3 วิธีแก้ปัญหาเพื่อนบ้าน ชอบจอดรถขวางหน้าบ้าน!

หลายต่อหลายครั้ง ที่คนเรามักจะมีปัญหาขัดแย้งกับเพื่อนบ้าน ไม่ว่าจะเป็นบ้านทาวน์เฮ้าส์ หรือบ้านเดี่ยว ตั้งแต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ตัวอย่างเช่น  ต้นไม้รุกล้ำ เสียงดัง รวมไปถึงการจอดรถขวางหน้าบ้าน ทำให้เกิดความหงุดหงิด กวนใจ ทั้งที่ต้องตักเตือนกันอยู่บ่อยครั้ง และอาจก่อให้กลายเรื่องใหญ่ถึงขั้นฟ้องร้องกัน 

แต่ถ้าคุณมีรถหลายคัน จนไม่อยากเอาไปจอดเกะกะเพื่อนบ้าน มาขายรถกับ Carro สิ ลงประกาศขายรถฟรี เรารับซื้อรถมือสอง โดยได้ราคาที่คุณพอใจ พร้อมปิดการขายภายใน 24 ชั่วโมง! กับ Carro Express แค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือจะ Inbox สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook Carro Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothai หรือคลิกที่นี่ครับ —> เพิ่มเพื่อน

Carro จึงรวบรวมข้อพิพาทการจอดรถขวางหน้าบ้าน ที่กฏหมายจะช่วยคลายปมนี้ได้ ดังนี้

How-To-Carpark-In-Front-Of-House

ถ้าใครคิดว่า ถนนเป็นที่สาธารณะ กำลังเข้าใจผิด !!

ถนน คือ ทางสัญจร

ทาง หมายความรวมถึง ทางเดินรถ ทางเท้า สะพาน ลานการจราจร

สัญจร คือ การผ่านไปมา

ดังนั้น ถนน คือ ทางสำหรับการผ่านไปมา ไม่ใช่ที่จอดรถ สามารถหยุดรถเพื่อรับส่งคน หรือสัมภาระได้ แต่ไม่ใช่ใช้เป็นลานจอดรถ ถึงแม้ว่าจะจอดรถไว้หน้าบ้านของตัวเองก็ตาม คุณเองก็ผิดถ้าผูใช้รถใช้ถนนไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้

How-To-Carpark-In-Front-Of-House

การจอดรถขวางประตูเข้าออกบ้านของผู้อื่น เป็นการกระทําให้ผู้อื่นเดือดร้อน รําคาญ เพราะไม่สามารถนํารถเข้าหรือออกจากบ้าน จะมาอ้างว่าถนนหน้าบ้านเป็นที่สาธารณะนั้นทําไม่ได้ เนื่องจากหากเจ้าของรถใช้สิทธิไปก่อความเดือดร้อนของผู้อื่นทั้งที่รู้แก่ใจถึงความเสียหาย จะถือว่า กระทําความผิดฐานก่อความเดือดร้อนรําคาญใจตามมาตรา 397 หมวดลหุโทษ

สรุปว่า การจอดรถขวางหน้าบ้านคนอื่น (ประตูทางเข้าออก) เป็นการสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้แก่ผู้อื่น มีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 5 พันบาท

How-To-Carpark-In-Front-Of-House

วิธีการแก้ปัญหา คือ

1. เขียนป้ายเตือนไว้
2. ถ้ายังมีรถมาจอดขวางทาง แนะนำให้คุยกันก่อน
3. แต่ถ้าตกลงไม่ได้ก็ต้องพึ่งคนกลางอย่าง ตำรวจ, นิติบุคคล

ทั้งนี้ เมื่อเป็นความผิดกฎหมายอาญาแล้ว ตํารวจจะปัดไม่รับแจ้งความร้องทุกข์ไม่ได้ ถ้าปฏิเสธ อาจมีโทษฐานละเว้นหน้าที่โดยทุจริต เพราะความผิดฐานนี้ไม่จําเป็นต้องมีความเสียหายเกิดขึ้น แค่เกิดพฤติกรรมที่ทําให้ผู้อื่นเดือดร้อนรําคาญใจ ก็เป็นความผิดอาญาฐานนี้แล้ว

เป็นอย่างไรกันบ้าง หวังว่าตัวเจ้าของบ้าน และเพื่อนบ้านสามารถอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขได้นะคะ

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่ มาขายรถกับทาง Carro Express สิ! คลิกเลยที่ https://th.carro.co/sell-car/express รับรองได้เงินเร็ว ไว ทันใจแน่นอน!

Carro Automall ตลาดรถ

ส่วนใครสนใจจะซื้อรถมือสอง Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

แหล่งที่มาจาก:

  • TerraBKK
Childrens-Day-2020

หลังจากที่มีการจัดงานรื่นเริงในวันปีใหม่แล้ว ต้องต่อด้วยทุกวันเสาร์ที่สองของเดือนมกราคมอย่าง “วันเด็ก” ซึ่งในวันเด็กทุกๆ ปีเป็นวันที่หลากหลายองค์กรได้ร่วมกันจัดกิจกรรมต่างๆ ขึ้นเพื่อสร้างความสุขให้กับเด็กๆ

ส่วนคำขวัญวันเด็กในี 2563 นี้ ได้แก่ … เด็กไทยยุคใหม่ รู้รักสามัคคี รู้หน้าที่พลเมืองไทย”

ดังนั้น CARRO จึงรวบรวม 10 สถานที่ยอดฮิต ทั้งของหน่วยงานภาครัฐและเอกชน กับกิจกรรมอันน่าสนุกและตื่นเต้น ของเหล่าคุณหนูๆ ในวันที่ 11 มกราคม 2563 นี้ มาให้คุณพ่อ คุณแม่ ได้เลือกพาลูกหลานไปเที่ยวกัน และสิ่งที่ต้องเจอ รวมถึงวิธีแก้ปัญหาเด็กหายในระหว่างการเที่ยววันเด็กครับ

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ วันเด็ก 2563 Thai Wonder Land

1. ทำเนียบรัฐบาล

สถานที่ยอดฮิตตลอดกาลอีกแห่งหนึ่งของเด็กไทย ที่มีความไฝฝั่นอยากจะเป็นนักการเมือง อยากเป็นรัฐมนตรี และอยากเป็นนายกรัฐมนตรี!!! เตรียมจัดงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2563 ภายใต้แนวคิด “เด็กไทย มีวินัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม” ในวันเสาร์ที่ 11 มกราคม 2563 ระหว่างเวลา 8.00 – 15.00 น. ที่บริเวณทำเนียบรัฐบาล

พร้อมเปิดโอกาสให้เด็กได้นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี เยี่ยมชมตึกไทยคู่ฟ้า ห้องทำงานนายกรัฐมนตรี และตึกภักดีบดินทร์

และกิจกรรมสร้างสรรค์ที่น่าสนใจ และการเล่นเกมส์ในกิจกรรมต่างๆ เช่น กิจกรรมให้ความรู้เรื่องสัตว์ ไดโนเสาร์ การสร้างจิตสำนึกส่งเสริมการรักษาสิ่งแวดล้อมโดยการนำขยะ ขวด กระป๋อง มาแลกสิ่งของ การระบายสีถุงผ้าลดโลกร้อน จัด “ห้องแล็บ” เพื่อให้เด็กได้ทำการทดลองและทดสอบด้านวิทยาศาสตร์ กิจกรรมส่งเสริมการออม การประกวดคัดลายมืออาลักษณ์ เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์เครื่องราชอิสริยาภรณ์ การถ่ายภาพร่วมกับรถจักรยานยนต์นำขบวน การจัดแสดงรถโบราณของเจษฎาเทคนิคมิวเชียม

นอกจากนี้ ยังเปิดศูนย์ข่าวทำเนียบรัฐบาล ตึกนารีสโมสร จำลองเป็นสถานีโทรทัศน์ เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนได้แสดงออกและทดลองอ่านข่าวอีกด้วย

 

2. กองบัญชาการกองทัพไทย

กองบัญชาการกองทัพไทย จัดงานวันเด็กแห่งชาติ 2563 ในวันเสาร์ที่ 11 มกราคม 2563 ตั้งแต่เวลา 7.00 น. ถึง 14.00 น. ณ ลานอเนกประสงค์ กองบัญชาการกองทัพไทย ถนนแจ้งวัฒนะ จัดกิจกรรมการเรียนรู้ซึ่งใช้แนวคิด Edutainment (ความรู้คู่บันเทิง) มุ่งเน้นความสําคัญกับเรื่องสิ่งแวดล้อม ภายใต้แนวความคิด “เด็กไทย…รักษ์โลก” (Kids Save to the world)

โดยมีรูปแบบการจัดพื้นที่การเรียนรู้ แบ่งเป็น 4 พื้นที่ ประกอบด้วย

  • พื้นที่การเรียนรู้ที่ 1 “ศาสตร์แห่งองค์พระราชา”
  • พื้นที่การเรียนรู้ที่ 2 “การเรียนรู้สู่นวัตกรรม”
  • พื้นที่การเรียนรู้ที่ 3 “มหัศจรรย์พลังสามัคคี”
  • และพื้นที่การเรียนรู้ที่ 4 “หนูน้อยนักพัฒนา”

ภายในงาน มีการฝึกหัดขับรถจักรยานยนต์ที่ถูกต้องตามกฎระเบียบ การแสดงขบวนพาเหรด การแสดงท่าอาวุธประกอบดนตรีของนักเรียนเตรียมทหาร และการแสดงของเหล่าทัพ มีการจัดบริการสวนสนุกบ้านลม ม้าหมุน และรถไฟราง เป็นต้น

 

3. กองทัพบก

ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพบก Army PR Center จัด “กิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2563” ณ กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2 รอ.) ถ.พหลโยธิน ในวันเสาร์ที่ 11 ม.ค. 2563 ตั้งแต่ 8.00 – 16.00 น. ชมนิทรรศการโครงการจิตอาสาพระราชทาน และการแสดงยุทโธปกรณ์ทางทหาร ได้แก่ อาวุธประจำกาย ปืนใหญ่ เรือพลังงานลม ยานยนต์ล้อสายพาน รถถัง และอากาศยาน

  • ร่วมเล่นเกมส์ เพื่อรับของรางวัล จากซุ้มบริษัทเอกชนต่างๆ มากมาย
  • รับอาหาร ขนม เครื่องดื่ม ตลอดทั้งวัน
  • ชมการแสดงดนตรีของ รร.สารสาสน์วิเทศน์ฯ และวงชีส เบอร์เกอร์ ฮิลล์
  • มอบประกาศนียบัตร ให้กับผู้แทน รร.สารสาสน์วิเทศน์ฯ
  • มอบทุนการศึกษา จำนวน ๔ ทุน ให้กับเด็กและเยาวชน จาก จชต. ในโครงการ Million Gifts Million Smiles
  • จับรางวัลพิเศษ จำนวน ๓ รางวัล

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ กองทัพอากาศ วันเด็ก 2563

4. กองทัพอากาศ

เวลามีงานวันเด็กแห่งชาติทีไร กองทัพอากาศ ก็ถือเป็นสถานที่ยอดฮิตตลอดกาลของ เด็กๆ (และผู้ใหญ่) ที่ชื่นชอบเครื่องบินรบเป็นขีวิตจิตใจ เพราะจะได้มาดูการแสดงโชว์ของเครื่องบินรบรุ่นต่างๆ และโชว์การบินต่อสู้ในอากาศ และการโจมตีทางอากาศ อันน่าตื่นเต้น!

กองทัพอากาศ ขอเชิญร่วมกิจกรรมงานวันเด็กแห่งชาติ กองทัพอากาศ ประจำปี 2563 ในวันเสาร์ที่ 11 มกราคม 2563 ตั้งแต่เวลา 08.15 – 14.50 น. ณ ฝูงบิน 601 กองบิน 6, พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศและการบินแห่งชาติ สนามกีฬาสำนักงานผู้บังคับทหารอากาศดอนเมือง, สนามบินเล็กกองทัพอากาศ ทุ่งสีกัน, โรงเรียนการบิน และกองบินต่างจังหวัดทั่วประเทศ

ชมการแสดงบนเวที ร่วมสนุกเกมชิงรางวัล การแสดงการบิน และตั้งแสดงอาวุธยุทโทปกรณ์ต่างๆ และการแสดงภาคอากาศของอากาศยานประเภทต่างๆ รวมทั้ง F-16 และ Gripen

 

5. ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ

ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา และศูนย์สร้างสรรค์เยาวชน (กระจ่าง บริรักษ์นิติเกษตร) จัดงานวันเด็กแห่งชาติ ภายใต้แนวคิด “Smart Kids วิทย์วันเด็ก” โดยเน้นกิจกรรมสำหรับครอบครัว สร้างความสัมพันธ์อันอบอุ่น เสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรม ความรัก ความใส่ใจต่อกัน เน้นให้พ่อ แม่ ลูก ร่วมปฏิบัติกิจกรรมด้วยกัน และส่งเสริมการเรียนรู้บูรณาการวิทยาศาสตร์หลากหลายสาขา

ในวันเสาร์ที่ 11 มกราคม 2562 เวลา 8.30 -16.30 น. ณ ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา (ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ) และ ศูนย์สร้างสรรค์เยาวชน (กระจ่าง บริรักษ์นิติเกษตร)

 

6. กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม

กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตร ได้แก่ สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม กรมทรัพยากรธรณี และศูนย์พัฒนาอาชีพคนตาบอด จัดกิจกรรมด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์และความตระหนักด้านวิทยาศาสตร์ ส่งเสริมการเรียนรู้ให้กับเด็กไทย ได้เรียนรู้และสัมผัสอย่างใกล้ชิด

ซึ่งประกอบด้วยกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีในแขนงต่างๆ ในชื่องาน “ถนนสายวิทยาศาสตร์ รับวันเด็กแห่งชาติ ปี 2563”

วัน เวลา และสถานที่จัดงาน

บริเวณกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ถนนโยธี ถนนพระรามที่หก พิพิธภัณฑ์แร่-หิน กรมทรัพยากรธรณี
วันที่ : 9-11 มกราคม 2563 เวลา 9.00 -17.00 น

คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
วันที่ : 9 และ 11 มกราคม 2563 เวลา 9.00 -17.00 น.

อพวช. : คลองห้า ปทุมธานี
วันที่ : 11 มกราคม 2563

 

7. กระทรวงศึกษาธิการ

กระทรวงศึกษาธิการ จัดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติ ปี 2563 ในวันเสาร์ที่ 11 มกราคม 2563 ณ กระทรวงศึกษาธิการ ตั้งแต่เวลา 7.00 – 17.00 น. ภายใต้แนวคิด Wonderful Kids “สุดยอดเด็กไทย” โดยแบ่งกิจกรรมออกเป็น 3 โซน คือ

  • โซนที่ 1: Citizen Kids: พลเมืองเด็ก (บริเวณสนามหญ้าและในกระทรวงศึกษาธิการ) ประกอบด้วย กิจกรรมเวทีกลาง, กิจกรรมเสริมสร้างความสามัคคี, บูธเกมเด็กไทยรู้หน้าที่, สวนมหาสนุก และการแจกของรางวัลจากหน่วยงานต่างๆ
  • โซนที่ 2: Digital Kids: เด็กยุคดิจิทัล (บริเวณถนนราชดำเนินนอก) เป็นกิจกรรมแสดงถึงความทันสมัย การรู้จักใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อการเรียนรู้และการใช้ชีวิตประจำวัน ประกอบด้วย กิจกรรมสนุกกับ MOE Coding, เพลิดเพลินในโลกดิจิทัล กับขบวนรถดูดาว กศน. เป็นต้น
  • และโซนที่ 3: Environmental Kids: เด็กรักษ์สิ่งแวดล้อม (บริเวณถนนลูกหลวง) เป็นกิจกรรมสร้างจิตสำนึกในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมและโลกของเราให้น่าอยู่ ประกอบด้วย กิจกรรม “เก็บ แยก แลกยิ้ม”, ปณิธานเด็กไทยรักษ์โลก เป็นต้น

 

8. TK Park

TK Alive เนรมิตพื้นที่ให้เป็นดินแดนแห่งความสนุกสนานสำหรับทุกคนในครอบครัว เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ 2563 เข้าร่วมกิจกรรมฟรี วันเสาร์ที่ 11 มกราคม 2563 เวลา 10.30 – 17.00 น. ณ TK Alive ชั้น 6 ด้านหน้าโซนจีเนียสแพลนเน็ต ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ให้เด็กๆ ได้เพลิดเพลินกับกิจกรรม “All About Games” ที่จัดหนักจัดเต็มยกทัพเกมสร้างสรรค์หลากหลายรูปแบบทั้งออนไลน์และออฟไลน์ให้น้องๆ ได้สนุกสุดเหวี่ยงเต็มอิ่มตลอดทั้งวัน พร้อมรับของที่ระลึกสุดพิเศษมากมาย

  • Brain Game by TK Park แอปพลิเคชันใหม่จากสถาบันอุทยานการเรียนรู้ TK Park ที่จะทดสอบความจำ ฝึกคำนวณ การวิเคราะห์จำแนกแยกแยะ และเสริมสร้างจินตนาการ
  • TK Board Game Club พบกับบอร์ดเกมท้าทายความสามารถที่ยกขบวนมาร่วมสนุกตลอดวันจากค่าย Siam Board Games และ Monkole Toy Studio
  • การแข่งขันบอร์ดเกมชิงรางวัล รับสมัครอายุระหว่าง 8 – 15 ปี ร่วมแข่งขันกับบอร์ดเกมสุดมัน
  • ประเภทเดี่ยว เกม “Davinci Code”
  • ประเภททีม 2 คน เกม “เมืองในฝัน” จาก Siam Board Games

(รับสมัครจำนวนจำกัดในวันงานเท่านั้น)

 

9. อสมท.

“พัทโตะ – พัทธ์ ชนภัณฑารักษ์ และ เพียว-กิติพัฒน์ พิมพ์เกษมโสภณ” 2 พิธีกรสุดเฮฮาขวัญใจเด็กๆ จากรายการ “9 การ์ตูน” ทางช่อง 9MCOT HD ชวนน้องๆ หนูๆ เที่ยวงานวันเด็ก ปี 2563 “Wonder kids Thailand” โดย บมจ. อสมท. ร่วมกับแฟชั่น ไอส์แลนด์ มอบความสนุก 3 วันเต็ม 10 – 12 ม.ค. 63 เวลา 10.30 น. – 19.00 น. ณ ชั้น 3 ไอส์แลนด์ ฮอลล์ ศูนย์การค้าแฟชั่น ไอส์แลนด์

เตรียมกระทบไหล่ “น้องมิลค์” สาวน้อย ชาวไทยวัย 12 ป้องกันแชมป์โลกโดรนเรซซิ่ง รายการ “2019 FAI WORLD DRONE RACING CHAMPIONSHIP GRAND FINAL” คว้าแชมป์โลกเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน, โชว์เต้นฮิปฮอป สุดเจ๋งจากทีมออซัม จูเนียร์ (Awesome Junior) ดีกรีแชมป์ฮิปฮอประดับโลก 2 สมัยซ้อน (ปี 2018-2019)

ทดลองเป็นผู้ประกาศข่าว และเป็นดีเจตัวน้อย พร้อมใกล้ชิดเหล่าคาแร็คเตอร์การ์ตูนดังมากที่สุด ลุ้นรับของรางวัลฟรีตลอดงาน

 

10. สภากาชาดไทย กรุงเทพฯ

งานวันเด็กกับสภากาชาดไทย วันที่ 11 มกราคม 2563 ตั้งแต่เวลา 8.30 – 15.30 น. จัดขึ้น ณ พิพิธภัณฑ์สภากาชาดไทย บริเวณสถานเสาวภา ปีนี้จัดขึ้นในธีม “Green Children’s Day” ลด ละ แยก ขยะ มาร่วมรักษ์โลก และร่วมเล่นเกมสนุก ๆ แลกของรางวัลเพียบ! แถมมีของรางวัลใหญ่บนเวทีอีกด้วย หรือหากเด็กน้อยนำภาชนะมาใส่น้ำ/ขนมเอง รับไปเลยของขวัญสุดพิเศษ

พร้อมทั้งชมสวนงู และการแสดงสาธิตการจับงู และดยมีกิจกรรมที่ให้ความรู้ สนุก ๆ รับของรางวัลเพียบ!!! ร่วมลุ้นรางวัลใหญ่บนเวที จักรยาน ทุนการศึกษา ของเล่น ของขวัญ ฯลฯ

 

ด้านองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้สนับสนุนและร่วมฉลองวันเด็กแห่งชาติ 2563 โดยให้เด็กและเยาวชน ที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปี ได้รับสิทธิยกเว้นค่าโดยสาร เมื่อใช้บริการรถโดยสารธรรมดา และรถโดยสารปรับอากาศของ ขสมก. ในวันดังกล่าว

 

ด้านรถไฟฟ้า BTS, MRT และ ARL ยกขบวนให้บริการฟรี ในวันเด็กแห่งชาติ 2563

ทางรถไฟฟ้า BTS ให้เด็กๆ ที่มีอายุไม่เกิน 14 ปี โดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอสฟรีตลอดทุกเส้นทาง ทั้งในส่วนต่อขยายสายสุขุมวิท และสายสีลม รวมถึงรถโดยสารด่วนพิเศษบีอาร์ที ตั้งแต่เวลา 6.00 น. ถึง 24.00 น.

ขณะเดียวกัน บริษัทฯ จะจัดกิจกรรมส่งความสุขให้กับเด็กๆ อาทิ ซุ้มเกมส์หรรษา ซุ้มเกมส์ตอบปัญหา พร้อมรับของรางวัล และของแจกมากมายเป็นที่ระลึก ณ บริเวณสถานีหมอชิต ในช่วงเวลา 7.30 น. – 10.30 น.

ด้านการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ร่วมกับ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BEM) ใจดีส่งมอบความสุขวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2563 ด้วยการโดยสารรถไฟฟ้า MRT ฟรี ทั้ง 2 สาย สายเฉลิมรัชมงคล (สายสีน้ำเงินและสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย) และสายฉลองรัชธรรม (สายสีม่วง) สำหรับเด็กที่มีอายุไม่เกิน 14 ปี และมีความสูงไม่เกิน 140 ซม.

เพียงแสดงตัวที่ห้องออกบัตรโดยสารเพื่อรับคูปองโดยสารรถไฟฟ้าฟรี ตลอดระยะเวลาการให้บริการ

รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ให้เด็กความสูงไม่เกิน 140 ซม.ขึ้นฟรี พร้อมแจกไอศกรีม และของขวัญตลอดวันทุกสถานีเนื่องในวันเด็กแห่งชาติ 2563 ตั้งแต่เวลา 05.30 น.– 24.00 น. พร้อมทั้งจัดกิจกรรมแจกไอศครีมให้แก่เด็กๆที่รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ทุกสถานี ตั้งแต่เวลา 8.00 น. เป็นต้นไป รวมทั้งส่งคาราวานมาสคอตตัวการ์ตูนออกแจกขนม และของขวัญบนขบวนรถไฟฟ้า

อย่างไรก็ตาม ในวันเด็กนั้นมักมีเด็ก ๆ ที่ออกจากบ้านแบบพร้อมเพรียงกัน ทำให้อาจเกิดความวุ่นวายเล็กน้อย ซึ่งตามสถานที่ต่างๆ อยากให้ผู้ปกครองควรระวังลูกหลานของท่านด้วย เพราะเด็กมักสนใจแต่สิ่งรอบตัวหรือสนุกสนานกับกิจกรรม จนลืมดูทางและอาจทำให้เกิดการหลงทางกันระหว่างผู้ปกครองกับตัวเด็ก จากจะเป็นวันที่ทำให้เด็กๆ มีความสุข อาจกลายเป็นวันที่เสียใจแทน

วิธีป้องกันและแก้ปัญหาเด็กหาย

  1. หาเชือกหรือสายอะไรก็ได้ ผูกข้อมือไว้ระหว่างผู้ปกครองกับตัวเด็ก
  2. เขียนเบอร์โทรติดต่อ รวมทั้งชื่อ-นามสกุล ใส่ป้ายบัตรให้เด็กนำไปคล้องคอ หรือนำใส่กระเป๋า
  3. พูกกำชับกับลูกหลานของท่านไว้ก่อนออกเดินทาง ว่าถ้าหลงทางกันและหากันไม่เจอให้ไปที่ไหน หรือบอกเบอร์ติดต่อกับผู้ใหญ่ที่ไว้ใจได้ เช่น ตำรวจ ให้โทรหาเบอร์คุณพ่อหรือคุณแม่ที่ได้จดไว้
  4. แต่ถ้าไม่ได้จด หรือคิดว่าลูกหลานของท่านจำไม่ได้ ให้อยู่ที่เดิมที่หลงทางกัน และโทรแจ้งความ หรือโทร 1300 ศูนย์ประชาบดี หรือขอคำปรึกษาและแจ้งผ่าน ศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา โทร 02-9732236-7

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่ มาขายรถกับทาง Carro Express สิ! คลิกเลยที่ https://th.carro.co/sell-car/express รับรองได้เงินเร็ว ไว ทันใจแน่นอน!

Carro Automall ตลาดรถ

ส่วนใครสนใจจะซื้อรถมือสอง Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

รวม 10 จุด "เคาท์ดาวน์ปีใหม่ 2020" ทั่วกรุงเทพฯ ที่คุณไม่ควรพลาด!

ช่วงนี้ก็ล่วงเข้าสู่ปลายเดือนธันวาคมกันแล้ว ก่อนถึงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2563 นี้ ถ้าคุณกำลังมองหาสถานที่เคาท์ดาวน์ รอนับถอยหลัง 5 4 3 2 1 กับครอบครัวหรือเพื่อนฝูงอยู่ Carro ขอเสนองาน “เคาท์ดาวน์ปีใหม่” (Countdown 2020) ที่มีศิลปินชื่อดังมาร่วมแสดงกันอย่างคับคั่ง พร้อมมองพลุหลากสีสันที่ยิงขึ้นฟ้าด้วยบรรยากาศสนุกสนาน

ส่วนใครที่จะขายรถเก่าเพื่อซื้อรถยนต์คันใหม่ ฉลองเทศกาลปีใหม่ 2563 นี้ ทาง Carro ก็มีความยินดีที่พร้อมรับซื้อรถของคุณ ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ Carro Express คลิกที่นี่ https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook Carro Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothai หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

คนกรุงเทพฯ ถ้าไม่สะดวกไปต่างจังหวัด หรือที่ไกลๆ ช่วงปีใหม่ 2563 ลองเปลี่ยนบรรยากาศมานับเคาท์ดาวน์ในกรุงเทพฯ ดู เพราะที่เที่ยวสำหรับเคาท์ดาวน์ในกรุงเทพฯ มีมากมายให้เลือก ตามไปดูกันเลย

Countdown-In-Bangkok-2020

1. ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ (Central World)

เริ่มต้นด้วยที่แรก กับสถานที่ “เคาท์ดาวน์ปีใหม่” สุดฮิตในตำนานอย่าง Central World ที่เป็นจุด Countdown ยอดฮิตมานาน กับงาน “AIS Bangkok Countdown 2020” ณ ลานด้านหน้าห้างศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ การันตีด้วยเวทีใหญ่ที่สุด 220 เมตร ย้ำความเป็น World of Best Entertainment Countdown จุดเคาท์ดาวน์ที่ดีที่สุด มันส์ที่สุด และแฮปปี้ที่สุดตลอดกาล

พร้อมด้วยตำแหน่งไทม์สแควร์แห่งเอเชีย และเป็นสถานที่เคาท์ดาวน์ติดอันดับโลก จาก CNN เพราะมีการจัดแสดงที่อลังการ โดยจัดแสดงพลุ ดอกไม้ไฟ ให้คุณสนุกไปกับเหล่าดารา ศิลปินชื่อดังมากมาย ที่มาร้องเพลงร่วมส่งท้ายปีเก่าไปกับคุณ

ส่วนถ้าใครไม่สะดวกที่จะมาร่วมงาน ในปีนี้ ทางเซ็นทรัล ยังได้จัดพร้อมกันอีก 11 สาขาทั่วประเทศ ที่เซ็นทรัลพลาซา และเซ็นทรัล เฟสติวัล และ เซ็นทรัล ภูเก็ต

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่: Central World

Countdown-In-Bangkok-2020

2. ASIATIQUE The Riverfront

ถ้าคุณกำลังหาสถานที่ “เคาท์ดาวน์ปีใหม่” ในกรุงเทพฯ บวกกับบรรยากาศสุดโรแมนติกริมแม่น้ำเจ้าพระยา “เอเชียทีค” เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวที่เหมาะมากเลยทีเดียว และปีนี้ ASIATIQUE Thailand Countdown 2020 มาในคอนเซปต์ “Boost Your Energy Up” ในวันที่ 31 ธันวาคม 2562 นี้ 17.00 น. เป็นต้นไป เตรียมชาร์ทความสนุก รับปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง ท่ามกลางบรรยากาศมันส์ๆ ตื่นตาไปกับเวที แสง สี เสียง สนุกสุดเหวี่ยงไปกับมหกรรมคอนเสิร์ต จากศิลปินแถวหน้าของเมืองไทย

และพลาดไม่ได้กับการการแสดงพลุจากทีม PYRO 2000 แชมป์โลกจากประเทศอังกฤษ ที่กวาดแชมป์มาแล้วทั่วโลก บินตรงเพื่อมาออกแบบโชว์พลุสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่เอเชียทีคโดยเฉพาะ โดยแบ่งเป็น 5 โชว์พลุประสารทพรให้กับทุกคน ได้แก่ รื่นรมย์ Pleasant, รุ่งเรือง Prosperity, สุขเกษมเปรมปรีย์ Happiness, โชคดีมีชัย Lucky และสดชื่นเบิกบานใจ Blissful and Blossom

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่: Asiatique

Countdown-In-Bangkok-2020

3. Iconsiam

สำหรับ Iconsiam แหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตริมแม่น้ำเจ้าพระยา ทั้งคนไทยและชาวต่างประเทศ ก็จัดงาน “เคาท์ดาวน์ปีใหม่” อย่างยิ่งใหญ่ โดยร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และพันธมิตรสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา สร้างมหาปรากฏการณ์ “Amazing Thailand Countdown 2020” เฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ สุดยิ่งใหญ่ตระการตา ภายใต้แนวคิด มหัศจรรย์พร 7 ประการ ในวันที่ 31 ธันวาคม 2562 ตั้งแต่ 17.00 น. ณ ริเวอร์พาร์ค ไอคอนสยาม

เพื่อตอกย้ำให้แม่น้ำเจ้าพระยาสายประวัติศาสตร์ เป็นจุดหมายปลายทางสำคัญแห่งการท่องเที่ยว และเป็นแลนด์มาร์คของการเฉลิมฉลองค่ำคืนส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ให้ที่มีชื่อเสียงไปในระดับโลก

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่: Iconsiam

Countdown-In-Bangkok-2020

4. Future Park & Zpell

สำหรับคนที่บ้านอยู่ชานเมือง เลยกรุงเทพฯ ไปนิดหน่อย แค่ปทุมธานี หากไม่อยากฝ่าเข้ามาเบียดเสียดฝูงชนย่านใจกลางเมือง ก็มาร่วม “เคาท์ดาวน์ปีใหม่” กันได้ที่ “Future Park & Zpell Countdown 2020” ระเบิดสีสันความสุข กับคอนเสิร์ตยิ่งใหญ่ข้ามปี!!

พบศิลปินเบอร์ Top ของเมืองไทย

19.00 น. YOUNGOHM
20.00 น. LAZYLOXY & OG-ANIC
21.00 น. 25 HOURS
22.00 น. MODERN DOG
23.20 น. COCKTAIL

พบกันวันสิ้นปี 31 ธันวาคม 2562 ตั้งแต่เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป ที่ Short Stay ลานจอดรถด้านหน้าศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่: Future Park & Zpell

Countdown-In-Bangkok-2020

5. Crystal Design Center (CDC)

สำหรับคนที่อยู่ในย่านเลียบทางด่วน เอกมัย-รามอินทรา สามารถมาชิคๆ ชิวๆ “เคาท์ดาวน์ปีใหม่” กันได้ที่ CDC Countdown 2020ฟรีคอนเสิร์ตเคาท์ดาวน์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี!!! ยกทัพศิลปิน Joeyboy, Paradox, Cocktail, Zeal และ นิวจิ๋ว

รับบัตรเข้างานฟรี! พร้อมเครื่องดื่ม และลุ้นรับ iPhone 11 คลิก https://bit.ly/35DjDUK

มาร่วมมันส์ไปด้วยกัน วันอังคารที่ 31 ธันวาคม นี้ 17.00 น. เป็นต้นไป ที่ Crystal Arena CDC เลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา ขอบอก งานนี้มีรถ Shuttle Bus รับ-ส่ง ฟรีด้วยนะ!

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่: Crystal Design Center

Countdown-In-Bangkok-2020

6. Mega Bangna

อันนี้แม้จะเลยเขตกรุงเทพฯ เข้าไปเขตจังหวัดสมุทรปราการนิดหน่อย แต่ก็ถือว่าอยู่ใกล้ๆ กรุงเทพฯ ละกัน ในการร่วมนับถอยหลังข้ามปี “เคาท์ดาวน์ปีใหม่” กับงาน “The Forestias by MQDC Presents Mega Countdown 2020” สนุกมันส์ข้ามปีกับคอนเสิร์ตยิ่งใหญ่เต็มรูปแบบจากศิลปินดัง ตอกย้ำแลนด์มาร์คงานเคาท์ดาวน์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด แห่งกรุงเทพตะวันออก

พบกับศิลปินดัง ได้แก่ นนท์-ธนนท์, วง Getsunova, วงโปเตโต้, วงสล็อต แมชชีน, Poly Cat, UR Boy TJ และ กอล์ฟ ฟักกลิ้ง ฮีโร่ ในวันอังคารที่ 31 ธันวาคมนี้ ตั้งแต่เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป ณ ศูนย์การค้าเมกาบางนา

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่: Mega Bangna

Countdown-In-Bangkok-2020

7. คิง เพาเวอร์ มหานคร

สำหรับใครที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศ ไป “เคาท์ดาวน์ปีใหม่” แบบสูงๆ แบบหรูๆ ดูบ้าง ก็เชิญไปได้ที่ “คิง เพาเวอร์ มหานคร” มาร่วมนับถอยหลังสู่ปีใหม่บนรูฟท็อปบาร์ที่สูงที่สุดในประเทศไทย พร้อมชมการแสดงพลุจากทั่วกรุงเทพฯ ในแบบ 360 องศา บนชั้น 78 ของคิง เพาเวอร์ มหานคร

และสนุกไปกับแชมเปญปาร์ตี้และการแสดงการเหล่าศิลปินชั้นนำ ตั้งแต่เวลา 21.00 – 01.30 น. พร้อมฟรีโฟลว์แชมเปญ และหอยนางรมแบบไม่จำกัด บัตรราคาเริ่มต้นที่ 25,000++ บาท/ท่าน

และสำหรับท่านที่ต้องการเก็บความประทับใจ กับพระอาติทย์ตกสุดท้ายของปี บนรูฟท็อปบาร์ที่สูงที่สุดในประเทศไทย ระหว่างเวลา 17.00-19.30 น. สามารถซื้อบัตรเข้าชมได้ในราคา 4,500++ บาท/ท่าน (สำหรับผู้ใหญ่) พร้อมรับแชมเปญ 1 แก้ว

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่: King Power Mahanakhon

Countdown-In-Bangkok-2020

8. Seacon Square

มหกรรมฟรีคอนเสิร์ต! เต็มรูปแบบ จากศิลปินดังที่จะทำให้คุณต้องกรี๊ดกันแบบสุดเสียง เต้นกันให้สุดแรง เติมเต็มความสุขสนุกสุดมันส์แบบไร้ขีดจำกัด กับงาน “SEACON Countdown Concert 2020” ต้อนรับ “เคาท์ดาวน์ปีใหม่” ตลอด 3 คืนเต็ม 29-31 ธ.ค. 2562 ลานหน้าซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ ตั้งแต่ 20.30 – 00.00 น.

อาทิตย์ที่ 29 ธ.ค. 2562 เปิดเวทีความมันส์กับวง “Cocktail” วงร็อกนักร้องเสียงเอกลักษณ์ และ “ปาล์มมี่” ศิลปินฮิปปี้สุดเซอร์ที่มีเสน่ห์เฉพาะตัวแบบไม่เหมือนใคร

จันทร์ที่ 30 ธ.ค. 2562 สนุกไปกับดนตรีแนวอัลเทอร์เนทีฟร็อก วงร็อกหัวใจวัยรุ่นผงาดง้ำค้ำวงการเพลง กับวง “Paradox” ตอกย้ำความมันส์อย่างต่อเนื่องกับ “Clash” ร็อกระดับตำนาน

อังคารที่ 31 ธ.ค. 2562 สนุกส่งท้ายในคืนข้ามปีไปกับวง “ETC” ที่ขนเพลงฮิตให้อินและฟินไปพร้อมกัน แล้วมาเคาท์ดาวน์รับศักราชใหม่ไปพร้อมกับวง “Mild” ที่มาในแนวดนตรีป็อป ผสมผสานกับฮิปฮอปอย่างลงตัว

ยินดีต้อนรับทุก “ธีมมันส์” ของการแต่งตัว โดดเด่นสะดุดตาผู้คน รับรางวัลเด็ดไปเลย!

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่: Seacon Square

https://www.brandbuffet.in.th/wp-content/uploads/2015/12/TheStreetRachada_Countdown.jpg

9. The Street Ratchada

ศูนย์การค้าเดอะสตรีท รัชดา เตรียมกิจกรรม “เคานท์ดาวน์ปีใหม่” กับงาน “The Street Countdown 2020” สุดอลังการและยิ่งใหญ่ที่สุดในย่านรัชดา และปาร์ตี้กับศิลปินสุดคูลล์ ที่มาสร้างความสนุกภายในงาน อาทิ ACTART, VARINZ, Z TRIP, KANOM, NONNY9, เต-นิว

พร้อมชมพลุฉลองการปีใหม่ ในวันที่ 31 ธ.ค. 2562 ตั้งแต่เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป ณ ลานด้านหน้า เดอะ สตรีท รัชดา

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่: The Street Ratchada

Countdown-In-Bangkok-2020

10. ตึกใบหยก 2

ส่วนใครที่อยาก “เคาท์ดาวน์ปีใหม่” แบบแข่งกันกินไปด้วย ก็ต้องไปที่ Baiyoke Marathon Rally Buffet Count Down Party 2020 บุฟเฟ่ต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบปี ทานได้ไม่จำกัด (แต่ไม่ฟรี ราคาเริ่มต้น 2,900 บาท ที่นั่งมีจำนวนจำกัด) เริ่มตั้งแต่เวลา 19.30 น. จนถึงเคาท์ดาวน์ ซึ่งใครเก็บ RC ครบ 10 RC ลุ้นชิงรางวัลรวมกว่า 200,000 บาท

ร่วมชมพลุ ชมวิวแบบ 360 องศา ระหว่างเก็บ RC แวะนวดผ่อนคลาย ความเหนื่อยล้า พร้อมชมวิวสุดชิลของกรุงเทพฯ Sky Relax ชั้น 69 และเคาท์ดาวน์แบบสูงที่สุด ดาดฟ้าพื้นหมุน ชั้น 84

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่: Baiyoke Sky Hotel

เอาล่ะ ใครที่สะดวกจะไปเคาท์ดาวน์ที่ไหน ก็เตรียมตัววางแผนกันได้ตั้งแต่เนิ่นๆ เลยนะครับผม …

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่ มาขายรถกับทาง Carro Express สิ! คลิกเลยที่ https://th.carro.co/sell-car/express รับรองได้เงินเร็ว ไว ทันใจแน่นอน!

Carro Automall ตลาดรถ

ส่วนใครสนใจจะซื้อรถมือสอง Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

3 เหตุการณ์ความประทับใจเกี่ยวกับรถ และรีวิวการขายรถที่ Carro | Customer Interview

“เรื่องราวสุดประทับใจที่จำได้ขึ้นใจ คือ ลูกชายคนแรกเรียก ป๊ะป๋า ครั้งแรก! บนรถ”

รีวิวการขายรถที่ Carro

(1) Interview: คุณแสงดาว เจ้าของกิจการ ป.กุ้งเผาซามูไรซีฟู้ด

ช่วยเล่าเรื่องราว หรือเหตุการณ์ความประทับใจที่เกิดขึ้นบนรถ ก่อนที่จะตัดสินใจขายรถที่ Carro

“พี่เป็นคนเลี้ยงดูลูกเอง เวลาไปไหนก็ไปด้วยกัน ลุยด้วยกัน การใช้ชีวิตส่วนใหญ่จะเป็นบนรถทั้งเปลี่ยนผ้าอ้อม ป้อนนม เพราะการใช้ชีวิตส่วนใหญ่นอกจากบ้าน และที่ทำงานแล้ว บนรถเป็นอีกที่หนึ่งที่ได้อยู่กับลูก ทำให้ทุกความทรงจำเกี่ยวกับพัฒนาการของลูกชายคนโตได้อยู่ในรถคันนี้” คุณแสงดาวเล่าต่อว่า “แต่เหตุการณ์ที่ประทับใจสุดๆ ก็เป็นวันที่ลูกชายคนแรกเรียก ป๊ะป๋า”

ด้วยเหตุการณ์ประทับใจมากมาย ทำให้เราถามถึงสาเหตุของการขายรถครั้งนี้

“ตอนแรกพี่ก็ลังเลที่จะขายนะ เพราะทุกความทรงจำเกี่ยวกับพัฒนาการของลูกชายคนโตนั้นอยู่บนรถคันนี้ แต่ด้วยความจำเป็น และตอนนี้มีลูกเพิ่มมาอีกคน รถคันเดิมไม่พอสำหรับครอบครัวพี่แล้ว” และเธอยังกล่าวให้ฟังอีกว่า “วันที่รถพี่ขายได้ พี่จำได้ขึ้นใจเลยว่า ลงขายรถค่ำๆ ตอนเช้า Carro ขอนัดดูรถแล้ว พี่ยังไม่มีเวลาทำใจเลย รถก็ขายได้แล้วภายในข้ามคืน”

“เอี๊ยดดดด.. อีกนิดเดียว รถพี่เกือบโดนอัดก็อปปี้ 4 คันรวด!” นี้คือคำบอกเล่าเหตุการณ์ที่ไม่มีวันลืม

รีวิวการขายรถที่ Carro

(2) Interview: คุณรัชฎาพร เจ้าของกิจการร้านเครื่องเงิน

ช่วยเล่าเรื่องราว หรือเหตุการณ์ความประทับใจที่เกิดขึ้นบนรถ ก่อนที่จะตัดสินใจขายรถที่ Carro

“ตอนแรกพี่คิดว่าจะยื้อรถเอาไว้ใช้ก่อน เพราะรถคันมันเล็กดี สะดวกสบาย ไปไหนมาไหนก็หาที่จอดง่าย แต่เหตุการณ์ในวันนั้น ทำให้พี่คิดได้ว่าชีวิตไม่มีความปลอดภัยเอาเสียเลย อีกทั้งพี่ก็มีลูกด้วย 2 คน ความปลอดภัยต้องมาก่อน! จึงต้องเปลี่ยนมาใช้รถคันใหญ่แทน ในวันรุ่งขึ้นไปดูรถใหม่ และประกาศขายคันเก่าเลย”

ช่วยเล่าเหตุการณ์ในวันนั้นอีกครั้งได้ไหมค่ะ

“พี่นอนอยู่ สามีพี่เป็นคนขับ พี่ได้ยินเสียง เปี้ยง! ด้วยความตกใจตื่นขึ้นมา ในใจคิดว่ารถพี่ต้องโดนชนแน่ๆแล้ว แต่ความมีสติของสามีพี่ เบรกทัน ไม่งั้นอัดกับรถคันหน้าเป็นคันที่ 4 แน่ๆ เพราะมันอีกนิ๊ดเดียวจริงๆ”

ความรู้สึกในวันเกิดเหตุ

“แค่คิดว่าถ้าในวันนั้นรถเกิดชน และมีลูกพี่ทั้ง 2 คนอยู่ในรถด้วย! พี่คงรู้สึกแย่ๆมาก พี่จึงขายรถเพื่อเปลี่ยนมาใช้รถคันใหญ่ที่มีระบบความปลอดภัยมากขึ้น”

ประสบการณ์ตรงที่ความสนุกมาพร้อมกับความเสี่ยง “เมื่อก่อนผมเหยียบ 200 กว่า แต่ตอนนี้เหลือความเร็วตามกฎหมาย”

รีวิวการขายรถที่ Carro

(3) Interview: คุณบอล Online Manager ร้าน LSW Gold

ช่วยเล่าเรื่องราวที่ไม่เคยลืม หรือเหตุการณ์ความประทับใจอะไรก็ได้ที่เกี่ยวกับรถ ก่อนที่จะตัดสินใจขายรถที่ Carro

“ผมขับรถตั้งแต่ได้ใบขับขี่ตอนอายุ 18 รถส่วนใหญ่ที่ใช้มีสมรรถนะแรง เลยขับรถเร็วเป็นเรื่องปกติ อีกอย่างผมชอบ Feeling ตอนใช้ความเร็ว ตอนเร่งออกตัวรถ

จุดที่ทำให้พลิกพลัน?

“พออายุย่าง 30 รวมไปถึงผมเห็นภาพจากข่าว และด้วยภาระงาน หน้าที่ มีแฟน ต่อไปอนาคตอาจจะอยากมีลูก ผมเลยคิดได้ว่ามันไม่คุ้มกับความสนุกเพียงแค่ไม่กี่เสี้ยววินาที” และคุณบอลกล่าวต่ออีกว่า “สมมุติว่าถ้าผมดันขับไปชนคนอื่นเข้าล่ะ แล้วถ้าเขาต้องกลับบ้านไปหาลูกเมีย หรือเขาต้องรีบไปไหน ทำให้คิดได้ว่ามันไม่ใช่แค่ตัวเราที่เดือดร้อน อาจทำให้เพื่อนร่วมทางเดือดร้อนไปด้วย”

สุดท้ายพูดถึงบริการการขายที่คาร์โร

“ก่อนหน้านี้ลงขายที่อื่น ผ่านมาเป็นเดือนก็ขายไม่ออก พอมาลงขายที่คาร์โร วันเดียวขายออก เร็วแบบไม่ทันตั้งตัว รถผมยังไม่ทันได้ล้างเลย”

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่ มาขายรถกับทาง Carro Express สิ! คลิกเลยที่ https://th.carro.co/sell-car/express รับรองได้เงินเร็ว ไว ทันใจแน่นอน!

Carro Automall ตลาดรถ

ส่วนใครสนใจจะซื้อรถมือสอง Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

CarroxGobear-May

เมื่อเพื่อนๆซื้อรถมาแล้ว สิ่งจำเป็นที่เพื่อนๆต้องทำเลยก็คือการหาอู่ซ่อมรถที่ไว้วางใจได้ ซึ่งจะเป็นผู้คอยดูแลรถยนต์ของเพื่อนๆ ทั้งการดูแลรถยนต์ ตรวจเช็กรถยนต์ประจําปี และการซ่อมแซมในรายละเอียดปลีกย่อยต่างๆ

หลายๆคนน่าจะเคยสงสัย และไม่แน่ใจว่าควรจะเลือกส่งรถซ่อมกับอู่ทั่วไปแถวบ้าน หรือส่งรถเข้าศูนย์บริการซ่อมดี พี่มีแนะนำเลยว่า ให้ดูจุดประสงค์การซ่อมรถ งบประมาณของเพื่อนๆ แล้วเลือกว่าแบบไหนจะเหมาะกว่ากัน เพราะอู่ซ่อมรถทั่วไปกับศูนย์ซ่อมรถก็มีข้อดีที่แตกต่างกันไป ไปดูกันเลยครับ ว่าแบบไหนถึงจะเหมาะกับรถยนต์ของคุณ

ศูนย์ซ่อมรถ เลือกแบบไหนดี

ข้อดีของศูนย์ซ่อมรถ

 

  1. ไม่ละเมิดเงื่อนไขการรับประกันแน่นอน

 

ถ้าหากเพื่อนๆซื้อรถยี่ห้อนั้นๆมา แล้วนำไปเข้าศูนย์ซ่อมรถของรถยี่ห้อนั้นๆ ก็แทบไม่ต้องคิดมากเรื่องการรับประกันเป็นโมฆะเลยครับ เพราะแน่นอนว่า ศูนย์ซ่อมรถจะทำการซ่อมรถได้มาตรฐานแบรนด์ แล้วถ้าหากเกิดอะไรขึ้นมา ศูนย์จำหน่ายรถก็ไม่สามารถอ้างได้ว่าเป็นเพราะเพื่อนๆเอารถไปซ่อมที่อู่ซ่อมรถอื่นนั่นเอง

 

  1. เข้าใจเทคโนโลยี ใหม่ๆของรถ

โดยในปัจจุบัน รถยี่ห้อต่างๆล้วนแข่งกันออกเทคโนโลยีล้ำใส่เข้ามาในรถไปเรื่อยๆ ทำให้ถ้าหากรถของเพื่อนๆเป็นรถรุ่นใหม่ๆ การหาอู่ซ่อมรถที่เป็นศูนย์ซ่อมของแบรนด์เองก็จะอุ่นใจได้มากกว่า เพราะศูนย์ซ่อมเหล่านี้จะรู้ไส้รู้พุงถึงระบบรถยนต์แบรนด์ของตัวเองเป็นอย่างดี ถ้าหากเพื่อนๆนำรถยนต์รุ่นใหม่ๆไปซ่อมที่อู่ทั่วไป ช่างก็อาจจะไม่ได้มีความรู้หรืออัพเดตเพียงพอ ทันต่อเทคโนโลยีใหม่ๆเหล่านี้ครับ

 

  1. ขายต่อได้ราคาดี

นั่นเป็นเพราะเวลาเพื่อนๆจะขายต่อรถยนต์ จะต้องมีการเช็กประวัติการดูแลรถยนต์อย่างละเอียดและดูว่าเพื่อนๆนำรถไปซ่อมที่ไหนบ้าง หากรถเพื่อนๆมีประวัติว่าซ่อมที่ศูนย์ซ่อมของแบรนด์มาตลอด ก็ถือว่าเป็นประวัติที่ดีและเชื่อใจได้ ทำให้ราคาขายรถยนต์มือสองสูงขึ้นไปอีกครับ

 

  1. ราคาคุ้มค่าคุณภาพ

หลายๆคนอาจเข้าใจผิดว่า การนำรถส่งเข้าศูนย์ซ่อมจะต้องมีราคาแพงกว่าอู่ซ่อมรถทั่วไปแน่นอน เพราะดูมีความโปรมากกว่า ราคาที่สูงกว่านิดหน่อยนี้ทำให้เพื่อนๆได้คุณภาพการบริการที่ได้มาตรฐาน อาจจะดีกว่าการนำไปซ่อมที่อู่ทั่วไปแล้วรถเสียบ่อยๆจนต้องกลับมาซ่อมใหม่เรื่อยๆ นะครับ

ศูนย์ซ่อมรถ เลือกแบบไหนดี

ข้อดีของอู่ซ่อมรถ

  1. ค่าแรงถูกกว่า

นี่คือข้อได้เปรียบสำคัญของการนำรถเข้าอู่ซ่อมรถทั่วไปเลยนะครับ ด้วยความที่ค่าแรงถูกกว่าทำให้เพื่อนๆเสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่า แต่เพื่อนๆก็จะต้องคอยดูให้ดีว่าทางอู่ใช้อะไหล่ น้ำมัน และไส้กรองของแท้ โดยยอมจ่ายราคาเต็มสำหรับสิ่งของเหล่านี้ แล้วได้ประโยชน์สำหรับค่าแรงที่ถูกลงจะดีกว่านั่นเองครับ การใช้บริการอู่ซ่อมรถทั่วไปจึงเหมาะกับงานดูแลรถยนต์ที่ไม่ได้ซับซ้อนมากนัก อู่ที่ไหนก็สามารถทำได้

 

  1. การรับประกันไม่เป็นโมฆะเสมอไป

มักมีหลายๆคนที่กลัวว่าการนำรถเข้าอู่ซ่อมรถทั่วไปแทนการเข้าศูนย์ซ่อมจะทำให้การรับประกันเป็นโมฆะทันที แต่นั่นไม่ใช่เรื่องจริงครับ ถ้าหากเพื่อนๆ เพียงแค่ให้อู่เหล่านี้ช่วยเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องหรือไส้กรอง อันเป็นงานเล็กๆน้อยๆ ก็จะไม่มีผลกระทบต่อการรับประกันรถยนต์แต่ละอย่างใดครับ

 

  1. มีอู่ซ่อมรถเฉพาะด้าน

นี่ก็เป็นอีกข้อดีที่ศูนย์ซ่อมรถอาจจะทำไม่ได้ เพราะศูนย์ซ่อมรถโดยทั่วไปจะมีมาตรฐานในการซ่อมที่เป็นแบบแผนเดียวกันหมด หากเพื่อนๆต้องการซ่อมรถ ที่ต้องใช้ความเชี่ยววชาญเฉพาะด้าน ในบางครั้งศูนย์ซ่อมรถก็อาจจะทำไม่ได้ แต่อู่บางแห่งอาจมีการบอกกันปากต่อปากว่าที่นี่เชี่ยววชาญด้านนี้เป็นพิเศษ สามารถเลือกใช้อู่เหล่านี้ได้เช่นกันครับ

 

ดังนั้นแล้ว ก่อนที่เพื่อนๆจะเลือกอู่ซ่อมรถ ก็ให้ดูว่าจุดประสงค์การซ่อม คุณภาพ และงบประมาณแบบไหนถึงจะเหมาะกับรถยนต์ของเพื่อนๆนั่นเองครับ หากเพื่อนๆเลือกอู่ซ่อมรถได้แล้วแต่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกประกันรถยนต์ของอะไรดี ก็เข้ามาที่เว็บไซต์โกแบร์เพื่อเลือกประกันรถยนต์ออนไลน์ได้เลยนะครับ

4 วิธีเช็กสภาพยางรถยนต์

ก่อนฤดูฝน คุณตรวจเช็คสภาพยางรถยนต์กันแล้วหรือยัง?

ใกล้เข้าฤดูฝนแล้ว บางพื้นที่มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้พื้นถนนมีความลื้น ลำบากต่อการกับขี่รถด้วยความเร็ว ดังนั้นสิ่งที่ควรเตรียมพร้อมต้อนรับหน้าฝน คือ การตรวจเช็คสภาพยางรถยนต์ ตั้งแต่อายุยาง ดอกยาง ลมยาง เพราะหากยังฝืนขับรถบนถนนที่ลื่นหรือเปียกฝน อาจจะเสี่ยงเกิดอันตรายกับรถยนต์และตัวของคุณเอง วันนี้ Carro จะพาไปเช็คสภาพยางรถยนต์ ก่อนขับลุยหน้าฝน กันนะคะ

พอเข้าหน้าฝน อย่างแรกที่น่าห่วงก็คือ การขับขี่รถยนต์บนห้องถนน มักจะเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ต่อผู้ใช้รถใช้ถนน และยิ่งเมื่อฝนตกแล้วการมองเห็นของผู้ขับขี่จะลดลง จะเพิ่มความยากให้กับการขับขี่ มองไม่เห็น หลุม บ่อ และแอ่งน้ำ

4 วิธีเช็กสภาพยางรถยนต์

ตรวจเช็คลมยาง

ควรเช็คสภาพลมยาง เดือนละ 1 ครั้ง และในช่วงหน้าฝนหรือก่อนออกเดินทางไปที่ไกลๆ ที่ต้องลุยถนนเปียก ดังนั้นควรเติมลมยางเผื่อไว้อีกประมาณ 1-2 ปอนด์ เพื่อให้ยางแข็งและรีดน้ำได้ดี แต่อย่าลืมเช็คลมขณะที่ยางเย็น

4 วิธีเช็กสภาพยางรถยนต์

เปลี่ยนยางรถยนต์

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตำแหน่งล้อหน้าจะเกิดการสึกผิดปกติของดอกยางง่ายที่สุด ดังนั้น เพื่อให้ยางมีอายุการใช้งานได้นาน ควรสลับตำแหน่งยาง อยู่เสมอควรสลับตำแหน่งทุก 10,000 กม

4 วิธีเช็กสภาพยางรถยนต์

ตรวจสอบสภาพของดอกยาง

ควรสังเกตความลึกของดอกยางรถยนต์ ไม่ควรต่ำกว่า 3 มิลลิเมตร ซึ่งความลึกของดอกยางใหม่จะมีความลึกประมาณ 8 – 9 มิลลิเมตร หรือไม่อาจใช้ไม้ขีดไฟทิ่มลงไปในร่อง ยางรถยนต์ ถ้าคุณเห็นหัวไม้ขีดสีแดง ก็หมายความว่าดอกยางเหลือน้อยเกินไปที่จะใช้งานต่อไป

4 วิธีเช็กสภาพยางรถยนต์

อายุของยางรถยนต์

โดยทั่วไปรถยนต์จะถึงเวลาเปลี่ยนยางใหม่เมื่อยางถูกใช้งานไปแล้ว 5 ปี ประมาณ 50,000 – 80,000 กิโลเมตรขึ้นไป ยางควรได้รับการตรวจสอบอย่างละเอียดโดยผู้เชี่ยวชาญอย่างน้อยปีละครั้ง แต่ถ้ารถไม่ค่อยได้ใช้งานหรือวิ่งระยะไกล ดอกยางยังแน่นและไม่มีการสึกหรอ ก็สามารถใช้ยางต่อไปได้ บางคันสามารถใช้งานได้ถึง 10 ปี

วิธีขับรถลุยฝน ให้ปลอดภัย ห่างไกลอุบัติเหตุ

  1. ควรขับรถด้วยความเร็วไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
  2. เปิดที่ปัดน้ำฝน โดยปรับระดับความเร็วให้เหมาะสมกับความแรงและปริมาณฝนที่ตกลงมา
  3. เว้นระยะห่างจากรถคันด้านหน้าประมาณ 10-15 เมตร
  4. เปิดไฟต่ำตลอดทางการขับรถ
  5. หลีกเลี่ยงการขับรถลุยแอ่งน้ำ
  6. ไม่ควร’ เปิดไฟฉุกเฉิน แต่ควรเปิดไฟตัดหมอกหน้า-หลัง

สุดท้ายนี้ หากเช็คลมยางละสภาพรถยนต์เรียบร้อยแล้ว อย่าประมาทในการขับขี่รถยนต์ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุบนท้องถนน และหากต้องการขายรถยนต์ใหม่ป้ายแดง สามารถเช็คโปรโมชั่นของแต่ละค่ายได้ที่ siamcardeal.com เราพร้อมให้คำแนะนำ และให้โปรโมชั่นที่ดีที่สุดกับคุณ

รถยนต์แบบไหนที่ควรทำประกันชั้น 3

ทุกวันนี้อุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ ทุกเวลา โดยเฉพาะอุบัติเหตุที่เกิดบนท้องถนน หากคุณขับรถประมาท ขาดสติในการขับรถละก็ อุบัติเหตุทางรถก็สามารถเกิดขึ้นกับคุณได้เลยค่ะ ดังนั้นการทำประกันรถยนต์จึงเป็นเหมือนหลักประกันป้องกันความปลอดภัยให้กับคุณ แต่ทุกวันนี้เศรษฐกิจมันไม่ดีจะเอาเงินไปลงกับประกันรถยนต์คงไม่ไหว ดังนั้นบริษัทประกันจึงมีประกันชั้น 3 ที่เบี้ยประกันราคาถูกที่สุด เพื่อตอบโจทย์คนที่อยากมีประกันรถและอยากได้ประกันรถที่ราคาถูกนั่นเอง

ว่าแต่รถยนต์แบบไหนควรทำประกันชั้น 3 ล่ะ เรามาดูกันดีกว่าว่ารถยนต์แบบไหนควรซื้อประกันรถชั้น 3

6 ลักษณะรถยนต์ที่เหมาะกับประกันชั้น 3

รถยนต์ที่ไม่ค่อยใช้งาน ควรทำประกันรถประเภทไหน

  1. ถยนต์ที่ไม่ค่อยได้ใช้งาน

หากคุณมีรถยนต์อยู่ในบ้าน แต่ไม่ค่อยได้ใช้งาน มักจะจอดทิ้งไว้อยู่ที่บ้าน นานๆทีจะเอารถคันนี้ออกมาใช้ บอกเลยว่ารถยนต์คันนี้ควรทำประกันรถยนต์ชั้น 3 ด้วยเหตุผลที่ว่า รถยนต์คันนี้นานๆทีจะใช้งาน ไม่ค่อยได้ขับรถไปไหน แต่ใช่ว่ารถที่ไม่ใช้งานจะไม่เกิดอุบัติเหตุขึ้นเลย ดังนั้นเราควรทำประกันรถยนต์เอาไว้ เพื่อเป็นหลักประกันความปลอดภัยให้กับรถยนต์ของคุณ และคู่กรณีของคุณ

  1. รถเก่า

รถเก่าที่ว่า ส่วนใหญ่แล้วจะต้องมีอายุการใช้งานไม่เกิน 7 ปี ซึ่งอายุการใช้งานของรถยนต์ขนาดนี้ ประกันรถยนต์ชั้น 1 ไม่รับคุ้มครองแน่นอนค่ะ เพราะระบุไว้ในเงื่อนไขของประกันรถยนต์ชั้น 1 ไว้ชัดเจน ว่าไม่รับรถยนต์ที่มีอายุเกิน 7 ปีขึ้นไป ดังนั้นหากคุณมีรถยนต์ที่อายุการใช้งานมากกว่า 7 ปีขึ้นไป แนะนำให้ทำประกันรถยนต์ชั้น 3 เลยค่ะ

ซึ่งถ้าพูดตามหลักความเป็นจริงแล้ว ส่วนใหญ่คนที่มีรถเก่าก็มักไม่ค่อยได้ใช้ จะจอดทิ้งไว้อยู่ที่บ้าน โอกาสที่จะเฉี่ยวชนก็น้อย เกิดอุบัติเหตุก็น้อย ดังนั้นประกันที่เหมาะกับรถเก่าก็คือ ประกันรถยนต์ชั้น 3 นั่นเอง

  1. คนที่ขับรถเชี่ยวชาญ

หากคุณมั่นใจในทักษะการขับรถของตัวเองอยู่ในระดับหนึ่งแล้ว ผ่านการขับรถมานานหลายปี เรียกว่าเชี่ยวชาญเลยก็ว่าได้ ไม่เฉี่ยว ไม่ชน เกิดอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์น้อยมาก แต่อย่างที่บอกไปข้างต้นค่ะ ว่าอุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ดังนั้นเราต้องทำประกันรถยนต์เพื่อความปลอดภัยเป็นหลัก ซึ่งประกันรถยนต์ที่เหมาะกับผู้ที่ขับรถอย่างเชี่ยวชาญ ก็คือ ประกันรถยนต์ชั้น 3

สภาพแวดล้อมบ้านก็มีส่วนในการเลือกทำประกันรถ

  1. สภาพแวดล้อมของบ้าน

สภาพแวดล้อมของบ้านก็มีส่วนให้เราเลือกทำประกันรถยนต์เช่นกัน หลายคนคงไม่เข้าใจใช่ไหมคะว่าทำไมสภาพแวดล้อมบ้านเกี่ยวอะไรกับการเลือกซื้อประกันรถยนต์ บอกเลยว่าเกี่ยวเต็มๆ หากสภาพแวดล้อมบ้านของคุณเป็นพื้นที่เสี่ยงเกิดอุทกภัย เสี่ยงเกิดอัคคีภัย เสี่ยงต่อภัยธรรมชาติต่างๆ คุณควรทำประกันรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองแบบจัดเต็ม

แต่ถ้าบ้านของคุณไม่ได้อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยธรรมชาติ แนะนำให้ทำประกันรถยนต์ชั้น 3 ก็พอค่ะ เพราะประกันชั้น 3 ไม่ได้คุ้มครองในส่วนของความเสียหายจากภัยธรรมชาติ ดังนั้นเราไม่จำเป็นต้องทำประกันรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองในส่วนของภัยธรรมชาติ เพื่อเป็นการประหยัดในส่วนของเบี้ยประกันรถนั่นเอง

  1. ทำธุรกิจ หรือมีญาติพี่น้อง คนรู้จักเปิดอู่ซ่อมรถ

ในส่วนนี้ถือเป็นสิทธิพิเศษก็ว่าได้ค่ะ หากคุณหรือญาติพี่น้องทำธุรกิจอู่ซ่อมรถละก็ ค่าซ่อมรถของคุณอาจจะได้รับสิทธิพิเศษมากกว่าคนอื่น หากคุณได้รับสิทธิพิเศษเหล่านี้ละก็ เรื่องค่าใช้จ่าย ค่าซ่อมแซมก็หายไปได้หน่อยนึง

ซึ่งถ้าคุณมีตัวเลือกแบบนี้ เราไม่จำเป็นต้องซื้อประกันรถยนต์ที่เบี้ยราคาสูงๆ หรือประกันรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองแบบเต็มความคุ้มครองเลยค่ะ คุณเลือกประกันรถยนต์แค่ชั้น 3 ก็เพียงพอต่อการซื้อประกันรถยนต์

  1. งบสำหรับประกันไม่สูงมาก

หากคุณมีปัญหาเรื่องสภาพทางการเงิน ไม่อยากเอารายได้ของคุณไปจบอยู่ที่เบี้ยประกันรถยนต์ราคาสูงๆ แต่ถ้าไม่ทำประกันรถยนต์ก็ไม่ได้ ดังนั้นเราควรเลือกซื้อประกันรถยนต์ที่เบี้ยประกันราคาเป็นกันเอง แถมยังให้ความคุ้มครองอย่างคุ้มค่า เช่นประกันรถยนต์ชั้น 3 นั่นเอง แม้ความคุ้มครองอาจไม่จัดเต็มเหมือนประกันรถยนต์ประเภทอื่นๆ แต่ในเมื่อเรามีข้อจำกัดเรื่องงบ ประกันชั้น 3 จึงเป็นตัวช่วยคนสำคัญที่จะดูแลความปลอดภัยนั่นเอง

หากคุณต้องการทำประกันรถยนต์แต่มีข้อจำกัดหลายๆ อย่างตามที่ทางเราได้กล่าวไปข้างต้น เราแนะนำให้คุณทำประกันชั้น 3 เลยค่ะ หากคุณสนใจทำประกันรถยนต์ชั้น 3 ก็สามารถเข้ามาดูได้ที่ rabbit finance เรามีบริการเปรียบเทียบประกันรถยนต์ให้คุณเลือกประกันรถยนต์ตามที่คุณต้องการเลยค่ะ สนใจคลิกเข้ามาเลย!

ฟิล์มติดรถยนต์

การนำรถไปติดฟิล์มติดรถยนต์ หลายๆคนก็อาจจะไม่ค่อยแน่ใจว่าควรเลือกฟิล์มติดรถยนต์แบบไหนเพราะมีให้เลือกหลากหลายแบบมาก ทั้งนี้ทั้งนั้น การเลือกฟิล์มติดรถยนต์ ค่อนข้างเป็นตัวเลือกที่แล้วแต่ความชอบของบุคคลมากๆ เพื่อนๆก็จะต้องดูด้วยว่าฟิล์มแต่ละแบบมีคุณภาพคงทนมากน้อยแค่ไหน

ในวันนี้ พี่หมีจึงนำเอาประเภทของฟิล์มติดรถยนต์ยนต์ทั้ง 4 ประเภทมาฝากกัน เพื่อดูว่าในแต่ละแบบมีคุณสมบัติอะไรและมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันอย่างไร เป็นตัวช่วยเพื่อนๆสามารถเลือกฟิล์มติดกระจกที่เหมาะกับรถ และ lifestyle ของเพื่อนๆได้จริงๆครับ ไปดูกันเลย

 

  1. ฟิล์มติดรถยนต์ธรรมดา (Dyed Car Tint)

 

ฟิล์มกรองแสงประเภทนี้ถือว่าเป็นฟิล์มที่มีราคาถูกที่สุด และมีคุณภาพเบสิคที่สุด โดยจะมีการแทรกชั้นเคลือบสีไว้ที่ระหว่างชั้นกาวใสและชั้นนอกกันรอยขีดข่วน เพื่อนๆสามารถเลือกระดับการปกป้องรังสียูวีได้ตั้งแต่ 5%-50% ครับ

ทำให้ข้อดีของฟิล์มติดรถยนต์ประเภทนี้ก็คือ มีราคาน่าคบ สามารถกันแสงยูวีได้ในระดับที่ถือว่าโอเค มีสีเข้มเมื่อมองจากภายนอก แต่อย่างไรก็ดี ฟิล์มประเภทนี้อาจจะหลุดลอกได้ตามกาลเวลา หรือมีฟองอากาศแทรกตัวเข้าไปด้านในทำให้กระจกรถยนต์ดูไม่สวย และด้วยคุณสมบัติที่จะดูดซับความร้อนจากแสงอาทิตย์ได้เพียงส่วนหนึ่ง ก็ยังดูดซับความร้อนได้ไม่มีประสิทธิภาพหากอยู่ในอากาศเมืองไทยครับ

 

  1. ฟิล์มปรอท (Metallic Car Tint)

ฟิล์มติดรถยนต์ประเภทนี้ จะแทรกแผ่นฟิล์มเคลือบไอโลหะไว้ที่ตรงกลาง ซึ่งจะมีความสามารถในการกันแสง uv และสะท้อนความร้อนออกไป โดยเมื่อติดฟิล์มลงบนรถยนต์แล้ว ฟิล์มกรองแสงแบบนี้จะมีหน้าตาคล้ายกระจกเงาที่คนข้างนอกจะมองเข้าไปในตัวรถไม่ได้เลยในเวลากลางวัน แต่กลางคืนจะสามารถมองเข้าไปได้

ฟิล์มชนิดนี้ สามารถกันแสงได้มากตั้งแต่ 60%-90% และกันความร้อนได้ตั้งแต่ 35%-90%

ข้อเสียของฟิล์มติดรถยนต์ประเภทนี้ก็คือ ลักษณะเงาวับด้านนอกอาจจะไม่ได้เข้ากับรสนิยมของคนทุกคน รวมถึงแผ่นฟิล์มเคลือบโลหะอาจจะเข้ามารบกวนสัญญาณโทรศัพท์มือถือ  GPS หรือสัญญาณวิทยุได้ครับ นอกจากนี้ก็จะมีราคาที่แพงกว่าฟิล์มกรองแสงธรรมดาแน่นอน

 

  1. ฟิล์มคาร์บอน (Carbon Car Tint)

ฟิล์มติดรถยนต์แบบคาร์บอนจะไม่ได้มีชั้นฟิล์มโลหะแทรกอยู่ ทำให้ไม่มีปัญหากับเรื่องการใช้โทรศัพท์มือถือหรือระบบ GPS โดยฟิล์มคาร์บอนจะมีลักษณะมืดและมีเนื้อด้าน เมื่อนำไปติดบนรถยนต์ทำให้ดูมีรสนิยม โดยฟิล์มคาร์บอนสามารถกันแสงอินฟราเรดได้ถึง 40% ทำให้ปกป้องรถจากความร้อนที่ผ่านเข้ามาทางหน้าต่าง และสามารถกันรังสี UVA และ UVB ได้มากถึง 99% แม้ข้อดีเยอะแยะขนาดนี้ แต่แน่นอนว่า ฟิล์มกรองแสงคาร์บอนย่อมมาพร้อมกับราคาที่สูงมากนั่นเองครับ

 

  1. ฟิล์มเซรามิค (Ceramic Car Tint)

ฟิล์มติดรถยนต์แบบเซรามิคจะเป็นการแทรกฟิล์มบางๆด้วยวัสดุเซรามิกเข้าไป ทำให้สามารถกันการแผ่รังสี UV ได้มากถึง 50%-70% กันความร้อนได้ 70% และกันแสงอินฟราเรดได้มากถึง 97%

ฟิล์มกรองแสงชนิดนี้ จะไม่สะท้อนเป็นกระจกเงา สีไม่ซีด ไม่กันสัญญาณโทรศัพท์และบล็อกรังสี UV ลดแสงสะท้อนได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ดีฟิล์มชนิดนี้ก็มีราคาแพงมากๆเช่นกันครับ

โดยในประเทศไทย มีกฎหมายข้อบังคับเรื่องการติดฟิล์มกรองแสงออกมาว่า เพื่อนๆจะสามารถติดฟิล์ม ติดรถยนต์ที่กระจกหน้าและหลังที่ความเข้มไม่เกิน 40% ส่วนกระจกข้างจะติดฟิล์มที่ความเข้มได้ไม่เกิน 60% เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่นั้นเองครับ ทำให้ไม่ว่าเพื่อนๆจะเลือกสิ่งใด ก็ขอให้เน้นเรื่องความปลอดภัยไว้ก่อนด้วยนะครับ และถ้าจะให้ชัวร์ ให้เพื่อนๆทำประกันรถยนต์ติดไว้ จะได้อุ่นใจได้ตลอดเวลานั่นเอง โดยเพื่อนๆสามารถเข้ามาเช็คว่าประกันรถยนต์ชั้นไหนเหมาะกับตัวคุณได้ที่เว็บไซต์โกแบร์เลยนะครับ

6-Danger-Items-Not-Keep-In-Car

หลายคนที่ต้องใช้งานรถยนต์กันเป็นประจำ บางทีก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องจอดรถทิ้งไว้กลางแดด เพราะแค่หาที่จอดรถก็จะยากแสนยากแล้ว ซึ่งปกติแล้วการจอดรถกลางแดดโดยปิดกระจกทุกบาน ความร้อนภายในรถจะพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว หากจอดรถกลางแดดในวันที่อากาศร้อนจัดทะลุ 37°C อุณหภูมิภายในรถอาจสูงถึง 60°C เลยทีเดียว ซึ่งถือเป็นระดับความร้อนแม้แต่คนยังไม่สามารถทนได้

ยิ่งช่วงนี้มีข่าวบ่อย ไม่ว่าจะเป็นการเก็บโทรศัพท์มือถือ สเปรย์น้ำหอม หรือ Power Bank ไว้ในรถ แล้วจอดรถทิ้งไว้กลางแดดจัดๆ จนเกิดเรื่องระเบิดขึ้นมาบ้าง ไฟไหม้หน้ารถบ้าง ก็ตามที …

ดังนั้น สิ่งของอันตราย หากจัดเก็บไม่ถูกวิธี เมื่อได้รับความร้อนอาจทำให้เกิดระเบิด หรือเพลิงไหม้ ก่อให้เกิดอันตรายได้ เพื่อความปลอดภัย คาร์โร จึงรวบรวม 6 สิ่งที่ไม่ควรเก็บไว้ในรถขณะจอดกลางแดด เพื่อป้องกันไม่ให้รถเกิดความเสียหาย ซึ่งมีอะไรบ้าง? ไปดูกันเลย

ไฟแช็ค

1. ไฟแช็ก

หากวางไว้บนคอนโซลรถและถูกแสงแดดที่มีความร้อนสูงกระทบเป็นเวลานาน อาจทำให้เกิดการระเบิด ซึ่งจะส่งผลให้กระจกรถยนต์แตกร้าว หรืออาจเสี่ยงต่อการเกิดเพลิงไหม้ได้

สีสเปรย์

2. กระป๋องสเปรย์

เมื่อถูกความร้อนจะทำให้วัตถุ สารเคมี และแก๊สในกระป๋องขยายตัว จึงเกิดประกายไฟหรือระเบิดได้

Powerbank

3. แบตเตอรี่สำรอง

สารลิเธียมในแบตเตอรี่สำรอง (หรือ Power Bank) เป็นโลหะที่ไวต่อปฏิกิริยาทางเคมี เมื่อได้รับความร้อน อาจทำให้เกิดการลัดวงจร ส่งผลให้เกิดการระเบิดได้

iPhone

4. โทรศัพท์มือถือ

ความร้อนทำให้วงจรภายในโทรศัพท์ได้รับความเสียหาย และแบตเตอรี่โทรศัพท์เกิดการระเบิด โดยเฉพาะหากเปิดใช้งาน จะทำให้ความร้อนสูงขึ้น จึงเสี่ยงต่อการระเบิดได้

น้ำแข็งแห้ง

5. น้ำแข็งแห้ง

เมื่อน้ำแข็งแห้งระเบิดจะกลายเป็นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ทำให้ผู้ที่อยู่ในห้องโดยสารหมดสติ เพื่อความปลอดภัย ควรเก็บไว้ในภาชนะที่มีช่องระบายอากาศ แยกจากห้องโดยสาร หากเก็บในห้องโดยสาร ควรเปิดกระจกรถ เพื่อระบายอากาศออกสู่ภายนอก

แผ่นยางกันลื่น-มือถือ

6. แผ่นยางกันลื่น

แผ่นยางกันลื่นสำหรับวางโทรศัพท์ ที่มักวางไว้เหนือแผงคอนโซล แม้ว่าจะไม่เกิดการระเบิดเหมือนข้ออื่นๆที่ผ่านมา แต่อาจละลายติดไปกับคอนโซลได้ หากได้รับความร้อนเป็นเวลานาน

เชื่อว่าหลายคนอาจนึกไม่ถึงว่าสิ่งของเหล่านี้ สามารถทำให้เกิดความเสียหายได้ และนอกจากจะทำให้สิ่งของเสียหายแล้ว ยังทำให้ผู้ที่อยู่ในห้องโดยสารเสี่ยงต่อการได้รับอันตรายอีกด้วย

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่ มาขายรถกับทาง CARRO Express ได้ที่  https://th.carro.co/sell-car/express วิธีการขายรถในแบบยุคใหม่ ง่าย สะดวก รวดเร็ว ได้ราคา อีกทั้งยังลงขายได้ “ฟรี!” พร้อมรับเงินสดกลับบ้านทันที ภายใน 24 ชั่วโมง!

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

แต่ถ้าหากช่วงนี้ใครอยากเปลี่ยนรถคันใหม่ มาใช้แทนที่รถคันเดิม CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น!

รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check มากกว่า 200 จุด และยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ให้คุณเลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา พร้อมรับประกันคุณภาพรถนานถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร! อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! เรามีรถให้คุณเลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Official โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

คล็ดลับ ดูแลรถยนต์ ช่วงหน้าร้อน

รถยนต์นี่ถือเป็นยานพาหนะที่สำคัญในชีวิตประจำวันมากๆกับทุกคน แต่ถึงอย่างนั้นแม้รถยนต์ของเราถูกออกแบบมาให้ทนทานมากแค่ไหน แต่รถยนต์อาจมีการเสื่อมสภาพและพังได้ตามเวลา อีกทั้งตอนนี้ประเทศไทยได้เข้าสู่หน้าร้อนอย่างเต็มที่ จึงส่งผลเสียต่อตัวรถยนต์หลายๆคัน ดังนั้นเราทุกคนต้องดูแลรถยนต์ให้มากกว่าเดิม วันนี้มีทริคดูแลรถยนต์ช่วงหน้าร้อน มีวิธีไหนบ้างจะแนะนำให้ครับ

 

1.ตรวจระบบปรับอากาศในเครื่องยนต์

ระบบปรับอากาศในรถนั้นจำเป็นมากในช่วงหน้าร้อนนี้ ดังนั้นเราต้องเช็คระบบปรับอากาศ และระดับของน้ำยาแอร์ซึ่งหากน้ำยาแอร์เหลือน้อย อาจส่งผลกับระบบทำความเย็นในเย็นรถยนต์ของเราได้

 

2.ตรวจสอบลมยางรถยนต์

สภาพอากาศร้อน มักส่งต่อสภาพของยางรถยนต์ของเราเป็นอย่างยิ่ง เพราะความดันภายในยางจะมีเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้พื้นสัมผัสระหว่างล้อรถและพื้นถนนมีน้อยลง เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้มากยิ่งขึ้น เราจึงควรเช็คสภาพยางรถยนต์อย่างน้อยๆเดือนละครั้ง

3.แบตเตอรี่รถยนต์

อุณหภูมิที่สูงมากในช่วงหน้าร้อนนั้น มักจะส่งผลต่อระบบไฟฟ้าทั้งหมดรวมถึงแบตเตอรี่รถยนต์ ดังนั้นจึงหมั่นตรวจสอบระบบทั้งหมดเดือนละครั้ง ไม่ว่าจะเป็นสายไฟและขั้วต่าง ๆ ให้อยู่ในสภาพดีอยู่เสมอ รวมถึงระดับของน้ำกลั่นในแบตเตอรี่ควรเติมให้เต็มอยู่ตลอด

 

4.ระบบหล่อเย็นเครื่องยนต์

ระบบหล่อเย็นของรถยนต์ควรตรวจเช็คให้สามารถทำงานได้อย่างปกติ และควรหมั่นตรวจสภาพของหม้อน้ำและระบบต่าง ๆ ให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ ไม่มีรอยขาดหรือชำรุดเสียหาย เครื่องยนต์ทำงานจะเกิดความร้อนจากการเสียดสีและการจุดระเบิด นอกจากน้ำมันเครื่องที่ใช้สำหรับหล่อลื่นชิ้นส่วนต่างๆ ระบบหล่อเย็นก็ถือเป็นตัวช่วยระบายความร้อนชั้นดีได้อีกด้วย

 

5.ขอบยางประตูและที่ปัดน้ำฝน

ยิ่งโดนความร้อน ความเหนียวและความยืดหยุ่นในยางจะยิ่งลดลงเรื่อยๆ ซึ่งจะทำให้ที่ปัดน้ำฝนฟืดหากฝืนใช้ไปนานๆกระจกอาจเป็นรอยได้ และหากเป็นขอบยางประตูจะทำให้ปิดประตูไม่ค่อยสนิท ดังนั้นควรตรวจและเช็คสภาพสิ่งของที่เป็นประเภทยางให้ดี

 

6.ขอบยางประตูและที่ปัดน้ำฝน

ยิ่งโดนความร้อน ความเหนียวและความยืดหยุ่นในยางจะยิ่งลดลงเรื่อยๆ ซึ่งจะทำให้ที่ปัดน้ำฝนฟืดหากฝืนใช้ไปนานๆกระจกอาจเป็นรอยได้ และหากเป็นขอบยางประตูจะทำให้ปิดประตูไม่ค่อยสนิท ดังนั้นควรตรวจและเช็คสภาพสิ่งของที่เป็นประเภทยางให้ดี

 

7.น้ำมันเครื่อง

อากาศร้อนทำให้เครื่องยนต์ต้องทำงานหนักขึ้น การเลือกน้ำมันเครื่องที่เหมาะสมจะช่วยบรรเทาภาระของเครื่องยนต์ที่อาจเกิดขึ้นได้มากทีเดียว อีกทั้งควรมีการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยรักษาสภาพของเครื่องยนต์ให้ใช้งานนานขึ้น

 

ที่สำคัญคือควรหลีกเลี่ยงการจอดรถตากแดด และควรหาทางระบายความร้อน เช่น การเปิดฝากระโปรงรถเพื่อระบายอากาศ และ เช็คขั้วแบตเตอรี่เสมอไม่ให้แน่นจนเกินไป ยิ่งหน้าร้อนยิ่งควรดูแลรักษารถยนต์ให้ดี อย่าปล่อยให้อากาศร้อนมาเป็นตัวทำร้ายรถยนต์ของคุณ หากต้องการโปรโมชั่นรถถยนต์ใหม่ป้ายแดง นึกถึง SIAMCARDEAL.COM