Motorshow-2019-Car

“Motor Show 2019 (มอเตอร์โชว์ 2019)” หรือ The 40th Bangkok International Motor Show 2019 ภายใต้แนวคิด “สุนทรีย์ภาพทางอารมณ์” หรือ “Enjoyment of Automobiles” พร้อมนำรถรุ่นใหม่ล่าสุด รวมทั้งรุ่นยอดนิยม มาจัดแสดงอย่างยิ่งใหญ่เช่นเคย โดยงานมอเตอร์โชว์ 2019 ปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 มีนาคม – 7 เมษายน 2562 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ 1-3 เมืองทองธานี

CARRO ขอนำเสนอรถยนต์ใหม่ๆ ที่เปิดตัวก่อนและในงาน Motor Show 2019 โดยบริษัทรถยนต์หลายแบรนด์ ต่างเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆ มากมาย CARRO ขอแนะนำให้ทุกท่านรูปร่างหน้าตา ของแต่ละรุ่นให้ชมกันครับ …

ในส่วนของรถไฟฟ้า ปีนี้เราได้แยกออกมาเป็นกลุ่มใหม่ สามารถดูรายละเอียดได้ใน Link นี้ครับ – https://th.carro.co/blog/electric-cars-in-motorshow/

เชิญพบกับรถยนต์ที่ร่วมงานจำนวนมากถึง 33 แบรนด์ หลากหลายประเทศ และรถจักรยานยนต์อีก 16 แบรนด์

ทาง CARRO อยากให้คนรักรถทุกท่าน หาโอกาสไปเดินเที่ยวกันจริงๆ ครับ … เชิญชมกับภาพบรรยากาศภายในงาน Motor Show 2019 กันได้เลย

Toyota-GR-Supra

Toyota GR Supra

Toyota-Commuter-2019

Toyota Commuter

Lexus-UX-250h-2019

Lexus UX

Honda-Accord-2019

Honda Accord

Mitsubishi-Xpander

Mitsubishi Xpander

Mitsubishi-e-Evolution-Concept

Mitsubishi e-Evolution Concept

Nissan-GT-R

Nissan GT-R

Mazda-KAI-Concept

Mazda KAI Concept

McLaren-720S-Spider

McLaren 720S Spider

Aston-Martin-DBS-Superleggera

Aston Martin DBS Superleggera

Aston-Martin-Valkyrie

Aston Martin Valkyrie

Maserati-Quattroporte-2019

Maserati Quattroporte

Mini-Cooper-S-60-Years-Edition

Mini Cooper S 60 Years Edition

Lamborghini-Huracan-EVO

Lamborghini Huracan EVO

Audi-Q8

Audi Q8

Mercedes-Benz-S-560-e-2019

Mercedes-Benz S 560 e

Porsche-911-Carrera-S-2019

Porsche 911 Carrera S

Bentley-Continental-GT-Convertible

Bentley Continental GT Convertible

ขอขอบคุณภาพจาก Bangkok-Motorshow

กรมขนส่ง-ห้ามคนเป็นโรคลมชัก-ขอใบขับขี่

กรมการขนส่งทางบก เข้ม ตามมติคณะกรรมการแพทยสภา ที่เพิ่มคนเป็นโรคลมชัก ห้ามขับรถ ยกเว้นแพทย์รับรอง

Driving-License

วันที่ 11 ก.พ. 2562 นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า เพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน กรมการขนส่งทางบก กำหนดให้การขอรับใบอนุญาตขับรถ ต้องใช้ใบรับรองแพทย์ แสดงว่าไม่มีโรคประจำตัวอันอาจเป็นอันตรายขณะขับรถเป็นหลักฐานประกอบ คณะกรรมการแพทยสภาได้มีมติเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2560 ให้โรคลมชัก ในสภาวะที่ไม่สามารถควบคุมอาการชักได้ เป็นโรคประจำตัวที่อาจเป็นอันตรายขณะขับรถ เว้นแต่แพทย์ผู้ให้การรักษารับรองว่าผู้ป่วยไม่มีอาการชักเกินกว่า 2 ปี

Driving-License

กรมการขนส่งทางบก ได้แจ้งแก่นายทะเบียนทั่วประเทศ โดยให้ตรวจสอบหลักฐานใบรับรองแพทย์ที่ใช้ประกอบคำขอ โดยต้องเป็นใบรับรองแพทย์ตามแบบมาตรฐานที่แพทยสภารับรอง โดยส่วนที่ 1 ลงลายมือชื่อรับรองตนเอง ประวัติโรคประจำตัว ประวัติอุบัติเหตุและการเข้ารับการผ่าตัดที่สำคัญ และส่วนที่ 2 แพทย์ผู้ตรวจร่างกายรับรอง

Driving-License

นอกจากโรคชมชัก ยังต้องมีการรับรองในกรณีอื่น เช่น ไม่เป็นผู้มีร่างกายทุพพลภาพ จนไม่สามารถขับรถได้ ไม่ปรากฏอาการของโรคจิต หรือจิตฟั่นเฟือน หรือปัญญาอ่อน ไม่ปรากฏอาการของการติดยาเสพติดให้โทษ ไม่ปรากฏอาการของโรคพิษสุราเรื้อรัง และไม่ปรากฏอาการและอาการแสดงของโรคเรื้อนในระยะติดต่อหรือในระยะปรากฏอาการ วัณโรคในระยะอันตราย โรคเท้าช้างในระยะปรากฏอาการ สำหรับใบรับรองแพทย์ตามแบบที่แพทยสภารับรอง สถานพยาบาลส่วนใหญ่ใช้เป็นมาตรฐานอยู่แล้ว ผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถ หรือใบอนุญาตเป็นผู้ประจำรถ แจ้งวัตถุประสงค์ให้ชัดเจน เพื่อให้แพทย์ออกใบรับรองแพทย์ให้ถูกต้องตรงกับการนำไปใช้

Driving-License

สำหรับโรคประจำตัวบางกลุ่มอันอาจเป็นอันตรายขณะขับรถ ยังอยู่ในระหว่างการหารือร่วมกันระหว่างกรมการขนส่งทางบกและแพทยสภาที่อาจกำหนดเพิ่มเติมในอนาคต เช่น โรคเบาหวานระยะที่ต้องฉีดอินซูลิน โรคความดันโลหิตสูง ผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดทางสมอง ผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายที่ผ่านการผ่าตัดหัวใจ หรือขยายเส้นเลือดหัวใจ ซึ่งแพทย์วินิจฉัยแล้วว่าเป็นอุปสรรคต่อการขับรถ

ขอขอบคุณข่าวจาก Workpoint News

Top-Three-Cars-Customer-Satisfaction-In-Thailand

ผลการศึกษาวิจัยสมรรถนะ, ระบบปฏิบัติการ และการออกแบบรูปลักษณ์ของรถยนต์ในประเทศไทย ประจำปี 2561 โดย เจ.ดี.พาวเวอร์ เผยผลสำรวจ J.D. Power 2018 Thailand Automotive Performance, Execution and Layout (APEAL) Study โดยระบุว่า เครื่องเสียง, ระบบความบันเทิง และระบบนำทาง เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เจ้าของรถยนต์รู้สึกพอใจ เนื่องจากเจ้าของรถมีการเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือเพื่อฟังเพลง หรือใช้แอปพลิเคชั่นนำทางกับระบบเครื่องเสียงรถยนต์

โดยครั้งนี้ Toyota คว้า 2 รางวัล ด้าน APEAL ส่วน Mitsubishi, Honda, Mazda, Chevrolet และ Ford ได้รับค่ายละ 1 รางวัล

Top-Three-Cars-Customer-Satisfaction-In-Thailand-2018

จากการศึกษาพบว่า คุณลักษณะต่างๆ ที่เกี่ยวกับเครื่องเสียง, ระบบความบันเทิง และระบบนำทาง (AENS) ที่ได้รับความพึงพอใจน้อยที่สุด ได้แก่ ความน่าสนใจของจอแสดงผลจากระบบเครื่องเสียงและระบบนำทาง, ความง่ายในการเชื่อมต่ออุปกรณ์ที่ใช้เล่นเพลงกับตัวรถยนต์, คุณภาพเสียงของการโทร เมื่อเชื่อมต่อมือถือผ่านระบบบลูทูธ, รวมถึงลักษณะ และสัมผัสของปุ่มควบคุมเครื่องเสียง

การศึกษาในครั้งนี้ยังพบอีกว่า คะแนนเฉลี่ยความพึงพอใจโดยรวม อยู่ที่ 846 คะแนน (จากคะแนนเต็ม 1,000 คะแนน) ในปี 2561 โดยเจ้าของรถยนต์อเนกประสงค์ ให้คะแนนสูงสุดที่มีต่อความน่าดึงดูดใจของรถยนต์ (855 คะแนน) ตามมาด้วยเจ้าของรถกระบะ (845 คะแนน) และเจ้าของรถยนต์นั่งส่วนบุคคล (843 คะแนน)

3 อันดับแรกของรถแต่ละประเภทที่ลูกค้าพึงพอใจมากที่สุด (คะแนนเต็ม 1,000 คะแนน)

Mitsubishi-Mirage

รถยนต์ขนาดเล็ก (Compact Car)

  1. Mitsubishi Mirage – 849
  2. Nissan Note – 842
  3. Toyota Yaris – 838

Honda-Jazz

รถยนต์ขนาดกลางระดับต้น (Entry Midsize Car)

  1. Honda Jazz – 846
  2. Honda City – 840
  3. Toyota Vios – 838

Mazda3

รถยนต์ขนาดกลาง (Midsize Car)

  1. Mazda3 – 853
  2. Toyota Corolla Altis – 851
  3. Honda Civic – 847

Toyota-Fortuner

รถยนต์อเนกประสงค์สมรรถสูงขนาดใหญ่ (Large SUV)

  1. Toyota Fortuner – 865
  2. Ford Everest – 863
  3. Mitsubishi Pajero Sport – 860

Chevrolet-Colorado-X-Cab

รถกระบะตอนขยาย (Pickup Extended Cab)

  1. Chevrolet Colorado X-Cab – 850
  2. Toyota Hilux Revo Prerunner Smart Cab – 850
  3. Isuzu D-Max Space Cab/V-Cross – 848

Ford-Ranger

รถกระบะ 4 ประตู (Pickup Double Cab)

  1. Ford Ranger Hi-Rider D-Cab – 859
  2. Isuzu D-Max Hi-Lander D-Cab – 857
  3. Toyota Hilux Revo D-Cab – 857

การศึกษาวิจัยดังกล่าว รวบรวมคำตอบจากเจ้าของรถยนต์ในประเทศไทยเกี่ยวกับความพึงพอใจต่อสมรรถนะและการออกแบบในช่วง 2-6 เดือนแรก ของการเป็นเจ้าของ จำนวน 5,106 ราย ที่ซื้อรถใหม่ระหว่างเดือนกันยายน 2560 – กันยายน 2561 ซึ่งเป็นเจ้าของรถยนต์นั่งส่วนบุคคล, รถกระบะ และรถยนต์อเนกประสงค์ จำนวน 74 รุ่น จากทั้งหมด 13 ยี่ห้อ

การสำรวจดังกล่าวครอบคลุมองค์ประกอบของรถยนต์ 10 หมวดหมู่ ได้แก่ ภายนอกรถยนต์, ภายในห้องโดยสาร, พื้นที่เก็บสัมภาระและพื้นที่ว่าง, เครื่องเสียง/ระบบสื่อสาร/ระบบความบันเทิง/ระบบนำทาง, เบาะที่นั่ง, ระบบทำความร้อน, ระบบระบายอากาศ และระบบแอร์, สมรรถนะในการขับขี่, เครื่องยนต์ระบบเกียร์, ทัศนวิสัย และความปลอดภัยในการขับขี่ และการประหยัดเชื้อเพลิง

ขอขอบคุณข้อมูลจาก J.D.Power

Shopping-Tire-For-Nation

ช็อปช่วยชาติ 2561 – 2562 เลือกยางรถยนต์แบบไหน ถึงจะได้ลดหย่อนภาษี

สินค้า-ช็อปช่วยชาติ

เป็นที่รู้กันละครับว่า เศรษฐกิจตอนนี้ มันช่างฝืดเคืองเสียยิ่งกะไร การจับจ่ายใช้สอยก็ไม่คล่องตัวเอาซะเลย รัฐบาลโดยกระทรวงการคลัง จึงต้องหามาตรการต่างๆ ออกมากระตุ้นเศรษฐกิจ หนึ่งในนั้นก็คือ “ช็อปช่วยชาติ” ที่ทำต่อเนื่องกันมาหลายปี

โดยในปีนี้ เริ่มขึ้นในระหว่างวันที่ 15 ธ.ค. 2561 – 16 ม.ค. 2562 ซึ่งปีนี้เงื่อนไขการซื้อของ มีการเปลี่ยนแปลงต่างจากปีที่แล้วมากพอสมควร มีอะไรบ้าง เรามาดูกัน …

Tire

เงื่อนไขแรก การซื้อสินค้าตั้งแต่วันที่ 15 – 31 ธันวาคม 2561 ใช้ลดหย่อนภาษีปี 2561 เท่านั้น หากคุณซื้อสินค้าบริการตั้งแต่ 1 มกราคม – 16 มกราคม 2562 ใช้ลดหย่อนภาษีปี 2562 (สามารถใช้สิทธิ์เพียงปีใดปีหนึ่ง 15,000 บาท หรือเลือกใช้สิทธิทั้ง 2 ปีภาษีรวมกัน แต่ต้องไม่เกิน 15,000 บาท)

เงื่อนไขที่สอง ปีนี้กำหนดสินค้าเอาไว้แค่ 3 หมวด เท่านั้น ได้แก่ ยางรถยนต์, หนังสือ (รวม E-Book) และสินค้า OTOP (โอทอป) อย่างอื่นไม่ร่วมด้วยนะครับ

ทีนี้ เรามาดูกันว่า จะเลือกยางรถยนต์อย่างไร ให้ได้ลดหย่อนภาษีคืน และคุ้มค่าเงินคุณ …

ซื้อยางรถยนต์แบบไหน ถึงจะได้ลดหย่อนภาษี?

คูปองยาง-ช็อปช่วยชาติ

คูปองยาง สำคัญ! ถ้าไม่มี ลดหย่อนภาษีไม่ได้!

ต้องเป็นยางรถยนต์, ยางรถจักรยานยนต์, ยางจักรยาน หรือยางประเภทใดก็ได้ ที่ผลิตในประเทศไทยเท่านั้น และต้องเป็นยางที่มีส่วนผสมยางพาราภายในประเทศเท่านั้น และต้องซื้อจากผู้ประกอบการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งได้ซื้อวัตถุดิบยางจากการยางแห่งประเทศไทย

โดยยางที่เข้าข่ายลดหย่อนภาษีนั้น ต้องมีคูปองจากสรรพากรมาพร้อมกับยางด้วย จำไว้เลยนะครับว่า ถ้าไม่มีคูปอง คุณจะไม่สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ ซึ่งคูปอง 1 ใบ ต่อล้อยาง 1 เส้น โดยค่าบริการเปลี่ยน หรือซ่อมยางรถยนต์ ไม่สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้

สำหรับยางรถยนต์ และยางรถจักรยานยนต์ จริงๆ แล้ว เกือบทุกยี่ห้อผลิตในประเทศไทย แต่จะมีแค่ยี่ห้อ Otani, Maxxis, Deestone, ND Rubber และ IRC เท่านั้น ที่เข้าร่วมในโครงการ “ช็อปช่วยชาติ” นี้

ตารางลดหย่อนภาษี-ช็อปช่วยชาติ

เงินได้สุทธิ, อัตราภาษี และค่าลดหย่อน (ภาพจาก https://taxteller.blogspot.com/)

หลักฐานที่ใช้ยื่นลดหย่อนภาษี

คุณต้องมีใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป ตามมาตรา 86/4 แห่งประมวลรัษฏากร ซึ่งจะต้องมีการระบุข้อความดังนี้

1. คำว่า “ใบกำกับภาษี” ต้องเห็นได้เด่นชัด

2. ชื่อ ที่อยู่ และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้ประกอบการจดทะเบียนที่ออกใบกำกับภาษี

3. ชื่อ ที่อยู่ ของผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการ

4. หมายเลขลำดับของใบกำกับภาษี และหมายเลขลำดับของเล่ม (ถ้ามี)

5. ชื่อ ชนิด ประเภท ปริมาณ และมูลค่าของสินค้าหรือของบริการ

6. จำนวนภาษีมูลค่าเพิ่มที่คำนวณจากมูลค่าของสินค้าหรือของบริการ โดยให้แยกออกจากมูลค่าของสินค้าหรือ ของบริการให้ชัดแจ้ง

7. วัน เดือน ปี ที่ออกใบกำกับภาษี

8. ข้อความอื่นที่อธิบดีกำหนด เช่น คำว่าเอกสารออกเป็นชุด สำเนาใบกำกับภาษี ฯลฯ

กรมสรรพากร-ช็อปช่วยชาติ

ถ้าหากใครที่กำลังจะเปลี่ยนยางรถยนต์ในช่วงนี้ ถือเป็นโอกาสอันดี แต่ก็ต้องเลือกยางรถยนต์ที่อยู่ในเงื่อนไขที่กำหนดด้วยนะครับ เดี๋ยวเลือกผิดไป หรือเลือกร้านที่ไม่ได้ร่วมกับทางช็อปช่วยชาติ ไม่ได้ลดหย่อนภาษีคืนนะครับ จะบอกให้ …

สำหรับผู้ที่มีข้อสงสัย สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์สารนิเทศสรรพากร โทร. 1161 หรือที่ http://www.rd.go.th/ กรมสรรพากร เต็มที่ เต็มใจ ให้ประชาชน

Carro-The-10-Best-In-Motor-Expo-2018

10 “ที่สุด” ในงาน Motor Expo ที่คุณยังไม่รู้ หรืออาจจะรู้ไม่หมด!

งาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35” หรือ “Motor Expo 2018” นอกจากจะมีการนำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่ๆ รถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ๆ รถมือสอง รวมไปถึงอุปกรณ์เกี่ยวเนื่อง อุปกรณ์ตกแต่ง โปรโมชั่น และพริตตี้สาวสวยที่หลายๆ คนชื่นชอบนั้น …

ภายในงานยังถือได้ว่ามีเรื่องราว “ที่สุด” ที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ทั้งหลายที่นำมาโชว์ด้วย Carro ขอรวบรวม 10 ที่สุด ที่เกี่ยวกับรถยนต์ในงาน “Motor Expo 2018” มาให้ทุกท่านได้รับทราบกันครับผม

ถูกที่สุด

TATA-Super-Ace-Mint

รถที่ “ถูก” ที่สุดในงาน Motor Expo 2018 ยังคงเป็น “TATA Super Ace Mint” (ทาทา ซูเปอร์ เอช มินท์) รถกระบะขนาดเล็กของแดนภารตะ ที่มาในราคาเพียง 365,000 บาท มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 1.4 ลิตร แบบ 4 สูบ คอมมอนเรล Di Turbo Intercooler ให้แรงม้าสูงสุด 70 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 140 นิวตัน-เมตร ที่ 1,400-2,750 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด

แพงที่สุด

Rolls-Royce-Phantom

รถที่ขึ้นชื่อว่า “แพง” ที่สุดในงาน Motor Expo 2018 นั่นก็คือ “Rolls-Royce Phantom” (โรลส์-รอยซ์ แฟนทอม) รถยนต์นั่งสุดหรูจากโรลส์-รอยซ์ ในราคา 53,500,000 บาท! มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 6.6 ลิตร แบบ V12 Turbo ให้แรงม้าสูงสุด 563 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดที่ 910 นิวตัน-เมตร ที่ 1,700 รอบ/นาที ประดุจดั่งนั่งพรมวิเศษเลยทีเดียว

เร็วที่สุด

Mercedes-AMG-GT-R

เร็วที่สุดในงาน Motor Expo 2018 ต้องยกให้ “Mercedes-AMG GT R” (เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี จีที อาร์) จัดเป็นอสูรกายแห่ง Green Hell พิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถของ AMG ในการพัฒนารถยนต์จากรถแข่งสู่สุดยอดรถสปอร์ต ด้วยเครื่องยนต์ V8 เทอร์โบคู่ ขนาด 4.0 ลิตร ระบบไดเรคอินเจคชั่น 585 แรงม้า และระบบเกียร์แบบคลัทช์คู่ 7 สปีด ทำให้ Mercedes-AMG GT R น่าตื่นตาตื่นใจด้วยความเร็วสูงสุด 318 กม./ชม. และการเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ภายในเวลา 3.6 วินาที

รถ EV (รถยนต์ไฟฟ้า) ถูกที่สุด

Fomm-One

รถ EV ที่ถูกที่สุดในงาน Motor Expo 2018 ครั้งนี้ ต้องยกให้กับรถไฟฟ้าสัญชาติญี่ปุ่นอย่าง “FOMM One” (ฟอมม์ วัน) เป็นรถไฟฟ้า 4 ที่นั่ง ที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก เหมาะสำหรับใช้งานในเมืองมาก จดทะเบียนได้ ชาร์จไฟเพียงครั้งละ 6 ชม. สามารถวิ่งได้ระยะทางมากถึง 160 กิโลเมตร และสามารถทำความเร็วได้สูงสุดถึง 80 กม./ชม. เลยทีเดียว สนนราคาเริ่มอยู่ที่ 599,000 บาท

เก่าที่สุด

Lancia-Aprillia

รถเก่าที่สุดในงาน อยู่ที่บูธ สมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย นั่นคือ “Lancia Aprillia” (แลนเซีย อาพริเลีย) ซึ่งผลิตระหว่างปี 1937-1939 จำนวนผลิตรวม 14,704 คัน เป็นผลงานชิ้นสุดท้ายของ Vincenzo Lancia ผู้ก่อตั้งแบรนด์ ใช้เครื่องยนต์ V4 ขนาด 1,352 ซีซี 46 แรงม้า ถือเป็นรถที่เก่าที่สุดในงานครับ

ใหญ่ที่สุด

Thairung-Traveller

ไม่มีใครใหญ่ไปกว่านี้แล้วในงาน Motor Expo 2018 ครั้งนี้ ต้องยกให้ “Thairung TRaveller” (ไทยรุ่ง ทราเวลเลอร์) หรือ “ไทยรุ่ง มินิบัส” ยาว 7 เมตร มี 20 + 1 ที่นั่ง ผลิตโดยไทยรุ่งยูเนี่ยนคาร์ ผู้เชี่ยวชาญ ด้านการออกแบบ ดัดแปลงรถยนต์ มากว่า 50 ปี ด้วยเครื่องยนต์คุณภาพจาก Isuzu และตัวรถแบบเดียวกับ Toyota Coaster รุ่นเก่า ในราคา 2,150,000 บาท

รถ SUV เร็วที่สุด

Lamborghini-Urus

รถ SUV ที่เร็วที่สุดในงาน Motor Expo 2018 นั่นคือ Lamborghini Urus (ลัมโบร์กินี อูรูส) ในราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 23,420,000 บาท กับ Super SUV คันแรกของโลก ที่ถ่ายทอด DNA ของลัมโบร์กินีอย่างแท้จริง ผสมผสานกับความเอนกประสงค์ของรถ SUV ที่มาพร้อมคำนิยามว่า “Since We Made It Possible” ด้วยเครื่องยนต์ V8 Twin-Turbo ให้พละกำลัง 650 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 850 นิวตันเมตร ที่มาตั้งแต่รอบต่ำ ส่งผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ไปยังระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ ชม. ในเวลาเพียง 3.6 วินาที และทำความเร็วสูงสุดกว่า 300 กม./ ชม. 

รถ SUV แพงที่สุด

Rolls-Royce-Cullinan

รถ SUV แพงที่สุดในงาน Motor Expo 2018 ต้องยกให้ “Rolls-Royce Cullinan” (โรลส์-รอยซ์ คัลลิแนน) โดยรถรุ่นนี้ตั้งชื่อตามเพชรเม็ดใหญ่ที่สุดที่เคยถูกค้นพบ จัดเป็น SUV รุ่นแรกจากค่าย โรลส์-รอยซ์ จับกลุ่มลูกค้าชาวไทยอายุน้อย ที่มีรายได้สูง มาพร้อมเครื่องยนต์โรลส์-รอยซ์ V12 Twin-Turbo ขนาด 6.75 ลิตร ที่ปรับปรุงใหม่ (แรงบิด 850 นิวตันเมตรที่ 1,600 รอบ/นาที) และเกียร์ 8 สปีดที่นุ่มนวลที่สุดในโลก สำหรับการขับขี่ออฟโรด ในราคาสูงสุดที่ 32,900,000 บาท

รถมอเตอร์ไซค์แพงที่สุด

Harley-Davidson-CVO-Limited-2019

รถมอเตอร์ไซค์แพงที่สุดในงาน Motor Expo 2018 ต้องยกให้ “Harley-Davidson CVO Limited” (ฮาร์เลย์-เดวิดสัน ซีวีโอ ลิมิเต็ด) เช่นเคย ในราคา 3,124,000 บาท

รถมอเตอร์ไซค์ถูกที่สุด

Lifan-Vintage-LF110

รถมอเตอร์ไซค์ถูกที่สุดในงาน Motor Expo 2018 นั่นคือ “Lifan Vintage LF110” (ลี่ฟาน วินเทจ แอลเอฟ110) ในราคา 28,000 บาท

Motor-Expo-2018-Booking

บริษัท สื่อสากล จำกัด เผยยอดจองรถยนต์ในงาน Motor Expo 2018 ที่ได้รับการตอบรับดีเยี่ยมเฉกเช่นทุกปี กับยอดจองรถของแต่ละค่ายที่น่าพึงพอใจ เม็ดเงินหมุนเวียนกว่า 5.6 หมื่นล้าน รถหรู รถเก๋ง รถ SUV Crossover ขายดี เกือบ 45,000 คัน สวนกระแสเศรษฐกิจ!!!

สำหรับยอดขายรถยนต์จาก 36 ผู้ผลิต มีจำนวนทั้งสิ้น 44,189 คัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 10.9% โดย 5 อันดับสูงสุดได้แก่ อันดับ 1 Honda 6,842 คัน อันดับ 2 Mazda 6,509 คัน อันดับ 3 Toyota 5,907 คัน อันดับ 4 Isuzu 4,437 คัน และอันดับ 5 Mitsubishi 3,619 คัน

รถเก๋งได้รับความสนใจสูงสุด มีสัดส่วนยอดขาย 38.9% ใกล้เคียงปีก่อน (38.7%) แบ่งเป็นเก๋งซีดาน 25.4% และแฮทช์แบค 13.5% โดย 5 อันดับแรก ได้แก่ Honda Civic, Honda City, Mazda2, Honda Jazz และ MG3

Motor-Expo-2018-View

ขณะที่รถ SUV มีสัดส่วน 34.3% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนเล็กน้อย (33.9%) 5 อันดับแรก ได้แก่ Mitsubishi Pajero Sport, MG ZS, Honda CR-V, Honda HR-V และ Ford Everest

รถกระบะมีสัดส่วน 17.2% ลดลงจากปีก่อนเล็กน้อย (17.9%) 5 อันดับแรก ได้แก่ Ford Ranger, Isuzu D-Max, Mitsubishi Triton, Toyota Hilux Revo และ Nissan Navara

ส่วนรถหรู มียอดขายรวม 4,213 คัน โดย 5 แบรนด์ ที่ได้รับความสนใจสูงสุด ได้แก่ Mercedes-Benz, BMW, Volvo, Audi และ Porsche

รถจักรยานยนต์จาก 23 ผู้ผลิต ยอดขายรวม 9,169 คัน สูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้ อันดับ 1 ได้แก่ Honda 1,531 คัน อันดับ 2 Yamaha 1,111 คัน อันดับ 3 Lambretta 1,012 คัน อันดับ 4 Kawasaki 775 คัน และ อันดับ 5 Vespa 605 คัน

ราคาเฉลี่ยของรถที่ขายได้ในงานเพิ่มขึ้นเป็น 1,286,898 บาท (ปีก่อน 1,271,837 บาท) เงินหมุนเวียนภายในงานราว 56,000 ล้านบาท ผู้เข้าชมงานจำนวน 1,534,961 คน เพิ่มขึ้น 12.8%

สรุป

ยอดจองรถยนต์ วันที่ 28 พ.ย. – 10 ธ.ค. 2561 44,189 คัน (หากรวมยอดรถมอเตอร์ไซค์ด้วย เป็น 53,358 คัน)

ยอดจองรถยนต์ วันที่ 29 พ.ย. – 11 ธ.ค. 2560 39,832 คัน

ยอดจองรถยนต์ วันที่ 30 พ.ย. – 12 ธ.ค. 2559 32,422 คัน

ยอดจองรถยนต์ 10 อันดับแรกของ Motor Expo 2018 วันที่ 28 พ.ย. – 10 ธ.ค. 2561 (CARRO Update ล่าสุดทุกวัน)

1. Honda 6,842 คัน

Honda-CR-V-5-Seats

2. Mazda 6,509 คัน

Mazda-CX-3

3. Toyota 5,907 คัน

Toyota-Camry-TRD-Sportivo

4. Isuzu 4,437 คัน

Isuzu-D-Max-Stealth

5. Mitsubishi 3,619 คัน

Mitsubishi-Triton-Minorchange

6. MG 2,369 คัน

MG3-Limited-Edition

7. Mercedes-Benz 2,294 คัน

Mercedes-AMG-CLS53

8. Nissan 2,212 คัน

Nissan-Teana-Minorchange

9. Ford 1,914 คัน

Ford-Ranger-Raptor-Motor-Expo

10. Suzuki 1,805 คัน

Suzuki-Swift-2018

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Motor Expo

ดูสรุปยอดจองรถยนต์ในงาน Motor Expo 2017 ได้ที่นี่ >> http://th.carro.co/blog/motor-expo-2017-booking/

สำหรับผู้ที่ซื้อรถใหม่ในงาน Motor Expo 2018 ไปแล้ว แต่ยังหนักใจว่าจะขายรถคันเดิมที่ไหนดี ให้ CARRO เป็นผู้ช่วยมืออาชีพของคุณ “ขายรถง่ายๆ ได้ราคาดี กับ CARRO Thailand” หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มได้ใน Fanpage “CARRO Thailand” ครับผม

Carro-OIC-Force-Insurance

ลดปัญหาบริษัทประกัน “มั่วนิ่ม” ไม่จ่ายค่าขาดประโยชน์ ระหว่างซ่อมรถ คปภ. สั่งทุกบริษัทต้องจ่าย วันละ 500 – 1,000 บาท เริ่มต้นปี 2562

นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ คปภ. ได้ข้อสรุปการปรับปรุงความคุ้มครองของค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ ให้แก่เจ้าของรถยนต์ที่ทำประกันและอยู่ระหว่างนำไปเคลมซ่อมแล้ว

Repair-Car

โดยจะจ่ายเงินเป็น 3 กลุ่ม ให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้น จากก่อนหน้านี้ที่ยังมีความคลุมเครือทำให้เกิดปัญหาร้องเรียนเข้ามา ประกอบด้วย

กลุ่มแรก รถยนต์ส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง กำหนดอัตราไม่น้อยกว่าวันละ 500 บาท
กลุ่มที่ 2 รถยนต์รับจ้างสาธารณะขนาดไม่เกิน 7 ที่นั่ง กำหนดอัตราไม่น้อยกว่าวันละ 700 บาท
และกลุ่มที่ 3 รถยนต์ขนาดเกินกว่า 7 ที่นั่งกำหนดอัตราไม่น้อยกว่าวันละ 1,000 บาท

“ที่ผ่านมาปัญหาเรื่องร้องเรียนกรณีการเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ มียอดร้องเรียนมากเป็นอันดับ 1 เรื่องส่วนใหญ่ที่ได้รับเรื่องร้องเรียนคือบริษัทประกันไม่ยอมจ่ายค่าขาดประโยชน์ เพราะประชาชนไม่มีความรู้ หรือมีการจ่ายในอัตราที่ต่ำ เพราะก่อนหน้านี้ระเบียบได้กำหนดให้จ่ายตามฐานานุรูปขนาดของเครื่องยนต์ และความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของบริษัทประกัน ดังนั้นจึงต้องปรับหลักเกณฑ์ใหม่ให้ชัดเจน โดยมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาหารือเรื่องนี้ร่วมกับสมาคมประกันวินาศภัยโดยเฉพาะจนสามารถหาข้อสรุปได้แล้ว”

Repair-Car

อีกทั้ง คปภ. อยู่ระหว่างยกร่างคำสั่งนายทะเบียนเพื่อแก้ไขเพิ่มเติมเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ และจะบังคับใช้ได้ในต้นปีหน้า และเมื่อมีคำสั่งนายทะเบียนออกมาแล้ว บริษัทจะต้องดำเนินการปรับปรุงแก้ไขกำหนดอัตราค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถในเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัยและจะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าวอย่างเคร่งครัด

“หากฝ่าฝืนมีความผิดฐานขัดคำสั่งนายทะเบียน ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ประกันภัย อาจถือได้ว่าบริษัทจงใจฝ่าฝืนข้อตกลงแห่งสัญญาประกันภัย หรือข้อกำหนดหรือกฎเกณฑ์ใดๆ ที่มีความชัดเจนให้บริษัทมีหน้าที่ต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้เอาประกันภัย ผู้รับประโยชน์ หรือบุคคลผู้มีสิทธิ์เรียกร้องหรือได้รับความคุ้มครองตามสัญญาประกันภัย อันอาจเข้าข่ายเป็นความผิดฐานประวิงการจ่ายค่าสินไหมทดแทน ซึ่งมีบทลงโทษในอัตราที่สูง ปรับไม่เกิน 5 แสนบาท และถ้าเป็นกรณีการกระทำผิดต่อเนื่องให้ปรับอีกไม่เกินวันละ 2 หมื่นบาท ตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนอยู่”

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก กรุงเทพธุรกิจ

New-Mitsubishi-Triton-Thailand-2018

Triton ใหม่ พร้อมเปิดขาย 17 พฤศจิกายน 2561 พัฒนาขึ้นใหม่ให้ “แกร่ง ลุยทุกอุปสรรค”

“Mitsubishi Triton” (มิตซูบิชิ ไทรทัน) หรือ “L200” ในตลาดโลก โฉมไมเนอร์เชนจ์ เตรียมเปิดตัวครั้งแรกของโลก ภายใต้แนวคิด “Engineered Beyond Tough” พร้อมเชิญทั้งสื่อไทยและสื่อต่างประเทศมาร่วมงาน เพราะถือเป็น Global Launch Ceremony ในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2561

New-Mitsubishi-Triton-Thailand-2018

หน้าตาภายนอกใช้ไฟหน้าแบบ 2 ชั้น และกระจังหน้าแบบ Dynamic Shield ดูคล้ายกับ Mitsubishi Pajero Sport และน้องใหม่อย่าง Mitsubishi Xpander มาพร้อมไฟท้ายแบบ LED Tube กับกันชนดีไซน์ใหม่ และลงตัวกับล้อแม็กลาย 6 ก้านคู่

New-Mitsubishi-Triton-Thailand-2018

มิติตัวรถ (ในรุ่น Double Cab 4WD) ตัวรถยาว 5,300 มม. กว้าง 1,815 มม. สูง 1,795 มม. ระยะฐานล้อ 3,000 มม. ความกว้างช่วงล้อหน้า-หลัง 1,520 / 1,515 มม. ระยะต่ำสุดถึงพื้น 220 มม. และน้ำหนักตัวรถ 1,960 กก.

New-Mitsubishi-Triton-Thailand-2018

มิติตัวรถ (ในรุ่น Athlete) ตัวรถยาว 5,300 มม. กว้าง 1,815 มม. สูง 1,795 มม. ระยะฐานล้อ 3,000 มม. ความกว้างช่วงล้อหน้า-หลัง 1,520 / 1,515 มม. ระยะต่ำสุดถึงพื้น 220 มม. และน้ำหนักตัวรถ 1,960 กก.

New-Mitsubishi-Triton-Thailand-2018

ส่วนออพชั่นภายใน และดีไซน์ภายในห้องโดยสาร ปรับเปลี่ยนเยอะพอสมควร ช่องแอร์แบบใหม่ ใช้วัสดุภายในดูโดดเด่นขึ้น

New-Mitsubishi-Triton-Thailand-2018

ในรุ่น Single Cab 4WD, Mega Cab Plus, Double Cab Plus และ Double Cab 4WD ใช้ขุมพลังแบบดีเซลขนาด 2.4 ลิตร รหัส 4N15 แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว MIVEC แรงม้าสูงสุด 181 แรงม้า ที่ 3,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร ที่ 2,500 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และอัตโนมัติ 6 สปีด แบบใหม่พร้อม Sport Mode

New-Mitsubishi-Triton-Thailand-2018

ส่วนในรุ่น Top มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Super-Select 4WD ll และ Differential Lock และยังเพิ่มโหมดขับขี่บนเส้นทางออฟโรด สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานให้เหมาะกับสภาพถนน ในโหมด 4LLc ได้แก่ Gravel Mud /Snow Sand และ Rock รวมทั้งระบบ Easy-Select 4WD ในรุ่นล่างที่สามารถเลือกโหมดควบคุมได้สะดวก

New-Mitsubishi-Triton-Thailand-2018

ระบบความปลอดภัยเพียบ อาทิ ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว (FCM) สามารถตรวจจับได้ทั้งพาหนะและคน ระบบสัญญาณเตือนจุดอับสายตาและแจ้งเตือนขณะเปลี่ยนเลน (BSW กับ LCA) ระบบเตือนขณะถอยออกจากช่องจอดรถ (RCTA) ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะ เมื่อเหยียบคันเร่งรุ่นแรงและรวดเร็ว (UMS) เป็นต้น

New-Mitsubishi-Triton-Thailand-2018

ราคาของ Triton ใหม่ …

Mitsubishi-Triton-2018-Price

Mitsubishi-Triton-2018-Price

ทั้งนี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น วางแผนที่จะจำหน่าย มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ และรุ่นเดิม ที่ประมาณ 180,000 คัน ภายในปีงบประมาณนี้ โดยรถรุ่นดังกล่าวถือเป็นรถที่มียอดจำหน่ายสูงสุดเป็นอันดับ 2 ของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส เมื่อปีงบประมาณที่แล้ว รองจากรถอเนกประสงค์ มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์

Bangkok-Starts- Collecting- Parking-fees-On-66 Roads

มอเตอร์ไซค์ ชั่วโมงละ 5 บาท รถยนต์ ชั่วโมงละ 10 บาท เริ่มแล้ววันนี้

Bangkok-Starts--Collecting--Parking-fees-On-66-Roads

ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศกรุงเทพมหานคร ลงนามโดย พล.ต.อ. อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เรื่อง กำหนดที่จอดยานยนตร์และอัตราค่าธรรมเนียมจอดยานยนตร์ มีรายละเอียดระบุว่า

โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงประกาศกรุงเทพมหานคร ว่าด้วยการกำหนดที่จอดยานยนต์ และอัตราค่าธรรมเนียมจอดยานยนตร์ให้เหมาะสมยิ่งขึ้น อาศัยอำนาจตามความในข้อ 5 และข้อ 11 แห่งข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง การจัดระเบียบ การจอดยานยนตร์ พ.ศ. 2536 จึงกำหนดที่จอดยานยนตร์และอัตราค่าธรรมเนียมจอดยานยนตร์ไว้

คลิกดูประกาศฉบับเต็มที่นี่

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก ประชาชาติ

IphoneXs-Xr-VS-UsedCar

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ 10 รถมือสอง ที่ราคาเท่า “iPhone Xr, Xs และ Xs Max

เป็นที่ทราบกันแล้วนะครับว่า สำหรับ iPhone Xr / iPhone Xs และ iPhone Xs Max ที่เพิ่งเปิดตัวใหม่ไปใน USA ตั้งแต่เมื่อคืนของวันที่ 13 กันยายน 2561 (ตามเวลาในประเทศไทย) ซึ่งมีคุณสมบัติและฟังก์ชั่นต่างๆ ที่เพิ่มมากขึ้น จอใหญ่ขึ้น ขยายความจุเป็น 512GB! (ถูกใจสาวก Apple กับ iPhone หรือเปล่า ไม่แน่ใจนะ?)

iPhone-XR-Thai-Price

iPhone-XS-Thai-Price

iPhone-XS-Max-Thai-Price

ภาพจาก IPhoneMod.net

และแน่นอนอยู่แล้วว่าราคาของ iPhone Xr / iPhone Xs และ iPhone Xs Max ต้องปรับสูงขึ้นกว่ารุ่นเดิมแน่นอน ทำให้สาวก iPhone ต้องคิดแล้วล่ะว่า ตีราคาออกมาเป็นเงินไทย สูงมากเลยทีเดียว (รุ่น Top สุด ราคาเหยียบครึ่งแสนเข้าไปแล้ว! เราจะย้อนกลับไปใช้โทรศัพท์มือถือ ราคาครึ่งแสน เหมือนเมื่อ 10 กว่าปีแล้วหรือเนี่ย!)

เอาเงินนี้ ไปซื้ออย่างอื่นดีกว่าหรือเปล่า? ซื้อรถมือสองดีมั้ย?

Carro ขอแนะนำ 10 รถมือสอง ที่คุณสามารถซื้อได้ในราคาของ iPhone Xr / iPhone Xs และ iPhone Xs Max ที่หลายคนอาจคาดไม่ถึง ว่ามือถือรุ่น Top ราคาจะสามารถซื้อรถมือสองได้ 1 คัน!

Carro จึงขอนำเสนอรถยนต์มือสอง ในช่วงประมาณยุค 90 ที่มีราคาตั้งแต่ 3 – 5 หมื่นบาท ที่มีความทนทาน ดูแลง่าย อะไหล่พอหาได้เยอะหน่อย จะมีรุ่นใดบ้าง … เชิญอ่านได้เลยครับ

Toyota Corolla 1.3 / 1.6 (EE100/AE101)

Toyota-Corolla-AE101

Toyota Corolla (โตโยต้า โคโรลล่า) เป็น Corolla “สามห่วง” รุ่นที่ถือว่าสร้างตำนานในบ้านเราอีกรุ่นหนึ่งก็ว่าได้ ถือเป็นรุ่นแรกที่ใช้ Logo “Toyota” แบบใหม่ที่เป็นสามห่วง เปิดตัวในไทยเมื่อ 13 มีนาคม 2535 ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.3 ลิตร รหัส 2E (และ 4E-FE ในรุ่นไมเนอร์เชนจ์) และเครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร รหัส 4A-FE

ราคาในตลาด แบบตามสภาพ (แค่พอวิ่งได้) ประมาณ 2 หมื่นกว่าบาท ก็มีคนลงขายแล้วครับ แต่ถ้าจะเอาแบบสภาพดีๆ หน่อย ก็ต้องเพิ่มงบไปอยู่ที่ประมาณ 5 – 6 หมื่นบาทครับ …

Toyota Corona 1.6 (AT191/ST191)

Toyota-Corona-ST191

Toyota Corona (โตโยต้า โคโรน่า) รุ่น “ท้ายโด่ง” “ท้ายแยก” ยอดนิยมอีกหนึ่งรุ่น และถือเป็นโคโรน่ารุ่นสุดท้ายที่ขายในไทย โฉมนี้เปิดตัวในไทยเมื่อปี 2536 มาพร้อมรูปทรงอ้วนกลมน่ารัก ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร รหัส 4A-FE, เครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร รหัส 3S-FE ก่อนจะปรับโฉมกันอีกครั้ง ในภายหลังเพิ่มรุ่น Exsior ชูจุดเด่นด้านความปลอดภัย พร้อมกับเปลี่ยนชุดแผงคอนโซลภายในใหม่

ราคาในตลาด แบบตามสภาพ มีเงินประมาณ 4 หมื่นบาท ก็สามารถหารุ่นเครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร (หรือรุ่นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร สภาพโทรมๆ บางคัน) มาขับได้แล้ว แต่ถ้าอยากได้ดีกว่านี้ ก็ต้องจ่ายแพงเพิ่มขึ้นกว่านั้น

Honda Civic 1.5 / 1.6 (EG)

Honda-Civic-EG

Honda Civic (ฮอนด้า ซีวิค) รุ่นนี้เปิดตัวเมื่อปี 2535 โดยเป็นรุ่น 4 ประตูมาก่อน พอในปี 2536 ถึงจะเป็นตัวแฮทช์แบค 3 ประตู เปิดตัวตามมาทีหลัง สร้างยอดจองถล่มทลาย 10,000 คัน หลังจากเปิดตัวไปใน 7 วัน

ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร คาร์บูเรเตอร์ 91 แรงม้า, 1.6 ลิตร หัวฉีด 120 แรงม้า และ 1.6 ลิตร VTEC 130 แรงม้า ที่ตามมาในภายหลัง และยังมีรุ่น 4 ประตู VTi นำเข้าจากญี่ปุ่นอีกด้วย มีให้เลือกทั้งแบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด

ราคาในตลาด มีเงินแค่ 3 หมื่นบาทกลางๆ ก็สามารถซื้อรถรุ่นนี้ 4 ประตู (ถ้าตัว 3 ประตู อาจต้องเพิ่มเงินอีกนิดนึง) มาขับได้แล้ว แต่ก็ตามสภาพนะครับ

Honda Accord 2.0 (CB)

Honda-Accord-CB

Honda Accord (ฮอนด้า แอคคอร์ด) รุ่นนี้มีฉายาว่า “ตาเพชร” ซึ่งก็ถือเป็นรถรุ่นแรกๆ ในไทย ที่ใช้ไฟหน้าแบบ “มัลติรีเฟล็กเตอร์” (Multi-Reflector) ที่ให้ความสว่างกว่าไฟหน้าโคมแก้วทั่วไป จนกลายมาเป็นฉายาของรุ่นนี้ โดยเปิดตัวเมื่อปี 2533 ในยุคนั้นถือว่าขายดีมาก ตั้งแต่เป็นรถครอบครัว ไปยันเป็นรถระดับผู้บริหารใช้ …

ใช้เครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร คาร์บูเรเตอร์ 112 แรงม้า และ 2.0 ลิตร หัวฉีด 135 แรงม้า มีให้เลือกทั้งแบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด

ราคาในตลาด แบบตามสภาพ มีเงินประมาณ 3 หมื่นบาทปลายๆ ก็สามารถซื้อรถรุ่นนี้มาขับเท่ๆ (กับซ่อมไปด้วย) ได้แล้ว!

Nissan Sunny 1.5 / 1.6 (B14)

Nissan-Sunny-B14

Nissan Sunny (นิสสัน ซันนี่) อีก 1 รถยอดนิยมจากค่ายสยามกลการในอดีต สำหรับ นิสสัน ซันนี่ B14 เปิดตัวในปี 2537 ออกมาในหลายโฉมมาก ขายมาจนถึงช่วงปี 2543

มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร รหัส GA15DE 105 แรงม้า และเครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร รหัส GA16DE 120 แรงม้า ต่อมาปรับปรุงใหม่เป็นรหัส GA16DNE 110 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด

ราคาในตลาด แบบตามสภาพ มีให้เลือกเยอะแยะ ตั้งแต่ราคาประมาณ 3 หมื่นกว่าบาท ไปจนถึง 5 หมื่นบาท

Nissan Bluebird 2.0 SSS (U13)

Nissan-Bluebird-SSS-U13

Nissan Bluebird (นิสสัน บลูเบิร์ด) “SSS” เป็น Bluebird รุ่นสุดท้ายที่ขายในบ้านเรา โดยการนำเข้าจากญี่ปุ่นของ สยามกลการ สมัยนั้น ถ้าใครที่ชอบรถนำเข้ารูปทรงสวย ดูไม่ล้าสมัย ออพชั่นเพียบ เครื่องแรง ก็ลองหาตัวนี้มาเล่นกันดูครับ (แต่ก็หาสภาพดีๆ ยากหน่อยนึง)

มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร รหัส SR20DE 145 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด

ราคาในตลาด เอาแบบรถเน่าๆ เลยนะ 2 หมื่นกว่าบาท ก็มีคนขายให้เห็นมาแล้ว ส่วนตามสภาพ มีเงิน 3 – 4 หมื่นบาท ก็สามารถหาซื้อรถรุ่นนี้มาขับได้แล้ว

Mitsubishi Galant Ultima

Mitsubishi-Galant-Ultima

Mitsubishi Galant Ultima (มิตซูบิชิ กาแลนท์ อัลติม่า) ถือเป็น Galant รุ่นสุดท้าย ที่ประกอบขายในบ้านเรา ในปัจจุบันก็ยังได้รับความนิยมจากคนชอบแต่งรถบ้าง เปิดตัวในปี 2537 ขายลากยาวกันมาจนถึงช่วงปี 2541 ได้ มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร รหัส 4G63 140 แรงม้า และเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร V6 รหัส 6A12 155 แรงม้า

ราคาในตลาด แบบตามสภาพนะ มีเงิน 3 หมื่นกว่าบาท ก็สามารถซื้อรถรุ่นนี้มาขับได้แล้ว ถือเป็นรถรุ่นใหญ่น่าใช้ ในราคามือสองที่ขายกันถูกมากๆ

Mazda 323 (BH) / 323 Astina 1.8 (BH)

Mazda-323

Mazda-323-Astina

Mazda 323 (มาสด้า 323) และ Mazda 323 Astina (มาสด้า 323 แอสติน่า) ถือเป็นรุ่นสุดท้ายที่มี Astina ขายพ่วงด้วย และอยู่ภายใต้การจำหน่ายของกมลสุโกศล เปิดตัวในไทยเมื่อปี 2537 และขายมาเรื่อยๆ จนถึงประมาณปี 2541 ก่อนที่ มาสด้า กมลสุโกศล จะโดนบริษัทแม่เข้ามาควบรวมกิจการไปในปี 2542

มาสด้า 323 ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร รหัส B6 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด

ส่วนในรุ่น Astina ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร รหัส BPD 125 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด

ราคาในตลาด มีเงิน 3 หมื่นปลายๆ ก็สามารถซื้อรถรุ่นนี้แบบตามสภาพมาขับได้แล้ว ส่วน Astina อาจจะต้องเพิ่มเงินนิดๆ แต่จริงๆ แล้ว แค่ 4 หมื่น ก็พอหารถแบบตามสภาพได้แล้วครับ

อันสุดท้าย เผื่อคนอยากได้รถยุโรป … BMW 520i / 525i (E34)

BMW-Series-5-E34

BMW ซีรี่ส์ 5 โฉม E34 ในยุคที่บริษัท ยนตรกิจ จำกัด เป็นผู้จำหน่าย เริ่มเผยโฉมในไทยเมื่อปี 2532 มีให้เลือกทั้งรุ่น 520i, 525i, 520iS และยังมีรุ่นแวกอน นำเข้ามาตามสั่งอีกด้วย ตัวรถภายนอกดูสปอร์ต เท่ ภายในหรูหรา ถูกใจวัยรุ่นวัยเฒ่าทั้งหลาย ที่ชอบรถหรูๆ แนวผู้บริหารใช้ ในราคาที่สมัยก่อนตอนออกใหม่ซื้อไม่ไหว …

มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร 150 แรงม้า, เครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร 192 แรงม้า … รุ่นนี้ได้ขายเรื่อยๆ ในบ้านเรา จนถึงปลายปี 2539 แล้วลากขายรถในสต๊อกจนถึงปี 2540

ราคาในตลาดยุคนี้ มีรถมือสองรุ่นนี้ โผล่มาแบบถูกอย่างเหลือเชื่อ ถ้าแบบเน่าๆ เลยนะ มีเงิน 3 หมื่นปลายๆ ก็สามารถซื้อรถรุ่นนี้มาขับได้แล้ว! สุดยอดจริงๆ! (แต่ค่าซ่อม ไม่รู้ต้องเตรียมไว้เท่าไหร่นะ …) ถ้าจะให้ดี หารุ่นนี้ราคาประมาณ 6 – 7 หมื่นบาท หรือหลักแสนดีกว่า ได้สภาพรถที่ดีกว่าด้วยครับ …

(สงวนลิขสิทธิ์)