เช็กสภาพรถให้แม่-ก่อนออกเดินทาง

สำหรับช่วงวันแม่และตลอดเดือนของแม่ปีนี้ เพื่อนๆ หลายคนก็มักจะเลือกพาคุณแม่ของเราออกเดินทางไปเที่ยวต่างจังหวัดกันซะเป็นส่วนใหญ่แน่เลย ไม่ว่าจะเป็นการพาไปรับประทานอาหารร้านดัง พาไปเที่ยว ทำบุญเสริมสร้างดวงชะตาตามวัดต่างๆ เพียงแค่นี้ก็คงทำให้คุณแม่ของเราเปรมสุขกันเป็นที่เรียบร้อย

เช็กสภาพรถให้แม่ก่อนออกเดินทาง

แน่นอนว่าถ้าหากเพื่อนๆ ไม่ได้ออกเดินทางไปเที่ยวในช่วงวันแม่ด้วยรถขนส่งสาธารณะแล้ว การใช้รถยนต์ของคุณแม่หรือของเพื่อนๆ นั้น ก็ควรที่จะเริ่มเช็กสภาพรถยนต์ให้พร้อมใช้งานนะ จะได้ไม่ต้องกังวลถ้าหากขับรถยนต์ไปสักพักเกิดมีอะไรผิดพลาดขึ้นมาเราและคุณแม่จะรับมืออย่างไรดี และยิ่งถ้าคุณแม่ของเรามีอายุเยอะแล้ว ต้องใช้รถยนต์ทุกวันไปทำงาน เพื่อนๆ ก็น่าจะลองเช็กสภาพรถให้ท่านดูนะว่ามีอะไรที่ดูไม่ปกติขึ้นมา เราจะได้รับมือและแก้ไขปัญหาได้ทันที เพื่อเป็นการป้องกันเหตุสุดวิสัยให้คุณแม่และเพิ่มความอุ่นใจให้ตัวเรา

ดังนั้นวันนี้ มาสิ ได้รวบรวมวิธีเช็กรถยนต์ของคุณแม่ให้มีสภาพพร้อมใช้งานก่อนออกเดินทางมาฝากกันจ้า รับรองว่าทั้งเราและคุณแม่จะได้เที่ยวอย่างสนุกและมีความสุขในช่วงวันแม่และตลอดเดือนของแม่ปีนี้แน่นอนจ้า

1.ยาง

001_car-tire

ลองตรวจสอบดูความดันของยาง ดอกยาง รวมไปถึงรอยฉีกขาด ถ้าเกิดอาการผิดปกติให้เริ่มแก้ไขทันที เพื่อความปลอดภัยของตัวเพื่อนๆ และคุณแม่

2.ดวงไฟ

ให้เช็กสภาพของไฟดูว่าสภาพพร้อมมากแค่ไหน ไฟส่องสว่างมากพอรึเปล่า ตรวจดูทั้งไฟหน้า ไฟท้าย รวมไปถึงไฟเบรกต่างๆ

3.แบตเตอรี่

003_car-battery

ควรหมั่นดูและเติมน้ำกลั่นให้อยู่ในระดับที่กำหนดไว้ ดูลักษณะแบตเตอรี่ว่ามีร่องรอยเสียหายหรือเปล่า รวมไปถึงการเช็กดูขั้วต่อและสายไฟว่าอยู่ในสภาพที่ดีหรือไม่

เท่านี้เพื่อนๆ ก็สามารถเช็กสภาพรถยนต์เบื้องต้นได้แล้ว ถ้าหากเกิดมีข้อบกพร่องตรงไหนก็อย่าลืมรีบเข้าไปแก้ไขก่อนออกเดินทางได้อย่างทันที สำหรับการทำประกันรถยนต์ก็สามารถช่วยให้ชีวิตของเพื่อนๆ และคุณแม่อุ่นใจได้มากขึ้น หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาประกันรถยนต์ก็จะคอยคุ้มครองให้ คลิกที่นี่ เพือเช็กเบี้ยประกันรถยนต์ได้เลย ถ้าข้อมูลอยากสอบถามโทรเข้ามาที่ 02 710 3100 หรือไลน์ @masii

ขอบคุณบทความดีๆ จาก www.masii.com

Gadget-ติดรถยนต์สำหรับคุณแม่สมัยนี้!

ยุคสมัยนี้แล้ว คุณแม่หลายคนน่าจะเป็น Working Woman กันส่วนใหญ่ เพราะแน่นอนว่า เรายังต้องมีภาระ หน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบในทุกๆ วันอยู่แล้ว ดังนั้น Gadget ที่จะเหมาะกับคุณแม่สมัยนี้แบบนี้ จะมีอะไรบ้างลองเข้ามาหาดูกันเลยดีกว่าจ้า

Gadget ติดรถสำหรับคุณแม่สมัยนี้

Windshield has installed a car camera on a rainy day.

1.กล้องติดรถยนต์

ไอเทมแรกนั้นเป็นสิ่งที่อยากจะแนะนำให้เพื่อนๆ หรือคุณแม่ทั้งหลายเลือกติดรถยนต์เอาไว้เลย เพราะนอกจากไอเทมกล้องติดรถยนต์จะช่วยดูแลในเรื่องของความปลอดภัยต่อตัวรถยนต์และตัวเราแล้ว ยังสามารถช่วยได้ดีในเรื่องของการหาตัวคนร้ายในกรณีที่รถยนต์ของเขามาชนเราแล้วหนี หรือเกิดอุบัติเหตุ ทำให้สามารถเอาผิดตัวการที่ทำให้เราเกิดอุบัติเหตุได้ และราคาของกล้องติดรถยนต์ในปัจจุบันนั้นก็เริ่มต้นไม่แพงด้วย หลักร้อยก็มีแล้ว เรียกได้ว่าเรายอมลงทุนการซื้อกล้องรถยนต์เพื่อความสบายใจของเราในอนาคตกันดีกว่า ยิ่งถ้าคุณแม่คนไหนที่ต้องใช้รถยนต์ทุกวันก็อย่าลืมเลือกซื้อกล้องมาติดรถยนต์กันนะคะ

Business man is driving a car in raining day with moving wiper blades

2.GPS

สำหรับตัวติดตั้ง GPS หลายคนอาจจะมองข้ามว่าเราไม่จำเป็นต้องติดตั้งไว้ภายในรถยนต์ของเราก็ได้เหมือนกัน เพราะว่าปัจจุบันนั้นเราสามารถดู GPS ได้ทันทีบนแอปพลิเคชั่นโทรศัพท์มือถือของเราได้เลย แต่ลองนึกดูสิในกรณีโทรศัพท์มือถือของเราแบตหมดขึ้นแบบนี้เราอาจจะไปไม่ถึงจุดหมายที่เราต้องการจะไปได้เลยนะ ดังนั้นการมี GPS ติดไว้ภายในรถยนต์ถือว่าเป็นอีกไอเทมจะช่วยให้ชีวิตของเราสะดวกสบายขึ้นแน่นอนจ้า

Charger plug phone on car

3.ที่ชาร์จแบต

อย่างที่เรากล่าวไปแล้วว่า หากอยู่ๆ โทรศัพท์มือถือของเราแบตโทรศัพท์ของเราหมดขึ้นมากลางทาง เราจะทำอย่างไรกันดีล่ะ ยิ่งถ้าหากต้องขับรถยนต์คนเดียวและไม่มีผู้โดยสารไปด้วยที่พอจะช่วยเราได้ แบบนี้ไม่ใช่เรื่องที่ดีเอาแน่ๆ เพราะอาจจะไม่สามารถเปิดโทรศัพท์มือถือขึ้นมาสื่อสารกับใครได้เลย เพื่อเป็นการแก้ปัญหาอีกหนึ่งไอเทมที่คุณแม่ทั้งหลายควรที่ชาร์จอุปกรณ์ที่ชาร์จแบต รวมไปถึง Powerbank ด้วยนะ หากเกิดอะไรฉุกเฉินขึ้นมา อย่างน้อยเราก็ยังสามารถนำโทรศัพท์ของเราชาร์จบนรถได้จ้า

เพียงเท่านี้ไอเทมที่ทางเรานำมาฝากกันก็คงจะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่คุณแม่กันแล้ว หากใครกำลังมองหาประกันรถยนต์ที่จะช่วยให้เราอุ่นใจได้มากขึ้นหากเกิดอะไรขึ้นมาก็ คลิกที่นี่ เพื่อเช็กเบี้ยประกันได้เลย มีข้อมูลสงสัยโทร 02 710 3100 หรือแอดไลน์ @masii เข้ามาได้เลยค่ะ

ขอขอบคุณบทความดีๆ จาก www.masii.com

แนะนำ-5-แอป-กล้องติดรถยนที่น่าสนใจ

ทุกวันนี้รถยนต์ส่วนใหญ่ต่างนิยมใช้กล้องติดหน้ารถกันมากขึ้น เพราะช่วยบันทึกเรื่องราวระหว่างการเดินทาง ที่สำคัญเมื่อเกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ หรืออุบัติเหตุบนท้องถนนสามารถใช้เป็นหลักฐานส่งให้กับทางตำรวจหรือบริษัทประกันภัยได้ แต่หากใครไม่สะดวกในการติดตั้งก็สามารถเปลี่ยนสมาร์ทโฟนที่ไม่ใช้แล้วให้เป็นกล้องติดหน้ารถระดับเทพด้วยแอปพลิเคชันได้ รับรองว่าใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยากในการติดตั้ง แถมยังประหยัดเงินอีกด้วย

1. Daily Roads Voyager

บันทึกภาพเคลื่อนไหวได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมกำหนดความยาวและคุณภาพของไฟล์ได้ตามต้องการ หรือจะเลือกเก็บข้อมูลเฉพาะช่วงเวลาที่ต้องการไว้ดู โดยไฟล์ภาพจะไม่ถูกบันทึกทับ พร้อมกับมีฟังก์ชันปรับความสว่าง ช่วยลดแสงรบกวนระหว่างขับรถในตอนกลางคืน นอกจากนี้แล้วระหว่างกำลังบันทึกภาพยังสามารถเปิดแอปพลิเคชันอื่น ๆ เช่น ฟังเพลง ดูแผนที่ หรือปิดหน้าจอมือถือเพื่อประหยัดแบตเตอรี่

Daily Roads Voyager
Cr: App Daily Roads Voyager

2. AutoBoy Dash Cam – BlackBox

แอปพลิเคชันกล้องติดหน้ารถที่นอกจากบันทึกภาพเคลื่อนไหวได้อย่างต่อเนื่องแล้ว ยังมีฟังก์ชันอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เช่น โหมดกล้องสามารถสลับกล้องหน้า-หลังได้ และมีระบบตรวจจับการสั่นสะเทือนในกรณีที่รถชนพร้อมโทรออกไปยังเบอร์ฉุกเฉินทันทีหลังเกิดอุบัติเหตุ รวมถึงบันทึกภาพเคลื่อนไหวตลอดเวลาแม้ว่าจะปิดหน้าจอ

AutoBoy Dash Cam - BlackBox
Cr: App AutoBoy Dash Cam – BlackBox

3. CamOnRoad

หน้าตาของแอปพลิเคชันดูน่าใช้ ฟังก์ชันต่าง ๆ เข้าใจง่าย แถมครอบคลุมทุกความต้องการของผู้ใช้งาน เพราะไม่ใช่แค่ช่วยบันทึกภาพและเหตุการ์ณต่าง ๆ ขณะขับรถเท่านั้น ยังสามารถเปิดแผนที่นำทางผ่านแอปพลิเคชันนี้ได้เลย พร้อมจัดเก็บคลิปโดยแบ่งเป็นช่วง ๆ ให้แต่ละไฟล์มีขนาดไม่ใหญ่จนเกินไป เพื่อช่วยประหยัดพื้นที่ของมือถือ

CamOnRoad
Cr: App CamOnRoad

4. Carcorder

บันทึกภาพเคลื่อนไหวขณะขับรถได้อย่างชัดเจนด้วยความละเอียดสูงถึง 1080P และเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินหรืออุบัติเหตุสามารถตั้งค่าให้โทรออกอัตโนมัติ อีกทั้งยังมีโหมดแจ้งเตือนความเร็วและแผนที่นำทางด้วยสัญญาณ GPS ผ่าน Google Maps อีกด้วย ซึ่งฟังก์ชันต่าง ๆ ภายในแอปพลิเคชันค่อนข้างใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน

Carcorder

Cr: App Carcorder

5. Save Drives – Car Dashboard

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเดียวติดมือถือไว้ได้ครบทั้งกล้องติดหน้ารถและแผนที่นำทาง ที่สามารถระบุตำแหน่งได้อย่างถูกต้อง พร้อมบันทึกวิดีโอได้อย่างต่อเนื่อง และเมื่อเกิดอุบัติเหตุสามารถเลือกตัดไฟล์วิดีโอความยาว 10-30 วินาที เพื่อง่ายต่อการส่งไฟล์ให้ตำรวจและบริษัทประกันภัย

Save Drives – Car Dashboard
Cr: App Save Drives – Car Dashboard

เรียกว่าเป็นแอปพลิเคชันฟรีที่มีประโยชน์ต่อคนขับรถยนต์ ช่วยทำให้การเดินทางสนุก ได้เก็บบันทึกทุกเรื่องราวที่ต้องการโดยไม่ต้องเสียเงินซื้อกล้องติดหน้ารถ แต่ยังไงเพื่อความปลอดภัยก็อย่าลืมขับรถด้วยความระมัดระวัง และเพิ่มความอุ่นใจยิ่งขึ้นด้วยการทำประกันรถยนต์ โดยสามารถ คลิกที่นี่ หรือโทรสอบถามกับมาสิได้เลยที่ 02 710 3100 หรือง่าย ๆ แอด LINE มาคุยกันที่ @masii

ขอบคุณบทความดี ๆ จาก www.masii.com

carr-blog-feature-image

ตอบโจทย์ความสะดวกสบายของคนมีรถ ช่วยลดปัญหาหงุดหงิดกวนใจที่ต้องพบเจอระหว่างเดินทางด้วยแอปพลิเคชั่นที่สามารถดาวน์โหลดมาใช้งานกันได้ฟรี ๆ ทั้งระบบ iOS และ Android มาสิ มาดูกันว่า นอกจาก Google Maps ที่ทุกคนใช้กันเป็นประจำจนคุ้นเคยแล้วก็ยังมีแอปพลิเคชั่นอื่น ๆ ตัวไหนอีกบ้างที่น่าสนใจเหมาะดาวน์โหลดติดมือถือไว้ใช้ในยามจำเป็น

1. JS 100

เกาะติดข่าวสารความเคลื่อนไหวบนท้องถนนจากคลื่นวิทยุ จส. 100 ง่าย ๆ เพียงแค่เปิดแอปก็สามารถเช็กสภาพการจราจรบนท้องถนนที่รายงานแบบ Real time พร้อมแผนที่การเดินทาง ข้อมูลการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนในจุดต่าง ๆ เพื่อให้คนมีรถสามารถวางแผนการเดินทางได้ง่ายยิ่งขึ้น รวมถึงการขอความช่วยเหลือในกรณีฉุกเฉิน เรียกว่าเป็นแอปพลิเคชั่นเจ๋ง ๆ เหมาะสำหรับคนเมืองไว้ใช้ในการเช็กสภาพจราจรก่อนขับรถไปทำงาน

JS 100

Cr: App JS 100

2. PTT Life Station

คนมีรถคงขำไม่ออกแน่ ๆ หากขับรถเที่ยวต่างจังหวัดหรือในเส้นทางที่ไม่คุ้นเคยแล้ว เจ้ากรรม! น้ำมันดันกำลังจะหมด มองซ้าย มองขวา จะแวะหาที่เติมน้ำมันได้จากไหน แนะนำเปิดแอปพลิเคชั่นนี้แบบด่วน ๆ เพราะสามารถช่วยค้นหาปั๊มน้ำมันและ NGV ของปตท. ทั่วประเทศได้ พร้อมกับแสดงผลในรูปของแผนที่ เข้าใจง่าย และสะดวกยิ่งขึ้นด้วยฟังก์ชั่น Direction to ช่วยนำทางไปยังปั๊มน้ำมันและ NGV ของปตท. ที่ต้องการ นอกจากนี้มีอัพเดทโปรโมชั่นและสิทธิพิเศษต่าง ๆ ของทุกแบรนด์ในเครือปตท. อีกด้วย

PTT Life Station

Cr: App PTT Life Station

3.Drivvo

แอปพลิเคชั่นช่วยคนมีรถจดบันทึกค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เช่น ค่าน้ำมัน ค่าซ่อมบำรุง ประกันภัย ภาษี เป็นต้น ซึ่งทุกอย่างที่บันทึกจะแสดงข้อมูลออกเป็นกราฟเข้าใจง่าย พร้อมเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายในแต่ละกลุ่ม ทำให้ช่วยวางแผนควบคุมค่าใช้จ่ายในส่วนที่สิ้นเปลืองได้ และสามารถตั้งการแจ้งเตือนเกี่ยวกับการเติมน้ำมันเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง และการบำรุงรักษาครั้งต่อไปได้ ที่สำคัญใช้ง่ายเพราะฟังก์ชั่นต่าง ๆ รองรับภาษาไทย

Drivvo

Cr: App Drivvo

4. HERE WeGo

ขับรถเที่ยวที่ไหนก็ไม่ต้องกลัวหลงกับแอปพลิเคชั่นแผนที่นำทาง ที่รวมข้อมูลเส้นทางสำหรับผู้ใช้จักรยาน รถยนต์ รถประจำทาง และรถแท็กซี่ ซึ่งฟังก์ชั่นของแอปค่อนข้างใช้งานง่ายกว่า Google Maps ช่วยค้นหาสถานที่ได้เร็วแม่นยำ สามารถใช้งานได้ทั้งแบบ Online และ Offline เผื่อใครอยากประหยัดเน็ตมือถือ และในกรณีเกิดขับรถหลงทางไม่ต้องตกใจ!  เพราะแอปจะปรับเส้นทางใหม่แบบ Real time ให้ถึงจุดหมายปลายอย่างปลอดภัยแน่นอน

HERE WeGo

Cr: App HERE WeGo

5. Thailand Highway Traffic

แอปพลิเคชั่นเจ๋ง ๆ ไว้เช็กสภาพจราจรบนทางหลวง สามารถแสดงภาพปัจจุบันบนท้องถนนจากกล้องวงจรปิดมากกว่า 100 ตัว ที่อยู่บนทางหลวง พร้อมช่วยคำนวนเส้นทาง ความเร็ว เวลา อัตราการเคลื่อนตัวของรถ ปริมาณรถติดบนถนนเส้นต่าง ๆ และแผนที่จุดบริการเช่น ห้องน้ำ น้ำดื่ม ซึ่งข้อมูลทั้งหมดมาจากสำนักอำนวยความปลอดภัย กรมทางหลวง ช่วยให้คนขับรถเที่ยวต่างจังหวัดสามารถวางแผนก่อนออกเดินทางได้

Thailand Highway Traffic

Cr: App Thailand Highway Traffic

6. Parking Lots

เรื่องหาที่จอดรถยาก ดูเหมือนจะเป็นปัญหาสุดหนักใจของคนมีรถ เวลาเดินทางไปไหน มาไหน ที่ต้องวัดดวง แอบลุ้นกันว่าลานจอดจะมีที่ว่างเพียงพอไหม แถมบางทีที่จอดดันเต็มก็ต้องขับวนหากันให้เสียเวลา แต่สะดวกยิ่งขึ้นหากมีแอปพลิเคชั่นนี้ติดมือถือ เพราะสามารถค้นหาที่จอดรถในพื้นที่ต่าง ๆ เช่น จุดจอดใกล้สถานีรถไฟฟ้า ย่านใจกลางเมืองทั้งเยาวราช สีลม สุขุมวิท ห้างสรรพสินค้า แหล่งท่องเที่ยวนอกเมืองและต่างจังหวัดอีกด้วย

Parking Lots

Cr: App Parking Lots

7. Oil Price Today

วางแผนเติมน้ำมันล่วงหน้าได้ง่ายขึ้นกับแอปพลิเคชั่นที่รายงานราคาน้ำมันในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งมีข้อมูลน้ำมันอัพเดททั้งแก๊สโซฮอล์ 95, 91, E20, E85, เบนซิน 95, ดีเซล และ NGV พร้อมเปรียบเทียบ เช็กราคาน้ำมันในวันพรุ่งนี้ของปั๊มน้ำมันต่าง ๆ เช่น ปตท. บางจาก เชลล์ เอสโซ่ เป็นต้น รวมถึงแจ้งเตือนเมื่อมีการปรับราคาน้ำมันขึ้น – ลง

Oil Price Today

Cr: App Oil Price Today

มีแอปพลิเคชั่นเจ๋ง ๆ ติดมือถือไว้ช่วยวางแผนการเดินทางกันแล้ว แต่การขับรถด้วยความระมัดระวัง ไม่ประมาท ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องมีติดตัวอยู่ตลอดเวลาเมื่อขับรถอยู่บนท้องถนน ซึ่งหากใครอยากเพิ่มความมั่นใจด้วยการทำประกันรถยนต์สามารถ คลิกที่นี่ หรือโทรสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกับมาสิได้เลยที่ 02 710 3100 หรือแอด LINE มาสอบถามที่ @masii ได้เลย

ขอบคุณบทความดี ๆ จาก www.masii.com

มิถุนายนแล้ว แน่นอนว่าเรากำลังสู่ช่วงกลางปีอย่างแท้จริงแล้ว ส่วนสำหรับฤดูที่มาพร้อมกับกลางปีแบบนี้ คงหนีไม่พ้นจริงๆ สำหรับฤดูฝน ที่หลายคนต่างชื่นชอบและไม่ชื่นชอบ

สำหรับคนที่ชื่นชอบคงเพลิดเพลินไปกับเสียงน้ำฝนที่ตกลงมาจากท้องฟ้า แต่สำหรับใครไม่ที่ชื่นชอบฤดูฝนสิ คงปวดหัวกับการเดินทางไปไหนมา หรือแม้แต่การเผื่อเวลาสำหรับทำธุระในช่วงหน้าฝน ขับรถลุยน้ำท่วมอย่างไร ให้ปลอดภัย

สำหรับเพื่อนๆ คนไหน ที่มีความจำเป็นต้องใช้รถยนต์ของตนเองในการขับรถไปไหนมา ไม่สามารถจะใช้การขนส่งทางสาธารณะได้ คงแอบกังวลกันไม่น้อยสำหรับรถยนต์ของตัวเราเองว่า ถ้าหากเราขับรถไปลุยน้ำฝนขึ้นมา รถยนต์ของเราจะเสียหายไหมนะ หรือแม้แต่หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นจะทำอย่างไรดี วันนี้มาสิมีเคล็ดลับขับรถลุยน้ำท่วมง่ายๆ ให้ปลอดภัยในช่วงหน้าฝนแบบนี้มาฝากกัน

Flood-In-Bangkok

ภาพจาก ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร – บก.02

เช็กรถของตัวเองให้พร้อม

แน่นอนว่า วิธีเบื้องต้นที่เพื่อนๆ สามารถทำได้เลยคือ การเช็กรถยนต์ของเราให้มีสภาพพร้อมขับ ระบบส่องไฟสว่าง ไฟหน้า-หลัง ยังสามารถใช้งานได้อยู่ ไฟสัญญาณบอกทางต่างๆ หากเกิดชำรุดขึ้นมา ให้รีบแก้ไขโดยทันที ระบบเบรค ที่ปัดน้ำฝน ยางปัดน้ำฝน ตรงนี้เพื่อนๆ ก็ควรเช็กให้เรียบร้อย รวมไปถึงยาง ลูกดอกยาง ควรมีสภาพการใช้งานที่พร้อม

อย่าเหยียบเบรกกะทันหัน

บนท้องถนนที่ลื่นไหลจากการที่ฝนตกหนักนั้น เพื่อนๆ ควรอย่างยิ่ง ที่จะระมัดระวังอุบัติเหตุบนท้องถนนโดยเฉพาะการขับขี่รถยนต์ อย่าเหยียบเบรกกะทันหัน เพราะจะเกิดอุบัติเหตุหรืออันตรายได้ หากจำเป็นต้องเบรก แนะนำว่าให้ชะลอความเร็ว แล้วค่อยๆ เหยียบเบรกเอา

Flood-In-Bangkok

ภาพจาก ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร – บก.02

ขับรถด้วยความเร็วคงที่

สำหรับเพื่อนๆ คนไหน ที่ชอบการขับรถเร็วเป็นปกติ อยากให้เพื่อนๆ ใจเย็นลงในช่วงหน้าฝนแบบนี้ หากเรายังปฎิบัติแบบนั้นอยู่ อุบัติเหตุและอันตรายจะสามารถเกิดขึ้นได้แน่นอน ควรขับอยู่ในความเร็วที่ 90 กม./ชม. เพื่อเป็นการปกป้องตัวเองและผู้โดยสารคนอื่นที่อยู่บนรถ รวมถึงเพื่อเป็นการใส่ใจเพื่อนร่วมทางด้วย

ฝนตกหนัก พักรถก่อน

หากเพื่อนๆ กำลังเผชิญกับฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ไม่สามารถมองเห็นทางและพื้นถนนได้ สิ่งที่เพื่อนๆ ควรทำอย่างยิ่ง คือ จอดรถข้างทางไว้ก่อนเพื่อเป็นการป้องกันอุบัติเหตุและอันตรายที่จะเกิดขึ้นได้ ไม่ควรที่จะฝืนขับไปยังจุดหมายเรื่อยๆ แบบนั้นจะยิ่งอันตรายมากกว่าเดิม พอฝนตกเบาลง ค่อยๆ ขับเคลื่อนรถไปอย่างช้าๆ ทำแบบนี้ รับรองว่าหายห่วงเรื่องอุบัติเหตุและอันตรายอย่างแน่นอน

Flood-In-Bangkok

ภาพจาก ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร – บก.02

ทำประกันรถยนต์

อีกข้อหนึ่งที่หลายคนน่าจะทราบกันดีอยู่แล้วคือ การทำประกันภัยรถยนต์ เผื่อในกรณีที่เราต้องเจอกับอุบัติเหตุและอันตรายที่สามารถเกิดขึ้นในช่วงหน้าฝนแบบนี้ เพื่อที่ประกันภัยรถยนต์จะได้คุ้มครองเราและรถยนต์ เพื่อนๆ คนไหนที่ยังไม่ได้ทำหรือกำลังจะต่อประกันภัยรถยนต์ ก็ขอแนะนำให้รีบจัดการให้เรียบร้อยกันตั้งแต่ตอนนี้เลย

เท่านี้เพื่อนๆ ก็คงทราบถึงวิธีการขับรถลุยน้ำท่วมอย่างไรให้ปลอดภัยกันแล้ว หน้าฝนแบบนี้ ขับขี่รถกันอย่างระมัดระวังกันด้วยนะ เพราะอุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้หากเราประมาทจนเกินไป

ถ้าใครสนใจอยากทำประกันภัยรถยนต์ไว้ให้อุ่นใจ คลิกที่นี่ เพื่อเช็กเบี้ยประกันหรือโทร 02-7103100 เข้ามาสอบถามพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ของมาสิกันได้เลย

ขอขอบคุณบทความดีๆ จาก www.masii.com