รวม 15 รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นเด่นๆ ในงาน Motor Expo 2021

ในยุคปัจจุบัน เราคงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า “รถยนต์ไฟฟ้า” หรือ Electric Vehicle (รถ EV) เริ่มมีบทบาทที่สำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ในวงการยานยนต์โลก และวงการยานยนต์ไทย ด้วยยอดขายที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ลดการใช้พลังงานเชื้อเพลิง และช่วยให้สิ่งแวดล้อมดีขึ้น

ยิ่งทางภาครัฐและภาคเอกชน เริ่มออกมาสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า รวมไปถึงระบบ Infrastructure ต่างๆ ทั้งจุดชาร์จในหางสรรพสินค้า จุดชาร์จในปั้มน้ำมัน หรือจุดชาร์จตามหน่วยงานต่างๆ ยิ่งทำให้ความนิยมของรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น ถึงแม้อาจจะยังไม่ครบคลุมทั้งประเทศก็ตาม

ในงาน Motor Expo 2021 (อเตอร์เอ็กซ์โป 2021) ที่จัดขึ้นในเวลานี้ MR.CARRO ขอพาทุกท่านไปชมกับ รถยนต์ไฟฟ้า 15 รุ่นยอดฮิตภายในงาน Motor Expo 2021 จะมีรุ่นใดบ้างที่น่าสนใจ ไปดูกันได้เลยครับ …

ORA Good Cat

1. ORA Good Cat

ORA Good Cat (โอร่า กู๊ดแคท) เรียกได้ว่าแรงจนฉุดไม่อยู่เลยจริงๆ คนดูกันแน่นขนัดในงาน Motor Expo 2021 สำหรับเจ้าแมวเหมียวไฟฟ้าคันนี้ ที่พายอดจองไปอย่างถล่มทลาย กว่าจะได้รับรถก็กลางปีหน้าทีเดียว! แต่ราคาเปิดออกมาก็ดูเหนือความคาดหมายเช่นเดียวกัน กับ 2 รูปแบบแบตเตอรี่ และ 3 รุ่นย่อย พร้อมโปรเด็ด ORA Good Cat Ultra Deal

ORA Good Cat ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 105 กิโลวัตต์ (143 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 210 นิวตัน-เมตร ให้อัตราเร่ง 0-50 กม./ชม. ภายใน 3.8 วินาที จำกัดความเร็วสูงสุดไว้ที่ 152 กม./ชม. ถ่ายทอดกำลังผ่านระบบเกียร์ ORA-Goddess Easy Drive พร้อมระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ

การชาร์จแบบเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC (30%–>80%) ใช้เวลาประมาณ ≈32 นาที และ 40 นาที (ในรุ่น 500 Ultra), ชาร์จแบบเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC (0%–>80%) ใช้เวลาประมาณ ≈45 นาที และ ≈60 นาที (ในรุ่น 500 Ultra) กับการชาร์จไฟบ้านแบบ AC ใช้เวลาประมาณ ≈8 ชั่วโมง และ ≈10 ชั่วโมง (ในรุ่น 500 Ultra)

ในราคาเบาๆ 989,000 – 1,199,000 บาท!

Pocco Duoduo

2. Pocco Duoduo

Pocco Duoduo (ป๊อคโค่ ตั่วตั่ว) หรือ 朋克多多 เป็นรถภายใต้แบรนด์ 朋克 (เผิงเค่อ) มาจากภาษาอังกฤษคำว่า Punk (พังก์) เป็นรถพลังงานไฟฟ้าแบบ Tall Boy 4 ประตู (ดูคล้ายกับรถ K-Car ของญี่ปุ่น) นั่งได้ 4-5 ที่นั่ง ผสมผสานการตกแต่งที่เป็นเอกลักษณ์ จุดชาร์จไฟอยู่บริเวณด้านหน้ารถ โดยใช้สีทูโทนเพื่อให้ดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้น เพิ่งเปิดตัวไปในจีนเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 29 กิโลวัตต์ (39 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 110 นิวตัน-เมตร พร้อมแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนฟอสเฟต มีขนาด 10.3 kWh (ใช้เวลาชาร์จ 6-8 ชั่วโมง) สามารถขับขี่ได้เป็นระยะทางประมาณ 128 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC (ไฟบ้าน 0-100%) ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง

และยังมีแบตเตอรี่ขนาด 14.5 kWh (ใช้เวลาชาร์จ 6-8 ชั่วโมง) ที่เพิ่มระยะทางขึ้นเป็น 178 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC ต่อการชาร์จ (ไฟบ้าน 0-100%) หนึ่งครั้ง ให้เลือก ทำความเร็วได้สูงสุด 100 กม./ชม.

สนนราคารุ่น L เริ่มต้นที่ 389,000 บาท! (รุ่นแบตเตอรี่ 10.3 kWh) และรุ่น K ราคา 449,000 บาท (รุ่นแบตเตอรี่ 14.5 kWh)

Pocco Meimei

3. Pocco Meimei

Pocco Meimei Mini EV (ป๊อคโค่ เม่ยเม่ย) หรือ 朋克美美 เป็นรถพลังงานไฟฟ้าแบบ 3 ประตู 4 ที่นั่ง ขนาดเล็ก ที่เปิดตัวในจีนตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา สามารถขับขี่ในเมืองได้อย่างสะดวก กับนวัตกรรมสุดล้ำ ยิ่งทวีคูณความน่ารัก น่าเลิฟ ถูกใจคุณผู้หญิงอย่างแน่นอน

มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 20 กิโลวัตต์ (27 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 100 นิวตัน-เมตร และกำลังสูงสุด 29 กิโลวัตต์ (39 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 105 นิวตัน-เมตร พร้อมแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนฟอสเฟต มีขนาด 9.2 kWh (ใช้เวลาชาร์จ 6-8 ชั่วโมง) สามารถขับขี่ได้เป็นระยะทางประมาณ 116 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC (ไฟบ้าน 0-100%) ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง

และยังมีแบตเตอรี่ขนาด 14 kWh (ใช้เวลาชาร์จ 6-8 ชั่วโมง) ที่เพิ่มระยะทางขึ้นเป็น 170 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC ต่อการชาร์จ (ไฟบ้าน 0-100%) หนึ่งครั้ง ให้เลือก ทำความเร็วได้สูงสุด 100 กม./ชม.

สนนราคารุ่น L เริ่มต้นที่ 399,000 บาท! (รุ่นแบตเตอรี่ 10.3 kWh) และรุ่น K ราคา 469,000 บาท (รุ่นแบตเตอรี่ 14.5 kWh)

Lexus UX300e

4. Lexus UX 300 e

The New All-Electric Lexus UX 300e (เลกซัส ยูเอ็กซ์300อี) จัดเป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกจากค่ายเลกซัส ภายใต้แบรนด์ “LEXUS ELECTRIFIED” ซึ่ง Lexus ประเทศญี่ปุ่น ได้ประกาศอย่างเป็นทางการในงานโตเกียวมอเตอร์โชว์ 2019 เพื่อใช้เป็นกลยุทธ์ในการดำเนินงานของรถยนต์ไฟฟ้าภายใต้แบรนด์เลกซัสทั่วโลก

โดย The New All-Electric Lexus UX 300e ยนตรกรรมรถยนต์ไฟฟ้า มีรูปลักษณ์ภายนอกโดดเด่นด้วยเส้นสายที่เฉียบคม ภายในออกแบบอย่างปราณีต ให้ความสำคัญกับผู้ขับขี่และผู้โดยสารเป็นหลัก พร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานที่ล้ำสมัยสมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยมเหนือใครจากสถาปัตยกรรมโครงสร้างตัวถังแบบใหม่ GA-C (Global Architecture-Compact Platform) ซึ่งมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ การทรงตัวดีเยี่ยม

พร้อมด้วยระบบการขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้าที่สมบูรณ์แบบ ให้พละกำลังสูงสุดถึง 201 แรงม้า อัตราเร่งแรง ดุดัน มีสมรรถนะอันทรงพลัง โดยระยะทางวิ่งได้สูงสุด 360* กม.ต่อการชาร์จไฟหนึ่งครั้ง (ตามมาตรฐาน NEDC)

และชาร์จแบบ Quick DC Charger 0-80% ได้ภายใน 50 นาที สำหรับการชาร์จแบบกระแสตรงผ่านการชาร์จด้วยเครื่องชาร์จ 50 กิโลวัตต์ ด้วยกำลังไฟ 125 แอมป์ โดยแบตเตอรี่มีขนาด 54 kWh

ราคาก็รับได้ 3,490,000 บาท!

Nissan Leaf

5. Nissan Leaf

Nissan Leaf (นิสสัน ลีฟ) “Simply Amazing” เป็นรถยนต์ไฟฟ้าขายดีที่สุดรุ่นหนึ่งของโลก ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า “100%” และมีอัตราการปล่อยมลพิษเป็น “0” และถือเป็นรถค่ายญี่ปุ่นเจ้าแรก ที่กระโดดลงมาทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยอย่างจริงจัง แม้ว่าราคาของตัวรถจะยังสูงอยู่ก็ตาม

Nissan Leaf ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 320 นิวตัน-เมตร ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลา 7.9 วินาที รองรับการขับขี่เป็นระยะทาง 311 กิโลเมตร ต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน NEDC

ติดตั้งแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนความจุ 40 kWh สามารถชาร์จด้วยกำลังไฟขนาด 3.6 kW ได้ในเวลา 12 ชั่วโมง และกำลังไฟขนาด 6.6 kW ในเวลา 6 ชั่วโมง รองรับการชาร์จด่วนจนถึงระดับ 80% ได้ในเวลา 40 นาที

Nissan Leaf ในราคาพร้อมซื้อ 1,490,000 บาท!

MG-EP-Plus

6. MG EP EV Plus

MG EP (เอ็มจี อีพี) รถยนต์ในรูปแบบ Station Wagon ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% ด้วยแนวคิด “EVeryone ตอบโจทย์ทุกฟังก์ชัน รถยนต์พลังงานไฟฟ้าของทุกคน” มีค่าใช้จ่ายการชาร์จไฟฟ้าตั้งแต่0-100% เฉลี่ยเพียง200 บาทหรือเฉลี่ยค่าใช้จ่ายไม่ถึง 1 บาท/กม. จึงทำให้ประหยัดกว่ารถยนต์น้ำมั 2-3 เท่า

ประกอบด้วยองค์ประกอบพื้นฐาน ได้แก่ ขนาดของห้องโดยสารและพื้นที่ใช้สอย ที่กว้างขวางรองรับการบรรทุกทั้งคนและสิ่งของ โดดเด่นด้วยสมรรถนะของ EV เทคโนโลยีที่ให้กำลังเพียงพอต่อการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน พร้อมระบบความปลอดภัยที่ครบครัน นอกจากนี้ ยังมีหน้าจอ Touchscreen ขนาด 8 นิ้ว ที่รองรับการเชื่อมต่อกับ Apple CarPlay

และในส่วนของรุ่น Plus ได้ติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติมทั้งชุดราวหลังคา (Roof Rail) รองรับน้ำหนักได้ถึง 75 กิโลกรัม, ติดตั้งระบบกรองอากาศ PM 2.5 และแผ่นปิดห้องเครื่องด้านหน้า

และสมรรถนะจาก EV เทคโนโลยี (EV Technology) ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่มีกำลังสูงสุด 163 แรงม้า มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายในเวลาเพียง 8.8 วินาที พร้อมโหมดการขับขี่ให้เลือก 3 รูปแบบ คือ Eco, Normal และ Sport รวมทั้งมีระบบชาร์จไฟกลับเมื่อชะลอความเร็ว หรือ KERS Mode รวม 3 ระดับ

สำหรับแบตเตอรี่ของ NEW MG EP เป็นลิเธียมไอออนแบบโมดูล ที่สามารถแยกซ่อมแต่ละโมดูลได้อิสระ โดยมีขนาดความจุถึง 50.3 kWh ให้ระยะทางในการขับขี่ได้ไกลถึง 380 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง

ซึ่งสามารถชาร์จไฟได้ 2 รูปแบบ คือ การชาร์จในรูปแบบ Normal Charge จาก 0-100% ผ่าน MG Home Charger ที่ใช้เวลา 7.15 ชั่วโมง และรูปแบบ Quick Charge จาก 0-80% ผ่านสถานีอัดประจุไฟฟ้าแบบเร็ว ซึ่งใช้ระยะเวลาเพียง 40 นาที

ในราคาเบาๆ 998,000 บาท!

Mercedes-Benz-EQS-450+-AMG-Premium

7. Mercedes-Benz EQS 450+ AMG Premium

Mercedes-Benz EQS 450+ AMG Premium (เมอร์เซเดส-เบนซ์ อีคิวเอส 450+ เอเอ็มจี พรีเมียม) จัดว่าเป็นรถยนต์ไฟฟ้าคันแรกจากแบรนด์ Mercedes-EQ ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน Motor Expo 2021 ครั้งนี้ ซึ่งเป็นการปรับตัวของ Mercedes-Benz จากเน้นผลิต “รถยนต์ไฟฟ้านำ” (Electric-First) เป็นการผลิต “รถยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น” (Electric-Only) ที่จะเกิดขึ้นภายในปี 2030

โดยรถยนต์คันนี้รังสรรค์ขึ้นด้วยแพลตฟอร์มของยานยนต์ไฟฟ้าใหม่ในทุกรายละเอียด ทั้งการออกแบบโครงสร้างทางวิศวกรรม เรื่อยไปจนถึงดีไซน์ภายนอกและภายใน

มาพร้อมขุมพลังไฟฟ้า 100% จากมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวพร้อมความจุของแบตเตอรี่ขนาด 107.8 kWh ให้แรงม้าสูงสุด 333 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 568 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่งที่ยอดเยี่ยมจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 6.2 วินาที ทำความเร็วสูงสุดได้ 210 กม./ชม. ซึ่งด้วยความจุของแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ทำให้รถยนต์คันนี้สามารถวิ่งได้ไกลสูงสุด 770 กิโลเมตร (WLTP) ต่อการชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม 1 ครั้ง

พร้อมขาย และเปิดราคาอย่างเป็นทางการในปี 2565 จ้า

Tesla Model Y

8. Tesla Model Y

Tesla Model Y (เทสลา โมเดล วาย) รถยนต์ไฟฟ้าชื่อดังที่สุดในโลก ในรูปแบบ Crossover 5 ที่นั่งรุ่นล่าสุด สร้างบนพื้นฐานของ Tesla Model 3 กับราคาที่จับต้องได้ ที่แม้ว่าในบ้านเรา Tesla ยังไม่ได้เข้ามาทำตลาดด้วยตัวเอง แต่ก็มีผู้จำหน่ายอิสระได้นำเข้ามาขายกันหลายเจ้าเลยทีเดียว

ขุมพลัง มีให้เลือกทั้งแบบ Single Motor และ Dual Motor ขับเคลื่อนล้อหลัง และแบบ AWD ในรุ่น Dual Motor มอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 283 แรงม้า พร้อมแบตเตอรี่ที่มีให้เลือกทั้งแบบ Standard Plus, Long Range และ Performance เป็นแบบขนาด 75 kWh

ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 5.6 วินาที (Standard Plus), 5 วินาที (Long Range) และ 3.3 วินาที (Performance) ทำความเร็วได้สูงสุด 217 กม./ชม. (Standard Plus, Long Range) และ 250 กม./ชม. (Performance) ให้ระยะทางวิ่ง 455 กิโลเมตร (Single Motor), 542 กิโลเมตร (Dual Motor) และ 528 กิโลเมตร (Performance) ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (คำนวณตามมาตรฐาน WLTP) โดยใช้เวลาชาร์จประมาณ 6 – 6.5 ชั่วโมง

ราคาพิเศษเพียง 2,990,000 บาท! จองในงานพร้อมรับฟรี Wall box (แท่นชาร์จ) จาก Tesla มูลค่ากว่า 5 หมื่นบาท

Audi e-tron Sportback

9. Audi e-tron Sportback

Audi e-tron Sportback (อาวดี้ อี-ทรอน สปอร์ตแบค) นำเข้ามาประเทศไทยเป็นโมเดลที่ 2 ของรถยนต์ไฟฟ้า Audi สะท้อนวิสัยทัศน์ของ Audi ที่ว่า “รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100 % คือ อนาคต” และสะท้อนปรัชญาพื้นฐาน “Vorsprung Durch Technik” โดยมีความสมบูรณ์แบบทั้งด้านดีไซน์ เทคโนโลยี สมรรถนะอันยอดเยี่ยม

มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ อัจฉริยะแบบไฟฟ้า (electric quattro) ติดตั้งแบตเตอรี่แบบลิเธียม-ไอออน ขนาด 95 kWh สามารถขับขี่ได้เป็นระยะทางราว 463 กิโลเมตรต่อการชาร์จแต่ละครั้ง (ตามมาตรฐาน NEDC)

ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าจำนวน 2 ตัว ให้กำลังสูงสุด 360 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 561 นิวตัน-เมตร พร้อม Boost mode ที่ให้กำลังสูงสุดเพิ่มขึ้นเป็น 408 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 664 นิวตัน-เมตร เป็นเวลานาน 8 วินาที ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 6.6 วินาที และ 5.7 วินาที ใน Boost mode ทำความเร็วสูงสุดได้ 200 กม./ชม.

ในราคาจับต้องได้ เพียง 5,299,000 บาท!

Audi e-tron GT

10. Audi e-tron GT

Audi e-tron GT (อาวดี้ อี-ทรอน จีที) ซุปเปอร์คาร์พลังงานไฟฟ้า 100% สเปคไทยพวงมาลัยขวา เป็นยนตรกรรมที่น่าตื่นเต้นที่สุด ฮอตที่สุด หลังจากการเปิดตัวผ่าน Online World Premier ของ AUDI AG เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมา ผลิตจากโรงงาน Böllinger Höfe ประเทศเยอรมนี

เป็นยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นที่ 3 ที่ทาง อาวดี้ ประเทศไทย นำเข้ามาจำหน่าย พร้อมข้อเสนอราคาพิเศษเริ่มต้นเพียง 6,390,000 บาท สำหรับรุ่น e-tron GT quattro ส่วน e-tron GT quattro Performance ราคาเพียง 6,790,000 บาท และตัวท็อปที่สุดคือ RS e-tron GT quattro เปิดตัวในราคาเพียง 9,490,000 บาท พร้อมออฟชั่นจัดเต็ม คุ้มค่าอย่างแน่นอน

มาพร้อมกับนวัตกรรมไฟหน้า Matrix LED with Laser light กับหลังคาพาโนรามิคผสานเทคโนโลยีอันทันสมัยในการกรองแสง โดยมาพร้อมล้อขนาด 20 นิ้ว ดิสก์เบรก 4 ล้อ พร้อมคาลิเปอร์เบรกสีดำ

การออกแบบที่ยึดมั่นใน DNA ของ Audi สะท้อนให้เห็นความโดดเด่นและแตกต่างอย่างลงตัว ด้วยพลังงานจากมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ของ e-motors ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตำแหน่ง กำลังสูงสุด 530 แรงม้า ใน Boost Mode แรงบิดสูงสุด 630 นิวตันเมตร ส่วนในรุ่น Top อย่าง RS ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตำแหน่ง ให้พละกำลังสูงถึง 646 แรงม้า ใน Boost Mode แรงบิดสูงสุด 830 นิวตันเมตร
มาพร้อมกับระบบ Electric quattro ที่เพิ่มสมรรถนะการขับขี่ การทรงตัว และออกตัวในลักษณะเร่งแซงมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ Audi ไม่หยุดที่จะพัฒนาเทคโนโลยี ที่เรียกกันว่า e-sound เสียงสังเคราะห์ e-tron แบบ Sports เพิ่มสุนทรียภาพในการขับขี่ด้วยเสียงสังเคราะห์ ยกระดับให้ความสนุกสนานในการขับรถไฟฟ้าอย่างสมบูรณ์แบบ

อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. 4.1 วินาที ใน Boost Mode ทำความเร็วได้สูงสุด 245 กม./ชม. แบตเตอรี่ไฟฟ้าแรงสูงลิเธียมไอออน ความจุ 93.4 kWh ทำให้ขับได้กว่า 540 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (ตามมาตรฐานการทดสอบแบบ NEDC)

และในรุ่น Top สุด อย่าง RS ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เพียง 3.3 วินาที ใน Boost Mode ทำความเร็วได้สูงสุด 250 กม./ชม. สามารถขับได้ไกลถึง 504 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (ทดสอบตามมาตรฐาน NEDC)

ราคาเริ่มต้นที่ 6,399,000 บาท

Porsche Taycan 4S Cross Turismo

11. Porsche Taycan 4S Cross Turismo

Porsche Taycan 4S Cross Turismo (ปอร์เช่ ไทคานน์ 4เอส ครอส ทัวริสโม) ใหม่ รถสปอร์ตพลังงานไฟฟ้าคันแรกของแบรนด์ในเวอร์ชั่นออฟโรด (Off-Road) ต่อยอดความสำเร็จจาก Taycan โดยยังคงรักษาไว้ซึ่งความโดดเด่นจากนวัตกรรมระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าแรงดัน 800 โวลต์

และมีช่วงล่างที่ประกอบไปด้วย เทคโนโลยีขั้นสูงพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ All-Wheel Drive และระบบถุงลมปรับระดับอัตโนมัติ Adaptive Air Suspension รองรับสมรรถนะการขับขี่รองรับสมรรถนะการขับขี่รูปเเบบสปอร์ตบนเส้นทาง Off-Road และ On Road

รููปลักษณ์ภายนอกใกล้เคียงรถต้นแบบ Mission E Cross Turismo Concept Study ตัวรถมีเส้นโค้งของแนวหลังคา ลาดยาวจรดท้ายให้อารมณ์สปอร์ต มีชื่อเรียกจากบรรดานักออกแบบของปอร์เช่ ว่า “Flyline” พร้อมพื้นที่เหนือศีรษะภายในห้องโดยสารตอนหลังที่เพิ่มขึ้นถึง 47 มม. พื้นที่ท้ายรถมีความจุุมากขึ้นกว่า 1,200 ลิตร พร้อมฝาท้ายขนาดใหญ่ และสามารถติดตั้งจักรยานไว้บริเวณท้ายรถสูงสุดถึง 3 คัน ด้วยจุดยึดแบบ Universal

Porsche Taycan 4S Cross Turismo มาพร้อมกับพละกำลังสูงสุด 490 แรงม้า และ Overboost เป็น 571 แรงม้า ในโหมด Launch Control ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 4.1 วินาที ความเร็วสูงสุด 240 กม./ชม. สามารถขับขี่ได้เป็นระยะทางประมาณ 388-452 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน WLTP)

ในราคาเริ่มต้น 6,790,000 บาท

Mini Electric

12. Mini Electric

MINI Cooper SE (มินิ คูเปอร์ เอสอี) ใหม่ สืบทอดตำนานความคลาสสิกตามแบบฉบับมินิ 3 ประตู ในรูปแบบรถยนต์ไฟฟ้า

ดีไซน์ภายนอกมาพร้อมการออกแบบที่โดดเด่นและชัดเจน สะท้อนถึงเทคโนโลยีแห่งอนาคตที่ล้ำสมัย มาพร้อมไฟหน้า LED พร้อมล้ออัลลอยน้ำหนักเบาขนาด 17 นิ้ว ลาย MINI Electric Power Spoke พร้อมยางรันแฟลตพิเศษเฉพาะ ฝาครอบที่ชาร์จไฟฟ้าอยู่เหนือล้อหลังด้านขวา ตำแหน่งเดียวกับฝาถังน้ำมันของมินิ 3 ประตู บนฝาแสดงสัญลักษณ์ MINI Electric

ขุมพลังแบบมอเตอร์ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงรุ่นใหม่ล่าสุดที่ BMW Group ได้พัฒนาขึ้น ประกอบด้วยเซลล์แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนจำนวน 12 โมดูล ติดตั้งในรูปทรงตัว T บริเวณใต้รถ จุพลังงานไฟฟ้ารวม 32.6 kWh ให้กำลังสูงสุด 184 แรงม้า และมอบแรงบิดสูงสุด 270 นิวตันเมตร ได้ทันทีที่เท้าแตะคันเร่งแม้จากรถหยุดนิ่ง ส่งความเร็วจาก 0 ถึง 60 กม./ชม. ได้ภายใน 3.9 วินาที โดยมอบพลังหากชาร์จเต็มหนึ่งครั้งสามารถวิ่งได้ระยะทาง 217 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน NEDC)

ตำแหน่งที่ตั้งของแบตเตอรี่แรงดันสูงบริเวณใต้ท้องรถ ระหว่างเบาะนั่งด้านหน้าไปจนถึงบริเวณใต้เบาะหลัง ทำให้มินิ คูเปอร์ เอสอี มีพื้นที่ในการเก็บสัมภาระมากกว่ารุ่นอื่นๆ และเพื่อเป็นการสร้างระยะห่างจากแบตเตอรี่ใต้ท้องรถและพื้นถนน จึงได้รับการออกแบบให้สูงกว่ามินิรุ่นอื่นๆ 18 มิลลิเมตร

MINI Cooper SE ยังติดตั้งระบบการจำลองเสียงเพื่อเตือนคนเดินถนน ซึ่งเป็นเสียงเฉพาะรุ่นเท่านั้น โดยจำลองเสียงผ่านทางระบบลำโพงสำหรับขณะขับขี่ที่ความเร็วต่ำ โดยทุกชิ้นส่วนของระบบการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า จะถูกปกป้องด้วยโครงสร้างที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ และจะหยุดการทำงานทั้งหมดทันทีหากเกิดการชน

มาในราคา 2,290,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม โปรแกรมบำรุงรักษา MSI Standard)

Volvo XC40 Recharge

13. Volvo XC40 Recharge

Volvo XC40 Recharge Pure Electric (วอลโว่ เอ็กซ์ซี40 เพียว อิเล็กทริค) รถยนต์ไฟฟ้าแบบ Crossover SUV ขนาด Compact รุ่นแรกจากค่าย Volvo ที่ทำตลาดอย่างเป็นทางการในไทย เปิดตัว (แต่ไม่มีรถตัวจริงมาโชว์) ไปในงาน Motor Show 2021 ที่ผ่านมา

ภายนอกใช้กระจังหน้าเป็นแบบยูนิบอดี้ เพื่อบ่งบอกให้รู้ว่านี่คือรถตระกูลไฟฟ้าของ Volvo พร้อมการตกแต่งภายในระดับพรีเมียมด้วยวัสดุหนังสีดำ รวมถึงระบบปฏิบัติการ Android Automotive OS ที่พัฒนาร่วมกับ Google ที่ใช้ในการขับขี่ และระบบความปลอดภัยขั้นสูงเต็มรูปแบบ

มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าติดตั้ง 2 ตำแหน่งขนาด 204 แรงม้า ที่ด้านหน้าและด้านหลัง ซึ่งส่งกำลังไปยังล้อโดยตรง ให้กำลังรวมสูงสุด 408 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 660 นิวตันเมตร พร้อมความจุแบตเตอรี่ไฟฟ้าแรงสูงแบบลิเธียมไอออน ขนาด 78 kWh

ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 4.9 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ 180 กม./ชม. ให้ระยะทางวิ่งได้สูงสุด 418 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP  ต่อการชาร์จเต็มในแต่ละครั้ง สามารถชาร์จผ่าน Wallbox ขนาด 11 kw จาก 0-100% ได้ในเวลาประมาณ 6-8 ชั่วโมง และรองรับระบบชาร์จด่วนจนถึงระดับ 80% ในเวลาประมาณ 40 นาที

สำหรับราคาจำหน่าย ยังครอบคลุมถึงค่าบริการชาร์จไฟจาก EA Anywhere เป็นเวลา 1 ปีเต็ม

BMW iX3 M Sport

14. BMW iX3 M Sport

BMW iX3 M Sport (บีเอ็มดับเบิลยู ไอเอ็กซ์3 เอ็ม สปอร์ต) ตัวรถเอกลักษณ์สุดล้ำ ประสานประสิทธิภาพของมอเตอร์ไฟฟ้าเข้ากับความหนาแน่นและความจุพลังงานไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นของแบตเตอรี่แรงดันสูง มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า แผงวงจรไฟฟ้า เทคโนโลยีการชาร์จ และแบตเตอรี่แรงดันสูงรุ่นล่าสุด ที่ได้รับการยกระดับในด้านสมรรถนะการทำงาน การใช้พลังงานไฟฟ้า และระยะทางในการขับขี่ อีกทั้งยังเพิ่มความหนาแน่นและศักยภาพของกำลังไฟฟ้าด้วยการรวมมอเตอร์ไฟฟ้า วงจรอิเล็กทรอนิกส์ และระบบเกียร์ไว้ภายใต้โครงสร้างเดียวกัน เช่นเดียวกับ BMW iX

ระบบขับเคลื่อนรุ่นใหม่ใน BMW iX3 M Sport ส่งพละกำลังสูงสุด 286 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ซึ่งโดดเด่นว่ามอเตอร์ไฟฟ้าในรุ่นอื่นๆ ด้วยความสามารถในการคงแรงบิดได้แม้ระหว่างรอบสูง โลดแล่นจาก 0 ถึง 100 กม./ชม. ภายใน 6.8 วินาที ทำความเร็วสูงสุด 180 กม./ชม.

ขับขี่สนุกอย่างอุ่นใจด้วยระบบป้องกันการลื่นไถลของล้อ (Near-Actuator Wheel Slip Limitation) ปริมาตรความจุแบตเตอรี่เพิ่มขึ้นกว่าเดิมอย่างมากเมื่อเปรียบเทียบกับพื้นที่การติดตั้งและน้ำหนัก ส่วนความจุพลังงานรวมอยู่ที่ 80kWh เพื่อขับเคลื่อนให้ BMW iX3 ขับขี่ได้ไกลถึง 460 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP และ 470 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC

สนนราคา 3,399,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม แพ็คเกจบำรุงรักษา BSI Standard นาน 4 ปี และแท่นชาร์จ BMW i Wallbox จำนวนจำกัด)

BMW iX xDrive50 Sport

15. BMW iX

BMW iX (บีเอ็มดับเบิลยู ไอเอ็กซ์) มาพร้อมเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าใหม่ล่าสุด พร้อมความล้ำยุคด้านเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติและการเชื่อมต่ออีกมากมาย มาพร้อมเทคโนโลยี BMW eDrive และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบไฟฟ้า ซึ่งทำงานร่วมกันเพื่อสร้างสมรรถนะการขับขี่ในระยะยาวไกลยิ่งขึ้นและอัตราเร่งที่ทรงพลัง

BMW iX xDrive50 Sport ส่งพละกำลังรวมสูงสุด 385 กิโลวัตต์/523 แรงม้า ระบบ BMW eDrive เจเนอเรชั่นที่ห้านี้ยังทำงานพร้อมเทคโนโลยีเซลล์แบตเตอรี่ล่าสุด มอบระยะทางขับเคลื่อนตามมาตรฐาน WLTP สูงสุดถึง 630 กิโลเมตร สร้างแรงบิดรวมได้สูงสุดถึง 765 นิวตันเมตร ระบบป้องกันการลื่นไถลของล้อ (Near-Actuator Wheel Slip Limitation) ได้รับการติดตั้งควบคู่กับระบบ AWD เป็นครั้งแรก ช่วยป้องกันการลื่นไถลของล้อและเพิ่มความเสถียรภาพในการควบคุมรถยิ่งขึ้นอีกระดับ จึงโลดแล่นด้วยความเร็วจาก 0 ถึง 100 กม./ชม. ได้ภายใน 4.6 วินาที

แบตเตอรี่แรงดันสูงใน BMW iX xDrive50 Sport มีความจุพลังงานรวม 111.5 kWh หัวชาร์จแบบ Combined Charging Unit (CCU) ได้รับการออกแบบมาเพื่อมอบการชาร์จที่ยืดหยุ่น รองรับการชาร์จแบบ DC ได้สูงสุด 200 กิโลวัตต์ และสำหรับการชาร์จจากเครื่องชาร์จ 100 กิโลวัตต์นั้น จะใช้เวลาราว 56 นาที ในการชาร์จจาก 10% ถึง 80%

ระบบการนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่แบบแปรผัน (Adaptive Recuperation) ช่วยเสริมประสิทธิภาพและระยะการขับขี่ของบีเอ็มดับเบิลยู iX xDrive50 Sport ด้วยการดึงพลังงานจากระบบเบรกกลับมาใช้ใหม่ให้เหมาะสมกับสภาวะการขับขี่ โดยใช้ข้อมูลจากระบบนำทางและเซนเซอร์จากระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ยกตัวอย่างเช่น เมื่อรถเข้าใกล้ทางแยก ระดับการดึงพลังงานกลับมาใช้ใหม่จะเพิ่มสูงขึ้น เพื่อเติมพลังงานไฟฟ้ากลับเข้าสู่แบตเตอรี่แรงดันสูง ในขณะเดียวกันก็จะทำให้ความเร็วการขับขี่ลดลง และจะทำงานสลับกับฟังก์ชั่น Coasting ขณะขับขี่บนท้องถนน ซึ่งช่วยให้รถเคลื่อนที่ได้โดยไม่ต้องใช้พลังงานเมื่อผู้ขับขี่ยกเท้าออกจากแป้นคันเร่ง ผู้ขับขี่สามารถเลือกระดับการนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่ได้ตามต้องการ ระหว่างระดับสูง ปานกลาง และต่ำ โดยเมื่อเลือกขับขี่ด้วยเกียร์ B ระบบ Recuperation จะทำงานที่ระดับสูงสุดโดยอัตโนมัติเพื่อสร้างประสบการณ์ในการขับขี่แบบ One-Pedal Feeling

ราคาเบาๆ เพียง 5,999,000 บาท!

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

ถ้าใครอยากขายรถคันเดิม เพื่อนำเงินไปโปะรถคันใหม่ จะได้ผ่อนดาวน์กันน้อยลง มาขายรถกับทาง CARRO Express ได้ที่  https://th.carro.co/sell-car/express หรือถ้าหากต้องการซื้อรถคุณภาพเยี่ยม CARRO เราก็มีพร้อมให้คุณเลือกอย่างมากมายด้วยเช่นกัน พร้อมรับประกันสูงสุดถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร กับ CARRO Automall ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://th.carro.co/taladrod/

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

และอีกหนึ่งบริการใหม่! CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น!

รถของเราทุกคันผ่านการตรวจสภาพ 200 จุด และยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ให้คุณเลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา พร้อมรับประกันคุณภาพรถนาน 1 ปี หรือสูงสุด 30,000 กิโลเมตร อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย เรามีรถให้คุณเลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

รู้จัก Pocco Meimei รถยนต์ไฟฟ้าคันจิ๋ว เริ่มต้น 399,000 บาท เปิดตัวในงาน Motor Expo 2021

ในบทความก่อนหน้านี้ MR.CARRO ได้ทำการแนะนำรถยนต์ไฟฟ้า (รถ EV) น้องใหม่ล่าสุดจากเมืองจีนที่มีชื่อว่า “Pocco” (ป๊อคโค่) ในรุ่น Pocco Duoduo (ป๊อคโค่ ตั่วตั่ว) หรือ 朋克多多 โดยผู้จำหน่ายอิสระ BRG Group ได้เปิดบริษัทย่อย Pocco (Thailand) Co., Ltd. พร้อมนำเข้าและแนะนำตัวจริงกันในงาน Motor Expo 2021 ครั้งนี้แล้ว

โดย Pocco จัดเป็นรถ EV นวัตกรรมใหม่แห่งอนาคต ด้วย Concept ที่ว่า Fashion – Small – New – Trendy – Fine สร้างขึ้นโดย Pocco Auto ภายใต้ Yogomo Group ซึ่งเป็นกลุ่มแรกๆ ในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของจีน ที่เคยได้รางวัลรางวัลชนะเลิศด้านการขายรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กเป็นเวลา 7 ปีซ้อนอีกด้วย และยังมีฐานลูกค้ามากกว่า 1 ล้านรายเลยทีเดียว

รู้จัก Pocco Meimei รถยนต์ไฟฟ้าคันจิ๋ว ในราคา 399,000 – 469,000 บาท เปิดตัวในงาน Motor Expo 2021 เช่นกัน!

บทความนี้ จะพาทุกท่านมารู้จักกับรถยนต์ไฟฟ้า Pocco เพิ่มเติมอีกรุ่น นั่นก็คือ Pocco Meimei Mini EV (ป๊อคโค่ เม่ยเม่ย) หรือ 朋克美美 เป็นรถพลังงานไฟฟ้าแบบ 3 ประตู 4 ที่นั่ง ขนาดเล็ก ที่เปิดตัวในจีนตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา สามารถขับขี่ในเมืองได้อย่างสะดวก กับนวัตกรรมสุดล้ำ ยิ่งทวีคูณความน่ารัก น่าเลิฟ ถูกใจคุณผู้หญิงอย่างแน่นอนครับ

รู้จัก Pocco Meimei รถยนต์ไฟฟ้าคันจิ๋ว ในราคา 399,000 – 469,000 บาท เปิดตัวในงาน Motor Expo 2021 เช่นกัน!

สำหรับรูปทรงภายนอกของ Pocco Meimei มาพร้อมดีไซน์ที่น่ารัก ทันสมัย ไฟหน้าแบบ 2 ชั้น โดยชั้นแรกเป็นไฟ Daytime Running Light และไฟหลักอยู่บริเวณกันชน มีจุดชาร์จไฟอยู่บริเวณด้านหน้ารถ และไฟท้ายรูปทรงแนวยาว เน้นความคล่องตัวในการใช้งาน ตัวรถใช้สีทูโทนเพื่อให้ดูสปอร์ต

มิติตัวรถยาว 3,025 มม. ความกว้าง 1,500 มม. ความสูง 1,515 มม. ระยะฐานล้อ 1,950 มม. และความสูงจากพื้นรถ 120 มม. พร้อมยางขนาด 155/65R14

รู้จัก Pocco Meimei รถยนต์ไฟฟ้าคันจิ๋ว ในราคา 399,000 – 469,000 บาท เปิดตัวในงาน Motor Expo 2021 เช่นกัน!

ห้องโดยสารภายใน ออกแบบเรียบง่ายและตกแต่งด้วยสีทูโทนเช่นกัน หน้าปัดแบบดิจิตอล ช่องแอร์เป็นแบบทรงตะแกรง พวงมาลัย 2 ก้าน รูปทรงสปอร์ต พร้อมเบาะผ้าแบบหล่อขึ้นรูป บวกกับเดินด้านสีขาว ดูโดดเด่น มีอุปกรณ์มาตรฐานต่าง ๆ ครบทั้งแอร์ วิทยุแบบหน้าจอสัมผัส พร้อมช่องต่อ USB บลูทูธ และกล้องมองหลัง กระจกไฟฟ้า กับชุดเกียร์แบบอิเล็กทรอนิกส์ ใช้หมุนไป-มา ในการเปลี่ยน ส่วนเบรกมือเป็นแบบเท้าเหยียบ

เบาะนั่งแถวหลังค่อนข้างเล็ก (ซึ่งเหมาะสำหรับให้เด็ก ๆ นั่งมากกว่า) แต่สามารถพับลงเพื่อเพิ่มเนื้อที่เก็บวางสัมภาระได้

รู้จัก Pocco Meimei รถยนต์ไฟฟ้าคันจิ๋ว ในราคา 399,000 – 469,000 บาท เปิดตัวในงาน Motor Expo 2021 เช่นกัน!

ส่วนระบบขับเคลื่อน มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 20 กิโลวัตต์ (27 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 100 นิวตัน-เมตร และกำลังสูงสุด 29 กิโลวัตต์ (39 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 105 นิวตัน-เมตร ทำความเร็วได้สูงสุด 100 กม./ชม.

ขณะที่แบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนฟอสเฟต มีขนาด 9.2 kWh (ใช้เวลาชาร์จ 6-8 ชั่วโมง) สามารถขับขี่ได้เป็นระยะทางประมาณ 116 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC (ไฟบ้าน 0-100%) ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และยังมีแบตเตอรี่ขนาด 14 kWh (ใช้เวลาชาร์จ 6-8 ชั่วโมง) ที่เพิ่มระยะทางขึ้นเป็น 170 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC ต่อการชาร์จ (ไฟบ้าน 0-100%) หนึ่งครั้ง ให้เลือก

และพิเศษสุด! ที่ผู้ผลิตกล้ารับประกันชุดมอเตอร์ไฟฟ้า และแบตเตอรี่มากถึง 8 ปี หรือ 120,000 กิโลเมตร ด้วยนะจ๊ะ (เฉพาะในประเทศจีนเท่านั้น)

ส่วนระบบเบรก มาพร้อมระบบเบรก ABS และ EBD เป็นมาตรฐาน

สำหรับราคาจำหน่าย เริ่มต้นที่ 29,800 หยวน (ประมาณ 154,000 บาท) ถึง 46,800 หยวน (ประมาณ 242,000 บาท)

รู้จัก Pocco Meimei รถยนต์ไฟฟ้าคันจิ๋ว ในราคา 399,000 – 469,000 บาท เปิดตัวในงาน Motor Expo 2021 เช่นกัน!

สำหรับในไทยเองนั้น Pocco Duoduo ตอนนี้ได้มีผู้จำหน่ายอิสระ BRG Group ได้เปิดบริษัทย่อย Pocco (Thailand) Co., Ltd. เตรียมนำเข้ารถรุ่นนี้มาเปิดตัวจำหน่ายในงาน Motor Expo 2021 กันแล้ว สนนราคารุ่น L เริ่มต้นที่ 399,000 บาท! (รุ่นแบตเตอรี่ 10.3 kWh) และรุ่น K ราคา 469,000 บาท (รุ่นแบตเตอรี่ 14.5 kWh)

แถมรับข้อเสนอสุดพิเศษฟรีประกันภัยชั้น 1 และรับประกันแบตเตอรี่นานถึง 5 ปี หรือ 80,000 กม. พร้อมของแถมอีกมากมาย

เอาเป็นว่าใครสนใจอยากเป็นเจ้าของ ก็เตรียมตัวไปดูของจริงกันได้ที่งาน Motor Expo 2021 นะครับ!

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

ถ้าใครสนใจอยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์ไฟฟ้า หรือจะรับเป็นเงินก้อนไปใช้ สามารถนำรถคันเดิมมาขายกับ CARRO ได้เลย เราพร้อมรับซื้อรถของคุณ ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ CARRO Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน Fanpage CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

สำหรับใครที่อยากซื้อรถยนต์ไฟฟ้าคันใหม่ แต่ถ้ามีงบไม่พอ มาขายรถคันเดิมกับ CARRO Express สิ! Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

และอีกหนึ่งบริการใหม่! CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น!

รถของเราทุกคันผ่านการตรวจสภาพ 200 จุด และยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ให้คุณเลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา พร้อมรับประกันคุณภาพรถนาน 1 ปี หรือสูงสุด 30,000 กิโลเมตร อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย เรามีรถให้คุณเลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

แหล่งที่มาบางส่วนจาก:

Pocco Duoduo รถยนต์ไฟฟ้าใหม่ล่าสุด เริ่มต้น 389,000 บาท เปิดตัวใน Motor Expo 2021

ทุกวันนี้รถยนต์ไฟฟ้า (รถ EV) จาก “ประเทศจีน” เริ่มมีบทบาทในวงการรถยนต์โลกมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็นหนึ่งในผู้นำรถยนต์ไฟฟ้าของโลกด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยบวกกับความสามารถในการผลิต ความต้องการมหาศาล และความหลากหลายของสารพัดแบรนด์ สารพัดรุ่น

ซึ่งในประเทศจีนนั้น รถยนต์ไฟฟ้าที่ได้รับความนิยมมาก จะเป็นรถประเภทขนาดจิ๋ว ขนาดเล็ก แบบ Crossover และ SUV เป็นต้น

ซึ่งรถ EV ที่ MR.CARRO จะมาแนะนำในวันนี้ เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่เตรียมมาเปิดตัวอย่างเป็นทางการในไทยอีกแบรนด์ นั่นคือ “Pocco” (ป๊อคโค่) หลายคนอาจไม่รู้จักมาก่อน ทำไมชื่อถึงพ้องกับมือถือแบรนด์หนึ่งจากจีน ไม่เป็นไร เดี๋ยวจะมาแนะนำให้รู้จักกันครับ

รู้จัก Pocco Duoduo รถยนต์ไฟฟ้าน้องใหม่ล่าสุด ในราคา 389,000 - 449,000 บาท เตรียมเปิดตัวในงาน Motor Expo 2021!

Pocco จัดเป็นรถ EV นวัตกรรมใหม่แห่งอนาคต ด้วย Concept ที่ว่า Fashion – Small – New – Trendy – Fine สร้างขึ้นโดย Pocco Auto ภายใต้ Yogomo Group ซึ่งเป็นกลุ่มแรก ๆ ในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของจีน ที่เคยได้รางวัลรางวัลชนะเลิศด้านการขายรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กเป็นเวลา 7 ปีซ้อนอีกด้วย และยังมีฐานลูกค้ามากกว่า 1 ล้านรายเลยทีเดียว

รู้จัก Pocco Duoduo รถยนต์ไฟฟ้าน้องใหม่ล่าสุด ในราคา 389,000 - 449,000 บาท เตรียมเปิดตัวในงาน Motor Expo 2021!

สำหรับ Pocco Duoduo (ป๊อคโค่ ตั่วตั่ว) หรือ 朋克多多 เป็นรถภายใต้แบรนด์ 朋克 (เผิงเค่อ) มาจากภาษาอังกฤษคำว่า Punk (พังก์) เป็นรถพลังงานไฟฟ้าแบบ Tall Boy 4 ประตู (ดูคล้ายกับรถ K-Car ของญี่ปุ่น) นั่งได้ 4-5 ที่นั่ง ผสมผสานการตกแต่งที่เป็นเอกลักษณ์ จุดชาร์จไฟอยู่บริเวณด้านหน้ารถ โดยใช้สีทูโทนเพื่อให้ดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้น เพิ่งเปิดตัวไปในจีนเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

มิติตัวรถยาว 3,310 มม. ความกว้าง 1,500 มม. ความสูง 1,588 มม. ระยะฐานล้อ 2,275 มม. และความสูงจากพื้นรถ 120 มม. พร้อมยางขนาด 155/65R13

รู้จัก Pocco Duoduo รถยนต์ไฟฟ้าน้องใหม่ล่าสุด ในราคา 389,000 - 449,000 บาท เตรียมเปิดตัวในงาน Motor Expo 2021!

ห้องโดยสารภายใน ออกแบบเรียบง่ายและตกแต่งด้วยสีทูโทนเช่นกัน หน้าปัดแบบดิจิตอล ช่องแอร์เป็นแบบทรงรังผึ้ง พร้อมเบาะผ้าแบบหล่อขึ้นรูป มีอุปกรณ์มาตรฐานต่างๆ เช่น แอร์ วิทยุแบบหน้าจอสัมผัส พร้อมช่องต่อ USB และบลูทูธ กระจกไฟฟ้า 4 บาน เกียร์แบบอิเล็กทรอนิกส์ ใช้หมุนไป-มา ในการเปลี่ยน ส่วนเบรกมือเป็นแบบเท้าเหยียบครับ

รู้จัก Pocco Duoduo รถยนต์ไฟฟ้าน้องใหม่ล่าสุด ในราคา 389,000 - 449,000 บาท เตรียมเปิดตัวในงาน Motor Expo 2021!

เบาะนั่งแถวหลังสามารถพับลง เพื่อวางกระเป๋าเดินทาง หรือรถจักรยานพับได้ โดยมีเนื้อที่มากถึง 987 ลิตร และมีจุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX บริเวณเบาะนั่งด้านหลังมาให้ ส่วนกระจกด้านหลัง เป็นแบบเปิดออกได้ทั้งบาน

ส่วนระบบขับเคลื่อน มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 29 กิโลวัตต์ (39 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 110 นิวตัน-เมตร ทำความเร็วได้สูงสุด 100 กม./ชม.

รู้จัก Pocco Duoduo รถยนต์ไฟฟ้าน้องใหม่ล่าสุด ในราคา 389,000 - 449,000 บาท เตรียมเปิดตัวในงาน Motor Expo 2021!

ขณะที่แบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนฟอสเฟต มีขนาด 10.3 kWh (ใช้เวลาชาร์จ 6-8 ชั่วโมง) สามารถขับขี่ได้เป็นระยะทางประมาณ 128 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC (ไฟบ้าน 0-100%) ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และยังมีแบตเตอรี่ขนาด 14.5 kWh (ใช้เวลาชาร์จ 6-8 ชั่วโมง) ที่เพิ่มระยะทางขึ้นเป็น 178 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC ต่อการชาร์จ (ไฟบ้าน 0-100%) หนึ่งครั้ง ให้เลือก

และพิเศษสุด! ที่ผู้ผลิตกล้ารับประกันชุดมอเตอร์ไฟฟ้า และแบตเตอรี่มากถึง 8 ปี หรือ 120,000 กิโลเมตร ด้วยนะจ๊ะ (เฉพาะในประเทศจีนเท่านั้น)

ส่วนระบบเบรก มาพร้อมระบบเบรก ABS / EBD และ CBC เป็นมาตรฐาน

สำหรับราคาจำหน่าย เริ่มต้นที่ 28,800 หยวน (ประมาณ 148,000 บาท) ถึง 39,800 หยวน (ประมาณ 205,000 บาท)

รู้จัก Pocco Duoduo รถยนต์ไฟฟ้าน้องใหม่ล่าสุด ในราคา 389,000 - 449,000 บาท เตรียมเปิดตัวในงาน Motor Expo 2021!

สำหรับในไทยเองนั้น Pocco Duoduo ตอนนี้ได้มีผู้จำหน่ายอิสระ BRG Group ได้เปิดบริษัทย่อย Pocco (Thailand) Co., Ltd. เตรียมนำเข้ารถรุ่นนี้มาเปิดตัวจำหน่ายในงาน Motor Expo 2021 กันแล้ว สนนราคารุ่น L เริ่มต้นที่ 389,000 บาท! (รุ่นแบตเตอรี่ 10.3 kWh) และรุ่น K ราคา 449,000 บาท (รุ่นแบตเตอรี่ 14.5 kWh)

แถมรับข้อเสนอสุดพิเศษฟรีประกันภัยชั้น 1 และรับประกันแบตเตอรี่นานถึง 5 ปี หรือ 80,000 กม. พร้อมของแถมอีกมากมาย

เอาเป็นว่าใครสนใจอยากเป็นเจ้าของ ก็เตรียมตัวไปดูของจริงกันได้ที่งาน Motor Expo 2021 นะครับ!

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

ถ้าใครสนใจอยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์ไฟฟ้า หรือจะรับเป็นเงินก้อนไปใช้ สามารถนำรถคันเดิมมาขายกับ CARRO ได้เลย เราพร้อมรับซื้อรถของคุณ ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ CARRO Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน Fanpage CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

สำหรับใครที่อยากซื้อรถยนต์ไฟฟ้าคันใหม่ แต่ถ้ามีงบไม่พอ มาขายรถคันเดิมกับ CARRO Express สิ! Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

และอีกหนึ่งบริการใหม่! CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น!

รถของเราทุกคันผ่านการตรวจสภาพ 200 จุด และยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ให้คุณเลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา พร้อมรับประกันคุณภาพรถนาน 1 ปี หรือสูงสุด 30,000 กิโลเมตร! อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! เรามีรถให้คุณเลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

แหล่งที่มาบางส่วนจาก:

รวมรถใหม่ เตรียมเปิดตัวก่อนและในงาน Motor Expo 2021

“มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 38” หรือ The 38th Thailand International Motor Expo 2021 ภายใต้แนวคิด “มหกรรมสุขสันต์คนรักยานยนต์” หรือ “TIME to ENJOY!” หลังจากที่ต้องเผชิญกับโควิด-19 มาอย่างหนักทั้งปี จนอ่วมไปตามๆ กัน ทั้งตัวค่ายรถเอง และผู้บริโภคเอง กำลังซื้อหดหายไปอย่างมากในปีนี้

โดยงาน Motor Expo 2021 พร้อมจัดงานในยุค New Normal เตรียมนำรถใหม่ 2021 และรถใหม่ 2022 พร้อมรถรุ่นพิเศษ มาจัดแสดงส่งท้ายปี 2021 โดยงานมอเตอร์เอ็กซ์โป ปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 – 12 ธันวาคม 2564 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ 1-3 เมืองทองธานี

CARRO ขอนำเสนอรถยนต์ใหม่ๆ ที่น่าสนใจ เปิดตัวทั้งก่อนงาน ตั้งแต่ในเดือนตุลาคม – พฤศจิกายน และในงาน Motor Expo 2021 ที่บริษัทรถยนต์หลายแบรนด์ ได้เปิดตัวรถรุ่นใหม่แบบออนไลน์กันไปหลายค่าย CARRO มาแนะนำให้ทุกท่านได้ทราบข้อมูลและรายละเอียดต่างๆ ครับผม …

รวมรถใหม่ เตรียมเปิดตัวก่อนและในงาน Motor Expo 2021

1. Haval H6 PHEV

หลังจากที่ Great Wall Motor (เกรท วอลล์ มอเตอร์) ประเทศไทย ได้เปิดตัว All-New Haval H6 Hybrid SUV (ฮาวาล เอช6) อย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา ก็ได้เสียงตอบรับจากคนไทยเป็นอย่างดี ซึ่งมีให้เลือกด้วยกันถึง 2 รุ่นย่อย ได้แก่รุ่น PRO ราคา 1,149,000 บาท และรุ่น ULTRA ราคา 1,249,000 บาท โดยเป็นราคาแบบ “One Price” ราคาเดียวกันในทุกๆ ช่องทางการขาย

แต่ข่าวดีสำหรับคนชอบ Haval H6 ที่มีกระแสจะมีรุ่นใหม่มาในปลายปีนี้อีก นั่นคือรุ่น Plug-In Hybrid (ปลั๊กอินไฮบริด) หรือ PHEV แบบเสียบปลั๊กชาร์จไฟได้ เวอร์ชั่นพวงมาลัยขวาคันแรกของโลก เตรียมเปิดตัวในไทย!

กับขุมพลังเบนซินขนาด 1.5 ลิตร รหัส GW4B15 GDIT EVO พ่วงระบบเทอร์โบแปรผันและซูเปอร์ชาร์จ ให้แรงม้าสูงสุดมากกว่า 150 แรงม้า วางมอเตอร์คู่ พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 45 kWh บนระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ สามารถวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนๆ เตรียมมาโชว์ตัวในงาน Motor Expo 2021 ครั้งนี้ด้วย

รวมรถใหม่ เตรียมเปิดตัวก่อนและในงาน Motor Expo 2021

2. Haval Jolion

All-New HAVAL Jolion Hybrid SUV (ฮาวาล โจไลอ้อน) นับเป็นรถยนต์รุ่นที่ 2 ของ Haval จากสายการผลิตที่โรงงานระยอง นี่ก็เตรียมเปิดตัวในไทยคันแรกของโลก (ที่เป็นรุ่นพวงมาลัยขวา) เช่นกันครับ โดยรถ SUV รุ่น HAVAL Jolion เปิดตัวครั้งแรกในประเทศจีน เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา

ความพิเศษของรถรุ่นนี้ อยู่ที่การใช้แพลตฟอร์ม GWM LEMON แพลตฟอร์มโมดูล่าร์อัจฉริยะแบบเดียวกับรถยนต์ All New HAVAL H6 Hybrid SUV และพกพาความหรูหรามารอบคันทีเดียว ห้องโดยสารภายใต้แนวคิด “Future Intelligent Cockpit” กว้างขวาง สะดวกสบาย

พร้อมการขับเคลื่อนเต็มสมรรถนะ ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Hybrid ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 375 นิวตันเมตร พร้อมระบบเกียร์แบบ DHT ที่สร้างขึ้นเพื่อรองรับระบบการขับเคลื่อนที่หลากหลายของรถยนต์ไฮบริด เมื่อทํางานร่วมกับเครื่องยนต์ สร้างการขับเคลื่อนที่พลังและประหยัดน้ำมัน

เตรียมมาโชว์ตัวในงาน Motor Expo 2021 ครั้งนี้แน่นอน

ORA Good Cat 2022

3. ORA Good Cat

ORA Good Cat (โอร่า กู๊ดแคท) เรียกได้ว่าแรงจนฉุดไม่อยู่เลยจริงๆ สำหรับเจ้าแมวเหมียวไฟฟ้าคันนี้ ที่พายอดจองไปอย่างเหนือความคาดหมาย แต่ราคาเปิดออกมาก็ดูเหนือความคาดหมายเช่นเดียวกัน กับ 2 รูปแบบแบตเตอรี่ และ 3 รุ่นย่อย พร้อมโปรเด็ด ORA Good Cat Ultra Deal

อ่านเพิ่มเติม >> ORA Good Cat 2022 ใหม่ แบตเตอรี่ 2 แบบ 3 รุ่นย่อย พร้อมโปรเด็ด เปิดราคา 989,000 – 1,199,000 บาท

ORA Good Cat ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 105 กิโลวัตต์ (143 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 210 นิวตัน-เมตร ให้อัตราเร่ง 0-50 กม./ชม. ภายใน 3.8 วินาที จำกัดความเร็วสูงสุดไว้ที่ 152 กม./ชม. ถ่ายทอดกำลังผ่านระบบเกียร์ ORA-Goddess Easy Drive พร้อมระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ

การชาร์จแบบเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC (30%–>80%) ใช้เวลาประมาณ ≈32 นาที และ 40 นาที (ในรุ่น 500 Ultra), ชาร์จแบบเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC (0%–>80%) ใช้เวลาประมาณ ≈45 นาที และ ≈60 นาที (ในรุ่น 500 Ultra) กับการชาร์จไฟบ้านแบบ AC ใช้เวลาประมาณ ≈8 ชั่วโมง และ ≈10 ชั่วโมง (ในรุ่น 500 Ultra)

New Toyota Camry 2022

4. Toyota Camry

มาดูค่ายรถญี่ปุ่นอย่าง Toyota (โตโยต้า) กันบ้าง ที่เพิ่งเปิดตัว Toyota Camry (โตโยต้า คัมรี่) โฉมไมเนอร์เชนจ์เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมา แม้ว่าจะดูเงียบเหงาไปบ้าง โดยมาพร้อมแนวคิด “The Absolute Perfection ความสมบูรณ์แบบที่เป็นคุณ” เพิ่มความสปอร์ตด้วยดีไซน์ใหม่ พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวก และฟังก์ชั่นความปลอดภัย Toyota Safety Sense เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด ในราคา 1,475,000 – 1,809,000 บาท

ด้วยดีไซน์กระจังหน้าแบบใหม่ ประดับคิ้วโครเมียม ชุดไฟหน้าโฉบเฉี่ยว มีกล้องมองรอบคัน 360 องศา เพิ่มขนาดล้ออัลลอยใหญ่ขึ้นเป็น 18 นิ้ว ภายในใช้ลายไม้แบบใหม่ หนังหุ้มเบาะหนังแท้และวัสดุสังเคราะห์แบบนุ่มพิเศษ แถมหมอนพิงศีรษะเบาะหน้าปรับพับเก็บได้ พวงมาลัยปรับไฟฟ้า พร้อมระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่

เบาะนั่งคู่หน้า Ventilator พร้อมพัดลมจากใต้เบาะและพนักพิง ให้ความรู้สึก Premium เบาะนั่งด้านหลังปรับไฟฟ้า พร้อมแผงควบคุมที่คอนโซลด้านหลัง หน้าจอแบบ Floating type ขนาดใหญ่ขึ้นถึง 9 นิ้ว แบบใหม่ เชื่อมต่อทุกความสะดวกผ่านระบบ Apple CarPlay และ Android Auto ได้

ในโฉมนี้ตัดรุ่นเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร ออกไป มีเพียงเครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร รหัส A25A-FKB แบบ Dynamic Force 209 แรงม้า จิบน้ำมัน 15.6 กม./ลิตร

และเครื่องยนต์สำหรับรุ่นไฮบริด…ผสาน 2 พลัง มอเตอร์ไฟฟ้า X เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร Dynamic Force ทำงานร่วมกันอัตโนมัติ ให้การตอบสนองเต็มกำลัง 211 แรงม้า และเกียร์ E-CVT ขับเคลื่อนด้วยระบบไฮบริดเจเนอเรชั่นที่ 4 พัฒนาแบตเตอรี่ใหม่ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ทนทานและประหยัดน้ำมันดีเยี่ยม 23.8 กม./ลิตร

All-New Lexus NX PHEV 2022

5. Lexus NX

ด้านค่าย Lexus (เลกซัส) เตรียมนำ The All-New Lexus NX (เลกซัส เอ็นเอ็กซ์) ครอสโอเวอร์ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Plug-In Hybrid ครั้งแรกจากเลกซัส มาโชว์ในงาน Motor Expo 2021 ครั้งนี้

พร้อมกับดีไซน์ใหม่หมดจดบนแพลตฟอร์ม และขุมพลังเทอร์โบใหม่ ที่ยกระดับสุนทรียภาพการขับขี่ของคุณไปอีกขั้นด้วย Lexus Driving Signature

All-New Honda HR-V e:HEV 2022

6. Honda HR-V

มาแน่นอนสำหรับ Honda (ฮอนด้า) ที่เตรียมเปิดตัว All-new Honda HR-V 2022 (ฮอนด้า เอชอาร์วี) ใหม่ เจเนอเรชันที่ 2 ด้วยรูปแบบ e:HEV ขุมพลังไฮบริดในทุกรุ่นย่อย เป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย ลุ้นเปิดราคาในวันที่ 19 พฤศจิกายนนี้ คาดราคาเริ่มต้นต่ำกว่า 990,000 บาท! กับรุ่นย่อย RS เปิดตัวในไทยที่แรกของโลก!

มาพร้อมดีไซน์สปอร์ตพรีเมียมที่สะท้อนตัวตนสไตล์ SUV ได้อย่างชัดเจน โดดเด่นด้วยตัวถังที่ปราดเปรียวในสไตล์สปอร์ตคูเป้ ดึงดูดทุกสายตา ภายในห้องโดยสารมาพร้อมเบาะหนังสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดงแบบสปอร์ต แป้นเบรกและแป้นคันเร่งสไตล์สปอร์ต พวงมาลัยสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง และแผ่นกั้นห้องสัมภาระท้าย กว้างขวาง

มอบความสะดวกสบายในทุกที่นั่งและทัศนวิสัยที่ดีในการขับขี่ ครบครันด้วยฟังก์ชันการใช้งานระดับพรีเมียม โดดเด่นระบบปรับอากาศอัตโนมัติ (Automatic Air Conditioning) ที่มาพร้อมระบบ Air Diffusion System

ทุกรุ่นย่อยมาพร้อมระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ที่ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ได้แก่ มอเตอร์ที่ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้า (Motor Generator) และมอเตอร์ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อ (Motor Drive) กับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Atkinson-Cycle แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว i-VTEC

พร้อมด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และชุดหน่วยควบคุมอัจฉริยะ (Intelligent Power Unit – IPU) ที่มาพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ซึ่งมีน้ำหนักเบาขนาดกะทัดรัด สามารถเก็บประจุไฟและช่วยให้การชาร์จไฟได้ประสิทธิภาพสูงสุด อีกทั้งสามารถชาร์จไฟเข้าสู่แบตเตอรี่โดยอัตโนมัติในขณะขับขี่

Honda Jazz Thai 2021

7. Honda Jazz

Honda Jazz (ฮอนด้า แจ๊ซ) นับตั้งแต่เปิดตัวในไทยเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557! Honda ยังคงยืนหยัดผลิตขายในไทยกันต่อไป หลังจากที่มีกระแสเลิกผลิตมาจากสื่อโซเชียลมีเดียของประเทศใกล้เคียง แต่ดันเอาข่าวมาบอกว่าในไทยซะงั้น!

ในงาน Motor Expo 2021 นี้ Honda Jazz มาพร้อมทางเลือกใหม่ในสไตล์สปอร์ต กับสีเทาโซนิค (มุก) เพียง 1,500 คัน มีให้เลือกใน 3 รุ่นย่อย จากทั้งหมด 6 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น S CVT ราคา 600,000 บาท, รุ่น V+ ราคา 700,000 บาท และรุ่น RS ราคา 745,000 บาท โดยราคารวมค่าสีภายนอก สีเทาโซนิค (มุก) 6,000 บาท

Mitsubishi Xpander Special Edition 2021

8. Mitsubishi Xpander Special Edition

ด้านค่าย Mitsubishi (มิตซูบิชิ) เปิดตัว Mitsubishi Xpander Special Edition (มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ สเปเชียล เอดิชั่น) รถอเนกประสงค์แบบ MPV สำหรับคุณพ่อสมัยใหม่ สะกดทุกสายตาด้วยชุดอุปกรณ์ตกแต่งสีดำ อาทิ กระจังหน้า, ชายกันชนหน้าและหลัง, กระจกมองข้าง, คิ้วขอบกระจกประตู, คิ้วตกแต่งชายกันชนข้าง, และล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว

พร้อมติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติม อาทิ มือจับประตูสีเดียวกับตัวรถพร้อมกรอบรองที่จับประตู, ที่ชาร์จมือถือแบบไร้สาย, ระบบความบันเทิงรุ่นใหม่พร้อมหน้าจอแบบสัมผัสขนาด 9 นิ้ว ที่รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto

มีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีแดง (Spirit Red) สีดำ (Jet Black Mica) และสีขาว (Quartz White Pearl)

Mazda CX-3 2022

9. Mazda CX-3

ช่วงปลายปี 2564 นี้ Mazda (มาสด้า) เริ่มรุกตลาดรถ SUV หนัก ด้วยการปรับปรุงโฉมเล็กๆ น้อยๆ ให้กับรถในรูปแบบ Crossover SUV แทบทุกรุ่น เริ่มตั้งแต่ Mazda CX-3 2022 (มาสด้า ซีเอ็กซ์-3) กับการเผยโฉมสีภายนอกเทรนด์ใหม่ สีบรอนซ์ แพลตทินั่ม ควอตซ์ ในราคาเริ่มต้นเท่าเดิม 769,000 บาท

ให้ไลฟ์สไตล์ยุคดิจิตอลอิสระขึ้นอีกขั้น กับแนวคิด “Leap Forward” ให้ชีวิตไปอีกขั้น กับ SUV ใหม่ที่คุ้มค่ากว่า เชื่อมต่อคนรุ่นใหม่กับโลกยานยนต์ด้วยการสื่อสารแบบไร้ขีดจำกัดด้วยอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย Wireless Charger และรองรับระบบ Wireless Apple CarPlay ทุกรุ่น พร้อมเบาะคนขับปรับไฟฟ้า กับระบบบันทึกตำแหน่ง พร้อมเพิ่มออฟชั่นใหม่ในทุกรุ่นย่อย

ขับสนุกคล่องตัวแบบรถ SUV กับเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน ขนาด 2.0 ลิตร 156 แรงม้า ทั้งแรงและประหยัดน้ำมัน ใครสนใจไปลองขับดูกันได้ ที่งาน Motor Expo 2021

Mazda CX-5 2022

10. Mazda CX-5

Mazda (มาสด้า) แนะนำ New Mazda CX-5 2022 (มาสด้า ซีเอ็กซ์-5) กับแนวคิดใหม่ “พลังความสุข ที่เร้าใจทุกเส้นทาง” ทุกรุ่นมาพร้อมหน้าจอสี Center Display แบบทัชสกรีนใหม่ ขนาด 8 นิ้ว, รองรับการเชื่อมต่อการสื่อสารแบบไร้ขีดจำกัดผ่านระบบ Mazda Connect รองรับ Apple CarPlay และระบบ Android Auto

พร้อมระบบควบคุมสมรรถนะการควบคุมการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง G-Vectoring Control Plus โดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยล้ออัลลอย ขนาด 17 นิ้ว และขนาด 19 นิ้ว ดีไซน์สุดเท่ 3 สไตล์

มีให้เลือกถึง 3 เครื่องยนต์ ได้แก่ เบนซินขนาด 2.0 ลิตร 165 แรงม้า คุ้มค่ามากที่สุด เครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.5 ลิตร Turbo 231 แรงม้า ทรงพลังแรงมากที่สุด และเครื่องยนต์คลีนดีเซล ขนาด 2.2 ลิตร 190 แรงม้า แรงและประหยัดน้ำมันมากที่สุด ในราคา 1,320,000 – 1,830,000 บาท

New Mazda CX-8 2022

11. Mazda CX-8

Mazda (มาสด้า) แนะนำ New Mazda CX-8 2022 (มาสด้า ซีเอ็กซ์-8) รถอเนกประสงค์ SUV ระดับพรีเมี่ยม แบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง และ 6 ที่นั่ง ที่ถูกพัฒนาขึ้นบนพื้นฐานของรถยนต์นั่งอย่างแท้จริง มาพร้อมแนวคิด “The Precious Moment for All ทุกช่วงเวลา…มีคุณค่าไม่สิ้นสุด”

เพิ่มทางเลือกใหม่ที่หลากหลายยิ่งขึ้น กับรุ่นเครื่องยนต์เบนซินแบบ 6 ที่นั่ง 2.5 SP Exclusive เบาะนั่งแบบ Captain Seat แยกอิสระซ้าย-ขวา เพิ่มไฟหน้าแบบ LED โปรเจคเตอร์ พร้อม Daytime Running Light แบบ LED และหน้าจอ Center Display แบบทัชสกรีนใหม่ ขนาด 8 นิ้ว ทุกรุ่นย่อย รวมถึงประตูท้าย เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า และเพิ่มเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกกับความปลอดภัย ให้ครบยิ่งขึ้นกว่าเดิม

มีให้เลือกถึง 2 เครื่องยนต์ ได้แก่ เบนซินขนาด 2.5 ลิตร 194 แรงม้า และเครื่องยนต์คลีนดีเซล ขนาด 2.2 ลิตร 190 แรงม้า แรงและประหยัดน้ำมันมากที่สุด ในราคา 1,499,000 – 2,069,000 บาท

Aston Martin Vantage Roadster 2022

12. Aston Martin Vantage Roadster

มาดูสายรถแนวซูเปอร์คาร์กันบ้าง ซึ่งขอบอกเลยว่าในงาน Motor Expo 2021 ครั้งนี้ มีมาให้ชมกันอย่างแน่นอน กับ … Aston Martin Bangkok เปิดตัว Aston Martin Vantage Roadster (แอสตัน มาร์ติน แวนเทจ โรดสเตอร์) ยนตรกรรมสปอร์ตนักล่า เปิดหลังคาท้าสายลม ในราคา 15,900,000 บาท ในไทยปีนี้ได้โควต้ามาเพียง 2 คัน มีคนจองไปเรียบร้อย …

มาพร้อมรูปลักษณ์ที่ดุดันและน่าตื่นตาตื่นใจยิ่งขึ้น ผสานเส้นสายบึกบึนแบบเดียวกับรุ่นคูเป้อันเป็นเอกลักษณ์ โอเวอร์แฮงค์หน้า-หลังสั้น และโป่งล้อกว้าง แสดงถึงความคล่องตัวและตอบสนองอย่างมีประสิทธิภาพ ไฟหน้าแบบใหม่ พร้อมไฟท้ายบางเฉียบ กว้างเต็มพื้นที่ของฝาท้ายที่เชิดขึ้น

ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน V8 ขนาด 4.0 ลิตร Twin Turbo 503 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 685 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ของ ZF ผสานเพลาขับวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ ติดตั้งในปลอกอะลูมิเนียม (Alloy Torque Tube) อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 3.8 วินาที

ทำความเร็วได้สูงสุด 306 กม./ชม. โดยเครื่องยนต์ถูกติดตั้งให้ชิดกับตัวถังมากสุด เพื่อการกระจายน้ำหนักที่สมดุล 50:50% ภายใต้พิกัด 1,745 กก. (1,628 กก. เมื่อติดตั้ง Lightweight Options)

Peugeot 3008 SUV 2022

13. Peugeot 3008 & 5008

Peugeot ประเทศไทย เปิดตัว Peugeot 3008 SUV (เปอโยต์ 3008) ใหม่ ภายใต้ Concept “Face The New Face” ในราคา 1,689,000 บาท และ Peugeot 5008 (เปอโยต์ 5008) ใหม่ แบบ 7 ที่นั่ง ภายใต้ Concept “The Space Of Happiness” ราคา 1,869,000 บาท

ปรับโฉมเพิ่มความเร้าใจ ให้โฉบเฉี่ยวและทันสมัยยิ่งขึ้น รูปลักษณ์ที่โดดเด่นถูกปรับให้ดูชัดเจนและทันสมัยยิ่งขึ้น เพิ่มความสปอร์ตด้วยช่องดักลมสีดำบนกันชนหน้า ส่วนด้านท้ายก็ไม่น้อยหน้า ด้วยไฟท้ายแบบ Full LED (รวมไฟถอยหลัง) สะท้อนกรงเล็บสิงโต (Lion Claws) ได้อย่างทรงพลัง

ห้องโดยสารของ 3008 SUV ต้อนรับผู้โดยสารอย่างอบอุ่นด้วยเบาะหนัง ตัดกันกับสีด้ายที่ใช้เย็บตะเข็บอย่างลงตัว ตกแต่งตามจุดต่างๆ ด้วยวัสดุผ้าคุณภาพสูง มาตรวัดดิจิทัลอเนกประสงค์ขนาด 12.3 นิ้ว ด้านหน้าผู้ขับ สามารถปรับการแสดงผลได้อิสระ ติดตั้งทัชสกรีนอเนกประสงค์ขนาด 10 นิ้ว บริเวณกลางแดชบอร์ด จอภาพความละเอียดสูง

มาพร้อม 7 สวิตช์แบบก้านเปียโน (Piano Key Toggle Switches) ที่ดูหรูหรา และช่วยให้สามารถปรับการทำงานของระบบต่างๆ ได้สะดวกรวดเร็ว พร้อมรองรับการชาร์จสมาร์ทโฟนแบบไร้สาย (Wireless Charging)

ขับเคลื่อนอย่างมั่นใจด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.6 ลิตร Twin-Scroll Turbo 167 แรงม้า แรงบิด 245 นิวตันเมตร สูงสุดในรถยนต์กลุ่มเดียวกัน ช่วยให้มีอัตราเร่งดีและใช้เชื้อเพลิงคุ้มค่า ส่งกำลังนุ่มนวลฉับไว ผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ แบบ Electric Impulse พร้อม Advanced Grip Control กับ 5 โหมดการขับ (Normal-Snow-Mud-Sand-ESP Off) ผสานหลายระบบช่วยเหลือผู้ขับ

Peugeot 2008 SUV 2022

14. Peugeot 2008

Peugeot ประเทศไทย ยังได้เตรียมเปิดตัวรถรุ่นใหม่ The All-New 2008 (เปอโยต์ 2008) SUV ยนตรกรรมอเนกประสงค์สำหรับคนพันธุ์ใหม่ หัวใจพรีเมียม ภายใต้ Concept “Uncage The Lion In You” ปลดปล่อยตัวตนที่เป็นคุณ ในงาน Motor Expo 2021 นี้

Pocco Duoduo รถยนต์ไฟฟ้าใหม่ล่าสุด เริ่มต้น 389,000 บาท เปิดตัวใน Motor Expo 2021

15. Pocco Duoduo

Pocco Duoduo (ป๊อคโค่ ตั่วตั่ว) หรือ 朋克多多 เป็นรถภายใต้แบรนด์ 朋克 (เผิงเค่อ) มาจากภาษาอังกฤษคำว่า Punk (พังก์) เป็นรถพลังงานไฟฟ้าแบบ Tall Boy 4 ประตู (ดูคล้ายกับรถ K-Car ของญี่ปุ่น) นั่งได้ 4-5 ที่นั่ง ผสมผสานการตกแต่งที่เป็นเอกลักษณ์ จุดชาร์จไฟอยู่บริเวณด้านหน้ารถ โดยใช้สีทูโทนเพื่อให้ดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้น เพิ่งเปิดตัวไปในจีนเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 29 กิโลวัตต์ (39 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 110 นิวตัน-เมตร พร้อมแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนฟอสเฟต มีขนาด 10.3 kWh (ใช้เวลาชาร์จ 6-8 ชั่วโมง) สามารถขับขี่ได้เป็นระยะทางประมาณ 128 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC (ไฟบ้าน 0-100%) ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง

และยังมีแบตเตอรี่ขนาด 14.5 kWh (ใช้เวลาชาร์จ 6-8 ชั่วโมง) ที่เพิ่มระยะทางขึ้นเป็น 178 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC ต่อการชาร์จ (ไฟบ้าน 0-100%) หนึ่งครั้ง ให้เลือก ทำความเร็วได้สูงสุด 100 กม./ชม.

สนนราคารุ่น L เริ่มต้นที่ 389,000 บาท! (รุ่นแบตเตอรี่ 10.3 kWh) และรุ่น K ราคา 449,000 บาท (รุ่นแบตเตอรี่ 14.5 kWh)

รู้จัก Pocco Meimei รถยนต์ไฟฟ้าคันจิ๋ว ในราคา 399,000 – 469,000 บาท เปิดตัวในงาน Motor Expo 2021 เช่นกัน!

16. Pocco Meimei

Pocco Meimei Mini EV (ป๊อคโค่ เม่ยเม่ย) หรือ 朋克美美 เป็นรถพลังงานไฟฟ้าแบบ 3 ประตู 4 ที่นั่ง ขนาดเล็ก ที่เปิดตัวในจีนตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา สามารถขับขี่ในเมืองได้อย่างสะดวก กับนวัตกรรมสุดล้ำ ยิ่งทวีคูณความน่ารัก น่าเลิฟ ถูกใจคุณผู้หญิงอย่างแน่นอน

มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 20 กิโลวัตต์ (27 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 100 นิวตัน-เมตร และกำลังสูงสุด 29 กิโลวัตต์ (39 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 105 นิวตัน-เมตร พร้อมแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนฟอสเฟต มีขนาด 9.2 kWh (ใช้เวลาชาร์จ 6-8 ชั่วโมง) สามารถขับขี่ได้เป็นระยะทางประมาณ 116 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC (ไฟบ้าน 0-100%) ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง

และยังมีแบตเตอรี่ขนาด 14 kWh (ใช้เวลาชาร์จ 6-8 ชั่วโมง) ที่เพิ่มระยะทางขึ้นเป็น 170 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC ต่อการชาร์จ (ไฟบ้าน 0-100%) หนึ่งครั้ง ให้เลือก ทำความเร็วได้สูงสุด 100 กม./ชม.

สนนราคารุ่น L เริ่มต้นที่ 399,000 บาท! (รุ่นแบตเตอรี่ 10.3 kWh) และรุ่น K ราคา 469,000 บาท (รุ่นแบตเตอรี่ 14.5 kWh)

All-New Ford Ranger 2022

17. Ford Ranger

All-New Ford Ranger 2022 (ฟอร์ด เรนเจอร์) โฉมใหม่ล่าสุดเผยโฉมครั้งแรกในโลกพร้อมกันเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ชูดีไซน์จาก F-150 บึกบึนแข็งแรงภายใต้แนวคิด “Built Ford Tough” หรือ “เกิดมาแกร่ง” เตรียมผลิตและเปิดตัวอย่างอย่างเป็นทางการในไทยปีหน้านี้

โครงสร้างของ Ranger ถูกพัฒนาขึ้นใหม่หมด โดยเพิ่มระยะห่างระหว่างล้อขึ้นอีก 50 มม. และยืดความยาวฐานล้ออีก 50 มม. เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า

ห้องโดยสารภายใน กว้างขวางและหรูหราแบบเดียวกับรถยนต์นั่ง ชูจุดเด่นด้วยหน้าปัดแบบดิจิทัล และหน้าจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว และ 12 นิ้ว ที่รวมเอาปุ่มระบบปรับอากาศไว้ด้วยกัน พร้อมคันเกียร์แบบ Electronic Shifter ที่หัวเกียร์ขนาดสั้นกว่าปกติ ซึ่ง Ford ระบุว่า ใช้ชุดคันเกียร์แบบนี้แทนที่เกียร์แบบปุ่มหมุน เพื่อสอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า

สำหรับรายละเอียดเครื่องยนต์ยังไม่เปิดเผย แต่จะมีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ Turbo เดี่ยว และ Bi-Turbo เช่นเคย พร้อมปรับปรุงเครื่องยนต์ เกียร์และชุดถ่ายทอดส่งกำลังขึ้นใหม่ และเพิ่มขุมพลัง V6 ในตลาดบางประเทศอีกด้วย

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

ไหนๆ จะไปดู ไปซื้อรถใหม่ที่งาน Motor Expo 2021 กันแล้ว ถ้าใครสนใจอยากขายรถคันเดิม เพื่อรับเป็นเงินก้อนไปใช้ สามารถนำรถคันเดิมมาขายกับ CARRO ได้เลย เราพร้อมรับซื้อรถของคุณ ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ CARRO Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน Fanpage CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

สำหรับใครที่อยากซื้อรถใหม่ในงาน Motor Expo 2021 แต่งบไม่พอ! CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น!

รถของเราทุกคันผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check มากกว่า 200 จุดและยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ให้คุณเลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา พร้อมรับประกันคุณภาพรถนาน 1 ปี หรือสูงสุด 30,000 กิโลเมตร! อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! เรามีรถให้คุณเลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

Great Wall Motor เปิดตัว All-New HAVAL Jolion Hybrid SUV คันแรกของโลก จากสายการผลิตในไทย เตรียมขายเร็วๆ นี้!

หลังจากประสบความสำเร็จ จากการเดินสายการผลิตและส่งมอบ All New HAVAL H6 Hybrid SUV (ฮาวาล เอช6 ไฮบริด) รถยนต์รุ่นแรกที่ GWM นำเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย จนสามารถขึ้นครองอันดับ 1 ยอดขายรถยนต์ Compact SUV สูงสุดติดต่อกัน 2 เดือนซ้อนในเดือนสิงหาคมและเดือนกันยายนที่ผ่านมา

สำหรับ All New HAVAL Jolion Hybrid SUV นับเป็นรถยนต์รุ่นที่ 2 ของสายการผลิตที่โรงงานระยอง

Great Wall Motor เปิดตัว All-New HAVAL Jolion Hybrid SUV คันแรกของโลก จากสายการผลิตในไทย เตรียมขายเร็วๆ นี้!

โดยรถ SUV รุ่น HAVAL Jolion เปิดตัวครั้งแรกในประเทศจีนเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา ด้วยรูปลักษณ์โฉบเฉี่ยว สไตล์สปอร์ต พร้อมขนาดตัวรถและพื้นที่ภายในอันกว้างขวาง ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะมากมาย ทำให้ HAVAL Jolion ได้รับความนิยมจากคนจีนด้วยสถิติยอดขายกว่า 5,614 คัน หลังจากเปิดตัวได้เพียง 20 วัน และมียอดขายสะสมกว่า 40,000 คัน ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนสิงหาคม 2564 ในประเทศ

Great Wall Motor เปิดตัว All-New HAVAL Jolion Hybrid SUV คันแรกของโลก จากสายการผลิตในไทย เตรียมขายเร็วๆ นี้!

สำหรับ All New HAVAL Jolion Hybrid SUV จะเป็นรถยนต์เอสยูวีรุ่นที่ 2 จากแบรนด์ HAVAL ที่ เกรท วอลล์ มอเตอร์ เตรียมนำมาสร้างความคึกคักให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในช่วงปลายปีนี้ จะมาพร้อมเครื่องยนต์ไฮบริดซึ่งถือเป็นครั้งแรกของโลกกับรถรุ่นนี้ โดยใช้แพลตฟอร์ม GWM LEMON แพลตฟอร์มโมดูล่าร์อัจฉริยะแบบเดียวกับรถยนต์ All New HAVAL H6 Hybrid SUV ที่ให้ประสบการณ์การขับขี่เหนือระดับ

Great Wall Motor เปิดตัว All-New HAVAL Jolion Hybrid SUV คันแรกของโลก จากสายการผลิตในไทย เตรียมขายเร็วๆ นี้!

All New HAVAL JOLION Hybrid SUV มาพร้อมการผสมผสานระหว่างการออกแบบที่หรูหรามีระดับกับโครงสร้างอันล้ำสมัย ตอบรับไลฟ์สไตล์ที่แอคทีฟ สร้างความสนุกสนานในการขับขี่ ด้วยไฟหน้า LED เต็มรูปแบบ พร้อม Daytime Running Light ดีไซน์ล้ำสมัย ระบบ Welcome Light เมื่อปลดล็อค ไฟ Follow Me Home ที่ส่องสว่างหลังดับเครื่องยนต์ และไฟท้าย LED พร้อมไฟเบรกดวงที่สามและไฟตัดหมอกหลังแบบ LED

ด้านหน้าของรถเป็นกระจังหน้า Star Matrix สีดำ-เทา ที่โดดเด่นด้วยโลโก้ HAVAL ตรงกลาง พร้อมดีไซน์อันล้ำสมัยด้วยหลังคาซันรูฟแบบพาโนรามิค สปอยเลอร์ท้าย เสาอากาศแบบ shark fin เข้าทรงกับดิฟฟิวเซอร์ดีไซน์สปอร์ต ตัวล้อเป็นอัลลอยดีไซน์สปอร์ต ทูโทน ขนาด 18 นิ้ว

มิติตัวรถยาว 4,472 มม. กว้าง 1,841 มม. สูง 1,619 มม. และระยะฐานล้อ 2,700 มม.

Great Wall Motor เปิดตัว All-New HAVAL Jolion Hybrid SUV คันแรกของโลก จากสายการผลิตในไทย เตรียมขายเร็วๆ นี้!

All New HAVAL JOLION Hybrid SUV โดดเด่นด้วยการออกแบบภายในแบบ 360 องศา ภายใต้แนวคิด “Future Intelligent Cockpit” กับห้องโดยสารที่กว้างขวาง สะดวกสบาย ที่มาพร้อมการตกแต่งแบบ Two Tone ตัดด้วยลายเส้นสีโรสโกลด์ (Rose Gold) สีเงิน (Silver) สีดำ (Piano Black) และสีโครม (Chrome)

มาพร้อมกับลำโพง 6 ตัว และหน้าจอกลางอัจฉริยะแบบ Touch Screen Audio Display ความละเอียดสูง ขนาด 12.3 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay การเล่น MP3 รวมไปถึง JOOX และระบบนำทาง (Navigator) ที่สามารถบอกตำแหน่ง Point of Interest ทั้งร้านอาหาร ปั๊มน้ำมัน และ ห้างสรรพสินค้า

Great Wall Motor เปิดตัว All-New HAVAL Jolion Hybrid SUV คันแรกของโลก จากสายการผลิตในไทย เตรียมขายเร็วๆ นี้!

นอกจากนี้ ยังมีหน้าจอ Multi Information Display ความละเอียดสูง ขนาด 7 นิ้ว พร้อมหน้าจอ Head-Up Display แสดงข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้า และระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกอิสระ ซ้าย-ขวา พร้อมระบบกรองอากาศ PM2.5 และยังมี Wireless Charger ที่สามารถวางสมาร์ทโฟนเพื่อชาร์จได้อย่างสะดวกสบาย All New HAVAL JOLION Hybrid SUV ยังสะท้อนถึงความหรูหราและทันสมัย ด้วยชุดเกียร์ไฟฟ้า (Electronic Shifter) ดีไซน์หรู พร้อมสีพิเศษแบบ High-gloss ช่วยเติมสีสันให้ห้องโดยสาร มาพร้อมกุญแจ Smart Key และระบบ Push Start เพื่ออำนวยความสะดวกในการเปิดประตูและการสตาร์ทเครื่องยนต์

เบาะที่นั่งเป็นหนังสังเคราะห์ดีไซน์สปอร์ต ที่ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ โดยเบาะหน้าฝั่งผู้ขับขี่จะเป็นเบาะไฟฟ้าที่สามารถปรับได้ 6 ทิศทาง มาพร้อมระบบระบายอากาศ เพื่อช่วยจัดท่านั่งให้สบายและอยู่ในตำแหน่งที่มองเห็นวิสัยทัศน์ได้ดีที่สุด ส่วนเบาะที่นั่งโดยสารด้านหลังจะมาพร้อมที่เท้าแขนกลาง และช่องปรับอากาศด้านท้าย เพื่อช่วยยกระดับความสะดวกสบายไปอีกขึ้น และยังสามารถพับลงได้ เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการบรรทุกสัมภาระได้สูงสุดถึง 1,069 ลิตร

Great Wall Motor เปิดตัว All-New HAVAL Jolion Hybrid SUV คันแรกของโลก จากสายการผลิตในไทย เตรียมขายเร็วๆ นี้!

พร้อมการขับเคลื่อนเต็มสมรรถนะด้วยเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร Hybrid ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 375 นิวตันเมตร พร้อมระบบเกียร์แบบ DHT ที่สร้างขึ้นเพื่อรองรับระบบการขับเคลื่อนที่หลากหลายของรถยนต์ไฮบริด เมื่อทํางานร่วมกับเครื่องยนต์ สร้างการขับเคลื่อนอย่างทรงพลังและประหยัดน้ำมัน

โรงงานของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ จะเดินหน้าสายการผลิตรถยนต์ All New HAVAL JOLION Hybrid SUV อย่างต่อเนื่อง พร้อมการทดสอบและตรวจสอบรถยนต์อย่างละเอียดถี่ถ้วน เพื่อให้มั่นใจได้ว่ารถยนต์ทุกคันจะอัดแน่นไปด้วยคุณภาพและมาตรฐานระดับโลก ก่อนส่งมอบรถยนต์ให้กับผู้บริโภคชาวไทย

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่กำลังอยากขายรถคันเดิม เอาเงินไปซื้อรถคันใหม่ มาขายรถคันเดิมกับ CARRO Express สิ! หรือจะ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

ถ้าใครกำลังอยากซื้อรถใหม่ แต่กำลังเงินซื้อรถมือหนึ่งไม่ไหว CARRO อยากให้ลองเปิดใจกับรถมือสอง เนื่องจากรถมือสองสภาพดีสมัยนี้มีให้เลือกเยอะแยะ แถมถ้าเป็นรถรุ่นประหยัดน้ำมันได้ก็ยังดี ซึ่ง CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์ให้คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น!

รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check มากกว่า 200 จุด และยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ให้คุณเลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา พร้อมรับประกันคุณภาพรถนาน 1 ปี หรือสูงสุด 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! เรามีรถให้คุณเลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Official โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

มาแล้ว! All-New Honda HR-V 2022 มิติใหม่ SUV กับขุมพลัง Full Hybrid e:HEV

บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ยกระดับมาตรฐานใหม่รถ SUV ไทยอีกครั้ง เปิดตัว ฮอนด้า เอชอาร์วี เจเนอเรชันที่ 2 ภายใต้ชื่อ “All-New Honda HR-V e:HEV 2022 (ฮอนด้า เอชอาร์วี อี:เอชอีวี) ใหม่” เป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย

ราคาประมาณการเริ่มต้นต่ำกว่า 990,000 บาท พร้อมเปิดลงทะเบียนจองสิทธิ์ระหว่างวันที่ 5 พฤศจิกายน 2564 – 18 พฤศจิกายน 2564** ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ พร้อมรับฟรีชุดอุปกรณ์ตกแต่ง Utility Package โดยจะประกาศราคาและเปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2564 นี้

มาแล้ว! All-New Honda HR-V 2022 มิติใหม่ SUV กับขุมพลัง Full Hybrid e:HEV

โดยตลอดระยะเวลา 7 ปีที่ผ่านมา Honda HR-V เป็นหนึ่งในผู้นำตลาด SUV ที่ขับเคลื่อนการเติบโตของ Segment นี้ ด้วยยอดขายสะสมรวมกว่า 100,000 คัน”

“จากความสำเร็จดังกล่าว ไทยจึงเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนียที่จะได้เปิดตัว Honda HR-V 2022 เจเนอเรชั่นที่ 2 ภายใต้ชื่อ Honda HR-V e:HEV ใหม่ และยังเป็นประเทศแรกในโลกที่เปิดตัวรุ่น RS ที่มาพร้อมดีไซน์สุด Executive นับเป็นก้าวสำคัญที่ Honda HR-V 2022 ใหม่ จะมาสร้างปรากฏการณ์ใหม่ขึ้นอีกครั้ง ด้วยการผสานทั้งระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV และเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ในทุกรุ่นย่อย พร้อมเป็นยนตรกรรมเอสยูวีสำหรับทุกคนอย่างแท้จริง”

มาแล้ว! All-New Honda HR-V 2022 มิติใหม่ SUV กับขุมพลัง Full Hybrid e:HEV

พลังจากดีไซน์สปอร์ตพรีเมียมอันโดดเด่น สร้างตัวตนที่แตกต่าง

Honda HR-V e:HEV ใหม่ มาพร้อมดีไซน์สปอร์ตพรีเมียมที่สะท้อนตัวตนสไตล์ SUV ได้อย่างชัดเจน โดดเด่นด้วยตัวถังที่ปราดเปรียวในสไตล์สปอร์ตคูเป้ ดึงดูดทุกสายตาด้วย

  • กระจังหน้าดีไซน์ใหม่สีเดียวกับตัวรถ (รุ่น e:HEV EL) และกระจังหน้าสีดำเงา (รุ่น e:HEV E) ที่เชื่อมต่อกับไฟหน้าและไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED
  • ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED (รุ่น e:HEV EL และรุ่น e:HEV RS)
  • กันชนหน้าและหลังดีไซน์ใหม่ พร้อมด้วยไฟท้ายแบบ LED Light Strip ที่เชื่อมต่อกับไฟเบรกเป็นเส้นแนวยาว อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะรุ่น
  • สปอยเลอร์หลังแบบสปอร์ต
  • เสาอากาศครีบฉลาม
  • ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ ขนาด 17 นิ้ว (รุ่น e:HEV E และรุ่น e:HEV EL)

สะท้อนเอกลักษณ์ความเป็นยนตรกรรมไฮบริดด้วยโลโก้ H Mark ตกแต่งกรอบสีฟ้า และสัญลักษณ์ e:HEV ที่ด้านท้าย

มาแล้ว! All-New Honda HR-V 2022 มิติใหม่ SUV กับขุมพลัง Full Hybrid e:HEV

ครั้งแรกในโลกกับการเปิดตัวรุ่น RS ที่ประเทศไทย ยกระดับความสปอร์ตพรีเมียมไปอีกขั้น ด้วยดีไซน์สปอร์ตเอกซ์คลูซีฟ ตกแต่งพิเศษรอบคัน โดดเด่นด้วย

  • กระจังหน้าโครเมียมแบบสปอร์ต พร้อมสัญลักษณ์ RS
  • สัญลักษณ์ AMP UP บนกันชนหน้าด้านล่าง
  • กันชนหน้า-หลัง พร้อมชายกันกระแทกด้านข้างสีดำแบบสปอร์ตตกแต่งด้วยโครเมียม
  • ไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ LED Sequential
  • ไฟท้ายแบบ LED Light Strip สี Smoke
  • ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาด 18 นิ้ว
  • หลังคากระจกแบบพาโนรามา (Panoramic Glass Roof)

มาแล้ว! All-New Honda HR-V 2022 มิติใหม่ SUV กับขุมพลัง Full Hybrid e:HEV

พิเศษยิ่งขึ้นกับสีภายนอกสีแดงอิกไนต์ ที่มาพร้อมหลังคาสีดำสไตล์ทูโทน สะท้อนความสปอร์ตไปอีกขั้น

มาแล้ว! All-New Honda HR-V 2022 มิติใหม่ SUV กับขุมพลัง Full Hybrid e:HEV

ภายในห้องโดยสารมาพร้อมเบาะหนังสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดงแบบสปอร์ต แป้นเบรกและแป้นคันเร่งสไตล์สปอร์ต พวงมาลัยสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง และแผ่นกั้นห้องสัมภาระท้าย กว้างขวาง มอบความสะดวกสบายในทุกที่นั่งและทัศนวิสัยที่ดีในการขับขี่ ครบครันด้วยฟังก์ชันการใช้งานระดับพรีเมียม* คงอรรถประโยชน์สไตล์เอสยูวีไว้ได้อย่างดีเยี่ยม

มาแล้ว! All-New Honda HR-V 2022 มิติใหม่ SUV กับขุมพลัง Full Hybrid e:HEV

โดดเด่นด้วยระบบปรับอากาศอัตโนมัติ (Automatic Air Conditioning) ที่มาพร้อมระบบ Air Diffusion System โดยช่องปรับอากาศดีไซน์ใหม่ กระจายลมได้ทั่วถึงทั้งห้องโดยสาร พร้อมด้วยช่องปรับอากาศตอนหลัง (รุ่น e:HEV EL และรุ่น e:HEV RS) โดยทุกรุ่นมาพร้อมเบาะหนังดีไซน์ใหม่สีดำ และเบาะนั่งด้านหลังแบบอเนกประสงค์แยกพับแบบ 60:40 ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ 3 รูปแบบ พร้อมห้องสัมภาระท้ายขนาดใหญ่ ได้แก่

  • Utility Mode: เบาะด้านหลังทั้ง 2 ด้านปรับพับเรียบ เพิ่มพื้นที่เก็บของด้านหลัง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของฮอนด้า ที่เบาะผู้โดยสารด้านหลังสามารถพับลงแนวราบได้เรียบ ช่วยเพิ่มพื้นที่สัมภาระด้านท้าย
  • Long Mode: เบาะด้านหน้าและด้านหลังปรับพับ เพิ่มพื้นที่เก็บของในแนวยาว
  • Tall Mode: เอกลักษณ์ความอเนกประสงค์ที่โดดเด่นของ ฮอนด้า ที่สามารถพับเบาะด้านหลังขึ้น เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของในแนวสูง ซึ่งมีเพียง ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่ รุ่นเดียวในเซกเมนต์ที่สามารถพับเบาะในโหมดนี้ได้

มาแล้ว! All-New Honda HR-V 2022 มิติใหม่ SUV กับขุมพลัง Full Hybrid e:HEV

ตอบโจทย์สมาร์ตไลฟ์สไตล์ ด้วยเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกล้ำสมัยและฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน* อาทิ

  • ฝากระโปรงท้ายไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรี พร้อมระบบปิดอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Hands-free Power Tailgate with Walk Away Close) ใหม่
  • ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto
  • มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger) ลำโพงสูงสุดจำนวน 8 ตำแหน่ง
  • ไฟอ่านหนังสือด้านหลังแบบ LED เปิด-ปิดแบบสัมผัส
  • เบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
  • ช่องเชื่อมต่อ USB จำนวน 4 ช่อง
  • พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน พร้อมปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียง ปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์
  • ปุ่มควบคุมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING และ ฮอนด้า คอนเนค (Honda CONNECT) เทคโนโลยีเชื่อมต่อรถยนต์ที่ทำงานผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟน

มาแล้ว! All-New Honda HR-V 2022 มิติใหม่ SUV กับขุมพลัง Full Hybrid e:HEV

พลังความท้าทายที่ไร้ขีดจำกัด ที่ขับเคลื่อนชีวิตของคุณไปข้างหน้า

อีกหนึ่งปรากฏการณ์สำคัญ Honda HR-V e:HEV ใหม่ ทุกรุ่นย่อยมาพร้อมระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ที่ผสานการทำงานร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ได้แก่ มอเตอร์ที่ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้า (Motor Generator) และมอเตอร์ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อ (Motor Drive) กับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Atkinson-Cycle แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว i-VTEC

พร้อมด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และชุดหน่วยควบคุมอัจฉริยะ (Intelligent Power Unit – IPU) ที่มาพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ซึ่งมีน้ำหนักเบาและขนาดกะทัดรัด สามารถเก็บประจุไฟและช่วยให้การชาร์จไฟเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด อีกทั้งสามารถชาร์จไฟเข้าสู่แบตเตอรี่โดยอัตโนมัติในขณะขับขี่

มาแล้ว! All-New Honda HR-V 2022 มิติใหม่ SUV กับขุมพลัง Full Hybrid e:HEV

โดยมอเตอร์ไฟฟ้าทั้ง 2 ตัว มอบกำลังสูงสุดทั้งระบบได้ถึง 131 แรงม้า ตอบสนองทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 253 นิวตัน-เมตร (25.8 กก-.ม.) ที่ 0-3,500 รอบ/นาที ให้อัตราการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมถึง 25.6 กม./ลิตร และมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 94 กรัม/กิโลเมตร

โดยระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้อย่างชาญฉลาด เหมาะสมกับการขับขี่ในทุกสถานการณ์ โดยมีทั้งหมด 3 โหมด ได้แก่ โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode) โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode) และโหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode)

มาแล้ว! All-New Honda HR-V 2022 มิติใหม่ SUV กับขุมพลัง Full Hybrid e:HEV

นอกจากนี้ ทุกรุ่นย่อยยังมาพร้อมกับสวิตช์ฟังก์ชัน Drive Mode ที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้อย่างง่ายดายตามความต้องการ ซึ่งมีให้เลือก 3 โหมด ได้แก่

  • ECON Mode: โหมดการขับขี่แบบประหยัด พร้อมปรับการทำงานของเครื่องยนต์ให้สัมพันธ์กับการขับขี่เพื่ออัตราการประหยัดเชื้อเพลิงมากขึ้น ตามรูปแบบการขับขี่
  • Normal Mode: โหมดการขับขี่แบบปกติ สำหรับการขับขี่ใช้งานโดยทั่วไป
  • Sport Mode: โหมดการขับขี่แบบสปอร์ต ที่ช่วยปรับการทำงานของเครื่องยนต์ให้พร้อมตอบสนองการเร่งได้ดียิ่งขึ้น เพื่อการขับขี่ที่สนุกเร้าใจ

มาแล้ว! All-New Honda HR-V 2022 มิติใหม่ SUV กับขุมพลัง Full Hybrid e:HEV

พลังที่พร้อมพาคุณก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นใจ ด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยและเทคโนโลยีเพื่อการขับขี่อันล้ำสมัย

ทุกรุ่นย่อยมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ที่ทำงานผ่านกล้องมุมมองกว้างด้านหน้า ช่วยตรวจจับรถยนต์และคนเดินถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีฟังก์ชันการทำงานหลักๆ ดังนี้

  • ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
  • ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW)
  • ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF)
  • ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)

พร้อมด้วยเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยอันล้ำสมัยและเทคโนโลยีด้านการขับขี่ที่ครบครัน* อาทิ ครั้งแรกของรถยนต์ฮอนด้าในประเทศไทยกับระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (Hill Descent Control: HDC) ระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย (Deceleration Paddle Selectors) ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) ระบบ Auto Brake Hold ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock) ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้า พร้อมเตือนผู้โดยสารด้านหลัง (Front and Rear Passenger Seat Belt Reminder) ไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง (Rear Seat Reminder) เป็นต้น

มาแล้ว! All-New Honda HR-V 2022 มิติใหม่ SUV กับขุมพลัง Full Hybrid e:HEV

Honda HR-V e:HEV (ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี) ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นย่อย ได้แก่

  • รุ่น e:HEV E ราคา 979,000 บาท
  • รุ่น e:HEV EL ราคา 1,079,000 บาท
  • รุ่น e:HEV RS ราคา 1,179,000 บาท

สีภายนอก มีให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) ที่มาพร้อมหลังคาสีดำสไตล์ทูโทน (เฉพาะรุ่น e:HEV RS) พร้อมด้วย สีใหม่ สีขาวพรีเมียมซันไลท์ (มุก) และสีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก) รวมทั้งสีขาวแพลทินัม (มุก) และสีดำคริสตัล (มุก) ในทุกรุ่นย่อย

เสริมความมั่นใจในการขับขี่ยนตรกรรมระดับพรีเมียม โดย Honda HR-V e:HEVใหม่ มาพร้อมการรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริดถึง 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง** พร้อมบริการหลังการขายที่ได้มาตรฐานจากโชว์รูมและศูนย์บริการฮอนด้า 229 แห่งทั่วประเทศ

มาแล้ว! All-New Honda HR-V 2022 มิติใหม่ SUV กับขุมพลัง Full Hybrid e:HEV

พิเศษ ลูกค้าสามารถลงทะเบียนจองสิทธิ์ Honda HR-V e:HEV ใหม่ ระหว่างวันที่ 5 พฤศจิกายน 2564 ตั้งแต่เวลา 11.00 น. – วันที่ 18 พฤศจิกายน 2564 เวลา 19.00 น. จากนั้นทำการจองและรับรถตั้งแต่วันที่ 19 พฤศจิกายน 2564 – 31 ธันวาคม 2564** รับฟรีชุดอุปกรณ์ตกแต่ง Utility Package ประกอบด้วยกระบะใส่ของท้ายรถ มูลค่า 1,100 บาท และแผ่นกันรอยเบาะพนักพิงหลัง มูลค่า 1,700 บาท รวมมูลค่า 2,800 บาท

เตรียมพบกับการประกาศราคาและเปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ Honda HR-V e:HEV ใหม่ ในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2564 นี้ ผ่านทาง LIVE ถ่ายทอดสดออนไลน์ทาง Facebook Fanpage และ YouTube Channel: Honda Thailand ตั้งแต่เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป

พร้อมทั้งเตรียมสัมผัสกับ Honda HR-V e:HEV ใหม่ ได้ที่บูทฮอนด้า (A14) ในงาน Motor Expo 2021 ตั้งแต่วันที่ 2 – 12 ธันวาคม 2564 ณ อาคารชาเลนเจอร์ฮอลล์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี

หมายเหตุ

*อุปกรณ์มาตรฐานแตกต่างกันในแต่ละรุ่น
**เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกับที่ปรึกษาการขายโชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

สำหรับใครที่อยากซื้อรถ Honda HR-V ใหม่ แต่ถ้าหากว่างบไม่พอ มาขายรถคันเดิมกับ CARRO Express สิ! Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

และอีกหนึ่งบริการใหม่! CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสอง และ Honda HR-V มือสอง คุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น!

รถ Honda HR-V ของเราทุกคันผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check และยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ให้คุณเลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา พร้อมรับประกันคุณภาพรถนานถึง 2 ปี หรือ 20,000 กิโลเมตร! อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! เรามีรถให้คุณเลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน ซื้อรถ Honda HR-V คุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

MG ZS EV 2022 โฉมใหม่! ชูแบตเตอรี่วิ่งได้ไกลขึ้นถึง 439 กิโลเมตร

นับตั้งแต่ MG ZS (เอ็มจี แซดเอส) ไดทำการปรับเปลี่ยนโฉมไปในช่วงกลางปี 2563 ที่ผ่านมา ก็ยังคงสร้างปรากฎการณ์เป็นรถ SUV แบบ Crossover ที่ขายดีในบ้านเราอยู่อย่างต่อเนื่อง

แต่ทว่าคู่แฝดที่เป็นรถยนต์ไฟฟ้า อย่าง MG ZS EV (เอ็มจี แซดเอส อีวี) ที่ดูเหมือนจะเงียบๆ หายไปในบ้านเรา ตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา

อ่านเพิ่มเติม >> เจาะลึก MG ZS EV ใหม่ รถ SUV พลังไฟฟ้า 100% ในราคา 1,190,000 บาท

ซึ่งหลายคนอาจจะไม่ทราบว่า ในต่างประเทศแถบยุโรปและอังกฤษตอนนี้ MG ZS EV 2022 ปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ พร้อมขายกันแล้วจ้า เชื่อว่าคนชื่นชอบรถยนต์ไฟฟ้า MG รอเก็บตังค์ซื้อกันเลย ไม่ว่าจะกี่ล้านก็ตาม …

MG ZS EV 2022 โฉมใหม่! ชูแบตเตอรี่วิ่งได้ไกลขึ้นถึง 439 กิโลเมตร

สำหรับรูปโฉมดีไซน์ภายนอกของ MG ZS EV 2022 หน้าตาดูใกล้เคียงกับ MG ZS รุ่นไมเนอร์เชนจ์ แต่ปรับปรุงหน้าตาใหม่ด้วยการใช้กันชนและกระจังหน้าแบบทึบ สไตล์รถยนต์ไฟฟ้า พร้อมออกแบบให้ฝาปิดช่องชาร์จไฟบริเวณกระจังหน้าให้สังเกตได้ง่ายขึ้น พร้อมชุดไฟท้ายและกันชนท้ายออกแบบใหม่ และล้ออัลลอยสีทูโทนขนาด 17 นิ้ว

MG ZS EV 2022 โฉมใหม่! ชูแบตเตอรี่วิ่งได้ไกลขึ้นถึง 439 กิโลเมตร

ห้องโดยสารภายใน ติดตั้งหน้าจออินโฟเทนเมนท์ขนาด 10.1 นิ้ว รองรับการใช้งาน Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมทั้งมาตรวัดแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 7 นิ้ว อีกทั้งยังมีระบบชาร์จสมาร์ทโฟนแบบไร้สายมาให้ด้วย

MG ZS EV 2022 โฉมใหม่! ชูแบตเตอรี่วิ่งได้ไกลขึ้นถึง 439 กิโลเมตร

ส่วนระบบความปลอดภัย ยังคงจัดหนักจัดเต็มไปกับระบบ Advanced Synchronized Protection System เหมือนในโฉมแรกเช่นเคย ทั้งโครงสร้างตัวถังนิรภัย (FSF) ระบบความปลอดภัย Synchronized Protection System ทั้งหมด 9 ระบบ และระบบเสริมความปลอดภัยในขณะขับขี่ Advanced Driver-Assistance Systems ได้แก่

  • ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-Beam Control)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist)
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning)
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning)
  • ระบบช่วยควบคุมรถเมื่อรถออกนอกเลน LDP (Lane Departure Prevention)
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA (Lane Keep Assist)
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA (Lane Change Assist)
  • ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection)
  • ระบบเตือนขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)

MG ZS EV 2022 โฉมใหม่! ชูแบตเตอรี่วิ่งได้ไกลขึ้นถึง 439 กิโลเมตร

สำหรับมอเตอร์ไฟฟ้าของรุ่น Standard Range ให้กำลังสูงสุด 130 กิโลวัตต์ (178 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 280 นิวตัน-เมตร ส่วนรุ่น Long Range เพิ่มกำลังมอเตอร์ไฟฟ้าเป็น 150 กิโลวัตต์ (204 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 280 นิวตัน-เมตร เมื่อเทียบกับรุ่นปัจจุบัน ที่ให้กำลังสูงสุด 110 กิโลวัตต์ หรือ 150 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร

MG ZS EV 2022 โฉมใหม่! ชูแบตเตอรี่วิ่งได้ไกลขึ้นถึง 439 กิโลเมตร

แต่อีกจุดเด่นของ MG ZS EV 2022 ที่ไม่พูดไม่ได้ก็คงจะเป็นชุดแบตเตอรี่ แบบ Lithium-ion ความจุ 44.5 kWh ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเป็นความจุ 51 kWh ที่ชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ให้ระยะทางวิ่งได้ถึง 318 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน WLTP)

อีกทั้งยังมีแบตเตอรี่แบบ Long Range ขนาด 72 kWh ที่ชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ให้ระยะทางวิ่งได้ถึง 439 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน WLTP) และรองรับการชาร์จด่วนตามจุด EV Charger ด้วยกำลังไฟมากขึ้นถึง 76 กิโลวัตต์ ส่งผลให้ประหยัดเวลาชาร์จ จาก 0-100% ลงเหลือ 42 นาทีเท่านั้น (หากชาร์จไฟบ้านปกติแบบ AC ขนาด 7kW ใช้เวลาราว 10.5 ชั่วโมง)

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่ มาขายรถกับทาง CARRO Express ได้ที่  https://th.carro.co/sell-car/express วิธีการขายรถในแบบยุคใหม่ ง่าย สะดวก รวดเร็ว ได้ราคา อีกทั้งยังลงขายได้ “ฟรี!” พร้อมรับเงินสดกลับบ้านทันที ภายใน 24 ชั่วโมง!

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

แต่ถ้าหากช่วงนี้ใครอยากเปลี่ยนรถคันใหม่ มาใช้แทนที่รถคันเดิม CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น!

รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check มากกว่า 200 จุด และยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ให้คุณเลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา พร้อมรับประกันคุณภาพรถนานถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร! อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! เรามีรถให้คุณเลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Official โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

15 ธ.ค. ขึ้นค่าทางด่วน ศรีรัช-วงแหวนรอบนอกฯ รถ 4 ล้อ ปรับเป็น 65 บาท!

หลายท่านพอเห็นข่าวทางด่วนขึ้นราคา ต่างร้องจ๊ากกันเลยทีเดียว โดยเฉพาะคนที่ใช้รถยนต์ขึ้นทางด่วนกันเป็นประจำ รายเพิ่มอีกแล้วครับท่าน

นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค. 2564 เป็นต้นไป บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM จะปรับขึ้นค่าผ่านทางพิเศษ สายศรีรัช-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร (SOE) ที่วิ่งจากจตุจักร – ตลิ่งชัน

ซึ่งได้มีการเปิดบริการครั้งแรกเมื่อ 15 ธันวาคม 2559 ในอัตราค่าผ่านทาง รถ 4 ล้อ 50 บาท, รถ 6-10 ล้อ 80 บาท, มากกว่า 10 ล้อ 115 บาท ซึ่งอัตราค่าผ่านทางเป็นไปตามสัญญา สามารถพิจารณาปรับค่าผ่านทางเพิ่มขึ้นได้ทุกๆ 5 ปี ตามดัชนีผู้บริโภค (CPI = Consumer Price Index) ตามสัญญาสัมปทาน

15 ธ.ค. ขึ้นค่าทางด่วน ศรีรัช-วงแหวนรอบนอกฯ รถ 4 ล้อ ปรับเป็น 65 บาท!

  • สำหรับรถ 4 ล้อ จะปรับขึ้น 15 บาท คือ ปรับจาก 50 บาท เป็น 65 บาท
  • รถ 6-10 ล้อ ปรับขึ้น 25 บาท จาก 80 บาท เป็น 105 บาท
  • รถมากกว่า 10 ล้อ ปรับขึ้น 35 บาท ปรับจาก 115 บาท เป็น 150 บาท

อย่างไรก็ตาม กระทรวงคมนาคมเกรงว่าการปรับขึ้นค่าทางด่วน จะส่งผลกระทบทำให้ประชาชนเดือดร้อนมากขึ้นในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 จึงสั่งการให้ฝ่ายบริหารของ กทพ. ไปหารือกับ BEM เพื่อหามาตรการบรรเทาผลกระทบ และช่วยเหลือประชาชนผู้ใช้ทาง

15 ธ.ค. ขึ้นค่าทางด่วน ศรีรัช-วงแหวนรอบนอกฯ รถ 4 ล้อ ปรับเป็น 65 บาท!

นายสุรเชษฐ กล่าวว่า ได้พูดคุยกับ BEM ครั้งแรกไปแล้วเมื่อวันที่ 11 ต.ค. ซึ่ง BEM ให้ความร่วมมือ จะจัดทำแคมเปญค่าผ่านทางราคาพิเศษ เพื่อเยียวยาประชาชนผู้ใช้ทาง โดยสัปดาห์หน้าจะนัด BEM มาหารืออีกครั้ง เพื่อนำเสนอให้บอร์ด กทพ. พิจารณา คาดว่าภายในต้นเดือน พ.ย. นี้ จะต้องได้ข้อสรุปทั้งหมด

“วันที่ 15 ธ.ค. กทพ.คงต้องอนุมัติให้ปรับขึ้นค่าผ่านทางสายศรีรัช-วงแหวนรอบนอกฯ เพราะเรามีบทเรียนมาแล้ว หากรัฐบาลแข็งขืนไม่ทำตามสัญญาสัมปทานจะถูกฟ้องร้องค่าโง่ ยอมรับว่าหนักใจมากๆ ที่ต้องไปพูดคุยขอให้เอกชนที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาโควิดด้วย

ซึ่งบริษัทชี้แจงว่าบริษัทได้รับผลกระทบจากปริมาณรถที่ผ่านทางปรับลงเหลือ วันละ 5 หมื่นคัน จากปกติวันละ 8 หมื่นค้น ซึ่งเมื่อเทียบแล้วรายได้หายไปเกือบ 50% ทาง BEM ก็ได้ขอทำการสงวนสิทธิ์การปรับขึ้นค่าผ่านทางมาแล้ว ซึ่งเราก็เข้าใจความเดือดร้อนของเอกชน แต่จะพยายามพูดคุยเจรจาหาทางออกที่ดีที่สุด ในรูปแบบแคมเปญ”

15 ธ.ค. ขึ้นค่าทางด่วน ศรีรัช-วงแหวนรอบนอกฯ รถ 4 ล้อ ปรับเป็น 65 บาท!

นายสุรเชษฐ์กล่าวว่า นอกจากนี้ BEM ยังได้เสนอขอชดเชยรายได้ที่ลดลง 50% จากผลกระทบการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 มายัง กทพ. ด้วย ซึ่งต้องดูแลและเยียวยาเอกชนให้เท่าเทียมกับส่วนอื่นๆ ด้วยต่อไป

ทั้งนี้ สำหรับการปรับขึ้นราคาค่าผ่านทาง ถือเป็นการแจ้งให้ประชาชนได้รับทราบว่า เป็นการปฏิบัติตามข้อสัญญา ซึ่งการทางพิเศษฯ ก็พยายามจะทำให้เต็มที่ เพื่อให้ประชาชนได้รับการดูแลและได้รับประโยชน์สูงสุด

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

ถ้าใครที่กำลังมองหารถคันใหม่ในตอนนี้ CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ เราพร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่งรถทุกคันของ CARRO Automall คุณไม่ต้องกังวลเลยในเรื่องของรถจมน้ำ รถน้ำท่วม หรือรถจมบาดาล เพราะเราไม่นำรถที่ถูกน้ำท่วมมาขายโดยเด็ดขาด และรถทุกคันยังผ่านการตรวจสภาพอย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 200 จุด อีกด้วย

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดในการดูรถเสมือนจริงผ่านระบบออนไลน์ เป็นรายแรกของธุรกิจรถมือสองในประเทศไทย คุณสามารถดูรูปรถทั้งภายนอก ภายใน กันได้แบบ 360 องศา รวมถึงยังสามารถฟังเสียงเครื่องยนต์จากรถคันที่คุณสนใจได้อีกด้วย!

เพราะเรามั่นใจในคุณของรถยนต์ทุกคัน เราจึงกล้ารับประกันคุณภาพรถนานถึง 2 ปี หรือ 20,000 กิโลเมตร! อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

แหล่งที่มาจาก:

  • กทพ. หอกระจายข่าว

Isuzu (อีซูซุ) เดินหน้าลุยตลาดรถช่วงปลายปี โชว์ศักยภาพ “ใหม่! พลานุภาพ…ไร้ขีดจำกัด” เผยโฉมรถรุ่นใหม่ครบทุกรุ่น เข้มขึ้น ดุขึ้น นำโดย “ใหม่! Isuzu D-Max (อีซูซุ ดีแมคซ์)” ตอกย้ำตัวตนใหม่ภายใต้แนวคิด “MY NEW ID..MY NEW ISUZU D-MAX” ขับเคลื่อนความสมบูรณ์แบบในทุกองศา มาพร้อมเอกลักษณ์ สีเทาโอเพคใหม่! (Islay Gray Opaque) เทรนด์สีใหม่ของวงการยานยนต์โลก และ “ใหม่! Isuzu X-Series (อีซูซุเอ็กซ์-ซีรี่ส์)” แรงทะลุไมล์…เร้าใจสไตล์เอ็กซ์ ปรับเพิ่มลุคสปอร์ตยิ่งขึ้น

Isuzu เปิดตัว Isuzu D-Max 2022 ใหม่! พร้อม Isuzu MU-X 2022 ใหม่!

พร้อมเปิดตัวรถอเนกประสงค์สุดหรู “(All-New Isuzu MU-X) ออลนิว อีซูซุมิว-เอ็กซ์” ที่เติมเต็มฟังก์ชั่นความปลอดภัยใหม่ในระบบ ADAS โดย “ใหม่! อีซูซุดีแมคซ์” และ “ใหม่! อีซูซุเอ็กซ์-ซีรี่ส์” เปิดตัวตนใหม่ครั้งแรกตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคมศกนี้ และ “ออลนิว อีซูซุมิว-เอ็กซ์” ตั้งแต่วันที่ 18 ตุลาคมศกนี้ เป็นต้นไป ณ โชว์รูมอีซูซุทั่วประเทศ

Isuzu เปิดตัว Isuzu D-Max 2022 ใหม่! พร้อม Isuzu MU-X 2022 ใหม่!

สำหรับ อีซูซุ ดีแมคซ์ ยอดยนตรกรรมปิกอัพระดับ Top Class ที่ประสบความสำเร็จทั้งในไทยและต่างประเทศ และยังคงกระแส “ดีแมคซ์ฟีเวอร์” ตั้งแต่การเปิดตัวครั้งแรกในโลกที่เมืองไทยเมื่อปลายปี 2562 หรือแม้แต่ปัจจุบันที่ตลาดรถยนต์หดตัวลงจากสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 ส่งผลให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อรถยากขึ้น อีซูซุดีแมคซ์ก็ยังคงเป็นที่ต้องการของผู้ใช้รถในเมืองไทย เนื่องจากความโดดเด่นในเรื่องของสมรรถนะ ความคุ้มค่าเงินสูงสุด และภาพลักษณ์ใหม่ซึ่งดูทันสมัย

Isuzu เปิดตัว Isuzu D-Max 2022 ใหม่! พร้อม Isuzu MU-X 2022 ใหม่!

สำหรับรถปิกอัพรุ่นล่าสุด “ใหม่! อีซูซุดีแมคซ์ พลานุภาพ…ไร้ขีดจำกัด” สร้างสรรค์ภายใต้แนวคิด “MY NEW ID..MY NEW ISUZU D-MAX” ตัวตนใหม่ที่เป็นคุณ โดยมาพร้อมสีเทาโอเพคใหม่! (Islay Gray Opaque) เทรนด์สีใหม่ของวงการยานยนต์โลก ที่มีคุณสมบัติพิเศษให้มุมมองสีหลากหลายมิติ ไล่ระดับจากเทาประกายมุกจรดเทาเข้ม ซึ่งสีพิเศษนี้มีให้เลือกใน “ใหม่! อีซูซุดีแมคซ์” ทุกรุ่น

Isuzu เปิดตัว Isuzu D-Max 2022 ใหม่! พร้อม Isuzu MU-X 2022 ใหม่!

นอกจากนี้ยังมี “ใหม่! อีซูซุเอ็กซ์-ซีรี่ส์” ปิกอัพสไตล์สปอร์ตเท่ที่มาพร้อมชุดแต่งจัดเต็ม ซึ่งครั้งนี้ได้เพิ่มความสปอร์ตให้โดดเด่นยิ่งขึ้นอีก ทั้งในรุ่น Speed ให้อารมณ์เรซซิ่งสุดร้อนแรง และรุ่น Hi-Lander สปอร์ตพรีเมี่ยม แฝงเรซซิ่งสปิริตภายใต้ความเรียบหรู สะดวกสบาย

และ “ออลนิว อีซูซุมิว-เอ็กซ์” ที่เปิดตัวเมื่อปลายปีที่แล้ว โดยมาพร้อมระบบความปลอดภัยที่เหนือชั้น ตลอดจนระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS (Advanced Driver Assistance Systems) โดยเพิ่มเติมฟังก์ชั่นความปลอดภัย ใหม่! Turn Assist with AEB ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติเมื่อมีรถสวนทางขณะเลี้ยวขวา อีกขั้นของความมั่นใจในทุกการเดินทาง โดยรถแต่ละรุ่นจะเปิดตัวต่อเนื่องตลอดเดือนตุลาคม”

นอกจากนี้ ยังมีจุดปรับเปลี่ยนพิเศษในแต่ละรุ่น ได้แก่

Isuzu เปิดตัว Isuzu D-Max 2022 ใหม่! พร้อม Isuzu MU-X 2022 ใหม่!

  • รถธงรุ่นล่าสุด ใหม่! อีซูซุวี-ครอส 4×4 (NEW! ISUZU V-CROSS 4×4) พรีเมี่ยมสปอร์ตออฟโรดที่มาพร้อมความแรงจัด ขับสนุกเร้าใจของเครื่องยนต์ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ เติมเต็มความเข้มดุสไตล์สปอร์ตทรงพลังในทุกมิติของรถด้วย ใหม่! กระจังหน้าแบบ Double Dimensions ดีไซน์แบบทูโทน สีเทาดำ และ Black Chrome พร้อมไฟท้าย ดีไซน์โทนสีเข้ม ใหม่! Front Bumper Guard สีทูโทน พร้อมชุดแต่งสีเทาดำรอบคันที่กระจกมองข้าง ราวหลังคา มือจับประตู บันไดข้าง Fender Lip, Robust Extender เพิ่มความดุดัน ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ดีไซน์ใหม่! แบบ Robust Radius สี Matte Black

Isuzu เปิดตัว Isuzu D-Max 2022 ใหม่! พร้อม Isuzu MU-X 2022 ใหม่!

  • ห้องโดยสารอารมณ์ใหม่ เท่ สปอร์ต และหรูหรา ด้วยดีไซน์ High-Class & Sporty เน้นสีแบบทูโทน ดำ-น้ำตาล คอนโซลหน้าสีดำ เบาะคู่หน้าดีไซน์ใหม่ เดินด้ายสีน้ำตาลอย่างพิถีพิถัน และพวงมาลัยสัมผัสใหม่ สีทูโทน พร้อมออกแบบให้มิติห้องโดยสารกว้างขวาง โอ่อ่า แบบ Sharp Horizontal Layers คมเข้ม เล่นระดับกับแผงข้างประตู ที่เติมเต็มอารมณ์ด้วยวัสดุตกแต่งพรีเมี่ยม สี Brown Cafe และ Satin Silver สปอร์ตหรูเหนือระดับไปอีกขั้น และจัดวางสิ่งอำนวยสะดวกสบายตามหลัก Usability Design เน้นการใช้งานที่หลากหลาย พร้อมระบบความบันเทิงสมบูรณ์แบบของ Isuzu Ultimate Entertainment ในราคา …….. บาท

Isuzu เปิดตัว Isuzu D-Max 2022 ใหม่! พร้อม Isuzu MU-X 2022 ใหม่!

  • ใหม่! อีซูซุดีแมคซ์ (New! Isuzu D-Max) รุ่น Cab 4, Hi-Lander และ Spacecab หรูหรา สะดวกสบาย ตอบรับทุกเป้าหมาย ทุกการใช้งานในทุกด้านของชีวิต เท่ เต็มอารมณ์สปอร์ตด้วย ใหม่! กระจังหน้าแบบ Double Dimensions ดีไซน์แบบทูโทน สี Chrome และ Dark Gray Metallic พร้อมไฟท้ายดีไซน์โทนสีเข้ม และ ใหม่! ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว สีทูโทนดีไซน์แบบ Robust Radius ในรุ่น Hi-Lander

Isuzu เปิดตัว Isuzu D-Max 2022 ใหม่! พร้อม Isuzu MU-X 2022 ใหม่!

  • ยกระดับการออกแบบภายใน ใช้วัสดุพรีเมี่ยม เติมเต็มความหรูด้วย Piano Black และ Satin Chrome พร้อมพื้นที่ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง โอ่อ่า แบบ Sharp Horizontal Layers คมเข้ม เล่นระดับกับแผงข้างประตู เบาะนั่งดีไซน์ใหม่ โอบกระชับ พร้อมเทคโนโลยี Coolmax ลดการสะสมความร้อน เบาะนั่งคู่หน้าเทคโนโลยี AVEC (Anti Vibration Elastic Comfort) ซับแรงสั่นสะเทือน ลดความเมื่อยล้า เบาะปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางในตำแหน่งที่นั่งคนขับ และ ใหม่! เกียร์อัตโนมัติ ใน Hi-Lander และ Cab 4 ในรุ่น LDA
  • รุ่น Spark, Spacecab และ Cab 4 ราคา 515,000 – 845,000 บาท ส่วนรุ่น Hi-Lander ราคา 728,000 – 1,064,000 บาท

Isuzu เปิดตัว Isuzu D-Max 2022 ใหม่! พร้อม Isuzu MU-X 2022 ใหม่!

สำหรับ ใหม่! อีซูซุเอ็กซ์-ซีรี่ส์ (New! Isuzu X-Series) ยนตรกรรมดีไซน์เท่ แรงทะลุไมล์…เร้าใจสไตล์เอ็กซ์ (INFINITE X-LIFE) ขีดสุดความเร้าใจสไตล์สปอร์ต ที่มาพร้อมชุดแต่งจัดเต็ม แรงจัดด้วยขุมพลังเครื่องยนต์อีซูซุ 1.9 Ddi Blue Power Gen 2 เติมเต็มพลังเรซซิ่งแบบไม่ต้องมีลิมิต! โดยมาพร้อม ใหม่! กระจังหน้าแบบ Double Dimensions ดีไซน์แบบทูโทนสีดำ Glossy Black ผสานสีแดงเข้ม Garnet Red พร้อมไฟท้ายโทนสีเข้ม พร้อมสัญลักษณ์ Isuzu สีแดง ในราคา 728,000 – 977,000 บาท

  • รุ่น Speed สติกเกอร์คาดหน้า-หลัง สีเทาพร้อมขอบแดงใหม่ Garnet Red คมเข้มสะดุดตา พร้อมสัญลักษณ์ X ที่ด้านหน้า

Isuzu เปิดตัว Isuzu D-Max 2022 ใหม่! พร้อม Isuzu MU-X 2022 ใหม่!

  • รุ่น Hi-Lander สติกเกอร์คาดหน้า-หลัง พร้อมสัญลักษณ์ X ที่ด้านหน้าตกแต่งขอบด้วยสีเงิน Silver-Gray ในรุ่นสีขาว / ตกแต่งขอบด้วยสีทอง Light Gold-Silver ในรุ่นสีดำ ใหม่! ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว สีดำ Glossy Black ดีไซน์เท่แบบ Robust Radius เสริมความสปอร์ตพรีเมี่ยม โดดเด่นด้วยสัญลักษณ์ Isuzu สีแดง เข้มเต็มอารมณ์

และ “ออลนิว อีซูซุมิว-เอ็กซ์” (All-New Isuzu MU-X) …ความสำเร็จใหม่ที่คุณกำหนด ยอดยนตรกรรมอเนกประสงค์ระดับหรู เพิ่มความมั่นใจด้วยเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยที่เหนือกว่า ล่าสุดเพิ่ม ใหม่! Turn Assist with AEB ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติเมื่อมีรถสวนทางขณะเลี้ยวขวา ในระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS (Advanced Driver Assistance Systems) เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยล้ำหน้าล่าสุด เพิ่มความมั่นใจในทุกการเดินทาง ในราคา 1,119,000 – 1,599,000 บาท

นอกจากนี้ ในรถอีซูซุทุกรุ่นยังได้เพิ่มฟังก์ชั่นใหม่ “เตือนการรับบริการ” เพื่อความสะดวกสบายของลูกค้าในการเข้ารับบริการหลังการขายจากอีซูซุ

Isuzu เปิดตัว Isuzu D-Max 2022 ใหม่! พร้อม Isuzu MU-X 2022 ใหม่!

พบกับ “ใหม่! อีซูซุดีแมคซ์ พลานุภาพ…ไร้ขีดจำกัด” “ใหม่! อีซูซุเอ็กซ์-ซีรี่ส์ แรงทะลุไมล์…เร้าใจสไตล์เอ็กซ์” พร้อมเผยโฉม ณ โชว์รูมอีซูซุทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคม ศกนี้ เป็นต้นไป และ “ออลนิว อีซูซุมิว-เอ็กซ์ ความสำเร็จใหม่ที่คุณกำหนด” เริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 18 ตุลาคม ศกนี้ เป็นต้นไป

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

สำหรับใครที่อยากซื้อรถใหม่ แต่ถ้าหากว่างบไม่พอ มาขายรถคันเดิมกับ CARRO Express สิ! Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

และอีกหนึ่งบริการใหม่! CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น!

รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check และยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ให้คุณเลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา พร้อมรับประกันคุณภาพรถนานถึง 2 ปี หรือ 20,000 กิโลเมตร! อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! เรามีรถให้คุณเลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

All-New Honda Integra 2022 ใหม่ คู่แฝด Honda Civic 2022 เตรียมเปิดตัวในจีน

ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาหลังจากที่ Honda (ฮอนด้า) ได้ทยอยเปิดตัว All-New Honda Civic (ฮอนด้า ซีวิค) ใหม่ เจเนอเรชั่นที่ 11 ที่ยังคงความเป็นไอคอนของรถสปอร์ตพรีเมียมซีดาน พัฒนา DNA ความสปอร์ตอันเป็นเอกลักษณ์ให้ก้าวล้ำมาโดยตลอด ในหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งทาง Honda ยังเตรียมเปิดตัว Product พิเศษ เอาใจลูกค้าในแต่ละประเทศต่างๆ ต่างหากอีกด้วย

All-New Honda Integra 2022 ใหม่ คู่แฝด Honda Civic 2022 เตรียมเปิดตัวในจีน

และในประเทศจีน ซึ่งได้ชื่อว่ามียอดขายรถหลายล้านคันต่อปี ที่น่าเซอร์ไพรส์คือชื่อเก่าที่เราคุ้นเคยอย่าง Honda Integra (ฮอนด้า อินเทกร้า) ซึ่งเคยเป็นชื่อที่ใช้ในรถยนต์สปอร์ตซีดาน และสปอร์ตคูเป้ของฮอนด้าในอดีต (รวมไปถึงเป็นชื่อรุ่นของมอเตอร์ไซค์ Big Bike ของ Honda ด้วย) ถูกนำกลับมาใช้อีกครั้ง ในรูปแบบของคู่แฝดกับ Honda Civic 2022 ใหม่

All-New Honda Integra 2022 ใหม่ คู่แฝด Honda Civic 2022 เตรียมเปิดตัวในจีน

โดย GAC Honda (หรือ Guangqi Honda Automobile Co., Ltd.) ในประเทศจีน เปิดตัว All-New Honda Integra 2022 ใหม่ จับเอา All-New Honda Civic มาตกแต่งใหม่เน้นเอาใจวัยรุ่นที่ชื่นชอบรถสปอร์ต (ต้องขอบอกก่อนว่า Acura Integra รถสปอร์ต 2 ประตู Coupe เจเนอเรชั่นที่ 5 ที่จะเตรียมเปิดตัวในอเมริกาเหนือ ไม่ใช่รถตัวเดียวกับ Integra รุ่นที่ขายในเมืองจีนนะครับ)

All-New Honda Integra 2022 ใหม่ คู่แฝด Honda Civic 2022 เตรียมเปิดตัวในจีน

ภายนอกของ All-New Honda Integra 2022 เวอร์ชั่นจีน ใช้กระจังหน้าและกันชนหน้าที่ออกแบบใหม่หมด พร้อมชุดไฟหน้า LED ที่ออกแบบใหม่ดูเรียวบางลงกว่าเดิม ส่วนด้านท้ายถูกออกแบบไฟท้ายใหม่ ดูสปอร์ตโฉบเฉี่ยวขึ้น พร้อมชุดไฟเลี้ยวแบบ LED ส่วนชุดกันชนท้ายด้านล่างมีท่อไอเสียคู่ และ Diffuser เสริมให้ดูสปอร์ตขึ้น บวกกับล้อแม็กลายใหม่ขนาด 18 นิ้ว

All-New Honda Integra 2022 ใหม่ คู่แฝด Honda Civic 2022 เตรียมเปิดตัวในจีน

มิติตัวรถยาว 4,689 มม. ถือว่ายาวกว่า Civic เล็กน้อย (ประมาณ 11 มม.) กว้าง 1,802 มม. สูง 1,415 มม. ระยะฐานล้อ 2,733 มม. พร้อม 2 สีโปรโมต คือ สีเหลือง Fiery Yellow และสีฟ้า Emerald Blue (ที่ดูออกจะสีเขียวด้วยซ้ำไป)

All-New Honda Integra 2022 ใหม่ คู่แฝด Honda Civic 2022 เตรียมเปิดตัวในจีน

สำหรับขุมพลังทาง GAC Honda ยังไม่ได้ระบุว่าเป็นเครื่องยนต์แบบไหน แต่สังเกตได้จาก “240 Turbo” ที่ติดอยู่บริเวณฝากระโปรงท้าย เราจึงคาดว่ารุ่นนี้ใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร แบบ 4 สูบ Turbo 180 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 240 นิวตัน-เมตร ส่วนระบบส่งกำลังมาพร้อมเกียร์ธรรมดา 6 สปีด แบบเดียวกับใน Civic Hatchback และอาจจะมีเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT มาให้เลือกด้วยเช่นกัน

ใครที่อยากซื้อรถรุ่นนี้ (หากอาศัยอยู่ในเมืองจีน) รอราคาพร้อมเปิดตัว ช่วงปลายปี 2021 ได้เลยจ้า

สำหรับใครที่อยากซื้อรถใหม่ แต่ถ้าหากว่างบไม่พอ มาขายรถคันเดิมกับ CARRO Express สิ! Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

และอีกหนึ่งบริการใหม่! CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น!

รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check และยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ให้คุณเลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา พร้อมรับประกันคุณภาพรถนานถึง 2 ปี หรือ 20,000 กิโลเมตร! อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! เรามีรถให้คุณเลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ