Carro-Agent-Rewards-2020

สวัสดีครับ หากท่านตอนนี้กำลังทำธุรกิจเป็นดีลเลอร์รถยนต์ เป็นเซลล์ขายรถ เซลล์รถใหม่ (หรือที่ปรึกษาการขาย) ที่มักมีลูกค้านำรถคันเก่ามาเทิร์นอยู่เสมอๆ (ซึ่งทางเราจะเรียกว่า Agent) และในส่วนของบริษัทเช่ารถต่างๆ เป็นต้น

ก่อนอื่นเลย เรามีความยินดีให้ท่านได้ใช้ Application CARRO Wholesale ซึ่งเป็นระบบการซื้อรถกับทาง CARRO อยู่แล้ว หากท่านใดยังไม่มี App นี้ สามารถดาวน์โหลด Application “CARRO Wholesale” จากใน iOS และ Android (สามารถคลิก Download ที่ Link นี้ได้เลย http://onelink.to/fjjn42)

ส่วนวิธีใช้งาน CARRO Wholesale Application สามารถดูได้ใน Link ด้านล่าง

และในโอกาสนี้ เราขอยินดีที่นำเสนอโปรโมชั่นใหม่ๆ กับ “CARRO Rewards สำหรับ Agent” ยิ่งถ้าคุณขายรถผ่าน Application CARRO Wholesale ของเรามากเท่าไหร่ ยิ่งขายรถได้มาก ปิดการขายได้มาก ก็จะได้รับเงินคืนเริ่มต้นที่ 1,500 บาททันที! พร้อมทั้งยังได้ค่าคอมมิชชั่นตามปกติอีก เรียกว่าคุ้มยิ่งกว่าคุ้มจริงๆ!

วิธีขายรถกับเราก็ง่ายนิดเดียว เพียงขายผ่าน Application CARRO Wholesale พร้อมกรอกรายละเอียด รุ่นรถยนต์ที่ต้องการขาย และรูปถ่ายรถยนต์ในมุมต่างๆ ซึ่งจะมีดีลเลอร์นับพันเจ้า คอยเสนอให้ราคารถยนต์ของคุณตามที่คุณพึงพอใจ เมื่อได้ราคาจนถึงที่สุด CARRO จะติดต่อไปยังผู้ขายกับผู้ซื้อ ให้มาพบกันเพื่อทำการเซ็นสัญญาซื้อขาย พร้อมปิดการขาย และรับเงินสดกลับบ้าน

รายละเอียดเมื่อปิดการขายรถสำเร็จ พร้อมได้เงินคืนกับ CARRO Rewards สำหรับ Agent

Tier Number of Transaction เงินคืน Remark ระยะในการจบรถ Promotion Period
1 1 (รถคันแรก) 1,500 – โปรโมชั่นคันแรกเท่านั้น
– โปรโมชั่นนี้ไม่สามารถแลกเป็นสินค้าอื่นได้
– เงินจะโอนให้หลังจากมีการทำสัญญาเสร็จสิ้น
– ต้องมีการจ่ายค่าคอมมิชชั่นเต็มจำนวนเท่านั้น
– ต้องจบภายในระยะเวลาที่กำหนดเท่านั้น
– โปรโมชั่นนี้ต้องแนบนามบัตร NCS มาพร้อมตอนรับเงิน
ภายใน 1 เดือน นับตั้งแต่คันแรกที่จบการขาย ก.ย. – ธ.ค. 2563

ขายรถได้กี่คัน ได้เงินเท่าไหร่

  • ขายรถได้ 1 คัน รับเงินคืน 1,500 บาท

เงื่อนไข และหมายเหตุ:

  • ระยะเวลาในการจบรถ ภายใน 1 เดือน นับตั้งแต่คันแรกที่จบการขาย
  • โปรโมชั่นนี้ เริ่มตั้งแต่เดือนกันยายน – ธันวาคม 2563 เท่านั้น
  • หากมีข้อสงสัยประการใด สามารถ Inbox มาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand หรือโทร. 02-508-8425 ในเวลาทำการ (จันทร์-ศุกร์ 9.30 – 18.30 น.) หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothai หรือคลิกที่นี่ครับ —> เพิ่มเพื่อน

Carro-X-Shopee-Promotion-12-12

CARRO ร่วมกับ Shopee ให้คุณขายรถคันเดิมได้ง่ายๆ แถมได้ไปช็อปปิ้งสนุกๆ กันอีกด้วย ในโปร 12.12 Birthday Sale แคมเปญที่สุดแห่งปี!! ช้อปกันให้มันส์กว่าที่เคย แค่ขายรถคันเดิมกับ CARRO เพียงแค่เข้าไปเว็บไซต์ของ Shopee และลงขายรถของคุณผ่านทาง CARRO แค่นี้ คุณก็ได้ Voucher สำหรับใช้ช้อปปิ้งต่อใน Shopee ได้ง่ายๆ เลย หมดเขต 31 ธ.ค. 2563 นี้!

วิธีการใช้โค้ดแบบง่ายๆ :

  • ใช้ 15 Shopee Coins แลกโค้ดส่วนลดที่ Shopee https://bit.ly/3jzb83C
  • ในขั้นตอนลงขายรถ นำโค้ดส่วนลดไปกรอกที่เว็บไซต์ CARRO https://th.carro.co/
  • เมื่อลูกค้าที่กรอกโค้ดส่วนลด และสามารถขายรถกับทาง CARRO ได้สำเร็จ รับเลย Shopee Voucher มูลค่า 1,500 บาท จากทาง CARRO

ข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้โค้ด :

1. โปรโมชั่นนี้ต้องจบการขายรถยนต์กับ CARRO เท่านั้น
2. โปรโมชั่นนี้ไม่สามารถแลกเป็นสินค้าอื่นได้
3. โปรโมชั่นนี้พิเศษเฉพาะลูกค้าที่แลก Coin จาก Shopee เท่านั้น
4. โปรโมชั่นนี้ต้องมีการกรอก Promo Code ที่ได้รับจากทาง Shopee เท่านั้น
5. ลูกค้าจะได้รับ Voucher Shopee มูลค่า 1,500 บาท เมื่อสามารถขายรถกับ CARRO ได้สำเร็จ ภายในเดือน ธ.ค. 2563 เท่านั้น
6. ต้องเป็นการขายที่สำเร็จในช่วงเวลา 1 – 31 ธ.ค. 2563 เท่านั้น
7. Voucher มีระยะเวลาการใช้งาน 3 เดือน (ธ.ค. 2563 – ก.พ. 2564)
8. เงื่อนไขเป็นไปตามที่กำหนด
9. สิทธิ์มีจำนวนจำกัด

หากท่านใดสงสัย มีคำถาม หรือต้องการคำตอบเพิ่มเติม สอบถามเพิ่มเติมได้ที่นี่ :

Tel : 02-508-8425 

Facebook: Facebook CARRO Thailand

Line@: @Carrothai คลิก! https://lin.ee/mXBlicw

Carro-Roojai-5-Bad-Reasons-Parking-Car-Under-The-Trees

หากพื้นที่จอดรถไม่มีหลังคาที่จอดรถ หลายคนมักจะคิดว่าขอจอดรถใต้ต้นไม้เพราะได้จอดรถในร่ม ยังไงก็ดีกว่า แต่นั่นอาจไม่จริงเสมอไปเพราะมันอาจมีภัยที่ทำร้ายกับรถของคุณมากกว่าข้อดีที่แค่ช่วยให้รถไม่ต้องตากแดดร้อน ๆ

Roojai.com จึงอยากพาผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคนได้ “เบิกเนตร” เห็นความจริงของภัยร้ายข้อเสียเมื่อคุณเลือกจอดรถใต้ต้นไม้ ยิ่งจอดทิ้งไว้นาน ๆ ก็จะยิ่งส่งผลเสียกับรถของคุณโดยเฉพาะเรื่องของความเงางามของสีรถ และมากกว่านั้น ต่อไปนี้คือ 5 เหตุผลที่เราไม่อยากให้คุณนำรถไปทิ้งไว้ใต้ต้นไม้ ไม่ว่าจะต้นไหนที่ไหน จะมีอะไรบ้าง ตามไปดูกันเลย

เมื่อจอดรถใต้ต้นไม้ ไม่ได้ปกป้องสีรถของคุณ

จะเรียกว่าเป็น “ความเชื่อ การทำตาม หรือสัญชาตญาณ” ของผู้ใช้รถที่มักนิยมว่าการจอดรถใต้ต้นไม้นั้นเหมือนเป็นการช่วยปกป้องรถ ทั้งสีรถก็ดี ชิ้นส่วนภายในของรถก็ดีที่ไม่ต้องจอดกลางแดดร้อน ๆ จอดใต้ต้นไม้ยังไงก็ดีกว่า จอดรถตากแดด ปล่อยให้ต้องร้อน ข้อนั้นดีแน่นอนถ้ารถได้จอดไว้ในที่จอดซึ่งมีหลังคาที่จอดรถคลุมเป็นกิจจะลักษณะ นั่นเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับรถของคุณ แต่การที่อาศัย จอดรถในร่ม ด้วยร่มไม้จากต้นไม้อาจไม่ใช่คำตอบที่ดีในการช่วยรักษารถของคุณได้มากเท่าไร

ข้อเสียมากมายของร่มไม้ที่เมื่อคุณจอดรถ หลายคนอาจไม่รู้หรือลืมสังเกต มารู้อีกทีร่มไม้ที่คุณว่าช่วยให้รถของคุณไม่ต้องทนกับการตากแดดร้อน ๆ ก็กลับทำร้ายรถของคุณให้เสียหายจนเกินเยียวยาอย่างไม่คาดคิดแล้ว และต่อไปนี้คือเหตุผลที่เราไม่อยากให้คุณจอดรถไว้ใต้ต้นไม้

1. ยางต้นไม้ ทำลายสีรถของคุณมากกว่าที่คิด

เมื่อคุณหวังให้ต้นไม้บังแดดสำหรับการจอดรถของคุณ แน่นอนว่าทุกคนคงไม่เดินไปดูหรอกใช่มั้ยว่าต้นไม้ที่รถไปจอดนั้นเป็นต้นอะไร จะมียางต้นไม้ มีอะไรจะหยดใส่รถหรือเปล่า และนี่คือความจริงที่ต้องรู้ว่าภัยจากยางไม้คือศัตรูร้ายตัวฉกาจของสีรถ หยดใส่รถทีถ้าไม่ล้างให้ดีให้สะอาดแล้วปล่อยทิ้งไว้พาแต่จะกลายเป็นคราบฝังลึกขัดออกยาก หรือแย่กว่านั้น! คือขัดไม่ออก จนกลายเป็นตราบาปที่ติดรถของคุณไปตลอด และวิธีขัดสีรถ วิธีเดียวที่จะทำให้รถดูดีได้เหมือนเดิมก็คือการทำสีเป็นทางออกสุดท้าย

5-Bad-Reasons-Parking-Car-Under-The-Trees

2. ขี้นกก็ร้ายต่อสีรถไม่น้อย

“นี่ก็ร้าย” พอกัน สำหรับคราบขี้นก หยดใส่หัวยังล้างได้ แต่ถ้าใส่สีรถแล้วคุณไม่รีบล้าง มันคือฝันร้ายของสีรถอย่างแท้จริง นี่ยังเป็นกรณีที่คุณสังเกตเห็นนะ ถ้าดันมาหยดมาขี้ใส่ในส่วนที่คุณไม่ทันสังเกตแล้วปล่อยทิ้งไว้นาน มันก็อาจทำให้คุณต้องกุมขมับกันได้เลยถ้าจะขัดให้ออกที

5-Bad-Reasons-Parking-Car-Under-The-Trees

3. เศษกิ่งไม้ หล่นใส่รถจนกลายเป็นลักยิ้ม

นี่เราไม่ได้หมายถึงกิ่งใหญ่ ๆ นะ เป็นแค่เศษกิ่งเล็ก ๆ หรือตัวเมล็ด แค่นี้ก็ร้ายพอที่จะทำให้รถของคุณ “บุบ” เป็นริ้วรอยเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้เหมือนกัน ไม่ว่าจะส่วนของหลังคา ส่วนของฝากระโปรงซึ่งเป็นพื้นที่รองรับแรงตกกระแทกเต็ม ๆ เมื่อนำรถไปจอด ซึ่งมันอาจทำให้รถของคุณเป็นรอยบุบลักยิ้มเล็ก ๆ ที่แก้ได้ยาก วิธีขัดสีรถต่าง ๆ ก็อาจช่วยไม่ได้และอาจเป็น “งานใหญ่” จนถึงขั้นทำสีรถในส่วนนั้น ๆ ใหม่ได้เลย

4. น้ำฝน ที่นำมาสู่คราบฝังลึก

เรารู้ว่าพื้นที่จอดรถอย่าง ต้นไม้ หรือ ลานจอดรถ ไม่สามารถช่วยบังน้ำฝันได้เต็ม ๆ ยังไงรถก็เปียกอยู่ดี แต่ข่าวร้ายก็คือการจอดรถใต้ต้นไม้ในตอนที่ฝนตก น้ำฝนจะชะล้างคราบยางของต้นไม้ลงมาโดนสีรถคุณด้วย จนกลายเป็นคราบเมื่อรถแห้งและล้างออกยาก ซึ่งจะว่าไปจอดรถที่โล่ง ๆ กลางฝนยังดีกว่าซะอีก

5-Bad-Reasons-Parking-Car-Under-The-Trees

5. สัตว์เลื้อยคลาน

จอดรถใต้ต้นไม้นาน ๆ คุณกลับมาใช้รถทีอาจมีเพื่อนร่วมทางไม่รู้ตัว พวกสัตว์เลื้อยคลานอาจอาศัยรถของคุณเป็นที่พักหลบฝน จะงูเงี้ยวเขี้ยวขอ ตะขาบ หนู หรือแม้กระทั่ง มด อาจนัดกันไปรวมตัวทำรังอยู่ที่รถคุณก็เป็นได้ มีต้นไม้ก็ต้องมีดินอยู่รอบ ๆ และพื้นที่เป็นดินซึ่งคุณใช้เป็นที่จอดรถ ก็คือเส้นทางให้พวกสัตว์เหล่านั้นไปหารถคุณ

พื้นที่จอดรถ และวิธีที่จะช่วยดูแลรถคุณได้อย่างแท้จริง

  • จอดรถในร่ม ในที่สำหรับจอดซึ่งเป็นหลังคาที่จอดรถที่บังแดด ไม่ใช่ร่มไม้
  • เลี่ยงการจอดรถบนพื้นที่เป็นดิน เพื่อช่วยป้องกันรถเป็นที่พักอาศัยของพวกสัตว์ทั้งหลาย
  • ถ้าต้องจอดรถตากแดดนาน ๆ ใช้ม่านบังแดดเพื่อลดอุณหภูมิภายในห้องโดยสาร
  • ถ้าสังเกตเจอคราบยางไม้หรือขี้นกให้รีบล้างออกด้วยน้ำสะอาดทันที
  • ถ้าต้องจอดรถกลางแดดเป็นประจำ ควรเลือกใช้ฟิล์มกันแดดที่มีคุณภาพ สามารถกันความร้อนได้จริง

เพียงเท่านี้การใช้รถของคุณเมื่อต้องจอดรถที่ไหนก็จะเหมือนเป็นการดูแลรถได้ ด้วยเทคนิคและสิ่งที่ควรเลี่ยงที่เรานำมาฝาก จะช่วยป้องกันการทำร้ายรถของคุณในทางอ้อมได้เป็นอย่างดี และถ้าคุณเป็นหนึ่งคนที่รักรถ ก็ย่อมต้องการการคุ้มครองจากประกันภัยรถยนต์คุณภาพใช่มั้ยล่ะ? เลือกประกันรถยนต์ออนไลน์จาก Roojai.com ที่มาพร้อมกับตัวเลือกในการคุ้มครองมากมายซึ่งคุณสามารถปรับแต่งแผนได้เอง เลือกได้ตามที่เหมาะกับการใช้งานรถของคุณ รู้ใจกว่า ประหยัดกว่า ที่สำคัญผ่อนได้ ไม่ง้อบัตรเครดิต ถูกใจคนรักรถทุกคนอย่างแน่นอน คลิกเช็คราคาประกันรถยนต์ออนไลน์ที่นี่ได้เลย

Buy-New-Car-Or-Secondhand-Car-What-Is-Better

เชื่อว่า หลาย ๆ คนอาจจะชั่งใจหรือลังเลอยู่ว่าถ้าหากจะซื้อรถยนต์สักคันหนึ่งนั้น เราควรเลือกระหว่างมือหนึ่งใหม่เอี่ยมไปเลย หรือรถมือสองที่สภาพยังดีอยู่ ซึ่งแน่นอนว่าคงมีหลายเสียงบอกมาว่า หากซื้อรถทั้งทีก็เอาดีๆ ไปเลย แบบนี้ เรามาลองเปรียบเทียบความคุ้มค่ากันดีไหมว่า ซื้อรถยนต์มือหนึ่งหรือรถมือสอง แบบไหนจะคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปมากกว่า

ซื้อรถใหม่ เอารถมือหนึ่งหรือรถมือสอง อะไรดีกว่ากัน

Buy-New-Car-Or-Secondhand-Car-What-Is-Better

1. ราคาที่ต้องจ่าย

ต้องยอมรับว่าปัจจุบันนี้เงินทองเริ่มหายากมากขึ้น การจะซื้อรถยนต์สักคันจึงเป็นสิ่งที่ต้องคิดและทบทวนหลายรอบว่า ซื้อรถรุ่นไหนคุ้มกว่ากันนะ เมื่อเกิดคำถามหรือกำลังลังเลอยู่นั้น ลองให้ masii เปรียบเทียบให้ดูกันดีกว่า

รถมือหนึ่ง

ถึงแม้ราคาของรถมือหนึ่ง หรือรถป้ายแดงจะแพงกว่า แต่กลับเสียดอกเบี้ยและเงินดาวน์น้อยกว่ารถมือสอง ปัจจุบันนั้นรถมือหนึ่งมีความน่าซื้อมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอัตราดอกเบี้ยถูกกว่า มีโปรโมชั่นดี ๆ อย่างดอกเบี้ย 0% หรือลดเงินดาวน์ รวมไปถึงมีวิธีการเลือกผ่อนชำระค่างวดได้หลากหลายรูปแบบ ซึ่งทำให้ใครหลายคนตัดสินใจเลือกซื้อรถมือหนึ่งกันเป็นจำนวนมาก

รถมือสอง

รถมือสองในปัจจุบันมีให้เลือกซื้อมากมาย แต่สิ่งที่หลาย ๆ คนมักจะกลัวกันคือ การไม่ทราบประวัติและข้อมูลของรถว่าได้ผ่านอะไรมาแล้วบ้าง แต่สำหรับเรื่องที่เราควรยอมรับก็คือ ในจำนวนเงินที่เท่ากันนั้นสามารถซื้อรถมือสองที่รุ่นใหญ่กว่า หรือซื้อรุ่นท็อปก็ได้ และแน่นอนว่าหลายคนที่หันมาเลือกซื้อรถมือสองคงเป็นเพราะราคาที่เข้าถึงได้ รวมไปถึงคุณภาพรถก็ดีไม่แพ้รถมือหนึ่งนั่นเอง

Buy-New-Car-Or-Secondhand-Car-What-Is-Better

2. สมรรถนะ

รถมือหนึ่ง

หากมองหาสิ่งที่โดดเด่นในรถมือหนึ่งนั่นก็คือ เรื่องของสมรรถนะเครื่องยนต์ ที่มีระบบขับเคลื่อนที่ดีกว่า มีรูปลักษณ์ภายนอกที่ใหม่เอี่ยม ทันสมัย อีกทั้งรถยนต์บางรุ่นยังช่วยเรื่องการประหยัดพลังงาน แถมมีฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่ช่วยดูแลเรื่องความปลอดภัยอีกด้วย เราจึงสามารถไว้วางใจคุณภาพของการใช้งานได้ทันที รวมไปถึงหากรถมีปัญหาก็สามารถติดต่อเคลมประกันกับศูนย์ได้โดยตรง

รถมือสอง

ปฎิเสธไม่ได้ว่าสภาพการใช้งานรถมือสองคงดีไม่เท่ากับรถมือหนึ่ง เพราะยังไงก็ต้องผ่านการใช้งานมาแล้วไม่มากก็น้อย ซึ่งการจะเลือกซื้อรถมือสองจำเป็นต้องเช็กเลขไมล์ก่อน เพื่อประเมินการใช้งานรถ รวมถึงบำรุงรักษา แต่ถ้าหากโชคดีว่ารถมือสองที่เราเล็งไว้มีสภาพดี เราก็คงไม่ต้องเสียเงินจำนวนมากเพื่อการซ่อมแซมในอนาคต

Buy-New-Car-Or-Secondhand-Car-What-Is-Better

3. ออปชั่นเสริมในรถ

รถมือหนึ่ง

ยิ่งมีรถใหม่ออกมามากขึ้นเท่าไร เทคโนโลยีภายในรถก็ยิ่งพัฒนามากขึ้น ทั้งเรื่องของการพัฒนาออปชั่นต่าง ๆ ที่ทันสมัยให้สามารถรองรับและอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ขับขี่และผู้โดยสาร รวมไปถึงระบบสั่งงานด้วยเสียง ระบบตรวจจับความอ่อนล้าของผู้ขับขี่ และด้วยออปชั่นเทคโนโลยีที่ดีขึ้น ราคาของรถมือหนึ่งจึงสูงมากขึ้นไปด้วย

รถมือสอง

แม้ออปชั่นภายในรถจะไม่ได้ดีหรือทันสมัยเท่ารถมือหนึ่ง แต่บางออปชั่นในรถมือหนึ่งก็อาจไม่ได้ตอบโจทย์ผู้ขับขี่เสมอไป เทียบกับรถมือสองบางคันที่มีออปชั่นจำกัด แต่กลับตอบโจทย์การใช้งานของผู้ขับขี่ได้มากกว่า ทั้งยังมีราคาที่ถูกกว่าการซื้อรถมือหนึ่ง หากใครที่มีงบไม่มาก การซื้อรถมือสองก็น่าจะเหมาะกับเรามากกว่า

เพียงเท่านี้เพื่อนๆ ก็สามารถนำข้อมูลดังกล่าวไปใช้ประกอบการตัดสินใจได้ว่า รถมือหนึ่งหรือรถมือสอง จะตอบโจทย์เราได้มากที่สุด แต่ทั้งนี้ไม่ว่าจะเลือกซื้อรถแบบไหน ก็ควรทำประกันรถยนต์ควบคู่ไว้ ช่วยเพิ่มให้เราอุ่นใจขณะขับขี่ได้ตลอดเวลา คลิกที่นี่ เพื่อเช็กเบี้ยประกันรถยนต์ราคาเริ่มต้นที่หลักร้อยได้ทันที

ขอขอบคุณบทความดีๆ จาก www.masii.com

4-Good-Choices-For-Secondhand-Car

ปฏิเสธไม่ได้ว่าหากพูดถึง รถมือสอง หลายคนมักจะเบือนหน้าหนี เพราะรู้สึกว่าการซื้อรถมือสองจะไม่อุ่นใจเท่ากับซื้อรถมือหนึ่ง แต่จริงๆ แล้ว รถมือสองที่วางขายอยู่ในปัจจุบันนั้นถือได้ว่า สภาพของรถยนต์นั้นสูสีไม่แพ้รถมือหนึ่งแต่อย่างใดเลย วันนี้ masii เลยนำเหตุผล 4 ข้อดีของรถมือสองที่ไม่ควรมองข้ามมาฝากกัน

4-Good-Choices-For-Secondhand-Car

1. ราคาประหยัดกว่า

ถ้าถามเหตุผลส่วนใหญ่ที่หลายคนเลือกซื้อรถมืองคงหนีไม่พ้นกับ ราคาของรถยนต์ที่แสนประหยัด จึงถือได้ว่าเป็นเหตุผลที่ทำให้ใครๆ ต่างตัดสินใจซื้อรถมือสองมาใช้งานกัน

และเนื่องจากยิ่งเวลาของรถผ่านไปนานเท่าไร ราคาก็จะยิ่งถูกลงมากขึ้น จึงไม่แปลกใจที่ใครหลายคนจะเลือกซื้อรถมือสอง เพราะช่วยให้ประหยัดได้ด้วย

2. ได้รถขนาดและคุณภาพเหมาะสม

เหตุผลที่หลายคนเบือนหน้าหนีไป เพราะว่าสภาพรถมือสอง อาจจะไม่ได้คุณภาพที่ดีเท่ากับรถมือหนึ่ง

แต่สำหรับรถมือสองที่มีประวัติการใช้งานที่ดี และไม่เคยชนหนักหรือประสบอุบัติเหตุมาก่อน ก็จะส่งผลให้ผู้ซื้อตัดสินใจได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม รวมไปถึงราคาของรถมือสองที่ถูกลงอาจทำให้เราได้ขนาดรุ่นรถใหญ่มากขึ้น และมีระบบความปลอดภัยที่ดีอีกด้วย

4-Good-Choices-For-Secondhand-Car

3. ซื้อผ่านเงินสดได้ง่าย

ราคาของรถมือสองจะถูกกว่ารถป้ายแดงเป็นธรรมดาอยู่แล้ว หลายคนจึงมีความคิดที่ว่าเก็บออมเงินสะสมเพื่อนำไปซื้อรถมือสองกันมากกว่า และในปัจจุบันนั้น การซื้อรถมือสองยังสะดวกสบายได้มากขึ้นกว่าเดิมด้วยการยื่นขอกู้ผ่านธนาคาร หรือสถาบันทางการเงินได้อีกด้วยนะ

4. ค่าเสื่อมรถราคาน้อยกว่าป้ายแดง

หากเพื่อนๆ เลือกซื้อรถมือหนึ่งป้ายแดงออกจากโชว์รูม แน่นอนว่ามูลค่าของรถอาจจะตกลงมา แต่สำหรับรถมือสองในปัจจุบันนั้นหล่นลงจากป้ายแดงมาก้อนใหญ่แล้ว

หากไม่พึงพอใจกับรถมือสองคันปัจจุบัน ต้องการจะเปลี่ยนคันใหม่ มูลค่าอาจจะลดลงเพียงแค่หลักหมื่นบาทเท่านั้นเอง

ใช่ว่ารถมือสองคันที่เราซื้อมาจะเลือกทำประกันรถยนต์ไม่ได้นะ เรายังสามารถทำประกันรถยนต์เพื่อความอุ่นใจขณะขับขี่ได้ทุกเวลา คลิกที่นี่ เพื่อเช็กเบี้ยประกันรถยนต์หรือสอบถามเกี่ยวกับประกันรถยนต์ผ่านเว็บไซต์ได้ทันที เรามีเจ้าหน้าที่คอยให้คำปรึกษาอยู่ค่ะ

ขอขอบคุณบทความดีๆ จาก www.masii.com

Thailand-Car-Auctions

ในช่วงที่โควิด-19 กำลังแพร่ระบาดไปในทั่วโลกอยู่ขณะนี้ แม้ว่าสถานการณ์ในไทยจะผ่อนคลายไปมากแล้วก็ตาม อีกทั้งตลาดรถใหม่ของเราจะผ่านงาน Motor Show 2020 (มอเตอร์โชว์ 2020) ไปหมาดๆ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้เอง ก็แสดงให้เห็นว่า ตลาดรถยนต์ในช่วงครึ่งปีหลัง 2563 นี้ ดูเติบโตในระดับหนึ่ง แต่ก็น้อยไปกว่าครึ่งทีเดียว หากเทียบกับยอดขายรถในงาน Motor Show ปีที่ผ่านมา

ในเวลานี้ตลาดรถมือสองอาจจะเรียกได้ว่าไม่ปกตินัก เนื่องจากลูกค้าจำนวนมากได้รับผลกระทบจากการตกงาน หรือถูกลดเงินเดือน หลายรายผ่อนรถต่อไม่ไหว รถจึงถูกยึดไปโดยไฟแนนซ์ หรือสถาบันการเงินเป็นจำนวนมาก ก็กระทบกันไปตามๆ กัน จนต้องปรับกลยุทธ์กันรายวัน

แต่ตอนนี้บรรดาลานประมูลรถหลายๆ แห่งนั้น กลับเรียกได้ว่ากำลังคึกคักเลยทีเดียว หลายที่บอกหารถไม่ได้ตามต้องการด้วยซ้ำไป! เป็นเพราะอะไร เดี๋ยว MR.CARRO จะพาไปทำความรู้จักกับการประมูลรถกัน …

Thailand-Car-Auctions

การประมูลรถ คือ การให้ผู้ซื้อ (ซึ่งส่วนใหญ่ จะเป็นผู้ประกอบการรถมือสอง) เข้ามาแข่งขันกันเสนอราคาให้มากที่สุดเท่าที่จะให้ได้ต่อรถคันนั้น ซึ่งวิธีดังกล่าวนั้น ทำให้รถยนต์มีมูลค่าเพิ่มจากปกติตามสภาพที่ขายได้ทั่วไป ซึ่งสถาบันการเงินหลายแห่งต่างนิยมมากในการปล่อยรถยนต์ที่ยึดมาจากลูกค้า ที่ไม่สามารถผ่อนจ่ายได้ตามกำหนด

รถประมูลส่วนมาก ที่นำมาประมูลกัน โดยหลักๆ แล้วจะมาจาก

1. รถจากสถาบันการเงิน มักจะมาจากรถยนต์ที่ถูกไฟแนนซ์ ยึดรถมาขายทอดตลาด

2. รถอุบัติเหตุ เป็นการประมูลซากรถ หรือขายซากรถนั้นเอง ส่วนใหญ่มักจะซื้อไปทำอะไหล่กัน

3. รถปลดระวางจากบริษัทรถเช่า หรือหน่วยงานราชการ ซึ่งรถประเภทนี้ หลายคันสภาพดี แต่หลายคันก็ใช้งานมาหนัก (โดยเฉพาะรถเช่า) ก่อนซื้อก็ต้องตรวจสอบดูว่า มีชนหนักเบา เครื่องยนต์สภาพเป็นอย่างไรบ้าง

4. รถของกลาง คือรถที่โดนตำรวจ หรือสรรพสามิตยึดมา บางคันเป็นรถที่ยึดมาจากพ่อค้ายาเสพติด หรือรถยนต์นำเข้าโดยการหนีภาษี หลายคันเป็นรถสปอร์ต รถซูเปอร์คาร์ ซึ่งรถพวกนี้บอกได้เลยว่าไม่ต้องไปสู้ให้เสียเวลา เพราะมีใบสั่งมาแล้ว ว่าใครจะประมูลรถคันไหนกลับไป

Thailand-Car-Auctions

หากใครที่คิดจะซื้อรถประมูล คุณต้องดูรถเป็นด้วย ไม่ว่าจะตัวถังรถ เครื่องยนต์ เลขรหัสต่างๆ ถูกต้องครบถ้วนหรือเปล่า ส่วนมากแล้วผู้ประมูลรถมักจะเป็นผู้ประกอบการเต็นท์รถมือสอง ที่ต้องการหารถเข้าเต็นท์ไปขายนั่นเอง รถบางคันอาจมีสภาพไม่สมบูรณ์ อาจจะต้องมา “เก็บงาน” อะไรกันอีก

แต่รถประมูลเหล่านี้ มั่นใจได้ว่าถูกกฎหมาย 100% แน่นอน เพราะทางผู้จัดการประมูล ต้องทำการตรวจสอบมาก่อนหน้าแล้ว นี่จัดว่าเป็นข้อดีของรถประมูล

และในเวลานี้ (เดือนกรกฎาคม 2563) รถยนต์มีเข้าสู่ระบบการประมูลน้อยลง เพราะลูกหนี้บางส่วนยังสามารถใช้รถยนต์ได้ โดยการประนอมหนี้กับทางสถาบันการเงิน ทำให้รถยนต์ที่เกิดจาก NPL ถูกยึดลดลง ส่งผลให้ราคารถยนต์มือสองปรับตัวขึ้นประมาณ 2 – 3% เพราะ Demand มากกว่า Supply ซึ่งรวมไปถึงรถประมูลด้วยเช่นกัน ซึ่งเป็นที่สนใจอย่างมาก ของบรรดาผู้ประกอบการรถมือสองในเวลานี้ ในการหาของดีราคาถูกเข้าเต็นท์รถ

สำหรับใครที่ต้องการประมูลรถ ไม่ว่าจะประมูลรถที่งานประมูล หรือจะประมูลรถออนไลน์ ก็เตรียมตัวเก็บตังค์กันไว้นะครับ

Thailand-Car-Auctions

อยากประมูลรถ ต้องทำอย่างไร?

ลงทะเบียนเข้าร่วมประมูล โดยเตรียมหลักฐาน ดังนี้

บุคคลธรรมดา

  • บัตรประชาชนพร้อมสำเนา
  • สำเนาทะเบียนบ้าน
  • กรณีที่ผู้ประมูลไม่ได้มาดำเนินการด้วยตัวเอง ให้ใช้หนังสือมอบอำนาจ พร้อมสำเนาบัตร ประชาชนของผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ

นิติบุคคล

  • หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล
  • สำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านของผู้เป็นหุ้นส่วนหรือกรรมการบริษัทที่มีอำนาจ ลงนามผูกพันนิติบุคคล

1. ผู้ซื้อควรตรวจสภาพรถและข้อมูลรถที่ตัวรถก่อนทำการประมูล

2. ผู้เข้าร่วมประมูลต้องมัดจำค่าป้ายหมายเลขผู้ประมูล 20,000 บาท ด้วยเงินสด หรือ แคชเชียร์เช็ค (หากไม่สามารถประมูลรถยนต์ได้ จะได้รับเงินคืนทันที)

3. กรณีต้องการจัดไฟแนนซ์หรือเช่าซื้อกรุณาติดต่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายเช่าซื้อ (ไฟแนนซ์) ก่อนทำการประมูลทุกครั้ง

4. แสดงเจตนาการซื้อรถยนต์ด้วยวิธียกป้ายหมายเลขประมูลเท่านั้น (ถ้าแสดงโดยวิธีอื่น โฆษกจะไม่นับขายให้) โดยเริ่มการประมูลจากราคากลาง ซึ่งหากผู้เข้าประมูลเสนอซื้อมากกว่า 1 ราย

• โฆษกจะปรับราคาขึ้นครั้งละ 2,000 บาท กรณีที่ราคาเริ่มต้น 1-999,999 บาท

• โฆษกจะปรับราคาขึ้นครั้งละ 10,000 บาท กรณีที่ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 1,000,000 บาทขึ้นไปและผู้เสนอซื้อในราคาสูงสุดจะเป็นผู้ชนะการประมูล

5.ผู้ชนะการประมูลต้องลงลายมือชื่อในเอกสารหลักฐานการประมูลและมีเจ้าหน้าที่พาไปชำระเงินมัดจำ

Thailand-Car-Auctions

6.กรณีที่ประมูลรถยนต์ได้ ต้องชำระเงินดังนี้

6.1 ชำระเงินในวันประมูล

  • วางเงินมัดจำ จำนวน 10% ของราคารถยนต์ที่ประมูลได้ หรือจ่ายผ่านบัตรเครคดิตวีซ่าการ์ด, บัตรเครดิตมาสเตอร์การ์ด (กรณีชำระด้วยบัตรเครดิต จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมในการใช้บัตรเครดิตเป็นเงินสด) ส่วนจำนวนเงิน 90% ที่เหลือชำระผ่านบัญชีภายใน 3 วัน ทำการนับจากวันที่ประมูลก่อนเที่ยง (12.00 น.)
  • ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ของเงินมัดจำ (กรณีรถที่มีภาษีมูลค่าเพิ่ม)
  • ค่าดำเนินการ 8,560 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว)
  • ค่าดำเนินการ รถ 6 ล้อ ขึ้นไป 10,700 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว)

6.2 ชำระเงินส่วนที่เหลือภายในวันพฤหัสบดีก่อน 12.00 น. ผู้ประมูลได้ตรวจสอบสภาพรถยนต์ และ อุปกรณ์ประจำรถยนต์ภายหลังการประมูล โดยบริษัท สหการประมูล จะออกใบตรวจสภาพรถแก่ท่านเป็นหลักฐานเพื่อใช้ยืนยันในวันรับรถ กรณีที่ท่านไม่ยอมตรวจสภาพรถยนต์ บริษัทฯถือว่าท่านสละสิทธิ์การเรียกร้องค่าเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้น

ผู้ชนะการประมูลมีความประสงค์ขอเปลี่ยนชื่อผู้ซื้อหลังจากหนังสือสัญญาออกแล้ว บริษัทฯจะเปลี่ยนให้ หากมีเหตุผลอันสมควรโดยคิดค่าใช้จ่ายดังนี้

  • รถที่ประมูลได้ราคาจบน้อยกว่า 10,000 บาท ต้องชำระค่าเปลี่ยนชื่อผู้ประมูลคันละ 3,000 บาท ต่อการเปลี่ยนชื่อ 1 ครั้ง
  • รถที่ประมูลได้ราคาจบตั้งแต่ 10,000 บาท ต้องชำระค่าเปลี่ยนชื่อผู้ประมูลคันละ 30% ของราคาจบการประมูล ผู้ประมูลรถยนต์ได้จะต้องรับผิดชอบค่าธรรมเนียม, ค่าภาษี, ค่าปรับ, ค่าจดทะเบียนในการขอใช้รถใหม่ (กรณีรถยนต์ที่ประมูลได้มีการแจ้งหยุดการใช้รถไว้) และเงินเพิ่มภาษีนิติบุคคล (รถ-ประมูลแบบนิติบุคคลและประมูลแบบรถด่วนที่โอนไม่เกิน 2 ต่อ ถ้ามี) รวมทั้งค่าใช้จ่ายอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการจดทะเบียนโอนและการรับโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์

กรณีที่ผู้ซื้อประมูลรถยนต์ได้และไม่ปฏิบัติตาม ข้อ 5 , ข้อ 6.1 บริษัทฯ ถือว่าท่านมีเจตนาก่อกวน และทำให้เกิดความเสียหายกับบริษัทฯ และผู้ประมูลซื้อคนอื่น บริษัทฯจะดำเนินการกับท่านตามที่บริษัทฯ เห็นสมควร เล่มทะเบียนของรถนิติบุคคล ท่านที่ประมูลได้จะได้เล่ม ประมาณ 30 วัน เล่มทะเบียนของรถบุคคลทั่วไป ท่านที่ประมูลได้จะได้เล่ม ประมาณ 15 วัน

ใครที่สนใจ อยากร่วมประมูลรถออนไลน์กับทาง CARRO เพื่อหารถไปใช้ ไปขาย หากมีข้อสงสัยประการใด สามารถ Inbox มาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand หรือโทร. 02-508-8425 ในเวลาทำการ (จันทร์-ศุกร์ 9.30 – 18.30 น.) หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand คลิกที่นี่จ้า —> เพิ่มเพื่อน

ขอขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก

New-Car-Booking-MotorShow-2020

บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เผยยอดจองรถยนต์หลังการจัดงาน Motor Show 2020 แม้จะต้องเผชิญกับปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่ก็ยังมีผู้เข้าชมงานเป็นจำนวนถึง 1,049,046 คน ขณะที่ยอดจองในงานทะลุ 20,000 คัน ส่งผลให้ยอดขายรถในช่วงครึ่งปีหลังมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น

เมื่อรวมเข้ากับสภาวะของเศรษฐกิจที่บรรยากาศไม่เอื้อต่อการจับจ่ายของผู้บริโภค แม้ค่ายรถยนต์จะพยายามนำเสนอแคมเปญที่ดีภายในงาน แต่ผู้บริโภคก็ยังคงชะลอการตัดสินใจในการซื้อรถออกไป สะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น มีผลต่ออารมณ์และความรู้สึกของผู้บริโภค ในการตัดสินใจใช้เงินในสภาวะเช่นนี้

ยอดจองรถยนต์ วันที่ 29 มี.ค. – 9 เม.ย. 2560 รวม 36,093 คัน

ยอดจองรถยนต์ วันที่ 28 มี.ค. – 8 เม.ย. 2561 รวม 36,587 คัน

ยอดจองรถยนต์ วันที่ 27 มี.ค. – 7 เม.ย. 2562 รวม 49,278 คัน

ยอดจองรถยนต์ วันที่ 15 ก.ค. – 26 ก.ค. 2563 รวม 22,791 คัน

ตัวเลขยอดจองรวมทุกค่ายอยู่ที่ 22,791 คัน แบ่งเป็นรถยนต์ 18,381 คัน และรถจักรยานยนต์ 4,410 คัน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงกับเป้าที่แต่ละบริษัทฯ ได้คาดการณ์ไว้ แม้ว่าประชาชนส่วนใหญ่ยังคงระมัดระวังเรื่องการใช้จ่าย เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก

 ยอดจองรถยนต์ในงาน-Motor-Show-2020

ตารางยอดจองรถยนต์ในงาน Motor Show 2020

ยอดจองรถจักรยานยนต์ในงาน-Motor-Show-2020

ตารางยอดจองรถจักรยานยนต์ในงาน Motor Show 2020

ซึ่งจากตัวเลขยอดจองรถภายในงาน ตลาดรถยนต์ในกลุ่มราคาตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไปยังคงได้รับความสนใจจากผู้บริโภค เนื่องจากมีการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆ โดยเฉพาะในกลุ่มรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ ที่ได้รับความสนใจจากผู้บริโภคเพิ่มมากขึ้น

ยอดจองรถยนต์ 10 อันดับของ Motor Show 2020 วันที่ 15 ก.ค. – 26 ก.ค. 2563

1. Toyota 3,745 คัน

Toyota-Corolla-Cross-2020

2. Mazda 2,365 คัน

Mazda-CX-30-2020

3. Honda 2,001 คัน

Honda-CR-V-2020

4. Suzuki 1,583 คัน

Suzuki-XL7

5. Isuzu 1,510 คัน

Isuzu-D-Max-2020

6. MG 1,399 คัน

MG-ZS-2020

7. Mitsubishi 1,227 คัน

Mitsubishi-Xpander-Cross

8. Nissan 952 คัน

Nissan-Kicks-e-POWER-2020

9. BMW 888 คัน

BMW-X3-2020

10. Ford 742 คัน

Ford-Ranger-Raptor-2020

ส่วนแบรนด์รถจักรยานยนต์ ที่ทำยอดจองสูงสุด ได้แก่ อันดับ 1 ฮอนด้า ยอดจองรวม 1,545 คัน อันดับ 2 ยามาฮ่า 1,387 คัน อันดับ 3 คาวาซากิ ยอดจองรวม 446 คัน อันดับ 4 รอยัล เอนฟิลด์ ยอดจองรวม 321 คัน และอันดับ 5 ซูซูกิ 203 คัน

ส่วนถ้าใครอยากขายรถ เพื่อนำเงินไปซื้อรถใหม่ ง่ายๆ เพียงขายรถคันเก่ากับ CARRO Express ได้เงินไว! เร็ว! พร้อมปิดการขายได้ทันที แค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรืออยากตีราคารถก่อน สามารถ Inbox สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothai หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

Motor-Show-2020-Accessories

“Motor Show 2020” (มอเตอร์โชว์ 2020) หรือ The 41th Bangkok International Motor Show 2020 แม้ว่าในปีนี้ทางผู้จัดงานฯ จำเป็นต้องเพิ่มเนื้อที่ในส่วนของการโชว์รถยนต์มากขึ้น อันเนื่องมาจากผลกระทบของโควิด-19 ที่ต้องเน้นการรักษาระยะห่างทางสังคม หรือ Social Distrancing ทำให้เนื้อที่ในส่วนของร้านอุปกรณ์ตกแต่ง และบูธเครื่องเสียงติดรถ จึงต้องหายไปพอสมควร

แต่ก็ยังมีมุม Accessories ที่นำอุปกรณ์ประดับยนต์ต่างๆ มาโชว์ในงานเช่นเคย อาทิเช่น กล้องติดรถยนต์ ฟิล์มกรองแสง ล้อแม็ก ยางรถยนต์ เครื่องเสียงติดรถ หมวกกันน็อค หรืออุปกรณ์ทำความสะอาดรถ

ที่มาพร้อมโปรโมชั่นพิเศษมากมาย และกิจกรรมต่างๆ ให้ผู้ที่มาเดินเที่ยวชมงานได้เสียเงินเลือกซื้อ ติดไม้ติดมือกลับบ้าน …

ทาง CARRO อยากให้คนรักรถทุกท่าน หาโอกาสไปเดินเที่ยวกันจริงๆ ครับ … เชิญชมกับภาพบรรยากาศของ รถแต่ง ของแต่งรถ และเครื่องเสียงติดรถ ในงาน Motor Show 2020 กันได้เลย

Honda-Pretty-Motor-Show-2020

Pretty Honda

Isuzu-Pretty-Motor-Show-2020

Pretty Isuzu

Lexus-Pretty-Motor-Show-2020

Pretty Lexus

AP-Honda-Pretty-Motor-Show-2020

Pretty AP Honda

BMW-Motorrad-Pretty-Motor-Show-2020

Pretty BMW Motorrad

Motor-Show-2020-Accessories-1

มุมฟิล์มกรองแสง

Motor-Show-2020-Accessories

มุมกิจกรรมกลางแจ้ง

Motor-Show-2020-Accessories

มุมมือถือ + Gadget ก็มีมา!

Nissan-Skyline-Motor-Show-2020

Nissan Skyline GT-R (BNR32) รถแข่งคันดังในยุค 90

Motor-Show-2020-Accessories

มุมของเล่น (สำหรับผู้ใหญ่)

Motor-Show-2020-Accessories

มุมล้อแม็กและยาง

Motor-Show-2020-Accessories

กระเป๋าเป้สวยๆ ก็มีให้เลือกซื้อ

Miss-Motor-Show-2020

Miss Motor Show 2020 พร้อมมาพบกับคุณทุกวัน

ส่วนถ้าใครอยากขายรถ เพื่อนำเงินไปซื้อรถใหม่ ง่ายๆ เพียงขายรถคันเก่ากับ CARRO Express ได้เงินไว! เร็ว! พร้อมปิดการขายได้ทันที แค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรืออยากตีราคารถก่อน สามารถ Inbox สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

ขอขอบคุณรูปภาพบางส่วนจาก:

The-10-Best-In-Motorshow-2020

งาน “มอเตอร์โชว์ 2020” หรือ “Motor Show 2020” ในยุค New Normal ที่มีรถยนต์ รถจักรยานยนต์ รุ่นใหม่ๆ มาโชว์แล้ว รวมไปถึงอุปกรณ์เกี่ยวเนื่อง อุปกรณ์ตกแต่ง โปรโมชั่น และพริตตี้สาวสวยในยุคเฟซชิลด์ ที่ดูแปลกตาไปจากปีผ่านๆ มา …

ในงาน Motor Show 2020 ครั้งนี้ ถือเป็นมาตรฐานใหม่ของการจัดงานแสดง เป็นงานอีเว้นท์ใหญ่ของประเทศ ที่มีมาตรการการเฝ้าระวังโรคติดต่อที่มีประสิทธิภาพเป็นที่ยอมรับทั้งในและต่างประเทศ โดยการขับเคลื่อนในเชิงธุรกิจ ก็ยังจำเป็นจะต้องดำเนินต่อไป

ภายในงานยังถือได้ว่ามีเรื่องราว “ที่สุด” ของยานยนต์ทั้งหลายที่นำมาโชว์ในงานครั้งนี้ด้วย CARRO ขอรวบรวม “10 ที่สุด” ที่เกี่ยวกับรถยนต์ในงาน “Motor Show 2020” มาให้ทุกท่านได้ทึ่งกัน ว่ามีด้วยหรือเนี่ย!

Suzuki-Celerio-2020

ถูกที่สุด

รถที่ “ถูก” ที่สุดในงาน Motor Show 2020 ครั้งนี้ต้องยกให้ Suzuki Celerio (ซูซูกิ เซเลริโอ) รถ Eco-Car ขนาดเล็กของซูซูกิขายกันมาหลายปี มาในราคาเพียง 318,000 บาท ที่ขายกันมายาวนานหลายปี

มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.0 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 68 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 90 นิวตัน-เมตร พร้อมระบบส่งกำลังแบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT

Rolls-Royce-Phamtom-2020

แพงที่สุด

รถที่ “แพง” ที่สุดในงาน Motor Show 2020 ยังคงเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก Rolls-Royce Phantom (โรลส์-รอยซ์ แฟนทอม) เป็นรถยนต์เพียงรุ่นเดียวที่ได้รับการขนานนามให้เป็น “King of cars” หรือรถยนต์ที่ดีสุดในโลก ได้รับความนิยมอย่างมากในบรรดา ดาราฮอลลีวูด, เซเลบริตี้ระดับ A-List รวมถึงนักกีฬาและนักดนตรีระดับแนวหน้า ในราคาคันละ 53,500,000 บาท!!!

ทะยานอย่างฉับไวแต่เงียบเชียบ ผสานความนุ่มนวลของการขับเคลื่อนแบบพรมวิเศษ (Magic Carpet Ride) ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน Twin Turbo V12 สูบ ขนาด 6.75 ลิตร ตัวถังสีทูโทน ล้อแม็กขอบ 22 นิ้ว ห้องโดยสารแบบ Bespoke Interior มาพร้อมกับ Starlight Headliner ที่ช่วยสร้างบรรยากาศท้องฟ้าในยามค่ำคืน และ The Gallery แบบ Rivenslate ลงตัวกับแดชบอร์ดที่ตกแต่งด้วยสีดำ Piano black

Lamborghini-Aventador-SVJ-Roadster-2020

รถ Super Car แพงที่สุด / เร็วที่สุด

รถ Super Car ที่ขึ้นชื่อว่า “แพง” ที่สุดในงาน Motor Show 2020 ครั้งนี้คือ Lamborghini Aventador SVJ Roadster (ลัมโบร์กินี อเวนทาดอร์ เอสวีเจ โรดสเตอร์) ที่มีราคาสูงถึง 48,980,000 บาท!!! และยังผลิตจำนวนจำกัดเพียง 800 คันทั่วโลก

มาพร้อมกับระบบอากาศพลศาสตร์ ALA (Aerodynamica Lamborghini Attiva) 2.0 ที่พัฒนาให้ทำงานได้รวดเร็วยิ่งขึ้น และมีประสิทธิภาพในการจัดการอากาศได้ดีกว่ารุ่น Aventador SV Roadster ถึง 40%

มาพร้อมกับประสบการณ์ขับขี่แบบ Open Air ที่สมบูรณ์แบบที่สุด ตัวหลังคาทำจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ ใช้เครื่องยนต์ V12 ขนาด 6.5 ลิตร ที่สามารถรีดพละกำลังสูงสุดถึง 770 แรงม้า ช่วยให้ทะยานจาก 0-100 ภายในเวลาเพียง 2.9 วินาที ทำความเร็วสูงสุด 350 กม./ชม.

Rolls-Royce-Cullinan-2020

รถ SUV แพงที่สุด

ส่วนรถ SUV ที่ขึ้นชื่อว่า “แพง” ที่สุดในงาน Motor Show 2020 ได้แก่ Rolls-Royce Cullinan (โรลส์-รอยซ์ คัลลิแนน) ตัวรถระดับ Ultra Luxury SUV รุ่นแรกของ Rolls-Royce ในราคา 33,500,000 บาท!!!

Cullinan ตั้งชื่อตามเพชรที่มีขนาดใหญ่สุดในโลก ซึ่งปัจจุบันถูกนำไปประดับอยู่บนมงกุฏของพระราชินีแห่งอังกฤษ โครงสร้างตัวถังผลิตจากอะลูมิเนียม ที่เป็นสิทธิบัตรของโรลส์-รอยซ์

ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน Twin Turbo V12 สูบ 6.75 ลิตร 563 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 850 นิวตันเมตร ที่ 1,600 รอบ/นาที ส่งกำลังสู่ล้อทั้ง 4 ผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ห้องโดยสารสามารถขยายพื้นที่เพื่อเพิ่มความจุสัมภาระได้สูงสุดถึง 1,930 ลิตร

ขณะที่ช่วงล่างหน้าเป็นแบบดับเบิลวิชโบน และหลังแบบ 5 ลิงก์ ปรับความสมดุลอัตโนมัติ นับเป็นยนตรกรรมอเนกประสงค์สุดหรู รุ่นแรกในประวัติศาสตร์ของ โรลส์-รอยซ์ ที่พร้อมฟันฝ่าอุปสรรคในทุกสภาพเส้นทาง

Takano-Auto-Thailand-2020

รถยนต์ไฟฟ้า ราคาถูกที่สุด

รถยนต์ไฟฟ้า ที่ราคาถูกสุดในงาน Motor Show 2019 ต้องยกให้ รถกระบะไฟฟ้าขนาดจิ๋ว Takano (ทากาโน่) TTE500 พาคุณไปได้ทุกที่ สามารถรับน้ำหนักในการบรรทุกได้มากถึง 300 กิโลกรัม

ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 5 กิโลวัตต์ พร้อมแบตเตอรี่ 12V 125 แอมป์ ขนาด 6 ลูก ใต้พื้นกระบะหลัง และเครื่องยนต์เบนซินขนาดจิ๋วช่วยปั่นไฟฟ้าให้แบตเตอรี่ ให้ระยะทางต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ที่ 100-120 กิโลเมตร โดยใช้เงินเพียง 30 บาท และทำความเร็วได้สูงสุด 60 กม./ชม. ในราคาพิเศษเพียง 388,000 บาท! (จากราคาปกติ 438,000 บาท)

Porsche-Taycan

รถยนต์ไฟฟ้า ราคาแพงที่สุด

รถยนต์ไฟฟ้าแพงที่สุดในงาน อยู่ที่บูธ Porsche นั่นคือ Porsche Taycan (ปอร์เช่ ไทคานน์ ใหม่) รถสปอร์ตคันแรกจากปอร์เช่ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าสมบูรณ์แบบ ตัวถัง 4 ประตูซีดานที่ยังคงเอกลักษณ์งานออกแบบของปอร์เช่ เอาไว้อย่างครบถ้วน พร้อมสมรรถนะการขับขี่สุดเร้าใจ และเทคโนโลยีล้ำยุค

เปิดตัวด้วยรุ่น ไทคานน์ เทอร์โบ เอส (Taycan Turbo S) พละกำลังสูงสุดกว่า 761 แรงม้า ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 7,100,000 บาท ไทคานน์ เทอร์โบ (Taycan Turbo) พละกำลังสูงสุด 680 แรงม้า ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 9,900,000 บาท

และ ไทคานน์ 4 เอส (Taycan 4S) พละกำลังสูงสุด 530 แรงม้า ที่มีราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 11,700,000 บาท! จัดว่าเป็นรถ EV ที่แพงที่สุดในงานนี้

Hyundai-County-2020

ใหญ่ที่สุด

ไม่มีใครใหญ่ไปกว่านี้แล้วในงาน Motor Show 2020 ครั้งนี้ ต้องยกให้ Hyundai County (ฮุนได เคานตี้) รถบัสที่บริษัท ฮุนได คอมเมอร์เชียล เวฮิเคิลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด ในเครือ ยนตรกิจ คอร์เปอเรชั่น เพิ่งจะได้สิทธิ์เป็นผู้นำเข้าและประกอบขายในบ้านเรา ในชื่อการค้าคือ Hyundai Truck & Bus (ฮุนได ทรัค แอนด์ บัส)

สำหรับ Hyundai County เป็นรถบัสขนาด 18+1 ที่นั่ง มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซล D4D ขนาด 3.9 ลิตร แรงม้าสูงสุด 140 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ราคาเปิดตัวที่ 1,991,000 บาท

Siam-Watercraft-Cobalt

แปลกที่สุด

แปลกที่สุดในงาน Motor Show 2020 ต้องยกให้เรือ Cobalt ลำใหญ่ของบูธ SiamWatercraft ที่มาโชว์ในงานครั้งนี้

BMW-K1600B-2020

รถมอเตอร์ไซค์แพงที่สุด

รถมอเตอร์ไซค์แพงที่สุดในงาน Motor Show 2020 ต้องยกให้ BMW K1600B (บีเอ็มดับเบิลยู เค1600บี) ในราคา 1,695,000 บาท!

Toyota-In-Motor-Show-2020

บูธยี่ห้อรถคนสนใจเยอะสุด

ในงาน Motor Show 2020 ด้วยการจัดงานในรูปแบบวิถีชีวิตใหม่ “New Normal” ทำให้การเข้าชมในบูธนั้น ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ต้องจำกัดผู้คนต่อเนื้อที่ของบูธ สแกนเช็กอิน-เช็กเอาท์ ผ่าน App ไทยชนะ และต้องล้างมือด้วยเจลแอลกฮอลล์ เพื่อป้องการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยบูธที่คนให้ความสนใจมากที่สุดในงานนี้คงต้องยกให้ Toyota (โตโยต้า)

เนื่องจากมีผู้คนสนใจรถรุ่นใหม่ที่ Toyota นำมาโชว์ในงานนี้มาก อาทิเช่น Toyota Corolla Cross, Toyota Hilux Revo และ Toyota Fortuner เป็นต้น ทำให้มีผู้คนยอมรอต่อแถวเข้าคิวยาวเหยียด หรือรอรับบัตรคิวไว้นับพันคนเลยทีเดียว!

ส่วนถ้าใครอยากขายรถ เพื่อนำเงินไปซื้อรถใหม่ ง่ายๆ เพียงขายรถคันเก่ากับ CARRO Express ได้เงินไว! เร็ว! พร้อมปิดการขายได้ทันที แค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรืออยากตีราคารถก่อน สามารถ Inbox สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

ขอขอบคุณรูปภาพบางส่วนจาก:

Pickup-In-Motorshow-2020

รถกระบะ ถือเป็นรถที่ยอดนิยมอย่างยิ่งของชาวไทยมานานนับหลายสิบปี ที่มาพร้อมเทคโนโลยี ออพชั่น และกำลังเครื่องยนต์ที่มากขึ้นเรื่อยๆ และยอดขายยังเป็นปัจจัยที่แสดงให้เห็นถึงสภาวะเศรษฐกิจได้อีกทางหนึ่ง เป็นรถสารพัดประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ ใช้งานได้ทั้งในเมือง ในที่ทุรกันดาร ขนของ ขนสัตว์ ใช้รับจ้างหาเงิน ทำเป็นรถสองแถวก็ได้ หรือใช้งานส่วนตัวก็ดี ฯลฯ

ในงาน Motor Show 2020 นี้ ผู้ผลิตรถกระบะหลายเจ้าอย่าง โตโยต้า, อีซูซุ, นิสสัน, มิตซูบิชิ, ฟอร์ด หรือ เชฟโรเลต ต่างส่งรถกระบะโฉมใหม่ หรือรุ่นพิเศษของตัวเองออกมาเพื่อกระตุ้นตลาด ช่วงชิงยอดจองและยอดขาย โดนใจผู้บริโภคที่อยากเปลี่ยนรถกระบะคันใหม่

โดยในงาน Motor Show 2020 จะมีรถกระบะรุ่นใดที่น่าซื้อนั้น CARRO ขอนำเสนอข้อมูลให้ทุกท่านดูกันได้เลยครับ …

Toyota-Hilux-Revo-Rocco-2020

Toyota Hilux Revo

Toyota Hilux Revo (โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่) ปรับโฉมใหญ่ต้อนรับปี 2020 เปิดตัวไปเมื่อเดือนกรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา เริ่มต้นด้วยหน้าตาภายนอก ไฟหน้าดีไซน์ใหม่แบบ Bi-Beam + ไฟ LED Daytime Running Light และไฟท้ายแบบ LED Light Guiding

และสำหรับรุ่นพิเศษ Rocco นอกจากจะมีชุดตกแต่งพิเศษ อาทิ สปอร์ตบาร์ ล้ออัลลอยดีไซน์พิเศษ พร้อมยางแบบ White Letters และยังเป็นครั้งแรกที่ติดตั้งระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense อีกด้วย

ส่วนภายในห้องโดยสาร มาพร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว ที่รองรับ Apple CarPlay พ่วงด้วย T-Connect และมาตรวัดดีไซน์ใหม่ ปรับปรุงสมรรถนะเครื่องยนต์ใหม่ในรุ่น 2.8 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุดถึง 204 แรงม้า (PS) พร้อมแรงบิดที่ 500 นิวตันเมตร (Nm) ในช่วงความเร็วรอบเครื่องยนต์ที่กว้างตั้งแต่ 1,600-2,800 รอบ/นาที

และสำหรับรุ่น Off-Road เครื่องยนต์ได้ปรับลดความเร็วรอบเดินเบา (จาก 850 รอบ/นาที เป็น 680 รอบ/นาที) เพื่อให้ลุยเส้นทาง Off-Road ได้อย่างมั่นคง

ราคาของ Toyota Hilux Revo มีดังนี้

  • Hilux Revo Z-Edition มี 12 รุ่น ราคา 609,000 – 809,000 บาท
  • Hilux Revo ยกสูง แบบขับเคลื่อน 2 ล้อ Pre-Runner มี 12 รุ่น ราคา 707,000 – 1,009,000 บาท
  • Hilux Revo แบบขับเคลื่อน 4 ล้อ มี 5 รุ่น ราคา 862,000 – 1,159,000 บาท
  • Hilux Revo Rocco มี 4 รุ่น ราคา 949,000 – 1,239,000 บาท

Isuzu-D-Max-2020

Isuzu D-Max

Isuzu D-Max Stealth (อีซูซุ ดีแมคซ์) โฉมใหม่! ครั้งแรกของโลก! ผลงานความสมบูรณ์แบบล่าสุดจาก DNA ของ Isuzu ภายใต้แนวคิด BOLD, EMOTIONAL and SMART ดีไซน์ใหม่หมดทุกมิติ ทั้งภายนอกภายใน มิติตัวรถใหญ่ บึกบึนยิ่งขึ้น ดูทรงพลัง และแข็งแกร่งยิ่งขึ้นกว่าเดิม แต่ยังมีเส้นสายพริ้วไหว ช่วยให้ตัวรถดูปราดเปรียว และสปอร์ต แรงสะใจ กับแพลตฟอร์มใหม่ ระบบความปลอดภัยใหม่เต็มรูปแบบ เทคโนโลยีใหม่ในทุกฟังก์ชั่น

ห้องโดยสารภายใน เน้นเส้นสายที่เฉียบคม คอนโซลหน้าเล่นระดับแบบ Sharp Horizontal Layers ใช้วัสดุพรีเมี่ยมหลากหลาย พร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบครัน ใช้งานง่ายตามหลัก Usability Design พร้อมระบบความบันเทิง ISUZU Ultimate Entertainment หน้าจอระบบสัมผัส Infotainment Display ขนาด 9 นิ้ว คมชัดระดับ HD รองรับระบบ Apple CarPlay และ Android Auto ระบบเสียงรอบทิศทาง Dynamic Surround Sound 8 ลำโพง

มีให้เลือกครอบคลุมทั้งรุ่น 4 ประตู และ 2 ประตู พร้อมเครื่องยนต์ 1.9 ลิตร 150 แรงม้า และ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ 190 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 6 สปีดพัฒนาใหม่สไตล์สปอร์ต ขับสนุก แม่นยำยิ่งขึ้น และเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดใหม่ ให้การเปลี่ยนเกียร์ที่นุ่มนวล พร้อมโหมดขับขี่แบบสปอร์ต Rev Tronic

ราคาของ Isuzu D-Max อยู่ที่ 510,000 – 1,157,000 บาท

Nissan-Navara-2020

Nissan Navara

Nissan Navara (นิสสัน นาวารา) ที่ผ่านมาก็มีข่าวว่า Nissan จะปรับโฉมใหญ่ให้กับ Navara โฉมนี้ที่ขายในไทยมานับตั้งแต่ปี 2014 แต่ก็ยังคงต้องติดตามรอข่าวกันต่อไป

ในส่วนของ Navara มาพร้อมกับรูปทรงที่บึกบึน มีเทคโนโลยีกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง Around View Monitor (AVM) ที่ช่วยให้สามารถมองเห็นตัวรถและสิ่งรอบข้างผ่านกล้องที่ถูกติดตั้งรอบคัน ซึ่งรวมถึง ระบบเบรค ABS ถุงลมนิรภัย กุญแจรีโมท ปุ่มสตาร์ท และ ช่องแอร์ปรับอากาศด้านหลังอีกด้วย

มาพร้อมเครื่องยนต์ให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่ขนาด 2.5 ลิตร รหัส YD25DDTi ให้แรงม้าสูงสุด 163 แรงม้า ส่วนในรุ่น 4WD รหัส YD25DDTi VGS Turbo Intercooler ให้แรงม้าสูงสุด 190 แรงม้า

ราคาของ Nissan Navara อยู่ที่ 559,500 – 1,096,000 บาท

Mitsubishi-Triton-2020

Mitsubishi Triton

Mitsubishi Triton (มิตซูบิชิ ไทรทัน) โฉมไมเนอร์เชนจ์ มาในแนวคิด “Engineered Beyond Tough” หน้าตาภายนอกใช้ไฟหน้าแบบ 2 ชั้น และกระจังหน้าแบบ Dynamic Shield มาพร้อมไฟท้ายแบบ LED Tube กับกันชนดีไซน์ใหม่ ลงตัวกับล้อแม็กลาย 6 ก้านคู่ และด้วยระยะความสูงจากพื้นถึง 700 มม. ช่วยลดความเสี่ยงที่ไฟหน้าและไฟตัดหมอกจะได้รับความเสียหายขับรถลุยน้ำท่วม หรือถูกหินกระเด็นใส่ตัวรถ

ส่วนออพชั่นภายใน และดีไซน์ภายในห้องโดยสาร ปรับเปลี่ยนเยอะพอสมควร ช่องแอร์แบบใหม่ ใช้วัสดุภายในดูโดดเด่นขึ้น และยังมาพร้อมระบบความปลอดภัยเชิงป้องกันและระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่ครบครันที่สุดในระดับเดียวกัน รวมไปถึงกล้องมองภาพรอบคัน ที่ใช้กล้อง 4 ตัวจับภาพรอบคันพร้อมภาพมุมสูงที่แสดงสิ่งกีดขวางรอบคัน และเซ็นเซอร์กะระยะจอด เพื่ออำนวยความสะดวกในการจอดรถ

มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร รหัส 4N15 แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว VG Turbo Clean Diesel ให้แรงม้าสูงสุด 181 แรงม้า ที่ 3,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร ที่ 2,500 รอบ/นาที รองรับการใช้น้ำมันไบโอดีเซล B20 ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และอัตโนมัติ 6 สปีด แบบใหม่พร้อม Sport Mode

ส่งกำลังผ่านระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Super Select 4WD-II พร้อมฝ่าอุปสรรคในทุกสภาพเส้นทาง ด้วย 4 โหมดการขับขี่ ได้แก่ โหมด 2H ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และโหมด 4H ขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Full-Time All Wheel Control พ่วงด้วยโหมด 4HLc ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัตราทดความเร็วสูง

ราคาของ Mitsubishi Triton อยู่ที่ 654,000 – 1,099,000 บาท

Ford-Ranger-Raptor-2020

Ford Ranger Raptor

Ford Ranger Raptor (ฟอร์ด เรนเตอร์ แรพเตอร์) ถูกสร้างมาไม่ซ้ำใคร เพราะนี่คือรถกระบะออฟโรดคันแรกของเอเชีย ที่ตั้งใจสร้างมาแบบไร้ข้อจำกัด สร้างและพัฒนายนตรกรรมออฟโรดทั้งคัน ทำใหม่หมด! ส่งตรงจากโรงงานของฟอร์ด นี่แหละกระบะพันธุ์โหดออฟโรดตัวจริงที่พร้อมลุยทุกเส้นทาง

โครงสร้างทั้งหมดประกอบไปด้วยเหล็ก High-strength Low-alloy (HSLA) หลายเกรด เพื่อให้พร้อมรับทุกความโหด และเข้าถึงสมรรถนะขั้นสุด แชสซีส์ถูกปรับโครงสร้างใหม่หมด มาพร้อมโช้คอัพคู่ด้านหน้าและหลังของ Fox Racing Shox ที่มาพร้อมระบบบายพาสภายใน (Internal Bypass) และระบบกันสะเทือนหลังแบบใหม่ รวมถึงระบบวัตต์ลิงค์และคอยล์โอเวอร์ช็อค ที่เน้นสมรรถนะการขับขี่บนทางออฟโรดเป็นพิเศษ

มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล EcoBlue TDCi 4 สูบแถวเรียง ขนาด 2.0 ลิตร (1,996 ซีซี) Twin Turbo (ทำงานร่วมกันระหว่าง High-Pressure (HP Turbo) เทอร์โบแรงดันสูง และ Low-Pressure (LP Turbo) เทอร์โบแรงดันต่ำ ควบคุมด้วยวาล์ว Bypass) ให้แรงม้าสูงสุด 213 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย Paddle Shift มาพร้อมระบบ Terrain Management System (TMS) สามารถปรับโหมดการขับขี่ได้ถึง 6 แบบ รวมถึงโหมดการขับขี่บาฮาสำหรับการขับขี่ออฟโรดด้วยความเร็วสูง

ราคาของ Ford Ranger อยู่ที่ 569,000 – 1,265,000 บาท

ราคาของ Ford Ranger Raptor อยู่ที่ 1,699,000 บาท

MG-Extender-2020

MG Extender

MG Extender (เอ็มจี เอ็กซ์เทนเดอร์) มาพร้อมรูปลักษณ์ที่โดดเด่นเหมือน “พี่บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” พรีเซ็นเตอร์ของรถรุ่นนี้ ด้วยกระจังหน้าแบบ Modern Design ที่เป็นเอกลักษณ์ของ MG พร้อมมิติตัวถังขนาดใหญ่ รวมถึงกระบะท้ายใหญ่กว่า ช่วยเพิ่มปริมาณการบรรทุกได้มากยิ่งขึ้น ช่วงล่าง แบบ Euro Tuning Suspension พร้อมโครงสร้างตัวถังที่แข็งแกร่งและสร้างด้วยเทคโนโลยีการผลิตขั้นสูง ปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วยดิสก์เบรก 4 ล้อ และระบบความปลอดภัยมาตรฐานยุโรป Advanced Synchronized Protection System

ภายในรถ มาพร้อมความอัจฉริยะด้วยระบบปฏิบัติการ i–SMART เอกสิทธิ์เฉพาะสำหรับผู้ใช้รถยนต์ MG

ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล ขนาด 2.0 ลิตร Turbo ให้แรงม้าสูงสุด 161 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 375 นิวตันเมตร รองรับน้ำมันดีเซล B10 ครอบคลุมทั้งเกียร์ธรรมดา และเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด

มีให้เลือกทั้งแบบกระบะตอนครึ่ง (Giant Cab) และแบบ 4 ประตู (Double Cab) ซึ่งมีทั้งระบบขับเคลื่อนแบบ 2 ล้อ (2WD) และแบบ 4 ล้อ (4WD)

ราคาของ MG Extender อยู่ที่ 549,000 – 1,029,000 บาท

… ถูกใจรุ่นไหน ไปสัมผัสตัวจริงได้ที่งาน Motor Show 2020 กันได้เลยนะครับ …

ส่วนถ้าใครอยากขายรถ เพื่อนำเงินไปซื้อรถใหม่ ง่ายๆ เพียงขายรถคันเก่ากับ CARRO Express ได้เงินไว! เร็ว! พร้อมปิดการขายได้ทันที แค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรืออยากตีราคารถก่อน สามารถ Inbox สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothai หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

ขอขอบคุณรูปภาพจาก: