รอโอนรถยนต์ ใครถือครองกรรมสิทธิ์

หลายๆ ท่าน ที่เคยมีประสบการณ์ในการซื้อรถยนต์มือสอง ซึ่งต้องมีการโอนรถ จากเจ้าของเก่า ไปสู่เจ้าของใหม่ เคยสงสัยกันบ้างหรือไม่ว่า ขณะที่ยังไม่มีการจดเปลี่ยนชื่อในทะเบียน ใครเป็นเจ้าของรถยนต์กันแน่

บางครั้งอาจมีการชำระเงินกันไปแล้ว แต่ระหว่างที่รอการโอนเปลี่ยนชื่อในสมุดทะเบียน จะถือว่าใครเป็นผู้มีกรรมสิทธิ์ในรถยนต์คันนั้น

รอโอนรถยนต์ ใครถือครองกรรมสิทธิ์

รถเก่าแค่ไหนก็ต้องโอนได้ เพื่อการเป็นเจ้าของที่สมบูรณ์

รถทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นจักรยานยนต์ รถยนต์ รถบรรทุก ในทางกฎหมาย จัดเป็นสังหาริมทรัพย์ประเภทหนึ่ง ซึ่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 456 ก็กำหนดไว้ว่า การซื้อขายสังหาริมทรัพย์ที่มีราคาเกินกว่า 500 บาทขึ้นไป จะต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ หรือวางประจำ หรือชำระหนี้บางส่วน อย่างใดอย่างหนึ่ง

รอโอนรถยนต์ ใครถือครองกรรมสิทธิ์

รถที่จะโอนได้ ต้องมีวันที่ต่อภาษีประจำปีก่อนวันสิ้นอายุ

กรณีนี้ก็สามารถบังคับให้ฝ่ายผู้ขายจดทะเบียนเปลี่ยนชื่อทางทะเบียนมาให้ผู้ซื้อได้ แต่ในส่วนของกรรมสิทธิ์นั้น เพียงแต่ส่งมอบรถยนต์ให้ก็ถือว่า กรรมสิทธิ์ในรถยนต์คันนั้นได้โอนมาเป็นของผู้ซื้อแล้ว แม้ยังไม่ทันไปแก้ชื่อทะเบียนเจ้าของ ยังไม่เปลี่ยนป้ายวงกลม หรือไม่ได้ไปแจ้งต่อเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบกก็ตาม

รอโอนรถยนต์ ใครถือครองกรรมสิทธิ์

เอกสารการโอนรถ

การซื้อขายรถยนต์ไม่ต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ แต่ตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ.2522 ก็มีข้อกำหนดให้ต้องมีการไปจดทะเบียนเพื่อเปลี่ยนแปลงชื่อเจ้าของทะเบียนรถยนต์ ทั้งนี้ก็เพื่อประโยชน์ในการควบคุมดูแลของรัฐบาล ที่จะใช้สันนิษฐานเบื้องต้นก่อนว่า บุคคลใดเป็นเจ้าของรถยนต์ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ หรือถูกโจรกรรม หรือการใช้รถยนต์ในการกระทำความผิดอาญาต่างๆ

ดังนั้นการซื้อขายรถยนต์แม้ไม่จดทะเบียน ก็ไม่เป็นโมฆะ เพียงแต่ถ้าไม่มีการวางเงินมัดจำ หรือการชำระหนี้บางส่วน หรือมีหลักฐานเป็นหนังสือ ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายก็ไม่สามารถบังคับให้อีกฝ่ายหนึ่ง ต้องปฏิบัติตามสัญญาซื้อขายที่ได้ตกลงกันไว้เท่านั้น

รอโอนรถยนต์ ใครถือครองกรรมสิทธิ์

เมื่อทำการซื้อ-ขาย รถยนต์แล้ว ทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย ควรไปโอนรถพร้อมกันที่สำนักงานขนส่ง ปลอดภ้ยที่สุด

ตัวอย่างเช่น นายสมภพ ซื้อรถบรรทุกจากนายสมชาย ในการซื้อขายนั้น ต้องมีการติดตั้งปั๊มฉีดน้ำมันไฮดรอลิก และเครนด้วย นายสมภพซึ่งเป็นผู้ซื้อติดไม่เป็น แต่รู้ว่านายสมชายคนขายติดเป็น ก็นำมาให้นายสมชายช่วยติดตั้งให้บนรถ

เมื่อติดตั้งเสร็จนายสมชายเปลี่ยนใจไม่ขายรถยนต์คันนี้ นายสมภพเลยมาฟ้องเป็นคดีขึ้น โดยนายสมชายต่อสู้ว่าการซื้อขายรถยนต์เป็นการซื้อขายสังหาริมทรัพย์เกิน 500 บาท ซึ่งต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อผู้รับผิด หรือวางมัดจำ หรือชำระหนี้บางส่วน แต่กรณีนี้ ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ ไม่มีการวางมัดจำ หรือผ่อน และยังไม่มีการส่งมอบรถยนต์ให้ไป ทั้งฝ่ายนายสมภพเองก็ยังไม่ได้ชำระราคาแต่อย่างใด ดังนั้นนายสมภพจะบังคับให้นายสมชายขายรถยนต์คันนี้ไม่ได้

คดีนี้ศาลวินิจฉัยว่า มัดจำนั้นก็คือ เงินทอง หรือทรัพย์สินที่ผู้ซื้อส่งมอบให้ผู้ขายเพื่อเป็นหลักฐานในการทำสัญญา และหากมีการบิดพลิ้วประการใด ผู้ขายย่อมยึดหรือริบเอาไว้ได้

กรณีนี้ถึงแม้ว่านายสมภพจะได้ส่งมอบไฮดรอลิกและเครน อันเป็นทรัพย์สินอย่างหนึ่งให้กับนายสมชายผู้ขาย แต่ก็ไม่ได้มอบให้เพื่อเป็นหลักฐานในการทำสัญญา หากแต่มอบให้เพื่อไปติดตั้งบนตัวรถ ซึ่งเป็นประโยชน์แก่ฝ่ายผู้ซื้อคือ นายสมภพเอง และไม่มีกฎหมายกำหนดว่า ถ้ามีการบิดพลิ้วแล้ว ฝ่ายนายสมชายผู้ขายจะสามารถยึดไฮดรอลิกหรือเครนได้ พฤติการณ์ยังมองไม่ออกว่ามีการทำสัญญาซื้อขายกันจริง

นายสมภพจึงแพ้คดีนายสมชายไป โดยถือว่าไม่มีหลักฐานในการฟ้องร้องบังคับคดี

สรุปว่า ควรทำเอกสารซื้อขายพร้อมระบุเงื่อนไขและรายละเอียดอย่างชัดเจน เมื่อมีการตกลงมัดจำหรือจ่ายเงินกัน แล้วค่อยไปโอนกรรมสิทธิ์ในภายหลัง

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่ มาขายรถกับทาง CARRO Express ได้ที่  https://th.carro.co/sell-car/express หรือถ้าหากต้องการซื้อรถคุณภาพเยี่ยม CARRO เราก็มีพร้อมให้คุณเลือกอย่างมากมายด้วยเช่นกัน พร้อมรับประกันสูงสุดถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร กับ CARRO Automall ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://th.carro.co/taladrod/

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

หากใครอยากซื้อรถมือสองสภาพเยี่ยม ราคาสบายๆ และมั่นใจได้ในเรื่องคุณภาพทุกคัน CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ ตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลา 1 นาที!

ซึ่งรถของ CARRO Automall เรามีให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพอย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 200 จุด รวมไปถึงการการปรับสภาพ (Car Reconditioning) ด้วยทีมช่างมืออาชีพ ที่ผ่านการผึกอบรมตามมาตรฐานคาร์โรกว่า 40 คน พร้อมให้บริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว กว่า 20 คัน/วัน

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์

เรารับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร! (CARRO Quality Assurance) อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม กับ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

แหล่งที่มาจาก:

  • คุณ ศราวุธ สายเชื้อ จากนิตยสารไทยไดรฟ์เวอร์

3 ขั้นตอนการโอนรถ (เอกสาร ค่าธรรมเนียม สถานที่โอนรถ)

หลังจากที่คุณได้ทำการซื้อ – ขายรถมือสองเรียบร้อยแล้ว นี่คือ 3 ขั้นตอนต่อไป !

ข้อมูลในบทความนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมาก และถือเป็นหัวใจหลักของการโอนรถเลยก็ว่าได้ เพราะถ้าหากคุณได้เตรียมขั้นตอนเหล่านี้ครบทั้งหมดแล้ว ก็สามารถเตรียมตัวไปดำเนินการโอนได้ทันที

ซึ่งสำหรับทั้งมือเก่าและมือใหม่หัดขับทุกคน รวมไปถึงผู้ซื้อ – ขายรถมือสอง ทุกคน ที่ยังคงสับสนเรื่องการเตรียมเอกสาร หรือการเตรียมตัวสำหรับการไปโอนกรรมสิทธิ์รถ แนะนำว่าให้ลองทำตาม 3 ขั้นตอนนี้ แล้วรับรองว่าการโอนกรรมสิทธิ์รถที่ใครว่ายากนั้น จะกลายเป็นเรื่องง่ายไปเลย ประกอบไปด้วย

การโอนรถ โอนตรง โอนลอย คืออะไร

ขั้นตอนแรก คือ “เตรียมเอกสาร”

เอกสารนั้นสำคัญไฉน ? ต้องขอบอกเลยว่า สำคัญมาก เพราะถ้าหากเอกสารไม่ครบ ก็จะไม่สามารถไปดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์ได้นั่นเอง ซึ่งเอกสารหลักๆ จะประกอบไปด้วย

  • สำเนาบัตรประชาชน พร้อมเซ็นสำเนาถูกต้อง
  • สำเนาทะเบียนบ้าน พร้อมเซ็นสำเนาถูกต้อง
  • เอกสารแบบคำขอโอน และรับโอน
  • หนังสือมอบอำนาจ ในกรณีโอนลอย และผู้ขายไม่ได้มาทำการโอนกรรมสิทธิ์ด้วยตนเอง
  • สัญญาซื้อขาย
  • สมุดคู่มือจดทะเบียนรถ (เล่มทะเบียนรถสีฟ้า)
  • หนังสือจดทะเบียนนิติบุคคล

TIPS: ถ้าหากผู้ขายได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล เอกสารทุกอย่างที่มีลายเซ็นจำเป็นต้องมีตราประทับบริษัทอยู่ด้วย

แต่สำหรับรถที่ยังติดไฟแนนซ์ ผู้ขาย หรือเจ้าของรถ จะต้องนำเงินไปปิดไฟแนนซ์ก่อนเป็นอันดับแรก โดยจะใช้เงินใครปิดนั้น เป็นข้อตกลงระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย จากนั้นให้ไฟแนนซ์โอนกรรมสิทธิ์ให้กับผู้ขาย และผู้ขายจึงโอนกรรมสิทธิ์ให้ผู้ซื้ออีกที

TIPS: ก่อนที่จะทำการซื้อรถ ผู้ซื้อต้องตรวจสอบเอกสารให้ดี เพราะถ้าหากผู้ขายไม่มีเจ้าของเล่มทะเบียนจดทะเบียน แล้วนำรถมาขายให้คุณในราคาที่ต่ำกว่าท้องตลาด ให้ระวังจะเป็นรถหนีไฟแนนซ์

เลือกซื้อรถ

ขั้นตอนการเตรียมเอกสารสำหรับผู้ซื้อ-ขาย

เช็ก List เอกสารที่จะต้องเตรียม

  • สำหรับผู้ซื้อ-ขาย แบบโอนตรง
  • สำหรับผู้ซื้อ-ขาย แบบโอนลอย

ดาวน์โหลดเอกสาร: แบบคำขอโอนและรับโอนรถยนต์ / หนังสือมอบอำนาจ / สัญญาซื้อ-ขาย

ชุดโอน

ขั้นตอนที่ 2 คือ “เตรียมค่าธรรมเนียมโอนรถ”

หลังจากที่คุณได้เตรียมเอกสารที่จะนำไปทำการโอนรถเรียบร้อยแล้ว การเตรียมเงินไปให้พอจ่ายค่าธรรมเนียมก็เป็นข้อสำคัญอีกสิ่งหนึ่ง เพราะถ้าหากคุณเตรียมเงินไปไม่พอ ก็อาจจะทำให้เสียเวลาได้ ดังนั้นเราจะจึงได้เตรียมข้อมูลเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมมาให้คุณอย่างคร่าวๆ

  • ค่าคำขออื่นๆ 5 บาท
  • ค่าธรรมเนียมคำขอโอนรถ 5 บาท
  • ค่าโอนรถ 100 บาท

ค่าอากรซื้อขาย ร้อยละ 0.5 บาท ซึ่งเทียบได้กับ 100,000 ละ 500 บาท โดยทางกรมการขนส่งทางบก จะมีการประเมินราคารถของคุณ ซึ่งมีหลักเกณฑ์จาก

  • ปีที่รถคันนั้นจดทะเบียน
  • ราคากลางทั่วไปที่ซื้อ-ขาย รถ
  • สภาพรถ

*แต่ในกรณีที่มีการโอนปิดบัญชีเพื่อเช่าซื้อ หรือการนำเงินไปปิดไฟแนซ์เพื่อโอนชื่อรถมาเป็นของตน ไม่ต้องมีการเสียค่าอากรซื้อขาย เนื่องจากได้คิดรวมกับยอดเงินสุทธิที่ต้องจ่ายไปแล้ว

3 ขั้นตอนการโอนรถ (เอกสาร ค่าธรรมเนียม สถานที่โอนรถ)

ขั้นตอนสุดท้าย คือ “การตรวจสอบสถานที่โอนกรรมสิทธิ์รถ”

หลังจากที่คุณเตรียมพร้อมที่จะไปทำการโอนกรรมสิทธิ์รถแล้วนั้น แนะนำให้เปิดดูที่หน้า 18-19 ในคู่มือจดทะเบียนรถยนต์ เพื่อดูว่ามีการแจ้งขอใช้พื้นที่ในเขตใดจังหวัดใด สำหรับการโอนรถ เนื่องจากคุณไม่สามารถไปโอนรถได้ในทุกเขตขนส่ง หรือถ้าหากคุณไม่แน่ใจ ก็สามารถตรวจสอบได้ที่ เว็บไซต์สำนักงานขนส่งจังหวัดต่างๆ

3 ขั้นตอนการโอนรถ (เอกสาร ค่าธรรมเนียม สถานที่โอนรถ)

สำหรับในกรุงเทพฯ โอนรถที่ไหน …

  • กรมการขนส่งทางบก, สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานคร พื้นที่ 5

1032 ถ.พหลโยธิน เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900 โทร. 02-272-3100

รับผิดชอบในเขตพื้นที่ ป้อมปราบศัตรูพ่าย ปทุมวัน ดุสิต บางซื่อ บางเขน ดินแดง จตุจักร ลาดพร้าว สายไหม สัมพันธวงศ์ บางรัก พญาไท ห้วยขวาง บางกะปิ ดอนเมือง ราชเทวี หลักสี่ และวังทองหลาง

  • สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานคร พื้นที่ 1

1005 ถ.บางขุนเทียน-ชายทะเล แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ 10150 โทร. 02-415-7337

รับผิดชอบในเขตพื้นที่ เขตบางขุนเทียน บางคอแหลม จอมทอง ธนบุรี ราษฎร์บูรณะ คลองสาน สาทร ทุ่งครุ บางบอน และยานนาวา

  • สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานคร พื้นที่ 2

51 ถ.สวนผัก แขวงตลิ่งชัน เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ 10170 โทร. 02-882-1620-35

รับผิดชอบในเขตพื้นที่ เขตตลิ่งชัน บางพลัด บางกอกน้อย บางกอกใหญ่ ภาษีเจริญ หนองแขม พระนคร บางแค และทวีวัฒนา

  • สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานคร พื้นที่ 3

2479 ถ.สุขุมวิท (ตรงข้าม ซ.สุขุมวิท 62/1) แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพฯ 10260 โทร. 02-332-9688-91

รับผิดชอบในเขตพื้นที่ เขตพระโขนง ประเวศ สวนหลวง คลองเตย บางนา วัฒนา และบางจาก

  • สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานคร พื้นที่ 4

34 หมู่ 6 ถ.ร่วมพัฒนา แขวงลำต้อยติ่ง เขตหนองจอก กรุงเทพฯ 10530 โทร. 02-543-5500-2

รับผิดชอบในเขตพื้นที่ เขตมีนบุรี หนองจอก ลาดกระบัง บึงกุ่ม สะพานสูง คันนายาว และคลองสามวา

3 ขั้นตอนการโอนรถ (เอกสาร ค่าธรรมเนียม สถานที่โอนรถ)

ถ้าใครอยากขายรถตอนนี้ หรือกำลังตัดสินใจจะซื้อรถป้ายแดงอยู่พอดี แต่งบไม่พอ!  มาขายรถกับ CARRO Express สิ! หรือจะ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

และอีกหนึ่งบริการใหม่! CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check รับประกันพร้อมโอนทุกคัน ฟรี! ค่าจัดโอน มีให้เลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน อยากซื้อรถคุณภาพเยี่ยม มาซื้อกับ CARRO Automall สิ!

หรือสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่หาไม่ได้ สามารถสั่งตามออเดอร์ได้ที่นี้ > https://th.carro.co/buy-car หรือโทร. 02-508-8690 อีกทั้งยัง Inbox เข้ามาสอบถามก็ได้เช่นกันได้ที่ Facebook -> CARRO Automall – รถบ้านมือสอง หรือทาง Line เชิญเลยครับที่ @carroautomall