What-Medications-Not-Take-When-Driving

อุบัติเหตุบนท้องถนน เป็นเรื่องที่เราไม่สามารถคาดเดาอะไรได้เลย ต่อให้เราขับขี่รถยนต์อย่างระมัดระวัง แต่อุบัติเหตุก็ยังสามารถเกิดขึ้นได้ หากยิ่งเราเกิดขับขี่รถยนต์ขณะที่มึนเมา พฤติกรรมเหล่านี้จะยิ่งเป็นการเพิ่มความเสี่ยงได้อีกด้วยนะ รวมไปถึงยาบางชนิด บางประเภท ก็สามารถส่งผลให้เราง่วงซึม หรือมึนเมาจนเกิดอุบัติได้เช่นกันค่ะ

ยาประเภทไหนบ้าง ที่ควรเลี่ยงหากต้องขับรถ

What-Medications-Not-Take-When-Driving

เพื่อนๆ มีใครที่มีอาการสะลึมสะลือหลังจากการรับประทานยาเข้าไปบ้างคะ บางคนก็รู้สึกง่วง อยากทิ้งตัวลงนอน บางครั้งเหมือนความสามารถในการขับขี่ไม่ค่อยเต็มร้อยสักเท่าไร แล้วยิ่งรับประทานยาเข้าไปแล้ว ต้องทำงาน ต้องขับรถ หรือแม้แต่การทำงานที่เกี่ยวกับเครื่องจักรกล

แบบนี้ไม่ใช่เรื่องที่ดีเลยนะคะ เพราะเนื่องจากสาเหตุดังกล่าวมักจะเกิดจากตัวยาที่มีผลข้างเคียงทำให้เราเกิดอาการง่วง เพราะยาไปทำการกดระบบส่วนกลางของประสาทเราโดยตรง ทำให้เกิดอาการง่วงนอน และปวดเมื่อย ซึ่งหากเพื่อนๆ รู้ตัวว่าจะต้องรับประทานยาเหล่านี้ก็ควรหลีกเลี่ยงกับการขับรถยนต์นะคะ เผื่อหากเกิดอุบัติเหตุการณ์บนท้องถนนขึ้นมา อาจจะเกิดอันตรายอย่างหนักได้เลยค่ะ

มาดูกันว่ายาประเภทไหนที่ควรหลีกเลี่ยง

  • ยาลดน้ำมูก/ยาแก้แพ้
  • ยานอนหลับ
  • ยาแก้ปวดหัว
  • ยาคลายกล้ามเนื้อ
  • ยาคลายเครียด

หากเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องขับรถยนต์ ก็ควรเลือกใช้กลุ่มยาที่ทำให้เกิดอาการง่วงน้อยที่สุด และขณะที่ขับรถอยู่เกิดอาการง่วง เพื่อนๆ ไม่ควรฝืนนะคะ ควรจอดรถหรือหาที่พักนอนไปก่อน และการทำประกันรถยนต์ไว้จะช่วยให้เพื่อนๆ อุ่นใจได้หากเกิดอุบัติเหตุการณ์บนท้องถนนนะคะ หรือหากมีข้อสงสัยสามารถโทรเข้ามาได้ที่ 02-710-3100 เรามีทีมงานคอยให้คำตอบอยู่ค่ะ

ขอขอบคุณบทความดีๆ จาก www.masii.com

Old-Car-Tax-Idea-In-Thailand

ช่วงไม่กี่วันมานี้ ในโลกโซเชียลมีเดีย มีการถกเถียงกันอย่างดุเดือด ถึงการที่ กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ตบเท้าหารือกรมสรรพสามิต 16 ธ.ค. นี้ เสนอตั้งกองทุนเก็บค่าธรรมเนียมกำจัดรถยนต์เก่า 10 ปี พร้อมให้สิทธิพิเศษผู้ใช้ซื้อรถใหม่ หวังกระตุ้นยอดขาย ลดมลพิษ …

แนวคิดนี้ เกิดขึ้นจากภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ ในช่วง 10 เดือน ที่ผ่านมา (ม.ค. -ต.ค.) ตัวเลขยอดขายตกลงมาก ทำได้เพียง 838,847 คัน ขยายตัว 0.6%

จนผู้คนออกมาโจมตี ทั้งฝ่ายเอกชนที่ต้องการให้รัฐบาลตั้งกองทุนเก็บค่าธรรมเนียมกำจัดรถยนต์เก่า 10 ปี และภาพลักษณ์ของรัฐบาลตอนนี้ที่เป็นอย่างไร ทุกคนก็รู้ๆ กันอยู่ เลยกลายเป็นกระแสของคนเล่นรถเก่า รักรถเก่า รักรถมือสอง ออกมาด่ารัฐบาลกันเป็นชุด

Old-Car-Tax-Idea-In-Thailand

ถ้าคุณคิดอยากขายรถเก่ามาก ขยับมาซื้อรถใหม่ หรือรถมือสองที่ปีใหม่ขึ้นมาหน่อย เพราะไม่อยากรับภาระค่าใช้จ่ายที่ตามมาในอนาคต ก็นำรถมาขาย หรือตีราคารถ ที่ CARRO ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ CARRO Express คลิกที่นี่ https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

แนวคิดของการเก็บภาษีรถเก่า อายุเกิน 10 ปี นั้น มีข้อดี ข้อเสีย อย่างไร MR.CARRO จะมาเล่าให้ฟัง

Old-Car-Tax-Idea-In-Thailand

การจัดเก็บภาษีรถยนต์ประจำปี ของ กรมการขนส่งทางบก

แนวคิดในการจัดเก็บภาษีรถยนต์ ตั้งแต่ในยุคของกองทะเบียน กรมตำรวจ มาจนถึงยุคกรมการขนส่งทางบก ในอดีตนั้น จัดเก็บภาษีตามน้ำหนักรถยนต์ (ทั้งรถเก๋ง, รถกระบะ และรถตู้) ต่อมา ช่วงประมาณปี 2525 กรมการขนส่งทางบก จึงปรับรูปแบบการจัดเก็บภาษีของรถยนต์นั่ง (เฉพาะรถเก๋ง) ใหม่ ตาม พ.ร.บ. รถยนต์ พ.ศ. 2522 ที่เก็บตามความจุกระบอกสูบของเครื่องยนต์

ปัจจุบัน มีการจัดเก็บภาษี 4 ประเภทด้วยกัน คือดังนี้

1) จัดเก็บตามกระบอกสูบ ได้แก่ รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน

600 ซีซีแรก ซีซี ละ 0.50 บาท
601 – 1,800 ซีซีๆ ละ 1.50 บาท
เกิน 1,800 ซีซีๆ ละ 4.00 บาท

หากเป็นรถที่จดทะเบียนมาแล้ว 5 ปี ให้ได้รับการลดหย่อนภาษีประจำปีในปีต่อๆ ไป ดังนี้

– ปีที่ 6 ร้อยละ 10
– ปีที่ 7 ร้อยละ 20
– ปีที่ 8 ร้อยละ 30
– ปีที่ 9 ร้อยละ 40
– ปีที่ 10 และปีต่อๆ ไป ร้อยละ 50

2) จัดเก็บเป็นรายคัน ได้แก่ รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล รถจักรยานยนต์สาธารณะ รถพ่วง รถบดถนน รถแทรกเตอร์ที่ใช้ในการเกษตร

– รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล คันละ 100 บาท
– รถจักรยานยนต์สาธารณะ คันละ 100 บาท
– รถพ่วงของรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล คันละ 50 บาท
– รถพ่วงนอกจากข้อข้างต้น คันละ 100 บาท
– รถบดถนน คันละ 200 บาท
– รถแทรกเตอร์ที่ใช้ในการเกษตร คันละ 50 บาท

3) จัดเก็บตามน้ำหนัก ได้แก่ รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล รถยนต์รับจ้าง

น้ำหนักรถ (กิโลกรัม) รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน รถยนต์รับจ้างระหว่างจังหวัดรถยนต์บริการ รถยนต์รับจ้าง รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลรถลากจูงรถแทรกเตอร์ที่มิได้ใช้ในการเกษตร
ไม่เกิน 500 150 450 185 300
501 – 750 300 750 310 450
751 – 1,000 450 1,050 450 600
1,001 – 1,250 800 1,350 560 750
1,251 – 1,500 1,000 1,650 685 900
1,501 – 1,750 1,300 2,100 875 1,050
1,751 – 2,000 1,600 2,550 1,060 1,350
2,001 – 2,500 1,900 3,000 1,250 1,650
2,501 – 3,000 2,200 3,450 1,435 1,950
3,001 – 3,500 2,400 3,900 1,625 2,250
3,501 – 4,000 2,600 4,350 1,810 2,550
4,001 – 4,500 2,800 4,800 2,000 2,850
4,501 – 5,000 3,000 5,250 2,185 3,150
5,001 – 6,000 3,200 5,700 2,375 3,450
6,001 – 7,000 3,400 6,150 2,560 3,750
7,001 ขึ้นไป 3,600 6,600 2,750 4,050

4) รถที่ขับเคลื่อนด้วยกำลังไฟฟ้า

– รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน ให้เก็บภาษีตามน้ำหนักของรถในอัตรารถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกินเจ็ดคน
– รถอื่นนอกจาก 4.1 ให้เก็บภาษีในอัตรากึ่งหนึ่งของรถตามข้อ 2 และ 3

รถใครภาษีขาดเกิน 3 ปี ดูวิธีการต่อภาษี พร้อมจดทะเบียนใหม่ ได้ใน Link นี้ – 3 ขั้นตอนง่ายๆ ในการต่อทะเบียนรถ “ภาษีขาดเกิน 3 ปี”

Old-Car-Tax-Idea-In-Thailand

แล้วภาษีสรรพสามิต ของรถยนต์ป้ายแดงที่ออกใหม่จากโรงงานล่ะ?

ปัจจุบัน กรมสรรพสามิต จัดเก็บภาษีเฉพาะรถยนต์ใหม่ ที่ผลิตจากโรงงานอุตสาหกรรม หรือนำเข้าจากต่างประเทศ โดยจัดเก็บภาษีตามหลักสิ่งแวดล้อม โดยกำหนดอัตราภาษีตามอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) เพื่อส่งเสริมให้เกิดการประหยัดพลังงาน และลดมลพิษด้านสิ่งแวดล้อม จากการปล่อย CO2 อันเป็นสาเหตุหลักให้เกิดสภาวะโลกร้อน และฝุ่น PM 2.5

Old-Car-Tax-Idea-In-Thailand

ข้อดี ของ แนวคิดของการเก็บภาษีรถเก่า อายุเกิน 10 ปี

  • ปริมาณรถยนต์เก่าในบ้านเราลดลง เพราะผู้คนส่วนหนึ่ง ยอมขายรถเก่าทิ้ง เนื่องจากสู้กับภาษีที่เพิ่มขึ้นไม่ไหว
  • ปริมาณฝุ่น PM 2.5 ที่ปล่อยออกจากเครื่องยนต์รถยนต์ น้อยลง
  • ภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ มียอดขายรถยนต์ใหม่มากขึ้น กับบรรดาผู้ผลิตชิ้นส่วนอะไหล่ต่างๆ และอุปกรณ์เกี่ยวเนื่อง มีเงินหมุนเวียนในระบบมากขึ้น
  • ซากรถคันเก่า จะเข้าสู่กระบวนการกำจัดซากที่ได้มาตรฐาน แบบโรงงานรีไซเคิลรถยนต์ เช่นในประเทศจีน หรือ ญี่ปุ่น และได้รับเงินที่จ่ายเข้ากองทุนคืนพร้อมดอกเบี้ย ซึ่งอาจจะเป็นการลดภาษีสรรพสามิตของรถใหม่ ที่จะซื้อออกไป

Old-Car-Tax-Idea-In-Thailand

ข้อเสีย ของ แนวคิดของการเก็บภาษีรถเก่า อายุเกิน 10 ปี

  • ผู้บริโภคต้องยอมซื้อรถยนต์ป้ายแดงคันใหม่ ในราคาจำหน่ายที่แพงกว่าหลายประเทศทั่วโลกพอสมควร ทั้งๆ ที่ ซื้อรถมือสองคุณภาพดี (แต่อายุมากหน่อย) ซึ่งคุ้มค่าเงินกว่า
  • ไม่เหมาะสมกับสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน รายได้ของคนไทยส่วนใหญ่ มิได้มากพอที่จะสามารถเปลี่ยนรถยนต์ได้ทุกๆ 5-10 ปี เนื่องจากรถยนต์ใหม่ ก็มีการจัดเก็บภาษีสรรพสามิต ค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่ค่อนข้างสูงอยู่แล้ว
  • บางคนอาจใช้เวลาในการผ่อนรถยนต์ นานถึง 6-7 ปี พอผ่อนหมด ใช้งานได้อีก 3 ปี ก็ต้องเจอการปรับภาษีรถยนต์ที่สูงขึ้น ทำให้ต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายที่มากขึ้น
  • ในต่างประเทศ ที่เป็นทั้งบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ และมีเทคโนโลยีเป็นของตัวเอง สามารถทำราคาจำหน่ายรถยนต์ที่เหมาะสมได้ ซึ่งต่างไปจากบ้านเรา
  • รถเก่าหลายคัน อายุมากแล้ว แต่ถ้าได้รับการดูแลรักษาที่ดี ก็ยังน่าใช้ไม่แพ้รถใหม่ๆ
  • คนที่มีรถยนต์มากกว่า 1 คัน และถ้าเป็นรถยนต์เก่า ต้องรับภาระค่าใช้จ่ายต่อปีมากขึ้น
  • ระบบขนส่งมวลชน เช่น รถเมล์ ที่มีอายุมากถึง 20-40 ปี สภาพเก่าโทรม ควันดำ ยังวิ่งให้บริการผู้คนในเมืองใหญ่ ค่อนข้างย้อนแย้งกับข้อเสนอในการลดมลพิษ

Old-Car-Tax-Idea-In-Thailand

สำหรับตัวเลขของ กรมการขนส่งทางบก พบว่า รถยนต์เก่าอายุเกิน 10 ปี ที่จดทะเบียนก่อนปี 2552 ในปัจจุบัน มีอยู่ประมาณ 26 ล้านคัน จำนวนนี้ เป็นรถยนต์ส่วนบุคคลประมาณ 9 ล้านคัน แยกออกได้เป็น รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน 4.07 ล้านคัน รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน 3.8 แสนคัน และรถกระบะ 4.6 ล้านคัน

คือต้องบอกก่อนว่า แนวคิดนี้ “ดี” ในประเทศที่ “พัฒนาแล้ว” คุณภาพชีวิตประชาชนดี มีการกระจายรายได้อย่างทั่วถึง มีค่าครองชีพสูง และมีระบบขนส่งมวลชนที่ได้คุณภาพ จนทำให้รู้สึกว่า ไม่มีรถยนต์ใช้งาน ชีวิตก็ไม่ลำบากในการเดินทาง

【短期連載】「ユーザー車検」必勝マニュアル『初心者は検査ラインでハザードを点灯』(その3)

การตรวจสภาพรถ ของประเทศญี่ปุ่น

เช่น ในประเทศญี่ปุ่น รถยนต์ใหม่มีราคาถูกกว่าในไทยมาก แต่เมื่อคุณใช้รถยนต์ไปจนถึงปีที่ 4 นับตั้งแต่วันที่จดทะเบียน คุณก็ต้องนำรถยนต์เข้าตรวจสภาพ (ของญี่ปุ่นเรียกว่า “車検” Shaken = ชาเกง) ซึ่งคล้ายกับ ตรอ. ในบ้านเรา เป็นการตรวจสภาพรถยนต์ทุกๆ 2 ปี แต่มีความละเอียดในการตรวจสอบรถยนต์มากกว่ามาก และค่าตรวจสภาพที่ค่อนข้างแพงมาก ครั้งนึงต้องจ่ายหลายหมื่นเยนเลยทีเดียว

ซึ่งถ้าตรวจสภาพรถไม่ผ่าน ก็ต้องกลับไปซ่อมแซมแก้ไข เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มอีก (โดยการตรวจสภาพรถนี้ ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น ภาษีรถยนต์ ที่ขึ้นอยู่กับน้ำหนักของรถ, ประกันภัยรถยนต์ 24 เดือน, ภาษีค่าใช้ถนน และค่าอากร เป็นต้น)

https://img.bestcarweb.jp/wp-content/uploads/2019/11/29220240/40ac879c58a8b005491a1f3d4ed1ec38.jpg

อัตราค่าตรวจสภาพรถ ของประเทศญี่ปุ่น

และยิ่งรถเก่ามากเท่าไหร่ ค่าตรวจสภาพก็ยิ่งสูงมากขึ้น ทำให้คนญี่ปุ่นหลายคนรับภาระค่าใช้จ่ายไม่ไหว ถ้าเกิดอุบัติเหตุ ค่าซ่อมก็ไม่คุ้ม เพราะค่าซ่อมแพงกว่าซื้อรถใหม่ แถมตอนลากเอาไปทิ้ง ต้องเสียเงินค่ากำจัดขยะอีก

https://www.ft.com/__origami/service/image/v2/images/raw/https%3A%2F%2Fs3-ap-northeast-1.amazonaws.com%2Fpsh-ex-ftnikkei-3937bb4%2Fimages%2F3%2F7%2F5%2F9%2F8909573-1-eng-GB%2F20140609_Myanmar1.jpg?source=nar-cms

รถมือสองเก่าจากญี่ปุ่น ที่อยู่ในประเทศพม่า

ด้วยเหตุนี้ จึงมีพ่อค้ารถมือสอง ทำธุรกิจส่งรถยนต์เก่าจากญี่ปุ่น ไปขายที่ภาคตะวันออกไกลของรัสเซีย พม่า หรือแถบโอเชียเนีย แถบแคริเบียน หรือประเทศที่ใช้รถพวงมาลัยขวากันมากมาย จนบางทีก็ตัดขายเป็นอะไหล่ แบบเชียงกงในบ้านเรา หรือขับไปทิ้งเป็นซาก อยู่ตามป่าตามเขาในต่างจังหวัด ยังดีกว่า (คนญี่ปุ่นขี้เหนียวก็เยอะนะ! รู้ว่าค่าใช้จ่ายแพง ทิ้งแล้วซื้อใหม่คุ้มกว่า)

คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ จึงใช้รถยนต์เฉลี่ยประมาณ 5-7 ปี ก็เปลี่ยนคันใหม่แล้ว

แต่ถ้าในบ้านเรา หากมีการบังคับใช้จริงๆ แล้วล่ะก็ คนที่จะเดือดร้อนจำนวนมาก ก็คงหนีไม่พ้นคนไทยส่วนใหญ่ ที่ใช้รถเก่า และรถมือสอง นี่ล่ะครับ …

แหล่งที่มาบางส่วนจาก:

5-Things-You-Should-Never-Do-While-Driving

เทศกาลของการท่องเที่ยว ก็กลับมาพร้อมกับอากาศหนาวๆ กันอีกแล้วนะครับ สำหรับใครที่คิดจะเดินทางไกลในช่วงปีใหม่ 2563 นี้ นอกจากสุขภาพร่างกายต้องพร้อมแล้ว สุขภาพรถ ก็ต้องพร้อมเช่นกันนะครับ หากท่านใดยังไม่ได้ไปตรวจสภาพรถฟรี ก็รีบนำรถไปตรวจสภาพกันได้เลย

ส่วนถ้าใครอยากจะขายรถด่วนๆ ในช่วงสิ้นปีนี้ เพื่อนำเงินไปดาวน์รถคันใหม่ ผ่อนรถใหม่ หรือรับเงินก้อนไปใช้ ก็นำรถมาขาย หรือตีราคารถ ที่ Carro สิ ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ Carro Express คลิกที่นี่เลย https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook Carro Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothai หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

พอได้รถมาขับกันแล้ว การขับรถยนต์นั้นต้องใช้สมาธิพอสมควร ไม่วอกแวก หรือทำนู่นทำนี่ตอนนั่งหลังพวงมาลัยไปด้วย … 5 สิ่งที่ห้ามทำ เมื่อกำลังขับรถอยู่นั้น มีอะไรบ้าง Mr.Carro จะมาเล่าทั้งหมดให้ฟัง

5-Things-You-Should-Never-Do-While-Driving

1. โทรศัพท์มือถือ อย่าเล่น!

ในโลกยุคปัจจุบัน เชื่อได้เลยว่าแทบทุกคนติดโทรศัพท์มือถือกันทั้งนั้น แต่เวลาขับรถ สมาธิหลักควรจะอยู่ที่ถนนหนทางข้างหน้ามากกว่า การเล่น Facebook หรือการแชทไลน์ ในขณะขับรถ เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุได้

ดังนั้น การขับรถทางไกล หากจำเป็นต้องคุยโทรศัพท์ ควรใช้ระบบ Bluetooth และถ้าหากต้องการดูเส้นทางจาก GPS ในมือถือ ก็ตั้งค่าให้เรียบร้อยก่อนออกเดินทาง ควรหาจุดที่ติดโทรศัพท์ไว้บริเวณกระจกบานหน้ารถ ในมุมที่ง่ายต่อการดูครับ

2. ของหล่น อย่าเก็บ!

บางคนชอบเก็บของเอาไว้ในรถหลายอย่าง บางทีพอจะหยิบมาใช้ แล้วก็อาจจะวางในพื้นที่เรียบหรือลื่น เมื่อเวลารถออกตัวหรือเลี้ยว แรงเหวี่ยงของรถ อาจจะทำของกลิ้งหล่นไปที่พื้นได้ กรณีนี้ห้ามก้มลงไปเก็บของเด็ดขาดตอนกำลังขับรถอยู่ เพราะถ้าเงยหน้าขึ้นมาอีกที รถอาจเสียการควบคุม เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้

และการเอื้อมตัวไปเก็บของขณะขับรถ อาจทำให้กล้ามเนื้อหลังบาดเจ็บได้ ทางที่ดี ควรจัดวางสิ่งของให้เรียบร้อย ก่อนนำรถออกเดินทาง และไม่วางสิ่งของไว้ในจุดที่หล่นง่าย หรือกลิ้งไปมาได้ เช่น บนแผงคอนโซลที่พื้นเรียบ ไม่มีช่องเว้าสำหรับให้วางของ เป็นต้น

5-Things-You-Should-Never-Do-While-Driving

3. รองเท้า อย่าถอด!

เป็นปัญหาที่มีมานาน ของเรื่องรองเท้าไปขัดอยู่ในแป้นเบรก หรือคันเร่ง เพราะหลายคนเวลาขับรถ ชอบถอดรองเท้าขับรถ แต่การวางรองเท้าเป็นสิ่งที่ต้องระวัง เพราะรองเท้าอาจเลื่อนไหล ทำให้เบรกได้ไม่เต็มที่ หรืออาจก่อให้เกิดอันตรายขึ้นได้

ทางที่ดี ถอดรองเท้าแล้ว ยกไปวางไว้บริเวณที่นั่งฝั่งผู้โดยสาร เพื่อความปลอดภัย

4. รองเท้าส้นสูง อย่าใส่!

การใส่รองเท้าส้นสูงขับรถนั้น ทำให้เหยียบแป้นเบรกหรือแป้นคันเร่งไม่ได้เต็มฝ่าเท้า อาจทำให้เบรกได้ไม่สนิท หรือรถไหลไปชนคันหน้าได้

ทางที่ดี ควรเปลี่ยนรองเท้าก่อนขับรถ จะช่วยให้เหยียบเบรกและคันเร่งได้มั่นใจมากขึ้นครับ

5-Things-You-Should-Never-Do-While-Driving

5. สุรายาเมา ห้ามดื่ม!

การดื่มเหล้านี่เป็นเรื่องที่แยกไม่ออกกับทุกเทศกาลเลยจริงๆ จะเทศกาลไหนพี่ไทยก็เมา แต่เมาอย่างเดียวไม่พอ ดันออกมาขับรถซะด้วยสิ แล้วก็เกิดอุบัติเหตุ สร้างความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินมานับไม่ถ้วน

ถ้าหากรู้ตัวว่าเมาแล้ว ห้ามขับรถเด็ดขาด! ทางที่ดี ควรให้คนที่ไม่ได้ดื่มเหล้า ขับรถให้แทน หรือจอดรถทิ้งไว้ก่อน ถ้ามาคนเดียวก็ขึ้นแท็กซี่ หรือใช้ Application ที่มีบริการคนขับรถให้มาขับให้

เอาละครับ เมื่อรู้ถึงข้อห้ามต่างๆ เหล่านี้แล้ว ก็อย่าลืมนำไปปฏิบัติกันด้วยล่ะครับ

Sale-Nissan-Almera-With-Carro-Express

ใครที่กำลังสนใจเปลี่ยนรถยนต์ใหม่ในช่วงนี้ ก็คงเห็นแล้วว่าทาง Nissan (นิสสัน) เพิ่งได้เปิดตัว Nissan Almera (นิสสัน อัลเมร่า) รุ่นใหม่ล่าสุดไปในเดือนที่ผ่านมา ซึ่งหลายคนก็สนอกสนใจ อยากซื้อ หรือแม้กระทั่งค่ายรถคู่แข่งก็ไม่ยอมแพ้ ต้องออกรุ่นใหม่ล่าสุด หรือแต่งหน้าทาปากรถที่มีอยู่เดิม มาชิงส่วนแบ่งทางการตลาดด้วยเช่นกัน

ในช่วงปลายปี หลายคนโบนัสเริ่มออก มากบ้างน้อยบ้าง ก็อาจจะวางแผนขายรถคันเก่า เพื่อที่จะเปลี่ยนรถคันใหม่ เป็นรถ Eco-Car แทนรถคันเดิมอยู่ก็ได้ ต้อนรับปี 2563

แต่ร้อนทั้งร้อยของคนอยากขายรถทุกคน ล้วนต้องการขายด้วยวิธีใดก็ได้ ที่สามารถขายรถได้ราคาที่ตนเอง “พึงพอใจ”

Nissan-Almera-Carro-Express

วันนี้ CARRO จะมาแนะนำลูกค้าที่ลงขาย Nissan Almera (นิสสัน อัลเมร่า) รุ่น 1.2 E A/T ปี 2014 กับบริการขายรถด่วน CARRO Express ของทาง CARRO ที่ได้ราคามากถึง “200,000 บาท” กันครับ

เคล็ดไม่ลับ ในการขายรถให้ได้ราคา

Nissan-Almera-Carro-Express

สภาพรถภายนอก หากรถของคุณสภาพดี ไม่มีรอยเฉี่ยวชน บุบครูดตามจุดต่างๆ ไม่มีชนหนัก ชนิดที่ซ่อมมาแล้วไม่เหมือนเดิม เส้นของฝากระโปรงหน้า-หลัง กันชน ประตูด้านข้าง ต้องเสมอกัน รวมไปถึงเครื่องยนต์ เกียร์ ช่วงล่าง ระบบน้ำหล่อเย็น หรือระบบแก๊ส LPG/NGV (ถ้ามี) ต้องอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน

การแต่งรถถ้าแต่งแบบนิดๆ หน่อยๆ เช่น เปลี่ยนล้อแม็กใหม่ ก็ถือว่าสวยงาม และน่าสนใจ ซึ่งผู้ซื้อต่อไปจะนำไปแต่งเพิ่มเติม หรือจะขับไปแบบเดิมๆ ต่อก็ได้

Nissan-Almera-Carro-Express

สำหรับห้องโดยสารภายในของรถคันนี้ ถือว่าสมบูรณ์ เบาะนั่งไปหุ้มหนังใหม่แทนที่เบาะผ้า ใส่พรมกระดุม ดูสะอาด ไม่มีรอยฉีกขาด หรือเปื้อนคราบต่างๆ และยังมีแอร์ วิทยุ CD มาให้พร้อมทุกการใช้งาน และในส่วนห้องเครื่องยนต์ก็ยังดูเดิมๆ สะอาด ก็จะยิ่งช่วยให้คุณขายรถออกได้ไวขึ้น

Nissan-Almera-Carro-Express

สิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง ทุกครั้งที่มีการซื้อขายรถยนต์ นั่นคือ “เอกสารของรถ” ไม่ว่าจะเป็นเล่มทะเบียนรถ เอกสารประกันภัย การเสียภาษีรถยนต์ในแต่ละปี ทางที่ดี ควรจะมี Book Service หรือบิลใบเสร็จเมื่อซ่อมรถยนต์ในที่ผ่านมาด้วย ซึ่งจะสร้างความน่าเชื่อถือให้กับผู้ซื้อด้วย ว่ารถของเรานั้น ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี เวลาขายต่อ จะได้ราคาที่สูงขึ้นไปในตัว

Carro-Sell-Car-Express

ซึ่งหากใครที่อยากขายรถคันเดิมแบบด่วนๆ เพื่อนำเงินไปซื้อรถในฝันคันใหม่ สามารถส่งรายละเอียดรถของคุณ มาตีราคากับทาง CARRO หรือขายรถกับ CARRO ได้ โดยเราให้ราคาที่คุณพอใจ พร้อมปิดการขายภายใน 24 ชั่วโมง อีกทั้งยังมีระบบการันตีเรื่องของเวลาขายรถ (CARRO Tracking) ที่คุณเช็กได้ว่า รถของคุณสถานะอยู่ขั้นตอนใดแล้ว

หากคุณสนใจอยากขายรถกับ CARRO นอกจากจะสามารถกรอกแบบฟอร์มได้ใน https://th.carro.co/sell-car/express แล้ว ยังสามารถติดต่อกับ CARRO ได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 1800-012-288, 02-508-8425 หรือจะ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

อีกทั้งยังสามารถ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ครับ —> เพิ่มเพื่อน

The-3-Best-MPV-Toyota-Kia-Hyundai

รถ MPV ป้ายแดงยอดนิยม ในราคาประมาณ 1-2 ล้านบาท ปีนี้ถือว่าแข่งกันดุเดือดกันเลยทีเดียว เพราะตลาดกลุ่มนี้ ถือว่าเป็นกลุ่มใหญ่พอสมควร จนค่ายรถหลายค่าย ต่างพยายามที่จะทำราคา เจาะกลุ่มคนมีครอบครัวขนาดใหญ่ นักธุรกิจ เจ้าของกิจการต่างๆ ที่นิยมใช้รถประเภทนี้ ให้ได้มากที่สุด

CARRO Thailand จึงขอนำรถ MPV ยอดฮิตในหมู่คนไทย 3 แบรนด์ 3 รุ่น ได้แก่ Toyota Majesty (โตโยต้า มาเจสตี้), KIA Grand Carnival (เกีย แกรนด์ คานิวัล) และ Hyundai H-1 (ฮุนได เอชวัน) พร้อมตารางราคา และอัตราดอกเบี้ย จากในงาน Motor Expo 2019 มาเปรียบเทียบกันให้เห็น แบบช้าๆ ชัดๆ!

หากใครสนใจรุ่นไหนอยู่ ลองคำนวณงบประมาณที่มี แล้วเลือกดูว่า จะผ่อนกันแบบไหนได้เลย 

ถ้าคุณอยากขายรถด่วน เพื่อไปซื้อรถคันใหม่ ต้อนรับปีใหม่ หรือรับเงินก้อนไปใช้ สามารถขายรถคันเก่า หรือตีราคารถกับทาง CARRO ได้ ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ CARRO Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

Toyota-Majesty

Toyota Majesty 2020

ข้อดี : คันใหญ่ ตัวรถยาว (5,265 มม.) และกว้าง (1,950 มม.) พื้นที่ภายในกว้าง นั่งสบาย เหมาะสำหรับเจ้าของธุรกิจ ผู้บริหาร หรือครอบครัวใหญ่ๆ ที่มีทั้งเด็กและผู้สูงอายุ ราคารับได้ ออพชั่นเยอะ ศูนย์บริการและอะไหล่มีพร้อม วงเลี้ยวแคบสุดในระดับเดียวกัน พวงมาลัยไม่หนัก ช่วงล่างดี

ข้อด้อย : ตัวรถยาว สูง และกว้าง หาที่จอดรถในเมืองยาก ขึ้น-ลง ลานจอดรถบางที่ลำบาก เจ้าของรถถ้าขับเอง ความรู้สึกเหมือนคนขับรถให้ผู้บริหาร

รายละเอียดตัวรถ : รถตู้ระดับพรีเมี่ยม หรือ Luxury Van มาใน Concept “Live Beyond the Class” ดีไซน์อันโดดเด่น หรูหรา และเป็นเอกลักษณ์ ที่นั่งแบบ Captain seat พร้อมระบบบริหารหลังไฟฟ้า และการออกแบบเครื่องยนต์วางหน้า (Semi-Bonnet) ให้ความเงียบภายในห้องโดยสาร และระบบ ระบบ T-Connect Telematics

ควบคู่ไปกับระบบช่วงล่างแบบใหม่ ช่วยซับแรงสั่นสะเทือน และมาตรฐานความปลอดภัยระดับโลก อย่าง Toyota Safety Sense และสามารถรองรับน้ำมันดีเซล B20 ได้

อุปกรณ์มาตรฐานเด่นๆ :

  • ไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน
  • ไฟท้ายดีไซน์ใหม่แบบ LED
  • ไฟตัดหมอก
  • กระจกมองข้างพร้อมสัญญาณไฟเลี้ยว
  • ล้ออัลลอย 17 นิ้ว
  • เบาะหลังพับได้ เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระ
  • ประตูบานสไลด์ไฟฟ้า 2 ด้าน พร้อมระบบป้องกันการหนีบ
  • พวงมาลัยตกแต่งด้วยลายไม้พร้อมปุ่มควบคุม
  • มาตรวัดเรืองแสงแบบ Optitron พร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID
  • ที่นั่งปรับนอนไฟฟ้าพร้อมที่รองขาปรับอัตโนมัติ
  • จุดยึดเบาะหนังสำหรับเด็ก 4 ตำแหน่ง
  • ที่นั่งแบบ Captain Seat พร้อมระบบบริหารหลังไฟฟ้า
  • ที่วางแก้วน้ำและช่องต่อ USB 7 ตำแหน่ง
  • ม่านบังแดดและไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร
  • ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC (Traction Control)
  • ระบบควบคุมการทรงตัว VSC (Vehicle Stability Control)
  • ระบบป้องกันล้อล็อก ABS (Anti-lock Braking System)
  • ระบบเสริมแรงเบรก BA (Brake Assist)
  • ไฟกะพริบเมื่อเบรกกะทันหัน (Emergency Stop Signal)
  • ระบบควบคุมเฟืองท้าย (Auto Limited Slip Difference)
  • ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง (Blind Spot Monitor)
  • ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ (Rear Cross Traffic Alert)
  • กล้องมองรอบคัน (Panoramic View Monitor)
  • ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAC (Hill-Start Assist Control)
    Toyota Safety Sense (เฉพาะรุ่น Grande)
  • ระบบความปลอดภัยก่อนการชน (Pre-Collision System)
  • ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน (Lane Departure Alert)
  • ระบบควบคุมและปรับลดความเร็วอัตโนมัติ (Dynamic Radar Cruise Control)
  • ระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ (Automatic High Beams)

เครื่องยนต์ : ดีเซลขนาด 2.8 ลิตร Turbo รหัส 1GD-FTV ให้แรงม้าสูงสุด 163 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตร ที่ 1,600-2,200 รอบ/นาที

ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อม Sequential Shift รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.5 เมตร

มิติตัวรถ : ยาว 5,265 มม. กว้าง 1,950 มม. สูง 1,990 มม. ระยะฐานล้อ 3,210 มม. ล้อแบบล้อแม็ก 17 นิ้ว

ราคาจำหน่าย : (Update ล่าสุด เดือนธันวาคม 2562)

  • รุ่น Standard ราคา 1,799,000 บาท
  • รุ่น Premium ราคา 1,899,000 บาท
  • รุ่น Grande ราคา 2,199,000 บาท

KIA-Grand-Carnival

KIA Grand Carnival 2020

ข้อดี : คันใหญ่ กว้างสุดในระดับเดียวกัน (1,985 มม.) นั่งสบาย ขับง่าย พื้นฐานแบบรถเก๋ง เหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่ หรือผู้บริหาร เจ้าของธุรกิจ งานประกอบดี กำลังเครื่องให้เยอะสุดในรถระดับเดียวกัน ช่วงล่างค่อนข้างนุ่มนวล เกาะถนน การทรงตัวค่อนข้างดี เจ้าของรถ สามารถขับเองได้อย่างมั่นใจ ภาพลักษณ์แบบรถครอบครัวมากกว่า

ข้อด้อย : อะไหล่หายาก ศูนย์บริการมีน้อย ไม่ครอบคลุมในต่างจังหวัด ราคาตกมากกว่า ห้องโดยสารภายใน หลังคาเตี้ยไปหน่อย สำหรับคนที่สูง 170 ซม. ขึ้นไป

รายละเอียดตัวรถ : เป็นรถยนต์ Premium MPV อเนกประสงค์ 11 ที่นั่ง ได้รับการตอบรับที่ดีมาตลอดตั้งแต่เปิดตัวในปี 2015 โดยในช่วงปลายปี 2019 นี้ ได้เปิดตัวรุ่นย่อย LX ที่นำเข้าจากประเทศเวียดนาม สามารถทำราคาได้ถูกลงกว่าเดิม ส่วนในรุ่น EX และ SXL ยังคงนำเข้าจากประเทศเกาหลีใต้เหมือนเดิม พร้อมฟังก์ชัน และระบบอำนวยความสะดวกสบายต่างๆ ภายในรถที่ครบครัน

อุปกรณ์มาตรฐานเด่นๆ :

  • หน้าปัดแบบ Supervision Cluster ที่มาพร้อมกับจอแสดงผล 7″ TFT LED
  • พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น
  • ระบบวิทยุที่สามารถเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่าน Apple CarPlay และ Android Auto
  • ระบบชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย (เฉพาะรุ่น EX และ SXL)
  • เบาะหลังแถวที่ 4 สามารถพับเก็บแบบ Pop-Up Sinking ที่สามารถดึงออก และพับเก็บได้อย่างง่ายดาย ปรับเปลี่ยนการใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ
  • Dual Sunroof ระบบซันรูฟไฟฟ้า 2 ตำแหน่ง บริเวณเหนือศีรษะคนขับ และเหนือเบาะแถวที่ 2 (เฉพาะรุ่น SXL)
  • ระบบประตูข้างไฟฟ้า สามารถเปิด-ปิดได้อย่างง่ายดาย ด้วยรีโมทคอลโทรลแผงควบคุมเหนือศีรษะคนขับ หรือด้วยระบบ Smart Entry ด้วยปุ่มที่ตำแหน่งด้ามจับของประตูด้านนอก
  • ระบบประตูท้ายไฟฟ้าอัจฉริยะ เปิด-ปิดประตูท้ายอย่างง่ายดาย
  • ระบบเบรกมือไฟฟ้าพร้อมระบบเบรกอัตโนมัติ ที่ออกตัวได้ทันทีหลังจากเบรก เพียงแค่เหยียบคันเร่ง (เฉพาะรุ่น EX และ SXL)
  • ระบบบันทึกตำแหน่งเบาะผู้ขับขี่ และ กระจกมองข้าง 2 ตำแหน่ง (เฉพาะรุ่น SXL)
  • ระบบเบาะทำความเย็นคู่หน้า (เฉพาะรุ่น SXL)
  • Blind Spot Detector ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง
  • Rear Cross Traffic Alert ระบบเตือนเมื่อมีรถขับผ่านด้านหลัง
  • Electronic Stability Control Package ระบบช่วยควบคุมเสถียรภาพในการขับขี่ (ESC) ที่มาพร้อมกับระบบช่วยเบรก (ฺBAS) และระบบช่วยออกตัวขณะรถอยู่บนทางลาดชัน (HAC)
  • ISOFIX หูเกี่ยวติดตั้งเบาะสำหรับเด็กบนเบาะแถวที่ 2

เครื่องยนต์ : ดีเซลขนาด 2.2 ลิตร 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว CRDi ให้แรงม้าสูงสุด 197 แรงม้า ที่ 3,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ที่ 1,750 – 2,750 รอบ/นาที

ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ 8 สปีด รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.6 เมตร

มิติตัวรถ : ยาว 5,115 มม. กว้าง 1,985 มม. สูง 1,740 มม. ระยะฐานล้อ 3,060 มม. ล้อแบบล้อแม็ก 18 นิ้ว

ราคาจำหน่าย : (Update ล่าสุด เดือนธันวาคม 2562)

  • รุ่น LX ราคา 1,397,000 บาท
  • รุ่น EX ราคา 1,991,000 บาท
  • รุ่น SXL ราคา 2,292,000 บาท

Hyundai-H-1

Hyundai H-1 2020

ข้อดี : เป็นรถ MPV แบบ 11 ที่นั่ง ที่ออกมานานที่สุด (ตั้งแต่ปี 2551) ในบรรดา 3 คันนี้ ย่อมมั่นใจได้ว่า อะไหล่ต่างๆ หาได้ง่ายกว่าแน่นอน และมีราคาไม่แพง เพราะผลิตที่อินโดนีเซีย (ในส่วนของ Grand Starex มาในแบบ MPV หรู 7 ที่นั่ง ราคาแพงขึ้นมาอีกนิดนึง) อีกทั้ง Hyundai ยังมีศูนย์บริการที่กระจายอยู่หลายที่ในประเทศ และเป็นรถที่เจ้าของขับเองได้ แม้ว่าจะคันใหญ่ไปสักหน่อย แต่เหมาะมากสำหรับคนที่มีครอบครัวใหญ่ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ขึ้น-ลงรถ สะดวก

ข้อด้อย : ตัวรถสูง การเข้า-ออก ลานจอดรถ อาจต้องระวังนิดนึง และ H-1 พื้นฐานแบบรถตู้ ช่วงล่างค่อนข้างไม่นุ่มนวลนัก คนขับดูเหมือนคนขับรถให้ผู้บริหารนั่ง

รายละเอียดตัวรถ : ห้องโดยสารขนาดใหญ่ของ H-1 รองรับผู้โดยสารได้ถึง 11 ที่นั่ง สามารถปรับเลื่อนตำแหน่งเบาะที่นั่งได้หลากหลายเพื่อเพิ่มประโยชน์ใช้สอย และพื้นที่วางสัมภาระได้ตามความต้องการ

อุปกรณ์มาตรฐานเด่นๆ :

  • กระจังหน้าดีไซน์ใหม่โครเมียมสลับดำ
  • สเกิร์ตหน้า / ข้าง และกันชนหลังตกแต่งด้วยแถบโครเมียม
  • ไฟหน้าโปรเจคเตอร์
  • ไฟตัดหมอก
  • ไฟหน้าเปิด-ปิดอัตโนมัติ
  • ไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED
  • ไฟท้ายแบบ LED
  • ประตูสไลด์ไฟฟ้าสองข้าง พร้อมรีโมท (เฉพาะรุ่น Deluxe)
  • ไฟส่องพื้นที่กระจกมองข้าง (Puddle Lamps) (เฉพาะรุ่น Deluxe)
  • เบาะหนัง / เบาะแถวที่ 2 ปรับหมุน 180 องศา
  • ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ
  • ปุ่มควบคุมเครื่องเสียงที่พวงมาลัย
  • ภายในตกแต่งลายไม้
  • พนักพิงศีรษะแบบปีกผีเสื้อ (เฉพาะรุ่น Deluxe)
  • ระบบเบาะ อุ่น/เย็น สำหรับคนขับ (เฉพาะรุ่น Deluxe)
  • พวงมาลัยหุ้มหนัง (เฉพาะรุ่น Deluxe)
  • คันเกียร์หุ้มหนัง (เฉพาะรุ่น Deluxe)
  • กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ (เฉพาะรุ่น Deluxe)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) (เฉพาะรุ่น Deluxe)
  • ไฟภายในห้องโดยสารแบบ LED พร้อม Mood Lighting เปลี่ยนได้ 6 สี (เฉพาะรุ่น Deluxe)
  • ช่องจ่ายไฟ USB สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง 2 ตำแหน่ง
  • ที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย (Wireless Charger) (เฉพาะรุ่น Deluxe)
  • เครื่องเสียง DVD หน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว (เฉพาะรุ่น Deluxe)
  • จอภาพ LCD ติดเพดานพับไฟฟ้าแบบ Full HD 13.3 นิ้ว (เฉพาะรุ่น Deluxe)
  • ถุงลมนิรภัยด้านข้าง สำหรับคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า (เฉพาะรุ่น Deluxe)
  • ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทางอัจฉริยะ Smart View (เฉพาะรุ่น Deluxe)
  • ระบบควบคุมเสถียรภาพ ESP (เฉพาะรุ่น Deluxe)
  • Entertainment Counter ระบบบันเทิงเต็มรูปแบบ หน้าจอขนาดใหญ่ 22 นิ้ว แบบ Full HD พร้อมเครื่องเล่น DVD เบสนุ่มลึกด้วยลำโพงคุณภาพสูง 4 ตำแหน่ง จาก Pioneer (เฉพาะรุ่น Grand Starex)
  • Electric VIP Seats เบาะหนัง ปรับเอนพนักพิงและที่รองขาด้วยระบบไฟฟ้า หมอนรองศีรษะออกแบบพิเศษในลักษณะปีกผีเสื้อ (เฉพาะรุ่น Grand Starex)
  • Heated/Ventilated Seat เบาะนั่งตำแหน่งคนขับสามารถปรับความเย็นหรืออุ่นได้ 3 ระดับ (เฉพาะรุ่น Grand Starex)
  • Wireless Charger ที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สายบริเวณที่นั่งข้างคนขับ (เฉพาะรุ่น Grand Starex)

เครื่องยนต์ : ดีเซลขนาด 2.5 ลิตร รหัส D4CB Variable Geometry Turbocharger และ Intercooler ให้แรงม้าสูงสุด 175 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 441 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 – 2,250 รอบ/นาที

ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด พร้อม Sequential Shift ทุกรุ่น รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.6 เมตร

มิติตัวรถ : ยาว 5,169 มม. กว้าง 1,920 มม. สูง 1,925 มม. ระยะฐานล้อ 3,200 มม. ล้อแบบอัลลอยขนาด 16 นิ้ว

ราคาจำหน่าย : (Update ล่าสุด เดือนธันวาคม 2562)

  • รุ่น Touring ราคา 1,329,000 บาท
  • รุ่น Elite ราคา 1,529,000 บาท
  • รุ่น Deluxe ราคา 1,729,000 บาท
  • รุ่น Grand Starex Premium ราคา 2,349,000 บาท
  • รุ่น Grand Starex VIP ราคา 2,399,000 บาท

ตารางผ่อนดาวน์ All-New Toyota Majesty 2020 ใหม่

Toyota-Majesty-Price-Motor-Expo-2019

ตารางผ่อนดาวน์ New KIA Grand Carnival 2020 ใหม่

KIA-Price-Promotion-Motor-Expo-2019

ตารางผ่อนดาวน์ New Hyundai H-1 2020 ใหม่

Hyundai-Price-Promotion-Motor-Expo-2019

สำหรับใครที่ต้องการดูไฟล์ภาพขนาดใหญ่ สามารถ “ดาวน์โหลด” ได้ข้างล่างนี้

ราคา และตารางผ่อนดาวน์ All-New Toyota Majesty 2020 ใหม่

ราคา และตารางผ่อนดาวน์ New KIA Grand Carnival 2020 ใหม่

ราคา และตารางผ่อนดาวน์ New Hyundai H-1 2020 ใหม่

ในเวลานี้ ใครที่อยากขายรถ เพื่อซื้อรถใหม่ ต้อนรับปีใหม่นี้ ต้องนึกถึงเรา CARRO! เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand จ้า แค่นี้การเปลี่ยนรถใหม่ของคุณ ก็ง่ายขึ้นแล้ว

King-Rama-10-Royal-Barge-Procession

การเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร โดยริ้วกระบวน “พยุหยาตราทางชลมารค” เป็นอีกพิธีในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกพุทธศักราช 2562 โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มีขึ้นในวันที่ 12 ธันวาคม 2562 ซึ่งจัดขึ้นตามโบราณราชประเพณี เพื่อให้พสกนิกรได้เฝ้าฯ ถวายพระพรชัยมงคล

พิธีการขบวน “พยุหยาตราทางชลมารค” จะใช้เรือจำนวน 52 ลำ โดยเรือพระที่นั่งใช้ 4 ลำใหญ่ เรือนำ คือ เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช เชิญพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ ซึ่งเป็นพระมงคลที่นำขบวนทุกครั้งในประเทศไทย ลำที่ 2 คือ เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ เป็นเรือที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ลำที่ 3 คือ เรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ เป็นของสมเด็จพระบรมวงศ์ และลำที่ 4 คือ เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ เป็นเรือพระที่นั่งสำรอง

จากนั้นเป็นเรือดั้ง เรือแซง เรือรูปสัตว์ และเรือมีชื่อต่างๆ ทั้งหมด 52 ลำ เรียกว่า ขบวนพยุหยาตราใหญ่

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดขบวนราบเพิ่ม กล่าวคือเดิมเมื่อขบวนเรือมาถึงท่าราชวรดิฐ จะเสด็จเข้าประทับที่พระที่นั่งราชกิจวินิจฉัย แล้วขึ้นรถยนต์พระที่นั่งเสด็จกลับพระที่นั่งอัมพรสถาน แต่ได้เปลี่ยนแปลงเพิ่มเติม โดยเมื่อเรือมาถึงท่าราชวรดิฐ จะเสด็จฯ ขึ้นที่พลับพลา ก่อนเสด็จฯ ไปยังพระที่นั่งราชกิจวินิจฉัย

จากนั้นจะมีขบวนราบ ซึ่งมีลักษณะคล้ายขบวน “พยุหยาตราทางสถลมารค” แต่มีขนาดย่อมกว่าโดยขบวนราบจะเริ่มจากท่าราชวรดิฐ มาตามถนนมหาราช ก่อนเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนพระลาน แล้วเลี้ยวขวาเข้าพระบรมมหาราชวังที่ประตูวิเศษไชยศรี แล้วเสด็จไปสู่พระที่นั่งอาภรณ์ภิโมกข์ เพื่อเปลี่ยนฉลองพระองค์ แล้วเสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งกลับพระที่นั่งอัมพรสถาน

ทาง CARRO รวบรวมวิธีการเดินทาง สำหรับทุกท่านที่อยากไปร่วมงานชมขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ด้วยระบบขนส่งมวลชนกันครับ ซึ่งหลายภาคส่วนร่วมอำนวยความสะดวก และไม่เก็บค่าบริการ

การเดินทางโดยรถเมล์

BMTA-Free-Shuttle-Bus-12-Dec-2019

เดินทางด้วยรถเมล์ เป็นวิธีเดินทางสำหรับที่ไม่รีบร้อนและมีเวลา จัดเดินรถโดยสารให้บริการฟรี จำนวน 19 เส้นทาง ในวันที่ 12 ธันวาคม 2562 ตั้งแต่เวลา 9.00 – 22.00 น. หรือจนกว่าจะส่งประชาชนออกจากพื้นที่หมด แบ่งเป็น

1. จัดรถโดยสารปรับอากาศชานต่ำ ใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) และรถโดยสารปรับอากาศยูโรทู วิ่งในเส้นทางเดินรถเฉพาะกิจ (จอดรับ – ส่งทุกป้าย) จำนวน 6 เส้นทาง โดยมีรายละเอียดดังนี้

  • เส้นทางที่ 1 อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ – สนามหลวง จอดรับ – ส่ง บริเวณหน้าร้านอาหารสกายไฮ
  • เส้นทางที่ 2 สถานีขนส่งกรุงเทพ (จตุจักร) – สนามหลวง จอดรับ – ส่ง บริเวณใต้สะพานพระราม 8 (ฝั่งพระนคร)
  • เส้นทางที่ 3 วงเวียนใหญ่ – สนามหลวง จอดรับ – ส่ง บริเวณสถานีรถไฟธนบุรี และบริเวณหน้าวัดกัลยาณมิตร
  • เส้นทางที่ 4 สนามศุภชลาศัย – สนามหลวง จอดรับ – ส่ง บริเวณ ม.เทคโนโลยีราชมงคลพระนคร วิทยาเขตเทเวศร์
  • เส้นทางที่ 5 สถานีขนส่งกรุงเทพ (สายใต้ใหม่) – สนามหลวง จอดรับ – ส่ง บริเวณใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า (ฝั่งธนบุรี)
  • เส้นทางที่ 6 สถานีรถไฟหัวลำโพง – สนามหลวง จอดรับ – ส่ง บริเวณใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า (ฝั่งพระนคร)

2. จัดรถโดยสารปรับอากาศชานต่ำ ใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) และรถโดยสารปรับอากาศยูโรทู
วิ่งในเส้นทางเดินรถ Shuttle Bus (รับจากจุดจอด – จุดส่ง) จำนวน 11 เส้นทาง โดยมีรายละเอียด ดังนี้

  • เส้นทางที่ 1 เมืองทองธานี, ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ – สนามหลวง จอดรับ – ส่ง บริเวณใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า (ฝั่งพระนคร)
  • เส้นทางที่ 2 สโมสรตำรวจ, ม.เกษตรศาสตร์ – สนามหลวง จอดรับ – ส่ง บริเวณใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า (ฝั่งพระนคร)
  • เส้นทางที่ 3 สโมสรทหารบก, กทม.2 – สนามหลวง จอดรับ – ส่ง บริเวณ ม.เทคโนโลยีราชมงคลพระนคร วิทยาเขตเทเวศร์
  • เส้นทางที่ 4 ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต – สนามหลวง จอดรับ – ส่ง บริเวณ ม.เทคโนโลยีราชมงคลพระนคร วิทยาเขตเทเวศร์
  • เส้นทางที่ 5 ที่จอดรถ MRT สำนักงานใหญ่, MRT ลาดพร้าว, ศาลอาญา, จอดรับ – ส่ง บริเวณ ม.เทคโนโลยี สำนักงานอัยการสูงสุด, SCB สำนักงานใหญ่ – สนามหลวง ราชมงคลพระนคร วิทยาเขตเทเวศร์
  • เส้นทางที่ 6 อีเกีย, เมกาบางนา, ไบเทคบางนา – สนามหลวง จอดรับ – ส่ง บริเวณ ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์
  • เส้นทางที่ 7 ท่าเรือคลองเตย, โรงงานยาสูบ, จอดรับ – ส่ง บริเวณ ม.ธรรมศาสตร์ แอร์พอร์ต เรลลิ้งก์ มักกะสัน – สนามหลวง ท่าพระจันทร์
  • เส้นทางที่ 8 สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า จอดรับ – ส่ง บริเวณ เจ้าคุณทหารลาดกระบัง – สนามหลวง หน้าร้านอาหารสกายไฮ
  • เส้นทางที่ 9 เซ็นทรัลพระราม 2, โรงเรียนบางมดวิทยา – สนามหลวง จอดรับ – ส่ง บริเวณท่าเตียน
  • เส้นทางที่ 10 พุทธมณฑลสาย 4, เซ็นทรัลศาลายา, อู่บรมราชชนนี, จอดรับ – ส่ง บริเวณใต้สะพาน วิทยาลัยทองสุข – สนามหลวง พระราม 8 (ฝั่งธนบุรี)
  • เส้นทางที่ 11 เซ็นทรัลเวสเกต – สนามหลวง จอดรับ – ส่ง บริเวณใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า (ฝั่งธนบุรี)

BMTA-Free-Shuttle-Bus-12-Dec-2019

3. จัดรถโดยสารธรรมดา วิ่งในเส้นทางเดินรถ Shuttle Bus แทนเรือข้ามฟาก (รับจากจุดจอด – จุดส่ง) จำนวน 2 เส้นทาง โดยมีรายละเอียด ดังนี้

  • เส้นทางที่ 1 สะพานกรุงธน (หน้าโรงเรียนเขมะสิริอนุสรณ์) – สนามหลวง จอดรับ – ส่ง บริเวณใต้สะพานพระพุทธยอดฟ้า (ฝั่งพระนคร)
  • เส้นทางที่ 2 สะพานกรุงธน (หน้าสถานีดับเพลิงสามเสน) – สนามหลวง จอดรับ – ส่ง บริเวณใต้สะพานพระพุทธยอดฟ้า (ฝั่งพระนคร)

การเดินทางโดยรถไฟฟ้า BTS / รถโดยสารด่วนพิเศษ BRT

https://btsapp1.bts.co.th/WebApplication/storage_file/files/%E0%B9%91%E0%B9%92%20%E0%B8%98%E0%B8%84%20Banner%20web-06.jpg

รถไฟฟ้า BTS อำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่จะเข้าเฝ้าฯ รับเสด็จ และเข้าชมพระราชพิธีในการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ในวันที่ 12 ธันวาคม 2562

โดยประชาชน สามารถเดินทางรถไฟฟ้า BTS ฟรีตลอดเส้นทาง ในวันพฤหัสบดีที่ 12 ธันวาคม 2562 ตั้งแต่เวลา 06.00 – 24.00 น. สายสุขุมวิท ตั้งแต่สถานีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ถึงสถานีเคหะฯ และสายสีลม ตั้งแต่สถานีสนามกีฬาแห่งชาติ ถึงสถานีบางหว้า และรถโดยสารด่วนพิเศษ BRT

โดยผู้โดยสารรถไฟฟ้า BTS และรถโดยสารด่วนพิเศษ BRT สามารถกดรับบัตรโดยสารฟรีได้ทุกสถานี หรือรับบัตรฟรีที่ห้องจำหน่ายตั๋ว สำหรับผู้ใช้บัตรแรบบิทแบบเติมเงิน ระบบจะไม่ตัดเงินในวันดังกล่าว

ส่วนผู้โดยสารที่ใช้บัตรแรบบิทประเภทเติมจำนวนเที่ยว ต้องกดรับบัตรโดยสารเที่ยวเดียวจากตู้จำหน่ายบัตร หรือรับบัตรฟรีที่ห้องจำหน่ายตั๋วทุกสถานี

การเดินทางโดยรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT

https://admin.bemplc.co.th/Upload/FreeRide01_45343633_1575633046..jpg

รถไฟฟ้า MRT ให้บริการรถไฟฟ้า MRT สายเฉลิมรัชมงคล (สายสีน้ำเงิน) และรถไฟฟ้า MRT สายฉลองรัชธรรม (สายสีม่วง) ยกเว้นค่าโดยสารรถไฟฟ้าในวันพฤหัสบดีที่ 12 ธันวาคม 2562 ตลอดระยะเวลาการเปิดให้บริการ

นอกจากนี้ รฟม. ได้จัดให้บริการที่จอดรถฟรีทุกอาคารและลานจอดรถ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนที่จะเดินทางเข้าร่วมงานในวันดังกล่าว ได้แก่ MRT สายสีน้ำเงิน อาคารจอดแล้วจร จำนวน 4 แห่ง บริเวณสถานีลาดพร้าว, สถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย, สถานีหลักสอง และลานจอดแล้วจร จำนวน 9 แห่ง บริเวณสถานีรัชดาภิเษก, สถานีห้วยขวาง, สถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย, สถานีพระราม 9, สถานีเพชรบุรี, สถานีศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์, และสถานีสามย่าน

รถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง จำนวน 4 แห่ง บริเวณสถานีคลองบางไผ่, สถานีสามแยกบางใหญ่, สถานีบางรักน้อยท่าอิฐ และสถานีแยกนนทบุรี 1

การเดินทางโดยรถไฟฟ้า ARL (แอร์พอร์ต เรล ลิงค์)

Airport-Rail-Link-Free-12-Dec-2019

รถไฟฟ้า Airport Rail Link อำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชนที่จะเข้าร่วมงานพระราชพิธี เปิดให้โดยสารฟรีในวันที่ 12 ธันวาคม 2562 ตั้งแต่เวลา 05.30 – 24.00 น. โดยประชาชนสามารถขอรับคูปองเดินทางฟรีได้ที่เจ้าหน้าที่ประจำสถานีบริเวณห้องจำหน่ายตั๋วทุกสถานี

การโดยสารด้วยเรือโดยสารสาธารณะ

Chaophraya-Boat-Free-12-Dec-2019

กรมเจ้าท่า ร่วมกับบริษัทเอกชนต่างๆ จัดเรือบริการฟรี วันที่ 12 ธันวาคม 2562

1. บริษัทเรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด และบริษัท วรรณงามนาวา จำกัด จัดเรือบริการฟรี

  • ด้านเหนือ ให้บริการเรือ ตั้งแต่ ท่าเรือนนทบุรี – ท่าเรือซังฮี้ เวลา 12.00 น. – 18.00 น. ในทุกๆ 1 ชั่วโมง
  • ด้านใต้ ให้บริการเรือ ตั้งแต่ ท่าเรือสาทร – ท่าเรือสะพานพุทธฯ เวลา 7.00 น. – 18.00 น. ในทุกๆ 1 ชั่วโมง

SanSaab-Boat-Free-12-Dec-2019

2. บริษัท ครอบครัวขนส่ง 2002 จำกัด จัดบริการเรือฟรี

ให้บริการเรือ ตั้งแต่ ท่าเรือประตูน้ำ – ท่าเรือผ่านฟ้าลีลาศ เวลา 7.00 น. – 20.00 น. ให้บริการทุกๆ 10 นาที

การเดินทางโดยรถไฟ รฟท.

SRT-Train-Free-12-Dec-2019

รฟท. จัดเดินขบวนรถไฟพิเศษ ในโอกาสเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ในวันที่ 12 ธันวาคม 2562 เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสาร ใน 4 เส้นทางหลัก คือ อยุธยา นครปฐม ฉะเชิงเทรา และมหาชัย โดยไม่เสียค่าโดยสาร (บริการฟรี) ประกอบด้วย
  • เส้นทางที่ 1 อยุธยา – กรุงเทพ ขบวนที่ 320 (09.30-11.00 น.) กรุงเทพ – อยุธยา ขบวนที่ 321 (20.15-21.50 น.)
  • เส้นทางที่ 2 นครปฐม – ธนบุรี ขบวนที่ 322 (09.55-10.50 น.) ธนบุรี – นครปฐม ขบวนที่ 333 (20.00-21.00 น.)
  • เส้นทางที่ 3 ฉะเชิงเทรา – กรุงเทพ ขบวนที่ 326 (09.20 – 10.45 น.) กรุงเทพ – ฉะเชิงเทรา ขบวนที่ 325 (20.05 – 21.25 น.)
  • เส้นทางที่ 4 มหาชัย – วงเวียนใหญ่ ขบวนที่ 4322 (09.35 – 10.30 น.) วงเวียนใหญ่ – มหาชัย ขบวนที่ 4347 (20.10 – 21.00 น.)

ผู้โดยสาร สามารถขอรับตั๋วโดยสารขบวนรถดังกล่าวฟรี ที่สถานีต้นทาง และสถานีที่ขบวนรถผ่าน โดยแสดงบัตรประชาชนต่อเจ้าหน้าที่เพื่อทำการออกตั๋วโดยสาร หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน Call Center 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง

ขอขอบคุณเนื้อข่าวจาก สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ และ phralan.in.th/

Motor Expo 2019 เพรียบพร้อมไปด้วยรถแต่ง เครื่องเสียง อุปกรณ์ติดรถ และอุปกรณ์ดูแลรักษารถ

งาน “Motor Expo 2019” หรือ “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 36” ครั้งนี้เหมือนเช่นเคย ที่บรรดาร้านค้าอุปกรณ์ประดับยนต์ กล้องติดรถยนต์ ฟิล์มกรองแสง ล้อแม็ก ยางรถยนต์ เครื่องเสียงติดรถ หมวกกันน็อค หรืออุปกรณ์ทำความสะอาดรถ จัดเต็มทั้งโปรโมชั่นพิเศษมากมาย และกิจกรรมต่างๆ ให้ผู้ที่มาเดินเที่ยวชมงาน ได้เสียตังค์เลือกซื้อ หิ้วของถูกใจกลับบ้าน …

 

ทาง CARRO อยากให้คนรักรถทุกท่าน หาโอกาสไปเดินเที่ยวในช่วงวันหยุดยาวนี้จริงๆ ครับ … เชิญชมกับภาพบรรยากาศของ รถแต่ง ของแต่งรถ และเครื่องเสียงติดรถ ในงาน Motor Expo 2019 กันได้เลย

Motor-Expo-2019-Car-And-Accessories

บรรยากาศมุมเครื่องเสียง

Motor-Expo-2019-Car-And-Accessories

บรรยากาศมุมเครื่องเสียง

Motor-Expo-2019-Car-And-Accessories

บรรยากาศมุมเครื่องเสียง

Motor-Expo-2019-Car-And-Accessories

คนรักความบันเทิงห้ามพลาด

Motor-Expo-2019-Car-And-Accessories

บรรยากาศมุมเครื่องเสียง

Motor-Expo-2019-Car-And-Accessories

Honda Civic แต่งยกคัน

Motor-Expo-2019-Car-And-Accessories

Toyota Yaris แต่งยกคัน

Motor-Expo-2019-Car-And-Accessories

มุมสำหรับคุณหนูก็มี

Motor-Expo-2019-Car-And-Accessories

รถเด็กเล่น Hot Wheels ก็มีให้ช้อป

Motor-Expo-2019-Car-And-Accessories

Ford Ranger ลุยดุดันยิ่งขึ้น

Motor-Expo-2019-Car-And-Accessories

จัดเต็มไฮดรอลิค

Motor-Expo-2019-Car-And-Accessories

Chevrolet Colorado แต่งซิ่ง

Motor-Expo-2019-Car-And-Accessories

All-New Isuzu D-Max แต่งซิ่ง

Motor-Expo-2019-Car-And-Accessories

รถแข่ง Ferrari 488 GT3

Motor-Expo-2019-Car-And-Accessories

รถแข่ง Ferrari 488 GT3

ถ้าคุณอยากขายรถด่วน เพื่อไปซื้อรถคันใหม่ หรือรับเงินก้อนไปใช้ สามารถขายรถคันเก่า หรือตีราคารถกับ CARRO ได้ ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ CARRO Express แค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือ Inbox ขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

Pretty-Motor-Expo-2019

“พริตตี้” สีสันที่ขาดไม่ได้ ของงานโชว์รถในบ้านเรา …

สำหรับงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 36” หรือ “Motor Expo 2019” อีกหนึ่งที่ต้องเรียกได้ว่าเป็นสีสันของงาน และขาดไม่ได้เลยสำหรับค่ายรถยนต์เกือบทุกเจ้า นั่นคือ “พริตตี้” ที่หนุ่มๆ หลายคนชื่นชอบในความสวยน่ารัก แต่งตัวสง่างาม และความสามารถในการ Presentation ข้อมูลรถยนต์ หรือข้อมูลสินค้าของแต่ละคน ที่ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว

ถ้าคุณอยากขายรถด่วน เพื่อไปซื้อรถคันใหม่ หรือรับเงินก้อนไปใช้ สามารถขายรถคันเก่า หรือตีราคารถกับทาง CARRO ได้ ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ CARRO Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

ซึ่งในปีนี้ พริตตี้ในงานส่วนใหญ่ ยังคงแต่งตัวเรียบร้อย สวยงาม ไม่โป๊มาก เฉกเช่นเดียวกับในปีที่แล้วมา … ทาง CARRO ขอรวบรวม Pretty สุดสวย สุดน่ารัก ในงาน Motor Expo 2019 มาให้ทุกท่านได้รับชมกันครับผม

Pretty-Motor-Expo-2019

Pretty-Motor-Expo-2019

Pretty-Motor-Expo-2019

Pretty-Motor-Expo-2019

Pretty-Motor-Expo-2019

Pretty-Motor-Expo-2019

Pretty-Motor-Expo-2019

Pretty-Motor-Expo-2019

Pretty-Motor-Expo-2019

Pretty-Motor-Expo-2019

Pretty-Motor-Expo-2019

Pretty-Motor-Expo-2019

CarroRewards-And-CarroWholesale-Application

สวัสดีครับ หากท่านตอนนี้กำลังทำธุรกิจเกี่ยวกับผู้ประกอบการรถมือสอง (หรือจะเรียกว่าเต็นท์รถมือสอง ตลาดรถมือสอง หรือรถใช้แล้ว ก็ได้เหมือนกัน) หากมีความคุ้นเคยกับระบบ CARRO Wholesale ซึ่งเป็นระบบการซื้อรถกับทาง CARRO อยู่แล้ว หากท่านใดยังไม่มี App นี้ สามารถดาวน์โหลด Application “CARRO Wholesale” จากใน iOS และ Android สามารถคลิก Download ที่ Link นี้ได้เลย Link นี้เลย —> icon_ios icon_android

Carro-Agent-Rewards

ส่วนวิธีใช้งาน CARRO Wholesale Application สามารถดูได้ใน Link ด้านล่าง

และในโอกาสนี้ เราขอยินดีที่จะนำเสนอแคมเปญใหม่ๆ กับ “CARRORewards” เพื่อต้อนรับปีใหม่ที่จะมาในไม่ช้านี้ ยิ่งคุณซื้อรถ หรือ BID รถ ผ่าน Application เรามากเท่าไหร่ โอกาสยิ่งได้คะแนนสะสมยิ่งมาก ซึ่งคะแนนเหล่านี้ สามารถนำมารับแลกของรางวัล พร้อมสิทธิพิเศษมากมาย!

CarroRewards-CarroWholesale

รายละเอียดระดับคะแนนสะสม เพื่อแลก CARRORewards

CarroRewards-CarroWholesale

ระดับ คะแนน จบรถ (คัน)
1 5,000 1
2 7,500 2
3 10,000 3
4 12,500 4
5 15,000 5 ขึ้นไป
VIP 50,000 10 ขึ้นไป

วิธีการได้คะแนนสะสมเพื่อแลก CARRORewards

CarroRewards-CarroWholesale

เสนอราคาซื้อรถ (ต่อคัน) จบรถ (ต่อคัน)
เสนอราคาคนแรกได้ 100 Point
เสนอราคาคนที่สอง ได้ 50 Point
2,500 Point
เสนอราคาคนที่สามได้ 20 Point

เงื่อนไข:

  • เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
  • คะแนนสะสมไม่มีวันหมดอายุ
  • กรณีการจบรถผ่าน CARRO Wholesale Application และชำระรถในราคาเต็ม ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. ถึง 31 ธ.ค. 2562
  • กรณีที่เป็นระดับ VIP ต้องมีคะแนนสะสม 50,000 คะแนนขึ้นไป และจำกัดสิทธิเฉพาะดีลเลอร์คนแรกเท่านั้น จำกัดเพียงแค่ 1 รางวัลต่อเดือน
  • กรณีการรับ CARRORewards ผู้แลกสิทธิและของรางวัล CARRORewards จำเป็นต้องรับที่สำนักงาน CARRO
    ในกรุงเทพฯ และสาขาในเขตพื้นที่นั้นๆ เท่านั้น
  • กรณีต้องการเช็คคะแนน หรือติดต่อรับ CARRORewards กรุณาติดต่อเบอร์โทร. 063-535-7504
    หรือโทร. 065-998-2098
  • หากต้องการติดต่อรับสิทธิพิเศษ หรือสินค้า CARRORewards ติดต่อแผนกกลยุทธ์และพัฒนาธุรกิจ
    เบอร์โทร. 02-508-8425
  • การรับสิทธิพิเศษหรือสินค้า สามารถรับได้เฉพาะวันที่ 30 หรือ 31 ของทุกเดือน (เฉพาะวันและเวลาทำการเท่านั้น)
  • หากมีการเปลี่ยนแปลง บริษัทฯ​ ไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
  • ในการแลกรางวัลในแต่ละลำดับ จะมีจำนวนจำกัด
  • คะแนนสะสมไม่สามารถแลกเป็นเงินสดได้
  • หากมีข้อสงสัยประการใด สามารถ Inbox มาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand หรือโทร. 02-508-8425 ในเวลาทำการ (จันทร์-ศุกร์ 9.30 – 18.30 น.) หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ครับ —> เพิ่มเพื่อน
Motor-Expo-2019-Booking

บริษัท สื่อสากล จำกัด เผยยอดจองรถยนต์ในงาน Motor Expo 2019 ท่ามกลางเศรษฐกิจซบเซาอย่างหนัก แต่ยอดจองก็ถือว่าน่าพอใจ แม้ว่าจะตกจากปีที่แล้วมากก็ตาม เรียกได้ว่า สุขใจทั้งคนซื้อรถ ได้รถใหม่ไปขับ แต่หลายคนก็อาจทุกข์ใจตอนหาเงินผ่อนรถ กับโดนไฟแนนซ์ยึด ส่วนคนทำงานบริษัทรถ ก็ได้รับโบนัสกันถ้วนหน้า

โดยในงาน Motor Expo 2019 ตั้งเป้าจะมียอดจองรถภายในงาน 50,000 คัน รถจักรยานยนต์ 9,000 คัน และเงินสะพัดไม่น้อยกว่า 56,000 ล้านบาท คาดผู้ชมงานราว 1.6 ล้านคน

แต่ยอดจองรถยนต์ในงาน Motor Expo 2019 ในปีนี้ ทำได้ทั้งหมดรวมทั้งสิ้น 44,740 คัน! ลดลงจากปีก่อน 16.2% (หากนับรวมยอดจองรถยนต์อย่างเดียว จะมียอดจองทั้งหมดอยู่ที่ 37,489 คัน)

Motor-Expo-2019

ยอดจองรถตก มีสาเหตุจากหลายปัจจัย ทั้งปัจจัยภายในและภายนอกประเทศ เช่น เศรษฐกิจตกต่ำ หนี้ครัวเรือนสูง สงครามการค้า และปัจจัยภายในประเทศ เช่น การปรับขึ้นอัตราภาษีที่ดิน รวมถึงภาษีรถจักรยานยนต์อัตราใหม่คิดตามค่าการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งจะเริ่มวันที่ 1 มกราคม 2563 ส่งผลให้ประชาชนใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง ส่วนยอดผู้เข้าชมงาน ยังได้รับความสนใจจากประชาชนตามเป้าที่ตั้งไว้

จากข้อมูลของผู้ร่วมกิจกรรม “ซื้อรถ…ชิงรถ” พบว่า รถยนต์ที่มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมสูงสุด 6 อันดับแรก ได้แก่ Honda, Toyota, Mitsubishi, Mazda, MG และ Nissan ปีนี้รถเก๋งได้รับความสนใจสูงสุด มีสัดส่วนยอดขาย 45.5% มากกว่าปีก่อน (38.9%) แบ่งเป็นเก๋งซีดาน 29.2% แฮทช์แบค 12.6% และเก๋งประเภทอื่น 3.7% โดย 5 อันดับแรก ได้แก่ Honda City, Nissan Almera, Honda Civic, Mazda2 และ Toyota Yaris

รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV) มีสัดส่วน 33.4% ลดลงจากปีก่อนเล็กน้อย (34.3%) 5 อันดับแรก ได้แก่ Mitsubishi Pajero Sport, MG ZS, MG HS, Ford Everest, และ Toyota Fortuner

รถกระบะมีสัดส่วน 14.5% ลดลงจากปีก่อนเล็กน้อย (17.2%) 5 อันดับแรก ได้แก่ Isuzu D-Max, Toyota Revo, Ford Ranger, Mitsubishi Triton และ Nissan Navara

ส่วนรถหรู มียอดขายรวม 4,181 คัน โดย 5 แบรนด์ ที่ได้รับความสนใจสูงสุด ได้แก่ BMW, Mercedes-Benz, Volvo, Porsche และ Audi

รถจักรยานยนต์จาก 26 ผู้ผลิต ยอดขายรวม 7,251 คัน ลดลงจากเป้าที่ตั้งไว้เล็กน้อย จากข้อมูลของผู้ร่วมกิจกรรม “ซื้อมอเตอร์ไซค์…ชิงบิ๊กไบค์” พบกว่า รถจักรยานยนต์ ที่มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ Honda, Yamaha, Kawasaki, Harley-Davidson และ GPX

ราคาเฉลี่ยของรถที่ขายได้ในงาน 1,251,743 บาท และราคาเฉลี่ยของรถจักรยานยนต์ 265,860 บาท เงินหมุนเวียนภายในงานราว 50,000 ล้านบาท ผู้เข้าชมงานจำนวน 1,510,307 คน ใกล้เคียงปีก่อน (1,534,961 คน)

ส่วนใครอยากขายรถด่วน เพื่อไปซื้อรถป้ายแดง หรือรับเงินก้อนไปใช้ในช่วงสิ้นปี สามารถนำรถมาขาย หรือตีราคารถ ที่ CARRO ได้เลย ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ CARRO Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothai หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

สรุป

ยอดจองรถยนต์ วันที่ 28 พ.ย. – 10 ธ.ค. 2561 44,189 คัน (หากรวมยอดรถมอเตอร์ไซค์ด้วย เป็น 53,358 คัน)

ยอดจองรถยนต์ วันที่ 29 พ.ย. – 11 ธ.ค. 2560 39,832 คัน

ยอดจองรถยนต์ วันที่ 30 พ.ย. – 12 ธ.ค. 2559 32,422 คัน

ยอดจองรถยนต์ 10 อันดับแรกของ Motor Expo 2019 วันที่ 28 พ.ย. – 10 ธ.ค. 2562 (Carro Update ยอด ณ วันที่ 10 ธ.ค. 2562)

Toyota-GR-Supra

1. Toyota 6,243 คัน

Honda-City-2020

2. Honda 5,766 คัน

Mazda2-2020

3. Mazda 3,998 คัน

Isuzu-D-Max-2020

4. Isuzu 3,716 คัน

Mitsubishi-Mirage-2020

5. Mitsubishi 2,959 คัน

6. Suzuki 2,308 คัน

MG-ZS-EV-2019

7. MG 2,252 คัน

Nissan-Almera-2020

8. Nissan 2,218 คัน

Mercedes-Benz-E300-e

9. Mercedes-Benz 1,862 คัน

Ford-Everest-Sport-2019

10. Ford 1,323 คัน

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Motor Expo

ดูสรุปยอดจองรถยนต์ในงาน Motor Expo 2018 ได้ที่นี่ >> https://th.carro.co/blog/motor-expo-2018-booking/

ดูสรุปยอดจองรถยนต์ในงาน Motor Expo 2017 ได้ที่นี่ >> https://th.carro.co/blog/motor-expo-2017-booking/

สำหรับผู้ที่ซื้อรถใหม่ในงาน Motor Expo 2019 ไปแล้ว แต่ยังหนักใจว่าจะขายรถคันเดิมที่ไหนดี ให้ CARRO เป็นผู้ช่วยมืออาชีพของคุณ “ขายรถง่ายๆ ได้ราคาดี กับ CARRO Thailand”