Toyota Noah 2022 และ Voxy 2022 ลุยตลาด MPV

นี่ก็นับว่าเป็นรถ MPV สไตล์ทรงกล่องเป็นเอกลักษณ์ของ Toyota Noah ที่ตั้งแต่แยกสายพันธุ์ออกจากรถในตระกูล Liteace รุ่นหลัก มาเปิดตัวเจเนอเรชั่นแรกพร้อมกับ Toyota Voxy คู่แฝดแบบสปอร์ต ในเดือนพฤศจิกายน 2001 (แต่ยังคงใช้รหัสรุ่น “R” กันไปอย่างต่อเนื่องเหมือนเดิม)

ก็ถือได้ว่าเป็นรถมินิแวนสามใบเถาขนาดกลางนี้ ที่ยอดฮิตมากในญี่ปุ่นอีกรุ่น ด้วยยอดขายรวมกันทั้ง Noah และ Esquire มาพร้อมความหรู (แต่ Esquire เลิกผลิต ไม่ได้ไปต่อละ) เฉลี่ยปีละหนึ่งแสนกว่าคัน

สำหรับ Toyota Noah และ Voxy ในไทยที่ผ่านมา มีแต่เพียงผู้จำหน่ายอิสระ นำเข้ามาขายกันทุกเจเนอเรชั่นเท่านั้น แม้ว่าจะมีราคาสูง แต่ชาว Toyota Lover หลายๆ คน ที่ไม่อยากได้ Estima หรือสู้ราคา Alphard ไม่ไหว ก็หันมาเลือกใช้ รุ่นนี้แทน

Toyota เปิดตัว Toyota Noah 2022 และ Voxy 2022 รถ MPV ทรงกล่องสุดไฮเทค พร้อมสู้คู่แข่ง!

และบัดนี้ All-New Toyota Noah 2022 (โตโยต้า โนอาห์) และ Toyota Voxy (โตโยต้า ว็อกซี่) ในรหัส R90 ก็ถูกพัฒนามาเป็นเจเนอเรชั่นที่ 4 แล้ว พัฒนาขึ้นใหม่บนแพลตฟอร์ม TNGA-C ก่อนเปิดตัวในวันที่ 13 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งมีรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน และ Hybrid ให้เลือกด้วย

Toyota เปิดตัว Toyota Noah 2022 และ Voxy 2022 รถ MPV ทรงกล่องสุดไฮเทค พร้อมสู้คู่แข่ง!

ตัวรถภายนอกของทั้งสองรุ่น มาพร้อมทรงเหลี่ยม กระจกบานใหญ่ๆ ชุดไฟหน้าแบบ LED ทรงเหลี่ยมแบบโฉบเฉี่ยว ควบคู่ไปกับชุดกันชนหนาอันสุดใหญ่โตโอฬาร ออกแบบเสา C-Pillar ให้ตั้งชันมากขึ้นกว่าเดิม ระบบประตูสไลด์ไฟฟ้า ที่มีเซ็นเซอร์ด้านล่าง แค่แหย่เท้าไปประตูก็เปิดเองได้อัตโนมัติ แถมยังมีชุดแต่งพิเศษจาก TRD และ Modellista ของ Toyota ให้เสียเงินติดตั้งเพิ่มเติมได้

Toyota เปิดตัว Toyota Noah 2022 และ Voxy 2022 รถ MPV ทรงกล่องสุดไฮเทค พร้อมสู้คู่แข่ง!

สำหรับมิติตัวรถยาว 4,695 มม. กว้าง 1,730 มม. และสูง 1,895 – 1,925 มม. ขึ้นอยู่กับรุ่น และระยะฐานล้อ 2,850 มม. ส่วนมิติห้องโดยสารภายใน กว้าง 2,805 มม. ยาว 1,470 มม. และสูง 1,405 มม.

Toyota เปิดตัว Toyota Noah 2022 และ Voxy 2022 รถ MPV ทรงกล่องสุดไฮเทค พร้อมสู้คู่แข่ง!

ห้องโดยสารภายใน ยังคงความเป็นรถยนต์สำหรับครอบครัวเช่นเดิม แผงคอนโซลหน้าดูล้ำสมัย แต่ใช้งานง่าย โดดเด่นด้วยหน้าจอ Infotainment ที่มีขนาดตั้งแต่ 8.5 นิ้ว ไปจนถึงในรุ่น Top สุดขนาด 10.5 นิ้ว

Toyota เปิดตัว Toyota Noah 2022 และ Voxy 2022 รถ MPV ทรงกล่องสุดไฮเทค พร้อมสู้คู่แข่ง!

ส่วนเบาะนั่งมีให้เลือกทั้ง 7 และ 8 ที่นั่ง และเบาะนั่งด้านหลังสุด ติดตั้งระบบพับเก็บเบาะด้วยไฟฟ้า เพียงกดปุ่มแค่ครั้งเดียวก็พับเบาะได้ พร้อมฝาท้ายแบบไฟฟ้า มีระบบหยุดได้ทุกจังหวะที่ต้องการ ไม่ต้องเปิดให้กว้างสุดได้แล้ว ส่วนด้านระบบความปลอดภัย มี Toyota Safety Sense จัดเต็ม

Toyota เปิดตัว Toyota Noah 2022 และ Voxy 2022 รถ MPV ทรงกล่องสุดไฮเทค พร้อมสู้คู่แข่ง!

ขุมพลังมีให้เลือก 2 แบบ ตั้งแต่แบบเบนซิน Hybrid รหัส 2ZR-FXE ขนาด 1.8 ลิตร แบบ 4 สูบ DOHC Dual VVT-i ให้แรงม้าสูงสุด 98 แรงม้า ที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 142 นิวตัน-เมตร (14.5 กก.-ม.) ที่ 3,600 รอบ/นาที ผ่านระบบขับเคลื่อนแบบล้อหน้า และขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ E-Four

พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้ารหัส 1VM ให้แรงม้าสูงสุด 95 แรงม้า (70 กิโลวัตต์) ในล้อคู่หน้า และล้อหลังขนาด 41 แรงม้า (30 กิโลวัตต์)

ส่วนรุ่นเบนซิน ใช้ขุมพลังรหัส M20A-FKS ขนาด 2.0 ลิตร แบบ 4 สูบ DOHC Dual VVT-i ให้แรงม้าสูงสุด 170 แรงม้า ที่ 6,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 202 นิวตัน-เมตร (20.6 กก.-ม.) ที่ 4,900 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ Direct-Shift-CVT ผ่านระบบขับเคลื่อนแบบล้อหน้า และขับเคลื่อน 4 ล้อ

Toyota เปิดตัว Toyota Noah 2022 และ Voxy 2022 รถ MPV ทรงกล่องสุดไฮเทค พร้อมสู้คู่แข่ง!

รุ่นย่อย All-New Toyota Noah 2022 ยังคงมีให้เลือกกันอย่างหลากหลาย ตามความต้องการของลูกค้าตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น X, G, Z, S-G และ S-Z ส่วน All-New Toyota Voxy 2022 มีให้เลือกแค่รุ่นย่อย S-G และ S-Z

Toyota เปิดตัว Toyota Noah 2022 และ Voxy 2022 รถ MPV ทรงกล่องสุดไฮเทค พร้อมสู้คู่แข่ง!

สำหรับ All-New Toyota Noah 2022 และ Toyota Voxy 2022 มีราคาอยู่ที่ 2,670,000 – 3,960,000 เยน หรือ ประมาณ 810,000 – 1,188,000 บาทไทย

ส่วนในบ้านเรา หากใครอยากได้ All-New Toyota Noah 2022 และ Toyota Voxy 2022 ก็เตรียมเก็บเงินซื้อกันได้แล้วนะครับ คาดว่าผู้จำหน่ายอิสระหลายๆ เจ้า สั่งนำเข้ามาขายแน่นอน ช่วงราคาคงอยู่ที่ประมาณ 2 ล้านกว่าบาทเหมือนเดิมครับ

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อ Toyota Noah และ Toyota Voxy คันใหม่ มาขายรถกับทาง CARRO Express ได้ที่  https://th.carro.co/sell-car/express หรือถ้าหากต้องการซื้อรถคุณภาพเยี่ยม CARRO เราก็มีพร้อมให้คุณเลือกอย่างมากมายด้วยเช่นกัน พร้อมรับประกันสูงสุดถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร กับ CARRO Automall ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://th.carro.co/taladrod/

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

หากใครอยากซื้อรถมือสองสภาพเยี่ยม ราคาสบายๆ และมั่นใจได้ในเรื่องของความสะอาดทุกคัน CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ ตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลา 1 นาที!

ซึ่งรถของ CARRO Automall เรามีให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพอย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 200 จุด รวมไปถึงการการปรับสภาพ (Car Reconditioning) ด้วยทีมช่างมืออาชีพ ที่ผ่านการผึกอบรมตามมาตรฐานคาร์โรกว่า 40 คน พร้อมให้บริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว กว่า 20 คัน/วัน

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์

เรารับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร! (CARRO Quality Assurance) อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม กับ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

Mazda2 2022 เพิ่มอุปกรณ์ดีสุด เริ่มต้น 546,000 บาท!

เปิดศักราชใหม่ต้อนรับปีเสือ 2565 Mazda (มาสด้า) ส่งรถยนต์นั่งซิตี้คาร์ที่กำลังร้อนแรงมากที่สุดตลอดกาลหวังกระตุ้นกำลังซื้อตั้งแต่ต้นปี ด้วยการแนะนำรถยนต์นั่งรุ่นใหม่ล่าสุดส่งตรงจากโรงงานออโต้อัลลายแอนซ์ จ.ระยอง New Mazda2 (มาสด้า2) ที่มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ใหม่ LIVE LESS ORDINARY ไม่ธรรมดาในแบบที่เราเป็น

Mazda เปิดตัว Mazda2 2022 เพิ่มอุปกรณ์ดีสุดในคลาส ราคาเท่าเดิม 546,000 - 799,000 บาท!

พร้อมเปิดเผยตัวตนอันโดดเด่น เติมเต็มความสนุกให้กับทุกวันของชีวิต ถ่ายทอดมุมมองและสะท้อนคุณค่าในแบบที่เราเป็นด้วยสไตล์ที่แตกต่าง มาพร้อมขุมพลังสกายแอคทีฟคลีนดีเซลและขุมพลังสกายแอคทีฟเบนซิน มีให้เลือกในสไตล์ที่เป็นคุณทั้งแบบซีดาน 4 ประตู และแบบแฮทช์แบค 5 ประตู เพิ่มอุปกรณ์ที่ดีที่สุดในคลาส มาพร้อมกับสีใหม่ล่าสุด แพลตทินั่ม ควอตซ์ วางราคาจำหน่ายเท่าเดิม เริ่มต้นเพียง 546,000 บาท

Mazda2 ถือเป็นโมเดลหลักสำคัญที่ส่งผลต่อปริมาณยอดขายของมาสด้าในแต่ละปี ดังนั้นการเปิดตัวแนะนำ มาสด้า2 ใหม่ ในครั้งนี้ จึงเป็นการกระตุ้นกำลังซื้อของกลุ่มลูกค้าที่มีขนาดใหญ่ ด้วยการสร้างความคุ้มค่าคุ้มราคาเพื่อให้ลูกค้าเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น ประกอบกับการเพิ่มออฟชั่นและอุปกรณ์มาตรฐานให้มากขึ้น

มาสด้า2 จัดเป็นโมเดลที่ขายดีที่สุดของมาสด้า เริ่มทำตลาดในไทยเมื่อปี 2552 มียอดขายสะสมกว่า 95,000 คัน ตามมาด้วยเจเนอเรชั่นที่ 2 ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีสกายแอคทีฟในปี 2558 มียอดขายสะสมสูงถึง 160,000 คัน และการปรับโฉมใหม่ครั้งล่าสุดที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2562 มียอดขายสะสมกว่า 45,000 คัน

ด้วยการเอาใจใส่คัดสรรเฉพาะวัสดุคุณภาพสูงและสมรรถนะการใช้งานที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างลงตัว จึงทำให้ Mazda2 ประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้นจนผลักดันให้ Mazda2 ก้าวขึ้นสู่อันดับหนึ่งในตลาดรถยนต์นั่งขนาดเล็กรวม Eco-Car และ B-Segment ติดต่อกันนานถึง 3 ปี ระหว่างปี 2560 – 2562 ถือเป็นรุ่นเรือธงยอดนิยมที่อยู่ในการครอบครองของลูกค้าในประเทศไทยกว่า 300,000 คัน ดังนั้น การแนะนำมาสด้า2 ใหม่ ในครั้งนี้ คือการกลับมาเพื่อจะสร้างประวัติศาสตร์ในการก้าวสู่เบอร์หนึ่งในตลาดอีกครั้ง

Mazda เปิดตัว Mazda2 2022 เพิ่มอุปกรณ์ดีสุดในคลาส ราคาเท่าเดิม 546,000 - 799,000 บาท!

Mazda2 2022 ใหม่ ดีไซน์หรูหราสง่างามมากยิ่งขึ้น ด้วยแรงบันดาลใจในการออกแบบและการพัฒนาจากแนวคิด Kodo – Soul of Motion ด้วยเส้นสายที่เรียบง่ายแต่แฝงด้วยความโฉบเฉี่ยวทรงพลังราวกับมีชีวิต ภายใต้คอนเซ็ปต์ Less is More ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากสุนทรียศาสตร์แบบญี่ปุ่น เรียบง่ายแต่งดงาม ภายในห้องโดยสารยกระดับความหรูหราพรีเมี่ยมยิ่งขึ้น แผงคอนโซลหน้าและเบาะหนังสีดำใหม่ พร้อมเพิ่มออฟชั่นที่ทันสมัยครบครันมากยิ่งขึ้น แต่ตั้งราคาขายเท่ารุ่นปัจจุบัน

Mazda เปิดตัว Mazda2 2022 เพิ่มอุปกรณ์ดีสุดในคลาส ราคาเท่าเดิม 546,000 - 799,000 บาท!

ภายในห้องโดยสารมาพร้อมแผงคอนโซลหน้าและเบาะหนังสีดำสไตล์สปอร์ตดีไซน์ใหม่ ที่ผสานกันอย่างลงตัวกับความพรีเมี่ยม และเบาะนั่งด้านคนขับสามารถปรับด้วยระบบไฟฟ้า 6 ทิศทาง พร้อมระบบบันทึกตำแหน่งเบาะคนขับได้ถึง 2 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีการติดตั้งอุปกรณ์มาตรฐานนี้ในกลุ่มรถยนต์นั่งขนาดเล็กที่มีระดับราคาใกล้เคียงกัน

มั่นใจทุกการขับขี่ให้ทุกเส้นทางสนุกมั่นใจได้ในแบบของคุณกับ Active Driving Display สกรีนใสแสดงข้อมูลการขับขี่ที่สำคัญ Sport Paddle Shift ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย และ Cruise Control ระบบควบคุมความเร็วคงที่

Mazda เปิดตัว Mazda2 2022 เพิ่มอุปกรณ์ดีสุดในคลาส ราคาเท่าเดิม 546,000 - 799,000 บาท!

และยังโดดเด่นในด้านสมรรถนะการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์สกายแอคทีฟ โดยมีให้เลือกถึง 2 แบบ ได้แก่ เครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 1.3 ลิตร ที่ให้สมรรถนะการขับขี่และการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยมถึง 23.3 กม./ลิตร และเครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซล 1.5 ลิตร ที่ให้การตอบสนองการขับขี่และการประหยัดน้ำมันเป็นเลิศถึง 26.3 กม./ลิตร มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด

นอกจากนี้ยังมีระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง หรือ G-Vectoring Control Plus (GVC Plus) เทคโนโลยีเฉพาะของมาสด้าที่ช่วยควบคุมสมรรถนะการขับขี่ให้แม่นยำและสมดุล เพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยให้ผู้โดยสารทุกตำแหน่ง มาพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานที่ให้ทั้งความสะดวกสบายในการใช้งานที่เหนือกว่ารถในระดับเดียวกัน

Mazda เปิดตัว Mazda2 2022 เพิ่มอุปกรณ์ดีสุดในคลาส ราคาเท่าเดิม 546,000 - 799,000 บาท!

Mazda2 2022 ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองการใช้งานและอรรถประโยชน์ของผู้ขับขี่และผู้โดยสารมากที่สุด ทำให้การออกแบบฟังก์ชั่นและการจัดวางอุปกรณ์ต่างๆ อยู่ในตำแหน่งที่ลงตัวเหมาะกับไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย พร้อมให้คุณสนุกไปกับทุกเป้าหมายที่อยากทำได้อย่างคล่องตัว ตามคอนเซ็ปต์ HMI (Human-Machine Interface) ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่รู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกันกับรถตามหลักปรัชญา Jinba-Ittai เพื่อส่งมอบความสะดวกสบายและความปลอดภัยตลอดการเดินทาง

นอกจากนี้ ยังตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ในยุคดิจิตอล ด้วยอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger) เชื่อมต่อกับระบบ Mazda Connect ที่รองรับระบบ Apple CarPlay® แบบไร้สาย และ Android Auto™* เพิ่มความสะดวกสบายในการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้อย่างไร้ขีดจำกัด

Mazda เปิดตัว Mazda2 2022 เพิ่มอุปกรณ์ดีสุดในคลาส ราคาเท่าเดิม 546,000 - 799,000 บาท!

ยังมีเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยเชิงป้องกัน i-Activsense ที่ช่วยลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุรุนแรง และช่วยให้การขับขี่เป็นไปได้อย่างง่ายยิ่งขึ้น เพื่อความปลอดภัยตลอดทุกการเดินทาง อาทิ ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (ABSM) ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA) และระบบแสดงภาพ 360 องศา รอบทิศทาง (360° View Monitor) เป็นต้น

นอกจากนี้ ในทุกรุ่นย่อยยังมาพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานด้านความปลอดภัยขั้นพื้นฐานที่ติดตั้งมาอย่างครบครัน อาทิ ระบบป้องกันล้อล็อค 4W-ABS และระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวของรถ DSC รวมถึงระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน HLA ระบบสัญญาณไฟกระพริบอัตโนมัติเมื่อเบรกในภาวะฉุกเฉินและส่งสัญญาณเตือนรถคันหลัง ESS ระบบช่วยป้องกันรถลื่นไถล TCS โครงสร้างตัวถังสกายแอคทีฟ พร้อมถุงลมนิรภัยคู่หน้า Dual Airbag เพิ่มความปลอดภัยให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหน้า

ด้วยจุดขายหลักที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ จึงทำให้มาสด้า2 ใหม่ ยังคงโดดเด่นเหนือกว่าคู่แข่งระดับเดียวกันในทุกมิติ ถือเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้าที่ต้องการสมรรถนะควบคู่ไปกับความสปอร์ตพรีเมี่ยมในรถยนต์นั่งซิตี้คาร์

Mazda เปิดตัว Mazda2 2022 เพิ่มอุปกรณ์ดีสุดในคลาส ราคาเท่าเดิม 546,000 - 799,000 บาท!

เทคโนโลยีความปลอดภัยสุดล้ำที่เพียบพร้อมใน New Mazda2 2022

  • ไฟหน้าโปรเจคเตอร์แบบ LED และปรับระดับแบบอัตโนมัติ มีในทุกรุ่นย่อย
  • ระบบควบคุมการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง GVC Plus มีในทุกรุ่นย่อย
  • ระบบช่วยประหยัดน้ำมัน i-STOP และระบบประหยัดพลังงาน i-ELOOP มีในทุกรุ่นย่อย
  • กระจกหน้าแบบลดเสียงรบกวน มีในทุกรุ่นย่อย
  • ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย Sport paddle shift
  • ระบบไฟหน้า เปิด-ปิด อัตโนมัติ
  • กระจกมองข้างปรับและพับด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว
  • ที่ปัดน้ำฝนกระจกหน้าแบบหน่วงเวลา พร้อมฟังก์ชั่นตรวจจับน้ำฝนแบบอัตโนมัติ
  • ระบบแสดงภาพ 360° รอบทิศทาง (360° View monitor)
  • ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
  • ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM (Advanced Blind Spot Monitoring)
  • ระบบป้องกันล้อล็อกแยกอิสระ 4 ล้อ 4W-ABS ระบบกระจายแรงเบรก EDB และระบบช่วยเบรก BA
  • ระบบควบคุมเสถียรภาพและการทรงตัวของรถ DSC (Dynamic Stability Control)
  • ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล TCS ( Traction Control System)
  • ระบบช่วยการออกตัวของรถขณะอยู่บนทางลาดชัน HLA (Hill Launch Assist)
  • ระบบสัญญาณไฟฉุกเฉินเตือนอัตโนมัติ เมื่อเบรกกะทันหัน ESS (Emergency Signal System)
  • หน้าจอสี Center Display แบบสัมผัส ขนาด 7 นิ้ว และปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Commander
  • พวงมาลัยปรับ 4 ทิศทาง พร้อมสวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย
  • กุญแจนิรภัย Immobilizer และสัญญาณกันขโมย พร้อมเซ็นทรัลล็อก
  • ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ
  • ถุงลมนิรภัยคู่หน้า SRS
  • กล้องมองหลัง
  • ระบบเซ็นเซอร์กะระยะด้านหน้า 4 จุด และด้านหลังอีก 4 จุด
  • คานเหล็กเสริมกันกระแทกด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลัง
  • พนักพิงเบาะด้านหลัง สามารถแยกปรับและพับแบบ 60:40

Mazda เปิดตัว Mazda2 2022 เพิ่มอุปกรณ์ดีสุดในคลาส ราคาเท่าเดิม 546,000 - 799,000 บาท!

มาสด้า2 2022 ใหม่ มีสีภายนอกให้เลือกถึง 8 สี โดยเฉพาะการแนะนำสีภายนอกใหม่เพิ่มเติม ได่แก่ สีบรอนซ์ แพลตทินั่ม ควอตซ์ ทั้งในตัวถังแบบซีดาน 4 ประตู และแฮทช์แบค 5 ประตู ซึ่งเป็นสีหลักสำหรับการเปิดตัว และสื่อสารทางการตลาดในครั้งนี้

นอกจากนี้ยังมีการแนะนำสีเทา โพลีเมทัล เกรย์ เพิ่มเติมสำหรับตัวถังแบบซีดาน 4 ประตู อีกด้วย โดยมีรายละเอียดของสีภายนอกทั้งหมดดังต่อไปนี้

  • สีแดง โซล เรด คริสตัล (Soul Red Crystal)
  • สีเทา แมชชีน เกรย์ (Machine Gray)
  • สีขาว สโนว์เฟลก ไวท์ เพิร์ล (Snowflake White Pearl)
  • สีดำ เจ็ท แบล็ก (Jet Black)
  • สีเงิน โซนิค ซิลเวอร์ (Sonic Silver)
  • สีขาว เซรามิก เมทัลลิก (Ceramic Metallic)
  • สีบรอนซ์ แพลตทินั่ม ควอตซ์ (Platinum Quartz) สีใหม่ สำหรับ 4 ประตู และ 5 ประตู
  • และเพิ่มสีเทา โพลีเมทัล เกรย์ (Polymetal Gray) สีใหม่ สำหรับซีดาน 4 ประตู

มาสด้า ยังได้จัดโปรโมชั่นสุดพิเศษที่โชว์รูมและศูนย์บริการมาสด้า เพื่อให้ลูกค้าทั่วประเทศได้รับข้อเสนอสุดพิเศษนี้เฉพาะในช่วงเปิดตัวแนะนำ ทั้งมอบดอกเบี้ย 1.99%1 ฟรีประกันชั้น 1 Mazda Premium Insurance 1 ปี2 และฟรี พ.ร.บ.3 ซึ่งลูกค้าที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โชว์รูมและศูนย์บริการมาสด้าทั่วประเทศ หรือทางเว็บไซต์ www.mazda.co.th

ราคาจำหน่าย New Mazda2 ทั้งรุ่น Sedan 4 ประตู และรุ่น Hatchback 5 ประตู ราคาจำหน่ายเท่ากัน

  • รุ่น 1.3 E/1.3 E Sports ราคา 546,000 บาท
  • รุ่น 1.3 C/ 1.3 C Sports ราคา 599,000 บาท
  • รุ่น 1.3 S Leather/1.3 Sports Leather ราคา 659,000 บาท
  • รุ่น 1.3 SP/1.3 SP Sports ราคา 690,000 บาท
  • รุ่น XDL/XDL Sports ราคา 799,000 บาท

หมายเหตุ:

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
1. เงินดาวน์ 25% ผ่อนนานสูงสุด 48 เดือน
2. บริษัทประกันภัยที่เข้าร่วมโครงการ ประกอบด้วย (1) บมจ. วิริยะประกันภัย (2) บมจ. ธนชาตประกันภัย (3) บมจ. ประกันภัยไทยวิวัฒน์ (4) บมจ. ทิพยประกันภัย
3. พ.ร.บ. สนับสนุนโดย ธนาคารทิสโก้ และธนาคารทหารไทยธนชาต สำหรับลูกค้าที่จองรถผ่าน SKY Journey ภายในวันที่ 31 ม.ค. 65 และรับรถภายในวันที่ 28 ก.พ. 65 เท่านั้น

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

หากคุณต้องการขายรถด่วน CARRO ช่วยคุณได้ตลอด 24 ชั่วโมง รับรองได้ราคาดี มาขายรถกับทาง CARRO Express ได้ที่  https://th.carro.co/sell-car/express หรือถ้าหากต้องการซื้อรถคุณภาพเยี่ยม CARRO เราก็มีพร้อมให้คุณเลือกอย่างมากมายด้วยเช่นกัน พร้อมรับประกันสูงสุดถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร กับ CARRO Automall ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://th.carro.co/taladrod/

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

แต่ถ้าหากช่วงนี้ใครอยากเปลี่ยนรถคันใหม่ มาใช้แทนที่รถคันเดิม CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น!

รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check มากกว่า 200 จุด และยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ให้คุณเลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา พร้อมรับประกันคุณภาพรถนานถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร! อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! เรามีรถให้คุณเลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Official โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

Chevrolet ปล่อย Silverado EV 2022 วิ่งกว่า 643 กม.

ในยุคที่รถยนต์ไฟฟ้ากำลังอยู่ในช่วงที่บูมสุดๆ ของชาวโลกเวลานี้ อีกหนึ่งยานยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ยังได้รับความนิยมในหลายประเทศ อย่าง “รถกระบะไฟฟ้า” ซึ่งจัดได้ว่าเป็นรถกระบะที่ใช้พลังงานสะอาด และต่างไปจากความคิดเดิมๆโดยสิ้นเชิง

Chevrolet พร้อมขายรถกระบะไฟฟ้า Chevrolet Silverado EV 2022 วิ่งได้ไกลกว่า 643 กิโลเมตร

ยิ่งในประเทศที่ขายรถกระบะมากที่สุดในโลก อย่าง สหรัฐอเมริกา แล้วนั้น ค่ายรถหลายค่ายต่างผลิตรถกระบะไฟฟ้าออกมานำเสนอ และผลิตขายจริงกันใหญ่ และหนึ่งในนั้นก็คือ GM ผู้เป็นเจ้าของแบรนด์ Chevrolet (เชฟโรเลต) ที่เตรียมนำเสนอรถกระบะฟูลไซส์ All-New Chevrolet Silverado EV 2024 (เชฟโรเลต ซิลเวอร์ราโด) ซึ่งเตรียมผลิตในปีหน้านี้ ตั้งใจออกมาเป็นคู่แข่งตรงของ Ford F-150 Lightning และยังคงไว้ซึ่งความแข็งแกร่ง ตามสไตล์กระบะเชฟวี่นั่นเอง

Chevrolet พร้อมขายรถกระบะไฟฟ้า Chevrolet Silverado EV 2022 วิ่งได้ไกลกว่า 643 กิโลเมตร

สำหรับ All-New Chevrolet Silverado EV 2024 ใช้พื้นฐานบนแพล็ตฟอร์ม Ultrium EV (หรือ GM BT1) เช่นเดียวกับใน Hummer EV มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย ด้วยกัน ได้แก่ RST First Edition สำหรับการใช้งานส่วนบุคคล และ WT (Work Truck) สำหรับการใช้งานเชิงพาณิชย์

Chevrolet พร้อมขายรถกระบะไฟฟ้า Chevrolet Silverado EV 2022 วิ่งได้ไกลกว่า 643 กิโลเมตร

ห้องโดยสารภายใน ดูสมกับเป็นรถกระบะแห่งยุคอนาคต แต่ก็ยังแฝงไว้ด้วยความเหลี่ยม แต่แข็งแกร่งสไตล์รถกระบะอเมริกัน ในรุ่น RST มาพร้อมหน้าจอ Infotainment แบบ LCD ขนาด 17 นิ้ว คู่กับหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ ขนาด 11 นิ้ว และระบบ Head-up Display บนกระจกหน้าที่สามารถฉายภาพสีขนาดใหญ่ได้ถึง 14 นิ้ว

Chevrolet พร้อมขายรถกระบะไฟฟ้า Chevrolet Silverado EV 2022 วิ่งได้ไกลกว่า 643 กิโลเมตร

ขุมพลังของ Chevrolet Silverado EV ในรุ่น RST ใช้มอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 664 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 780 ปอนด์ฟุต (ประมาณ 1,060 นิวตัน-เมตร) ในรุ่นนี้นำเสนอ Drive Mode ในชื่อ Wide Open Watts ซึ่งสามารถทำความเร็ว 0-96 กม./ชม. ได้น้อยกว่า 4.5 วินาที และให้กำลังลากจูงได้สูงถึง 8,000 ปอนด์ (หรือ 3,629 กิโลกรัม)

Chevrolet พร้อมขายรถกระบะไฟฟ้า Chevrolet Silverado EV 2022 วิ่งได้ไกลกว่า 643 กิโลเมตร

รุ่นนี้ใช้แบตเตอรี่ Ultium ขนาด 200 กิโลวัตต์ แบบ 24 โมดูล ที่ออกแบบเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างตัวรถ ให้ระยะทางขับขี่ได้สูงสุดประมาณ 400 ไมล์ หรือ 643 กิโลเมตรต่อการชาร์จแต่ละครั้ง และยังรองรับระบบชาร์จด่วนกำลังไฟสูงสุดถึง 350 กิโลวัตต์

ส่วนในรุ่น WT ใช้มอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 510 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 615 ปอนด์ฟุต (ประมาณ 834 นิวตัน-เมตร)

Chevrolet พร้อมขายรถกระบะไฟฟ้า Chevrolet Silverado EV 2022 วิ่งได้ไกลกว่า 643 กิโลเมตร

มาพร้อมล้อแม็กขนาดใหญ่ถึง 24 นิ้ว และช่วงล่างแบบอิสระทั้งด้านหน้า-หลัง ขณะที่รุ่น RST ที่มีระบบถุงลม Automatic Adaptive Air Suspension สามารถยกตัวรถขึ้น-ลงได้สูงสุด 50 มม. ทั้งยังมีระบบเลี้ยว 4 ล้อที่ช่วยวให้วงเลี้ยงแคบขึ้น และเข้าโค้งที่ความเร็วสูงได้

Chevrolet พร้อมขายรถกระบะไฟฟ้า Chevrolet Silverado EV 2022 วิ่งได้ไกลกว่า 643 กิโลเมตร

All-New Chevrolet Silverado EV 2024 เปิดให้ลูกค้าในสหรัฐฯ จองแล้ว พร้อมส่งมอบรถในช่วงปี 2023 โดยรุ่นพื้นฐาน Silverado EV WT มีราคาเริ่มต้นที่ 39,900 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.321 ล้านบาท) ส่วน Silverado EV RST First Edition ราคาขึ้นไปที่ 105,000 ดอลลาร์ หรือราวๆ 3.477 ล้านบาท

Chevrolet พร้อมขายรถกระบะไฟฟ้า Chevrolet Silverado EV 2022 วิ่งได้ไกลกว่า 643 กิโลเมตร

และในเรื่องของสถานีชาร์จไฟ บอกได้เลยว่าไม่ต้องห่วง เพราะสถานีชาร์จไฟ Ultium Charge 360 มีจุดชาร์จมากกว่า 100,000 จุดทั่วสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ส่วนในรุ่น WT ใช้บริการได้ที่ Ultium Charge 360 Fleet Service ที่พัฒนาขึ้นสำหรับรถเชิงพาณิชย์โดยเฉพาะ

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์ไฟฟ้าคันใหม่ มาขายรถกับทาง CARRO Express ได้ที่  https://th.carro.co/sell-car/express หรือถ้าหากต้องการซื้อรถคุณภาพเยี่ยม CARRO เราก็มีพร้อมให้คุณเลือกอย่างมากมายด้วยเช่นกัน พร้อมรับประกันสูงสุดถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร กับ CARRO Automall ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://th.carro.co/taladrod/

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

หากใครอยากซื้อรถมือสองสภาพเยี่ยม ราคาสบายๆ และมั่นใจได้ในเรื่องคุณภาพทุกคัน CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ ตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลา 1 นาที!

ซึ่งรถของ CARRO Automall เรามีให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพอย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 200 จุด รวมไปถึงการการปรับสภาพ (Car Reconditioning) ด้วยทีมช่างมืออาชีพ ที่ผ่านการผึกอบรมตามมาตรฐานคาร์โรกว่า 40 คน พร้อมให้บริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว กว่า 20 คัน/วัน

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์

เรารับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร! (CARRO Quality Assurance) อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม กับ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

Honda เปิดตัว All-New Honda StepWGN 2022 รถ MPV ทรงกล่องสุดล้ำ

นี่ก็นับว่าเป็นรถ MPV สไตล์ทรงกล่องเป็นเอกลักษณ์รุ่นแรกของ Honda นับตั้งแต่เปิดตัวเจเนอเรชั่นแรกในเดือนพฤษภาคม 1996 หลังจากที่พัฒนารถต้นแบบ Honda F-MX ออกมาในปี 1995 จนมียอดขายประสบความสำเร็จมากในญี่ปุ่น

ซึ่งแม้ว่า ในไทยทาง Honda จะเคยนำเข้า Honda StepWGN Spada (ฮอนด้า สเตปแวกอน สปาด้า) อย่างเป็นทางการเพียงแค่รุ่นเดียว นั่นคือเจเนอเรชั่นที่ 4 ในปี 2012 – 2016 แต่ในไทยที่ผ่านมา ก็มีผู้จำหน่ายอิสระ นำเข้ามาขายกันทุกเจเนอเรชั่น แม้ว่าจะมีราคาสูง แต่ชาว Honda Lover หลายๆ คน ก็ยังคงนิยมซื้อหามาใช้

Honda เตรียมเปิดตัว All-New Honda StepWGN 2022 รถ MPV ทรงกล่องสุดไฮเทคแล้ว!

และบัดนี้ All-New Honda StepWGN 2022 (ฮอนด้า สเตปแวกอน) ก็ถูกพัฒนามาเป็นเจเนอเรชั่นที่ 6 แล้ว ก่อนเผยแพร่สู่โลกออนไลน์ในวันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา และตัวจริงจะถูกโชว์ในงาน Tokyo Auto Salon 2022 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 14 มกราคม 2022 ที่จะถึงนี้ ก่อนเผยรายละเอียดทั้งหมดและจำหน่ายจริงในช่วงเดือนกุมภาพันธุ์นี้ ซึ่งมีรุ่นเครื่องยนต์ e:HEV ให้เลือกด้วย

Honda เตรียมเปิดตัว All-New Honda StepWGN 2022 รถ MPV ทรงกล่องสุดไฮเทคแล้ว!

ตัวรถภายนอก All-New Honda StepWGN 2022 มาพร้อมทรงเหลี่ยม กระจกบานใหญ่ๆ ให้ทัศนวิสัยดีคล้ายกับในรุ่นก่อนๆ ใช้ชุดไฟหน้าแบบ LED ทรงเหลี่ยม ออกแบบให้รับกับกระจังหน้าพร้อมกรอบโครเมียม มีไฟตัดหมอกให้ และประตูสไลด์ไฟฟ้าซ้าย-ขวา

Honda เตรียมเปิดตัว All-New Honda StepWGN 2022 รถ MPV ทรงกล่องสุดไฮเทคแล้ว!

โดยรุ่น Spada เพิ่มความสปอร์ตหรูด้วยแถบโครเมียมด้านล่างรอบคัน กันชนล่างลายตะแกรง ส่วนชุดไฟท้ายถูกออกแบบให้เป็นแนวตั้ง กลมกลืนกับเสา D-Pillar ของรถ ที่คล้ายกับใน StepWGN รุ่นแรกและรุ่นที่สอง

Honda เตรียมเปิดตัว All-New Honda StepWGN 2022 รถ MPV ทรงกล่องสุดไฮเทคแล้ว!

ส่วนห้องโดยสารภายใน ยังคงความเป็นรถยนต์สำหรับครอบครัวเช่นเดิม แผงคอนโซลหน้ายังคงความเรียบง่าย ใช้งานง่าย แต่โดดเด่นด้วยหน้าจอ Infotinment พร้อมระบบ Honda CONNECT Navi ที่มีขนาดใหญ่ถึง 11.4 นิ้ว ซึ่งใหญ่ที่สุดในบรรดารถมินิแวนที่ขายในญี่ปุ่น รวมถึงจอสำหรับผู้โดยสารหลังแบบ HD ที่มีขนาดใหญ่ถึง 15.6 นิ้ว

Honda เตรียมเปิดตัว All-New Honda StepWGN 2022 รถ MPV ทรงกล่องสุดไฮเทคแล้ว!

ส่วนวัสดุเบาะนั่ง ในรุ่น Spada เพิ่มความหรูด้วยเบาะนั่งแถวที่ 2 แบบกัปตันซีท พร้อมที่รองน่องแบบพับเก็บได้ และยังปรับเลื่อนไปมา ทั้งหน้า-หลัง และด้านข้างได้ด้วย

Honda เตรียมเปิดตัว All-New Honda StepWGN 2022 รถ MPV ทรงกล่องสุดไฮเทคแล้ว!

All-New Honda StepWGN 2022 มีให้เลือกด้วยกัน 3 แบบ 3 สไตล์ ได้แก่รุ่นย่อย Air, Spada และ Spada Premium Line ส่วนเบาะนั่งเป็นแบบผ้าในรุ่น Air, แบบผ้ากึ่งหนังสังเคราะห์ Prime Smooth ในรุ่น Spada หรือหนังกลับ Alcantara ในรุ่น Spada Premium Line

Honda เตรียมเปิดตัว All-New Honda StepWGN 2022 รถ MPV ทรงกล่องสุดไฮเทคแล้ว!

ส่วนในบ้านเรา หากใครอยากได้ All-New Honda StepWGN 2022 ก็เตรียมเก็บเงินซื้อกันได้แล้วนะครับ คาดว่าผู้จำหน่ายอิสระหลายๆ เจ้า สั่งนำเข้ามาขายแน่นอน ช่วงราคาคงอยู่ที่ประมาณ 2 ล้านกว่าบาทเหมือนเดิมครับ

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อ Honda StepWGN คันใหม่ มาขายรถกับทาง CARRO Express ได้ที่  https://th.carro.co/sell-car/express หรือถ้าหากต้องการซื้อรถคุณภาพเยี่ยม CARRO เราก็มีพร้อมให้คุณเลือกอย่างมากมายด้วยเช่นกัน พร้อมรับประกันสูงสุดถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร กับ CARRO Automall ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://th.carro.co/taladrod/

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

หากใครอยากซื้อรถมือสองสภาพเยี่ยม ราคาสบายๆ และมั่นใจได้ในเรื่องของความสะอาดทุกคัน CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ ตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลา 1 นาที!

ซึ่งรถของ CARRO Automall เรามีให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพอย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 200 จุด รวมไปถึงการการปรับสภาพ (Car Reconditioning) ด้วยทีมช่างมืออาชีพ ที่ผ่านการผึกอบรมตามมาตรฐานคาร์โรกว่า 40 คน พร้อมให้บริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว กว่า 20 คัน/วัน

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์

เรารับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร! (CARRO Quality Assurance) อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม กับ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

คนรักไอติมเฮ! Chery เปิดตัว QQ Ice Cream 2022 ใหม่ สนนราคาแสนกว่าบาท!

หลายคนอาจจะเคยได้ยิน หรือเคยใช้รถจีนยี่ห้อ Chery (เฌอรี่) ที่เคยมาบุกตลาดไทยเมื่อสิบกว่าปีก่อน ในชื่อบริษัท ไทยเฌอรี่ยานยนตร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือไทยยานยนตร์กรุ๊ป ซึ่งก็มีทั้งภาพความทรงจำของใครหลายคน รวมไปถึง Chery QQ (เฌอรี่ คิวคิว) ที่เคยเป็นรถตัวเด่นของค่ายนี้ในยุคนั้นด้วย

Chery QQ เปิดตัวในไทย ปี 2552

แต่ MR.CARRO จะขอบอกให้ว่า รถจีนอย่าง Chery (เฌอรี่) ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก! เมื่อเทียบกับช่วงสิบกว่าปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่เทคโนโลยีต่างๆ การออกแบบ วัสดุการผลิต กรรมวิธีการผลิต ต่างไปจากเดิมอย่างแทบไม่น่าเชื่อ ซึ่งการกลับมาของ Chery ในไทยปีหน้านี้ เราหวังว่าจะมีเซอร์ไพรส์อย่างแน่นอน

เมื่อรถยนต์ไฟฟ้า Wuling Hongguang Mini EV (วูหลิง หงกวง มินิ อีวี) นำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าในราคาจับต้องได้ ไปเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา พร้อมกับสร้างยอดขายไปอย่างถล่มทลายทีเดียว!

คนรักไอติมเฮ! Chery เปิดตัว QQ Ice Cream 2022 ใหม่ สนนราคาแสนกว่าบาท!

ทาง Chery เห็นตัวเลขยอดขายแล้วก็อยู่เฉยไม่ได้ ต้องทำรถออกมาชนกันสักรุ่นนึง! นั่นก็คือ Chery QQ Ice Cream 2022 (เฌอรี่ ไอศครีม 2022) ซึ่งแม้ว่าจะเปิดตัวมาได้สักพักแล้ว แต่เพิ่งจะจำหน่ายแก่ลูกค้าชาวจีน เมื่อวันที่ 28 ธันวาคมที่ผ่านมานี่เองครับ พร้อมกวาดยอดขาย 15,000 คัน ภายใน 24 ชั่วโมง!

คนรักไอติมเฮ! Chery เปิดตัว QQ Ice Cream 2022 ใหม่ สนนราคาแสนกว่าบาท!

ตัวรถภายนอกของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า Chery QQ Ice Cream มาในสไตล์รถ Boxy Car ทรงกล่องรูปร่างสูง คล้ายกับรถแบบเดียวกับคู่แข่ง ไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED รูปตัว U มีตัวรถที่เหมาะกับการใช้งานในเมืองเป็นหลัก

สำหรับมิติตัวรถยาว 2,980 มม. กว้าง 1,496 มม. สูง 1,637 มม. และระยะฐานล้อ 1,960 มม.

คนรักไอติมเฮ! Chery เปิดตัว QQ Ice Cream 2022 ใหม่ สนนราคาแสนกว่าบาท!

ห้องโดยสารภายใน ออกแบบเรียบง่าย กว้างขวาง ตกแต่งแผงคอนโซลด้วยสีทูโทน เอาใจคนขับที่เป็นวัยรุ่นหนุ่มสาว พร้อมชุดหน้าปัดแบบดิจิตอล พร้อม Infotainment ในตัว ดูชัดเจนทุกฟังก์ชั่น ระบบแอร์อัตโนมัติพร้อม Heater บวกกับพวงมาลัยมีคำว่า “icar” สื่อให้เห็นว่าเป็นรถรุ่นแรกในตระกูล Chery iCar Ecology

แถมยังมีช่องสำหรับตั้งโทรศัพท์มือถือ และเบาะหลังพับแบบ 50:50 ได้ กับเซ็นเซอร์กะระยะด้านท้าย และกล้องมองภาพด้านหลัง

คนรักไอติมเฮ! Chery เปิดตัว QQ Ice Cream 2022 ใหม่ สนนราคาแสนกว่าบาท!

Chery QQ Ice Cream มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้ารหัส TZ160XFDM13A ให้กำลังสูงสุด 20 กิโลวัตต์ (ประมาณ 27 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 85 นิวตัน-เมตร พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 9.6 kWh สามารถขับขี่ได้เป็นระยะทางประมาณ 120 กิโลเมตร ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (ใช้เวลาชาร์จ 6 ชั่วโมง)

และยังมีรุ่นแบตเตอรี่ขนาด 13.9 kWh (ใช้เวลาชาร์จ 8 ชั่วโมง) ที่เพิ่มระยะทางขึ้นเป็น 170 กิโลเมตร ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ให้เลือก ทำความเร็วได้สูงสุด 100 กม./ชม.

คนรักไอติมเฮ! Chery เปิดตัว QQ Ice Cream 2022 ใหม่ สนนราคาแสนกว่าบาท!

สำหรับรุ่นย่อย Chery QQ Ice Cream มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นย่อย ประกอบด้วย Pudding (布丁) ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 29,900 หยวน (ประมาณ 157,000 บาท), Cone (甜筒) ราคา 37,900 หยวน (ประมาณ 199,000 บาท) และ Sundae (圣代) ราคา 43,900 หยวน (ประมาณ 230,000 บาท)

มีให้เลือกด้วยกัน 6 สี ได้แก่ สีม่วง, ฟ้า, ขาว, ชมพู, เขียว และสีเหลือง พร้อมรับประกัน 8 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร, บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 3 ปี, บริการเปลี่ยนแบตเตอรี่ฟรี และลูกค้าที่จองรถ 50,000 คนแรก จะได้ฟรีประกันภัยด้วย

สำหรับในไทย คงต้องรอผู้จำหน่ายอิสระ นำรุ่น (พวงมาลัยซ้าย) เข้ามาจำหน่ายกันอย่างเดียวครับผม!

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

แต่ถ้าใครอยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์ไฟฟ้าคันใหม่ มาขายรถกับทาง CARRO Express ได้ที่  https://th.carro.co/sell-car/express หรือถ้าหากต้องการซื้อรถคุณภาพเยี่ยม CARRO เราก็มีพร้อมให้คุณเลือกอย่างมากมายด้วยเช่นกัน พร้อมรับประกันสูงสุดถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร กับ CARRO Automall ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://th.carro.co/taladrod/

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

ส่วนช่วงปลายปีนี้ ใครอยากซื้อรถมือสองสภาพเยี่ยม ราคาสบายๆ CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ ตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลา 1 นาที!

ซึ่งรถของ CARRO Automall เรามีให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพอย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 200 จุด รวมไปถึงการการปรับสภาพ (Car Reconditioning) ด้วยทีมช่างมืออาชีพ ที่ผ่านการผึกอบรมตามมาตรฐานคาร์โรกว่า 40 คน พร้อมให้บริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว กว่า 20 คัน/วัน

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์

เรารับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร! (CARRO Quality Assurance) อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม กับ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

ข้อมูลและภาพบางส่วนจาก:

Toyota C+pod รถไฟฟ้าคันจิ๋ว ได้ฤกษ์ขายทั่วไปในญี่ปุ่น เริ่มต้น 484,000 บาท

ข่าวดีของคนที่อยู่ในญี่ปุ่น! Toyota (โตโยต้า) ได้เริ่มต้นจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าขนาดจิ๋ว 2 ที่นั่ง Toyota C+pod (โตโยต้า ซีพ็อด) รหัสรุ่น ZAZ-RMV12 อย่างเป็นทางการแก่บุคคลทั่วไปแล้ว เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2021 ที่ผ่านมา หลังจากที่ Toyota ได้ประกาศทิศทางการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ และเปิดตัวพร้อมกันมากถึง 16 รุ่นในรวดเดียวเมื่อไม่กี่อาทิตย์ที่ผ่านมา

Toyota C+pod รถยนต์ไฟฟ้าคันจิ๋ว ได้ฤกษ์ขายบุคคลทั่วไปในญี่ปุ่นแล้ว เคาะราคาเริ่มต้น 484,000 บาท

ก่อนหน้านั้น Toyota C+pod ได้จำหน่ายในรูปแบบของการเช่าซื้อให้เฉพาะองค์กรและเทศบาลท้องถิ่น ตั้งแต่เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งได้รับเสียงตอบรับชื่นชมอย่างมากมาย แต่ Toyota ก็ยังจำหน่าย Toyota C+pod แก่บุคคลทั่วไปในรูปแบบเช่าซื้อเท่านั้น เพื่อให้เป็นไปตามเงื่อนไข 3R (Reduce, Re-Use, Recycle)

Toyota C+pod รถยนต์ไฟฟ้าคันจิ๋ว ได้ฤกษ์ขายบุคคลทั่วไปในญี่ปุ่นแล้ว เคาะราคาเริ่มต้น 484,000 บาท

มิติตัวรถยาว 2,490 มม. กว้าง 1,290 มม. สูง 1,550 มม. ระยะฐานล้อ 1,780 มม. ระยะต่ำสุดจากพื้น 145 มม. และน้ำหนักตัวรถ 660 – 690 กิโลกรัม ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งกับการใช้งานในเมือง แต่เนื่องด้วยมิติตัวรถมีขนาดเล็กเช่นนี้ จึงถูกจัดเป็นรถยนต์นั่งขนาดเล็กพิเศษตามกฎหมายของญี่ปุ่น ซึ่งขับขึ้นทางด่วนหรือทางหลวงระหว่างจังหวัดไม่ได้

Toyota C+pod รถยนต์ไฟฟ้าคันจิ๋ว ได้ฤกษ์ขายบุคคลทั่วไปในญี่ปุ่นแล้ว เคาะราคาเริ่มต้น 484,000 บาท

สำหรับห้องโดยสารภายใน แม้ว่าตัวรถภายนอกจะดูขนาดเล็ก แต่เนื้อที่ภายในให้พื้นที่กว้างถึง 1,290 มม. ยาว 1,100 มม. สูง 1,070 มม. นั่งได้ 2 คน

ส่วนระบบความปลอดภัยของ C+pod ได้มาตรฐานความปลอดภัยของรถขนาดจิ๋วของญี่ปุ่น ช่วงล่างหน้าแบบสตรัท คอยล์สปริงพร้อมเหล็กกันโครง ด้านหลังเป็นแบบทอร์ชั่นบีม คอยล์สปริง ระบบเบรกหน้าแบบดิสก์เบรก หลังดรัมเบรก

Toyota C+pod รถยนต์ไฟฟ้าคันจิ๋ว ได้ฤกษ์ขายบุคคลทั่วไปในญี่ปุ่นแล้ว เคาะราคาเริ่มต้น 484,000 บาท

ขุมพลังขับเคลื่อนใช้มอเตอร์ไฟฟ้ารหัส 1RM ขับเคลื่อนล้อหลัง ให้กำลังสูงสุด 9.2 kW (12.5 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 56 นิวตันเมตร (5.7 กก.-ม.) พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ขนาด 9.06 kWh ทำความเร็วได้สูงสุด 60 กม./ชม. สามารถวิ่งได้ได้ระยะทางสูงสุด 150 กม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (ตามมาตรฐาน WLTC)

Toyota C+pod รถยนต์ไฟฟ้าคันจิ๋ว ได้ฤกษ์ขายบุคคลทั่วไปในญี่ปุ่นแล้ว เคาะราคาเริ่มต้น 484,000 บาท

การชาร์จไฟฟ้าจาก 0-100% แบบเฟสเดียว 200V 16A ใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง และแบบเฟสเดียว 100V 6A จะใช้เวลาประมาณ 16 ชั่วโมง ซึ่ง Toyota C+Pod ยังสามารถใช้เป็นแหล่งจ่ายไฟฟ้าให้กับอุปกรณ์ต่างๆ ยามฉุกเฉินได้ด้วย อาทิ โทรศัพท์มือถือ, โน๊ตบุ๊ค, หม้อหุงข้าว หรือเครื่องทำความร้อนได้อีกด้วย

Toyota C+pod รถยนต์ไฟฟ้าคันจิ๋ว ได้ฤกษ์ขายบุคคลทั่วไปในญี่ปุ่นแล้ว เคาะราคาเริ่มต้น 484,000 บาท

โตโยต้า C+pod มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย ได้แก่รุ่น X ราคา 1,650,000 เยน หรือประมาณ 492,000 บาท และ G ราคา 1,716,000 เยน หรือราว 502,000 บาท

สำหรับในไทย โอกาสที่ Toyota จะนำเข้ามานั้น บอกได้เลยว่าไม่มีแน่นอนครับ!

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

แต่ถ้าใครอยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์ไฟฟ้าคันใหม่ มาขายรถกับทาง CARRO Express ได้ที่  https://th.carro.co/sell-car/express หรือถ้าหากต้องการซื้อรถคุณภาพเยี่ยม CARRO เราก็มีพร้อมให้คุณเลือกอย่างมากมายด้วยเช่นกัน พร้อมรับประกันสูงสุดถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร กับ CARRO Automall ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://th.carro.co/taladrod/

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

ส่วนช่วงปลายปีนี้ ใครอยากซื้อรถมือสองสภาพเยี่ยม ราคาสบายๆ CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ ตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลา 1 นาที!

ซึ่งรถของ CARRO Automall เรามีให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพอย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 200 จุด รวมไปถึงการการปรับสภาพ (Car Reconditioning) ด้วยทีมช่างมืออาชีพ ที่ผ่านการผึกอบรมตามมาตรฐานคาร์โรกว่า 40 คน พร้อมให้บริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว กว่า 20 คัน/วัน

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์

เรารับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร! (CARRO Quality Assurance) อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม กับ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

NIO รถยนต์ไฟฟ้าหรูจากจีน เปิด Nio ET5 ใหม่ ท้าชน Tesla Model 3!

การเปิดตัวรถรุ่นใหม่ของ NIO (นิโอ) ในแต่ละครั้งต้องบอกได้เลยว่าสร้างเสียงฮือฮา ให้กับคนที่สนใจในรถยนต์ไฟฟ้า (รถ EV) กันได้ตลอด ซึ่งในครั้งนี้ ทาง NIO เปิดตัว Nio ET5 (นิโอ อีที5) เพื่อออกมาท้าชนกับ Tesla Model 3 และ Xpeng P7 แถมชูจุดเด่นที่แบตเตอรี่สามารถให้ระยะทางในการขับขี่ได้มากกว่า 1,000 กิโลเมตร! ต่อการชาร์จแต่ละครั้ง

NIO คนไทยหลายคนอาจจะยังไม่คุ้นเคยกับบริษัทสตาร์ทอัพ ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีนกันนัก ซึ่ง Nio มีจุดเด่นที่ด้านการออกแบบ นวัตกรรม เทคโนโลยี เรียกได้ว่าเหมือนรถยนต์ไฟฟ้าจากฝั่งยุโรปเลยทีเดียว แถมยังได้ชื่อว่าเป็น Tesla (เทสล่า) แห่งประเทศจีนอีกด้วย!

อ่านเพิ่มเติม >> ประวัติย่อๆ ของ NIO และ William Li (วิลเลียม หลี่) หรือ หลี่ปิน มหาเศรษฐีที่ได้ชื่อว่าเป็น Elon Musk (อีลอน มัสก์) แห่งประเทศจีน

NIO รถยนต์ไฟฟ้าสุดหรูจากจีน เปิดตัว Nio ET5 ใหม่ พร้อมท้าชน Tesla Model 3!

NIO ET5 เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 4 ประตูแบบ Fluid Fastback รุ่นล่าสุดของค่าย Nio ซึ่ง NIO ET5 ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 18 ธันวาคม 2021 ที่ผ่านมา นับเป็นรถยนต์ไฟฟ้าในรูปแบบ D-Segment ที่พัฒนาให้เป็นรองจากรุ่นเรืองธงอย่าง NIO ET7 ที่เปิดตัวไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา

NIO รถยนต์ไฟฟ้าสุดหรูจากจีน เปิดตัว Nio ET5 ใหม่ พร้อมท้าชน Tesla Model 3!

ซึ่งโมเดลนี้ยังคงจุดเด่นด้วยรูปทรงล้ำสมัย ดีไซน์ด้านหน้าแบบ X-Bar กับชุดไฟหน้าแบบ LED รูปทรงเรียวเล็ก (แบบตาชั้นเดียวของคนจีน) ประตูกระจกไร้ขอบ มือจับประตูแบบซ่อนแนบสนิทข้างตัวรถ พร้อมชุดหลังคาแบบ Panoramic ที่มีขนาดใหญ่ถึง 1.28 ตร.ม. และตัวรถมีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน Cd. = 0.24 เท่านั้น

มิติตัวรถกว้าง 4,790 มม. ยาว 1,960 มม. สูง 1,499 มม. และระยะฐานล้อ 2,990 มม.

NIO รถยนต์ไฟฟ้าสุดหรูจากจีน เปิดตัว Nio ET5 ใหม่ พร้อมท้าชน Tesla Model 3!

ภายในห้องโดยสารของ Nio ET5 ตกแต่งอย่างเรียบง่าย แต่พ่วงความทันสมัยเต็มที่ด้วย Panoramic Digital Cockpit หรือ PanoCinema ที่ฉายภาพขนาดใหญ่ได้ถึง 201 นิ้ว หรือประมาณ 6 เมตร พร้อมเทคโนโลยี VR ที่พัฒนาร่วมกับ NREAL สำหรับใช้งานในรถรุ่นนี้โดยเฉพาะ พร้อมระบบเสียงรอบทิศทาง Dolby Atmos 7.1.4

อีกหนึ่งความโดดเด่นภายในรถ นั่นคือ หน้าจอขนาดใหญ่บริเวณคอนโซลกลาง พร้อมหน้าจอมาตรวัดความเร็วแบบ HDR ขนาด 10.5 นิ้ว พร้อมระบบแสดงผลแบบเสมือนจริง และยังมีระบบไฟเรืองแสงภายในห้องโดยสาร ปรับได้ถึง 256 สี เป็นต้น

NIO รถยนต์ไฟฟ้าสุดหรูจากจีน เปิดตัว Nio ET5 ใหม่ พร้อมท้าชน Tesla Model 3!

Nio ET5 มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว บริเวณล้อหน้า ให้กำลังสูงสุด 203 แรงม้า และ 285 แรงม้า สำหรับล้อหลัง ให้กำลังรวมสูงสุด 480 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 700 นิวตัน-เมตร ขับเคลื่อนด้วยระบบ All-Wheel Drive

สามารถทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 4.3 วินาทีเท่านั้น มั่นใจด้วยเบรกหน้าแบบ 4-Pot สามารถเบรกจากความเร็ว 100 กม./ชม. จนถึง 0 กม./ชม. ในระยะทางเพียง 33.9 เมตรเท่านั้น

NIO รถยนต์ไฟฟ้าสุดหรูจากจีน เปิดตัว Nio ET5 ใหม่ พร้อมท้าชน Tesla Model 3!

สำหรับชุดแบตเตอรี่ก็มีด้วยกัน 3 แบบ ได้แก่

  • แบตเตอรี่ Standard Range ขนาด 70 kWh ให้ระยะทางในการขับขี่มากกว่า 550 กิโลเมตร ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (ตามมาตรฐาน NEDC/CLTC ของประเทศจีน)
  • แบตเตอรี่ Long Range ขนาด 100 kWh ให้ระยะทางในการขับขี่มากกว่า 700 กิโลเมตร ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (ตามมาตรฐาน NEDC/CLTC ของประเทศจีน) และ …
  • แบตเตอรี่ Ultra Long Range ขนาด 150 kWh แบบ Solid-State ให้ระยะทางในการขับขี่มากกว่า 1,000 กิโลเมตร ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง! (ตามมาตรฐาน NEDC/CLTC ของประเทศจีน)

NIO รถยนต์ไฟฟ้าสุดหรูจากจีน เปิดตัว Nio ET5 ใหม่ พร้อมท้าชน Tesla Model 3!

สำหรับ Nio ET5 ได้ประกาศราคาตัวรถ (ซึ่งเป็นราคาก่อนที่รัฐบาลจีนจะให้เงินอุดหนุน) ไว้ที่ 328,000 หยวน (หรือประมาณ 1,729,200 บาท) และ 358,000 หยวน (ประมาณ 1,887,400 บาท) สำหรับรุ่น BaaS (Battery-as-a-Service) หรือระบบเปลี่ยนแบตเตอรี่ลูกเก่าเป็นลูกใหม่ ที่สถานีแบตเตอรี่ของ NIO โดยไม่ต้องเสียเวลารอคอยในการชาร์จแบตนานๆ ซึ่งเป็นค่ายเดียวในโลก ที่ใช้หลักการเปลี่ยนแบตเตอรี่อย่างรวดเร็ว (Hot Swap) ให้บริการผู้ใช้รถ (แถมต้องจ่ายค่าสมาชิกทุกเดือนด้วยนะครับ)

NIO รถยนต์ไฟฟ้าสุดหรูจากจีน เปิดตัว Nio ET5 ใหม่ พร้อมท้าชน Tesla Model 3!

ทาง NIO เอง พร้อมส่งมอบรถให้แก่ลูกค้าได้ในเดือนกันยายน 2022 นี้ และก็ไม่หยุดอยู่แค่เพียงในประเทศจีน โดยเตรียมวางแผนส่งออกรถยนต์ไฟฟ้าไปจำหน่ายในแถบยุโรป อย่างประเทศนอร์เวย์, เยอรมนี, เนเธอร์แลนด์, สวีเดน และเดนมาร์ก กับอีก 25 ประเทศทั่วโลก ภายในปี 2025 นี้อีกด้วย

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

ถ้าใครอยากขายรถคันเดิม เพื่อนำเงินไปซื้อรถยนต์ไฟฟ้าคันใหม่ มาขายรถกับทาง CARRO Express ได้ที่  https://th.carro.co/sell-car/express หรือถ้าหากต้องการซื้อรถคุณภาพเยี่ยม CARRO เราก็มีพร้อมให้คุณเลือกอย่างมากมายด้วยเช่นกัน พร้อมรับประกันสูงสุดถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร กับ CARRO Automall ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://th.carro.co/taladrod/

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

ส่วนช่วงปลายปีนี้ ใครเงินไม่พอซื้อรถ EV แต่อยากซื้อรถมือสองสภาพเยี่ยม ราคาสบายๆ CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ ตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลา 1 นาที!

ซึ่งรถของ CARRO Automall เรามีให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพอย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 200 จุด รวมไปถึงการการปรับสภาพ (Car Reconditioning) ด้วยทีมช่างมืออาชีพ ที่ผ่านการผึกอบรมตามมาตรฐานคาร์โรกว่า 40 คน พร้อมให้บริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว กว่า 20 คัน/วัน

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์

เรารับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร! (CARRO Quality Assurance) อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม กับ CARRO Automall สิ!

สำหรับช่วงเปิดตัว Flagship Store แห่งแรกของ CARRO ช่วงปลายปี 2564 นี้ ขอมอบโปรโมชั่นส่วนลดพิเศษ รับส่วนลดสูงสุด 50,000 บาท พร้อมแจก Cash Back มูลค่ารวมกว่า 800,000 บาท! และยังสามารถเลือกรับความคุ้มค่าได้อีกต่อ กับดอกเบี้ยต่ำ 2.69% หรือผ่อน 0% นานสูงสุด 6 เดือน

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

แหล่งที่มาบางส่วนจาก:

รวม 7 รถกระบะพันธุ์แกร่ง จอมอึด ราคาน่าซื้อในงาน Motor Expo 2021

รถกระบะ ถือเป็นรถที่ยอดนิยมอย่างยิ่งของชาวไทยมานานนับหลายสิบปี ในปัจจุบันเทคโนโลยีเครื่องยนต์ ที่สมรรถนะดีมากกว่าในอดีตมาก และออพชั่นติดรถสุดทันสมัย ไม่แพ้รถยนต์นั่งเลยทีเดียว ซึ่งคาวมนิยมในบ้านเรากับความเป็นรถสารพัดประโยชน์ ทั้งในเชิงพาณิชย์ การใช้งานที่อเนกประสงค์ ขนของได้ ลุยน้ำได้ ไปกันได้หลายคน ใช้ทำเป็นรถรับจ้างหาเงินได้อีกด้วย

ในงาน Motor Expo 2021 นี้ ผู้ผลิตรถกระบะหลายเจ้าอย่าง โตโยต้า, อีซูซุ, นิสสัน, มิตซูบิชิ, ฟอร์ด หรือ เอ็มจี ต่างส่งรถกระบะโฉมใหม่ หรือรุ่นพิเศษของตัวเองออกมาเพื่อกระตุ้นตลาด ช่วงชิงยอดจองและยอดขาย โดนใจผู้บริโภคที่อยากเปลี่ยนรถกระบะคันใหม่

โดยในงาน Motor Expo 2021 จะมีรถกระบะรุ่นใดที่น่าซื้อนั้น CARRO ขอนำเสนอข้อมูลให้ทุกท่านดูกันครับ …

Toyota Hilux Revo GR Sport

Toyota Hilux Revo

Toyota Hilux Revo (โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่) แม้ว่ากระแสจะดูไม่เปรี้ยงปร้างต่อเนื่อง นับตั้งแต่เปิดตัวมาเมื่อปีที่แล้ว ในงาน Motor Show 2021 ครั้งนี้ ยังชูจุดขายอย่างรุ่น GR Sport กับ Hilux Revo GR Sport ขับเคลื่อน 2 ล้อ ในรุ่น Lo-Floor รถกระบะตัวเตี้ยหน้าหล่อที่เพิ่มความ Sport Premium ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการแข่งขัน รถยนต์ทางเรียบ Super GT (Grand Touring)

และ Hilux Revo GR Sport ขับเคลื่อน 4 ล้อ ในรุ่น Hi-Floor กระบะยกสูงรุ่นท็อป Premium Adventure ที่ได้รับแรงบันดาลใจในการพัฒนาจากรถแข่งระดับโลก ที่เข้าร่วมการแข่งขันในรายการ World Rally Championship (WRC) เหมาะสำหรับกลุ่มลูกค้าที่มองหารถกระบะดีไซน์สปอร์ต ดุดัน ทันสมัย

ทั้งการออกแบบภายนอก ไม่ว่าจะเป็นกระจังหน้า สปอร์ตบาร์ ล้ออัลลอย และการตกแต่งภายในห้องโดยสาร มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ GR Sport มาพร้อมกับโช้คอัพแบบ Monotube Shock Absorber เพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่ขั้นสูง ขับสนุกเร้าใจ ขับลุยได้ทุกที่และมั่นใจในการขับขี่ ด้วยระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลกของรถโตโยต้า Toyota Safety Sense

พร้อมกับเครื่องยนต์ใหม่ 2.8 GD Super Power 204 แรงม้า ที่ตอบสนองความเร็ว แรง และการขับขี่ที่สนุกสนานเร้าใจมากยิ่งขึ้น ซึ่งรถกระบะรุ่นนี้ได้รับการพัฒนาสำหรับประเทศไทยเท่านั้น

ราคาของ Toyota Hilux Revo อยู่ที่ 584,000 – 1,299,000 บาท

Isuzu D-Max

Isuzu D-Max

Isuzu D-Max (อีซูซุ ดีแมคซ์) โฉมใหม่! ครั้งแรกของโลก! ผลงานความสมบูรณ์แบบล่าสุดจาก DNA ของ Isuzu ภายใต้แนวคิด BOLD, EMOTIONAL and SMART ดีไซน์ใหม่หมดทุกมิติ ทั้งภายนอกภายใน มิติตัวรถใหญ่ บึกบึนยิ่งขึ้น ดูทรงพลัง และแข็งแกร่งยิ่งขึ้นกว่าเดิม

ยกระดับความพรีเมี่ยม สู่มาตรฐานใหม่ของรถปิกอัพระดับ Top Class ด้วยสีเทาโอเพคใหม่! (Islay Gray Opaque) เทรนด์สีใหม่ของวงการยานยนต์โลก กระจังหน้าแบบ Double Dimensions ดีไซน์แบบทูโทน สีเทาดำ และ Black Chrome พร้อมไฟท้ายดีไซน์โทนสีเข้ม ใหม่! Front Bumper Guard สีทูโทน พร้อมชุดแต่งสีเทาดำรอบคัน เพิ่มความดุดัน และล้อ อัลลอยขนาด 18 นิ้ว ดีไซน์ใหม่! แบบ Robust Radius

ห้องโดยสารภายใน ผสานความเท่ สปอร์ต และหรูหรา ด้วยดีไซน์ High-Class & Sporty เน้นสีแบบทูโทน ดำ-น้ำตาล คอนโซลหน้าสีดำ เบาะคู่หน้าดีไซน์ใหม่ เดินด้ายสีน้ำตาล และพวงมาลัยสัมผัสใหม่ สีทูโทน ออกแบบให้มิติห้องโดยสารกว้างขวางแบบ Sharp Horizontal Layers คมเข้ม เล่นระดับกับแผงข้างประตู ด้วยวัสดุตกแต่งพรีเมี่ยม สี Brown Cafe และ Satin Silver จัดวางสิ่งอำนวยสะดวกสบายตามหลัก Usability Design เน้นการใช้งานหลากหลาย พร้อมระบบความบันเทิงสมบูรณ์แบบของ Isuzu Ultimate Entertainment

มีให้เลือกครอบคลุมทั้งรุ่น 4 ประตู และ 2 ประตู พร้อมเครื่องยนต์ 1.9 ลิตร 150 แรงม้า และ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ 190 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 6 สปีดพัฒนาใหม่สไตล์สปอร์ต ขับสนุก แม่นยำยิ่งขึ้น และเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดใหม่ ให้การเปลี่ยนเกียร์ที่นุ่มนวล พร้อมโหมดขับขี่แบบสปอร์ต Rev Tronic

ราคาของ Isuzu D-Max อยู่ที่ 510,000 – 1,172,000 บาท

Nissan Navara PRO-4X

Nissan Navara

Nissan Navara (นิสสัน นาวารา) รถกระบะที่ กล้า… เพื่อคนแกร่ง ดีไซน์คอนเซ็ปต์ “Unbreakable Design” คำนึงถึงการใช้งาน และความชื่นชอบของลูกค้า โดดเด่นด้วยด้วยดีไซน์ใหม่ดุดัน และเทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะเต็มรูปแบบจาก Nissan Intelligent Mobility

นาวารา ใหม่ มีเครื่องยนต์ 3 แบบได้แก่

  • เครื่องยนต์ YS23DDTT ขนาด 2.3 ลิตร 4 สูบ Twin Turbo เกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด พร้อมโหมดแมนนวล ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า (Ps) และแรงบิด 450 นิวตัน-เมตร
  • เครื่องยนต์ YS23DDT ขนาด 2.3 ลิตร 4 สูบ เทอร์โบแปรผันแบบ VGS เกียร์ธรรมดา 6 สปีด ให้กำลังสูงสุด 163 แรงม้า (Ps) และแรงบิด 403 นิวตัน-เมตร
  • เครื่องยนต์ YD25DDTTi ขนาด 2.5 ลิตร เทอร์โบแปรผันแบบ VGS ให้กำลังสูงสุด 163 แรงม้า (Ps) และแรงบิด 403 นิวตัน-เมตร

นอกจากนี้ ยังคงความสมบูรณ์แบบที่สามารถลุยได้ทุกที่ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ และเทคโนโลยีที่เสริมความมั่นใจในทุกสภาวะของเส้นทาง อาทิ ระบบป้องกันการลื่นไถล (Brake Limited Slip Differential: B-LSD) และ ระบบล็อกเฟืองท้ายแบบไฟฟ้า (Electronic Rear Locking Differential) รวมถึงเทคโนโลยีกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง (IAVM) ที่เสริมฟังก์ชัน Off-Road Meter เมื่ออยู่ในโหมด 4L

นอกจากนี้ นาวารา ใหม่ ยังนำรุ่นพิเศษ PRO-4X และ PRO-2X ใหม่ ถ่ายทอดดีเอ็นเอมาจาก Nissan Titan สำหรับลูกค้าที่ชอบการเดินทางแบบผจญภัยพร้อมลุยไปในเส้นทางแปลกใหม่ ที่เสริมความดุดันของดีไซน์ภายนอก จากกระจังหน้า และอุปกรณ์ตกแต่งโทนสีดำ ปรับแต่งช่วงล่างใหม่ให้สามารถลุยไปได้ทุกที่ทุกสถานการณ์ ด้วยล้ออัลลอยพร้อมยางแบบ All-Terrain

โดยทั้งสองรุ่นจะมาพร้อมสีพิเศษ สเตลท์ เกรย์ (Stealth Gray) เสริมด้วยชุดแต่งที่มีแอคเซนท์สีส้มแดง ภายในห้องโดยสารเสริมด้วยเบาะนั่งสีดำดีไซน์สปอร์ต ในราคาเริ่มต้นที่ 999,000 บาท สำหรับรุ่น PRO-2X และ 1,149,000 บาท สำหรับรุ่น PRO-4X

ราคาของ Nissan Navara อยู่ที่ 599,000 – 1,149,000 บาท

Mitsubishi Triton Ralliart

Mitsubishi Triton

Mitsubishi Triton (มิตซูบิชิ ไทรทัน) ยังคงตกแต่งรุ่นพิเศษออมาอย่างต่อเนื่องทุกปี งวดนี้ เกาะการกลับมาของแบรนด์ระดับไอคอน Ralliart (แรลลี่อาร์ท) ได้แก่ Mitsubishi Triton Ralliart (มิตซูบิชิ ไทรทัน แรลลี่อาร์ท) มาพร้อมชุดอุปกรณ์ตกแต่งของแท้จากโรงงาน อาทิ ลวดลายสติกเกอร์ด้านข้างตัวรถสีแดง สีเงิน และสีดำ แผ่นกันโคลนสีแดง รวมถึงชุดตกแต่งใต้กันชนหน้าที่มาพร้อมโลโก้แรลลี่อาร์ท

โดยรุ่นแรลลี่อาร์ทจะแตกต่างจากรุ่นธรรมดา ด้วยชุดตกแต่งภายนอกสีดำสุดพิเศษ ออกแบบเฉพาะสำหรับกระจังหน้า ล้ออัลลอย และหลังคา สำหรับภายในตกแต่งด้วยพรมปูพื้นจะมาพร้อมโลโก้แรลลี่อาร์ทด้วยเช่นกัน

สำหรับ Mitsubishi Triton Ralliart จะมาในรุ่น ไทรทัน ตัวเตี้ย มีให้เลือกในรุ่นย่อย ได้แก่ Mega Cab และ Double Cab ชุดตกแต่งพิเศษประกอบด้วยพื้นปูกระบะท้ายที่มีโลโก้แรลลี่อาร์ท และมือเปิดกระบะท้ายสีดำ เพิ่มลุคสปอร์ตสุดโฉบเฉี่ยวและเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังที่ไม่หยุดนิ่ง ของรุ่นไทรทันให้ดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้น มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีขาว Solid White พร้อมหลังคาสีดำ และสีดำ Jet Black Mica

ราคาของ Mitsubishi Triton อยู่ที่ 519,000 – 1,109,000 บาท

Mazda BT-50

Mazda BT-50

Mazda BT-50 (มาสด้า บีที-50) เจเนอเรชั่นใหม่ ผนวกคุณสมบัติของรถปิกอัพที่ดีที่สุดในโลกรวมเป็นหนึ่งเดียว ประกอบด้วย ดีไซน์ที่ถูกออกแบบอย่างสง่างามที่สุดในโลก คัดสรรด้วยวัสดุคุณภาพระดับพรีเมียม ประหยัดน้ำมันมากที่สุด มีความทนทานสูงสุด รวมทั้งค่าดูแลรักษาต่ำสุด

การออกแบบที่สง่างาม สไตล์ปิกอัพยุคใหม่ การเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูง อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัย ให้ความสะดวกสบายเทียบเท่ารถเอสยูวี ยังตอบโจทย์การใช้งานได้ทุกโอกาส หรือ “Built for Dress and Jeans” ไม่ว่าจะเป็นกระจังหน้าที่ออกแบบด้วย Signature Wing ขนาดใหญ่ รูปทรงด้านหน้าที่สง่างามในสไตล์รถเอสยูวี ดีไซน์ไฟหน้าและไฟท้ายทรงสปอร์ต โฉบเฉี่ยว

ภายในห้องโดยสาร ประณีตใส่ใจในทุกรายละเอียด ใช้เฉพาะวัสดุคุณภาพสูง คอนโซลหน้าถูกตกแต่งด้วยวัสดุสีเงิน เสาภายในและเพดานเลือกใช้โทนสีดำตัดกับหนังสีน้ำตาลเข้มของเบาะนั่ง ให้นั่งสบายในทุกตำแหน่ง และแผงประตูดูหรูหรา ด้วยการตกแต่งสไตล์เดียวกับรถ SUV

การจัดวางตำแหน่งอุปกรณ์โดยให้ผู้ขับขี่เป็นศูนย์กลางตามหลักการ Human Machine Interface ทุกฟังก์ชันง่ายต่อการใช้งาน การรับรู้ข้อมูลการขับขี่รวมถึงสายเรียกเข้าหรือชื่อเพลงบนหน้าจอแบบสี MID (Multi-Information Display) ขนาด 4.2 นิ้ว ที่แสดงข้อมูลได้หลายรูปแบบ อ่านง่าย มองเห็นชัดเจนยิ่งขึ้นด้วยเทคโนโลยีหน้าจอแบบ TFT (Thin-film Transistor Technology)

มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 1.9 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร ซึ่งประหยัดน้ำมันมากที่สุดในคลาส กับตัวเลข 16.1 กม./ลิตร และเครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 3.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร มีทั้งแบบส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด แถมรองรับน้ำมันดีเซลได้ถึง B20

ราคาของ Mazda BT-50 อยู่ที่ 569,000 – 1,153,000 บาท

Ford Ranger Raptor X

Ford Ranger / Ranger Raptor X

Ford Ranger (ฟอร์ด เรนเจอร์) ในงาน Motor Expo 2021 นี้ Ford นำกระบะรุ่นเด็ดอย่าง Ford Ranger Raptor X (ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เอ็กซ์) รถกระบะออฟโรดสมรรถนะสูง อัดแน่นด้วย DNA ฟอร์ด เพอร์ฟอร์แมนซ์ ที่ได้รับการปรับโฉมใหม่ทั้งภายในและภายนอก เพิ่มความโฉบเฉี่ยว ดุดัน สไตล์สปอร์ต มาพร้อมเทคโนโลยีช่วยในการขับขี่อัจฉริยะ

ทรงพลังด้วยเครื่องยนต์ดีเซล Bi-Turbo ขนาด 2.0 ลิตร ส่งมอบพละกำลังสูงสุด 213 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ผสานกับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด พร้อมพิชิตทุกเส้นทางด้วยระบบ Terrain Management System (TMS) กับโหมดการขับขี่ถึง 6 รูปแบบ

และยังมี Fod Ranger XL Street Special Edition (ฟอร์ด เรนเจอร์ เอ็กซ์แอล สตรีท สเปเชียล เอดิชั่น) รถกระบะตอนครึ่งสำหรับลูกค้าคนรุ่นใหม่ ตกแต่งเป็นพิเศษโดยได้รับแรงบันดาลใจจากรถแข่งของทีมฟอร์ด ไทยแลนด์ เรสซิ่ง ผลิตขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสครบรอบ 25 ปี ฟอร์ด ประเทศไทย มาพร้อมความโฉบเฉี่ยวอันเป็นเอกลักษณ์ และมีจำนวนจำกัด ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และการใช้งานของลูกค้าที่ชื่นชอบความแตกต่างได้อย่างลงตัว

ราคาของ Ford Ranger ทั้งหมด อยู่ที่ 562,000 – 1,729,000 บาท!

MG Extender

MG Extender

MG Extender (เอ็มจี เอ็กซ์เทนเดอร์) นำรุ่นไมเนอร์เชนจ์ล่าสุดมาโชว์ในงาน Motor Show 2021 นี้ กับ Concept “กระบะพันธุ์ยักษ์ ให้มากกว่าความแกร่ง” ที่มาพร้อมรูปลักษณ์ใหม่ โดดเด่นด้วยชุดไฟหน้าใหม่ ตั้งแต่การจัดวาง Daytime Running Light ไว้ด้านบน

พร้อมชุดไฟส่องสว่างเป็นแบบ LED Projector จัดวางเรียงเป็น 3 ระดับ ตามแนวตั้งด้านข้างของกันชนหน้า โดยไฟส่องสว่างลดระดับต่ำลงกว่าเดิม ทำให้ไม่รบกวนรถที่สวนทางมา พร้อมล้ออัลลอยด์แบบ Bi-Colour ขนาด 18 นิ้ว

ห้องโดยสารภายใน เสริมความพรีเมี่ยมด้วยสีทูโทน สีน้ำตาลสลับสีดำ คอนโซล และแผงประตูตกแต่งพิเศษ ด้วยวัสดุแบบ Soft Touch พร้อมเบาะนั่งคู่หน้าปรับระดับด้วยไฟฟ้าเอนได้ถึง 150 องศา และตกแต่งเบาะด้วยวัสดุลายคาร์บอนไฟเบอร์

ตอกย้ำความเป็นสมาร์ทปิกอัพ ด้วยเทคโนโลยีการเชื่อมต่ออัจฉริยะ i-SMART และระบบความปลอดภัยมาตรฐานยุโรปที่ครบครันถึง 9 ระบบ มั่นใจยิ่งขึ้นด้วยการรับประกันคุณภาพนาน 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร พร้อมมอบความคุ้มค่าที่เหนือกว่า

วางสมรรถนะจากเครื่องยนต์ดีเซล Commonrail Turbo ขนาด 2.0 ลิตร 161 แรงม้า ให้ทั้งพละกำลังโดดเด่น การประหยัดน้ำมัน และมีค่าบำรุงรักษาที่ต่ำ มั่นใจในการขับขี่ด้วยระบบช่วงล่างแบบ Euro Tuning Suspension พร้อมการติดตั้งระบบความปลอดภัยครบครัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเป็นรถกระบะที่มาพร้อมระบบดิสก์เบรกทั้ง 4 ล้อในเกือบทุกรุ่น พร้อม Option ต่างๆ ที่ให้มากกว่ารถทุกรุ่นเมื่อเทียบในระดับราคาเดียวกัน

สำหรับ MG Extender ใหม่ ราคาอยูที่ 559,000 – 1,039,000 บาท

… ถูกใจรุ่นไหน ไปสัมผัสตัวจริงได้ที่งาน Motor Expo 2021 กันได้เลยนะครับ …

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

ถ้าใครอยากขายรถคันเดิม เพื่อนำเงินไปโปะรถคันใหม่ จะได้ผ่อนดาวน์กันน้อยลง มาขายรถกับทาง CARRO Express ได้ที่  https://th.carro.co/sell-car/express หรือถ้าหากต้องการซื้อรถคุณภาพเยี่ยม CARRO เราก็มีพร้อมให้คุณเลือกอย่างมากมายด้วยเช่นกัน พร้อมรับประกันสูงสุดถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร กับ CARRO Automall ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://th.carro.co/taladrod/

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

และอีกหนึ่งบริการใหม่! CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น!

รถของเราทุกคันผ่านการตรวจสภาพ 200 จุด และยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ให้คุณเลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา พร้อมรับประกันคุณภาพรถนาน 1 ปี หรือสูงสุด 30,000 กิโลเมตร อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย เรามีรถให้คุณเลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

ในยุคที่ราคาน้ำมันแพงหูฉี่ขนาดนี้ รถ Eco-Car (อีโคคาร์) ยังจัดได้ว่าเป็นรถยอดนิยมของชาวไทยมาต่อเนื่องมานานนับสิบปี ที่แม้ว่าจะเป็นรถเล็ก แต่ก็ให้พลังเครื่องยนต์เหลือเฟือ เหมาะสำหรับการใช้งานในเมืองมาก ด้วยคุณสมบัติที่ประหยัดน้ำมัน ขับง่าย หาที่จอดรถก็ง่าย และยังซ่อมง่าย ใช้งานได้อเนกประสงค์ แถมมีราคาเริ่มต้นที่ไม่แพง วัยรุ่น นักศึกษา หรือเด็กจบใหม่ ที่รายได้ยังไม่มากนัก ก็สามารถวางดาวน์ และผ่อนต่อเดือนได้สบายๆ

ในงาน Motor Expo 2021 นี้ ผู้ผลิตรถ Eco-Car หลายเจ้าอย่าง โตโยต้า, นิสสัน, มิตซูบิชิ, มาสด้า, ซูซูกิ หรือ เอ็มจี ก็ยังนำเสนอรถในแบบ Eco-Car ที่มีการปรับโฉมเล็กๆ น้อยๆ กระตุ้นให้เกิดความสนใจอย่างต่อเนื่อง

ในงาน Motor Expo 2021 จะมีรถ Eco-Car รุ่นใดบ้างที่นำมาโชว์แล้วน่าซื้อนั้น CARRO ขอนำเสนอข้อมูลให้ทุกท่านดูกันครับ …

Nissan March

Nissan March

Nissan March (นิสสัน มาร์ช) ถือได้ว่าเป็นรถ “Eco-Car” รุ่นแรกของไทย เปิดตัวผลิตขายอย่างเป็นทางการในเดือนมีนาคม 2553 มาพร้อม Concept “ให้ชีวิตคุณง่ายขึ้นอีก” มียอดสะสมรวมมากนับหลักแสนคัน และยังคงขายในบ้านเราเข้าสู่ปีที่ 11 โดยปรับราคาขึ้นไปบ้าง ณ ปัจจุบัน มีจุดเด่นที่ขนาดตัวรถเล็ก แต่ภายในกว้างขวาง นั่งสบาย

ภายในเพิ่มความมีระดับ ด้วยสีภายในสีดำ แผงคอนโซลหน้าตกแต่ง Piano Black สีดำ และทันสมัยมากขึ้นด้วยแผงแสดงผลหน้าจอล้อมกรอบด้วยโครเมี่ยม สวิตช์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย ช่องเชื่อมต่อ USB ไฟในห้องเก็บสัมภาระ ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ กระจกไฟฟ้ารอบคัน พร้อมระบบป้องกันการหนีบ (Anti-jam Protection) ด้านคนขับ และกุญแจอัจฉริยะ พร้อมระบบ Immobilizer

มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร 79 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติแบบ Xtronic CVT ประหยัดน้ำมันได้สูงถึง 20 กม./ลิตร ขับขี่ก็ง่าย จอดรถก็คล่องตัว ราคาอะไหล่ไม่แพง คุ้มค่า

ราคาของ Nissan March

  • รุ่น 1.2 S MT ราคา 420,000 บาท
  • รุ่น 1.2 E MT ราคา 480,000 บาท
  • รุ่น 1.2 S CVT ราคา 495,000 บาท
  • รุ่น 1.2 EL CVT ราคา 510,000 บาท

Nissan Note

Nissan Note

Nissan Note (นิสสัน โน๊ต) จัดเป็น “Eco-Car” เฟส 2 ที่ผลิตขายอย่างเป็นทางการในเดือนมกราคม 2560 มีจุดเด่นที่ขนาดตัวรถเล็ก และเทคโนโลยีสุดล้ำ พัฒนาภายใต้แนวคิด Dynamic & Innovative Compact” หรือ “รถยนต์คอมแพคที่มีความคล่องตัวและเปี่ยมด้วยนวัตกรรมล้ำสมัย” และแนวคิดนวัตกรรมการเคลื่อนที่อัจฉริยะ หรือ Nissan Intelligent Mobility ครั้งแรกในรถกลุ่มอีโคคาร์

ภายในออกแบบด้วยโทนสีดำและตกแต่งด้วยวัสดุสีเงิน ตกแต่งคอนโซลกลางด้วยสี Piano Black เบาะผ้าสีดำตกแต่งขอบด้วยสีเบจ โดยเบาะด้านผู้ขับขี่สามารถปรับสูง-ต่ำ ได้ และเบาะหลัง ปรับแยกแบบ 60:40 สะดวกสบายด้วยปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ (Push Start Button) และกุญแจรีโมทอัจฉริยะ Intelligent Key พร้อมระบบ Immobilizer

ระบบความบันเทิง คุณภาพดี วิทยุ หน้าจอ LED แบบสัมผัส ระบบเชื่อมต่อรวมถึง HDMI และสามารถเชื่อมต่อโทรศัพท์ด้วย Bluetooth นอกจากนี้ ยังสะดวกสบายด้วยระบบปรับอากาศอัตโนมัติ และช่องใส่ของและอุปกรณ์ต่างๆครบครัน

เหนือกว่ารถยนต์ระดับเดียวกัน กับระบบ Intelligent Forward Collision Warning ช่วยเตือนก่อนการชนด้านหน้าอัจฉริยะ, ระบบ Intelligent Emergency Braking ช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ และครั้งแรกในรถอีโคคาร์ กับระบบ Intelligent Around View Monitor (AVM) กล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง

มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร 79 แรงม้า ให้แรงบิดสูงในรอบเครื่องยนต์ต่ำ แรงบิดสูงสุด 106 นิวตัน-เมตร ประหยัดน้ำมันได้สูงถึง 20 กม./ลิตร เกียร์อัตโนมัติแบบ Xtronic CVT พร้อม D-Step Logic ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์นุ่มนวล แต่ให้อัตราเร่งต่อเนื่องและทันใจ สามารถตอบสนองอัตราเร่งแซง เพิ่มความเร้าใจ

ราคาของ Nissan Note

  • รุ่น 1.2 E CVT ราคา 530,000 บาท
  • รุ่น 1.2 V CVT ราคา 565,000 บาท
  • รุ่น 1.2 VL CVT ราคา 595,000 บาท

Nissan Almera

Nissan Almera

Nissan Almera (นิสสัน อัลเมร่า) จัดเป็นรถ Eco-Car ขนาด 4 ประตู เครื่อง Turbo รุ่นแรกที่ออกมาในตลาด “Intelligent Urban Sedan” โดดเด่นด้วยการออกแบบที่ใหม่โฉบเฉี่ยว และเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ เช่น กระจังหน้าแบบ V-Motion ไฟหน้า-ไฟท้าย ทรงบูมเมอแรง แนวเสาหลังคาหลังที่ถูกยกขึ้น (Kick-Up C-pillars) และ หลังคาแบบลอยตัว (Floating Roof) เป็นต้น และยังมีรุ่นจัดชุดแต่งอย่าง Sportech มาให้เลือกด้วย

ภายในออกแบบใหม่หมด ใช้วัสดุคุณภาพสูง เน้นความประณีตในการประกอบ พร้อมพื้นที่ว่างเหนือศีรษะ พื้นที่วางขาที่กว้างขวาง คงไว้ซึ่งความเป็นผู้นำในด้านความกว้างขวางที่สุด ในรถยนต์ระดับเดียวกัน และหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ AIVI สะดวกสบายในการใข้งานทั้งระบบนำทาง ระบบความปลอดภัย ระบบรักษาความปลอดภัย และอื่นๆ ภายใต้การเชื่อมต่อที่ราบรื่นผ่านสมาร์ทโฟน

วางขุมพลังขนาด 1.0 ลิตร Turbo รหัส HRA0 ให้แรงม้าสูงสุด 100 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดถึง 152 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่งความเร็วสูงจากแรงบิดแบบต่อเนื่อง (Flat Torque) มีประหยัดน้ำมันได้สูงสุดถึง 23.3 กม./ลิตร ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ Xtronic CVT พร้อม D-Step Logic แถมยังโดดเด่นด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัย Nissan Intelligent Mobility

ราคาของ Nissan Almera

  • รุ่น E ราคา 509,000 บาท
  • รุ่น EL ราคา 559,000 บาท
  • รุ่น V ราคา 599,000 บาท
  • รุ่น V Sportech ราคา 629,000 บาท
  • รุ่น VL ราคา 639,000 บาท
  • รุ่น VL Sportech ราคา 659,000 บาท

Honda City

Honda City / City Hatchback

Honda City (ฮอนด้า ซิตี้) และ Honda City Hatchback (ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบค) ยังคงจัดเป็นรถที่ค่ายฮอนด้ายังต้องขยับตัวรถขนาด B-Segment อย่าง Honda City ลงมาเล่นในตลาดรถ Eco-Car Phase 2 (แต่ทาง Honda ไม่เรียก Eco-Car แต่เรียกเป็น Ecology Car) นับตั้งแต่ปลายปี 2562 ซึ่งก็สามารถช่วงชิงยอดขายได้มากทีเดียว กับ “The City Series”

ด้วยรูปทรงสวย สปอร์ต ภายในกว้างขวาง นั่งสบาย มีระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch พื้นที่เก็บสัมภาระใหญ่มาก ช่วงล่างเกาะถนน แถมยังมีของแต่งในตลาดมีเพียบ เพราะได้เปรียบกว่าตรงที่ออกมาได้ 2 ปีแล้ว

แถมสมรรถนะขุมพลังเครื่องยนต์เทอร์โบใหม่ 1.0 ลิตร DOHC VTEC Turbo ที่ให้กำลังสูงสุดถึง 122 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 173 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 – 4,500 รอบ/นาที ให้สมรรถนะการขับขี่ที่เหนือกว่าเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร (เมื่อเทียบกับรุ่นเดิม) และแรงบิดเทียบเท่าเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ให้อัตราเร่งและประหยัดน้ำมันสูงถึง 23.8 กม./ลิตร

ในงบไม่เกิน 6 แสนบาท เลือกได้เฉพาะรุ่น S และ S+ ครับผม

ราคาของ Honda City

  • รุ่น S ราคา 596,000 บาท
  • รุ่น V ราคา 627,000 บาท
  • รุ่น SV ราคา 648,000 บาท
  • รุ่น RS ราคา 690,000 บาท

ราคาของ Honda City Hatchback

  • รุ่น S+ ราคา 599,000 บาท
  • รุ่น SV ราคา 675,000 บาท
  • รุ่น RS ราคา 749,000 บาท

Suzuki Celerio

Suzuki Celerio

Suzuki Celerio (ซูซูกิ เซเลริโอ) รถ Eco-Car น้องเล็กในตระกูล Suzuki สำหรับตลาดเมืองไทย พัฒนามาจาก Suzuki A: Wind Concept ต้นแบบรถยนต์ประหยัดพลังงานระดับโลก ซึ่งได้เปิดตัวครั้งแรกของโลก (World Premier) ในไทย ได้ชื่อว่าคุณภาพเกินตัว ตอกย้ำภาพลักษณ์ของซูซูกิ ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตรถอีโคคาร์

มียอดจำหน่ายรวมนับตั้งแต่เปิดตัวอยู่ที่ 13,732 คัน (เดือนพฤษภาคม 2557 – พฤศจิกายน 2562) อัดแน่นด้วยคุณภาพ ชู 3 จุดเด่น เน้นห้องโดยสารกว้างขวาง หลังคาที่สูง สมรรถนะเกินตัว ความประหยัดเป็นเยี่ยม

มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินขนาด 3 สูบ 1.0 ลิตร 68 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT รองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 และประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 22 กม./ลิตร อีกทั้้งยังเป็นมาตรฐานใหม่ ของรถยนต์นั่งมาตรฐานโลก ส่งออกไปขายในเอเชียและยุโรปด้วย

ราคาของ Suzuki Celerio

  • รุ่น GA MT ราคา 318,000 บาท
  • รุ่น GL MT ราคา 398,000 บาท
  • รุ่น GLX CVT ราคา 427,000 บาท

Suzuki Swift GL Plus

Suzuki Swift

Suzuki Swift (ซูซูกิ สวิฟท์) เพิ่มรุ่นพิเศษใหม่กับรุ่น GL Plus อัพเกรดชุดแต่งรอบคัน และ Swift รุ่นปกติ มาในแนวคิด “Power You Up แรงสุดขีด สปีดเร้าใจ” ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ด้วยกระจังหน้าตกแต่งโครเมียม และล้ออัลลอยปัดเงาขนาด 16 นิ้ว

ภายในมีหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับทุกการเชื่อมต่อทั้ง Apple CarPlay, Android Auto และ Bluetooth พื้นที่เก็บสัมภาระขนาด 265 ลิตร ปรับพับเบาะหลังแบบ 60:40 พร้อมด้วย Keyless Entry เปิด-ปิดล็อกประตูได้โดยไม่ต้องกดกุญแจรีโมท สะดวก ทันสมัย กับ Keyless Push Start ปุ่มสตาร์ทในรถ

โดดเด่นด้วยแพลตฟอร์ม HEARTECT เทคโนโลยีเฉพาะของซูซูกิ ให้ความแข็งแรง ลดน้ำหนักทุกส่วนของรถยนต์ แต่คงความแข็งแกร่ง ทนทาน ขับขี่ได้คล่องตัว รวมถึงโครงสร้างตัวถังแบบ TECT พร้อมระบบ NVH ช่วยกันการสั่นสะเทือน และลดเสียงรบกวนจากภายนอก

แรงสุดขีด สปีดเร้าใจ ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน รหัส K12M 4 สูบ ขนาด 1.2 ลิตร 83 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 108 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที มาพร้อมเทคโนโลยีหัวฉีดคู่ หรือ DUALJET เพิ่มประสิทธิภาพด้วยระบบหัวฉีดคู่ ฉีดน้ำมันเข้าไปที่กระบอกสูบพร้อมกันทั้ง 2 หัวฉีด ทำให้น้ำมันมีละอองที่ละเอียดขึ้น ได้กำลังและแรงบิดที่ดียิ่งขึ้น จึงช่วยให้ประหยัดน้ำมันมากกว่า 23 กม./ลิตร รองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20

ราคาของ Suzuki Swift

  • รุ่น GL CVT ราคา 557,000 บาท
  • รุ่น GL+ CVT ราคา 567,000 บาท
  • รุ่น GLX CVT ราคา 629,000 บาท

Suzuki Ciaz

Suzuki Ciaz

Suzuki Ciaz (ซูซูกิ เซียส) จัดเป็นรถ Eco-Car Sedan มาภายใต้แนวคิด “สัมผัสใหม่ สบายทุกมิติ” ที่หลายคนรอคอย ด้านภายนอก ไม่ทิ้งลวดลายความเป็นสปอร์ต อีโอคาร์ กระจังหน้าใหม่สไตล์สปอร์ต ไฟหน้าโปรเจคเตอร์ LED พร้อมไฟหรี่แบบ LED ชุดแต่งสไตล์สปอร์ตรอบคันพร้อมสปอยเลอร์หลังไดนามิก

ภายใน คอนโซลหน้าดีไซน์สปอร์ต พวงมาลัยหุ้มหนังพร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียง และสั่งการโทรศัพท์บนพวงมาลัย มาตรวัดสไตล์สปอร์ต Suzuki Smart Connect จอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว พร้อมฟังก์ชั่นเชื่อมต่อ Bluetooth และระบบนำทาง รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน Apple CarPlay กับเบาะหนังคุณภาพสูง ช่องวางเครื่องดื่มมากถึง 8 ตำแหน่ง พื้นที่เก็บสัมภาระกว้างถึง 565 ลิตร

ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซินรหัส K12B ขนาด 1.25 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว VVT ให้แรงม้าสูงสุด 91 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 118 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที อัตราสิ้นเปลือง 20 กม./ลิตร รองรับเชื้อเพลิงแก๊สโซฮอล์ E20

ราคาของ Suzuki Ciaz

  • รุ่น GL MT ราคา 523,000 บาท
  • รุ่น GL CVT ราคา 559,000 บาท
  • รุ่น GLX CVT ราคา 625,000 บาท
  • รุ่น RS CVT ราคา 675,000 บาท

Toyota Yaris And Ativ

Toyota Yaris / Toyota Yaris ATIV

Toyota Yaris (โตโยต้า ยาริส) และ Toyota Yaris ATIV (โตโยต้า ยาริส เอทีฟ) อีโคคาร์แฮทช์แบ็ค Yaris และ อีโคคาร์ซีดานยอดนิยม ATIV เอาใจคนรุ่นใหม่ โฉมใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อหลายเดือนที่ผ่านมา ด้วยดีไซน์ใหม่ พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและฟังก์ชันความปลอดภัยครบครัน คุ้มค่าตอบโจทย์ในทุกไลฟ์สไตล์การใช้งาน และแนะนำชุดอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ โดดเด่น สะดุดตา

ปรับดีไซน์ภายนอก และเพิ่มระบบความปลอดภัย “Toyota Safety Sense” พร้อมพวงมาลัยหุ้มหนังนุ่มพิเศษตกแต่งด้วยด้ายสีเทา (หรือสีฟ้า) พร้อมชุดตกแต่งพิเศษ X-URBAN โดดเด่น สไตล์ครอสโอเวอร์ ที่ออกแบบภายใต้แนวคิด Modern & Cool โดดเด่นสะท้อนความเป็นเอกลักษณ์ กับกระจังหน้าด้านบนสีดำเงา ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว พร้อมโช๊คอัพและสปริงแบบยกสูงทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เพื่อเอาใจ Urbanista ที่ชอบความโดดเด่น ไม่ซ้ำใครโดยเฉพาะ พร้อมหลังคาแบบ Black Roof ให้เลือก

ห้องโดยสารภายใน พวงมาลัยหุ้มหนังนุ่มพิเศษสีทูโทนแดง Terra Rossa และสีดำ ตกแต่งด้วยด้ายสีเทา เบาะนั่งด้านหน้าและหลังสีทูโทนแดง Terra Rossa และสีดำ พร้อมเดินด้ายลายพิเศษ

อีกหนึ่งทางเลือก ด้วยชุดตกแต่งพิเศษ FLASH II Package เสริมความโฉบเฉี่ยวและดูโดดเด่นสะดุดตาให้กับ Yaris และ ATIV มากยิ่งขึ้น และที่สำคัญยังมีกล่องควบคุมคันเร่งไฟฟ้า ACTIVE SPEED เติมความสปอร์ต ตอบสนองรวดเร็วในขณะออกตัว

สมรรถนะเหนือชั้น ด้วยเครื่องยนต์รหัส 3NR-FKE ขนาด 1.2 ลิตร Dual VVT-i ให้แรงม้าสูงสุด 92 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 109 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที กับระบบเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i พร้อม Shift Lock ที่ปรับจูนเกียร์ให้ตอบสนองต่อการขับขี่ที่ดีมากขึ้น

ราคาของ Toyota Yaris

  • รุ่น 1.2 Entry ราคา 549,000 บาท
  • รุ่น 1.2 Sport ราคา 609,000 บาท
  • รุ่น 1.2 Sport Premium ราคา 679,000 บาท
  • รุ่น 1.2 Sport Premium with Black Roof ราคา 684,000 บาท
  • รุ่น 1.2 Sport X with black Roof ราคา 658,000 บาท
  • รุ่น 1.2 Sport Premium with Black Roof ราคา 728,000 บาท

ราคาของ Toyota Yaris ATIV

  • รุ่น 1.2 Entry ราคา 539,000 บาท
  • รุ่น 1.2 Sport ราคา 599,000 บาท
  • รุ่น 1.2 Sport Premium ราคา 674,000 บาท
  • รุ่น 1.2 Sport Premium with Black Roof ราคา 679,000 บาท

Mitsubishi Mirage

Mitsubishi Mirage

Mitsubishi Mirage (มิตซูบิชิ มิราจ) อีกหนึ่งรถ Eco-Car ที่ขายมานานนับสิบปี จาก มิตซูบิชิ ตัวรถที่ขนาดเล็กน่ารัก ด้วยดีไซน์สปอร์ตรอบคัน ยิ่งในโฉมไมเนอร์เชนจ์ ที่ปรับโฉมใหญ่ทั้งภายนอกและภายใน มากับภาพลักษณ์ดูหรูหราขึ้นด้วยกระจังหน้า Advanced Dynamic Shield แบบรถรุ่นอื่นๆ ในค่าย และตกแต่งด้วยเส้นสีแดง ชุดกันชนหน้าใหม่ ไฟหน้าแบบ Bi-LED พร้อมไฟ Daytime Running Light สำหรับวิ่งกลางวัน และสปอยเลอร์หลังแบบใหม่ให้เพิ่มเติม

พร้อมกับตกแต่งภายในใหม่ เบาะหนัง มีจอแสดงข้อมูลการขับแบบ High Contrast และลายคาร์บอนแบบใหม่ พร้อมเพิ่มวัสดุแบบผิวนุ่มบริเวณแผงประตู สามารถเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนจอแสดงผลส่วนกลางด้วยระบบ Smartphone – Link Display Audio (SDA) หน้าจอขนาด 7 นิ้ว รองรับการใช้งาน Apple CarPlay, ระบบสั่งการด้วยเสียงผ่าน Siri และการเชื่อมต่อด้วยบลูทูธ มีระบบ Cruise Control กับอุปกรณ์ความปลอดภัยอีกเพียบ

มาคู่กับขุมพลังขนาด 1.2 ลิตร 78 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ทั้งหรูและประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 23.8 กม./ลิตร เรียกได้ว่าน่าใช้อีกรุ่นหนึ่งเลยทีเดียว

ราคาของ Mitsubishi Mirage

  • รุ่น 1.2 Active CVT ราคา 474,000 บาท
  • รุ่น 1.2 Active CVT ราคา 509,000 บาท
  • รุ่น 1.2 Special Edition ราคา 523,000 บาท
  • รุ่น 1.2 Smart CVT ราคา 579,000 บาท

Mitsubishi Attrage

Mitsubishi Attrage

Mitsubishi Attrage (มิตซูบิชิ แอททราจ) อีกหนึ่งรถ Eco-Car 4 ประตู ที่ดีไซน์ได้สปอร์ตรอบคัน มากับภาพลักษณ์ที่ดูหรูหราขึ้นด้วยกระจังหน้า Advanced Dynamic Shield แบบรถรุ่นอื่นๆ ในค่าย และตกแต่งด้วยเส้นสีแดง ชุดกันชนหน้าใหม่ ไฟหน้าแบบ Bi-LED พร้อมไฟ Daytime Running Light สำหรับวิ่งกลางวัน

พร้อมกับตกแต่งภายในใหม่ เบาะหนัง มีจอแสดงข้อมูลการขับแบบ High Contrast และลายคาร์บอนแบบใหม่ พร้อมเพิ่มวัสดุแบบผิวนุ่มบริเวณแผงประตู สามารถเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนจอแสดงผลส่วนกลางด้วยระบบ Smartphone – Link Display Audio (SDA) หน้าจอขนาด 7 นิ้ว รองรับการใช้งาน Apple CarPlay, ระบบสั่งการด้วยเสียงผ่าน Siri และการเชื่อมต่อด้วยบลูทูธ มีระบบ Cruise Control กับอุปกรณ์ความปลอดภัยอีกเพียบ

มาคู่กับขุมพลังขนาด 1.2 ลิตร 78 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ทั้งหรูและประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 23.8 กม./ลิตร เรียกได้ว่าน่าใช้อีกรุ่นหนึ่งเลยทีเดียว

ราคาของ Mitsubishi Attrage

  • รุ่น 1.2 Active MT ราคา 494,000 บาท
  • รุ่น 1.2 Active CVT ราคา 529,000 บาท
  • รุ่น 1.2 Special Edition ราคา 543,000 บาท
  • รุ่น 1.2 Smart CVT ราคา 584,000 บาท

Mazda2

Mazda2

Mazda2 (มาสด้า2) ยกระดับความคุ้มค่ากับออพชั่นที่เกินราคา อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำ ขับสนุก และปลอดภัยยิ่งขึ้น ดีไซน์เรียบหรูสง่างามดุจงานศิลปะชิ้นเอก ตามแนวคิด Kodo Design (โคโดะ ดีไซน์) ที่เรียบง่าย แต่งดงามตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ได้อย่างลงตัว

ภายในห้องโดยสาร ออกแบบจัดวางอย่างเหมาะสม กับการใช้งานของมนุษย์เป็นหลัก ตาม Concept – HMI (Human Machine Interface) ได้แก่ หน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ Active Driving Display และ Center Commander จัดวางอยู่ในตำแหน่งที่ลงตัว, Mazda Connect ที่รองรับทั้ง Apple CarPlay® และ Android Auto™ เชื่อมต่อแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน โดยแสดงข้อมูลผ่านหน้าจอสี Center Display แบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รวมถึงระบบ Infotainment ที่มีให้เลือกมากมาย

จัดเต็มกับระบบความปลอดภัยสุดล้ำ i-Activsense และยังมาพร้อมระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Sport Paddle Shift) และกล้องมองหลัง รวมถึงระบบช่วยประหยัดน้ำมัน i-STOP และประหยัดพลังงาน i-ELOOP เพิ่มการขับขี่ไร้กังวลที่ทั้งประหยัดและปลอดภัย

ในงบไม่เกิน 6 แสนบาท เลือกได้เฉพาะรุ่นเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 1.3 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 93 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 123 นิวตันเมตร ประหยัดน้ำมันสูงสุด 23.3 กม./ลิตร

ราคาของ Mazda2 / Mazda2 Sports

  • รุ่น 1.3 C / C Sports ราคา 596,000 บาท
  • รุ่น 1.3 S / S Sports ราคา 627,000 บาท
  • รุ่น 1.3 S Leather / S Leather Sports ราคา 648,000 บาท
  • รุ่น 1.3 SP / SP Sports ราคา 690,000 บาท
  • รุ่น XD Sports ราคา 782,000 บาท
  • รุ่น XDL Sports ราคา 799,000 บาท

MG5

MG5

MG5 (เอ็มจี5) จัดได้ว่าเป็นรถรุ่นดังในโลกโซเชียลที่มีคนพูดถึงกันมากอีกหนึ่งรุ่น ที่ต้องบอกก่อนเลยว่า MG5 นี้ เป็นรถในกลุ่ม C-Segment ที่มีตัวรถขนาดใหญ่ แต่ด้วยตลาดรถในกลุ่ม C-Segment ยากที่จะทำให้ MG สู้ได้ และไม่คึกคักในหมู่ผู้บริโภคแบบแต่ก่อน

MG จึงปรับแผนสู้ด้วยออฟชั่นและลดราคาลงมาในกลุ่ม B-Segment ที่จัดเป็นรถกลุ่ม Eco-Car Phase 2 จึงทำให้ MG5 จะเป็นรถที่อยู่ระหว่างกึ่งกลางกลุ่ม C-Segment แต่มีราคาเทียบเท่ารถกลุ่ม B-Segment

ด้วยรูปทรงสวย สปอร์ต มาพร้อมนิยาม “BEYOND” โดดเด่นและมีมุมมองที่เหนือระดับ รวมถึงหน้าตารถ และท้ายรถ ที่ดูคล้ายกับรถยุโรป แต่ราคาสบายกระเป๋ากว่ามาก

ห้องโดยสารภายในที่มีความใหญ่โต ออฟชั่นเพียบ! พร้อมกับหน้าจอแบบสัมผัสขนาด 10 นิ้ว “ใหญ่สะใจ” คนชอบหน้าจอโตๆ ผนวกกับระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART สังการทำงานด้วยเสียงได้ พัฒนาดีขึ้นกว่าเดิม กับระบบ Smart Check, Smart Command และ Smart Connect อันเป็นจุดเด่นของ MG รวมถึงซันรูฟไฟฟ้า หลังคาเปิดได้ มีระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ อีกด้วย

ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังขนาด 1.5 ลิตร แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว VTi-TECH ให้แรงม้าสูงสุด 114 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 150 นิวตัน-เมตร ที่ 4,500 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT 8 สปีด ที่ประหยัดน้ำมันได้ถึง 17.9 กม./ลิตร (ตาม ECO Sticker) และสามารถรองรับน้ำมัน E85 ได้

ราคาของ MG5

  • รุ่น C ราคา 559,000 บาท
  • รุ่น D ราคา 599,000 บาท
  • รุ่น X Sunroof ราคา 689,000 บาท

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

ถ้าใครอยากขายรถคันเดิม เพื่อนำเงินไปโปะรถคันใหม่ จะได้ผ่อนดาวน์กันน้อยลง มาขายรถกับทาง CARRO Express ได้ที่  https://th.carro.co/sell-car/express หรือถ้าหากต้องการซื้อรถคุณภาพเยี่ยม CARRO เราก็มีพร้อมให้คุณเลือกอย่างมากมายด้วยเช่นกัน พร้อมรับประกันสูงสุดถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร กับ CARRO Automall ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://th.carro.co/taladrod/

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

และอีกหนึ่งบริการใหม่! CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น!

รถของเราทุกคันผ่านการตรวจสภาพ 200 จุด และยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ให้คุณเลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา พร้อมรับประกันคุณภาพรถนาน 1 ปี หรือสูงสุด 30,000 กิโลเมตร อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย เรามีรถให้คุณเลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

8 รถ SUV Hybrid และ Plug-In Hybrid ไม่เกิน 3 ล้านใน Motor Expo 2021

ถ้าจะให้พูดถึงรถยนต์ในรูปแบบ Hybrid และ Plug-In Hybrid นั้น ตอนนี้ถือว่าได้รับความนิยมสุดๆ จากผู้ใช้รถ ซึ่งเป็นเทรนด์ของโลกไปแล้ว ที่ทุกค่ายต้องมีรถแนวนี้ผลิตออกมาขายกันหมด ซึ่งกระแสอาจจะสูสีกับรถยนต์ไฟฟ้าอยู่ก็ตาม แต่เนื่องจากความสะดวกของรถแบบ Hybrid และ Plug-In Hybrid คือการใช้งานที่สะดวกสบาย ไม่ต้องหาที่ชาร์จไฟเมื่อแบตเตอรี่หมด และช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้มาก อีกทั้งยังสามารถใช้งานในโหมด EV วิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้าเพียวๆ ได้เช่นกัน

ซึ่งตลาดรถแบบ Hybrid และ Plug-In Hybrid ก็มีให้เลือกหลากหลายประเภท อาทิ รถเก๋ง, รถ SUV, หรือรถ MPV เป็นต้น แต่ในหัวข้อนี้ เราจะขอนำเสนอถึงรถแบบ SUV และ Crossover ที่มาในรูปแบบ Hybrid และ Plug-In Hybrid กันครับ

CARRO ขอคัดสรรรถ Hybrid และ Plug-In Hybrid รุ่นเด่นๆ ในงาน Motor Expo 2021 (งานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2021) ที่น่าซื้อน่าสนในราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท มาให้ชม 8 รุ่นครับ …

Toyota Corolla Cross GR Sport

Toyota Corolla Cross Hybrid

Toyota Corolla Cross (โตโยต้า โคโรลล่า ครอส) นับได้ว่าเป็นรถ SUV Crossover ของโตโยต้าซึ่งได้รับความนิยมจนยอดจองทะลุ 4,200 คัน ภายใน 1 เดือน นับตั้งแต่เปิดตัว (ข้อมูล ณ เดือนกรกฎาคม 2563) มียอดขายสะสมตั้งแต่เปิดตัว รวมทั้งสิ้น 27,794 คัน ซึ่งเป็นยอดขายสูงสุดในตลาดรถ Sub-Compact SUV (ข้อมูล ณ เดือนกรกฎาคม 2563 – พฤศจิกายน 2564)

ที่สำคัญ ยอดขายรุ่นเครื่องยนต์ไฮบริด มีสัดส่วนถึง 85% ของยอดจำหน่ายรวม และเป็นยอดขายสูงสุด ในตลาดรถ Hybrid SUV

แข็งแกร่งด้วยสถาปัตยกรรมโครงสร้างยานยนต์ใหม่ TNGA (Toyota New Global Architecture) ให้สมรรถนะการขับขี่ที่เหนือกว่า ควบคู่ไปกับระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลกของรถโตโยต้า (Toyota Safety Sense) มั่นใจในทุกสภาพการขับขี่ ครบครันด้วยฟังก์ชันการใช้งานของอุปกรณ์อำนวยความสะดวก

ส่วนห้องโดยสารภายในใช้โทนสีแดงใหม่ Terra Rossa มีจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ MID (Multi Information Display) ขนาด 7 นิ้ว เบาะคนขับปรับไฟฟ้า ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ Dual Zone พนักพิงด้านหลังปรับเอนได้ 6 องศา พนักวางแขนด้านหลังพร้อมที่วางแก้วน้ำ ช่องระบายอากาศและช่องต่อ USB สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง พร้อมประตูท้ายเปิด-ปิดอัตโนมัติ ด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมเซนเซอร์เปิด-ปิดประตูท้ายแบบ Kick Activated และกล้องมองภาพรอบทิศทาง พร้อมมุมมองแบบ 3 มิติ (Panoramic View Monitor)

ซึ่งในงาน Motor Expo นี้ แนะนำ Toyota Corolla Cross GR Sport (โตโยต้า โคโรลล่า ครอส จีอาร์ สปอร์ต) ที่เติมเต็มด้วย DNA ของมอเตอร์สปอร์ต ด้วยจิตวิญญาณของ Gazoo Racing ที่โดดเด่นด้วยการตกแต่งแพ็กเกจชุด GR ทั้งคัน

นอกจากรุ่นเครื่องยนต์เบนซินธรรมดาแล้ว ยังมีในส่วนของเครื่องยนต์ Hybrid ที่มาพร้อมชุดระบบไฮบริดเจเนอเรชั่น 4 พัฒนาแบตเตอรี่ใหม่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.8 ลิตร รหัส 2ZR-FXE 98 แรงม้า พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าซิงโครนัส แม่เหล็กถาวร 53 กิโลวัตต์ และแบตเตอรี่แพคชนิด Ni-MH (นิคเกิล-เมทัล ไฮไดรด์) แบบใหม่ ให้กำลังรวมทั้งระบบ 122 แรงม้า

ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ E-CVT พร้อม Shift Lock และเลือกโหมดในการขับเลือกได้ระหว่าง EV, Sport และ Eco อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ย 23.3 กม./ลิตร

ราคาของ Toyota Corolla Cross Hybrid

  • รุ่น Hybrid Smart ราคา 1,019,000 บาท**
  • รุ่น Hybrid Premium ราคา 1,089,000 บาท**
  • รุ่น Hybrid Premium Safety ราคา 1,199,000 บาท**
  • รุ่น Hybrid GR Sport ราคา 1,249,000 บาท***/****

*สำหรับสีพิเศษ Platinum White Pearl เพิ่ม 10,000 บาท
**ราคาดังกล่าวเป็นราคารถยนต์พร้อมอุปกรณ์มาตรฐานที่ผลิตจากโรงงาน รวมเครื่องปรับอากาศและภาษีมูลค่าเพิ่ม
*** สำหรับสี Platinum White Pearl/Black Roof เพิ่มเงิน 15,000 บาท
****สำหรับสี Red Mica Metallic/Black Roof เพิ่มเงิน 10,000 บาท

Honda HR-V e:HEV

Honda HR-V e:HEV

All-new Honda HR-V (ฮอนด้า เอชอาร์วี) ใหม่ เจเนอเรชันที่ 2 ด้วยรูปแบบ e:HEV ขุมพลังไฮบริดในทุกรุ่นย่อย เป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย กับรุ่นย่อย RS เปิดตัวในไทยที่แรกของโลก!

มาพร้อมดีไซน์สปอร์ตพรีเมียมที่สะท้อนตัวตนสไตล์ SUV ได้อย่างชัดเจน โดดเด่นด้วยตัวถังที่ปราดเปรียวในสไตล์สปอร์ตคูเป้ ดึงดูดทุกสายตา ภายในห้องโดยสารมาพร้อมเบาะหนังสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดงแบบสปอร์ต แป้นเบรกและแป้นคันเร่งสไตล์สปอร์ต พวงมาลัยสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง และแผ่นกั้นห้องสัมภาระท้าย กว้างขวาง

มอบความสะดวกสบายในทุกที่นั่งและทัศนวิสัยที่ดีในการขับขี่ ครบครันด้วยฟังก์ชันการใช้งานระดับพรีเมียม โดดเด่นระบบปรับอากาศอัตโนมัติ (Automatic Air Conditioning) ที่มาพร้อมระบบ Air Diffusion System

ทุกรุ่นย่อยมาพร้อมระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ที่ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ได้แก่ มอเตอร์ที่ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้า (Motor Generator) และมอเตอร์ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อ (Motor Drive) กับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Atkinson-Cycle แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว i-VTEC มอบกำลังสูงสุดทั้งระบบได้ถึง 131 แรงม้า ตอบสนองทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 253 นิวตัน-เมตร ประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมถึง 25.6 กม./ลิตร

พร้อมด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และชุดหน่วยควบคุมอัจฉริยะ (Intelligent Power Unit – IPU) ที่มาพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ซึ่งมีน้ำหนักเบาขนาดกะทัดรัด สามารถเก็บประจุไฟและช่วยให้การชาร์จไฟได้ประสิทธิภาพสูงสุด อีกทั้งสามารถชาร์จไฟเข้าสู่แบตเตอรี่โดยอัตโนมัติในขณะขับขี่

ราคาของ Honda HR-V e:HEV

  • รุ่น E ราคา 979,000 บาท
  • รุ่น EL ราคา 1,079,000 บาท
  • รุ่น RS ราคา 1,179,000 บาท

Nissan Kicks Sky Edition

Nissan Kicks

Nissan Kicks e-POWER (นิสสัน คิกส์) รถ Crossover ไฮบริด ที่มีจุดเด่นอย่างการใช้ระบบเครื่องยนต์สันดาปภายใน ไปปั่นกระแสไฟฟ้าให้กับแบตเตอรี่แบบลิเทียมไอออน และจ่ายไฟไปยังมอเตอร์ไฟฟ้าให้ขับเคลื่อนรถยนต์อีกที ซึ่งเป็นหลักการที่คล้ายกับรถยนต์ไฟฟ้า (BEV : Battery Electric Vehicle) แต่ไม่ต้องชาร์จไฟจากภายนอก เพิ่มความสะดวกในการใช้งาน เหมาะกับการขับรถทางไกล

ในงาน Motor Expo 2021 นี้ Nissan นำเสนอรุ่นพิเศษของ Kicks กับ Nissan Kicks Sky Edition (นิสสัน คิกส์ สกาย อิดิชั่น) กับ Concept “Fabulous Forward” ซึ่งมีจำนวนจำกัด ด้วยสีภายนอกสีฟ้า-หลังคาขาว พร้อมชุดแต่งรอบคัน ล้ออัลลอย 17 นิ้วสีดำ ภายในติดตั้งแป้นวางเท้าแบบสปอร์ต ซึ่งเข้ากันกับชุดพรมพร้อมผ้ายางปูพื้นที่มีโลโก้ “Sky Edition”

พร้อมเชื่อมต่อกับโลกออนไลน์ได้ตลอดเวลา ด้วยเทคโนโลยีเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนเข้ากับหน้าจอเครื่องเสียง ผ่าน Apple CarPlay พร้อมระบบนำทาง Navigation System ผ่าน Google Map กับระบบสั่งงานด้วยเสียง Voice Recognition ที่ใช้งานง่าย แถมพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายมากถึง 432 ลิตร และยังมีความลึกของห้องเก็บสัมภาระที่มากถึง 900 มม. โดยที่ยังไม่พับเบาะหลัง

โดยมีให้เลือกในรุ่นย่อย E, V และ VL พร้อมเสริมความอุ่นใจของลูกค้าขึ้นไปอีกขั้น ด้วยการขยายเงื่อนไขการรับประกันแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนเป็น 10 ปี โดยไม่จำกัดระยะทาง

และขุมพลังหลักคือเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.2 ลิตร ขนาด 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว 79 แรงม้า ทำหน้าที่ปั่นกระแสไฟฟ้าไปยังแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 1.57 กิโลวัตต์-ชั่วโมง (kWh)

จากนั้นจึงป้อนพลังไปขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ AC Synchronous Motor รหัส EM57 เป็นลูกเดียวกับที่อยู่ใน Nissan Leaf ให้กำลังสูงสุด 129 แรงม้า (95 กิโลวัตต์) หากรวมพลังทั้งหมด ทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า จะให้แรงม้าสูงถึง 129 แรงม้า

ราคาของ Nissan Kicks e-POWER

  • รุ่น S ราคา 889,000 บาท
  • รุ่น E ราคา 949,000 บาท
  • รุ่น V ราคา 999,000 บาท
  • รุ่น VL ราคา 1,049,000 บาท
  • รุ่น VL (ภายในสีทูโทน) ราคา 1,059,000 บาท
  • รุ่น Sky Edition ราคา 1,074,000 บาท

Mitsubishi Outlander PHEV

Mitsubishi Outlander PHEV

Mitsubishi Outlander PHEV (มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี) เป็นรถ SUV ระดับพรีเมียมที่ประกอบในประเทศ ผสาน DNA และเทคโนโลยีรถยนต์ระดับตำนานของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส เข้าไว้ด้วยกัน เริ่มด้วย “Pajero” สุดยอดตำนานแห่งรถเอสยูวี “Mitsubishi Lancer Evolution” เจ้าแห่งสนาม “เวิลด์แรลลี่แชมเปี้ยนชิพ” (WRC) ที่มีเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ซูเปอร์-ออลวิลล์คอนโทรล (S-AWC) ที่เป็นหนึ่งในตำนานแห่งสมรรถนะ รวมทั้งยานยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ผลิตขึ้นเพื่อจำหน่ายจริงรุ่นแรกของโลกอย่าง “i-MiEV” (ไอ-มีฟ)

ดีไซน์ภายนอกที่โดดเด่น โฉบเฉี่ยว และหรูหราเหนือระดับ ดีไซน์ภายในประณีตทุกรายละเอียด ห้องโดยสารกว้างขวาง ทรงพลังด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ และเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.4 ลิตร แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ให้แรงม้าสูงสุด 305 แรงม้า

ส่งกำลังผ่านโหมดการขับขี่ 3 รูปแบบ ได้แก่ โหมดอีวี (ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ) โหมด ไฮบริด (ขับเคลื่อนหลักด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า โดยมีเครื่องยนต์ทำหน้าที่ผลิตกระแสไฟฟ้าให้แก่มอเตอร์ไฟฟ้าคู่) และโหมดพาราเรล ไฮบริด (เครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าทำหน้าที่ขับเคลื่อนตัวรถไปพร้อมกัน)

พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ซูเปอร์-ออลวิลล์คอนโทรล (S-AWC) ให้อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเพียง 52.6 กม./ลิตร หรือ 1.9 ลิตรต่อ 100 กม. ตามมาตรฐาน NEDC

ราคาของ Mitsubishi Outlander PHEV

  • รุ่น GT ราคา 1,640,000 บาท
  • รุ่น GT-Premium 2WD ราคา 1,759,000 บาท

MG HS PHEV

MG HS PHEV

MG HS PHEV (เอ็มจี เอชเอส พีเอชอีวี) รถยนต์ SUV รุ่นยอดฮิตจากค่าย MG ชูแนวคิด “Refinement” พร้อมขับเคลื่อนทุกคุณค่าของชีวิต โดยสะท้อนถึงความเหนือระดับ ทั้งความหรูหรา ความสะดวกสบายความปลอดภัย และการแนะนำเทคโนโลยี Plug-in Hybrid ผสานพลังสุดยอดแห่งระบบขับเคลื่อน 2 ระบบ เข้าด้วยกัน ทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า

ขับเคลื่อนด้วยระบบ Plug-in Hybrid มีพละกำลังสูงสุด 284 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 480 นิวตันเมตร จากขุมพลังของเครื่องยนต์เบนซิน Turbo ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 162 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร และมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor ที่ให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 230 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ Lithium-Ion แบบ 6 โมดูล มีขนาดใหญ่ถึง 16.6 kWh

ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์แบบ EDU II – 10 Speeds ที่ใช้เวลาเปลี่ยนเกียร์เพียง 0.2 วินาที ตอบสนองได้อย่างทันใจ ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายในเวลา 7.5 วินาที สามารถขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% สูงสุดถึง 67 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง

ราคาของ MG HS PHEV

  • รุ่น PHEV ราคา 1,359,000 บาท

Haval Jolion Hybrid SUV

Haval Jolion Hybrid SUV

All-New HAVAL Jolion Hybrid SUV (ฮาวาล โจไลอ้อน) นับเป็นรถยนต์รุ่นที่ 2 ของ Haval จากสายการผลิตที่โรงงานระยอง เปิดตัวในไทยคันแรกของโลก (ที่เป็นรุ่นพวงมาลัยขวา) เรียกคนดูเข้าบูธในงาน Motor Expo 2021 ได้มหาศาลทีเดียว ด้วยราคาสุดเร้าใจและการออกแบบรถ คุณภาพวัสดุ ที่ดูดีไม่แพ้รถเจ้าตลาดหลายๆ ยี่ห้อ

ความพิเศษของรถรุ่นนี้ อยู่ที่การใช้แพลตฟอร์ม GWM LEMON แพลตฟอร์มโมดูล่าร์อัจฉริยะเช่นเดียวกับรถยนต์ All New HAVAL H6 Hybrid SUV และพกพาความหรูหรามารอบคันทีเดียว ห้องโดยสารภายใต้แนวคิด “Future Intelligent Cockpit” กว้างขวาง สะดวกสบาย

พร้อมการขับเคลื่อนเต็มสมรรถนะ ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Hybrid ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 375 นิวตันเมตร พร้อมระบบเกียร์แบบ DHT และเทคโนโลยีคันเร่งอัจฉริยะ (Intelligent Single Pedal) ให้ผู้ขับขี่สามารถเร่งหรือชะลอความเร็วได้เพียงคันเร่งเดียว

ราคาของ Haval Jolion

  • รุ่น Tech ราคา 879,000 บาท
  • รุ่น Pro ราคา 939,000 บาท
  • รุ่น Ultra ราคา 999,000 บาท

Haval H6 Hybrid SUV

Haval H6 Hybrid SUV

All-New Haval H6 Hybrid SUV (ฮาวาล เอช6) ยังคงเป็นรถ SUV Hybrid ยอดฮิตอีกหนึ่งรุ่นที่คนมางาน Motor Expo 2021 ต้องแวะไปดู ก็ได้เสียงตอบรับจากคนไทยเป็นอย่างดี ซึ่งมีให้เลือกด้วยกันถึง 2 รุ่นย่อย โดยเป็นราคาแบบ “One Price” ราคาเดียวกันในทุกๆ ช่องทางการขาย

อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะ ผสานการการออกแบบที่สวยงาม พร้อมห้องโดยสารที่กว้างขวางและสิ่งอำนวยความสะดวกอีกมากมาย และยังสามารถอัพเกรดเฟิร์มแวร์ตัวรถผ่านระบบออนไลน์อัจฉริยะ (FOTA) การสั่งงานด้วยเสียงอัจฉริยะ และการสั่งการและควบคุมรถผ่าน GWM Application

กับขุมพลังเบนซินขนาด 1.5 ลิตร รหัส GW4B15 GDIT EVO พ่วงระบบเทอร์โบแปรผันและซูเปอร์ชาร์จ รวมกำลังสูงสุดมากถึง 243 แรงม้า แรงบิดรวมสูงสุด 530 นิวตันเมตร พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า และระบบเกียร์แบบ DHT ที่รองรับระบบการขับเคลื่อนที่หลากหลายของรถยนต์ไฮบริด

ราคาของ Haval H6 HEV

  • รุ่น Pro ราคา 1,149,000 บาท
  • รุ่น Ultra ราคา 1,249,000 บาท

Volvo XC60 Recharge

Volvo XC60 Recharge

Volvo XC60 Recharge (วอลโว่ เอ็กซ์ซี 60 รีชาร์จ) สุดยอดนวัตกรรมเอสยูวีระบบไฟฟ้าแนวสปอร์ต สไตล์สแกนดิเนเวียนที่วอลโว่ภาคภูมิใจ นอกจากนี้ความพิเศษของรุ่นอัพเกรด Volvo XC60 Recharge Plug-in Hybrid ยังได้รับการอัพเกรดรูปลักษณ์ทั้งภายในและภายนอก

เพื่อยกระดับความทรงพลังในสไตล์สปอร์ต แต่ยังคงมาพร้อมสมรรถนะแรงสูงด้วยเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตร 4 สูบ, Drive-E Powertrain Turbo อัดอากาศด้วย Supercharged โดยผสานการทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าอย่างสมบูรณ์แบบ กำลังรวมทั้งระบบ 407 แรงม้า ประหยัดน้ำมันได้มากถึง 47.6 กม./ลิตร และวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนได้ระยะทางมากถึง 45 กิโลเมตร

พร้อมนำเสนอเฉดสีใหม่ล่าสุดอย่าง Silver Dawn Metallic เพื่อเพิ่มลูกเล่นในการไล่เฉดสี แสง และเงาได้อย่างโดดเด่น สะกดทุกสายตา

ราคาของ Volvo XC60 Recharge

  • รุ่น XC60 Recharge Plug-in Hybrid R-Design Expression ราคา 2,990,000 บาท
  • รุ่น XC60 Recharge Plug-in Hybrid R-Design ราคา 3,490,000 บาท
  • รุ่น XC60 Recharge Plug-in Hybrid Inscription ราคา 3,490,000 บาท

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

ถ้าใครอยากขายรถคันเดิม เพื่อนำเงินไปโปะรถคันใหม่ จะได้ผ่อนดาวน์กันน้อยลง มาขายรถกับทาง CARRO Express ได้ที่  https://th.carro.co/sell-car/express หรือถ้าหากต้องการซื้อรถคุณภาพเยี่ยม CARRO เราก็มีพร้อมให้คุณเลือกอย่างมากมายด้วยเช่นกัน พร้อมรับประกันสูงสุดถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร กับ CARRO Automall ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://th.carro.co/taladrod/

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

และอีกหนึ่งบริการใหม่! CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น!

รถของเราทุกคันผ่านการตรวจสภาพ 200 จุด และยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ให้คุณเลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา พร้อมรับประกันคุณภาพรถนาน 1 ปี หรือสูงสุด 30,000 กิโลเมตร อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย เรามีรถให้คุณเลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ