Carro-Top-5-Best-Car-Sales-In-Carro-Express

หลายท่านที่ในเวลานี้ ประสบกับภาวะงานหายาก เงินหายาก จนรู้สึกว่าชักหน้าไม่ถึงหลัง แต่มีความจำเป็นต้องการใช้เงินด่วน เช่น ลูกเข้าโรงเรียน แต่งงาน หรือต้องการจะซื้อรถคันใหม่ “การขายรถ” ก็เป็นอีกทางเลือกที่ดี ซึ่งทาง CARRO ที่เป็นสตาร์ทอัพจากสิงคโปร์ ได้คิดค้นระบบขายรถด่วนอย่าง “CARRO Express” ออกมาเพื่อให้คุณ ขายรถได้อย่างสะดวกสบาย และง่ายดาย

ไม่ว่าคุณจะอยู่จังหวัดไหนในประเทศไทย คุณก็สามารถฝากขายรถยนต์มือสองได้ที่ CARRO Express ด้วยวิธีง่ายนิดเดียว เพียงโทร. 02-5088425 แค่เข้าไปกรอกรายละเอียดที่ Link – https://th.carro.co/sell-car/express กรอกข้อมูลและรายละเอียดรถของคุณให้ครบ พร้อมทั้งอัพโหลดรูปภาพเข้าไป เมื่อเสร็จแล้ว ก็รอเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับไปเพื่อนัดวันตรวจสภาพรถยนต์และประเมินราคา ซึ่งถ้ารถของคุณสามารถตกลงราคากันได้ ก็พร้อมปิดการขายภายใน 24 ชั่วโมง และรับเงินกลับบ้านได้เลย!

โดยรถยนต์ส่วนใหญ่ของ CARRO นั้น รถที่ทางลูกค้านำมาขายจะเป็นรถในแบบ Eco-Car และรถกระบะ และรถประเภทอื่นๆ อาทิเช่น รถ Compact Car, รถ SUV หรือรถแบบ MPV เป็นต้น

Mr.Carro จะมาเล่าให้ฟังว่า เดือนตุลาคมที่ผ่านมา มีรถรุ่นไหนบ้าง ที่นิยมนำมาขายกับทาง CARRO ของเรา

1. Toyota Vios

Toyota-Vios-Carro-Express

สำหรับ Toyota Vios (โตโยต้า วีออส) ยังจัดได้ว่าเป็นรถ Sub-Compact ยอดนิยมตลอดมาจากการวัดของ CARRO Express ซึ่งเป็นรถยอดนิยมของเด็กมหาวิทยาลัย กลุ่มคนทำงานใหม่ๆ ข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ รวมไปถึงผู้สูงอายุก็มีใช้บ้าง โดย Vios รุ่นที่มาขายส่วนใหญ่จะเป็นรถช่วงประมาณปี 2014 – 2017 โดยมียอดรับซื้อเป็นอันดับหนึ่ง

2. Isuzu D-Max

Isuzu-D-Max-Carro-Express

รถกระบะยอดนิยมอันดับ 1 อย่าง Isuzu D-Max (อีซูซุ ดีแมคซ์) ที่ประหยัดน้ำมัน ทนทาน ให้การใช้งานที่คุ้มค่า สำหรับคนทำมาหากิน ยังคงเป็นรถกระบะที่ซื้อง่ายขายคล่อง ซึ่งทาง CARRO Express มียอดรับซื้อมากเป็นอันดับสอง โดยส่วนมากแล้วต่างจังหวัด จะนิยมใช้กันอย่างมาก โดยรุ่นที่รับซื้อจะมีกันตั้งแต่ปี 2011 ไปจนถึงประมาณปี 2017

3. Toyota Hilux Vigo

Toyota-Hilux-Vigo-Carro-Express

นี่ก็จัดเป็นรถกระบะยอดนิยมมากๆ อีกหนึ่งรุ่นเช่นกัน นั่นคือ Toyota Hilux Vigo (โตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้) ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในต่างจังหวัด บรรดาเกษตรกร ผู้ประกอบการต่างๆ นิยมใช้เพราะซื้อง่ายขายคล่อง ทนทาน อะไหล่หาง่าย และราคามือสองที่ตกลงมาพอประมาณแล้ว ทำให้ผู้ที่มีงบประมาณจำกัด สามารถหาซื้อมาใช้งานได้ และรุ่นนี้ยังมีให้เลือกหลายแบบ ทั้งเครื่องยนต์ดีเซล และเครื่องยนต์เบนซิน

4. Honda City

Honda-City-Carro-Express

รถเก๋งยอดนิยมอันดับที่สี่ ของการรับซื้อใน CARRO Express นั่นคือ Honda City (ฮอนด้า ซิตี้) จัดเป็นรถที่นิยมอย่างมากสำหรับเด็กมหาวิทยาลัย เด็กจบใหม่ หรือผู้คนในวัยทำงาน เป็นรถที่ทนทาน อะไหล่มีพร้อม ศูนย์บริการหาง่าย และซื้อง่ายขายคล่อง ซึ่งผู้ขายรุ่นนี้กับทาง CARRO ส่วนใหญ่จะอยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล

5. Honda Jazz

Honda-Jazz-Carro-Express

รถแฮทช์แบค 5 ประตู ยอดนิยมของการรับซื้อที่ CARRO Express เป็นอันดับห้า สำหรับ Honda Jazz (ฮอนด้า แจ๊ซ) ก็นับว่าเป็นรถที่ซื้อง่ายขายคล่อง และเป็นที่นิยมของเหล่าวัยรุ่น นักศึกษา รวมไปถึงคนทำงานออฟฟิศ ซึ่งผู้ขายรุ่นนี้กับทาง CARRO ส่วนใหญ่จะอยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลเช่นกัน

สำหรับท่านใดที่ใช้รถ 5 รุ่นดังกล่าวนี้ โอกาสที่จะขายง่าย ขายคล่อง ได้ราคาดี และขายออกได้ไว มีแน่นอนครับ ที่ CARRO Express!

New-Car-In-Motor-Expo-2019

“มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 36” หรือ The 36th Thailand International Motor Expo 2019 ภายใต้แนวคิด “โลดแล่นทันใด ทะยานไปด้วยกัน” หรือ “Ride and Drive Together Now” พร้อมนำรถรุ่นใหม่ ทั้งที่เปิดตัวในปีนี้ รวมทั้งรุ่นยอดนิยม มาจัดแสดงส่งท้ายปีอย่างยิ่งใหญ่ โดยงานมอเตอร์เอ็กซ์โป ปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2562 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ 1-3 เมืองทองธานี

ไหนๆ จะไปดู ไปซื้อรถใหม่ที่งาน Motor Expo 2019 กันแล้ว ถ้าคุณอยากขายรถคันเดิม หรือรับเป็นเงินก้อนไปใช้ สามารถขายรถคันเดิมกับ Carro ได้ เราพร้อมรับซื้อรถของคุณ ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ Carro Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน Fanpage Carro Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

หากท่านใดที่อยากได้บัตรเข้างาน Motor Expo 2019 ฟรี! ง่ายๆ ดูรายละเอียดการขอบัตรได้ในนี้เลย —> https://th.carro.co/blog/carro-ticket-motor-expo/

Carro ขอนำเสนอรถยนต์ใหม่ๆ ที่เตรียมเปิดตัวก่อนและในงาน Motor Expo 2019 กันตั้งแต่ในเดือนตุลาคม จนถึงเดือนพฤศจิกายน บริษัทรถยนต์หลายแบรนด์ ได้เปิดตัวรถรุ่นใหม่ ไปแล้วหลายค่าย Carro ขอแนะนำให้ทุกท่านได้ทราบข้อมูลและรายละเอียดต่างๆ ครับผม …

1. Toyota Yaris Cross

Toyota-Yaris-Cross-2020

Toyota (โตโยต้า) เผยโฉม Toyota Yaris Cross (โตโยต้า ยาริส ครอส) ได้ฤกษ์เปิดตัว “รุ่นปรับปรุงใหม่” และ “ชุดแต่งพิเศษ Yaris Cross” มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร รหัส 3NR-FKE แบบ Dual VVT-iE 92 แรงม้า แรง ประหยัดน้ำมัน รองรับแก๊สโซฮอล์ E20 และผ่านมาตรฐาน EURO 5 ประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมถึง 23.3 กม./ลิตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i พร้อม Shift Lock และฟังก์ชัน S Mode

โดยมีทางเลือกทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่ High, Mid และ Entry พร้อมแนะนำ ชุดแต่งพิเศษ Yaris Cross ครั้งแรกกับรถสไตล์ Crossover ในกลุ่มอีโคคาร์ (ราคาพิเศษ 35,000 บาท สามารถติดตั้งได้กับ Yaris รุ่น High และรุ่น Mid (สินค้ามีจำนวนจำกัด)

ด้วยดีไซน์ที่แตกต่าง กับชุดอุปกรณ์ตกแต่งรอบคัน สเกิร์ตหน้า, สเกิร์ตข้าง (ซ้าย-ขวา), สเกิร์ตท้าย, ชุดตกแต่งขอบประตูรถ หลังคาเคลือบฟิล์มดำ Matt Black, ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 16 นิ้ว พร้อมคิ้วซุ้มล้อและสัญลักษณ์ Cross ด้านท้ายรถ นอกจากนี้ยังได้รับการปรับแต่งชุดสปริงและโช้คยกสูง 30 มม.

และยังมีระบบ ABS, EBD, BA, VSC, TRC และ HAC พร้อมถุงลมนิรภัย SRS 7 ตำแหน่ง และกล้องบันทึกภาพหน้า-หลัง แม้ขณะดับเครื่องยนต์ เซ็นเซอร์สามารถตรวจจับแรงสั่นสะเทือน และบันทึกภาพกรณีพบสิ่งผิดปกติ ในราคา 539,000 – 649,000 บาท

2. Toyota Yaris ATIV

Toyota-Yaris-ATIV-2020

Toyota Yaris ATIV (โตโยต้า ยาริส เอทีฟ) เปิดตัว “รุ่นปรับปรุงใหม่” และ “ชุดแต่งพิเศษ ATIV GT” มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร รหัส 3NR-FKE แบบ Dual VVT-iE 92 แรงม้า แรง ประหยัดน้ำมัน รองรับแก๊สโซฮอล์ E20 และผ่านมาตรฐาน EURO 5 ประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมถึง 23.3 กม./ลิตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i พร้อม Shift Lock และฟังก์ชัน S Mode

โดยมีทางเลือกทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่ High, Mid และ Entry พร้อมแนะนำ ชุดแต่งพิเศษ ATIV GT (ราคาพิเศษ 7,000 บาท สามารถติดตั้งได้กับ ATIV ทุกรุ่นและทุกสี (พิเศษ! มีจำนวนจำกัด)) ด้วยชุดอุปกรณ์ตกแต่ง สเกิร์ตกันชนหน้า, สเกิร์ตข้าง (ซ้าย-ขวา), สเกิร์ตกันชนหลัง และสปอยเลอร์หลัง และเพิ่มระบบตัดการทำงานของเครื่องยนต์อัตโนมัติ (Stop & Start System)

กับระบบ ABS, EBD, BA, VSC, TRC และ HAC พร้อมถุงลมนิรภัย SRS 7 ตำแหน่ง และกล้องบันทึกภาพหน้า-หลัง แม้ขณะดับเครื่องยนต์ เซ็นเซอร์สามารถตรวจจับแรงสั่นสะเทือน และบันทึกภาพกรณีพบสิ่งผิดปกติ ในราคา 529,000 – 649,000 บาท

3. Toyota Hilux Revo Rocco

Toyota-Hilux-Revo-ตูน-บอดี้สแลม

Toyota Hilux Revo (โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่) โฉมปี 2020 พร้อมจ้าง “พี่ตูน บอดี้สแลม” อาทิวราห์ คงมาลัย มาเป็นพรีเซนเตอร์ใหม่ ภายใต้คอนเซปต์ Over The Limit…ทลายทุกขีดจำกัด

โดยทาง Toyota ยังได้ร่วมมือกับบริษัท อีซียู ช็อป1 จำกัด ติดตั้งกล่องเพิ่มสมรรถนะเครื่องยนต์ รุ่น Ultra Boost สำหรับรถกระบะไฮลักซ์ รีโว่ เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.4 ลิตร และ 2.8 ลิตร GD Efficient Boost โดยกล่องเพิ่มสมรรถนะเครื่องยนต์ รุ่น Ultra Boost จะทำงานร่วมกับ ECU หลักของเครื่องยนต์ ช่วยเพิ่มแรงม้าสูงสุดถึง 204 แรงม้า และเพิ่มแรงบิดสูงสุด 518 นิวตัน-เมตร เพื่อการออกตัวและเร่งแซงที่ไวมากยิ่งขึ้น

และแพ็คเกจชุดแต่งพิเศษสำหรับ ไฮลักซ์ รีโว่ รุ่นดับเบิ้ลแค็บ และรุ่นสมาร์ทแค็บ ทั้งแบบยกสูง Prerunner และขับเคลื่อนสี่ล้อ รวมไปถึงรุ่น Z Edition เพิ่มความโฉบเฉี่ยวด้วยกระจังหน้า และกรอบไฟตัดหมอกหน้าดีไซน์ใหม่ กับสปอยเลอร์รอบคัน

4. Toyota GR Supra

Toyota-GR-Supra

การกลับมาใหม่ของ Toyota GR Supra (โตโยต้า จีอาร์ ซูปร้า) ที่แฟนๆ Supra ในทั่วโลกก็มีทั้งเสียงตอบรับที่ดี และเสียงตอบรับที่ดูตกใจกับการเปลี่ยนไปของรถสปอร์ตระดับตำนานของโตโยต้ารุ่นนี้ โดยมันคือฝาแฝดของ BMW Z4 นั่นเอง! ส่วนภายในได้แรงบันดาลใจในการออกแบบมาจาก FT-1 Concept

ในบ้านเรานำเข้ามาโชว์ตัวเป็นๆ ให้เห็นกันเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ในที่สุด วันที่ 26 พฤศจิกายนนี้ Toyota ก็เตรียมเปิดตัวจำหน่ายอย่างเป็นทางการซะที ในราคาหลักหลายล้านบาทเลยทีเดียว!

GR Supra นี้ ใช้เครื่องยนต์จาก BMW ขนาด 3.0 ลิตร แบบ 6 สูบแถวเรียง Turbo 340 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด พร้อม Paddle Shifts สามารถทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 4.1 วินาที ถือว่าเป็นรถยนต์ที่เร็วที่สุด ที่ Toyota เคยผลิตมา ส่วนความเร็วสูงสุด จำกัดไว้ที่ 250 กม./ชม. ในราคาประมาณ 5 บ้านบาท (ซึ่งมีคนรับมอบเป็นเจ้าของรถแล้ว อย่างน้อย 5 คน)

5. Honda City

All-New-Honda-City-RS-2020

เป็นไปตามคาด สำหรับ Honda City (ฮอนด้า ซิตี้) ใหม่ล่าสุด เปิดตัวครั้งแรกในโลกที่ไทย วันที่ 25 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา และโชว์ตัวในงาน Motor Expo 2019 นับเป็นครั้งแรกของ City กับการกระโดดลงมาเล่นในตลาดรถ Eco-Car นั่นเอง

ในส่วนของเครื่องยนต์ ปลี่ยนใหม่หมดกับเครื่องยนต์ขนาด 1.0 ลิตร แบบ 3 สูบ DOHC VTEC 12 วาล์ว Turbo Dual VTC ให้แรงม้าสูงสุด 122 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 173 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อม Paddle Shift 7 สปีด และเครื่องยนต์รองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 ในราคา 579,500 – 739,000 บาท

6. Nissan Almera

All-New-Nissan-Almera-2020

Nissan (นิสสัน) เผยโฉม Nissan Almera (นิสสัน อัลเมร่า) เปิดตัวในไทยเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย เตรียมโชว์ในงาน Motor Expo 2019 ออกแบบภายใต้ปรัชญา “รูปทรงเรขาคณิตที่สื่อถึงอารมณ์ หรือ Emotional Geometry” มีองค์ประกอบที่โดดเด่น และเป็นเอกลักษณ์ ส่วนภายในออกแบบใหม่หมด ซึ่งกว้างขวางมากๆ เหมือนเดิม

ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.0 ลิตร Turbo รหัส HRA0 ให้แรงม้าสูงสุด 100 แรงม้า ให้อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงสูงสุดถึง 23.3 กม./ลิตร และให้อัตราเร่งความเร็วสูงจากแรงบิดแบบต่อเนื่อง (Flat Torque) ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ Xtronic CVT พร้อม D-Step Logic

และยังโดดเด่นด้วยเทคโนโลยี Nissan Intelligent Mobility เป็นจุดเด่นด้านความปลอดภัยของ Nissan ด้วย ในราคา 499,000 – 639,000 บาท

7. Mazda CX-8

All-New-Mazda-CX-8-2019

Mazda เผยโฉม Mazda CX-8 (มาสด้า ซีเอ็กซ์-8) ครอสโอเวอร์อเนกประสงค์ SUV ระดับ Premium แบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง และ 6 ที่นั่ง ถือเป็น Crossover SUV ที่สะท้อนภาพลักษณ์ความภูมิฐาน สง่างาม และความสมบูรณ์แบบ ตัวรถยาวขึ้น นั่งสบายทุกที่นั่ง ภายใต้ปรัชญา KODO design : Soul of Motion ที่เน้นความเรียบง่ายแต่งดงามจากคอนเซ็ปต์ “Less is More”

ให้การตอบสนองดีเยี่ยมด้วยขุมพลังของ 2 เครื่องยนต์ สกายแอคทีฟคลีนดีเซล 2.2 ลิตร 190 แรงม้า ปรับปรุงพัฒนาใหม่ โดยในรุ่นดีเซล XDL Exclusive 6 ที่นั่ง มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ อัตโนมัติ i-ACTIV AWD และประหยัดน้ำมันสูงถึง 17.5 กม./ลิตร และเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 2.5 ลิตร 194 แรงม้า ประหยัดน้ำมันสูงถึง 13.5 กม./ลิตร

พร้อมส่งมอบความคุ้มค่าด้วยการรับประกันคุณภาพและฟรีค่าแรงนาน 5 ปี ในราคา 1,599,000 – 2,069,000 บาท

8. Mitsubishi Mirage / Attarge

New-Mitsubishi-Mirage-2020

New-Mitsubishi-Attrage-2020

Mitsubishi (มิตซูบิชิ) เผยโฉม “Mitsubishi Mirage” (มิตซูบิชิ มิราจ) และ “Mitsubishi Attrage” (มิตซูบิชิ แอททราจ) ใหม่ ด้วยแนวคิด “พลังจากข้างใน ไปให้สุด” พร้อมดีไซน์ Advanced ‘Dynamic Shield’ อันโฉบเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ ฝากระโปรงหน้าดีไซน์ใหม่ กระจังหน้าตกแต่งด้วยเส้นสีแดง กันชนใหม่ ไฟหน้าแบบ Bi-LED พร้อมไฟ Daytime Running Light ชุดไฟตัดหมอกแบบใหม่ ไฟท้ายแบบ LED และ ล้ออัลลอยใหม่ขนาด 15 นิ้ว ทั้งนี้ Mirage ใหม่ ยังมาพร้อมกับสปอยเลอร์หลังดีไซน์สปอร์ต

ภายในห้องโดยสารยกระดับใหม่ ทั้งจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ High Contrast ตกแต่งด้วยลายคาร์บอนดีไซน์ใหม่ เบาะนั่งวัสดุหนังสังเคราะห์ดีไซน์ใหม่ สำหรับ มิตซูบิชิ แอททราจ ใหม่ และ เบาะนั่งวัสดุหนังสังเคราะห์และผ้าดีไซน์ใหม่ ส่วน มิตซูบิชิ มิราจ มีแผงควบคุมเปิด-ปิดกระจกข้างตกแต่งด้วยลายคาร์บอนดีไซน์ใหม่ พร้อมวัสดุบุนุ่มบริเวณแผงประตู

และทั้ง 2 รุ่น สามารถเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนเข้ากับหน้าจอระบบสัมผัส Smartphone – Link Display Audio (SDA) ขนาด 7 นิ้ว รองรับแอปเปิล คาร์เพลย์ และระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และการเชื่อมต่อบลูทูธ

สำหรับ Mitsubishi Mirage ราคาอยูที่ 474,000 – 619,000 บาท และ

สำหรับ Mitsubishi Attrage ราคาอยูที่ 494,000 – 624,000 บาท

9. Mitsubishi Triton Athlete

 New-Mitsubishi-Triton-Athlete-2020

Mitsubishi Triton Athlete (มิตซูบิชิ ไทรทัน แอทลีท) ใหม่ “เหนือชั้น สายพันธุ์สปอร์ต” ยกระดับสู่ความสปอร์ตเต็มขั้นโดยพัฒนาจากรุ่นสูงสุดของกระบะ มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ ด้วยชุดตกแต่งกันชนหน้าสีดำแบบสปอร์ต หลังคาสีดำพร้อมล้ออัลลอยสีดำขนาด 18 นิ้ว ด้านหลังดีไซน์มือเปิดกระบะท้าย และกันชนหลังสีดำ พร้อมสัญลักษณ์ ‘Athlete’ บนฝากระบะท้าย พร้อมชุดปูพื้นกระบะ แกร่งขึ้นด้วยกรอบกระจกมองข้างและสไตล์ลิ่งบาร์สีดำ พร้อมบันไดข้าง รวมถึงสัญลักษณ์ ‘Athlete’ บนแถบกราฟฟิกข้างตัวรถ

ภายในห้องโดยสารตกแต่งพิเศษด้วยเบาะหุ้มหนังสังเคราะห์ทูโทนสีดำสลับสีส้ม พร้อมสัญลักษณ์ ‘Athlete’ เดินด้ายสีส้มที่หัวเกียร์ แผงประตู และเบรกมือ วัสดุบุนุ่มกันกระแทกบริเวณหัวเข่า และฝากล่องเก็บของคอนโซลกลางตกแต่งด้วยสีส้ม พร้อมพรมห้องโดยสารปักสัญลักษณ์ ‘Athlete’ สีส้ม ในราคา 1,035,000 – 1,146,000 บาท

10. Isuzu D-Max

All-New-Isuzu-D-Max-2019

Isuzu (อีซูซุ) เปิดตัว All-New Isuzu D-Max (ออลนิว อีซูซุดีแมคซ์) พลานุภาพ…พลิกโลก! “Infinite Potential” “ยนตรกรรมที่เหนือกว่าคำว่าปิกอัพ” ภายใต้แนวคิด BOLD, EMOTIONAL and SMART ดีไซน์ใหม่หมดทุกมิติ ทั้งภายนอกภายใน แรงสะใจกับขุมพลังเครื่องยนต์ใหม่ แพลตฟอร์มใหม่ ระบบความปลอดภัยใหม่เต็มรูปแบบ เทคโนโลยีใหม่ในทุกฟังก์ชั่น

ผ่านการพัฒนาโดยการทดสอบในอุโมงค์ลม Japan Railway Research Institute หรือ JR ซึ่งเป็นสถานที่ทดสอบรถไฟหัวกระสุนของประเทศญี่ปุ่น “ออลนิว อีซูซุดีแมคซ์” จึงเป็นรถที่ประหยัดน้ำมันยอดเยี่ยม และมีห้องโดยสารที่เงียบขึ้นอีกด้วย

มาพร้อมเครื่องยนต์อีซูซุ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ รุ่น 4JJ3-TCX  190 แรงม้า และเครื่องยนต์อีซูซุ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ Gen 2 รุ่น RZ4E-TC ที่ได้รับการพัฒนาไปอีกขั้น 150 แรงม้า ในราคา 510,000 – 1,164,000 บาท

11. Ford Ranger FX4

Ford-Ranger-FX4

Ford (ฟอร์ด) เปิดตัว Ford Ranger FX4 (ฟอร์ด เรนเจอร์ FX4) ใหม่ มาพร้อมรูปลักษณ์ดุดัน และอุปกรณ์เทคโนโลยีอันทันสมัย ยกระดับมาตรฐานกระบะพันธุ์แกร่งให้เหนือชั้นยิ่งขึ้น ด้วยกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ ชุดล้ออัลลอยด์สีดำ ขนาด 18 นิ้ว กันชนหลังสีดำ และสปอร์ตบาร์สีดำดีไซน์ใหม่

ภายในห้องโดยสาร ตกแต่งโทนสีดำเงา เดินด้ายสีแดงตั้งแต่แผงคอนโซล เกียร์ ที่วางแขน ขอบประตู และเบาะนั่ง พร้อมประดับสัญลักษณ์ FX4 ที่พรมและเบาะนั่งคู่หน้า นำเสนอระบบความบันเทิง SYNC ใหม่ ที่มาพร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับภาษาไทย การใช้งานผ่าน Apple Car Play และ Android Auto รองรับไฟล์ VDO รวมถึงระบบช่วยเหลือฉุกเฉิน ในราคา 919,000 บาท

12. Ford Everest Sport

Ford-Everest-Sport

Ford Everest Sport (ฟอร์ด เอเวอเรสต์ สปอร์ต) รุ่นพิเศษ ออกแบบใหม่ด้วยอุปกรณ์ตกแต่งสีดำเงา ทั้งกระจังหน้า กระจกมองข้าง และราวหลังคา ประดับสัญลักษณ์รุ่นสปอร์ตทั้งด้านข้างและด้านหลัง กันชนหลังสีดำ พร้อมล้ออัลลอยด์สีดำขนาด 20 นิ้ว หรูหรา โดดเด่นด้วยตัวอักษรนูน ‘Everest’ บนกระโปรงหน้ารถ

ภายในของฟอร์ด เอเวอเรสต์ เพิ่มลูกเล่นและความโฉบเฉี่ยว ด้วยโทนสีดำน้ำเงิน ตั้งแต่แผงคอนโซล ที่วางแขน และเบาะที่นั่ง พร้อมสลักลายคำว่า Sport บนเบาะนั่งคู่หน้า พร้อมตกแต่งลวดลาย Hydrographic เคลือบ 2 ชั้น บนวัสดุที่ทันสมัย บนคอนโซลหน้าและที่เปิดประตู ระบบความบันเทิง SYNC 3 สั่งงานด้วยเสียง รองรับภาษาไทย พร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว ที่มาพร้อมกับระบบช่วยโทรฉุกเฉินและกล้องมองหลังขณะถอดจอด ระบบปรับอากาศเป็นแบบอัตโนมัติแยกอิสระซ้ายขวา ระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอบหลังแบบปรับอุณหภูมิแยกได้ ในราคา 1,469,000 บาท

13. Porsche Cayenne Coupe

Porsche-Cayenne-Coupe

Porsche Cayenne Coupe (ปอร์เช่ คาเยนน์ คูเป้) รถสปอร์ตอเนกประสงค์รุ่นล่าสุดจากปอร์เช่ ที่มาพร้อมความโฉบเฉี่ยว สะกดทุกสายตาด้วยแนวหลังคาที่ลาดลงมาจรดท้ายรถ สะดวกสบายทุกการเดินทางด้วยเบาะที่นั่งแบบสปอร์ต 4 ที่นั่ง

สปอร์ตเต็มพิกัดด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ Turbo ขนาด 3.0 ลิตร 340 แรงม้า ทำความเร็วได้สูงสุด 243 กม./ชม. ติดตั้งอุปกรณ์มาตราฐาน ระบบความบันเทิงและการติดต่อสื่อสาร Porsche Communication Management รุ่นล่าสุด พร้อมระบบ Apple CarPlay และ ระบบเครื่องเสียง BOSE Surround Sound System โดย Cayenne Coupe ใหม่ ราคาเริ่มต้นที่ 8.6 ล้านบาท และ Cayenne e-Hybrid Coupe ราคาเริ่มต้นที่ 6.5 ล้านบาท

รถรุ่นที่เปิดตัวก่อนหน้า สามารถดูได้ใน Link ด้านล่างนี้

6-Warning-Signs-Of-Brake-Problems

ระบบเบรกของรถยนต์ นี่ถือว่าสำคัญมากในการขับขี่ที่ไม่สามารถปล่อยละเลยไปได้เลยนะครับ หากเกิดความผิดปกติเพียงเล็กน้อย จะได้ทราบว่าตอนนี้เบรกของคุณกำลังมีปัญหา

เคยไหม ที่ต้องเหยียบเบรกหลายครั้ง รถของคุณถึงจะหยุด หรือมักมีเสียงอี๊ด เอี๊ยด เวลาเบรก บางคนคิดอาจคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย เลยไม่ให้ความสนใจ แต่ที่จริงแล้ว นั่นเป็นสัญญาณเตือนว่าเบรกของรถเรากำลังมีปัญหา ซึ่งต้องได้รับการแก้ไขก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น โดยที่สัญญาณเตือนนั้นมีหลายรูปแบบด้วยกัน คือ

1. ไฟเตือนเบรก

อันดับแรกเมื่อ ระบบเบรกมีปัญหา ไฟเตือนเบรกก็จะแสดงสัญญาณเตือนให้รับรู้ และต้องทำการตรวจเช็คโดยด่วน ห้ามมองข้ามโดยเด็ดขาด

2. น้ำมันเบรกรั่ว

สามารถตรวจสอบได้จากระดับของกระปุกน้ำมันเบรก ซึ่งต้องเต็มอยู่เสมอ หากพร่องให้เติมจนถึงระดับที่กำหนด เมื่อเกิดเหตุการณ์การรั่วไหลของสายเบรก จะทำให้น้ำมันเบรกลดลงอย่างรวดเร็วและมักมีน้ำมันไหลซึมบริเวณใกล้ล้อรถเมื่อจอด หรือมีน้ำมันไหลหยดใกล้แป้นเบรกขณะเหยียบเบรก ซึ่งเบรกจะไม่ทำงานหากไม่มีน้ำมันเบรก

3. เกิดเสียงขณะเหยียบเบรก

เสียงที่เกิดเมื่อเหยียบเบรก มักมีสองลักษณะด้วยกัน คือ

เสียงเอี๊ยดๆ เกิดจากการเสียดสีของจานเบรกกับผ้าเบรก ที่อาจเสื่อมสภาพแล้วทำให้เกิดเสียง และเบรกไม่ค่อยอยู่ หากไม่แก้ไขเสียงจะดังขึ้นเรื่อยๆ

เสียงครืดๆ เกิดจากคราบฝุ่นสกปรก หรือเศษหินเล็กๆเข้าไปอยู่ระหว่างผ้าเบรกและจานเบรก เมื่อเสียดสีกันจึงเกิดเสียงขึ้น แต่ถ้ามีเสียงหลังจากขับลุยน้ำมา อาจเกิดจากผ้าเบรกเปียก ขับไปสักพัก เมื่อผ้าเบรกแห้งเสียงจะหายไปเอง

4. พวงมาลัยสั่น

เมื่อเหยียบเบรกแล้วแป้นสั่นขึ้นมาจนถึงพวงมาลัย อาจเกิดจากแผ่นโรเตอร์บิดเบี้ยวทำให้เกิดการสั่นขึ้น หากไม่อยากหมดเงินในกระเป๋า ถ้ามีอาการแบบนี้ควรรีบให้ช่างตรวจเช็คทันที เพราะไม่อย่างนั้นอาจต้องเปลี่ยนอะไหล่เบรกหลายตัว

5. กลิ่นไหม้

อาการนี้มักเกิดกับเกียร์ออโต้ หรือผู้ขับขี่ที่เวลาขับรถขึ้นลงเขาชอบเหยียบแช่เบรก ทำให้เบรกติดและไหม้ตามมาในที่สุด อาการนำคือกลิ่นเหม็นไหม้ หรือหนักกว่านั้น ก็จะมีควันออกตรงกระโปรงรถให้ตื่นเต้นด้วย เพราะฉะนั้น ต้องระวังการเหยียบเบรกแช่ขณะขับรถให้ดี

6. เบรกไม่ค่อยอยู่

ไม่ว่าจะเป็นเบรกต่ำ คือ เบรกแล้วจมมากกว่าปกติ หรือเบรกตื้อ ที่ใช้แรงในการเหยียบเบรกมากกว่าปกติก็ตาม ซึ่งอาจเกิดจากลูกยางแม่ปั้มเบรก หม้อลม ลูกสูบ ฯลฯ ล้วนเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าระบบเบรกของคุณ กำลังมีปัญหาต้องพบช่างเพื่อแก้ไขโดยด่วน

อาการเหล่านี้ที่เกิดขึ้น จะทำให้คุณสังเกตถึงความผิดปกติของระบบเบรกได้ง่ายขึ้น แต่หากตรวจสอบแล้วพบเจอ ต้องรีบแก้ไขโดยทันที อย่าละเลย นอกเหนือจากนี้ต้องคอยตรวจสอบ และเช็คสภาพรถยนต์ตามระยะเวลาที่กำหนดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่

หากคุณต้องการขายรถด่วน CARRO ช่วยได้ขายให้ภายใน 24 ชั่วโมง และได้ราคาดี และหากต้องต้องหารรถยนต์ใหม่ ป้ายแดง โปรแรงๆ สามารถดูโปรโมชั่นได้ที่ https://www.siamcardeal.com/ หรือสามารถ Inbox สอบถามโปรโมชั่นรถใหม่และข่าวสารได้ที่ Facebook Siamcardeal

หรือ Add Line เพื่อรับโปรโมชั่นต่างๆ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม @siamcardeal
inbox : http://m.me/siamcardeal
line : https://line.me/R/ti/p/@siamcardeal

How-To-Use-Carro-Wholesale-Application

สวัสดีครับ หากท่านตอนนี้กำลังทำธุรกิจเกี่ยวกับผู้ประกอบการรถมือสอง (หรือจะเรียกว่าเต็นท์รถมือสอง หรือรถใช้แล้ว ก็ได้เหมือนกัน) แล้วมีความประสงค์ที่จะมาเป็นดีลเลอร์ใหม่ กับทาง คาร์โร (ประเทศไทย) ซึ่งทาง CARRO ก็พร้อมให้การต้อนรับท่านด้วยความยินดียิ่งครับ ไม่ว่าท่านจะมีสาขาอยู่ในกรุงเทพฯ หรือในต่างจังหวัดก็ตาม

แต่คุณอาจจะสงสัยว่า ระบบการซื้อรถกับทาง CARRO นั้น มีขั้นตอนที่ยุ่งยากหรือไม่? วิธีการใช้งานนั้น จะต้องทำอย่างไร? ง่ายๆ เลย เพียงแค่คุณ “ดาวน์โหลด” คู่มือวิธีการใช้ App CARRO Wholesale สำหรับดีลเลอร์ใหม่ที่สนใจซื้อรถบ้านมือสอง

แต่ถ้าดาวน์โหลดมาแล้ว ยังไม่สะดวกอ่าน หรืออ่านแล้วยังไม่เข้าใจ Mr.Carro จะอธิบายให้ฟัง …

วิธีการสมัคร และประมูลรถกับ CARRO Wholesale

เริ่มแรก ในดาวน์โหลด Application “CARRO Wholesale” จากใน iOS หรือใน Google Play ก่อน

เมื่อเปิดตัว Application ขึ้นมาแล้ว ให้เข้าสู่ระบบ ด้วยหมายเลขโทรศัพท์ของคุณ จากนั้นระบบจะส่งหมายเลข OTP ไปให้ทาง SMS (กรณีไม่ได้รับรหัส สามารถกด “ฉันยังไม่ได้รับรหัส”)

How-To-Use-Carro-Wholesale-Application

เมื่อเข้าสู่หน้าหลักได้แล้ว ให้กด “สมัครเป็นดีลเลอร์” พร้อมกรอกข้อมูลเพื่อยืนยันตัวตน

How-To-Use-Carro-Wholesale-Application

เมื่อคุณทำขั้นตอนด้านบนเรียบร้อยแล้ว คุณจะได้สถานะเป็นดีลเลอร์ ซึ่งมีสิทธิ์ในการเสนอราคารถได้ โดยสามารถเข้าไปเลือกรถคันที่คุณสนใจได้

How-To-Use-Carro-Wholesale-Application

โดยคุณอาจจะตรวจสอบความต้องการต่างๆ เช่น ยี่ห้อ รุ่น สี ปีรถ เลขไมล์ ออพชั่นต่างๆ เบื้องต้นดูก่อนได้ และถ้าคุณเกิดอยากได้รถคันนี้ ก็สามารถกดปุ่ม “เสนอราคา” ได้เลย

How-To-Use-Carro-Wholesale-Application

สำหรับค่าดำเนินการตามราคาของรถต่อคัน สามารถดูได้ในตารางด้านล่างนี้ครับ

กรณีคุณสามารถประมูลรถได้ในราคาสูงสุด คุณจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าธรรมเนียมต่างๆ ค่าภาษีต่างๆ, ค่าจดทะเบียนรถใหม่ (กรณีรถคันนั้นแจ้งจอด หรือทะเบียนถูกระงับไว้) และเงินเพิ่มภาษีนิติบุคคล และค่าใช้จ่ายในการจดทะเบียนรถ หรือโอนรถให้ผู้อื่น

How-To-Use-Carro-Wholesale-Application

กด “ยืนยัน” เมื่อต้องการเสนอราคา และเมื่อหมดเวลา ระบบจะประกาศ ผู้เสนอราคาได้-ผู้เสนอราคาไม่ได้ กับคุณในรถคันที่คุณได้ประมูลไป

How-To-Use-Carro-Wholesale-Application

วิธีการใช้งาน CARRO Wholesale

ในหน้าหลัก จะมีการแนะนำรายละเอียดต่างๆ ว่ามีรถคันไหนเข้ามาใหม่บ้าง ซึ่งคุณสามารถกดเข้าไปดูรายละเอียดรถรุ่นต่างๆ ที่มีในคลังรถเวลานั้นได้

How-To-Use-Carro-Wholesale-Application

ระบบการเสนอราคา ถ้าเป็นระบบเปิด รถจะโชว์ราคาที่มีผู้เสนอสูงสุด แต่ถ้าเป็นระบบปิด จะได้แสดงราคาที่เสนอ

How-To-Use-Carro-Wholesale-Application

สำหรับระบบแจ้งเตือนนั้น จะขึ้นในกรณีของการยืนยันตัวตน, แสดงผลการประมูลแพ้-ชนะ หรือจะเป็นการติดตามการเสนอราคาแบบ Real-Time และประวัติรถที่คุณเคยเสนอราคาไปแล้ว เป็นต้น

หากมีข้อสงสัยประการใด สามารถ Inbox มาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand หรือโทร. 02-508-8425 ในเวลาทำการ (จันทร์-ศุกร์ 9.30 – 18.30 น.) หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carropartner —> เพิ่มเพื่อน

Carro-Pantip-Workshop

Carro ร่วมกับ Pantip ได้จัดกิจกรรมดีๆ “เวิร์คช็อป ขายรถเรื่องง่าย รู้ก่อนใครไม่มี OUT” ณ Mestyle Garage Hotel Bangkok บอกเลยว่างานนี้ใครที่สนใจอยากซื้อ-ขายรถมือสอง ได้ตาลุกวาวแน่นอน ในวันที่ 23 พฤศจิกายน 2562 เวลา 13.00 – 16.00 น. นี้!

เพื่อเปิดโอกาสให้เพื่อนๆ ที่กำลังสนใจ หรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับรถมือสอง ได้เข้ามาเรียนรู้วิธีการตรวจสอบสภาพรถอย่างละเอียด ดูรถจริง! ตีราคาจริง! พร้อมแลกเปลี่ยนเทคนิคการขายรถมือสอง จาก 2 กูรูเรื่องรถ Doctor Car และ Goody K

หากท่านสนใจ สามารถ “ลงทะเบียน” เข้าร่วมงานได้ที่นี่ครับ (สำหรับท่านใดที่ร่วมลงทะเบียนเข้าร่วมงาน รับไปเลย บัตรเข้างาน “Motor Expo 2019” ฟรี! ท่านละ 1 ใบ!)

Carro-Pantip-Workshop

ที่สำคัญ! หากใครสนใจอยากขายรถในงาน สามารถถ่ายรูปรถมาปรึกษาเจ้าหน้าที่ ภายในเวิร์คช็อปได้อีกด้วย

งานนี้เริ่มตั้งแต่เวลา 13.00 น. นะจ๊ะ สำหรับกำหนดการของงาน ก็มีประมาณนี้จ้า

เวลา กำหนดการ
13.00 – 13.30 น. ลงทะเบียน
13.30 – 13.40 น. เริ่มกิจกรรมบนเวที เชิญแขก (Doctor Car) พูดคุยในหัวข้อ
– อัพเดตข้อมูลธุรกิจ และเทรนด์ของรถมือสอง
– เหตุผลหลักๆ ของการอยากขายรถมือสอง
– How to การขายรถมือสองสำหรับมือใหม่
– จุดเด่น หรือจุดสำคัญของรถ ที่ต้องดูแลก่อนขายรถ
14.00 – 14.15 น. เชิญแขก (goody K) พูดคุยในหัวข้อ
– เทรนด์ขายรถวินเทจ หรือ รถสปอร์ต
– วัยรุ่นอยากเปลี่ยนรถบ่อย ต้องทำยังไงบ้าง
– รถติดไฟแนนซ์ขายได้ไหม และวิธีการแก้ไข
– คำถามที่คนขายรถ มักจะเจอก่อนขายรถ
14.30 น. ทำกิจกรรม Outdoor Activity ร่วมกันด้านล่างโรงแรม
15.15 – 15.30 น. ฝากให้สมาชิก Pantip ฝากขายรถผ่านเว็บไซต์ Carro พร้อมแจกรางวัล Lucky Draw กับถ่ายรูปร่วมกัน พร้อมปิดงาน

อย่าพลาดกันล่ะ! ที่ MeStyle Garage Hotel อยู่ในซอยประชาราษฏร์บำเพ็ญ 7 (ซอยไพศาล) ไม่ไกลจาก MRT ห้วยขวาง ถ้าใครมาไม่ถูก ดูแผนที่ด้านล่างได้เลย …

MeStyle-Garage-Hotel-Map

หากท่านใดสนใจอยากจะร่วมงาน “เวิร์คช็อป ขายรถเรื่องง่าย รู้ก่อนใครไม่มี OUT” กับเรา สามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook Carro Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่จ้า—> เพิ่มเพื่อน

Sale-Toyota-Vios-With-Carro-Express

ช่วงนี้ เชื่อได้ว่าใกล้ถึงปลายปีแล้ว หลายคนกำลังคาดหวังถึงเงินโบนัส ที่จะได้รับในช่วงสิ้นปีนี้ ที่ก็ต้องมาลุ้นกันว่า จะได้มาก ได้น้อย หรือไม่ได้เลย … ซึ่งถ้าใครโชคดีได้โบนัสมากหน่อย ก็อาจจะวางแผนขายรถคันเก่า เพื่อที่จะเปลี่ยนรถคันใหม่ ต้อนรับปี 2563 ซึ่งในช่วงปลายปีนี้ ก็จะมีรถใหม่อีกหลายๆ รุ่น ทยอยออกสู่ตลาดให้ได้เลือกซื้อกัน

แต่เป้าหมายของทุกคนที่ลงขายรถมือสอง คือ ขายอย่างไร ให้ได้ราคาที่ตนเองนั้น “พึงพอใจ”

Toyota-Vios-Carro-Express

วันนี้ CARRO จะมาแนะนำลูกค้าที่ลงขาย Toyota Vios Gen 3 (โตโยต้า วีออส) รุ่น 1.5 J A/T ปี 2016 กับบริการขายรถด่วน CARRO Express ของทาง CARRO ที่ได้ราคามากถึง “305,000 บาท” กันครับ

เคล็ดไม่ลับ ในการขายรถให้ได้ราคา

Toyota-Vios-Carro-Express

สภาพรถภายนอก โดยรวมต้องสภาพดี ไม่มีรอยเฉี่ยวชน บุบครูดตามจุดต่างๆ (ซึ่งถ้ามีน้อยเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีผลดีมากขึ้นเท่านั้น) ไม่มีชนหนัก ชนิดว่าเปลี่ยนคานหน้าหรือแก้มข้างมาใหม่ เส้นของฝากระโปรงหน้า-หลัง กันชน ประตูด้านข้าง ต้องเสมอกัน รวมไปถึงเครื่องยนต์ เกียร์ ช่วงล่าง ระบบน้ำหล่อเย็น หรือระบบแก๊ส LPG/NGV (ถ้ามี) ต้องอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน

Toyota-Vios-Carro-Express

รวมไปถึงสภาพภายในรถต้องสมบูรณ์ พื้นรถ เบาะนั่งสะอาด ไม่มีรอยฉีกขาด หรือเปื้อนคราบต่างๆ รวมไปถึงระบบแอร์ที่สมบูรณ์ เป็นต้น ส่วนเลขไมล์ก็ไม่ต้องกังวล เพราะถึงจะมากหน่อยแต่สภาพรถโดยรวมของคุณยังดูดี ก็ยังขายได้ราคาเช่นกัน

Toyota-Vios-Carro-Express

และอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญ คือเรื่อง “เอกสารของรถ” ไม่ว่าจะเป็นเล่มทะเบียนรถ เอกสารประกันภัย การเสียภาษีรถยนต์ในแต่ละปี ทางที่ดี ควรจะมี Book Service หรือบิลใบเสร็จเมื่อซ่อมรถยนต์ในที่ผ่านมาด้วย ซึ่งจะสร้างความน่าเชื่อถือให้กับผู้ซื้อด้วย ว่ารถของเรานั้น ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี เวลาขายต่อ จะได้ราคาที่สูงขึ้นไปในตัว

Carro-Sell-Car-Express

ซึ่งหากใครที่อยากขายรถคันเดิมแบบด่วนๆ เพื่อนำเงินไปซื้อรถในฝันคันใหม่ สามารถส่งรายละเอียดรถของคุณ มาตีราคากับทาง CARRO หรือขายรถกับ CARRO ได้ โดยเราให้ราคาที่คุณพอใจ พร้อมปิดการขายภายใน 24 ชั่วโมง อีกทั้งยังมีระบบการันตีเรื่องของเวลาขายรถ (CARRO Tracking) ที่คุณเช็กได้ว่า รถของคุณสถานะอยู่ขั้นตอนใดแล้ว

หากคุณสนใจอยากขายรถกับ CARRO นอกจากจะสามารถกรอกแบบฟอร์มได้ใน https://th.carro.co/sell-car/express แล้ว ยังสามารถติดต่อกับ CARRO ได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 1800-012-288, 02-508-8425 หรือจะ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

อีกทั้งยังสามารถ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ครับ —> เพิ่มเพื่อน

Carro-Rebrand-To-2020

Carro (คาร์โร) สตาร์ทอัพรายใหญ่จากสิงคโปร์ หนึ่งในเว็บไซต์เจ้าตลาดรถมือสองออนไลน์ในปัจจุบัน ที่ได้รับความเชื่อมั่นจากผู้ซื้อ-ขายรถบ้านอย่างสูง ได้เริ่มต้นปรับภาพลักษณ์องค์กรใหม่ ในสไตล์คนรุ่นใหม่ เพื่อต้อนรับปีใหม่ในปี 2020 และผลักดันให้บริษัทเป็นองค์กรยุคใหม่ เพื่อคนอยากขายรถยนต์โดยเฉพาะ

Carro-Rebrand-To-2020

“ทางบริษัทฯ ต้องการปรับภาพลักษณ์แบรนด์ใหม่ต้อนรับปี 2020 เพื่อเพิ่มความรู้สึกถึงความเอาใจใส่ ความเป็นมิตร ที่เรามีให้แก่ลูกค้ามากขึ้น ตลอดจนถึงการบริการรับซื้อรถยนต์ในสาขาต่างๆ ของทาง Carro ที่มีอยู่ด้วยกันทั่วประเทศ เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการของเราได้สะดวกมากยิ่งขึ้น” มานิต โกการ์ Country Manager บริษัท คาร์โร (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว

Carro-Rebrand-To-2020

สำหรับ Carro ยังคงมาพร้อม Concept คิดขายรถ จบไว ได้เงินชัวร์ “คาร์โร” ด้วยการเป็นสื่อกลางให้กับผู้ซื้อ-ขายรถ ซึ่งจะช่วยให้การขายรถของคุณนั้น ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป “Carro Express” กับการดำเนินงานที่คุณมั่นใจได้กับการซื้อ-ขาย อีกทั้งยังเปิดให้บริการฟรี โดยคนที่นำรถมาขาย ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ! ทั้งสิ้น

Carro-Rebrand-To-2020

โดยคาร์โร จะเป็นตัวแทนนำรถมือสองที่ลูกค้าอยากขาย เข้าระบบให้ดีลเลอร์แต่ละเจ้า เสนอราคาประมูลรถคันนั้นผ่านแอพพลิเคชั่น หากดีลเลอร์ใดเสนอราคาให้สูงที่สุด ก็จะได้รับรถคันนั้นไป และลูกค้าก็จะได้รับเงินสดทันทีหลังปิดการขาย ภายใน 24 ชั่วโมง (เมื่อดำเนินการเรื่องเอกสาร และตกลงการขายเรียบร้อย) ซึ่งในปัจจุบัน เรามีดีลเลอร์ผู้ประกอบการรถมือสอง ที่รองรับการซื้อรถยนต์มากกว่า 1,000 แห่ง

Carro-Rebrand-To-2020

“และในตอนนี้ ทาง Carro ประเทศไทย เรายังพร้อมที่จะขยายสาขาไปในแต่ละจังหวัดตามภูมิภาคต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ต้องการขายรถยนต์มือสองมากขึ้น โดยทีมงานคนรุ่นใหม่ ที่มีความสนใจในธุรกิจขายรถยนต์มือสองมากขึ้น” มานิต โกการ์ Country Manager บริษัท คาร์โร (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริม

จึงทำให้ลูกค้าที่ต้องการขายรถ มั่นใจได้ว่า รถของคุณ จะสามารถขายได้ในราคาที่ดีที่สุด และเร็วที่สุด

Carro-Rebrand-To-2020

คาร์โร (https://th.carro.co) เริ่มต้นจากธุรกิจสตาร์ทอัพในสิงคโปร์ เมื่อปี 2559 และมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันมีสาขาทั้งใน สิงคโปร์ ประเทศไทย และอินโดนีเซีย ซึ่งได้รับความเชื่อมั่นจากผู้ขายรถบ้านเป็นอย่างสูง และในปี 2561 ที่ผ่านมา Carro สามารถทำธุรกรรมรถยนต์ ได้ทั้งหมดรวมมูลค่ากว่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐ

ล่าสุด คาร์โร ยังเพิ่มขีดความสามารถในการขยายการให้บริการธุรกิจรถมือสอง ให้ครอบคลุมทั้งใน ASEAN ด้วยการเข้าซื้อกิจการ Jualo.com ในประเทศอินโดนีเซีย รวมไปถึงใน MyTukar บริษัท Startup ด้านรถมือสองจากประเทศมาเลเซีย ด้วยเงินลงทุนมากถึง 30 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ (หรือประมาณ 125.4 ล้านริงกิตมาเลเซีย)

อีกทั้งยังได้ระดมทุนระดมทุนเพิ่มอีก 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จาก SoftBank Ventures Asia และ EDB Investments (EDBI) โดยความร่วมมือของ Dietrich Foundation และ NCORE Ventures รวมไปจนถึงนักลงทุนที่มีอยู่ก่อนแล้ว ประกอบไปด้วย In- signia Ventures, B Capital Group, Singtel Innov8 และ Alpha JWC ในปี 2562

How-To-Choose-Child-Car-Seat

ช่วงนี้ หากใครที่กำลังเริ่มต้นมีครอบครัว หรือเพิ่งจะมีลูก หลายคนอาจจะอยากพาลูกเล็กๆ ไปเที่ยวด้วยกันอย่างสม่ำเสมอ

หากมีเด็กน้อยที่จำเป็นต้องอยู่ในทริปของคุณพ่อ คุณแม่ ตลอดระยะการเดินทาง การจะปล่อยให้ลูกน้อยของเรานั่งนิ่งบนเบาะผู้โดยสารแบบผู้ใหญ่คงไม่ปลอดภัย ดังนั้นการมี “คาร์ซีท” ติดรถยนต์ของเราไว้ จึงนับว่าเป็นสิ่งสำคัญมากๆ ที่คุณพ่อคุณแม่ควรคำนึงถึง

คุณแม่กับวิธีการเลือกคาร์ซีท

การเลือกติดตั้งคาร์ซีท หรือที่รู้จักกันว่าเป็นที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กน้อย คงจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดเพื่อเพิ่มความปลอดภัย รวมไปถึงยังลดความเสี่ยงอันตรายที่จะเกิดขึ้น เช่น การเสียชีวิต การบาดเจ็บต่างๆ ที่มาจากรถยนต์ได้ด้วย วันนี้ masii จึงขอแนะนำวิธีเลือกคาร์ซีทสำหรับคุณพ่อ คุณแม่ มือใหม่ที่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรมาฝากเพื่อนๆ ชาว Carro จ้า

เลือกประเภทให้ถูก

อันดับแรกเลยคือ ต้องดูที่เด็กน้อยของเราก่อนว่า มีช่วงอายุเท่าไร ส่วนสูงเท่า รวมถึงขนาดตัวของเด็กๆ ด้วย เพราะหลักๆ คาร์ซีทจะแบ่งประเภทตาม เพราะถ้าหากลูกน้อยของเราโตขึ้นจนสามารถคาดเข็มขัดนิรภัยได้ถูกต้องอย่างเหมาะสมแล้ว ก็ไม่มีความจำเป็นที่ต้องใช้คาร์ซีทอีกต่อไป

How-To-Choose-Child-Car-Seat

เข็มขัดนิรภัย

คาร์ซีทที่ดีนั้นควรจะมีเข็มขัดนิรภัยที่ได้รับมาตรฐาน และควรจะเป็นเข็มขัดนิรภัยแบบ 5 จุด เพราะว่าจะมีความปลอดภัยมากกว่าแบบ 3 จุดที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน

ความปลอดภัย

เพื่อความปลอดภัยของลูกน้อย และเด็กเล็กของเรา การเลือกซื้อคาร์ซีทที่มีมาตรฐานรับรองจะช่วยเพิ่มความอุ่นใจให้คุณพ่อคุณแม่ได้อย่างแน่นอน ต้องขอบอกว่าบางยี่ห้อที่นำเข้ามาอาจจะไม่ได้มาตรฐานก็เป็นไปได้ ดังนั้นเรื่องของการเลือกซื้อคาร์ซีทควรใส่ใจอย่างมาก หรือเลือกจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ เช่น Federal Motor Vehicle Safety Standard 213 ของประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นต้น

How-To-Choose-Child-Car-Seat

ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม

นอกจากคาร์ซีทที่จะเพิ่มความอุ่นใจ แต่ก็อาจจะยังมีข้อเสียที่ส่งผลอื่น ๆ ให้แก่เด็กน้อยของเราได้เช่นกันนะ ดังนั้น หลังจากที่เราได้ทำการเลือกซื้อคาร์ซีทมาแล้ว คุณพ่อ คุณแม่ ควรศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมกันด้วยนะคะ เช่น การติดตั้ง การคาดสายเข็มขัดนิรภัย เพื่อความปลอดภัยต่อลูกๆ ของเราเป็นสำคัญ

ทั้งนี้ทุกทริปทุกเดินทาง ทั้งเรา และเด็กน้อยก็สามารถสบายใจได้ด้วยคาร์ซีทที่ได้มาตรฐาน แต่เพื่อเพิ่มความอุ่นใจให้มากขึ้น การเลือกทำประกันภัยรถยนต์จะเป็นตัวเลือกที่ดีตัวหนึ่งเลย คลิกที่นี่ เพื่อเปรียบเทียบเบี้ยประกันได้ทันที ถ้าหากมีข้อมูลสงสัยอยากสอบถาม​ โทรเข้ามาได้ที่ 02-7103100 เรามีทีมงานคอยให้คำตอบอยู่จ้า

ขอขอบคุณบทความดีๆ จาก www.masii.com

Carro-Ladies-Car-Maintenance-Technique

สำหรับผู้หญิงบางคนนั้น เรื่องของการขับขี่รถยนต์บนพื้นท้องถนน อาจจะเป็นเรื่องยาก หรืออาจจะเป็นเรื่องท้าทายเกินความสามารถของเธอ แต่เมื่อถึงจุดใดจุดหนึ่งไม่ว่าจะด้วยเหตุจำเป็นใดๆ ที่มีเหตุทำให้ต้องขับรถยนต์ ผู้หญิงเหล่านั้นก็สามารถข้ามผ่านสิ่งที่ติดอยู่ในใจของตัวเองให้สามารถขับรถยนต์ได้อย่างเต็มที่

เทคนิคดูแลรถยนต์สำหรับผู้หญิง

แต่แน่นอนว่าจากการขับรถในทุกๆ วันแล้ว ผู้หญิงหลายคนมักจะไม่ทราบถึงวิธีการดูแลรถยนต์ของตัวเองมากสักเท่าไรนัก เพราะอาจจะมองเป็นเรื่องยาก บางครั้งเมื่ออุปกรณ์เครื่องรถยนต์เกิดชำรุดต่างๆ ก็มักจะโทรหาประกันทันที เพราะไม่สามารถจัดการกับปัญหาตรงหน้าได้ ดังนั้น masii จึงอยากจะนำเทคนิคการดูแลรถยนต์ง่ายๆ เบื้องต้นสำหรับผู้หญิงมาฝากกันจ้า

Ladies-Car-Maintenance-Technique

1. ควรหมั่นเช็กลมยาง

ลมยางนั้นสำคัญมากๆ และมีผลต่อการทรงตัวของรถยนต์ ถ้าหากยางรถยนต์ของสาวๆ มีระดับที่ไม่ได้มาตรฐานจะเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้ง่าย และเป็นการลดอายุของยางให้สั้นในระยะเวลาภายหลัง ดังนั้นถ้าหากรู้สึกว่ายางรถยนต์ของเราอ่อนลง ให้รีบไปเติมลมได้ที่ด้วยเครื่องเติมลมอัตโนมัติตามปั๊มน้ำมันต่างๆ ได้เลย และถ้าหากเติมลมไประดับที่ได้มาตราฐานแล้วรถยนต์ของเรายังมีอาการผิดปกติ ให้นำรถไปเช็กสภาพที่ศูนย์เพื่อหาที่มาของปัญหา จะได้แก้ไขได้ทันท่วงทีค่ะ

Ladies-Car-Maintenance-Technique

2. ตรวจดูระบบระบายความร้อน

สาวๆ หลายคนมักไม่ค่อยได้ใส่ใจ ใส่รายละเอียดสำหรับการดูฝาหม้อระบายน้ำ ถ้าหากเพื่อนๆ พบว่า น้ำพร่อง หรือน้อยลงไป ทาง มาสิ แนะนำให้สาวๆ เติมน้ำสะอาดลงไปให้เต็ม แต่ข้อควรระวังนะคะ ห้ามเปิดทันทีในขณะที่เพิ่งใช้รถยนต์มาใหม่ๆ เพราะไอน้ำจะมีความร้อนที่สูงมาก อาจจะเกิดอันตรายแก่ตัวเองได้ ควรจอดแช่รถไว้สักพักก่อนจึงค่อยลงมือทำ

Ladies-Car-Maintenance-Technique

3. เช็กรอยหยดรั่วของน้ำมัน

เพิ่มความอุ่นใจในการขับรถยนต์เดินทางบนท้องถนนสำหรับสาวๆ เพื่อนๆ สามารถหมั่นตรวจเช็กดูที่ใต้ท้องรถของเราก่อนสตาร์ทเครื่องยนต์ออกเดินทางหรือหลังดับเครื่องยนต์ก็ได้ ถ้าหากว่ามีรอยน้ำมันรั่ว​ ซึมออกมา ให้รีบนำรถยนต์ของเพื่อนๆ ไปซ่อมที่อู่รถยนต์ หรือศูนย์ซ่อมรถยนต์ทันที เพื่อเป็นการป้องกันการเกิดอันตราย และป้องกันการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน

เพียงเท่านี้สำหรับปัญหาเบื้องต้นที่ทาง มาสิ หยิบยกมาบอกต่อพร้อมวิธีเทคนิคการดูแลง่ายๆ ที่สาวๆ ทุกคนสามารถทำได้​โดยแทบไม่ต้องพึ่งคนอื่นเลย แต่สำหรับสาวๆ คนไหนที่อยากได้ความอุ่นใจทุกๆ การขับขี่รถยนต์ การทำประกันภัยรถยนต์ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี คลิกที่นี่ เพื่อเช็กเบี้ยได้ทันที หากมีข้อมูลสงสัย​โทรเข้ามาที่ 02 710 3100 เรามีทีมงานคอยให้คำตอบอยู่จ้า

ขอขอบคุณบทความดีๆ จาก www.masii.com

Carro-Sell-Car-In-Hatyai

จังหวัดสงขลา เป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดสงขลา เป็นที่ตั้งของเทศบาลนครหาดใหญ่ นับเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของไทย และเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของภาคใต้ โดยที่หาดใหญ่ เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในการท่องเที่ยว เป็นศูนย์รวมของสินค้าหลักในภาคใต้ และเป็นประตูผ่านไปยังประเทศเพื่อนบ้าน คือ มาเลเซีย และสิงคโปร์

ตัวเมืองหาดใหญ่ ที่นับว่าเจริญมาได้จนถึงทุกวันนี้ ส่วนหนึ่งเพราะมีการทางตัดทางรถไฟสายใต้ ต่อมามีผู้มองการณ์ไกลว่า บริเวณสถานีรถไฟหาดใหญ่นี้ ต่อไปจะต้องเจริญก้าวหน้าอย่างแน่นอน จึงได้มีการจับจองและซื้อที่ดินแปลงใหญ่จากราษฏรพื้นบ้าน สร้างอาคารบ้านเรือน พัฒนามาจนเป็นเมืองขนาดใหญ่ อย่างในทุกวันนี้

ในส่วนของอำเภอหาดใหญ่ รวมไปถึงในสงขลา พัทลุง สตูล หรือใน 3 จังหวัดชายแดนใต้นั้น ตลาดรถมือสองในตอนนี้อาจจะซบเซาไปบ้าง จากผลกระทบหลายๆ อย่าง ทั้งสินค้าราคาพืชผลทางการเกษตรที่ตกต่ำ ยางพาราที่จำหน่ายไม่ได้ราคาที่ต้องการ ค่อนข้างส่งผลกระทบอย่างมาก กับตลาดรถมือสองในหัวเมืองปักษ์ใต้ตอนนี้

เรามาดูกันว่า อยู่หาดใหญ่ สงขลา หรือ 3 จังหวัดชายแดนใต้ พี่บ่าวหรือสาวนุ้ย จะขายรถด้วยวิธีใด ได้แขบที่สุด ราคาดีหลายๆ …

Carro-Sell-Car-In-Hatyai

1. ประกาศขาย

ไม่ว่านายหัวจะประกาศขายรถในรูปแบบต่างๆ เช่น ตั้งขายจอดขายรถข้างทาง หรือขายในเว็บซื้อ-ขายรถมือสอง ในกลุ่ม Facebook นายหัวก็ต้องรอเวลา ว่าจะมีใครติดต่อกลับมานัดดูรถบ้าง หรือซื้อรถของเจ้าบ้าง อาจจะรอเป็นอาทิตย์ หรือนานเป็นเดือน ไม่ได้เร็วอย่างที่คิดเสมอไป

ยิ่งคนพื้นที่บางคนถ้าไม่ได้เล่นอินเตอร์เนต ก็อาจจะไม่ได้เห็นรถคุณด้วยซ้ำไป ทั้งที่เขาอาจจะกำลังมีเงินพร้อมซื้อด้วยก็ตาม

Carro-Sell-Car-In-Hatyai

2. ขายเต็นท์

ในหาดใหญ่ และในสงขลาเอง ก็มีเต็นท์รถอยู่หลากหลายที่ ทั้งในตัวเมือง และในอำเภอต่างๆ รอบๆ จังหวัด ซึ่งถ้าพี่บ่าว นายหัว หรือสาวนุ้ยขับรถตระเวนไปเช็กราคาแต่ละที่ ก็ต้องใช้เวลาอีก ซึ่งเต็นท์รถแต่ละที่ ก็ตั้งอยู่กันค่อนข้างห่างพอสมควร บางทีไปเสนอรถให้ทางเต็นท์แล้ว ราคาไม่ได้ดั่งใจก็มี

Carro-Sell-Car-In-Hatyai

3. ขายรถกับ CARRO หาดใหญ่ (สงขลา)

ถ้าพี่บ่าว นายหัว หรือสาวนุ้ยตัดสินใจมาขายรถที่ “CARRO หาดใหญ่” ซึ่ง CARRO Thailand หรือ คาร์โร เป็น Startup ผู้ให้บริการซื้อ-ขายรถมือสองออนไลน์ชั้นนำ ที่ได้มาตรฐานจากประเทศสิงคโปร์ ตั๋วจะขายออกได้ไว ได้ราคาดี สามารถปิดการขายได้ภายใน 24 ชั่วโมง ขั้นตอนลงขายง่าย อีกทั้งยัง “ฟรี!” ตั๋วไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ อีกด้วย รับรอง สบายใจหลาย และทาง CARRO ยังมีพนักงานคอยบริการ คอยติดต่อประสานงานผู้ขายกับผู้ซื้อให้ด้วย

Carro-Sell-Car-In-Hatyai

ออฟฟิศของ CARRO หาดใหญ่ ตั้งอยู่ที่ 377 ถ.นวลแก้วอุทิศ ต.คอหงษ์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา 90110

ถ้าพี่บ่าว นายหัว หรือสาวนุ้ยสนใจ สามารถเข้าไปเช็กราคาขายรถก่อนได้ โดยใส่ข้อมูลรถของคุณที่นี้ > https://th.carro.co/sell-car/express

นอกจากจะสามารถกรอกแบบฟอร์มตามข้างต้นแล้ว ยังสามารถติดต่อกับ CARRO ได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 1800-012-288, 02-508-8425 หรือจะ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

สำหรับเบอร์โทร “02” นั้น เชื่อว่าหลายคนอาจจะลังเลว่า เป็นเบอร์โทรที่ขายรถในพื้นที่ใช่หรือไม่? ไม่ต้องกังวลครับ เพราะเบอร์โทร 02 ของเรานั้น เป็นเบอร์ Call Center ที่ทางเราได้รับข้อมูลรายละเอียดรถของคุณล้ว ทางเราก็จะประสานงานไปยังเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ คอยติดตามดูแลการขายรถให้คุณครับ

อีกทั้งยังสามารถ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ครับ —> เพิ่มเพื่อน