น้ำหอม-รถยนต์

ไร้กลิ่นอับในรถยนต์ ด้วยวิธีธรรมชาติเหล่านี้

รถยนต์คันคู่ใจของคุณดันมีเหตุบางอย่าง ที่ทำให้เกิดกลิ่นไม่พึ่งประสงค์ในรถยนต์อย่างเช่น กลิ่นอาหาร กลิ่นรองเท้า กลิ่นเหม็นอับต่างๆ ซึ่งคุณคงไม่ปลื้มสักเท่าไร ที่กลิ่นเหล่านี้จะติดตามหลอกหลอนไปในทุกๆที่ และคุณดันไม่ชอบกลิ่นของที่ฉีดระงับกลิ่นที่มีขายตามท้องตลาดทั่วไป

แต่ไม่เป็นไร Carro จะเป็นเพื่อนช่วยหาทางแก้ไขปัญหาเช่นนี้ ด้วยวิธีช่วยลดกลิ่นจากธรรมชาติ อีกทั้งยังเสมือนน้ำหอมที่ช่วยเพิ่มบรรยากาศ ให้รถยนต์ของคุณสดชื่นไร้กลิ่นอับต่างๆ อีกด้วย

 

ใบเตย


ความหอมคลาสสิกที่ใช้ได้เกือบทุกที่ที่มีกลิ่นอับ ไม่ว่าจะในรถยนต์ ห้องน้ำ ห้องครัว หรือแม้กระทั่งในตู้เย็น นอกจากนี้ไม่ได้ให้แค่กลิ่นหอมอย่างเดียว แต่มันยังมีคุณสมบัติกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์อีกด้วย โดยวิธีใช้ คือนำใบเตยสดมามัดรวมเป็นกำๆ ในขนาดที่พอดี ไม่เล็กมากไปเดี๋ยวไม่ได้ผลนะ หรือมากไปจนเกิดกลิ่นแรงทำให้เวียนหัว หลังจากนั้นนำไปวางบนรถ เพียงเท่านี้รถยนต์ของคุณก็ไร้กลิ่นอับ อีกทั้งยังมีความสดชื่นที่ได้กลิ่นใบเตย

 

ถ่าน


ถ่านในที่นี้คือถ่านไม้หุงข้าว ( ไม่ใช่ถ่านอัลคาไลน์นะจ๊ะ 55+ ) จะเหมาะสำหรับเจ้าของรถที่ไม่ชอบกลิ่นใดๆเลย ชอบกลิ่นธรรมชาติแบบเดิิมๆ เพราะถ่าน มีคุณสมบัติดูดกลิ่นทุกชนิดได้ค่อยข้างดีเลยทีเดียว วิธีนำมาใช้ เลือกถ่านก้อนที่พอเหมาะ นำใส่ถุงผ้าขาวบาง ต่อจากนั้นหาเชือกมัดปาก แล้วนำวางไว้ตามมุมต่างๆภายในรถ แค่นี้ ปัญหากลิ่นกวนใจก็หมดไป ง่ายนิดเดียวเอง

 

ดอกไม้


มีหลากหลายชนิดให้เลือก อาทิเช่น ดอกมะลิ ดอกกุหลาบ ดอกจำปีจำปา เป็นต้น ชอบกลิ่นของดอกไม้ชนิดใดเลือกแล้ว นำมาวางไว้ในรถ หรือจะเด็ดเอาแต่กลีบกับเกสรของมัน ใส่ถุงผ้าขาวบางมาแขวนไว้ในรถก็ได้ รถยนต์ของคุณก็จะกลิ่นอวบอวนไปด้วยกลิ่นของดอกไม้ที่คุณชื่นชอบ ทำให้การขับรถที่อาจตึงเครียดนั้นผ่อนคลายขึ้นอีกด้วย

 

ผลไม้อบแห้ง และสมุนไพร


วิธีนี้ง่ายแต่ก็ต้องอาศัยความละเอียดในการลงมือทำเล็กน้อย เริ่มที่ นำผลส้มกับผลแอปเปิลมาฝานให้เป็นแว่นบางๆ จากนั้นนำเข้าไปอบในไมโครเวฟด้วยความร้อน 250 องศาเซลเซียสประมาณ 1 ½ ชั่วโมง และหมั่นเปิดดูทุก ๆ ครึ่งชั่วโมงเพื่อป้องกันการไหม้เกรียม เมื่อเสร็จเรียบร้อยให้นำทั้งส้มและแอปเปิลอบแห้งมาผสมกับเปลือกไม้ กานพลู และโป๊ยกั๊ก ในขวดโหลที่มีฝาปิดและทิ้งไว้ 1 วัน จึงจะเปิดฝาและนำไปวางไว้ในรถยนต์ได้

 

พิมเสน


ลักษณะพิเศษของกลิ่นพิมเสน คือ หอม เย็น แถมยังออกฤทธิ์ที่ดีต่อหัวใจ และปอด เรียกได้ว่า นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นสมอง และทางเดินหายใจ เหมาะสำหรับคนที่วิงเวียนศีรษะบ่อยๆ อีกทั้งยังดับกลิ่นอับได้อย่างดี

 

เมื่อรู้กันอย่างนี้แล้ว ว่ามีวิธีอะไรบ้างที่สามารถช่วยกำจัดกลิ่นอับในรถยนต์ของคุณได้ ก็อย่าลืมลองทำกันดูนะ อีกทั้งบางอย่างสามารถหาได้ง่ายภายในบ้านของคุณ ซึ่งรับรองได้ว่าปัญหากลิ่นไม่พึงประสงค์ในรถยนต์จะหมดไป ไม่ต้องไปร้านคาร์แคร์บ่อยๆ แต่ถ้าลองทำดูแล้วแต่ยังมีกลิ่น แสดงว่าเบาะของคุณสกปรกจนเกินเยี่ยวยา แนะนำให้ไปคาร์แคร์ ลองอบโอโซนดูสักครั้งก็ได้นะจ๊ะ

 

 

Source : thairath.co.th

 

พ ร บ รถยนต์

“ พ.ร.บ.รถยนต์ ” ของดีที่อยู่ในมือคุณ

อย่างในบทความที่แล้ว  “ประกันภัยรถยนต์ตาม พ.ร.บ. เรื่องใกล้ตัวที่ควรรู้” เราได้เขียนอธิบายเกี่ยวกับ ค่าเสียหายเบื้องต้นที่คุณจะได้รับเมื่อเกิดอุบัติเหตุในกรณีต่างๆไปแล้ว ซึ่งยังมีการสำรองจ่าย และรายละเอียดอื่นๆอีก ที่ใครหลายควรรู้ และศึกษาเอาไว้เบื้องต้น เพื่อเวลายามเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ จะได้ไม่เกิดกรณีชนแล้วหนี เพราะสาเหตุมาจากไม่มีตังจ่ายค่าเสียหายต่างๆ นั้นเอง

ดังนั้น Carro จะมาอธิบายต่ออย่างคราวๆต่อ ให้คุณเข้าได้ง่ายสุดๆ ดังนี้

พรบ

เกิดกรณีเจ้าของรถไม่ทำ พ.ร.บ. หรือประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ แต่สร้างความเสียหายกับผู้ประสบภัย ใครจ่าย ?

คำตอบคือ เจ้าของรถจึงมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายนั้นเอง เพราะกฎหมายกำหนดให้เจ้าของรถมีหน้าที่ต้องทำ พ.ร.บ. แต่เจ้าของรถฝ่าฝืนไม่ทำประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ

ถ้าผู้ประสบภัยได้รับบาดเจ็บโดยเจ้าของรถ เจ้าของรถต้องเป็นคนจ่ายค่ารักษาพยาบาล หรือถ้าเสียชีวิตต้องรับผิดชอบค่าปลงศพ อย่างน้อยต้องไม่ต่ำกว่าจำนวนที่กฎหมายกำหนดไว้

หากได้รับน้อยกว่าที่ควรได้รับ ผู้ประสบภัย หรือทายาทโดยธรรมของผู้ประสบภัย สามารถมาขอรับส่วนที่ยังขาดได้จากกองทุนทดแทนผู้ประสบภัย โดยเป็นการจ่ายให้ก่อนแล้วจะเรียกเก็บเงินตามจริงภายหลังกับเจ้าของรถเอง  ซึ่งเจ้าของรถต้องจ่ายตามจริง รวมทั้งเพิ่มในอัตราร้อยละยี่สิบของจำนวนค่าเสียหายเบื้องต้น ที่จ่ายจากกองทุนทดแทนผู้ประสบภัย เพื่อเข้าสมทบอีกต่างหาก


การสำรองจ่าย เป็นอย่างไร ?

หลักการสำรองจ่ายใช้ในกรณีที่รถยนต์ตั้งแต่สองคันขึ้นไปชนกัน และรถทุกคันได้จัดให้มีการประกันภัยตามกรมธรรม์คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ บริษัทจะสำรองจ่ายให้แก่ผู้ประสบภัย ซึ่งไม่ว่าจะโดยสารมาในรถ หรือกำลังจะขึ้น หรือกำลังลงจากรถที่เอาประกันภัยรถยนต์ไว้กับบริษัท ดังนี้

  1. ค่ารักษาพยาบาลตามใบเสร็จรับเงิน ไม่เกิน 80,000 บาท ต่อหนึ่งคน สำหรับกรณีได้รับบาดเจ็บ
  2. ค่าทดแทน หรือค่าปลงศพ เป็นจำนวนเงิน 300,000 บาท ต่อหนึ่งคน สำหรับกรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ หรือทุพพลภาพอย่างถาวร
  3. ค่ารักษาพยาบาล ค่าทดแทน หรือค่าปลงศพ รวมกันไม่เกิน 300,000 บาท ต่อหนึ่งคน

สำหรับ ผู้ประสบภัยที่เป็นบุคคลภายนอกรถ บริษัทและผู้รับประกันภัยอื่นจะร่วมกันสำรองจ่ายค่ารักษาพยาบาล ค่าทดแทนหรือค่าปลงศพ โดยเฉลี่ยฝ่ายละเท่าๆ กัน

พรบ

ค่าสินไหมทดแทน (ส่วนเกินค่าเสียหายเบื้องต้น)  คืออะไร

ค่าชดใช้เพื่อทดแทนความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ทรัพย์สิน หรือแก่บุคคล อันเนื่องมาจากการละเมิด หรือการผิดสัญญา รวมทั้งทรัพย์สินที่ต้องคืนให้แก่ผู้เสียหายด้วย.

  1. กรณีที่ผู้ประสบภัยได้รับบาดเจ็บ แต่ไม่ถึงกับสูญเสียอวัยวะ หรือทุพพลภาพอย่างถาวร บริษัทจะจ่ายค่ารักษาพยาบาล และค่าเสียหายอย่างอื่นที่ผู้ประสบภัย สามารถเรียกร้องได้ตามมูลละเมิดของความเสียหายที่แท้จริงแต่ไม่เกิน 80,000 บาท ต่อหนึ่งคน
  2. กรณีได้รับความเสียหายต่อร่างกาย หรืออนามัยในกรณีใดกรณีหนึ่ง หรือหลายกรณี ตามดังต่อไปนี้ บริษัทจะจ่ายเต็มตามจำนวนเงินคุ้มครองสูงสุด 300,000 บาท ต่อหนึ่งคน

(ก) ตาบอด

(ข) หูหนวก

(ค) เป็นใบ้หรือเสียความสามารถในการพูด หรือลิ้นขาด

(ง) สูญเสียอวัยวะสืบพันธุ์

(จ) เสียแขน ขา มือ เท้า นิ้ว

(ฉ) เสียอวัยวะอื่นใด

(ช) จิตพิการอย่างติดตัว

(ซ) ทุพพลภาพอย่างถาวร

  1. กรณีเสียชีวิต บริษัทจะจ่ายเต็มตามจำนวนเงินคุ้มครองสูงสุด 300,000 บาท ต่อหนึ่งคน
  2. ในกรณีที่เข้ารับการรักษาพยาบาลในสถานพยาบาลในฐานะคนไข้ใน บริษัทจะจ่ายค่าชดเชยรายวัน วันละ 200 บาท จำนวนรวมกันไม่เกิน 20 วัน เป็นค่าเสียหายที่เพิ่มขึ้น นอกเหนือจากความคุ้มครองที่กล่าวมาแล้ว

พรบ

 

อย่างไรก็ตาม การไม่เกิดอุบัติเหตุเป็นเรื่องที่ดีที่สุดอยู่แล้ว แต่หากเมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว หลังจากเกิดเหตุต้องทำเรื่องเพื่อเรียกร้องค่าชดเชยกับบริษัทประกันภัยภายใน 180 วันเท่านั้นนะ เพราะถ้าเกินจากนี้กฎหมายไม่คุ้มครองแล้ว และเราก็ไม่สามารถเรียกร้องอะไรได้เลยจากบริษัทประกันภัยรถยนต์ ดังนั้นรู้เรื่องแบบนี้ อย่าลืม ! รักษาสิทธิที่เราควรจะได้กันด้วยนะ

 

Source : oic.or.th , ประกันภัยรถยนต์ไทย.com

ประกันภัยรถยนต์ตาม พ.ร.บ. เรื่องใกล้ตัวที่ควรรู้

อย่างที่รู้กันว่า “พ.ร.บ.รถยนต์” ที่คุณต้องควักเงินจ่ายทุกปี เมื่อต่อภาษีป้ายทะเบียนนั้น เป็นการทำประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับประเภทที่สาม แต่เชื่อว่ายังมีอีกหลายคนที่ยังไม่รู้ว่าเจ้า พ.ร.บ.รถยนต์ มันมีสิทธิประโยชน์อย่างไรเมื่อเกิดอุบัติเหตุ และคุณสามารถเบิกในกรณีใดได้บ้าง ซึ่งวันนี้ CARRO จะมาอธิบายเป็นข้อๆ ให้คุณเข้าใจได้ไม่ยากดังนี้

ประกันภัยรถยนต์ตาม พ.ร.บ. เรื่องใกล้ตัวที่ควรรู้

ภาพจาก ภาพจาก พลหฤษฏ์ จันทกล มิตรแท้ประกันภัย

ใครมีหน้าที่ต้องทำประกันภัย พ.ร.บ. รถยนต์?

ได้แก่ เจ้าของรถ ผู้ครอบครองรถในฐานะผู้เช่าซื้อรถ และผู้นำรถที่จดทะเบียนในต่างประเทศเข้ามาใช้ในประเทศ การฝ่าฝืนไม่จัดให้มีประกันภัย พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 กฎหมายกำหนดโทษปรับไว้ไม่เกิน 10,000 บาท

ประกันภัยรถยนต์ตาม พ.ร.บ. เรื่องใกล้ตัวที่ควรรู้

ภาพจาก @Ammye_my

ใครที่ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.รถยนต์?

ผู้ประสบภัย หมายถึง บุคคลที่ประสบภัยจากรถ ไม่ว่าจะเป็นผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร คนเดินเท้า หากได้รับความเสียหายแก่ชีวิต ร่างกาย อนามัย ก็จะได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.รถยนต์

ประกันภัยรถยนต์ตาม พ.ร.บ. เรื่องใกล้ตัวที่ควรรู้

ภาพจาก ขุนเทียน 322 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

แล้วถ้าเกิดกรณี เมาแล้วขับ พ.ร.บ. รถยนต์ จ่ายหรือไม่?

คำตอบคือ พ.ร.บ.รถยนต์ ต้องจ่ายค่าเสียหายให้กับคุณ ไม่ว่าคุณจะเมามากแค่ไหน และถึงแม้ว่าในขณะนั้นคุณจะไม่มีใบขับขี่ก็ตาม แต่ พ.ร.บ.รถยนต์ จะคุ้มครองแค่ตัวบุคคลเท่านั้น กรณีรถยนต์เสียหายจะไม่รับผิดชอบ

ถึงอย่างไรก็ตาม เวลาเมาก็ไม่ควรขับขี่รถ เพราะถ้าพูดถึงโทษตามกฎหมายกับค่าเสียหายที่จะได้รับ ถ้าเทียบแล้วมันไม่คุ้มกันเสียเลย

ประกันภัยรถยนต์ตาม พ.ร.บ. เรื่องใกล้ตัวที่ควรรู้

ภาพจาก NOILAB55

ตาม พ.ร.บ. รถยนต์ คุ้มครองคุณด้วยจำนวนเงินเท่าไร และกรณีใด?

ผู้ประสบภัยจะได้รับความคุ้มครองในความเสียหายที่เกิดขึ้น เป็นค่ารักษาพยาบาลกรณีบาดเจ็บ และเป็นค่าปลงศพในกรณีเสียชีวิต โดยที่ไม่ต้องรอพิสูจน์ความผิด โดยชดใช้ให้แก่ผู้ประสบภัย หรือทายาทของผู้ประสบภัย ภายใน 7 วัน นับแต่ได้รับคำร้องขอค่าเสียหายดังกล่าว เรียกว่า “ค่าเสียหายเบื้องต้น” โดยมีจำนวนเงิน ดังนี้

1. กรณีบาดเจ็บ จ่ายตามจริง แต่ไม่เกิน 30,000 บาท ต่อหนึ่งคน

2. ส่วนกรณีผู้ประสบภัยได้รับความเสียหายต่อร่างกาย (ทุพพลภาพ) อย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้ จะจ่ายค่าเสียหายเบื้องต้น จำนวน 35,000 บาท ต่อหนึ่งคน

(ก) ตาบอด
(ข) หูหนวก
(ค) เป็นใบ้หรือเสียความสามารถในการพูด หรือลิ้นขาด
(ง) สูญเสียอวัยวะสืบพันธุ์
(จ) เสียแขน ขา มือ เท้า นิ้ว
(ฉ) เสียอวัยวะอื่นใด
(ช) จิตพิการอย่างติดตัว
(ซ) ทุพพลภาพอย่างถาวร

3. กรณีบาดเจ็บตาม ข้อ 1. และต่อมาทุพพลภาพตาม ข้อ 2. รวมกันแล้วจะไม่เกิน 65,000 บาท ต่อหนึ่งคน

4. กรณีเสียชีวิตจะได้รับการชดใช้เป็นค่าปลงศพและค่าใช้จ่ายอันจำเป็นเกี่ยวกับการจัดการศพ จำนวน 35,000 บาท ต่อหนึ่งคน

5. กรณีเสียชีวิตภายหลังการรักษาพยาบาลและค่าใช้จ่ายอันจำเป็นเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลตามที่จ่ายจริงตามข้อ 1 รวมกันไม่เกิน 65,000 บาท ต่อหนึ่งคน

ส่วนกรณีเกิดรถเสียหายตั้งแต่ 2 คันขึ้นไป จะได้รับค่าเสียหายเบื้องต้นอย่างไรบ้าง?

กรณีรถตั้งแต่ 2 คันขึ้นไปที่ก่อให้เกิดความเสียหาย (เฉี่ยวชนกัน) เป็นเหตุให้ผู้ซึ่งอยู่ในรถไม่ว่าจะเป็นผู้ขับขี่หรือผู้โดยสารก็ตาม หากได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต จะจ่ายค่าเสียหายเบื้องต้นให้แก่ผู้ประสบภัยซึ่งอยู่ในรถคันที่ทำ พ.ร.บ. แต่ถ้าผู้ประสบภัยเป็นบุคคลภายนอกไม่ได้อยู่ในรถคันใดคันหนึ่ง โดยจ่ายค่าเสียหายเบื้องต้นให้แก่ผู้ประสบภัยโดยเฉลี่ยจ่ายในอัตราส่วนที่เท่ากัน

ประกันภัยรถยนต์ตาม พ.ร.บ. เรื่องใกล้ตัวที่ควรรู้

ภาพจาก กรมทางหลวง

เคลมง่าย เซฟขั้นตอนไว้เลย จะได้ไม่พลาด!

1. แจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อลงบันทึกประจำวัน

2. เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล (เมื่อการรักษาเรียบร้อยแล้ว อย่าลืมขอเอกสารจากโรงพยาบาลด้วยนะ)

  • ใบรับรองแพทย์
  • ใบเสร็จรับเงิน

3. นำส่งเอกสารต่อบริษัทประกันภัยที่ซื้อ พ.ร.บ. เพื่อขอเบิกค่ารักษาพยาบาล ดังนี้

  • บันทึกประจำวันของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
  • ใบรับรองแพทย์
  • ใบเสร็จรับเงิน
  • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ

นี้เป็นแค่ส่วนหนึ่งของค่าเสียหายเบื้องต้นเท่านั้น ยังมีในส่วนค่าสินไหมทดแทน และสำรองจ่ายอีกด้วย ทำให้รู้ว่า พ.ร.บ. ที่เราจ่ายทุกๆ ปีนั้น สำคัญแค่ไหน แล้วอย่าลืมไปต่อ พ.ร.บ. กันด้วย ซึ่งเดี๋ยวนี้ พ.ร.บ. หาซื้อได้ง่ายมาก แม้แต่ พ.ร.บ. รถยนต์ออนไลน์ ก็ยังมีให้เลือกซื้อกันเพียบ เพราะถ้าไม่ต่ออาจเจอโทษปรับหลายพันบาทเมื่อคุณตำรวจขอดูเอกสารนะจ๊ะ

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

หากใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่ มาขายรถกับทาง CARRO Express ได้ที่  https://th.carro.co/sell-car/express หรือถ้าหากต้องการซื้อรถคุณภาพเยี่ยม CARRO เราก็มีพร้อมให้คุณเลือกอย่างมากมายด้วยเช่นกัน พร้อมรับประกันสูงสุดถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร กับ CARRO Automall ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://th.carro.co/taladrod/

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

ส่วนใครอยากซื้อรถมือสองสภาพเยี่ยม ราคาสบายๆ และมั่นใจได้ในเรื่องคุณภาพทุกคัน CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ ตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลา 1 นาที!

ซึ่งรถของ CARRO Automall เรามีให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพอย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด รวมไปถึงการการปรับสภาพ (Car Reconditioning) ด้วยทีมช่างมืออาชีพ ที่ผ่านการผึกอบรมตามมาตรฐานคาร์โรกว่า 40 คน พร้อมให้บริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว กว่า 20 คัน/วัน

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์

เรารับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร! (CARRO Quality Assurance) อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม กับ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ค่ะ

แหล่งที่มาข้อมูลจาก:

อย่าให้แค่เรื่องการทำใบขับขี่ เป็นเรื่องยากสำหรับคุณ

เพราะปัจจุบันการทำใบขับขี่อาจใช้เวลาทั้งวัน หรือสองถึงสามวันโดยประมาณ เนื่องจากพื้นที่อบรมนั้นมีค่อนข้างจำกัด เมื่อเทียบกับปริมาณผู้ขับขี่ในประเทศบ้านเรา ทำให้รอคิวนานกลายเป็นเรื่องที่เสียเวลาอย่างมาก จนเกิดเป็นความขี้เกียจที่จะไปสอบ แต่สำหรับคนที่มีเวลาน้อยกังวลว่าจะไม่มีเวลาไปสอบใบขับขี่

ไม่ต้องกังวลเพราะทุกปัญหามีทางออกเสมอ เพราะกรมขนส่งมวลชนได้ร่วมมือกับหน่วยงานเอกชนต่างๆ มีการจัดอบรมเพื่อการสอบใบขับขี่ ลดปัญหารอคิวนานเป็นเดือน เพิ่มความสะดวกสบายมากขึ้น โดยมีสถานที่ที่อบรมเพื่อทำใบขับขี่ดังนี้

  • อบรมภาคทฤษฎี กับ สถาบันการศึกษา

รัฐบาลได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยชื่อดังอย่าง รามคำแหง, ธรรมศาสตร์ และราชภัฏสวนดุสิต เป็นต้น เพื่อเปิดอบรมกฏหมายจราจร ไม่จำเป็นต้องไปตามกรมขนส่งมวลชนเพียงอย่างเดียว นับเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่ไม่ชอบพื้นที่แออัดในกรมขนส่ง อีกทั้งสามารถย่นระยะเวลาในการทำใบขับขี่อีกด้วย แต่แน่นอนว่ามีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมบ้างเล็กน้อย มีรายละเอียด ดังนี้

  1. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เปิดอบรมทุกวันพฤหัสบดี ค่าธรรมเนียมการอบรม 500 บาท
  2. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดอบรมทุกวันเสาร์ ค่าธรรมเนียมอบรม 500 บาท
  3. มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต อบรมสัปดาห์ละ 4 วัน วันพฤหัสบดี วันศุกร์ วันเสาร์ และวันอาทิตย์ ค่าธรรมเนียมอบรม 500 บาท
  4. มหาวิทยาลัยรามคำแหง อบรมเดือนละ 1 ครั้งในวันเสาร์ ค่าธรรมเนียมอบรม 400 บาท
  5. มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา อบรมเดือนละ 2 ครั้ง วันเสาร์ต้นเดือน และวันอาทิตย์ที่ 3 ของเดือน ค่าธรรมเนียมอบรม 500 บาท
  6. วิทยาลัยเทคนิคกาญจนาภิเษกกรุงเทพมหานคร อบรมสัปดาห์ละ 2 วัน ทุกวันพุธ และวันพฤหัสบดี ค่าธรรมเนียมอบรม 500 บาท
  • โรงเรียนสอนขับรถ

มีโรงเรียนสอนขับรถยนต์หลายที่ที่มีมาตรฐานได้ตามที่รัฐบาลกำหนด (จนถึงปัจจุบัน) สามารถเรียนขับรถแล้วอบรมต่อได้เลย ประหยัดเวลา ไม่ต้องจองคิว แต่ก็มีค่าใช้จ่ายค่อยข้างแพงกว่าปกติทั่วไปของการสอบทำใบขับขี่ และถึงแม้จะไม่ค่อยมีสาขาในกรุงเทพมากนัก แต่ก็กระจายไปทั่วทั้งประเทศ

ส่วนใครที่สนใจเรียนขับรถกับโรงเรียนสอนขับรถเอกชน ที่กรมการขนส่งทางบกรับรอง สามารถตรวจดูรายชื่อได้ที่ โรงเรียนสอนขับรถเอกชน

หรือ สำนักงานขนส่งจังหวัดที่โรงเรียนสอนขับรถตั้งสถานประกอบการอยู่ในเขตพื้นที่

หรือ กลุ่มมาตรฐานใบอนุญาตและโรงเรียนสอนขับรถ สำนักสวัสดิภาพการขนส่งทางบก หมายเลขโทรศัพท์ 0-2271-8888 ต่อ 6611.

หรือ สำนักงานขนส่งจังหวัดที่โรงเรียนสอนขับรถตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ หรือ กลุ่มมาตรฐานใบอนุญาตและโรงเรียนสอนขับรถ กรมการขนส่งทางบก 0 2271 8622-3

  • จองคิวออนไลน์

แม้ต้องไปอบรมการทำใบขับขี่ที่เดิม แต่ก็ประหยัดเวลาในการไปจองคิวที่กรมขนส่งมากขึ้น ถึงจะรู่ว่าการอบรมของคุณจะเกิดขึ้นในอีกสี่เดือนข้างหน้าแน่นอน แต่ข้อดีคือ รองรับทั้งใบอนุญาตขับรถยนต์, รถจักรยานยนต์ ทั้งผู้ที่ไม่เคยได้รับใบอนุญาตมาก่อน ซึ่งสามารถจองคิวอบรมของสำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-5 ผ่านระบบออนไลน์ได้เลย ที่นี้ หรือดาว์นโหลด คู่มือการใช้งาน จองคิวทำใบขับขี่กับ e-Booking

  • โรงเรียนการขนส่ง

กรมการขนส่งทางบกเปิดสูตรการฝึกหัดขับรถยนต์ โดยเปิดสอนทั้งภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติ สถานที่เปิดสอนหลักสูตร ณ อาคาร 8 กรมการขนส่งทางบก โทร. 0-2271-8626 ดูรายละเอียดได้ที่ คลิก

  • อบรมเสริมความรู้ วันเสาร์-อาทิตย์

กรมการขนส่งทางบก จัดโครงการอบรมเสริมความรู้แก่ผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถในวันเสาร์และอาทิตย์ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยมีเอกชนร่วมสนับสนุนการนักขับรถปลอดภัย สถานที่อบรมจัดกันที่ กรมการขนส่งทางบก จตุจักร อาคาร 4 ชั้น 3 สามารถสมัครร่วมโครงการฯ ได้กับภาคเอกชนใจดีได้โดย รายละเอียด คลิก ซึ่งจะใช้ระยะเวลาในการอบรม และทดสอบรวม 2 วัน ประกอบด้วย

– วันเสาร์ เป็นการอบรมตามหลักสูตร ประมาณ 5 ชั่วโมงของกรมการขนส่งทางบกให้ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายจราจร มารยาทในการขับรถ เทคนิคการขับขี่รถจักรยานยนต์อย่างปลอดภัยในสถานการณ์ต่างๆ การปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อเกิดอุบัติเหตุ และเข้ารับการทดสอบข้อเขียนระบบอิเล็กทรอนิกส์ (E-exam)

– วันอาทิตย์ ทดสอบขับรถในสนามขับรถโดยมีเจ้าหน้าที่ควบคุม กำกับ ดูแลการอบรมทดสอบให้เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยและระเบียบเดียวกับการขอรับใบอนุญาตขับรถในวันเวลาราชการ

อบรมใบขัขขี่

 ตารางอบรมเสริมความรู้ให้กับผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์ เดือนมกราคม-กันยายน 2562

  • รุ่นที่ 230 วันที่ 19-20 มกราคม 2562
  • รุ่นที่ 231 วันที่ 26-27 มกราคม 2562
  • รุ่นที่ 232 วันที่ 16-17 มีนาคม 2562
  • รุ่นที่ 233 วันที่ 20-21 เมษายน 2562
  • รุ่นที่ 234 วันที่ 11-12 พฤษภาคม 2562
  • รุ่นที่ 235 วันที่ 15-16 มิถุนายน 2562
  • รุ่นที่ 236 วันที่ 20-21 กรกฏาคม 2562
  • รุ่นที่ 237 วันที่ 17-18 สิงหาคม 2562
  • รุ่นที่ 238 วันที่ 14-15 กันยายน 2562

หรือจะเดินทางไปที่สำนักงานขนส่งใกล้บ้านก็ได้เหมือนกัน แต่เพื่อความรวดเร็วแนะนำให้โทรสอบถาม หรือจองคิวไว้ก่อน จะสะดวกและประหยัดเวลาที่สุด

อย่างไรก็ตาม ทั้ง 5 วิธีก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป แต่อย่างน้อยก็ช่วยประหยัดเวลา และลดความน่าเบื่อหน่ายของการไปนั่งรอคิวอบรมใบขับขี่ที่กรมขนส่งได้มากจริงๆค่ะ

 

Source : กรมการขนส่งทางบก PR.DLT.News

 

 

Emergency-Numbers

เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดอย่างอุบัติเหตุต่างๆ บนท้องถนน มักจะเกิดขึ้นแบบไม่ทันได้ตั้งตัวเสมอ รวมถึงเหตุคับขันต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ปัญหารถยนต์สตาร์ทไม่ติดในชั่วโมงเร่งรีบ น้ำมันหมดระหว่างทาง แม้กระทั่งกุญแจหาย หรือเผลอลืมทิ้งไว้ในรถ

ซึ่งคนเราเวลาเกิดเหตุแบบนี้มักตกใจ ทำอะไรต่อไม่ถูก อย่างแรกที่ควรทำเมื่อเจอเหตุการณ์เหล่านี้คือ ตั้งสติ แล้วโทรแจ้งขอความช่วยเหลือกับหน่วยงานที่รับผิดชอบนั้นๆ ซึ่ง คาร์โร ได้รวบรวมมาให้คุณแล้ว ดังนี้

เบอร์ฉุกเฉินแจ้งเหตุด่วน เหตุร้าย ที่ ‘คนขับรถ’ ต้องรู้!

หมายเลขโทรศัพท์ สำหรับแจ้งเหตุด่วนเหตุร้าย

เหตุด่วนเหตุร้าย โทร.191 หรือ โทร.1190

ตำรวจทางหลวง โทร.1193

โจรกรรมรถยนต์ โทร.1192

ข้อมูลจราจร โทร.1197

อุบัติเหตุบนทางหลวง โทร.1193

ศูนย์ความปลอดภัย กรมทางหลวงชนบท โทร.1146

เบอร์ฉุกเฉินแจ้งเหตุด่วน เหตุร้าย ที่ ‘คนขับรถ’ ต้องรู้!

หมายเลขโทรศัพท์ สำหรับแจ้งเหตุด่วนเหตุร้าย

สอบถามเส้นทางบนทางด่วน (การทางพิเศษแห่งประเทศไทย) โทร.1543

ศูนย์ความปลอดภัย กรมทางหลวงชนบท โทร.1146

สายด่วนอุบัติเหตุ โทร.02-711-9161-2

สายด่วนรถหาย โทร.02-711-9160

หน่วยแพทย์กู้ชีพ โทร.1154

ตำรวจท่องเที่ยว โทร.1155

สายด่วนประกันภัย โทร.1186

แจ้งอุบัติเหตุ รพ.ตำรวจ โทร.1691

ศูนย์นเรนทร กระทรวงสาธารณสุข โทร.1669

ศูนย์เอราวัณ โทร.1646

หน่วยกู้ชีวิต วชิรพยาบาล โทร.1554

เบอร์ฉุกเฉินแจ้งเหตุด่วน เหตุร้าย ที่ ‘คนขับรถ’ ต้องรู้!

หมายเลขโทรศัพท์ สำหรับแจ้งเหตุด่วนเหตุร้าย (ศูนย์วิทยุ)

สถานีวิทยุ สวพ.91 โทร.1644

จส.100 โทร.1137 หรือ *1808

ร่วมด้วยช่วยกัน โทร.1677

ศูนย์วิทยุรามา โทร.02-3546999

ศูนย์วิทยุกรุงธน โทร.02-4517227-9

ศูนย์วิทยุปอเต๊กตึ๊ง โทร.02-2264444-8

สายด่วนเมาไม่ขับ โทร.1717

หมายเลขโทรศัพท์ สำหรับสอบถามข้อมูลต่างๆ / ร้องเรียน

การรถไฟแห่งประเทศไทย โทร.1690

องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) โทร. 1348

สหกรณ์แท็กซี่สยาม โทร.1661

TAXI-RADIO โทร.1681

บริษัท โอเรียนท์ ไทย แอร์ไลน์ จำกัด โทร.1126

บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด โทร.1318

บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) โทร.1566

บริษัท บางกอก แอร์เวย์ จำกัด โทร.1771

ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล โทร.1111

เชื่อว่าใครหลายคนอาจคิดว่าไม่จำเป็น เพราะอุบัติเหตุต่างๆยังไม่เกิดขึ้นกับคุณ ซึ่งนั้นเป็นเรื่องที่ดี แต่ด้วยความไม่ประมาท ควรบันทึกหมายเลขโทรศัพท์เหล่านี้ไว้ในมือถือของคุณ เพราะขณะเกิดเหตุจริงๆจะได้ใช้ได้ทันท่วงที

อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่ต้องเดินทางในช่วงปกติหรือเทศกาลต่างๆ สิ่งสำคัญควรเพิ่มความระมัดระวังให้เป็นพิเศษเพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของตัวคุณเองนะคะ

หากคุณต้องการขายรถด่วน เพื่อไปซื้อรถคันใหม่ หรือรับเงินก้อนไปใช้ สามารถขายรถคันเก่า หรือตีราคารถกับทาง CARRO ได้ ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ CARRO Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

ใบขับขี่

กรมการขนส่งทางบก เตรียมออกใบขับขี่โฉมใหม่รูปแบบ Smart card
ยกระดับสู่มาตราฐานสากล มีความไฉไลอย่างไรบ้างมาดูกัน

 

ใบอนุญาตขับรถแบบใหม่ จะเป็นบัตรพลาสติกที่มีความทนทานกว่าแบบเดิม มีความปลอดภัยน่าเชื่อถือมากขึ้น ด้วยจัดเก็บข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์อย่าง แทบข้อมูลแม่เหล็ก และเทคโนโลยี QR Code ซึ่งรองรับการเชื่อมโยงข้อมูลผ่านระบบ GPS Tracking เป็นเครื่องมือในการใช้บันทึกข้อมูลการขับรถทุกประเภทตามที่กรมการขนส่งทางบกประกาศบังคับใช้แล้ว

 

 

นอกจากนี้ ใบขับขี่ยังปรากฏข้อมูลของเจ้าของบัตร ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษควบคู่กัน สามารถนำไปใช้ขับขี่ได้ในประเทศสมาชิกอาเซียน ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ บรูไน เวียดนาม ลาว พม่า และกัมพูชา โดยไม่ต้องทำใบอนุญาตขับรถสากลตามความตกลงร่วมกัน

 

 

อย่างไรก็ตาม ในระยะแรกของการเตรียมปรับรูปแบบใบขับขี่สู่มาตรฐานสากล กรมการขนส่งทางบกได้กำหนดยกเลิกการออกใบอนุญาตขับรถรูปแบบกระดาษ ตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม 60 เป็นต้นไป โดยประชาชนจะได้รับใบอนุญาตขับรถ Smart card รูปแบบที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม 100 บาท

ดังนั้น กรณีที่ขอรับใบอนุญาตขับรถยนต์ชั่วคราว จากอัตราเดิมคือ 305 บาท จะเสียเฉพาะค่าธรรมเนียมและค่าคำขอรวม 205 บาท กรณีเป็นใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคล จากอัตราเดิมคือ 605 บาท จะเสียเฉพาะค่าธรรมเนียมและค่าคำขอรวม 505 บาท

ซึ่งตั้งแต่วันที่ 4 กันยายน 2560 เป็นต้นไป กรมการขนส่งทางบกจะเริ่มดำเนินการออกใบขับขี่ Smart card รูปแบบใหม่ ที่มีเทคโนโลยี QR Code ให้แก่ผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถทั้งตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์และกฎหมายว่าด้วยกรมการขนส่งทางบก เพียงรูปแบบเดียว

ทั้งนี้ ใบขับขี่ทั้งรูปแบบกระดาษและสมาร์ทการ์ดที่ออกก่อนวันที่ 4 กันยายน 2560 จะยังคงสามารถใช้งานได้ตามกำหนดอายุการใช้งานของใบอนุญาตนั้น แต่หากชำรุด สูญหาย หรือขอออกบัตรใหม่ หลังวันที่ 4 กันยายน 2560 เป็นต้นไป จะได้รับใบอนุญาตขับขี่รูปแบบใหม่ที่มี QR Code เท่านั้น

 

 

Source : thairath.co.th

ดูดวง

ดูดวงก่อนถอยรถ ด้วยศาสตร์เลขทะเบียน

เชื่อว่า .. คนไทยหลายบ้านมีความเชื่อเรื่องดูดวงในศาสตร์ต่างๆ ก่อนที่จะลงมือทำการใหญ่อะไรสักอย่าง เช่น ซื้อบ้าน ซื้อรถ เป็นต้น ซึ่งนอกจากจะดูดวงของฤกษ์งามยามดีแล้ว ยังต้องดูศาสตร์ของตัวเลขอีกด้วย ส่วนในวันนี้ที่ Carro จะมาพูดถึงคือ การดูดวงด้วยศาสตร์ของเลขทะเบียนรถ เพราะ รถ เป็นยานพาหนะที่ในทางโหราศาสตร์ก็คือ บริวารในรูปแบบหนึ่ง นั้นเอง ! 

เอาล่ะ !
ได้เวลามาคำนวณตัวเลขกันแล้ว

 

ตามตำราเลขศาสตร์

ดูดวง

ตัวเลขต่างๆเป็นตัวแทนดาวพระเคราะห์ และดาวพระเคราะห์แต่ละดวงก็จะส่งผลดี-ผลร้าย แก่เจ้าของชะตาแตกต่างกัน สำหรับดาวพระเคราะห์แทนตัวเลขต่างๆ มีดังนี้ 1 – อาทิตย์ , 2 – จันทร์ , 3 – อังคาร , 4 – พุธ , 5 – พฤหัส ,6 – ศุกร์ , 7 – เสาร์ , 8 – ราหู , 9 – พระเกตุ และ 0 – มฤตยู

ตำราดูดวงส่วนใหญ่ทั้งเลขศาสตร์และโหราศาสตร์เห็นพ้องต้องกันว่า เลข 3 – 7 – 0 เป็นเลขที่ร้าย เลข 3 จะหมายถึง การทะเลาะเบาะแว้ง เลข 7 คือ ความทุกข์ยาก และเลข 0 คือ อุบัติเหตุ และความสูญเสียต่างๆ ในบางตำรามองว่า เลข 8 เป็นเลขที่ร้ายเช่นเดียวกัน เพราะหมายถึง ราหู แต่ก็นับว่าความร้ายแรง ยังเป็นรอง เลข 3 – 7 – 0 อยู่มากทีเดียว

บางตำรากลับเชื่อว่า เลข 8 เป็นเลขแห่งความร่ำรวย เป็นเลขที่ได้รับความนิยมอย่างมากในต่างประเทศ โดยให้นิยามว่า ดาวราหู หมายถึง พระเจ้าแผ่นดินที่ยิ่งใหญ่ ผู้มั่งคั่งร่ำรวยไปด้วยอำนาจ และทรัพย์สิน

 

ตัวเลขที่คนไทยนิยม

ดูดวง

 

เลขทะเบียนรถที่ดีควรจะ อยู่ในกฎเหล่านี้ คือ

ดูดวง

 

  1. เลขทุกตัวบวกรวมกันแล้วได้ตั้งแต่ 5 ขึ้นไป ยิ่งได้เลข 9 ถือว่าดีมาก เช่น 2223 รวมกัน = 9 เลขคู่หน้าและคู่หลัง บวกรวมกันได้ตั้งแต่ 5 ขึ้นไป ถ้าได้ 9 ถือว่าดีมาก เช่น 8127 คู่แรก 8 + 1 = 9 คู่หลัง 2+7 = 9 ถือว่าก้าวหน้าก้าวหลัง เจริญดี
  2. ตัวเลขตัวแรกบวกตัวสุดท้ายได้ 5 ขึ้นไป ถ้าได้ 9 ถือว่าดีมาก เช่น 8181 ถือว่าเป็นเลข ที่ดีมากๆ เพราะเข้าข่าย 2 ประเด็น คือได้ 9 ทุกทิศทาง ถือว่าก้าวหน้า ก้าวหลัง เจริญดี
  3. เลขทุกตัวต้องรวมกันแล้วไม่ได้ 13 เพราะถือเป็นเลขมรณะ เช่น 9400 เลขคู่หน้าและคู่หลังรวมกัน ไม่ควรเป็นเลข 13 เพราะถือว่ามรณะ เช่น 9476 คือ 9+4 = 13 และ 7+6 = 13 ถือว่ามรณะทั้งไปหน้าและกลับหลัง
  4. เลขตัวแรกและตัวสุดท้ายรวมกันไม่ควรเป็น 13 เพราะถือว่ามรณะ เช่น 4419 คือ 4+9=13 มรณะ ตัวเลขทั้งหมดไม่ควรถูกคร่อมด้วยเลข 1 เพราะเปรียบเหมือนเป็นโลงศพ เช่น 1771 หรือ 1001 หรือ 1641 เป็นต้น
  5. ตัวเลขคู่กันไม่ควรเป็นเลข 1 ทั้งคู่ เพราะเปรียบเป็นโลงศพ เช่น 1178 หรือ 4311

 

ทำไมเลขทะเบียนรถถึงมีความสำคัญ ?

เพราะป้ายทะเบียนเป็นเลขประจำตัว ที่บ่งบอกภาพรวมของชะตารถว่าเป็นอย่างไร มีความคล่องตัวหรือเกิดปัญหาเรื่องใดบ้าง ซึ่งมันจะส่งผลกับผู้ครอบครองหรือผู้ดูแลโดยตรง และการดูดวงด้วยศาสตร์ของเลขทะเบียนรถผลรวมทุกเลขเป็นเลขดี แต่บางเลขอาจเหมาะสำหรับการใช้งานบางอย่าง ซึ่งอาจพิจารณาประกอบกับอาชีพของผู้ครอบครองเพิ่ม บวกกับลักษณะใช้งานเป็นหลัก เพื่อเกื้อหนุนกันให้ดีๆยิ่งขึ้นไปอีก

 

!! จบแล้วจ้า !!


ส่งท้าย : เร็วๆ นี้จะมีการประมูลป้ายทะเบียนรถหมวดอักษรพิเศษ 5 กก กรุงเทพมหานคร “5 กก 5 มหาสุข” จำนวน 301 หมายเลข เปิดประมูลวันที่ 9-10 กันยายน 2560 ณ อาคาร 6 ชั้น 7   กรมการขนส่งทางบก 

กรมการขนส่งทางบก

 

การดูดวงเป็นความเชื่อส่วนบุคคล อาจจะมีที่ไม่ตรงกันบ้าง
ซึ่งการดูดวงในศาสตร์ต่างๆ มันไม่มีผิดถูก
เป็นอีกหนึ่งทางเลือกหนึ่งของความสบายใจ
ว่าเราได้เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเองแล้ว

 

Source :
meemodel.com
กรมการขนส่งทางบก PR.DLT.News

ที่เที่ยวในกรุงเทพ

ที่เที่ยวทั้งกลางวัน กลางคืน ในกรุงเทพ
ตามมา check in กันได้เลย

“ ถ้ามีรถอยู่หนึ่งคัน สามารถเที่ยวที่ไหนในกรุงเทพได้บ้าง ” เป็นคำถามของกลุ่มคนเมืองที่มีรถยนต์อยากออกไปทำกิจกรรม หรือหาสถานที่ท่องเที่ยวในวันหยุดสุดสัปดาห์ ในวันที่ว่างจากงานแต่จะให้ขับรถออกต่างจังหวัด เวลาก็ไม่พอที่จะไป และก็ไม่อยากไปที่คนพลุกพล่านอย่างตามห้างสรรพสินค้า เลยอยากที่จะขับรถไปในสถานที่ท่องเที่ยวในกรุงเทพ

ซึ่งวันนี้ Carro ได้รวมไฮไลท์สถานที่ต่างๆ ทั้งที่เที่ยวในกรุงเทพเวลากลางวัน  และที่เที่ยวในเวลากลางคืนที่ทำให้รู้ว่ากรุงเทพเป็นเมืองไม่เคยหลับ

 

ที่เที่ยวในกรุงเทพ กลางวัน

MOCA Bangkok

พิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัย ( MOCA Bangkok ) 

เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแบบพิพิธภัณฑ์ที่เกิดขึ้นจากแรงบันดาลใจในความรักศิลปะของ นายบุณชัย เบญจรงคกุล และด้วยการสำนึกพระกรุณาธิคุณ บวกกับเฉลิมพระเกียรติในหลวงรัชกาลที่ 9  อีกทั้งเพื่อเชิดชู บิดาแห่งศิลปะร่วมสมัยอย่าง ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี โดยได้เก็บรวบรวมผลงานศิลปะไทยแขนงทัศนศิลป์ของศิลปินมากมาย  และตัวอาคารเป็นสถาปัตยกรรมโดยนำแนวคิดของหินก้อนนำมาแกะสลักเป็นรูปทรงก้านมะลิซึ่งสื่อถึงศิลปะไทย และระหว่างช่องว่างให้แสงเงาสวยงามที่แตกต่างกันในแต่ละช่วงเวลาของวันอีกด้วย

 

ไปรษณีย์กลางบางรัก

ไปรษณีย์กลางบางรัก

เป็นที่ทำการของไปรษณีย์กลางที่ตกแต่งภายในสวยคลาสสิค อีกทั้งรวบรวมเรื่องราวความเป็นมาของการไปรษณีย์ไทยแต่แรกเริ่ม ซึ่งตัวอาคารใหญ่โตอลังการ และมีรูปทรงสวยสง่า โดดเด่นด้วยสไตล์นีโอ สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยของล้นเกล้ารัชกาลที่ 8 ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ อีกทั้งมีการประกาศของกรมศิลปากรว่าเป็นอาคารสวยที่สุดในกรุงเทพ ติดอันดับ 1 ใน 80 อันดับ ที่ตั้งอยู่บนถนนเจริญกรุง ไปชมเรื่องราวความเป็นมาและถ่ายรูปสวย ๆ ในมุมเก๋ ๆ ของสถานที่ และเลือกซื้อของที่ระลึกกลับบ้านกัน

 

ท่ามหาราช 

ท่ามหาราช 

อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวแบบคอมมูนิตี้ มอลล์ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ด้วยบรรยากาศชิลๆที่ลงตัว ประกอบไปด้วยโซนสำหรับนั่งเล่น ถ่ายรูป ซึ่งตรงข้ามวัดมหาธตุยุวราชรังสรรค์ อีกทั้งพบกับความร่วมสมัยของการตกแต่งสถานที่ นอกจากนี้ยังมีร้านกาแฟ เก๋ ๆ ร้านอาหารสวย ๆ หลายร้านให้เลือกนั่งมากมาย

 

ที่เที่ยวในกรุงเทพ กลางคืน

ตลาดนัดรถไฟ

ตลาดนัดรถไฟ

ตลาดนัดขนาดใหญ่ที่ขายของสารพัดทุกความต้องการ ซึ่ง “ตลาดนัดรถไฟ” ที่มาของชื่อคือ เดิมเป็นตลาดนัดที่ตั้งอยู่ตรงบริเวณสวนรถไฟเขตจตุจักร ด้วยชื่อเสียงและเป็นที่ชื่นชอบทั้งของเหล่าวัยรุ่นและคนทำงาน ทำให้แม้ว่าตอนนี้ย้ายสถานที่มาที่ใหม่นานแล้ว คนก็ยังติดตามไปในสองทำเลใหม่ คือ ถนนศรีนครินทร์ จะเรียกว่า ตลาดนัดรถไฟเลียบด่วนรามอินทรา ส่วนอีกที่อยู่ถนนรัชดาภิเษก หลังห้างสรรพสินค้าเอสพลานาด ซึ่งความน่าสนใจอยู่ที่องค์ประกอบอย่าง เสียงดนตรีสดทรงเสน่ห์ แหล่งรวมสินค้าแนวใหม่ๆ ที่ไม่ใช่แค่เสื้อผ้า  แม้แต่ของกินก็นานาชนิดก็ไม่แพ้ที่ใดในกรุงเทพ  การตกแต่งสถานที่ที่ดูเหมือนโกดังเก่าๆ และความเป็นเรโทรของบรรยากาศ ที่เดินได้ไม่รู้เบื่อ

 

The Knack market

ตลาดกลางคืน The Knack market

เป็นสถานที่ท่องเที่ยวขนาดเล็กย่านคลองสารที่มีกลิ่นไอของอดีต ปัจจุบันและอนาคต เชื่อมโยง  โดยตลาดตั้งอยู่ในโครงการ เดอะแจม แฟทอรี่ ถนนเจริญนคร เปิดทุกวันเสาร์และอาทิตย์ปลายเดือนเท่านั้น  มาลองลิ้มรสอาหารแนว สตรีทฟู้ด ท่ามกลางความรื่นรมย์ของต้นไม้สีเขียว และสินค้าวินเทจ แฮนด์เมด  ของออกแบบไอเดียเก๋ สินค้าอาหารคลีน  หนังสือมือสองหายาก เสื้อผ้าแนวอินดี้วินเทจ  มีกิจกรรมให้ร่วมเพลิดเพลินทั้งการแสดงดนตรี โยคะและการละเล่นมากมาย

นอกจากการเดินเที่ยวตลาดนัดกลางคืนแล้ว กรุงเทพยังมีสถานที่ท่องเที่ยวให้ได้ท่องราตรีกันอีก เช่น ล่องเรือในแม่น้ำเจ้าพระยายามค่ำ ชมวิวสองฝั่งฟาก อย่างวัดอรุณยามกลางคืนที่มีแสงไฟประดับ หรือชมวิวที่มีแสงสีของเมือง เช่น บริเวณถนนราชดำเนิน พระบรมมาราชวัง ริมน้ำเจ้าพระยา หรือแม้แต่บนตึกสูงๆ หลายๆ แห่งที่เปิดเป็นร้านอาหารให้ได้ชมวิวรอบเมืองกรุง อีกทั้งแวะเพลินเพลินกับแหล่งช็อปปิ้ง ทานอาหาร ที่ท่าเรือเอเชียทีคก่อนขับรถกลับบ้าน

 

Source : mumeaw.com , pantip.com

มารยาทในการขับรถบนท้องถนน ที่คุณควรรู้

ปัจจุบันการคมนาคมมีหลายรูปแบบให้เลือกมากขึ้น แต่การเดินทางด้วยรถยนต์ถือเป็นสิ่งที่อำนวยความสะดวกสบายที่สุดในการเดินทางบนถนนสาธารณะ โดยเฉพาะในช่วงเวลาเร่งด่วนที่ผู้ใช้รถใช้ถนนมักขับรถด้วยความเร่งรีบ และอาจขาดความระมัดระวัง จึงกลายเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ สร้างความเสียหายทั้งชีวิตและทรัทย์สิน หรืออาจเกิดการทะเลาะวิวาทบนท้องถนน

ที่เรามักพบเห็นจากวีดิโอที่ถ่ายโดยบุคคล การนำเสนอข่าว หรือการตั้งกระทู้ต่างๆ ยกตัวอย่างกระทู้จากพันทิป เช่น “นอกจากขับช้าแช่ขวา ที่ทำให้หงุดหงิด ก็ยังมีขับทิ้งช่วงห่างระหว่างคันหน้า ที่ทำให้หงุดหงิดเหมือนกัน” , “ผิดถึงกับต้องทำร้ายร่างกายกันเลยเหรอ แค่ขี่ช้ามาอยู่ข้างหน้า แล้วคุณขี่เร็วกว่า” เป็นต้น

จึงทำให้รู้ว่ามารยาทในการขับรถบนท้องถนนควรเป็นเรื่องที่ต้องร่วมกันรณรงค์ ไม่ใช่แค่ปฏิบัติตามกฏจราจรเท่านั้น เพราะฉะนั้นทาง CARRO ขอเป็นส่วนหนึ่งในการรณรงค์ ด้วยการนำเสนอมารยาทในการขับรถเบื้องต้นที่ผู้ใช้รถใช้ถนนสามารถปฏิบัติได้ดังนี้

มารยาทในการขับรถบนท้องถนน

1. ไม่ขับแช่ขวา

แม้ว่าเราจะขับรถตามความเร็วที่กฏหมายกำหนด แต่เราไม่ควรขับรถแช่เลนทางขวา เพราะหลายครั้งที่บนท้องถนนมีสภาพการจราจรติดขัด เคลื่อนตัวไปอย่างช้าๆ อาจเป็นเพราะมีรถที่ขับแช่เลนขวาด้วยความเร็วคงที่ ทำให้รถด้านหลังไม่สามารถไปก่อนได้

ซึ่งสามารถสังเกตุได้ว่า หากคุณขับรถวิ่งเลนขวา และมีรถมาจ่อท้ายเมื่อไหร่ นั่นแสดงว่าคุณขับรถช้าไป โดยมารยาทแล้วคุณต้องเปิดไฟเลี้ยวซ้าย และหลบให้ทางรถที่มาข้างหลัง เพื่อให้รถที่มีความเร็วสูงกว่ารถของคุณแซงขึ้นไปอย่างปลอดภัย

2. ไม่ขับจี้ท้ายรถ หรือขับทิ้งช่วงห่างระหว่างคันหน้า

ความพอดี ไม่น้อยเกินไป ไม่มากเกินไป จนต้องเบียดเบียนตนเองและผู้อื่น เป็นคำกล่าวที่สามารถใช้ได้กับทุกเรื่อง และในเรื่องขับรถก็เช่นเดียวกัน เพราะการเกิดอุบัติเหตุชนท้ายในบ้านเรา ส่วนมากเกิดครั้งละหลายคันติดกัน และมักพบได้บ่อยครั้ง ดังนั้น การขับรถตามหลังควรต้องเว้นระยะห่างจากคันหน้า ให้เพียงพอที่จะหยุดได้อย่างปลอดภัย หากคันหน้าเกิดอุบัติเหตุ หรือหยุดกระทันหัน

นอกจากขับแช่ขวาแล้วนี่เป็นอีกเรื่องที่ทำให้คันหลังอาจเกิดหงุดหงิดจนถึงขั้นมีเรื่องของการวิวาทบนท้องถนนได้ เพราะด้วยการขับทิ้งช่วงห่างระหว่างคันหน้า ยกตัวอย่างเช่น ในกรุงเทพมักมีวินาทีไฟเขียวที่เร็วกว่าวินาทีไฟแดง ถ้าหากคุณทิ้งระยะห่างมากเกินไปจะทำให้คันหลังไม่สามารถขับต่อไปได้ ทำให้อาจติดไฟแดงอีกครั้ง ซึ่งกลายเป็นเรื่องที่เสียเวลามาก  

มารยาทในการขับรถบนท้องถนน

3. การขับรถแซง

ผู้ขับควรให้สัญญาณไฟก่อนแซง และเร่งความเร็วรถเพื่อที่จะแซงขึ้นไป อีกทั้งต้องเว้นระยะห่างก่อนให้สัญญาณไฟเพื่อที่จะขอกลับเข้าช่องจราจรเดิม นอกจากนี้ควรเร่งความเร็วให้เหมาะสมกับรถคันที่อยู่ด้านหน้า การแซงรถคันหน้าได้แล้วปาดหน้าชิดซ้ายทันที เป็นการแซงที่ไม่ปลอดภัยและแสดงถึงความไม่มีมารยาทของผู้ขับขี่รถ

ส่วนอีกหนึ่งการแซงที่แสดงถึงการไร้มารยาท คือ แซงขวาในเลนที่รถวิ่งสวนมาอีกทาง เป็นการกระทำที่ไม่ควรทำอย่างมาก อีกทั้งยังผิดกฏจราจรอีกด้วย

4. รักษาเลนของตัวเองเวลาเลี้ยว

ปัญหาเหล่านี้มักพบบ่อยครั้ง เช่น บางครั้งเราขับรถอยู่ในเลนขวาสุด เมื่อเราต้องการเลี้ยวขวาแล้วก็ต้องรักษาช่องทางขวาเอาไว้ แต่ถ้าคุณมาเลนที่สองจากขวา เมื่อเริ่มเลี้ยวก็ต้องรักษาช่องทางเดิม จนเลี้ยวขวาเสร็จก็ต้องรักษาเลนที่สองจากขวาไว้ ซึ่งหลายครั้งเจอคนที่ไม่รู้ หลังจากเลี้ยวเสร็จไม่รักษาเลนของตัวเองไว้ เช่น จากเลนที่สองจากขวาเมื่อเลี้ยวแล้วก็ปาดมาขวาสุดทันใด ทำให้เกิดการเบียดเสียดกลางแยก รถไปได้ช้า หลายครั้งก็ทำให้เกิดอุบัติเหตุด้วย และที่สำคัญก่อนเลี้ยวควรเปิดไฟเลี้ยวทิ้งไว้ก่อนเลี้ยวสักระยะหนึ่ง ไม่ควรเปิดก่อนเลี้ยวแบบทันที

มารยาทในการขับรถบนท้องถนน

5. ไม่ควรเปิดไฟสูงขณะรถสวนกัน

หรือเวลาขับตามหลังรถคันอื่นไม่ควรเปิดไฟเพื่อไล่รถคันหน้า เพราะการกระทำแบบนี้จะทำให้ไฟส่องเข้าตาผู้ขับคันหน้า เกิดการมองไม่เห็นถนน หรืออาจตกใจขับรถเปลี่ยนเลน หรือเร่งเครื่องหนี ซึ่งอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้

ส่วนการใช้ไฟสูงที่ถูกต้องและไม่เสียมารยาท ควรเปิดไฟสูงเพื่อตรวจสอบสภาพถนนและริมถนน เฉพาะเส้นทางที่มืดมาก และไม่มีรถวิ่งอยู่ด้านหน้าหรือสวนทาง หลังจากนั้นให้ปิดไฟสูงทันที

6. หยุดรถทางม้าลาย

เมื่อเห็นคนยืนบนทางเท้า และมีการแสดงท่าทีที่จะเดินข้ามถนนตรงทางม้าลาย ผู้ขับรถควรแตะเบรกเตือนหรือเปิดไฟขอทาง เพื่อให้รถคันหลังเห็นสัญญาณไฟ และรู้ว่าคุณกำลังหยุดรถตรงทางม้าลาย จนกระทั่งคนข้ามถนนเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงค่อยออกตัวรถ และขับต่อไป

มารยาทในการขับรถบนท้องถนน

ทั้งหมดที่ได้กล่าวมานั้นเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของมารยาททางสังคมในการขับรถบนท้องถนนที่ผู้ใช้รถใช้ถนนควรยึดมั่นเท่านั้น ซึ่งนอกจากกฎระเบียบและมารยาท ผู้ขับขี่ทุกท่าน ควรมีสติ ไม่ใจร้อน รู้จักใจเย็น ปล่อยวาง และให้อภัยซึ่งกันและกัน จะได้สามารถคิด แก้ไขปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี และอย่างน้อยก็เพื่อเป็นการป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น จากการไม่มีมารยาทของผู้ขับขี่

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม มาขายรถคันเดิมกับ CARRO Express สิ! Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

แต่ถ้าหากช่วงนี้ใครอยากเปลี่ยนรถคันใหม่ มาใช้แทนที่รถคันเดิม CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น!

รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check มากกว่า 200 จุด และยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ให้คุณเลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา พร้อมรับประกันคุณภาพรถนานถึง 2 ปี หรือ 20,000 กิโลเมตร! อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! เรามีรถให้คุณเลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Thailand  โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

ขอบคุณแหล่งที่มาจาก:

รายได้เสริม

ใครกำลังมองหาอาชีพเสริม ลองเลือกดูได้เลย

ด้วยภาวะของเศรษฐกิจในบ้านเราปัจจุบัน ทำให้ใครหลายคนต่างพากันหาอาชีพเสริม เพื่อเลี้ยงชีพจากรายได้หลักที่ไม่เพียงพอ หรืออยากมีเงินเก็บเพิ่มเติม โดยเฉพาะพนักงานออฟฟิศที่อยากหาอาชีพเสริมสร้างรายได้ทำหลังเลิกงาน หรือในวันหยุด แต่ด้วยคุณไม่มีต้นทุนที่จะเริ่ม ทำให้โครงการที่วาดฝันไว้ต้องล่ม คงดีกว่าถ้าอาชีพเสริมที่เราเลือกทำได้นั้น ไม่จำเป็นต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ไม่ต้องมีค่าเช่า ค่าสถานที่ แต่ก็สามารถมีรายได้เพิ่มขึ้นได้อย่างง่าย ๆ จากการทำที่บ้าน มาดูกันว่า อาชีพเสริม ที่สามารถทำรายได้จากที่บ้านนั้้นมีอะไรบ้าง

 

1. รับพิมพ์งาน คีย์ข้อมูล

7 อาชีพเสริม คีย์ข้อมูล

เชื่อว่าทุกบ้านต้องมีคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลกันอยู่แล้ว เริ่มต้นง่ายๆด้วยการรับจ้างพิมพ์งานในรูปแบบต่าง ๆ หรือจะเป็นรับจ้างคีย์ข้อมูล เพราะยังมีนักเรียน นักศึกษา บริษัท และห้างร้านต่าง ๆ ที่ยังจำเป็นต้องมีผู้ช่วยในการพิมพ์งาน หรือคีย์ข้อมูลเข้าระบบ ซึ่งหากใครมีความรู้ในการวิเคราะห์ข้อมูลสถิติ การวิเคราะห์ข้อมูล SPSS หรือข้อมูลในรูปแบบต่าง ๆ ก็จะสามารถเพิ่มรายได้เป็นอีกช่องทางหนึ่ง

 

2. เก็บขวด กระดาษ หรือของเก่าภายในบ้านมาขาย

7 อาชีพเสริม ของเก่าเก็บอาชีพเสริมนี้อาจจะมองว่าไม่ได้เป็นอาชีพเสริมก็ว่าได้ เพราะทุกบ้านส่วนใหญ่นั้นก็อาจมีการแยกขยะ การเก็บขวด กระดาษที่ไม่ใช้ และพวกของเก่าที่เก็บภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าเก่าก็สามารถทำเงินได้ทั้งสิ้น มากกว่าจะปล่อยทิ้งไว้โดยเปล่าประโยชน์ นอกจากนี้ของเก่าบางชิ้นยังมีราคาที่นักสะสมต้องการ อาจจะเป็นโคมไฟโบราณที่เคยมีราคา หรือจะเป็นชิ้นส่วนต่าง ๆ ดังนั้นการเก็บของเก่าในบ้านมาขายก็อาจสร้างรายได้ให้กับคุณ

 

3. สอนพิเศษเด็กนักเรียน7 อาชีพเสริม สอนพิเศษ

เป็นอาชีพเสริมนี้น่าสนใจไม่น้อย เพราะปัจจุบันผู้ปกครองส่วนใหญ่ส่งเสริมให้ลูกเรียนพิเศษเพิ่มเติม เพื่อความเข้าใจ และเป็นการทบทวนบทเรียนอีกด้วย อีกทั้งผู้ปกครองต้องการให้ลูกของตนมีพื้นฐานที่ดี โดยจะใช้ความรู้ที่เรียนมาสอนหนังสือเด็กในวิชาพื้นฐานหลักๆ เช่น คณิตศาสตร์ , ภาษาไทย , ภาษาอังกฤษ เป็นต้น  ส่วนรายได้คิดเป็นรายชั่วโมง หรือคิดไปรายเดือน ก็ขึ้นอยู่กับการตกลงกับผู้ปกครอง ซึ่งอาชีพเสริมนี้ทำรายได้ถึง 200-300 บาทต่อชั่วโมงเลยทีเดียว

 

4. รับแปลงาน

7 อาชีพเสริม สอนพิเศษ

อีกหนึ่งอาชีพเสริมที่ต้องใช้ทักษะการใช้ภาษา เพื่อแปลงานออกมาให้กับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการแปลเปเปอร์ แปลภาษาจากเว็บไซต์ต่างประเทศให้ผู้ที่ทำเว็บไซต์ หรือแปลภาษาอื่นๆ โดยรายได้นั้นขึ้นอยู่กับผู้ว่าจ้าง การแปลเปเปอร์นั้นจะมีรายได้ที่สูงกว่าเพราะนอกจากต้องแปลภาษาแล้ว ยังมีศัพท์เทคนิคทางวิทยาศาสตร์ ที่ต้องอาศัยความรู้ช่วย รายได้นั้นอาจคิดเป็นหน้า หน้าละ 100 บาทขึ้นไป อาจสูงถึงหน้าละ 500 ก็มี ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ และทักษะหรือเหมาจ่าย ส่วนการแปลภาษาจากเว็บไซต์ต่างประเทศให้ผู้ที่ทำเว็บไซต์นั้น จะคิดตามจำนวนคำ เช่น 500 คำ คิดราคา 250 บาท เป็นต้น การแปลภาษาให้กับผู้ทำเว็บไซต์ ตอนนี้มีความต้องการของตลาดมากอยู่เหมือนกัน เหมาะกับเป็นอาชีพเสริมหลังหลิกงาน เสาร์-อาทิตย์ ซึ่งเป็นรายได้ที่ได้ไม่น้อยเลย

 

5. ตัวแทนขายสินค้าออนไลน์

7 อาชีพเสริม ตัวแทนขายของออนไลน์

ปัจจุบันการซื้อขายของออนไลน์ถือว่าเป็นที่นิยมมากที่สุดในตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นบน Facebook และ Instagram ซึ่งการเป็นตัวแทนจำหน่ายอาจจะมีการเสียค่าสมัครตัวแทนจำหน่าย (ขึ้นอยู่กับร้านหลักว่าจะกำหนดมาเท่าไร) เพียงแค่โพสต์รูปสินค้า และรายละเอียดของสินค้าลงบนโซเชียลมีเดีย ตอบอินบ็อกซ์หรือไลน์ลูกค้า เมื่อลูกค้าสั่งซื้อสินค้า แล้วทำการส่งข้อมูลไปยังร้านหลัก ทางร้านหลักจะรับออเดอร์ และทำการส่งสินค้าเอง ยิ่งมีลูกค้าสนใจซื้อสินค้า รายได้ก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย เป็นการอยู่บ้านโดยไม่เสียเปล่า ไม่ว่าจะเป็นวันธรรมดาหลังเลิกงาน หรือจะเป็นเสาร์-อาทิตย์ ก็สามารถทำได้ หมั่นขยันโพส ขยันลงรูปสินค้า เรียกลูกค้า ซึ่งถือว่าเป็นอาชีพเสริมที่ไม่ต้องทำอะไรมาก แต่รายได้ดีไม่น้อย

 

6. งานฝีมือ

7 อาชีพเสริม งานฝีมือ

งานที่ต้องใช้ทักษะความสามารถในการประดิษฐ์ โดยการทำงานฝีมืออาจแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ การคิดค้นและประดิษฐ์งานฝีมือด้วยตนเอง หรือจะเป็นรับงานฝีมือประเภทต่าง ๆ มาทำ และส่งให้ตามร้านค้าที่ขาดกำลังในการผลิต ส่วนงานฝีมือนั้นอาจจะต้องใช้ฝีมือ และระยะเวลาในการทำงานแต่ละชิ้น ซึ่งงานแต่ละชิ้นต้องใช้ความชำนาญ หากทำงานเสร็จและส่งตามเป้าหมายก็จะได้รับค่าจ้าง

 

7. งานชักชวน

7 อาชีพเสริม งานชักชวน

เป็นอาชีพเสริมที่สามารถทำได้ง่าย ไม่ต้องลงทะเบียน และไม่มีการเก็บค่านายหน้า บวกกับสะดวกสบายต่อการทำงาน ไม่กระทบเวลางานที่ทำอยู่ในปัจจุบัน อีกทั้งทำตอนไหนที่ไหนก็ได้ แค่ใช้เวลาว่างของคุณให้มีประโยชน์

โดยโทรหรือแชทหาเพื่อน ญาติพี่น้อง หรือบุคคลที่คุณรู้จัก ชักชวนกันมาร่วมโครงการรีไฟแนนซ์รถ หรือจำนำเล่มกับทาง Carro ( เป็นบริษัทรถที่มีประสิทธิภาพ ต้ังแต่การซื้อขายรถ, การประกันภัย, ขอวงเงินกู้  ซึ่งคุณวางใจกับระบบและขั้นตอนการดำเนินการได้ )

มีเงื่อนไข เพียงแค่คนที่คุณแนะนำมานั้นได้รับการอนุมัติผ่าน ได้รับเงินค่าแนะนำทันที 500 บาทต่อท่าน แต่หากมั่นขยันทำให้สามารถชักชวนเพื่อนหรือใครก็ตามแต่ มาทำได้ 10 คน รับเพิ่มเป็น 5000 บาท ซึ่งคุณสามารถชักชวนได้ไม่จำกัดจำนวน เป็นอีกวีธีหารายได้เสริมที่คุ้มค่าต่อการทำเลยทีเดียว

ข้อมูลการติดต่อสอบถามเพิ่มเติม
โทร : 096-463-3298
Email : [email protected]
Facebook : carrothailand
Line : carrothailand

 

Source :  siamarcheep.com