Nissan March อีโคคาร์ในไทยปิดตำนาน!

ในโลกของโซเชียลมีเดียวันนี้ หลายคนคงอาจจะเห็นภาพของ Nissan March (นิสสัน มาร์ช) รถ Eco-Car (อีโคคาร์) รุ่นแรกของค่ายนิสสันและในไทย ที่เปิดตัวตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม 2553 ขายในไทยมายาวนานกว่า 12 ปี ได้ผลิตออกจากโรงงานผลิตเป็นคันสุดท้ายแล้ว ในเวลา 12.00 น. ของวันที่ 26 กรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา

Nissan-March-Advertorial

สำหรับ Nissan March เปิดตัวในไทยครั้งแรกเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2553 เป็นรถ EcoCar รุ่นแรกของค่าย ผ่านเกณฑ์มาตรฐานข้อกำหนดรถประหยัดพลังงานสากล (อีโคคาร์) เฟส 1 ซึ่งมาพร้อมกับ Concept “ให้ชีวิตคุณง่ายขึ้นอีก” พร้อมกับดึงเอาดาราดัง อย่าง “เคน-ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์” พระเอกสุดฮอต จากละครและภาพยนตร์หลายเรื่อง มาเป็นพรีเซ็นเตอร์

อ่านเพิ่มเติม >> Carro แนะนำรถมือสอง : Nissan March (K13) หล่อทะลุแป้ง ไปกับนิสสัน มาร์ช

อ่านเพิ่มเติม >> Carro แนะนำ Nissan March รถ Eco-Car ราคาคุ้มค่า พร้อมสู้น้ำมันแพง!

Nissan-March-2010

Nissan March (นิสสัน มาร์ช) ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร รหัส HR12DE แบบ 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว CVTC ให้แรงม้าสูงสุด 79 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 10.8 กก.-ม. (106 นิวตัน-เมตร) ที่ 4,400 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติแบบ Xtronic CVT

หลังจากนั้น นิสสัน มาร์ช ก็สร้างกระแส Talk Of The Town ตั้งแต่ในวันเปิดตัว มี 6 รุ่นย่อย ได้แก่ S MT, E MT, E CVT, EL CVT, V CVT และ VL CVT แถมราคาในรุ่นเริ่มต้น (S) เพียง 375,000 บาท …

Nissan-March-2021

ด้วยข้อดีข้อเด่นต่างๆ ที่กล่าวมา ทำให้ นิสสัน มาร์ช แค่ 2 สัปดาห์แรกหลังการเปิดตัว สามารถทำยอดจองไปได้ถึง 5,000 คัน และทำสถิติยอดขาย 100,000 คันแรกในปี 2555 หลังการเปิดตัวได้เพียง 2 ปี และยังมีการส่งออกไปจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย

ซึ่งถึงแม้ว่า Nissan March ในตลาดต่างประเทศ (แถบยุโรป) จะมีโฉมใหม่ออกจำหน่ายมาหลายปีแล้ว แต่ในบ้านเราและบางประเทศยังเดินหน้าขายรุ่นนี้อยู่อย่างต่อเนื่อง ยืนหยัดขายในไทยมานานถึง 12 ปี จนกระทั่งยุติการผลิตในวันที่ 26 ก.ค. 2565 ซึ่งปล่อยรถคันสุดท้ายออกจากโรงงานเมื่อเวลา 12:00 น. เป็นการปิดตำนานรถ Eco-Car รุ่นแรกของไทยอย่างเป็นทางการ

เราเองก็ไม่แน่ใจว่า Nissan March รุ่นใหม่ ทางนิสสันจะยังทำตลาดต่อในบ้านเราหรือไม่ แต่ตอนนี้ถ้าใครอยากได้ Nissan March มาขับ สามารถเลือกรถ Nissan March (นิสสัน มาร์ช) มือสอง ที่ Carro เรามีจำหน่ายให้เลือกกันมากมายได้เลยจ้า

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่ มาขายรถกับทาง Carro Express สิ! คลิกเลยที่ https://th.carro.co/sell-car/express รับรองได้เงินเร็ว ไว ทันใจแน่นอน!

Carro Automall ตลาดรถ

ส่วนใครสนใจจะซื้อรถมือสอง Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

MUJI Car 1000 : รถยนต์แบรนด์ MUJI กับความสำเร็จ!

ถ้าจะให้พูดถึง “บริษัท เรียวฮิน เคอิคะคุ” (株式会社良品計画) หลายคนมึนตึ้บ ว่านี่คือบริษัทญี่ปุ่นอะไรกันแน่???

แต่ถ้าจะให้พูดถึงแบรนด์ “MUJI” (มูจิ) แบรนด์ไลฟ์สไตล์สัญชาติญี่ปุ่นที่โด่งดังไปทั่วโลก ก็บริษัทนี้แหละครับ เป็นผู้ให้กำเนิด “MUJI” ขึ้นมา ตั้งแต่ค่านิยม ความมุ่งมั่นของบริษัท การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การดำเนินธุรกิจตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน อนาคต และความสำเร็จของแนวคิด “สินค้าคุณภาพดีที่ไม่มียี่ห้อ” ของ MUJI

MUJI ก่อตั้งขึ้นครั้งแรกในญี่ปุ่นในเดือนธันวาคม 1980 โดย Seiji Tsutsumi (เซจิ ซึซูมิ – 辻井喬) ประธานห้างสรรพสินค้าเซบู (Seibu) ลูกของผู้ก่อตั้งกิจการรถไฟ Seibu Railway และเจ้าของกิจการต่างๆ อีกหลายอย่าง

MUJI มีชื่อเต็มๆ ว่า “มูจิรุชิ เรียวฮิน” (Mujirushi Ryohin หรือ 無印良品) เป็นคำภาษาญี่ปุ่นที่มีความหมายว่า ไม่มีแบรนด์ (No Brand) หรือมีความหมายว่า “สินค้าคุณภาพดีที่ไม่มียี่ห้อ” เป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์คุณภาพดีมากมาย รวมถึงของใช้ในบ้าน เครื่องแต่งกาย และอาหาร เป็นต้น

MUJI Car 1000 : รถยนต์แบรนด์ MUJI กับความสำเร็จ!

MUJI ตั้งอยู่บนหลักการสามข้อ ซึ่งยังคงไม่เปลี่ยนแปลงจนถึงทุกวันนี้ ได้แก่

1. การเลือกสรรวัสดุ
2. ปรับปรุงพัฒนากระบวนการต่างๆ
3. สร้างบรรจุภัณฑ์ที่เรียบง่าย

ผลิตภัณฑ์ของ MUJI เกิดขึ้นจากกระบวนการผลิตที่สมเหตุสมผลที่สุด มีความรวบรัด แต่ไม่ใช่สไตล์มินิมอล
หมายความว่า ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เปรียบเสมือนภาชนะที่ว่างเปล่า ความเรียบง่ายและความว่างเปล่าก่อให้เกิดความเป็นสากลขั้นสูงสุด เป็นการยอมรับความรู้สึกและความนึกคิดของทุกคน

MUJI Car 1000 : รถยนต์แบรนด์ MUJI กับความสำเร็จ!

จนผลิตภัณฑ์ของ MUJI สามารถฉีกทุกตำราการตลาด เอาชนะความนิยมชมชอบมากมาย และแพร่หลายไปไม่เพียงแต่ทั่วประเทศญี่ปุ่น แต่รวมไปถึงที่ต่างๆ ทั่วโลก ในปี 2021 MUJI ทำรายได้ไปกว่า 151,000 ล้านบาท มีสินค้ากว่า 7,000 รายการ และมีกว่า 1,000 สาขาทั่วโลก

ซึ่งในไทยเอง นับตั้งแต่ปี 2556 บริษัทแม่ MUJI ประเทศญี่ปุ่น ได้ร่วมทุนกับ “เซ็นทรัล” จัดตั้ง “บริษัท มูจิ รีเทล (ประเทศไทย) จำกัด” ด้วยทุนจดทะเบียน 520 ล้านบาท ร่วมทุนกันและเดินหน้าขยายธุรกิจในไทยเชิงรุกมากขึ้น

แต่หลายคนอาจไม่รู้มาก่อนเลยว่า MUJI เคยคิดผลิตรถยนต์ออกมาขายด้วย!

MUJI Car 1000 : รถยนต์แบรนด์ MUJI กับความสำเร็จ!

ใช่ครับ แม้ว่าหลายปีก่อน MUJI จะมีแนวคิดพัฒนารถยนต์ไร้คนขับที่ชื่อว่า Gacha ออกมา แต่ในวันนี้ผมกำลังจะพูดถึง MUJI+Car 1000 (มูจิ คาร์ 1000) รถยนต์รุ่นแรกที่ทาง MUJI ร่วมกับทาง Nissan (นิสสัน) นำเอา Nissan March (K11) (นิสสัน มาร์ช) มาผลิตจำหน่ายในแบรนด์ของ MUJI

โดยพร้อมรับจองผ่านทางเว็บไซต์ muji.net ในเดือนเมษายน 2001 และพร้อมส่งมอบรถในวันที่ 11 พฤษภาคม 2001 ที่โชว์รูม Nissan ด้วยจำนวนจำกัดเพียง 1,000 คันเท่านั้น ในราคา 930,000 เยน!

MUJI Car 1000 : รถยนต์แบรนด์ MUJI กับความสำเร็จ!

ตัวรถภายนอกมาพร้อมความเรียบง่ายสไตล์ MUJI เลย ไม่มีโลโก้แบรนด์ ไม่มีชื่อรุ่น กันชนหน้า-หลัง สีดำ กระจกมองข้างสีดำ ล้อรถเป็นแบบกระทะเหล็กขนาด 13 นิ้ว มาพร้อมสีโปรโมทตัวรถ อันเป็นสัญลักษณ์ของ MUJI

ส่วนห้องโดยสารภายในโทนสี Ivory ออกแบบในสไตล์ 2 ที่นั่ง + พื้นที่อิสระด้านหลัง ออกแบบเบาะนั่งหลังใหม่เป็นแบบไวนิล สามารถวางของเปียกได้ และปรับพับแบบ 60:40 ได้ พร้อมจุดยึดที่นั่งสำหรับเด็ก มีแอร์, วิทยุ 1 din พร้อม CD, กระจกกรองแสง UV, กระจกมองข้างพับไฟฟ้า, พรมปูพื้น ที่วางแก้วน้ำข้างประตู และกุญแจรถที่ออกแบบเป็นพิเศษมาให้

มีมิติตัวรถยาว 3,720 มม. กว้าง 1,585 มม. สูง 1,425 มม. ระยะฐานล้อ 2,360 มม. มีน้ำหนักตัวรถ 870 กิโลกรัม

MUJI Car 1000 : รถยนต์แบรนด์ MUJI กับความสำเร็จ!

มาพร้อมขุมพลังรหัส CG10DE แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ให้แรงม้าสูงสุด 60 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 84 นิวตัน-เมตร (8.6 กก.-ม.) ที่ 4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด E-Atx ประหยัดน้ำมัน 16.6 กม./ลิตร (ตามมาตรฐานโหมด 10-15)

และพิเศษสุด! ผู้สั่งจองรถในครั้งนี้จะได้รับจักรยานพับได้ขนาด 14 นิ้ว ของ MUJI มูลค่า 29,800 เยน ที่ออกแบบมาเพื่อ Muji+Car 1000 โดยเฉพาะ

ซึ่ง MUJI จะสามารถจำหน่ายรถรุ่นพิเศษ 1,000 คันนี้ไปได้จนหมด ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี แม้ว่าในปัจจุบัน MUJI จะไม่ได้จัดทำรถรุ่นพิเศษแนวนี้ออกมาขายแล้ว แต่เชื่อว่าถ้าใครมีรถรุ่นนี้เก็บไว้ มีราคาดีอย่างแน่นอนครับ

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่ มาขายรถกับทาง Carro Express สิ! คลิกเลยที่ https://th.carro.co/sell-car/express รับรองได้เงินเร็ว ไว ทันใจแน่นอน!

Carro Automall ตลาดรถ

ส่วนใครสนใจจะซื้อรถมือสอง Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

แหล่งที่มาบางส่วนจาก:

แนะนำรถ 5 รุ่นเหมาะสำหรับเด็กจบใหม่ ที่กำลังก้าวเข้าสู่วัยทำงาน

การสำเร็จการศึกษา คือ ก้าวสำคัญสำหรับอนาคต หมายถึงโลกใหม่ เส้นทางใหม่ และความท้าทายใหม่ การมองหารถสักคันสำหรับการใช้งานในฐานะของเด็กจบใหม่วัยทำงานจึงเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบเพื่อให้ได้ “รถที่ดีที่สุด” ที่เป็นเหมือนทั้งของขวัญวันสำเร็จการศึกษาและรถคู่ใจสำหรับเริ่มต้นวัยทำงาน รู้ใจเลยอยากแนะนำนักศึกษาจบใหม่ทุกคนในการซื้อรถคันแรก ว่าคันไหนที่จะโฉบเฉี่ยวทันสมัยเหมาะสำหรับไลฟ์สไตล์ชีวิตในเมือง ที่สำคัญต้องราคาสบายกระเป๋า จะซื้อสดก็ได้ จะผ่อนก็ไม่หนักเกินไป มีรุ่นไหนบ้าง ไปดูกันเลย

แนะนำรถ 5 รุ่นเหมาะสำหรับเด็กจบใหม่ ที่กำลังก้าวเข้าสู่วัยทำงาน

5 รุ่นรถสำหรับ “เด็กจบใหม่วัยทำงาน” ที่อยากซื้อรถคันแรก

ต้องบอกว่าในปัจจุบันนี้มีรถรุ่นใหม่ออกมาให้เลือกมากมาย โดยเฉพาะรถยนต์พลังงานไฟฟ้าจากประเทศจีนที่มีขนาดกะทัดรัด เหมาะสมสำหรับการใช้ชีวิตในเมืองใหญ่ แต่ตำแหน่งของรถยอดนิยมที่ยังอยู่ในหัวใจนักขับก็แทบจะไม่เปลี่ยนแปลงไปมากนัก จากรถหลายรุ่นจำนวนนับร้อย รู้ใจขอเลือกมาเพียง 5 รุ่นเท่านั้นที่ถูกอกถูกใจสำหรับนักขับรุ่นใหม่ จะมีรถรุ่นไหนเข้ารอบบ้าง มาทำความรู้จักไปพร้อมกันได้เลย

แนะนำรถ 5 รุ่นเหมาะสำหรับเด็กจบใหม่ ที่กำลังก้าวเข้าสู่วัยทำงาน

1. Suzuki Swift

หนึ่งในดวงใจที่ยังคงติดอันดับรถเล็กสำหรับการใช้งานในเมืองที่มีความทันสมัยที่มาพร้อมกับความคล่องแคล่ว คล่องตัวอยู่เสมอกับ Suzuki Swift ที่มีการปรับปรุงรูปโฉมมาตั้งแต่ครั้งแรกมาสู่รถเก๋งดีไซน์น่ารัก โฉบเฉี่ยวและคงความทันสมัยเอาไว้ได้อย่างลงตัว เรียกว่าถ้าใครเคยรู้จักกับ Suzuki Swift รุ่นแรก คงแทบไม่รู้เลยว่ารถคันนี้เดินทางมาไกลได้ขนาดนี้ ด้วยรูปทรงที่สวยงาม สะดุดตา พร้อมด้วยพลังเครื่องยนต์ที่มีขนาด 1.0 ที่ต้องบอกว่ารถมอเตอร์ไซต์บางรุ่นยังประหยัดน้อยกว่ารถเก๋งดีไซน์น่ารักคันนี้

ด้วยพื้นที่ใช้สอยที่ออกแบบมาได้กว้างขวางมากกับขนาดเล็กหลอกตา ต้องบอกว่า เป็นความคุ้มค่าคุ้มราคาที่ออกแบบมาได้อย่างลงตัว สำหรับชีวิตในการทำงานที่มีเอกสารมากมาย หรือการพักผ่อนในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์กับเพื่อนฝูงที่รู้ใจ Suzuki Swift พร้อมทำหน้าที่เป็นพาหนะที่ตอบโจทย์ทุกการใช้งานได้อย่างลงตัว และที่สำคัญอยู่ในราคาที่เบาและเป็นเจ้าของได้ง่าย ๆ นับจากวันจบการศึกษาเลยก็ว่าได้ โดยราคาในปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 557,000 บาทเท่านั้น แถมยังประหยัดน้ำมันอีกด้วย

แนะนำรถ 5 รุ่นเหมาะสำหรับเด็กจบใหม่ ที่กำลังก้าวเข้าสู่วัยทำงาน

2. Mitsubishi Mirage / Mitsubishi Attrage

อีกหนึ่งค่ายผลิตรถชั้นนำที่ออกแบบรถมาได้อย่างลงตัวสำหรับใครก็ตามที่อาจมองว่ารถในระดับ 1.0 ลิตรนั้นมันเล็กไปสำหรับผู้ชายตัวใหญ่ร่างโต ดังนั้น การมองหารถเก๋งที่มีพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวางขึ้นจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจมาก และหนึ่งในรูปแบบรถที่ตอบโจทย์ได้ตรงตามความต้องการของคุณคือ Mitsubishi Mirage / Mitsubishi Attrage สองตัวเลือกที่แสนโดนเด่นจากค่าย Mitsubishi ที่คุณต้องร้องว้าวทั้งในรูปทรงและประสิทธิภาพในการใช้งานอย่างแน่นอน

สำหรับรูปลักษณ์ภายนอก เรียกว่าตอบสนองคนรักรถบอดี้ใหญ่ได้เป็นอย่างดี ทั้งพื้นที่ในห้องโดยสารที่กว้างขวาง ไม่ว่าจะปรับรูปแบบเพื่อการรับเพื่อนไปทำงานด้วยกันหรือวันพักผ่อนยามเลิกงาน หรือพื้นที่สำหรับการใส่เอกสารสำหรับการนำเสนองานต่าง ๆ ที่ใส่ได้ทั้งในพื้นที่โดยสารหรือพื้นที่เก็บของด้านหลังก็สามารถทำได้อย่างลงตัว มาพร้อมขุมพลังระดับ 1.0 ลิตรอีกเช่นกัน แต่ดีไซน์นั้นเหมือนรถหรูในระดับที่เหนือกว่า Mitsubishi Mirage / Mitsubishi Attrage จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอีกแบบสำหรับการซื้อรถคันแรกสำหรับวัยทำงานของคุณ โดยราคาเปิดตัวของ Mitsubishi Mirage อยู่ที่ 523,000 บาท และMitsubishi Attrage เปิดตัวในราคา 543,000 บาท เท่านั้น

แนะนำรถ 5 รุ่นเหมาะสำหรับเด็กจบใหม่ ที่กำลังก้าวเข้าสู่วัยทำงาน

3. Nissan March

หนึ่งในดวงใจของผู้รักความเร็ว ความแรง และความแข็งแกร่งของตัวถังรถกับ Nissan March ความน่ารักที่มากับความแข็งแกร่งที่ออกแบบมาได้อย่างลงตัว การออกแบบที่เน้นความโค้งเว้าที่สร้างความน่ารักน่าสนใจ แตกต่างไปจากการออกแบบรถทั่วไป อีกทั้งด้วยเทคโนโลยี Eco car ที่ถูกนำเข้ามาในรถคันนี้กับเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร ที่มีพลังขับเคลื่อนที่ดีมาก แถมยังประหยัดน้ำมันเป็นเลิศ เดินทางในเมืองใหญ่ได้แบบสบาย ๆ ไม่ต้องกังวลเรื่องของการเผาผลาญน้ำมันที่สิ้นเปลืองเกินเหตุ

นอกจากนั้น ด้วยดีไซน์ภายในห้องโดยสารที่หรูหรา ทันสมัย เพิ่มเติมฟังก์ชันต่าง ๆ สำหรับการขับขี่และการผ่อนคลายความเหนื่อยล้าด้วยระบบมัลติมีเดียครบครัน ทำให้รถเล็กรุ่นนี้เป็นยนตรกรรมที่เต็มเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพสำหรับการขับรถในเมืองใหญ่ จะรถติดแค่ไหน Nissan March ก็พร้อมเป็นเพื่อนอยู่เคียงข้างสร้างความสนุกสนานให้กับคุณทั้งในวันทำงานอันแสนเร่งรีบ และวันพักผ่อนอันแสนเร้าใจ นี่แหละ รถคู่ใจคนวัยมันส์ในยามเริ่มต้นวัยทำงานในปีแรกกับสนนราคาเบาที่สุดเพียงแค่ 420,000 บาทเท่านั้น โดยรุ่นท็อปสุดของ Nissan March อยู่ที่ 495,000 บาท เท่านั้น

แนะนำรถ 5 รุ่นเหมาะสำหรับเด็กจบใหม่ ที่กำลังก้าวเข้าสู่วัยทำงาน

4. Toyota Yaris ATIV

สนามการแข่งขันนี้ไม่มีเขาได้อย่างไร กับความโฉบเฉี่ยวทันสมัยกับ Eco car ขนาดเล็กราคาเบา ๆ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ชีวิตในเมืองได้อย่างลงตัวกับ Toyota Yaris ATIV ที่ออกแบบมาเอาใจนักขับอย่างเต็มที่ทั้งในรูปโฉม Hatchback และ Sedan ที่ปรับฟังก์ชันสำหรับการใช้งานได้อย่างเต็มที่ ที่มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกแบบ “ทะลุออกหน้าต่างรถ” ทั้งระบบมัลติมีเดียสำหรับการสร้างความบันเทิงในการเดินทาง พร้อมกับแผ่นกรองอากาศที่สร้างความสดชื่นภายในตัวรถที่เป็นนวัตกรรมการออกแบบที่ใส่ใจในตัวผู้ขับขี่อย่างมาก

ความโดดเด่นคือการออกแบบที่มีหลากหลายเวอร์ชันให้เลือก เรียกกันว่าละลานตากันเลยทีเดียวทั้งในส่วนของรูปโฉมทั่วไป ที่สามารถประยุกต์เข้ากับรูปแบบไลฟ์สไตล์ต่าง ๆ ได้อย่างลงตัว ทั้งในเรื่องของการทำงานและการพักผ่อน Toyota Yaris ATIV เตรียมทุกสิ่งเอาไว้แบบจัดเต็มเพื่อตอบสนองความต้องการด้านการใช้รถให้ลงตัวที่สุด และมาพร้อมกับระบบการขับเคลื่อนที่สามารถเลือกได้ตามความเหมาะสมของเงินทุนที่มีตั้งแต่ Sport ราคา 609,000 บาท หรือ Play Limited Edition Sport ราคา 634,000 บาท เรียกได้ว่าจะเป็นรูปโฉมไหน Toyota Yaris ATIV ก็จัดให้แบบเต็มๆ

แนะนำรถ 5 รุ่นเหมาะสำหรับเด็กจบใหม่ ที่กำลังก้าวเข้าสู่วัยทำงาน

5. Honda City

อีกหนึ่งยนตรกรรมชั้นเลิศที่ไม่อาจมองข้ามได้กับค่ายการออกแบบและผลิตรถระดับโลกอย่าง Honda ที่ขอส่ง Honda City RS เข้าประกวด ขวัญใจรถสำหรับการใช้ชีวิตในเมืองสำหรับเด็กจบใหม่และเริ่มต้นวัยทำงานเป็นปีแรก ด้วยราคาเบา ๆ สบายกระเป๋าและมีรูปแบบดีไซน์ให้เลือกทั้งแบบ Sedan และ Hatchback มาพร้อมกับเทคโนโลยีเครื่องยนต์รูปแบบใหม่แบบ e:HEV ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าร่วม ทำให้ Honda City ประหยัดน้ำมัน ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในเมืองใหญ่ได้มาก

นอกจากนั้นด้วยดีไซน์ของห้องโดยสารที่ออกแบบมาได้อย่างกว้างขวางและยังเข้ากับดีไซน์ตัวรถที่เลิศหรู จึงเป็นรถที่มีขนาดเกือบเทียบเท่ารถขนาดกลาง แต่มีประสิทธิภาพที่ล้นเกินราคา ไม่ว่าจะเป็นการเก็บเอกสาร อุปกรณ์สำหรับการทำงานก็สามารถทำได้อย่างลงตัว หรือจะปรับเปลี่ยนรูปโฉมเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจกับเพื่อนฝูงก็สามารถทำได้ในทันที นับได้ว่าเป็นรถเก๋งอเนกประสงค์ที่พร้อมในเรื่องการใช้งานอย่างเต็มที่ สนนราคาเพียงแค่ 579,500 บาท สำหรับรุ่น Sedan และ 599,000 บาท สำหรับรุ่น Hatchback

ไม่ว่าเด็กจบใหม่หรือคนวัยทำงาน ต้องไม่ลืมมีประกันรถยนต์

น่าจะตอบโจทย์ความต้องการของการใช้ชีวิตในเมืองใหญ่กับรถทั้ง 5 รุ่นใหม่สำหรับใครที่กำลังเริ่มต้นวัยทำงาน เลือกรถที่ถูกใจได้แล้ว อย่าลืมเลือกประกันรถยนต์ที่คุ้มค่าสำหรับการคุ้มครองรถและตัวคุณเองแบบเต็มประสิทธิภาพ ที่รู้ใจ ประกันออนไลน์ เรามีประกันรถยนต์หลากหลายรูปแบบที่พร้อมตอบสนองความต้องการได้อย่างลงตัว มองหาประกันรถยนต์ที่ใช่ไปกับเรา เพราะเรารู้ใจกว่า ประหยัดกว่า เราทำให้ประกันรถยนต์เป็นเรื่องง่าย ไม่ซับซ้อน และเชื่อถือได้ ให้เราได้ดูแลรถคันใหม่ของคุณกับการเริ่มต้นวัยทำงานด้วยความอุ่นใจไปในทุกเส้นทาง คลิกเช็คราคาและปรับแต่งแผนของคุณได้เลย

สามารถติดตามข่าวสารและโปรโมชั่นใหม่ๆ จากรู้ใจได้ที่ FB fan page: Roojai หรือ คลิก add Official Line ของเราไว้ได้เลย

CARRO Automall แนะนำ Nissan March รถ Eco-Car

ยุคที่หลายๆ คน นอกจากจะมีอาชีพมนุษย์เงินเดือนแล้ว บางคนยังรู้จักหาอาชีพเสริม อาทิเช่น ขายของออนไลน์ ปลูกต้นไม้ขาย หรือทำขนม เป็นต้น ก็ต้องใช้รถยนต์ที่มีพื้นที่อเนกประสงค์ ขนของขึ้นลงได้คล่องแคล่ว รวมถึงประหยัดน้ำมัน ค่าซ่อม อะไหล่ไม่แพง คุ้มค่าน้ำมันในการออกไปแต่ละครั้ง

และรถอีกรุ่นที่ CARRO Automall (คาร์โร ออโต้มอลล์) จะมาแนะนำให้คุณได้เลือกสรรเป็นเจ้าของกัน เป็นรถที่มีคุณสมบัติดังกล่าวหลายอย่าง เชื่อว่าหลายคนคงชอบทีเดียว ซึ่งรถรุ่นนี้ตอนออกใหม่ป้ายแดงก็ดังเปรี้ยงปร้าง เป็นรถขายดีทีเดียว ทั้งในไทยและในต่างประเทศ …

ไปรู้จักกับ Nissan March (นิสสัน มาร์ช) รถ Eco-Car 5 ประตูรุ่นแรกในไทยกันเลยครับ กับรถขายดีใน CARRO Automall มาดูกันว่า รุ่นนี้มีความน่าสนใจตรงจุดไหนกันบ้าง …

Nissan-March-2010

ย้อนกลับไปในวันที่ 12 มีนาคม 2553 บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้จัดงานฉลองการเริ่มผลิตรถยนต์ Nissan March ใหม่ มาพร้อม Concept “ให้ชีวิตคุณง่ายขึ้นอีก” โดยนิสสัน มาร์ช รุ่นใหม่นี้ ผ่านเกณฑ์มาตรฐานข้อกำหนดรถประหยัดพลังงานสากล (อีโคคาร์) เรียบร้อย

Nissan March ผลิตบนแพลตฟอร์มเอนกประสงค์ใหม่ ที่เรียกว่า V-Platform ด้วยสไตล์โฉบเฉี่ยว รูปทรงกะทัดรัด คล่องตัวแบบแฮทช์แบค สะดุดตาด้วยรูปทรงอ้วนกลม กระจังหน้าสองชั้น ไฟหน้าทรงกลมขนาดใหญ่

มีเส้นโค้งบริเวณขอบหน้าต่าง (Arched Side Window) ที่โดดเด่น ให้พื้นที่กระจกกว้าง ดูโปร่ง สะดุดตา มีร่องรูปทรงบูมเมอแรงบนหลังคารถ ช่วยลดการสั่นสะเทือน ด้านท้ายมีเซ็นเซอร์ถอยหลัง 4 จุด และกระจกมองข้างพับเก็บอัตโนมัติเมื่อล็อครถ (เฉพาะรุ่น EL และ VL) เป็นต้น

Nissan-March-2010

มร. มาโกโตะ ยามาเน (Mr.Makoto Yamane) รองหัวหน้าฝ่ายออกแบบผลิตภัณฑ์ ให้ความเห็นว่า “รถยนต์รุ่นนี้ ต้องมีสไตล์ และกลิ่นไอของความพิถีพิถัน” 

มิติตัวรถยาว 3,780 มม. กว้าง 1,665 มม. สูง 1,515 มม. ระยะฐานล้อ 2,450 มม.

Nissan-March-2010

ห้องโดยสารภายในที่กว้างขวาง ขนาดเท่ากับรถขนาด 1.5 ลิตร นั่งสบาย และมีที่เก็บของอเนกประสงค์มาให้อย่างจุใจ อัดออพชั่นเพียบทั้งวิทยุแบบ Built-In ระบบแอร์แบบดิจิตอล กุญแจอัจฉริยะพร้อมระบบกันขโมย Immobilizer และปุ่ม Push Start เป็นต้น

และอุ่นใจกับระบบความปลอดภัยอย่างถุงลมนิรภัย SRS ด้านคนขับในทุกรุ่น ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค (ABS) ระบบควบคุมและกระจายแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ (EBD) และ ระบบเสริมแรงเบรก (BA)

Nissan-March-2010

ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร รหัส HR12DE แบบ 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว CVTC ให้แรงม้าสูงสุด 79 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 10.8 กก.-ม. (106 นิวตัน-เมตร) ที่ 4,400 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติแบบ Xtronic CVT

หลังจากนั้น นิสสัน มาร์ช ก็สร้างกระแส Talk Of The Town ตั้งแต่ในวันเปิดตัว มี 6 รุ่นย่อย ได้แก่ S MT, E MT, E CVT, EL CVT, V CVT และ VL CVT แถมราคาในรุ่นเริ่มต้น (S) เพียง 375,000 บาท …

ด้วยข้อดีข้อเด่นต่างๆ ที่กล่าวมา ทำให้ นิสสัน มาร์ช สามารถกวาดยอดจองไปถึง 5,000 กว่าคัน หลังเปิดตัวเพียง 2 สัปดาห์ และตามมาด้วยยอดขายอีกหลายหมื่นคันในเวลาไม่นานนัก

Nissan-March-Sport-Version-2011

ต่อมาในเดือนมีนาคม 2554 … Nissan ได้เปิดตัว March Sport Version นี้ได้รับการพัฒนาภายใต้แนวคิด “มาร์ชที่ทำให้คุณแตกต่าง” และออกแบบโดย Autech Japan (ออเทค เจแปน) เพิ่มออพชั่นด้านหน้าด้วยกระจังหน้าสีดำ และกันชนสปอร์ตแบบใหม่ ด้านหลังติดสัญลักษณ์รุ่น “Sports Version” และโดดเด่นด้วยลายเบาะผ้าใหม่ สีทูโทน ดำสลับเทา

มีให้เลือกสองรุ่นคือ 1.2 EL Sports Version และ 1.2 VL Sports Version โดยทั้งสองรุ่นจะมีสีให้เลือก 3 สี คือ สีขาวไวท์เพิร์ล สีดำแบล็ก สตาร์ และ สีเงินบริลเลียนท์ ซิลเวอร์

Nissan-March-2012

Nissan-March-2012

ในเดือนมีนาคม 2555 Nissan March ได้ปรับปรุงและเพิ่มอุปกรณ์อเนกประสงค์ให้มากขึ้น คือ เพิ่มช่องเก็บของพร้อมฝาปิดบริเวณคอนโซลหน้า หมอนรองศรีษะเบาะหลัง และเบาะหลังปรับให้พับได้ 60:40 ส่วนในรุ่น Sports Version ได้รับการติดตั้งสเกิร์ตข้าง และเบาะนั่งสีดำใหม่เพื่อเพิ่มอารมณ์เข้มสไตล์สปอร์ต

นอกจากนี้นิสสัน มาร์ช รุ่นปรับโฉมใหม่นี้ ยังมาพร้อมสีภายนอกใหม่ สีม่วง พลัม ให้เลือกด้วย

Nissan-March-2013

22 มีนาคม 2556 Nissan March ก็ปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ ให้ดูสปอร์ตขึ้น เปลี่ยนรูปแบบกระจังหน้าโครเมียมแบบใหม่ ไฟหน้าใหม่พร้อมไฟตัดหมอก ไฟท้ายแบบ LED ล้อแม็กขนาด 15 นิ้ว ลายใหม่ พร้อมกับเพิ่ม 2 สีใหม่ ได้แก่ สีเขียว กรีน โอลีฟ และ สีชมพู สวีท พิงค์

ส่วนภายในเพิ่มโทนสีเบจ และแผงแสดงผลหน้าจอล้อมกรอบด้วยโครเมียม สวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย ช่องเชื่อมต่อ USB ไฟในห้องเก็บสัมภาระ และวัสดุเบาะที่ปรับปรุงให้ดีขึ้น พร้อมประดับแผงคอนโซลด้วยสีดำ Piano Black และเพิ่มระบบเบรก ABS, EBD และ BA ตั้งแต่ในรุ่น E เป็นต้นไป

Nissan-March-2014

มาถึงเดือนสิงหาคม 2557 นิสสัน ได้แนะนำ March สีใหม่อีกครั้ง คือ สีฟ้า คาปรี บลู เพื่อสร้างสีสันและเพิ่มทางเลือกให้แก่ลูกค้ากลุ่มอีโค คาร์ โดยสีฟ้า คาปรี บลู ใหม่ นี้ เป็นสีเมทาลิคที่ได้รับแรงบันดาลใจจากความแวววาวของน้ำทะเลเกาะคาปรี ทางตะวันตกเฉียงใต้ในประเทศอิตาลี เป็นการเสริมความสดใสใหม่ให้กับผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้นอีก 1 สี

Nissan-March-Limited-Edition-2014

พอมาถึงเดือนตุลาคม 2557 นิสสัน ได้แนะนำ Nissan March Limited Edition หน้าตาแบบรุ่น Bolero ที่ส่งออกไปขายในญี่ปุ่น กระจังหน้าขนาดใหญ่ลายตาข่ายไขว้ พร้อมช่องดักลมด้านล่างดีไซน์ใหม่ ตกแต่งด้วยเส้นโครเมี่ยม มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย จำกัดจำนวนเพียง 600 คันเท่านั้น

Nissan-500000-Eco-Cars-Produced-In-Thailand-2016

พอมาถึงเดือนกรกฎาคม 2559 นิสสัน อีโคคาร์ ได้สร้างสถิติใหม่ด้วยการก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำอีโคคาร์รายแรกของไทยที่ผลิตเพื่อจำหน่ายแล้วกว่า 500,000 คัน ทั้ง Nissan March และ Almera … ภายใต้แนวคิด “500,000 รอยยิ้มและความสุข กับครอบครัวนิสสัน อีโคคาร์”

พร้อมแนะนำ Nissan March Limited Edition (อีกครั้ง) โดยเพิ่มชุดคิ้วกันสาดข้างประตู และไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้าง ชุดคิ้วบันไดสแตนเลสเรืองแสง และปลายท่อไอเสียรุ่นพิเศษ

แล้วหลังจากนี้ Nissan March ก็ไม่มีอะไรใหม่ๆ ออกมากระตุ้นตลาดในบ้านเรา ขายกันไปแบบเรื่อยๆ มาจนถึงปัจจุบัน พร้อมกับรุ่นย่อยที่ลดลงเหลือแค่เพียง 4 รุ่นย่อย ได้แก่ 1.2 S MT, 1.2 E MT, 1.2 E CVT และ 1.2 EL CVT

และสำหรับ CARRO Automall ในเดือนมกราคม 2565 เรามี Nissan March รีวิวรถคุณภาพเยี่ยม มาแนะนำให้คุณผู้อ่านรู้จักกัน 23 คันครับ ได้แก่ …..

NISSAN MARCH 1.2 E 2018 แดง

NISSAN MARCH 1.2 E 2018 แดง

1. Nissan March 1.2 E ปี 2018 เลขไมล์ 65,501 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 319,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/nissan-march-2018-D578M5.html

NISSAN MARCH 1.2 E 2019 ฟ้า

NISSAN MARCH 1.2 E 2019 ฟ้า

2. Nissan March 1.2 E ปี 2019 เลขไมล์ 39,140 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 319,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/nissan-march-2019-GY5308.html

NISSAN MARCH 1.2 S 2018 ชมพู

NISSAN MARCH 1.2 S 2018 ชมพู

3. Nissan March 1.2 S ปี 2018 เลขไมล์ 37,303 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 259,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/nissan-march-2018-E4JM86.html

NISSAN MARCH 1.2 E 2019 แดง

NISSAN MARCH 1.2 E 2019 แดง

4. Nissan March 1.2 E ปี 2019 เลขไมล์ 22,638 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 359,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/nissan-march-2019-GP2VPV.html

NISSAN MARCH 1.2 E 2019 ดำ

NISSAN MARCH 1.2 E 2019 ดำ

5. Nissan March 1.2 E ปี 2019 เลขไมล์ 29,766 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 339,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/nissan-march-2019-EN2L20.html

NISSAN MARCH 1.2 E 2018 เทา

NISSAN MARCH 1.2 E 2018 เทา

6. Nissan March 1.2 S ปี 2018 เลขไมล์ 16,439 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 249,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/nissan-march-2018-EZ20VO.html

NISSAN MARCH 1.2 E 2019 ฟ้า

NISSAN MARCH 1.2 E 2019 ฟ้า

7. Nissan March 1.2 E ปี 2019 เลขไมล์ 44,441 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 339,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/nissan-march-2019-GJV1P6.html

NISSAN MARCH 1.2 E 2018 ขาว

NISSAN MARCH 1.2 E 2018 ขาว

8. Nissan March 1.2 E ปี 2018 เลขไมล์ 49,053 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 329,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/nissan-march-2018-GP2LYV.html

NISSAN MARCH 1.2 E 2018 ฟ้า

NISSAN MARCH 1.2 E 2018 ฟ้า

9. Nissan March 1.2 E ปี 2018 เลขไมล์ 26,383 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 329,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/nissan-march-2018-DX273Q.html

NISSAN MARCH 1.2 E 2019 ขาว

NISSAN MARCH 1.2 E 2019 ขาว

10. Nissan March 1.2 E ปี 2019 เลขไมล์ 16,581 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 329,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/nissan-march-2019-E1W484.html

NISSAN MARCH 1.2 E 2019 แดง

NISSAN MARCH 1.2 E 2019 แดง

11. Nissan March 1.2 E ปี 2019 เลขไมล์ 39,336 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 319,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/nissan-march-2019-GP293Z.html

NISSAN MARCH 1.2 E 2017 ขาว

NISSAN MARCH 1.2 E 2017 ขาว

12. Nissan March 1.2 E ปี 2017 เลขไมล์ 52,633 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 269,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/nissan-march-2017-EN28VV.html

NISSAN MARCH 1.2 E 2017 ชมพู

NISSAN MARCH 1.2 E 2017 ชมพู

13. Nissan March 1.2 E ปี 2017 เลขไมล์ 48,283 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 239,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/nissan-march-2017-DX2LKQ.html

NISSAN MARCH 1.2 E 2019 ดำ

NISSAN MARCH 1.2 E 2019 ดำ

14. Nissan March 1.2 S ปี 2019 เลขไมล์ 27,711 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 239,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/nissan-march-2019-GJV6JX.html

NISSAN MARCH 1.2 E 2019 แดง

NISSAN MARCH 1.2 E 2019 แดง

15. Nissan March 1.2 E ปี 2019 เลขไมล์ 35,096 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 339,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/nissan-march-2019-D2XLW0.html

NISSAN MARCH 1.2 E 2017 ฟ้า

NISSAN MARCH 1.2 E 2017 ฟ้า

16. Nissan March 1.2 E ปี 2017 เลขไมล์ 51,189 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 299,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/nissan-march-2017-DR2KY1.html

NISSAN MARCH 1.2 S 2019 ดำ

NISSAN MARCH 1.2 S 2019 ดำ

17. Nissan March 1.2 S ปี 2019 เลขไมล์ 41,433 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 259,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/nissan-march-2019-DO2V34.html

NISSAN MARCH 1.2 E 2017 ฟ้า

NISSAN MARCH 1.2 E 2017 ฟ้า

18. Nissan March 1.2 E ปี 2017 เลขไมล์ 58,431 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 309,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/nissan-march-2017-EN2RV0.html

NISSAN MARCH 1.2 E 2018 ดำ

NISSAN MARCH 1.2 E 2018 ดำ

19. Nissan March 1.2 E ปี 2018 เลขไมล์ 114,340 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 289,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/nissan-march-2018-EZ2WZW.html

NISSAN MARCH 1.2 S 2018 เทา

NISSAN MARCH 1.2 S 2018 เทา

20. Nissan March 1.2 S ปี 2018 เลขไมล์ 13,251 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 269,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/nissan-march-2018-EN299J.html

NISSAN MARCH 1.2 E 2018 แดง

NISSAN MARCH 1.2 E 2018 แดง

21. Nissan March 1.2 E ปี 2018 เลขไมล์ 17,034 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 269,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/nissan-march-2018-G3Y3LJ.html

NISSAN MARCH 1.2 E CVT 2020 ดำ

NISSAN MARCH 1.2 E CVT 2020 ดำ

22. Nissan March 1.2 E ปี 2020 เลขไมล์ 5,487 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 329,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/nissan-march-2020-GMYRVX.html

NISSAN MARCH 1.2 E 2019 ชมพู

NISSAN MARCH 1.2 E 2019 ชมพู

23. Nissan March 1.2 S ปี 2017 เลขไมล์ 1,437 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 259,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/nissan-march-2019-EKWRQP.html

ถ้าใครที่กำลังมองหา Nissan March มือสอง (นิสสัน อัลเมร่า มือสอง) แล้วรู้สึกสนใจอยากเป็นเจ้าของขึ้นมา CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ เราพร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่งรถทุกคันผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check มากกว่า 200 จุด และยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดในการดูรถเสมือนจริง เป็นรายแรกของธุรกิจรถมือสองในประเทศไทย คุณสามารถดูรูปรถ Nissan March ทั้งภายนอก ภายใน กันได้แบบ 360 องศา รวมถึงยังสามารถฟังเสียงเครื่องยนต์จากรถคันที่คุณสนใจได้อีกด้วย!

เพราะเรามั่นใจในคุณของรถยนต์ทุกคัน เราจึงกล้ารับประกันคุณภาพรถนานถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร! อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

หมายเหตุ: ข้อมูลรถแนะนำจาก CARRO Automall เป็นข้อมูลรถยนต์ที่มีจำหน่ายในเดือนมกราคม 2565 / เลขกิโลเมตร ณ วันตรวจสภาพรถ

CARRO Automall แนะนำ 6 รถมือสอง สำหรับเด็กจบใหม่

ในช่วงนี้ แม้ว่าจะมีเด็กจบใหม่ ที่เรียนจบมหาวิทยาลัยและต้องก้าวเข้าสู่โลกการทำงาน กลับ ประสบปัญหาจากโควิด-19 กันเป็นจำนวนมาก เนื่องจากหางานไม่ได้ พร้อมๆ กับผู้คนที่ตกงานกันเป็นจำนวนนับล้านคน

แต่ก็ยังมีเด็กจบใหม่จำนวนหนึ่ง ที่โชคดีมาก หางานได้ในเวลานี้ แต่เนื่องด้วยการระบาดของโควิด-19 ซึ่งบางงานอาจจะ Work From Home ไม่ได้ ทำให้ต้องออกจากบ้านไปทำงาน จะใช้ระบบขนส่งสาธารณะก็ค่อนข้างรอนาน เสี่ยงต่อการเจอคนเยอะๆ และอาจเป็นอันตรายต่อคนที่บ้านอีก หลายคนจึงจำเป็นต้องซื้อรถมาใช้ในการเดินทาง ท่ามกลางทุนทรัพย์ที่มีจำกัด

CARRO Automall เลยจะมาแนะนำให้น้องๆ และทุกคนได้รู้จักกับ 6 รถมือสองยอดฮิตในตอนนี้กันครับ ซึ่งอาจจะไว้ใช้เป็นรถคันแรก สำหรับใช้เดินทางไปทำงาน โดยที่มีค่าใช้จ่ายในการดูแล หรือเติมน้ำมันในแต่ละเดือนที่จะพอจ่ายไหว เมื่อเทียบกับเงินเดือนที่ได้รับกันครับ

Nissan-March-2013

1. Nissan March

Nissan March (นิสสัน มาร์ช) จัดว่าเป็นรถ “Eco-Car” รุ่นแรกของไทย เปิดตัวจำหน่ายมาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2010 ใน Concept “ให้ชีวิตคุณง่ายขึ้นอีก” มียอดสะสมรวมมากนับหลักแสนคัน และยังมีรถป้ายแดงขายในตอนนี้ โดยปรับราคาขึ้นไปบ้าง ณ ปัจจุบัน

มีจุดเด่นที่ขนาดตัวรถเล็ก แต่ภายในกว้างขวาง นั่งสบาย (เฉพาะด้านหน้า) มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร 79 แรงม้า มีทั้งเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติแบบ Xtronic CVT ให้เลือก ใช้งานในเมืองได้อย่างพอเพียง ประหยัดน้ำมัน มีให้เลือกหลายรุ่นย่อย ราคามือสองปัจจุบัน มีเงินแค่หนึ่งแสนกว่าบาท ก็เป็นเจ้าของได้แล้ว

Toyota-Yaris

2. Toyota Yaris

ชื่อชั้นของ “โตโยต้า” ต้องยอมรับว่าเป็นรถที่ทนทาน ไม่จุกจิก รวมถึงราคาขายต่อที่ดีกว่ารถแบรนด์อื่นๆ แต่ข้อเสียก็มักชอบกั๊กออฟชั่นมากหน่อย ถ้าคุณรับได้ก็ไม่เป็นไร

สำหรับรถมือสองที่เราขอแนะนำ นั่นคือ Toyota Yaris (โตโยต้า ยาริส) รถสปอร์ตแฮทช์แบค ที่ตอบสนองชีวิตไลฟ์สไตล์คนเมือง ในรูปแบบรถอีโค่คาร์ ที่เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2013 มาพร้อมขุมพลังขนาด 1.2 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 86 แรงม้า ภายในได้เปรียบเนื่องจากกว้างขวางกว่ารถในระดับเดียวกัน ออฟชั่นที่มีให้ก็ถือว่าใช้ได้ ส่วนราคามือสองเริ่มต้นอยู่ที่สองแสนกว่าบาท เด็กจบใหม่ผ่อนไหวอยู่แล้ว

CARRO Automall แนะนำ Toyota Vios

3. Toyota Vios

ขยับตัวรถขึ้นมาในระดับเครื่องยนต์ใหญ่หน่อย กับ Toyota Vios (โตโยต้า วีออส) ที่เปิดตัวจำหน่ายมาตั้งแต่ปี 2013 จนถึงปัจจุบัน เหมาะสำหรับคนต้องใช้รถในต่างจังหวัด วิ่งบนทางหลวงบ่อยๆ ได้กำลังเครื่องยนต์ พลังเร่งแซงมากขึ้น

รุ่นนี้มาพร้อมขุมพลังที่ใช้กันอย่างยาวนาน ขนาด 1.5 ลิตร รหัส 1NZ-FE ให้แรงม้าสูงสุด 109 แรงม้า ที่ใช้มาตั้งแต่ Vios โฉมแรก ความทนทานนี่หายห่วง ดูแลง่าย ไม่จุกจิก ส่วนในรุ่นไมเนอร์เชนจ์ และรุ่นที่ขายในปัจจุบัน ปรับเครื่องยนต์ใหม่เป็นรหัส 2NR-FBE 108 แรงม้า เติมน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ได้ด้วย ส่วนราคามือสองเริ่มต้นอยู่ที่สองแสนกลางๆ ก็พร้อมเป็นเจ้าของได้

CARRO Automall แนะนำ Honda Jazz

4. Honda Jazz

รถยอดนิยมของเหล่าบรรดาวัยรุ่น นักศึกษา หรือเด็กจบใหม่ที่เพิ่งทำงานกัน เพราะเป็นรถที่มีรูปร่างหน้าตาสปอร์ตโดนใจวัยรุ่น แต่งสวย ของแต่งเยอะอีกรุ่น คนต้องยกให้กับ Honda Jazz (ฮอนด้า แจ๊ส) ซึ่งในปัจจุบันก็ถือมีรุ่นที่เป็นป้ายป้ายแดงออกห้างจำหน่าย แต่ในราคามือสองนั้น ถือว่าย่อมเยาว์กว่ามาก เริ่มต้นที่สามแสนกว่าบาท

รุ่นนี้มาพร้อมขุมพลังขนาด 1.5 ลิตร รหัส L15Z1 ให้แรงม้าสูงสุด 117 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 146 นิวตัน-เมตร ที่ 4,700 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ CVT ใหม่ ดูแลง่าย ทนทาน ขับสนุกยิ่งขึ้นด้วย Paddle Shift ที่พวงมาลัยแบบ 7 สปีด แถมยังมีระบบ Cruise Control ขับทางไกลสบายๆ ไม่ต้องเมื่อยขาขวา

Mazda2

5. Mazda2

อีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับคนเพิ่งเริ่มทำงาน ที่ชอบรถแนวสปอร์ต ขับแล้วช่วงล่างเกาะถนนดี ขับสนุก ได้อารมณ์คล้ายกับรถซิตี้คาร์ของยุโรป ต้องยกให้ Mazda2 (มาสด้า2) ที่ออกจำหน่ายมาตั้งแต่ปี 2015 คุณอาจจะลืมไปเลย ว่านี่คือรถ Eco-Car แถมมีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซิน และดีเซล

ด้วยสมรรถนะของเครื่องยนต์ SKYACTIV ทั้งแบบเบนซินขนาด 1.3 ลิตร 93 แรงม้า ประหยัดน้ำมัน 23.3 กม./ลิตร และดีเซลขนาด 1.5 ลิตร Turbo 105 แรงม้า ประหยัดสุดยอด 26.3 กม./ลิตร มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด กับ Manual Mode ออฟชั่นมีเยอะพอควร (ยกเว้นรุ่นเริ่มต้น) ถูกใจเด็กจบใหม่ขาซิ่งหลายๆ คน โดยราคามือสองเริ่มต้นเกือบๆ สามแสนบาท อาจต้องเก็บเงินดาวน์ หรือผ่อนต่อเดือนมากหน่อยนะ!

Suzuki-Swift-2012

6. Suzuki Swift

พูดถึง Suzuki Swift (ซูซูกิ สวิฟท์) หลายคนน่าจะเคยเห็นและรู้สึกชื่นชอบ กับความเป็นสปอร์ตที่แฝงอยู่ และดูคล้ายกับรถ Mini ของอังกฤษ โดย Suzuki Swift โฉมปี 2012 – 2018 ยังคงเป็นรถอีโคคาร์ยอดนิยมในตลาดรถมือสอง ซื้อง่ายขายคล่อง แต่งสวย

มาพร้อมขุมพลังขนาด 1.25 ลิตร รหัส K12B ให้แรงม้าสูงสุด 91 แรงม้า จัดว่ามากที่สุดเมื่อเทียบกับอีโคคาร์ในขนาด 1.2 ลิตรด้วยกัน ซึ่งตัวรถก็มีออฟชั่นที่จัดมาให้มากพอสมควร ในราคามือสองตอนนี้เริ่มต้นประมาณเกือบๆ สองแสนบาท ก็ซื้อได้แล้ว

ส่วนช่วงนี้ ใครอยากซื้อรถมือสองสภาพเยี่ยม ราคาเบาๆ CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น!

รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check และยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ให้คุณเลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา พร้อมรับประกันคุณภาพรถนานถึง 2 ปี หรือ 20,000 กิโลเมตร! 

อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! เรามีรถให้คุณเลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Official โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

10 อันดับ รถเกียร์ออโต้ป้ายแดง ราคาถูกสุด ปี 2021

ถ้าจะให้พูดถึงการขับรถในปัจจุบัน ในกรุงเทพฯ หรือจังหวัดใหญ่ๆ มักเจอปัญหารถติดกันทุกวัน การจะขับรถเกียร์ธรรมดาขณะรถติดทุกวันนั้น สุขภาพเข่าซ้ายก็คงไม่สู้ดีนัก ต้องเหยียบคลัทช์กันจนขาล้าเลย และคนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่ ก็ขับรถเกียร์ธรรมดากันไม่ค่อยเป็นแล้ว …

รถเกียร์ออโต้ (หรือรถเกียร์อัตโนมัติ) ในอดีต มักจะเป็นรถราคาแพง หรือรถรุ่น Top ของรุ่นนั้นๆ … มาจนถึงยุคปัจจุบัน รถป้ายแดงเกียร์ออโต้ กลายเป็นของธรรมดาสามัญมาก มีให้เลือกในทุกรุ่น ไม่เว้นแม้แต่รถราคาถูก ก็มีให้คนออกรถใหม่เลือกซื้อกัน

MR.CARRO ขอรวบรวมข้อมูล 10 อันดับ รถเกียร์ออโต้ป้ายแดงราคาถูกสุด ประจำปี 2021 มาให้ทุกท่านได้ทราบครับ.

Suzuki-Celerio

1. Suzuki Celerio GL CVT ราคา 408,000 บาท

Suzuki Celerio (ซูซูกิ เซเลริโอ) รถ Eco-Car น้องเล็กจาก Suzuki ที่ขายในบ้านเรา ชู 3 จุดเด่น ด้วยห้องโดยสารกว้างขวาง หลังคาตัวรถสูง ให้สมรรถนะเกินตัว ประหยัดน้ำมันเป็นเยี่ยม สูงถึง 22 กม./ลิตร มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินขนาด 3 สูบ 1.0 ลิตร 68 แรงม้า และเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT

อุปกรณ์มาตรฐานเด่นๆ : กุญแจรีโมท, เซ็นทรัลล็อค, กระจกไฟฟ้า, ถุงลมนิรภัยคู่หน้า, ระบบเบรก ABS/EBD, ล้อกระทะ 14 นิ้ว พร้อมฝาครอบ

Nissan-March

2. Nissan March 1.2E CVT ราคา 495,000 บาท

Nissan March (นิสสัน มาร์ช) จัดเป็น “Eco-Car” รุ่นแรกของไทยที่ผลิตขายอย่างเป็นทางการในปี 2553 มีจุดเด่นที่ขนาดตัวรถเล็ก ภายในกว้างขวาง นั่งสบาย ขับง่าย มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร 79 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติแบบ Xtronic CVT ประหยัดน้ำมันได้สูงถึง 20 กม./ลิตร

อุปกรณ์มาตรฐานเด่นๆ : ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน LED, ไฟท้าย LED, สปอยเลอร์หลัง, กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า, กุญแจรีโมท, เบาะนั่งด้านหลังพับ 60:40, เครื่องเสียง CD/MP3 พร้อมลำโพง 4 ตำแหน่ง, ถุงลมนิรภัยคู่หน้า, ระบบเบรก ABS/EBD และล้อกระทะขนาด 14 นิ้ว พร้อมฝาครอบ

Nissan Almera Sportech

3. Nissan Almera Turbo E CVT ราคา 509,000 บาท

Nissan Almera (นิสสัน อัลเมร่า) จัดเป็น Eco-Car ขนาด 4 ประตูรุ่นแรกของไทยที่ยังมีขายอยู่ในปัจจุบัน มาในรูปแบบ “เรขาคณิตที่สื่อถึงอารมณ์ หรือ Emotional Geometry” มีองค์ประกอบที่โดดเด่น และเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ เช่น กระจังหน้าแบบ V-Motion ไฟหน้า-ไฟท้าย ทรงบูมเมอแรง แนวเสาหลังคาหลังที่ถูกยกขึ้น (Kick-Up C-pillars) และ หลังคาแบบลอยตัว (Floating Roof)

เครื่องยนต์สมรรถนะดี เร่งแซงได้ทันใจ ในรหัส รหัส HRA0 ให้แรงม้าสูงสุด 100 แรงม้า ที่ 5,000 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 152 นิวตันเมตร ที่ 2,400-4,000 รอบ/นาที ประหยัดน้ำมันได้สูงสุดถึง 23.3 กม./ลิตร และให้อัตราเร่งความเร็วสูงจากแรงบิดแบบต่อเนื่อง (Flat Torque) ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ Xtronic CVT พร้อม D-Step Logic

อุปกรณ์มาตรฐานเด่นๆ: ระบบเครื่องเสียง วิทยุ พร้อมระบบเชื่อมต่อ Bluetooth/USB/AUX-IN, กุญแจรีโมท, กระจกไฟฟ้า, ถุงลมนิรภัยคู่หน้า, ระบบเบรก ABS/EBD/BA, เทคโนโลยีควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวอัตโนมัติ Vehicle Dynamic Control (VDC), เทคโนโลยีออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน Hill Start Assist (HSA), ระบบกุญแจ Immobilizer และล้อกะทะเหล็ก 15 นิ้ว พร้อมฝาครอบล้อ

New-Mitsubishi-Mirage-2020

4. Mitsubishi Mirage GLX CVT ราคา 509,000 บาท

Mitsubishi Mirage (มิตซูบิชิ มิราจ) อีกหนึ่งรถ Eco-Car จาก มิตซูบิชิ ตัวรถที่ขนาดเล็กน่ารัก ด้วยดีไซน์สปอร์ตรอบคัน มาพร้อมกับออพชั่นใหม่ๆ และอุปกรณ์ความปลอดภัยเพียบ ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร 78 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 23.3 กม./ลิตร เรียกได้ว่าน่าใช้อีกรุ่นหนึ่งเลยทีเดียว

อุปกรณ์มาตรฐานเด่นๆ : ไฟ LED ที่กันชนหน้า, กระจกมองข้างปรับ-พับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว LED, ไฟท้าย LED, กุญแจรีโมท, เบาะนั่งด้านหลังพับ 60:40, หน้าจอระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อผ่านสมาร์ทโฟน รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto, ระบบสั่งงานด้วยเสียง SIRI และระบบเชื่อมต่อบลูทูธ, สวิตช์ควบคุมระบบเครื่องเสียงบนพวงมาลัย, สวิตช์ควบคุมการสั่งงานด้วยเสียง และปุ่มรับสาย-วางสายโทรศัพท์บนพวงมาลัย, ถุงลมนิรภัยคู่หน้า, ระบบเบรก ABS/EBD, ระบบป้องกันการลื่นไถล และระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA

MG3

5. MG3 1.5C ราคา 519,000 บาท

MG3 (เอ็มจี3) จัดเป็นรถซิตี้คาร์ที่น่าใช้อีกหนึ่งรุ่น มารูปทรงสไตล์สปอร์ต ภายใต้แนวคิด Brit Dynamic น่าใช้ พร้อมออพชั่นที่ให้มากมายเกินคาด ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร 112 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด พร้อม Manual Mode

อุปกรณ์มาตรฐานเด่นๆ: ไฟหน้าโปรเจคเตอร์, ระบบปรับไฟหน้าสูง-ต่ำ, กระจกมองข้างสีดำพร้อมไฟเลี้ยว, ไฟท้าย LED, ไฟตัดหมอกหลัง, กุญแจรีโมท, ระบบ Bluetooth + ช่อง USB, ถุงลมนิรภัยคู่หน้า, ระบบเบรก ABS/EBD, ระบบควบคุมเบรกขณะเข้าโค้ง CBC, ระบบควบคุมการทรงตัว SCS, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TCS, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAS, ระบบป้องกันการลื่นไถลเมื่อลดเกียร์ต่ำฉับพลัน MSR, Follow Me Home Light, ระบบล็อคประตูอัตโนมัติ และล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว

New-Mitsubishi-Attrage-2020

6. Mitsubishi Attrage GLX CVT ราคา 529,000 บาท

Mitsubishi Attrage (มิตซูบิชิ แอททราจ) ใช้พื้นฐานเดียวกันกับ Mirage แต่ออกแบบเป็นรถ 4 ประตู ตัวรถดีไซน์สปอร์ต ภายในหรูหรา กว้างขวาง มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร 78 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 23.8 กม./ลิตร

อุปกรณ์มาตรฐานเด่นๆ : ไฟ LED ที่กันชนหน้า, กระจกมองข้างปรับ-พับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว LED, ไฟท้าย LED, กุญแจรีโมท, เบาะนั่งด้านหลังพับ 60:40, หน้าจอระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อผ่านสมาร์ทโฟน รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto, ระบบสั่งงานด้วยเสียง SIRI และระบบเชื่อมต่อบลูทูธ, สวิตช์ควบคุมระบบเครื่องเสียงบนพวงมาลัย, สวิตช์ควบคุมการสั่งงานด้วยเสียง และปุ่มรับสาย-วางสายโทรศัพท์บนพวงมาลัย, ถุงลมนิรภัยคู่หน้า, ระบบเบรก ABS/EBD, ระบบป้องกันการลื่นไถล และระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA

Nissan Note 2020

7. Nissan Note 1.2 E CVT ราคา 530,000 บาท

Nissan Note (นิสสัน โน๊ต) จัดเป็น “Eco-Car” เฟส 2 ที่ผลิตขายอย่างเป็นทางการในเดือนมกราคม 2560 มีจุดเด่นที่ขนาดตัวรถเล็ก ภายในกว้างขวาง นั่งสบาย ขับง่าย มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร 79 แรงม้า ให้แรงบิดสูงในรอบเครื่องยนต์ต่ำ ประหยัดน้ำมันได้สูงถึง 20 กม./ลิตร เกียร์อัตโนมัติแบบ Xtronic CVT พร้อม D-Step Logic

อุปกรณ์มาตรฐานเด่นๆ : ไฟหน้าแบบฮาโลเจน โปรเจกเตอร์, กระจกมองข้างปรับพับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว, ไฟท้ายแบบ Signature Light พร้อมไฟเบรกแบบ LED, คอนโซลกลาง ตกแต่งด้วยวัสดุสีดำ Piano Black, พวงมาลัยยูรีเทนทรงสปอร์ตปรับสูง-ต่ำได้ ตกแต่งวัสดุสีเงิน, ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์, มาตรวัด Analog แบบเรืองแสง Fine Vision Meter, มาตรวัดอัจฉริยะ Multi-Information Display (MID) แสดงผลข้อมูลการขับขี่, กระจกไฟฟ้ารอบคัน พร้อมระบบป้องกันการหนีบด้านคนขับ, ระบบเครื่องเสียง วิทยุ CD/MP3 แบบ 1 แผ่น หน้าจอสี 5 นิ้ว พร้อม Aux-In/USB, ระบบเบรก ABS/EBD/BA, ระบบควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ VDC, ระบบออกตัวบนทางลาดชัน HSA, กุญแจรีโมทอัจฉริยะ Intelligent Key พร้อม Immobilizer, ถุงลม SRS คู่หน้า และล้อแม็ก 15 นิ้ว

New-Toyota-Yaris-ATIV-2020

8. Toyota Yaris ATIV Entry ราคา 539,000 บาท

Toyota Yaris ATIV (โตโยต้า ยาริส เอทีฟ) รถยนต์อีโคคาร์ 4 ประตูขนาดเล็ก โฉมใหม่ไมเนอร์เชนจ์ ตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่นใหม่ และกลุ่มวัยรุ่น ห้องโดยสารดีไซน์ทันสมัย กว้างขวาง สะดวกสบาย พร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระมากมาย ขับง่าย หาที่จอดง่าย มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.2 ลิตร 92 แรงม้า และเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i

อุปกรณ์มาตรฐานเด่นๆ : วิทยุ พร้อม USB และ AUX, สวิตช์ควบคุมเครื่องเสียง และโทรศัพท์ บนพวงมาลัย, กุญแจรีโมท, กระจกไฟฟ้า, ระบบเบรก ABS/EBD/ฺBA, ระบบควบคุมเสถียรภาพ VSC, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC, ถุงลมนิรภัย 7 ใบ และล้อกระทะขนาด 15 นิ้ว พร้อมฝาครอบ

Mazda2 Sedan Sports 2021

9. Mazda2 Sedan / Sports 1.3 E 2021 Collection ราคา 546,000 บาท

Mazda2 (มาสด้า2) แม้ว่าจะเปิดตัวขายกันมาหลายปีแล้ว แต่ Mazda ก็ยังคงปรับโฉม มาสด้า2 ให้สดใหม่อย่างต่อเนื่องทุกปี ราคาเดียวกันทั้งในรูปแบบ 5 ประตู Hatchback และ 4 ประตู Sedan ตัวรถดีไซน์สปอร์ต ภายในหรูหรา น่าขับ มาพร้อมเครื่องยนต์ Skyactiv-G ขนาด 1.3 ลิตร 93 แรงม้า รุ่นเครื่องยนต์ดีเซล Skyactiv-D ขนาด 1.5 ลิตร 105 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 23.8 กม./ลิตร

อุปกรณ์มาตรฐานเด่นๆ : ไฟหน้า LED, ไฟหน้าปรับอัตโนมัติ, เบาะนั่งด้านหลังพับ 60:40, วิทยุ FM/AM/MP3/USB/AUX, ระบบเชื่อมต่อบลูทูธ, สวิตช์ควบคุมระบบเครื่องเสียงบนพวงมาลัย, ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์อัจฉริยะ, ถุงลมนิรภัยคู่หน้า, ระบบเบรก ABS/EBD, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TCS, ระบบควบคุมเสถียรภาพและการทรงตัวของรถ DSC, ระบบช่วยออกตัวของรถบนทางลาดชัน HLA และระบบไฟสัญญาณฉุกเฉินอัตโนมัติ เมื่อเบรกกะทันหัน ESS

New-Toyota-Yaris-2020

10. Toyota Yaris Entry ราคา 549,000 บาท

Toyota Yaris Hatchback (โตโยต้า ยาริส แฮทช์แบค) รถยนต์อีโคคาร์ 5 ประตูแฮทช์แบค โฉมใหม่ไมเนอร์เชนจ์ ตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่นใหม่ และกลุ่มวัยรุ่น ห้องโดยสารดีไซน์ทันสมัย กว้างขวาง สะดวกสบาย พร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระมากมาย ขับง่าย หาที่จอดง่าย มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.2 ลิตร 92 แรงม้า และเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i

อุปกรณ์มาตรฐานเด่นๆ : วิทยุ พร้อม USB และ AUX, สวิตช์ควบคุมเครื่องเสียง และโทรศัพท์ บนพวงมาลัย, กุญแจรีโมท, กระจกไฟฟ้า, ระบบเบรก ABS/EBD/ฺBA, ระบบควบคุมเสถียรภาพ VSC, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC, ถุงลมนิรภัย 7 ใบ และล้อกระทะขนาด 15 นิ้ว พร้อมฝาครอบ

New-Suzuki-Swift-2021

11. Suzuki Swift GA CVT ราคา 557,000 บาท

Suzuki Swift (ซูซูกิ สวิฟท์) รถ Eco-Car รุ่นใหม่จากค่ายซูซูกิ ที่นำพาความสปอร์ตมาอย่างเต็มที่ ทั้งภายนอกและภายใน โดดเด่นด้วยมาตรวัดแบบสปอร์ต เบาะนั่งแบบสปอร์ต ช่องเก็บของมากมาย พร้อมพื้นที่เก็บของด้านหลังที่มากถึง 265 ลิตร มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร 83 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ CVT

อุปกรณ์มาตรฐานเด่นๆ : ไฟท้าย LED, ถุงลมนิรภัยคู่หน้า, กระจกไฟฟ้าคู่หน้า, ระบบเบรก ABS/EBD, ระบบควบคุมเสถียรภาพ ESP, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TCS, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน Hill Hold Control, ระบบ Idling Stop, เครื่องเล่นวิทยุ CD MP3/WMA/USB/AUX และล้อกระทะขนาด 15 นิ้ว พร้อมฝาครอบ

MR.CARRO หวังว่า 10 อันดับ รถเกียร์ออโต้ป้ายแดงราคาถูกสุดที่นำมาเสนอนั้น หากใครอยากได้ หรือกำลังตัดสินใจจะซื้อรถป้ายแดงอยู่พอดี แต่งบไม่พอ! มาขายรถกับ CARRO Express สิ! ได้ราคาดี หรือจะ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

และอีกหนึ่งบริการใหม่! CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check การันตีคุณภาพ รับประกันพร้อมโอนทุกคัน ฟรี! ค่าจัดโอน มีให้เลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน อยากซื้อรถคุณภาพเยี่ยม มาซื้อกับ CARRO Automall สิ!

หรือสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่หาไม่ได้ สามารถสั่งตามออเดอร์ได้ที่นี้ > https://th.carro.co/buy-car หรือโทร. 02-508-8690 อีกทั้งยัง Inbox เข้ามาสอบถามก็ได้เช่นกันได้ที่ Facebook -> CARRO Automall – รถบ้านมือสอง หรือทาง Line เชิญเลยครับที่ @carroautomall

หมายเหตุ : ข้อมูลสินค้า 10 อันดับข้างต้นนี้ เป็นข้อมูลสินค้าที่ Update ณ เดือนมิถุนายน 2564 เมื่อเวลาผ่านไปราคาและอันดับดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ โปรดสอบถามรายละเอียดหรือราคาล่าสุด ที่ตัวแทนจำหน่ายรถรุ่นนั้นๆ อีกครั้ง

รถมือสอง

จะซื้อรถมือสองสักคันดีไหม ? คำถามนี้ต้องอยู่ในใจมนุษย์เงินเดือนในกรุงเทพฯ

อย่างที่หลายคนรู้กันว่าระบบขนส่งสาธารณะของบ้านเรายังไม่ครอบคลุมมากนัก แถมเรื่องความสะดวกสบายนั้นไม่ต้องพูดถึง เผลอๆ การเดินทางไป – กลับจากที่ทำงานยังเหนื่อยกว่าการนั่งทำงานทั้งวันเสียอีก ! 

การมีรถเป็นของตัวเองสักคันน่าจะช่วยให้ชีวิตของมนุษย์เงินเดือนชาวกรุงฯ สบายขึ้นมากทีเดียว แต่การซื้อรถมือหนึ่งอาจจะเป็นภาระที่หนักหน่วงเกินไปสำหรับพนักงานเบี้ยน้อยหอยน้อย ฉะนั้นซื้อรถมือสองดีกว่า ประหยัดกว่ากันเยอะ

ใครที่ยังไม่รู้ว่าจะซื้อรถรุ่นไหนดีที่เหมาะกับชีวิตมนุษย์เงินเดือน CARRO ได้รวบรวมรถมือสอง 5 รุ่นขวัญใจมนุษย์เงินเดือนมาให้ชมกันแล้ว! รับรองว่าราคาไม่พาช้ำใจ ประหยัดน้ำมัน และเหมาะกับชีวิตในเมืองอย่างแน่นอน

รถมือสอง ยอดนิยม

อันดับ 5 : Mazda 2

ถือเป็นรถที่ถูกถามถึงอย่างมากมายจากคนใช้รถมือสอง เพราะเป็นรถที่มีขนาดกะทัดรัด แต่ดีไซน์ที่ให้ความปลอดโปร่งภายในห้องโดยสารทำให้ไม่รู้สึกไม่อึดอัด Mazda 2 เป็นรถที่ขึ้นชื่อในเรื่องช่วงล่างดี เกาะถนนแน่น ตีวงเลี้ยวได้แคบ และไม่มีหลุด อีกทั้งยังเป็นรถที่ไม่ซดน้ำมันอีกด้วย ! แต่หากต้องการรถ Mazda 2 รุ่นที่ประหยัดน้ำมันมากกว่าก็เลือกรุ่นที่เป็น Eco Car ได้เลย 

รถมือสอง ยอดนิยม

อันดับ 4 : Toyota Corolla Altis

อันดับต่อมา มาพร้อมกับราคาที่ขยับขึ้นมาอีกเล็กน้อย Altis ถือเป็นรถยอดนิยมอีกรุ่นหนึ่งที่พบเห็นได้ทั่วไปทั้งจากมนุษย์เงินเดือนและจาก Taxi (ของเค้าดีจริง!) ข้อดีของอัลติสที่หลายคนประทับใจคือ เครื่องยนต์เล็กแต่ขับสนุก เสียงเครื่องยนต์ไม่ดังหนวกหู ภายในรถโล่งโปร่ง เบาะนั่งสบาย สาดโค้งได้ดีพอใช้ และไฟท้ายสวยโดดเด่น ที่สำคัญคือพะยี่ห้อ Toyota มาแล้ว ไม่มีปัญหาเรื่องศูนย์บริการและอะไหล่แน่นอน

รถมือสอง ยอดนิยม

อันดับ 3 : Nissan March

ใครชอบรถที่ดูน่ารักต้องไม่พลาด Nissan March แน่นอน! จัดว่าเป็นรถที่ได้ใจสาวๆ และหนุ่มๆ จำนวนมากทีเดียวด้วยดีไซน์ตัวถังที่กลมมนน่ารัก (แต่ March รุ่นใหม่ล่าสุดมีการเปลี่ยนดีไซน์ให้ดุขึ้นแล้ว) ห้องโดยสารกว้างโล่ง รวมถึงขนาดตัวถังที่กะทัดรัดปราดเปรียว สามารถจอดตามซอกตามหลืบได้ง่าย อีกทั้งยังประหยัดน้ำมันมากอีกด้วยเพราะเป็น Eco Car แต่! ในทุกข้อดีย่อมมีข้อเสีย ข้อเสียของ March ก็คือ เป็นรถน้ำหนักเบา ไม่เหมาะแก่การสาดโค้งหรือเร่งเครื่องแรงๆ ไม่เหมาะแก่การขับแบบฮาร์ดคอร์ ขับทางไกล หรือขับขึ้นดอย และเป็นรถที่ไม่ค่อยจะเก็บเสียงอีกด้วย แต่ถ้าคุณกำลังมองหารถราคาไม่แพงไว้ขับชิลๆ ไปทำงาน มาร์ชนี่แหละใช่เลย!

รถมือสอง ยอดนิยม

อันดับ 2 : Suzuki Swift

ถ้า Nissan March ครองตำแหน่งรถน่ารัก Suzuki Swift ก็ต้องครองตำแหน่งรถสวย! Swift นั้นขึ้นชื่อมากในเรื่องของดีไซน์ ทั้งดีไซน์ตัวถัง และดีไซน์ภายในห้องโดยสาร เป็นรถที่ดูสวยแบบคลาสสิก แถมยังแต่งขึ้นด้วย! เหมาะกับคนที่มองหารถสำหรับใช้ไปยาวๆ จุดเด่นอื่นๆ ของสวิฟต์ก็คือช่วงล่างดี เข้าโค้งง่าย ไม่มีเป๋ เบาะสวยและนั่งสบาย อีกทั้งออพชั่นภายในก็จัดมาเต็มด้วย เช่น ปุ่ม Start Engine กระจกมองข้างพับไฟฟ้า ฯลฯ ถือว่าเกินคาดหมายในหลายด้านสำหรับรถ Segment นี้

รถมือสอง ยอดนิยม

อันดับ 1 : Toyota Vios

ตำแหน่งอันดับ 1 ตกเป็นของ Toyota Vios อย่างไม่มีการพลิกโผ! ด้วยอัตราการประหยัดน้ำมันที่ขึ้นชื่อ ดีไซน์ตัวถังที่เรียบแต่หรู เครื่องยนต์แรง และทนทานสมชื่อโตโยต้า ศูนย์บริการและอะไหล่หาง่าย อายุการใช้งานยืนยาว อีกทั้งเป็นรถที่เหมาะมากสำหรับคนที่ต้องการรถสำหรับใช้งานนานๆ ขับขี่ประจำวันที่ไม่สมบุกสมบันมาก รวมถึงคนที่ต้องการติดแก๊สเพื่อเพิ่มความคุ้มค่า หากมองด้านความคุ้ม ความประหยัด ความทนทาน Vios คือคำตอบแน่นอน

Sale-Isuzu-D-Max-With-Carro-Express

รถมือสองทั้งหมดนี้ บอกเลยว่า เหมาะกับชีวิตมนุษย์เงินเดือนอย่างแน่นอน! หากคุณต้องการซื้อรถมือสองคุณภาพ ทาง CARRO เราก็มีรถมือสองให้เลือกหลากหลาย สามารถเข้าไปเลือกชมได้ที่ https://th.carro.co/taladrod ถ้าสนใจที่จะขายรถของคุณแบบด่วนๆ เชิญที่ https://th.carro.co/sell-car/express หรือ Inbox สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Fanpage CARRO Thailand ครับ


ซื้อรถมือสองเถอะ แล้วชีวิตคุณจะง่ายขึ้นอีกเยอะ !