Carro แนะนำรถ SUV และ MPV แบบ 7 ที่นั่ง ที่ขายดี!

ถ้าจะให้พูดถึง “รถ SUV” (Sport Utility Vehicle) และ “รถ MPV” (Multi-Purpose Vehicle) มือสอง ในบ้านเราจัดเป็นรถขายดีทีเดียว เพราะเป็นรถที่เหมาะกับคนมีครอบครัวใหญ่ ไปไหนไปกันได้หลายคน เริ่มต้นตั้งแต่แบบ SUV Crossover ซึ่งมาจากคำว่า Crossover Utility Vehicle เป็นรถที่ประกอบเป็นชิ้นเดียวกันทั้งคัน ดูคล้ายกับรถเก๋งยกสูง เน้นความอเนกประสงค์ ตัวรถไม่ใหญ่มากนัก เหมาะกับการใช้งานในเมืองเป็นหลัก หรืออาจลุยได้บ้าง แต่ก็ไม่มากเท่ากับแบบ SUV แท้ๆ

สำหรับรถ SUV นั้น ก็ยังมีอีก 2 แบบหลักๆ ได้แก่ SUV แบบที่มีลักษณะเดียวกันกับรถแนว Crossover แต่มีขนาดตัวรถที่ใหญ่กว่า ดูลุยกว่า มีที่นั่งทั้งแบบ 5 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง

Carro แนะนำรถ SUV และ MPV แบบ 7 ที่นั่ง ที่ขายดี!

และรถ SUV ที่มีพื้นฐานตัวรถเป็นแชสซีส์ แบบเดียวกับรถกระบะ หรือที่บ้านเรามักเรียกกันว่า “รถ PPV” หรือ Pick-up Passenger Vehicle แต่ปรับช่วงล่างให้นุ่มนวลขึ้น ด้วยการใช้คอยล์สปริง ตัวรถมีขนาดใหญ่ ส่วนใหญ่จะนั่งได้ 7 ที่นั่ง สามารถวิ่งในเมือง หรือลุยในทางฝุ่น เข้าป่าฝ่าดงได้

และรถในรูปแบบ MPV ที่เหมาะสำหรับคนมีครอบครัวใหญ่ ที่มีทั้งเด็กเล็ก และผู้สูงอายุ เน้นการใช้งานใช้เมืองสะดวกสบาย เข้า-ออก สะดวกกว่า มีทั้งแบบประตูเปิดแบบรถปกติ และประตูแบบบานเลื่อน ส่วนใหญ่ก็จะเป็นรถที่มี 7 ที่นั่งเช่นกัน

แต่ด้วยงบประมาณของหลายคนเวลานี้อาจมีจำกัด เนื่องจากวิกฤตโควิด-19, เศรษฐกิจฝืดเคือง และน้ำมันแพง ทำให้การเลือกรถใช้สักคัน ต้องคำนึงถึงราคา และความประหยัดกันมากขึ้น

Carro จึงรวบรวมรถ SUV, Crossover และ MPV มือสอง ที่ขายดีใน Carro และน่าซื้อในปี 2022 มาให้ทุกท่านเลือกซื้อกันแล้วครับ

Carro แนะนำรถ SUV และ MPV แบบ 7 ที่นั่ง ที่ขายดี!

1. Toyota Fortuner (โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์)

รถอเนกประสงค์ยอดฮิตที่สุดในไทยอีกรุ่นหนึ่ง ซึ่งเป็นรถที่รถขายดีใน Carro ราคาตกน้อย และการดูแลรักษา อะไหล่หาง่าย นั่นก็คือ Toyota Fortuner มือสอง (โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ มือสอง) ในเจเนอเรชั่นที่ 2 นั่นเอง

รถอเนกประสงค์ Toyota Fortuner โฉมนี้ มาพร้อมสโลแกน “New Legend of the Pride” หรือ “เหนือนิยามแห่งศักดิ์ศรี” เปิดตัวเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2558 ภายใต้โครงการ IMV ของ Toyota พร้อมขยายเฟรมให้ใหญ่ขึ้น และพัฒนาช่วงล่างแบบ 4 ลิงค์ เครื่องยนต์ใหม่ รวมถึงดีไซน์ที่หรูหรา ล้ำสมัย ทั้งภายนอก-ภายใน โดยเฉพาะ 3 เส้นสายแห่งดีไซน์ (3 Iconic Lines) ออกแบบได้สวยทั้งหน้าและหลัง

ห้องโดยสารภายใน มีฟังก์ชั่นเด่นๆ อย่าง เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง, ระบบนำทาง (Navigator) พร้อมเครื่องเล่น DVD หน้าจอแบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รองรับ T-Connect และการเชื่อมต่อ Bluetooth, ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติสามารถควบคุมแรงลมอัตโนมัติ, กล้องมองภาพด้านหลัง, ระบบไฟหน้า เปิด-ปิด อัตโนมัติ, ระบบ Cruise Control หรือช่องเก็บของแบบ Cool Box เป็นต้น

มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล เจเนอเรชั่นใหม่ (GD Efficient Boost) ทั้งในแบบ 2.4 ลิตร รหัส 2GD-FTV (High) แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว VN Turbo Intercooler Commonrail ให้แรงม้าสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600 – 2,000 รอบ/นาที

ขนาด 2.8 ลิตร รหัส 1GD-FTV แบบ 4 สูบ VN Turbo Intercooler Commonrail ให้แรงม้าสูงสุด 177 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,400 รอบ/นาที แรงม้าและแรงบิดเพิ่มขึ้นกว่าเครื่องยนต์ตระกูล KD รุ่นเดิม แถมกินน้ำมันลดลง 10%

เพิ่มประสิทธิภาพในการเผาไหม้ ให้แรงบิดสูงในช่วงรอบกว้าง (Flat torque) แต่ประหยัดน้ำมันดีเยี่ยม ผสานกับเกียร์ธรรมดา 6 สปีด (เฉพาะรุ่นดีเซล 2.4) และเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อม Sequential Shift กับระบบ Paddle Shift เปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย

และเบนซินขนาด 2.7 ลิตร รหัส 2TR-FE แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว Dual VVT-i ให้แรงม้าสูงสุด 166 แรงม้า ที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 245 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที

อ่านเพิ่มเติม >> Carro แนะนำ Toyota Fortuner ลุยได้ทุกฤดู

ดูรายละเอียด Toyota Fortuner มือสอง ทุกรุ่นได้ที่นี่

Carro แนะนำรถ SUV และ MPV แบบ 7 ที่นั่ง ที่ขายดี!

2. Toyota Sienta (โตโยต้า เซียนต้า)

Toyota Sienta มือสอง (โตโยต้า เซียนต้า มือสอง) จัดเป็นรถยนต์นั่งอเนกประสงค์รูปแบบใหม่ ในโฉมเจเนอเรชั่นที่ 2 นี้ เปิดตัวครั้งแรกที่ประเทศญี่ปุ่น ในปี 2558

การออกแบบภายนอก ได้แรงบันดาลใจจาก “Urban Trekking Shoes” หรือ “รองเท้าเดินป่าสมัยใหม่” โดดเด่นด้วยชุดไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ Bi-Beam LED พร้อมไฟ Daytime Running Lights แบบ LED, ไฟหรี่ และไฟท้าย LED แบบ Light Guiding, กระจกมองข้างปรับ/พับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว และล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว

ภายในออกแบบให้มี 3 แถว 7 ที่นั่ง พื้นที่กว้างขวาง จัดเต็มกับเครื่องเล่น DVD/CD/MP3/WMA พร้อมจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว พวงมาลัยไฟฟ้า พร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียงและ MID กับระบบแอร์อัตโนมัติ ควบคุมอุณหภูมิแบบ Digital, ระบบสตาร์ทอัจฉริยะ (Push Start), ประตูข้างซ้าย-ขวา สไลด์อัตโนมัติ แบบ Smart Entry และเบาะพับง่ายแค่เพียงสัมผัส (1-Touch Tumble) พร้อมระบบความปลอดภัยครบครัน

ขุมพลังใช้เครื่องยนต์รหัส 2NR-FE ขนาด 1.5 ลิตร 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว Dual VVT-i ให้แรงม้าสูงสุด 108 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 140 นิวตัน-เมตร ที่ 4,200 รอบ/นาที อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ที่ 16.1 กม./ลิตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT พร้อมระบบ Sport Sequential Shift 7 สปีด

อ่านเพิ่มเติม >> Carro แนะนำ Toyota Sienta สำหรับครอบครัว

ดูรายละเอียด Toyota Sienta มือสอง ทุกรุ่นได้ที่นี่

Carro แนะนำรถ SUV และ MPV แบบ 7 ที่นั่ง ที่ขายดี!

3. Toyota Innova Crysta (โตโยต้า อินโนว่า คริสต้า)

Toyota Innova Crysta มือสอง (โตโยต้า อินโนว่า คริสต้า มือสอง) เป็นรถเจเนอเรชั่นที่ 2 ของ Innova ที่ยังได้รับความนิยมทั้งในตลาดรถป้ายแดง และรถมือสองอย่างต่อเนื่อง เป็นการนำเข้าจากอินโดนีเซียเช่นเคย (เพราะที่อินโดนีเซีย นิยมรถประเภท MPV มาก ยอดขายเยอะ ฐานการผลิตรุ่นนี้จึงอยู่ที่นั่น)

เปิดตัวในไทยเมื่อเดือนกันยายน 2559 อัพเกรดความหรูหรามาเต็มพิกัด ภายใต้แนวคิด “Life is Infinite – เปลี่ยน…ให้ชีวิตทุกด้านเหนือระดับ”

ภายนอก ดีไซน์หรูหราโฉบเฉี่ยว แบบ Premium Crossover MPV มาพร้อมสเกิร์ตรอบคัน ไฟหน้า LED Projector พร้อม Daytime Running Lights มีไฟตัดหมอกหน้า กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว และไฟ Welcome Light สปอยเลอร์หลัง พร้อมเสาอากาศแบบ Shark Fin และล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว เป็นต้น

ห้องโดยสารกว้างขวาง ให้ความรู้สึกเสมือนอยู่ในบ้าน ภายใต้ Concept “Living Room Like” เติมเต็มด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกระดับพรีเมียม อาทิ ไฟส่องสว่างในห้องโดยสารแบบซ่อนฝ้า Premium Illumination LED แผงควบคุมไฟห้องโดยสาร และระบบแอร์แบบแยกส่วน พวงมาลัยพร้อมปุ่มควบคุม มาตรวัดเรืองแสง Optitron พร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID หน้าจอสีแบบ TFT ระบบ Push Start ระบบ Smart Entry ควบคุมการล็อค-ปลดล็อคประตูอัจฉริยะ และมีช่องเก็บของแบบ Cool Box

เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง เบาะนั่งแถวที่ 2 แบบ Captain Seat มาพร้อมที่พักแขน ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control, DVD & Navigator ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว พร้อมรองรับระบบ T-Connect และช่องต่อ USB

ในรุ่น 2.8V และ 2.8G มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล คอมมอนเรล GD Efficient Boost รหัส 1GD-FTV (High) 4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว DOHC VN Turbo Intercooler ให้แรงม้าสูงสุด 174 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 360 นิวตัน-เมตร ที่ 1,200-3,400 รอบ/นาที ขับเคลื่อนด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อม Sequential Shift

ส่วนรุ่น 2.0E ใช้เครื่องยนต์เบนซินรหัส 1TR-FE แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว Dual VVT-i ให้แรงม้าสูงสุด 139 แรงม้า ที่ 5,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 183 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที ขับเคลื่อนด้วยเกียร์ธรรมดา 5 สปีด รองรับแก๊สโซฮอล์ E20

อ่านเพิ่มเติม >> Carro แนะนำ Toyota Innova รถอเนกประสงค์

ดูรายละเอียด Toyota Innova Crysta มือสอง ทุกรุ่นได้ที่นี่

Carro แนะนำรถ SUV และ MPV แบบ 7 ที่นั่ง ที่ขายดี!

4. Nissan X-Trail (นิสสัน เอ็กซ์เทรล)

Nissan X-Trail มือสอง (นิสสัน เอ็กซ์เทรล มือสอง) เจเนอเรชั่นที่ 3 ซึ่งเป็นรุ่นสุดท้ายที่ขายในไทย เปิดตัวในไทยเป็นทางการในไทยเมื่อ 18 พฤศจิกายน 2557 มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร และ 2.5 ลิตร แม้ว่าจะช้ากว่าในตลาดโลก แต่ก็ทำให้ตลาดรถ SUV ได้ตื่นเต้นไปตามๆ กัน ด้วยรูปลักษณ์ใหม่ และฐานล้อที่ยาวขึ้น มีเทคโนโลยีและอุปกรณ์ติดตั้งครั้งแรกในกลุ่มรถประเภทนี้ อาทิ หน้าจอแสดงข้อมูลอัจฉริยะ 3 มิติ ขนาด 5 นิ้ว แสดงข้อมูลการขับขี่ หรือไฟหน้า LED Projector พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน เป็นต้น

ส่วนพื้นที่ภายในหรูหรา โดดเด่นมากขึ้น เบาะนั่งแบบ 3 แถว และที่นั่งแบบ 5+2 ที่ ซันรูฟแบบพาโนรามิค และประตูท้ายเปิด-ปิดอัตโนมัติ เพิ่มความสะดวกสบายและพื้นที่ใช้สอย เหมาะที่จะเป็นรถสำหรับทุกครอบครัว

นอกจากนี้ เทคโนโลยีเด่นๆ ไม่ว่าจะเป็น ระบบกล้องมองรอบทิศทาง 360 องศา (Around View Monitor) ระบบช่วยลดความเร็วอัตโนมัติ (Active Engine Brake) และระบบช่วยลดอาการโยนตัวบนทางขรุขระ (Active Ride Control) ช่วยให้คุณขับขี่ได้อย่างมั่นใจ

ต่อมาในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2562 ได้เปิดตัวรุ่นไมเนอร์เชนจ์ พร้อมกันทั้งรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน และ Hybrid รายแรกในกลุ่ม SUV ในไทย เพิ่มฟังก์ชั่นมากมาย ตอบสนองวิถีชีวิตคนเมือง เช่น ระบบเปิด-ปิด ประตูท้ายอัตโนมัติแบบระบบแฮนด์ฟรี เป็นต้น นอกจากนี้ ยังเปลี่ยนเครื่องเสียงรุ่นใหม่แบบ A-IVI หรูหราและตอบสนองไลฟ์สไตล์ลูกค้ายิ่งขึ้น

ใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.5 ลิตร รหัส QR25DE แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว Twin C-VTC ให้แรงม้าสูงสุด 171 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 233 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที

ส่วนเครื่องยนต์ Hybrid ขนาด 2.0 ลิตร รหัส MR20DD Hybrid แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว Twin C-VTC ให้แรงม้าสูงสุด 144 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 200 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที + มอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 41 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 160 นิวตันเมตร ซึ่งทั้งสองรุ่นย่อย ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ Xtronic CVT พร้อม Manual Mode 7 สปีด (M-CVT)

อ่านเพิ่มเติม >> เจาะลึกจุดเด่น! + ตารางราคา-ผ่อน-ดาวน์ Nissan X-Trail 2019

ดูรายละเอียด Nissan X-Trail มือสอง ทุกรุ่นได้ที่นี่

Carro แนะนำรถ SUV และ MPV แบบ 7 ที่นั่ง ที่ขายดี!

5. Nissan Terra (นิสสัน เทอร์ร่า)

Nissan Terra มือสอง (นิสสัน เทอร์ร่า มือสอง) เปิดตัวครั้งแรกในไทยเมื่อ 16 สิงหาคม 2561 รถยนต์อเนกประสงค์แบบตัวถังบนแชสซีส์ (หรือรถ PPV ตามที่ Nissan เรียก) มาพร้อมไฟหน้าโปรเจคเตอร์ ที่รับกับกระจังหน้าแบบ V-Motion ส่วนชุดประตูหน้านั้นเหมือน Navara และด้านท้ายถูกออกแบบใหม่หมด ไฟท้ายเป็นแบบ LED มาพร้อมล้อแม็กขนาด 18 นิ้ว

ห้องโดยสารภายในยกชุดมาจาก Navara แต่ตกแต่งให้หรูหราขึ้น ด้วยโทนสีดำตัดด้วยสีเงิน แบบ Gliding Wing 7 ที่นั่ง กว้างขวาง และเงียบ มีเครื่องเสียงระบบหน้าจอสัมผัส, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 2 โซน, กุญแจ Keyless Entry พร้อมปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง เบาะนั่งแถว 2 มีระบบพับอัตโนมัติแบบแบนราบ และระบบแอร์เพดานแยกส่วนกระจายทั่วห้องโดยสาร เป็นต้น

มาพร้อมขุมพลังดีเซลขนาด 2.3 ลิตร รหัส YS23DDTT แบบ 4 สูบ DOHC Twin-Turbo Intercooler ให้แรงม้าสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ที่ 1,500 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด พร้อม Manual Mode

พร้อมเทคโนโลยีจาก Nissan Intelligent Mobility โดย Terra เป็น SUV รายแรก ที่มีเทคโนโลยีกระจกมองหลังอัจฉริยะ หรือ Intelligent Rear View Mirror (IRVM) นอกจากนี้ยังติดตั้งเทคโนโลยีเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง หรือ Lane Departure Warning (LDW), เทคโนโลยีเตือนจุดอับสายตา Blind Spot Warning (BSW) และเทคโนโลยีกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง Intelligent Around View Monitor (IAVM) ที่มาพร้อมเทคโนโลยีตรวจจับ และส่งสัญญาณเตือนวัตถุ และบุคคลที่เคลื่อนไหวจากกล้องรอบคัน หรือ Moving Object Detection (MOD) โดยทั้งหมดนี้ ช่วยเพิ่มความเชื่อมั่น กับความสะดวกสบายอย่างสูงสุดสำหรับผู้โดยสารทุกคน

อ่านเพิ่มเติม >> เจาะลึกจุดเด่น! + ตารางราคา-ผ่อน-ดาวน์ Nissan Terra 2018

ดูรายละเอียด Nissan Terra มือสอง ทุกรุ่นได้ที่นี่

Carro แนะนำรถ SUV และ MPV แบบ 7 ที่นั่ง ที่ขายดี!

6. Honda CR-V (ฮอนด้า ซีอาร์วี)

Honda CR-V มือสอง (ฮอนด้า ซีอาร์วี มือสอง) รุ่นยอดฮิตและเป็นรถขายดีใน Carro โฉมนี้ เปิดตัวในไทยเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2560 จัดเป็นรถยนต์ SUV อเนกประสงค์รุ่นใหญ่เจเนอเรชั่นที่ 5 ของตระกูล CR-V ที่ออกแบบใหม่ทั้งคัน ด้วยพื้นที่ห้องโดยสารกว้างขึ้น ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ด้วยเบาะนั่ง 3 แถว 7 ที่นั่ง และแบบ 2 แถว 5 ที่นั่ง ที่ตามออกมาในเดือนพฤศจิกายน 2561

ภายในห้องโดยสารกว้างขวางสะดวกสบายและเงียบยิ่งขึ้นในทุกการเดินทาง ออกแบบภายในหลักการที่ว่า “Urban BASE Beautility” หรูหราด้วยแผงคอนโซลหน้าขนาดใหญ่ ตกแต่งด้วยเส้นสายลายไม้ และวัสดุสี Piano Black พร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายที่มากถึง 561 ลิตร (ในรุ่น 5 ที่นั่ง) หากพับเบาะหลังลง จะเพิ่มเนื้อที่ได้มากถึง 1,123 ลิตร และ 936 ลิตร ในรุ่น 7 ที่นั่ง

มาพร้อมเบาะนั่ง 3 แถว 7 ที่นั่ง และระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารแถว 2 และ 3 เบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมปุ่มปรับดันหลังไฟฟ้า 4 ทิศทาง มีะบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ซึ่งสามารถแสดงผลฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลาย เป็นต้น

มาพร้อมขุมพลังขับเคลื่อนเครื่องยนต์ดีเซล 1.6 ลิตร เป็นครั้งแรก! พัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม (Earth Dreams Technology) ในรูปแบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว i-DTEC Diesel Turbo แบบ 2 จังหวะ (2-Stage Turbocharger) ให้แรงม้าสูงสุดถึง 160 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดที่ 350 นิวตัน-เมตร (35.6 กก.-ม.) ที่ 2,000 รอบ/นาที ซึ่งเทียบเท่ากับเครื่องยนต์ดีเซลขนาดใหญ่

ผสานการทำงานกับระบบเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด เป็นระบบเกียร์ไฟฟ้าที่ควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ด้วยสวิตช์ (Shift by Wire)

และเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.4 ลิตร แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว i-VTEC ให้แรงม้าสูงถึง 173 แรงม้า ที่ 6,200 รอบ/นาที ด้วยแรงบิดสูงสุดที่ 22.8 กก.-ม. ที่ 4,000 รอบ/นาที ผสานการทำงานกับเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ให้การตอบสนองที่ทันใจ พร้อมรองรับพลังงานทางเลือก E85

อ่านเพิ่มเติม >> สายลุยห้ามพลาด! Honda CR-V มือสอง น่าซื้อ น่าใช้ Carro มีให้เลือกแล้ว!

ดูรายละเอียด Honda CR-V มือสอง ทุกรุ่นได้ที่นี่

Carro แนะนำรถ SUV และ MPV แบบ 7 ที่นั่ง ที่ขายดี!

7. Honda Freed (ฮอนด้า ฟรีด)

Honda Freed มือสอง (ฮฮนด้า ฟรีด มือสอง) รุ่นแรกและรุ่นเดียวที่ขายในไทย เปิดตัวเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2552 โดยการนำเข้ามาจากอินโดนีเซีย (ซึ่งนิยมรถ MPV แบบ 7 ที่นั่งมานาน) จัดเป็นรถยนต์นั่งเอนกประสงค์ Segment ใหม่ นั่นคือ MUV” (หรือ Multipurpose Utility Vehicle) ที่ Honda เรียก

ออกแบบตัวรถสไตล์ European ใช้รูปทรงสามเหลี่ยม และสี่เหลี่ยมโดดเด่นไม่เหมือนใคร ชูจุดเด่นด้วยตัวถังขนาดกระทัดรัด ห้องโดยสารกว้างขวาง ประหยัดน้ำมัน ขับขี่ง่าย ตัวรถสั้น หาที่จอดได้ง่าย จุดเด่นข้อที่สอง มีเครื่องยนต์ขนาดเล็ก ประหยัดน้ำมัน แต่ถ้าหากใช้วิ่งออกต่างจังหวัดยาวๆ ก็อาจกินน้ำมันนิดๆ

ตัวรถออกแบบให้มี 7 ที่นั่ง แบ่งเป็น 3 แถว พื้นห้องสัมภาระแบนราบ Flat Floor เดินในรถไม่ต้องกลัวสะดุด และเดินถึงกันได้ทุกมุม ส่วนเบาะแถวสองดีไซน์แบบ Captain’s Seats ปีกเบาะโอบกระชับ คุณแม่นั่งได้สบายๆ และเบาะแถวที่ 3 พับเก็บได้ วางของได้เพียบ เมื่อพับเบาะแล้วจะมีพื้นที่มากถึง 670 ลิตร

ส่วนชุดแผงคอนโซลออกแบบสไตล์ Open Cafe เป็นแบบ 2 ชั้น กว้าง ใช้งานได้หลากหลาย จะวางอาหาร หรือเครื่องดื่มก็ได้ ซึ่งใช้งานได้จริงๆ (อย่างน้อยก็วางจานข้าว ไว้กินข้าว ตอนรถติดๆ ได้!) ส่วนเครื่องเสียงของฟรีด สามารถเชื่อมต่อ iPod ด้วย USB Port ได้

มาพร้อมขุมพลังขนาด 1.5 ลิตร แบบ 4 สูบ SOHC 16 วาล์ว i-VTEC ให้แรงม้าสูงสุด 118 แรงม้า ที่ 6,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 147 นิวตันเมตร ที่ 4,800 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ 5 สปีด และขับเคลื่อนล้อหน้า

อ่านเพิ่มเติม >> Carro แนะนำ Honda Freed ยอดรถอเนกประสงค์ สำหรับครอบครัว!

ดูรายละเอียด Honda Freed มือสอง ทุกรุ่นได้ที่นี่

Carro แนะนำรถ SUV และ MPV แบบ 7 ที่นั่ง ที่ขายดี!

8.  Isuzu MU-X (อีซูซุ มิว-เอ็กซ์)

Isuzu MU-X มือสอง (อีซูซุ มิว-เอ็กซ์ มือสอง) รุ่นที่มาทดแทน Isuzu MU-7 นี้ เปิดตัวครั้งแรกในโลกที่เมืองไทย เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2556 มาพร้อมสโลแกน “เอกสิทธิ์แห่งผู้นำ” (PRIVILEGE of the LEADER) คล่องตัวสูงสำหรับการใช้งานในเมืองใหญ่ ด้วยความยาวตัวรถ 4.825 เมตร และวงเลี้ยวแคบสุดเพียง 5.7 เมตร หรือเทียบเท่ารถยนต์นั่งขนาดกลาง

โดดเด่นด้วยรูปทรงลู่ลม ไฟหน้าแบบ Projector กระจังหน้าแบบ 3-Dimension ไฟท้ายแบบ ARC-Dimension ด้านหลังติดตั้งกล้องแบบ Built-In เสาอากาศ Dual Function แบบครีบ รับได้ทั้งสัญญาณวิทยุและระบบนำทาง ราวหลังคาออกแบบใหม่ ปรับตำแหน่งยึดรูฟแร็คได้อิสระ

สำหรับการออกแบบภายในหรูหราสไตล์ยุโรป ด้วยแนวคิด “Premium & Exclusive” เบาะนั่งกึ่งหนังแท้สี Ivory เบาะผู้ขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง เข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุดครบทั้ง 7 ที่นั่ง แผงหน้าปัดตกแต่งด้วยลายไม้แบบ Nature Touch มาตรวัดเป็นไฟเรืองแสงสีขาวพร้อมตัวเลขสีขาว พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น ระบบอินโฟเทนเมนท์ Isuzu Media Solutions พร้อมระบบนำทาง i-Genii ทำงานผ่านจอทัชสกรีน 7 นิ้ว เสริมด้วยมอนิเตอร์บนเพดาน Built-In ขนาด 10.5 นิ้ว ระบบเสียง Surround Sound ลำโพง 8 ทิศทาง

ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติทั้ง 3 ตอน พร้อมปุ่มควบคุมแยกตอนหน้า-หลัง ระบบปรับ-พับเบาะแบบ One Action ปรับเปลี่ยนพื้นที่ใช้สอยภายในได้หลากหลาย พร้อมกุญแจอัจฉริยะ Genius Entry ควบคุมการเปิด-ปิด และล็อกประตูได้ทุกบาน รวมถึงการสตาร์ทรถ พร้อมสวิตช์เปิด-ปิด ที่ประตูท้าย

ด้านขุมพลัง แรงเร้าใจกับเครื่องยนต์ Isuzu Ddi Super Commonrail สองทางเลือกกับขนาด 3.0 ลิตร รหัส 4JJ1-TCX ให้แรงม้าสูงสุด 177 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 380 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800-2,800 รอบ/นาที

และเครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 136 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 320 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800-2,800 รอบ/นาที พร้อมเทอร์โบแปรผัน VGS Turbo ใหม่ล่าสุดแบบ Zero GAP ลดช่องว่างระหว่างใบพัดกับเสื้อเทอร์โบ เพิ่มประสิทธิภาพการอัดอากาศเข้าสู่ห้องเผาไหม้ได้ดียิ่งขึ้น พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด แบบ REV Tronic มีให้เลือกทั้งระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และขับเคลื่อน 4 ล้อ

ในรุ่นปรับโฉม Blue Power จึงโละเครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตรออก แล้วแทนที่ไปด้วยเครื่องยนต์ใหม่! 1.9 ลิตร รหัส RZ4E-TC แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว Commonrail DI VGS Turbo Intercooler ให้แรงม้าสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800-2,600 รอบ/นาที ส่งกำลังแบบเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และเกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีด

อ่านเพิ่มเติม >> Carro แนะนำ Isuzu MU-X เพื่อสายลุย!

ดูรายละเอียด Isuzu MU-X มือสอง ทุกรุ่นได้ที่นี่

Carro แนะนำรถ SUV และ MPV แบบ 7 ที่นั่ง ที่ขายดี!

9. Mitsubishi Pajero Sport (มิตซูบิชิ ปาเจโร่ สปอร์ต)

Mitsubishi Pajero Sport มือสอง (มิตซูบิชิ ปาเจโร่ สปอร์ต มือสอง) เจเนอเรชั่นที่ 2 นับตั้งแต่ปี 2015 – ปัจจุบัน ก็จัดว่าเป็นรถขายดีของทาง Carro ที่ภูมิใจเสนอ และอยากให้คุณได้เป็นเจ้าของกันครับ

สำหรับรถรุ่นนี้ เปิดตัวในไทยเมื่อเดือนสิงหาคม 2558 มีความล้ำสมัยที่สุดและครบครันด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา ยกระดับงานดีไซน์ล่าสุด “Dynamic Shield” ตัวถังใหญ่ แข็งแกร่ง และบึกบึน งานออกแบบยังสะท้อนแนวคิด “รูปลักษณ์ที่สอดคล้องกับการใช้งาน” ผสมผสานการปกป้อง สมรรถนะการขับขี่

ภายในห้องโดยสารหรูหราและอเนกประสงค์ยิ่งขึ้น และมีพื้นที่บรรทุกสัมภาระที่กว้างขวางที่สุดอีกรุ่นหนึ่ง มาพร้อมคอนโซลกลางเสริมด้วยวัสดุนุ่มบริเวณด้านข้าง รวมถึงหน้าจอสัมผัส 7 นิ้ว และระบบ Navigator  มาตรวัดแบบ High Contrast พร้อมการแสดงผลแบบอนิเมชั่น 3 มิติ และระบบฟอกอากาศ เทคโนโลยีนาโนอิ ยังรวมถึงช่องชาร์จไฟฟ้า 220V AC ช่องเก็บสมาร์ทโฟนสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร เบรกมือไฟฟ้า ช่องระบบปรับอากาศดีไซน์ใหม่สำหรับผู้โดยสารแถวที่ 2 และ 3 ตลอดจนระบบกุญแจอัจฉริยะและปุ่มสตาร์ท

ยังรวมถึงระบบปรับอุณหภูมิอัตโนมัติ Dual Zone แยกปรับซ้าย-ขวา พวงมาลัยแบบปรับขึ้นลงและเข้าออกได้ เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง หน้าจอบนเพดานสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติและระบบปรับอากาศด้านหลัง พร้อมระบบอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยอัจฉริยะ (ETACS)

มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.4 ลิตร แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว MIVEC บล็อกอลูมิเนียม ให้แรงม้าสูงสุด 181 แรงม้า ที่ 3,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร ที่ 2,500 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด พร้อม Sport Mode และระบบ INC (Idle Neutral Control) + G-Sensor และระบบขับเคลื่อน Super Select 4WD-II

อ่านเพิ่มเติม >> Carro แนะนำ Mitsubishi Pajero Sport ขับแล้วอุ่นใจ พร้อมลุยน้ำท่วมหน้าฝน!

ดูรายละเอียด Mitsubishi Pajero Sport มือสอง ทุกรุ่นได้ที่นี่

Carro แนะนำรถ SUV และ MPV แบบ 7 ที่นั่ง ที่ขายดี!

10. Mitsubishi Xpander (มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์)

Mitsubishi Xpander มือสอง (มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ มือสอง) รถ Crossover MPV ที่เปิดตัวในไทยเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2561 โดยเป็นการนำเข้าจากอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ของรถยนต์แบบ MPV ที่สร้างยอดขายให้กับมิตซูบิชิอย่างมาก อีกทั้งยังมีรุ่นแบบลุยๆ อย่าง Xpander Cross ตามมาขายในไทยให้ผู้บริโภคเลือกในภายหลังด้วย

มีรูปลักษณ์ที่โดดเด่น ดีไซน์ตัวรถด้วยหลัก Dynamic Shield พร้อมความสะดวกสบาย รวมถึงสไตล์และฟังก์ชั่นการใช้งาน หลอมรวมกันเป็นรถ Crossover MPV ซึ่งครบครันทั้งความสบายในการขับขี่ที่มาพร้อมสมรรถนะ และดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยว และขับเคลื่อนล้อหน้า

พื้นที่ที่กว้างขวางด้วยห้องโดยสาร 7 ที่นั่ง และพื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่ที่สุดในคู่แข่งระดับเดียวกัน ผู้โดยสารแถวที่ 3 สามารถเดินภายในได้อย่างสะดวกสบาย ขณะที่เบาะนั่งแถวที่สองสามารถพับเบาะกลางลงเพื่อใช้เป็นที่วางแขนได้ มีช่องวางแก้วน้ำให้ถึง 16 จุดรอบคัน มีระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง

ใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร รหัส 4A91 แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว MIVEC ให้แรงม้าสูงสุด 105 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 141 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด พร้อมปุ่ม Overdrive รองรับแก๊สโซฮอล์ E85

อ่านเพิ่มเติม >> Mitsubishi เปิดตัว Mitsubishi Xpander 2018

ดูรายละเอียด Mitsubishi Xpander มือสอง ทุกรุ่นได้ที่นี่

Carro แนะนำรถ SUV และ MPV แบบ 7 ที่นั่ง ที่ขายดี!

11. Suzuki Ertiga (ซูซูกิ เออร์ติก้า)

Suzuki Ertiga มือสอง (ซูซูกิ เออร์ติก้า มือสอง) เปิดตัวในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2562 ชูจุดเด่นการเป็นรถยนต์ 7 ที่นั่ง ที่มอบสมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลังและความปลอดภัย

รูปโฉมภายนอก Suzuki Ertiga เป็นรถ 7 ที่นั่ง มีเส้นสายโฉบเฉี่ยว ห้องโดยสารภายในดูเรียบหรู ใช้วัสดุคุณภาพสูง พื้นที่ภายในขนาด 3 แถว 7 ที่นั่ง กว้างขวาง โปร่งสบาย อัดแน่นด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบาย

มาพร้อมแพลตฟอร์มใหม่ HEARTECT ช่วงล่างทำจากเหล็ก High Tensile ทนทานด้วยโครงสร้างตัวถัง TECT ออกแบบจากเหล็กกล้าทำให้ทนทานต่อการสึกหรอ ระบบ NVH ให้การขับขี่นุ่มนวล ดูดซับแรงสั่นสะเทือน พร้อมลดเสียงรบกวนตลอดเส้นทาง

มั่นใจในระบบถุงลมนิรภัย SRS คู่หน้า ระบบเบรก ABS / EBD และระบบ ESP ที่ช่วยควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวให้เข้าโค้งได้อย่างแม่นยำ รวมทั้งระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน และมีจุดยึดเบาะนั่งนิรภัย ISOFIX และ Top tether สำหรับเด็กอีกด้วย

ใช้เครื่องยนต์ใหม่ K15B 1.5 ลิตร 105 แรงม้า ให้แรงม้าสูงสุด 105 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 138 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย ได้แก่รุ่น GL AT และรุ่น GX AT

อ่านเพิ่มเติม >> รู้ลึกทุกจุดเด่น! + ตารางราคา-ผ่อน-ดาวน์ Suzuki Ertiga 2019

ดูรายละเอียด Suzuki Ertiga มือสอง ทุกรุ่นได้ที่นี่

Carro แนะนำรถ SUV และ MPV แบบ 7 ที่นั่ง ที่ขายดี!

12. Ford Everest (ฟอร์ด เอเวอเรสต์)

Ford Everest มือสอง (ฟอร์ด เอเวอเรสต์ มือสอง) จัดเป็นรถมือสองแบรนด์อเมริกัน ที่ขายดีในไทยมานาน ซึ่งเจ้า Ford Everest รุ่นนี้ได้เปิดตัวในไทยนับตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2558

เป็นผลงานการสร้างสรรค์ขึ้น ทั้งในด้านความทนทานและความอเนกประสงค์ ตัวรถแบบ 7 ที่นั่ง ถูกออกแบบขึ้นใหม่ทั้งหมด ติดตั้งเทคโนโลยีอันทันสมัยเพื่อความปลอดภัย การเชื่อมต่ออย่างเหนือชั้นและความสะดวกสบาย

ได้รับการติดตั้งเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อน (ในเวลานั้น) ไม่ว่าจะเป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบอัตโนมัติ พร้อมระบบ Terrain Management System หลังคาพาโนรามิคมูนรูฟแบบปรับไฟฟ้า เบาะนั่งแถวที่ 3 แบบปรับไฟฟ้าพับเรียบและประตูท้ายรถเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ Active Park Assist และระบบตรวจจับรถในจุดบอด พร้อมด้วยระบบตรวจจับรถขณะออกจากซองจอด

ยังติดตั้งระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC 2 ซึ่งเป็นระบบเชื่อมต่อการสื่อสารภายในรถรุ่นล่าสุดของฟอร์ด พร้อมด้วยหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว และคำสั่งแบบแยกสี ช่วยให้การเลือกใช้งานเมนูต่างๆ ง่ายยิ่งขึ้น

มาพร้อมขุมพลังจากเครื่องยนต์ดีเซล 2 รุ่น ได้แก่ เครื่องยนต์ดีเซลดูราทอร์ค TDCi ขนาด 2.2 ลิตร แบบ 4 สูบ ให้แรงม้าสูงสุด 160 แรงม้า ที่ 3,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 385 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,500 รอบ/นาที มีให้เลือกเฉพาะขับเคลื่อนสองล้อเท่านั้น

และเครื่องยนต์ดีเซลดูราทอร์ค TDCi ขนาด 3.2 ลิตร แบบ 5 สูบ ให้แรงม้าสงสุด 200 แรงม้า ที่ 3,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 470 นิวตัน-เมตร ที่ 1,750-2,500 รอบ/นาที พ่วงระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัตโนมัติพร้อมระบบ Terrain Management และทั้งสองรุ่นติดตั้งระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีด

ส่วนในรุ่นปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ในปี 2561 ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร ใหม่ แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว VG Turbo Intercooler ให้แรงม้าสูงสุดถึง 180 แรงม้า ที่ 3,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 420 นิวตัน-เมตร ที่ 1,750-2,500 รอบ/นาที

และในรุ่น Bi-Turbo แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว Bi-Turbo Intercooler ให้แรงม้าสูงสุดถึง 213 แรงม้า ที่ 3,750 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตัน-เมตร ที่ 1,750-2,000 รอบ/นาที ทั้งสองรุ่นติดตั้งเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด พร้อมโหมดเปลี่ยนเกียร์แบบธรรมดา SelectShift เพื่อการขับขี่ที่คล่องตัวและนุ่มนวลยิ่งขึ้น

อ่านเพิ่มเติม >> Ford เปิดตัว Everest 2018 ในราคา 1,299,000 – 1,799,000 บาท

ดูรายละเอียด Ford Everest มือสอง ทุกรุ่นได้ที่นี่

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่ มาขายรถกับทาง Carro Express สิ! คลิกเลยที่ https://th.carro.co/sell-car/express รับรองได้เงินเร็ว ไว ทันใจแน่นอน!

Carro Automall ตลาดรถ

ส่วนใครสนใจจะซื้อรถมือสอง Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

หมายเหตุ: ข้อมูลรถแนะนำจาก Carro เป็นข้อมูลรถยนต์ที่มีจำหน่ายในเดือนกรกฎาคม 2565 / เลขกิโลเมตร ณ วันตรวจสภาพรถ / ราคานี้ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม

รวมข้อมูลทางด่วนฟรี วันหยุด ก.ค. 65

เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) หรือ EXAT, บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM และ บริษัท ทางด่วนกรุงเทพเหนือ จำกัด หรือ NECL ได้ยกเว้นการเก็บค่าทางด่วนในวันหยุดราชการประจำปีตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี และกระทรวงคมนาคม ในสัญญาสัมปทานฉบับแก้ไขใหม่ ให้ขึ้นทางด่วนฟรีตลอดอายุสัมปทานจนถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2578 และจะไม่มีการขึ้นราคาค่าทางด่วน จนถึงปี 2571 (เฉพาะเส้นทางที่อยู่ในการดูแลของการทางพิเศษฯ)

ทำให้คนไทยที่ต้องใช้รถใช้ทางด่วน ได้ขึ้นทางด่วนฟรีกันถ้วนหน้า เพื่อเพิ่มความสะดวกในการเดินทาง ในวันหยุดราชการตลอดปี 2565 เรามาดูกันว่า ทางด่วนฟรี กรกฏาคม 2565 มีวันไหนกันบ้าง Carro รวบรวมข้อมูลทางด่วนฟรีเดือนกรกฎาคม 2565 มาให้ดูกันแล้วจ้า …

ทางด่วนฟรี ในวันหยุดราชการ กรกฏาคม 2565 มีดังนี้ …

ทางด่วนฟรีวันหยุดเดือนกรกฏาคม

  • 13 กรกฎาคม 2565 วันอาสาฬหบูชา
  • 14 กรกฎาคม 2565 วันเข้าพรรษา
  • 28 กรกฎาคม 2565 วันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว

ทางด่วนที่สามารถขึ้นฟรีได้ 3 เส้นทาง มีดังนี้ …

  • ทางพิเศษเฉลิมมหานคร (ทางด่วนขั้นที่ 1) 19 ด่าน
  • ทางพิเศษศรีรัช (ทางด่วนขั้นที่ 2) 31 ด่าน
  • ทางด่วนอุดรรัถยา (ปากเกร็ด-บางปะอิน) 10 ด่าน

ทางหลวงระหว่างเมืองหมายเลข 6 (มอเตอร์เวย์ M6 / Motorway M6)

นอกจากนี้ กรมทางหลวง ยังเปิดให้บริการทางหลวงระหว่างเมืองหมายเลข 6 (M6) ช่วงสีคิ้ว-ขามทะเลสอ ระยะทาง 64 กิโลเมตร ให้บริการฟรี! ในวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา ขาออก วันที่ 13 – 14 กรกฎาคม 2565 และขาเข้าวันที่ 15 – 17 กรกฎาคม 2565

และช่วงวันเฉลิมพระชนมพรรษาฯ ขาออก วันที่ 28 – 29 กรกฎาคม 2565 และขาเข้าวันที่ 30 – 31 กรกฎาคม 2565 รวมทั้งหมด 9 วัน ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกการเดินทาง และบรรเทาจราจรติดขัดบนทางหลวงหมายเลข 2 (ถนนมิตรภาพ) ด้วย

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่ไว้ใช้ขึ้นทางด่วนฟรี มาขายรถกับทาง Carro Express สิ! คลิกเลยที่ https://th.carro.co/sell-car/express รับรองได้เงินเร็ว ไว ทันใจแน่นอน!

Carro Automall ตลาดรถ

ส่วนใครสนใจจะซื้อรถมือสอง Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

Hengchi 5 รถไฟฟ้าจากจีน วิ่งไกล 602 กม.

Hengchi (เฮงชี่ หรือ เหิงฉือ) (หรือ 恒驰 ในภาษาจีน) แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าน้องใหม่จากบริษัท Shenzhen Hengchi Automobile Trading มีสำนักงานอยู่ในเมืองเสินเจิ้น ประเทศจีน ภายใต้กลุ่มบริษัทในเครือของ Evergrande Group ยักษ์ใหญ่อสังหาริมทรัพย์อันดับ 2 ของจีน ที่อยากกระโดดลงมาทำธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าดูบ้าง เปิดตัวบริษัทเป็นครั้งแรกในปี 2020 และเผยโฉมรถต้นแบบกันถึง 9 รุ่นที่งาน Shanghai Auto Show 2021

Hengchi 5 รถไฟฟ้าจากจีน วิ่งไกล 602 กม.

และในเวลานี้ Hengchi 5 (เหิงฉือ 5) คันจริง ก็ได้เผยโฉมออกมาแล้ว! ในรูปแบบ A-Segment SUV จากโรงงานที่สร้างขึ้นตามมาตรฐาน Industry 4.0 ประกอบด้วยการใช้เทคโนโลยีขึ้นรูปตัวรถจากแม่พิมพ์ จากผู้ผลิตเครื่องพิมพ์รายใหญ่ที่สุดในโลก Schuler ของเยอรมนี

Hengchi 5 รถไฟฟ้าจากจีน วิ่งไกล 602 กม.

และใช้ Handling Robot (หุ่นยนต์อุตสาหกรรม) ของ FANUC จากญี่ปุ่นและ KUKA จากเยอรมนีกว่า 2,545 ตัว บนสายการประกอบชิ้นส่วนตัวรถของ Dürr จากเยอรมนี ช่วยให้สามารถผลิตรถได้ตลอด 24 ชั่วโมง และเร็วทันใจเพียง 1 นาที ต่อ 1 คัน!

Hengchi 5 รถไฟฟ้าจากจีน วิ่งไกล 602 กม.

ตัวรถออกแบบภายใต้แนวคิด “Break the Void” ใช้หลังคาสีทูโทน กระจังหน้าแบบเรียบ ตามเทรนด์รถยนต์ไฟฟ้านิยม ใช้ชุดไฟหน้าแบบ LED ออกแบบให้รับกับไฟ Daytime Running Light พร้อมซุ้มล้อขนาดใหญ่ ไฟท้ายแบบ LED รูปตัว Y

Hengchi 5 รถไฟฟ้าจากจีน วิ่งไกล 602 กม.

มิติตัวรถยาว 4,725 มม. กว้าง 1,925 มม. สูง 1,661 มม. และระยะฐานล้อ 2,780 มม.

Hengchi 5 รถไฟฟ้าจากจีน วิ่งไกล 602 กม.

ภายในห้องโดยสาร โดดเด่นด้วยแผงคอนโซลขนาดใหญ่ที่ประกอบไปด้วยหน้าจอ 3 จอ ได้แก่ แผงหน้าจอ LCD ขนาด 10.25 นิ้ว แผงหน้าจอควบคุมส่วนกลาง ขนาด 14.6 นิ้ว และหน้าจอสำหรับคนขับ 10.25 นิ้ว และชุดหลังคาพาโนรามาขนาดใหญ่ และพวงมาลัยรถทรงสปอร์ต

นอกจากนี้ ยังรองรับระบบ 5G จาก Baidu ระบบช่วยขับขี่ระดับ L2.5+ ติดตั้งชิปของ Qualcomm เจเนอเรชั่นที่ 3 ที่มีระบบประมวลผลขั้นสูง จากเซ็นเซอร์อัลตราโซนิค 12 ตัว เซ็นเซอร์เรดาร์แบบคลื่น 5 มม. และกล้องรอบทิศทาง 4 ตัว

Hengchi 5 รถไฟฟ้าจากจีน วิ่งไกล 602 กม.

Hengchi 5 มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ให้กำลังสูงสุด 201 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 345 นิวตัน-เมตร พ่วงด้วยแบตเตอรี่ขนาด 72.8 kWh จาก CATL ให้ระยะทางสูงสุด 602 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง (ตามมาตรฐาน CLTC) ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 7.6 วินาที และชาร์จแบบเร็วตั้งแต่ 30-80% ด้วยกำลังไฟ 90kW ใช้เวลาภายใน 28 นาที

Hengchi 5 รถไฟฟ้าจากจีน วิ่งไกล 602 กม.

Hengchi 5 รุ่น Luxury มีสีให้เลือกด้วยกันถึง 6 สี เปิดราคาจำหน่ายที่ 179,000 หยวน คิดเป็นเงินไทยประมาณ 961,000 บาท พร้อมส่งมอบรถได้ภายในเดือนตุลาคม 2022 นี้ และส่งมอบได้ 10,000 คันแรกในช่วงประมาณเดือนมีนาคม 2023

สำหรับใครที่อยากได้ Hengchi 5 ในไทย คงต้องรอกันไปยาวๆ เลยครับ เพราะกว่าจะเริ่มผลิตกันก็ต้องรอช่วงเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ (เพราะแค่ยอดจองในจีน 5 วัน ปาเข้าไปก็ 50,000 คันแล้ว!) และยังไม่รู้จะมีใครนำเข้ามาจำหน่ายหรือไม่ครับ

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์ไฟฟ้าคันใหม่ มาขายรถกับทาง Carro Express สิ! คลิกเลยที่ https://th.carro.co/sell-car/express รับรองได้เงินเร็ว ไว ทันใจแน่นอน!

Carro Automall ตลาดรถ

ส่วนใครสนใจจะซื้อรถมือสอง Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

Carro แนะนำ Isuzu MU-X เพื่อสายลุย!

ในสังเวียนของรถยนต์แบบ SUV ที่ใช้พื้นฐานเดียวกันกับรถกระบะ หรือมีแชสซีส์เป็นพื้นฐานที่บ้านเรามักเรียกว่า รถ PPV (หรือ Pick-Up Passenger Vehicle = รถอเนกประสงค์ที่มีพื้นฐานมาจากรถกระบะ) นับได้ว่าเป็นสมรภูมิการแข่งขันที่ดุเดือด มีให้เลือกหลายยี่ห้อ ไม่ว่าจะในตลาดรถใหม่ หรือในตลาดรถมือสองก็ตาม

สำหรับรถยนต์ประเภทนี้ ถือได้ว่ามีบทบาทสำหรับคนใช้รถในไทยมานาน ทั้งตอบโจทย์ความอเนกประสงค์ในการใช้งาน การบรรทุกสัมภาระ ยิ่งคนมีครอบครัวใหญ่ มีลูกหลานหลายคน ใช้รถเดินทางไปเที่ยวหรือไปเยี่ยมญาติได้ลงตัว โดยรถรุ่นใหม่ๆ ต่างออกแบบมาใช้ขับง่าย ใช้งานง่าย ออฟชั่นเพียบ และเพิ่มความหรูหรามากกว่าในอดีตเป็นเท่าตัว

และในวันนี้ Carro จะขอพาทุกท่านมารู้จักกับ รถอเนกประสงค์ยอดฮิตในไทยอีกรุ่นหนึ่ง ซึ่งเป็นรถที่ทนทาน ซื้อง่ายขายคล่อง ราคาตกน้อย และการดูแลรักษา อะไหล่หาง่าย นั่นก็คือ Isuzu MU-X มือสอง (อีซูซุ มิว-เอ็กซ์ มือสอง) เป็นรุ่นที่สานต่อความสำเร็จมาจาก Isuzu MU-7 นั่นเองครับ

CARRO Automall แนะนำ Isuzu MU-X

สำหรับ Isuzu MU-X (อีซูซุ มิว-เอ็กซ์) หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่า ที่มาของชื่อ “MU-X” นั้น มาจากคำว่า “MU” (มิว) ซึ่งเคยเป็นชื่อที่ใช้ในรถ Isuzu เมื่อครั้งตั้งแต่ในยุค 90 โดยย่อมาจากคำว่า Mysterious Utility หมายถึง ความอเนกประสงค์ที่คาดไม่ถึง ส่วน “X” เป็นตัวอักษรที่อีซูซุเลือกใช้ในการสื่อความหมายของการมีชีวิตเหนือระดับที่ไร้ขีดจำกัด เช่น Exemplary, Extraordinary, Exotic ฯลฯ เพื่อให้เป็นยนตรกรรมสำหรับกลุ่มผู้ใช้รถรุ่นใหม่ ที่พร้อมจะค้นหาสิ่งใหม่ๆ ให้กับตัวเอง

CARRO Automall แนะนำ Isuzu MU-X

Isuzu MU-X เปิดตัวครั้งแรกในโลกที่เมืองไทย เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2556 มาพร้อมสโลแกน “เอกสิทธิ์แห่งผู้นำ” (PRIVILEGE of the LEADER) พร้อมให้ความคล่องตัวสูงสำหรับการใช้งานในเมืองใหญ่ ด้วยความยาวตัวรถ 4.825 เมตร และวงเลี้ยวแคบสุดเพียง 5.7 เมตร หรือเทียบเท่ารถยนต์นั่งขนาดกลาง

CARRO Automall แนะนำ Isuzu MU-X

โดดเด่นด้วยรูปทรงลู่ลม ด้วยค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศ (Cd) เพียง 0.40 ดีสุดในรถระดับเดียวกัน โดดเด่นด้วยไฟหน้าแบบ Projector กระจังหน้าแบบ 3-Dimension ไฟท้ายแบบ ARC-Dimension ด้านหลังติดตั้งกล้องแบบ Built-In เสาอากาศ Dual Function แบบครีบ รับได้ทั้งสัญญาณวิทยุและระบบนำทาง ราวหลังคาออกแบบใหม่ ปรับตำแหน่งยึดรูฟแร็คได้อิสระ ส่วนล้อแม็กมีขนาด 17 นิ้ว

CARRO Automall แนะนำ Isuzu MU-X

สำหรับการออกแบบภายในหรูหราสไตล์ยุโรป ด้วยแนวคิด “Premium & Exclusive” เบาะนั่งกึ่งหนังแท้สี Ivory เบาะผู้ขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง เข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุดครบทั้ง 7 ที่นั่ง แผงหน้าปัดตกแต่งด้วยลายไม้แบบ Nature Touch มาตรวัดเป็นไฟเรืองแสงสีขาวพร้อมตัวเลขสีขาว พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น ระบบอินโฟเทนเมนท์ Isuzu Media Solutions พร้อมระบบนำทาง i-Genii ทำงานผ่านจอทัชสกรีน 7 นิ้ว เสริมด้วยมอนิเตอร์บนเพดาน Built-In ขนาด 10.5 นิ้ว ระบบเสียง Surround Sound ลำโพง 8 ทิศทาง

ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ ให้ความเย็นทุกที่นั่งผ่านช่องแอร์ทั้ง 3 ตอน พร้อมปุ่มควบคุมแยกตอนหน้า-หลัง ระบบปรับ/พับเบาะแบบ One Action ปรับเปลี่ยนพื้นที่ใช้สอยภายในได้หลากหลาย พร้อมกุญแจอัจฉริยะ Genius Entry ควบคุมการเปิด-ปิด และล็อกประตูได้ทุกบาน รวมถึงการสตาร์ทรถ พร้อมสวิตช์เปิด-ปิด ที่ประตูท้าย

ด้านขุมพลัง แรงเร้าใจกับเครื่องยนต์ Isuzu Ddi Super Commonrail สองทางเลือกกับขนาด 3.0 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 177 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 380 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800-2,800 รอบ/นาที

และเครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 136 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 320 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800-2,800 รอบ/นาที พร้อมเทอร์โบแปรผัน VGS Turbo ใหม่ล่าสุดแบบ Zero GAP ลดช่องว่างระหว่างใบพัดกับเสื้อเทอร์โบ เพิ่มประสิทธิภาพการอัดอากาศเข้าสู่ห้องเผาไหม้ได้ดียิ่งขึ้น พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด แบบ REV Tronic มีให้เลือกทั้งระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และขับเคลื่อน 4 ล้อ

มีให้เลือก 4 รุ่นย่อย ได้แก่ 2.5 2WD CD, 2.5 2WD DVD, 3.0 2WD DVD NAVI และ 3.0 4WD DVD NAVI

CARRO Automall แนะนำ Isuzu MU-X

ต่อมาในวันที่ 30 ตุลาคม 2557 Isuzu จัดงานฉลองครบครบ 1 ปี Isuzu MU-X อย่างยิ่งใหญ่ กับยอดขายมากถึง 20,000 คัน พร้อมเสนอทางเลือกใหม่ อีซูซุมิว-เอ็กซ์” รุ่น 2.5 Ddi VGS Turbo DVD Navi ทั้งแบบเกียร์ธรรมดา และเกียร์ออโตเมติก รวมทั้งได้เพิ่มปุ่ม Push Start ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์อัจฉริยะ เป็นอุปกรณ์มาตรฐานเฉพาะรุ่นอีกด้วย

CARRO Automall แนะนำ Isuzu MU-X

ต่อมา … ในเดือนมีนาคม 2559 Isuzu ก็ได้ส่ง “Isuzu MU-X 1.9 Ddi Blue Power” (อีซูซุ มิว-เอ็กซ์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์) ใหม่ สู่ตลาดไทยครั้งแรกในโลก ในเจนเนอเรชั่นใหม่นี้ ถูกออกแบบภายใต้นิยาม “Signature of Privilege เอกลักษณ์แห่งเอกสิทธิ์” ปรับโฉมใหม่ ด้วยกระจังหน้าแบบ 3 มิติ ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน Super Daylight และไฟท้ายแบบพิเศษ Arc-Dimension พร้อมล้ออัลลอยลายใหม่ Dynamic Black

ภายในหรูหราเฉียบคมสไตล์ Modern Art Deco ด้วยโทนสีเข้มและตกแต่งด้วยวัสดุแบบ Hi-Gloss Black กับแถบโครเมียม มีกระจกมองหลังแบบตัดแสงอัตโนมัติ พร้อม Built-in Safety Camera สามารถบันทึกวิดีโอขณะขับขี่ ส่วนระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control มีเฉพาะรุ่นเครื่องยนต์ 3.0 Ddi Blue Power เท่านั้น

CARRO Automall แนะนำ Isuzu MU-X

เดือนกุมภาพันธ์ 2560 ครบรอบ 60 ปี Isuzu ในไทย เจ้า Isuzu MU-X ก็ถูกปรับโฉมใหม่ ด้วยกระจังหน้า Sport 3D ชุดไฟหน้า Bi-LED ปรับระดับสูง-ต่ำอัตโนมัติ มีไฟ Daylight ปรับกันชนหน้า-หลังใหม่ ไฟท้าย LED ใหม่แบบ Sharp Horizon ล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 18 นิ้ว Cross Star และเสริมสปอยเลอร์หลังคา

CARRO Automall แนะนำ Isuzu MU-X

ห้องโดยสารใช้สีทูโทน Sandstone Beige ตัดด้วยสีดำ มาตรวัดใหม่ เบาะกึ่งหนังแท้ เพิ่มผิวสัมผัสแบบ Soft Touch ที่คอนโซลหน้า แผงประตู และที่พักแขน เพิ่มการตกแต่งคอนโซลหน้า หัวเกียร์ และแผงข้างประตูด้วยลายไม้ Fine Walnut คอนโซลกลางตกแต่งด้วยวัสดุสีดำ Piano Black สะดวกด้วยชุดระบบ Infotainment พร้อม iConnect ผ่านจอขนาด 8 นิ้ว โดยมีระบบ Air Mirroring รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน พร้อมช่อง USB

มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ขนาด 1.9 ลิตร 150 แรงม้า หรือขนาด 3.0 ลิตร Ddi Blue Power 177 แรงม้า ส่งกำลังผ่านชุดเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด หรือ ชุดเกียร์ธรรมดาแบบ 6 สปีด และระบบขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ หรือ 2 ล้อ

CARRO Automall แนะนำ Isuzu MU-X

เดือนกุมภาพันธ์ 2561 เพิ่มรุ่นแต่งพิเศษ Isuzu MU-X The Iconic (อีซูซุ มิว-เอ็กซ์ ดิ ไอคอนนิค) งดงามทุกรายละเอียด มาพร้อมกับไฟหน้า Bi-LED พร้อมไฟ Daylight ในโคมและเส้นนำแสง LED Guiding Light, สปอยเลอร์หลังคาด้านหลัง และล้ออัลลอย 18 นิ้ว Iconic Cross มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ 1.9 และ 3.0 Ddi Blue Power เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด

อ่านเพิ่มเติม >> Isuzu เปิดตัวรุ่นพิเศษ! “Isuzu MU-X The Iconic” จัดเต็มชุดแต่งสปอร์ตเท่รอบคัน

ภายในห้องโดยสารโทนสีดำ ใช้เบาะกึ่งหนังแท้ Lava Black ติดตั้งเครื่องเล่น DVD, Digital TV Tuner, จอทัชสกรีนขนาด 8 นิ้ว มี iConnect พร้อม Built-in Navigator, ตกแต่งภายในด้วยลายไม้ Fine Walnut, ชุดตกแต่ง Piano Black และโครเมียม, พอร์ทสำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้า AC220 โวลต์ และ USB ที่คอนโซลกลาง และกระจกมองหลังแบบปรับลดแสงอัตโนมัติ พร้อมกล้องบันทึกภาพด้านหน้ารถ (DVR)

CARRO Automall แนะนำ Isuzu MU-X

เดือนกุมภาพันธ์ 2562 เปิดตัว MU-X รุ่นพิเศษ Isuzu MU-X The Onyx (อีซูซุ มิว-เอ็กซ์ ดิ ออนิกซ์) ปรับโฉมใหม่ จุดประกายความรู้สึกใหม่ในตัวคุณ (New Sensation Ignited) ด้วยชุดแต่งแบบ Onyx Design Edition มีชุดกันชนหน้า/หลังใหม่ สเกิร์ทใหม่ กระจังหน้าใหม่แบบ Sport 3D โป่งล้อสีดำด้าน ไฟท้าย LED โคมรมดำ ล้ออัลลอยลายใหม่ Flash Black Design ขนาด 18 นิ้ว และ Roof Rail แบบสปอร์ตเฉพาะรุ่น ออกแบบให้เข้ากับตัวรถ ส่วนห้องโดยสารเพิ่มเบาะกึ่งหนังแท้สีดำ และมีไฟ Ambient Light สำหรับช่วยบรรยากาศในขณะขับ

Isuzu MU-X The Onyx มีเฉพาะรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ พร้อมเครื่องยนต์ดีเซล 1.9 ลิตร หรือ 3.0 ลิตร Ddi Blue Power ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ตัวรถได้รับการเพิ่มความปลอดภัยด้วยการติดตั้งระบบ BOS (Brake Override System) ช่วยลดกำลังเครื่องยนต์เพื่อเป็นการช่วยเบรก และ Airbag เพิ่มเป็น 6 ใบ และมีระบบ Infotainment พร้อม Built-in Navigator และ Digital TV Tuner

และสำหรับ Carro ในเดือนกรกฎาคม 2565 เรามี Isuzu MU-X รีวิวรถคุณภาพเยี่ยม มาแนะนำให้คุณผู้อ่านรู้จักกัน 8 คันครับ ได้แก่ …..

ISUZU MU-X 3.0 (DVD Navi) 2017 น้ำตาล

ISUZU MU-X 3.0 (DVD Navi) 2017 น้ำตาล

1. Isuzu MU-X 3.0 DVD Navi ปี 2017 เลขไมล์ 75,686 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 799,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/isuzu-mu-x-2017-E47K0Z.html

ISUZU MU-X 1.9 DVD 2017 เทา

ISUZU MU-X 1.9 DVD 2017 เทา

2. Isuzu MU-X 1.9 DVD ปี 2017 เลขไมล์ 138,819 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 749,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/isuzu-mu-x-2017-E47K31.html

ISUZU MU-X 1.9 DA DVD 2016 เทา

ISUZU MU-X 1.9 DA DVD 2016 เทา

3. Isuzu MU-X 3.0 DA DVD ปี 2016 เลขไมล์ 127,294 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 749,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/isuzu-mu-x-2016-ENMKYN.html

ISUZU MU-X 1.9 (DVD) 2016 ดำ

ISUZU MU-X 1.9 (DVD) 2016 ดำ

4. Isuzu MU-X 1.9 DVD ปี 2016 เลขไมล์ 141,968 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 739,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/isuzu-mu-x-2016-DON052.html

ISUZU MU-X 1.9 (DVD) 2016 เทา

ISUZU MU-X 1.9 (DVD) 2016 เทา

5. Isuzu MU-X 1.9 DVD ปี 2016 เลขไมล์ 110,762 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 739,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/isuzu-mu-x-2016-EW8VK2.html

ISUZU MU-X 1.9 (DVD Navi) 2017 ขาว

ISUZU MU-X 1.9 (DVD Navi) 2017 ขาว

6. Isuzu MU-X 1.9 DVD Navi ปี 2017 เลขไมล์ 81,829 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 819,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/isuzu-mu-x-2017-GY7NPZ.html

ISUZU MU-X 1.9 DA DVD 2017 เทา

ISUZU MU-X 1.9 DA DVD 2017 เทา

7. Isuzu MU-X 1.9 DA DVD ปี 2017 เลขไมล์ 146,086 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 749,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/isuzu-mu-x-2017-E17MMV.html

ISUZU MU-X 3.0 DVD NAVI 2016 เทา

ISUZU MU-X 3.0 DVD NAVI 2016 เทา

8. Isuzu MU-X 1.9 DVD ปี 2016 เลขไมล์ 133,409 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 729,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/isuzu-mu-x-2016-EKJ8YQ.html

Carro Automall ตลาดรถ

ถ้าใครที่กำลังมองหา Isuzu MU-X มือสอง (อีซูซุ มิวเอ็กซ์ มือสอง) แล้วรู้สึกสนใจอยากเป็นเจ้าของขึ้นมา Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

หมายเหตุ: ข้อมูลรถแนะนำจาก Carro เป็นข้อมูลรถยนต์ที่มีจำหน่ายในเดือนกรกฎาคม 2565 / เลขกิโลเมตร ณ วันตรวจสภาพรถ / ราคานี้ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม

Carro แนะนำ Mazda2 เพื่อคนวัยรุ่น!

ยุคที่หลายๆ คน นอกจากจะมีงานการอาชีพหลักแล้ว บางคนยังรู้จักหาอาชีพเสริมทำในยามว่าง หรือจะออกมาเป็นนายตัวเองก็ตาม หลายคนต้องใชัรถยนต์ทั้งในเรื่องงาน และในครอบครัว ก็ยังมีความต้องการรถยนต์ที่ขับแล้วสนุก ช่วงล่างเกาะถนนดี รูปทรงดีไซน์ ภายในสวยถูกใจคล้ายกับรถยุโรป ขนของได้ รวมไปถึงให้เด็กๆ นั่งไปโรงเรียน หรือไปเที่ยวในช่วงวันหยุดก็ได้

รถยนต์ที่ Carro (คาร์โร) จะมาแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่ได้เลือกสรรเป็นเจ้าของกัน เป็นรถที่มีคุณสมบัติดังกล่าวหลายอย่าง เชื่อว่าบรรดาคุณพ่อคุณแม่หลายคนคงชอบทีเดียว

ไปรู้จักกับ Mazda2 (มาสด้า2) รหัสรุ่น DJ และ DL รถ Eco-Car สกายแอคทีฟ สายพันธุ์ Zoom-Zoom (ซูม-ซูม) สปอร์ตทุกอณู ในกลุ่ม B-Segment จากมาสด้ากันครับ กับรถขายดีใน Carro มาดูกันว่า รุ่นนี้มีความน่าสนใจตรงจุดไหนกันบ้าง …

CARRO Automall แนะนำ Mazda2

สำหรับ Mazda2 มือสอง (มาสด้า2 มือสอง) เจเนอเรชั่นที่ 2 โฉมปัจจุบัน จุดเริ่มต้นคงต้องย้อนกลับไปตั้งแต่ช่วงเดือนพฤศจิกายน 2557 เมื่อมาสด้าตัดสินใจเข็นรถขายดียอดนิยมในไทยอย่าง Mazda2 (หรือ Mazda Demio ในญี่ปุ่น) เข้าโครงการรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐาน ระยะที่ 2 หรือ โครงการอีโคคาร์ เฟส 2 และตั้งสายการผลิตที่ โรงงานผลิตรถยนต์ออโต้อัลลายแอนซ์ จ.ระยอง

ก่อนจะนำมาให้ประชาชนเผยโฉมในงาน Motor Expo 2014 และก็สามารถคว้ายอดจองไปได้สูงกว่า 1,500 คัน!

CARRO Automall แนะนำ Mazda2

ความโดดเด่นของ Mazda2 รถซิตี้คาร์รุ่นขายดีครั้งนี้ ได้รับการเผยโฉมอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2558 ด้วยเทคโนโลยีสกายแอคทีฟที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้ารถเล็ก ได้ทั้งความแรง และเรื่องประหยัดน้ำมัน ภายใต้รูปลักษณ์การออกแบบแนวใหม่ของดีไซน์ โคโดะ (Kodo Design) ที่ลูกค้าชื่นชอบ และมอบประสบการณ์ความสนุกในการขับขี่ตามแนวคิด จินบะ – อิไต (Jinba-Ittai) ของมาสด้า ทำให้ลูกค้าต่างบอกกันปากต่อปาก ในเรื่องของความสวยงาม สมรรถนะการใช้งาน และความพึงพอใจที่มีต่อมาสด้า

พร้อมออพชั่น MZD Connect และอุปกรณ์ความปลอดภัยเต็มคัน พร้อมระบบป้องกันรถลื่นไถล DSC ที่เคยมีแต่ในรถหรูขนาดใหญ่ ก็จัดมาให้กันเป็นครั้งแรกใน Mazda2 รุ่นนี้อีกด้วย

CARRO Automall แนะนำ Mazda2

โดยในโฉมแรกนี้ วางเครื่องยนต์คลีนดีเซลขนาด Compact 1.5 ลิตร “SKYACTIV-D” ในรถยนต์นั่งที่เป็นรุ่นเริ่มต้นของตลาด B-Segment และกลุ่มอีโคคาร์ แบบ 4 สูบ Turbo แปรผัน 16 วาล์ว ให้แรงม้าสูงสุด 105 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที มาพร้อมแรงบิดสูงเท่ากับเครื่องยนต์เบนซินขนาดใหญ่ 2.5 ลิตร นั่นคือ 250 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500-2,500 รอบ/นาที แต่ประหยัดน้ำมันในอัตราสูงถึง 26.3 กม./ลิตร!

CARRO Automall แนะนำ Mazda2

และจุดเด่นอีกหลายอย่าง อาทิ

– ระบบประหยัดพลังงานอัจฉริยะ i-ELOOP (Mazda Regenerative Braking System) เปลี่ยนพลังงานที่สูญเสียจากการลดความเร็วให้เป็นพลังงานไฟฟ้า และเก็บไว้ในอุปกรณ์เก็บประจุไฟฟ้า เพื่อนำไปใช้เลี้ยงระบบไฟฟ้าของอุปกรณ์ภายในรถ

– ระบบ i-STOP (Idling Stop System) ระบบประหยัดน้ำมันที่สั่งให้เครื่องยนต์หยุดการทำงานชั่วคราวเมื่อรถจอดนิ่ง

– ระบบ i-ACTIVSENSE: Worry-free Excitement เส้นทางไหนก็ไม่มีอะไรต้องกังวล ด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำ

– ระบบ MZD CONNECT: Connectivity At Your Fingertips สะดวกและครบทุกฟังก์ชั่น ให้คุณเพลิดเพลินกับไลฟ์สไตล์ดิจิตอลบนรถทุกที่ ทุกเวลา ไม่ว่าจะเป็นโซเชียลมีเดีย หรือรับ-ส่ง ข้อความ SMS จากสมาร์ทโฟนผ่านสัญญาณ Bluetooth พร้อม Infotainment หน้าจอสี Center Display แบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รวมไปถึงระบบนำทาง Navigator

– ระบบ ABSM (Advanced Blind Spot Monitoring) ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ช่วยส่งสัญญาณเตือน หากตรวจพบรถในเลนด้านข้างที่กําลังแซงขึ้นมา

– ระบบ RCTA (Rear Cross Traffic Alert) ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาในขณะถอยหลัง ซึ่งจะส่งสัญญาณเสียงเตือน พร้อมไฟกะพริบเตือนที่กระจกมองข้างในขณะขับรถถอยหลัง

มีให้เลือกด้วยกัน 3 รุ่นย่อย ได้แก่ XD, XD High Connect และ XD High Plus โดยมีให้เลือกทั้งแบบ Sedan 4 ประตู และ Hatchback 5 ประตู

CARRO Automall แนะนำ Mazda2

25 มีนาคม 2558 ตามมาติดๆ กับรุ่นเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน SKYACTIV-G ขนาด 1.3 ลิตร ขยายความต้องการเพิ่มเติม ด้วยจุดเด่นอย่างการเผาไหม้สมบูรณ์ที่สุดด้วยอัตราส่วนการอัดสูงถึง 10:1 ให้แรงม้าสูงถึง 93 แรงม้า ที่ 5,800 รอบ/นาที และแรงบิดสูง 123 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที รองรับเชื้อเพลิงแก๊สโซฮอล์ E20 ประหยัดน้ำมันถึง 23.3 กม./ลิตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ SKYACTIV-DRIVE แบบ 6 สปีด

มีให้เลือกด้วยกัน 3 รุ่นย่อย ได้แก่ Standard, High High Plus ทั้งในแบบ Sedan 4 ประตู และ Hatchback 5 ประตู

ในเดือนธันวาคม 2558 ปรับโฉม New Mazda2 รุ่น Model Year 2016 รูปลักษณ์ใหม่ มาพร้อมไฟหน้า LED และไฟ Day Time Running LED ปรับอุปกรณ์มาตรฐานเพิ่มขึ้น กล้องมองหลัง และอุปกรณ์มาตรฐานอื่นๆ

CARRO Automall แนะนำ Mazda2

15 กุมภาพันธ์ 2560 เปิดตัวรุ่นปี 2017 ภายใต้คอนเซ็ปต์ใหม่ล่าสุด “The Next Level Of Excitement” อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด SKYACTIV-VEHICLE DYNAMICS ที่มาพร้อมกับระบบ G-VECTORING CONTROL อันเป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดของเทคโนโลยีด้านการควบคุมการขับขี่ พร้อมใส่อุปกรณ์มาตรฐานเต็มคัน

มีให้เลือกด้วยกัน 4 รุ่นย่อย ได้แก่ Standard, High, High Connect และ High Plus

CARRO Automall แนะนำ Mazda2

20 กุมภาพันธ์ 2561 Mazda เปิดตัว Mazda2 รุ่น 2018 Collection ลุยตลาด ภายใต้คอนเซ็ปต์ใหม่ล่าสุด “Excitement Neved Ends” หรือ “เร้าใจ ไม่เคยหยุด” เพิ่มจุดเด่นหลายอย่าง อาทิ สีใหม่ล่าสุด สีแดง Soul Red Crystal ที่ให้ความสดใสเป็นประกายของสีแดง หรือระบบไฟหน้า เปิด-ปิด แบบอัตโนมัติ และระบบ Cruise Control เป็นต้น

CARRO Automall แนะนำ Mazda2

และแล้วก็ถึงเวลาปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ Mazda2 ครั้งใหญ่ ในเดือนพฤศจิกายน 2562 ออกแบบใหม่ทั้งภายนอกและภายใน ภายใต้ KODO Design เจนเนอเรชั่นใหม่ ซึ่งเน้นความเรียบง่ายแต่งดงาม ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Less is More” ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ภายนอกที่ได้รับการออกแบบใหม่ตั้งแต่กันชนหน้า-หลัง กระจังหน้า ไฟหน้าและไฟท้าย ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 16 นิ้ว

ภายในห้องโดยสารที่หรูหรา พรีเมียม ด้วยการคัดสรรวัสดุคุณภาพสูง อาทิ แผงคอนโซลหน้า แผงประตูด้านข้าง และเบาะดีไซน์ใหม่ที่ได้รับการพัฒนาบนพื้นฐานของ SKYACTIV-Vehicle Architecture ที่ช่วยให้การขับขี่ทำได้อย่างเป็นธรรมชาติ

ยังคงมีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์คลีนดีเซล 1.5 ลิตร และเครื่องยนต์เบนซิน 1.3 ลิตร ทั้งแบบ Sedan 4 ประตู และ Hatchback 5 ประตู ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าตาม Concept “ไม่หยุด…แค่ความธรรมดา”

พร้อมปรับชื่อรุ่นใหม่ เริ่มตั้งแต่รุ่นเบนซิน 1.3 E, 1.3 C, 1.3 S, 1.3 S Leather (เบาะหนังแท้) และ 1.3SP ส่วนรุ่นดีเซล ลดเหลือ 2 รุ่นย่อย อาทิ XD และ XDL

CARRO Automall แนะนำ Mazda2

ล่าสุด … 8 กุมภาพันธ์ 2564 Mazda แนะนำ New Mazda2 2021 Collection เพิ่มออพชั่น ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Sport Paddle Shift) ช่วยให้ขับสนุกยิ่งขึ้น, เพิ่มความปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วยกล้องมองหลัง ตั้งแต่รุ่น 1.3 C ขึ้นไป พร้อมระบบแสดงภาพ 360° รอบทิศทาง หรือกล้อง 360 องศา รอบคัน

ซึ่ง Mazda2 โฉมนี้ นับตั้งแต่เปิดตัวในเดือนมกราคม 2558 มาจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2564 สามารถสร้างยอดขายได้มากถึง 185,000 คัน!!!

และสำหรับ Carro ในเดือนกรกฏาคม 2565 เรามี Mazda2 รีวิวรถคุณภาพเยี่ยม มาแนะนำให้คุณผู้อ่านรู้จักกัน 21 คันครับ ได้แก่ …..

MAZDA 2 1.5 XD High Connect 2019 ขาว

MAZDA 2 1.5 XD High Connect 2019 ขาว

1. Mazda2 1.5 XD High Connect ปี 2019 เลขไมล์ 107,995 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 459,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/mazda-2-2019-EWYL1Y.html

MAZDA 2 1.3 Sports High plus 2019 แดง

MAZDA 2 1.3 Sports High plus 2019 แดง

2. Mazda2 1.3 Sports High Plus ปี 2019 เลขไมล์ 36,459 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 459,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/mazda-2-2019-G67MNV.html

MAZDA 2 1.5 SKYACTIV XD HIGH CONNECT 2017 แดง

MAZDA 2 1.5 SKYACTIV XD HIGH CONNECT 2017 แดง

3. Mazda2 1.5 XD High Connect ปี 2017 เลขไมล์ 88,208 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 419,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/mazda-2-2017-G08QY9.html

MAZDA 2 1.3 SKYACTIV SPORTS HIGH CONNECT 2019 แดง

MAZDA 2 1.3 SKYACTIV SPORTS HIGH CONNECT 2019 แดง

4. Mazda2 1.3 Sports High Connect ปี 2019 เลขไมล์ 42,079 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 439,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/mazda-2-2019-G97PJ8.html

MAZDA 2 1.3 SKYACTIV HIGH CONNECT 2019 แดง

MAZDA 2 1.3 SKYACTIV HIGH CONNECT 2019 แดง

5. Mazda2 1.3 High Connect ปี 2019 เลขไมล์ 74,904 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 419,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/mazda-2-2019-D27MJN.html

MAZDA 2 1.3 SKYACTIV HIGH PLUS 2016 ดำ

MAZDA 2 1.3 SKYACTIV HIGH PLUS 2016 ดำ

6. Mazda2 1.3 High Plus ปี 2016 เลขไมล์ 106,114 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 379,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/mazda-2-2016-E17LXK.html

MAZDA 2 1.5 XD Sports HIGH CONNECT 2015 เทา-ดำ

MAZDA 2 1.5 XD Sports HIGH CONNECT 2015 เทา-ดำ

7. Mazda2 1.5 XD Sports High Connect ปี 2015 เลขไมล์ 223,862 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ลดราคา! เหลือ 359,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/mazda-2-2015-G373ZR.html

MAZDA 2 1.3 Standard 2019 น้ำตาล

MAZDA 2 1.3 Standard 2019 น้ำตาล

8. Mazda2 1.3 Standard ปี 2019 เลขไมล์ 92,546 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 409,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/mazda-2-2019-E47K1X.html

MAZDA 2 1.3 Sports High 2016 ดำ

MAZDA 2 1.3 Sports High 2016 ดำ

9. Mazda2 1.3 Sports High ปี 2016 เลขไมล์ 141,122 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 369,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/mazda-2-2016-DRQNM5.html

MAZDA 2 1.3 Hight Connect 2017 เทา

MAZDA 2 1.3 Hight Connect 2017 เทา

10. Mazda2 1.3 High Connect ปี 2017 เลขไมล์ 57,264 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ลดราคา! เหลือ 379,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/mazda-2-2017-DO2997.html

MAZDA 2 1.3 SKYACTIV HIGH CONNECT 2019 น้ำตาล

MAZDA 2 1.3 SKYACTIV HIGH CONNECT 2019 น้ำตาล

11. Mazda2 1.3 High Connect ปี 2019 เลขไมล์ 53,680 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 429,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/mazda-2-2019-EKJ29P.html

MAZDA 2 1.3 High Connect 2018 ดำ

MAZDA 2 1.3 High Connect 2018 ดำ

12. Mazda2 1.3 High Connect ปี 2018 เลขไมล์ 48,458 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 409,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/mazda-2-2018-D87OL4.html

MAZDA 2 1.3 Sports Standard 2017 แดง

MAZDA 2 1.3 Sports Standard 2017 แดง

13. Mazda2 1.3 Sports Standard ปี 2017 เลขไมล์ 112,857 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ลดราคา! เหลือ 349,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/mazda-2-2017-GY7N5Z.html

MAZDA 2 1.3 SKYACTIV SPORTS HIGH CONNECT 2018 น้ำตาล

MAZDA 2 1.3 SKYACTIV SPORTS HIGH CONNECT 2018 น้ำตาล

14. Mazda2 1.3 Sports High Connect ปี 2018 เลขไมล์ 67,907 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 409,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/mazda-2-2018-EWYL2Q.html

MAZDA 2 1.3 High Plus 2019 ขาว

MAZDA 2 1.3 High Plus 2019 ขาว

15. Mazda2 1.3 High Plus ปี 2019 เลขไมล์ 50,227 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 439,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/mazda-2-2019-ENMJOL.html

MAZDA 2 1.3 SKYACTIV SPORTS HIGH CONNECT 2016 ขาว

MAZDA 2 1.3 SKYACTIV SPORTS HIGH CONNECT 2016 ขาว

16. Mazda2 1.3 Sports High Connect ปี 2016 เลขไมล์ 37,705 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 389,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/mazda-2-2016-D57YPO.html

MAZDA 2 1.3 SKYACTIV SPORTS HIGH CONNECT 2018 แดง

MAZDA 2 1.3 SKYACTIV SPORTS HIGH CONNECT 2018 แดง

17. Mazda2 1.3 Sports High Connect ปี 2018 เลขไมล์ 90,090 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 429,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/mazda-2-2018-DONP22.html

MAZDA 2 1.3 Sports High Connect 2019 แดง

MAZDA 2 1.3 Sports High Connect 2019 แดง

18. Mazda2 1.3 Sports High Connect ปี 2019 เลขไมล์ 75,415 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 429,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/mazda-2-2019-G67MO0.html

MAZDA 2 1.3 SPORTS HIGH CONNECT 2018 เทา

MAZDA 2 1.3 SPORTS HIGH CONNECT 2018 เทา

19. Mazda2 1.3 Sports High Connect ปี 2018 เลขไมล์ 58,315 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 429,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/mazda-2-2018-GJZ10X.html

MAZDA 2 1.3 SKYACTIV HIGH CONNECT 2018 แดง

MAZDA 2 1.3 SKYACTIV HIGH CONNECT 2018 แดง

20. Mazda2 1.3 High Connect ปี 2018 เลขไมล์ 107,268 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 409,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/mazda-2-2018-DONL94.html

MAZDA 2 1.3 High Connect 2019 ขาว

MAZDA 2 1.3 High Connect 2019 ขาว

21. Mazda2 1.3 High Connect ปี 2019 เลขไมล์ 31,983 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 439,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/mazda-2-2019-DLK3YO.html

Carro Automall ตลาดรถ

ถ้าใครที่กำลังมองหา มาสด้า2 มือสอง (Mazda2 มือสอง) แล้วรู้สึกสนใจอยากเป็นเจ้าของขึ้นมา Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

หมายเหตุ: ข้อมูลรถแนะนำจาก Carro เป็นข้อมูลรถยนต์ที่มีจำหน่ายในเดือนกรกฎาคม 2565 / เลขกิโลเมตร ณ วันตรวจสภาพรถ / ราคานี้ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม

Carro แนะนำ Honda Civic FC สายซิ่ง!

สำหรับรถดีรถเด่นอีกรุ่นที่ Carro (คาร์โร) อยากนำเสนอให้คุณเป็นเจ้าของกันแบบง่ายๆ ราคาสบายกระเป๋า ซึ่งหลายคนอาจจะยังคงต้องใช้รถยนต์ทำมาหากิน ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์เงินเดือน หรือทำงานอาชีพอิสระ เป็นนายตัวเอง เพื่อหาเงินเลี้ยงลูกและครอบครัว และในหลายอาชีพ ยังคงต้องใช้รถยนต์เป็นตัวกลางในหลายสิ่งหลายอย่างอีกด้วย

รถยนต์ในระดับ C-Segment ที่ถือได้ว่า ขับสนุกด้วยพลังเทอร์โบ รูปทรงสวย ดูดีมีราคา ภายในตกแต่งหรูหราถูกใจคุณแม่ที่ยังสาวอยู่ ใช้งานได้ทั้งในชีวิตประจำวัน และวันพักผ่อน ท่องเที่ยว แถมราคาขายต่อก็ดี ไม่ตก หรือจะซื้อให้คุณลูกไว้ใช้ด้วยก็ได้ ซึ่งเชื่อว่าคุณแม่หลายคนชอบทีเดียว

ไปรู้จักกับ Honda Civic (Honda Civic) เจเนอเรชั่นที่ 10 กันครับ กับรถขายดียอดนิยมใน Carro มาดูกันว่า รุ่นนี้มีความน่าสนใจตรงจุดไหนกันบ้าง …

Honda-Civic-Design-FC-FK

แนวความคิด และขั้นตอนการออกแบบพัฒนา Honda Civic ใหม่ ให้เป็น “男前” (Otokomae) หรือ “ผู้ชายหล่อ” ที่มีความคล่องแคล่ว กระฉับกระเฉง ทันสมัย น่าจับตามอง

Honda Civic (ฮอนด้า ซีวิค) เจนเนอเรชั่นที่ 10 เริ่มพัฒนาตัวรถในรูปแบบสำหรับตลาดสหรัฐอเมริกา ออกแบบให้มีความทันสมัย และหรูหราในสไตล์สปอร์ต สำหรับรุ่น Sedan ตัวรถออกแบบโดย Jarad Hall ตั้งแต่ปี 2013

Honda-Civic-Concept-FC-FK

ซึ่งหลังจากการเปิดตัวในทวีปอเมริกาเหนือเพียง 6 เดือน Civic FC สามารถคว้ารางวัลยนตรกรรมยอดเยี่ยมถึง 14 รางวัล จาก 10 สถาบันชั้นนำ

Honda-Civic-FC-2016-TH

ได้เปิดตัวในไทยเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2559 ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของเจ้าพ่อเครื่อง N/A หรือเรียกว่าเครื่องยนต์ที่ไม่ได้ใช้ระบบอัดอากาศเพิ่มเติม ชูจุดเด่นด้วยขุมพลังจากเทคโนโลยี VTEC TURBO ใหม่! 173 แรงม้า ที่ให้สมรรถนะที่ทรงพลังและมีอัตราประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม พร้อมเทคโนโลยีความสะดวกสบาย และความปลอดภัยที่เหนือระดับ

มิติตัวรถยาว 4,630 มม. กว้าง 1,799 มม. สูง 1,416 มม. ระยะฐานล้อ 2,698 มม. บนน้ำหนักตัวรถ 1,227 – 1,317 กิโลกรัม

Honda-Civic-FC-2016-TH

การออกแบบภายใน เน้นการเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูง และเส้นสายการออกแบบที่ให้ความรู้สึกสปอร์ตและพรีเมียม รวมถึงพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวางสะดวกสบายใกล้เคียงกับรถยนต์ในระดับ D-Segment และมีให้เลือกทั้งเบาะนั่งแบบผ้า และเบาะหนังแท้

ทั้งนี้ ยังมาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัย อาทิ ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว แบบ Advanced Touch ควบคุมฟังก์ชั่นความบันเทิง พร้อมระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย (Bluetooth) และช่องเชื่อมต่อ USB ที่รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay (เฉพาะสมาร์ทโฟนบางรุ่น) มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ ซึ่งสามารถแสดงผลฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลาย โดยสามารถสลับเปลี่ยนข้อมูลและค้นหาตัวอักษรได้ง่ายด้วยปุ่มควบคุมบนพวงมาลัย และระบบสตาร์ทเครื่องยนต์

พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท (Engine Remote Start) ที่สั่งการได้จากระยะไกล เพื่อช่วยอุ่นเครื่อง พร้อมปรับอุณหภูมิภายในห้องโดยสารให้เย็นสบายล่วงหน้าก่อนออกเดินทาง โดยขณะนั้นประตูรถยังคงล็อกอยู่เช่นเดิม และรถจะไม่สามารถออกตัวได้ จนกว่าผู้ขับจะเข้าไปสตาร์ทรถตามปกติ

ระบบช่วงล่างได้ถูกปรับปรุงใหม่ ชุดล้อหน้าหันมาใช้แบบแม็คเฟอร์สันสตรัท อิสระ พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังแบบมัลติลิงค์ อิสระ พร้อมเหล็กกันโคลง

Honda-Civic-FC-2016-TH

สำหรับ Honda Civic FC มีเครื่องยนต์ให้เลือกกัน 2 แบบ คือ …

  • เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร รหัส L15B7 แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว VTEC TURBO พัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม (Earth Dreams) ให้แรงม้าสูงสุด 173 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 220 นิวตัน-เมตร ที่ 1,700 – 5,500 รอบ/นาที ซึ่งให้กำลังเทียบเท่าเครื่องยนต์ขนาด 2.4 ลิตร แต่มีอัตราการประหยัดน้ำมันเทียบเท่าเครื่องยนต์ ขนาด 1.8 ลิตร พร้อมด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT ใหม่
  • และยังมีเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร รหัส R18Z แบบ 4 สูบ SOHC 16 วาล์ว i-VTEC ที่ได้รับการพัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม ให้แรงม้าสูงสุด 141 แรงม้า ที่ 6,500 รอบ/นาที ด้วยแรงบิดสูงสุดที่ 174 นิวตัน-เมตร ที่ 4,300 รอบ/นาที ทั้งยังรองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT

Honda-Civic-Engine-FC-FK

เป็นครั้งแรกที่ Honda Civic ใช้เครื่องยนต์ระบบหัวฉีด Direct Injection และท่อไอดีแบบตรง โดยหัวฉีด Direct Injection จะฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงไปยังกระบอกสูบโดยตรง ช่วยลดอุณหภูมิภายในกระบอกสูบ และการไหลของไอดีแบบตรง ช่วยให้อากาศและเชื้อเพลิงผสมกันได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เผาไหม้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้ราบรื่นและต่อเนื่อง

พร้อมระบบ Turbo Charger (เทอร์โบ ชาร์จเจอร์) ที่มีระบบควบคุมช่องระบายไอเสียส่วนเกินด้วยไฟฟ้า ซึ่งมีการใช้เทอร์โบ ชาร์จเจอร์ ที่มีระบบควบคุมช่องระบายไอเสียส่วนเกินด้วยไฟฟ้าที่ติดตั้งใบพัดขนาดเล็ก เพื่อนำพลังงานไอเสียส่วนเกินกลับมาใช้ใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เมื่อเหยียบคันเร่ง เครื่องยนต์เทอร์โบสามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว

และระบบการควบคุมการเปิด-ปิดวาล์วแบบคู่ (Dual VTC) ของท่อไอดีและท่อไอเสีย โดย Valve Timing Control (VTC) ช่วยควบคุมจังหวะการเปิด-ปิดวาล์วของท่อไอดีและท่อไอเสียให้สอดคล้องกัน จึงทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพแม้ในรอบต่ำ

ก้าวล้ำไปอีกขั้นด้วยมาตรฐานความปลอดภัยที่เหนือกว่ารถยนต์รุ่นอื่นในระดับเดียวกัน อาทิ ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) ระบบ Auto Brake Hold และระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock)

Honda-Civic-FC-2016-TH

สำหรับฮอนด้า ซีวิค FC มีให้เลือกทั้งหมด 4 รุ่นย่อย ได้แก่

  • รุ่น 1.8 E ราคา 869,000 บาท มาพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานเด่นๆ อาทิ

– เบาะผ้า
– ระบบ Push Start
– ระบบ Engine Remote Start
– Honda Smart Key System
– มาตรวัด พร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่
– ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ
– ปุ่ม Econ
– พวงมาลัยปรับระดับ 4 ทิศทาง
– ไฟอ่านแผนที่ด้านหน้า และไฟส่องสว่างท้ายรถ
– หน้าจอสัมผัสขนาด 5 นิ้ว
– ระบบเชื่อมต่อแบบไร้สาย Bluetooth
– พวงมาลัย Multifunction
– ช่องเชื่อมต่อ USB 1 ตำแหน่ง
– ลำโพง 4 จุด

  • รุ่น 1.8 EL ราคา 959,000 บาท เพิ่มเติมอุปกรณ์มาตรฐานจากรุ่นย่อย 1.8 E …

– มาตรวัด พร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ แบบ TFT
– ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ
– เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
– หน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รองรับ Apple Car Play
– ช่องเชื่อมต่อ USB 2 ตำแหน่ง
– ช่องเชื่อมต่อ HDMI
– ลำโพง 8 จุด

  • รุ่น TURBO ราคา 1,099,000 บาท เพิ่มเติมอุปกรณ์มาตรฐานจากรุ่นย่อย 1.8 EL …

– ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แยกซ้าย-ขวา
– เบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง

  • รุ่น TURBO RS ราคา 1,199,000 บาท เพิ่มเติมอุปกรณ์มาตรฐานจากรุ่นย่อย Turbo …

– กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ
– แป้นเหยียบคันเร่ง และเบรค แบบสปอร์ต
– ระบบนำทาง Navigator

มีให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีขาวออร์คิด (มุก), สีดำคริสตัล (มุก), สีเทาโมเดิร์นสตีล (เมทัลลิก) และ 2 สีใหม่ ได้แก่ สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก) และสีน้ำเงินคอสมิก (เมทัลลิก)

ซึ่งก็ขายดีมากไปตามคาด ลูกค้าให้การตอบรับอย่างล้นหลาม! จนภายใน 1 ปี มียอดจองสะสมแล้วกว่า 35,000 คัน

Honda-Civic-Hatchback-FK-2017-TH

ต่อมาในวันที่ 9 มีนาคม 2560 Honda ได้เปิดตัว Honda Civic Hatchback (ฮอนด้า ซีวิค แฮทช์แบค) ในรหัสรุ่น FK ที่มาพร้อมรูปลักษณ์ที่ดูสปอร์ต หรูหรา และดีไซน์ด้านท้ายที่ดูโฉบเฉี่ยว ซึ่งตัวรถออกแบบโดย Daisuke Tsutamori พร้อมใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร VTEC Turbo 173 แรงม้า

ตอบรับทุกความต้องการที่หลากหลาย ด้วยพื้นที่บรรทุกสัมภาระด้านท้ายที่มากถึง 414 ลิตร โดยเบาะหลังพับแบบ 60:40 ได้ ออกมาจำหน่ายเพิ่มเติมในราคา 1,169,000 บาท มีให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีใหม่ คือ สีดำมิดไนท์เบอร์กันดี (มุก) นอกจากนี้ยังมี สีขาวออร์คิด (มุก) สีดำคริสตัล (มุก) สีเทาโมเดิร์นสตีล (เมทัลลิก) และ สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก)

Honda-Civic-RED-FC-2017

เดือนตุลาคม 2560 Honda เอาใจวัยรุ่นด้วย Civic สีแดงใหม่ Rallye Red

ในเดือนพฤศจิกายน 2561 Honda Civic FC แล FK มียอดขายสะสมกว่า 68,000 คัน (พ.ศ. 2559 – 2561) และยังมียอดจำหน่ายสูงสุดในปี 2560 จากรถยนต์ฮอนด้าทุกรุ่นที่จำหน่ายในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย

Honda-Civic

และในเดือนเดียวกันนี้เอง Honda ได้ปรับปรุง Honda Civic รุ่นนี้เพิ่มเติม ด้วยสีน้ำเงินบริลเลียนท์ สปอร์ตตี้ (Brilliant Sporty Blue) ใหม่, เบาะที่นั่งตกแต่งด้วยด้ายสีแดง ในราคา 874,000 – 1,219,000 บาท พ่วงด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยแบบอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ที่ให้คุณมั่นใจในทุกการเดินทาง ได้แก่

  • ระบบเตือนการชนรถและคนเดินถนนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
  • ระบบควบคุมและปรับความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF)
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
  • ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation with Lane Departure Warning : RDM with LDM)
  • ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam)

ในเดือนกันยายน 2562 ยังสามารถครองตำแหน่งผู้นำตลาดคอมแพคท์ได้ถึง 3 ปีซ้อน ด้วยยอดขายสะสมรวมกว่า 100,000 คัน มีนาคม 2559 – กันยายน 2562 ยอดขายรวมทั้งฮอนด้า ซีวิค และ ฮอนด้า ซีวิค แฮทช์แบ็ก)

Honda-Civic-Hatchback-FK-2018-TH

เดือนพฤศจิกายน 2562 Honda ปรับปรุง Honda Civic Hatchback ด้วยชุดแต่งสไตล์สปอร์ตแบบ RS รอบคัน พร้อมท่อไอเสียแบบคู่ตรงกลางสไตล์สปอร์ต และล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 17 นิ้ว พร้อมนวัตกรรมเชื่อมต่อเพื่อการสื่อสารระหว่างผู้ขับขี่และรถยนต์ ฮอนด้า คอนเนค (Honda CONNECT) มาพร้อมสีใหม่ สีเทาโซนิค (มุก) จำหน่ายในราคา 1,229,000 บาท

ภายใน ตกแต่งเบาะหนังด้วยสีดำเดินด้ายสีแดง มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT สีแดง แป้นเหยียบคันเร่งและเบรกแบบสปอร์ต มาพร้อมกับการตกแต่งคอนโซลสีดำแบบ Piano Black

Honda-Civic-Ignite-Red-FC-2020

ล่วงมาถึงเดือนพฤษภาคม 2563 Honda ได้แนะนำ สีใหม่ สีแดงอิกไนต์ (Ignite Red) ในรุ่น TURBO RS เพิ่มเติม แล้วก็ขายกันมาเรื่อยๆ จนยุติการขายไปในช่วงเดือนสิงหาคม 2564

และสำหรับ Carro ในเดือนกรกฎาคม 2565 นี้ เรามี Honda Civic รีวิวรถคุณภาพเยี่ยม มาแนะนำให้คุณผู้อ่านรู้จักกัน 24 คันครับ ได้แก่ …..

HONDA CIVIC 1.8 FC E i-VTEC 2017 ดำ

HONDA CIVIC 1.8 FC E i-VTEC 2017 ดำ

1. Honda Civic 1.8 E ปี 2016 เลขไมล์ 126,736 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 599,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/honda-civic-2017-EWYL7Y.html

HONDA CIVIC 1.8 EL 2017 ดำ

HONDA CIVIC 1.8 EL 2017 ดำ

2. Honda Civic 1.8 EL ปี 2017 เลขไมล์ 60,621 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 669,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/honda-civic-2017-EQPN55.html

HONDA CIVIC 1.5 TURBO RS 2018 แดง

HONDA CIVIC 1.5 TURBO RS 2018 แดง

3. Honda Civic 1.5 Turbo RS ปี 2018 เลขไมล์ 111,430 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 799,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/honda-civic-2018-DLKX5N.html

HONDA CIVIC 1.5 TURBO RS 2018 ดำ

HONDA CIVIC 1.5 TURBO RS 2018 ดำ

4. Honda Civic 1.5 Turbo RS ปี 2018 เลขไมล์ 70,703 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 809,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/honda-civic-2018-G08037.html

HONDA CIVIC 1.8 EL 2016 เทา

HONDA CIVIC 1.8 EL 2016 เทา

5. Honda Civic 1.8 EL ปี 2016 เลขไมล์ 92,245 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 619,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/honda-civic-2016-DONXQX.html

HONDA CIVIC 1.8 E 2017 ขาว

HONDA CIVIC 1.8 E 2017 ขาว

6. Honda Civic 1.8 E ปี 2017 เลขไมล์ 118,775 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 609,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/honda-civic-2017-ENML71.html

HONDA CIVIC 1.8 E 2016 น้ำเงิน

HONDA CIVIC 1.8 E 2016 น้ำเงิน

7. Honda Civic 1.8 E ปี 2016 เลขไมล์ 59,040 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 589,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/honda-civic-2016-G97K65.html

HONDA CIVIC 1.8 E 2018 Gray

HONDA CIVIC 1.8 E 2018 Gray

8. Honda Civic 1.8 E ปี 2018 เลขไมล์ 55,770 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 619,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/honda-civic-2018-GMLK9R.html

HONDA CIVIC 1.8 EL 2019 ขาว

HONDA CIVIC 1.8 EL 2019 ขาว

9. Honda Civic 1.8 EL ปี 2019 เลขไมล์ 51,706 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 709,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/honda-civic-2019-E170PY.html

HONDA CIVIC 1.8 E 2017 ขาว

HONDA CIVIC 1.8 E 2017 ขาว

10. Honda Civic 1.8 E ปี 2017 เลขไมล์ 72,154 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 629,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/honda-civic-2017-GPOQVV.html

HONDA CIVIC 1.8 EL 2017 ขาว

HONDA CIVIC 1.8 EL 2017 ขาว

11. Honda Civic 1.8 EL ปี 2017 เลขไมล์ 157,270 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 649,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/honda-civic-2017-GJZ1Q5.html

HONDA CIVIC 1.5 TURBO RS 2018 ดำ

HONDA CIVIC 1.5 TURBO RS 2018 ดำ

12. Honda Civic 1.5 Turbo RS ปี 2018 เลขไมล์ 111,366 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 819,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/honda-civic-2018-DONL82.html

HONDA CIVIC 1.8 EL 2020 ดำ

HONDA CIVIC 1.8 EL 2020 ดำ

13. Honda Civic 1.8 EL ปี 2020 เลขไมล์ 69,056 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 799,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/honda-civic-2020-E47331.html

HONDA CIVIC 1.8 E 2017 เทา

HONDA CIVIC 1.8 E 2017 เทา

14. Honda Civic 1.8 E ปี 2017 เลขไมล์ 29,339 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 619,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/honda-civic-2017-G08Q87.html

HONDA CIVIC 1.5 TURBO RS 2016 ดำ

HONDA CIVIC 1.5 TURBO RS 2016 ดำ

15. Honda Civic 1.5 Turbo RS ปี 2016 เลขไมล์ 146,120 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 709,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/honda-civic-2016-E77NPM.html

HONDA CIVIC 1.5 TURBO RS 2016 ขาว

HONDA CIVIC 1.5 TURBO RS 2016 ขาว

16. Honda Civic 1.5 Turbo RS ปี 2016 เลขไมล์ 98,224 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 769,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/honda-civic-2016-EQPN7R.html

HONDA CIVIC 1.8 EL 2018 เทา

HONDA CIVIC 1.8 EL 2018 เทา

17. Honda Civic 1.8 EL ปี 2018 เลขไมล์ 70,322 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 709,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/honda-civic-2018-GPO71O.html

HONDA CIVIC 1.8 FC EL I-VTEC 2018 เทา

HONDA CIVIC 1.8 FC EL I-VTEC 2018 เทา

18. Honda Civic 1.8 EL ปี 2016 เลขไมล์ 99,984 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 689,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/honda-civic-2018-DRQ72N.html

HONDA CIVIC 1.8 EL 2020 เทา

HONDA CIVIC 1.8 EL 2020 เทา

19. Honda Civic 1.8 EL ปี 2020 เลขไมล์ 30,920 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 809,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/honda-civic-2020-GMLJ78.html

HONDA CIVIC 1.8 EL 2019 เทา

HONDA CIVIC 1.8 EL 2019 เทา

20. Honda Civic 1.5 Turbo ปี 2019 เลขไมล์ 100,745 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 709,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/honda-civic-2019-D57Y85.html

HONDA CIVIC 1.8 FC E i-VTEC 2017 เทา

HONDA CIVIC 1.8 FC E i-VTEC 2017 เทา

21. Honda Civic 1.8 E ปี 2017 เลขไมล์ 129,724 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 599,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/honda-civic-2017-EKJ739.html

HONDA CIVIC 1.8 EL 2016 เทา

HONDA CIVIC 1.8 EL 2016 เทา

22. Honda Civic 1.8 EL ปี 2016 เลขไมล์ 152,309 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 639,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/honda-civic-2016-E174N4.html

HONDA CIVIC 1.8 EL 2017 เทา

HONDA CIVIC 1.8 EL 2017 เทา

23. Honda Civic 1.8 EL ปี 2017 เลขไมล์ 132,773 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 669,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/honda-civic-2017-DRQQP9.html

HONDA CIVIC 1.8 E 2018 ดำ

HONDA CIVIC 1.8 E 2018 ดำ

24. Honda Civic 1.8 E ปี 2018 เลขไมล์ 84,497 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 629,000 บาท!

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/honda-civic-2018-EKJQJ9.html

Carro Automall ตลาดรถ

ถ้าใครที่กำลังมองหา Honda Civic มือสอง (ฮอนด้า ซีวิค มือสอง) แล้วรู้สึกสนใจอยากเป็นเจ้าของขึ้นมา Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

หมายเหตุ: ข้อมูลรถแนะนำจาก Carro เป็นข้อมูลรถยนต์ที่มีจำหน่ายในเดือนกรกฎาคม 2565 / เลขกิโลเมตร ณ วันตรวจสภาพรถ / ราคานี้ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม

Carro แนะนำรถหรู ราคาไม่เกิน 3 ล้าน

Carro แนะนำรถหรู Benz และ BMW ราคาไม่เกินสามล้าน เป็นเจ้าของได้ง่ายๆ!

ในปัจจุบัน “รถมือสอง” ในรูปแบบ “รถหรู” ก็นับได้ว่าเป็นรถยนต์ในกลุ่มตลาดที่ไม่ควรมองข้าม แม้ว่าในช่วงนี้เศรษฐกิจจะยังไม่ดีก็ตาม แต่กลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง เช่น ผู้บริหารระดับสูง เจ้าของกิจการ หรือนักธุรกิจ ก็ยังพร้อมที่จะซื้อรถหรูมาใช้งานได้ตลอดเวลา

ซึ่งการใช้รถหรู จะช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ของผู้เป็นเจ้าของรถ (ไม่ว่าจะขับเอง หรือมีคนขับรถให้นั่งก็ตาม) ซึ่งดูแล้วภูมิฐาน สง่างาม สมฐานะ แต่รถหรูป้ายแดงอาจจะยังมีราคาสูง ถึงหลายล้านบาทต่อคัน

การมองหารถหรูมือสองที่มีสภาพเยี่ยม คุณภาพเยี่ยม มาใช้สักคัน ในราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ก็นับได้ว่าเป็นทางเลือกที่ดี ที่ช่วยให้คุณนำเงินส่วนต่างไปดูแลรักษารถ หรือไปลงทุนในธุรกิจได้มากขึ้น … Carro จึงขอแนะนำ รถหรู Mercedes-Benz (เมอร์เซเดส-เบนซ์) และ BMW (บีเอ็มดับเบิลยู) รวมถึงยี่ห้ออื่นๆ สุดคุ้มน่าใช้ คุณภาพเยี่ยมทุกคันจาก Carro ประจำเดือนกรกฏาคม 2565 ว่ามีรุ่นไหนที่น่าสนใจกันบ้าง รับชมกันได้เลยครับ

Benz C-Class (เมอร์เซเดส-เบนซ์ ซี-คลาส)

MERCEDES-BENZ C350E 2.0 AVANTGARDE 2017 เทา

MERCEDES-BENZ C350E 2.0 AVANTGARDE 2017 เทา

MERCEDES-BENZ C350E 2.0 AVANTGARDE 2017 เทา

1. Mercedes-Benz C 350 e Avantgarde ปี 2017 เลขไมล์ 103,821 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 1,190,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/mercedes-benz-c350e-2017-E4724Z.html

MERCEDES-BENZ C350E 2.0 ESTATE AMG DYNAMIC 2018 ดำ

MERCEDES-BENZ C350E 2.0 ESTATE AMG DYNAMIC 2018 ดำ

MERCEDES-BENZ C350E 2.0 ESTATE AMG DYNAMIC 2018 ดำ

2. Mercedes-Benz C 350 e AMG Dynamic ปี 2018 เลขไมล์ 88,063 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 1,279,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/mercedes-benz-c350e-2018-EWYX1Y.html

Benz E-Class (เมอร์เซเดส-เบนซ์ อี-คลาส)

MERCEDES-BENZ E300 2.2 BLUETEC HYBRID AMG DYNAMIC 2015 เทา

MERCEDES-BENZ E300 2.2 BLUETEC HYBRID AMG DYNAMIC 2015 เทา

MERCEDES-BENZ E300 2.2 BLUETEC HYBRID AMG DYNAMIC 2015 เทา

1. Mercedes-Benz E 300 Bluetec Hybrid Executive ปี 2015 เลขไมล์ 123,296 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 959,000 บาท!

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/mercedes-benz-e300-2015-GV94RK.html

MERCEDES-BENZ E200 2.0 COUPE AMG DYNAMIC 2015 ดำ

MERCEDES-BENZ E200 2.0 COUPE AMG DYNAMIC 2015 ดำ

MERCEDES-BENZ E200 2.0 COUPE AMG DYNAMIC 2015 ดำ

2. Mercedes-Benz E 200 Coupe AMG Dynamic ปี 2015 เลขไมล์ 75,692 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 1,689,000 บาท!

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/mercedes-benz-e200-2015-G97W7N.html

BENZ E-CLASS E300 2.0 AMG DYNAMIC 2020 เทา

BENZ E-CLASS E300 2.0 AMG DYNAMIC 2020 เทา

BENZ E-CLASS E300 2.0 AMG DYNAMIC 2020 เทา

3. Mercedes-Benz E 300 AMG Dynamic ปี 2020 เลขไมล์ 974 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ลดราคา! เหลือ 2,739,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/benz-e-class-2020-EN2RRJ.html

Benz CLS-Class (เมอร์เซเดส-เบนซ์ ซีแอลเอส-คลาส)

BENZ CLS-CLASS 300d AMG Premium 2018 เทา

BENZ CLS-CLASS 300d AMG Premium 2018 เทา

BENZ CLS-CLASS 300d AMG Premium 2018 เทา

3. Mercedes-Benz CLS 300 d AMG Premium ปี 2018 เลขไมล์ 89,383 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 3,090,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/benz-cls-class-2018-DXZMM1.html

Benz GLA-Class (เมอร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลเอ-คลาส)

MERCEDES-BENZ GLA250 2.0 AMG DYNAMIC 2019 เทา

MERCEDES-BENZ GLA250 2.0 AMG DYNAMIC 2019 เทา

MERCEDES-BENZ GLA250 2.0 AMG DYNAMIC 2019 เทา

1. Mercedes-Benz GLA 250 AMG Dymanic ปี 2019 เลขไมล์ 48,697 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ลดราคา 1,629,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/mercedes-benz-gla250-2019-ENMO21.html

BMW Series-3 (บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 3)

BMW 320D 2.0 GRAND TURISMO LUXURY 2019 ดำ

BMW 320D 2.0 GRAND TURISMO LUXURY 2019 ดำ

BMW 320D 2.0 GRAND TURISMO LUXURY 2019 ดำ

1. BMW 320 d GT Luxury ปี 2019 เลขไมล์ 51,599 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 1,859,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/bmw-320d-2019-G3714P.html

BMW Series-5 (บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 5)

BMW SERIES 5 520D 2018 ขาว

BMW SERIES 5 520D 2018 ขาว

BMW SERIES 5 520D 2018 ขาว

1. BMW 520 d ปี 2018 เลขไมล์ 17,576 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 2,299,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/bmw-series-5-2018-DXZXW1.html

BMW 520D 2.0 LUXURY 2017 ดำ

BMW 520D 2.0 LUXURY 2017 ดำ

BMW 520D 2.0 LUXURY 2017 ดำ

2. BMW 520 d Luxury ปี 2017 เลขไมล์ 112,292 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 1,809,000 บาท!

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/bmw-520d-2017-GJZPZ5.html

BMW X1 (บีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์ 1)

BMW X1 2.0 sDrive18i Highline 2012 ขาว

BMW X1 2.0 sDrive20d Highline 2012 ขาว

BMW X1 2.0 sDrive18i Highline 2012 ขาว

1. BMW X1 sDrive Highline ปี 2012 เลขไมล์ 169,046 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 709,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/bmw-x1-2012-DLX303.html

BMW X3 (บีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์ 3)

BMW X3 2.0 XDRIVE20D M SPORT 2018 ดำ

BMW X3 2.0 XDRIVE20D M SPORT 2018 ดำ

BMW X3 2.0 XDRIVE20D M SPORT 2018 ดำ

1. BMW X3 xDrive20d M Sport ปี 2018 เลขไมล์ 99,481 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 2,390,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/bmw-x3-2018-DLKMXN.html

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่ มาขายรถกับทาง Carro Express สิ! คลิกเลยที่ https://th.carro.co/sell-car/express รับรองได้เงินเร็ว ไว ทันใจแน่นอน!

Carro Automall ตลาดรถ

ส่วนใครสนใจจะซื้อรถมือสอง Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

หมายเหตุ: ข้อมูลรถแนะนำจาก Carro เป็นข้อมูลรถยนต์ที่มีจำหน่ายในเดือนกรกฎาคม 2565 / เลขกิโลเมตร ณ วันตรวจสภาพรถ

รถยนต์ไฟฟ้า มีขึ้นในโลกกว่า 140 ปี!

ในเวลานี้ยุคที่น้ำมันราคาแพงไปทั่วโลก ส่งผลให้ “รถยนต์ไฟฟ้า” ที่กำลังบูมในตลาดโลกมาอย่างต่อเนื่องเมื่อหลายปีที่ผ่านมา ยิ่งมาแรงไปกว่าเดิมอีก! เนื่องจากการชาร์จไฟรถยนต์ช่วยลดค่าใช้จ่ายได้มาก สะอาด เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ที่ผู้คนทั่วโลกต่างเปิดใจยอมรับ และรัฐบาลแต่ละประเทศผลักดันเป็นนโยบายเร่งด่วนให้ทุกค่ายรถต้องผลิตรถ EV ขายเป็นหลักในอนาคต

แต่คุณทราบหรือไม่ว่า รถยนต์ไฟฟ้า มีต้นกำเนิดในช่วงเวลาที่ไล่เลี่ยกับรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเลย เพื่อทดแทนจากใช้รถม้า นั่นคือย้อนไปเมื่อประมาณ 140 ปีก่อน กับจุดเริ่มต้นที่น่าสนใจ ที่คนสนใจประวัติรถยนต์ไฟฟ้า ต้องไม่พลาด!

Mr.Carro จะมาเล่าให้ฟัง ถึงประวัติรถยนต์ไฟฟ้า และรถยนต์ไฟฟ้าคันแรกของโลกกันครับ

Gustave Trouve รถยนต์ไฟฟ้า Tricycle

Gustave Trouve กับรถยนต์ไฟฟ้า 3 ล้อ

หลังจากการคิดค้นแบตเตอรี่เพื่อเก็บพลังงานไฟฟ้าได้ และมอเตอร์ไฟฟ้าเพื่อการขับเคลื่อน จากนักประดิษฐ์หลายคน …

รถยนต์ไฟฟ้าที่พัฒนาขึ้นมาครั้งแรกของโลก เกิดขึ้นในช่วงปี ค.ศ. 1881 โดย Gustave Trouve นักประดิษฐ์ชาวฝรั่งเศส ได้นำเสนอรถยนต์ไฟฟ้า ที่สร้างมาในรูปแบบของรถ 3 ล้อ (Tricycle) ภายในงานแสดงสินค้านานาชาติ International Electrical Exhibition ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส แต่เป็นเพียงการโชว์เท่านั้น

Thomas Parker รถยนต์ไฟฟ้า

Thomas Parker กับรถยนต์ไฟฟ้า

ต่อมาในปี ค.ศ. 1884 Thomas Parker วิศวกรไฟฟ้า และนักประดิษฐ์ชาวอังกฤษ ที่ได้ชื่อว่าเป็น “The Edison of Europe” ผู้พัฒนาระบบไฟฟ้าของรถไฟใต้ดินของกรุงลอนดอน และสายไฟสำหรับรถรางไฟฟ้าในเมือง Liverpool และ Birmingham ได้สร้างรถยนต์ไฟฟ้าแบบชาร์จได้จากแบตเตอรี่ที่ออกแบบเอง ในเมือง Wolverhampton ประเทศอังกฤษ แต่รถยนต์ไฟฟ้าคันนี้ ก็เหลือแค่เพียงหลักฐานที่เป็นรูปถ่ายจากในปี 1895 เท่านั้น

นับได้ว่า อังกฤษ และฝรั่งเศส เป็นสองชาติที่กระตุ้นให้เกิดการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าอย่างกว้างขวาง จนถึงข้ามฝั่งไปยังสหรัฐอเมริกาด้วย

Andreas Flocken รถยนต์ไฟฟ้า Flocken Elektrowagen

Andreas Flocken กับรถยนต์ไฟฟ้า Flocken Elektrowagen

ในปี ค.ศ. 1888 Andreas Flocken นักประดิษฐ์ชาวเยอรมัน ได้ออกแบบรถยนต์ไฟฟ้าที่มีชื่อว่า Flocken Elektrowagen ซึ่งรถคันนี้ถูกจัดว่าเป็น “รถยนต์ไฟฟ้าคันแรกของโลก” ที่แท้จริง และยังมีของจริงคันเป็นๆ เหลืออยู่ ตัวรถให้กำลัง 0.9 กิโลวัตต์ (1 แรงม้า) วิ่งได้ด้วยความเร็วสูงสุด 15 กม./ชม. บนน้ำหนักตัวรถ 400 กิโลกรัม

รถแท็กซี่ไฟฟ้าใน New York และ London

ยุคทองของรถยนต์ไฟฟ้า

ในช่วงปี 1890 – 1900 นับได้ว่าเป็น “ยุคทอง” ของรถยนต์ไฟฟ้าช่วงเริ่มต้นเลยทีเดียว มีผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเริ่มเกิดขึ้นอย่างมาก ทั้งจากฝั่งยุโรปและฝั่งอเมริกา

โดยในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ยังมีการนำรถยนต์ไฟฟ้า มาใช้งานจริงด้วยการทำเป็นรถแท็กซี่ให้บริการอีกด้วยในปี 1897 เพื่อทดแทนรถม้า และในปีเดียวกัน ก็มีบริษัท Samuel’s Electric Carriage and Wagon Company เริ่มต้นให้บริการรถม้าไฟฟ้า (Hansom Cabs) ในเมือง New York ประเทศสหรัฐอเมริกา

ด้วยข้อดีของรถยนต์ไฟฟ้า ที่ไม่ต้องสตาร์ท ไม่ต้องเข้าเกียร์ ไม่มีควันไอเสีย และเงียบ ไม่สั่นสะท้าน เหยียบคันเร่งอย่างเดียวคล้ายรถ EV ในยุคนี้ จึงเป็นการใช้งานที่สะดวกสบายกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมันในยุคนั้น (เพราะต้องหมุนเครื่องยนต์ด้านหน้ารถเพื่อสตาร์ท เครื่องยนต์เสียงดัง กลิ่นน้ำมันที่แรงกว่าน้ำมันยุคนี้ และเกียร์ที่เข้าค่อนข้างยาก) หรือรถยนต์พลังไอน้ำ (ที่ต้องใช้เวลาอุ่นเครื่องนานมาก กว่าจะขับออกไปได้ และน้ำหนักรถเยอะ เพราะต้องบรรทุกน้ำไปด้วย)

ประวัติรถยนต์ไฟฟ้า มีขึ้นในโลกกว่า 140 ปี!

ขาลงของรถยนต์ไฟฟ้า (ยุคแรก)

รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน (Internal Combustion Engine) เป็นเชื้อเพลิง เริ่มพัฒนาให้สามารถวิ่งได้ไกล เร็ว และสะดวกสบายในการใช้งานที่มากขึ้น ด้วยมอเตอร์สตาร์ทเครื่องยนต์ ทำให้รถยนต์ที่ใช้น้ำมัน เริ่มได้รับความนิยมและเข้ามาแทนที่รถยนต์พลังงานไฟฟ้า ที่ในเวลานั้นรถยนต์ไฟฟ้ายังทำความเร็วได้ไม่มาก (เฉลี่ย 24 – 32 กม./ชม.) และระยะทางในการวิ่งที่ไม่เยอะ (เฉลี่ย 50 – 65 กิโลเมตร ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง) ใช้งานได้แค่ในเมืองมากกว่า

การสร้างถนนออกนอกเมืองมากขึ้น ย่นเวลาการเดินทางได้มากขึ้น รถยนต์ไฟฟ้าซึ่งมีขีดจำกัดในการเดินทางไกลๆ ส่วนแบตเตอรี่ในยุคนั้น ก็ไม่สามารถเก็บพลังงานไว้ใช้เดินทางระยะไกลได้ รถยนต์ไฟฟ้าเลยเสื่อมความนิยมลง

ยุคท้ายสุดของรถยนต์ไฟฟ้าช่วงแรก นั่นคือการที่ Henry Ford (เฮนรี่ ฟอร์ด) สามารถสร้างรถ Ford Model T ออกมาได้เป็นผลสำเร็จ และสามารถผลิตรถยนต์แบบ Mass Production สาารถผลิตรถยนต์ได้เป็นจำนวนมาก จนต้นทุนราคารถยนต์ลดลง จนเกิด Economies of Scales ที่คนทั่วไปจับต้องได้

ราคาของรถ Ford Model T อยู่ที่ 260 ดอลลาร์สหรัฐ แต่รถยนต์ไฟฟ้าอยู่ที่ราคา 1,750 ดอลลาร์สหรัฐ แพงกว่าโมเดล T เกือบ 7 เท่า!

รวมไปถึงการค้นพบน้ำมันในรัฐ Texas และ Okahoma ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน จึงส่งผลให้น้ำมันมีราคาถูกลงมาก คนนิยมใช้รถยนต์กันอย่างมหาศาล จนบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ต้องทยอยปิดตัวกันไป หรือไปทำกิจการอย่างอื่นแทน

รถยนต์ไฟฟ้า Tama Electric Car

หวนมาอีกครั้งในช่วงสั้นๆ

ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ทั่วโลกประสบปัญหาขาดแคลนน้ำมัน ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าได้ถูกนำมาทำตลาดกันอีกครั้ง จากผู้ผลิตต่างๆ เช่น Tachikawa Aircraft Company ประเทศญี่ปุ่น (ต่อมากลายเป็นบริษัท Prince Motor ก่อนถูกรวบกิจการโดย Datsun และ Nissan ในปี 1966)

ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า Tama Electric Car ที่พัฒนาโดย Tokyo Electro Automobile ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 3.3 กิโลวัตต์ และแบตเตอรี่แบบ Lead-Acid (40V/162Ah) ออกมาในปี 1947 เพื่อใช้มาทำเป็นรถแท็กซี่

รถยนต์ไฟฟ้า Henney Kilowatt

และในสหรัฐอเมริกา มีการนำเอา Renault Dauphine มาดัดแปลงเป็นรถยนต์ไฟฟ้าโดย Henney Kilowatt (เฮนนี่ กิโลวัตต์) ที่แต่เดิมคือบริษัท Henney Motor Company ร่วมกับทาง Eureka Williams จากนั้นได้เข้ามาเป็นบริษัทในเครือของ National Union Electric Co. ในปี 1953 ริเริ่มโครงการขึ้นโดย C. Russell Feldmann นำเอาแบตเตอรี่มาใส่ใน Renault Dauphine จำหน่ายในปี 1959 – 1960

ใช้ชุดมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 5.2 กิโลวัตต์ (7 แรงม้า) ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 3 สปีด โดยในรุ่นปี 1959 ติดตั้งแบตเตอรี่ขนาด 36V สามารถวิ่งได้ระยะทางถึง 64 กิโลเมตร เร่งได้เร็วกว่า 60 กม./ชม. ต่อมาในปี 1960 ปรับปรุงชุดแบตเตอรี่ใหม่เป็นขนาด 72V วิ่งได้ระยะทางไกลถึง 97 – 105 กิโลเมตร และทำความเร็วได้เกิน 90 กม./ชม.

ตัวรถสร้างขึ้นมาทั้งหมดเพียงแค่ 100 คัน แต่ขายได้แค่เพียง 47 คัน สนนราคา 3,600 ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่ Renault Dauphine ปกติ จำหน่ายในราคา 1,645 ดอลลาร์สหรัฐ

ซึ่ง Henney Kilowatt จัดได้ว่าเป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของโลก ที่ผลิตในระบบ Mass Production

ประวัติรถยนต์ไฟฟ้า มีขึ้นในโลกกว่า 140 ปี!

ในยุค 70 -90 ก็มีผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่หลายเจ้า เช่น GM, GE, Ford, Toyota, Nissan, Honda, Mitsubishi, Mercedes-Benz, BMW หรือ Renault ก็เริ่มพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า ในรูปแบบรถยนต์ต้นแบบ หรือรถทดลองใช้งานจริง และ Tesla ก็มาเป็นผู้จุดประกายความโด่งดังให้รถยนต์ไฟฟ้าเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ในยุค 2000 จนเกิดผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ ขึ้นมามากมายในปัจจุบันครับ

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้ มาขายรถกับทาง Carro Express สิ! คลิกเลยที่ https://th.carro.co/sell-car/express รับรองได้เงินเร็ว ไว ทันใจแน่นอน!

Carro Automall ตลาดรถ

ส่วนใครสนใจจะซื้อรถมือสอง Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

แหล่งที่มาบางส่วนจาก:

3 เคล็ดลับ การเทิร์นรถเก่าแลกรถใหม่!

แม้ว่าในปีนี้ ประเทศไทยยังต้องเผชิญกับวิกฤตอันหนักหนาสาหัส นับตั้งแต่เศรษฐกิจแย่ เจอโควิด-19 ที่ระบาดซ้ำกระหน่ำหลายรอบ แม้ว่าภาครัฐจะผ่อนคลายมาตรการโควิด-19 และเริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยวแล้วก็ตาม

แต่จากปัญหาที่ผ่านมา ยังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จนคนที่กำลังอยากซื้อรถใหม่ป้ายแดง หรือรถมือสองคันใหม่ในเวลานี้ ต้องคิดแล้วคิดอีกกันเป็นแถวๆ แม้ว่าบรรดาค่ายรถ เต็นท์รถ สถาบันการเงิน ต่างออกแคมเปญโหมกระหน่ำ ลด แลก แจก แถม กันพรึ่บ

แต่ถ้าหากคุณมีความจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนรถคันใหม่ในเวลานี้ หรืออยากซื้อรถใหม่มาใช้แทนคันเก่า ยิ่งในช่วงโควิด-19 หลายคนต้องการเปลี่ยนรถคันใหม่ เพื่อให้พร้อมใช้งานในการเดินทางมากขึ้น หรือต้องการให้สมาชิกครอบครัวที่มีอยู่หลายคน ได้เดินทางไปกับรถยนต์ที่มีขนาดกว้างใหญ่ขึ้น เพื่อจะได้นั่งกันอย่างสบายๆ ไม่ต้องเบียดเสียดกันใช้บริการระบบขนส่งมวลชนที่มีคนใช้จำนวนมาก

Mr.Carro จะมาเผยถึง 3 เคล็ดลับ การเทิร์นรถเก่าแลกรถใหม่ ที่ทำให้คุณปล่อยรถคันเก่าออกได้ไวสุดๆ กันครับ

3 เคล็ดลับ สำหรับคนเปลี่ยนรถใหม่ ด้วยการขายรถ หรือเทิร์นรถ!

1. ศึกษาหาข้อมูล เตรียมเอกสารให้พร้อม ตั้งราคาขายให้เหมาะสม

ก่อนคุณจะเทิร์นรถใหม่ หรือขายรถคันเดิมออกแล้วซื้อคันใหม่ ควรศึกษาหาข้อมูลรถรุ่นของคุณในตลาดรถมือสองดูก่อนว่า ราคารถรุ่นที่คุณใช้ เขาขายกันอยู่ที่เท่าไหร่? ถ้าหากรถคุณสภาพแย่หน่อย มีเสียหลายอย่าง หรือมีหลายสิ่งหลายอย่างต้องเปลี่ยน หรือภาษีขาด บางคันขาดเกิน 3 ปี ต้องจดทะเบียนใหม่ หรือแต่งซิ่งไปเยอะ ก็อาจจะต้องตั้งราคาต่อรองไว้ถูกหน่อย จะได้ดึงดูดใจให้คนอยากซื้อ (ไปเก็บงานต่อ) ได้

แต่ถ้าหากรถของคุณสภาพสวยมาก เดิมๆ ทั้งคัน ใช้น้อย ดูแลรักษาดีทุกอย่าง เข้าศูนย์บริการ ตรวจเช็คตามระยะตลอด ภาษีเต็ม ถ้าคุณมั่นใจแบบนี้ ก็ตั้งราคาขายไว้สูงหน่อยก็ได้ เผื่อจะมีคนกล้าสู้ราคา ให้ราคาสูง

แต่เอกสารรถต้องพร้อมด้วยนะ ทั้งเล่มทะเบียน ชุดโอน ใบมอบอำนาจต่างๆ หรือเอกสารที่ยืนยันได้ว่า รถคุณซื้อไปแล้ว โอนได้อย่างแน่นอน ก็จะช่วยให้เทิร์นรถ หรือขายรถได้ง่ายขึ้น

3 เคล็ดลับ สำหรับคนเปลี่ยนรถใหม่ ด้วยการขายรถ หรือเทิร์นรถ!

2. ขายดาวน์

รถยนต์บางคันอาจจะกำลังอยู่ในช่วงที่ผ่อนอยู่ หลายคนอาจเลือกการขายรถด้วยเงินสด เอาไปปิดยอดหนี้ บางทีก็ต้องเสียเวลานำรถไปตระเวนตามเต็นท์รถหลายๆ ที่ ให้เขาตีราคา ซึ่งก็ไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่

กรณีนี้ต้องหาคนมาซื้อต่อให้ได้ แล้วค่อยเปลี่ยนสัญญา คือ ทำเรื่องเปลี่ยนสัญญากับไฟแนนซ์ไป ให้ผู้ซื้อคนใหม่รับการผ่อนจ่ายส่วนนี้ต่อไป

หรือขายผ่านเต็นท์รถก็ย่อมได้ เพียงแค่คุณเช็กยอดปิด เช็กราคาเต็นท์รับซื้อ ว่ารถของคุณตีราคาน่าจะได้เท่าไหร่ แล้วหัก ยอดปิด เท่ากับ เงินสดส่วนต่างที่ได้รับ ซึ่งเต็นท์รถจะไปปิดบัญชีรถยนต์กับไฟแนนซ์ให้ แต่คุณก็อาจจะได้ราคาตัวรถที่น้อยกว่าราคาตลาดหน่อย ซึ่งก็แลกมากับความสะดวกและไม่ยุ่งยาก

ถ้าขายรถคันเดิมได้แล้ว ไม่พอเงินดาวน์ หรือเงินไปซื้อรถใหม่ ก็ต้องหาเงินมาเพิ่มแล้วล่ะ …

Carro Automall ตลาดรถ

3. เทิร์นรถ หรือขายรถผ่าน Carro เพื่อซื้อรถคันใหม่

การเทิร์นรถ คือ การแลกเปลี่ยนรถกันแล้วเพิ่มเงินส่วนต่าง โดยจะเทิร์นรถกับดีลเลอร์รถ หรือกับบุคคลทั่วไปก็ได้ แต่การเทิร์นรถกับดีลเลอร์ จะได้ราคาดีกว่าขายรถให้กับดีลเลอร์อย่างเดียว เทิร์นรถจึงเป็นอีกทางหนึ่ง ที่จะทำให้ได้รถคันใหม่ที่คุณต้องการได้

ข้อดีของการเทิร์นรถ คือ หากคุณยังผ่อนรถไม่หมด ก็ขายได้ และนำเงินที่ขายนั้นไปปิดหนี้ไฟแนนซ์ แต่หากถ้าขายแล้วเงินไม่พอปิดหนี้ จะต้องนำเงินมาจ่ายเพิ่มนั่นเอง

วิธีง้ายง่ายที่สุด สำหรับการเทิร์นรถ หรือขายรถในเวลานี้ คือ “การขายรถยนต์ออนไลน์” ซึ่งง่าย สะดวก ไม่ยุ่งยาก เพียงแค่มาขายรถกับ Carro ซึ่งตอนนี้ ทางคาร์โรมีบริการโฉมใหม่! ที่สามารถขายรถของคุณได้ภายใน 24 ชม. อีกทั้งได้ราคาดี ไม่โดนกดราคาแน่นอน

สำหรับใครที่อยากขายสนใจขายรถกับ CARRO ตอนนี้ มาขายรถกับ Carro Express สิ! หรือจะ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

หรือถ้าใครอยากเทิร์นรถ แล้วเพิ่มเงินส่วนต่างเพื่อเปลี่ยนรถคันใหม่ ต้องเอาให้คุ้ม! คาร์โรให้คุณนำรถคันเก่ามาแลกรถคันใหม่ มอบส่วนลดสูงสุด 10,000 บาท แถมยังให้คุณเติมน้ำมันฟรีอีก 5,000 บาท แค่ออกรถภายในเดือนกรกฎาคม 2565 นี้

สำหรับรถที่ร่วมรายการ* เลือกรับ

  • ดอกเบี้ยพิเศษ 2.59%
  • ผ่อน 0% นาน 12 เดือน
  • ผ่อนนาน 84 งวด หรือ
  • ผ่อนเริ่มต้นเพียง 3,XXX บาทต่อเดือน
  • ฟรี! เปลี่ยนน้ำมันเครื่องและกรองอากาศ ก่อนส่งถึงมือคุณ

พร้อมสิทธิพิเศษ ที่คุณจะได้รับทันทีทุกคัน

  • รับประกันคุณภาพรถยนต์ Carro ให้มากถึง 1 ปีหรือ 30,000 กม.
  • รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพ 160 จุด โดยผู้เชี่ยวชาญ
  • รับประกันคาร์โรไม่กรอไมล์
  • ไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม
  • ยินดีคืนเงินภายใน 5 วัน หากลูกค้าไม่พอใจในตัวรถ

เลือกชมรถ [คลิกเลย] >> https://th.carro.co/taladrod

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

เงื่อนไข

  • ระยะเวลาโปรโมชันตั้งแต่วันที่ 1 – 31 กรกฎาคม 2565
  • ลูกค้าที่ทำการขายและซื้อรถยนต์มือสองที่ร่วมรายการกับคาร์โรสำเร็จในช่วงเวลาโปรโมชั่น จะได้รับส่วนลดสูงสุด 10,000 บาท ต่อการซื้อรถ 1 คัน และรับบัตรน้ำมันมูลค่า 5,000 บาท (ของแถมมีจำนวนจำกัด)
  • ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงส่วนลดเป็นเงินสดได้
  • เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด โปรดตรวจสอบ ณ จุดขาย
  • ขอสงวนสิทธิ์ยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
  • การตัดสินของบริษัทฯ ถือเป็นที่สิ้นสุด และไม่สามารถใช้ร่วมกับรายการส่งเสริมการขาย หรือส่วนลดอื่นๆ ได้

ยางอะไหล่สำคัญไหม ควรมีหรือไม่จำเป็น?

สวัสดีครับพบกับไทร์บิดออนไลน์เช่นเคย อยากมาพูดถึงเรื่องยางอะไหล่สักหน่อยเพราะเป็นตัวช่วยในยามฉุกเฉินที่ทำให้รถของเพื่อนๆยังวิ่งต่อไปได้แม้เจอสถานการณ์ฉุกเฉินที่ไม่คาดฝัน ซึ่งปัจจุบันเท่าที่ไทร์บิดพบเจอก็คือรถรุ่นใหม่ๆ ไม่ค่อยมียางอะไหล่มาให้เหมือนแต่ก่อน เพราะฉะนั้นเพื่อนๆควรทำอย่างไรกันบ้าง และ หากจะมียางอะไหล่ควรดูแลยังไงให้ถูกต้อง

ยางอะไหล่สำคัญไหม ควรมีหรือไม่จำเป็น?

ยางอะไหล่กับอุปกรณ์ปะยางฉุกเฉินใช้งานแตกต่างกันอย่างไร

รถรุ่นเก่าเกิน 10 ปีส่วนมากทุกคันจะให้ยางอะไหล่ไว้ในท้ายรถจากโรงงาน เผื่อใช้กรณีฉุกเฉินยางรถยนต์แตกเสียหายก็สามารถเปลี่ยนทดแทนและใช้งานรถต่อได้เลย แต่เนื่องด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ มากมายทำให้มีตัวยี่ห้อรถยนต์หลายๆค่ายใช้อุปกรณ์ที่ไว้สำหรับช่วยเหลือฉุกเฉินแทน แทนที่จะให้ยางอะไหล่ ซึ่งอุปกรณ์ปะยางฉุกเฉินก็จะมีหน้าที่เหมือนเป็นตัวยางที่อัดเข้าไปในท้องยางเพื่ออุดรอยรั่วแล้วก็อัดลมเข้าไปต่อก็จะสามารถวิ่งไปต่อได้ ซึ่งการใช้วิธีนี้สามารถใช้ได้เฉพาะยางรั่วโดนตะปูตำเท่านั้นละครับ แต่ถ้าเพื่อนๆ ยางระเบิดเสียหายแตกแก้มนี้คือหมดสิทธิ์ใช้อุปกรณ์นี้เลยนะครับ

เพื่อนๆ ต้องพึ่งพารถยก หรือ ต้องเรียก SOS ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงแน่ๆโดยเฉพาะเพื่อนๆที่วิ่งต่างจังหวัดค่อนข้างหายางอะไหล่ยากครับ ยิ่งเป็นไซส์ยางไม่ได้รับความนิยมหรือสั่งพิเศษยิ่งหายากเข้าไปอีก เพราะร้านยางมักจะสต๊อกเพื่อทำโปรโมชั่นยางรถขายดี ไซส์ยอดนิยมเป็นหลักครับ ดังนั้นผมคิดว่าการที่เพื่อนๆจะลงทุนซื้อยางอะไหล่ติดไว้ต่างหากก็น่าจะเป็นทางออกที่ดีกว่าครับ แต่อาจจะต้องทำใจเรื่องที่พกพานิดนึงเพราะรถรุ่นใหม่จะไม่มีที่วางยางอะไหล่ แล้วถ้าวางไว้ที่หลังรถเฉยๆก็จะส่งกลิ่นมาได้เพราะฉะนั้นถ้าเพื่อนๆมีติดไว้ก็อาจจะหา แรพมาพันไว้ก็ช่วยในเรื่องกลิ่นและคงสภาพสมบูรณ์ไว้ได้ดีขึ้นครับ

ยางอะไหล่สำคัญไหม ควรมีหรือไม่จำเป็น?

เครื่องเติมลมฉุกเฉิน อุปกรณ์สำคัญมีประโยชน์กว่าที่คิด

สรุป สำหรับไทร์บิดเองสำหรับเพื่อนๆที่ขับใน กรุงเทพและปริมณฑลหรือว่าระยะทางใกล้ๆในเมืองกรณีที่ไม่มียางอะไหล่ติดรถพอหาได้ร้านยางใกล้ๆได้ครับ แต่กรณีที่วิ่งทางไกลไทร์บิดของเรายังไงก็ยังคงแนะนำให้หาซื้อยางอะไหล่ติดรถไว้ครับ เพราะเครื่องมืออุปกรณ์ช่วยเหลือฉุกเฉินนั้นไม่สามารถช่วยเหลือได้ในทุกกรณี โดยเฉพาะในกรณีที่ยางแตกเสียหายครับ เกร็ดอีกนิดสำหรับเพื่อนๆที่มียางอะไหล่หรือไม่มียางอะไหล่ผมแนะนำว่าควรมีเครื่องเติมลมฉุกเฉินไว้ในรถครับ เพราะว่าอย่างน้อยยางเราอ่อนก็เติมลมได้เลย หรือยางอะไหล่ไม่มีลมก็เติมลมได้เช่นกันครับ

ยางอะไหล่สำคัญไหม ควรมีหรือไม่จำเป็น?

ยางอะไหล่จำเป็นต้องเปลี่ยนใหม่ไหม และดูแลรักษาอย่างไรที่เหมาะสม

โอเครเรามาต่อกันที่การดูแลของยางอะไหล่แน่นอนครับยางอะไหล่ชื่อชัดเจนอยู่แล้วครับว่า ยางอะไหล่สำหรับใช้งานฉุกเฉินเท่านั้นไม่แนะนำให้ใช้ยาวๆดังนั้นแม้ว่ายางจะเก่าหน่อยก็ถือว่าใช้งานได้ครับ แต่ก็จะมีอายุของมันครับผม อย่างแรกเลยยางอะไหล่ที่อยู่หลังรถกรณีที่เติมลมอัดไว้ แนะนำว่าควรเปลี่ยนทุกๆ 5-7 ปีครับ แต่กรณีที่ไม่อัดลมไว้มีเครื่องเติมลมฉุกเฉินไว้ในรถก็ยืดอายุไปอีก 2-3 ปีครับ กรณีที่เราไม่ได้อัดลมให้เต็มก็จะทำให้โครงยางนั้นไม่ต้องทำงานหนักในการกักเก็บลมยางครับ จึงทำให้อยู่ได้นานครับ แล้วถ้าพอถึงอายุยางอะไหล่ก็เป็นสิ่งที่ควรเปลี่ยนใหม่ครับผมเหมือนสิ่งอื่นๆบนรถที่ต้องมีอายุการใช้งานของยาง แม้จะไม่ได้ใช้งานเลยตลอดอายุการใช้งานเลยก็ตามครับ

เห็นไหมครับว่าบางอย่างเป็นเรื่องของความปลอดภัยของเพื่อนๆเองเราก็ต้องดูแลตัวเองครับ ไม่ใช่ว่าเราซื้อรถมาเค้าไม่มีให้เราก็ปล่อยผ่านไม่เตรียมตัว เพื่อนๆเป็นคนใช้รถเองแนะนำว่าให้ห่วงเรื่องความปลอดภัยของเราเองให้มากที่สุดครับเพราะอุบัติเหตุนั้นเราไม่รู้เลยว่าจะเกิดเมื่อไหร่ โดยเฉพาะหากมีคนที่คุณรักอยู่บนรถของคุณด้วยแล้วเพื่อนๆยิ่งต้องเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมให้ครบครับ อีกนิดเดียวครับสิ่งที่ไทร์บิดอยากจะแนะนำคือก่อนขับรถออกจากบ้าน แนะนำว่าควรเดินดูรอบรถว่ายางของเราอยู่ในสภาพใช้งานหรือไม่ มีสภาพยางเสียหายบาดบวมไหม เพราะ การทำแบบนี้จะช่วยลดโอกาสยางเสียหายสูงถึง 50% เลยครับ

Tiresbid-Online แพลตฟอร์มเรื่องยางรถที่ดีที่สุด บริการอย่างมืออาชีพ

Tiresbid-Online แพลตฟอร์มเรื่องยางรถที่ดีที่สุด บริการอย่างมืออาชีพ

หากเพื่อนๆมีข้อสงสัยไม่รู้ว่าจะเลือกยางยี่ห้อไหนและช้อปเช็กยาง & นัดหมายออนไลน์ที่ https://tiresbid.com/home ได้เลยครับ เพราะเราเป็นเว็บจำหน่ายยางที่ดีที่สุดครับ มีแบรนด์สินค้าคุณภาพให้เลือกมากที่สุด และเพื่อนๆสามารถหาอ่านบทความรู้ยานยนต์และรีวิวยางรถยนต์ครอบคลุมการใช้งานมากที่สุดในประเทศ แถมไทร์บิดเรายังมีบริการผู้เชี่ยวชาญในการให้คำปรึกษาอย่างเป็นกลาง ให้เพื่อนๆที่ต้องการสอบถามได้ยางที่เหมาะสมที่สุดผ่านทาง Line OA : @tiresbid (เติม@ด้วยนะครับ) เราเป็นตัวกลางยางมืออาชีพโปรโมชั่นยางรถพิเศษไทร์บิดมากมาย ให้บริการครบทุกรูปแบบ จุดบริการ เปลี่ยนถึงบ้าน จัดส่ง Fast Service ทุกรูปแบบการรับบริการนัดหมายล่วงหน้า ใช้เวลาเพียง 1 ชม.ในการรับบริการติดตั้งเปลี่ยนยาง ให้เรื่องยางรถของคุณง่ายยิ่งขึ้น ซื้อยางรถมั่นใจทุกครั้งที่ไทร์บิด วันนี้ก็ขอขอบคุณมากครับเพื่อนๆที่ติดตาม หากมีข้อสงสัยเลือกยางไม่ถูกสอบถามมาที่ไทร์บิดของเราได้เลยครับ วันนี้ขอบคุณมากครับ