8 รถกระบะน่าใช้ ลุยน้ำเก่ง ลุยน้ำท่วม ลุยได้ลึก เหมาะกับหน้าฝน!

ช่วงหน้าฝนนี้ อีกสิ่งหนึ่งที่เรามักเลี่ยงได้ยาก หากอยู่ในเขตพื้นที่ต่ำ ที่ลุ่ม ที่ป่าเขาลำเนาไพร หรือจุดที่ท่อระบายน้ำ ไม่ได้ลอกท่อมานาน เมื่อฝนตกหนักๆ ลงมา สิ่งที่ตามมานั่นก็คือ “น้ำท่วม” (หรือเรียกว่า “น้ำรอการระบาย”) นั่นเอง

ซึ่งทำให้รถยนต์แบบกระบะ, รถแบบ Crossover SUV หรือรถ SUV ที่ออกแบบมาให้ยกสูงหน่อย ใช้ระบบขับเคลื่อนทั้ง 2 ล้อ และ 4 ล้อ สามารถลุยน้ำได้ในระดับหนึ่ง เป็นที่ต้องการของคนใช้รถในบ้านเรามาก เพราะความอเนกประสงค์ในการใช้งานแล้ว ยังลุยน้ำท่วมได้ไหวอีกต่างหาก (แม้ว่ารถทุกคัน จะไม่ได้ออกแบบมาให้ลุยน้ำเป็นหลักก็ตาม)

โดยรถที่มีระยะต่ำสุดจากพื้น (หรือ ความสูงใต้ท้องรถ) (Ground Clearance) น้อยหรือมาก ก็มีผลต่อการลุยน้ำของรถรุ่นนั้นๆ ด้วย และรถที่ลุยน้ำได้ รวมไปถึงช่วงล่างหน้า เครื่องยนต์ ท่ออากาศ ไดชาร์จ และระบบไฟฟ้าที่ติดตั้งในห้องเครื่องยนต์ ล้วนมีผลต่อการลุยน้ำทั้งสิ้น

สำหรับในบทความนี้ ใครที่กำลังมองหารถกระบะมาใช้งานในช่วงหน้าฝนนี้ แล้วอยากรู้ว่า รถกระบะป้ายแดง หรือรถกระบะมือสองที่มีขายในท้องตลาด มีความสามารถในการลุยน้ำได้มากน้อยแค่ไหน หรือลุยน้ำได้ลึกสุดเท่าไหร่ Mr.Carro จะมาแนะนำ 8 รถกระบะให้ชมกัน

8 รถกระบะน่าใช้ ลุยน้ำเก่ง ลุยน้ำท่วม ลุยได้ลึก เหมาะกับหน้าฝน! / Isuzu D-Max

1. Isuzu D-Max

กระบะ Isuzu D-Max (อีซูซุ ดีแมคซ์) รถกระบะยอดนิยมของชาวไทย นับตั้งแต่โฉมปี 2011 – 2019 ในรุ่นโฉม Spark, Spacecab, Cab4 หรือ X-Series (ตัวเตี้ย) มีระยะต่ำสุดจากพื้น 190 – 200 มม. และในแบบ Spark 4X4, Hi-Lander, V-Cross 4X4 หรือ X-Series (ยกสูง) มีระยะต่ำสุดจากพื้น 225 – 235 มม.

สำหรับ Isuzu D-Max ในส่วนที่เป็นรุ่นโฉมปี 2020 – ปัจจุบัน ในรุ่นโฉม Spark, Spacecab, Cab4 หรือ X-Series (ตัวเตี้ย) มีระยะต่ำสุดจากพื้น 190 – 200 มม. และในแบบ Spark 4X4, Hi-Lander, V-Cross 4X4 หรือ X-Series (ยกสูง) มีระยะต่ำสุดจากพื้น 220 – 240 มม.

พูดง่ายๆ คือถ้าคุณเลือกรถกระบะ Isuzu D-Max รุ่น Spark 4X4, Hi-Lander, V-Cross 4X4 หรือ X-Series (ยกสูง) สามารถลุยน้ำได้ประมาณ 80 เซนติเมตร (ในรุ่นยกสูงนะครับ) คือตั้งแต่ช่วงประมาณใต้กระจังหน้าของรถ หรือบริเวณใต้โป่งซุ้มล้อของรถนั่นเอง ส่วนรุ่นนอกเหนือจากนั้น ลุยได้แค่ครึ่งล้อรถก็น่าพอใจมาก มากกว่านี้อย่าเสี่ยง

8 รถกระบะน่าใช้ ลุยน้ำเก่ง ลุยน้ำท่วม ลุยได้ลึก เหมาะกับหน้าฝน! / Toyota Hilux Revo

2. Toyota Revo

Toyota Hilux Revo (โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่) รุ่นตั้งแต่โฉมปี 2015 – 2021 ในรุ่นโฉม Standard Cab, Smart Cab, Double Cab รวมถึง Z Edition (ตัวเตี้ย) มีระยะต่ำสุดจากพื้น 154 – 165 มม. และในแบบ Prerunner, 4X4, Rocco และ TRD Sporivo / GR Sport (ยกสูง) มีระยะต่ำสุดจากพื้น 205 มม. และ 216 – 217 มม.

แม้ว่าตัวรถจะมีระยะต่ำสุดจากพื้นน้อยกว่าในกระบะยี่ห้ออื่นๆ แต่ทาง Toyota ก็ให้ความมั่นใจว่า สามารถนำ Toyota Revo ไปลุยน้ำได้ลึกที่สุดถึง 80 เซนติเมตร (ในรุ่นยกสูง) เลยทีเดียว

8 รถกระบะน่าใช้ ลุยน้ำเก่ง ลุยน้ำท่วม ลุยได้ลึก เหมาะกับหน้าฝน! / Nissan Navara

3. Nissan Navara

Nissan Navara (นิสสัน นาวารา) กระบะพันธุ์กล้าแกร่ง ขับดีแต่ขายไม่ค่อยดี รุ่นตั้งแต่โฉมปี 2014 – 2020 ในโฉม Single Cab, King Cab Cab, Double Cab (ตัวเตี้ย) มีระยะต่ำสุดจากพื้น 180 – 205 มม. และในแบบ Double Cab, 4X4, Calibre และ Sportech หรือ Black Edition (ยกสูง) มีระยะต่ำสุดจากพื้น 204 – 220 มม.

ส่วนโฉมปัจจุบัน ในรุ่นโฉม Single Cab, King Cab Cab, Double Cab มีระยะต่ำสุดจากพื้น 205 มม. และในแบบ Double Cab, 4X4, Calibre หรือ PRO2X และ PRO4X มีระยะต่ำสุดจากพื้น 205 มม. และ 225 มม.

ในส่วนของ Nissan Navara (รุ่นยกสูง) สามารถลุยน้ำได้ถึง 70 เซนติเมตร แต่ถ้าเป็นโฉมใหม่ในรุ่น PRO2X และ PRO4X ลุยน้ำได้ถึง 80 เซนติเมตรเลยทีเดียว แต่ถ้าจะเอาระยะปลอดภัย ลุยน้ำสูงแค่ 45 เซนติเมตร ตามที่ Nissan เคยบอกเมื่อหลายปีก่อนก็พอละกัน …

8 รถกระบะน่าใช้ ลุยน้ำเก่ง ลุยน้ำท่วม ลุยได้ลึก เหมาะกับหน้าฝน! / Mitsubishi Triton

4. Mitsubishi Triton

Mitsubishi Triton (มิตซูบิชิ ไทรทัน) สุดหล่อจอมลุย รุ่นตั้งแต่โฉมปี 2014 – ปัจจุบัน ในรุ่นโฉม Standard Cab, Mega Cab, Double Cab (ตัวเตี้ย) มีระยะต่ำสุดจากพื้น 200 มม. และในแบบ Triton Plus, 4X4 และ Athlete (ยกสูง) มีระยะต่ำสุดจากพื้น 200 – 220 มม.

สามารถลุยน้ำได้ลึกสุดถึง 70 – 80 เซนติเมตร (ในรุ่นยกสูง) เลยครับ

8 รถกระบะน่าใช้ ลุยน้ำเก่ง ลุยน้ำท่วม ลุยได้ลึก เหมาะกับหน้าฝน! / Mazda BT-50

5. Mazda BT-50

อีกหนึ่งในรถกระบะจากค่ายมาสด้า อย่าง Mazda BT-50 PRO (มาสด้า บีที-50) รุ่นตั้งแต่ปี 2011 – 2020 ในรุ่นโฉม Standard Cab, Freestyle Cab และ Double Cab (ตัวเตี้ย) มีระยะต่ำสุดจากพื้น 201 มม. และในแบบ Hi-Racer, 4X4 และ Thunder (ยกสูง) มีระยะต่ำสุดจากพื้น 237 มม.

ส่วน Mazda BT-50 ใหม่ ที่เป็นคู่แฝดกันกับ Isuzu D-Max ในรุ่นโฉม Standard Cab, Freestyle Cab และ Double Cab (ตัวเตี้ย) มีระยะต่ำสุดจากพื้น 190 – 200 มม. และในแบบ Hi-Racer และ 4X4 (ยกสูง) มีระยะต่ำสุดจากพื้น 235 – 240 มม.

สามารถลุยน้ำลึกได้ถึง 80 เซนติเมตรเช่นกัน ไม่แพ้รถจากค่ายอื่นๆ

8 รถกระบะน่าใช้ ลุยน้ำเก่ง ลุยน้ำท่วม ลุยได้ลึก เหมาะกับหน้าฝน! / MG Extender

6. MG Extender

กระบะน้องใหม่ในตลาดรถยนต์บ้านเราอย่าง MG Extender (เอ็มจี เอ็กซ์เทนเดอร์) ก็มีคุณสมบัติพร้อมลุยไม่แพ้เพื่อนๆ ปิคอัพในระดับเดียวกัน สามารถลุยน้ำได้สูงถึง 70 เซนติเมตร (ตัวเตี้ย) และ 80 เซนติเมตร (รุ่นยกสูง)

ในรุ่นโฉม Giant Cab และ Extended Cab (ตัวเตี้ย) มีระยะต่ำสุดจากพื้น 145 มม. และ 183 มม. กับในแบบ Giant Cab และ Extended Cab (ยกสูง) มีระยะต่ำสุดจากพื้น 231 มม.

8 รถกระบะน่าใช้ ลุยน้ำเก่ง ลุยน้ำท่วม ลุยได้ลึก เหมาะกับหน้าฝน! / Ford Ranger Raptor

8 รถกระบะน่าใช้ ลุยน้ำเก่ง ลุยน้ำท่วม ลุยได้ลึก เหมาะกับหน้าฝน! / Ford Ranger

7. Ford Ranger

สำหรับรถกระบะ Ford Ranger (ฟอร์ด เรนเจอร์) ที่สุดสายลุยทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ ในโฉม Hi-Rider, Wildtrak และ 4X4 ที่ออกมาตั้งแต่ปี 2011 – 2021 ทาง Ford เอง รับประกันว่าสามารถลุยน้ำได้ลึกถึง 800 มม. (หรือ 80 เซนติเมตร) ก็อยู่ช่วงประมาณใต้กระจังหน้าของรถ หรือบริเวณใต้โป่งซุ้มล้อของรถ โดยใช้ความเร็วไม่เกิน 7 กม./ชม. ตามที่ระบุไว้ในคู่มือรถ

ส่วนในรุ่นกระบะพื้นฐาน ความสูงปกติ สามารถลุยน้ำที่สูงได้ไม่เกิน 600 มม. (60 เซนติเมตร)

ซึ่ง Ford Ranger โฉมปี 2011 – 2014 ตัวรถมีระยะต่ำสุดจากพื้น 201- 232 มม., โฉมปี 2015 – 2021 อยู่ที่ 230 มม. ส่วนในรุ่น Ranger Raptor (ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์) ระยะต่ำสุดจากพื้นอยู่ที่ 281 มม. สามารถลุยน้ำได้ลึกที่สุด 850 มม. (85 เซนติเมตร)

ส่วนประกอบสำคัญๆ ของเครื่องยนต์ ไดชาร์จ ระบบไฟฟ้า ถูกออกแบบมาให้สูงพ้นระดับน้ำดังกล่าว และจุดที่เป็นระบบไฟฟ้าก็หุ้มห่อถึง 2 ชั้น อีกทั้งหม้อกรองอากาศก็ติดตั้งวาล์วกันน้ำเข้าอีกด้วย

8 รถกระบะน่าใช้ ลุยน้ำเก่ง ลุยน้ำท่วม ลุยได้ลึก เหมาะกับหน้าฝน! / Chevrolet Colorado

8. Chevrolet Colorado

สำหรับ Chevrolet Colorado (เชฟโรเลต โคโรลาโด้) ที่แม้ว่าจะกลายเป็นตำนานไปซะแล้ว (เพราะบริษัทแม่กลับประเทศไป) แต่ความน่าใช้ และความทนทาน ก็ยังมีอยู่เต็มเปี่ยม

ในรุ่นโฉม S-Cab, X-Cab และ G-Cab (ตัวเตี้ย) มีระยะต่ำสุดจากพื้น 187 มม. – 194 มม. กับในแบบ High Country, Z71 และ Z71 4X4 และรุ่นพิเศษต่างๆ (ที่ยกสูง) มีระยะต่ำสุดจากพื้น 198 – 270 มม.

สามารถลุยน้ำที่สูงถึงระดับ 70 – 80 เซนติเมตร อย่างไม่ลำบากยากเย็นนัก

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น แม้ว่าทางผู้ผลิตรถยนต์จะระบุว่า ลุยน้ำได้ลึกสุดกี่เซนติเมตรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่า น้ำจะไม่ได้เข้ามาในรถนะครับ! การขับขี่ให้ใช้เกียร์ 1 หรือเกียร์ต่ำ รักษาความเร็วคงที่ หลีกเลี่ยงคลื่นที่อยู่ด้านหน้าของรถยนต์และอย่าหยุดรถ และต้องระมัดระวังเครื่องยนต์และชุดกรองอากาศ หากน้ำไหลเข้าหม้อกรองอากาศจะทำให้เครื่องยนต์เสียหายได้

ที่สำคัญ หลังจากการลุยน้ำท่วมมาแล้ว อย่าลืมนำรถไปตรวจเช็คสภาพเครื่องยนต์ เกียร์ เบรก ที่อู่ซ่อมรถหรือศูนย์ด้วยนะครับผม

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่ มาขายรถกับทาง Carro Express สิ! คลิกเลยที่ https://th.carro.co/sell-car/express รับรองได้เงินเร็ว ไว ทันใจแน่นอน!

Carro Automall ตลาดรถ

ส่วนใครสนใจจะซื้อรถมือสอง Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

ถ้าจะให้พูดถึง “รถกระบะ” แล้ว ส่วนใหญ่มักจะนึกถึงรถที่สามารถใช้ขนของได้เยอะๆ คุ้มค่าในการทำธุรกิจ ใช้ในการเกษตร ขนผลไม้ ขนผลผลิตไปขาย หรือใช้ขนคน ไปทำงาน ไปพักผ่อนหย่อนใจกันได้ทั้งครอบครัว หรือจะไว้แต่งซิ่งก็ตาม

รถกระบะในตลาดรถ ก็มีให้เลือกในหลายประเภท อาทิ แบบตอนเดียว, แบบตอนเดียวยกสูง, แบบมีแค็บ, แบบ 4 ประตู หรือจะเป็นแบบ 2 ประตู กับ 4 ประตู ยกสูง หรือขับ 4X4 เป็นต้น

ราคารถกระบะก็เช่นกัน ถึงแม้ว่า จะเป็นรถกระบะที่มีราคาถูก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า คุณภาพจะด้อยเสมอไป

MR.CARRO ขอรวบรวมข้อมูล 10 อันดับ รถกระบะถูกสุดในไทย ประจำปี 2021 เราเช็คราคาให้ทุกท่านได้ทราบครับ.

TATA-Xenon-Single-Cab-Giant-Heavy-Duty-CNG-Plus

1. TATA Xenon Single Cab Giant Heavy Duty CNG Plus ราคา 369,000 บาท

TATA Xenon (ทาทา ซีนอน) รถกระบะเรือธงจาก “TATA” ค่ายรถยักษ์ใหญ่จากแดนภารตะ ที่เพิ่งประกาศเลิกผลิตรถยนต์ในไทยไปเมื่อปี 2562 ที่ผ่านมา “ซีนอน” เป็นรถกระบะที่ทาทาขายในไทยมานานนับสิบกว่าปี ชูจุดเด่นด้วยกระบะพื้นเรียบ เพลาท้ายแบบ Heavy Duty สามารถบรรทุกได้เต็มพื้นที่

มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 2.1 ลิตร 101 แรงม้า CNG Plus แท้ ทั้งระบบ ประหยัดเชื้อเพลิงอย่างแท้จริง และมีความทนทาน พร้อมถังก๊าซขนาดใหญ่ 3 ถัง ความจุ 230 ลิตร อยู่ใต้พื้นกระบะ และส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด

Isuzu-D-MAX-Spark-Cab-Chassis

2. Isuzu D-MAX Spark 1.9 Ddi Cab-Chassis ราคา 510,000 บาท

All-New Isuzu D-Max (ออลนิว อีซูซุดีแมคซ์) พลานุภาพ…พลิกโลก! “Infinite Potential” “ยนตรกรรมที่เหนือกว่าคำว่าปิกอัพ” ภายใต้แนวคิด BOLD, EMOTIONAL and SMART ดีไซน์ใหม่หมดทั้งภายนอกภายใน ปรับปรุงขุมพลังเครื่องยนต์ใหม่ แรงสะใจ พร้อม แพลตฟอร์มใหม่ ระบบความปลอดภัยใหม่ เทคโนโลยีใหม่ในทุกฟังก์ชั่น

ใช้เครื่องยนต์ที่ล้ำหน้าสุด ขนาด 1.9 ลิตร บลูเพาเวอร์ Gen 2 รุ่น RZ4E-TC ที่ได้รับการพัฒนาไปอีกขั้น ให้พลังแรงสูงสุด 150 แรงม้า ค่ามลพิษต่ำสุด ประหยัดน้ำมันสูงสุด ทำให้ได้รับความนิยมและการตอบรับอย่างสูงจากผู้ใช้รถ

โดยในรุ่น Cab-Chassis สำหรับให้ผู้ประกอบการซื้อไปใส่ตู้แช่เย็น ตู้คนของ ใส่กระบะแบบพื้นเรียบได้ หรือจะไปดัดแปลงเป็นรถขายอาหารก็ได้เช่นกัน

*สำหรับรุ่น Cab Chassis (มีตู้เย็นท้าย) ราคา 515,000 บาท และ Cab Chassis เกียร์อัตโนมัติ ราคา 545,000 บาท

Ford Ranger Standard Chassis Cab 2019

3. Ford Ranger Standard Chassis Cab 2.2 XL 6MT ราคา 531,000 บาท

Ford Ranger (ฟอร์ด เรนเจอร์) กระบะ “เกิดมาแกร่ง”รถกระบะสมรรถนะสูง พร้อมรับมือกับงานสุดหนักหน่วง การลากจูง การบรรทุก และออฟโรด เหมาะสำหรับการขนส่งสินค้า และสามารถดัดแปลงเป็นตู้เก็บของเย็น หรือร้อนได้

มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล TDCI เทอร์โบ 2.2 ลิตร 160 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 6 สปีด

Mitsubishi-Triton-Single-Cab

4. Mitsubishi Triton Single Cab 2.5D GL 5MT ราคา 539,000 บาท

Mitsubishi Triton (มิตซูบิชิ ไทรทัน) แกร่งเต็มพิกัด ทนจัด บรรทุกจุใจ ผนังกระบะแบบสองชั้น เพื่อติดตั้งรั้วกระบะอย่างมั่นคงและแข็งแรง ซุ้มล้อขนาดเล็กได้เพิ่มพื้นที่บรรทุกสินค้าได้มากเป็นพิเศษ คุ้มค่าทุกการเดินทางและงานบรรทุก ภายในห้องโดยสารกว้าง นั่งสบาย ดีไซน์หรูมีระดับ

มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.5 ลิตร 128 แรงม้า สะดวกสบายด้วยกระจกไฟฟ้า และเซ็นทรัลล็อก

Toyota-Hilux-Revo-Standard-Cab-Chassis

5. Toyota Revo Standard Cab 2.4 Entry (ไม่มีกระบะ) ราคา 544,000 บาท

Toyota Hilux Revo (โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่) รุ่นมาตรฐาน ภายใต้แนวคิด TOUGHNESS FOR EVERYONE แข็งแกร่ง ล้ำสมัยมากยิ่งขึ้น มาพร้อมแบบหัวเดี่ยว (Cab & Chassis) ที่รองรับการติดตั้งเพิ่มเติม เช่น ต่อเติมตู้แห้ง-ตู้เย็น ต่อคอก และติดตั้งอุปกรณ์เชื่อมโยงเครือข่าย T-Connect และ Fleet Telematics Service ระบบบริหารยานพาหนะและการขนส่งครบวงจร ช่วยให้การจัดการ และการทำธุรกิจขนส่ง มีประสิทธิภาพมากขึ้น

อีกทั้ง “พลังแกร่งเหนือนิยาม” หรือ “The Unbeatable” ถึงสมรรถนะพลังของเครื่อง GD Super Power ใหม่ ขนาด 2.4 ลิตร ออกแบบมาเพื่อการบรรทุกอย่างแท้จริง ด้วยเครื่องยนต์ที่มีแรงม้าสูงถึง 150 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์ 6 สปีด และประหยัดน้ำมัน รวมถึงระบบช่วงล่างที่แข็งแกร่งรองรับน้ำหนักบรรทุกได้อย่างดีเยี่ยม

All-New-Isuzu-D-Max-Spark-2019

6. Isuzu D-MAX Spark 1.9 Ddi B ราคา 547,000 บาท

All-New Isuzu D-Max (ออลนิว อีซูซุดีแมคซ์)พลานุภาพ…พลิกโลก! “Infinite Potential” “ยนตรกรรมที่เหนือกว่าคำว่าปิกอัพ” ภายใต้แนวคิด BOLD, EMOTIONAL and SMART ดีไซน์ใหม่หมดทั้งภายนอกภายใน รองรับงานหนักได้อย่างสมบูรณ์แบบ กระบะท้ายขนาดใหญ่ขึ้น เพิ่มพื้นที่บรรทุกได้มากขึ้น ปรับปรุงขุมพลังเครื่องยนต์ใหม่ แรงสะใจ พร้อม แพลตฟอร์มใหม่ ระบบความปลอดภัยใหม่ เทคโนโลยีใหม่ในทุกฟังก์ชั่น

ใช้เครื่องยนต์ที่ล้ำหน้าสุด ขนาด 1.9 ลิตร บลูเพาเวอร์ Gen 2 รุ่น RZ4E-TC ที่ได้รับการพัฒนาไปอีกขั้น ให้พลังแรงสูงสุด 150 แรงม้า ค่ามลพิษต่ำสุด ประหยัดน้ำมันสูงสุด ทำให้ได้รับความนิยมและการตอบรับอย่างสูงจากผู้ใช้รถ

All-New-Mazda-BT-50-2021

7. Mazda BT-50 Standard Cab 1.9 E ราคา 553,000 บาท

Mazda BT-50 (มาสด้า บีที-50) ฉีกทุกการออกแบบปิกอัพสไตล์เดิมๆ ด้วยแนวคิด “พร้อม…กับทุกด้านของชีวิต” เติมเต็มทุกมิติของชีวิตดุจ Life-Partner สัมผัสแห่งดีไซน์อันสง่างามจาก “โคโดะ ดีไซน์” เน้นความเรียบง่าย แต่งดงาม ตามคอนเซ็ปต์ “Less is More” ผสานรูปลักษณ์อันทรงพลังสไตล์ปิกอัพ

โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยล้ำสมัย ติดตั้งระบบเบรก ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD และระบบช่วยเบรก BA รวมถึงถุงลมนิรภัยคู่หน้า มอบความสะดวกสบายเสมือนรถ SUV

สมรรถนะแกร่ง ด้วยเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรลใหม่ ขนาด 1.9 ลิตร 150 แรงม้า ใช้เกียร์ธรรมดา 6 สปีด รองรับน้ำมันได้ถึง B20 คุ้มค่าด้วยอัตราประหยัดน้ำมันมากที่สุดในคลาสกับตัวเลข 16.1 กม./ลิตร!

Nissan Navara Single Cab 2021

8. Nissan Navara Single Cab 2.5 S 6MT ราคา 559,000 บาท

Nissan Navara (นิสสัน นาวารา) โฉมไมเนอร์เชนจ์ล่าสุด ที่สุดของรถปิคอัพ เพื่องานบรรทุกหนัก สุดยอดของความคุ้มค่า โดดเด่นด้วย “ที่เหยียบขึ้นกระบะด้านข้าง” ที่เพิ่มความสะดวกในการขนของที่ออกแบบอย่างลงตัว ช่วยให้คุณขนของง่าย สะดวกสบายยิ่งขึ้น หนักแค่ไหนก็เอาอยู่ กระบะท้ายบรรทุกหนักได้สูงสุด 1,090 กก.

มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 2.5 ลิตร 163 แรงม้า เพื่อให้คุณพร้อมลุยไปข้างหน้าได้ทุกสถานการณ์

New MG Extender Giant Cab 2021

*ภาพแทน

9. MG Extender 2.0 GC C 6 MT ราคา 559,000 บาท

MG Extender (เอ็มจี เอ็กซ์เทนเดอร์) โฉมใหม่ไมเนอร์เชนจ์ “กระบะพันธุ์ยักษ์ ให้มากกว่าความแกร่ง” สมาร์ทปิกอัพที่โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ดุดัน ทรงพลัง พร้อมเทคโนโลยีครบครัน ด้วยขนาดตัวถังที่ใหญ่ กระบะท้ายใหญ่ เครื่องยนต์แรงเต็มพิกัด ประหยัดน้ำมัน ดีไซน์สวย เท่ พร้อมลุยได้ทุกสภาพถนน ตอบโจทย์ทุกการเดินทางของชีวิต

นอกจากนี้ยังเป็นรถกระบะอัจฉริยะ หรือ Smart Pickup คันแรกของประเทศไทย จากการติดตั้งระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART สามารถสั่งการ ด้วยเสียงภาษาไทย

แรงเต็มสูบ ด้วยเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล เทอร์โบ 2.0 ลิตร 161 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 6 สปีด อีกทั้งยังให้ความมั่นใจในการขับขี่ด้วยระบบช่วงล่างแบบ Euro Tuning Suspension พร้อมการติดตั้งระบบความปลอดภัย Advanced Synchronized Protection System ครบครัน

Ford-Ranger-XL-Standard

10. Ford Ranger Standard Cab 2.2 XL 6MT ราคา 562,000 บาท

Ford Ranger (ฟอร์ด เรนเจอร์) กระบะ “เกิดมาแกร่ง” แกร่งเพื่อลูกเมีย ที่มามาดแข็งแกร่งแบบรุ่นพี่อย่าง “Ranger Raptor” จะขับลุยน้ำ บรรทุกของหนัก หรือขับบนพื้นทรายสูงชันก็ไม่หวั่น

มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล TDCI เทอร์โบ 2.2 ลิตร 160 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 6 สปีด

MR.CARRO หวังว่า 10 อันดับ รถกระบะถูกสุดในไทยที่นำมาเสนอนั้น หากใครอยากได้ หรือกำลังตัดสินใจจะซื้อรถป้ายแดงอยู่พอดี แต่งบไม่พอ! ก็ลองขายรถคันเดิมของคุณกับทาง CARRO ดูได้ มาขายรถคันเดิมกับ CARRO Express สิ! Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

แต่ถ้าหากช่วงนี้ใครอยากเปลี่ยนรถคันใหม่ มาใช้แทนที่รถคันเดิม CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น!

รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check มากกว่า 200 จุด และยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ให้คุณเลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา พร้อมรับประกันคุณภาพรถนานถึง 2 ปี หรือ 20,000 กิโลเมตร! อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! เรามีรถให้คุณเลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

หมายเหตุ : *ข้อมูลสินค้า 10 อันดับข้างต้นนี้ เป็นข้อมูลสินค้าที่ Update ณ เดือนมิถุนายน 2564 เมื่อเวลาผ่านไปราคาและอันดับดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ โปรดสอบถามรายละเอียดหรือราคาล่าสุด ที่ตัวแทนจำหน่ายรถรุ่นนั้นๆ อีกครั้ง

**การจัดอันดับ เราจัดอันดับเพียงยี่ห้อละ 1 แบบ หากเป็นรถกระบะรุ่นที่เป็นแบบ Chassis Cab (แบบไม่มีกระบะหลัง) ทางเราจะจัดอันดับเป็นอันดับแรก และลำดับต่อมาจะเป็นรถกระบะรุ่นที่มีกระบะหลัง ที่ราคาถูกสุด

***กรณีตัวรถที่มีราคาเท่ากัน เราจะนำรถที่เปิดตัวล่าสุดขึ้นก่อนเป็นอันดับแรก