟฟ้าบางปะกง
  • สาย 1141 ปากน้ำ – ศรีเอี่ยม – ม.ราม 2

รถเมล์สายที่ขึ้นทางด่วน จอดตรงทางรถทางด่วน เยื้องกับ BITEC บางนา

  • สาย 2 สำโรง – ปากคลองตลาด (เฉพาะเช้า-เย็น)
  • สาย 23 สำโรง – เทเวศร์ (รถแอร์)
  • สาย 25 ปากน้ำ – ท่าช้าง (เฉพาะเช้า-เย็น)
  • สาย 45 สำโรง – ท่าน้ำสี่พระยา (เฉพาะเช้า-เย็น วันธรรมดาเท่านั้น)
  • สาย 102 ปากน้ำ – ช่องนนทรี
  • สาย 129 บางเขน – สำโรง (มีเสริม แยกดินแดง)
  • สาย 139 ม.ราม 2 – อนุสาวรีย์ชัยฯ
  • สาย 142 ปากน้ำ – อู่แสมดำ
  • สาย 508 ปากน้ำ – ท่าราชวรดิษฐ์
  • สาย 511 ปากน้ำ – สายใต้ใหม่
  • สาย 536 ปากน้ำ – หมอชิต 2

Carro หวังว่า ตัวเลือกต่างๆ ที่เราแนะนำมาในนี้ จะมีประโยชน์สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางมา BITEC บางนา นะครับ …

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

ไหนๆ จะไปดู ไปซื้อรถใหม่ที่งาน Big Motor Sale 2022 กันแล้ว ถ้าคุณอยากขายรถคันเดิม เอาเงินไปซื้อรถใหม่ มาขายรถกับทาง Carro Express สิ! คลิกเลยที่ https://th.carro.co/sell-car/express รับรองได้เงินเร็ว ไว ทันใจแน่นอน!

Carro Automall ตลาดรถ

ส่วนใครสนใจจะซื้อรถมือสอง Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

10 ป้ายรถเมล์ในไทยและเอเซียที่น่ารอที่สุด

ในปัจจุบัน ประเทศไทยนอกจากจะคุ้นชินกับปัญหารถติดเป็นอันดับต้นๆ ของโลกกันมานานแล้ว รวมไปถึงปัญหาของฝุ่น PM2.5 ที่เกิดขึ้นอยู่ทุกปี ซึ่งเป็นที่วิตกของหลายๆ ฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นด้านสาธารณสุข หรือด้านสิ่งแวดล้อม เนื่องจากเป็นอันตรายต่อสุขภาพในระยะยาว

โดยทางออกของปัญหา (ที่ผู้สมัครฯ ผู้ว่า กทม. หลายคนบอก “เราทำได้” แน่นอน!!!!!) แต่ทว่า … ระบบขนส่งมวลชนตอนนี้อยู่ในสถานะย่ำแย่ (แม้ว่าจะเปลี่ยนรถเมล์ใหม่รัวๆ แล้วก็ตาม แต่รถเมล์หลายสายก็หายไป) ไม่จูงใจให้คนมาใช้บริการ และส่วนใหญ่ออกแบบไม่เข้ากับหลักอารยสถาปัตย์ (Universal Design)

ป้ายรถเมล์ไทยในอดีต

ป้ายรถเมล์ไทยในอดีต (ภาพจาก Flickr)

แถมรถเมล์ที่มีบริการยังมีสภาพเก่า ควันดำ สกปรก กะเวลารอไม่ค่อยได้ บริการไม่ค่อยดีในบางคัน และไม่ครอบคลุมทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล

ยิ่งจุดเล็กๆ อย่าง “ป้ายรถเมล์” ซึ่งถือว่ามีความสำคัญ บนความไม่สำคัญ (ของคนที่ไม่ได้รอรถเมล์) ที่บั่นทอนความรู้สึกให้อยากมาใช้บริการ น้อยลงไปอีก

ป้ายรถเมล์ยุคเก่าของไทยในปัจจุบัน

ป้ายรถเมล์ยุคเก่าของไทยในปัจจุบัน  (ภาพจาก Google Map)

เมื่อเทียบกับต่างประเทศ กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีผู้ใช้รถเมล์น้อยกว่าหลายประเทศ จากสำรวจผู้ใช้รถเมล์ เทียบกับประชากรเมือง ของ ดร.สุเมธ องกิตติกุล และคณะ พบว่า กรุงเทพฯ มีผู้ใช้รถเมล์เพียง 21% ของประชากรเมืองทั้งหมด ขณะที่ สิงคโปร์ มีผู้ใช้รถเมล์ 70% ฮ่องกง 81% และลอนดอน 70% ของประชากรเมืองทั้งหมด

ป้ายรถเมล์ยุคใหม่ของไทยในปัจจุบัน

ป้ายรถเมล์ยุคใหม่ของไทยในปัจจุบัน  (ภาพจาก Google Map)

MR.CARRO ขอนำเสนอข้อมูลของ “ป้ายรถเมล์” ทั้งในไทยและในเอเชีย (เอาแค่นี้ก่อน ไว้วันหลังค่อยยกของยุโรปมาให้อ่านกันต่อ) เรามาดูกันว่า ป้ายรถเมล์ที่ไหน น่ารอรถเมล์ที่สุดกันดีกว่า

10 "ป้ายรถเมล์" ในไทยและในเอเชีย ที่ไหนน่ารอสุด!

ไทย

แม้ว่าป้ายรถเมล์ในไทย อาจจะมีป้ายรถเมล์อยู่หลากหลายสภาพ ตั้งแต่ของใหม่ล่าสุด แจ๋วสุด ใหญ่สุด (หาดูได้ตามหน้าห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ บางที่) ครบเครื่องเรื่องเทคโนโลยี

ไปจนถึงป้ายรถเมล์ตั้งแต่ยุค “ศาลาประชากรไทย” หรือศาลาตามทางหลวง ที่ใช้งานมาจนถึง 30 – 40 ปีแล้ว หรือป้ายรถเมล์แบบยุค 2000 ที่ได้บริษัท JCDecaux (ซึ่งเป็นบริษัทผู้นำด้านบิลบอร์ดระดับโลก) และ TSF – บริษัท ทรีซิกตี้ไฟว์ จํากัด (มหาชน) มาสร้างไว้เพื่อแลกกับได้สิทธิ์โฆษณาที่ป้าย ก็ยังมีใช้งานอยู่ ในความทรงจำของใครหลายๆ คน

ไม่ว่าจะเป็นสภาพเก่า หลังคารั่ว ที่นั่งไม่มี หรือป้ายรถเมล์ อยู่ใต้บันไดสะพานลอย มืด เปลี่ยว ต้นไม้รก ป้ายโฆษณาใหญ่เกิน ตัวเลขบอกเส้นทางไม่ Update ฯลฯ ก็ไม่ค่อยน่าอภิรมย์เท่าไหร่ ถ้าจะต้องมารอรถเมล์กันนานๆ

10 "ป้ายรถเมล์" ในไทยและในเอเชีย ที่ไหนน่ารอสุด!

แต่ว่าช่วงเดือนกรกฎาคม 2563 กทม. ได้เปิดตัวศาลาที่พักผู้โดยสารรถประจำทางอัจฉริยะ (Smart Bus Shelter) เช็ก ชาร์จ แชร์ ได้ฟรี และมีสิ่งอำนวยความสะดวก เพื่อจูงใจให้ประชาชนหันมาใช้ระบบขนส่งมวลชนสาธารณะมากขึ้น

สำหรับศาลารอรถเมล์อัจฉริยะรูปแบบใหม่ แบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ คือ แบบ Full Function และแบบ Light Function โดยแบบ Full Function จะมีระบบบอกสายรถเมล์ และเวลาการมาถึงของรถเมล์บนจอ LFD ขนาด 32 นิ้ว มีระบบกล้องวงจรปิด (CCTV) และระบบไฟฟ้าส่องสว่าง พร้อมทั้งป้ายโฆษณาข้อมูลข่าวสารประชาสัมพันธ์ของ กทม. บนจอแสดงผลขนาด 55 นิ้ว

10 "ป้ายรถเมล์" ในไทยและในเอเชีย ที่ไหนน่ารอสุด!

นอกจากนี้ ยังมีที่ชาร์จแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือ และ Free Wi-Fi (ฟรีไว-ไฟ) สอดรับกับนโยบาย Smart Bus Shelter ตามแนวคิดการพัฒนากรุงเทพมหานครให้เป็นเมืองอัจฉริยะ (Smart City) ซึ่งในส่วนของ Light Function จะไม่มีจอแสดงผลขนาด 55 นิ้ว และระบบ Wi-Fi Router

10 "ป้ายรถเมล์" ในไทยและในเอเชีย ที่ไหนน่ารอสุด!

เมียนมาร์

แม้ว่าในประเทศพม่า (หรือเมียนมาร์) บนท้องถนนจะมีความงุนงงและวุ่ยวายที่สุดแห่งหนึ่ง เนื่องจากเมียนมาร์เปลี่ยนมาขับรถชิดขวามาหลายสิบปีแล้ว แต่รถยนต์พวงมาลัยขวา ที่เป็นรถเก่ามาจากญี่ปุ่น ยังคงวิ่งกันอยู่เต็มบ้านเต็มเมือง! และป้ายรถเมล์ ศาลารอรถเมล์ส่วนใหญ่ ก็ยังเก่าๆ ไม่ต่างจากบ้านเรานัก

แต่ช่วงปี 2018 ในเมียนมาร์ ได้เปิดตัวป้ายรถเมล์ใหม่ 500 จุด ซึ่งเป็นป้ายฟรีที่เอกชนของ FMIDecaux บริษัทที่เกิดจากการร่วมทุนระหว่างบริษัทโฆษณาระดับโลก JCDecaux (ซึ่งก็เคยมาสร้างป้ายรถเมล์ในไทย) และ FMI บริษัทใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ของพม่า ลงทุนให้กว่า 13 ล้านเหรียญ โดยมีเงื่อนไขว่า FMIDecaux จะลงโฆษณาในป้ายรถเมล์เหล่านี้ได้ฟรีเป็นเวลา 20 ปี

พร้อมทำจุดต่อคิวเพื่อให้ขึ้นรถอย่างเป็นระเบียบ และเพิ่มจุดจอดให้เพียงพอต่อรถที่มาถึงด้วย

10 "ป้ายรถเมล์" ในไทยและในเอเชีย ที่ไหนน่ารอสุด!

มาเลเซีย

สำหรับป้ายรถเมล์ในมาเลเซีย ประเทศเพื่อนบ้านของเราก็มีป้ายรถเมล์ที่น่าใช้บริการอยู่

ด้วยตัวป้ายที่โล่งโปร่งตากับกระจกแบบกันลมกันฝน และก็มีป้ายบอกเส้นทางรถเมล์ พร้อมกับทางลาดสำหรับวีลแชร์ แต่ถ้าเป็นป้ายรถเมล์ในย่านในเมือง ตัวป้ายก็จะค่อนข้างใหญ่โต คล้ายๆ กับในหลายประเทศ

10 "ป้ายรถเมล์" ในไทยและในเอเชีย ที่ไหนน่ารอสุด!

สิงคโปร์

สิงคโปร์ นับเป็นประเทศแรกๆ ใน ASEAN ที่ออกแบบและวางระบบเมืองอัจฉริยะ Smart City เพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยเริ่มปรับปรุงเมืองให้รองรับกับระบบดิจิทัลต่างๆ นับแต่ปี 2015 ที่รัฐบาลสิงคโปร์ ประกาศให้เขตจูร่ง เป็นพื้นที่ทดสอบเมืองอัจฉริยะ

โครงการป้ายรถเมล์อัจฉริยะ Smart Bus Station ของสิงคโปร์ จัดเป็นป้ายรถเมล์ที่เป็นมิตรต่อคนทั้งมวล นับตั้งแต่มีบริการ Wi-Fi ฟรี มีที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือ จอแสดงผลการจราจร ที่จะบอกว่ารถเมล์แต่ละสายมาถึงป้ายในเวลากี่นาที อีกทั้งยังมีต้นไม้ หนังสือ ชิงช้า และพื้นที่แสดงผลงานโดยศิลปินท้องถิ่นบริเวณหลังป้ายด้วย

10 "ป้ายรถเมล์" ในไทยและในเอเชีย ที่ไหนน่ารอสุด!

อินโดนีเซีย

ในอินโดนีเซีย ถ้าเป็นในตัวเมืองจาการ์ต้าจะนิยมตั้งป้ายรถเมล์ไว้ที่เกาะกลางถนน (เพราะรถเมล์จะวิ่งบริเวณบัสเลน เลนขวาสุด) แลตัวป้ายรถเมล์ที่ดีไซน์ทันสมัยหน่อย บางป้ายก็อาจจะเป็นป้ายรถเมล์แบบยกสูง แบบเปิดโล่ง มีบันได ขึ้น-ลง พร้อมทางลาดสำหรับรถวีลแชร์ และมีป้ายบอกเลขสาย ชื่อป้าย และแผนที่เส้นทางเดินรถด้วย

แต่ถ้าเป็นป้ายรถเมล์ในจังหวัดอื่นๆ ก็จะมีสภาพไม่ต่างไปจากประเทศอื่นๆ ในแถบ ASEAN นัก

10 "ป้ายรถเมล์" ในไทยและในเอเชีย ที่ไหนน่ารอสุด!

ฮ่องกง

สำหรับป้ายรถเมล์ของฮ่องกง ตามป้ายรถเมล์จะมีเสาป้ายระบุชื่อป้าย หมายเลขรถเมล์ผ่าน สถานที่จอด ถ้าในตัวเมืองป้ายรถเมล์ก็จะมีขนาดใหญ่หน่อย

วิธีรอง่ายๆ แค่เข้าแถวให้ตรงเสาป้ายให้ถูกป้ายสายที่เราจะขึ้น รถเมล์จะจอดตรงป้ายเลขนั้น

10 "ป้ายรถเมล์" ในไทยและในเอเชีย ที่ไหนน่ารอสุด!

จีน

ป้ายรถเมล์ในจีนนั้นมีค่อนข้างหลากหลายมาก ตั้งแต่ป้ายรถเมล์แบบบ้านๆ ตามเมืองรองๆ และป้ายรถเมล์ใหญ่ๆ ในเมืองหลวง โดยแต่ละป้ายรถเมล์ก็จะมีข้อมูลรถเมล์แต่ละสายครบถ้วน ละเอียด ทั้งต้นทางและปลายทาง สถานที่ผ่าน และทิศทางที่จะไป

ซึ่งป้ายรถเมล์อัจฉริยะ ที่จีนก็มี! เช่นในเมืองตงก่วน ป้ายรถเมล์อัจฉริยะดังกล่าว จะแสดงผลตำแหน่งแบบเรียลไทม์ด้วยระบบ GPS ทำให้ผู้โดยสารทราบระยะห่างจากป้ายของรถเมล์ ช่วยให้วางแผนเวลาและวิธีการเดินทางได้ง่ายขึ้น

10 "ป้ายรถเมล์" ในไทยและในเอเชีย ที่ไหนน่ารอสุด!

ไต้หวัน

ป้ายรถเมล์ที่ไต้หวัน สาธารณรัฐจีน นี่ก็ถือว่าเป็นป้ายรถเมล์ และศาลารอรถเมล์ที่น่าใช้บริการอีกจุดหนึ่ง เนื่องจากเป็นป้ายรถเมล์ที่มีบอกเลขสายแล้ว ยังบอกเวลาของรถที่จะมาถึงอีกด้วย อีกทั้งยังสะอาด ใช้งานสะดวกตามหลักอารยะสถาปัตย์

ส่วนในพื้นที่ห่างไกลที่ไฟฟ้าเข้าไม่ถึง ตั้งป้ายรถเมล์ไม่สะดวก เช่นในนครนิวไทเป ได้ร่วมกับบริษัท จงหัวเทเลคอม พัฒนาป้ายรถเมล์อัจฉริยะ e-Paper (อี-เปเปอร์) หรือ กระดาษอิเล็กทรอนิกส์ บอกเวลารถเมล์มาถึง อุณหภูมิอากาศ และข้อมูลประกาศกิจกรรมต่างๆ มีแผงโซล่าเซลล์ ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ เมื่อชาร์ตแบตเตอรี่เต็มใช้งานได้ต่อเนื่อง 14 วัน ต้นทุนป้ายละ 1 แสนเหรียญไต้หวันเท่านั้น ถือว่าคุ้มค่ามาก

10 "ป้ายรถเมล์" ในไทยและในเอเชีย ที่ไหนน่ารอสุด!

เกาหลี

นอกจากเราจะได้ความไฮเทคในหลายอย่างที่มาจากเกาหลีใต้แล้ว ป้ายรถเมล์ของที่นี่ ก็ยังมีความไฮเทคไม่แพ้ใครในโลกอีกด้วยครับ เช่น ในกรุงโซลของเกาหลีใต้ เมื่อเดือนสิงหาคม 2020 ได้เปิดตัวป้ายรถเมล์อัจฉริยะที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ พร้อมเทคโนโลยี IoT หรือ Internet of Things

ที่นอกจากจะมีกระจก กันแดดกันฝน และยังมี Wi-Fi ฟรี และมีจอแสดงเวลาโดยประมาณที่รถเมล์จะมาถึงและหน้าจอแสดงสภาพการจราจรภายนอกตามเวลาจริงแล้ว ยังช่วยปกป้องกันโควิด-19 ได้ด้วย

ซึ่งก่อนคุณจะเข้าไปในศาลารอรถเมล์ไฮเทคนี้ จะต้องยืนหน้ากล้องตรวจจับความร้อน โดยประตูจะเปิดต้อนรับผู้ที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า 37.5 องศาเซลเซียสเท่านั้น นอกจากนั้นยังมีเครื่องจ่ายเจลล้างมือ รวมทั้งคำแนะนำให้ผู้โดยสารสวมหน้ากากตลอดเวลา และเว้นระยะห่างจากกันอย่างน้อย 1 เมตร

10 "ป้ายรถเมล์" ในไทยและในเอเชีย ที่ไหนน่ารอสุด!

ญี่ปุ่น

นี่จัดว่าเป็นประเทศที่คนรอรถเมล์อยากไปรอกันเป็นอันดับต้นๆ แล้วล่ะ เพราะมีป้ายรถเมล์หลากหลายรูปแบบ ทั้งดีไซน์สวยเก๋ แต่ใช้งานได้จริงอยู่มากมาย

รวมถึงมีป้ายบอกเส้นทางรถเมล์ เลขสายรถเมล์ สถานที่ต้นทาง-ปลายทาง มีตารางเวลาเดินรถที่ต่างกัน ทั้งแบบตารางสำหรับวันธรรมดา และตารางสำหรับวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดราชการ รวมถึงความถี่การเดินรถ เช่น วันธรรมดามีรถวิ่งทุกๆ 20 นาที ส่วนวันหยุดมีรถวิ่งทุกๆ 30 นาที เป็นต้น

ส่วนถ้าเป็นในเมืองใหญ่ๆ ก็จะมีป้ายรถเมล์อัจฉริยะ ที่พัฒนาให้ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ พร้อมจอ LCD บอกเส้นทางต่างๆ อีกด้วย

แถมรถเมล์ของญี่ปุ่น ยังจอดรถรับคนทุกป้ายด้วย! โดยที่คนรอขึ้นไม่ต้องโบกเรียกเลยทีเดียว เพียงแค่ไปยืนรอที่ป้ายรถเมล์เท่านั้น

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์ไฟฟ้าคันใหม่มาใช้ในช่วงนี้ มาขายรถกับทาง Carro Express สิ! คลิกเลยที่ https://th.carro.co/sell-car/express รับรองได้เงินเร็ว ไว ทันใจแน่นอน!

CARRO Automall

ส่วนใครสนใจจะซื้อรถมือสอง Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

แหล่งที่มาบางส่วนจาก:

รวม 5 วิธี เดินทางไป-กลับ งาน Motor Show 2022

“Motor Show 2022” หรือ The 43th Bangkok International Motor Show 2022 ภายใต้แนวคิด “ก้าวด้วยกัน ไปด้วยใจ ไปได้ไกล” หรือ “Keep Moving Forward Together” พร้อมนำรถรุ่นใหม่ รวมทั้งรุ่นยอดนิยม มาจัดแสดงอย่างเช่นเคย แม้ว่าจะดูน้อยลงไปบ้างก็ตาม

โดยงานมอเตอร์โชว์ 2022 ปีนี้เจอศึกโควิด-19 สายพันธุ์บุกไทยอีกรอบ แต่ยังดีที่คนไทยส่วนใหญ่ได้ฉีดวัคซีนไปเยอะ และสายพัธุ์ใหม่ “โอมิครอน” อาการไม่รุนแรงมากนัก ทำให้สถานการณ์ผ่อนคลายความตึงเครียดลง โดยทางงาน Motor Show 2022 ปีนี้ ได้กำนหดจัดกันในวันที่ 23 มีนาคม – 3 เมษายน 2565

CARRO ขอแนะนำ 5 วิธีการเดินทางไปงาน Motor Show 2022 ไม่ว่าจะเป็นการขับรถไปเอง รวมไปถึงการใช้บริการระบบขนส่งมวลชนต่างๆ เพื่อความสะดวก (และไม่ต้องเสียเวลาหาที่จอดรถ) ของผู้อยากมาชมงาน มอเตอร์โชว์ 2022 ครับ

IMPACT-เมืองทองธานี

ผังการเข้าออก อิมแพค เมืองทองธานี

รถไฟฟ้า MRT

ภาพจาก MRT Bangkok Metro

1. รถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT)

รถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) ลงสถานีสวนจตุจักร เดินทางต่อไปยังปลายทางด้วย :

รถไฟฟ้า MRT ลงสถานีสวนจตุจักร เดินทางต่อไปยังปลายทางด้วย :

1. รถประจำทางสาย 52 (ปากเกร็ด – บางซื่อ)
2. รถตู้ปรับอากาศสาย สวนจตุจักร-เมืองทองธานี
3. IMPACT Link Shuttle Bus (เสียค่าบริการ)

รถไฟฟ้า BTS

2. รถไฟฟ้าบีทีเอส (BTS)

รถไฟฟ้าบีทีเอส (BTS) ลงสถานีหมอชิต เดินทางต่อไปยังปลายทางด้วย :

1. รถประจำทางสาย 52 (ปากเกร็ด – บางซื่อ)
2. รถตู้ปรับอากาศสาย สวนจตุจักร-เมืองทองธานี
3. IMPACT Link Shuttle Bus (เสียค่าบริการ)

รถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง รฟท.

ภาพจาก Red Line SRTET

3. รถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง (Red Line SRTET)

รถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง (Red Line SRTET) ลงสถานีหลักสี่ เดินทางต่อไปยังปลายทางด้วย :

1. รถประจำทางสาย 52, 150, 356

รถตู้ Cosmo Bazaar

ภาพจาก Cosmo Bazaar

4. รถตู้

ระหว่างการจัดแสดงงาน Motor Show 2022 จะมีรถตู้ (เสียค่าบริการ) จากเมืองทองธานี ไปจุดสำคัญต่างๆ ได้แก่ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ, สีลม, เพลินจิต, มีนบุรี, รามคำแหง, ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต และ จตุจักร

รถตู้-เมืองทองธานี-Price-Rate-2020

สำหรับรถตู้สาธารณะ เมืองทองธานี มีรถให้บริการอยู่ 7 เส้นทาง ได้แก่

  • เมืองทองธานี – อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ราคา 35 บาท (ประตู 1)
  • เมืองทองธานี – ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ราคา 35 บาท (ประตู 2)
  • เมืองทองธานี – เพลินจิต ราคา 65 บาท (ประตู 3)
  • เมืองทองธานี – สีลม ราคา 65 บาท (ประตู 3)
  • เมืองทองธานี – สนามหลวง ราคา 46 บาท (ประตู 4)
  • เมืองทองธานี – เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน ราคา 28 บาท (ประตู 5)
  • เมืองทองธานี – จตุจักร ราคา 36 บาท (ประตู 6)

รถเมล์ ขสมก.

ภาพจาก ขสมก. พร้อมบวก

5. รถเมล์

รถเมล์ (Bus)

บริเวณแยกแจ้งวัฒนะ / วิภาวดี-รังสิต
– สาย 29, 59, 95, 95ก, 504, 510, 538 (มุ่งสู่ทิศเหนือ)
– สาย 29, 52, 59, 504, 510 (มุ่งสู่ทิศใต้)
– สาย 95ข, 150 (มุ่งสู่ทิศตะวันออก)

บริเวณห้าแยกปากเกร็ด
– สาย 33, 90, 359, 367 (มุ่งสู่ทิศเหนือ)
– สาย 32, 33, 51, 90, 104 (มุ่งสู่ทิศใต้)

ถนนแจ้งวัฒนะ
– สาย 52, 150, 356
– สาย 166 (ทางด่วน เมืองทองธานี – ปากเกร็ด – อนุสาวรีย์ชัยฯ) เข้าถึงเมืองทองธานี

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

ไหนๆ จะไปดูรถ ซื้อรถใหม่ในงาน Motor Show 2022 ใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่ มาขายรถกับทาง CARRO Express ได้ที่  https://th.carro.co/sell-car/express หรือถ้าหากต้องการซื้อรถคุณภาพเยี่ยม CARRO เราก็มีพร้อมให้คุณเลือกอย่างมากมายด้วยเช่นกัน พร้อมรับประกันสูงสุดถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร กับ CARRO Automall ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://th.carro.co/taladrod/

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

หากใครอยากซื้อรถมือสองสภาพเยี่ยม ราคาสบายๆ และมั่นใจได้ในเรื่องคุณภาพทุกคัน CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ ตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลา 1 นาที!

ซึ่งรถของ CARRO Automall เรามีให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพอย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 200 จุด รวมไปถึงการการปรับสภาพ (Car Reconditioning) ด้วยทีมช่างมืออาชีพ ที่ผ่านการผึกอบรมตามมาตรฐานคาร์โรกว่า 40 คน พร้อมให้บริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว กว่า 20 คัน/วัน

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์

เรารับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร! (CARRO Quality Assurance) อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม กับ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

รวม 5 วิธี เดินทางไป-กลับ งาน Motor Expo 2021 พร้อมข้อมูลรถ Shuttle Bus รับ-ส่งฟรี!

Motor Expo 2021 (มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 38) หรือ The 38th Thailand International Motor Expo 2021 ภายใต้แนวคิด “มหกรรมสุขสันต์คนรักยานยนต์” หรือ “TIME to ENJOY!” พร้อมนำรถรุ่นใหม่ ทั้งที่เปิดตัวในปีนี้ รวมทั้งรุ่นยอดนิยม มาจัดแสดงส่งท้ายปีเช่นเคย โดยงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2021 ปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 – 12 ธันวาคม 2564 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ 1-3 เมืองทองธานี

สำหรับท่านที่อยากมาชมงาน “Motor Expo 2021” แต่ไม่อยากเสียเวลาขับรถแล้วเจอรถติดๆ บนทางด่วน หรือรถติดแหง็กบนถนนแจ้งวัฒนะ (ซึ่งปกติ เวลาไม่มีงานอะไร ก็รถติดแหง็กประจำอยู่แล้ว) รวมไปถึงต้องเสียเวลามาวนหาที่จอดรถในสถานที่รอบๆ ซะอีก …

CARRO ขอแนะนำ 5 วิธีการเดินทางไปงาน Motor Expo 2021 ตั้งแต่รถ Shuttle Bus ของงาน รวมไปถึงระบบขนส่งมวลชนอื่นๆ เพื่อความสะดวกของผู้อยากมาชมงาน Motor Expo 2021 แต่ไม่อยากขับรถไปที่งานครับ

1. รถ Shuttle Bus งาน Motor Expo

Impact-Mochit

1) เส้นทางหมอชิต – อิมแพ็ค – หมอชิต
– เดินทางโดย MRT ลงที่สถานีจตุจักร และใช้ทางออก 4
– เดินทางโดย BTS ลงที่สถานีหมอชิต และใช้ทางออก 2

หมอชิต-IMPACT รอบแรก 11.00 น. รอบสุดท้าย 20.30 น.
IMPACT-หมอชิต รอบแรก 12.00 น. รอบสุดท้าย 22.30 น.

Impact-Onnut

2) เส้นทางอ่อนนุช – อิมแพ็ค – อ่อนนุช
– เดินทางโดย BTS ลงที่สถานีอ่อนนุช และใช้ทางออก 2
– จุดจอดรถ Shuttle Bus อยู่ตรงลานจอดรถห้างโลตัส (เดินไปทางลานจอดรถด้านข้างห้าง ทางด้านซอยสุขุมวิท 50)

อ่อนนุช-IMPACT รอบแรก 11.00 น. รอบสุดท้าย 20.30 น.
IMPACT-อ่อนนุช รอบแรก 12.00 น. รอบสุดท้าย 22.30 น.

Impact-Silom

3) เส้นทางสีลม – อิมแพ็ค – สีลม
– เดินทางโดย MRT ลงที่สถานีสีลม และใช้ทางออก 1
– เดินทางโดย BTS ลงที่สถานีศาลาแดง และใช้ทางออก 5
– จุดจอดรถ Shuttle Bus อยู่ตรงหน้าพระบรมรูป ร.6 ตรงข้ามโรงแรมดุสิตธานี

สีลม-IMPACT รอบแรก 11.00 น. รอบสุดท้าย 20.30 น.
IMPACT-สีลม รอบแรก 12.00 น. รอบสุดท้าย 22.30 น.

Impact-Rangsit

4) เส้นทางรังสิต – อิมแพ็ค – รังสิต
– จุดจอดรถ Shuttle Bus อยู่บริเวณด้านหลัง Future Park Station (ติดกับศาลพระภูมิ)

รังสิต-IMPACT รอบแรก 11.00 น. รอบสุดท้าย 20.30 น.
IMPACT-รังสิต รอบแรก 12.00 น. รอบสุดท้าย 22.30 น.

*รถ Shuttle Bus ออกทุกๆ 30 นาที หรือรถออกเมื่อผู้โดยสารเต็มคัน เวลาเดินรถอาจเปลี่ยนแปลงตามสภาพจราจร

*หมายเหตุ : ผู้โดยสารทุกท่านต้องสวมหน้ากากอนามัยก่อนขึ้นรถ และตลอดการเดินทาง

MRT-Blue-Line

2. รถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT)

รถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) ลงสถานีสวนจตุจักร เดินทางต่อไปยังปลายทางด้วย :

1. Free Shuttle Bus บริเวณทางออก M4
2. รถประจำทางสาย 52 (ปากเกร็ด – บางซื่อ)
3. รถตู้ปรับอากาศสาย สวนจตุจักร – เมืองทองธานี
4. IMPACT Link Shuttle Bus (เสียค่าบริการ)

BTS-Skytrain

3. รถไฟฟ้าบีทีเอส (BTS)

รถไฟฟ้าบีทีเอส (BTS) ลงสถานีหมอชิต เดินทางต่อไปยังปลายทางด้วย :

1. Free Shuttle Bus บริเวณทางออก M4
2. รถประจำทางสาย 52 (ปากเกร็ด – บางซื่อ)
3. รถตู้ปรับอากาศสาย สวนจตุจักร – เมืองทองธานี

รถตู้-Impact-Link

4. รถตู้

ระหว่างการจัดแสดงงาน Motor Expo 2021 จะมีรถตู้สาธารณะ จากเมืองทองธานี มีรถให้บริการอยู่ 7 เส้นทาง ได้แก่ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ, สีลม, เพลินจิต, เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน, ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต, สนามหลวง และ จตุจักร

รถตู้-เมืองทองธานี-Price-Rate-2020

สำหรับรถตู้สาธารณะ เมืองทองธานี มีรถให้บริการอยู่ 7 เส้นทาง ได้แก่

  • เมืองทองธานี – อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ราคา 35 บาท (ประตู 1)
  • เมืองทองธานี – ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ราคา 35 บาท (ประตู 2)
  • เมืองทองธานี – เพลินจิต ราคา 65 บาท (ประตู 3)
  • เมืองทองธานี – สีลม ราคา 65 บาท (ประตู 3)
  • เมืองทองธานี – สนามหลวง ราคา 46 บาท (ประตู 4)
  • เมืองทองธานี – เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน ราคา 28 บาท (ประตู 5)
  • เมืองทองธานี – จตุจักร ราคา 36 บาท (ประตู 6)

BMTA-Bus

5. รถเมล์

รถเมล์ (Bus)

บริเวณแยกแจ้งวัฒนะ / วิภาวดี-รังสิต
– สาย 29, 59, 95, 95ก, ปอ. 29, 59, 504, 510, 538 (มุ่งสู่ทิศเหนือ)
– สาย 29, 52, ปอ. 29, 59, 504, 510 (มุ่งสู่ทิศใต้)
– สาย 95ข, 150 (มุ่งสู่ทิศตะวันออก)

บริเวณห้าแยกปากเกร็ด
– สาย 33, 90, 359, 367 (มุ่งสู่ทิศเหนือ)
– สาย 32, 33, 51, 90, 104 (มุ่งสู่ทิศใต้)

ถนนแจ้งวัฒนะ
– สาย 150, 356, ปอ.52, ปอ.150, 356
– สาย 166 (ทางด่วน เมืองทองธานี – ปากเกร็ด – อนุสาวรีย์ชัยฯ) เข้าถึงเมืองทองธานี

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

ไหนๆ จะไปดู ไปซื้อรถใหม่ที่งาน Motor Expo 2021 กันแล้ว ถ้าคุณอยากขายรถคันเดิม เอาเงินไปซื้อรถใหม่ มาขายรถคันเดิมกับ CARRO Express สิ! หรือจะ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

ถ้าใครที่กำลังมองหารถคันใหม่ (แต่งบไม่พอ) ในตอนนี้ CARRO Automall เราพร้อมเป็นทางเลือกให้คุณ รวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่งรถทุกคันของ CARRO Automall คุณไม่ต้องกังวลเลยในเรื่องของรถจมน้ำ รถน้ำท่วม หรือรถจมบาดาล เพราะเราไม่นำรถที่ถูกน้ำท่วมมาขายโดยเด็ดขาด และรถทุกคันยังผ่านการตรวจสภาพอย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 200 จุด อีกด้วย

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดในการดูรถเสมือนจริงผ่านระบบออนไลน์ เป็นรายแรกของธุรกิจรถมือสองในประเทศไทย คุณสามารถดูรูปรถทั้งภายนอก ภายใน กันได้แบบ 360 องศา รวมถึงยังสามารถฟังเสียงเครื่องยนต์จากรถคันที่คุณสนใจได้อีกด้วย!

เพราะเรามั่นใจในคุณของรถยนต์ทุกคัน เราจึงกล้ารับประกันคุณภาพรถนานถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร! อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

หากท่านใดที่อยากได้บัตรเข้างาน Motor Expo 2021 ฟรี! ง่ายๆ อ่านกติกากันได้ที่นี่ครับ —> https://th.carro.co/blog/motor-expo-free-ticket/

Carro-Prevent-Covid-19-With-BMTA-2021

การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 (COVID-19) ในขณะนี้ นอกจากจะส่งผลกระทบนอกต่อบุคคลทั่วไปแล้ว ยังส่งผลต่อผู้ที่ต้องเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชน ที่จัดว่าอยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูงกว่าบุคคลทั่วไป ที่เดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวอย่างมาก

Carro-Prevent-Covid-19-With-BMTA-2021

Carro-Prevent-Covid-19-With-BMTA-2021

“CARRO” หรือ “คาร์โร” สตาร์ทอัพด้านตลาดรถยนต์จากประเทศสิงคโปร์ จึงขอเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคม ส่งมอบความปรารถนาดี ช่วยเหลือคนไทย ผ่านแคมเปญ “อาสาดูแลรถขนส่งสาธารณะ พ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ ลดความเสี่ยงโควิด-19” ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ พ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ ลดความเสี่ยง COVID-19 ในปีที่สอง ณ อู่พระราม 9 เมื่อวันที่ 28 มกราคม ที่ผ่านมา

Carro-Prevent-Covid-19-With-BMTA-2021

Carro-Prevent-Covid-19-With-BMTA-2021

Carro-Prevent-Covid-19-With-BMTA-2021

Carro-Prevent-Covid-19-With-BMTA-2021

หากช่วงนี้ใครต้องการซื้อรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพได้มาตรฐาน รับประกันพร้อมโอนทุกคัน หรือหารถมือสองรุ่นที่ต้องการ สามารถเข้ามาดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ CARRO Automall > https://th.carro.co/buy-car หรือโทร. 02-508-8690 หรือจะ Inbox มาสอบถามก็ได้เช่นกัน ที่ Facebook CARRO Automall – รถบ้านมือสอง ถ้าสะดวก Add Line ก็ที่ @carroautomall

Carro-Prevent-Covid-19-With-BMTA-2021

ส่วนใครที่อยากขายรถ หรือมีเพื่อนฝูงกำลังหาที่ขายรถอยู่ CARRO เรารับซื้อรถของคุณ สามารถเข้าไปเช็กราคา ตีราคาขายรถก่อนได้ โดยใส่ข้อมูลรถของคุณที่นี่เลย กับ CARRO Express > https://th.carro.co/sell-car/express หรือโทร. 02-508-8425

หรือใครจะ Inbox มาสอบถามก็ได้เช่นกัน ที่ Facebook CARRO Thailand หรือสะดวก Add Line ก็ที่ @Carrothai หรือคลิกที่นี่ครับ —> เพิ่มเพื่อน

Trick-To-Prevention-Covid-19-From-Bus

แม้ว่าในสถานการณ์นี้ ไวรัสโควิด-19 ที่ระบาดอยู่ในไทยกำลังเริ่มซาลงแล้ว แต่หลายคนยังต้องปฏิบัติตัวให้รับกับ “New Normal” หรือ “ความปกติใหม่” กันอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการใส่หน้ากากอนามัย รักษาระยะห่างทางสังคม (Social Distrancing) รวมไปถึง อยู่บ้าน ลดเชื้อ เพื่อชาติ ก็ตาม

แต่บางคนก็ยังต้องออกไปทำงานนอกบ้านทุกวัน เนื่องจากงานหลายอย่างอาจทำที่บ้านไม่ได้ ยิ่งระบบขนส่งมวลชนบ้านเรา ถ้าอย่างรถไฟฟ้า BTS หรือรถไฟฟ้า MRT ก็ยังมั่นใจในเรื่องความสะอาดได้ แต่ระบบขนส่งมวลชนอย่าง รถเมล์ ขสมก. รถร่วมบริการ หรือรถสองแถว ก็อาจจะต้องระมัดระวังในการสัมผัสกันหน่อย

MR.CARRO มีเคล็ดลับในการใช้บริการรถเมล์อย่างไรให้ปลอดภัย ไม่ติดโควิด-19 มาฝาก …

Trick-To-Prevention-Covid-19-From-Bus

1. คนขับรถเมล์ / กระเป๋ารถเมล์

– คนขับรถเมล์ และกระเป๋ารถเมล์ ต้องสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าตลอดการให้บริการ
– คนขับที่มีอาการป่วย เช่น มีไข้ ไอ จาม ห้ามขับรถเด็ดขาด และกักตัวที่บ้านเพื่อดูอาการ
– คนขับรถเมล์ สามารถปฏิเสธผู้โดยสารที่ไม่สวมหน้ากากอนามัยไม่ให้ขึ้นได้

2. ตัวรถเมล์ รถสองแถว

– จัดที่นั่ง หรือเว้นระยะการยืนของผู้โดยสารอย่างน้อย 1-2 เมตร ตาม Social Distrancing
– จัดให้มีเจล แอลกอฮอล์ ประจำรถ และทำความสะอาดรถทุกครั้ง ทั้งก่อนและหลังให้บริการ
– เมื่อหยุดพักรถ ให้เปิดประตูและหน้าต่าง เพื่อระบายอากาศภายในรถ

Trick-To-Prevention-Covid-19-From-Bus

3. ผู้โดยสาร

– สวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า ตลอดการเดินทาง
– นั่งหรือยืนห่างกันอย่างน้อย 1-2 เมตร
– ล้างมือด้วยแอลกอฮอล์เจลบ่อยๆ
– ขอความร่วมมือในการงดคุยโทรศัพท์
– เมื่อสัมผัสราวจับ ประตู ตัวถังรถ เบาะ อย่าลืมเอามือไปคุ้ยแกะแกะเกาบริเวณใบหน้าก็แล้วกัน

และนี่ก็คือวิธีปฏิบัติตัวเองอย่างง่ายๆ ที่สามารถทำได้เลย ตลอดการขึ้นรถเมล์ หรือรถสองแถว แค่นี้คุณก็ปลอดภัยจากไวรัสโควิด-19 แล้วล่ะครับผม

ส่วนใครที่อยากขายรถ เพื่อนำเงินไปใช้ในช่วงโควิด-19 ระบาด หรืออยากซื้อรถคันใหม่ ไว้เดินทางเป็นการส่วนตัว เพื่อลดความเสี่ยงจากโควิด-19 CARRO เรารับซื้อรถของคุณ สามารถเข้าไปเช็กราคา ตีราคาขายรถก่อนได้ โดยใส่ข้อมูลรถของคุณที่นี่เลย กับ CARRO Express > https://th.carro.co/sell-car/express หรือโทร. 02-508-8425

หรือใครจะ Inbox มาสอบถามก็ได้เช่นกัน ที่ Facebook CARRO Thailand หรือสะดวก Add Line ก็ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ครับ —> เพิ่มเพื่อน

ขอขอบคุณข้อมูลจาก:

Travel-The-Golden-Mount-And-Wat-Saket

ช่วงนี้ก็เข้าสู่หน้าหนาวกันแล้ว เป็นธรรมดาของวัดหลายๆ วัด ก็จะจัดกิจกรรมรื่นเริงต่างๆ กันมากมาย โดยหลายคนมักจะนึกถึงงานวัดสุดคลาสสิกอย่าง “งานนมัสการพระบรมสารีริกธาตุ” หรือ “งานภูเขาทอง” หรือ “งานวัดภูเขาทอง” ที่จัดกันประจำทุกปี ณ บริเวณพระบรมบรรพต หรือ ภูเขาทอง และลานพระวิหาร ของวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร

สำหรับ “วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร” หรือที่คุ้นหูกันในชื่อ “วัดสระเกศ” เป็นวัดโบราณในสมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมชื่อว่า “วัดสะแก”

ต่อมาพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 โปรดเกล้าฯ ให้ปฏิสังขรณ์และขุดคลองรอบพระอาราม แล้วพระราชทานนามใหม่ว่า “วัดสระเกศ” ซึ่งแปลว่า ชำระพระเกศา เนื่องจากพระองค์เคยประทับทำพิธีพระกระยาสนาน (อาบน้ำ) เมื่อเสด็จกรีธาทัพกลับจากกัมพูชามาปราบจลาจลในกรุงธนบุรี และเสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติในปี 2325

งานวัดภูเขาทอง-2562

โดยปกติของงานวัดภูเขาทอง มักจะจัดคาบเกี่ยวกับช่วงเทศกาลลอยกระทง โดยจัดงานกัน 10 วัน 10 คืน ซึ่งในปีนี้จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 4 – 13 พ.ย. 2562

โดยปีนี้ (2562) ยังมีพิธีอัญเชิญผ้าแดงห่มองค์พระบรมบรรพต (ภูเขาทอง) ซึ่งเป็นการร่วมจารึก ชื่อ-สกุล ลงบนผ้าแดง แล้วอัญเชิญผ้าแดงไปห่มองค์พระบรมบรรพต (ภูเขาทอง) ในวันขึ้น 8 ค่ำ เดือน 12 ในเวลา 6.00 น. ของเช้าวันที่ 4 พฤศจิกายน จากนั้นตั้งแต่เวลา 7.00 – 24.00 น. ของวันที่ 4 – 13 พฤศจิกายน 2562 ก็จะเป็นงานสมโภชองค์พระบรมสารีริกธาตุ

สำหรับใครที่สนใจอยากไปเที่ยว “งานวัดภูเขาทอง” Mr.Carro ก็จะมาแนะนำ 5 วิธีเดินทางไปงาน ซึ่งก็มีหลากหลาย ตามความสะดวกครับ

MRT-Blue-Line

รถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) มาภูเขาทอง สะดวกที่สุดอีกหนึ่งวิธี นั่นคือ ลงสถานีสามยอด (BL30) แล้วเดินไปตามถนนเจริญกรุง เข้าถนนวรจักร ต่อรถเมล์สาย 8, 37 หรือ 48 หรือจะต่อรถตุ๊กๆ ไป ก็ถึงงานภูเขาทองได้ …

BTS-Skytrain

รถไฟฟ้าบีทีเอส (BTS) มาภูเขาทอง เพียงลงที่สถานีสนามกีฬาแห่งชาติ แล้วต่อรถเมล์สาย 47 หรือ 48 ก็มาที่งานได้เช่นกัน …

SRT-Train

รถไฟ รฟท. ไม่ว่าคุณจะมาจากขบวนไหน สายตะวันออก, สายเหนือ หรือสายอีสาน ให้ลงรถไฟที่ “ป้ายหยุดรถยมราช” (เฉพาะขบวนรถที่จอดเท่านั้น โปรดตรวจสอบขบวนรถที่คุณโดยสารมาอีกครั้ง ว่าจอดหรือไม่)

เมื่อลงรถไฟแล้ว ให้เดินไปยังป้ายรถเมล์ถนนหลานหลวง สามารถต่อรถเมล์ได้หลายสาย ตามรายละเอียดด้านล่าง

BMTA-Bus

รถเมล์ (Bus) ที่ผ่านรอบๆ วัดสระเกศราชวรวิหาร หรือภูเขาทอง

จากถนนจักรพรรดิพงษ์
– สาย 8, 15, 37, 47, 49

จากถนนบำรุงเมือง
– สาย 15, 47, 48, 508

จากถนนหลานหลวง
– สาย 2, 44, 59, 60, 79, 183, 511

จากถนนมหาไชย
– สาย 56

วิธีสุดท้าย … ถ้าขับรถมาเอง

ต้องขอบอกก่อนว่าในย่านตัวเมืองชั้นใน ที่จอดรถจะหายากมากๆ ยิ่งดึก คนยิ่งมาเยอะ ส่วนใหญ่ต้องจอดรถในบริเวณวัดสระเกศ หรือบริเวณริมถนนย่านนั้น แต่ก็ต้องดูด้วยว่า จุดนั้น ห้ามจอดรถหรือไม่

ถ้าคุณอยากขายรถคันเดิม เปลี่ยนรถใหม่ ขายรถด่วน เพื่อรับเงินก้อนไปใช้ สามารถขายรถคันเก่ากับ Carro ได้ ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ Carro Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook Carro Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ครับ —> เพิ่มเพื่อน

10-BMTA-Bus-Wait-Long-Time

คุณเคยรอรถเมล์นานที่สุดกี่ชั่วโมง?

ในวันที่ข่าวการขึ้นราคาค่ารถเมล์กำลังเป็นที่ฮือฮา เพราะคุณภาพชีวิตของคนนั่งรถเมล์หลายคน ยังมีชีวิตการขึ้นรถเมล์เหมือนเดิม คนแน่น รถน้อย รอนาน กะเวลารอไม่ได้ เพราะปัญหาที่หมักหมมมานาน ขาดการเหลียวแลจากภาครัฐมาหลายสิบปี โดยมีแต่คำอ้างว่า “ขาดทุน” มาโดยตลอด

ทำให้คนส่วนใหญ่ เมื่อมีทางเลี่ยง ก็หันไปขึ้นรถไฟฟ้าราคาแสนแพง หรือขี่รถจักรยานยนต์ ขับรถยนต์ส่วนตัว ออกมาอัดกันจนแน่นถนน ในช่วงเวลาเร่งด่วน

แม้ที่ผ่านมา ขสมก. จะเปิดรถเมล์สายใหม่ๆ และรื้อฟื้นบางสายที่เลิกวิ่งไปแล้วกลับมาวิ่งใหม่ เมื่อมีเส้นทางถนนตัดใหม่เกิดขึ้นก็ตาม แต่รถเมล์ก็ยังคงไม่พอ รอนาน และวิ่งไม่ทั่วถึง จนผู้โดยสาร (บางคน) รอไม่ไหวจะใช้บริการ

แต่ถ้าคุณเป็นคนชอบการรอคอย MR.CARRO ขอแนะนำ 10 สายรถเมล์ของ ขสมก. ที่รอนานที่สุด ฉบับ Update ปี 2562 (เรียงตามหมายเลขสาย จากน้อยไปมาก) มีเส้นทางไหน วิ่งผ่านจุดใด จำนวนรถเท่าไหร่

เผื่อคุณสนใจจะไปยืนรอ ในวันที่มีเวลาว่างมากพอ.

26 มีนบุรี – เอกมัย

BMTA-Bus-Route-26

ภาพจาก Kittipich Konganandech

แรกเริ่มเดิมที สายนี้คือ 26ก มีนบุรี – เอกมัย เปิดให้บริการครั้งแรกในปี 2553 ด้วยเหตุผลที่ต้องการให้รถเมล์มีวิ่งบนถนนประดิษฐ์มนูธรรม และทดแทนรถเมล์สาย 154 ที่เลิกวิ่งไปแล้ว กับต้องลดจำนวนรถเมล์ฟรีที่วิ่งในเส้นทางหลักอย่าง มีนบุรี – อนุสาวรีย์ชัย ไปในตัว แต่ก็สร้างวีรกรรม ในการไม่รับผู้โดยสารบนถนนเส้นนี้ ไว้มากพอสมควร

ในช่วงปลายปี 2560 ทางเขตการเดินรถที่ 2 ได้นำตัว “ก” ออก ก็เลยกลายเป็น สาย 26 มีนบุรี – เอกมัย นับแต่นั้นมา หากใครที่จะไปเอกมัย ต้องสังเกตป้ายหน้ารถให้ดี ไม่งั้นขึ้นผิดคันได้ เอาให้มันงงเล่นแบบนี้ล่ะ รอก็นานมากๆ เพราะจะออกมาแค่ช่วงเช้า-เย็น

ในปี 2562 สาย 26 มีนบุรี – เอกมัย มีจำนวนรถวิ่งที่ไม่แน่นอน ในแต่ละวัน

64 อู่นครอินทร์ – สะพานพระปิ่นเกล้า (ขสมก. วิ่งถนนราชพฤกษ์)

BMTA-Bus-Route-64

ภาพจาก Pattalan Chuthamanee

รถเมล์สายนี้ วิ่งโดยเขตการเดินรถที่ 7 แต่ก็มีจำนวนรถเพียงไม่กี่คัน เส้นทางหลักๆ อยู่บนถนนราชพฤกษ์ ซึ่งปกติเป็นถนนที่คนรอขึ้นรถเมล์น้อยอยู่แล้ว โดยจะได้คนมากหน่อย ก็ช่วงเช้า-เย็น มากกว่าเวลาอื่นๆ

จุดเริ่มต้นของ สาย 64 อู่นครอินทร์ – พระปิ่นเกล้า ที่ดำเนินการโดย ขสมก. เกิดขึ้นมาเพื่อให้สาย 64 เดินรถได้ครบถ้วนตามสัมปทาน

(เดิมสาย 64 ขสมก. ขายสัมปทานไปในช่วงปรับลดขนาดขององค์กรในปี 2541-2543 โดยให้รถร่วมบริการวิ่ง ภายหลัง กรมการขนส่งทางบกปรับเส้นทางแบบวงกลม เป็น วงกลมนนทบุรี – สนามหลวง – ราชพฤกษ์ เมื่อรถร่วมบริการไม่วิ่ง ขสมก. จึงต้องจัดรถสายนี้เพื่อให้วิ่งตามสัมปทานแทน มิฉะนั้นจะถูกปรับ)

ในปี 2562 สาย 64 อู่นครอินทร์ – สะพานพระปิ่นเกล้า เหลือรถวิ่งเพียง 1 คัน

88 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี บางขุนเทียน – ท่าดินแดง

BMTA-Bus-Route-88

ภาพจาก Phachara Pornarunchai‎

แต่เดิมนั้นรถเมล์สาย 88 เป็นรถของรถร่วมบริการ บริษัท ธิติวัชขนส่ง จำกัด เลิกวิ่งไปแล้ว ทาง ขสมก. จึงจำเป็นต้องจัดหารถมาวิ่งแทน เพื่อรักษาเส้นทางสัมปทานเอาไว้

จากเดิมที่สุดสายตรงแฟลตทุ่งครุ ปรับเปลี่ยนเส้นทางเข้าไปยัง วัดคลองสวน, อบต. คลองสวน และต่อมาขยายเส้นทางไปจนถึง มจธ. บางขุนเทียน ซึ่งมีระยะทางไกลมากๆ

ในปี 2562 สาย 88 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี บางขุนเทียน – ท่าดินแดง เหลือรถวิ่งเพียง 5 คัน แต่วิ่งจริงๆ เพียง 2 คัน/วัน เพราะรถเมล์อีก 3 คัน ไปช่วยสาย 75 วิ่ง

143 แฮปปี้แลนด์ – พระจอมเกล้าลาดกระบัง

BMTA-Bus-Route-143

ภาพจาก Chanon Lekanupanon‎

แต่เดิมนั้นรถเมล์สาย 143 เป็นรถของรถร่วมบริการ บริษัท ลาดกระบัง จำกัด เลิกวิ่งไปแล้ว ทาง ขสมก. จึงจำเป็นต้องจัดหารถมาวิ่งแทน เพื่อรักษาเส้นทางสัมปทานเอาไว้ เริ่มให้บริการในวันที่ 10 มกราคม 2556 โดย ขสมก. กลุ่มปฏิบัติการเดินรถที่ 1 เขตการเดินรถที่ 2 อู่มีนบุรี

เริ่มแรกวิ่งในเส้นทาง มีนบุรี – เคหะฉลองกรุง (ซึ่งเป็นเส้นทางเสริมของสาย 143 เดิม ภายหลังเป็น 143ก) ต่อมาจึงขยายเส้นทางไปเป็น แฮปปี้แลนด์ – พระจอมเกล้าลาดกระบัง

ในปี 2562 สาย 143 แฮปปี้แลนด์ – พระจอมเกล้าลาดกระบัง เหลือรถวิ่งเพียง 1 คัน

165 อู่บรมราชชนนี – พุทธมณฑลสาย 3 – สนง.เขตบางกอกใหญ่

BMTA-Bus-Route-165

ภาพจาก Ritthi Phosiyamanee‎

รถเมล์สาย 165 ถือกำเนิดขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2543 ในเส้นทาง พุทธมณฑลสาย 3 – สนามหลวง (วิ่งเส้นถนนเพชรเกษม) เป็นรถเมล์สายที่หาขึ้นยากอีกหนึ่งสาย และเส้นทางเหมือนคู่แฝดอย่างสาย 91ก อีกทั้งยังเปลี่ยนเส้นทางบ่อยครั้งมาก

ในปี 2546 ขสมก. ได้มีมติขยายเส้นทางสาย 165 ให้ยาวขึ้นเป็น พุทธมณฑลสาย 3 – บรมราชชนนี – สนามหลวง ต่อมาในเดือนกรกฎาคม 2549 เปลี่ยนเส้นทางเป็น พุทธมณฑลสาย 2 – เขตบางกอกใหญ่ ในเดือนมกราคม 2551 ปรับเส้นทางเป็น พุทธมณฑลสาย 2 – ศาลาธรรมสพน์ – เขตบางกอกใหญ่ และในเดือนกุมภาพันธ์ 2555 เปลี่ยนเส้นทางอีก เป็น พุทธมณฑลสาย 2 – พุทธมณฑลสาย 3 ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็น อู่บรมราชชนนี – พุทธมณฑลสาย 3 – สนง.เขตบางกอกใหญ่ ตามอู่ที่ย้ายไปใหม่

ในปี 2562 สาย 165 อู่บรมราชชนนี – พุทธมณฑลสาย 3 – สนง.เขตบางกอกใหญ่ เหลือรถวิ่งเพียง 8 คัน แต่วิ่งจริงๆ เพียง 3 คัน/วัน เพราะรถเมล์อีก 5 คัน ไปช่วยสายวิ่งสาย 7ก

197 (วงกลม) มีนบุรี – หทัยราษฎร์

BMTA-Bus-Route-197

ภาพจาก N’James Cac

สาย 197 แรกเริ่มเดิมทีเป็นรถเมล์ วงกลมทดลองวิ่ง (สาย B1 / B2) วิ่งวนซ้าย วนขวา ที่กลุ่มปฏิบัติการเดินรถที่ 1 เขตการเดินรถที่ 2 อู่มีนบุรี ทดลองวิ่ง เพื่อให้มีรถเมล์บริการบนถนนหทัยราษฏร์ ถนนเลียบคลองสอง และถนนคู้บอน จนกลายมาเป็นรถเมล์สาย 197 ที่เริ่มวิ่งให้บริการในวันที่ 12 กันยายน 2556

โดยเส้นทางนี้ มีประชากรอาศัยอยู่มากกว่า 2 แสนคน (ยอดเมื่อปี 2556) แต่ยังไม่มีรถเมล์ให้บริการ มีเพียงรถสองแถว และรถตู้ ซึ่งก็มีผู้ประกอบการรถสองแถวประท้วง อ้างว่า จะเกิดผลกระทบต่อรถสองแถวที่ให้บริการ และปัจจุบันเส้นทางดังกล่าวก็มีรถติดอยู่แล้ว

ในปี 2562 สาย 197 (วงกลม) มีนบุรี – หทัยราษฎร์ เหลือรถวิ่งเพียง 1 คัน

525 สวนสยาม – คู้ซ้าย – หมู่บ้านเธียรทอง 3

BMTA-Bus-Route-525

ภาพจาก วันชัย ห่อรัตนาเรือง

525 แต่เดิมคือ ปอ.28 ที่เปิดมาพร้อมๆ กับ ปอ.29 ที่ถูกยุบเส้นทางไป (ปัจจุบันคือสาย 526) เพื่อให้มีรถเมล์วิ่งบริการในย่านหนองจอก ถนนคู้ซ้าย ถนนคู้ขวา (ถนนทั้ง 2 เส้นนี้ เป็นถนนที่วิ่งเลียบไปกับคลองแสนแสบ ตั้งแต่มีนบุรี ถึงหนองจอก)

แม้ว่าสาย 525 และ 526 ปัจจุบันจะเป็นรถเมล์ครีม-แดง ที่เริ่มกลับมาวิ่งอีกครั้งช่วงประมาณปี 2554 ได้ แต่ก็ถือว่าเป็นรถเมล์ที่มีความสำคัญของชาวหนองจอก และชาว ขสมก. อีกสาย เพราะหมู่บ้านเธียรทอง 3 เป็นหมู่บ้านที่พนักงาน ขสมก. อาศัยอยู่มาก สาย 525 จึงมาสุดสายที่นี่ เสมือนเป็นรถรับ-ส่งพนักงานไปในตัว

ในปี 2562 สาย 525 สวนสยาม – คู้ซ้าย – ม.เธียรทอง 3 เหลือรถวิ่งเพียง 4 คัน

710 (วงกลม) ตลิ่งชัน – ราชพฤกษ์ – อรุณอมรินทร์

BMTA-Bus-Route-710

ภาพจาก Kittipich Konganandech

สาย 710 กับตัวเลขที่ไม่คุ้นเคยของคนรอ ด้วยเส้นทางที่เน้นวิ่งในถนนราชพฤกษ์เป็นหลัก รวมทั้งวิ่งเป็นวงกลมแบ่งเป็นวนซ้ายและวนขวา สร้างความสับสนให้กับผู้ใช้บริการไม่น้อย แล้วมีจำนวนรถที่น้อย จึงทำให้มีผู้ใช้บริการน้อยมาก เท่าที่เห็น คนใช้บริการรถเมล์สายนี้เยอะอยู่เพียงแค่ช่วงหน้าโรงพยาบาลศิริราช กับตรงวังหลัง เท่านั้น เพราะสามารถทดแทนรถเมล์สาย 57 ได้

เริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายน 2556 ปล่อยรถชั่วโมงละ 1 คัน ยกเว้นช่วง 6.00 – 7.00 น. และช่วง 17.00 – 18.00 น. จะปล่อยรถชั่วโมงละ 2 คัน (ใครรอไหวก็รอกันไป)

เป็นสายรถเมล์ที่ถือกำเนิดขึ้นมาจาก กรมการขนส่งทางบก คิดปฏิรูปรถเมล์ในปี 2552 พร้อมกับรอรถเมล์ใหม่ในช่วงนั้น โดยใช้เลขสายตั้งแต่ 600-755 ตามประกาศคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง ฉบับที่ 1950 (พ.ศ. 2552) ต่อมาโครงการก็ล้มไม่เป็นท่า โดย ขสมก. ก็มีนโยบายที่ต้องการนำรถเมล์ฟรีไปเปิดสายใหม่ๆ อยู่แล้ว สาย 710 วงกลมอรุณอมรินทร์ – ถ.กาญจนาภิเษก ถึงเกิดขึ้น และดำเนินงานโดย เขตการเดินรถที่ 5

ในปี 2562 สาย 710 (วงกลม) ตลิ่งชัน – ราชพฤกษ์ – อรุณอัมรินทร์ เหลือรถวิ่งเพียง 8 คัน แต่วิ่งจริงๆ เพียง 2 คัน/วัน เพราะรถเมล์อีก 6 คัน ไปช่วยสายวิ่งสาย 7ก

720 (วงกลม) กัลปพฤกษ์ – พระราม 2

BMTA-Bus-Route-720

ภาพจาก Chanon Lekanupanon

สาย 720 ดำเนินการโดยเขตการเดินรถที่ 5 สลับวิ่งวนซ้ายและวนขวา โดยรถเมล์สายนี้ จะได้คนเยอะหน่อยก็ช่วงถนนเพชรเกษมเท่านั้น หลังจากนั้นก็วิ่งขายเบาะ

สาย 720 แต่เดิมนั้นคือรถเมล์สาย 193 ที่เปิดขึ้นมาใหม่ตามกำหนดของประกาศคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง ในเดือนสิงหาคม 2550 เพื่อให้ผู้โดยสารมีรถเมล์ไปยังถนนกัลปพฤกษ์ แต่ก็ไม่ได้รับความนิยมมากนัก เนื่องจากรถมีน้อย หลังจากที่กรมการขนส่งทางบก ปฏิรูปรถเมล์ในปี 2552 พร้อมกับรอรถเมล์ใหม่ในช่วงนั้น โดยใช้เลขสายตั้งแต่ 600-755 รถเมล์สาย 193 จึงเปลี่ยนเลขสายเป็น 720 ในภายหลัง

ในปี 2562 สาย 720 (วงกลม) กัลปพฤกษ์ – พระราม 2 เหลือรถวิ่งเพียง 2 คัน

751 สะพานพระราม 4 – สถานีรถไฟฟ้า BTS บางหว้า

BMTA-Bus-Route-751

ภาพจาก Wisarut Hanpatthanakotchakorn‎

สาย 751 เดินรถโดยเขตการเดินรถที่ 7 อีกทั้งเส้นทางเดินรถที่ค่อนข้างยาว เราจึงแทบไม่เห็นใครรอขึ้นรถเมล์สายนี้้เลยในช่วงระหว่างทาง โดยจะได้คนแค่เพียงช่วงต้นสายและปลายสายเท่านั้น

เป็นสายรถเมล์ที่ถือกำเนิดขึ้นมาจาก กรมการขนส่งทางบก คิดจะปฏิรูปรถเมล์ในปี 2552 พร้อมกับรอรถเมล์ใหม่ในช่วงนั้น โดยใช้เลขสายตั้งแต่ 600-755 ตามประกาศคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง ฉบับที่ 1950 (พ.ศ. 2552) เริ่มวิ่งอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 มิถุนายน 2556

สาย 751 นั้น วิ่งในส่วนของถนนราชพฤกษ์เกือบตลอดทั้งสาย ตั้งแต่ช่วงบางหว้า ก่อนจะเลี้ยวเข้าไปถนนชัยพฤกษ์ สุดสายที่บริเวณใต้สะพานพระราม 4 (ฝั่งถนนชัยพฤกษ์) ซึ่งนับว่าเป็นการเดินทางที่สะดวกมากๆ ของคนที่อยู่ในย่านปากเกร็ด แล้วต้องการเข้าเมืองมาต่อรถไฟฟ้าบริเวณ BTS บางหว้า ไม่ต้องเสียเวลารถติดในเมือง (แต่ไปติดนอกเมืองแทน!)

ในปี 2562 สาย 751 สะพานพระราม 4 – สถานีรถไฟฟ้า BTS บางหว้า เหลือรถวิ่งเพียง 3 คัน

*หมายเหตุ 10 สายรถเมล์รอนานนี้ เป็นการรวบรวมสอบถาม สายรถเมล์ที่คนรอรถเมล์นาน จากผู้โดยสารรถเมล์ ในเดือนพฤษภาคม 2562 เท่านั้น

ถ้าเบื่อรอรถเมล์แล้ว อยากซื้อรถใหม่ แต่มีงบไม่พอ หรืออยากขายรถเก่าออกแบบไวที่สุด ได้เงินเร็วที่สุด เพื่อนำเงินไปโปะรถคันใหม่ ก็ให้ CARRO เป็นผู้ช่วยมืออาชีพของคุณ …

ถ้าคุณอยากขายรถคันเดิม เพื่อไปซื้อรถคันใหม่ หรือรับเงินก้อนไปใช้ สามารถขายรถคันเก่ากับ CARRO ได้ ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ CARRO Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ครับ —> เพิ่มเพื่อน

Travel-Red-Cross-Fair-2019

ไปงานกาชาด 2562 เดินทางสะดวก ด้วยรถไฟฟ้า BTS และ MRT หรือจะมารถเมล์ก็ได้ ไม่ต้องเสียเวลาหาที่จอดรถให้ยุ่งยาก

Thai-Red-Cross-Fair-2019

เตรียมพบกับความสนุก สุขใจ ในงานกาชาดประจำปี 2562 ภายใต้แนวคิด “เย็นศิระ เพราะพระบริบาล… เกิดสายธารการให้ที่งดงาม” โดยปีนี้จัดงานที่สวนลุมพินี สวนสาธารณะใจกลางเมือง เช่นเดิม ระหว่างวันที่ 15 พ.ย. – 24 พ.ย. 2562 เวลา 10.30 – 22.30 น.

รายได้โดยเสด็จพระราชกุศลบำรุงสภากาชาดไทย ในการบรรเทาทุกข์ บำรุงสุข บำบัดโรค กำจัดภัย

Red-Cross-Fair-2018

CARRO ขอแนะนำ 5 วิธีการเดินทางไปงานกาชาด 2562 เพื่อความสะดวกของผู้อยากมาชมงานกาชาด แต่ไม่อยากขับรถไปที่งานครับ

MRT-Blue-Line

1. รถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT)

รถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) มางานกาชาด 2562 สะดวกที่สุด ลงสถานีสีลม แล้วเดินไปด้านสวนลุมพินี (ทางออก 3) ก็ถึงงานกาชาด 2562 ณ สวนลุมพินี พอดี …

BTS-Skytrain

2. รถไฟฟ้าบีทีเอส (BTS)

รถไฟฟ้าบีทีเอส (BTS) มางานกาชาด 2562 สะดวกสุดๆ เช่นกัน เพียงลงสถานีศาลาแดง แล้วเดินไปตามถนนสีลมต่ออีกหน่อย ก็ถึงงานกาชาด 2562 ณ สวนลุมพินี พอดี …

3. รถตู้

รถตู้มางานกาชาด 2562

ระหว่างการจัดแสดงงานกาชาด 2562 จะมีรถตู้ (เสียค่าบริการ) จากสวนลุมพินี ไปจุดสำคัญต่างๆ ได้แก่ บางปะกอก (ทางด่วน), มีนบุรี, รังสิต เป็นต้น

BMTA-Bus

4. รถเมล์

รถเมล์ (Bus) ที่ผ่านสวนลุมพินี รอบงานกาชาด 2562

จากถนนสีลม
– สาย 15, 76, 77, 115, 172, 177, 504, 514, 547

จากถนนพระรามที่ 4
– สาย 4, 14, 45, 46, 47, 50, 67, 74, 76, 109, 115, 141, 505, 507, A3, สองแถว 1240

จากถนนราชดำริ
– สาย 14, 15, 50 (ขากลับพระราม 7), 74, 77, 504, 514, 547

จากถนนสารสิน
– สาย 13, 17, 50, 505 (ขากลับปากเกร็ด), A3

จากถนนวิทยุ
– สาย 13, 14, 17, 50, 62, 76, 505, A3

Lumpini-Park-Car-Parking

5. ขับรถยนต์ส่วนตัว

วิธีสุดท้าย … ถ้าขับรถมาเอง

สามารถไปที่ลานจอดรถฝั่งข้างถนนราชดำริ ฝั่งข้างถนนสารสิน (ค่าจอดรถ 4 ล้อ ชั่วโมงละ 10 บาท ชั่วโมงถัดไป 20 บาท) หรือด้านในศูนย์ฝึกอาชีพ กทม. สวนลุมพินี ฝั่งถนนวิทยุได้ (จอดรถฟรี) หรือที่อาคาร GPF ถนนวิทยุ, โรงแรม คราวน์ พลาซ่า และอาคารชาญอิสสระ 1

แต่ขอบอกไว้ก่อนเลยว่า ที่จอดรถหายากสุดๆ และต้องเสียเวลาวนหาที่จอดรถนานมาก อีกทั้งถนนรอบๆ งาน รถยังติดหนักด้วย!

Lumpini-Park-Car-Parking

ถ้าคุณอยากขายรถคันเดิม เปลี่ยนรถใหม่ ขายรถด่วน เพื่อรับเงินก้อนไปใช้ สามารถขายรถคันเก่ากับ CARRO ได้ ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ CARRO Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ครับ —> เพิ่มเพื่อน