Compare-MU-X-Fortuner-Terra-Pajero-Sport-Everest

ถ้าพูดถึงรถ SUV ที่ถือว่าเป็นตลาดใหญ่ในกลุ่มรถบ้านเราเวลานี้ ด้วยการใช้งานที่สารพัดประโยชน์ และลุยน้ำท่วมได้ บวกกับตัวรถที่พัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในตลาดรถยนต์ไทย ก็ยังมีรถประเภท SUV อีกแบบหนึ่ง ที่ในไทยมักเรียกกันว่ารถ “PPV” (Pick-Up Passenger Vehicle = รถอเนกประสงค์ที่มีพื้นฐานมาจากรถกระบะ) ซึ่งก็มียอดขายที่สูงมากด้วยเช่นกัน โดยมากแล้วจะมี 7 ที่นั่ง ในราคาค่าตัวอยู่ที่ 1 ล้านบาท ไปจนถึงเกือบๆ 2 ล้านบาท

ซึ่งผู้ผลิตรายแรกที่ผลิตรถในรูปแบบ PPV ขึ้นมา นั่นคือ ที่ขับเคี่ยวแข่งขันกันในตลาดรถยนต์อย่างดุเดือดกันมานานถึง 20 ปีได้

CARRO Thailand จึงขอนำรถ PPV ยอดฮิตในหมู่คนไทย ที่เพิ่งเปิดตัวสดใหม่ และมีขายอยู่แล้วในตลาดด้วยกัน 5 แบรนด์ 5 รุ่น อย่าง All-New Isuzu MU-X (ออลนิว อีซูซุมิว-เอ็กซ์), Toyota Fortuner (โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์), Mitsubishi Pajero Sport (มิตซูบิชิ ปาเจโร่ สปอร์ต), Nissan Terra (นิสสัน เทอร์ร่า) และ Ford Everest (ฟอร์ด เอเวอเรสต์) มาเปรียบเทียบกันให้เห็น ว่าแต่ละรุ่น มีข้อเสียข้อเสีย น่าใช้หรือไม่อย่างไร!

หากใครสนใจรุ่นไหนอยู่ ลองคำนวณงบประมาณที่มี แล้วเลือกดูว่า จะผ่อนกันแบบไหนได้เลย 

ถ้าคุณอยากขายรถด่วน เพื่อไปซื้อรถคันใหม่ หรือรับเงินก้อนไปใช้สามารถขายรถคันเก่า หรือตีราคารถกับทาง CARRO ได้ ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ CARRO Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothai หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

Isuzu-MU-X-Motor-Expo-2020

All-New Isuzu MU-X 2020

ข้อดี : พัฒนาตัวรถใหม่หมด (แต่บางคนก็บอกว่า ยังสลัดคราบของ D-Max ออกไม่หมดก็ตาม) แต่ก็ดูหรูหราขึ้น ช่วงล่างนุ่ม เกาะถนนได้มากขึ้น รุ่น 1.9 ลิตร เหมาะสำหรับคนชอบความประหยัด หรือใช้งานในเมือง ส่วนรุ่น 3.0 ลิตร เหมาะสำหรับใช้งานทางไกล สายซิ่ง ให้ความฉับไวในการออกตัวและเร่งแซง ขับขี่สบายมากขึ้น และยังเป็นรถมือสอง ที่ซื้อง่ายขายคล่องอีกด้วย

ข้อด้อย : รุ่น 1.9 ลิตร ตัวเครื่องยนต์ต้องแบกน้ำหนักตัวรถมาก การออกตัวให้อัตราเร่งช้าไปบ้าง แต่วิ่งสัก 80 กม./ชม. ขึ้นไป ก็ถือว่าดีขึ้นมาก และพวงมาลัยอาจคืนตัวช้าไปบ้าง

รายละเอียดตัวรถ : เป็นรถที่ออกแบบภายใต้แนวคิด Emotional & Solid ผสานความหนักแน่นและพลิ้วไหวเข้าไว้ด้วยกันตลอดทั้งคัน อาทิ กระจังหน้าแบบ World Cross Flow, ไฟหน้า Bi-LED Projector ดีไซน์แบบ Arrow Signature สอดรับกับเส้นสายด้านข้างอันเป็นเอกลักษณ์ ทอดยาวสู่ไฟท้าย LED ดีไซน์แบบ Winglet Signature

โครงสร้างแพลทฟอร์มใหม่ ช่วงล่างใหม่ ออกแบบตามแนวคิด ISUZU Symmetric Mobility ให้โครงสร้างตัวถัง แชสซีส์ การวางตำแหน่งเครื่องยนต์ และช่วงล่างทำงานร่วมกันได้ลงตัว ช่วงล่างหน้าแบบอิสระปีกนก 2 ชั้น Double Wishbone ออกแบบจุดยึดปีกนกด้านบนใหม่ พร้อมคอยล์สปริง โช้คอัพแก๊สและเหล็กกันโคลงขนาดใหญ่ ช่วงล่างด้านหลังแบบ 5-Link Suspension ออกแบบจุดยึดคานใหม่และเหล็กกันโคลงให้ยาวขึ้น พร้อมคอยล์สปริงและโช้คอัพแก๊ส

ภายในห้องโดยสาร แนวคิดการออกแบบ Fine, Rich & Impressive Craftsmanship ด้วยวิธีการออกแบบ Integrated Cockpit ให้คอนโซลหน้าเชื่อมต่อเป็นหนึ่งเดียวกับคอนโซลกลาง จัดวางเรียบหรู ด้วยเบาะนั่งสามแถว สี Saddle Brown ตัดเย็บด้วยวัสดุพิเศษ เดินด้ายแบบเครื่องหนังชั้นหรู พร้อมเทคโนโลยี COOLMAX ช่วยลดการสะสมความร้อน ออกแบบให้นั่งสบายทั้ง 7 ที่นั่ง และเบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า

ระบบความบันเทิง ISUZU Ultimate Entertainment หน้าจอ Infotainment Display ขนาดใหญ่ 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay แบบไร้สาย และ Android Auto พร้อมลำโพง 8 จุด ให้มิติเสียงรอบทิศทาง

ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone แยกอิสระซ้าย-ขวา พร้อมฟิลเตอร์กรองฝุ่น PM 2.5 Charging Station รองรับการใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้าหลากหลาย ทั้ง USB Fast Charger ช่องต่อ AC Power Socket 220V และช่องต่อ DC 12V

และกุญแจ ISUZU Genius Entry สตาร์ทเครื่องยนต์ด้วย Remote Engine Start ใช้เปิด-ปิดประตูท้ายไฟฟ้าได้ด้วย

มีให้เลือกถึง 6 สี ได้แก่ น้ำตาลมาราเกซ (Marrakesh Brown) ขาวมุกโดโลไมท์ (Dolomite Pearl White) แดงเอทนา (Etna Red) ดำบาวาเรียน ไมก้า (Bavarian Black Mica) เงินไอซ์เบิร์ก (Iceberg Silver) และเงินโบฮีเมียน เมทัลลิค (Bohemian Silver Metallic)

All-New-Isuzu-MU-X-2020

อุปกรณ์มาตรฐานเด่นๆ :

  • ไฟหน้า Bi-LED Projector ดีไซน์แบบ Arrow Signature
  • ไฟท้าย LED ดีไซน์แบบ Winglet Signature
  • กล้องหน้าคู่ 3D Imaging Stereo Camera
  • ระบบเปิด-ปิด ไฟหน้าอัตโนมัติ
  • ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ
  • กระจกบังลมหน้าแบบ IR Cut
  • ล้ออัลลอยขนาดใหญ่ Dynamic Design
  • กุญแจ ISUZU Genius Entry
  • ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone แยกอิสระซ้าย-ขวา พร้อมฟิลเตอร์กรองฝุ่น PM 2.5
  • Charging Station รองรับการใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้าหลากหลาย
  • หน้าจอ Infotainment Display ขนาดใหญ่ 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay แบบไร้สาย และ Android Auto
  • เบรกมือไฟฟ้า
  • ระบบ Auto Brake Hold ระบบช่วยหยุดอยู่กับที่โดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้างไว้
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ
  • ระบบเปิด-ปิดประตูท้ายด้วยไฟฟ้า Power Tailgate พร้อม Jam Protection
  • ACC (Full Speed Range Adaptive Cruise Control) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมฟังก์ชัน Stop and Go
  • FCW (Forward Collision Warning) ระบบแจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้า
  • AEB (Autonomous Emergency Braking) ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ
  • LDW (Lane Departure Warning) ระบบแจ้งเตือนออกนอกเลน
  • AHB (Automatic High Beam) ระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมติ
  • PMM (Pedal Misapplication Mitigation) ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์เมื่อเหยียบคันเร่งผิดพลาด
  • MSL (Manual Speed Limiter) ระบบตั้งค่าจำกัดความเร็วสูงสุดด้วยตัวเอง
  • BSM (Blind Spot Monitoring) ระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตา
  • RCTA (Rear Cross Traffic Alert) ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถยนต์
  • Parking Aid System ระบบเซ็นเซอร์ช่วยจอดรถยนต์
  • MCB (Multi-Collision Brake) ระบบเบรกอัตโนมัติหลังการเกิดอุบัติเหตุ ช่วยลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน

All-New-Isuzu-MU-X-2020

เครื่องยนต์ : ดีเซลขนาด 1.9 ลิตร รหัส RZ4E-TC แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว Commonrail Direct Injection VGS Turbo ให้แรงม้าสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800 – 2,600 รอบ/นาที ประหยัดน้ำมัน 14.9 กม./ลิตร (ตาม Eco Sticker)

และดีเซลขนาด 3.0 ลิตร รหัส 4JJ3-TCX แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว Commonrail Direct Injection VGS Turbo ให้แรงม้าสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600 – 2,600 รอบ/นาที ประหยัดน้ำมัน 13.3 กม./ลิตร (ตาม Eco Sticker)

ทั้ง 2 เครื่องยนต์ สามารถใช้กับน้ำมันดีเซล B20 ได้ ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และอัตโนมัติแบบ 6 สปีด พร้อม REV Tronic รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.6 เมตร น้ำหนักรถ 1,950 – 2,165 กิโลกรัม

มิติตัวรถ : ยาว 4,850 มม. กว้าง 1,870 มม. สูง 1,815 มม. (รุ่น Active) 1,825 มม. (รุ่น Luxury) 1,875 มม. (รุ่น Elegant / Ultimate) ระยะฐานล้อ 2,855 มม. ระยะต่ำสุดจากพื้น 235 มม.

ราคาจำหน่าย : (Update ล่าสุด เดือนธันวาคม 2563)

  • 1.9 Ddi Active A/T ราคา 1,121,000 บาท
  • 1.9 Ddi Luxury M/T ราคา 1,266,000 บาท
  • 1.9 Ddi Luxury A/T ราคา 1,304,000 บาท
  • 1.9 Ddi Elegant A/T ราคา 1,349,000 บาท
  • 1.9 Ddi Ultimate A/T ราคา 1,434,000 บาท
  • 3.0 Ddi Ultimate A/T ราคา 1,479,000 บาท
  • 3.0 Ddi 4X4 Ultimate A/T ราคา 1,579,000 บาท

Toyota-Fortuner-Legender

Toyota Fortuner 2020

ข้อดี : โฉมนี้ถือว่าปรับปรุงหลายอย่าง นอกจากหน้าและออพชั่นใหม่ๆ แล้ว ดูสวยและดุดันขึ้น เหมาะสำหรับกลุ่มลูกค้าที่มีครอบครัว มองหารถที่ใหญ่ขึ้น ส่วนรุ่น เหมาะสำหรับกลุ่มลูกค้านักธุรกิจรุ่นใหม่ เครื่องยนต์ 2.8 แรงกว่ารถในระดับเดียวกัน โดดเด่นด้วยล้อแม็กขนาด 20 นิ้ว ตัวรถยังติดตั้ง Balance Shaft เพื่อลดเสียงและการสั่นสะเทือน พร้อมโหมดการขับแบบ Sport ปรับการตอบสนองของคันเร่งและพวงมาลัย ตัวเกียร์ตอบสนองได้ดี ไม่มีช่วงวูบหรือย้วยขณะเปลี่ยนเกียร์ขึ้นสูง เพิ่มความมั่นใจเมื่อใช้ความเร็วสูง

ระบบกันสะเทือนให้ความรู้สึกนุ่มนวล และหนักแน่นขึ้น ส่วนห้องโดยสารเก็บเสียง และการดูดซับแรงสั่นสะเทือนได้ดี แทบไม่รู้สึกถึงการกระแทก พวงมาลัยนิ่งแน่น ไม่สะท้านมือ

ในโหมดออฟโรด ปรับรอบเดินเบาจาก 850 เหลือ 680 รอบต่อนาที เพื่อให้ควบคุมคันเร่งได้ง่ายขึ้น และสามารถบรรทุกของได้เยอะ อีกทั้งเวลาเป็นรถมือสอง ก็ซื้อง่ายขายคล่อง

ข้อด้อย : อาจจะเป็นในเรื่องของราคา ที่แพงกว่ารถในระดับเดียวกันครับ

รายละเอียดตัวรถ : Toyota Fortuner นับตั้งแต่การเปิดตัวเมื่อ 15 ปีก่อน ก็จัดเป็นรถอเนกประสงค์ ที่ได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้า และครองอันดับ 1 ในตลาดรถอเนกประสงค์ ประเภท PPV มาอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นที่มาของการสื่อสารทางการตลาด ภายใต้สโลแกน “Wisdom of a Leader” หรือ “สัญลักษณ์แห่งความสำเร็จ”

โดยรุ่นมาตรฐานนี้ได้ปรับปรุงเครื่องยนต์ 2.4 GD Super Power ให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้นกว่าเดิม และตอบสนองทุกการขับขี่ด้วยระบบบังคับเลี้ยวแบบ VFC (Variable Flow Control) ทำให้น้ำหนักพวงมาลัยแปรผันตามความเร็ว ควบคุมรถได้แม่นยำและมั่นใจมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับระบบ Cruise Control และสัญญาณกะระยะ 6 ตำแหน่ง พร้อมกับระบบ Apple Carplay ที่จะเชื่อมต่อคุณและความบันเทิงได้อย่างอิสระ

ส่วนรุ่น Legender มาพร้อมกับดีไซน์หรูหรา โฉบเฉี่ยว ด้วยกระจังหน้าและกันชนหลังดีไซน์ใหม่ และเครื่องยนต์ 2.8 GD Super Power ใหม่ เพิ่มสมรรถนะการขับขี่แรงขึ้นกว่าเดิม 15% ด้วยกำลังสูงสุด 204 แรงม้า และฟังก์ชัน Sport Mode

เพิ่มกล้องมองรอบคัน แท่นชาร์จไฟแบบไร้สาย และ ระบบประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า พร้อม Kick Sensor และยังเป็นครั้งแรกในรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ที่ติดตั้งระบบ Toyota Safety Sense อีกด้วย

มีให้เลือกถึง 6 สี ได้แก่ สีขาวมุก White Pearl CS, สีแดง Emotional Red, สีเงิน Silver Metallic, สีน้ำเงิน Dark Blue Mica, สีเทา Dark Grey Metallic และสีดำ Attitude Black Mica

New-Toyota-Fortuner-Legender-2020

อุปกรณ์มาตรฐานเด่นๆ :

  • ไฟหน้าแบบเลนส์ LED Dual Projector พร้อมไฟเลี้ยวหน้า-หลัง LED แบบ Sequential
  • ระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ พร้อมระบบ Follow-me-home
  • ไฟท้าย LED แบบ Light Guiding
  • กระจกมองข้าง ระบบ Welcome Light
  • ประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมระบบป้องกันการหนีบ
  • พวงมาลัยปรับได้ทั้ง สูง-ต่ำ และเข้า-ออก (Tilt & Telescopic)
  • เบาะหุ้มหนังแบบ Soft Touch เดินด้ายสีแดง หรือเทา พร้อมลายไม้แบบ Galaxy Black และแถบสีเงิน
  • สวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียง โทรศัพท์ และ MID ที่พวงมาลัย
  • อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger)
  • หัวเกียร์หุ้มหนัง พร้อมแถบสีเงิน ส่วนฐานเกียร์ลายไม้แบบ Galaxy Black พร้อมแถบสีเงิน
  • มาตรวัดเรืองแสง Optitron
  • ฟังก์ชั่นแสดงสถานะการเลี้บวของล้อหน้า (Tire Turning Angle)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control
  • เครื่องเสียงจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับ Bluetooth/USB
  • ชุดเครื่องเสียง Premium Audio พาวเวอร์แอมป์ และลำโพง JBL
  • กล้องมองรอบคัน (PVM) พร้อมมุมมองแบบ 3D View
  • ระบบป้องกันล้อล็อก ABS, ระบบกระจายแรงเบรก EBD และระบบเสริมแรงเบรก BA
  • ระบบควบคุมการทรงตัว VSC
  • ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC
  • ระบบควบคุมการส่ายของส่วนพ่วงท้าย TSC
  • ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC
  • ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน DAC
  • ระบบควบคุมเฟืองท้าย (Auto Limited Slip Differential)
  • ระบบบังคับเลี้ยวแบบ VFC (Variable Flow Control) ควบคุมพวงมาลัยแปรผันตามระดับความเร็ว
  • ระบบถุงลมเสริมความปลอดภัย SRS ด้านผู้ขับ ผู้โดยสาร และหัวเข่าผู้ขับ
  • ระบบถุงลมเสริมความปลอดภัย SRS ด้านข้าง และม่านนิรภัย
  • ระบบความปลอดภัยก่อนการชน PCS
  • ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน พร้อมเบรกหน่วงกลับอัตโนมัติ LDA
  • ระบบ Stop and Start พร้อม Evaporator เก็บความเย็น สำหรับระบบปรับอากาศ

เครื่องยนต์ : ดีเซลขนาด 2.4 ลิตร รหัส 2KD-FTV (High) แบบ 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว VN Turbo และ Intercooler ให้แรงม้าสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600 – 2,000 รอบ/นาที

และดีเซลขนาด 2.8 ลิตร รหัส 1KD-FTV (High) แบบ 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว VN Turbo และ Intercooler ให้แรงม้าสูงสุด 204 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600 – 2,800 รอบ/นาที

สามารถใช้กับน้ำมันดีเซล B20 ได้ ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีด พร้อม Sequential Shift และ Paddle Shift รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.8 เมตร

มิติตัวรถ : ยาว 4,795 มม. กว้าง 1,855 มม. สูง 1,835 มม. ระยะฐานล้อ 2,750 มม. ระยะต่ำสุดจากพื้น 193 มม.

ราคาจำหน่าย : (Update ล่าสุด เดือนธันวาคม 2563)

  • 2.4 G 2WD ราคา 1,349,000 บาท
  • 2.4 V 2WD ราคา 1,454,000 บาท
  • 2.4 V 4WD ราคา 1,524,000 บาท
  • 2.4 Legender 2WD ราคา 1,557,000 บาท ราคาอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ 7,000 บาท ราคารวม 1,564,000 บาท
  • 2.4 Legender 4WD ราคา 1,627,000 บาท ราคาอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ 7,000 บาท ราคารวม 1,634,000 บาท
  • 2.8 Legender 2WD ราคา 1,762,000 บาท ราคาอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ 7,000 บาท ราคารวม 1,769,000 บาท
  • 2.8 Legender 4WD ราคา 1,832,000 บาท ราคาอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ 7,000 บาท ราคารวม 1,839,000 บาท

*สำหรับรุ่นธรรมดา สีพิเศษ White Pearl CS และ Emotional Red เพิ่ม 12,000 บาท

**สำหรับรุ่น Legender สีพิเศษ White Pearl CS และ Emotional Red เพิ่ม 20,000 บาท

Mitsubishi-Pajero-Sport-Elite-Edition

Mitsubishi Pajero Sport 2020

ข้อดี : Mitsubishi จัดเต็มด้วยออพชั่นที่มีมาให้กับ Pajero Sport กับจุดเด่นที่ช่วงล่าง ถ้าใช้งานในเมืองเป็นหลัก ก็เลือกรุ่น 2WD ช่วยประหยัดค่าบำรุงรักษาได้มาก น้ำหนักรถเบากว่า ประหยัดน้ำมันกว่า แต่ถ้าชอบวิถีชีวิตลุยๆ ชอบการเดินทาง ต้องขึ้นเขา ลงห้วย กางเต๊นท์ หรือฝ่าสายฝนบ่อยๆ ก็เลือกรุ่น 4WD ได้เลย ค่าใช้จ่ายใในการดูแลรักษา ก็ไม่ต่างจากรถคู่แข่งนัก

ข้อด้อย : การออกตัวอาจอืดหน่อย พวงมาลัยหนักนิดๆ ส่วนช่วงล่างจะโคลงหน่อย เพราะพื้นฐานมาจากกระบะ Triton แต่ก็ถือว่าเกาะถนนพอตัว ส่วนเรื่องเบาะนั่งแถวที่ 3 ค่อนข้างเล็ก ก็ถือเป็นเรื่องที่แทบจะเป็นกันทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ

รายละเอียดตัวรถ : ยังคงเป็นรถ PPV รุ่นขายดีของ Mitsubishi ภายใต้แนวคิด “ความสำเร็จที่เป็นคุณ” ซึ่งเวลานี้มีให้เลือกทั้งรุ่นธรรมดา และรุ่นพิเศษ Elite Edition … ดีไซน์ใหม่ โฉบเฉี่ยว สไตล์สปอร์ต โดดเด่นทุกมุมมอง พร้อมการออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์ด้วย Advanced Dynamic Shield Design สะกดทุกสายตาด้วยไฟหน้าโปรเจคเตอร์ แบบ Bi-LED ปรับระดับลำแสงอัตโนมัติ และไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ Spectrum LED

สะดวกสบายยิ่งขึ้น ด้วยระบบเปิด-ปิดประตูท้ายด้วยไฟฟ้า พร้อมระบบแฮนด์ฟรีและปุ่มปิดฝาท้ายพร้อมล็อกรถ (ทำงานคู่กับระบบกุญแจอัจฉริยะ KOS)

ห้องโดยสารกว้างขวางสะดวกสบาย ตกแต่งสีเงิน และเปียโนแบล็ค พร้อมด้วยฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน เชื่อมต่อความบันเทิงด้วย Apple CarPlay เพียงเชื่อมต่อ iPhone ในรถมิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต สามารถรับสายโทรเข้า-โทรออก และรับ-ส่งข้อความ พร้อมฟังเพลงได้อย่างง่ายดาย

มอบความสมบูรณ์แบบในการขับขี่ เพิ่มความมั่นใจในทุกสภาพถนน ด้วยเทคโนโลยีขับเคลื่อน 4 ล้อ เอกลักษณ์เฉพาะของมิตซูบิชิ ให้คุณสามารถเปลี่ยนโหมดจากระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ (2H) เป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (4H) แบบ Full-Time All Wheel Control เพื่อเพิ่มความปลอดภัยบนถนนลื่น และเมื่อต้องการขับขี่บนเส้นทางแบบ Off-Road คุณยังสามารถเปลี่ยนระบบขับเคลื่อนเป็น 4HLc หรือ 4LLc ได้ตามความต้องการ

มีให้เลือกถึง 5 สี ได้แก่ สีขาวมุก White Diamond, สีเงิน Sterling Silver, สีเทา Graphite Grey, สีดำ Jet Black Mica และสีน้ำตาล Deep Bronze

New-Mitsubishi-Pajero-Sport-2019

อุปกรณ์มาตรฐานเด่นๆ :

  • ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย
  • ระบบเบรกแบบ ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ EBD
  • ประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า พร้อมระบบแฮนด์ฟรี และปุ่มปิดฝาท้ายพร้อมล็อกรถ
  • ถุงลมนิรภัยคู่หน้า พร้อมสวิตช์เปิด-ปิด และไฟแสดงผล สำหรับด้านผู้โดยสาร
  • ถุงลมนิรภัยด้านข้าง, บริเวณหัวเข่าด้านคนขับ และม่านถุงลมนิรภัย
  • ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะ เมื่อเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงและรวดเร็ว
  • ระบบลดกำลังเครื่องยนต์ เพื่อช่วยเบรก
  • ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว
  • ระบบ Brake Auto Hold
  • ระบบเบรกมือควบคุมด้วยไฟฟ้าอัตโนมัติ
  • ระบบเสริมแรงเบรก BA
  • ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว พร้อมระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล
  • ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน
  • ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน
  • ระบบสัญญาณเตือนจุดอับสายตา
  • ระบบเตือนขณะเปลี่ยนเลน
  • ระบบเตือนด้านหลังขณะถอยออกจากช่องจอด
  • สวิตช์ควบคุมฟังก์ชันต่างๆ ที่พวงมาลัย
  • จอแสดงข้อมูลการขับขี่ พร้อมเมนูภาษาไทย แบบ LCD ขนาด 8 นิ้ว
  • กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ
  • ระบบล็อกความเร็วบนพวงมาลัยแบบแปรผันอัตโนมัติ
  • กล้องมองภาพรอบคัน พร้อมเส้นกะระยะ และเส้นแสดงทิศทางการเคลื่อนที่ของรถ
  • ระบบปรับอากาศ แบบปรับอุณหภูมิอัตโนมัติ แบบแยกปรับอุณหภูมิซ้าย-ขวา
  • ระบบกรองอากาศภายในห้องโดยสารนาโนอิ
  • หน้าจอระบบสัมผัส 8 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อผ่านสมาร์ทโฟน SDA พร้อมระบบนำทางในรถยนต์
  • รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto
  • ช่องต่ออุปกรณ์ HDMI
  • ระบบเชื่อมต่อบลูทูธ แบบ A2DP
  • ระบบ Hands-Free และ Voice Command
  • จอภาพแบบ Wide Screen ขนาด 12.1 นิ้ว พร้อมรีโมท เชื่อมต่อ HDMI และ USB สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
  • หูฟังอินฟราเรด 2 ชุด สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
  • รองรับการเชื่อมต่อระบบ M-Connect
  • ระบบสั่งการทำงานผ่านสมาร์ทโฟนในระยะสัญญาณบลูทูธ
  • ระบบไฟสว่างอัตโนมัติเมื่อปลดล็อก ทำงานร่วมกับระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ และระบบไฟนำทางหลังดับเครื่องยนต์

เครื่องยนต์ : ดีเซลขนาด 2.4 ลิตร รหัส 4N15 แบบ 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว MIVEC VG Turbo Intercooler ให้แรงม้าสูงสุด 181 แรงม้า ที่ 3,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 430 นิวตัน-เมตร ที่ 2,500 รอบ/นาที

สามารถใช้กับน้ำมันดีเซล B20 ได้ ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ 8 สปีด พร้อม Sport Mode และระบบ INC (Idle Neutral Control) และ G-Sensor รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.6 เมตร น้ำหนักรถ 1,940 – 2,075 กิโลกรัม

มิติตัวรถ : ยาว 4,885 มม. กว้าง 1,865 มม. สูง 1,835 มม. ระยะฐานล้อ 2,800 มม. ระยะต่ำสุดจากพื้น 218 มม.

ราคาจำหน่าย : (Update ล่าสุด เดือนธันวาคม 2563)

  • 2.4D GT 2WD ราคา 1,299,000 บาท
  • 2.4D GT Plus 2WD ราคา 1,349,000 บาท
  • 2.4D GT-Premium 2WD ราคา 1,469,000 บาท
  • 2.4D GT-Premium 4WD ราคา 1,599,000 บาท
  • 2.4D GT-Premium 2WD Elite Edition ราคา 1,524,000 บาท
  • 2.4D GT-Premium 4WD Elite Edition ราคา 1,629,000 บาท

*หมายเหตุ : สีขาวมุก White Diamond เพิ่ม 15,000 บาท, สีขาวมุก รุ่น Elite Edition เพิ่ม 20,000 บาท

Nissan-Terra-2019

Nissan Terra 2020

ข้อดี : ช่วงล่างนิ่ม ไม่ย้วย ขับสนุก ห้องโดยสารเก็บเสียงได้ดี แถมจุดเด่นอย่างกล้องติดรถรอบคัน 360 องศา ส่วนเครื่องยนต์มีจุดเด่น อย่างระบบน้ำมัน ปั๊มหัวฉีด หัวฉีด ราง ทั้งระบบทำโดย Continental และค่าบำรุงรักษาที่ไม่แพง

ข้อด้อย : การออกตัวอาจจะหน่วงไปบ้าง และเวลาถอยหลัง ช่องมองภาพจะอยู่บริเวณกระจกมองหลังแทน ซึ่งหลายคนอาจไม่ถนัด และอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่มากหน่อย

รายละเอียดตัวรถ : รูปโฉมภายนอกของ Nissan Terra มาพร้อมไฟหน้าและไฟท้ายแบบบูมเมอร์แรง กระจังหน้าแบบ V-Motion ส่วนชุดประตูหน้านั้นเหมือน Navara และด้านท้ายถูกออกแบบใหม่หมด ไฟท้ายเป็นแบบ LED มาพร้อมล้อแม็กขนาด 18 นิ้ว พร้อมยางขนาด 255/60 R18

ห้องโดยสารภายในยกชุดมาจาก Navara แต่ตกแต่งให้หรูหราขึ้น ด้วยโทนสีดำตัดด้วยสีเงิน แบบ Gliding Wing 7 ที่นั่ง กว้างขวาง และเงียบ มีเครื่องเสียงระบบหน้าจอสัมผัส, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 2 โซน, กุญแจ Keyless Entry พร้อมปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง เบาะนั่งแถว 2 มีระบบพับอัตโนมัติแบบแบนราบ ระบบแอร์เพดานแยกส่วนกระจายทั่วห้องโดยสาร พร้อมระบบความบันเทิงด้วยจอมอนิเตอร์ ขนาด 11 นิ้ว สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง เป็นต้น

ระบบพวงมาลัย แร็คแอนด์พิเนียน ควบคุมด้วยไฟฟ้า (EPS) สามารถปรับโหมดพวงมาลัยได้ถึง 3 โหมด คือ โหมด City สำหรับการขับขี่ในเมือง, โหมด Standard สำหรับการขับขี่ทั่วไป และโหมด Sport สำหรับการขับขี่สไตล์สปอร์ต พร้อมเทคโนโลยีขับเคลื่อนอัจฉริยะของนิสสัน Nissan Intelligent Mobility

มีให้เลือก 5 สี ได้แก่ สีน้ำตาล Earth Brown, สีดำ Black Star, สีขาว White Pearl, สีเงิน Brilliant Silver และ สีเทา Twilight Gray

อุปกรณ์มาตรฐานเด่นๆ :

  • ไฟหน้า LED โปรเจคเตอร์ , ไฟหรี่แบบ LED เปิด-ปิดอัตโนมัติ
  • ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน (Daytime Running Light)
  • ไฟตัดหมอกหน้า พร้อมตกแต่งด้วยโครเมียม
  • บันไดข้าง
  • ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารแถว 2 และแถว 3 แบบอัตโนมัติ แยกซ้าย-ขวา และระบบควบคุมความเร็วพัดลมเบาะตอนหลัง
  • เครื่องเสียง พร้อมวิทยุ FM/AM Apple CarPlay / Android Auto พร้อม จอ Touch Screen 8 นิ้ว
  • ระบบนำทาง
  • จอภาพสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
  • พวงมาลัยพาวเวอร์ปรับระดับได้ ชนิดหุ้มหนัง 3 ก้าน พร้อมตกแต่งสีเงิน ปุ่มควบคุมเครื่องเสียง การสั่งงานด้วยเสียง
  • มาตรวัดแสดงข้อมูลการขับขี่ TFT 5 นิ้ว และ Off Road Meter
  • รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth
  • เบาะนั่งแถวที่ 1 ฝั่งผู้ขับขี่ปรับไฟฟ้าได้ 8 ทิศทาง พร้อมที่ดันหลังปรับไฟฟ้า ฝั่งผู้โดยสารปรับได้ 4 ทิศทาง พร้อมหมอนรองศีรษะ
  • เบาะนั่งแถวที่ 2 ชนิด แบบแยก 60:40 ปรับระดับได้ เลื่อนตำแหน่งหน้า-หลัง, ปรับเอนและพับได้จากตำแหน่งคนขับ พร้อมหมอนรองศีรษะสำหรับ 2 ที่นั่ง
  • เบาะนั่งแถวที่ 3 ชนิดแบบแยก 50:50 ปรับระดับได้ ปรับแบนราบกับพื้นห้องโดยสารได้ พร้อมหมอนรองศีรษะสำหรับ 2 ที่นั่ง
  • กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงสะท้อนพร้อมกล้องส่องภาพจากภายนอก (Smart rear view mirror)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control
  • ระบบ Push Start
  • ระบบเบรก ABS พร้อม EBD และ BA
  • ถุงลม 6 จุด คู่หน้า / ด้านข้าง / และม่านถุงลม
  • ระบบลิมิเต็ดสลิป B-LSD
  • ระบบควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ Vehicle Dynamic Control (VDC)
  • ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน Hill Descent Control (HDC)
  • ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน Hill Start Assist (HSA)
  • ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกทาง Lane Departure Warning (LDW)
  • ระบบเตือนจุดอับสายตา Blind Spot Warning (BSW)
  • กระจกบังลมหน้าแบบป้องกันเสียงรบกวน (Acoustic Glass) แบบอัดซ้อนนิรภัย (Laminated Glass)
  • กุญแจรีโมทพร้อม Immobilizer และสัญญาณกันขโมย
  • กล้องมองหลัง
  • กล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง Intelligent Around View Monitor (iAVM)
  • ระบบตรวจจับและส่งเตือนวัตถุ และบุคคลที่เคลื่อนไหวจากกล้องรอบคัน Moving Object Detection (MOD)
  • สัญญาณเตือนระยะจอดด้านหลัง 4 จุด
  • ระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง

เครื่องยนต์ : ดีเซลขนาด 2.3 ลิตร รหัส YS23DDTT แบบ 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว Twin Turbo Intercooler ให้แรงม้าสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 440 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500 รอบ/นาที

ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT 7 สปีด ทุกรุ่น ให้รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.7 เมตร

มิติตัวรถ : ยาว 4,885 มม. กว้าง 1,865 มม. สูง 1,835 มม. ระยะฐานล้อ 2,850 มม. ระยะต่ำสุดจากพื้น 225 มม.

ราคาจำหน่าย : (Update ล่าสุด เดือนธันวาคม 2563)

  • 2.3 V 2WD ราคา 1,299,000 บาท
  • 2.3 VL 2WD ราคา 1,349,000 บาท
  • 2.3 VL 4WD ราคา 1,459,000 บาท

*หมายเหตุ : สีขาวมุก เพิ่มเงิน 12,000 บาท

Ford-Everest-2021

Ford Everest 2020

ข้อดี : โฉมนี้มาพร้อมเครื่องยนต์ใหม่ ที่มีขนาดเล็กลง แต่ให้กำลังมากขึ้น พร้อมชุดเกียร์ใหม่ พร้อมแก้ปัญหาต่างๆ ของตัวรถที่เคยได้รับเสียงตำหนิมาจากผู้บริโภคก่อนหน้า เช่น ปัญหาคราบน้ำมันเครื่องบริเวณฝาครอบหน้าเครื่องยนต์ เป็นต้น ทาง Ford ได้ปรับปรุงซีลหน้าเครื่องให้มิดชิด เฟืองปั้มเกียร์ที่แข็งแรงขึ้น ผนังลูกสูบที่เรียบลื่นขึ้น และ Torque Converter ที่แน่นหนากว่าเดิม

ข้อด้อย : เบาะนั่งในแถวที่สาม นั่งค่อนข้างยากสำหรับผู้ใหญ่ แต่ในโฉมนี้ก็ได้ชดเชยด้วยระบบปรับพับด้วยไฟฟ้ามาให้ กับปัญหาของตัวรถ ที่ต้องลุ้นกันต่อว่าจะมีหรือไม่

รายละเอียดตัวรถ : สำหรับ Ford Everest แม้ว่าจะขายกันมานานหลายปีได้ ในโฉมปี 2020 – 2021 ได้ตกแต่งชุดกระจังหน้าใหม่, ตัวอักษร Everest บนฝากระโปรงหน้าแบบนูนต่ำ, มือเปิดประตูโครเมียม, กระจกมองข้างโครเมียม, บันไดข้างสีดำ และชุดตกแต่งสีเงิน เป็นต้น

มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่สุดล้ำ และเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ของฟอร์ด การทำงานของเทอร์โบทั้งสองเครื่องที่อิสระจากกัน มาพร้อมเครื่องยนต์อันทรงพลังถึง 213 แรงม้า (PS) และแรงบิดสูงสุดถึง 500 นิวตันเมตร ช่วยเพิ่มความแรง และความเร็วได้ดั่งใจคุณต้องการ อีกทั้งยังประหยัดน้ำมัน

ผสานความสะดวกสบายระดับพรีเมี่ยม ให้ทุกรายละเอียดของห้องโดยสารภายใน ไม่ว่าจะเป็นเบาะนั่งหุ้มหนัง 7 ที่นั่งที่เดินเส้นปักแบบใหม่ หัวเกียร์ที่ออกแบบใหม่ เทคโนโลยีการตัดเสียงรบกวนอัจฉริยะ และหลังคา Panoramic Moonroof แบบปรับไฟฟ้า พร้อมระบบประตูไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรี ทำให้ชีวิตคุณง่ายขึ้น

แถมทุกรุ่นมาพร้อมข้อเสนอพิเศษ โปรแกรมรับประกันเครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง 10 ปี หรือ 150,000 กม. ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง ฟรีชุดอุปกรณ์ตกแต่งไฟฟ้า (Electric Pack) มูลค่า 11,350 บาท

มีให้เลือกถึง 7 สี ได้แก่ สีขาวมุก Snowflake White Pearl, สีขาว Artic White, สีแดง Sunset Metallic, สีเงิน Aluminum Metallic, สีฟ้า Reflex Blue, สีน้ำเงิน Deep Crystal Blue และสีดำ Absolute Black Metallic

อุปกรณ์มาตรฐานเด่นๆ :

  • กุญแจอัจฉริยะและปุ่มสตาร์ท
  • หน้าจอ Multi-Touch ขนาด 8 นิ้ว
  • ระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC 3 ภาษาไทยพร้อมการเชื่อมต่อ Bluetooth และ Wi-fi
  • ประตูท้ายเปิด-ปิด ด้วยไฟฟ้าแบบ Hands Free
  • หลังคา Panoramic Moonroof
  • ไฟวิ่งกลางวันแบบ LED
  • ชุดชายบันไดสแตนเลสแบบ LED
  • ปลั๊กไฟบ้าน AC 230 V
  • ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ
  • ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย-ขวาล
  • เบาะนั่งปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง พร้อมปรับดันหลัง 2 ทิศทาง ด้านคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า
  • เบาะแถวที่ 3 พับไฟฟ้า
  • ระบบช่วยโทรฉุกเฉิน
  • ระบบตรวจจับรถในจุดบอด
  • ระบบป้องกันล้อหมุน TC และระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP
  • ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางชัน
  • ระบบช่วยออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน HLA
  • จำนวนถุงลมนิรภัย ถุงลมนิรภัย 7 จุด คู่หน้า / ด้านข้าง / หัวเข่าฝั่งคนขับ / และม่านถุงลมนิรภัย

เครื่องยนต์ : ดีเซลขนาด 2.0 ลิตร แบบ 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว Turbo Intercooler ให้แรงม้าสูงสุด 180 แรงม้า ที่ 3,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 420 นิวตัน-เมตร ที่ 1,750 – 2,500 รอบ/นาที

และดีเซลขนาด 2.0 ลิตร แบบ 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว Bi-Turbo Intercooler ให้แรงม้าสูงสุด 213 แรงม้า ที่ 3,750 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตัน-เมตร ที่ 1,750 – 2,000 รอบ/นาที

สามารถใช้กับน้ำมันดีเซล B20 ได้ ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ 10 สปีด พร้อม Selection Shift

มิติตัวรถ : ยาว 4,903 มม. กว้าง 1,869 มม. สูง 1,837 มม. ระยะฐานล้อ 2,850 มม. ระยะต่ำสุดจากพื้น 225 มม.

ราคาจำหน่าย : (Update ล่าสุด เดือนธันวาคม 2563)

  • Trend 2.0L Turbo 2WD ราคา 1,299,000 บาท
  • Titanium 2.0L Turbo 2WD ราคา 1,399,000 บาท
  • Titanium (Sport) 2.0L Turbo 2WD ราคา 1,429,000 บาท
  • Titanium+ 2.0L Turbo 2WD ราคา 1,599,000 บาท
  • Titanium+ 2.0L Bi-Turbo 4WD ราคา 1,799,000 บาท

อย่างไรก็ตาม ขอให้บทความนี้เป็นเครื่องมือช่วยให้ทุกท่าน เลือกรถคู่ใจได้ตามความต้องการ และตามงบที่มี เพราะการเลือกซื้อรถแต่ละคัน แต่ละคนย่อมมีรสนิยม ความชอบ ความพึงพอใจ ในหลายองค์ประกอบไม่เหมือนกัน

รวมไปถึงความเชื่อมั่นในแบรนด์ด้วย ที่ต่างคนก็ต่างมีประสบการณ์ในการเจอที่ปรึกษาการขาย เจอดีลเลอร์ เจอการซ่อม การเคลม หรือราคาอะไหล่ที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้น การที่คุณเลือกรถใช้แบรนด์ต่างจากคนอื่น ไม่ใช่เรื่องผิดแต่ประการใดจ้า

Hybrid-And-Plug-In-Hybrid-In-Motor-Expo-2020

ถ้าจะให้พูดถึงรถยนต์ในรูปแบบ Hybrid และ Plug-In Hybrid นั้น ตอนนี้ถือว่าได้รับความนิยมอย่างมาก และเป็นเทรนด์ของโลกกันไปซะแล้ว แม้ว่ากระแสอาจจะมีสูสีกับรถยนต์ไฟฟ้าอยู่ก็ตาม แต่เนื่องจากความสะดวกของรถแบบ Hybrid และ Plug-In Hybrid คือการใช้งานที่สะดวกสบาย ไม่ต้องหาที่ชาร์จไฟเมื่อแบตเตอรี่หมด และช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้มาก อีกทั้งยังสามารถใช้งานในโหมด EV วิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้าเพียวๆ ได้เช่นกัน

ซึ่งตลาดรถแบบ Hybrid และ Plug-In Hybrid ก็มีให้เลือกหลากหลายประเภท อาทิ รถเก๋ง, รถ SUV, หรือรถ MPV เป็นต้น

ในงาน Motor Expo 2020 (มอเตอร์เอ็กซ์โป 2020) นี้ บรรดาผู้ผลิตรถยนต์ที่มีไลน์การผลิตรถแนว Hybrid และ Plug-In Hybrid มาโชว์และเปิดตัวกันค่อนข้างหลากหลาย พร้อมแคมเปญส่งเสริมการขายเต็มพิกัด ให้คุณได้ตัดสินใจเลือกซื้อกัน

CARRO ขอคัดสรรรถ Hybrid และ Plug-In Hybrid รุ่นเด่นๆ ที่ผู้บริโภคสนใจกันมากภายในงาน ในราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท มาให้ชม 10 รุ่นครับ …

Toyota-Corolla-Cross-Motor-Expo-2020

1. Toyota Corolla Cross Hybrid

อีกหนึ่งรถยอดนิยมของคนมาดูงาน Motor Expo 2020 ต้องยกให้ Toyota Corolla Cross (โตโยต้า โคโรลล่า ครอส) นับได้ว่าเป็นรถ SUV Crossover ที่พัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด “ความกะทัดรัดที่มาพร้อมกับความสะดวกสบาย” (Compact yet Comfortable) และ “ความล้ำสมัยที่สะท้อนตัวตนของความภูมิฐานสำหรับชีวิตในเมือง” (Dignity Urban Vogue)

ตัวรถภายนอกมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โฉบเฉี่ยว ปราดเปรียว หรูหราแข็งแกร่ง มาพร้อมหลังคามูนรูฟแบบไฟฟ้า ราวหลังคา ไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว

ส่วนห้องโดยสารภายในใช้โทนสีแดงใหม่ Terra Rossa มีจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ MID (Multi Information Display) ขนาด 7 นิ้ว เบาะคนขับปรับไฟฟ้า ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ Dual Zone พนักพิงด้านหลังปรับเอนได้ 6 องศา พนักวางแขนด้านหลังพร้อมที่วางแก้วน้ำ ช่องระบายอากาศและช่องต่อ USB สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง พร้อมประตูท้ายเปิด-ปิดอัตโนมัติ ด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมเซนเซอร์เปิด-ปิดประตูท้ายแบบ Kick Activated และระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลกของรถโตโยต้า (Toyota Safety Sense)

นอกจากรุ่นเครื่องยนต์เบนซินธรรมดาแล้ว ยังมีในส่วนของเครื่องยนต์ Hybrid ที่มาพร้อมชุดระบบไฮบริดเจเนอเรชั่น 4 พัฒนาแบตเตอรี่ใหม่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.8 ลิตร รหัส 2ZR-FXE 98 แรงม้า พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าซิงโครนัส แม่เหล็กถาวร 53 กิโลวัตต์ และแบตเตอรี่แพคชนิด Ni-MH (นิคเกิล-เมทัล ไฮไดรด์) แบบใหม่ ให้กำลังรวมทั้งระบบ 122 แรงม้า

ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ E-CVT พร้อม Shift Lock และเลือกโหมดในการขับเลือกได้ระหว่าง EV, Sport และ Eco อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ย 23.3 กม./ลิตร

ราคาของ Toyota Corolla Cross Hybrid

  • รุ่น Hybrid Smart ราคา 1,019,000 บาท**
  • รุ่น Hybrid Premium ราคา 1,089,000 บาท**
  • รุ่น Hybrid Premium Safety ราคา 1,199,000 บาท**

*สำหรับสีพิเศษ Platinum White Pearl เพิ่ม 10,000 บาท
**ราคาดังกล่าวเป็นราคารถยนต์พร้อมอุปกรณ์มาตรฐานที่ผลิตจากโรงงาน รวมเครื่องปรับอากาศและภาษีมูลค่าเพิ่ม

Honda-City-eHEV-2021

2. Honda City e:HEV

Honda City e:HEV (ฮอนด้า ซิตี้ อีเอชอีวี) ยนตรกรรม Full Hybrid รุ่นแรกของเซกเมนต์ City Car ในประเทศไทย ที่มาพร้อมเทคโนโลยีการขับเคลื่อน Sport Hybrid Intelligent Multi-Mode Drive i-MMD ผสานการทำงานอันทรงพลังของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว กับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Atkinson Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว 98 แรงม้า

ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ อัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน เป็นระบบ Full Hybrid 109 แรงม้า ที่ตอบสนองได้ทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 253 นิวตัน-เมตร ที่ 0 – 3,000 รอบ/นาที ให้อัตราการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมถึง 27.8 กม./ลิตร และรองรับน้ำมัน E20

พร้อมเพิ่มความมั่นใจในทุกการขับขี่กับเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ “ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง” (Honda SENSING) ดีไซน์สปอร์ตโดดเด่น ด้วยชุดแต่งสไตล์ RS เสริมเอกลักษณ์เฉพาะของความเป็นไฮบริดด้วยโลโก้ฮอนด้าสีฟ้า (H Mark) และโลโก้ e:HEV

ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง สะดวกสบายในทุกมิติ ครบครันด้วยเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยและฟังก์ชันการใช้งานระดับพรีเมียม เช่น มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay พร้อม Google Maps พร้อมระบบสั่งการด้วยเสียง SIRI และระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท (Remote Engine Start) เป็นต้น

ราคาของ Honda City e:HEV

  • รุ่น RS ราคา 839,000 บาท

Nissan-Kicks-e-Power-Motor-Expo-2020

3. Nissan Kicks

Nissan Kicks e-POWER (นิสสัน คิกส์) รถ Crossover ไฮบริด ที่มีจุดเด่นอย่างการใช้ระบบเครื่องยนต์สันดาปภายใน ไปปั่นกระแสไฟฟ้าให้กับแบตเตอรี่แบบลิเทียมไอออน และจ่ายไฟไปยังมอเตอร์ไฟฟ้าให้ขับเคลื่อนรถยนต์อีกที ซึ่งเป็นหลักการที่คล้ายกับรถยนต์ไฟฟ้า (BEV : Battery Electric Vehicle) แต่ไม่ต้องชาร์จไฟจากภายนอก เพิ่มความสะดวกในการใช้งาน เหมาะกับการขับรถทางไกล

ในงาน Motor Expo 2020 นี้ เสริมความสดใหม่ด้วยสีภายนอก 2 สี ได้แก่ สีเหลือง ซันไลท์ (Sunlight Yellow) (จ่ายเพิ่ม 10,000 บาท) และสีน้ำเงิน ไนท์บลู (Night Blue) พร้อมเสริมความหรูหราของห้องโดยสารภายในด้วยชุดแต่ง สไตลิช (Stylish package) ด้วยไฟแอมเบียนท์ที่ข้างแผงประตูและพื้นห้องโดยสารตอนหน้า พร้อมไฟ ‘Welcome’ เมื่อเปิดประตูหน้า และอุปกรณ์ตกแต่งวัสดุสีเงินบริเวณแผงอุปกรณ์ต่าง ๆ เสริมความพรีเมียมในห้องโดยสาร

พร้อมเชื่อมต่อกับโลกออนไลน์ได้ตลอดเวลา ด้วยเทคโนโลยีเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนเข้ากับหน้าจอเครื่องเสียง ผ่าน Apple CarPlay พร้อมระบบนำทาง Navigation System ผ่าน Google Map กับระบบสั่งงานด้วยเสียง Voice Recognition ที่ใช้งานง่าย แถมพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายมากถึง 432 ลิตร และยังมีความลึกของห้องเก็บสัมภาระที่มากถึง 900 มม. โดยที่ยังไม่พับเบาะหลัง

โดยมีให้เลือกในรุ่นย่อย V และ VL โดยยังคงราคาจำหน่ายในราคาเดิม พร้อมเสริมความอุ่นใจของลูกค้าขึ้นไปอีกขั้น ด้วยการขยายเงื่อนไขการรับประกันแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนเป็น 10 ปี โดยไม่จำกัดระยะทาง

และขุมพลังหลักคือเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.2 ลิตร ขนาด 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว 79 แรงม้า ทำหน้าที่ปั่นกระแสไฟฟ้าไปยังแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 1.57 กิโลวัตต์-ชั่วโมง (kWh)

จากนั้นจึงป้อนพลังไปขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ AC Synchronous Motor รหัส EM57 เป็นลูกเดียวกับที่อยู่ใน Nissan Leaf ให้กำลังสูงสุด 129 แรงม้า (95 กิโลวัตต์) หากรวมพลังทั้งหมด ทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า จะให้แรงม้าสูงถึง 129 แรงม้า

ราคาของ Nissan Kicks e-POWER

  • รุ่น V ราคา 999,000 บาท (ราคาช่วงเปิดตัว – 31 ธ.ค. 2563)
  • รุ่น VL ราคา 1,049,000 บาท (ราคาช่วงเปิดตัว – 31 ธ.ค. 2563)
  • รุ่น VL (ภายในสีทูโทน) ราคา 1,059,000 บาท (ราคาช่วงเปิดตัว – 31 ธ.ค. 2563)

Mitsubishi-Outlander-PHEV

4. Mitsubishi Outlander PHEV

Mitsubishi Outlander PHEV (มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี) เปิดตัวครั้งแรกในไทย เป็นรถ SUV ระดับพรีเมียมที่ประกอบในประเทศ ผสาน DNA และเทคโนโลยีรถยนต์ระดับตำนานของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส เข้าไว้ด้วยกัน เริ่มด้วย “Pajero” สุดยอดตำนานแห่งรถเอสยูวี “Mitsubishi Lancer Evolution” เจ้าแห่งสนาม “เวิลด์แรลลี่แชมเปี้ยนชิพ” (WRC) ที่มีเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ซูเปอร์-ออลวิลล์คอนโทรล (S-AWC) ที่เป็นหนึ่งในตำนานแห่งสมรรถนะ รวมทั้งยานยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ผลิตขึ้นเพื่อจำหน่ายจริงรุ่นแรกของโลกอย่าง “i-MiEV” (ไอ-มีฟ)

ดีไซน์ภายนอกที่โดดเด่น โฉบเฉี่ยว และหรูหราเหนือระดับ ดีไซน์ภายในประณีตทุกรายละเอียด ห้องโดยสารกว้างขวาง ทรงพลังด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ และเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.4 ลิตร แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ให้แรงม้าสูงสุด 305 แรงม้า

ส่งกำลังผ่านโหมดการขับขี่ 3 รูปแบบ ได้แก่ โหมดอีวี (ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ) โหมด ไฮบริด (ขับเคลื่อนหลักด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า โดยมีเครื่องยนต์ทำหน้าที่ผลิตกระแสไฟฟ้าให้แก่มอเตอร์ไฟฟ้าคู่) และโหมดพาราเรล ไฮบริด (เครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าทำหน้าที่ขับเคลื่อนตัวรถไปพร้อมกัน)

พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ซูเปอร์-ออลวิลล์คอนโทรล (S-AWC) ให้อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเพียง 52.6 กม./ลิตร หรือ 1.9 ลิตรต่อ 100 กม. ตามมาตรฐาน NEDC

ราคาของ Mitsubishi Outlander PHEV

  • รุ่น GT ราคา 1,640,000 บาท
  • รุ่น GT-Premium 2WD ราคา 1,759,000 บาท

Toyota-C-HR-Hybrid-Motor-Expo-2020

5. Toyota C-HR Hybrid

Toyota C-HR (โตโยต้า ซีเอชอาร์) ถือเป็นรถยนต์ SUV อีกรุ่นที่ยอดนิยมในบ้านเรามาก แม้ว่าจะเปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2561 จนทำยอดขายได้มากกว่า 3 หมื่นคันแล้ว พร้อมทำตลาดด้วย Slogan ใหม่ “This is New Belief… มากกว่าทุกอย่างที่เคยเชื่อ”

ตัวรถภายนอกด้วยดีไซน์ที่ได้แรงบันดาลใจจากรูปทรงของเพชร ทำให้รูปลักษณ์ของ C-HR มีความเป็นเอกลักษณ์ สปอร์ต เฉียบคม และดูโดดเด่น พร้อมเพิ่มทางเลือกด้วยสีขาวมุก หลังคาดำ ในขณะที่ห้องโดยสารทุกเกรดรุ่นย่อย จะมีการใช้หนังเป็นวัสดุหุ้มเบาะมาตรฐานทุกรุ่น

สำหรับขุมพลัง Hybrid ของ C-HR ใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.8 ลิตร รหัส 2ZR-FXE 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว ให้แรงม้าสูงสุด 98 แรงม้า ที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 142 นิวตันเมตร ทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้า แรงดันไฟฟ้าสูงสุด 600 โวลต์ ให้กำลัง 53 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 163 นิวตันเมตร ขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ E-CVT พร้อม Shift Lock

ราคาของ Toyota C-HR Hybrid

  • รุ่น HV Mid ราคา 1,069,000 บาท
  • รุ่น HV Hi ราคา 1,159,000 บาท

Lexus-IS300h

6. Lexus IS300h

Lexus IS (เลกซัส ไอเอส) รถสปอร์ตซีดานหรู ที่นำเสนอการขับขี่อันเป็นเอกลักษณ์ของเลกซัส หรือ Lexus Driving Signature ด้วยสมรรถนะที่ทรงพลัง เกาะถนนเป็นเยี่ยม ภายใต้การพัฒนาด้วยการใช้ถนนออกแบบรถ และทดสอบในสนามแข่ง Shimoyama ประเทศญี่ปุ่น ที่ถูกสร้างขึ้นด้วยแรงบันดาลใจจากสนาม Nurburgring ประเทศเยอรมนี

ดีไซน์ภายนอกออกแบบใหม่ทั้งหมด ด้วยเส้นสายที่เฉียบคม โฉบเฉี่ยว ดุดัน กว้างขวางและยาวขึ้น ติดตั้งไฟหน้า 3-LED ดีไซน์โฉบเฉี่ยว พร้อมล้อขนาด 18 นิ้ว และ 19 นิ้ว ช่วยการเกาะถนนเป็นเยี่ยม

ภายในห้องโดยสาร ติดตั้งเบาะนั่งหุ้มหนัง Smooth Leather พร้อมปรับไฟฟ้าคู่หน้า 8 ทิศทาง, ระบบปรับอากาศเบาะนั่งคู่หน้า, มาตรวัดแสดงผลรวม TFT ขนาด 8 นิ้ว มีหน้าจออินโฟเทนเมนท์ EMV ขนาด 10.3 นิ้ว (รุ่น Luxury ขนาด 8 นิ้ว) พร้อมปุ่มควบคุมกลางระบบสัมผัส Frameless Touch Pad พร้อมระบบเสียง Lexus Premium 10 ลำโพง

ใช้ขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน Hybrid ขนาด 2.5 ลิตร + มอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวม 223 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ E-CVT ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 8.5 วินาที ทำความเร็วได้สูงสุด 200 กม./ชม. รองรับเชื้อเพลิงแก๊สโซฮอล์ E20

ราคาของ Lexus IS300h

  • รุ่น Luxury ราคา 2,690,000 บาท
  • รุ่น Premium ราคา 3,370,000 บาท
  • รุ่น F-Sport ราคา 3,890,000 บาท

BMW-330-e-M-Sport-Motor-Expo-2020

7. BMW Series-3

BMW 330e M Sport (บีเอ็มดับเบิลยู 330อี เอ็ม สปอร์ต) มาพร้อมความโฉบเฉี่ยวกับชุดแต่ง M Sport รอบคัน และยังมีเทคโนโลยีเจ๋งๆ อีกมากมาย อาทิ ระบบ Parking Assistant Plus ที่มาพร้อมกับระบบช่วยถอยรถในทิศทางเดิมแบบอัตโนมัติ ช่วยให้ตัวรถสามารถจดจำทิศทางที่ขับตรงไปข้างหน้าในระยะ 50 เมตรสุดท้าย ด้วยความเร็วไม่เกิน 36 กม./ชม.ได้ และสามารถถอยออกในทิศทางเดิมโดยอัตโนมัติ ระบบ Parking Assistant Plus กับกล้องมองรอบทิศทาง Surround View Camera ที่มีมุมมองด้านบน มุมมองรอบทิศทาง และมุมมอง 3D และระบบ BMW ConnectedDrive ที่คนขับสามารถดูภาพของรถที่จอดผ่านมือถือได้อีก

มากับเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร พร้อมกับเทคโนโลยี TwinPower Turbo และมอเตอร์ไฟฟ้า ให้แรงม้าสูงสุด 292 แรงม้า และสามารถวิ่งด้วยระบบไฟฟ้าอย่างเดียว ทำระยะทางได้สูงสุดอยู่ที่ 55-68 กิโลเมตร

และสามารถเพิ่มกำลังให้ตัวรถเร่งความเร็วได้มากยิ่งขึ้นในโหมด SPORT เพียงเหยียบคันเร่งเพื่อกระตุ้นการทำงานของ XtraBoost ซึ่งสามารถปลดปล่อยพละกำลังเพิ่มขึ้นอีก 40 แรงม้า ภายในเวลาเพียง 10 วินาที ทำให้ BMW 330e M Sport ใหม่ มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใช้เวลาเพียง 5.9 วินาที และความเร็วสูงสุดที่ 230 กม./ชม.

ราคาของ BMW Series-3

  • รุ่น 330e M Sport ราคา 2,769,000 บาท

Mercedes-Benz-C-300-e-Motor-Expo-2020

8. Mercedes-Benz C-Class

Mercedes-Benz C-Class (เมอร์เซเดส-เบนซ์ ซี-คลาส) กับความเป็นรถในตระกูล EQ Power รุ่นประกอบในประเทศไทย ซึ่ง C 300 e Avantgarde และ C 300 e AMG Dynamic แม้ว่าจะเปิดตัวมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ส่วนรุ่นย่อย AMG Sport ก็เปิดตัวไปเมื่อกลางปีที่ผ่านมา แต่ก็ยังคงยอดนิยมในหมู่คนชอบรถค่ายดาวสามแฉกมาก

สำหรับ Mercedes-Benz C 300 e ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน Plug-In Hybrid ทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตร แบบ 4 สูบ แรงม้าสูงสุด 211 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร ที่ 1,200-1,400 รอบ/นาที และมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 122 แรงม้า โดยมีกำลังรวมสูงสุด 320 แรงม้า ที่ 4,500-5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 700 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 9G-TRONIC

สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 5.4 วินาที ทำความเร็วได้สูงสุด 250 กม./ชม.

ติดตั้งแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ความจุ 13.5 kWh เพิ่มจากเดิม 111% พร้อมเซลล์แบตเตอรี่ชนิดใหม่ ซึ่งมีส่วนผสมของลิเธียม-นิกเกิล-แมงกานีส-โคบอลต์ (Li NMC) สามารถชาร์จประจุไฟจนเต็มได้ในเวลา 1 ชั่วโมง 50 นาที (จากระดับแบตเตอรี่ 10% ด้วยเครื่องประจุไฟฟ้า Wall Box)

ราคาของ Mercedes-Benz C-Class

  • รุ่น C 300 e Avantgarde ราคา 2,599,000 บาท
  • รุ่น C 300 e AMG Sport ราคา 2,699,000 บาท
  • รุ่น C 300 e AMG Dynamic ราคา 2,990,000 บาท

MG-HS-PHEV-Motor-Expo-2020

9. MG HS PHEV

All-New MG HS PHEV (เอ็มจี เอชเอส พีเอชอีวี) รถยนต์ SUV รุ่นล่าสุดจากค่าย MG ที่คนถามถึงมากในงาน Motor Expo 2020 ชูแนวคิด “Refinement” พร้อมขับเคลื่อนทุกคุณค่าของชีวิต โดยสะท้อนถึงความเหนือระดับ ทั้งความหรูหรา ความสะดวกสบายความปลอดภัย และการแนะนำเทคโนโลยี Plug-in Hybrid ผสานพลังสุดยอดแห่งระบบขับเคลื่อน 2 ระบบ เข้าด้วยกัน ทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า

ขับเคลื่อนด้วยระบบ Plug-in Hybrid มีพละกำลังสูงสุด 284 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 480 นิวตันเมตร จากขุมพลังของเครื่องยนต์เบนซิน Turbo ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 162 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร และมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor ที่ให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 230 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ Lithium-Ion แบบ 6 โมดูล มีขนาดใหญ่ถึง 16.6 kWh

ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์แบบ EDU II – 10 Speeds ที่ใช้เวลาเปลี่ยนเกียร์เพียง 0.2 วินาที ตอบสนองได้อย่างทันใจ ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายในเวลา 7.5 วินาที สามารถขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% สูงสุดถึง 67 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง

ราคาของ MG HS PHEV

  • รุ่น PHEV ราคา 1,359,000 บาท

Volvo-XC40-Recharge

10. Volvo XC40 Recharge

Volvo XC40 Recharge (วอลโว่ เอ็กซ์ซี 40 รีชาร์จ) เปิดตัวในงาน Motor Expo เป็นครั้งแรก หลังจากที่ Volvo เริ่มเน้นรถยนต์ขุมพลัง Plug-In Hybrid ทำตลาดในบ้านเรามากขึ้น และเสริมทางเลือกให้กับกลุ่มตลาดรถ Crossover ขนาดเล็ก

ใช้ขุมพลังแบบเครื่องยนต์เบนซิน Turbo ขนาด 1.5 ลิตร 180 แรงม้า ผนวกกับมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 82 แรงม้า รวมกำลังสูงสุดทั้งระบบที่ 262 แรงม้า พร้อมแบตเตอรี่ความจุ 10.7 kWh

ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 7.3 วินาที ทำความเร็วได้สูงสุด 180 กม./ชม. และวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนได้ระยะทางมากถึง 44 กิโลเมตร ในราคารุ่นเริ่มต้นเลย 2 ล้านมานิดๆ

ราคาของ Volvo XC40 Recharge

  • รุ่น XC40 Recharge T5 R-Design Expression ราคา 2,090,000 บาท
  • รุ่น XC40 Recharge T5 R-Design ราคา 2,390,000 บาท
  • รุ่น XC40 Recharge T5 Inscription ราคา 2,390,000 บาท

ไหนๆ จะไปดู ไปซื้อรถใหม่ที่งาน Motor Expo 2020 กันแล้ว ถ้าคุณอยากขายรถคันเดิม หรือรับเป็นเงินก้อนไปใช้ สามารถขายรถคันเดิมกับ CARRO ได้ เราพร้อมรับซื้อรถของคุณ ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ CARRO Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน Fanpage CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothai หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

SUV-And-Crossover-In-Motor-Expo-2020

ถ้าจะให้พูดถึงรถยนต์ในรูปแบบ SUV, PPV และ Crossover นั้น ตอนนี้ถือว่าได้รับความนิยมย่างมาก และเป็นเทรนด์ของโลกกันไปซะแล้ว ด้วยยอดขายที่สูงมากในหลายแบรนด์ เนื่องจากสามารถใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะไว้วิ่งในเมือง ขับออกต่างจังหวัด ไปกับครอบครัวหลายคน ลุยน้ำท่วมเบาๆ หรือจะขนสัมภาระมากมายก็ตาม

ซึ่งก็ทำให้ค่ายรถอนุรักษ์นิยมหลายค่าย ต้องยอมแหกม่านประเพณี ผลิตรถยนต์แนวนี้ออกมาชิงส่วนแบ่งการตลาดบ้าง

ในงาน Motor Expo 2020 (มอเตอร์เอ็กซ์โป 2020) นี้ บรรดาผู้ผลิตรถยนต์ที่มีไลน์การผลิตรถแนว SUV, PPV และ Crossover ต้องรีบนำผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ของตนเปิดตัว พร้อมแคมเปญส่งเสริมการขายเต็มพิกัด เพื่อช่วงชิงยอดจองและยอดขายในยุคโควิด-19 ให้ได้มากที่สุด

ซึ่งแม้ว่าในงาน Motor Expo 2020 จะมีรถ SUV, PPV และ Crossover มาโชว์มากมายกว่านี้มาก แต่ทาง CARRO ขอคัดสรรรุ่นเด่นๆ ที่ผู้บริโภคสนใจกันมากภายในงาน ในราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท มาให้ชม 10 รุ่นครับ …

Toyota-Corolla-Cross-Motor-Expo-2020

1. Toyota Corolla Cross

อีกหนึ่งรถยอดนิยมของคนมาดูงาน Motor Expo 2020 ต้องยกให้ Toyota Corolla Cross (โตโยต้า โคโรลล่า ครอส) นับได้ว่าเป็นรถ SUV Crossover ที่พัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด “ความกะทัดรัดที่มาพร้อมกับความสะดวกสบาย” (Compact yet Comfortable) และ “ความล้ำสมัยที่สะท้อนตัวตนของความภูมิฐานสำหรับชีวิตในเมือง” (Dignity Urban Vogue)

ตัวรถภายนอกมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โฉบเฉี่ยว ปราดเปรียว หรูหราแข็งแกร่ง มาพร้อมหลังคามูนรูฟแบบไฟฟ้า ราวหลังคา ไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว

ส่วนห้องโดยสารภายในใช้โทนสีแดงใหม่ Terra Rossa มีจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ MID (Multi Information Display) ขนาด 7 นิ้ว เบาะคนขับปรับไฟฟ้า ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ Dual Zone พนักพิงด้านหลังปรับเอนได้ 6 องศา พนักวางแขนด้านหลังพร้อมที่วางแก้วน้ำ ช่องระบายอากาศและช่องต่อ USB สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง พร้อมประตูท้ายเปิด-ปิดอัตโนมัติ ด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมเซนเซอร์เปิด-ปิดประตูท้ายแบบ Kick Activated และระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลกของรถโตโยต้า (Toyota Safety Sense)

เครื่องยนต์ เริ่มต้นด้วยรุ่นเบนซินรหัส 2ZR-FBE ขนาด 1.8 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 140 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 177 นิวตัน-เมตร (18.05 กก.-ม.) ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด CVT-i พร้อม Sequential Shift และ Shift Lock ให้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ย 15.4 กม./ลิตร

ส่วนรุ่น Hybrid มากับชุดระบบไฮบริดเจเนอเรชั่น 4 ที่พัฒนาแบตเตอรี่ใหม่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.8 ลิตร รหัส 2ZR-FXE 98 แรงม้า พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าซิงโครนัส แม่เหล็กถาวร 53 กิโลวัตต์ และแบตเตอรี่แพคชนิด Ni-MH (นิคเกิล-เมทัล ไฮไดรด์) แบบใหม่ ให้กำลังรวมทั้งระบบ 122 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ E-CVT พร้อม Shift Lock และเลือกโหมดในการขับเลือกได้ระหว่าง EV, Sport และ Eco อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ย 23.3 กม./ลิตร

ราคาของ Toyota Corolla Cross

  • รุ่น 1.8 Sport ราคา 989,000 บาท**
  • รุ่น Hybrid Smart ราคา 1,019,000 บาท**
  • รุ่น Hybrid Premium ราคา 1,089,000 บาท**
  • รุ่น Hybrid Premium Safety ราคา 1,199,000 บาท**

*สำหรับสีพิเศษ Platinum White Pearl เพิ่ม 10,000 บาท
**ราคาดังกล่าวเป็นราคารถยนต์พร้อมอุปกรณ์มาตรฐานที่ผลิตจากโรงงาน รวมเครื่องปรับอากาศและภาษีมูลค่าเพิ่ม

Honda-CR-V-Motor-Expo-2020

2. Honda CR-V

Honda CR-V (ฮอนด้า ซีอาร์วี) รุ่นไมเนอร์เชนจ์ ด้วยดีไซน์ภายนอกยังสปอร์ตหรูหราและความแข็งแกร่งในทุกมิติ พรีเมียมขึ้นด้วยหลังคาซันรูฟไฟฟ้าแบบ Panorama และไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ LED Sequential

เสริมความมั่นใจในทุกการเดินทางด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) และนวัตกรรมเชื่อมต่อเพื่อการสื่อสารระหว่างผู้ขับขี่และรถยนต์ ฮอนด้า คอนเนค (Honda CONNECT) ครบครันด้วยเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกสบายล้ำสมัยระดับพรีเมียม

ภายในห้องโดยสารกว้างขวางสะดวกสบาย ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้งานทั้งแบบ 7 ที่นั่งและ 5 ที่นั่ง มาพร้อมขุมพลังการขับเคลื่อนทั้งเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร i-DTEC DIESEL TURBO 160 แรงม้า และเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.4 ลิตร DOHC i-VTEC 173 แรงม้า และมาพร้อมสีใหม่ สีน้ำเงินคอสมิก

ราคาของ Honda CR-V

  • เครื่องยนต์เบนซิน รุ่น 2.4 S 5 ที่นั่ง ราคา 1,369,000 บาท
  • เครื่องยนต์เบนซิน รุ่น 2.4 ES 4WD 5 ที่นั่ง ราคา 1,529,000 บาท
  • เครื่องยนต์เบนซิน รุ่น 2.4 E 7 ที่นั่ง ราคา 1,419,000 บาท
  • เครื่องยนต์เบนซิน รุ่น 2.4 EL 4WD 7 ที่นั่ง ราคา 1,579,000 บาท
  • เครื่องยนต์ดีเซล รุ่น DT-EL 4WD 7 ที่นั่ง ราคา 1,759,000 บาท

Mazda-CX-3-2021-Collection

3. Mazda CX-3 2021 Collection

Mazda CX-3 2021 Collection (มาสด้า ซีเอ็กซ์-3 2021 คอลเลกชั่น) ที่ยังคงออกแบบภายนอกและภายในด้วยแนวทาง โคโดะ ดีไซน์ ที่คงไว้ซึ่งความเรียบหรู ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Less is More” รวมถึงคุณภาพภายในห้องโดยสารระดับพรีเมียมตามแนวทางการพัฒนาของมาสด้า ซึ่งปรับอุปกรณ์มาตรฐานใหม่ด้วยกันทั้ง 4 รุ่นย่อย ราคาถูกลงกว่าเดิม

  • รุ่น Base ติดตั้งอุปกรณ์มาตรฐานและระบบความปลอดภัยพื้นฐานครบครัน อาทิ ระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะ กล้องมองหลังไฟ รองรับระบบ Apple CarPlay แบบไร้สาย และระบบ Android Auto ระบบกุญแจรีโมทอัจฉริยะ (Smart Keyless Entry) ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์อัจฉริยะ (Push Start Button)
  • รุ่น Base Plus ออฟชั่นที่เพิ่มเติมเข้ามา คือ ไฟหน้าโปรเจคเตอร์แบบ LED พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED Signature ระบบไฟหน้าปรับสูง-ต่ำอัตโนมัติ และระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ที่ปัดน้ำฝนกระจกหน้าแบบอัตโนมัติ ระบบควบคุมความเร็วคงที่ (Cruise Control) ที่พักแขนพร้อมที่วางแก้วสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง มาพร้อมถุงลมนิรภัยด้านข้าง และม่านนิรภัยรวม 6 ตำแหน่ง ราคาจำหน่ายเพียง 809,000 บาท
  • รุ่น Comfort ราคาจำหน่าย 879,000 บาท เพิ่มหลังคาซันรูฟแบบไฟฟ้า ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED ระบบแสดงภาพ 360 องศา รอบทิศทางพร้อมระบบเซ็นเซอร์กะระยะด้านหน้าและด้านหลัง ระบบเตือนเมื่อรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง สัมผัสเบาะหนังสีดำ และคอนโซลหน้าหุ้มด้วยผ้า Grand Luxe Suede สีเทา
  • รุ่น Proactive ราคาจำหน่าย 959,000 บาท เป็นรุ่นท็อปที่มาพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานระดับพรีเมียม สปอร์ตเต็มขั้นด้วยล้ออัลลอย18 นิ้ว ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ และระบบความปลอดภัยเชิงป้องกัน i-Activsense ที่ใส่มาให้มากถึง 8 ระบบ

ทุกรุ่นย่อยมาพร้อมเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 2.0 ลิตร 156 แรงม้า ที่ให้กำลังเครื่องยนต์มากที่สุด และประหยัดน้ำมันมากที่สุดถึง 16.4 กม./ลิตร ให้สมรรถนะการขับขี่ที่เหนือกว่ารถยนต์ในระดับเดียวกัน

ราคาของ Mazda CX-3 2021 Collection

  • รุ่น 2.0 Base ราคา 769,000 บาท
  • รุ่น 2.0 Base Plus ราคา 809,000 บาท
  • รุ่น 2.0 Comfort ราคา 879,000 บาท
  • รุ่น 2.0 Proactive ราคา 959,000 บาท

Nissan-Kicks-e-Power-Motor-Expo-2020

4. Nissan Kicks

Nissan Kicks e-POWER (นิสสัน คิกส์) รถ Crossover ไฮบริด ที่มีจุดเด่นอย่างการใช้ระบบเครื่องยนต์สันดาปภายใน ไปปั่นกระแสไฟฟ้าให้กับแบตเตอรี่แบบลิเทียมไอออน และจ่ายไฟไปยังมอเตอร์ไฟฟ้าให้ขับเคลื่อนรถยนต์อีกที ซึ่งเป็นหลักการที่คล้ายกับรถยนต์ไฟฟ้า (BEV : Battery Electric Vehicle) แต่ไม่ต้องชาร์จไฟจากภายนอก เพิ่มความสะดวกในการใช้งาน เหมาะกับการขับรถทางไกล

ในงาน Motor Expo 2020 นี้ เสริมความสดใหม่ด้วยสีภายนอก 2 สี ได้แก่ สีเหลือง ซันไลท์ (Sunlight Yellow) (จ่ายเพิ่ม 10,000 บาท) และสีน้ำเงิน ไนท์บลู (Night Blue) พร้อมเสริมความหรูหราของห้องโดยสารภายในด้วยชุดแต่ง สไตลิช (Stylish package) ด้วยไฟแอมเบียนท์ที่ข้างแผงประตูและพื้นห้องโดยสารตอนหน้า พร้อมไฟ ‘Welcome’ เมื่อเปิดประตูหน้า และอุปกรณ์ตกแต่งวัสดุสีเงินบริเวณแผงอุปกรณ์ต่าง ๆ เสริมความพรีเมียมในห้องโดยสาร

พร้อมเชื่อมต่อกับโลกออนไลน์ได้ตลอดเวลา ด้วยเทคโนโลยีเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนเข้ากับหน้าจอเครื่องเสียง ผ่าน Apple CarPlay พร้อมระบบนำทาง Navigation System ผ่าน Google Map กับระบบสั่งงานด้วยเสียง Voice Recognition ที่ใช้งานง่าย แถมพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายมากถึง 432 ลิตร และยังมีความลึกของห้องเก็บสัมภาระที่มากถึง 900 มม. โดยที่ยังไม่พับเบาะหลัง

โดยมีให้เลือกในรุ่นย่อย V และ VL โดยยังคงราคาจำหน่ายในราคาเดิม พร้อมเสริมความอุ่นใจของลูกค้าขึ้นไปอีกขั้น ด้วยการขยายเงื่อนไขการรับประกันแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนเป็น 10 ปี โดยไม่จำกัดระยะทาง

และขุมพลังหลักคือเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.2 ลิตร ขนาด 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว 79 แรงม้า ทำหน้าที่ปั่นกระแสไฟฟ้าไปยังแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 1.57 กิโลวัตต์-ชั่วโมง (kWh)

จากนั้นจึงป้อนพลังไปขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ AC Synchronous Motor รหัส EM57 เป็นลูกเดียวกับที่อยู่ใน Nissan Leaf ให้กำลังสูงสุด 129 แรงม้า (95 กิโลวัตต์) หากรวมพลังทั้งหมด ทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า จะให้แรงม้าสูงถึง 129 แรงม้า

ราคาของ Nissan Kicks e-POWER

  • รุ่น V ราคา 999,000 บาท (ราคาช่วงเปิดตัว – 31 ธ.ค. 2563)
  • รุ่น VL ราคา 1,049,000 บาท (ราคาช่วงเปิดตัว – 31 ธ.ค. 2563)
  • รุ่น VL (ภายในสีทูโทน) ราคา 1,059,000 บาท (ราคาช่วงเปิดตัว – 31 ธ.ค. 2563)

Isuzu-MU-X-Motor-Expo-2020

5. Isuzu MU-X

“All-New Isuzu MU-X (ออลนิว อีซูซุมิว-เอ็กซ์)” ใหม่ เผยโฉมต่อสาธารณชนครั้งแรกในงาน Motor Expo 2020 ยนตรกรรมอเนกประสงค์รุ่นใหม่หมดระดับ Masterpiece ภายใต้นิยาม “เหนือทุกความเชื่อ…เหนือทุกความสำเร็จ (Originality Redefined)” พลิกโฉมใหม่ทั้งภายนอกจรดภายใน ด้วยดีไซน์ที่หรูหรา สะดวกสบาย ประณีตในทุกรายละเอียด

ตัวรถภายนอก หรู ล้ำสไตล์ สง่างาม โฉบเฉี่ยวเร้าอารมณ์ ภายใต้แนวคิด Emotional & Solid ผสานความหนักแน่นและพลิ้วไหวเข้าไว้ด้วยกันตลอดทั้งคัน ส่วนภายในกว้างขวาง โอ่อ่า ด้วยแนวคิดการออกแบบ Fine, Rich & Impressive Craftsmanship ด้วยวิธีการออกแบบ Integrated Cockpit คอนโซลหน้าเชื่อมต่อเป็นหนึ่งเดียวกับคอนโซลกลาง จัดวางเรียบหรู

มีให้เลือกครบครันด้วยสไตล์ที่หลากหลายรวม 4 รุ่น ได้แก่ Ultimate, Elegant, Luxury และ Active เครื่องยนต์ 3.0 Ddi Blue Power และ 1.9 Ddi Blue Power Gen 2 พร้อมทางเลือกทั้งเกียร์อัตโนมัติ และเกียร์ธรรมดาแบบ 6 สปีด มีให้เลือกทั้งระบบขับเคลื่อน 2 ล้อและ 4 ล้อ พร้อมระบบขับเคลื่อน Rough Terrain Mode ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ โดยทำงานได้ทั้ง 2H, 4H และ 4L

ราคาของ Isuzu MU-X

  • รุ่น 1.9 Ddi Active A/T ราคา 1,121,000 บาท (ราคาช่วงแนะนำ 1,109,000 บาท)
  • รุ่น 1.9 Ddi Luxury M/T ราคา 1,266,000 บาท (ราคาช่วงแนะนำ 1,254,000 บาท)
  • รุ่น 1.9 Ddi Luxury A/T ราคา 1,304,000 บาท
  • รุ่น 1.9 Ddi Elegant A/T ราคา 1,349,000 บาท
  • รุ่น 1.9 Ddi Ultimate A/T ราคา 1,434,000 บาท
  • รุ่น 3.0 Ddi Ultimate A/T ราคา 1,479,000 บาท
  • รุ่น 3.0 Ddi 4X4 Ultimate A/T ราคา 1,579,000 บาท

Mitsubishi-Pajero-Sport-Motor-Expo-2020

6. Mitsubishi Pajero Sport

Mitsubishi Pajero Sport (มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต) ยังคงเป็นรถ PPV รุ่นขายดีของ Mitsubishi แม้ว่าจะออกมาหลายปีแล้ว ซึ่งตัว Elite Edition เป็นรุ่นพิเศษที่โชว์ในงาน Motor Expo 2020 นี้

สีตัวรถ มีให้เลือกได้ระหว่างสีดำ Jet Black Mica หรือสีขาว White Diamond ตัดกับหลังคาดำ มาพร้อมกระจังหน้าสีดำ มีสัญลักษณ์ Elite Edition เฉพาะรุ่นที่ประตูบานท้าย ปลายท่อไอเสียสเตนเลส พร้อมชุดแต่งสีดำล้วน อาทิ ไฟหน้าโปรเจคเตอร์ ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ชุดแต่งใต้กันชนหน้า-หลัง ราวหลังคา สปอยเลอร์หลัง และเสาอากาศแบบครีบฉลาม

ภายในห้องโดยสารใช้เบาะสีน้ำตาล Quole Modure ที่สามารถสะท้อนความร้อนจากแสงแดด แผงประตูและคอนโซลกลางบุหนังสีน้ำตาล มีตราสัญลักษณ์ Pajero Sport เหนือกล่องเก็บของด้านหน้าฝั่งผู้โดยสาร ฝาครอบสเตนเลสพร้อมไฟ LED ชุดพรมปักตรา Pajero Sport และกล้องบันทึกภาพหน้ารถ DVR : Digital VDO Recorder เป็นต้น

ใช้เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.4 ลิตร MIVEC VG Turbo 181 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด

ราคาของ Mitsubishi Pajero Sport

  • รุ่น 2.4 GT 2WD ราคา 1,299,000 บาท
  • รุ่น 2.4 GT-Premium 2WD ราคา 1,469,000 บาท
  • รุ่น 2.4 GT-Premium 2WD ราคา 1,599,000 บาท
  • รุ่น 2.4 GT-Premium 2WD Elite Edition ราคา 1,524,000 บาท
  • รุ่น 2.4 GT-Premium 4WD Elite Edition ราคา 1,629,000 บาท

Toyota-Fortuner-Legender-Motor-Expo-2020

7. Toyota Fortuner

Toyota Fortuner (โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์) ที่มาพร้อมรุ่นพิเศษใหม่ “Legender” โดดเด่นด้วยกระจังหน้าใหม่ให้มีขนาดใหญ่ขึ้น พร้อมแถบกันชนล่างสีเงิน ไฟหน้า DayTime Running Light แบบ Light Guiding ดีไซน์ใหม่ และปรับชุดไฟท้ายดีไซน์ใหม่เป็นแบบ LED พร้อมกับ Light Guiding กับล้ออัลลอย 18 นิ้วดีไซน์ใหม่

ส่วนภายในใช้มาตรวัดใหม่ ปรับจอแสดงผลระบบ Infotainment ขนาด 8 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน Apple CarPlay ส่วนระบบเชื่อมต่อ T-Connect ในทุกรุ่น มีกล้องมองภาพรอบคันพร้อมมุมมองแบบ 3 มิติ พร้อมระบบ Activated Kick Door เปิดประตูหลังได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องใช้มือสัมผัสตัวรถ

และช่วงล่าง Super Flex Suspension ที่ปรับปรุงและพัฒนาใหม่ โดยเฉพาะในส่วนของการดูดซับแรงกระแทกของโช๊คอัพ และเปลี่ยนวัสดุของแหนบ พร้อมระบบบังคับเลี้ยวแบบ VFC (Variable Flow Control) ปรับน้ำหนักพวงมาลัยให้เหมาะสมในทุกช่วงความเร็ว

ด้านเครื่องยนต์ปรับปรุงใหม่ในรุ่นเครื่องยนต์ ขนาด 2.8 ลิตร GD Super Power (เจนเนอเรชั่น 2) แรงม้าสูงสุดขึเนมาเป็น 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร สำหรับรุ่น Off-Road เครื่องยนต์มีการปรับลดความเร็วรอบเดินเบา (จาก 850 รอบ/นาที เป็น 680 รอบ/นาที) พร้อมทั้งพัฒนาประสิทธิภาพการขับขี่ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (4WD) สามารถลุยเส้นทาง Off-Road ได้อย่างมั่นคง และยังเป็นครั้งแรกที่ติดตั้งระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense อีกด้วย

ราคาของ Toyota Fortuner

  • 2.4G เกียร์อัตโนมัติ ราคา 1,349,000 บาท
  • 2.4V เกียร์อัตโนมัติ ราคา 1,454,000 บาท
  • 2.4V เกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อน 4 ล้อ ราคา 1,524,000 บาท
  • 2.4 Legender เกียร์อัตโนมัติ 1,564,000 บาท
  • 2.4 Legender เกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อน 4 ล้อ 1,634,000 บาท
  • 2.8 Legender เกียร์อัตโนมัติ 1,769,000 บาท
  • 2.8 Legender เกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อน 4 ล้อ 1,839,000 บาท

(*** สำหรับสี Emotional Red และ สี White Pearl CS เพิ่ม 12,000 บาท)

(*** สำหรับสี Emotional Red Black Top และ สี White Pearl CS Black Top เพิ่ม 20,000 บาท)

MG-ZS-Motor-Expo-2020

8. MG ZS

MG ZS (เอ็มจี แซดเอส) รถ Crossover SUV เพื่อชีวิตที่ไร้ขีดจำกัด ที่ยังยอดฮิตมากในงาน Motor Expo 2020 มาพร้อมระบบอัจฉริยะ i-SMART รองรับการสั่งการด้วยเสียงภาษาไทย ครั้งแรกในโลก รูปลักษณ์โดดเด่นสไตล์ บริท ไดนามิค (Brit Dynamic) ที่ให้ความหรูหราทันสมัยและสปอร์ตยิ่งขึ้น ห้องโดยสารสะดวกสบาย กว้างขวาง พร้อมระบบความปลอดภัย Synchronized Protection System 9 ระบบ

New MG ZS ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซินรุ่นใหม่ รหัส 15S4C ขนาด 1.5 ลิตร แบบ 4 สูบ DOHC VTi-TECH ให้แรงม้าสูงสุด 114 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 150 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด พร้อม Manual Mode

และยังเป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของ MG ในไทยด้วย กับ New MG ZS ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% ขุมพลังจากแบตเตอรี่ลิเธี่ยม ไอออน (Lithium-ion) ความจุ 44.5 kWh วิ่งได้ไกลกว่า 337 กิโลเมตร รองรับการชาร์จไฟทั้งแบบ Normal Charge ใช้เวลาเพียง 6.5 ชั่วโมง และแบบ Quick Charge ที่ 80% ในเวลาเพียง 30 นาที

ราคาของ MG ZS

  • รุ่น 1.5 C ราคา 679,000 บาท
  • รุ่น 1.5 D ราคา 729,000 บาท
  • รุ่น 1.5 X Sunroof ราคา 789,000 บาท
  • รุ่น EV ราคา 1,190,000 บาท

MG-HS-Motor-Expo-2020

9. MG HS

MG HS (เอ็มจี เอชเอส) รถยนต์ SUV รุ่นล่าสุดจากค่าย MG ที่ยังยอดฮิตในงาน Motor Expo 2020 และมีรุ่น PHEV ให้เลือกด้วย มาพร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ครั้งใหม่ภายใต้แนวคิด “Elegance” นิยามของ SUV ที่เหนือระดับ ดีไซน์ล้ำสมัยทั้งภายนอกและภายใน พร้อมติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART และระบบความปลอดภัยที่ครบครันมากยิ่งขึ้น

มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ ขนาด 1.5 ลิตร ขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์ TST (Twin Clutch Sportronic Transmission) แบบ 7 สปีด ให้แรงม้าสูงสุด 162 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด  250 นิวตัน-เมตร ในรอบที่ต่ำเพียง 1,700 รอบ/นาที โดยสามารถทำความเร็ว 0-100 กม./ชม. ในเวลาไม่ถึง 10 วินาที พร้อมรองรับน้ำมัน E85

ราคาของ MG HS

  • รุ่น C ราคา 919,000 บาท
  • รุ่น D ราคา 1,019,000 บาท
  • รุ่น X ราคา 1,119,000 บาท
  • รุ่น PHEV ราคา 1,359,000 บาท

BMW-X1-2021

10. BMW X1 sDrive18i (Iconic)

รถ Crossover แบรนด์ฝั่งยุโรปยอดฮิตในงาน ราคาเริ่มต้นไม่เกิน 2 ล้านบาท ต้องยกให้ BMW X1 (บีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์1) ใหม่ รถยนต์ Sports Activity Vehicle รุ่นปรับโฉม เปิดตัวครั้งแรกในงาน Motor Expo 2020! เห็นเด่นชัดที่สุดที่ส่วนหน้าและท้ายของรถ กระจังหน้าทรงไตคู่ขนาดที่ใหญ่ขึ้น ประสานไฟหน้า LED ที่ส่องสว่างเฉียบคมยิ่งขึ้น ส่วนช่วงท้ายบังโคลนล้อหลัง ฝังมากับตัวรถในสีเดียวกับตัวถัง และกระจกมองข้างด้านคนขับที่ส่องสว่างเป็นสัญลักษณ์ “X1” แบบสองสีเมื่อปลดล็อค

ในรุ่นบีเอ็มดับเบิลยู X1 sDrive18i (Iconic) พกพาล้ออัลลอยน้ำหนักเบาขนาด 18 นิ้ว ลาย Y-Spoke รับกับกลิ่นอายความคลาสสิกทั้งภายนอกและภายใน ไม่ว่าจะเป็นราวหลังคาสีดำ พวงมาลัยหนังแบบสปอร์ต ภายในตกแต่งด้วยวัสดุสีดำเงา พร้อมแถบโครเมียม

โดย BMW X1 sDrive18i (Iconic) มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร ส่งพละกำลังสูงสุด 140 แรงม้า ที่ 4,600-6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 220 นิวตันเมตร ที่ 1,480-4,200 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับเกียร์ Steptronic อัตโนมัติ 7 จังหวะ คลัทช์คู่ ส่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กม./ชม. ภายในเวลา 9.7 วินาที สู่ความเร็วสูงสุด 205 กม./ชม.

  • BMW X1 sDrive18i (Iconic) ราคา 1,999,000 บาท (ราคารวม BSI Standard Package)

ไหนๆ จะไปดู ไปซื้อรถใหม่ที่งาน Motor Expo 2020 กันแล้ว ถ้าคุณอยากขายรถคันเดิม หรือรับเป็นเงินก้อนไปใช้ สามารถขายรถคันเดิมกับ CARRO ได้ เราพร้อมรับซื้อรถของคุณ ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ CARRO Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน Fanpage CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothai หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

The-10-Best-In-Motor-Expo-2020

งาน “Motor Expo 2020” หรือ “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 37” นอกจากจะมีการนำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่ๆ รถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ๆ รถมือสอง รวมไปถึงอุปกรณ์เกี่ยวเนื่อง อุปกรณ์ตกแต่ง โปรโมชั่น และพริตตี้สาวสวยที่หลายๆ คนชื่นชอบ ในยุค New Normal แล้ว …

ภายในงานยังถือได้ว่ามีเรื่องราว “ที่สุด” ที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ทั้งหลายที่นำมาโชว์ด้วย หลายคนอาจไม่ทราบ CARRO ขอรวบรวม 10 ที่สุด ที่เกี่ยวกับรถยนต์ในงาน “Motor Expo 2020” มาให้ทุกท่านได้รับทราบกันครับผม

ส่วนใครอยากขายรถด่วน เพื่อไปซื้อรถคันใหม่ หรือรับเงินก้อนไปใช้ เอารถมาขาย หรือตีราคารถ ที่ CARRO ได้เลย ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ CARRO Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothai หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

Suzuki-Celerio-Motor-Expo-2020

1. รถถูกที่สุด

รถที่ “ถูก” ที่สุดในงาน Motor Expo 2020 ยังคงเป็นSuzuki Celerio (ซูซูกิ เซเลริโอ)” รถ Eco-Car น้องเล็กในตระกูล Suzuki สำหรับตลาดเมืองไทย อัดแน่นคุณภาพ ชู 3 จุดเด่น เน้นห้องโดยสารกว้างขวาง หลังคาที่สูง สมรรถนะเกินตัว ความประหยัดเป็นเยี่ยม มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินขนาด 3 สูบ 1.0 ลิตร 68 แรงม้า ประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 22 กม./ลิตร ในราคาเริ่มต้นที่ 318,000 บาท!

Rolls-Royce-Phantom-Motor-Expo-2020

2. รถแพงที่สุด

รถที่ขึ้นชื่อว่า “แพง” ที่สุดในงาน Motor Expo 2020 ยังคงต้องยกให้เจ้าเดิม อย่าง Rolls-Royce Phantom (โรลส์-รอยซ์ แฟนทอม) ที่ยังคงครองแชมป์รถยนต์นั่งแพงสุดเป็นประจำ กับฉายา The King of Cars กับราคา 53,500,000 บาท!!!

การออกแบบตัวรถ คงความเหลี่ยมสันกับกระจังหน้าแนวตั้งไว้ ภายในยังคงเน้นความหรูหราในระดับประณีตศิลป์ เพิ่มการดีไซน์คอนโซลหน้าใหม่ ด้วยแนวคิด “The Gallery” นำเอาชิ้นงานศิลปะเข้ามาตกแต่งที่แผงคอนโซลฝั่งผู้โดยสาร เปรียบเสมือนเป็นห้องแสดงงานศิลปะที่สามารถเคลื่อนที่ได้

ขุมพลังและตัวตนของ New Phantom เครื่องยนต์ V12 Twin Turbo แบบใหม่ ที่ให้แรงม้าสูงสุด 563 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 900 นิวตันเมตร ที่ 1,700 รอบ/นาที พลังจะถูกส่งไปยังอย่างเงียบ และแสนสบาย ซึ่งทำให้การขับเคลื่อนดั่งพรมวิเศษดียิ่งขึ้นไปอีก ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 5.3 วินาที ทำความเร็วได้สูงสุด 250 กม./ชม.

MG-EP-Wagon-2021

3. รถยนต์ไฟฟ้า (รถ EV) ถูกที่สุด

รถ EV ที่ถูกที่สุดในงาน Motor Expo 2020 ต้องยกให้กับรถยนต์ไฟฟ้าเชื้อชาติอังกฤษ สัญชาติจีน อย่าง MG EP (เอ็มจี อีพี) ในรูปแบบ Station Wagon ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% เปิดตัวครั้งแรกที่งาน Motor Expo 2020 ด้วยแนวคิด “EVeryone ตอบโจทย์ทุกฟังก์ชัน รถยนต์พลังงานไฟฟ้าของทุกคน”

มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าที่มีกำลังสูงสุด 163 แรงม้า มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายในเวลาเพียง 8.8 วินาที พร้อมโหมดการขับขี่ให้เลือก 3 รูปแบบ คือ Eco, Normal และ Sport รวมทั้งมีระบบชาร์จไฟกลับเมื่อชะลอความเร็ว หรือ KERS Mode รวม 3 ระดับ และแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบโมดูล ที่สามารถแยกซ่อมแต่ละโมดูลได้อิสระ โดยมีขนาดความจุถึง 50.3 kWh ให้ระยะทางในการขับขี่ได้ไกลถึง 380 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง

ซึ่งสามารถชาร์จไฟได้ 2 รูปแบบ คือ การชาร์จในรูปแบบ Normal Charge จาก 0-100% ผ่าน MG Home Charger ที่ใช้เวลา 7.15 ชั่วโมง และรูปแบบ Quick Charge จาก 0-80% ผ่านสถานีอัดประจุไฟฟ้าแบบเร็ว ซึ่งใช้ระยะเวลาเพียง 40 นาที ในราคาถูกสุดในงาน 988,000 บาท!

Porsche-Taycan-Turbo-S

4. รถยนต์ไฟฟ้า (รถ EV) แพงที่สุด

รถ EV ที่แพงที่สุดในงาน Motor Expo 2020 ครั้งนี้ ต้องยกให้ Porsche Taycan (ปอร์เช่ ไทคานน์) ใหม่ สุดยอดยนตรกรรมสปอร์ตซาลูน 4 ประตู ที่ได้รับการติดตั้งระบบไฟฟ้าแรงขับเคลื่อนสูง 800 โวลต์ เต็มเปี่ยมไปด้วยสมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยม และคงไว้ซึ่งงานออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์ของปอร์เช่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

Porsche Taycan Turbo S มาพร้อมกับพละกำลังสูงสุด 761 แรงม้า ให้อัตราเร่งออกตัวจาก 0-100 กม./ชม. ภายในระยะเวลาเพียง 2.8 วินาที

Porsche Taycan Turbo มาพร้อมพละกำลังสูงสุด 680 แรงม้า ให้อัตราเร่งออกตัวจาก 0-100 กม./ชม. ภายในระยะเวลา 3.2 วินาที ทั้ง 2 รุ่นนี้ยังสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ได้ถึง 260 กม./ชม.

สำหรับในรุ่น Taycan 4 S ที่ติดตั้ง Performance Battery Plus ให้พละกำลังสูงสุด 571 แรงม้า ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายในระยะเวลา 4.0 วินาที พร้อมทะยานทะลุความเร็วสูงสุดกว่า 250 กม./ชม.

สำหรับ Porsche Taycan Turbo S ราคาอยู่ที่ 11,700,000 บาท!

Black-High-Wheeler

5. เก่าที่สุด

รถเก่าที่สุดในงาน อยู่ที่บูธ สมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย นั่นคือ “Black High Wheeler” (แบลค์ ไฮ วีลเลอร์) รุ่นปี 1904 ซึ่งความพิเศษของรถโบราณรุ่นนี้ คือ เป็นรถที่มีฐานล้อใหญ่ถึง 75 นิ้ว และผลิตออกมาเพียง 18 คันเท่านั้น

เครื่องยนต์วางใต้แคร่กลางลำ แบบ 2 สูบนอน ความจุ 52 Cu.In. (หรือ 852 ซีซี) 18 แรงม้า ขับเคลื่อนล้อหลังด้วยโซ่ ใช้ล้อแบบรถม้าขอบบางขนาดใหญ่ เส้นผ่าศูนย์กลาง 36 นิ้ว

ผลงานของ Black Manufacturing Company แห่งเมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ USA และจำหน่ายโดย Sear, Roebuck & Co. ระหว่างปี 1904-1912 ในปัจจุบันมีเหลือเพียง 13 คันทั่วโลก ถือเป็นรถที่เก่าที่สุดในงาน Motor Expo ครับ

Rolls-Royce-Cullinan-Motor-Expo-2020

6. รถ SUV แพงที่สุด

รถ SUV ที่แพงที่สุดในงาน Motor Expo 2020 ก็ยังคงเป็น Rolls-Royce Cullinan (โรลส์-รอยซ์ คัลลิแนน) ตัวรถระดับ Ultra Luxury SUV รุ่นแรกของ Rolls-Royce ตั้งชื่อตามเพชรที่มีขนาดใหญ่สุดในโลก ซึ่งปัจจุบันถูกนำไปประดับอยู่บนมงกุฏของพระราชินีแห่งอังกฤษ โครงสร้างตัวถังผลิตจากอะลูมิเนียม ที่เป็นสิทธิบัตรของโรลส์-รอยซ์ ห้องโดยสารสามารถขยายพื้นที่เพื่อเพิ่มความจุสัมภาระได้สูงสุดถึง 1,930 ลิตร

ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน V12 สูบ ขนาด 6.75 ลิตร Twin Turbo 563 แรงม้า แรงบิด 850 นิวตันเมตร ที่ 1,600 รอบ/นาที ส่งกำลังสู่ล้อทั้ง 4 ผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ในราคา 33,500,000 บาท!

BMW-M5

7. โปรโมชั่นโหดที่สุด

สำหรับโปรโมชั่นโหดสุดในงาน Motor Expo 2020 ปีนี้ ต้องยกให้กับบูธ BMW (บีเอ็มดับเบิลยู) ที่นำ BMW M5 (บีเอ็มดับเบิลยู เอ็ม 5) ที่มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน V8 4.4 ลิตร กับเทคโนโลยี M TwinPower Turbo ให้แรงม้าสูงสุด 600 แรงม้า ที่ 5,600-6,700 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ M xDrive และปรับเป็นระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ ได้

ตัวรถราคาเต็มๆ อยู่ที่ 9,339,000 บาท แต่ในงานนี้ ให้ส่วนลดถึง 4,000,000 บาท! (4 ล้านบาท!)

Kawasaki-Road-Bike

8. รถจักรยานแพงที่สุด

ในงาน Motor Expo 2020 นี้ แม้แต่จักรยาน ก็มีขายเช่นกัน! ต้องยกให้ “Kawasaki Road Bike” (คาวาซากิ โรด ไบค์) จักรยานทางเรียบระดับพรีเมียม ที่ผสมผสานระหว่างเฟรมคาร์บอนชั้นยอด และชิ้นส่วนคุณภาพสูงจาก Shimano ตกแต่งด้วยสีเอกลักษณ์ของ Kawasaki นั่นคือ สีเขียวไลม์กรีน ในราคา 349,000 บาท

Harley-Davidson-Touring

9. รถมอเตอร์ไซค์แพงที่สุด

รถมอเตอร์ไซค์แพงที่สุดในงาน Motor Expo 2020 ต้องยกให้กับ Harley-Davidson Road Glide (ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน โรด กลิด) ที่มาพร้อมความโดดเด่นเรื่องงานดีไซน์ ใช้เครื่องยนต์ Milwaukee-Eight 114 ขนาด 1,868 ซีซี แบบ 2 สูบ V-Twin 4 จังหวะ 2 วาล์ว/สูบ ในราคา 1,455,500 บาท

Honda-City-Hatchback-2021

10. คนสนใจเยอะที่สุด

รถที่คนสนใจเยอะที่สุดในงาน Motor Expo 2020 คงต้องยกให้ Honda City Hatchback (ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบค) เพราะเดินผ่านทีไร ก็ต้องเห็นคนยืนล้อมรถกันแน่นบูธทุกที!

Motor-Expo-2020-Booking

บริษัท สื่อสากล จำกัด เผยยอดจองรถยนต์ในงาน Motor Expo 2020 ท่ามกลางเศรษฐกิจซบเซาในวิกฤตโควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก แต่การจำหน่ายรถภายในงานยังเป็นไปอย่างน่าพอใจ เนื่องจากมีเปิดตัวรถใหม่หลายรุ่น พร้อมโปรโมชั่นพิเศษ สวนกระแสเศรษฐกิจปัจจุบัน เรียกได้ว่า สุขใจทั้งคนซื้อรถ ได้รถใหม่ไปขับ แต่หลายคนก็อาจทุกข์ใจตอนหาเงินผ่อนรถ กับโดนไฟแนนซ์ยึด

โดยยอดจองรถยนต์ทั้ง 31 แบรนด์ ตอนแรกคาดว่ายอดจองประมาณ 25,000-30,000 คัน รถจักรยานยนต์ 5,000 คัน

แต่ตัวเลขยอดจองในปีนี้ ทำได้รวม 38,699 คัน! (หากนับรวมยอดจองรถยนต์อย่างเดียว จะมียอดจองทั้งหมดอยู่ที่ 33,753 คัน) ลดลงจากปีก่อนเพียง 9.9% ส่วนจักรยานยนต์ ลดลง 31.7%

จากข้อมูลผู้ร่วมกิจกรรม “ซื้อรถ…ชิงรถ” พบว่า รถยนต์ที่ผู้ซื้อเข้าร่วมกิจกรรมสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ Honda, Toyota, MG, Mazda และ BMW ปีนี้รถเก๋งยังคงได้รับความสนใจสูงสุด มีสัดส่วนยอดขาย 40.9% ลดลงจากปีก่อน (45.5%) แบ่งเป็นเก๋งซีดาน 23.9% แฮทช์แบค 15.6% และเก๋งประเภทอื่น 1.4%

รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV) มีสัดส่วน 40.4% เพิ่มขึ้นจากปีก่อน (33.4%) 5 อันดับแรก ได้แก่ MG ZS, Isuzu MU-X, Toyota Corolla Cross, Mazda CX-30 และ Mitsubishi Pajero Sport

รถกระบะมีสัดส่วน 12.2% ลดลงจากปีก่อนเล็กน้อย (14.5%) 5 อันดับแรก ได้แก่ Isuzu D-Max, Ford Ranger, Toyota Revo, Mitsubishi Triton และ Nissan Navara

ส่วนรถหรู มียอดขายรวม 3,783 คัน โดย 5 แบรนด์ ที่ได้รับความสนใจมาก ได้แก่ BMW, Mercedes-Benz, Volvo, Porsche และ Audi

รถจักรยานยนต์ 21 แบรนด์ มียอดจองรวม 4,946 คัน ลดลงจากปีก่อน 31.7 % จากข้อมูลของผู้ร่วมกิจกรรม “ซื้อมอเตอร์ไซค์…ชิงบิ๊กไบค์” พบว่า รถจักรยานยนต์ที่ผู้ซื้อเข้าร่วมกิจกรรมสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ Honda, GPX, Yamaha, Kawasaki และ Triumph

Nissan-Almera-N-Sport-Package

ราคาเฉลี่ยของรถที่ขายได้ในงาน 1,424,811 บาท และราคาเฉลี่ยของรถจักรยานยนต์ 230,140 บาท เงินหมุนเวียนภายในงานราว 4.9 หมื่นล้านบาท ผู้เข้าชมงานจำนวน 1,186,387 คน

ส่วนใครอยากขายรถด่วน เพื่อไปซื้อรถป้ายแดง หรือรับเงินก้อนไปใช้ในช่วงสิ้นปี สามารถนำรถมาขาย หรือตีราคารถ ที่ CARRO ได้เลย ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ CARRO Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothai หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

สรุป

ยอดจองรถยนต์ วันที่ 1 – 13 ธ.ค. 2563 33,753 คัน (หากรวมยอดรถมอเตอร์ไซค์ด้วย เป็น 38,699 คัน)

ยอดจองรถยนต์ วันที่ 28 พ.ย. – 10 ธ.ค. 2562 37,489 คัน (หากรวมยอดรถมอเตอร์ไซค์ด้วย เป็น 44,740 คัน)

ยอดจองรถยนต์ วันที่ 28 พ.ย. – 10 ธ.ค. 2561 44,189 คัน (หากรวมยอดรถมอเตอร์ไซค์ด้วย เป็น 53,358 คัน)

ยอดจองรถยนต์ วันที่ 29 พ.ย. – 11 ธ.ค. 2560 39,832 คัน

ยอดจองรถยนต์ วันที่ 30 พ.ย. – 12 ธ.ค. 2559 32,422 คัน

ยอดจองรถยนต์ 10 อันดับแรกของ Motor Expo 2020 วันที่ 2 – 13 ธ.ค. 2563 (CARRO Update ยอด ณ วันที่ 13 ธ.ค. 2563)

Toyota-GR-Yaris

1. Toyota 5,445 คัน

Honda-City-Hatchback-2021

2. Honda 4,508 คัน

Mazda-100th-Anniversary-Motor-Expo-2020

3. Mazda 4,018 คัน

Isuzu-MU-X-Motor-Expo-2020

4. Isuzu 3,076 คัน

Nissan-Navara-PRO4X-2021

5. Nissan 2,666 คัน

Suzuki-Celerio-Motor-Expo-2020

6. Suzuki 2,652 คัน

MG-ZS-EV-Motor-Expo-2020

7. MG 2,330 คัน

Mercedes-Benz-GLA-200-AMG-Dynamic

8. Mercedes-Benz 1,886 คัน

Mitsubishi-Outlander-PHEV

9. Mitsubishi 1,637 คัน

BMW-X1-2021

10. BMW 1,299 คัน

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Motor Expo

ดูสรุปยอดจองรถยนต์ในงาน Motor Expo 2019 ได้ที่นี่ >> https://th.carro.co/blog/motor-expo-2019-booking/

ดูสรุปยอดจองรถยนต์ในงาน Motor Expo 2018 ได้ที่นี่ >> https://th.carro.co/blog/motor-expo-2018-booking/

ดูสรุปยอดจองรถยนต์ในงาน Motor Expo 2017 ได้ที่นี่ >> https://th.carro.co/blog/motor-expo-2017-booking/

Electric-Cars-In-Motor-Expo-2020

ในยุคปัจจุบัน เราคงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า “รถยนต์ไฟฟ้า” หรือ Electric Vehicle (รถ EV) เริ่มมีบทบาทที่สำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ในวงการยานยนต์โลก และวงการยานยนต์ไทย ด้วยยอดขายที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ลดการใช้พลังงานเชื้อเพลิง และช่วยให้สิ่งแวดล้อมดีขึ้น

ในงาน Motor Expo 2020 (อเตอร์เอ็กซ์โป 2020) ที่จัดขึ้นในเวลานี้ MR.CARRO ขอพาทุกท่านไปชมกับ รถยนต์ไฟฟ้า ภายในงาน Motor Expo 2020 ว่าจะมีรุ่นใดบ้างที่น่าสนใจ อย่าได้เสียเวลา ไปดูกันได้เลยครับ …

Lexus-UX300e

1. Lexus UX 300 e

The New All-Electric Lexus UX 300e (เลกซัส ยูเอ็กซ์300อี) เปิดตัวครั้งแรกในไทย ภายใต้แบรนด์ “LEXUS ELECTRIFIED” ซึ่ง Lexus ประเทศญี่ปุ่น ได้ประกาศอย่างเป็นทางการในงานโตเกียวมอเตอร์โชว์ 2019 เพื่อใช้เป็นกลยุทธ์ในการดำเนินงานของรถยนต์ไฟฟ้าภายใต้แบรนด์เลกซัสทั่วโลก

โดย The New All-Electric Lexus UX 300e ยนตรกรรมรถยนต์ไฟฟ้า มีรูปลักษณ์ภายนอกโดดเด่นด้วยเส้นสายที่เฉียบคม ภายในออกแบบอย่างปราณีต ให้ความสำคัญกับผู้ขับขี่และผู้โดยสารเป็นหลัก พร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานที่ล้ำสมัยสมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยมเหนือใครจากสถาปัตยกรรมโครงสร้างตัวถังแบบใหม่ GA-C (Global Architecture-Compact Platform) ซึ่งมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ การทรงตัวดีเยี่ยม

พร้อมด้วยระบบการขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้าที่สมบูรณ์แบบ ให้พละกำลังสูงสุดถึง 201 แรงม้า อัตราเร่งแรง ดุดัน มีสมรรถนะอันทรงพลัง โดยระยะทางวิ่งได้สูงสุด 360* กม.ต่อการชาร์จไฟหนึ่งครั้ง (ตามมาตรฐาน NEDC)

และชาร์จแบบ Quick DC Charger 0-80% ได้ภายใน 50 นาที สำหรับการชาร์จแบบกระแสตรงผ่านการชาร์จด้วยเครื่องชาร์จ 50 กิโลวัตต์ ด้วยกำลังไฟ 125 แอมป์ โดยแบตเตอรี่มีขนาด 54 kWh

ราคาก็รับได้ 3,490,000 บาท!

Nissan-Leaf-Motor-Expo-2020

2. Nissan Leaf

Nissan Leaf (นิสสัน ลีฟ) “Simply Amazing” เป็นรถยนต์ไฟฟ้าขายดีที่สุดรุ่นหนึ่งของโลก ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า “100%” และมีอัตราการปล่อยมลพิษเป็น “0” และถือเป็นรถค่ายญี่ปุ่นเจ้าแรก ที่กระโดดลงมาทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยอย่างจริงจัง แม้ว่าราคาของตัวรถจะยังสูงอยู่ก็ตาม

Nissan Leaf ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 320 นิวตัน-เมตร ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลา 7.9 วินาที รองรับการขับขี่เป็นระยะทาง 311 กิโลเมตร ต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน NEDC

ติดตั้งแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนความจุ 40 kWh สามารถชาร์จด้วยกำลังไฟขนาด 3.6 kW ได้ในเวลา 12 ชั่วโมง และกำลังไฟขนาด 6.6 kW ในเวลา 6 ชั่วโมง รองรับการชาร์จด่วนจนถึงระดับ 80% ได้ในเวลา 40 นาที

Nissan Leaf ในราคาพร้อมซื้อ 1,990,000 บาท!

MG-EP-Wagon-2021

3. MG EP EV

MG EP (เอ็มจี อีพี) รถยนต์ในรูปแบบ Station Wagon ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% เปิดตัวครั้งแรกที่งาน Motor Expo 2020 ด้วยแนวคิด “EVeryone ตอบโจทย์ทุกฟังก์ชัน รถยนต์พลังงานไฟฟ้าของทุกคน”

ประกอบด้วยองค์ประกอบพื้นฐาน ได้แก่ ขนาดของห้องโดยสารและพื้นที่ใช้สอย ที่กว้างขวางรองรับการบรรทุกทั้งคนและสิ่งของ โดดเด่นด้วยสมรรถนะของ EV เทคโนโลยีที่ให้กำลังเพียงพอต่อการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน พร้อมระบบความปลอดภัยที่ครบครัน นอกจากนี้ ยังมีการติดตั้งหน้าจอ Touchscreen ขนาด 8 นิ้ว ที่รองรับการเชื่อมต่อกับ Apple CarPlay

และสมรรถนะจาก EV เทคโนโลยี (EV Technology) ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่มีกำลังสูงสุด 163 แรงม้า มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายในเวลาเพียง 8.8 วินาที พร้อมโหมดการขับขี่ให้เลือก 3 รูปแบบ คือ Eco, Normal และ Sport รวมทั้งมีระบบชาร์จไฟกลับเมื่อชะลอความเร็ว หรือ KERS Mode รวม 3 ระดับ

สำหรับแบตเตอรี่ของ NEW MG EP เป็นลิเธียมไอออนแบบโมดูล ที่สามารถแยกซ่อมแต่ละโมดูลได้อิสระ โดยมีขนาดความจุถึง 50.3 kWh ให้ระยะทางในการขับขี่ได้ไกลถึง 380 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง

ซึ่งสามารถชาร์จไฟได้ 2 รูปแบบ คือ การชาร์จในรูปแบบ Normal Charge จาก 0-100% ผ่าน MG Home Charger ที่ใช้เวลา 7.15 ชั่วโมง และรูปแบบ Quick Charge จาก 0-80% ผ่านสถานีอัดประจุไฟฟ้าแบบเร็ว ซึ่งใช้ระยะเวลาเพียง 40 นาที

ในราคาเบาๆ 988,000 บาท!

MG-ZS-EV-Motor-Expo-2020

4. MG ZS EV

MG ZS EV (เอ็มจี แซดเอส อีวี) นับว่าเป็นรถยนต์ Crossover SUV ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นแรกที่นำเข้าจากจีนมาขายในบ้านเรา  ซึ่งขายดีมากตั้งแต่เปิดตัวไปในปีที่ผ่านมา โดดเด่นด้วยสีตัวถังแบบพิเศษ สีฟ้า Copenhagen Blue กระจังหน้าทันสมัย พร้อมติดตั้งจุดชาร์จไว้บริเวณหลังกระจังหน้า และล้ออัลลอยใหม่ขนาด 17 นิ้ว

ภายในห้องโดยสารใช้โทนสีดำ ชุดคอนโซลหน้าใช้วัสดุนุ่มแบบ Soft Touch ดูหรูหรามีระดับ พวงมาลัยทรงสปอร์ตหุ้มหนังแบบมัลติฟังก์ชั่น สามารถควบคุมฟังก์ชั่นการใช้งานในรถที่เชื่อมกับหน้าจอสีระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้วได้ และระบบปรับอากาศแบบดิจิตอล ที่มาพร้อมระบบกรองอากาศที่สามารถกรองฝุ่นขนาดเล็ก PM 2.5 และยังโดดเด่นด้วยหลังคาซันรูฟแบบ Panoramic Sunroof

ขุมพลังใช้แบตเตอรี่แบบลิเธี่ยมไอออน (Lithium-ion) ความจุ 44.5 kWh ที่ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า พร้อมระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) ที่สามารถชาร์จพลังงานในระหว่างการขับขี่กลับเข้าแบตเตอรี่ ได้ถึง 3 ระดับ โดยการชาร์จเต็มแต่ละครั้ง สามารถวิ่งได้ระยะทางกว่า 337 กิโลเมตร รองรับการชาร์จไฟทั้งแบบ Normal Charge ใช้เวลาเพียง 6.5 ชั่วโมง และแบบ Quick Charge ที่ 80% ในเวลาเพียง 30 นาที และยังสามารถวิ่งผ่านน้ำที่มีความสูงได้ถึงกว่า 40 ซม.

ผสานเทคโนโลยีความปลอดภัย พร้อม Advanced Driver-Assistance Systems ครบครัน ทั้งหมดนี้ในราคา 1,190,000 บาท!

KIA-Soul-EV-Motor-Expo-2020

5. KIA Soul EV

KIA Soul EV (เกีย โซล อีวี) เจเนอเรชั่นที่ 3 หลังจากที่เปิดตัวไปในไทยเมื่อช่วงปี 2562 ที่ผ่านมา ก็ได้รับความสนใจอย่างมากจากผู้ที่ชื่นชอบรถยนต์ไฟฟ้า เป็นรถแนว Crossover ที่พัฒนาขึ้นบนพื้นฐานร่วมกันกับ Hyundai Kona มีตัวรถที่ดูแข็งแกร่ง ใช้ไฟหน้าทรงเรียวยาว ชุดไฟท้ายแบบทรงตั้งรูปตัว L และแนวหลังคาด้านหน้าและด้านหลังเป็นแบบลอยตัว

ห้องโดยสารมาพร้อมไฟ Sound Mood ที่ปรับตามจังหวะเพลงที่เปิดอยู่ได้ มีจอ HUD ขนาด 8 นิ้ว จอทัชสกรีนส่วนกลางขนาด 10.25 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน พร้อมจุดชาร์จสมาร์ทโฟนแบบไร้สาย และระบบความปลอดภัยแบบ Drive Wise รอบคัน

ขุมพลังใช้แบบเดียวกับ KIA Niro EV ด้วยชุดมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวกำลังสูงสุด 201 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 395 นิวตัน-เมตร แบตเตอรี่สามารถจ่ายไฟภายใน 1 ชม. เท่ากับ 64 kWh รองรับมาตรฐานเทคโนโลยี Combined Charging System (CCS) พร้อมโหมดการขับขี่ถึง 4 แบบ คือ Eco, Comfort, Sport และ Eco+ เพื่อให้ใช้พลังงานได้คุ้มค่าที่สุด ส่วนระยะทางในการขับต่อการชาร์จ 1 ครั้ง อยู่ที่ประมาณ 391 กิโลเมตร

ในราคาน่าตื่นเต้น 2,387,000 บาท (พร้อมรับส่วนลดสูงสุด 350,000 บาท!)

Hyundai-Ioniq-Electric-Motor-Expo-2020

6. Hyundai Ioniq Electric

Hyundai Ioniq Electric (ฮุนได ไอออนิค อิเล็คทริค) รถยนต์ไฟฟ้าจากค่ายรถเกาหลี ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 120 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 295 นิวตัน-เมตร พร้อมแบตเตอรี่ Lithium-Ion Polymer (LiPo) ความจุ 28 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 9.9 วินาที (โหมด Sport) และ 10.2 วินาที (โหมดปกติ) ทำความเร็วสูงสุดได้ 165 กม./ชม.

ระบบชาร์จไฟของ Ioniq Electric สามารถชาร์จได้ 3 แบบ ได้แก่ 1. แบบทริคเคิ้ล (เต้าเสียบบ้าน) กำลังไฟ 2.3 กิโลวัตต์ ใช้เวลาชาร์จไฟจนเต็ม 12 ชั่วโมง 2. แบบธรรมดา (Wall Box) กำลังไฟ 6.6 กิโลวัตต์ ใช้เวลาชาร์จจนเต็ม 4 ชั่วโมง 25 นาที และ 3. แบบชาร์จเร็ว (สถานีชาร์จเร็ว) กำลังไฟสูงสุด 100 กิโลวัตต์ ใช้เวลาชาร์จจนถึงระดับ 80% ในเวลา 23 นาที สามารถเคลื่อนที่ได้เป็นระยะทาง 280 กม. ต่อการชาร์จเต็มแต่ละครั้งตามมาตรฐาน NEDC

ในราคา 1,749,000 บาท!

Hyundai-Kona-Electric-Motor-Expo-2020

7. Hyundai Kona Electric

Hyundai KONA Electric (ฮุนได โคน่า อิเล็คทริค) รถยนต์ไฟฟ้าที่ถ่ายทอด DNA ความเป็น SUV ได้อย่างลงตัว ด้วยไฟหน้าและไฟท้ายดีไซน์สปอร์ตแบบแยกตำแหน่ง โดดเด่นด้วยกระจังหน้าแบบทึบ ที่ช่วยเรื่องอากาศพลศาสตร์และบ่งบอกเอกลักษณ์ของรถยนต์ไฟฟ้าได้อย่างชัดเจน

ภายในตกแต่งหรูหรา พร้อมเครื่องเสียงและหน้าจอสัมผัสแบบ Floating Touch Screen รองรับการเชื่อมต่อที่หลากหลาย พื้นที่ห้องโดยสารพร้อมพื้นที่จุสัมภาระรวมถึง 373 ลิตร (VDA) นอกจากนี้เบาะที่นั่งแถวหน้าปรับไฟฟ้าพร้อมระบบปรับอุณภูมิอุ่น-เย็น อีกด้วย

ใช้แบตเตอรี่ที่ให้พลังงานมากถึง 64 kWh พุ่งทะยานด้วยแรงบิด 395 นิวตัน-เมตร แรงม้าสูงสุด 204 แรงม้า มีอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 7.6 วินาที และวิ่งไปได้ไกลสูงสุดถึง 482 กิโลเมตร (มาตรฐาน WLTP) ส่วนระบบเบรกยังได้ถูกปรับให้สามารถนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่ได้ ในรูปแบบของ Regenerative Breaking System

เป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ ในราคา 1,849,000 บาท และ 2,259,000 บาท

Tesla-Model3-Motor-Expo-2020

8. Tesla Model 3

Tesla Model 3 (เทสลา โมเดล 3) รถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในโลก ที่แม้ว่าในบ้านเรา Tesla ยังไม่ได้เข้ามาทำตลาดด้วยตัวเอง แต่ก็มีผู้จำหน่ายอิสระได้นำเข้ามาจากประเทศอังกฤษ ขายกันหลายรุ่นเลยทีเดียว

ขุมพลัง มีให้เลือกทั้งแบบ Single Motor และ Dual Motor ขับเคลื่อนล้อหลัง และแบบ AWD ในรุ่น Dual Motor มอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 283 แรงม้า พร้อมแบตเตอรี่ที่มีให้เลือกทั้งแบบ Standard Range, Standard Range Plus และ Long Range ขนาด 54 kWh, 62 kWh และ 75 kWh

ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 5.3 วินาที (Single Motor) และ 4.4 วินาที (Dual Motor) ทำความเร็วได้สูงสุด 225 กม./ชม. (Single Motor) และ 233 กม./ชม. (Dual Motor) ให้ระยะทางวิ่ง 354 กิโลเมตร (Single Motor) และ 518 กิโลเมตร (Dual Motor) ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (คำนวณตามมาตรฐาน EPA) โดยใช้เวลาชาร์จประมาณ 6 – 6.5 ชั่วโมง

ราคาพิเศษเพียง 2,990,000 บาท! จองในงานพร้อมรับฟรี Wall box (แท่นชาร์จ) จาก Tesla มูลค่ากว่า 5 หมื่นบาท

Audi-e-Tron-Sportback

9. Audi e-tron Sportback

Audi e-tron Sportback (อาวดี้ อี-ทรอน สปอร์ตแบค) นำเข้ามาประเทศไทยเป็นโมเดลที่ 2 เปิดตัวกันที่งาน Motor Expo 2020 สะท้อนวิสัยทัศน์ของ Audi ที่ว่า “รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100 % คือ อนาคต” และสะท้อนปรัชญาพื้นฐาน “Vorsprung Durch Technik” โดยมีความสมบูรณ์แบบทั้งด้านดีไซน์ เทคโนโลยี สมรรถนะอันยอดเยี่ยม

มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ อัจฉริยะแบบไฟฟ้า (electric quattro) และมีระยะทางที่วิ่งถึง 463 กิโลเมตร ต่อการชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 1 ครั้ง

ในราคาจับต้องได้ เพียง 5,299,000 บาท!

Porsche-Taycan-Turbo-Motor-Expo-2020

10. Porsche Taycan

Porsche Taycan (ปอร์เช่ ไทคานน์) ใหม่ สุดยอดยนตรกรรมสปอร์ตซาลูน 4 ประตู ที่ได้รับการติดตั้งระบบไฟฟ้าแรงขับเคลื่อนสูง 800 โวลต์ เต็มเปี่ยมไปด้วยสมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยม และคงไว้ซึ่งงานออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์ของปอร์เช่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

Porsche Taycan Turbo S มาพร้อมกับพละกำลังสูงสุด 761 แรงม้า ให้อัตราเร่งออกตัวจาก 0-100 กม./ชม. ภายในระยะเวลาเพียง 2.8 วินาที

Porsche Taycan Turbo มาพร้อมพละกำลังสูงสุด 680 แรงม้า ให้อัตราเร่งออกตัวจาก 0-100 กม./ชม. ภายในระยะเวลา 3.2 วินาที ทั้ง 2 รุ่นนี้ยังสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ได้ถึง 260 กม./ชม.

สำหรับในรุ่น Taycan 4 S ที่ติดตั้ง Performance Battery Plus ให้พละกำลังสูงสุด 571 แรงม้า ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายในระยะเวลา 4.0 วินาที พร้อมทะยานทะลุความเร็วสูงสุดกว่า 250 กม./ชม.

ปอร์เช่ ไทคานน์ ใหม่ ราคาเริ่มต้น 7.1 ล้านบาท

Mini-Electric-Motor-Expo-2020

11. Mini Electric

MINI Cooper SE (มินิ คูเปอร์ เอสอี) ใหม่ สืบทอดตำนานความคลาสสิกตามแบบฉบับมินิ 3 ประตู ในรูปแบบรถยนต์ไฟฟ้า

ดีไซน์ภายนอกมาพร้อมการออกแบบที่โดดเด่นและชัดเจน สะท้อนถึงเทคโนโลยีแห่งอนาคตที่ล้ำสมัย มาพร้อมไฟหน้า LED พร้อมล้ออัลลอยน้ำหนักเบาขนาด 17 นิ้ว ลาย MINI Electric Power Spoke พร้อมยางรันแฟลตพิเศษเฉพาะ ฝาครอบที่ชาร์จไฟฟ้าอยู่เหนือล้อหลังด้านขวา ตำแหน่งเดียวกับฝาถังน้ำมันของมินิ 3 ประตู บนฝาแสดงสัญลักษณ์ MINI Electric

ขุมพลังแบบมอเตอร์ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงรุ่นใหม่ล่าสุดที่ BMW Group ได้พัฒนาขึ้น ประกอบด้วยเซลล์แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนจำนวน 12 โมดูล ติดตั้งในรูปทรงตัว T บริเวณใต้รถ จุพลังงานไฟฟ้ารวม 32.6 kWh ให้กำลังสูงสุด 184 แรงม้า และมอบแรงบิดสูงสุด 270 นิวตันเมตร ได้ทันทีที่เท้าแตะคันเร่งแม้จากรถหยุดนิ่ง ส่งความเร็วจาก 0 ถึง 60 กม./ชม. ได้ภายใน 3.9 วินาที โดยมอบพลังหากชาร์จเต็มหนึ่งครั้งสามารถวิ่งได้ระยะทาง 217 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน NEDC)

ตำแหน่งที่ตั้งของแบตเตอรี่แรงดันสูงบริเวณใต้ท้องรถ ระหว่างเบาะนั่งด้านหน้าไปจนถึงบริเวณใต้เบาะหลัง ทำให้มินิ คูเปอร์ เอสอี มีพื้นที่ในการเก็บสัมภาระมากกว่ารุ่นอื่นๆ และเพื่อเป็นการสร้างระยะห่างจากแบตเตอรี่ใต้ท้องรถและพื้นถนน จึงได้รับการออกแบบให้สูงกว่ามินิรุ่นอื่นๆ 18 มิลลิเมตร

MINI Cooper SE ยังติดตั้งระบบการจำลองเสียงเพื่อเตือนคนเดินถนน ซึ่งเป็นเสียงเฉพาะรุ่นเท่านั้น โดยจำลองเสียงผ่านทางระบบลำโพงสำหรับขณะขับขี่ที่ความเร็วต่ำ โดยทุกชิ้นส่วนของระบบการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า จะถูกปกป้องด้วยโครงสร้างที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ และจะหยุดการทำงานทั้งหมดทันทีหากเกิดการชน

มาในราคา 2,290,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม โปรแกรมบำรุงรักษา MSI Standard)

Jaguar-i-Pace-Motor-Expo-2020

12. Jaguar i-Pace

Jaguar i-Pace (จากัวร์ ไอ-เพซ) ในงาน Motor Show 2020 นี้ มาพร้อมการนำเสนอผ่านงานศิลปะ ที่ออกแบบโดย Pomme Chan, ธัชมาพรรณ จันทร์จำรัสแสง ศิลปินมากฝีมือในวงการศิลปะร่วมสมัย ด้วยผลงานการออกเเบบที่เต็มไปด้วยจินตนาการและลายเส้นที่เป็นเอกลักษณ์ แนวคิดในการออกแบบผลงานได้แรงบันดาลใจมาจากการออกแบบรถยนต์จากัวร์ ไอ-เพซ

โดย Jaguar i-Pace เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าล้วน 100% (EV) รุ่นแรกของจากัวร์ แบบ 5 ที่นั่ง ติดตั้งไฟหน้าแบบ Matrix LED กระจังหน้าพร้อมฟังก์ชั่น Active Vanes สามารถเปิด-ปิดรับกระแสลมเพื่อลดความร้อนแบตเตอรี่ได้ ห้องโดยสารตกแต่งแบบห้องนักบิน ใช้ช่วงล่างแบบถุงลมแบบ Adaptive Dynamics พร้อมระบบลดการสั่นสะเทือนจากพื้นถนน และสามารถปรับความสูงลง 10 มม. เมื่อใช้ความเร็วมากกว่า 105 กม./ชม.

ขุมพลังของ Jaguar i-Pace ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าจำนวน 2 ตัว ให้แรงม้าสูงสุด 400 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 696 นิวตัน-เมตร พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ AWD ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 4.8 วินาที ติดตั้งแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ชนิด Pouch cells ขนาด 90 กิโลวัตต์ชั่วโมง ให้ระยะทางวิ่งได้สูงสุด 470 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็มในแต่ละครั้ง

ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 5,499,000 บาท!

ส่วนถ้าใครอยากขายรถ เพื่อนำเงินไปซื้อรถใหม่ ง่ายๆ เพียงขายรถคันเก่ากับ CARRO Express ได้เงินไว! เร็ว! พร้อมปิดการขายได้ทันที แค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรืออยากตีราคารถก่อน สามารถ Inbox สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothai หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

Car-Loan-And-Finance-In-Motor-Expo-2020

งาน Motor Expo 2020 (อเตอร์เอ็กซ์โป 2020) แป๊บเดียวก็ได้เวลาเริ่มต้นขึ้นอีกครั้งแล้ว ตามสถาบันการเงิน ไฟแนนซ์ ลีสซิ่งต่างๆ ก็ผุดแคมเปญออกมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเช็ควงเงินก่อนออกรถ ดาวน์น้อย ผ่อนนาน ดอกเบี้ยต่ำ หรือมีของแจกของแถมต่างๆ เป็นต้น นับเป็นข้อดีของผู้บริโภคเลยครับ แต่คุณต้องมีวินัยทางการเงินที่ดีด้วยเช่นกัน

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

ถ้าใครอยากขายรถคันเดิม เพื่อนำเงินไปโปะรถคันใหม่ จะได้ผ่อนดาวน์กันน้อยลง มาขายรถกับทาง CARRO Express ได้ที่  https://th.carro.co/sell-car/express หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน Fanpage CARRO Thailand

CARRO ขอรวบรวมโปรโมชั่นสินเชื่อรถยนต์ + ไฟแนนซ์ ในงาน Motor Expo 2020 มาให้ท่านดูแบบครบๆ ครับ …

ส่วนอันนี้ ทบทวนกันอีกครั้ง สำหรับคนที่อยากซื้อรถ (ไม่ว่าจะรถใหม่ หรือรถมือสองก็ตาม) หากต้องการขอสินเชื่อ หรือ จัดไฟแนนซ์รถ เอกสารที่ต้องเตรียม สำหรับขอสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ มีดังนี้ …

เป็นบุคคลธรรมดาสัญชาติไทย อายุ 20 – 60 ปี (เมื่อรวมระยะเวลาผ่อน ไม่เกิน 65 ปี) หรือนิติบุคคล ที่จัดตั้งในประเทศไทย

กรณีบุคคลธรรมดา

1. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านของผู้ขอสินเชื่อ 3 ชุด
2. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านของผู้ค้ำประกัน 2 ชุด
3. เอกสารแสดงฐานะทางการเงิน เช่น สมุดบัญชีคู่ฝากธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน และใบสำคัญจ่ายเงินเดือน (สลิปเงินเดือน) หรือหนังสือรับรองเงินเดือนของผู้ขอสินเชื่อและผู้ค้ำประกัน อย่างละ 1 ชุด

กรณีนิติบุคคล

1. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านของกรรมการผู้มีอำนาจที่เซ็นขอสินเชื่อ 3 ชุด
2. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านของกรรมการผู้มีอำนาจที่เซ็นค้ำประกัน 2 ชุด หนังสือรับรองบริษัท 3 ชุด
3.เอกสารแสดงฐานะการเงิน เช่น สมุดบัญชีคู่ฝากธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน ใบสำคัญจ่ายเงินเดือน (สลิปเงินเดือน) หรือหนังสือรับรองเงินเดือนของผู้เซ็นค้ำประกัน 1 ชุด 

สำหรับการคำนวณดอกเบี้ยรถมือสอง ดูได้ใน Link นี้ครับ –> https://th.carro.co/blog/news-finance-used-car-ep3

ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB)

ถอยรถใหม่ กับไทยพาณิชย์ ในงาน Motor Expo 2020 แลกรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 15%

ข้อกำหนดและเงื่อนไข

*เงื่อนไขรายการแลกคะแนนเป็นเครดิตเงินคืนสูงสุด 15% :

  • สิทธิพิเศษสำหรับบัตรเครดิตไทยพาณิชย์ทุกประเภท (“ผู้ถือบัตร”) ยกเว้น บัตรเครดิตนิติบุคคล, บัตรเครดิต SCB Family Plus ไม่สามารถร่วมรายการส่งเสริมการขายนี้ได้ ภายในงาน MOTOR EXPO 2020 ระหว่างวันที่ 2 – 13 ธันวาคม 2563
  • ลงทะเบียนเพื่อแลกคะแนน ณ บูธ SCB ภายในงาน วันที่ทำรายการใช้จ่ายผ่านบัตรเท่านั้น
  • ผู้ถือบัตรมีสิทธิ์ใช้คะแนนสะสม เมื่อใช้คะแนน SCB Rewards / M Point เท่ายอดใช้จ่ายภายในงาน เพื่อแลกรับเครดิตเงินคืนตามที่กำหนด ดังนี้
    ผู้ถือบัตรเครดิต SCB PRIVATE BANKING และ SCB FIRST :
  • เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต 5,000 – 9,999 บาท/เซลล์สลิป แลกรับเครดิตเงินคืน 10%
  • เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตตั้งแต่ 10,000 บาทขึ้นไป/เซลล์สลิป แลกรับเครดิตเงินคืน 15%

    ผู้ถือบัตรเครดิต SCB อื่นๆ :
     (ยกเว้น SCB PRIVATE BANKING, SCB FIRST, SCB Family Plus และบัตรเครดิตนิติบุคคล)
  • เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต 5,000 – 9,999 บาท/เซลล์สลิป แลกรับเครดิตเงินคืน 10%
  • เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตตั้งแต่ 10,000 บาทขึ้นไป/เซลล์สลิป แลกรับเครดิตเงินคืน 12%
  • จำกัดการแลกคะแนนสะสมสูงสุด 100,000 คะแนนต่อท่าน ตลอดระยะเวลาส่งเสริมการขาย
  • คะแนนสะสมที่แลกแล้วไม่สามารถยกเลิก ขอคืน หรือแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ และไม่สามารถขอใช้คะแนนสะสมล่วงหน้า (Point Advance) ได้  หากทางธนาคารตรวจสอบแล้ว คะแนนสะสมของลูกค้ามีน้อยกว่ายอดที่ชำระค่าบัตร ธนาคารขอสงวนสิทธิ์ในการร่วมรายการแลกคะแนน
  • หากยอดซื้อเป็นเศษทศนิยม การแลกคะแนนสะสมจะถูกปัดเศษทศนิยมลงเหลือเพียงจำนวนเต็ม คะแนนสะสมที่ถูกแลกเป็นเครดิตเงินคืนแล้ว ไม่สามารถยกเลิก หรือขอคืน หรือทอนเป็นเงินสด หรือสิ่งอื่นได้
  • ธนาคารจะดำเนินการตัดคะแนน SCB REWARDS/ M Point และเครดิตเงินคืนเข้าบัญชีบัตรเครดิต ภายใน 7 วันนับจากวันสิ้นสุดรายการส่งเสริมการขายนี้ โดยจะแสดงยอดเงินที่จะเครดิตคืนไว้ในใบแจ้งยอดรายการบัตรเครดิต (Statement) ในรอบบัญชีถัดไป
  • เครดิตเงินคืน ไม่สามารถโอนสิทธิให้ผู้อื่น หรือแลกเปลี่ยนหรือถอนเป็นเงินสดหรือสิ่งอื่นได้
  • ธนาคารขอสงวนสิทธิ์การใช้คะแนน SCB Rewards/ M Point เพื่อแลกเป็นเครดิตเงินคืนได้เฉพาะผู้ถือบัตรที่ยังคงสถานภาพการเป็นสมาชิกบัตรเครดิตไทยพาณิชย์ที่มีสถานะบัญชีบัตรเครดิตเป็นปกติ และไม่มีประวัติการผิดนัดชำระหนี้ตลอดระยะเวลาส่งเสริมการขายจนถึงวันที่ธนาคารทำการมอบสิทธิประโยชน์ และไม่เคยฝ่าฝืน และ/หรือ ละเมิดระเบียบข้อบังคับ และ/หรือเงื่อนไขใด ๆ ของการเป็นผู้ถือบัตรเครดิตของธนาคาร

**เงื่อนไขรับเครดิตเงินคืน :

  • สิทธิพิเศษสำหรับผู้ถือบัตรเครดิตธนาคารไทยพาณิชย์ทุกประเภท ยกเว้น บัตรเครดิตนิติบุคคล (“ผู้ถือบัตร”) เมื่อมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตใบที่ลงทะเบียนแบบเต็มจำนวนต่อเซลล์สลิปตามที่ระบุไว้ โดยแบรนด์รถยนต์ที่ร่วมรายการ ได้แก่ ฮอนด้า, อีซูซุ, มาสด้า, มิตซูบิชิ, โตโยต้า, อาวดี้, บีเอ็มดับเบิลยู, เมอร์เซเดส-เบนซ์ และวอลโว่ ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2563 – 31 ธันวาคม 2563 จะได้รับเครดิตเงินคืนตามที่กำหนด
  • ผู้ถือบัตรต้องส่ง SMS ลงทะเบียนร่วมรายการ โดยพิมพ์ CAR วรรค ตามด้วยหมายเลขบัตรเครดิตธนาคารไทยพาณิชย์ 12 หลักสุดท้าย ส่งมาที่ 4545333 ค่าส่ง SMS ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการ ยกเว้นบัตร SCB Private Banking & SCB M Legend รับสิทธิ์โดยไม่ต้องลงทะเบียน
  • เครดิตเงินคืน จะคำนวณยอดใช้จ่ายต่อเซลล์สลิป
    –    ยอดใช้จ่าย ครบทุก 5,000 บาท รับเครดิตเงินคืน 100 บาท (สูงสุด 400 บาท),
    –    ยอดใช้จ่ายตั้งแต่ 50,000 บาท – 99,999 บาท รับเครดิตเงินคืน 1,200 บาท,
    –    ยอดใช้จ่ายตั้งแต่ 100,000 บาทขึ้นไป รับเครดิตเงินคืน 3,000 บาท
  • จำกัดเครดิตเงินคืนทุกประเภทบัตรที่ลงทะเบียน ภายใต้ชื่อ – สกุลเดียวกัน สูงสุดไม่เกิน 3,000 บาท/ท่าน ตลอดระยะเวลาส่งเสริมการขาย
  • เครดิตเงินคืน ไม่สามารถโอนสิทธิให้ผู้อื่น หรือแลกเปลี่ยนหรือถอนเป็นเงินสดหรือสิ่งอื่นได้
  • ธนาคารจะเครดิตเงินคืนเข้าบัญชีบัตรเครดิตใบที่ลงทะเบียนและใช้จ่ายภายใน 60 วัน นับจากวันที่สิ้นสุดระยะเวลาส่งเสริมการขายนี้ โดยจะแสดงยอดเงินที่จะเครดิตคืนไว้ในใบแจ้งยอดรายการบัตรเครดิต (Statement) ในรอบบัญชีถัดไป
  • ผู้ถือบัตรจะได้รับสิทธิประโยชน์นี้ จะต้องคงเป็นสมาชิกบัตรเครดิตไทยพาณิชย์ มีสถานะบัตรเครดิตเป็นปกติ มีประวัติการชำระเงินที่ดี ไม่ผิดนัดชำระเงิน และไม่เคยฝ่าฝืน และ/หรือ เงื่อนไขใด ๆ ของการเป็นผู้ถือบัตรเครดิตของธนาคารอยู่จนถึงขณะรับสิทธิประโยชน์ ทั้งนี้ ธนาคารมีสิทธิที่จะระงับ และ/หรือ เรียกสิทธิประโยชน์คืน หากตรวจพบว่าผู้ถือบัตรที่ได้รับสิทธิประโยชน์มีคุณสมบัติไม่ถูกต้องครบถ้วน หรือไม่ปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับหรือเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด
  • ธนาคารมีสิทธิที่จะเปลี่ยนแปลงหรือยกเลิก กติกา เงื่อนไข ข้อกำหนด ระยะเวลา สิทธิประโยชน์ และรายการส่งเสริมการขายนี้ได้โดยจะแจ้งให้ทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วัน ก่อนดำเนินการ เว้นแต่จะมีเหตุจำเป็นที่ไม่อาจแจ้งให้ทราบล่วงหน้าได้ กรณีที่มีข้อพิพาทให้ถือคำตัดสินของธนาคารเป็นที่สุด
  • รายการส่งเสริมการขายนี้ ยกเว้นการใช้บัตรที่เป็นไปในลักษณะการใช้เพื่อการค้า/ธุรกิจ และไม่สามารถใช้ร่วมกับรายการส่งเสริมการขายอื่นใดได้
  • เงื่อนไขอื่น ๆ ที่มิได้กำหนดในรายการนี้ให้เป็นไปตามที่ร้านค้า, ผู้ขายสินค้า, ผู้ให้บริการกำหนด โปรดตรวจสอบเงื่อนไขก่อนการซื้อสินค้า/บริการ ณ จุดให้บริการ
  • ธนาคารไม่ใช่ผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่าย หรือผู้ให้บริการ และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ เกี่ยวกับสินค้า/บริการตามรายการนี้ กรณีผู้ถือบัตรมีข้อสงสัยหรือข้อร้องเรียนเกี่ยวกับสินค้า/บริการ หรือต้องการใบเสร็จหรือ ใบกำกับภาษี กรุณาติดต่อโดยตรงกับผู้ผลิต ผู้จำหน่ายและ/หรือเจ้าของผลิตภัณฑ์หรือบริการนั้น ๆ

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ – https://www.scb.co.th/th/personal-banking/promotions/credit-cards/moter-expo-nov-dec2020.html

ลีสซิ่งกสิกรไทย (Kasikorn Leasing)

ออกรถใหม่กับ KLeasing สิทธิพิเศษช่วงงาน Motor Expo 2020 16 พ.ย. – 31 ธ.ค. 2563 เท่านั้น

​​​เงื่อนไข

1. แคมเปญขับฟรี 90 วันหรือผ่อนปีหน้า เฉพาะลูกค้ากลุ่มพนักงานที่มีรายได้ประจำหรือกลุ่มลูกค้าทั่วไปที่อยู่ปัจจุบันพักอาศัยตรงตามทะเบียนบ้านที่สมัครสินเชื่อรถ (รถใหม่) ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 ธันวาคม 2563 ซึ่งได้รับการอนุมัติและเกิดเป็นสัญญาเช่าซื้อ ภายในวันที่ 31 มกราคม 2564 (เฉพาะแบรนด์และรุ่นรถตามที่บริษัทกำหนด)
2. สำหรับลูกค้าที่สมัครสินเชื่อรถ (รถใหม่) กับบริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด ตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน ถึง 31 ธันวาคม 2563 ซึ่งได้รับการอนุมัติและเกิดเป็นสัญญาเช่าซื้อภายในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 รับสิทธิ์ผ่อนชำระเงินดาวน์ 0% ผ่านบัตรเครดิตกสิกรไทย และฟรีค่าธรรมเนียมใช้บัตรเครดิต เฉพาะผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ที่เข้าร่วมรายการ โดยเลือกรับสิทธิ (1) ผ่อน 0% นาน 6 เดือน (ดาวน์สูงสุดไม่เกิน 15% ของราคารถ) หรือ (2) ผ่อน 0% นาน 3 เดือน (ดาวน์สูงสุดไม่เกิน 20% ของราคารถ) และทั้งสองทางเลือกผ่อนดาวน์สูงสุดไม่เกิน 300,000 บาท
3. การพิจารณาเครดิตและเงื่อนไขต่างๆ เป็นไปตามนโยบายเครดิตและข้อกำหนดของ บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ – https://www.kasikornleasing.com/th/Promotion/Pages/index.aspx

ธนาคารธนชาต (Thanachart Bank)

ธนชาตDRIVE ให้ส่วนลดค่างวดสินเชื่อรถยนต์

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ Contact Center โทร. 1558 (สำหรับบัตรเครดิตทีเอ็มบี) หรือ โทร. 1770 กด 0 กด 2 (สำหรับบัตรเครดิตธนชาต และบัตรเครดิตนครหลวงไทย)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ – https://www.thanachartbank.co.th/

กรุงศรีออโต้ (Krungsri Auto)

ออกรถใหม่ แจกจุใจ จัดหนัก 3 ต่อทุกคัน! ที่งาน Motor Expo 2020 แจกสนั่นกว่ามุกโปร จัดหนัก 3 ต่อ ฉลองส่งท้ายปี “ทุกคัน”

สินเชื่อ กรุงศรี นิว คาร์

  • ดาวน์เริ่มต้นเพียง 5%
  • ผ่อนสบายสูงสุดถึง 84 เดือน (เฉพาะรุ่นที่ร่วมรายการ)
  • รู้ผลอนุมัติไวภายใน 15 นาที (เมื่อเอกสารครบ)
  • ไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน (เฉพาะผู้สมัครสัญชาติไทย)

เพียงสมัครสินเชื่อกรุงศรี นิว คาร์ ภายในงาน รับทันที! กระเป๋าลากพร้อมเก้าอี้ในตัว มูลค่า 990 บาท

กระเปา.png

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น GO by Krungsri Auto รับเพิ่ม! ชุดแก้วน้ำกรุงศรี ออโต้ มูลค่า 150 บาท

Glass.jpg

พร้อมรับสิทธิในการใช้ส่วนลดการซื้อสินค้าและบริการจาก แอปพลิเคชั่น Go by Krungsri Auto มูลค่ารวมกว่า 10,000 บาท

และหากสินเชื่อที่สมัคร ได้รับอนุมัติ รับอีกต่อ!* บัตรเติมน้ำมัน มูลค่า 2,000 บาท พร้อมคะแนน The 1 จำนวน 10,000 คะแนน มูลค่า 1,250 บาท
จากแอปพลิเคชั่น Go by Krungsri Auto ทุกคัน!

Oil-Card.pngThe1.jpg

* สำหรับลูกค้าที่สมัครสินเชื่อกรุงศรี นิว คาร์ เท่านั้น โดยลูกค้าจะได้รับของกำนัลเมื่อสินเชื่อที่สมัครได้รับการอนุมัติเป็นเลขที่สัญญาและรับรถภายในวันที่ 31 มี.ค. 64 โดยผู้ให้บริการสินเชื่อจะจัดส่งของกำนัลทางไปรษณีย์ภายใน 90 วัน นับจากวันที่รับรถ

หมายเหตุ :
– เฉพาะลูกค้าที่ทำสัญญาภายในงาน Motor Expo 2020 ระหว่างวันที่ 2 ธ.ค. 63 – 13 ธ.ค. 63 ที่บูธ กรุงศรี ออโต้ เท่านั้น
– ผู้ให้บริการสินเชื่อขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงของกำนัลที่มีมูลค่าเทียบเท่า โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
– เงื่อนไขเป็นไปตามที่ผู้ให้บริการสินเชื่อกำหนด

คลิก เพื่อดาวน์โหลดโบรชัวร์โปรโมชั่นในงาน Motor Expo 2020 ของ กรุงศรี ออโต้

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ – https://www.krungsriauto.com/auto/Promotion.html

หมายเหตุ : รายละเอียดข้างต้นนี้ เป็นข้อมูลสินเชื่อรถยนต์และไฟแนนซ์ ที่ Update ณ เดือนธันวาคม 2563 เมื่อเวลาผ่านไป โปรโมชั่น และอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ โปรดสอบถามรายละเอียดเงื่อนไขล่าสุด ที่ไฟแนนซ์ หรือธนาคารนั้นๆ อีกครั้ง

New-Car-Promotion-Motor-Expo-2020

เข้าสู่เดือนธันวาคม เดือนสุดท้ายของปี 2563 ก็กลับมาพบกับงาน Motor Expo 2020 (มอเตอร์เอ็กซ์โป 2020) กันอีกครั้ง ในยุคที่โควิด-19 ระบาดไปทั่วโลก บวกกับเศรษฐกิจย่ำแย่ แต่ชีวิตก็ยังเดินหน้ากันต่อไป โดยงาน Motor Expo 2021 เริ่มตั้งแต่วันที่ 2 – 13 ธันวาคม 2564 ณ อิมแพค เมืองทองธานี

ภายในงาน มีรถใหม่พร้อมเปิดตัว รวมไปถึงรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ๆ เปิดตัวมากมายทีเดียว หลังจากที่ช่วงกลางปีการค้าขายสะดุดกับโควิด-19 กันไป และอุปกรณ์ตกแต่งต่างๆ ก็มีให้เลือกซื้อ แม้ว่าจะน้อยไปมากก็ตาม พร้อมโปรโมชั่นเด็ดๆ แคมเปญจัดหนัก จัดเต็ม มากกว่าหลายปีที่ผ่านมา ทั้งดาวน์ 0% ดอกเบี้ยต่ำ หรือผ่อนนาน เพื่อกระตุ้นให้คนอยากซื้อรถมากขึ้น …

โดยโปรโมชั่นในงาน Motor Expo 2021 นั้น เกือบทุกค่ายยังคงใช้โปรโมชั่นต่อเนื่อง กันไปจนถึงในวันสิ้นปี (31 ธ.ค. 2563) เลยทีเดียว

แต่ถ้าอยากขายรถที่ตัวเองมีอยู่แล้วเพื่อซื้อรถใหม่ นำรถมาขายกับ CARRO Express สิ เรารับซื้อรถของคุณ ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ CARRO Express แค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือ Inbox ขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothai หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

สำหรับโปรโมชั่นรถใหม่ ที่งาน Motor Expo 2021 และในเดือนธันวาคม 2564 เชิญชมได้ด้านล่างครับ.

Toyota

โตโยต้า ส่งต่อความสุขทั่วกัน Happy Together

ทางบริษัทฯ ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายส่งท้ายปีกับกิจกรรม “โตโยต้า ส่งต่อความสุขทั่วกัน Happy Together” พิเศษสำหรับลูกค้าที่ออกรถยนต์โตโยต้าทุกรุ่นและลูกค้าที่เข้ามารับบริการหลังการขายที่มีความประสงค์จะซื้อรถใหม่ หรือต้องการแนะนำเพื่อน คนรู้จักให้ซื้อรถยนต์โตโยต้า จะได้รับสิทธิพิเศษลุ้นรับรางวัลมูลค่ารวมกว่า 10,000,000 บาท รวมทั้งสิ้น 1,000 รางวัล ดังรายละเอียดต่อไปนี้

1. เงื่อนไขการลุ้นรับรางวัลกิจกรรม “โตโยต้า ส่งต่อความสุขทั่วกัน Happy Together” สำหรับผู้ซื้อรถโตโยต้าทุกท่าน

  • ผู้มีสิทธิ์ลุ้นรับรางวัลคือผู้ที่จองและออกรถยนต์โตโยต้าทุกรุ่น และลูกค้าเข้ารับบริการที่ศูนย์บริการซ่อมทั่วไปตั้งแต่ 500 บาทขึ้นไป พร้อมแนะนำเพื่อนให้ออกรถ ตั้งแต่วันที่ 18 ตุลาคม – 31 ธันวาคม 2564
  • รายละเอียดรางวัล มีดังนี้รางวัลที่ 1 โทรศัพท์มือถือรุ่น Apple ไอโฟน 13 Pro Max ความจุ 128GB มูลค่า 42,900 บาท (จำนวน 80 รางวัล)
    รางวัลที่ 2 แท็บเลต รุ่น Apple iPad ความจุ 256GB Wifi มูลค่า 16,900 บาท (จำนวน 100 รางวัล)
    รางวัลที่ 3 บัตรกำนัลเพื่อใช้เป็นส่วนลดสำหรับแลกซื้อรถยนต์โตโยต้า หรือสินค้าหรือบริการอื่นๆ ณ โชว์รูมโตโยต้ามูลค่า 10,000 บาท (จำนวน 170 รางวัล)
    รางวัลที่ 4 บัตรกำนัลเพื่อใช้เป็นส่วนลดสำหรับแลกซื้อรถยนต์โตโยต้า หรือสินค้าหรือบริการอื่นๆ ณ โชว์รูมโตโยต้ามูลค่า 5,000 บาท (จำนวน 650 รางวัล)
    รวมทั้งสิ้น 1,000 รางวัล มูลค่ารวมทั้งสิ้น 10,072,000 บาท
  • รางวัลข้างต้นผู้โชคดีที่ได้รับรางวัลมีสิทธิ์ได้รับรางวัลสูงสุดเพียงรางวัลเดียวเท่านั้น โดยไม่สามารถแลกเปลี่ยนหรือทอนเป็นเงินสด หรือเปลี่ยนเป็นของรางวัลอื่นได้
  • คณะกรรมการจับสลากรางวัลผู้โชคดีในวันที่ 11 มกราคม 2565 เวลา 15.00 น. ณ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด สาขาตั้งอยู่เลขที่ 753 ถนนเทพรัตน แขวงบางนา เขตบางนา จังหวัดกรุงเทพมหานคร (Toyota Driving Experience Park – TDEX) และประกาศรายชื่อผู้โชคดีวันที่ 15 มกราคม 2565 เวลา 13.00 น. ทาง www.toyota.co.th และ ช่องทาง Facebook Toyota Motor Thailand)
  • ผู้ที่มีสิทธิ์รับรางวัลกรณีที่เป็นลูกค้าจองจะต้องเป็นผู้มีชื่อ นามสกุล ตรงกับใบจองและใบแจ้งจำหน่าย และแจ้งขายผ่านระบบจัดการข้อมูลการขายของโตโยต้าและผู้แทนจำหน่ายฯ กรณีเป็นลูกค้าเข้ารับบริการที่ศูนย์บริการโตโยต้าจะต้องแสดงใบเสร็จรับเงินหรือใบกำกับภาษีเพื่อยืนยันการเข้ารับบริการ
  • ผู้โชคดีที่ได้รับรางวัล จะต้องชำระภาษี ณ ที่จ่าย 5% ของมูลค่าของรางวัล
  • บัตรกำนัลรางวัล ใช้เป็นส่วนลดสำหรับแลกซื้อรถยนต์โตโยต้า หรือสินค้าหรือบริการ ณ โชว์รูมโตโยต้าเท่านั้น รางวัลบัตรกำนัลสามารถใช้ได้เต็มมูลค่าของบัตรกำนัลและสามารถใช้ได้เฉพาะผู้แทนจำหน่ายที่ลูกค้าออกรถตามที่ระบุอยู่บนบัตรกำนัลเท่านั้น และใช้ได้จนถึง 31 ธันวาคม 2565
  • บัตรกำนัลรางวัลไม่สามารถโอนสิทธิ์ให้แก่ผู้อื่นได้ หรือแลก เปลี่ยน ทอนเป็นเงินสดได้
  • ผู้โชคดีที่ได้รับรางวัล จะต้องชำระภาษี ณ ที่จ่าย 5% ของมูลค่าของรางวัล
  • ผู้โชคดีจะได้รับการติดต่อเพื่อขอเอกสารยืนยันการเป็นผู้โชคดี โดยส่งเอกสารประกอบการรับรางวัลข้างต้นให้กับผู้แทนจำหน่ายที่ลูกค้าออกรถ (สิ้นสุดการรับเอกสารในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565) มิฉะนั้นถือว่าสละสิทธิ์การรับของรางวัล○ เอกสารยืนยันสิทธิ์รับรางวัล (เอกสารฉบับตัวจริง)
    ○ สำเนาบัตรประชาชนเซ็นรับรองสำเนาถูกต้องด้วยปากกาน้ำเงิน 1 ชุด
    ○ สำเนาทะเบียนบ้านเซ็นรับรองสำเนาถูกต้องด้วยปากกาน้ำเงิน 1 ชุด
    ○ สำเนาหลักฐานการชำระเงินค่าภาษี ณ ที่จ่าย มูลค่าร้อยละ 5 ของมูลค่ารางวัล (กรณีลูกค้าในนามนิติบุคคล จะต้องยื่นเอกสารมอบอำนาจ / แต่งตั้งตัวแทนรับรางวัลในนามบุคคลเท่านั้น)
    ○ สำเนาสมุดจดทะเบียนหรือตารางกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ 1 ชุด ซึ่งเป็นคันที่จองตามเงื่อนไขในระยะเวลาแคมเปญที่ผู้โชคดีเป็นเจ้าของ (ไม่ใช่ พ.ร.บ.)
    ○ หากเป็นชาวต่างชาติต้องแนบเอกสารเพิ่มเติมคือ สำเนาใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) และสำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคาร
  • สำหรับลูกค้าผู้ที่ถอนจองหรือไม่ได้ออกรถภายในเวลาที่กำหนดให้ถือว่าไม่มีสิทธิ์ในการรับรางวัล
  • พนักงานของ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด พนักงานของผู้แทนจำหน่ายฯ บริษัทตัวแทนโฆษณา และคณะกรรมการดำเนินงานพร้อมครอบครัวไม่มีสิทธิ์เข้าร่วมรายการส่งเสริมการขายนี้
  • สิทธิ์ตามกิจกรรมนี้ไม่รวมถึงรถรับจ้าง รถเช่า รถที่ซื้อขายภายใต้เงื่อนไขพิเศษอื่นๆ และรถขาย Fleet

ATIV & YARIS URBAN ADDICT

เลือกรับข้อเสนอพิเศษ

1. ฟรี ประกันภัยชั้น 1 Toyota Care
พร้อม ช่วยผ่อนเดือนละ 2,000 บาท นาน 12 เดือน

2. ดาวน์เริ่มต้น 0 บาท

1 พฤศจิกายน – 12 ธันวาคม 2564 ​​ข้อเสนอเดียวกับ Motor Expo 2021

VIOS ALL IS POSSIBLE

ซื้อ VIOS วันนี้ รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.49% นาน 48 เดือน เมื่อดาวน์ 25% ขึ้นไป พร้อมประกันภัยชั้นหนึ่ง TOYOTA Care

1 พฤศจิกายน – 12 ธันวาคม 2564 ​​ข้อเสนอเดียวกับ Motor Expo 2021

SIENTA CHIC CLICKS คลิกให้ชีวิตสุดชิค

ซื้อ SIENTA วันนี้ รับดอกเบี้ยพิเศษ 2.19% นาน 48 เดือน เมื่อดาวน์ 25% ขึ้นไป

1 พฤศจิกายน – 12 ธันวาคม 2564 ​​ข้อเสนอเดียวกับ Motor Expo 2021

COROLLA CROSS MODELLISTA รุ่นพิเศษ จำนวนจำกัด

หมายเหตุ

  • รุ่นพิเศษ Corolla Cross Modellista เฉพาะรุ่น Hybrid Premium Safety และ Hybrid Premium เท่านั้น จำนวนจำกัด 250 คัน
  • อุปกรณ์ตกแต่ง Modellista (สเกิร์ตหน้า, สเกิร์ตข้าง ซ้าย-ขวา, สเกิร์ตหลัง และล้อแม็ก 18 นิ้ว) มูลค่า 41,500 บาท มีเฉพาะสี Celestite Gray Metallic, Platinum White Pearl และ Metal Stream Metallic ประกอบและติดตั้งโดย บริษัท ทีซีดี เอเชีย เซลส์ จำกัด
  • อุปกรณ์ตกแต่งรับประกันสูงสุดในระยะเวลา 36 เดือน หรือระยะ 100,000 กิโลเมตร (แล้วแต่ระยะเวลาใดจะถึงก่อน) ตามเงื่อนไขการรับประกันของ บริษัท ทีซีดี เอเชีย เซลส์ จำกัด
  • ราคาดังกล่าวไม่รวมค่าทำสีหลังคาดำ

ชุดแต่งใหม่กับสไตล์สุดชิค ผ่อนเพิ่มเพียง 850 บาท/เดือน*

เป็นเจ้าของ โคโรล่า ครอส พร้อมชุดแต่งใหม่ URBAN SPORT ราคา 51,900 บาท*

*ราคาดังกล่าว ไม่รวมค่าติดตั้ง และค่าทำสีหลังคาดำ – ราคาเงินผ่อนที่เพิ่มคำนวณจากโปรแกรมเช่าซื้อปกติ ดาวน์ 25% ระยะเวลา 72 เดือน สำหรับรุ่น Hybrid Premium Safety และ Hybrid Premium โดยอ้างอิงดอกเบี้ยเดือน ม.ค. 2564 บริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง  (ประเทศไทย) จำกัด

  • สงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายละเอียด ส่วนประกอบและอุปกรณ์ต่างๆ โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
  • ชุดอุปกรณ์ตกแต่ง ติดตั้งกับรถรุ่นใหม่ (ต้องติดตั้ง จากผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าเท่านั้น) ระยะเวลารับประกันสูงสุด 3 ปี หรือ 100,000 กม. แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน อ้างอิงจากคู่มือ รับประกันคุณภาพรถยนต์
  • ล้อ Lenso รับประกันโครงสร้างล้อ 10 ปี ตามเงื่อนไขการรับประกัน บริษัท เลนโซ่ วีล จำกัด

ชุดแต่งใหม่กับสไตล์สุดลุย ผ่อนเพิ่มเพียง 960 บาท/เดือน*

เป็นเจ้าของ โคโรลล่า ครอส พร้อม ชุดแต่งใหม่ ADVENTURE ราคา 58,900 บาท*

*ราคาดังกล่าว ไม่รวมค่าติดตั้ง – ราคาเงินผ่อนที่เพิ่มคำนวณจากโปรแกรมเช่าซื้อปกติ ดาวน์ 25% ระยะเวลา 72 เดือน สำหรับรุ่น Hybrid Premium โดยอ้างอิงดอกเบี้ยเดือน ม.ค. 2564 บริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด

  • สงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายละเอียด ส่วนประกอบและอุปกรณ์ต่างๆ โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
  • แร็คหลังคา ไม่สามารถติดตั้งในรุ่น Hybrid Premium Safety
  • ชุดอุปกรณ์ตกแต่ง ติดตั้งกับรถรุ่นใหม่ (ต้องติดตั้ง จากผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าเท่านั้น) ระยะเวลารับประกันสูงสุด 3 ปี หรือ 100,000 กม. แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน อ้างอิงจากคู่มือ รับประกันคุณภาพรถยนต์
  • ล้อ Lenso รับประกันโครงสร้างล้อ 10 ปี ตามเงื่อนไขการรับประกัน บริษัท เลนโซ่ วีล จำกัด
  • แร็คหลังคา รับประกัน 6 เดือน ตามเงื่อนไขการรับประกันของ บริษัท ทีเคที ไฟเบอร์ จำกัด

เป็นเจ้าของ C-HR รุ่นปรับปรุงใหม่ ปี 2564 วันนี้ รับเลย ฟรี!!! ประกันภัยชั้น 1 พร้อมเลือกรับแคมเปญพิเศษ!!

ทางเลือกที่ 1: ดอกเบี้ยพิเศษ 0.99%*

  • ดอกเบี้ยพิเศษ 0.99% (ผ่อนนาน 48 เดือน เมื่อดาวน์ 25% ขึ้นไป)

ทางเลือกที่ 2: ผ่อนเริ่มต้นเพียง 11,590 บาทต่อเดือน

  • รุ่น HV Premium Safety ราคา 1,139,000 บาท ผ่อนเริ่มต้น 11,590 บาท ที่ดาวน์ 25.44% นาน 84 เดือน
  • คำนวณจากอัตราดอกเบี้ยของ บริษัท ลีสซิ่ง ไอซีบีซี (ไทย) จำกัด

พร้อมรับแพ็กเกจรับประกันระบบไฮบริด 5 ปี และแบตเตอรี่ไฮบริดนาน 10 ปี

1 พฤศจิกายน – 12 ธันวาคม 2564 ​​ข้อเสนอเดียวกับ Motor Expo 2021

เป็นเจ้าของ โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ ใหม่วันนี้!

รับดอกเบี้ยพิเศษ  1.89%
พร้อมขับฟรี 90 วัน
ขยายระยะรับประกันคุณภาพ 5 ปี และฟรีค่าแรงเช็กระยะ มูลค่า 30,000.-

1 พฤศจิกายน – 12 ธันวาคม 2564 ​​ข้อเสนอเดียวกับ Motor Expo 2021

เป็นเจ้าของ FORTUNER รุ่นมาตรฐาน รับฟรี ชุดแต่ง MODELLISTA มูลค่า 57,620 บาท*

พร้อมรับประกันคุณภาพรถใหม่ 5 ปี หรือ 150,000 กม. และฟรีค่าแรงเช็กระยะ 100,000 กม.**

26 สิงหาคม – 30 พฤศจิกายน 2564

หมายเหตุ

1) เฉพาะ Fortuner รุ่นมาตรฐาน (2.4G, 2.4V, 2.4V ขับเคลื่อน 4 ล้อ) สี White Pearl CS และ Attitude Black Mica รับฟรีชุดอุปกรณ์แต่ง Modellista มูลค่า 57,620 บาท ตั้งแต่วันที่ 26 สิงหาคม 2564 ถึง วันที่ 30 พฤศจิกายน 2564

2) รับประกันคุณภาพรถใหม่ 5 ปี หรือ 150,000 กม. พร้อมฟรีค่าแรงเช็คระยะตั้งแต่ 10,000 – 100,000 กม. แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน

ดู Promotion Toyota เพิ่มเติมได้ที่ – https://www.toyota.co.th/promotion

Nissan

โปรโมชั่น Nissan ขับรถนิสสันให้สนุก โปรโมชั่นนี้มีผลถึง 31 ธันวาคม 2564

ข้อเสนอพิเศษ NISSAN KICKS e-POWER

Kicks

Nissan Kicks e-Power รุ่น E, V และ VL

ต่อที่ 1 เลือกรับข้อเสนอพิเศษ

  • อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% (เงินดาวน์ 25%, ผ่อนนาน 60 เดือน)
  • ขับขี่เร้าใจ ไม่พอใจคืนรถได้ใน 30 วัน

ต่อที่ 2 ฟรี แพ็กเกจขับสบายหายห่วง

  • ฟรี รับประกันระบบ e-POWER 5 ปี/100,000 กิโลเมตร (แล้วแต่ระยะใดระยะหนึ่งถึงก่อน)
  • ฟรี รับประกันแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 10 ปี โดยไม่จำกัดระยะทาง
  • ฟรี โปรแกรมขยายการรับประกันคุณภาพรถยนต์นิสสัน พรีเมี่ยม วารันตี
  • ฟรี Roadside Service Assistance บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง  (5 ปี หรือ 150,000 กม)
  • ฟรี SAVE SAFE Platinum Package (5 ปี หรือ 100,000 กม)

Note-VL-Sep

Note

Nissan Note VL 20MY

ต่อที่ 1 เลือกรับข้อเสนอพิเศษ

  • ผ่อนเริ่มต้นเพียง 2,150 บาท [งวดที่ 1-6 ค่างวด 7,972 บาท นิสสันช่วยผ่อน 5,822 บาท จำนวน 6 งวด, งวดที่ 7-72 (7,972 บาท), คำนวณจากเงินดาวน์ 20%, ดอกเบี้ย 3.43%, ระยะเวลาผ่อน 72 เดือน, คำนวณจากรุ่น Note VL CVT ราคา 595,000 บาท]
  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี

หรือ

  • อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% (เงินดาวน์ 25%, ผ่อนนาน 48 เดือน)
  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี

ต่อที่ 2

  • ฟรี ชุดอุปกรณ์ตกแต่ง Note AERO PACKAGE มูลค่า 20,400 บาท

Nissan Note 20MY

ต่อที่ 1 เลือกรับข้อเสนอพิเศษ

  • ผ่อนเริ่มต้นเพียง 1,900 บาท
  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี

หรือ

  • อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% (เงินดาวน์ 25%, ผ่อนนาน 48 เดือน)
  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี

หรือ

  • ดาวน์เริ่มต้น 9,900 บาท พร้อม ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี

ต่อที่ 2 ชุดอุปกรณ์ตกแต่ง

  • ฟรี ชุดอุปกรณ์ตกแต่ง Note AERO PACKAGE มูลค่า 20,400 บาท
  • สิทธิ์ซื้อชุดอุปกรณ์ตกแต่ง Value Package ราคาพิเศษเพียง 3,500 บาท

NISSAN MARCH

March

ต่อที่ 1 เลือกรับข้อเสนอพิเศษ

  • ผ่อนเริ่มต้นเพียง 1,750 บาท
  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี

หรือ

  • อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% (เงินดาวน์ 15%, ผ่อนนาน 60 เดือน)
  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี

หรือ

  • ดาวน์เริ่มต้น 4,900 บาท พร้อม ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี

ต่อที่ 2

  • ชุดอุปกรณ์ตกแต่ง Value Package ราคาพิเศษเพียง 3,990 บาท

Nissan-Almera-Aug-21

Almera

ต่อที่ 1 เลือกรับข้อเสนอพิเศษ

  • ผ่อนเริ่มต้นเพียง 3,050 บาท
  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี

หรือ

  • อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0.99% (เงินดาวน์ 25%, ผ่อนนาน 48 เดือน)
  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี

หรือ

  • ดาวน์เริ่มต้น 19,900 บาท พร้อม ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี

ต่อที่ 2

  • ฟรี ค่าแรงเช็กระยะ 5 ปี/70,000 กิโลเมตร

Nissan ALMERA SPORTECH

ต่อที่ 1 เลือกรับข้อเสนอพิเศษ

  • ผ่อนเริ่มต้นเพียง 3,400 บาท [งวดที่ 1-4 ค่างวด 8,340 บาท นิสสันช่วยผ่อน 4,940 บาท จำนวน 4 งวด, งวดที่ 5-72 (8,340 บาท), คำนวณจากเงินดาวน์ 20%, ดอกเบี้ย 3.22%, ระยะเวลาผ่อน 72 เดือน, คำนวณจากรุ่น ALMERA V SPORTECH ราคา 629,000 บาท]
  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี

หรือ

  • อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0.99% (เงินดาวน์ 25%, ผ่อนนาน 48 เดือน)
  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี

ต่อที่ 2

  • ฟรี ค่าแรงเช็กระยะ 5 ปี/70,000 กิโลเมตร

NISSAN TEANA

Leaf

  • ราคาพิเศษ 1,499,000 บาท
  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี
  • ฟรี เครื่อง Wallbox EV Charger รวมค่าติดตั้งมูลค่า 77,000 บาท
  • ฟรี รับประกันระบบไฟฟ้า 5 ปี/ 100,000 กม.
  • ฟรี รับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี/ 160,000 กม.
  • ฟรี ขยายระยะเวลารับประกันคุณภาพ 5 ปี/150,000 กิโลเมตร
  • ฟรี บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 5 ปี (Premium Roadside Assistance)
NISSAN GT-R

GT-R

  • อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.74%* (เงินดาวน์ 30%, ระยะเวลาผ่อนชำระนาน 60 เดือน)

Nissan-SC-Aug-21

Navara

Nissan Navara Single Cab ใหม

ต่อที่ 1 เลือกรับข้อเสนอพิเศษ

  • ดาวน์เริ่มต้น 23,900 บาท พร้อม ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี
  • ขับฟรี สูงสุด 90 วัน

หรือ

  • ผ่อนเริ่มต้นเพียง 5,999 บาท (ดาวน์ 20% ผ่อน 84 เดือน)
  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี
  • ขับฟรี สูงสุด 90 วัน

ต่อที่ 2

  • ฟรี ค่าแรงเช็กระยะ 5 ปี/100,000 กิโลเมตร
KC-Aug-21
Nissan Navara King Cab ใหม่  

ต่อที่ 1 เลือกรับข้อเสนอพิเศษ

  • ดาวน์เริ่มต้น 15,900 บาท พร้อม ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี
  • ขับฟรี สูงสุด 90 วัน (3)

หรือ

  • ผ่อนเริ่มต้นเพียง 5,999 บาท (ดาวน์ 25% ผ่อน 84 เดือน)
  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี
  • ขับฟรี สูงสุด 90 วัน

ต่อที่ 2

  • ฟรี โปรแกรมขยายการรับประกันคุณภาพรถยนต์นิสสัน พรีเมี่ยม วารันตี
  • ฟรี ค่าแรงเช็กระยะ 5 ปี/100,000 กิโลเมตร
KC-Aug-21

New Navara King Cab Calibre

ต่อที่ 1 เลือกรับข้อเสนอพิเศษ

  • ดาวน์เริ่มต้น 29,900 บาท พร้อม ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี
  • ขับฟรี สูงสุด 90 วัน

หรือ

  • ผ่อนเริ่มต้นเพียง 3,900 บาท
  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี
  • ขับฟรี สูงสุด 90 วัน

หรือ

  • อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% (เงินดาวน์ 25%, ผ่อนนาน 48 เดือน)
  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี
  • ขับฟรี สูงสุด 90 วัน

ต่อที่ 2

  • ฟรี โปรแกรมขยายการรับประกันคุณภาพรถยนต์นิสสัน พรีเมี่ยม วารันตี
  • ฟรี ค่าแรงเช็กระยะ 5 ปี/100,000 กิโลเมตร

New NAVARA K/Cab Calibre

ต่อที่ 1 เลือกรับข้อเสนอพิเศษ

  • อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% (ดาวน์ 25%, ผ่อนนานสูงสุด 60 เดือน)
  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี
  • ขับฟรี สูงสุด 90 วัน

หรือ

  • ดาวน์เริ่มต้น 44,900 บาท พร้อม ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี
  • ขับฟรี สูงสุด 90 วัน

หรือ

  • ผ่อนเริ่มต้นเพียง 7,890 บาท (ดาวน์ 25% ผ่อน 84 เดือน)
  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี
  • ขับฟรี สูงสุด 90 วัน

ต่อที่ 2

  • ฟรี โปรแกรมขยายการรับประกันคุณภาพรถยนต์นิสสัน พรีเมี่ยม วารันตี
  • ฟรี ค่าแรงเช็กระยะ 5 ปี/100,000 กิโลเมตร

New NAVARA K/Cab Calibre V MT

ต่อที่ 1 เลือกรับข้อเสนอพิเศษ

  • ราคาพิเศษ 699,000 บาท
  • ขับฟรี สูงสุด 90 วัน

หรือ

  • อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% (ดาวน์ 25% ผ่อน 60 เดือน)
  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี
  • ขับฟรี สูงสุด 90 วัน
  • ฟรี โปรแกรมขยายการรับประกันคุณภาพรถยนต์นิสสัน พรีเมี่ยม วารันตี

ต่อที่ 2

  • ฟรี ค่าแรงเช็กระยะ 5 ปี/100,000 กิโลเมตร

DC-ca-Aug-21

New NAVARA D/Cab Calibre

ต่อที่ 1 เลือกรับข้อเสนอพิเศษ

  • อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% (ดาวน์ 25%, ผ่อนนานสูงสุด 60 เดือน)
  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี
  • ขับฟรี สูงสุด 90 วัน

หรือ

  • ดาวน์เริ่มต้น 53,900 บาท พร้อม ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี
  • ขับฟรี สูงสุด 90 วัน

หรือ

  • ผ่อนเริ่มต้นเพียง 8,599 บาท (ดาวน์ 25% ผ่อน 84 เดือน)
  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี
  • ขับฟรี สูงสุด 90 วัน

ต่อที่ 2

  • ฟรี โปรแกรมขยายการรับประกันคุณภาพรถยนต์นิสสัน พรีเมี่ยม วารันตี
  • ฟรี ค่าแรงเช็กระยะ 5 ปี/100,000 กิโลเมตร

New NAVARA D/Cab Calibre V MT

ต่อที่ 1 เลือกรับข้อเสนอพิเศษ

  • ราคาพิเศษ 799,000 บาท
  • ขับฟรี สูงสุด 90 วัน

หรือ

  • อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% (ดาวน์ 25% ผ่อน 60 เดือน)
  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี
  • ขับฟรี สูงสุด 90 วัน
  • ฟรี โปรแกรมขยายการรับประกันคุณภาพรถยนต์นิสสัน พรีเมี่ยม วารันตี

ต่อที่ 2

  • ฟรี ค่าแรงเช็กระยะ 5 ปี/100,000 กิโลเมตร
2x-Aug-21

New NAVARA D/Cab PRO-2X 7AT

ต่อที่ 1 เลือกรับข้อเสนอพิเศษ

  • อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% (ดาวน์ 30%, ผ่อนนาน 48 เดือน)
  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี
  • ขับฟรี สูงสุด 90 วัน

หรือ

  • ผ่อนเริ่มต้นเพียง 10,499 บาท (ดาวน์ 25% ผ่อน 84 เดือน)
  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี
  • ขับฟรี สูงสุด 90 วัน

ต่อที่ 2

  • ฟรี โปรแกรมขยายการรับประกันคุณภาพรถยนต์นิสสัน พรีเมี่ยม วารันตี
  • ฟรี ค่าแรงเช็กระยะ 5 ปี/100,000 กิโลเมตร

New NAVARA D/Cab 4WD PRO-4X 7AT

ต่อที่ 1 เลือกรับข้อเสนอพิเศษ

  • อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% (ดาวน์ 30%, ผ่อนนาน 48 เดือน)
  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี
  • ขับฟรี สูงสุด 90 วัน

หรือ

  • ผ่อนเริ่มต้นเพียง 12,500 บาท (ดาวน์ 25% ผ่อน 84 เดือน)
  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี
  • ขับฟรี สูงสุด 90 วัน

ต่อที่ 2

  • ฟรี โปรแกรมขยายการรับประกันคุณภาพรถยนต์นิสสัน พรีเมี่ยม วารันตี
  • ฟรี ค่าแรงเช็กระยะ 5 ปี/100,000 กิโลเมตร

nissan-terra-mc

Terra

ต่อที่ 1

  • อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.49% (เงินดาวน์ 25%, ผ่อนนาน 48 เดือน)
  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี
  • ขับฟรี สูงสุด 90 วัน

ต่อที่ 2

  • ฟรี โปรแกรมขยายการรับประกันคุณภาพรถยนต์นิสสัน พรีเมี่ยม วารันตี
  • ฟรี ค่าแรงเช็กระยะ 5 ปี/100,000 กิโลเมตร

ต่อที่ 3 (เฉพาะรุ่น VL)

  • ฟรี อุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ

NISSAN URVAN

Urvan

สอบถามรายละเอียดที่ผู้จำหน่ายรถยนต์นิสสัน

ดู Promotion Nissan เพิ่มเติมได้ที่ – https://www.nissan.co.th/offers.html

Honda

Honda เปิดตัว All-New Honda Civic 2022 ใหม่

โปรโมชั่น Honda

Honda City Hatchback e:HEV

– รับข้อเสนอดอกเบี้ย 2.59% พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี

  • ฟรี ฮอนด้า อัลติเมท แคร์ พร้อม ฟรีค่าแรงเช็กระยะ 5 ปี หรือ 100,000 กม.
    รับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี

Honda Special Thanks รับฟรี กระเป๋าฆ่าเชื้อ UVC LED อเนกประสงค์ มูลค่า 3,850 บาท สำหรับรถยนต์รุ่นที่ร่วมรายการ

Honda City

– ดอกเบี้ยเริ่มต้น 2.39%* พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี
หรือ
ดอกเบี้ยเริ่มต้น 1.65%* หรือ ผ่อนเริ่มต้น 5,989 บาท
หรือ
รับข้อเสนอดอกเบี้ย 2.29%** พร้อม ฮอนด้าช่วยผ่อน เดือนละ 1,000 บาท นาน 12 เดือน รวมมูลค่า 12,000 บาท
หรือ
รับข้อเสนอดอกเบี้ย 2.89%* พร้อม ฮอนด้าช่วยผ่อน เดือนละ 2,000 บาท นาน 12 เดือน รวมมูลค่า 24,000 บาท

Honda Special Thanks รับฟรี กระเป๋าฆ่าเชื้อ UVC LED อเนกประสงค์ มูลค่า 3,850 บาท สำหรับรถยนต์รุ่นที่ร่วมรายการ

Honda City Hatchback

– รับข้อเสนอดอกเบี้ย 2.99% พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปีหรือ
ข้อเสนอเสนอพิเศษ ผ่อนเริ่มต้น 7,500 บาท กับ DOUBLE SMILE*

Honda Special Thanks รับฟรี กระเป๋าฆ่าเชื้อ UVC LED อเนกประสงค์ มูลค่า 3,850 บาท สำหรับรถยนต์รุ่นที่ร่วมรายการ

Honda City e:HEV

– รับข้อเสนอดอกเบี้ย 2.59% พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี

  • ฟรี ฮอนด้า อัลติเมท แคร์ พร้อม ฟรีค่าแรงเช็กระยะ 5 ปี หรือ 100,000 กม.
    รับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี

หรือ ข้อเสนอพิเศษ ผ่อนเริ่มต้น 11,000 บาท กับ DOUBLE SMILE*

  • ฟรี ฮอนด้า อัลติเมท แคร์ พร้อม ฟรีค่าแรงเช็กระยะ 5 ปี หรือ 100,000 กม.
    รับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี

Honda Special Thanks รับฟรี กระเป๋าฆ่าเชื้อ UVC LED อเนกประสงค์ มูลค่า 3,850 บาท สำหรับรถยนต์รุ่นที่ร่วมรายการ

Honda Jazz

ดอกเบี้ยพิเศษ 0.99%* พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี และรับฟรี ! ฮอนด้า อัลติเมทแคร์ ขยายเวลารับประกันคุณภาพอีก 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร หรือ

ฮอนด้าช่วยผ่อน เดือนละ 1,500 บาท นาน 12 เดือน รวมมูลค่า 18,000 บาท พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี และรับฟรี ! ฮอนด้า อัลติเมทแคร์ ขยายเวลารับประกันคุณภาพอีก 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร

Honda Special Thanks  รับฟรี กระเป๋าฆ่าเชื้อ UVC LED อเนกประสงค์ มูลค่า 3,850 บาท สำหรับรถยนต์รุ่นที่ร่วมรายการ

*ดาวน์ 25% ผ่อน 12-48 เดือน

All-New Honda Civic

ดอกเบี้ย 2.59%* พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี

*ดาวน์ 25% ผ่อน 48 เดือน

Honda Civic Hatchback

ดอกเบี้ย 1.99%* พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี หรือ

ข้อเสนอสุดพิเศษ DOUBLE SMILE ดาวน์ 0 บาท หรือ ผ่อนเริ่มต้น 13,000 บาท

Honda Special Thanks รับฟรี กระเป๋าฆ่าเชื้อ UVC LED อเนกประสงค์ มูลค่า 3,850 บาท สำหรับรถยนต์รุ่นที่ร่วมรายการ

*ดาวน์ 25% ผ่อน 12-48 เดือน

New Honda Accord

รุ่น Turbo EL

รับดอกเบี้ย 1.99%* พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี
ฟรี  ค่าแรงเช็กระยะตามตารางการบำรุงรักษา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร
พร้อมรับ “ฮอนด้า อัลติเมท แคร์” หรือ

รับข้อเสนอสุดพิเศษ DOUBLE SMILE** ดาวน์ 0 บาท หรือ ผ่อนเริ่มต้น 13,000 บาท
พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี
ฟรี ! ค่าแรงเช็กระยะตามตารางการบำรุงรักษา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร
พร้อมรับ “ฮอนด้า อัลติเมท แคร์”

หรือ

รุ่น e:HEV EL+ และ e:HEV TECH

รับดอกเบี้ย 0%*
ฟรี ค่าแรงเช็กระยะตามตารางการบำรุงรักษา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร
พร้อมรับ “ฮอนด้า อัลติเมท แคร์” และรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี

หรือ

ข้อเสนอสุดพิเศษ DOUBLE SMILE** ดาวน์ 0 บาท หรือ ผ่อนเริ่มต้น 15,000 บาท พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี
ฟรี ค่าแรงตามตารางการบำรุงรักษา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร
พร้อมรับ  “ฮอนด้า อัลติเมท แคร์” และรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี
Honda Mobilio
ดอกเบี้ยพิเศษ 0%* พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี และรับเพิ่ม ฮอนด้า อัลติเมทแคร์ ขยายเวลารับประกันคุณภาพอีก 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร

หรือ

ดอกเบี้ยพิเศษ 2.29%* พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี พร้อมรับฮอนด้าช่วยผ่อน เดือนละ 4,000 บาท นาน 12 เดือน รวมมูลค่า 48,000 บาท และรับเพิ่ม ฮอนด้า อัลติเมทแคร์ ขยายเวลารับประกันคุณภาพอีก 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร

Honda BR-V

ดอกเบี้ยพิเศษ 0.59%* พร้อมฟรีค่าแรงเช็กระยะ 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร หรือ
ดอกเบี้ย 1.99%* และฮอนด้าช่วยผ่อนเดือนละ 3,000 บาท นาน 12 เดือน พร้อมฟรีค่าแรงเช็กระยะ 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี หรือ

Honda Special Thanks รับฟรี กระเป๋าฆ่าเชื้อ UVC LED อเนกประสงค์ มูลค่า 3,850 บาท สำหรับรถยนต์รุ่นที่ร่วมรายการ

Honda HR-V

ดอกเบี้ยพิเศษ 0%* พร้อมฟรีแพ็กเกจเช็กระยะค่าแรงค่าอะไหล่ 3 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตรและรับเพิ่ม ฟรี! ฮอนด้า อัลติเมทแคร์ ขยายเวลารับประกันคุณภาพอีก 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร
หรือ
ดอกเบี้ย 0.99%* และรับฟรีประกันภัย 1 ปีพร้อมฟรีแพ็กเกจเช็กระยะค่าแรงค่าอะไหล่ 3 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร และรับเพิ่ม ฟรี! ฮอนด้า อัลติเมทแคร์ ขยายเวลารับประกันคุณภาพอีก 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร
หรือ
ดอกเบี้ย 2.29%* พร้อม ฮอนด้าช่วยผ่อน เดือนละ 2,500 บาท นาน12 เดือน รวมมูลค่า 30,000 บาท พร้อมฟรีแพ็กเกจเช็กระยะค่าแรงค่าอะไหล่ 3 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร และรับฟรีประกันภัย 1 ปี และรับเพิ่ม ฟรี! ฮอนด้า อัลติเมทแคร์ ขยายเวลารับประกันคุณภาพอีก 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร

Honda Special Thanks รับฟรี กระเป๋าฆ่าเชื้อ UVC LED อเนกประสงค์ มูลค่า 3,850 บาท สำหรับรถยนต์รุ่นที่ร่วมรายการ

Honda CR-V

สำหรับเครื่องยนต์ดีเซล

รับดอกเบี้ยพิเศษ 0%*
ฟรี! ฮอนด้า อัลติเมท แคร์ ขยายเวลารับประกันคุณภาพอีก 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร
หรือ
รับดอกเบี้ยพิเศษ 0.99%*พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี
ฟรี! ฮอนด้า อัลติเมท แคร์ ขยายเวลารับประกันคุณภาพอีก 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร

สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน
รับดอกเบี้ยพิเศษ 0%*

ฟรี! ฮอนด้า อัลติเมท แคร์ ขยายเวลารับประกันคุณภาพอีก 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร
หรือ
รับดอกเบี้ยพิเศษ 0.99%*พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี
ฟรี! ฮอนด้า อัลติเมท แคร์ ขยายเวลารับประกันคุณภาพอีก 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร

หรือ

ข้อเสนอสุดพิเศษ DOUBLE SMILE** ผ่อนเริ่มต้น 23,000 บาท พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี

ฟรี! ฮอนด้า อัลติเมท แคร์ ขยายเวลารับประกันคุณภาพอีก 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร

Honda Special Thanks รับฟรี กระเป๋าฆ่าเชื้อ UVC LED อเนกประสงค์ มูลค่า 3,850 บาท สำหรับรถยนต์รุ่นที่ร่วมรายการ⑤

หรือ

สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน

รับดอกเบี้ยพิเศษ 1.99 %* พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี
ฟรี! ฮอนด้า อัลติเมท แคร์ ขยายเวลารับประกันคุณภาพอีก 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร

หรือ
ข้อเสนอสุดพิเศษ DOUBLE SMILE** ผ่อนเริ่มต้น 18,000 บาท พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี
ฟรี! ฮอนด้า อัลติเมท แคร์ ขยายเวลารับประกันคุณภาพอีก 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตรHonda Special Thanks รับฟรี กระเป๋าฆ่าเชื้อ UVC LED อเนกประสงค์ มูลค่า 3,850 บาท สำหรับรถยนต์รุ่นที่ร่วมรายการ
ดู Promotion Honda เพิ่มเติมได้ที่ – https://www.honda.co.th/promotions

Mazda

All-New-Mazda-BT-50-2021

MAZDA Promotion

Mazda มอบโปรโมชั่นสุดพิเศษเพื่อให้ลูกค้าสามารถออกรถและเป็นเจ้าของรถมาสด้าทุกรุ่นได้ง่ายขึ้น

Mazda2

ดอกเบี้ย 0%
ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี

Mazda3

ดอกเบี้ย 0%
ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี
ฟรี ชุดแต่ง Kensho Package มูลค่าสูงสุด 15,000 บาท (จำนวนจำกัด)

Mazda CX-3

ดอกเบี้ย 0%
ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี

Mazda CX-30

ดอกเบี้ย 0%
ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี

Mazda CX-5

ดอกเบี้ย 1.99%
ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี
Mazda Care Program 3 ปี

Mazda CX-8

ดอกเบี้ย 1.99%
ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี
Mazda Care Program 3 ปี

Mazda MX-5

ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี
ขยายการรับประกันคุณภาพรถ เป็น 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร

All-New Mazda BT-50

ดอกเบี้ย 2.19% หรือ 2.39%
ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี

ดู Promotion Mazda เพิ่มเติมได้ที่ – https://www.mazda.co.th/offers/latest-offers/

Mitsubishi

all-Model-Promotion-campaign

Mitsubishi Outlander PHEV

  • เลือกรับ ดอกเบี้ยพิเศษ 1.49% (1)
  • รับฟรี แพคเกจบำรุงรักษา 5 ปี มูลค่าสูงสุด 20,200 บาท และ ฟรีช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง นาน 5 ปี มูลค่า 8,950 บาท (2)
  • รับฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง นาน 1 ปี มูลค่าสูงสุด 34,300 บาท (3)
  • รับฟรี ค่าติดตั้งจุดชาร์จไฟ มูลค่าสูงสุด 20,000 บาท (4)
  • รับฟรี เครื่องฟอกอากาศ Nanoe X (5)
  • รับประกันแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 10 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร (6)
  • รับประกันคุณภาพ 5 ปี (7) พร้อมค่าแรงเช็กระยะนาน 5 ปี (8)
  • ครอบครัวมิตซูบิชิรับส่วนลดเพิ่ม 20,000 บาท ผ่าน M-Drive (9)

สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี ระหว่างวันที่ 1 – 30 พฤศจิกายน 2564 รับ (1) (2) (3) (4) (5) และ (9)

all-Model-Promotion-campaign

New Attrage and New Mirage

  • เลือกรับ ขับฟรี 90 วัน หรือ ผ่อนเริ่มต้น 3,XXX บาท
  • รับประกันคุณภาพ 5 ปี พร้อมค่าแรงเช็กระยะนาน 5 ปี
  • ครอบครัวมิตซูบิชิรับส่วนลดเพิ่ม 5,000 บาท ผ่าน M-Drive

สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์มิตซูบิชิ แอททราจ หรือ มิตซูบิชิ มิราจ รุ่นใดก็ได้ ตั้งแต่ 1 – 30 พฤศจิกายน 2564

all-Model-Promotion-campaign

Mitsubishi Xpander

  • เลือกรับ ผ่อนเริ่มต้น 4,1XX บาท หรือ ดอกเบี้ยพิเศษ 0.99%
  • เลือกรับ แพคเกจบำรุงรักษา 5 ปี มูลค่าสูงสุด 26,810 บาท และ ฟรีช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง 5 ปี มูลค่า 8,950 บาท
  • รับฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง นาน 1 ปี มูลค่าสูงสุด 22,000 บาท
  • รับประกันคุณภาพ 5 ปี พร้อมค่าแรงเช็กระยะนาน 5 ปี
  • ครอบครัวมิตซูบิชิรับส่วนลดเพิ่ม 20,000 บาท ผ่าน M-Drive

สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ รุ่นใดก็ได้ ตั้งแต่ 1 – 30 พฤศจิกายน 2564

all-Model-Promotion-campaign

Mitsubishi Xpander Cross

  • เลือกรับ ผ่อนเริ่มต้น 4,7XX บาท หรือ ดอกเบี้ยพิเศษ 0.99%
  • เลือกรับ แพคเกจบำรุงรักษา 5 ปี มูลค่าสูงสุด 26,810 บาท และ ฟรี ช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง 5 ปี มูลค่า 8,950 บาท
  • รับฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง นาน 1 ปี มูลค่าสูงสุด 22,800 บาท
  • รับประกันคุณภาพ 5 ปี พร้อมค่าแรงเช็กระยะนาน 5 ปี
  • ครอบครัวมิตซูบิชิรับส่วนลดเพิ่ม 20,000 บาท ผ่าน M-Drive

สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส ตั้งแต่ 1 – 30 พฤศจิกายน 2564

all-Model-Promotion-campaign

New Pajero Sport และ New Pajero Sport Elite Edition

  • เลือกรับ ผ่อนเริ่มต้น 12,XXX บาท หรือ ดอกเบี้ยพิเศษ 0.99%
  • เลือกรับ แพคเกจบำรุงรักษา 5 ปี มูลค่าสูงสุด 26,376 บาท และฟรี ช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง 5 ปี มูลค่า 8,950 บาท
  • รับฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง นาน 1 ปี มูลค่าสูงสุด 29,300 บาท
  • รับประกันคุณภาพ 5 ปี พร้อมค่าแรงเช็กระยะนาน 5 ปี
  • รับฟรีอุปกรณ์เชื่อมต่อสัญญาณภาพและเสียงระบบดิจิตอล (HDMI WiFi Dongle)
  • ครอบครัวมิตซูบิชิรับส่วนลดเพิ่มสูงสุด 30,000 บาท ผ่าน M-Drive

สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ใหม่ และ ปาเจโร สปอร์ต อีลีท เอดิชั่น 1 – 30 พฤศจิกายน 2564

all-Model-Promotion-campaign

New Triton สำหรับ รุ่นซิงเกิ้ล แค็บ (LR) 

  • เลือกรับ ขับฟรี 90 วัน หรือ ผ่อนเริ่มต้น 4,XXX บาท
  • รับฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง นาน 1 ปี มูลค่าสูงสุด 18,900 บาท
  • รับประกันคุณภาพ 5 ปี พร้อมค่าแรงเช็กระยะนาน 5 ปี
  • ครอบครัวมิตซูบิชิรับส่วนลดเพิ่ม 10,000 บาท ผ่าน M-Drive

สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ ตั้งแต่ 1 – 30 พฤศจิกายน 2564

all-Model-Promotion-campaign

New Triton สำหรับ รุ่นซิงเกิ้ล แค็บ (4WD)

  • เลือกรับ ขับฟรี 90 วัน หรือ ผ่อนเริ่มต้น 5,XXX บาท
  • รับฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง นาน 1 ปี มูลค่าสูงสุด 18,900 บาท
  • รับประกันคุณภาพ 5 ปี พร้อมค่าแรงเช็กระยะนาน 5 ปี
  • ครอบครัวมิตซูบิชิรับส่วนลดเพิ่ม 10,000 บาท ผ่าน M-Drive

สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ ตั้งแต่ 1 – 30 พฤศจิกายน 2564

all-Model-Promotion-campaign

New Triton สำหรับ รุ่นเมกะ แค็บ (LR)

  • เลือกรับ ขับฟรี 90 วัน หรือ ผ่อนเริ่มต้น 4,XXX บาท
  • รับฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง นาน 1 ปี มูลค่าสูงสุด 21,100 บาท
  • รับประกันคุณภาพ 5 ปี พร้อมค่าแรงเช็กระยะนาน 5 ปี
  • ครอบครัวมิตซูบิชิรับส่วนลดเพิ่ม 10,000 บาท ผ่าน M-Drive

สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ ตั้งแต่ 1 – 30 พฤศจิกายน 2564

all-Model-Promotion-campaign

New Triton สำหรับ รุ่นเมกะ แค็บ (HR)

  • เลือกรับ ขับฟรี 90 วัน หรือ ผ่อนเริ่มต้น 5,XXX บาท
  • รับฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง นาน 1 ปี มูลค่าสูงสุด 21,100 บาท
  • รับประกันคุณภาพ 5 ปี พร้อมค่าแรงเช็กระยะนาน 5 ปี
  • ครอบครัวมิตซูบิชิรับส่วนลดเพิ่ม 10,000 บาท ผ่าน M-Drive

สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ ตั้งแต่ 1 – 30 พฤศจิกายน 2564

all-Model-Promotion-campaign

New Triton สำหรับรุ่น ดับเบิ้ล แค็บ (LR)

  • เลือกรับ ขับฟรี 90 วัน หรือ ผ่อนเริ่มต้น 5,XXX บาท
  • รับฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง นาน 1 ปี มูลค่าสูงสุด 23,100 บาท
  • รับประกันคุณภาพ 5 ปี พร้อมค่าแรงเช็กระยะนาน 5 ปี
  • ครอบครัวมิตซูบิชิรับส่วนลดเพิ่ม 10,000 บาท ผ่าน M-Drive

สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ ตั้งแต่ 1 – 30 พฤศจิกายน 2564

all-Model-Promotion-campaign

New Triton สำหรับรุ่น ดับเบิ้ล แค็บ (HR) รับดอกเบี้ย 1.99%* นาน 84 เดือน

  • เลือกรับ ขับฟรี 90 วัน หรือ ผ่อนเริ่มต้น 5,XXX บาท
  • รับฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง นาน 1 ปี มูลค่าสูงสุด 23,100 บาท
  • รับประกันคุณภาพ 5 ปี พร้อมค่าแรงเช็กระยะนาน 5 ปี
  • ครอบครัวมิตซูบิชิรับส่วนลดเพิ่ม 10,000 บาท ผ่าน M-Drive

สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ ตั้งแต่ 1 – 30 พฤศจิกายน 2564

all-Model-Promotion-campaign

New Triton สำหรับรุ่น ดับเบิ้ล แค็บ (4WD) รับดอกเบี้ย 1.99%* นาน 84 เดือน

  • รับ ดอกเบี้ย 0.59%* นาน 48 เดือน
  • รับฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง นาน 1 ปี มูลค่าสูงสุด 23,100 บาท
  • รับประกันคุณภาพ 5 ปี พร้อมค่าแรงเช็กระยะนาน 5 ปี
  • ครอบครัวมิตซูบิชิรับส่วนลดเพิ่ม 10,000 บาท ผ่าน M-Drive

สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ ตั้งแต่ ตั้งแต่ 1 – 30 พฤศจิกายน 2564

ดู Promotion Mitsubishi เพิ่มเติมได้ที่ – https://www.mitsubishi-motors.co.th/th/buy/promotion

Suzuki

New Suzuki Swift โปรโมชั่น

โปรโมชั่น Suzuki ร้อนแรง แซงทุกดีล

แคมเปญพิเศษ “SUZUKI DEAL D DAY” ออกรถวันนี้ ผ่อนปีหน้า สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าทุกท่าน ที่จองและรับรถยนต์ซูซูกิทุกรุ่น รับข้อเสนอขับฟรี 90 วัน (เริ่มชำระค่างวดหลังจากรับรถ 90 วัน) เพื่อให้คุณได้เป็นเจ้าของก่อนใคร

สิทธิพิเศษ

  • รับเงื่อนไขพิเศษทันที ขับฟรี 90 วัน! ออกรถวันนี้ ผ่อนปีหน้า
  • พร้อมรับบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 3,000 บาท เพิ่มจากส่วนลดแคมเปญพิเศษจากผู้จำหน่าย (เฉพาะรุ่นที่กำหนด)
  • ส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่าสูงสุด 50,000 บาท (เฉพาะรุ่นที่กำหนด)
  • ดอกเบี้ยพิเศษ 0% นานถึง 72 เดือน (เฉพาะรุ่นที่กำหนด)
  • อีโคคาร์ผ่อนเริ่มต้นเพียงเดือนละ 1,999 บาท
  • ฟรี ประกันภัยชั้น 1

สิทธิพิเศษดังกล่าว จะมอบให้เฉพาะลูกค้าที่จองและรับรถตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม – 30 พฤศจิกายน 2564 โดยข้อกำหนดและเงื่อนไขต่างๆ ต้องเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

Suzuki XL7

  • เลือกรับข้อเสนอพิเศษ ขับฟรี 90 วัน พร้อมส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่ารวมสูงสุด 25,000 บาท ฟรี บัตรเติมน้ำมันมูลค่า 3,000 บาท
  • หรือ เลือกรับข้อเสนอดอกเบี้ยพิเศษ 0.77%ฟรี บัตรเติมน้ำมันมูลค่า 3,000 บาท
  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน

Suzuki Swift ใหม่ ทุกรุ่น

  • เลือกรับข้อเสนอผ่อนเริ่มต้นเดือนละ 3,333 บาท พร้อมส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่ารวมสูงสุด 50,000 บาท สำหรับรุ่น GL และ GLX หรือ รับส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งสูงสุด 45,000 บาท สำหรับรุ่น GL PLUS ฟรี บัตรเติมน้ำมันมูลค่า 3,000 บาท
  • หรือ เลือกรับข้อเสนอพิเศษ ขับฟรี 90 วัน พร้อมส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่ารวมสูงสุด 50,000 บาท สำหรับรุ่น GL และ GLX หรือ รับส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งสูงสุด 45,000 บาท สำหรับรุ่น GL PLUS ฟรี บัตรเติมน้ำมันมูลค่า 3,000 บาท
  • หรือ เลือกรับดอกเบี้ยพิเศษ 0% ฟรี บัตรเติมน้ำมันมูลค่า 3,000 บาท
  • พร้อมฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน

Suzuki Ciaz ทุกรุ่น

  • เลือกรับข้อเสนอผ่อนเริ่มต้นเดือนละ 3,777 บาท พร้อมส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่ารวมสูงสุด 50,000 บาท
  • หรือ เลือกรับข้อเสนอพิเศษ ขับฟรี 90 วัน พร้อมส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่ารวมสูงสุด 50,000 บาท
  • หรือ เลือกรับดอกเบี้ย 0%
  • พร้อมฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน

Suzuki Celerio ทุกรุ่น

  • เลือกรับข้อเสนอผ่อนเริ่มต้นเดือนละ 1,999 บาท พร้อมส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่ารวมสูงสุด 15,000 บาท สำหรับรุ่น GL และ GX หรือ ส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่ารวมสูงสุด 10,000 บาท สำหรับรุ่น GA MT
  • หรือ เลือกรับข้อเสนอพิเศษ ขับฟรี 90 วัน พร้อมส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่ารวมสูงสุด 15,000 บาท สำหรับรุ่น GL และ GX หรือ ส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่ารวมสูงสุด 10,000 บาท สำหรับรุ่น GA MT
  • พร้อมฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน

All New Suzuki Ertiga ทุกรุ่น

  • เลือกรับข้อเสนอผ่อนเริ่มต้นเดือนละ 4,444 บาท พร้อมส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่ารวมสูงสุด 40,000 บาท ฟรี บัตรเติมน้ำมันมูลค่า 3,000 บาท
  • หรือ เลือกรับข้อเสนอพิเศษ ขับฟรี 90 วัน พร้อมส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่ารวมสูงสุด 40,000 บาท ฟรี บัตรเติมน้ำมันมูลค่า 3,000 บาท
  • หรือ เลือกรับดอกเบี้ย 0% ฟรี บัตรเติมน้ำมันมูลค่า 3,000 บาท
  • พร้อมฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน

Suzuki Carry ทุกรุ่น

  • เลือกรับข้อเสนอพิเศษ ขับฟรี 90 วัน*(1.1) พร้อมส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่ารวมสูงสุด 10,000 บาท*(1)
  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง

ดู Promotion Suzuki เพิ่มเติมได้ที่ – https://www.suzuki.co.th/th/promotion/

Isuzu

Banner Image

โปรแรงส์! แห่งปี ข้อเสนอเดียวกับ MOTOR EXPO 2021 ขับฟรี 90 วัน

รายละเอียด/เงื่อนไขของรายการ

*ข้อเสนอขับฟรีสูงสุด 90 วันจะเริ่มชำระค่าเช่าซื้องวดแรกภายใน 90 วัน นับตั้งแต่วันที่ทำสัญญาเช่าซื้อ

หมายเหตุ: สำหรับลูกค้าที่ทำสัญญาเช่าซื้อกับบริษัท ตรีเพชรอีซูซุลิสซิ่ง จำกัด ระหว่างวันที่ 1 พ.ย. 2564 – 12 ธ.ค. 2564 และรับรถภายในวันที่ 31 ม.ค. 2565 โดยเลือกเงื่อนไขการผ่อนชำระได้สูงสุด 96 เดือน / ตัวอย่างเงื่อนไขไฟแนนซ์ ดาวน์เริ่มต้น 5% หรือ อัตราดอกเบี้ยต่ำสุด 2.20 % (คำนวณจากเงินดาวน์ 25% และผ่อนชำระ 48 เดือน) หรือเลือกรับเงื่อนไขพิเศษอื่นๆ / เงื่อนไขไฟแนนซ์พิเศษสำหรับรับข้อเสนอขับฟรีสูงสุด 90 วัน เป็นไปตามที่ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุลิสซิ่ง จำกัด กำหนด / รายการส่งเสริมการขายนี้ไม่รวมรถรับจ้าง รถเช่า รถที่ซื้อภายใต้เงื่อนไขพิเศษอื่นๆ และรถที่ขายฟลีท / บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขโดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า / เฉพาะผู้จำหน่ายอีซูซุที่ร่วมโครงการ

Banner Image

ใหม่! อีซูซุดีแมคซ์ สปาร์ค โปรแรงส์! แห่งปี ข้อเสนอเดียวกับ MOTOR EXPO 2021

รายละเอียด/เงื่อนไขของรายการ

(1) ข้อเสนอขับฟรีสูงสุด 90 วันจะเริ่มชำระค่าเช่าซื้องวดแรกภายใน 90 วัน นับตั้งแต่วันที่ทำสัญญาเช่าซื้อ / สำหรับลูกค้าที่ทำสัญญาเช่าซื้อกับบริษัท ตรีเพชรอีซูซุลิสซิ่ง จำกัด ระหว่างวันที่ 1 พ.ย. 2564 – 12 ธ.ค. 2564 และรับรถภายในวันที่ 31 ม.ค. 2565 โดยเลือกเงื่อนไขการผ่อนชำระได้สูงสุด 96 เดือน / เงื่อนไขไฟแนนซ์พิเศษสำหรับรับข้อเสนอขับฟรีสูงสุด 90 วัน เป็นไปตามที่ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุลิสซิ่ง จำกัด กำหนด

(2) ผ่อนเริ่มต้นปีแรก 4,944 บาทต่อเดือน สำหรับเดือนที่ 1-12 และผ่อน 5,744 บาทต่อเดือน สำหรับเดือนที่ 13-96 คำนวณจากรุ่นสปาร์ค บี 1,900 ซีซี เกียร์ธรรมดา สีธรรมดา กรณีดาวน์ 25% ผ่อน 96 เดือน ดอกเบี้ย 4.15% อ้างอิงอัตราดอกเบี้ย ณ เดือน พ.ย. – ธ.ค. 2564 โดยจะต้องเริ่มชำระงวดแรกภายใน 30 วัน หลังจากวันที่รับรถ โดยเงื่อนไขในการผ่อนชำระให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ในสัญญาเช่าซื้อ

หมายเหตุ : เงื่อนไขเป็นไปตามสถาบันการเงินที่ร่วมรายการกับบริษัทฯ กำหนด / รายการส่งเสริมการขายนี้ไม่รวมรถรับจ้าง รถเช่า รถที่ซื้อภายใต้เงื่อนไขพิเศษอื่นๆ และรถที่ขายฟลีท / บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขโดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า / เฉพาะผู้จำหน่ายอีซูซุที่ร่วมโครงการ

Banner Image

ใหม่! อีซูซุดีแมคซ์ สเปซแค็บ โปรแรงส์! แห่งปี ข้อเสนอเดียวกับ MOTOR EXPO 2021

รายละเอียด/เงื่อนไขของรายการ

(1) ข้อเสนอขับฟรีสูงสุด 90 วันจะเริ่มชำระค่าเช่าซื้องวดแรกภายใน 90 วัน นับตั้งแต่วันที่ทำสัญญาเช่าซื้อ / สำหรับลูกค้าที่ทำสัญญาเช่าซื้อกับบริษัท ตรีเพชรอีซูซุลิสซิ่ง จำกัด ระหว่างวันที่ 1 พ.ย. 2564 – 12 ธ.ค. 2564 และรับรถภายในวันที่ 31 ม.ค. 2565 โดยเลือกเงื่อนไขการผ่อนชำระได้สูงสุด 96 เดือน / เงื่อนไขไฟแนนซ์พิเศษสำหรับรับข้อเสนอขับฟรีสูงสุด 90 วัน เป็นไปตามที่ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุลิสซิ่ง จำกัด กำหนด

(2) ผ่อนเริ่มต้นปีแรก 5,548 บาทต่อเดือน สำหรับเดือนที่ 1-12 และผ่อน 6,348 บาทต่อเดือน สำหรับเดือนที่ 13-96 คำนวณจากรุ่นสเปซแค็บ เอส 1,900 ซีซี เกียร์ธรรมดา สีธรรมดา กรณีดาวน์ 25% ผ่อน 96 เดือน ดอกเบี้ย 4.15% อ้างอิงอัตราดอกเบี้ย ณ เดือน พ.ย. – ธ.ค. 2564 โดยจะต้องเริ่มชำระงวดแรกภายใน 30 วัน หลังจากวันที่รับรถ โดยเงื่อนไขในการผ่อนชำระให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ในสัญญาเช่าซื้อ

(3) ลูกค้าที่เป็นสมาชิกอีซูซุเอ็กเซลเลนซี่คลับและมีสถานะเป็น “เจ้าของรถ” ตามเงื่อนไขและข้อตกลงของโปรแกรม “อีซูซุเอ็กเซลเลนซี่คลับ” ณ วันเซ็นสัญญาเช่าซื้อกับบริษัท ตรีเพชรอีซูซุลิสซิ่ง จำกัด จะได้รับความคุ้มครองขยายการรับประกันเป็น 7 ปี หรือ 160,000 กม. แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งจะถึงก่อนสำหรับลูกค้าทั่วไปจะได้รับความคุ้มครองเป็น 5 ปี หรือ 160,000 กม. แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งจะถึงก่อน / รถที่มีสิทธิ์รับข้อเสนอพิเศษ ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขและข้อตกลงของโปรแกรมพิเศษ “อีซูซุสมาร์ทโพรเทคชั่น” / กรุณาศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมจากเงื่อนไขและข้อตกลงของโปรแกรมพิเศษ “อีซูซุสมาร์ทโพรเทคชั่น”

หมายเหตุ : เงื่อนไขเป็นไปตามสถาบันการเงินที่ร่วมรายการกับบริษัทฯ กำหนด / รายการส่งเสริมการขายนี้ไม่รวมรถรับจ้าง รถเช่า รถที่ซื้อภายใต้เงื่อนไขพิเศษอื่นๆ และรถที่ขายฟลีท / บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขโดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า / เฉพาะผู้จำหน่ายอีซูซุที่ร่วมโครงการ

Banner Image

ใหม่! อีซูซุดีแมคซ์ ไฮแลนเดอร์ 2 ประตู โปรแรงส์! แห่งปี ข้อเสนอเดียวกับ MOTOR EXPO 2021

รายละเอียด/เงื่อนไขของรายการ

(1) ข้อเสนอขับฟรีสูงสุด 90 วันจะเริ่มชำระค่าเช่าซื้องวดแรกภายใน 90 วัน นับตั้งแต่วันที่ทำสัญญาเช่าซื้อ / สำหรับลูกค้าที่ทำสัญญาเช่าซื้อกับบริษัท ตรีเพชรอีซูซุลิสซิ่ง จำกัด ระหว่างวันที่ 1 พ.ย. 2564 – 12 ธ.ค. 2564 และรับรถภายในวันที่ 31 ม.ค. 2565 โดยเลือกเงื่อนไขการผ่อนชำระได้สูงสุด 96 เดือน / เงื่อนไขไฟแนนซ์พิเศษสำหรับรับข้อเสนอขับฟรีสูงสุด 90 วัน เป็นไปตามที่ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุลิสซิ่ง จำกัด กำหนด

(2) ผ่อนเริ่มต้นปีแรก 6,776 บาท ต่อเดือน สำหรับเดือนที่ 1-12 และผ่อน 7,576 บาทต่อเดือน สำหรับเดือนที่ 13-96 คำนวณจากรุ่นไฮแลนเดอร์ LDA 2 ประตู 1,900 ซีซี เกียร์ธรรมดา สีธรรมดา กรณีดาวน์ 25% ผ่อน 96 เดือน ดอกเบี้ย 4.15% อ้างอิงอัตราดอกเบี้ย ณ เดือน พ.ย. – ธ.ค. 2564 โดยจะต้องเริ่มชำระงวดแรกภายใน 30 วัน หลังจากวันที่รับรถ โดยเงื่อนไขในการผ่อนชำระให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ในสัญญาเช่าซื้อ

หมายเหตุ : เงื่อนไขเป็นไปตามสถาบันการเงินที่ร่วมรายการกับบริษัทฯ กำหนด / รายการส่งเสริมการขายนี้ไม่รวมรถรับจ้าง รถเช่า รถที่ซื้อภายใต้เงื่อนไขพิเศษอื่นๆ และรถที่ขายฟลีท / บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขโดยมิ

Banner Image

ใหม่! อีซูซุดีแมคซ์ แค็บโฟร์ โปรแรงส์! แห่งปี ข้อเสนอเดียวกับ MOTOR EXPO 2021

รายละเอียด/เงื่อนไขของรายการ

(1) ข้อเสนอขับฟรีสูงสุด 90 วันจะเริ่มชำระค่าเช่าซื้องวดแรกภายใน 90 วัน นับตั้งแต่วันที่ทำสัญญาเช่าซื้อ / สำหรับลูกค้าที่ทำสัญญาเช่าซื้อกับบริษัท ตรีเพชรอีซูซุลิสซิ่ง จำกัด ระหว่างวันที่ 1 พ.ย. 2564 – 12 ธ.ค. 2564 และรับรถภายในวันที่ 31 ม.ค. 2565 โดยเลือกเงื่อนไขการผ่อนชำระได้สูงสุด 96 เดือน / เงื่อนไขไฟแนนซ์พิเศษสำหรับรับข้อเสนอขับฟรีสูงสุด 90 วัน เป็นไปตามที่ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุลิสซิ่ง จำกัด กำหนด

(2) ผ่อนเริ่มต้นปีแรก 6,304 บาทต่อเดือน สำหรับเดือนที่ 1-12 และผ่อน 7,104 บาทต่อเดือน สำหรับเดือนที่ 13-96 คำนวณจากรุ่นแค็บโฟร์ เอส 1,900 ซีซี เกียร์ธรรมดา สีธรรมดา กรณีดาวน์ 25% ผ่อน 96 เดือน ดอกเบี้ย 3.95% อ้างอิงอัตราดอกเบี้ย ณ เดือน พ.ย. – ธ.ค. 2564 โดยจะต้องเริ่มชำระงวดแรกภายใน 30 วัน หลังจากวันที่รับรถ โดยเงื่อนไขในการผ่อนชำระให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ในสัญญาเช่าซื้อ

หมายเหตุ : เงื่อนไขเป็นไปตามสถาบันการเงินที่ร่วมรายการกับบริษัทฯ กำหนด / รายการส่งเสริมการขายนี้ไม่รวมรถรับจ้าง รถเช่า รถที่ซื้อภายใต้เงื่อนไขพิเศษอื่นๆ และรถที่ขายฟลีท / บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขโดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า / เฉพาะผู้จำหน่ายอีซูซุที่ร่วมโครงการ

Banner Image

ใหม่! อีซูซุดีแมคซ์ ไฮแลนเดอร์ 4 ประตู โปรแรงส์! แห่งปี ข้อเสนอเดียวกับ MOTOR EXPO 2021

รายละเอียด/เงื่อนไขของรายการ

(1) ข้อเสนอขับฟรีสูงสุด 90 วัน จะเริ่มชำระค่าเช่าซื้องวดแรกภายใน 90 วัน นับตั้งแต่วันที่ทำสัญญาเช่าซื้อ / สำหรับลูกค้าที่ทำสัญญาเช่าซื้อกับบริษัท ตรีเพชรอีซูซุลิสซิ่ง จำกัด ระหว่างวันที่ 1 พ.ย. 2564 – 12 ธ.ค. 2564 และรับรถภายในวันที่ 31 ม.ค. 2565 โดยเลือกเงื่อนไขการผ่อนชำระได้สูงสุด 96 เดือน / เงื่อนไขไฟแนนซ์พิเศษสำหรับรับข้อเสนอขับฟรีสูงสุด 90 วัน เป็นไปตามที่ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุลิสซิ่ง จำกัด กำหนด

(2) ผ่อนเริ่มต้นปีแรก 7,785 บาทต่อเดือน สำหรับเดือนที่ 1-12 และผ่อน 8,585 บาทต่อเดือน สำหรับเดือนที่ 13-96 คำนวณจากรุ่นไฮแลนเดอร์ L DA 4 ประตู 1,900 ซีซี เกียร์ธรรมดา สีธรรมดา กรณีดาวน์ 25% ผ่อน 96 เดือน ดอกเบี้ย 3.95% อ้างอิงอัตราดอกเบี้ย ณ เดือน พ.ย. – ธ.ค. 2564 โดยจะต้องเริ่มชำระงวดแรกภายใน 30 วัน หลังจากวันที่รับรถ โดยเงื่อนไขในการผ่อนชำระให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ในสัญญาเช่าซื้อ

หมายเหตุ : เงื่อนไขเป็นไปตามสถาบันการเงินที่ร่วมรายการกับบริษัทฯ กำหนด / รายการส่งเสริมการขายนี้ไม่รวมรถรับจ้าง รถเช่า รถที่ซื้อภายใต้เงื่อนไขพิเศษอื่นๆ และรถที่ขายฟลีท / บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขโดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า / เฉพาะผู้จำหน่ายอีซูซุที่ร่วมโครงการ

Banner Image

ใหม่! อีซูซุวี-ครอส 4×4 โปรแรงส์! แห่งปี ข้อเสนอเดียวกับ MOTOR EXPO 2021

รายละเอียด/เงื่อนไขของรายการ

(1) ข้อเสนอขับฟรีสูงสุด 90 วัน จะเริ่มชำระค่าเช่าซื้องวดแรกภายใน 90 วัน นับตั้งแต่วันที่ทำสัญญาเช่าซื้อ / สำหรับลูกค้าที่ทำสัญญาเช่าซื้อกับบริษัท ตรีเพชรอีซูซุลิสซิ่ง จำกัด ระหว่างวันที่ 1 พ.ย. 2564 – 12 ธ.ค. 2564 และรับรถภายในวันที่ 31 ม.ค. 2565โดยเลือกเงื่อนไขการผ่อนชำระได้สูงสุด 96 เดือน / เงื่อนไขไฟแนนซ์พิเศษสำหรับรับข้อเสนอขับฟรีสูงสุด 90 วัน เป็นไปตามที่ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุลิสซิ่ง จำกัด กำหนด

(2) อ้างอิงอัตราดอกเบี้ย ณ เดือน พ.ย. – ธ.ค. 2564 ดอกเบี้ย 1.89% กรณีดาวน์ 25% ผ่อน 48 เดือน

หมายเหตุ : เงื่อนไขเป็นไปตามสถาบันการเงินที่ร่วมรายการกับบริษัทฯ กำหนด / รายการส่งเสริมการขายนี้ไม่รวมรถรับจ้าง รถเช่า รถที่ซื้อภายใต้เงื่อนไขพิเศษอื่นๆ และรถที่ขายฟลีท / บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขโดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า / เฉพาะผู้จำหน่ายอีซูซุที่ร่วมโครงการ

Banner Image

ใหม่! อีซูซุ เอ็กซ์-ซีรี่ส์ โปรแรงส์! แห่งปี ข้อเสนอเดียวกับ MOTOR EXPO 2021

รายละเอียด/เงื่อนไขของรายการ

(1) ข้อเสนอขับฟรีสูงสุด 90 วันจะเริ่มชำระค่าเช่าซื้องวดแรกภายใน 90 วัน นับตั้งแต่วันที่ทำสัญญาเช่าซื้อ / สำหรับลูกค้าที่ทำสัญญาเช่าซื้อกับบริษัท ตรีเพชรอีซูซุลิสซิ่ง จำกัด ระหว่างวันที่ 1 พ.ย. 2564 – 12 ธ.ค. 2564 และรับรถภายในวันที่ 31 ม.ค. 2565 โดยเลือกเงื่อนไขการผ่อนชำระได้สูงสุด 96 เดือน / เงื่อนไขไฟแนนซ์พิเศษสำหรับรับข้อเสนอขับฟรีสูงสุด 90 วัน เป็นไปตามที่ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุลิสซิ่ง จำกัด กำหนด

(2) ผ่อนเริ่มต้นปีแรก 6,776 บาทต่อเดือน สำหรับเดือนที่ 1-12 และผ่อน 7,576 บาทต่อเดือน สำหรับเดือนที่ 13-96 คำนวณจากรุ่นเอ็กซ์-ซีรีส์ สปีด 2 ประตู 1,900 ซีซี เกียร์ธรรมดา สีธรรมดา กรณีดาวน์ 25% ผ่อน 96 เดือน ดอกเบี้ย 4.15% อ้างอิงอัตราดอกเบี้ย ณ เดือน พ.ย. – ธ.ค. 2564 โดยจะต้องเริ่มชำระงวดแรกภายใน 30 วัน หลังจากวันที่รับรถ โดยเงื่อนไขในการผ่อนชำระให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ในสัญญาเช่าซื้อ

หมายเหตุ : เงื่อนไขเป็นไปตามสถาบันการเงินที่ร่วมรายการกับบริษัทฯ กำหนด / รายการส่งเสริมการขายนี้ไม่รวมรถรับจ้าง รถเช่า รถที่ซื้อภายใต้เงื่อนไขพิเศษอื่นๆ และรถที่ขายฟลีท / บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขโดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า / เฉพาะผู้จำหน่ายอีซูซุที่ร่วมโครงการ

Banner Image

ออลนิว มิว-เอ็กซ์ ดอกเบี้ยพิเศษ 1.39% หรือ ผ่อนเริ่มต้น 9,xxx บาท/เดือน ข้อเสนอเดียวกับ MOTOR EXPO 2021

รายละเอียด/เงื่อนไขของรายการ

(1) อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.39% ดาวน์ 30% ผ่อน 48 เดือน เมื่อซื้อรถ ออลนิว อีซูซุมิว-เอ็กซ์ ทุกรุ่น / เงื่อนไขเป็นไปตามสถาบันการเงินที่ร่วมรายการกับบริษัทฯ กำหนด / อ้างอิงอัตราดอกเบี้ยเดือน พ.ย. – ธ.ค. 2564

(2) ผ่อนเริ่มต้น 9,922 บาท ต่อเดือน คำนวณจากรุ่น Active 1,900 ซีซี เกียร์อัตโนมัติ สีธรรมดา กรณีดาวน์ 30% ผ่อน 96 เดือน ดอกเบี้ย 2.70% อ้างอิงอัตราดอกเบี้ยเดือน พ.ย. – ธ.ค. 2564

ดู Promotion Isuzu เพิ่มเติมได้ที่ – https://www.isuzu-tis.com/specialoffer/campaign/

Subaru

ข้อเสนอ Motor Expo 2021 เริ่มแล้ววันนี้ ซูบารุ ฟอเรสเตอร์ พร้อมทดลองขับที่บ้าน*

เติมความฝันให้ชีวิตของคุณด้วยรถ SUV ที่ไม่ธรรมดา! ทุกสิ่งที่คุณต้องการมีให้ในซูบารุ ฟอเรสเตอร์ ตั้งแต่ พื้นที่ใช้สอย ความปลอดภัย และการขับขี่ที่มั่นคง มาพร้อมด้วยคุณสมบัติด้านความปลอดภัยมากกว่า 100 รายการ ซูบารุ ฟอเรสเตอร์ พร้อมแล้วที่จะช่วยให้คุณปลอดภัยในทุกสภาพถนน

เดือนตุลาคมนี้ ถึงเวลาเปลี่ยนสู่ข้อเสนอที่ดีกว่าไปกับ ซูบารุ ฟอเรสเตอร์ รับสิทธิประโยชน์ 100,000 บาท

  • อัตราดอกเบี้ยพิเศษ
  • ฟรี ประกันภัยชั้น 1

พิเศษ! Trade-in รับเพิ่ม 50,000 บาท*

* เงื่อนไขและรายละเอียดเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด สำหรับลูกค้าที่จองและรับรถภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2564 เท่านั้น

ข้อเสนอ Motor Expo 2021 เริ่มแล้ววันนี้ ซูบารุ เอ็กซ์วี พร้อมทดลองขับที่บ้าน*

เป็นตัวเองไปให้สุดกับซูบารุ เอ็กซ์วี จีที ที่สปอร์ตน่าดึงดูด โฉบเฉี่ยวเป็นพิเศษ ด้วยชุดของตกแต่งมากมายไม่ว่าจะเป็น สเกิร์ตรอบคัน สปอยเลอร์หลังคา ล้ออัลลอยสุดโดดเด่น และระบบกล้องมองรอบทิศทาง มาพร้อมกับการอัพเกรดนวัตกรรมด้านความปลอดภัยกว่า 100 รายการ ที่จะทำให้ความมั่นใจของคุณกลับคืนมา

เดือนตุลาคมนี้ ถึงเวลาเปลี่ยนสู่ข้อเสนอที่ดีกว่า รถยนต์จัดแสดง ราคาเริ่มต้น 999,000 บาท*

* จำนวนจำกัดเฉพาะรุ่น 2.0i-P เท่านั้น และสำหรับลูกค้าที่จองรถภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2564 เท่านั้น

พร้อมบริการเสริม! ให้คุณอยู่บ้านอย่างปลอดภัย ซูบารุพร้อมนำรถทดลองขับให้บริการถึงหน้าบ้านคุณ

ออกซูบารุ เอ้าท์แบ็ค 2021 ใหม่วันนี้ รับฟรีประกันภัยชั้น 1

สัมผัสความหรูหราพร้อมความสปอร์ตยิ่งขึ้นใน ซูบารุ เอ้าท์แบ็ค 2021 ใหม่ เพลิดเพลินไปกับการออกแบบที่คล่องตัว และลงตัวยิ่งขึ้น ซูบารุ เอ้าท์แบ็ค 2021 ใหม่ พร้อมแล้วที่จะส่งมอบความสะดวกสบายและประสบการณ์ที่ดี ครั้งนี้มาพร้อมความปลอดภัยและสมรรถนะในการขับขี่คุณและคนที่คุณรักจะต้องเพลิดเพลินจากความเงียบสบายในอีกระดับ

เดือนตุลาคมนี้ ถึงเวลาเปลี่ยนสู่ข้อเสนอที่ดีกว่า

  • ดอกเบี้ยพิเศษ
  • ฟรี ประกันภัยชั้น 1

* เงื่อนไขและรายละเอียดเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด สำหรับลูกค้าที่จองและรับรถภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2564 เท่านั้น

ออกซูบารุ ดับบลิวอาร์เอ็กซ์ วันนี้ รับข้อเสนอสูงสุด 300,000 บาท*

* เงื่อนไขและรายละเอียดเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด สำหรับลูกค้าที่จองและรับรถภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2564 เท่านั้น

ดู Promotion Subaru เพิ่มเติมได้ที่ – https://www.subaru.asia/th/th/promotions/

Ford

Ranger October offers

โปรโมชั่น Ford ข้อเสนอคุ้มแล้วคุ้มอีก จาก ฟอร์ด – 31 ตุลาคม 2564

ฟอร์ด เอเวอเรสต์ เทรน

ราคาเริ่มต้น 1,299,000 บาท ราคาพิเศษ 1,199,000 บาท (จากราคาปกติ 1,599,000 บาท)

ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ไทเทเนียม พลัส 4X2

ราคาเริ่มต้น 1,499,000 บาท ดอกเบี้ย 0.49% ผ่อนนาน 48 เดือน

ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ไทเทเนียม พลัส 4X4

ราคาเริ่มต้น 1,799,000 บาท 0% อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0.99% ผ่อนนาน 36 เดือน

ฟอร์ด เอเวอเรสต์ สปอร์ต

ราคาเริ่มต้น 1,429,000 บาท ผ่อนเริ่มต้น 9,900 บาท

ฟอร์ด เรนเจอร์ แรพเตอร์

ราคาเริ่มต้น 1,729,000 บาท ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง FORD ENSURE

ฟอร์ด กระบะ FX4 MAX (ใหม่)

ราคาเริ่มต้น 1,189,000 บาท พิเศษ ดอกเบี้ย 0.99% ผ่อนนาน 48 เดือน

ฟอร์ด เรนเจอร์ ไวล์ดแทรค

ราคาเริ่มต้น 982,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 0.99% ผ่อนนาน 48 เดือน

ดู Promotion Ford เพิ่มเติมได้ที่ – https://www.ford.co.th/buying/latest-offers/

MG

โปรโมชั่น MG มอบโปรโมชั่นสุด Fun

จองรถ New MG ZS, MG HS, MG HS PHEV และ New MG Extender วันนี้ ขับฟรีสูงสุด 150 วัน* หรือเลือกรับดอกเบี้ย 0% นานสูงสุด 6ปี** พร้อมข้อเสนออีกมากมาย*** ที่โชว์รูม MG ทั่วประเทศ

หมายเหตุ

* เลื่อนการผ่อนชำระงวดแรกออกไป 150 วัน นับจากวันที่รับรถยนต์ เมื่อดาวน์เริ่มต้นที่ 25% ระยะเวลาผ่อนชำระ 48 เดือน โดยมีดอกเบี้ยพิเศษสำหรับรุ่น New MG ZS ที่ 2.19%, MG HS PHEV และ MG HS ที่ 0.39%, New MG Extender รุ่น Double cab ที่ 2.64% และรุ่น Giant cab ที่ 2.84%

** ดอกเบี้ยพิเศษ 0% เฉพาะรุ่น MG HS PHEV และ MG HS เมื่อดาวน์เริ่มต้นที่ 25% ระยะเวลาผ่อนชำระ 72 เดือน และสำหรับรุ่น NEW MG EXTENDER ทุกรุ่นเมื่อดาวน์เริ่มต้นที่ 25% ระยะเวลาผ่อนชำระ 48 เดือน

*** ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่งพร้อม พ.ร.บ. นาน 1 ปี สำหรับรุ่น New MG ZS มูลค่า 22,189 บาท, MG HS PHEV มูลค่า 25,703 บาท, MG HS มูลค่า 25,089 บาท, New MG Extender รุ่น Double Cab มูลค่า 23,193 บาท และรุ่น Giant Cab มูลค่า 22,639 บาท (เฉพาะเบี้ยประกันบุคคลธรรมดาเท่านั้น)

MG3

  • ผ่อนเริ่มต้น 2,604 บาท ระยะเวลา 1 ปี
  • ฟรี! ประกันภัยชั้นหนึ่ง พร้อม พ.ร.บ. นาน 1 ปี

MG5

  • ดาวน์เริ่มต้น 5% หรือ ดอกเบี้ย 0.55% นาน 6 เดือน
  • ฟรี! ประกันภัยชั้นหนึ่ง พร้อม พ.ร.บ. นาน 1 ปี

MG EP

  • ขับฟรีสูงสุด 90 วัน หรือ เลือกรับดอกเบี้ย 1.89%
  • ฟรี! MG HOME CHARGER จำนวน 1 ชุด
  • ฟรี! ค่าติดตั้ง MG HOME CHARGER ฟรี! ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. คุ้มครอง 1 ปี
  • ฟรี! ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. คุ้มครอง 1 ปี
  • พิเศษ! เงื่อนไขการรับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

MG ZS

  • MG รีสตาร์ท ฟื้นพลังความสุข จองรถ NEW MG ZS วันนี้ ขับฟรี 150 วัน หรือ
  • เลือกรับอุปกรณ์ตกแต่งแท้จาก MG ในแบบ “Smart Design” หรือ ในแบบ “Smart Utility” มูลค่าสูงสุดไม่เกิน 22,061 บาท
  • ฟรี! ประกันภัยชั้นหนึ่ง พร้อม พ.ร.บ. นาน 1 ปี

MG HS

  • MG รีสตาร์ท ฟื้นพลังความสุข จอง MG HS วันนี้ ขับฟรี 150 วัน หรือ เลือกรับดอกเบี้ย 0% นาน 6 ปี
  • พิเศษ ขยายระยะเวลารับประกันคุณภาพรถยนต์ 5 ปี หรือ 150,000 กม.
  • ฟรี! ประกันภัยชั้นหนึ่ง พร้อม พ.ร.บ. นาน 1 ปี
  • พิเศษ สำหรับ MG HS รุ่น D รับส่วนลดพิเศษ 20,000 บาท

MG HS PHEV

  • MG รีสตาร์ท ฟื้นพลังความสุข จอง MG HS PHEV วันนี้ ขับฟรี 150 วัน หรือ เลือกรับดอกเบี้ยพิเศษ นาน 6 ปี
  • ฟรี! MG HOME CHARGER จำนวน 1 ชุด
  • ฟรี! ค่าติดตั้ง MG HOME CHARGER
  • ฟรี! ค่าบำรุงรักษาตามระยะนาน 5 ปี
  • ฟรี! ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. คุ้มครอง 1 ปี
  • พิเศษ! เงื่อนไขการรับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี ไม่จำกัดระยะทาง

MG Extender

  • MG รีสตาร์ท ฟื้นพลังความสุข จอง NEW MG EXTENDER วันนี้ ขับฟรี 150 วัน หรือ เลือกรับดอกเบี้ยพิเศษ 0% นาน 6 ปี
  • ขยายการรับประกันคุณภาพเป็น 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
  • ฟรี! ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. นาน 1 ปี
  • พิเศษ! สำหรับลูกค้าเก่าเอ็มจี (Loyalty Program) หรือ นำรถเก่าแลกรถใหม่ (Trade-in) [6] รับสิทธิ์ ส่วนลดเพิ่มเติมสูงสุด 20,000 บาท
  • ฟรี ค่าแรงเช็กระยะ 100,000 กิโลเมตร

ดู Promotion MG เพิ่มเติมได้ที่ – https://www.mgcars.com/th/Promotion

Great Wall Motor – ORA

เกรท วอลล์ มอเตอร์ ส่งมอบแคมเปญ ORA Good Cat PREMIERE DEAL สำหรับช่วงการเปิดตัว ในระหว่างวันที่ 29 ตุลาคม  2564 เวลา 20.00 น. ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2564 เวลา 23.59 น. ที่อัดแน่นไปด้วยข้อเสนอสุดพิเศษมากมาย อาทิ

  • ดอกเบี้ยพิเศษ 79% นาน 48 เดือน มูลค่าสูงสุดไม่เกิน 18,000 บาท
  • ฟรี GWM โฮมชาร์จเจอร์พร้อมการติดตั้งในระยะสายไฟยาวไม่เกิน 20 เมตร จำนวน 1 ครั้ง (ไม่รวมค่าแท่นชาร์จ) มูลค่าสูงสุดไม่เกิน 60,000 บาท
  • ฟรี ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 เป็นระยะเวลา 1 ปี มูลค่าสูงสุดไม่เกิน 25,000 บาท
  • ฟรี ค่าแรงและค่าอะไหล่งานบำรุงรักษาตามระยะทาง (GWM PRO Service Inclusive : GPSI) จำนวน 5 ครั้ง ตลอดระยะเวลา 5 ปี หรือ 75,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) มูลค่าสูงสุดไม่เกิน 10,588 บาท
  • ฟรี บริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง ( Roadside Assistance ) เป็นระยะเวลา 5 ปี มูลค่า 10,000 บาท
  • ฟรี สิทธิ์ในการเรียกใช้บริการรับและส่งมอบรถยนต์เพื่อเข้ารับบริการบำรุงรักษาตามระยะทาง จำนวน 2 เที่ยว (ไป-กลับ) รวม 4 ครั้ง มูลค่ารวม 3,000 บาท (ฟรี ระยะทาง 10 กิโลเมตรแรก/ครั้ง และกิโลเมตรต่อไปคิดเป็นราคา 5 บาท/กิโลเมตร)
  • รับ GWM Point 15,000 คะแนน เพื่อแลกรับของสมมนาคุณและบริการต่างๆ บน GWM Application

รวมมูลค่าข้อเสนอสุดพิเศษภายใต้แคมเปญ ORA Good Cat PREMIERE DEAL กว่า 125,000 บาท

นอกจากนี้ ORA Good Cat ยังมาพร้อมการรับประกันคุณภาพตัวรถ (Factory Warranty & Roadside Assist) ครอบคลุมระยะเวลา 5 ปี หรือระยะทาง 150,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) และการรับประกันคุณภาพแบตเตอรี่ EV เป็นระยะเวลา 8 ปี หรือระยะทาง 180,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) อีกด้วย

เพื่อเป็นการขอบคุณและตอบแทนลูกค้าที่ให้การสนับสนุน All New HAVAL H6 Hybrid SUV เป็นอย่างดีมาอย่างต่อเนื่อง เกรท วอลล์ มอเตอร์ พร้อมมอบแคมเปญสุดพิเศษ BIG THANKS REWARD เพื่อมอบคะแนน GWM Point พิเศษอีก 10,000 คะแนน ให้กับลูกค้าทุกคน ทั้งลูกค้าเดิมที่ซื้อและรับรถยนต์ All New HAVAL H6 Hybrid SUV ไปแล้วตั้งแต่วันที่ 1 กรกฏาคม ที่ผ่านมา และลูกค้าใหม่ที่มีแผนจะซื้อและรับรถยนต์ตั้งแต่วันที่ 22 ตุลาคม ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน นี้

โดยจะได้รับคะแนน GWM Point เพิ่มอีก 10,000 คะแนน จากเดิม 15,000 คะแนน รวมเป็น 25,000 คะแนน

สำหรับแคมเปญ BIG THANKS REWARD มาพร้อมข้อเสนอและสิทธิพิเศษมากมาย อาทิ

  1. ดอกเบี้ยพิเศษ 1.79% นาน 48 เดือน มูลค่าสูงสุด 18,500 บาท
  2. ฟรี ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 เป็นระยะเวลา 1 ปี มูลค่าสูงสุด 25,000 บาท
  3. ฟรี ค่าอะไหล่และค่าแรงบำรุงรักษาตามระยะทาง (GWM Pro Service Inclusive – GPSI) สูงสุด 100,000 กิโลเมตร (ไม่รวมอะไหล่สิ้นเปลือง) ภายในระยะเวลา 5 ปี รวมมูลค่า 35,000 บาท
  4. ฟรี บริการส่งมอบรถยนต์ถึงบ้านทั่วประเทศ พร้อมน้ำมันเต็มถัง มูลค่ารวมสูงสุด 10,000 บาท
  5. รับ GWM Point 25,000 คะแนน เพื่อใช้แลกสินค้าและสิทธิประโยชน์ต่างๆ ใน GWM Application
  6. ฟรี บริการรับและส่งมอบรถยนต์สำหรับเข้ารับบริการบำรุงรักษาตามระยะทาง จำนวน 4 ครั้ง มูลค่า 3,000 บาท
  7. ฟรี บริการเช็กระยะตามตารางบำรุงรักษานอกสถานที่ให้กับลูกค้า จำนวน 2 ครั้ง มูลค่า 1,500 บาท
  8. ฟรี บริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง (Roadside Assistance) เป็นระยะเวลา 5 ปีเต็ม มูลค่า 10,000 บาท

รวมมูลค่าข้อเสนอสุดพิเศษภายใต้ BIG THANKS REWARD กว่า 100,000 บาท

ดู Promotion GWM Motor เพิ่มเติมได้ที่ – https://www.gwm.co.th/premiere-deal-terms-conditons/

Hyundai

Hyundai STARIA รถครอบครัวนิยามใหม่จากฮุนได มอบข้อเสนอต้อนรับทุกครอบครัว เมื่อซื้อรุ่น S หรือ SEL ดังนี้

(1)  ดาวน์เริ่มต้น 10% และผ่อนได้นานสูงสุด 84 เดือน

(2) ฟรีประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี

(3) ฟรีบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 5 ปี

(4) รับประกันคุณภาพ 5 ปี หรือ 150,000 กม.

(5) ลูกค้าเดิมฮุนได รับส่วนลดเพิ่ม 10,000 บาท

เงื่อนไขของข้อเสนอ STARIA :

(1) จำนวนเงินดาวน์เริ่มต้นที่ 10% ของราคารถยนต์สำหรับธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และ 15% สำหรับบริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด, ระยะเวลาในการผ่อนชำระนานสูงสุด 84 เดือน โดยเกณฑ์การพิจารณาจะเป็นไปตามที่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัดกำหนด

(2) ฟรี ประกันภัยชั้น 1 ระยะเวลา 1 ปี มูลค่าสูงสุดไม่เกิน 30,985.64 บาท จากบริษัท โตเกียวมารีนประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ บริษัท แอลเอ็มจี ประกันภัย จำกัด (มหาชน) เท่านั้น โดยเงื่อนไขการรับประกันภัยและทุนประกันภัยเป็นไปตามที่ระบุในกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ซึ่งออกโดยบริษัทประกันภัย

(3) บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชม. (Roadside Assistance) นาน 5 ปี มูลค่า 8,950 บาท

(4) การรับประกันคุณภาพ 5 ปี หรือ 150,000 กม.

(5) พิเศษ สำหรับลูกค้าเดิมที่เป็นเจ้าของรถยนต์ฮุนได รับส่วนลดเพิ่มเติมอีก 10,000 บาท

ดู Promotion Hyundai เพิ่มเติมได้ที่ – https://www.hyundai.co.th/shopping-tools/promotions/

Volvo

รับข้อเสนอพิเศษ ที่โชว์รูมรถยนต์วอลโว่ทุกสาขา 1 – 18 พฤศจิกายน 2564 เท่านั้น

ดู Promotion Volvo เพิ่มเติมได้ที่ – https://www.volvocars.com/th-th/buy/discover/offers

Mercedes-Benz

Limitless Offers

Limitless Offers ข้อเสนอเดียวกับ Motor Expo สำหรับ A-Class, GLA, GLB, CLS 220 d และ Mercedes-AMG GLC 43 Coupé

  • ฟรี! ประกันภัยชั้นหนึ่ง Mercedes-Benz Protection นาน 3 ปี เมื่อทำสัญญามายสตาร์ หรือสัญญาเช่าทางการเงิน

Limitless Offers

Limitless Offers ข้อเสนอเดียวกับ Motor Expo สำหรับ C 220 d, C 300 e AMG Sport, C-Class Coupé, GLC, E 220 d และ Mercedes-AMG C 43 4MATIC Coupé

ลูกค้าเลือกรับอย่างใดอย่างหนึ่งจากข้อเสนอดังต่อไปนี้

  • ฟรี! MBSP โปรแกรมขยายการรับประกันคุณภาพของรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ แพ็กเกจ Advance เป็นเวลา 5 ปี ‘ไม่จำกัดระยะทาง’
  • หรือเลือกรับ! ส่วนลดเงินดาวน์ 5% เมื่อทำสัญญาเช่าซื้อ
  • หรือฟรี! ประกันภัยชั้นหนึ่ง Mercedes-Benz Protection นาน 4 ปี เมื่อทำสัญญามายสตาร์ หรือสัญญาเช่าทางการเงิน

Limitless Offers

Limitless Offers ข้อเสนอเดียวกับ Motor Expo สำหรับ GLC 220 d Coupé และ GLC 300 e Coupé

ลูกค้าเลือกรับอย่างใดอย่างหนึ่งจากข้อเสนอดังต่อไปนี้

  • ฟรี! MBSP โปรแกรมขยายการรับประกันคุณภาพของรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ แพ็กเกจ Advance เป็นเวลา 5 ปี ‘ไม่จำกัดระยะทาง’
  • หรือฟรี! ประกันภัยชั้นหนึ่ง Mercedes-Benz Protection นาน 4 ปี เมื่อทำสัญญามายสตาร์ หรือสัญญาเช่าทางการเงิน

Limitless Offers

Limitless Offers ข้อเสนอเดียวกับ Motor Expo สำหรับ E 300 e และ Mercedes-AMG CLS 53 4MATIC+

  • ฟรี! ประกันภัยชั้นหนึ่ง Mercedes-Benz Protection นาน 4 ปี เมื่อทำสัญญามายสตาร์ หรือสัญญาเช่าทางการเงิน

Limitless Offers

Limitless Offers ข้อเสนอเดียวกับ Motor Expo สำหรับ GLE 350 de และ GLS 350 d

  • ฟรี! ประกันภัยชั้นหนึ่ง Mercedes-Benz Protection นาน 1 ปี

สิทธิพิเศษนี้เฉพาะลูกค้าที่รับมอบรถยนต์ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 – 31 ธันวาคม 2564 ที่ผู้จำหน่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่างเป็นทางการทั่วประเทศ

ดู Promotion Mercedes-Benz เพิ่มเติมได้ที่ – https://www.mercedes-benz.co.th/th/passengercars/buy/promotions/stage.module.html

BMW

Doctor and SMEs offers

ข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับกลุ่มอาชีพแพทย์* และผู้ประกอบการธุรกิจ SME ** ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ธันวาคม 2564

  1. อัปเกรด BSI (บริการดูแลบำรุงรักษา) เป็น 10 ปีหรือ 100,000 กิโลเมตร เมื่อจองรถพร้อม BSI Ultimate Package
  2. อัปเกรด Warranty (การรับประกัน) เป็น 8 ปี หรือ 200,000 กิโลเมตร เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด
  3. ฟรี BMW Protect (ประกันภัยชั้นหนึ่ง) สูงสุด 3 ปี
  • สัญญาทางการเงินแบบ Hire Purchase Flat Rate, Hire Purchase with Balloon – ฟรี BMW Protect (ประกันภัยชั้นหนึ่ง) 1 ปี
  • สัญญาทางการเงินแบบ Financial Lease – ฟรี BMW Protect (ประกันภัยชั้นหนึ่ง) 2 ปี
  • สัญญาทางการเงินแบบ Freedom Choice (ได้บางรุ่น) – ฟรี BMW Protect (ประกันภัยชั้นหนึ่ง) 3 ปี

ดู Promotion BMW เพิ่มเติมได้ที่ – https://www.bmw.co.th/

รวมรถเด่น รถใหม่ รถเปิดตัวล่าสุด ในงาน Motor Expo 2020

งาน Motor Expo 2020 (มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 37) มาภายใต้แนวคิด “พร้อมขับเคลื่อน ไปในความเปลี่ยนแปลง” หรือ “Whatever Changes will be…Move on” หลังจากที่ต้องเผชิญกับโควิด-19 อ่วมกันถ้วนหน้าเกือบทั้งปี ผู้บริโภคเอง กำลังซื้อหดหายไปอย่างมากในปีนี้ ค่ายรถจึงต้องอัดแคมเปญ โปรโมชั่น เปิดตัวรถใหม่กันแบบโหมกระหน่ำ!

โดยในงาน Motor Expo 2020 นี้ มีรถยนต์ที่ร่วมงานมากถึง 31 แบรนด์ จาก 8 ประเทศ และรถจักรยานยนต์อีก 21 แบรนด์ จาก 10 ประเทศ รวมถึงจัดแสดงเรือ และอุปกรณ์เกี่ยวเนื่องมากมาย คาดยอดขายกระฉูดเม็ดเงินสะพัดกว่า 35,000 ล้านบาท

ไหนๆ จะไปดู ไปซื้อรถใหม่ที่งาน Motor Expo 2020 กันแล้ว ถ้าคุณอยากขายรถคันเดิม หรือรับเป็นเงินก้อนไปใช้ สามารถขายรถคันเดิมกับ CARRO ได้ เราพร้อมรับซื้อรถของคุณ ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ CARRO Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน Fanpage CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothai หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

นอกจากโปรโมชั่นพิเศษมากมายแล้ว งานนี้ยังมอบโชคคืนกำไรให้แก่ผู้ชมงาน ทั้ง ซื้อรถ…ชิงรถ / ซื้อบัตร…ชิงรถ / ซื้อสินค้า…ชิงรถ / ซื้อมอเตอร์ไซค์…ชิงบิกไบค์ / ชม Motor Expo Online ชิงรางวัล รวมถึงลุ้นชิงรางวัลอื่นๆ จากการซื้อสินค้าอีกมากมาย

และยังมีรถ Shuttle Bus รับ-ส่ง ฟรี! จาก 3 จุดในกรุงเทพฯ และที่รังสิต รอบแรก 11.00 น. รอบสุดท้าย 20.30 น. ส่วนขาออกงาน รอบแรก 12.00 น. รอบสุดท้าย 22.30 น ให้คุณเดินทางมาชมงานได้อย่างสะดวกสบาย

ทาง CARRO อยากให้คนรักรถทุกท่าน หาเวลาว่าง ไปเดินเที่ยวชมงานกันครับ … เชิญชมกับภาพบรรยากาศภายในงาน Motor Expo 2020 ได้เลยครับ

Toyota-GR-Yaris

Toyota GR Yaris

Toyota-Innova-Crysta-2021

Toyota Innova Crysta

Lexus-IS300h

Lexus IS 300h

Lexus-UX300e

Lexus UX 300e

Lexus-LS500h

Lexus LS 500h

Honda-City-Hatchback-2021

Honda City Hatchback

Honda-City-eHEV-2021

Honda City e:HEV

Nissan-Note-2020

Nissan Note 2020

Nissan-Navara-PRO4X-2021

Nissan Navara PRO-4X

BMW-Series-4-Coupe-2021

BMW 430i Coupe M Sport

BMW-X1-2021

BMW X1 sDrive20d M Sport

Volvo-XC40-Recharge-2021

Volvo XC40 Recharge

Porsche-Panamera-GTS-2021

Porsche Panamera GTS

KIA-Carnival-2021

KIA Carnival

MG-EP-Wagon-2021

MG EP EV

MG-HS-PHEV-2021

MG HS PHEV

Audi-e-Tron-Sportback

Audi e-tron Sportback

Rolls-Royce-Ghost-Extended-2021

Rolls-Royce Ghost Extended

Maserati-Ghibli-Hybrid

Maserati Ghibli Hybrid

Mercedes-Benz-GLA-200-AMG-Dynamic

Mercedes-Benz GLA 200 AMG Dynamic

Ford-Ranger-2021

Ford Ranger

Ford-Everest-2021

Ford Everest

โดยงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2020 ปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 2 – 13 ธันวาคม 2563 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ 1-3 เมืองทองธานี

หากท่านใดที่อยากได้บัตรเข้างาน Motor Expo 2020 ฟรี! ง่ายๆ ดูรายละเอียดการขอบัตรได้ในนี้เลย —> https://th.carro.co/blog/carro-ticket-motor-expo/

Thailand-Monthly-Car-Sales-Volume

สถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนตุลาคม 2563 มียอดขายรวมทั้งสิ้น 74,115 คัน ลดลง 1.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ประกอบด้วย รถยนต์นั่ง 22,461 คัน ลดลง 20.7% รถเพื่อการพาณิชย์ 51,654 คัน เพิ่มขึ้น 10.4% ขณะที่รถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเมนท์นี้ มีจำนวน 40,837 คัน เพิ่มขึ้น 9.3% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมา เนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 ในประเทศกำลังไปในทิศทางที่ดีขึ้น

ประกอบกับการที่รัฐบาลได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง อาทิเช่น โครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” โครงการ “คนละครึ่ง” และมาตรการ “ช้อปดีมีคืน” ช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภค อีกทั้งราคาพืชผลทางการเกษตรหลายรายการปรับตัวดีขึ้น ทำให้เกษตรกรเริ่มมีรายได้สูงขึ้น และกำลังซื้อมีเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ซึ่งส่งผลในเชิงบวกกับตลาดรถยนต์

Nissan-Navara-Pro-4X-2021

ส่วนตลาดรถยนต์สะสม 9 เดือน มีปริมาณการขาย 534,765 คัน ลดลง 29.8% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตลดลง 38.2% ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเติบโตลดลง 24.2% เป็นผลกระทบมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19

ส่วนตลาดรถยนต์สะสม 10 เดือน มีปริมาณการขาย 608,880 คัน ลดลง 27.3% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตลดลง 36.8% ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเติบโตลดลง 20.9% เป็นผลกระทบมาจากโควิด-19 มาตั้งแต่ต้นปี

บรรดาค่ายรถยนต์ต่างๆ พยายามอย่างเต็มที่ในช่วงปลายปี ให้เกิดการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค ทั้งการแนะนำรถใหม่ๆ การออกกลยุทธ์ต่างๆ คาดหวังว่าตลาดรถยนต์ในเดือนพฤศจิกายนจะมีทิศทางที่ดีขึ้น

All-New-Isuzu-MU-X-2020

ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนตุลาคม 2563

1.     ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 74,115 คัน ลดลง 1.4%

อันดับที่ 1 โตโยต้า 25,709 คัน ลดลง 3.6% ส่วนแบ่งตลาด 34.7%
อันดับที่ 2 อีซูซุ
17,174 คัน เพิ่มขึ้น 44.8% ส่วนแบ่งตลาด 23.2%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 9,011 คัน ลดลง 7.2% ส่วนแบ่งตลาด  12.2%

2. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 22,461 คัน ลดลง 20.7%

อันดับที่ 1 ฮอนด้า 7,233 คัน ลดลง 6.9% ส่วนแบ่งตลาด 32.2%
อันดับที่ 2 โตโยต้า 6,245 คัน ลดลง 32.0% ส่วนแบ่งตลาด 27.8%
อันดับที่ 3 นิสสัน 2,602 คัน เพิ่มขึ้น 0.0% ส่วนแบ่งตลาด  11.6%

3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 51,654 คัน เพิ่มขึ้น 10.4%

อันดับที่ 1 โตโยต้า 19,464 คัน เพิ่มขึ้น 11.3% ส่วนแบ่งตลาด 37.7%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 17,174 คัน เพิ่มขึ้น 44.8% ส่วนแบ่งตลาด 33.2%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 2,985 คัน ลดลง 23.8% ส่วนแบ่งตลาด  5.8%

4. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน*  (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV) ปริมาณการขาย 40,837 คัน เพิ่มขึ้น 9.3%

อันดับที่ 1 โตโยต้า 16,622 คัน เพิ่มขึ้น 6.3% ส่วนแบ่งตลาด 40.7%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 16,010 คัน เพิ่มขึ้น 51.5% ส่วนแบ่งตลาด 39.2%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 2,985 คัน ลดลง 23.8% ส่วนแบ่งตลาด 7.3%

*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 4,127 คัน
โตโยต้า 2,783 คัน- มิตซูบิชิ 816 คัน – ฟอร์ด 452 – คัน- อีซูซุ 70 คัน – เชฟโรเลต 6 คัน

5. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 36,710 คัน เพิ่มขึ้น 11%

อันดับที่ 1 อีซูซุ 15,940 คัน เพิ่มขึ้น 59.8% ส่วนแบ่งตลาด 43.4%
อันดับที่ 2 โตโยต้า 13,839 คัน เพิ่มขึ้น 1.5% ส่วนแบ่งตลาด 37.7%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 2,198 คัน ลดลง 29.6% ส่วนแบ่งตลาด 6.0%

สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม – ตุลาคม 2563

1.  ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 608,880 คัน ลดลง 27.3%

อันดับที่ 1 โตโยต้า
182,840 คัน ลดลง 33.7% ส่วนแบ่งตลาด 30.0%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 140,700 คัน เพิ่มขึ้น 2.1% ส่วนแบ่งตลาด 23.1%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า
74,058 คัน ลดลง 31.0% ส่วนแบ่งตลาด 12.2%

2.  ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 211,222 คัน ลดลง 36.8%

อันดับที่ 1 ฮอนด้า 61,665 คัน ลดลง 25.3% ส่วนแบ่งตลาด 29.2%
อันดับที่ 2 โตโยต้า
51,921 คัน ลดลง 47.0% ส่วนแบ่งตลาด 24.6%
อันดับที่ 3 นิสสัน 21,951 คัน ลดลง 27.9% ส่วนแบ่งตลาด 10.4%

3.  ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 397,658 คัน ลดลง 20.9%

อันดับที่ 1 อีซูซุ 140,700 คัน เพิ่มขึ้น 2.1% ส่วนแบ่งตลาด 35.4%
อันดับที่ 2 โตโยต้า
130,919 คัน ลดลง 26.4% ส่วนแบ่งตลาด 32.9%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 27,814 คัน ลดลง 32.5% ส่วนแบ่งตลาด 7.0%

4.  ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน* (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV) ปริมาณการขาย 315,184 คัน ลดลง 22.6%

อันดับที่ 1 อีซูซุ
130,323  คัน เพิ่มขึ้น 4.2% ส่วนแบ่งตลาด 41.3%
อันดับที่ 2 โตโยต้า
112,207 คัน ลดลง 29.4% ส่วนแบ่งตลาด 35.6%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ
27,814 คัน ลดลง 32.5% ส่วนแบ่งตลาด 8.8%

*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 31,746 คัน
โตโยต้า 14,267 คัน – มิตซูบิชิ 7,386 คัน – อีซูซุ 4,225 คัน – ฟอร์ด 4,022 คัน – นิสสัน 1,174 คัน –เชฟโรเลต 672 คัน

5.  ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 283,438 คัน ลดลง 20.3%

อันดับที่ 1 อีซูซุ
126,098 คัน เพิ่มขึ้น 7.7% ส่วนแบ่งตลาด 44.5%
อันดับที่ 2 โตโยต้า
97,940 คัน ลดลง 28.2% ส่วนแบ่งตลาด 34.6%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ
20,428 คัน ลดลง 31.5% ส่วนแบ่งตลาด 7.2%

ส่วนถ้าใครอยากขายรถ เพื่อนำเงินไปใช้จ่ายในยุคเศรษฐกิจฝืดเคือง สามารถขายคันเก่ากับ CARRO Express ได้ เรายินดีรับซื้อรถของคุณ ได้เงินไว เร็ว พร้อมปิดการขายได้ทันที แค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรืออยากตีราคารถก่อน สามารถ Inbox สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothai หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

แหล่งที่มาจาก: