BMW-218i-Gran-Coupe-M-Sport

BMW Group ประเทศไทย ได้ฝ่าฟันกับอุปสรรคทางเศรษฐกิจทั้งในประเทศและในระดับโลก สู่ภาพรวมของผลประกอบการที่แข็งแกร่ง ด้วยสถิติส่งมอบรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูและมินิจำนวน 12,954 คัน ลดลงเล็กน้อยจากปีก่อนหน้าที่ 1% แต่นับว่าเป็นอัตราที่ดีกว่าตลาดโดยรวมในช่วงเวลาเดียวกัน

BMW ปิดฉากปี 2562 ด้วยอดการส่งมอบรถยนต์รวม 11,750 คัน ทำผลงานอยู่ในระดับเดียวกับเซกเมนต์รถยนต์พรีเมียม ปี 2562 ยังเป็นปีที่ BMW สร้างผลงานล้ำหน้าในเซกเมนต์รถหรูด้วยยอดขายจาก BMW ซีรีส์ 7, BMW ซีรีส์ 8, BMW X7 และ BMW i8 ที่เติบโตโดยรวมที่ 39% เมื่อเทียบปีต่อปี และสำหรับรถยนต์ที่ผ่านการใช้งานแล้วตามโปรแกรม BMW Premium Selection มีอัตราการเติบโตที่ 16% เมื่อเทียบปีต่อปี

ในขณะเดียวกัน มินิ ยังสร้างปีแห่งปรากฏการณ์ด้วยยอดส่งมอบรถยนต์ 1,204 คัน โตขึ้นถึง 15% จากปีก่อนหน้า นับเป็นยอดการเติบโตที่สูงที่สุดเมื่อเทียบกับตลาดมินิทั่วโลก

BMW-218i-Gran-Coupe-M-Sport

ผลการดำเนินธุรกิจในระดับโลกของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ยังคงสร้างสถิติความสำเร็จสูงสุดอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 9 ติดต่อกันในปี 2562 ที่ผ่านมา ด้วยยอดการส่งมอบรถยนต์ บีเอ็มดับเบิลยู มินิ และโรลส์-รอยซ์ รวมทั้งหมด 2,520,307 คัน เพิ่มขึ้นกว่าปีก่อนหน้า 1.2% ถือเป็นอีกหนึ่งปีที่ BMW และ BMW Motorrad ทำยอดขายทั่วโลกสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ส่วนกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าก็เติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยได้ส่งมอบรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) และรถยนต์พลังงานไฟฟ้า จากทั้ง BMW และ Mini ไปแล้วถึง 500,000 คัน

BMW-218i-Gran-Coupe-M-Sport

รถยนต์ในกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้าของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ปได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปัจจุบันมีสมาชิกในไลน์อัพรวมทั้งหมด 12 รุ่น ซึ่งยอดขายจากทั้งบีเอ็มดับเบิลยู และมินิได้เติบโตขึ้น 2.2% จากยอดการส่งมอบ 145,815 คันในปีที่ผ่านมา และได้ตั้งเป้าขยายทัพรถยนต์ในกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้าให้ครบ 25 รุ่นภายในปี 2566 โดยกว่าครึ่งของจำนวนนี้จะเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าล้วน 100%

และ BMW ยังได้เปิดตัว BMW 218i Gran Coupe M Sport ใหม่ ในราคา 2,399,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard)

BMW-218i-Gran-Coupe-M-Sport

BMW 218i Gran Coupe M Sport รุ่นแรกในประวัติศาสตร์ มาพร้อมกับ Concept Coupe 4 ประตู ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในรุ่นรถที่สูงกว่า พร้อมให้ได้ยลโฉมเป็นครั้งแรกใน Segmant รถยนต์ Premium Compact มอบอีกหนึ่งทางเลือกที่โก้หรูยิ่งขึ้นให้กับรถยนต์ซีดานรุ่นคลาสสิคนี้ แบบเดียวกับในรถยนต์ BMW ซีรี่ส์ 6, ซีรี่ส์ 4, และ ซีรี่ส์ 8 กับรายละเอียดเฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร

บีเอ็มดับเบิลยู 218i Gran Coupe M Sport ดีไซน์ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากรถยนต์คูเป้รุ่นคลาสสิค เช่น กระจกประตูข้างแบบไร้กรอบทั้ง 4 ประตู ด้านรูปลักษณ์สปอร์ตโหลดเตี้ยทรงกว้าง พร้อมช่วงหน้าอันปราดเปรียว ดูแปลกตาน่าค้นหากว่าเคย ส่วนไฟหน้าสี่ตาอันเป็นเอกลักษณ์ทำมุมเล็กน้อย เสริมความโดดเด่นให้กับกระจังหน้ารูปไตที่มาพร้อมกับซี่กระจังซึ่งให้ความรู้สึกมีมิติยิ่งกว่า มาพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานไฟหน้า LED

BMW-218i-Gran-Coupe-M-Sport

เส้นสายอันเฉียบคมด้านข้างตัวรถของ BMW 218i Gran Coupe M Sport เน้นย้ำสัดส่วนอันปราดเปรียวและความเรียบหรูอันเป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู คูเป้ รุ่นหลัง เส้นโค้งของหลังคาที่ทอดตัวอย่างสง่างาม พร้อมทรงหน้าต่างและเส้นข้างตัวรถที่ยาวขึ้น ส่งให้ตัวรถดูโฉบเฉี่ยวเปรียวยาว ในขณะที่ตัวรถด้านข้างบริเวณเสา C โดดเด่นชัดเจน พร้อมเส้นโค้งอันทรงพลังของล้อหลัง และไฟท้ายเพรียวบางที่ลาดออกในแนวนอน ควบคู่ชิ้นส่วนสีดำ High-gloss Black ที่เชื่อมต่อไฟท้ายทั้งสองส่วนสู่ตราสัญลักษณ์บีเอ็มดับเบิลยูตรงกลาง

BMW-218i-Gran-Coupe-M-Sport

แม้รูปลักษณ์ภายนอกจะดูสปอร์ตปราดเปรียว ผู้โดยสารยังคงเพลิดเพลินไปกับพื้นที่ใช้สอยอันยืดหยุ่น ด้วยที่เก็บของท้ายรถซึ่งรองรับปริมาตรการบรรจุได้ถึง 430 ลิตร สามารถปรับขยายได้หลากหลายรูปแบบ และยังมาพร้อมกับล้ออัลลอยน้ำหนักเบาขนาด 18 นิ้ว และหลังคาพาโนรามิคขนาดใหญ่ ที่สามารถเปิดออกด้านนอกได้ไม่จำกัดระดับ พร้อมโหมดระบายอากาศไฟฟ้า

BMW-218i-Gran-Coupe-M-Sport

ภายในห้องโดยสารของบีเอ็มดับเบิลยู 218i Gran Coupe M Sport ผสมผสานความหรูหราด้วยวัสดุชั้นเยี่ยมและพื้นที่ใช้สอยที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองทั้งไลฟ์สไตล์ครอบครัวและการเดินทางระยะยาว ส่วนภายในห้องโดยสารฝั่งคนขับ ส่งมอบข้อมูลสำคัญในการขับขี่ให้ผู้ขับได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่จำเป็นต้องละสายตาจากถนนด้วยหน้าจอ และแผงหน้าปัด Instrument Cluster ขนาด 5.1 นิ้ว รวมไปถึงจอสัมผัส Control Display ขนาด 8.8 นิ้ว ที่ตั้งอยู่กลางคอนโซลทำมุมเข้าหาคนขับเล็กน้อยตามแบบฉบับของบีเอ็มดับเบิลยู

BMW-218i-Gran-Coupe-M-Sport

การออกแบบที่เน้นผู้ขับยังถูกเสริมด้วยแถบสีที่พาดผ่านตรงเข้าสู่ที่นั่งคนขับ และรายละเอียด graining effects แบบต่างๆ รวมไปถึงพื้นผิวที่หลากหลายของแผงหน้าปัดและบริเวณหลังพวงมาลัย โดยแถบสีบริเวณแผงหน้าปัดและกรอบประตูมาในลาย ‘Illuminated Boston’ ด้านพวงมาลัย M Sport และเบาะที่นั่งตอนหน้าดีไซน์สปอร์ตหุ้มหนังแท้ Dakota พร้อมรูระบายอากาศ ดูสปอร์ตโฉบเฉี่ยวขึ้นอีกขั้น

BMW-218i-Gran-Coupe-M-Sport

BMW 218i Gran Coupe M Sport ใช้ขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร เทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ให้กำลังสูงสุด 140 แรงม้า มอบแรงบิดสูงสุด 220 นิวตันเมตร ที่ 1,480-4,200 รอบ/นาที ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 8.7 วินาที และความเร็วสูงสุดที่ 215 กม./ชม. ทำงานควบคู่เกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด Steptronic แบบคลัทช์คู่

ถ้าคุณอยากขายรถคันเดิม เอารถมาขายกับทาง CARRO สิ ลงประกาศขายรถฟรี เรารับซื้อรถมือสอง โดยได้ราคาที่คุณพอใจ พร้อมปิดการขายภายใน 24 ชั่วโมง! กับ CARRO Express แค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือจะ Inbox สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ครับ —> เพิ่มเพื่อน

Chevrolet-Thailand-20-Years-In-Business

นับตั้งแต่การประกาศของ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส ประเทศไทย ประกาศยุติการจำหน่ายรถยนต์ Chevrolet (เชฟโรเลต) ในไทย ภายในสิ้นปี 2563 และขายโรงงานประกอบรถยนต์ รวมถึงโรงงานผลิตเครื่องยนต์ที่ จ.ระยอง ให้ Great Wall Motor (เกรท วอลล์ มอเตอร์) จากจีน ซื้อศูนย์การผลิตรถยนต์และเครื่องยนต์ไป ก็ทำให้ผู้คนในวงการยานยนต์ ตะลึงกันไปตามๆ กัน

สำหรับ บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ก่อตั้งเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2543 ก็ล้วนมีทั้งเรื่องราวอันน่ายินดี และเรื่องราวที่น่าผิดหวัง ตามประสาบริษัทที่ทำธุรกิจ ก็ย่อมมีทั้งสิ่งที่ถูกใจลูกค้า ตัวแทนจำหน่าย บริษัทอะไหล่ ปะปนกันไป ซึ่ง Chevrolet ก็จะอยู่ในหัวใจของคนไทยหลายๆ คน ตลอดไปอย่างแน่นอน …

MR.CARRO ขอนำเสนอเรื่องราวอันน่าโดดเด่น ของ GM และ Chevrolet ในประเทศไทย ในรอบ 20 ปี (2543 – 2563) ให้ทุกท่านได้อ่านกัน

1. เปิดตัวครั้งแรก ในงาน Motor Show 2000

Chevrolet กลับมาเปิดตัวอย่างเป็นทางการอีกครั้ง หลังจากที่แบรนด์ Opel (โอเปิล) ถูกเลิกขายในบ้านเราไป โดยเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน Bangkok Interational Motor Show 2000 ครั้งนั้น Chevrolet ได้นำรถมาโชว์อยู่หลากหลายรุ่น อาทิ รถต้นแบบ YGM-1, Chevrolet Zafira, Chevrolet Cavalier, Chevrolet Lumina และ Chevrolet Blazer

Chevrolet-Zafira

2. เปิดตัว Chevrolet Zafira

Chevrolet Zafira (เชฟโรเลต ซาฟิร่า) เป็นการบุกเบิกตลาดรถยนต์อเนกประสงค์รายแรกของประเทศไทย หรือ Compact MPV แบบ 5 ประตู เปิดตัวเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2543 ใช้ทั้งเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.8 ลิตร รหัส X18XE ECOTEC 115 แรงม้า ใน 2 รุ่นย่อย ได้แก่ 1.8 GL และ 1.8 CD

ต่อมาในปี 2544 เพิ่มรุ่นย่อยใหม่ 2.2 CDX ใช้เครื่องยนต์ขนาด 2.2 ลิตร รหัส Z22SE ECOTEC 145 แรงม้า และเปลี่ยนรหัสใหม่ในเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร ทุกรุ่นย่อย เป็นรหัส Z18XE ECOTEC 123 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด และมีรุ่นย่อย รุ่นพิเศษต่อเนื่อง จนเลิกผลิตไปในปี 2548

อ่านเพิ่มเติม >>> ประวัติ Chevrolet Zafira ในไทย

Chevrolet-Optra

3. เปิดตัว Chevrolet Optra

Chevrolet Optra (เชฟโรเลต ออพตร้า) ใช้พื้นฐานเดียวกันกับ Daewoo Lacetti โดยตัวรถได้สำนัก Pininfarina เป็นผู้ออกแบบ และ GMDAT บริษัทในกลุ่ม GM ใช้เวลาพัฒนากว่า 30 เดือน เปิดตัวในไทยเมื่อปี 2546 ใช้เครื่องยนต์รหัส Z16XE ขนาด 1.6 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 107 แรงม้า และรหัส Z18XE ขนาด 1.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 121 แรงม้า

ในปี 2548 ปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ พร้อมเปิดตัวรุ่น Estate และในวันที่ 26 กรกฏาคม 2550 Chevrolet Optra ได้ปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์อีกครั้ง ที่มาพร้อมรุ่นใช้ก๊าซ CNG ให้เลือก ในยุคน้ำมันแพง

อ่านเพิ่มเติม >>> ประวัติ Chevrolet Optra ในไทย

4. เปิดตัว Chevrolet Lumina

Chevrolet เริ่มนำเข้ารถหรูในราคาไม่แพงจากออสเตรเลีย อย่าง Chevrolet Lumina (เชฟโรเลต ลูมิน่า) ใช้เครื่องยนต์ V6 ขนาด 3.8 ลิตร 206 แรงม้า และต่อมานำเข้ารุ่นเครื่องยนต์ V6 ขนาด 3.6 ลิตร 255 แรงม้า แต่ก็ไม่ได้รับความนิยมมากนัก

Chevrolet-Colorado-Z71

5. เปิดตัว Chevrolet Colorado

กระโดดลงมาเล่นตลาดรถกระบะอย่างเต็มตัว กับ Chevrolet Colorado (เชฟโรเลต โคโลราโด) ในปี 2547 ที่ผลิตจากโรงงานของ GM ใน จ.ระยอง เป็นการออกแบบร่วมกันระหว่าง GM กับ Isuzu ซึ่งของ Isuzu นั่นก็คือตัว D-Max นั่นเอง รุ่นนี้ใช้เครื่องยนต์ Commonrail ต่อมาในปี 2549 เปลื่ยนเป็น เครื่องยนต์ CTI ทั้ง 2.5 ลิตร 116 แรงม้า และ 3.0 ลิตร 146 แรงม้า พร้อมเพิ่มเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร CTI Max VGS Turbo 163 แรงม้า

ในช่วงปลายปี 2550 มีการปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ใหม่ พร้อมรุ่นติดก๊าซ CNG ออกมาจำหน่ายในปี 2551 และในปี 2553 ได้มีการปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์อีกรอบ

Chevrolet-Aveo

6. เปิดตัว Chevrolet Aveo

หลังจากที่ Chevrolet เห็นว่าตลาดรถเก๋งของตนน่าจะไปได้สวย จึงเจาะตลาดรถ Sub-Compact ด้วยการส่ง Chevrolet Aveo (เชฟโรเลต อาวีโอ) ออกมาจำหน่ายในเดือนสิงหาคม 2549 ในแบบเครื่องยนต์ขนาด 1.4 ลิตร 94 แรงม้า พร้อมปรับเครื่องยนต์ให้รองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 ได้

ก่อนจะปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ ด้วยรุ่นเครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร 102 แรงม้า ในช่วงปลายปี 2552 และรุ่นติดตั้งก๊าซ CNG ในปี 2554

อ่านเพิ่มเติม >>> ประวัติ Chevrolet Aveo ในไทย

Chevrolet-Captiva-Centennial-White-Edition

7. เปิดตัว Chevrolet Captiva

นับเป็นรถรุ่นที่ Chevrolet ขายในบ้านเรามายาวนานที่สุดอีกหนึ่งรุ่น สำหรับ Chevrolet Captiva (เชฟโรเลต แคปติวา) เป็นรถยนต์ SUV ขนาดกลางแบบ 7 ที่นั่งของ Chevrolet ที่พัฒนาขึ้นโดยศูนย์ออกแบบของ GM ในเมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ เปิดตัวเมื่อเดือนมีนาคม 2550 ใช้เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.0 ลิตร CRDi 150 แรงม้า และเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.4 ลิตร 142 แรงม้า ก่อนจะเปลี่ยนเครื่องยนต์ขนาด 2.4 ลิตร 165 แรงม้า ในปี 2552

ในปี 2554 จึงปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ และในปี 2555 จึงใช้เครื่องยนต์ขนาด 2.4 ลิตร Commonrail Turbo 163 แรงม้า และพัฒนาให้รองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ได้ ในปี 2557

อ่านเพิ่มเติม >>> ประวัติ Chevrolet Captiva ในไทย

Chevrolet-Cruze

8. เปิดตัว Chevrolet Cruze

Chevrolet เปิดตัว Chevrolet Cruze (เชฟโรเลต ครูซ) ที่เป็นแบบ Global Compact Car หรือ รถคอมแพกต์ซีดานระดับโลก ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าทั่วทุกมุมโลก มาขายในไทยเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2553 ใช้ขุมพลังขนาด 1.6 ลิตร 109 แรงม้า และขนาด 1.8 ลิตร 141 แรงม้า และดีเซลขนาด 2.0 ลิตร Commonrail Diesel Turbo 150 แรงม้า

มีการปรับโฉมในเดือนมีนาคม 2556 และในเดือนสิงหาคม 2558 ก่อนจะเลิกขายไป

อ่านเพิ่มเติม >>> ประวัติ Chevrolet Cruze ในไทย

9. เปิดตัวโรงงานผลิตเครื่องยนต์ Duramax

GM ประเทศไทย เปิดศูนย์การผลิตเครื่องยนต์ที่จังหวัดระยอง โดยผลิตเครื่องยนต์ Duramax 4 สูบ ขนาด 2.5 ลิตร และ 2.8 ลิตร ในปี 2554 ด้วยมูลค่า 6,000 ล้านบาท

Chevrolet-Colorado-2014

10. เปิดตัว Chevrolet Colorado ใหม่

ในวันที่ 5 ตุลาคม 2554 Chevrolet เปิดตัว Chevrolet Colorado (เชฟโรเลต โคโลราโด) เจเนอเรชั่นที่ 2 อย่างยิ่งใหญ่ ชิ้นส่วนหลายอย่างยังใช้ร่วมกับ Isuzu D-Max ได้ ยกเว้นเครื่องยนต์ เกียร์ และส่วนประกอบของตัวถังกับภายในรถ

มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.5 ลิตร Duramax 150 แรงม้า และ 2.8 ลิตร Duramax 180 แรงม้า เป็นการเริ่มต้นโครงการใหม่ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบ 100 ปี ของ Chevrolet

Chevrolet-Trailblazer

11. เปิดตัว Chevrolet Trailblazer ใหม่

ในวันที่ 21 มีนาคม 2555 Chevrolet เปิดตัว Chevrolet Trailblazer (เชฟโรเลต เทรลเบลเซอร์) อย่างยิ่งใหญ่ ชิ้นส่วนหลายอย่างยังใช้ร่วมกับ Isuzu MU-X ได้ ยกเว้นเครื่องยนต์ เกียร์ และส่วนประกอบของตัวถังกับภายในรถ ที่ GM ใช้ประเทศไทยเป็นฐานหลักในการผลิต Trailblazer เพื่อส่งขายไปกว่า 60 ประเทศทั่วโลก

มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.5 ลิตร Duramax 150 แรงม้า และ 2.8 ลิตร Duramax 180 แรงม้า พร้อมระบบส่งกำลังแบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และอัตโนมัติ 6 สปีด

Chevrolet-Sonic

12. เปิดตัว Chevrolet Sonic

สำหรับ Chevrolet Sonic (เชฟโรเล็ต โซนิค) เป็นรถยนต์ Sub-Compact ที่มาทดแทนรุ่น Aveo เปิดตัวช่วงปลายเดือนกรกฎาคม 2555 ซึ่งมีทั้งแบบ Northback 4 ประตู และแบบ Hatchback 5 ประตู ให้เลือก

ใช้ขุมพลัง 4 สูบรุ่นใหม่ของจีเอ็ม รหัส A14FXR ขนาด 1.4 ลิตร 100 แรงม้า และต่อมาอัพเกรดเครื่องยนต์เป็นขนาด 1.6 ลิตร 115 แรงม้า รองรับเชื้อเพลิงแก๊สโซฮอล์ E85 แต่สุดท้ายก็เลิกขายไป

อ่านเพิ่มเติม >>> ประวัติ Chevrolet Sonic ในไทย

Chevrolet-Spin

13. เปิดตัว Chevrolet Spin

จัดเป็นรถที่มาไวไปไว สำหรับ Chevrolet Spin (เชฟโรเลต สปิน) รถ MPV 7 ที่นั่ง ที่ Chevrolet หวนกลับมาทำตลาดอีกครั้งในเดือนมีนาคม 2556 โดยนำเข้ามาจากอินโดนีเซีย ใช้ขุมพลัง 1.5 ลิตร 107 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมระบบ Driver Shift Control

14. ปรับโครงสร้างบริษัท

เมื่อ GM ในสหรัฐอเมริกาเจอวิกฤต ล้มละลาย นับตั้งแต่ปี 2552 บริษัทในเครือ GM ทั่วโลก ก็ถูกผลกระทบไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จนต้องปรับลดคนงานมากถึง 30% พร้อมลดการผลิต เปลี่ยนทีมผู้บริหารกันค่อนข้างบ่อย ล่วงมาจนถึงการประกาศยุติกิจการในไทยในเดือนกุมภาพันธ์ 2563

All-New-Chevrolet-Captiva-2019

15. เปิดตัว Chevrolet Captiva

เจเนอเรชั่นที่ 2 ของ Chevrolet Captiva (เชฟโรเลต แคปติวา) ที่เปิดตัวในไทยเมื่อเดือนตุลาคม 2562 นับว่าเป็นรถ Chevrolet รุ่นสุดท้ายที่เปิดตัวในไทย มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Turbo 143 แรงม้า

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม มาขายรถคันเดิมกับ CARRO Express สิ! Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

แต่ถ้าหากช่วงนี้ใครอยากเปลี่ยนรถคันใหม่ มาใช้แทนที่รถคันเดิม CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น!

รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check มากกว่า 200 จุด และยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ให้คุณเลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา พร้อมรับประกันคุณภาพรถนานถึง 2 ปี หรือ 20,000 กิโลเมตร! อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! เรามีรถให้คุณเลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Official โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

Clean-Your-Seat-If-Cosmatics-Mess-Up

ถือว่าเป็นที่ละเอียดอ่อนมากเลยที่เดียวหากมีคราบรองพื้น แป้งหรืออื่นๆ เลอะเบาะหรือตามจุดต่างๆ สำหรับคนที่ชอบแต่งหน้าในรถด้วยไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบอาจทำให้เครื่องสำอางเลอะเทอะ เปรอะเปื้อนรถยนต์จนเป็นด่างดวงคงดูไม่สะอาด

ซึ่งไม่ว่าด้วยเหตุผลใดเราไม่ควรปล่อยให้ปัญหาเหล่านี้มารบกวนใจกับรถคันเก่งของเรา ดังนั้นต้องรีบจัดการอย่างรวดเร็วอย่าให้หลักฐานฝังลึก ด้วยวิธีง่าย ๆ ดังนี้

1. น้ำอุ่น สบู่อ่อนๆ และแปรง

เริ่มต้นขจัดคราบด้วยวิธีที่ซอฟสุดๆสำหรับรถยนต์ คือการใช้สบู่เจือจางกับน้ำ ยิ่งเป็นน้ำอุ่นจะช่วยขจัดคราบได้ง่ายขึ้น จากนั้นใช้แปรงนุ่ม ๆ จุ่มแล้วค่อยๆ ถูวนเอาผ้าสะอาดซับ ใช้ได้ทั้งเบาะหนังเทียม หนังแท้ เบาะผ้า เบาะกำมะหยี่ อัลคันทารา Sued แต่อย่างหลังๆ และอย่าลงมือแรงมากนัก มิเช่นนั้นเพราะของคุณอาจเสียหายได้

อย่างไรก็ตามหากเบาะรถของคุณไม่ได้ทำความสะอาดมานาน พอขจัดคราบเครื่องสำอางแล้ว จุดที่ทำความสะอาดจะแตกต่างจากจุดอื่นที่สกปรกจากการใช้งาน หากต้องการเพิ่มความเนียน ควรทำความสะอาดทั้งชิ้นวัสดุหรือเบาะทั้งตัว เหนื่อยหน่อยแต่เนียนสุด

2. ใช้แชมพูหรือน้ำยาซักผ้า ป้ายแล้วตามด้วยแปรง

อาจจะคล้ายกับข้อแรก แต่จะเข้มข้นกว่า โดยการใช้แชมพูหรือน้ำยาซักผ้าป้ายลงบนคราบโดยตรงแล้วใช้แปรงจุ่มน้ำค่อยๆ ถูเป็นวงเพื่อให้รอยเปื้อนหลุดออกจากนั้นเอาผ้าสะอาดซับ

แต่ถ้าหากไม่มั่นใจว่าน้ำยาที่เข้มข้นมากจะทำร้ายพื้นผิววัสดุหรือไม่ ลองเลือกแต้มในจุดที่ลับตาสักเล็กน้อยเพื่อดูว่าแชมพู น้ำยาซักผ้า หรือน้ำยาใดๆ ที่เรานำมาทำความสะอาดทำร้ายผิวหรือสีของวัสดุเของเบาะรถหรือไม่

3. ครีมทำความสะอาดอเนกประสงค์

สำหรับเบาะหนังแท้ หนังเทียม (แต่อาจไม่เหมาะกับวัสดุสังเคราะห์ที่คล้ายหนังกลับ เช่น Sued, DINAMICA และ Alcantara) ซึ่งวัสดุประเภทนี้ทำความสะอาดง่ายอยู่แล้ว สามารถใช้ครีมอเนกประสงค์ (พวกสเตคลีน) ทำความสะอาดได้เลย

แต่ถ้าเบาะสีครีมหรือสีอ่อน อาจพบปัญหาคือจะสะอาดเป็นดวง เพราะคราบสกปรกคราบไคลที่เกาะบนพื้นผิวจะถูกขจัดออกไปด้วย ก็ถือโอกาสทำความสะอาดทั้งแผ่นหรือทั้งเบาะไปเลยก็ได้

4. ผลิตภัณฑ์ดูแลรักษารถยนต์ หรือน้ำยาทำความสะอาดเบาะโดยเฉพาะ

และอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับการขจัดคราบที่อาจมีราคาสูงกว่าแบบอื่น แต่ค่อนข้างมั่นใจว่าจะไม่ทำร้ายวัสดุบนรถเพราะถูกออกแบบมาโดยเฉพาะ

แค่เลือกให้เหมาะสม เช่น เบาะหนัง เบาะผ้า ใช้ทำความสะอาดคราบต่างๆ วิธีก็ตามขั้นตอนที่ระบุไว้ข้างผลิตภัณฑ์ เหามะสำหรับคนรักรถมากๆ ดังนั้นควรมีอุปกรณ์พวกนี้ติดไว้ด้วย

ใครพบปัญหาเครื่องสำอาง ครีมรองพื้น บีบีครีม ครีมกันแดด เลอะเบาะ เลอะแผงประตูเป็นประจำ ก็ควรทำความสะอาดอยู่เสมอ และถึงแม้หลายคนไม่พบปัญหานี้ แต่จริงๆ เบาะหรือพลาสติกภายในโดยเฉพาะสีอ่อน มักมีคราบสกปรกติดอยู่ ก็ควรทำความสะอาดเป็นประจำเช่นกัน วิธีทำความสะอาดก็ไม่ต่างจากนี้ในกรณีที่ไม่ใช่คราบฝังแน่นเป็นพิเศษ ซึ่งกรณีดังกล่าวควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญจะดีที่สุด

ได้ทริคดีในการทำความสะอาดรถยนต์แล้ว หากคุณต้องการขายรถด่วนให้ CARRO ช่วยได้ขายให้ภายใน 24 ชั่วโมง และได้ราคาดี และหากต้องต้องหารรถยนต์ใหม่ ป้ายแดง โปรแรงๆ สามารถดูโปรโมชั่นได้ที่ https://www.siamcardeal.com/ หรือสามารถ Inbox สอบถามโปรโมชั่นรถใหม่และข่าวสารได้ที่ Facebook Siamcardeal

หรือ Add Line เพื่อรับโปรโมชั่นต่างๆ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม @siamcardeal
inbox : http://m.me/siamcardeal
line : https://line.me/R/ti/p/@siamcardeal

Mercedes-Benz-GLB-GLB-Class-2020

บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เผยผลประกอบการประจำปี 2562 ย้ำความเป็นผู้นำอันดับ 1 ในตลาดรถหรูเมืองไทย 19 ปีติดต่อกัน พร้อมยอดขายมากกว่า 15,000 คัน อันเป็นผลมาจากเครือข่ายผู้จำหน่าย เมอร์เซเดส-เบนซ์อย่างเป็นทางการ ที่แข็งแกร่ง พร้อมเผยทิศทางการดำเนินธุรกิจในปีนี้ผ่านการรุกตลาดรถยนต์ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และรถยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่างเต็มตัว

Mercedes-Benz-GLC-300-e-4MATIC-AMG-Dynamic

โดยเปิดตัว “Mercedes-Benz GLC 300 e 4MATIC AMG Dynamic” รถยนต์ SUV Plug-In Hybrid ขนาดกลางรุ่นใหม่ล่าสุด และ “Mercedes-Benz GLC 300 e 4MATIC Coupé AMG Dynamic” รถยนต์ SUV Crossover นำทัพรถยนต์ Plug-In Hybrid ที่จะตามมาอย่างต่อเนื่องตลอดปี พร้อมเตรียมเปิดตัว “Mercedes-Benz EQC” รถยนต์ SUV พลังงานไฟฟ้า 100% คันแรกจาก Mercedes-Benz ลุยตลาดไทยภายในปีนี้

สำหรับปี 2562 ที่ผ่านมา ถือเป็นปีที่ยอดเยี่ยมสำหรับ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ทั่วโลก เพราะสามารถทำยอดขายเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 9 โดยเราส่งมอบรถยนต์ทั้งหมด 2,339,562 คัน ซึ่งถือว่าเป็นสถิติที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัทฯ สำหรับยอดขายใน 1 ปี ขณะเดียวกัน แม้ว่าสภาวะเศรษฐกิจในตลาดโลกจะอยู่ในช่วงชะลอตัวและส่งผลกระทบโดยตรง ต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ ทว่า เมอร์เซเดส-เบนซ์ ยังคงเล็งเห็นความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มสูงขึ้นสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์เอสยูวีระดับลักชัวรี นั่นจึงเป็นที่มาให้เราเตรียมความพร้อมล่วงหน้าเพื่อแนะนำรถยนต์ไฟฟ้า และรถยนต์เอสยูวีออกมาเพื่อตอบรับความต้องการของลูกค้าทั้งในตลาดโลกและในตลาดไทยต่อเนื่องในปี 2563 นี้

ทั้งนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ยังคงเป็นผู้นำอันดับ 1 ใน Segment Luxury ในหลายประเทศ รวมทั้ง เยอรมนี สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส สเปน เบลเยียม สวิสเซอร์แลนด์ โปแลนด์ โปรตุเกส เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย ประเทศไทย เวียดนาม สิงคโปร์ แคนาดา และ แอฟริกาใต้

“ในประเทศไทย เมอร์เซเดส-เบนซ์ ยังคงรักษาความเป็นแบรนด์รถยนต์ลักชัวรีอันดับ 1 ในประเทศไทย ไว้ได้อย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 19 โดยในปี 2562 ที่ผ่านมา เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังคงทำยอดขายได้มากกว่า 15,000 คัน อันเป็นผลมาจากเครือข่ายผู้จำหน่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์อย่างเป็นทางการที่แข็งแกร่งที่ร่วมกันส่งมอบ “Best Customer Experience” ให้กับลูกค้า ส่งผลให้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ มีเครือข่ายผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการถึง 36 แห่งทั่วประเทศ โดยแบ่งเป็นผู้จำหน่ายในกรุงเทพฯ 19 แห่ง และผู้จัดจำหน่ายในต่างจังหวัดรวม 17 แห่ง”

“สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยในปีนี้ จากเทรนด์ความต้องการรถยนต์ของผู้บริโภคทั้งในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกและในประเทศไทย เราพบว่าความต้องการในรถยนต์ไฟฟ้านั้นเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเหตุผลหนึ่งมาจากสภาวะอากาศที่แย่ลงโดยเฉพาะการมีฝุ่น PM 2.5 ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการคมนาคม ที่ส่งผลให้ผู้บริโภคมีความต้องการในรถยนต์พลังงานไฟฟ้ามากขึ้นเรื่อย ๆ เห็นได้จากยอดขายรถยนต์ Plug-in Hybrid ของ เมอร์เซเดส-เบนซ์เองที่ทำได้มากกว่า 16,000 คันนับตั้งแต่เราเปิดตัวรถยนต์ Plug-in Hybrid รุ่นแรกในปี 2559

โดยเมอร์เซเดส-เบนซ์ ในประเทศไทย เป็นผู้นำตลาดอันดับต้น ๆ ของโลกที่มีสัดส่วนการจำหน่ายรถยนต์ Plug-in Hybrid สูงประมาณ 25% ของยอดจำหน่ายทั้งหมดในประเทศไทย ขณะเดียวกัน เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังพร้อมเปิดตัวรถยนต์ “Mercedes-Benz GLC 300 e 4MATIC AMG Dynamic” และ “Mercedes-Benz GLC 300 e 4MATIC Coupé AMG Dynamic” รถยนต์เอสยูวีปลั๊กอินไฮบริดขนาดกลางรุ่นใหม่ อย่างเป็นทางการ

Mercedes-Benz-GLB-200-Progressive

พร้อมเตรียมส่งรถยนต์รถยนต์ SUV อีกหลายรุ่น อาทิ “Mercedes-Benz GLB” รถยนต์ Compact SUV ที่ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์น้อยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงรถ SUV พลังงานไฟฟ้า 100% คันแรกจาก เมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่าง “Mercedes-Benz EQC” ที่จะนำมาจัดแสดงเป็นครั้งแรกที่งาน Motor Show 2020 เพื่อลุยตลาดไทยภายในปีนี้ นี่คือทิศทางการทำธุรกิจที่เราจะมุ่งหน้าไปอย่างเต็มกำลังในปี 2563”

Mercedes-Benz-GLC-300-e-4MATIC-AMG-Dynamic

Mercedes-Benz GLC 300 e 4MATIC AMG Dynamic คือรถยนต์ SUV Plug-In Hybrid ขนาดกลาง ที่มาพร้อมรูปลักษณ์แข็งแกร่งและมอบความสุนทรีย์ในเวลาเดียวกัน ด้วยสมรรถนะของเทคโนโลยี Plug-in Hybrid ผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 211 แรงม้า และจากมอเตอร์ไฟฟ้า 122 แรงม้า รวมเป็นกำลังสูงสุด 320 แรงม้า พร้อมด้วยเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ แบบ 9G-TRONIC ที่ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์มีความนุ่มนวลมากยิ่งขึ้น และยังช่วยประหยัดการใช้พลังงานได้มากถึง 6.5%

Mercedes-Benz-GLC-300-e-4MATIC-AMG-Dynamic

Mercedes-Benz GLC 300 e 4MATIC AMG Dynamic ยังมาพร้อมระบบสั่งการด้วยเสียง “Hey Mercedes” ระบบสั่งงานด้วยเสียงซึ่งสามารถประมวลผลประโยคที่ใกล้เคียงกับคำสั่งทั่วไปได้ ทั้งจดจำและเรียนรู้การสั่งงานของคุณได้ เพื่อสร้างความเชื่อมโยงระหว่างคุณกับรถได้อย่างไร้ที่ติ ระบบปรับรูปแบบการขับขี่ (DYNAMIC SELECT) ที่เปลี่ยนจากการปรับโหมดขับขี่ผ่านพวงมาลัย มาเป็นการปรับโหมดการขับขี่ผ่านหน้าจอแสดงผลที่สามารถตอบสนองการขับขี่ได้ในแบบฉบับที่คุณโปรดปราน ไม่ว่าจะเป็นโหมด ECO, Comfort, Sport, Sport+, Individualโดยที่ระบบจะปรับการทำงานของเครื่องยนต์ในส่วนต่าง ๆ อาทิ ระบบส่งกำลัง ระบบบังคับเลี้ยวหรือโปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ เป็นต้น

Mercedes-Benz-GLC-300-e-4MATIC-AMG-Dynamic

รถยนต์ Mercedes-Benz รุ่น GLC 300 e 4MATIC AMG Dynamicวางจำหน่ายในราคา 3,749,000 บาท

Mercedes-Benz-GLC-300-e-4MATIC-Coupé-AMG-Dynamic

Mercedes-Benz GLC 300 e 4MATIC Coupé AMG Dynamic เป็นรถยนต์ SUV Crossover ที่เป็นมากกว่า เอสยูวีและรถยนต์คูเป้ ด้วยความโดดเด่นของดีไซน์ภายนอกอันโฉบเฉี่ยวดูสปอร์ตยิ่งกว่าที่เคยจากการผสมผสานดีไซน์ในแบบฉบับรถยนต์คูเป้ และความเป็นรถยนต์เอสยูวี ทั้งหมดนี้ทำให้ GLC 300 e 4MATIC Coupé AMG Dynamic คือยนตรกรรมที่มีตัวตนไม่เหมือนใครในท้องถนน

ทั้งยังเติมเต็มทุกอารมณ์ของการขับขี่ ด้วยสมรรถนะของเทคโนโลยี Plug-in Hybrid โดยผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 211 แรงม้า และจากมอเตอร์ไฟฟ้า 122 แรงม้า รวมเป็นกำลังสูงสุด 320 แรงม้า พร้อมด้วยเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะแบบ 9G-TRONIC ที่ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์มีความนุ่มนวลมากยิ่งขึ้นและยังช่วยประหยัดการใช้พลังงานได้มากถึง 6.5%

Mercedes-Benz-GLC-300-e-4MATIC-Coupé-AMG-Dynamic

GLC 300 e 4MATIC Coupé AMG Dynamic มาพร้อมหน้าจอแสดงผลดิจิทัลเต็มรูปแบบ ที่มีการแสดงผลแบบ “Classic”, “Progressive” และ “Sporty” ทำให้คุณตัดสินใจเลือกข้อมูลสำคัญและประเภทการแสดงผลข้อมูลดังกล่าวได้ผ่านจอแสดงผล ขนาด 31.2 ซม. ถ่ายทอดภาพที่คมชัด และสามารถเห็นได้ชัดเจนในทุกสภาพแสง

พร้อมตอบสนองทุกการเคลื่อนไหวของคุณ ด้วยระบบ MBUX หรือ Mercedes-Benz User Experience ที่ทำงานร่วมกันกับแผงคอนโทรล และหน้าจอดิจิทัลที่จะแสดงระบบการนำทางได้แบบเต็มหน้าจอ และพร้อมอำนวยความสะดวกสบายให้คุณได้อย่างสูงสุด รวมไปถึงระบบเสียงรอบทิศทาง Burmerster ที่เปลี่ยนให้เพลงโปรดของคุณกลายเป็นประสบการณ์ความบันเทิงระดับโลก

รถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ รุ่น GLC 300 e 4MATIC Coupé AMG Dynamic วางจำหน่ายในราคา 4,090,000 บาท

อยากขายรถคันเดิม เพื่อไปซื้อรถเบนซ์ใหม่ขึ้นมา เอารถมาขายกับทาง CARRO สิ ลงประกาศขายรถฟรี เรารับซื้อรถมือสอง โดยได้ราคาที่คุณพอใจ พร้อมปิดการขายภายใน 24 ชั่วโมง! กับ CARRO Express แค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือจะ Inbox สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @Carrothailand คลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

Carro-Not-Forget-If-Double-Parking

อะไรเอ่ย หายากกว่าค่าผ่อนรถ คำตอบก็คือ “ที่จอดรถ” นั่นเองครับ ค่าผ่อนรถถ้าเรามีการวางแผนการเงินที่ดี ไม่สุรุ่ยสุร่าย ยังไงก็มีเงินผ่อนรถแน่ๆ

แต่ที่จอดรถนี่สิครับ บางทีวนแล้ววนอีก วนจนตาลาย ก็ยังหาที่จอดรถไม่เจอซักที ทางเลือกที่เหลืออยู่ก็คือต้อง “จอดซ้อนคัน” แต่การจอดรถซ้อนคันนั้นมีอะไรต้องคำนึงและห้ามลืมบ้าง วันนี้เพนกวิน Frank ได้นำมาเสนอคุณแล้ว

Not-Forget-If-Double-Parking

1. คำนึงถึงระยะห่าง

ถ้าเราจอดรถในซองที่มีเส้นแบ่งชัดเจนก็คงไม่เป็นปัญหา แต่การจอดซ้อนคันมันไม่มีเส้นแบ่งเป็นสัญลักษณ์ให้เรา แล้วเราจะทำยังไงดีล่ะ ถ้าใครกังวล แฟรงค์ขอแนะนำให้คุณ “เว้นระยะห่างให้มากกว่าปกติ” โดยแฟรงค์แนะนำให้มีพื้นที่ว่างอย่างน้อยหนึ่งช่วงรถ ที่ต้องทำอย่างนี้ก็เพื่อความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกกรณีต้องมีการเคลื่อนย้ายรถด้วย

2. ดูทำเลที่จอดรถซ้อนคันของเราด้วย

การจอดรถซ้อนคัน ใช่ว่าจะจอดที่ไหนก็ได้นะครับ เพราะถ้าเราจอดไม่ดูทำเลอาจกลายเป็นว่าไปขวางทางเข้าออกของคนอื่น หรือดันไปจอดในที่ที่มีความลาดชันมากจนอาจเกิดอุบัติเหตุรถไหลไปชนคันอื่นได้ ดังนั้น เราต้องดูทำเลที่จอดให้ดีๆ นะครับ ห้ามลาดชัน ห้ามขวางทาง จำให้มั่น

Not-Forget-If-Double-Parking

3. จอดรถให้สามารถเคลื่อนย้ายได้

เพราะการจอดรถซ้อนคัน เราต้องคำนึงถึงรถคันที่เราไปซ้อนด้วยครับ ดังนั้น เราต้องจอดรถให้ดี เพื่อให้สามารถเคลื่อนย้ายรถได้สะดวก โดยแฟรงค์แนะนำให้คุณทำตามดังนี้ครับ

1. ตั้งล้อให้เป็นแนวตรง ก่อนที่จะดับเครื่องและลงจากรถ ให้เราหมุนพวงมาลัยให้เป็นแนวตรงก่อนครับ เพื่อที่เวลาคนจะมาเคลื่อนย้ายรถเราจะได้เข็นเป็นเส้นตรง ไม่เบี้ยวไปชนรถคันอืนๆ
2. เข้าเกียร์ N หรือเกียร์ว่าง เพื่อให้รถสามารถเคลื่อนย้ายได้ ห้ามใส่เกียร์ P เด็ดขาดนะครับ
3. เอาเบรกมือลง หลายคนเคยชินกับการจอดรถโดยยกเบรกมือขึ้น แต่ถ้าเราจอดรถซ้อนคัน ต้องห้ามเอาเบรกมือขึ้นเด็ดขาดครับ

4. ทิ้งเบอร์ติดต่อไว้ซักหน่อย

สุดท้ายแล้วเผื่อไว้สำหรับกรณีฉุกเฉิน ให้เราลองเขียนข้อความชื่อ พร้อมเบอร์ติดต่อแนบไว้หน้ากระจกรถของคุณ หากเกิดปัญหาอะไรขึ้น ก็จะมีคนติดต่อคุณได้นั่นเองครับ

และนี่ก็คือสิ่งที่ห้ามลืมเมื่อจอดรถซ้อนคัน ที่จะช่วยให้การจอดรถซ้อนคันของคุณปลอดภัยขึ้นอย่างแน่นอนครับ แต่ไม่ว่าจะปลอดภัยแค่ไหน เปอร์เซนต์การเกิดอุบัติเหตุก็ยังคงไม่เป็นศูนย์อยู่ดี ดังนั้น อย่าลืมทำประกันรถยนต์จาก www.frank.co.th ไว้ดูแลคุณนะครับ

Why-Auto-Finance-Deny-Chevrolet

นับตั้งแต่ เจนเนอรัล มอเตอร์ส ประเทศไทย ประกาศยุติการจำหน่ายรถยนต์ Chevrolet (เชฟโรเลต) ในไทย ภายในสิ้นปี 2563 พร้อมกับขายโรงงานที่ จ.ระยอง ให้ Great Wall Motors (เกรท วอล มอเตอร์ส) จากจีน ซื้อศูนย์การผลิตรถยนต์และเครื่องยนต์ไป บวกกับการลดราคารถยนต์แบบลดกระหน่ำมากถึง 50% โดยเฉพาะ Captiva ใหม่ จนคนที่ซื้อรถรุ่นนี้ไปก่อนหน้านั้น รวมไปถึงผู้ประกอบการขายรถมือสอง ถึงกับต้องช้ำใจ และเรียกร้องให้บริษัทแม่ออกมาเยียวยาไปตามๆ กัน

ซึ่ง Chevrolet Captiva (เชฟโรเลต แคปติว่า) ตอนนี้ก็ได้ถูกจองถูกขายออกไปจนหมดเรียบร้อย! แถมยังมีการซื้อ-ขาย ใบจองกันอีกต่างหาก!

และจากเหตุการณ์ดังกล่าว ก็ทำให้บรรดาสถาบันทางการเงินหลายต่อหลายแห่ง ต่างออกมาเปลี่ยนแปลงนโยบาย ประกาศไม่รับทำสินเชื่อให้กับรถ Chevrolet กันในหลายเจ้า แต่ก็ยังมีบางเจ้าที่กำลังประชุมกับทางผู้ใหญ่ และรับทำให้แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยอัตราดอกเบี้ยได้

MR.CARRO จะมาไขข้อสงสัย ว่าทำไมรถ Chevrolet ปิดตัวแล้ว ไฟแนนซ์ถึงไม่รับทำสินเชื่อให้ …

Chevrolet-Colorado-X-Cab

มูลค่าของตัวรถ …

สาเหตุหลักที่ทางบริษัทไฟแนนซ์ ไม่รับจัดไฟแนนซ์ให้กับรถ Chevrolet ที่ลดราคานั้น เนื่องมาจาก “มูลค่าของตัวรถ” ที่ถูกลดไปต่างจากมูลค่าเสื่อมราคาในแต่ละปีมาก

ด้านเต็นท์รถมือสอง

แม้ว่าเต็นท์รถมือสองที่ได้รับซื้อรถ Chevrolet เป็นจำนวนมากจะได้รับผลกระทบจากการปรับลดราคารถของทาง Chevrolet ไปด้วย แต่จากการสอบถามไปยังเต็นท์รถต่างๆ ของ CARRO นั้น พบว่าหลายเต็นท์ตอนนี้ยังคงรับซื้อรถ Chevrolet อยู่ แต่เจ้าของรถก็ต้องทำใจกับเรื่องราคารับซื้อเข้า เนื่องจากทางผู้ประกอบการรถมือสอง ก็ต้องแบกรับความเสื่ยงไปด้วยเช่นกัน

ความเห็นของบริษัทไฟแนนซ์

ด้าน นางกฤติยา ศรีสนิท ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กรุงศรี ออโต้ ได้หยุดการให้บริการสินเชื่อรถยนต์ Chevrolet ชั่วคราว และจะมีพิจารณานโยบายการให้บริการสินเชื่อกับลูกค้ากลุ่มดังกล่าว เมื่อมีความชัดเจนด้านการขายและการตลาดจาก GM ต่อไป ส่วนลูกค้าของ เชฟโรเลต ที่ใช้บริการสินเชื่อของบริษัทช่วงก่อนหน้านั้น ยังคงได้รับการสนับสนุนบริการเช่นเดิม

ส่วนนายป้อมเพชร รสานนท์ รองกรรมการผู้จัดการ ธุรกิจสินเชื่อรถยนต์ ธนาคารธนชาต กล่าวว่า ธนาคารจะยังเดินหน้าปล่อยสินเชื่อรถให้กับรถยนต์ยี่ห้อเชฟโรเลตต่อไปตามเงื่อนไขเดิมทุกประการ และไม่มีการปรับลดยอดวงเงินปล่อยสินเชื่อของตัวรถด้วย จึงไม่อยากให้ลูกค้า โดยเฉพาะผู้ประกอบการรถยนต์มือ 1 และ มือสองเป็นกังวล เงื่อนไขทุกอย่างยังเหมือนเดิม

All-New-Chevrolet-Captiva-2019

ซึ่งเท่ากับในเวลานี้ มีธนาคารธนชาตเพียงรายเดียว ที่ยังคงรับปล่อยสินเชื่อให้กับผู้ที่ซื้อรถ Chevrolet อยู่ในขณะนี้ และในกรณีที่เป็นรถมือสอง Chevrolet ทางบริษัทไฟแนนซ์หลายๆ ที่ ก็ยังคงงดปล่อยสินเชื่อด้วยเช่นกัน เนื่องจากจะต้องคำณวณยอดจัดกันใหม่

ถ้าคุณใช้รถ Chevrolet แล้วรู้สึกอยากขายรถ เพื่อไปซื้อรถยี่ห้อใหม่ เอารถมาขายกับทาง CARRO สิ ลงประกาศขายรถฟรี เรารับซื้อรถมือสอง โดยได้ราคาที่คุณพอใจ พร้อมปิดการขายภายใน 24 ชั่วโมง! กับ CARRO Express แค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือจะ Inbox สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ครับ —> เพิ่มเพื่อน

แหล่งที่มาบางส่วนจาก:

Chevrolet-Thailand-Clearance

นับตั้งแต่ที่ GM ประเทศไทย ออกมาประกาศยุติการขายรถยนต์ Chevrolet (เชฟโรเลต) ในไทยหลังสิ้นสุดปี 2563 พร้อมขายโรงงานประกอบรถยนต์ และโรงงานประกอบเครื่องยนต์ที่จังหวัดระยอง ให้กับ เกรท วอล มอเตอร์ส ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของจีน ทำให้มีการจับตากันว่า รถที่ยังมีอยู่ในสต็อกประมาณ 4,000 คัน เชฟโรเลตจะมีแนวทางจัดการอย่างไร

อ่านเพิ่มเติม >>> สรุป 5 ปัญหา ที่ GM ถึงต้องเลิกขายรถ Chevrolet ในไทย

All-New-Chevrolet-Captiva-2019

และนับตั้งแต่ช่วงบ่ายของเมื่อวานที่ผ่านมา ได้มีบรรดาพนักงานขายรถ (หรือ เซลล์ขายรถ) ของบางดีลเลอร์ที่จำหน่ายรถ Chevrolet ประกาศลดราคารถยนต์ในโชว์รูมกันทุกรุ่น ซึ่งที่น่าจะตะลึงที่สุดก็คือ “All-New Chevrolet Captiva” (เชฟโรเลต แคปติว่า) ประกาศลดราคาสูงสุดถึง 50% ด้วยกัน! ซึ่งเป็นรถยนต์ที่ผลิตในล็อตสุดท้าย อีกทั้งยังคงเงื่อนไขการรับประกันไว้ที่ 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร เช่นเดิม

สำหรับ Chevrolet Captiva ใหม่นั้น เป็นรถที่นำเข้ามาจากประเทศจีน แต่มียอดขายต่อเดือนที่ค่อนข้างน้อยมากสำหรับรถรุ่นใหม่หมด มียอดขายเพียงประมาณ 250 คัน/เดือน จึงถูกลดราคามากเป็นพิเศษ

ถ้าคุณอยากขายรถคันเดิม เพื่อไปซื้อรถ Chevrolet ที่กำลังลดกระหน่ำในตอนนี้ เอารถมาขายกับทาง CARRO สิ ลงประกาศขายรถฟรี เรารับซื้อรถมือสอง โดยได้ราคาที่คุณพอใจ พร้อมปิดการขายภายใน 24 ชั่วโมง! กับ CARRO Express แค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือจะ Inbox สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ครับ —> เพิ่มเพื่อน

เท่าที่ทาง MR.CARRO รวบรวมข้อมูลมาได้จากในหลายดีลเลอร์ พบว่า มีการประกาศโปรโมชั่นลดราคาการขายรถ Chevrolet ด้วยกัน 13 รุ่น ดังนี้

All-New Chevrolet Captiva

  • 4×2 A/T LS 5 ที่นั่ง ลดราคาจาก 999,000 บาท เหลือ 499,000 บาท (หรือคิดเป็นส่วนลด 500,000 บาท)
  • 4×2 A/T LS 7 ที่นั่ง จาก 1,029,000 บาท เหลือ 529,000 บาท
  • 4×2 A/T LT จาก 1,099,000 บาท เหลือ 599,999 บาท
  • Ax2 A/T Premier จากราคา 1,199,000 บาท เหลือ 699,000 บาท

Chevrolet Trailblazer

  • 4×2 A/T LT ดีเซล จาก 1,144,000 บาท เหลือ 895,000 บาท (ลดลงจากเดิม 249,000 บาท)
  • 4×2 A/T LTZ ดีเซล จาก 1,279,000 บาท เหลือ 1,175,000 บาท
  • 4×4 A/T LTZ ดีเซล จาก 1,379,000 บาท เหลือ 1,275,000 บาท
  • 4×4 A/T Z71 ดีเซล จาก 1,399,000 บาท เหลือ 1,295,000 บาท

Chevrolet Colorado

  • 4×2 เอ็กซ์-แคป M/T LT Z71 ดีเซล จาก 699,000 บาท เหลือ 555,000 บาท
  • 4×2 เทรล บอส M/T1 ดีเซล จาก 589,000 บาท เหลือ 655,000 บาท
  • 4×2 เทรล บอส M/T2 ดีเซล จาก 899,000 บาท เหลือ 695,000 บาท
  • 4×2 ไฮคันทรี A/T ดีเซล จาก 998,000 บาท เหลือ 775,000 บาท
  • 4×4 ไฮคันทรี A/T ดีเซล จาก 1,068,000 บาท เหลือ 845,000 บาท

Chevrolet-Car-Clearance-Price

ล่าสุด MR.CARRO ได้ลองสอบถามข้อมูลไปยัง บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) และทาง บริษัท เชฟโรเลต เซลล์ ประเทศไทย จำกัด ได้รับเอกสารข่าวตามรายละเอียดด้านล่างนี้ ยืนยันว่าเป็นโปรโมชั่นจริงจากบริษัทแม่

Chevrolet-Hot-Deal-Sales-2020

Chevrolet-Hot-Deal-Sales-2020

จากการลดราคาแบบสุดๆ ก็สร้างปรากฏการณ์ให้ชาวโซเชี่ยลพูดถึงกันอย่างมาก และทำให้โชว์รูม Chevrolet ที่เคยเงียบเหงา กลับทะลักไปด้วยผู้คนที่สนใจมาดูรถ มาซื้อรถ กันเป็นแถว!

รถ Chevrolet รุ่นต่างๆ ที่ลดราคาอยู่ในขณะนี้ มีเสียงแตกออกเป็น 2 ฝ่าย ว่าน่าซื้อ หรือไม่น่าซื้อ เรามาดูกันว่าเพราะเหตุผลอะไรถึงคิดเช่นนั้น

Chevrolet-Car-Clearance-Price

น่าซื้อ เพราะ …

  • คุ้มค่าเสียยิ่งกว่าคุ้ม ถ้าซื้อ Captiva คันละ 5 แสน ใช้งานไปอีก 5 ปี ขายได้ 1-2 แสน ก็ถือว่าคุ้มค่ามากๆ เพราะได้รับประกัน 3 ปี 100,000 กิโลเมตร แถมศูนย์บริการก็ยังมี เพียงแต่รถใหม่ไม่มีขายเท่านั้นเอง
  • อะไหล่ก็ไม่ต้องกังวล มีแน่นอน เพราะบรรดา Supplier หรือ AcDelco ของทาง GM ก็ยังต้องผลิตอะไหล่ ส่งให้ GM ต่ออย่างน้อย 10 – 15 ปี
  • ในประเทศไทย รถ Chevrolet มีเกือบ 1 ล้านคัน ซึ่งก็ต้องมีใช้มีซ่อมในอนาคต แหล่งรายได้มหาศาลขนาดนี้ บรรดาผู้ผลิตอะไหล่ มีหรือจะไม่ตอบสนองความต้องการ
  • ในยุคที่การสั่งสินค้าออนไลน์ ง่ายหมด ถ้าหากเมืองไทยไม่มีอะไหล่ Captiva โฉมใหม่ ก็สามารถสั่งจากเวียดนามได้ หรือจากจีนได้ หรือตัว Colorado กับ Trailblazer หลายๆ อย่าง ก็สามารถใช้ร่วมกับ Isuzu ได้

ไม่น่าซื้อ เพราะ …

  • ซื้อมาแล้วราคารถตกฮวบฮาบแน่นอน บทเรียนมีให้เห็นมาแล้ว สำหรับรถหลายๆ รุ่นที่มีปัญหา หรือรถหลายๆ รุ่น ที่เคยมาขายในไทยแล้วลอยแพ เลิกกิจการไป
  • ปกติ Chevrolet ก็หาช่างอู่นอกซ่อมได้ยากแล้ว ยิ่ง GM ประกาศเลิกขาย ศูนย์บริการก็คงต้องหายไปด้วยส่วนหนึ่ง (ส่วนโชว์รูมไม่ต้องพูดถึง เปลี่ยนไปขายแบรนด์อื่นแน่นอน) การ Service ต่างๆ คงต้องรอกันนาน รวมถึงอะไหล่ก็น่าจะรอนานไปด้วย

อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของท่านแล้วล่ะครับ ว่ารถ Chevrolet ตอนนี้น่าซื้อหรือไม่ ซื้อมาไม่ว่าจะใช้เพียงแค่ไม่กี่ปี หรือจะใช้ยาวๆ ลองนั่งตัดสินใจดู แล้วสำรวจเงินในกระเป๋าด้วย ถ้าถูกใจก็จัดไปเลย!

แต่ MR.CARRO ขอแนะนำให้ซื้อเงินสดนะครับ เพราะถ้าคุณจะซื้อแบบผ่อน ถ้ามีรถตรงรุ่นตรงสีในสต็อคที่คุณอยากได้พอดี สามารถสั่งจองและรับรถได้เลย ส่วนมนุษย์เงินผ่อน จะต้องรอทางไฟแนนซ์สรุปก่อนว่าจะจัดไฟแนนซ์ได้ในรูปแบบไหน และในส่วนของของแถมติดรถนั้น ไม่มีนะครับ เพราะรถน่าจะเรียกได้ว่า ขายในราคาที่แทบไม่มีกำไรแล้ว

และใครที่ไปจองรถหลายๆ คัน เพื่อที่จะนำใบจองไปขายต่อ ทางบริษัทฯ ยังบอกอีกด้วยว่า ผู้ที่จอง อาจจะไม่ได้รถที่จองไว้ก็เป็นไปได้ ซึ่งทางบริษัทฯ จะคืนให้กรณีที่จองรถแล้วไม่ได้รับรถ และการจองนั้น ทางบริษัทฯ จะให้สิทธิ์เพียงท่านละหนึ่งคันเท่านั้น

Chevrolet-Colorado-2019

ค่าใช้จ่ายในการรับรถ Chevrolet ด้วยการซื้อเงินสด มีดังนี้

1. เงินค่าตัวรถ
2. ค่าจดทะเบียน
3. ค่ามัดจำป้ายแดง 4,000 บาท
4. ค่า VAT 7% คิดจากส่วนลด
5. ค่าประกันภัยชั้น 1 25,000 บาท

หมายเหตุ:

  • หากไม่ได้รับรถ คืนจองให้เต็มจำนวนทุกกรณี
  • เงินจอง สามารถเปลี่ยนรุ่นเปลี่ยนสีได้ทุกกรณี

แหล่งที่มาจาก:

Carro-10-Best-Food-In-Bangkok-Thailand

ขึ้นชื่อว่าเป็น “กรุงเทพฯ” แล้ว ถือว่าเป็นเมืองที่ไม่เคยหลับไหล และเมืองที่ของให้กินกันได้ทั้งวันทั้งคืน ต่างจากในต่างประเทศ และมีให้เลือกตั้งแต่แผงขายอาหารข้างถนนแบบโนเนม ไปจนถึงร้านระดับ Michelin Guide (มิชลินไกด์ หรือ ดาวมิชลิน)

และอาหารนานาชาติ กับร้านอาหารหรูๆ อย่าง อาหารจีน อาหารญี่ปุ่น อาหารเกาหลี อาหารอินเดีย อาหารเวียดนาม อาหารอิตาลี อาหารฝรั่งเศส ฯลฯ ให้เลือกกินกันมากมาย และให้คนระดับวงในเช็คอินกันได้ไม่อั้นเลยทีเดียว

ไม่ต้องพูดอะไรกันมาก หิวแล้ว MR.CARRO ขอเปลี่ยนบรรยากาศ พาไปชมเมนูอร่อยจากร้านอาหารต่างๆ ในกรุงเทพฯ ที่คิดว่าหลายคนอาจจะเคยกิน เคยชิม กันมาบ้างแล้วไม่มากก็น้อย เอาล่ะ เตรียมตัวไปกินกันเลยดีกว่า!

ข้าวหมูทอดเจ๊จง

1. ข้าวหมูทอดเจ๊จง

อยู่ไหน : สาขาใหญ่ อยู่ที่ 348 ถ.ทางรถไฟสายเก่า ด้านหลัง Tesco Lotus พระราม 4 เปิดวันจันทร์-เสาร์ 7.00 – 16.00 น. และยังมีอีกหลายสาขา
เท่าไหร่ : ข้าวหมูทอด ราคาถุงละ 21 บาท จานละ 26 บาท

ข้าวหมูทอดเจ๊จง โดย คุณจงใจ กิจแสวง ถือว่าเป็นขวัญใจคนทำงานออฟฟิศ และเหล่าบรรดาคนทำงานภาคสนามเลยล่ะ เป็นร้านที่มีบรรดาคนทำงานรับสั่งอาหาร มายืนต่อคิวซื้อที่หน้าร้านกันแน่นมากๆ ด้วยราคาไม่แพง สด ใหม่ ด้วยเนื้อหมูนุ่มไม่แข็ง ทอดกันสดใหม่ด้านข้างๆ ร้าน พร้อมข้าวที่หุงขึ้นหม้อ กับน้ำพริกเผ็ดสะใจ

หากกินที่ร้าน ยังมีเครื่องเคียงอย่างแตงกวา กล้วยน้ำว้า และเติมข้าวกันได้ฟรีๆ แบบไม่อั้นอีกด้วย! หรือจะสั่งข้าวแกง + น้ำซุปมากินเพิ่มเติม เจ๊จงก็มีขายด้วยเช่นกัน ยิ่งลูกค้าบอกกันแบบปากต่อปาก จนได้ออกรายการ TV ทำให้คนรู้จักเจ๊จงกันทั้งประเทศ

ข้าวหน้าเป็ด-พญาไทพลาซ่า

2. ข้าวหน้าเป็ด พญาไทพลาซ่า

อยู่ไหน : เป็นศูนย์อาหารริมถนนพญาไท ข้างตึกพญาไทพลาซ่า เยื้องๆ กับ BTS พญาไท เปิดวันจันทร์-เสาร์ 6.00 – 15.00 น.
เท่าไหร่ : ราคาเริ่มต้น จานละ 40 บาท

ตัวผมเองก็ทานข้าวหน้าเป็ดมาก็หลายเจ้า แต่ปัญหาที่พบคือเป็ดจะมีเนื้อไม่นุ่ม และมีกลิ่นเหม็นหืน กลิ่นสาปเป็ด แต่ของเจ้านี้นั้นต่างไปจากที่เคยเจอ เพราะมีเนื้อเป็ดที่นุ่ม หนังกรอบใช้ได้ บวกกับน้ำราดเป็ดก็ถือว่าใช้ได้ อยากให้ลองไปชิมกันดู

ก๋วยจั๊บสามทุ่ม

3. ก๋วยจั๊บสามทุ่ม Terminal 21

อยู่ไหน : ศูนย์อาหาร Pier 21 ในศูนย์การค้า Terminal 21 อโศก เปิดทุกวันไม่มีวันหยุด 10.00 – 22.00 น. และยังมีอีกหลายสาขา
เท่าไหร่ : ราคาเริ่มต้น ชามละ 28 บาท พิเศษ 32 บาท

สมัยก่อนเวลาผมมาย่านสถานีรถไฟชุมทางบางซื่อ ก็จะแว๊บไปกิน ก๋วยจั๊บสามทุ่ม สาขาต้นตำรับ เป็นร้านรถเข็นที่ขายกันอยู่แถวๆ ข้างสถานี ตรงข้ามประตู 1 MRT บางซื่อ นั่นล่ะ (เดี๋ยวนี้ย้ายไปแถวๆ ประชาชื่นละ) คนต่อแถวรอซื้อยาวกันประจำ ถือว่าเป็นก๋วยจั๊บเจ้าดังอีกเจ้าหนึ่ง ที่มาของชื่อก็คือสมัยก่อน ปิดร้านตอนสามทุ่มนั่นเอง

พอเดี๋ยวนี้มาขยายสาขาขึ้นห้าง ทำให้มีโอกาสได้ทานกันง่ายขึ้น น้ำพะโล้ของเจ้านี้ถือว่าเข้มข้น หอมกลิ่นยาจีน ใส่เครื่องในให้เพียบ พร้อมไข่ และเต้าหู้ สไตล์ก๋วยจั๊บสูตรแต้จิ๋ว

ผัดไทย-หอยทอด เซนต์หลุยส์

4. ผัดไทย-หอยทอด เซนต์หลุยส์ Terminal 21

อยู่ไหน : ศูนย์อาหาร Pier 21 ในศูนย์การค้า Terminal 21 อโศก เปิดทุกวันไม่มีวันหยุด 10.00 – 22.00 น. และยังมีอีกหลายสาขา
เท่าไหร่ : ราคาเริ่มต้น จานละ 30 บาท

อาหารประจำชาติไทย (แต่ต้นกำเนิดมาจากเวียดนาม เฝอผัด) อย่าง ผัดไทย พูดถึงแล้วก็มีร้านดัง ฝีมือดีอยู่หลายเจ้า แต่เจ้าที่ผมไปชิมเป็นประจำนั่นก็คือผัดไทย-หอยทอด เซนต์หลุยส์ ที่โด่งดังมาตั้งแต่สาขาต้นตำรับอยู่ในซอยเซนต์หลุยส์ 3 แถวๆ สาทร ขายมายาวนานกว่า 20 ปี ตั้งแต่รุ่นแม่ถึงรุ่นลูก จนขยายสาขาขึ้นห้างมาให้ชิมกันได้ง่ายขึ้น ในราคาที่ไม่แพง

เส้นเหนียวนุ่มกำลังดี เหมือนเส้นจันท์ ใส่มะนาว ถั่วงอก ผัดกันสดๆ กินกันร้อนๆ หรือจะสั่งหอยทอด กุ้งสด ปลาหมึกวุ้นเส้น หรือออส่วน มากินเพิ่มเติมก็ย่อมได้

ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่-สุกี้โบราณไท้เฮง

5. สุกี้โบราณไท้เฮง Terminal 21

อยู่ไหน : ศูนย์อาหาร Pier 21 ในศูนย์การค้า Terminal 21 อโศก เปิดทุกวันไม่มีวันหยุด 10.00 – 22.00 น. และยังมีอีกหลายสาขา
เท่าไหร่ : ราคาเริ่มต้น จานละ 28 บาท

ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ ของร้าน สุกี้โบราณไท้เฮง ต้นตำรับจากเยาวราช ก็มีให้เลือกอยู่หลากหลายแบบ ตั้งแต่ ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ คั่วหมู สุกี้น้ำไก่ หมู หรือสุกี้แห้งก็มี จะเอาแบบรวมมิตรก็ได้เช่นกัน รสชาติอร่อยถูกปากผมมาก เส้นเหนียวนุ่ม กินกับไก่คั่วหอมๆ แห้งๆ ถ้าใส่น้ำจิ้มของร้านเข้าไป ก็อร่อยไปอีกแบบ

เรียกว่าคนทำผัดกันบนกระทะทั้งวัน ไม่ต้องเดินไปไหนกันเลยล่ะ

15 แซ่บเตี๋ยวแคะ

6. 15 แซ่บเตี๋ยวแคะ ทศท. เพลินจิต

อยู่ไหน : ศูนย์อาหาร ทศท. เพลินจิต เปิดวันจันทร์-ศุกร์ 6.00 – 14.00 น.
เท่าไหร่ : ราคาเริ่มต้น ชามละ 40 บาท พิเศษ 45 บาท

สมัยที่ผมทำงานแถวนั้น นี่นับว่าเป็นหนึ่งในร้านโปรดของผมเลย เจ้าของร้านเป็นลุงกับป้า (ตอนนี้ส่งไม้ต่อให้คนอื่นมาขายละ แต่ยังอร่อยเหมือนเดิม) บ้านอยู่แถวโชคชัย 4 แต่มาขายอาหารถึงแถวเพลินจิต และชื่อร้านก็มาจากล็อค 15 ที่ขายอยู่ในศูนย์อาหาร ทศท. เพลินจิต นั่นเอง เป็นร้านที่ต้องต่อคิวรอซื้อกันนานมากๆ จนร้านข้างๆ มีเคือง

เพราะก๋วยเตี๋ยวแคะร้านนี้ ทำจากลูกชิ้นปลาแท้ๆ ใส่เต้าหู้ หอม อร่อย และที่สำคัญ ให้เยอะมาก! กินร้อนๆ ได้เหงื่อแตกตลอด!

7 TOT อาหารมุสลิม

7. 7 TOT อาหารมุสลิม ทศท. เพลินจิต

อยู่ไหน : ศูนย์อาหาร ทศท. เพลินจิต เปิดวันจันทร์-ศุกร์ 6.00 – 14.00 น.
เท่าไหร่ : ราคาเริ่มต้น จานละ 40 บาท

สำหรับร้านนี้ เป็นร้านอาหารมุสลิมที่อยู่ใน ทศท. เพลินจิต ที่เดียวกับด้านบนนั่นเอง ซึ่งก็มีของกินให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่ข้าวแกง ก๋วยเตี๋ยวแกง สลัดแขก ต้มซุปไก่ เนื้อวัว หรือซุปหางวัวก็มี แต่ที่อร่อยถูกปากผม คงต้องยกให้กับ “ข้าวหมกไก่”

เจ้านี้ข้าวหมกไก่ เนื้อไก่นุ่ม หอม ข้าวหุงกันแบบสดๆ มีกลิ่นเครื่องเทศหน่อย กับน้ำจิ้มรสเด็ด ผนวกกับน้ำซุปที่หอมกรุ่น ใส่ฟักและมะเขือเทศ ชวนให้กินกันอีกหนึ่งจาน

เจ๊กิม-ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ-เย็นตาโฟ

8. เจ๊กิม ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ เย็นตาโฟ (สมบูรณ์โภชนา) ลาดพร้าว 1

อยู่ไหน : เป็นตึกแถว เลขที่ 243/14 ซ.ลาดพร้าว 1 (ข้างยูเนี่ยนมอลล์) เปิดทุกวัน (หยุดทุกวันอังคาร) 8.30 – 19.30 น.
เท่าไหร่ : ราคาเริ่มต้น ชามละ 45 บาท พิเศษ 55 บาท

ร้านนี้ถ้าใครผ่านไปแถวซอยลาดพร้าว 1 ก็อาจจะมีโอกาสได้เข้าไปทานกันบ้าง เป็นร้านที่ขายก๋วยเตี๋ยวหลากหลาย แต่ทีเด็ดจะอยู่ที่ลูกชิ้นปลาทำสด ใหม่ ไม่มีกลิ่นคาว ไม่ใส่ผงชูรส อีกทั้งยังมีเย็นตาโฟ ที่ใส่ลูกชิ้นกุ้ง เห็ดหูหนูขาว ปลาหมึกกรอบ ลูกชิ้นปลา และกระเทียมเจียว มาให้คุ้มค่ากับราคา หรือก๋วยเตี๋ยวต้มยำ ก็มีให้เลือกทานอีกด้วย

แต่ย่านนี้หาที่จอดรถค่อนข้างยากหน่อย แนะนำให้จอดรถไว้ที่ยูเนี่ยนมอลล์ แล้วเดินมากินจะสะดวกกว่า

ข้าวมันไก่ตอนรสเด็ด-สูตรไหหลำ

9. ข้าวมันไก่ตอนรสเด็ด (สูตรไหหลำ) ลาดพร้าว 1

อยู่ไหน : ในซ.ลาดพร้าว 1 (ตรงข้ามศาลเจ้าแม่โพสพ) เปิดทุกวัน 16.30 – 22.30 น. (หรือจนกว่าจะขายหมด)
เท่าไหร่ : ราคาเริ่มต้น จานละ 40 บาท พิเศษ 45 บาท ผสม 50 บาท

ร้านนี้เป็นแบบรถเข็นมาเลย จะเริ่มมาขายกันตั้งแต่ช่วงเย็นๆ ไปจนถึงดึกๆ มีลูกค้าขาประจำมารอซื้อกันพอสมควร ทีเด็ดอยู่ข้าวหอมนุ่ม ผนวกกับเนื้อไก่นุ่มๆ มันๆ ไม่แข็ง ไม่เหม็นคาว และน้ำซุปรสชาติดี กลมกล่อม ที่คุณสามารถขอกระดูกไก่ หรือจะโรยผักชีใส่เพิ่มด้วยก็ได้

แต่ย่านนี้หาที่จอดรถค่อนข้างยากหน่อย แนะนำให้จอดรถไว้ที่ยูเนี่ยนมอลล์ แล้วเดินมากินจะสะดวกกว่า

ข้าวขาหมู-ลาดพร้าว 1

10. ข้าวขาหมู ลาดพร้าว 1

อยู่ไหน : ในซ.ลาดพร้าว 1 (หน้า 7-11) เปิดทุกวัน 8.00 – 15.00 น.
เท่าไหร่ : ราคาเริ่มต้น จานละ 40 บาท พิเศษ 45 บาท ซูเปอร์ 50 บาท

ร้านนี้จะขายกันตั้งแต่ช่วงเช้าๆ ไปจนถึงบ่ายๆ หรือจนกว่าขาหมูจะหมด สังเกตง่ายๆ เมื่อเข้ามาในซอยลาดพร้าว 1 จะอยู่ที่ 7-11 สาขาแรกเลย เนื้อหมูของที่นี่เนื้อค่อนข้างนุ่ม บวกกับน้ำซุปที่เข้มข้น หนังหมูก็ลื่น เคี้ยวง่าย ส่วนไส้หมูค่อนข้างสะอาด

แต่ร้านนี้เหมาะสำหรับให้คนทำงานรับสั่งอาหารมาซื้อไป หรือสั่งกลับบ้านมากกว่า เพราะที่นั่งกินที่ร้านนั้นมีน้อยมาก ถ้าใครไม่กลัวอ้วนต้องมาชิม!

เชื่อว่าหลายๆ ท่าน ระดับวงใน เห็นแล้วรู้สึกน้ำลายสอกันแล้วล่ะสิ สำหรับตอนต่อไปของ 10 อาหารมื้อเด็ด เมนูอร่อย ในกรุงเทพฯ ที่กินแล้วต้องมากินอีก! จะมีที่ไหนและเมนูอร่อยๆ จากที่ไหนบ้างนั้น โปรดรอติดตามชมกันนะครับ!

ส่วนใครที่กำลังอยากขายรถคันเดิม เพื่อไปซื้อรถคันใหม่ มาขายรถกับ CARRO สิ เรารับซื้อรถมือสอง ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ CARRO Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ครับ —> เพิ่มเพื่อน

5-Problems-GM-Withdraw-Sales-Chevrolet-In-Thailand

เชื่อว่าหลายๆ ท่าน คงได้ทราบข่าวกันไปแล้วนะครับ เกี่ยวกับ เจนเนอรัล มอเตอร์ส ประเทศไทย ประกาศยุติการจำหน่ายรถยนต์ Chevrolet (เชฟโรเลต) ในไทย ภายในสิ้นปี 2563 หลังจากที่ประกาศการยุติการทำตลาดรถ Holden (โฮลเด้น) ที่มีอายุมากกว่า 164 ปี ในออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ พร้อมขายโรงงานที่ จ.ระยอง ให้ Great Wall Motors (เกรท วอล มอเตอร์ส) จากจีน ซื้อศูนย์การผลิตรถยนต์และเครื่องยนต์ไป

แต่ทาง GM ยืนยันจะยังคงมีบริการหลังการขายและดูแลลูกค้าต่อไป อาทิ การรับประกันคุณภาพรถยนต์ การซ่อมบำรุง และการบริการต่างๆ ผ่านเครือข่ายของศูนย์บริการ ที่ได้รับการแต่งตั้งจากเชฟโรเลตทั่วประเทศ

“GM ทราบดีถึงผลกระทบที่จะมีต่อพนักงานและคู่ค้าของเราจากการตัดสินใจครั้งนี้ เราให้คำมั่นที่จะปฏิบัติต่อพนักงาน คู่ค้า และผู้ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของเราด้วยความเคารพ ตลอดระยะเวลาการปรับเปลี่ยนนี้” แอนดี้ ดันสแตน ประธานกรรมการตลาดเชิงกลยุทธ์ พันธมิตรและผู้แทนจำหน่าย จีเอ็ม อินเตอร์เนชั่นแนล โอเปอเรชั่นส์ กล่าว

“GM ได้ประเมินทางเลือกหลายทาง ในการรักษาเชฟโรเลตไว้ในตลาดประเทศไทย แต่ความเป็นจริงก็คือ หากไม่มีฐานการผลิตในประเทศไทยแล้ว ก็ไม่อาจที่จะแข่งขันในตลาดรถยนต์ประเทศไทยได้เลย” นายแอนดี้ กล่าว

GM-Chevrolet-Rayong-Plant

นายเฮกตอร์ บีจาเรียล ประธานกรรมการ จีเอ็ม ASEAN กล่าวว่า บริษัทสัญญาที่จะดูแลช่วยเหลือพนักงานและลูกค้า และจะปรับเปลี่ยนการดำเนินงานต่างๆ สำหรับลูกค้า พนักงาน ผู้จัดจำหน่ายรถยนต์เชฟโรเลต และผู้จัดหาวัตถุดิบหรือบริการให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

“เราจะให้ความช่วยเหลือ และมอบแพ็คเกจเงินชดเชยให้กับพนักงานที่ได้รับผลกระทบทั้งหมด ในจำนวนที่มากกว่ากฎหมายแรงงานไทยกำหนด”

“เราให้คำมั่นสัญญาว่าจะดูแลและให้บริการลูกค้าของเราต่อไป ท่านเจ้าของรถยนต์เชฟโรเลตมั่นใจได้ว่า เราจะยังคงปฏิบัติตามการรับประกันคุณภาพรถยนต์ทุกคัน และให้บริการหลังการขายผ่านเครือข่ายของเราในประเทศไทย เชฟโรเลตจะร่วมมือกับผู้จัดจำหน่ายของเราอย่างใกล้ชิด โดยเราจะเสนอโอกาสในการปรับเปลี่ยนธุรกิจให้แก่ผู้จัดจำหน่าย ให้เปลี่ยนเป็นศูนย์บริการที่ได้รับการแต่งตั้งจากเชฟโรเลต” นายเฮกตอร์ กล่าว

นับตั้งแต่ “GM” (จีเอ็ม) ยักษ์ใหญ่แห่งอุตสาหกรรมยานยนต์โลก ที่ก้าวเข้ามาทำตลาดในเมืองไทยตั้งแต่ 1 มกราคม 2543 กับการขาย Chevrolet Zafira (เชพโรเลต ซาฟิร่า) เป็นประเดิม ซึ่งตลาดไทยเป็นที่ใครหลายๆ คน เรียกว่า “ปราบเซียน” เพราะยักษ์ใหญ่อย่าง GM ก็ยังเคยม้วนเสื่อกลับประเทศไปตั้งแต่ช่วงปลายยุค 70 ที่ผ่านมา ตั้งแต่การทำแบรนด์ Chevrolet หรือ Opel ก็ตาม

ก่อนจะกลับมาใหม่อีกครั้ง ในยุค 2000 โดยเข้ามาแทนที่รถแบรนด์เยอรมนีอย่าง Opel ที่เคยทำการตลาดโดยบริษัท พระนครยนตรการ ก่อนจะลอยแพเลิกขายไป

MR.CARRO จะมาสรุปสาเหตุให้อ่านกันว่า เพราะอะไร ถึงทำให้ GM ถึงต้องเลิกขายรถ Chevrolet ในไทย ใน 5 ปัญหาหลักๆ..

Chevrolet-Cruze

1. รถมีปัญหา

หากเราย้อนกลับไปดูข่าวที่เกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อน ตอนนั้น Chevrolet Cruze (เชฟโรเลต ครูซ) เป็นที่กล่าวขวัญอย่างมากถึงปัญหาของรถยนต์ที่ผู้บริโภคได้พบเจอ เริ่มกันตั้งแต่ เกียร์เปลี่ยนขึ้น-ลงกระตุก เกียร์ไม่ Kick-Down เกียร์กระตุกในช่วงเครื่องเย็น และในสภาวะรถติดเคลื่อนตัวช้า เบรก RF ค้าง กล่อง ECU พัง มอเตอร์ไดชาร์จมีปัญหา ส่งผลถึงแบตเตอรี่รถยนต์ หรือมีอาการไฟโชว์แบบไม่ทราบสาเหตุ เป็นต้น จนเป็นเรื่องต้องขึ้นศาลกันหลายยก จนทาง Chevrolet ต้องผลิต Cruze ขายกันมาแบบลดรุ่นย่อยลงมาเรื่อยๆ ยาวนานอยู่หลายปีก่อนที่จะเลิกผลิตไป

และในส่วนของ Chevrolet Sonic ในรุ่นเครื่องยนต์ขนาด 1.4 ลิตร และ 1.6 ลิตร ก็มีปัญหาตามมาไม่แพ้กัน อาทิเช่น เรื่องปั๊มน้ำ ปั๊มติ๊ก เรื่อง พบโค้ด 84 (คือ สัญลักษณ์ที่บ่งชี้การสั่งงานของสมองกล เกิดขึ้นเมื่อเครื่องยนต์ปรับเข้าสู่ภาวะเพื่อความปลอดภัย (Safe Mode) และทำการลดกำลังของเครื่องลง โดยส่วนใหญ่มีผลทำให้ไฟเตือนระบบ ABS ขึ้น) หรือเครื่องยนต์มีเสียงดัง คอยล์จุดระเบิดเสีย เป็นต้น

แม้ว่า Sonic จะเป็นรถที่มีคุณสมบัติน่าใช้มากๆ ก็ตาม แต่ด้วยปัญหาข้างต้น Sonic จึงต้องถูกเลิกขายตามกันไปอีกหนึ่งรุ่น

เนื่องจากมีรถที่มีปัญหากันอย่างมากในกลุ่มผู้ใช้รถยนต์ Chevrolet ที่เป็นกันในหลายรุ่น ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเป็นวงกว้าง จึงทำให้ยอดขายรถของ Chevrolet ตามตกไปด้วย

Chevrolet-Colorado-High-Country

2. รุ่นรถมีให้เลือกน้อยลงเรื่อยๆ

ตลาดรถ Chevrolet ในประเทศสหรัฐอเมริกา มีรถรุ่นใหม่ๆ ออกจำหน่ายอยู่หลากหลายแบบ แต่ตลาดในไทยนั้น มีแต่รถ Chevrolet ในไทย มีแต่ Modelรถที่ผลิตขายกันมาอย่างยาวนานแล้ว อาทิเช่น Chevrolet Colorado เปิดตัวเมื่อเดือนตุลาคม 2554 และ Chevrolet Trailblazer ที่เปิดตัวไปเมื่อ 21 มีนาคม 2555

ตามนโยบายการ Transformation หรือการปรับโครงสร้างการดำเนินธุรกิจของ GM เมื่อปี 2558 GM จะโฟกัสกับตลาดรถปิกอัพ และ SUV ซึ่งมีส่วนแบ่งทางการตลาดในประเทศไทยมากถึง 50%

จึงทำให้รถทั้ง 2 รุ่น ก็ยังคงขายกันมาจนถึงทุกวันนี้ แม้ว่าจะมีการปรับโฉม เล็กๆ น้อยๆ หรือเพิ่มรุ่นพิเศษกันทุกปี แต่ก็ไม่ช่วยให้ยอดขายกระเตื้องขึ้นมากนัก แต่ก็ไม่ถึงกับแย่ จนขายไม่ได้เลยสักคัน

ไพ่ใบสุดท้ายอย่าง Chevrolet Captiva ใหม่ ที่เปิดตัวไปเมื่อ 9 กันยายน 2562 ก็ถือว่ามาช้าเกินการณ์ อีกทั้งยังถูกรถยนต์คู่แข่ง (ที่ใช้พื้นฐานร่วมกันกับ Captiva) โหมกระหน่ำทั้งราคาและโปรโมชั่นอย่างหนัก จน Chevrolet Captiva ก็ไม่ได้ยอดขายเป็นไปตามที่คาด กลับต้องเล่นโปรโมชั่นลดราคากระหน่ำตามไปด้วย

ยอดขายรถ Chevrolet ในไทย ตั้งแต่ปี 2552 – 2562

  • ปี 2552 ยอดขาย 15,112 คัน
  • ปี 2553 ยอดขาย 20,026 คัน
  • ปี 2554 ยอดขาย 31,595 คัน
  • ปี 2555 ยอดขาย 75,457 คัน
  • ปี 2556 ยอดขาย 56,389 คัน
  • ปี 2557 ยอดขาย 25,799 คัน
  • ปี 2558 ยอดขาย 17,456 คัน
  • ปี 2559 ยอดขาย 14,931 คัน
  • ปี 2560 ยอดขาย 18,772 คัน
  • ปี 2561 ยอดขาย 20,313 คัน
  • ปี 2562 ยอดขาย 15,161 คัน

ที่มา: เจนเนอรัล มอเตอร์ส ประเทศไทย

GM-Chevrolet-And-Barack-Obama

3. ปัญหาจากบริษัทแม่

เนื่องจากปัญหาของ GM ในสหรัฐอเมริกาที่เคยมีปัญหาล้มละลาย จนต้องยื่นขอพิทักษ์ทรัพย์ต่อศาลล้มละลาย ในสมัยประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐ โดยรัฐบาลสหรัฐฯ ในเวลานั้น ต้องเตรียมเงินทุนสำหรับการปรับเปลี่ยนบริษัท หลังจากที่ยอดขายของ GM ทรุดฮวบลงและราคาเชื้อเพลิงที่พุ่งขึ้น โดยสหรัฐฯ วางแผนปรับเปลี่ยนเงินกู้ 5 หมื่นล้านดอลลาร์เป็นหุ้นสัดส่วน 60% ในช่วงเดือนมิถุนายน 2009

ทำให้ทาง GM ต้องปรับโครงสร้างของบริษัท อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ รถแบรนด์ไหนในเครือที่ขายไม่ได้ ขายไม่ดี จะต้องถูกยุบหรือเลิกไป (เช่น Saturn, Pontiac, Oldsmobile และ Hummer ที่เลิกขายไปในเวลานั้น) และการจัดจำหน่ายรถยนต์ในต่างประเทศ เช่น ในยุโรป รัสเซีย เยอรมนี หรืออังกฤษ ซึ่งถ้ายอดขายในประเทศไหนไม่คุ้มค่าต่อการลงทุนหรือการผลิต ก็จะต้องถูกยุบ ขายกิจการ หรือยุติการขายไปด้วยเช่นกัน เหลือไว้แค่เพียงบริการหลังการขายเท่านั้น

แต่ถ้าหากปัญหาใหญ่อยู่ที่บริษัทแม่ใน USA การวางแผนธุรกิจต่างๆ ก็ย่อมส่งผลกระทบมายัง GM ประเทศไทย อย่างเลี่ยงไม่ได้ นับตั้งแต่ปี 2558 ก็มีนโยบายให้พนักงานลาออกโดยสมัครใจมากถึง 30% ของจำนวนพนักงานในไทยทั้งหมด พร้อมกับถอนตัวจากโครงการผลิตรถ Eco Car เฟส 2 และในปี 2562 ก็มีข่าว GM ประเทศไทย ประกาศเลิกจ้างทั้งพนักงานประจำและพนักงานชั่วคราวกะทันหัน ตกงานกว่า 300 อัตรา

Chevrolet-After-Sales-Service

4. บริการหลังการขาย

นี่ก็นับว่าเป็นปัญหาใหญ่ของผู้บริโภคที่บ่นกันมามาก เรื่องบริการหลังการขาย ช่างตรวจไม่ละเอียด ซ่อมไม่เก่ง บางครั้งหาสาเหตุ แยกแยะปัญหาไม่เจอ ซ่อมไม่จบ จนผู้บริโภคหลายคนรู้สึกเหนื่อยใจ อีกทั้งศูนย์บริการ มีการเปิดปิดบ่อย ทำให้ไม่เกิดการต่อเนื่องในการให้บริการในพื้นที่นั้นๆ หรือรถรุ่นเก่าๆ ต้องรออะไหล่นาน เป็นต้น

Chevrolet-Trailblazer-Test-Drive

5. ราคารถมือสองตกมาก

ราคาขายรถมือสองย่อมมีผลต่อยอดขายรถใหม่อย่างแน่นอน แต่รถยนต์ที่ผ่านการใช้งานทุกรุ่น ราคาตกก็เป็นเรื่องปกติ แต่รถหลายรุ่นที่มีปัญหาตามข้างต้นก่อนหน้า ความเชื่อมั่นของผู้ใช้งานก็ย่อมน้อยลงไป ซึ่งส่งผลไปถึงราคาขายต่อที่ถูกกดลงมากกว่าปกติอีกด้วย และล่าสุด มีข่าวว่าบริษัทไฟแนนซ์ ไม่รับจัดไฟแนนซ์ให้กับรถ Chevrolet ออกมาบ้างแล้ว

ถ้าคุณใช้รถ Chevrolet แล้วรู้สึกอยากขายรถ เพื่อไปซื้อรถยี่ห้อใหม่ เอารถมาขายกับทาง CARRO สิ ลงประกาศขายรถฟรี เรารับซื้อรถมือสอง โดยได้ราคาที่คุณพอใจ พร้อมปิดการขายภายใน 24 ชั่วโมง! กับ CARRO Express แค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือจะ Inbox สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ครับ —> เพิ่มเพื่อน

ส่วนในประเทศไทยเอง ถ้าใครติดตามวงการยานยนต์อยู่เสมอๆ จะเห็นได้ว่า ทาง เชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทย นอกจากมีนายฝรั่งจะกุมหัวเรือใหญ่แล้ว ก็ยังมีบุคลากรที่เป็นคนไทยฝีมือดี จากหลากหลายวงการธุรกิจ เข้ามาดำรงตำแหน่งในฝ่ายขาย ฝ่ายการตลาด ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ช่วยสร้างความสำเร็จให้กับแบรนด์ Chevrolet เป็นที่รู้จักของคนไทยอยู่ด้วยกันหลายคน อาทิ ชาติชาย สุวรรณเสวก, สมภพ ปฏิภานธาดา, ยอดชาย ซื่อวัฒนากุล, ชาญวิทย์ เขียวนาวาวงศ์ษา, ศศินันท์ ออลแมนด์, ณฐพร จิรมหาโภคา, จีรณัฐ แสงดี, อุณา ตัน หรือปิยะนุช จตุรภัทร์ เป็นต้น

Chevrolet-Colorado-Z71

รถยนต์ที่เคยจำหน่ายโดย Chevrolet ประเทศไทย มีกี่รุ่น? นับตั้งแต่ปี 2543 – 2563

If-You-Car-License-Plate-Lost

อยู่ๆ กลับพบว่าแผ่นป้ายทะเบียนรถของเราหลุดหายไปตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ ไม่รู้จะทำอย่างไรต่อนี้ ก็อย่าเพิ่งตกใจกันไปนะครับทุกคน หากใครที่เจอเหตุการณ์แบบนี้ แต่ไม่รู้จะทำอย่างไรดี ให้ มาสิ เป็นคนให้คำตอบเองดีกว่าทุกคน

ป้ายทะเบียนรถหาย รับมืออย่างไรดี

สำหรับเพื่อนๆ ที่เป็นเจ้าของรถยนต์ที่ทำป้ายทะเบียนหายไป เราสามารถยื่นขอรับแผ่นป้ายทะเบียนรถทดแทนได้ที่สำนักงานขนส่งที่รถยนต์ของเรานั้นอยู่ในความรับผิดชอบ โดยไม่ต้องเป็นต้องแจ้งความใดๆ ก่อนเลย แต่จะมีค่าธรรมเนียมอยู่ที่แผ่นป้ายละ 100 บาท ค่าคำขอ 5 บาท และเราจะได้รับแผ่นป้ายทะเบียนรถภายใน 15 วันหลังยื่นขอดำเนินการ โดยระหว่างนี้ เพื่อนๆ สามารถใช้ใบเสร็จที่เราได้รับมา เพื่อยืนยันแทนแผ่นป้ายทะเบียนรถเป็นการชั่วคราวได้เช่นกันครับ

If-You-Car-License-Plate-Lost

เอกสารที่ใช้สำหรับยื่นขอรับป้ายทะเบียนใหม่

  • คู่มือจดทะเบียนรถฉบับจริง
  • บัตรประจำตัวประชาชนฉบับจริงของเจ้าของรถ

ขอเพิ่มเติมนิดนึงว่าถ้าหากเจ้าของรถยนต์ไม่สะดวก หรือไม่สามารถมาดำเนินการด้วยตนเองได้ เราสามารถมอบอำนาจให้บุคคลอื่นมาทำเรื่องขอรับป้ายทะเบียนใหม่แทนได้ โดยเพียงต้องมีหนังสือมอบอำนาจพร้อมกับสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้รับมอบอำนาจติดมาแสดงด้วยครับ

และขอทิ้งท้ายเรื่องสำคัญไว้อีกนิดหนึ่งก่อนจากกัน เมื่อป้ายทะเบียนรถยนต์หาย ห้ามทำแผ่นป้ายทะเบียนรถขึ้นเองโดยเด็ดขาดครับ เพราะจะถือว่ามีความผิดตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 ฐานใช้แผ่นป้ายทะเบียนที่มีลักษณะไม่ถูกต้องตามที่กำหนดในกฎกระทรวง มีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 2,000 บาท

หวังว่าเกร็ดความรู้ตรงนี้จะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยสำหรับทุกคนกันนะครับ ส่วนเรื่องของความปลอดภัยบนท้องถนน การเลือกทำประกันรถยนต์ก็ช่วยเพิ่มความอุ่นใจให้เราได้ หากกรณีเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา ก็มีประกันคอยคุ้มครองให้เรา คลิกที่นี่ เพื่อเลือกทำประกันรถยนต์ มีข้อมูลสงสัยโทร 02 710 3100 เรามีทีมงานคอยให้คำตอบอยู่ครับ

ขอขอบคุณบทความดีๆ จาก www.masii.com