Toyota-Recall-Hybrid-Car

ใครใช้ Prius และ C-HR Hybrid โปรดติดตามข่าวนี้ไว้ครับ

Toyota-Prius

รายงานข่าวจากสำนักข่าว CNN ระบุว่า โตโยต้า มอเตอร์ เตรียมประกาศเรียกคืน รถยนต์ไฮบริด จำนวนกว่า 1 ล้านคันทั่วโลก ซึ่งประกอบไปด้วยรุ่น Prius (พรีอุส), Prius Plug-In Hybrid (พรีอุส ปลั้กอินไฮบริด) และ C-HR Hybrid (ซี-เอชอาร์ ไฮบริด) เพื่อนำกลับมาซ่อมแซมระบบไฟฟ้าใหม่ เนื่องจากมีการตรวจพบว่า ชิ้นส่วนบางอย่างอาจจะก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดไฟไหม้ได้

Toyota-Prius-PHV

ผู้บริหารของโตโยต้า กล่าวว่า ปัญหาดังกล่าว เกี่ยวข้องกับสายไฟที่เชื่อมต่อระหว่างชุดควบคุมพลังงานไฟฟ้า (Power Control Unit) ซึ่งอาจจะสร้างความร้อนสะสม อันเป็นต้นเหตุให้เกิดไฟไหม้รถได้ แต่ปฏิเสธที่จะบอกว่า การบกพร่องดังกล่าวสามารถส่งผลต่อความเสียหายถึงขั้นบาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้หรือไม่

สำหรับรถยนต์ที่เข้าข่ายถูกเรียกคืนนั้น มากกว่าครึ่งขายในประเทศญี่ปุ่น ขณะที่อเมริกา จะมีการเรียกคืนน้อยกว่า 200,000 คัน ส่วนที่เหลือจะเป็นรถที่ขายในยุโรปและทวีปอื่นๆ ทั่วโลก โดยเป็นรถที่ผลิตขึ้นระหว่างเดือน มิถุนายน 2015 ถึง พฤษภาคม 2018 โดยการเรียกคืนดังกล่าว ลูกค้าไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมแต่อย่างใด

ทั้งนี้ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โตโยต้า มีการเรียกคืนรถเพื่อมาซ่อมแซมรวมมากกว่า 20 ล้านคัน เนื่องจากปัญหาของ ถุงลมนิรภัย ทากาตะ โดยเฉพาะในปี 2016 มีการเรียกคืนกว่า 1.7 ล้านคัน จากปัญหาดังกล่าว รวมถึงเพื่อมาซ่อมเบรกมืออีกด้วย

Toyota-C-HR-Hybrid

และในส่วนของ โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ก็ได้ประกาศเรียกคืนรถยนต์ของโตโยต้า จำนวน 4 รุ่น และรถยนต์เลกซัส จำนวน 2 รุ่น ซึ่งเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2556 ด้วยเช่นกัน เพื่อให้ลูกค้านำรถเข้ารับบริการตรวจสอบและเปลี่ยนชิ้นส่วนภายในชุดถุงลมนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้า จากกรณีพบการทำงานบกพร่องของชุดถุงลมฯ ที่ผลิตโดยทาคาตะ

พบว่า จำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่เข้าข่าย มีทั้งสิ้น 484,914 คัน และตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้แจ้งให้ลูกค้านำรถเข้ารับการตรวจสอบ และเปลี่ยนชิ้นส่วนดังกล่าว ซึ่งมีลูกค้าได้นำรถเข้ารับการเปลี่ยนชุดถุงลมนิรภัยไปแล้ว 107,243 คัน และยังมีลูกค้าอีกเป็นจำนวนมาก ที่ยังไม่ได้นำรถยนต์มาตรวจสอบ

โดยมีรุ่นรถ ที่ต้องเข้ารับการตรวจสอบ และเปลี่ยนชิ้นส่วนฯ ประกอบด้วย

1) Toyota Alphard รุ่นปี 2009-2014
2) Toyota Camry รุ่นปี 2001-2006
3) Toyota Vios รุ่นปี 2007-2013
4) Toyota Yaris รุ่นปี 2006-2013
5) Lexus RX รุ่นปี 2015-2016
6) Lexus IS รุ่นปี 2006-2012

ลูกค้าสามารถนัดหมายเพื่อเข้ารับบริการ ได้ที่ศูนย์บริการของผู้แทนจำหน่ายโตโยต้า ทั่วประเทศ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ

ที่มา CNN.com – https://money.cnn.com/2018/09/05/news/companies/toyota-prius-recall/index.html
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าวภาษาไทยจาก MGR Online – https://mgronline.com/motoring/detail/9610000089164

Penalty-Driver-Not-Have-Driving-License

แก้กฎหมายเพิ่มโทษ ไม่พกใบขับขี่ ปรับ 1 หมื่นบาท ใบขับขี่หมดอายุ ติดคุก 3 เดือน ปรับอีก 5 หมื่นบาท

Penalty-Driver-Not-Have-Driving-License

นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ กรมการขนส่งทางบก อยู่ระหว่างการบูรณาการกฎหมาย 2 ฉบับ คือ พระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 และพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 เข้าด้วยกัน เพื่อให้เป็นกฎหมายเดียวง่ายต่อการกำกับดูแล รวมทั้งเร่งปรับปรุงรายละเอียดของกฎหมายให้มีความทันสมัย และสอดคล้องกับพฤติกรรมการขับขี่ของยุคนี้มากขึ้น

Penalty-Driver-Not-Have-Driving-License

โดยขณะนี้ ร่างกฎหมายฉบับแก้ไขได้ผ่านความเห็นชอบของของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ยังไม่สามารถระบุได้ว่า จะผ่านความเห็นชอบเมื่อไหร่ ทั้งนี้หากผ่านการพิจารณาของ สนช. แล้ว ตามขั้นตอนจะต้องนำประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา ก่อนซึ่งตามขั้นตอนกฎหมาย จะมีผลบังคับใช้เป็นทางการได้ จะต้องลงประกาศในราชกิจจาฯ ครบ 1 ปีไปแล้ว

Penalty-Driver-Not-Have-Driving-License

สำหรับการแก้ไขกฎหมายด้านการขนส่ง ครั้งนี้ กรมฯ ได้มีการปรับเพิ่มบทลงโทษกรณีผู้ขับขี่กระทำผิดตามพระราชบัญญัติรถยนต์ด้วย เพื่อให้ผู้ขับขี่เข็ดหลาบไม่กล้าทำความผิดหรือฝ่าฝืนกฎหมายอีก รวมทั้งให้ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยลดอุบัติเหตุและความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนได้

พระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 ตามกฎหมายใหม่ ที่กรมฯ ได้นำเสนอได้มีการแก้ไขปรับเพิ่มโทษสำคัญๆใน 3 มาตรา ประกอบด้วย

  • 1. มาตรา 64 ขับรถโดยไม่มีใบอนุญาต ตามกฎหมายเดิมลงโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับสูงสุดไม่เกิน 1พันบาท แต่กฎหมายใหม่เสนอได้ปรับเพิ่มโทษเป็น จำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับสูงสุดไม่เกิน 5 หมื่นบาท
  • 2. มาตรา 65 ขับรถในระหว่างใบอนุญาตสิ้นอายุ ถูกพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาต หรือถูกยึดใบอนุญาต ตามกฎหมายเดิมลงโทษปรับไม่เกิน 2 พันบาท แต่กฎหมายใหม่ได้เสนอให้มีการเพิ่มโทษจำคุกเข้ามาด้วย คือ จำคุกไม่เกิน 3 เดือน ส่วนโทษ ปรับก็เพิ่มขึ้นเป็นสูงสุดไม่เกิน 5 หมื่นบาท
  • 3. มาตรา 66 ขับรถโดยไม่แสดงใบอนุญาต ตามกฎหมายเดิมปรับไม่เกิน 1พันบาท แต่ตามกฎหมายใหม่ เสนอให้ปรับสูงสุดไม่เกิน 1 หมื่นบาท

ซึ่งก็ไม่รู้ว่า ผู้ใช้รถอย่างเราๆ ท่านๆ เหมือนด้วยหรือไม่หรือเปล่านะครับ …

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก ข่าวสด

DLT-Registration-Car-First-Half-Year-2018

ยอดจดทะเบียนรถใหม่ทั้งประเทศ 1,614,576 คัน รถจักรยานยนต์ครองแชมป์ 1,008,486 คัน

DLT-Registration-Car-First-Half-Year-2018

กรมการขนส่งทางบก เผยสถิติจดทะเบียนรถใหม่ทั่วประเทศ ครึ่งปีแรก (ม.ค. – มิ.ย. 2561) มากกว่า 1.5 ล้านคัน ระบุ!!! รถจักรยานยนต์ครองสถิติจดทะเบียนใหม่สูงสุดกว่า 1 ล้านคัน ส่วนรถยนต์นั่งไม่เกิน 7 คน จดทะเบียนใหม่เกือบ 4 แสนคัน

นายจงรักษ์ กิจสำราญกุล รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยถึง สถิติจดทะเบียนรถใหม่ทั่วประเทศ ช่วงครึ่งปีแรกของปี 2561 (เดือนมกราคม – มิถุนายน 2561) มีรถใหม่ที่จดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก และสำนักงานขนส่งทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,614,576 คัน เพิ่มขึ้นจากครึ่งปีแรกของปี 2560 ร้อยละ 1.9

DLT-Registration-Car-First-Half-Year-2018

ส่งผลให้จำนวนรถจดทะเบียนสะสมทั่วประเทศ จนถึงปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2561) มีจำนวนทั้งสิ้น 38,969,601 คัน แบ่งเป็น …

  • รถจักรยานยนต์จำนวน 20,709,434 คัน
  • รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน จำนวน 9,074,573 คัน
  • รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจำนวน 6,527,058 คัน
  • รถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกิน 7 คน (รถแท็กซี่) จำนวน 84,005 คัน
  • รถจักรยานยนต์สาธารณะ จำนวน 188,171 คัน
  • รถบรรทุกตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 มีจำนวน 1,108,671 คัน
  • และ รถโดยสารตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 มีจำนวน 160,977 คัน

DLT-Registration-Car-First-Half-Year-2018

สถิติการจดทะเบียนรถใหม่ช่วงครึ่งปีแรก แบ่งออกเป็น …

  • รถจักรยานยนต์ จำนวน 1,008,486 คัน
  • รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง จำนวน 373,063 คัน
  • รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล (รถกระบะ) จำนวน 141,271 คัน
  • รถยนต์รับจ้างบรรทุกผู้โดยสารไม่เกิน 7 คน (รถแท็กซี่) จำนวน 8,094 คัน
  • และ รถจักรยานยนต์สาธารณะ จำนวน 1,911 คัน

ขณะที่รถบรรทุกตาม พ.ร.บ. ขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 มีจำนวน 34,755 คัน และรถโดยสารอีกจำนวน 6,186 คัน

Car-Hire-Purchase-Law-2018

เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคที่เช่าซื้อรถ และเพื่อความชัดเจนมากขึ้น

New-Car-Hire-Purchase-Law-2018

เมื่อหลายเดือนก่อน ในราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เรื่อง ให้ธุรกิจให้เช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์เป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา พ.ศ. 2561 มีผลบังคับใช้ไปเมื่อวันที่ 1 ก.ค. ที่ผ่านมา

ประโยชน์ที่ผู้บริโภคจะได้รับ คือ

  • ดอกเบี้ยปรับ กรณีผิดนัดชำระ ไม่เกิน 15% (จากเดิม 17%)
  • บริษัทเช่าซื้อ ต้องมีตารางแสดงค่างวด แยกเงินต้น-ดอกเบี้ย วัน/เดือน/ปี ชำระค่างวด ให้ผู้บริโภคทราบชัดเจน
  • หากผู้เช่าซื้อ ต้องการโปะเงินจ่ายทั้งหมด บริษัทลีสซิ่ง ต้องให้ส่วนลดดอกเบี้ยไม่น้อยกว่า 50%
  • บริษัทเช่าซื้อ เก็บค่าธรรมเนียมทวงถามได้ แต่เก็บค่าใช้จ่ายในการยึดรถ ไม่ได้
  • ผู้เช่าซื้อมีสิทธิ์ ซื้อรถคืนได้ภายใน 7 วัน หลังโดนยึดรถ และให้สิทธิ์ผู้ค้ำประกันอีก 15 วัน
  • กรณีจะขายรถทอดตลาด ต้องแจ้งให้ผู้เช่าซื้อ และผู้ค้ำประกัน ทราบล่วงหน้า 7 วัน

New-Car-Hire-Purchase-Law-2018

วัตถุประสงค์หลัก เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคที่เช่าซื้อรถ จากที่ผ่านมาได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากสัญญาเช่าซื้อค่อนข้างเอารัดเอาเปรียบ อย่างไรก็ตาม ประกาศฉบับใหม่ที่ปรับแก้ไขจาก 2 ฉบับเดิม ปี 2555 และ 2558 สาระสำคัญส่วนใหญ่ ไม่ได้แตกต่างไปจากเดิมมากนัก

หลักๆ คือแก้ไขเรื่องการคิดอัตราดอกเบี้ยกรณีผิดนัดชำระหนี้ การปรับลดดอกเบี้ยกรณีผู้บริโภคต้องการชำระค่าเช่าซื้อทั้งหมดในคราวเดียวกัน ค่าใช้จ่ายจากการบังคับยึดรถกรณีผู้เช่าซื้อผิดนัดชำระหนี้เกินกำหนด ซึ่งเดิมผู้ให้สินเชื่อเช่าซื้อ หรือบริษัทลีสซิ่ง สามารถเรียกเก็บค่าใช้จ่ายในการยึดรถจากผู้บริโภคได้ แต่กฎหมายใหม่กำหนดข้อห้ามไว้ การกำหนดให้แสดงรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับการเช่าซื้อ อาทิ เงินต้น ดอกเบี้ย ค่างวดเช่าซื้อให้ชัดเจน เป็นต้น

Auto-Sales

ข้อมูลจากประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญาเรื่องให้ธุรกิจให้เช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ เป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา ระบุว่า ในกรณีที่ผู้เช่าซื้อชำระเงินค่าเช่าซื้อและค่าใช้จ่ายต่างๆ ครบถ้วนแล้ว ให้กรรมสิทธิ์ในรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ที่เช่าซื้อเป็นของลูกค้าทันที โดยบริษัทลีสซิ่ง ต้องดำเนินการจดทะเบียนรถให้เป็นชื่อของลูกค้า ภายใน 30 วัน หากเกินกำหนด บริษัทลีสซิ่งต้องเสียเบี้ยปรับ ในอัตราที่เท่ากับเบี้ยปรับ ที่ลูกค้าต้องชำระเมื่อผิดนัดชำระค่าเช่าซื้อ

นอกจากนี้ยังมีรายละเอียดเรื่องการประมูลและขายทอดตลาด คือ ก่อนนำรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ออกประมูลหรือขายทอดตลาด บริษัทเช่าซื้อต้องส่งหนังสือแจ้งลูกค้าให้ทราบไม่น้อยกว่า 7 วัน เพื่อให้ลูกค้าใช้สิทธิ์ซื้อก่อน โดยจะซื้อได้ตามมูลหนี้ส่วนที่ขาดอยู่ตามสัญญาเช่าซื้อ และหากผู้เช่าซื้อไม่ใช้สิทธิ์ บริษัทลีสซิ่งก็ต้องแจ้งให้ผู้ค้ำประกันทราบ เพื่อเปิดโอกาสให้ใช้สิทธิ์เช่นเดียวกับผู้เช่าซื้อ

ขอขอบคุณข่าวจาก ประชาชาติธุรกิจ

ราชกิจจานุเบกษา http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2561/E/035/6.PDF

Car-In-Bangkok-Auto-Salon-2018

 จัดเต็มทั้งรถใหม่ รถแต่ง ของแต่งรถ และพริตตี้สาวสวยจากญี่ปุ่น

Bangkok-Auto-Salon-2018

“บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล ออโต ซาลอน 2018” (Bangkok International Auto Salon 2018) “Go! Car Fes” มหกรรมแสดงและจำหน่ายยนตรกรรม พร้อมอุปกรณ์แต่งรถ ยิ่งใหญ่ที่สุดในอาเซียน (ASEAN’S Biggest Modified Automotive Show And Sale) 4-8 กรกฎาคม 2561 ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 2, อิมแพ็ค เมืองทองธานี

CARRO ขอนำเสนอรถแต่งสวย แต่งซิ่ง ในงาน Auto Salon 2018 โดยบริษัทรถยนต์หลายค่าย ต่างเตรียมขายรถยนต์ในงานนี้เป็นปีแรก ซึ่งทางญี่ปุ่น ที่เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์งาน อนุญาติให้ทางบริษัทค่ายรถยนต์ที่มาออกงาน สามารถขายรถได้

ทาง MR.CARRO อยากให้คนรักรถทุกท่าน หาโอกาสไปเดินเที่ยวกันจริงๆ ครับ … เชิญชมกับภาพบรรยากาศภายในงาน Auto Salon 2018 กันได้เลย

Bangkok-Auto-Salon-2018-Audi-R8

Audi R8 Balance It

Bangkok-Auto-Salon-2018-Suzuki-Swift

Suzuki Swift Monster Sport (ZC33S)

Bangkok-Auto-Salon-2018-Nissan-Silvia

Nissan Silvia (S13)

Bangkok-Auto-Salon-2018-Honda-Civic

Honda Civic Spoon Sports

Bangkok-Auto-Salon-2018-Honda-NSX

Honda NSX Modulo

Bangkok-Auto-Salon-2018-BMW

BMW 3.0 CS & BMW Series 6

Bangkok-Auto-Salon-2018-Mazda-RX-7

Mazda RX-7

Bangkok-Auto-Salon-2018-BMW-Series-3

BMW Series 3 Convertible

Bangkok-Auto-Salon-2018-Suzuki-Swift-Rally

Suzuki Swift Rally

Bangkok-Auto-Salon-2018-Nissan-Skyline-R32

Nissan Skyline GT-R (R32)

Bangkok-Auto-Salon-2018

รถแต่งจากสำนักต่างๆ

Bangkok-Auto-Salon-2018-Mag

มุมล้อแม็ก

Bangkok-Auto-Salon-2018-Toyota-C-HR

Toyota C-HR

Bangkok-Auto-Salon-2018-Tamiya

มุมรถโมเดล Tamiya

Bangkok-Auto-Salon-2018-Suzuki-Swift

Suzuki Swift จัดชุดแต่ง

Bangkok-Auto-Salon-2018-Toyota-C-HR

Toyota C-HR

Bangkok-Auto-Salon-2018

มุมรถแต่งจากร้านประดับยนต์

Bangkok-Auto-Salon-2018-Honda-S660

Honda S660

Bangkok-Auto-Salon-2018

Beware-While-Transfer-Car

ก่อนการตกลงซื้อขายรถ ควรตรวจสอบตัวรถ และเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับตัวรถอย่างละเอียด

Beware-While-Transfer-Car

กรมการขนส่งทางบก ย้ำ!! ตรวจสอบความถูกต้องกับกรมการขนส่งทางบกก่อนซื้อรถมือสองทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัยและมั่นใจว่าเป็นรถที่ถูกต้องตามกฎหมาย ป้องกันการตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพ

นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อขายรถมือสองทั้งการซื้อต่อจากบุคคลหรือเต้นท์รถมือสอง ควรดำเนินการโอนทางทะเบียนด้วยตนเอง พร้อมนำรถเข้าตรวจสภาพ ณ สำนักงานขนส่งที่รถนั้นจดทะเบียน ซึ่งกรมการขนส่งทางบก มีกระบวนการตรวจสอบความถูกต้องทั้งด้านเอกสารและตัวรถอย่างเข้มงวด

Beware-While-Transfer-Car

นอกจากนี้ ก่อนการตกลงซื้อขายให้ตรวจสอบหลักฐานเกี่ยวกับตัวรถโดยละเอียด เช่น สภาพรถต้องตรงตามที่ระบุในคู่มือจดทะเบียน หากมีการแก้ไขดัดแปลงสภาพรถต้องมีเอกสารหลักฐานชัดเจน หรือขอหลักฐานเกี่ยวกับตัวรถจากเจ้าของรถหรือผู้ขาย มาตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นที่สำนักงานขนส่งจังหวัด หรือสำนักงานขนส่งสาขา หรือนำรถเข้าตรวจสอบความถูกต้อง ณ สำนักงานขนส่งจังหวัด หรือสำนักงานขนส่งสาขาที่รถนั้นจดทะเบียนไว้ หากผลการตรวจสอบถูกต้องจึงค่อยดำเนินการซื้อขายรถต่อไป

อย่างไรก็ตามหากตรวจสอบแล้วพบว่าเอกสารหลักฐานหรือตัวรถไม่ถูกต้องจะไม่สามารถดำเนินการทางทะเบียนได้ในทุกกรณี เพื่อความปลอดภัยและป้องกันปัญหากลุ่มมิจฉาชีพนำรถผิดกฎหมายมาหลอกขาย ซึ่งอาจเป็นรถที่ถูกโจรกรรมมา หรือนำไปก่ออาชญากรรมหรือพัวพันกับคดียาเสพติด รวมทั้งเกี่ยวข้องกับคดีผิดกฎหมายทุกประเภท ซึ่งจะเกิดผลกระทบกับผู้ซื้อในภายหลัง

Beware-While-Transfer-Car

และไม่ควรซื้อขายรถด้วยวิธีการโอนลอย โดยเซ็นเอกสารไว้แล้วมาดำเนินการในภายหลัง อาจก่อปัญหาให้ทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย เช่น กรณีผู้ซื้อไม่ดำเนินการชำระภาษีรถประจำปี รถเกิดอุบัติเหตุ หรือนำรถไปกระทำผิดกฎหมาย ยังคงปรากฏชื่อเจ้าของรถรายเดิมในระบบทะเบียน ทำให้เจ้าของรถรายเดิมต้องมีส่วนรับผิดชอบในปัญหาที่เกิดขึ้น ในทางกลับกันการไม่ดำเนินการโอนทางทะเบียน ผู้ซื้อก็ไม่อาจตรวจสอบความถูกต้องของรถได้โดยสมบูรณ์

อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวต่อไปว่า ขอให้ประชาชนให้ความสำคัญกับการพิทักษ์สิทธิของตนเองด้วยการตรวจสอบรถก่อนการซื้อขายทุกครั้ง อย่าหลงเชื่อซื้อรถที่มีราคาสูงแต่นำมาขายในราคาต่ำ รวมทั้งการซื้อขายรถที่มีเอกสารการได้มาของตัวรถไม่ชัดเจน ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางบกเข้มงวดตรวจสอบการดำเนินการทางทะเบียนรถทุกขั้นตอน ตรวจสภาพรถตามรายการที่กำหนดทุกคัน หากเอกสารหลักฐานหรือตัวรถไม่ถูกต้องจะไม่สามารถดำเนินการทางทะเบียนได้ในทุกกรณี

ทั้งนี้ หากพบเห็นรถต้องสงสัยสามารถแจ้งข้อมูลมายังกรมการขนส่งทางบก หรือแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อตรวจสอบและคุ้มครองสิทธิตามกฎหมาย และป้องกันการตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพได้อย่างทันท่วงที อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวในที่สุด

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่ มาขายรถกับทาง Carro Express สิ! คลิกเลยที่ https://th.carro.co/sell-car/express รับรองได้เงินเร็ว ไว ทันใจแน่นอน!

Carro Automall ตลาดรถ

ส่วนใครสนใจจะซื้อรถมือสอง Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

แหล่งที่มาจาก:

  • กรมการขนส่งทางบก
The-10-Best-In-Motor-Show-2018

10 “ที่สุด” ในงาน Motor Show 2018 ที่คุณยังไม่รู้ หรืออาจจะคาดไม่ถึง!

งาน “มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 39” หรือ “Motor Show 2018” นอกจากจะมีการนำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่ๆ รถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ๆ รถมือสอง รวมไปถึงอุปกรณ์เกี่ยวเนื่อง อุปกรณ์ตกแต่ง โปรโมชั่น และพริตตี้สาวสวยที่หลายๆ คนชื่นชอบนั้น …

ภายในงานยังถือได้ว่ามีเรื่องราว “ที่สุด” ที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ทั้งหลายที่นำมาโชว์ด้วย Carro ขอรวบรวม “10 ที่สุด” ที่เกี่ยวกับรถยนต์ในงาน “Motor Show 2018” มาให้ทุกท่านได้รับทราบกันครับผม

ถูกที่สุด

Suzuki-Carry

รถที่ “ถูก” ที่สุดในงาน Motor Show 2018 ครั้งนี้ต้องยกให้ “Suzuki Carry” (ซูซูกิ แครี่) รถกระบะขนาดเล็กของซูซูกิ ที่มาในราคาเพียง 369,800 บาท ขายกันมายาวนานนับสิบปี มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 92 แรงม้า ซึ่งรถรุ่นนี้มีความโดดเด่นทั้งในด้านคุณภาพของตัวรถ รูปลักษณ์ ประโยชน์ใช้สอย และราคาที่คุ้มค่า นำไปดัดแปลงเป็นรถโมบายใช้งานในกิจการต่างๆ เช่น รถขายอาหาร รถส่งของ เป็นต้น

แพงที่สุด

Rolls-Royce-Phantom

รถที่ขึ้นชื่อว่า “แพง” ที่สุดในงาน Motor Show 2018 ครั้งนี้คือ “Rolls-Royce Phantom” (โรลส์-รอยซ์ แฟนทอม) รถยนต์ 4 ที่นั่งสุดหรูจากโรลส์-รอยซ์ ในราคา 59,500,000 บาท! ในแบบช่วงยาว มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 6.75 ลิตร แบบ V12 Twin Turbo แบบใหม่ ให้แรงม้าสูงสุด 563 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 900 นิวตันเมตร ที่ 1,700 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด

รถเปิดประทุนแพงที่สุด

Rolls-Royce-Dawn

ส่วนรถเปิดประทุนที่ขึ้นชื่อว่า “แพง” ที่สุดในงาน Motor Show 2018 ได้แก่ “Rolls-Royce Dawn” (โรลส์-รอยซ์ ดอว์น) รถคูเป้เปิดประทุน 4 ที่นั่งสุดหรูจากโรลส์-รอยซ์ ในราคา 34,900,000 บาท! มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 6.6 ลิตร แบบ V12 Turbo ให้แรงม้าสูงสุด 563 แรงม้า ที่ 5,250 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุดที่ 780 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500 รอบ/นาที สามารถทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ภายในเวลาเพียง 4.9 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 250 กม./ชม.

รถสปอร์ตเร็วที่สุด

Porsche-911-GT2-RS

รถสปอร์ตที่เร็วที่สุดในงาน Motor Show 2018 ยกให้ “Porsche 911 GT2 RS” (ปอร์เช่ 911 จีที2 อาร์เอส) รถสปอร์ตที่ทรงพลังและเร็วที่สุดเท่าที่เคยมีมาของปอร์เช่ ด้วยเครื่องยนต์ 6 สูบ Twin Turbo ให้แรงม้าสูงสุดกว่า 700 แรงม้า น้ำหนักตัวรถ รวมน้ำมันเชื้อเพลิงเต็มถังเพียง 1,470 กิโลกรัม ผลลัพธ์ดังกล่าวทำให้รถสปอร์ต 2 ที่นั่งคันนี้ ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 2.8 วินาที เท่านั้น! และทำความเร็วได้สูงสุด 340 กม./ชม. ซึ่งถือเป็นรถที่เร็วที่สุดในงาน Motor Show 2018 โดยมีราคาอยู่ที่ 33.5 ล้านบาท!

รถ 4 ประตูเร็วที่สุด

Bentley-Flying-Spur

รถ 4 ประตูที่เร็วที่สุดในงาน Motor Show 2018 ต้องยกให้ “Bentley Flying Spur W12” (เบนท์ลี่ย์ ฟลายอิ้ง สเปอร์ ดับบลิว 12) ที่ได้ผสมผสานรูปลักษณ์ความเป็นเบนท์ลี่ย์แบบดั้งเดิมเข้ากับความเป็นรถสปอร์ต และรายละเอียดของความร่วมสมัยไว้ได้สมบูรณ์แบบที่สุด มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 6 ลิตร Twin-Turbo ที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ ให้แรงม้าสูงสุดถึง 616 แรงม้า แรงบิดสูงสุดถึง 800 นิวตัน-เมตร ผสมผสานเข้ากับระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ถือได้ว่าเบนท์ลี่ย์ 4 ประตู ในสายการผลิตที่ทรงพลังมากที่สุดตั้งแต่มีมา ทำความเร็วได้สูงสุด 322 กม./ชม.

ประหยัดที่สุด

Honda-Clarity-Fuel-Cell

ประหยัดสุดในงาน Motor Show 2018 ต้องยกให้ Honda Clarity Fuel Cell (ฮอนด้า คลาริตี้ ฟิวเซลล์) ยนตรกรรมพลังงานสะอาดที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานเชื้อเพลิงและปราศจากไอเสีย แต่ยังคงไว้ซึ่งประสิทธิภาพและความสนุกสนานในการขับขี่ในสไตล์ของฮอนด้า เป็นยนตรกรรมฟิวเซลล์ซีดาน 5 ที่นั่งคันแรกของโลก โดยแผงเซลล์เชื้อเพลิง (Fuel Cell Stack) ทำหน้าที่เป็นแหล่งพลังงานไฟฟ้า ให้สมรรถนะเทียบเท่ากับเครื่องยนต์ V6

วิ่งได้ระยะทางถึงประมาณ 750 กม. ต่อการเติมไฮโดรเจนเต็มถัง 1 ครั้ง และมีอัตราการประหยัดน้ำมัน (EPA Fuel Economy Rating) เทียบเท่า 68 ไมล์/แกลลอน (MPGe) (หรือประมาณ 28.3 กม./ลิตร)

เล็กที่สุด

Fomm-One

รถเล็กที่สุดในงาน อยู่ที่บูธ Fomm นั่นคือรถไฟฟ้า “Fomm One” นั่นเอง มีความตัวรถยาว 2,585 มม. กว้าง 1,295 มม. สูง 1,560 มม. ระยะฐานล้อ 1,760 มม. ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 10 กิโลวัตต์ ที่ติดบริเวณล้อทั้ง 4 ล้อ ซึ่งถือได้ว่าเล็กที่สุดในงาน Motor Show 2018 ครั้งนี้ มีราคาค่าตัวอยู่ที่ 664,000 บาท แต่พิเศษสำหรับ 2,000 คันแรก! ราคา 599,000 บาท

ใหญ่ที่สุด

BYD-c6

ไม่มีใครใหญ่ไปกว่านี้แล้วในงาน Motor Show 2018 ครั้งนี้ ต้องยกให้ “BYD c6” (บีวายดี ซี6) รถบัสขนาดเล็กขุมพลังไฟฟ้า มี 24 ที่นั่ง ถือเป็น 1 ในรถบัสไฟฟ้าของ BYD ที่ได้ถูกส่งมอบไปแล้วกว่า 35,000 คันทั่วโลก โดยมีงานวิจัยของมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย พบว่า การใช้รถไฟฟ้า BYD สามารถประหยัดค่าบำรุงรักษาและค่าน้ำมันเชื้อเพลิงได้ประมาณ 200% เมื่อเปรียบเทียบกับรถบัสดีเซล

แปลกที่สุด

BYD-T-EV

แปลกที่สุดในงาน Motor Show 2018 ต้องยกให้ “BYD” (บีวายดี) รถแทร็กเตอร์พลังงานไฟฟ้า คันนี้เลย

คนสนใจเยอะสุด

Nissan-GT-R

ในงาน Motor Show 2018 รถที่ดึงดูดคนให้เข้ามาดูได้เยอะที่สุด เห็นทีต้องยกให้ “Nissan GT-R” (นิสสัน จีที-อาร์) Premium Edition สีส้มสุดโดดเด่น ที่ได้จำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย ในราคา 13.5 ล้านบาท มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 3.8 ลิตร แบบ V6 DOHC 24 วาล์ว Twin Turbo ให้แรงม้าสูงสุด 555 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์ 6 สปีด Dual Clutch ซึ่งไม่ว่าจะเดินผ่านไปเวลาไหน ก็ต้องเห็นคนยืนดูด้วยความสนใจตลอดเวลา

New-Car-Bookings-Motor-Show-2018

บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เผยยอดจองรถยนต์หลังการจัดงาน Motor Show 2018 ที่ได้รับการตอบรับดีเยี่ยมเฉกเช่นทุกปี กับยอดจองรถของแต่ละค่ายที่น่าพึงพอใจ … ยอดรวม 12 วัน ยอดจองทั้งหมด (รถยนต์/รถจักรยานยนต์) 42,499 คัน

ยอดจองรถยนต์ วันที่ 29 มี.ค. – 9 เม.ย. 2560 รวม 36,093 คัน

ยอดจองรถยนต์ วันที่ 28 มี.ค. – 8 เม.ย. 2561 รวม 36,587 คัน

ภาพรวมยอดจองรถยนต์ในงาน Motor Show 2018 โตเพิ่มขึ้น 18% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการเปิดตัวสินค้าใหม่ภายในงาน โดยเฉพาะกับตลาดรถหรูที่ส่อแววสดใส ผู้ประกอบการต่างพอใจกับยอดจองในแต่ละวัน ที่สำคัญในกลุ่มของรถยนต์ลักชัวรี่ และรถสปอร์ต ได้กระแสตอบรับจากผู้บริโภคที่สนใจเพิ่มมากขึ้น

ขณะที่ตลาดรถในกลุ่ม C-Segment และ B-Segment ยังคงทรงตัว เนื่องจากมีการเปิดตัวก่อนหน้างานมาได้ระยะเวลาหนึ่ง ด้านตลาดรถปิกอัพ แน่นอนว่า ยังคงได้รับความนิยม จากผู้ประกอบการในเชิงพาณิชย์ เนื่องราคาพืชผลทางการเกษตรมีทิศทางที่ดีขึ้น ขณะเดียวกันผู้ประกอบการก็มีการแข่งกันดุเดือด ทั้งโปรโมชั่น และแคมเปญที่ออกมาในช่วงนี้

โดยยอดจองรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่เกิดขึ้นภายในงาน มียอดรวมทั้งสิ้น 42,499 คัน แบ่งออกเป็นรถยนต์ 36,587 คัน ขณะที่รถจักรยานยนต์ มียอดจองในปีนี้ 5,912 คัน เติบโตเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาเกือบเท่าตัว

ซึ่งในกลุ่มรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า มียอดจองมากที่สุด 2,628 คัน, อันดับ 2 ยามาฮ่า 737 คัน และอันดับ 3 คาวาซากิ 554 คัน

สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า ในปีนี้ได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมเป็นจำนวนมาก โดยทางค่าย Fomm (ฟอมม์) แบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติญี่ปุ่น ซึ่งทำการเปิดตัวยานยนต์ไฟฟ้าเป็นครั้งแรกภายในงาน สามารถสร้างยอดจองได้ถึง 354 คัน

ยอดจองรถยนต์ 10 อันดับของ Motor Show 2018 วันที่ 28 มี.ค. – 8 เม.ย. 2561 

1. Toyota 5,689 คัน

Toyota-C-HR

2. Honda 5,133 คัน

Honda-Civic-Hatchback-Red

3. Mazda 5,021 คัน

Mazda3

4. Isuzu 3,920 คัน

Isuzu-D-Max-X-Series

5. Mercedes-Benz 2,297 คัน

Mercedes-Benz-CLS-300-d-AMG-Premium

6. Mitsubishi 2,108 คัน

Mitsubishi-Pajero-Sport

7. Suzuki 2,039 คัน

Suzuki-Swift

8. MG 1,994 คัน

MG-ZS

9. Nissan 1,819 คัน

Nissan-NP300-Navara

10. Ford 1,809 คัน

Ford-Ranger-Raptor

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Bangkok-Motorshow

Motor-Show-2018-Accessories

Motor Show 2018 เต็มที่กับอุปกรณ์ตกแต่ง รถแต่งซิ่งแต่งสวย และเครื่องเสียงติดรถ

“มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 39” หรือ The 39th Bangkok International Motor Show 2018 ภายใต้แนวคิด “ปฏิวัติทุกการเคลื่อนไหว” หรือ “Revolution in Motion” พร้อมนำรถรุ่นใหม่ ทั้งที่เปิดตัวในปีนี้และปีที่ผ่านมา รวมทั้งรุ่นยอดนิยม มาจัดแสดงต้อนรับต้นปีอย่างยิ่งใหญ่ โดยงานมอเตอร์โชว์ 2018 ปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 มีนาคม – 8 เมษายน 2561 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ 1-3 เมืองทองธานี

นอกจากรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ที่มาร่วมงานในงานนี้มากมายแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ขายไม่ได้สำหรับงาน มอเตอร์โชว์ ทุกๆ ปี นั่นคืออุปกรณ์ประดับยนต์ต่างๆ อาทิเช่น กล้องติดรถยนต์ ฟิล์มกรองแสง ล้อแม็ก ยางรถยนต์ เครื่องเสียงติดรถ หมวกกันน็อค หรืออุปกรณ์ทำความสะอาดรถ ที่มาพร้อมโปรโมชั่นพิเศษมากมาย และกิจกรรมต่างๆ ให้ผู้ที่มาเดินเที่ยวชมงานได้เสียเงินเลือกซื้อ ติดไม้ติดมือกลับบ้าน …

ทาง CARRO อยากให้คนรักรถทุกท่าน หาโอกาสไปเดินเที่ยวกันจริงๆ ครับ … เชิญชมกับภาพบรรยากาศของ รถแต่ง ของแต่งรถ และเครื่องเสียงติดรถ ในงาน Motor Show 2018 กันได้เลย

Sound-Motorshow2018

มุมเครื่องเสียง

Sound-Motorshow2018

มุมเครื่องเสียง

Sound-Motorshow2018

มุมเครื่องเสียง

Sound-Motorshow2018

มุมเครื่องเสียง

Sound-Motorshow2018

ชุดลำโพง (ตู้ซับเบส) ติดรถยนต์

Sound-Motorshow2018

มุมเครื่องเสียงติดรถยนต์

Sound-Motorshow2018

มุมเครื่องเสียงติดรถยนต์

Sound-Motorshow2018

ชุดลำโพง (ตู้ซับเบส) ติดรถยนต์

Accessories-Motorshow2018-1

ทางเข้ามุมอุปกรณ์ตกแต่ง

Accessories-Motorshow2018-1

มุมอุปกรณ์ตกแต่ง

Accessories-Motorshow2018

กล้องติดหน้ารถ ถูกๆ เพียบ!

Accessories-Motorshow2018

ล้อที่พี่หมื่น เลือกใช้ …

Accessories-Motorshow2018

โช๊คอัพหลากหลายแบบ ให้เลือก

Accessories-Motorshow2018

ยางติดรถยนต์สารพัดแบบ

Accessories-Motorshow2018

เคลือบแก้วกันฝุ่น

Nissan-Cefiro-Club

Nissan Cefiro Club

Nissan-Cefiro-Club

Nissan Cefiro Club

Nissan-Cefiro-Club

Nissan Cefiro Club

Nissan-Cefiro-Club

Nissan Cefiro Club

Nissan-Cefiro-Club

Nissan Cefiro Club

Pickup-In-Motor-Show-2018

ต้อนรับหน้าร้อน กับรถกระบะรุ่นเด่นๆ ในงาน Motor Show 2018

รถกระบะ ถือเป็นรถที่ยอดนิยมอย่างยิ่งของชาวไทยมานานนับหลายสิบปี ที่มาพร้อมเทคโนโลยี ออพชั่น และกำลังเครื่องยนต์ที่มากขึ้นเรื่อยๆ และยอดขายยังเป็นปัจจัยที่แสดงให้เห็นถึงสภาวะเศรษฐกิจได้อีกทางหนึ่ง เป็นรถสารพัดประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ ใช้งานได้ทั้งในเมือง ในที่ทุรกันดาร ขนของ ขนสัตว์ ใช้รับจ้างหาเงิน ทำเป็นรถสองแถวก็ได้ หรือใช้งานส่วนตัวก็ดี ฯลฯ

ในงาน Motor Show 2018 นี้ ผู้ผลิตรถกระบะหลายเจ้าอย่าง โตโยต้า, อีซูซุ, มิตซูบิชิ, ฟอร์ด หรือ เชฟโรเลต ต่างส่งรถกระบะโฉมใหม่ หรือรุ่นพิเศษของตัวเองออกมาเพื่อกระตุ้นตลาด ช่วงชิงยอดจองและยอดขาย โดนใจผู้บริโภคที่อยากเปลี่ยนรถกระบะคันใหม่

โดยในงาน Motor Show 2018 จะมีรถกระบะรุ่นใดมาโชว์นั้น CARRO ขอนำเสนอข้อมูลให้ทุกท่านดูกันได้เลยครับ …

Toyota Hilux Revo

Toyota-Hilux-Revo-Rocco

Toyota นำเสนอ “Hilux Revo รุ่นปรับโฉมใหม่” ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด “ตัวตนของคนจริง” ด้วยดีไซน์ใหม่ของกันชนหน้า กระจังหน้าแบบโครเมียมและสีดำเงา และกรอบไฟตัดหมอกสีดำเงา สอดรับกับสีภายในห้องโดยสารใหม่โทนสีดำ ตลอดจนอุปกรณ์มาตรฐานต่างๆ ที่มีการปรับเพิ่มให้ครอบคลุมทุกการใช้งาน

และยังมี Hilux Revo Rocco (ไฮลักซ์ รีโว่ ร็อคโค่) ใหม่! รุ่นตกแต่งพิเศษ เปิดตัวในงานนี้ด้วย ถูกพัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด “แกร่งเกินนิยาม” โดยมาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 2.8 ลิตร รหัส 1GD-FTV แบบ 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC VN Turbo Intercooler ให้แรงม้าสูงสุด 177 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 420 นิวตัน-เมตร ที่ 1,400-2,600 รอบ/นาที

ราคาของ Toyota Hilux Revo ใหม่ อยู่ที่ 523,000 – 1,154,500 บาท

Isuzu D-Max X-Series

Isuzu-D-Max-X-Series

Isuzu (อีซูซุ) เปิดตัว “ใหม่! อีซูซุ เอ็กซ์-ซีรี่ส์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์” แรงขีดสุด…เต็มสปีดพันธุ์เอ็กซ์ ไลฟ์สไตล์ปิกอัพเพื่อคนสายพันธุ์สปอร์ต ปรับโฉมใหม่เพิ่มเอกลักษณ์ให้โดดเด่นยิ่งขึ้น ทั้งภายนอกและภายใน มีให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น Speed สปอร์ตเข้าถึงจิตวิญญาณชาวเรซซิ่ง และครั้งแรกกับทางเลือก ใหม่! Speed Cab4 ปิกอัพสปอร์ต 4 ประตูของคนพันธุ์เท่ พร้อมด้วยรุ่น Hi-Lander สปอร์ตพรีเมี่ยม เท่ หรูหรามีสไตล์ดุจรถยนต์นั่ง

ทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมขุมพลังสปอร์ตสไตล์เอ็กซ์ เครื่องยนต์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ และระบบส่งกำลังสไตล์สปอร์ตโดยทั้งรุ่นเกียร์ออโตเมติก 6 สปีด แบบ Rev Tronic และรุ่นเกียร์ธรรมดา 6 สปีด มาพร้อมโอเวอร์ไดร์ฟ 2 ตำแหน่งที่เกียร์ 5 และ 6

ราคาของ Isuzu D-Max อยู่ที่ 502,000 – 1,099,000 บาท

ราคาของ Isuzu D-Max X-Series ใหม่ อยู่ที่ 742,000 – 966,000 บาท

Nissan Navara (MY2018)

Nissan-NP300-Navara

ครั้งแรกในรถปิคอัพ ที่มาพร้อมเทคโนโลยีขับเคลื่อนอัจฉริยะ ใน Nissan NP300 Navara (นิสสัน เอ็นพี 300 นาวารา) ใหม่ กับกล้องมองภาพรอบทิศทาง AVM (Around View Monitor) 360 องศา มองเห็นภาพภายนอกได้รอบคัน และเพิ่มถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่งรอบคัน (เฉพาะรุ่น Top)

มาพร้อมเครื่องยนต์ให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่ขนาด 2.5 ลิตร รหัส YD25DDTi แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว VGS Turbo Intercooler ให้แรงม้าสูงสุด 163 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 403 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 รอบ/นาที

ส่วนในรุ่น 4WD รหัส YD25DDTi แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว VGS Turbo Intercooler ให้แรงม้าสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 รอบ/นาที

ราคาของ Nissan NP300 Navara อยู่ที่ 549,500 – 1,106,000 บาท

Mitsubishi Triton Athlete

Mitsubishi-Triton

Mitsubishi (มิตซูบิชิ) นำ Triton รุ่นพิเศษ “Triton Athlete” (ไทรทัน แอทลีท) สปอร์ต พันธุ์เข้ม มาโชว์ เร้าใจทุกมุมมองด้วยชุดแต่งพิเศษรอบคันจากโรงงาน มีสีให้เลือก 3 สี ได้แก่สีขาว, สีเทา และสีดำ ตกแต่งภายในด้วยโทนสีดำ-ส้ม พร้อมสัญลักษณ์ Athlete เครืองเสียงแบบหน้าจอสัมผัสพร้อมรองรับระบบ Apple CarPlay เป็นต้น

มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร รหัส 4N15 แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว VG Turbo ให้แรงม้าสูงสุด 181 แรงม้า ที่ 3,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร ที่ 2,500 รอบ/นาที

ราคาของ Mitsubishi Triton อยู่ที่ 522,000 – 1,111,000 บาท

ราคาของ Mitsubishi Triton Athlete อยู่ที่ 746,000 – 1,072,000 บาท

Ford Ranger Raptor

Ford-Ranger-Raptor

Ford Ranger Raptor (ฟอร์ด เรนเตอร์ แรพเตอร์) ถูกสร้างมาไม่ซ้ำใคร เพราะนี่คือรถกระบะออฟโรดคันแรกของเอเชีย ที่ตั้งใจสร้างมาแบบไร้ข้อจำกัด สร้างและพัฒนายนตรกรรมออฟโรดทั้งคัน ทำใหม่หมด! ส่งตรงจากโรงงานของฟอร์ด นี่แหละกระบะพันธุ์โหดออฟโรดตัวจริงที่พร้อมลุยทุกเส้นทาง

โครงสร้างทั้งหมดประกอบไปด้วยเหล็ก High-strength Low-alloy (HSLA) หลายเกรด เพื่อให้พร้อมรับทุกความโหด และเข้าถึงสมรรถนะขั้นสุด แชสซีส์ถูกปรับโครงสร้างใหม่หมด มาพร้อมโช้คอัพคู่ด้านหน้าและหลังของ Fox Racing Shox ที่มาพร้อมระบบบายพาสภายใน (Internal Bypass) และระบบกันสะเทือนหลังแบบใหม่ รวมถึงระบบวัตต์ลิงค์และคอยล์โอเวอร์ช็อค ที่เน้นสมรรถนะการขับขี่บนทางออฟโรดเป็นพิเศษ

มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล EcoBlue TDCi 4 สูบแถวเรียง ขนาด 2.0 ลิตร (1,996 ซีซี) Twin Turbo (ทำงานร่วมกันระหว่าง High-Pressure (HP Turbo) เทอร์โบแรงดันสูง และ Low-Pressure (LP Turbo) เทอร์โบแรงดันต่ำ ควบคุมด้วยวาล์ว Bypass) ให้แรงม้าสูงสุด 213 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย Paddle Shift มาพร้อมระบบ Terrain Management System (TMS) สามารถปรับโหมดการขับขี่ได้ถึง 6 แบบ รวมถึงโหมดการขับขี่บาฮาสำหรับการขับขี่ออฟโรดด้วยความเร็วสูง

ราคาของ Ford Ranger อยู่ที่ 599,000 – 1,199,000 บาท

ราคาของ Ford Ranger Raptor อยู่ที่ 1,699,000 บาท

Chevrolet Colorado

Chevrolet-Colorado-High-Country-Storm

Chevrolet (เชฟโรเลต) เชฟโรเลต ประเทศไทย เปิดตัวรถกระบะ Colorado High Country Storm รุ่นล่าสุด ซึ่งมาพร้อมสีภายนอกใหม่ล่าสุด “Orange Crush” และตกแต่งพิเศษเพิ่มเติมจากชุดอุปกรณ์ตกแต่ง “Thunder” ชุดใหม่

อุปกรณ์ตกแต่งบนรถกระบะสีส้ม “Orange Crush” มีจัดจำหน่ายแบบแยกชิ้น ขณะที่ชุดแต่ง “Thunder” มอบความคุ้มค่าให้แก่ลูกค้า ด้วยการรวมชุดอุปกรณ์ตกแต่งที่ได้รับความนิยมเข้าไว้ด้วยกัน ในราคาพิเศษ

และ เชฟโรเลต ยังให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและความพึงพอใจของลูกค้า จึงนำระบบความปลอดภัยแบบ Active ล้ำสมัยไว้ใน Colorado รุ่น 2 ประตู (X-Cab) LT Z71 และรุ่น 4 ประตู (C-Cab) LT Z71 (ทั้งรุ่นเกียร์ธรรมดา และเกียร์อัตโนมัติ) ซึ่งประกอบด้วย ระบบควบคุมเสถียรภาพของรถขณะลากจูง (TSC) ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ESC) ระบบป้องกันการพลิกคว่ำ (ARP) ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (HDC) และ ระบบป้องกันการไหลของรถเมื่อขึ้นทางลาดชัน (HSA) เป็นต้น

ราคาของ Chevrolet Colorado อยู่ที่ 530,000 – 1,103,000 บาท