BYD Denza D9 EV นี่หรือคู่แฝด Alphard แถมใช้ไฟฟ้าด้วย!

Denza (เดนซ่า) คือบริษัทรถยนต์สัญชาติจีนที่มีชื่อเต็มๆ ว่า Shenzhen BYD Daimler New Technology Co., Ltd. จากเมืองเสินเจิ้น ประเทศจีน ซึ่งจับมือกันกับทาง Mercedes-Benz (เมอร์เซเดส-เบนซ์) และ BYD (บีวายดี) เพื่อทำรถยนต์หรูที่ใช้พลังงานไฟฟ้าโดยเฉพาะ มาตั้งแต่ปี 2010

BYD Denza D9 EV นี่หรือคู่แฝด Alphard แถมใช้ไฟฟ้าด้วย!

โดยในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา Denza ได้ประกาศเปิดตัวรถ MPV รุ่นใหญ่อย่าง BYD Denza D9 EV (บีวายดี เดนซ่า ดี9 อีวี หรือ 比亚迪腾势D9 EV ในภาษาจีน) อย่างเป็นทางการในจีน มีหน้าตาดูเหมือนกับเจ้า Toyota Alphard อย่างกับแกะเลยทีเดียว! ซึ่งมีให้เลือกทั้งขุมพลัง Plug-In Hybrid และ EV ด้วยเทคโนโลยีจาก BYD

BYD Denza D9 EV นี่หรือคู่แฝด Alphard แถมใช้ไฟฟ้าด้วย!

รูปโฉมภายนอก ออกแบบภายใต้แนวคิด “Into the Meteor Arrow” ได้แรงบันดาลใจมาจาก Toyota Alphard ทั้งหมดเลยก็ว่าได้ (เพราะแนวทางการดีไซน์ คล้ายกันสุดๆ แต่ทาง Denza บอกว่าเป็น Design Language แบบ π-Motion = พาย โมชั่น) ไม่ว่าจะเป็นชุดกระจังหน้าแบบ Matrix พร้อมไฟ LED ล้อมรอบด้วยขอบโครเมียม ใช้ประตูสไลด์ไฟฟ้าทั้งสองฝั่ง พร้อมเส้นสายตัวถังที่ลากยาวทั้งคัน เสริมด้วยชุดไฟท้าย LED กราฟฟิกรูปตัวอักษร Y เชื่อมต่อกันตลอดแนว พร้อมล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว

BYD Denza D9 EV นี่หรือคู่แฝด Alphard แถมใช้ไฟฟ้าด้วย!

มิติตัวรถยาว 5,250 มม. กว้าง 1,960 มม., สูง 1,920 มม. ระยะฐานล้อ 3110 มม.

BYD Denza D9 EV นี่หรือคู่แฝด Alphard แถมใช้ไฟฟ้าด้วย!

ส่วนห้องโดยสารภายใน เป็นแบบ 7 ที่นั่ง จัดวางเบาะแบบ 2+2+3 สไตล์ Intelligent and Digital Cockpit ที่ตกแต่งอย่างหรูหรา ด้วยวัสดุลายไม้ และสี Piano Black บริเวณคอนโซลหน้า ติดตั้งหน้าจอควบคุมขนาด 15.6 นิ้ว พร้อมระบบโต้ตอบอัจฉริยะของ Denza Link บนจอ Full LCD ขนาด 10.25 นิ้ว พร้อมคันเกียร์แบบคริสตัล รองรับการอัพเกรด OTA

ส่วนด้านหลัง กระจกตัวรถแบบพิเศษหนา 2 ชั้น ให้ความเงียบเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น คู่ไปกับระบบ NVH ควบคุมเสียงไม่ให้เกิน 65 เดซิเบล เมื่อขับขี่ที่ความเร็ว 120 กม./ชม.

BYD Denza D9 EV นี่หรือคู่แฝด Alphard แถมใช้ไฟฟ้าด้วย!

เบาะนั่งบริเวณแถวที่ 2 เป็นแบบ Captain Seat พร้อมฟังก์ชั่นปรับนวดจุดต่างๆ ได้ถึง 10 จุด พร้อมระบบอุ่น และเป่าลม แถมติดตั้งระบบ Wireless Charger กำลังไฟ 50kW ถึง 3 จุด

BYD Denza D9 EV นี่หรือคู่แฝด Alphard แถมใช้ไฟฟ้าด้วย!

มีติดตั้งหน้าจอขนาดใหญ่ด้านหลังเบาะหน้า 2 จอ และ ที่ควบคุมฟังก์ชั่นต่างๆ บริเวณที่พักแขน กระหึ่มไปกับระบบเสียงแบบ Dynaudio มีซันรูฟคู่ ม่านบังแดดไฟฟ้าคู่ พร้อมระบบควบคุมเครื่องปรับอากาศเหนือแถวที่ 2 และ 3

BYD Denza D9 EV นี่หรือคู่แฝด Alphard แถมใช้ไฟฟ้าด้วย!

BYD Denza D9 EV มีให้เลือกทั้งในรูปแบบ Plug-In Hybrid และแบบรถยนต์ไฟฟ้า (รถ EV) เรามาดูรายละเอียดกันว่า ในแต่ละแบบ จะมีรายละเอียดอะไรบ้าง …

รุ่น Plug-In Hybrid วิ่งด้วยไฟฟ้าได้ระยะทางสูงสุด (ตามมาตรฐาน NEDC) วิ่งด้วยไฟฟ้า + น้ำมันได้ระยะทางสูงสุด (ตามมาตรฐาน NEDC) ราคา Pre-Sale (หยวน)
DM-i 945 Luxury 50 กิโลเมตร 945 กิโลเมตร 335,000
DM-i 1040 Premium 190 กิโลเมตร 1,040 กิโลเมตร 375,000
DM-i 970 4WD Honor 180 กิโลเมตร 970 กิโลเมตร 405,000
DM-i 970 4WD Flagship 180 กิโลเมตร 970 กิโลเมตร 445,000

มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร Turbo แบบ Plug-In Hybrid DM-i ระดับ e-Platform 3.0 Technology พร้อมชุดแบตเตอรี่ที่มีให้เลือก 2 แบบ บนอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 6.2 – 6.7 ลิตร/100 กิโลเมตร ได้แก่

  • แบบ 50kW วิ่งด้วยไฟฟ้าอย่างเดียวได้ระยะทางสูงสุด 50 กิโลเมตร และให้ระยะทางรวมสูงสุด 945 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน NEDC)
  • แบบ 80kW วิ่งด้วยไฟฟ้าอย่างเดียวได้ระยะทางสูงสุด 180 กิโลเมตร และให้ระยะทางรวมสูงสุด 970 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน NEDC)
  • และแบบ 80kW วิ่งด้วยไฟฟ้าอย่างเดียวได้ระยะทางสูงสุด 190 กิโลเมตร และให้ระยะทางรวมสูงสุด 1,040 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน NEDC)

BYD Denza D9 EV นี่หรือคู่แฝด Alphard แถมใช้ไฟฟ้าด้วย!

ส่วนรุ่นใช้พลังงานไฟฟ้า มาพร้อมแบตเตอรี่ Blade ของ BYD สามารถวิ่งได้ระยะทางมากกว่า 600 กม. (ตามมาตรฐาน CLTC) ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย ได้แก่ …

รุ่น EV วิ่งด้วยไฟฟ้าได้ระยะทางสูงสุด (ตามมาตรฐาน CLTC) ราคา Pre-Sale (หยวน)
EV 600+ Premium 600+ กิโลเมตร 390,000
EV 600+ 4WD Flagship 600+ กิโลเมตร 460,000

มาพร้อมระบบขับเคลื่อนสองล้อ และ ขับเคลื่อนสี่ล้อ ติดตั้งระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะระดับ L2 และระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะของ Denza Pilot ที่สามารถตอบสนองการขับขี่ได้อย่างดีเยี่ยม พร้อมระบบความปลอดภัย จัดเต็มกับถุงลมนิรภัย 9 จุดรอบคัน

สำหรับ Denza D9 EV คาดว่าเปิดราคาจำหน่ายจริงอยู่ที่ประมาณ 335,000 – 660,000 หยวน (หรือประมาณ 1.71 – 3.38 ล้านบาท) เพียงแค่เปิด Pre-Sale 3,000 คันแรก ก็สามารถปิดยอดจองได้ภายใน 30 นาที! และมียอดจองถึง 7,288 คัน ภายในหนึ่งวัน!

ใครที่ชื่นชอบรถตู้ระดับ VIP แต่อยากลองเปลี่ยนรสชาติมาเล่นรถจีนดูบ้าง กับราคาและคุณสมบัติที่คุ้มสุดๆ แบบนี้ แถมยังเป็นรถยนต์ไฟฟ้าอีก บอกเลยว่าห้ามพลาดแน่นอน!

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์ไฟฟ้าคันใหม่มาใช้ในช่วงนี้ มาขายรถกับทาง Carro Express สิ! คลิกเลยที่ https://th.carro.co/sell-car/express รับรองได้เงินเร็ว ไว ทันใจแน่นอน!

CARRO Automall

ส่วนใครสนใจจะซื้อรถมือสอง Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

แหล่งที่มาบางส่วนจาก:

Toyota-Alphard-Vellfire-2018

โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย แนะนำ Toyota Alphard 3.5 VIP, 2.5 Hybrid และ Vellfire 2.5 รุ่นปรับโฉมใหม่ ด้วยแนวคิด “My Vision My Decision”

Toyota-Alphard-2018

โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ระดับหรู Toyota Alphard (โตโยต้า อัลฟาร์ด) อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่ปี 2552 ด้วยการใส่ใจในการออกแบบทุกรายละเอียด ทั้งภายในและภายนอกอย่างประณีต ซึ่งผ่านการทดสอบคุณภาพรถยนต์ให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของประเทศไทย

Toyota-Alphard-2018

ต่อมาในปี 2558 ได้แนะนำโตโยต้า อัลฟาร์ด ใหม่ เจเนอเรชั่นที่ 3 ประกอบด้วยรุ่นอัลฟาร์ด 3.5 VIP และ อัลฟาร์ด 2.5 ไฮบริด พร้อมทั้งแนะนำ โตโยต้า เวลไฟร์ 2.5 เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือก สำหรับผู้ที่ชื่นชอบความหรูหราที่มาพร้อมความสปอร์ต

Toyota-Vellfire-2018

โตโยต้า อัลฟาร์ด และเวลไฟร์ รุ่นปรับโฉมใหม่ สะท้อนความสมบูรณ์แบบเหนือระดับ ด้วยรูปลักษณ์อันโดดเด่น และความสะดวกสบายครบครันอันเป็นเอกลักษณ์ มาพร้อมกับความพิเศษสำหรับลูกค้าในประเทศไทยโดยเฉพาะ กับชุดแต่งสเกิร์ตด้านหน้าและด้านหลัง อุปกรณ์บริหารหลังแบบไฟฟ้า กล่องรับสัญญาณดิจิตอลทีวี อีกทั้งระบบ T-connect Telematics

Toyota-Vellfire-2018

เพื่อเป็นการขอบคุณและสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า จึงขอมอบข้อเสนอพิเศษ ด้วยการขยายเวลารับประกันคุณภาพรถใหม่เป็น 5 ปี หรือ 150,000 กม. พร้อมฟรีค่าแรงเช็คระยะถึง 100,000 กม. หรือ 5 ปี แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน

อัลฟาร์ด รุ่นเครื่องยนต์ 2.5 ไฮบริด มาพร้อมความคุ้มครองที่ครบครันยิ่งขึ้นด้วย Hybrid Worry Free กับการรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี และระบบไฮบริด 5 ปี ตอกย้ำความเป็นผู้นำและคุณภาพระบบไฮบริดของโตโยต้า

สำหรับรุ่นอัลฟาร์ด 3.5 VIP มาพร้อมขุมพลังใหม่ V6 24วาล์ว DOHC Chain Drive VVT-iW และ D-4S เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดพร้อม Direct Shift เพื่อสมรรถนะเต็มกำลังและประหยัดน้ำมันได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ในรุ่นเวลไฟร์ 2.5 ยังได้เพิ่มสีใหม่ Steel Bronze Metallic เป็นอีกหนึ่งทางเลือก

โตโยต้า อัลฟาร์ด และ เวลไฟร์ รุ่นปรับโฉมใหม่

Toyota-Vellfire-2018

I. ดีไซน์ภายนอกใหม่เป็นเอกลักษณ์

– กระจังหน้าโครเมียมใหม่ … ดีไซน์หรู
– ไฟหน้าโปรเจคเตอร์ LED พร้อมไฟ Daytime Running Lights และไฟเลี้ยวหน้า-หลังแบบ Sequential …
– ไฟตัดหมอก …
– ชุดไฟท้ายแบบ LED …
– ล้ออัลลอย …

Toyota-Alphard-Vellfire-Guarantee

– ป้ายติดกระจกหลัง “Officially Authorized By Toyota Motor Thailand Co., Ltd.” และ “10-Year Hybrid Battery Guarantee” … นำเข้าและจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการจาก บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด และการรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี

Toyota-Alphard-2018 Toyota-Alphard-2018 Toyota-Alphard-2018

II. ดีไซน์ภายในและอุปกรณ์อำนวยความสะดวก

– โดดเด่นด้วยการตกแต่งภายใน … ทั้งลายไม้ภายในตัวรถ สีมาตรวัดความเร็ว และการตกแต่งของลายเบาะหนัง* (เฉพาะรุ่น 3.5 VIP)
– อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger) … รองรับการชาร์จไฟตามมาตรฐาน Qi (เฉพาะอุปกรณ์ที่รองรับและขนาดที่กำหนด)
– ไฟอ่านหนังสือบริเวณเบาะนั่งด้านหลังแถวที่ 1 … สำหรับผู้โดยสาร
– เบาะนั่งแบบ Seat Ventilator & Heater บริเวณเบาะนั่งคู่หน้าและเพิ่มระบบบริหารหลังไฟฟ้า Air Lumba Pro ในอัลฟาร์ด 2.5 ไฮบริด และเวลไฟร์ 2.5 …
– กล่องรับสัญญาณดิจิทัลทีวี …

Toyota-Vellfire-2018

III. ระบบความปลอดภัยที่สมบูรณ์แบบ

– ไฟตัดหมอกด้านหลัง … เพิ่มความชัดเจนในการมองเห็นแก่ผู้ร่วมทาง
– ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง (Blind Spot Monitor) … หากมีรถอยู่ในมุมอับสายตาที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยกระจกมองข้าง ระบบจะส่งสัญญาณเตือนที่กระจกมองข้างด้านนั้นๆ เพื่อให้ผู้ขับระมัดระวังในการเปลี่ยนเลน
– กระจกมองหลังแบบดิจิตอล (Digital Rear View Mirror) … พร้อมฟังก์ชั่นตัดแสงอัตโนมัติ (EC Mirror)

Toyota-Vellfire-2018

IV. ระบบ T-Connect Telematics เชื่อมต่อทุกไลฟ์สไตล์

– Find My Car เช็คตำแหน่งรถผ่านแอพพลิเคชั่น Find My Car หรือ Apple Watch
– Stolen Vehicle Tracking ระบบตรวจสอบตำแหน่งรถยนต์เมื่อถูกโจรกรรม
– SOS Emergency Service ประสานงานช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง (อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในบางกรณี)
– Parking Alert ระบบแจ้งเตือนผ่าน Notification เมื่อรถถูกสตาร์ท หรือเคลื่อนที่
– Pay As You Drive ประกัน “ขับน้อย จ่ายน้อย” ข้อเสนอการคุ้มครองสุดพิเศษให้คุณจ่ายตามการใช้งานจริง
*สำหรับการทำประกันภัยกับบริษัทฯ ที่กำหนดไว้เท่านั้น
– My Toyota Wi-Fi เชื่อมต่อความบันเทิงพร้อมกันสูงสุด 9 อุปกรณ์ *ตามเงื่อนไขที่กำหนดในแพ็กเกจ
– Navigator ระบบนำทางพร้อมแสดงข้อมูลจราจร
– OPS (Operator Service) ผู้ช่วยค้นหาเส้นทางตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมบริการจองร้านค้าชั้นนำ

Toyota-Vellfire-2018

โตโยต้า อัลฟาร์ด และ เวลไฟร์ กับสีรถที่มีให้เลือก

Steel Bronze Metallic (ใหม่) / White Pearl Crystal / Burning Black ในเวลไฟร์

และ White Pearl Crystal / Luxury White Pearl Crystal / Black ในอัลฟาร์ด

ราคา / Price

Vellfire 2.5 ราคา 3,809,000 บาท
Alphard 2.5 Hybrid ราคา 3,939,000 บาท
Alphard 3.5 VIP ราคา 5,429,000 บาท

**ราคาดังกล่าวเป็นราคารถยนต์พร้อมอุปกรณ์มาตรฐานที่ผลิตจากโรงงาน และชุดอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ พร้อมค่าติดตั้งโดยบริษัท TAC จำกัด*

(*เวลไฟร์ 2.5 และ อัลฟาร์ด 2.5 ไฮบริด มูลค่า 62,000 บาท // อัลฟาร์ด 3.5 VIP มูลค่า 47,000 บาท)

Toyota-Vellfire

ได้เวลาปรับโฉม เพิ่มเติมความสดใหม่ ทั้ง Alphard และ Vellfire

Toyota Alphard (โตโยต้า อัลพาร์ด) เป็นรถตู้ขนาดใหญ่และหรูหรา ซึ่งออกมาตั้งแต่ปี 2002 และได้รับความนิยมอย่างสูงทั้งในญี่ปุ่นและในไทย โฉมปัจจุบันเปิดตัวในปี 2015 เป็นเจนเนอเรชั่นที่ 3 ส่วน Toyota Vellfire (โตโยต้า เวลไฟร์) ออกแบบให้มีภาพลักษณ์สปอร์ตกว่า โดยจำหน่ายมาตั้งแต่ปี 2015 เช่นกัน ซึ่งก็ถึงเวลาปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ต้อนรับปี 2018 นี้ มีรูปลักษณ์แตกต่างจากเดิมพอสมควร

Alphard-Timeline Vellfire-Timeline

วิวัฒนาการ จากรุ่นสู่รุ่น

จาก Clip VDO แสดงให้เห็นถึง Alphard และ Vellfire ไมเนอร์เชนจ์ มีการเปลี่ยนแปลงทั้งชุดไฟหน้าแบบ LED ดีไซน์ใหม่ รับกับกระจังหน้าที่ใหญ่และหนาขึ้นกว่าเดิม กันชนหน้าใหม่ ชุดไฟท้ายใหม่ และกันชนท้ายที่ปรับรูปแบบจากเดิมนิดหน่อย ดูหรูหรามากยิ่งขึ้น

Toyota-Alphard Toyota-Alphard Toyota-Alphard

ห้องโดยสารภายในของรุ่น Alphard มีให้เลือกทั้งแบบ 7 ที่นั่ง และ 8 ที่นั่ง ติดตั้งเบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง Nappa, หลังคาซันรูฟคู่ เปิด-ปิดได้ทั้งด้านหน้าและหลัง, สามารถเลือกติดตั้งเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสได้ทั้งขนาด 7 นิ้ว, 9 นิ้ว และ 10.5 นิ้ว พร้อมออพชั่นต่างๆ อีกเพียบ

Toyota-Vellfire Toyota-Vellfire Toyota-Vellfire

ขุมพลัง มีให้เลือกทั้งเบนซินและไฮบริด 3 แบบ ประกอบด้วย

– เครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.5 ลิตร รหัส 2AR-FE ให้แรงม้าสูงสุด 182 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 235 นิวตัน-เมตร ที่ 4,100 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i

– เครื่องยนต์เบนซินขนาด 3.5 ลิตร รหัส 2GR-FKS ให้แรงม้าสูงสุด 301 แรงม้า ที่ 6,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 361 นิวตัน-เมตร ที่ 4,600-4,700 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ Direct Shift 8 สปีด

– เครื่องยนต์เบนซินไฮบริดขนาด 2.5 ลิตร รหัส 2AR-FXE ให้แรงม้าสูงสุด 152 แรงม้า ที่ 5,700 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 206 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400-4,800 รอบ/นาที ทำงานคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าด้านหน้า ให้แรงม้าสูงสุด 143 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 270 นิวตัน-เมตร และมอเตอร์ด้านหลัง ให้แรงม้าสูงสุด 68 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 139 นิวตัน-เมตร

Toyota-Alphard

ส่วน Alphard และ Vellfire เวอร์ชั่นไทย คาดว่าจะเปิดตัวในไทยต้นปีหน้านี้ครับ