5-Methods-To-Prevent-COVID-19

ในช่วงปี 2563 – 2564 มานี้ ประเทศไทยต้องเผชิญกับวิกฤตใหญ่ ที่เกิดขึ้นในประเทศจีน แล้วแพร่หลายไปทั่วโลกอย่าง “โคโรนาไวรัส” หรือ “โควิด-19” สร้างความเสียหายให้กับสุขภาพ ทรัพย์สิน เศรษฐกิจ ไปอย่างมหาศาลในทั่วโลก ซึ่งทุกคนก็อย่าลืมดูแลรักษาสุขภาพกันด้วยนะครับ อย่าลืม Social Distrancing เว้นระยะห่างทางสังคม รวมถึง “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” กันนะครับ

แต่สำหรับหลายอาชีพที่เลี่ยงไม่ได้ ต้องใช้รถยนต์ทำงานทุกวัน (เช่น รถบริษัทส่งของ ส่งอาหาร) หรือรถยนต์สาธารณะอย่าง รถเมล์ รถตู้สาธารณะ แท็กซี่มิเตอร์ รถโรงแรม หรือรถที่วิ่งรับคนผ่าน App จะมีวิธีป้องกันเชื้อโรค และไวรัสต่างๆ ได้อย่างไร?

MR.CARRO จะมาแนะนำวิธีป้องกัน “โควิด-19” ให้ปลอดภัยทั้งคนขับและผู้โดยสารครับ.

5-Methods-To-Prevent-Coronavirus

1. เจลล้างมือ น้ำยาฆ่าเชื้อโรค

ถ้ารถของคุณเป็นรถที่ต้องใช้งานกันหลายๆ มือ หรือเป็นรถสาธารณะ ที่ต้องเน้นความสะอาดเป็นหลัก ก็ควรจะซื้อเจลล้างมือ หรือผ้าเช็ดมือ ติดรถไว้สักหน่อย เพื่อความสะอาดทั้งของคนขับเอง และทั้งมือของผู้โดยสารอีกด้วย พร้อมน้ำยาฆ่าเชื้อโรค ไว้สำหรับเช็ดในจุดที่ต้องสัมผัสบ่อยๆ

2. เน้นทำความสะอาด

ช่วงนี้อาจจะต้องฟิตทำความสะอาดรถยนต์สักนิดนึง ถ้าหากว่ารถของคุณ เบาะนั่งเป็นแบบผ้าสักหลาด หรือแบบผ้ากำมะหยี่ และพรมปูพื้นที่ชอบอมฝุ่น ก็ให้ใช้เครื่องดูดฝุ่น ดูดตามซอกตามมุมต่างๆ ที่เข้าถึงได้ยาก หรือใช้เทปกาวเหนียวๆ แปะไปตามจุดต่างๆ ของเบาะนั่ง หรือพรม แล้วก็ดึงขึ้นมา หรือจะใช้ลูกกลิ้งกำจัดขน หรือแปรงปัดขนก็ย่อมได้

แต่ถ้าเป็นเบาะแบบหนังเทียม (เบาะไวนิล) หรือเบาะหนังแท้ ก็ให้เตรียมแปรงสีฟัน ผ้าขนหนู กับน้ำหรือผสมสบู่เหลวใส่ลงไปหน่อยก็ได้ พร้อมสเตคลีน หรือน้ำยาทำความสะอาดเบาะหนัง (กรณีสกปรกมาก) บรรจงเช็ดลงบนเบาะให้สะอาด ก่อนจะซักผ้าที่เช็ด แล้วใช้น้ำยาฆ่าเชื้อโรคเช็ดซ้ำลงไปอีกรอบ

5-Methods-To-Prevent-Coronavirus

3. หน้ากากอนามัย

เนื่องจากรถยนต์ที่ใช้งานหลายคน หรือรถสาธารณะ มีการเปิดประตูเข้า-ออก หรือเปิดกระจกกันบ่อยๆ โอกาสที่ฝุ่นจากภายนอกรถ พร้อมเชื้อโรคก็มีโอกาสเข้ามาในรถได้เรื่อยๆ การติดหน้ากากอนามัยไว้ในรถ (และต้องใส่ให้ถูกวิธี ต้องให้ด้านที่เป็นสีอยู่ด้านนอก ให้บริเวณโครงลวดอยู่ด้านบนสันจมูก เพื่อปรับรูปหน้ากากให้เข้ากับใบหน้า)

นับเป็นเรื่องที่ดีกว่าไม่มี ซึ่งการใช้หน้ากากอนามัยทั่วไป ก็สามารถป้องกันเชื้อโคโรนาไวรัสได้แล้ว แต่เมื่อใส่แล้วก็ควรใส่ตลอด หากมีการถอดก็ควรเปลี่ยนชิ้นใหม่

4. เครื่องฟอกอากาศ

แม้ว่าระบบปรับอากาศในรถจะมีตัวกรองอากาศ หรือระบบฟอกอากาศต่างๆ ติดมาให้ แต่ในรถยนต์รุ่นเก่าๆ หรือรถรุ่นธรรมดา ระบบฟอกอากาศยังคงเป็นสิ่งที่ต้องติดตั้งเพิ่มเอง ซึ่งเหมาะมากสำหรับคนที่ต้องขับรถกันทั้งวัน

ในตลาดปัจจุบัน ก็มีเครื่องฟอกอากาศแบบพกพาจำหน่ายกันอยู่หลายเจ้า ซึ่งเครื่องฟอกอากาศที่มีคุณสมบัติน่าใช้งาน จะต้องกรองฝุ่นที่มีอนุภาคขนาดเล็ก หรือแบบพลาสม่าคลัสเตอร์ ที่คายประจุลบได้ นอกจากนี้ยังรวมไปถึงเชื้อโรค แบคทีเรีย เชื้อรา เชื้อไวรัส ที่ลอยอยู่ในอากาศ สารประกอบอินทรีย์ระเหย รวมไปถึงควันบุหรี่ และละอองจากเกสรดอกไม้ได้ เป็นต้น

5-Methods-To-Prevent-Coronavirus

5. จอดรถตากแดด

อีกวิธีหนึ่งที่ช่วยฆ่าเชื้อโรคได้เร็วขึ้น ในสภาวะอุณหภูมิปกติ นั่นคือการ “จอดรถตากแดด” เพราะบ้านเราเป็นเมืองที่ร้อนกันตลอดทั้งปี การใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ช่วยฆ่าเชื้อโรค ก็เป็นทางเลือกที่ดี

แต่ก็อย่าตากแดดกันทั้งวัน เพราะแทนที่จะฆ่าเชื้อโรค กลับกลายเป็นทำให้สีรถ หรือวัสดุภายในต่างๆ เสื่อม กรอบ หรือซีดเร็วขึ้น

เป็นอันว่า เมื่ออ่านจบแล้ว อย่าลืมนำไปลองปฏิบัติตามกันดูนะครับผม ส่วนใครที่กำลังมองหาที่รับซื้อรถมือสอง หรืออยากขายรถมือสอง อย่าลืมนึกถึง CARRO กันนะครับ

ในช่วง COVID-19 ระบาด ใครที่อยากขายรถ แต่ไม่อยากออกจากบ้าน นำรถไปตีราคาหลายๆ ที่ CARRO เรายินดีรับซื้อรถของคุณ พร้อมปิดการขายภายใน 24 ชั่วโมง! กับ CARRO Express แค่คลิก -> https://th.carro.co/sell-car/express หรือจะ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

และอีกหนึ่งบริการใหม่! CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check รับประกันพร้อมโอนทุกคัน ฟรี! ค่าจัดโอน มีให้เลือกชมเพียบ ซื้อรถ คลิก -> https://th.carro.co/taladrod/allcar/carro 

หรือสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่หาไม่ได้ สามารถสั่งตามออเดอร์ได้ที่นี้ > https://th.carro.co/buy-car หรือโทร. 02-508-8690 อีกทั้งยัง Inbox เข้ามาสอบถามก็ได้เช่นกันได้ที่ Facebook -> CARRO Automall – รถบ้านมือสอง หรือทาง Line เชิญเลยครับที่ @carroautomall

Keep-Plastic-Bottle-In-Car-Good-Or-Not

เรื่องนี้แม้ว่าจะเป็นเรื่องเก่าแล้ว แต่ก็ยังมีคนพูดถึงกันอยู่เรื่อยๆ เป็นประจำ กับการที่ต้องเก็บขวดน้ำดื่มไว้ในรถ แล้วต้องจอดรถตากแดดทั้งวัน เจออากาศร้อนๆ อบเข้าไป …

ยิ่งมีข่าวจากเว็บ Clickbait คอยโพสกันอยู่เรื่อยว่าเมื่ออากาศร้อนมากๆ หรืออุณหภูมิสูงๆ จะมีสาร BPA (Bisphenol A) หรือสาร Dioxin ในพลาสติกจะออกมาปนเปื้อนกับในน้ำ เมื่อดื่มเข้าไปบ่อยๆ ส่งผลต่อความผิดปกติของพันธุกรรม และยังเสี่ยงต่อการเกิดเป็นโรคมะเร็งได้

ซึ่งไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด! ในปัจจุบันก็ยังไม่มีการยืนยันที่แน่ชัด เกี่ยวกับสารเคมีต่างๆ ที่ละลายออกมาจากขวดพลาสติกที่ใส่น้ำ แต่จะมีอะไรบ้างนั้น MR.CARRO จะมาเล่าให้ฟัง

Keep-Plastic-Bottle-In-Car-Good-Or-Not

ปัจจุบัน ขวดน้ำพลาสติก นิยมทำจากพลาสติก 2 ชนิด ที่มีคุณสมบัติทนทาน มีน้ำหนักเบา เวลาขนส่งไม่แตกได้ง่าย คือ ขวดพลาสติกแบบ PE หรือ Polyethylene (โพลีเอทิลีน) ซึ่งจะมีสีขาวขุ่น

ส่วนขวดพลาสติกแบบไม่มีสี หรือขวด PET (Polyethylene Terephthalate) ซึ่งเป็นที่นิยมใช้มากกว่า ที่คนไทยรู้จักดีนั้น สามารถเก็บน้ำและวางไว้ในรถได้ แม้จะตากแดดร้อนๆ ก็ตาม …

โดยมีงานวิจัยจาก กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ทดลองโดยซื้อตัวอย่างน้ำดื่มที่บรรจุในขวดพลาสติกชนิด Polyethylene, Polyethylene Terephthalate, Polyethylene Polycarbonate และ Polyvinyl Chloride ที่จําหน่ายในตลาดสดและซุปเปอร์มาเก็ต จํานวน 18 ยี่ห้อ และนําไปวางในรถที่จอดกลางแดดเป็นเวลา 1 วัน และ 7 วัน

จากนั้นตรวจวิเคราะห์สารประกอบกลุ่ม Dionxin จํานวน 17 ตัว และ PCB จํานวน 18 ตัว โดยใช้เทคนิคขั้นสูง Isotope Dilution และวัดปริมาณด้วยเครื่องมือ High Resolution Gas Chromatography/High Resolution Mass Spectrometry ผลการวิเคราะห์สรุปว่า ตรวจไม่พบ สารประกอบกลุ่ม Dionxin และ PCB ในทุกตัวอย่าง

Keep-Plastic-Bottle-In-Car-Good-Or-Not

สรุปว่า ขวดน้ำพลาสติกที่เก็บในรถตอนแดดร้อนๆ นั้น ไม่ได้อันตรายหรือเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง เพราะขวด PET ก็สามารถเก็บน้ำไว้ได้นาน (แต่ไม่ใช่ตากแดดทั้งวันเป็นปีนะ) โดยมาตรฐานของขวด PET ทางกระทรวงสาธารณสุข ได้กำหนดไว้ว่าต้องทนต่อความร้อนจัด ตั้งแต่ 60’C ถึง 95’C

ซึ่งการออกแบบขวดน้ำพลาสติกเหล่านี้ แม้ว่าจุดประสงค์หลักคือการใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้งก็ตาม ถ้าหากจะใช้ซ้ำต้องล้างให้สะอาด แล้วผึ่งให้แห้ง ก่อนนำมาใช้งานใหม่ได้ แต่การล้างปากขวดนั้นถือเป็นสิ่งสำคัญ เพราะการใช้หลายๆ ครั้ง ถ้าล้างปากขวดไม่สะอาดอาจกลายเป็นที่สะสมเชื้อโรคได้!

แหล่งที่มาจาก:

จะโดน “ปาดหน้า” กี่ที ก็ไม่มีปัญหา
รวมข้อคิดดีๆ ที่ทำให้ใจไม่ร้อน ตามสภาพอากาศ

การโดน “ขับรถปาดหน้า” ถือเป็นปัญหาโลกแตกพอๆกับคำว่า วันนี้จะกินอะไรดี แต่ที่แย่กว่านั้นก็คือ การขับรถปาดหน้ามักเป็นต้นเหตุให้เกิดการปะทะ ทะเลาะวิวาท หรือถึงขั้นเกิดอุบัติเหตุเลยก็ได้ เป็นการเสียเงิน เสียเวลาโดยใช่เหตุ บางครั้งก็ถึงขั้นเสียชีวิต!

ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่มาจากชั่วโมงเร่งรีบบนท้องถนน จนคนบางคนลืมกฏจราจรไป ยิ่งการขับรถในกรุงเทพฯ ยิ่งเจอเหตุการณ์ “โดนปาดหน้า” ได้บ่อยกว่าชาวบ้าน เพราะคนกรุงเทพฯ มีวิถีชีวิตที่ต้องรวดเร็วในทุกๆอย่าง รวมไปถึง “การขับรถ” อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ขับรถ, หัวร้อน, คิดบวก, เทคนิค

แต่ถึงแม้ว่า เราจะแก้ไขปัญหา “การขับรถปาดหน้า” หรือหลีกเลี่ยงมันไม่ได้ แต่เราสามารถจัดการอารมณ์ของตนเองได้ หากตกอยู่ในสถานการณ์เหล่านี้ ซึ่งมีวิธีคิดบวกเบื้องต้น จากกรมสุขภาพจิต ที่จะช่วยลดความหงุดหงิด หรืออาการ “หัวร้อน” จากการโดนปาดหน้า เพื่อลดการทะเลาะวิวาท และการเกิดอุบัติเหตุ ที่สำคัญที่สุดคือ เพื่อรักษาสุขภาพจิตที่ดี วิธีการคิดบวกเบื้องต้น 5 ข้อ ก็ทำได้ง่ายๆ คือ

  1. คิดว่าเขาเป็นคนในครอบครัว เป็นญาติ เป็นครูบาอาจารย์ที่เราเคารพ
  2. คิดว่าเขารีบ เพราะมีเรื่องจำเป็นเร่งด่วนในชีวิตของลูก คนในบ้านหรือญาติๆ
  3. ร้องเพลง, เปิดเพลงที่ชอบ เพื่อระงับหรือเปลี่ยนอารมณ์ของตนเอง ไปในทางที่ดีขึ้น
  4. ฝึกการหายใจทางหน้าท้อง สูดลมหายใจเข้าและออกยาวๆ เพื่อบรรเทาความเครียด
  5. ขอบคุณคนที่ขับปาดหน้ารถ ที่ช่วยฝึกความอดทนให้กับเรา

การฝึกคิดแง่บวกในสถานการณ์แย่ๆเป็นเรื่องที่ดี ทั้งในเวลาที่เกิดเหตุการณ์และในระยะยาว เพราะจะฝึกให้เราเป็นคนใจเย็น มีสติมากขึ้น และการคิดบวกก็ไม่มีผลเสียตามมา ให้เราต้องรับผิดชอบในภายหลัง

ขับรถ-หัวร้อน-คิดบวก-เทคนิค

หวังว่าคุณผู้อ่านจะนำข้อคิดดีๆ 5 ข้อนี้ ไปปรับใช้ในการเดินทางในชีวิตประจำวัน หรือในช่วงสงกรานต์ที่กำลังจะมาถึง เพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัย ไม่หัวร้อน ไร้อุบัติเหตุ แถม save เงินค่าซ่อมรถไปได้อีกเยอะ!

 

แนะนำ 5 คลิปธรรมะเปิดฟังตอนรถติด

รถติด หงุดหงิด!! ลองเปิดคลิปธรรมะฟัง ผ่อนคลายอย่างไม่น่าเชื่อ!!

“รถติด” ปัญหาที่แก้ไม่หายจนกลายเป็นเรื่องปกติไปเสียแล้วในปจจุบันของคนที่อาคัยอยู่ในตัวเมืองกรุงเทพ ทำให้หลายคนมักหากิจกรรมต่างๆ ทำบนรถระหว่างรอไฟแดงที่นานแสนนาน อย่างเช่น เปิดเพลงโปรดฟัง เล่นมือถือ โยคะเฟส หรือยืดเส้นยืดสาย เป็นต้น

วันนี้ Carro (คาร์โร) จึงขอเสนออีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าสนใจอย่าง การเปิดคลิปธรรมะฟัง ที่อาจไม่แปลกสำหรับบางคนที่ทำกันเป็นประจำอยู่แล้ว แต่ก็เชื่อว่ายังมีบางคนก็ยังไม่เคยทำฟัง เราจึงนำช่องทางการหาฟัง ดังนี้

ธรรมะ : การปล่อยวาง

เสียงอ่านพระธรรมเทศนาพระโพธิญาณเถร (ชา สุภทฺโท) แห่งวัดหนองป่าพง ให้เสียงโดย ธรรมสภา

หมายเหตุ : ณ เวลา 29:46 ซึ่งระบุว่าพระอานนท์เป็นปุถุชนก่อนประชุมสังคายนาพระไตรปิฎก ขอแก้ไขข้อความดังกล่าวเป็นสำเร็จเป็น “พระโสดาบัน” ก่อนประชุมสังคายนาพระไตรปิฎก อ้างอิง: http://84000.org/tipitaka/attha/v.php… (พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๗ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๙ สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค ข้อที่ ๑๙๓)

ธรรมะ : การทำจิตใจให้สงบ

เสียงอ่านพระธรรมเทศนาพระโพธิญาณเถร (ชา สุภทฺโท) แห่งวัดหนองป่าพง ให้เสียงโดย ธรรมสภา

ธรรมะ : ทางสายกลาง

เสียงอ่านพระธรรมเทศนาพระโพธิญาณเถร (ชา สุภัทฺโท) แห่งวัดหนองป่าพง ให้เสียงโดย ธรรมสภา

ธรรมะ : วิธีควบคุมความคิดและความรู้สึกในแง่ลบ

เสียงอ่านพระนิพนธ์ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก วัดบวรนิเวศวิหาร

ธรรมะ : มือทำให้รวย หวยทำให้จน

ชีวิตของเราจะดีหรือไม่ จะสุขหรือจะทุกข์ขึ้นอยู่กับการทำงานของเรา ถ้าเราคิดเป็น ขยันทำงาน รู้จักเก็บออม ชีวิตก็ร่มเย็นเป็นสุข ถ้าคิดไม่เป็น ชีวิตติดหวยก็เข้าสู่วงจรของความทุกข์ และความจน โดย พระราชธรรมนิเทศ (พระพยอม กัลยาโณ)

เพลงคลายเครียด ดนตรีบำบัด

บำบัดความเครียดด้วยดนตรีบำบัด เพลงคลายเครียด ช่วยใหรู้สึกผ่อนคลายอารมณ์ ลดความวิตกกังวล รวมทั้งยังกระตุ้นประสาทสัมผัส การรับรู้ เสริมสร้างสมาธิอีกด้วย

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่ มาขายรถกับทาง Carro Express สิ! คลิกเลยที่ https://th.carro.co/sell-car/express รับรองได้เงินเร็ว ไว ทันใจแน่นอน!

Carro Automall ตลาดรถ

ส่วนใครสนใจจะซื้อรถมือสอง Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

ขอบคุณคลิปวิดิโอจาก Youtube:

4 วิธีรับมือจากฝุ่นควัน กทม. ที่เกินค่ามาตรฐาน

กทม. เกิดปรากฎการณ์สภาพอากาศนิ่ง ทำให้ฝุ่นละออง PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน

เนื่องจากในวันที่ 24 มกราคม 2561 ที่ผ่านมาพบว่าสภาพอากาศในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีสภาพอากาศที่อึมครึมคล้ายหมอกลงตลอดวัน และบางพื้นที่มีฝนตกลงมาด้วย แต่แท้ที่จริงเป็นฝุ่นควันอนุภาคขนาดเล็กจิ๋ว ที่มักเกิดจากไฟป่า หรือมลภาวะจากโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งหากมีในระดับสูงแล้วคนสูดดมเข้าไปจะเป็นผลเสียกับสุขภาพ

ซึ่ง เพจเฟซบุ๊กกรมควบคุมมลพิษ เปิดเผยว่า กทม. เกิดสภาพอากาศนิ่ง และชั้นอากาศผกผันใกล้พื้นดิน ทำให้มลพิษทางอากาศเกิดการสะสมตัวในปริมาณมาก ผลการตรวจวัดฝุ่นละออง PM 2.5 ใน กทม. เกินค่ามาตรฐานในทุกพื้นที่ ฝุ่นละออง PM 10 ยังไม่เกินค่ามาตรฐาน แหล่งกำเนิดมลพิษทางอากาศหลัก ได้แก่ การจราจร และรองลงมาคืออุตสาหกรรม และการเผาในที่โล่ง

ฝุ่นขนาด PM 2.5 หรือฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน คือ มลพิษฝุ่นที่มีขนาดเล็กกว่า 1 ใน 25 ส่วนของเส้นผ่าศูนย์กลางของเส้นผมมนุษย์ กล่าวคือเล็กมากจนกระทั่งสามารถเล็ดลอดขนจมูกเข้าสู่ร่างกาย สามารถแพร่กระจายเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ ถุงลมในปอด และผ่านเข้าสู่กระแสเลือดกระจายไปสู่อวัยวะต่างๆ ทั่วร่างกาย เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเรื้อรัง และมะเร็ง

PM 2.5 เกิดจากต้นเหตุสี่หลัก ได้แก่ การคมนาคมขนส่ง การเผาไหม้เครื่องยนต์ จากโรงงานการผลิตไฟฟ้า โรงงานอุตสาหกรรม การเผาขยะในที่โล่ง การเผาพืชเกษตร

โดยสามารถแบ่งเป็นฝุ่นที่เกิดจากแหล่งกำเนิดโดยตรงและเกิดจากการรวมตัวของก๊าซและมลพิษอื่นในบรรยากาศ โดยเฉพาะซัลเฟอร์ไดออกไซด์ และออกไซด์ของไนโตรเจน

PM 2.5 ยังเป็นมลพิษข้ามพรมแดนและปนเปื้อนอยู่ในชั้นบรรยากาศได้นาน เป็นที่รับรู้กันว่า PM 2.5 เป็นฝุ่นอันตรายไม่ว่าจะมีองค์ประกอบทางเคมีใดก็ตาม เช่น ปรอท แคดเมียม อาร์เซนิก หรือโพลีไซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอน (PAHs) เป็นต้น

กทม

องค์การอนามัยโลก (WHO) จึงกำหนดอย่างเป็นทางการให้ PM 2.5 จัดอยู่ในกลุ่มที่ 1 ของสารก่อมะเร็งในปี พ.ศ.2556

ในปี 2560 ระดับมลพิษในอากาศที่บันทึกโดยสถานีตรวจสอบ 19 แห่งใน 14 พื้นที่ทั่วประเทศไทยยังคงเกินค่ามลพิษจำกัดสูงสุดของ WHO โดยพื้นที่ที่มีระดับค่าเฉลี่ยรวมของฝุ่นมลพิษ PM 2.5 ตลอดทั้งปีสูงที่สุดคือ จังหวัดสระบุรี ที่วัดได้ 36 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และธนบุรีในกรุงเทพมหานครที่ 31 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร โดยทั้งสองพื้นที่มีระดับค่ามลพิษสูงกว่าค่ามลพิษจำกัดสูงสุดของ WHO ถึงสามเท่าตัว

ส่วนพื้นที่อื่นๆ ที่อยู่ในเกณฑ์เสี่ยง ได้แก่ สมุทรสาคร ราชบุรี ขอนแก่น และเชียงใหม่ ซึ่งปรากฏค่ามลพิษในระดับสูงถึงระหว่าง 25-30 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร โดยทั้งหมด 14 พื้นที่มีการตรวจวัดค่ามลพิษนั้นต่างมีระดับมลพิษสูงกว่าค่าจำกัดสูงสุดของ WHO ทั้งสิ้น ยิ่งไปกว่านั้น 9 จาก 14 พื้นที่ยังมีค่ามลพิษเกินมาตรฐานคุณภาพอากาศรายปีแห่งชาติอีกด้วย

กทม

ส่วนวิธีรับมือจากฝุ่นควัน กทม. ที่เกินค่ามาตรฐาน ดังนี้

1. สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว ระบบทางหายใจหรือโรคหัวใจและหลอดเลือด ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมภายนอกอาคาร และสวมใส่หน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่น

2. ขอความร่วมมือเจ้าของยานพาหนะดูแล รักษาเครื่องยนต์ให้อยู่ในสภาพดีและไม่ปล่อยควันดำ และถ้าเป็นได้ลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล หันไปใช้ระบบขนส่งมวลชนก็จะช่วยสถานการณ์และลดระดับความรุนแรงของสถานการณ์ได้

3. ใส่หน้ากากป้องกันเมื่อต้องอยู่ในสถานที่โล่งแจ้ง และหลีกเลี่ยงกิจกรรมภายนอกอาคาร

4. หากมีอาการทางสุขภาพฉับพลันควรรีบพบแพทย์โดยทันที

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่ มาขายรถกับทาง Carro Express สิ! คลิกเลยที่ https://th.carro.co/sell-car/express รับรองได้เงินเร็ว ไว ทันใจแน่นอน!

Carro Automall ตลาดรถ

ส่วนใครสนใจจะซื้อรถมือสอง Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

แหล่งที่มาของภาพและข้อมูลจาก:

เคล็ดลับ-อายุยืน

เคล็ดลับใกล้ตัวที่ยิ่งทำมากเท่าไร
ก็ยิ่งมีมีสุขภาพดีชีวิตยืนยาวมากเท่านั้น

การมีสุขภาพที่ดีกลายเป็นหนึ่งในเป้าหมายของใครหลายคนไปแล้ว ซึ่งช่วงเวลาหลังผ่านพ้นปีเก่าเข้าสู่ปีใหม่ในปี 2561 เชื่อว่าต้องมีคนกำลังจะใช้โอกาสนี้ตั้งเป้าหมายเปลี่ยนแปลงตัวเองเสียใหม่ วันนี้เราจึงนำเคล็ดลับอายุยืน แบบชาวอังกฤษ มาแชร์ใหคุณได้อ่านกัน

เคล็ดลับ-อายุยืน

ตามข้อมูลขององค์การสหประชาชาติ ชาวอังกฤษมีโอกาสที่จะอายุยืนถึง 79.6 ปี และสุขภาพที่ดีขึ้นของชาวอังกฤษในช่วงศตวรรษ 20 นั้น สาเหตุหลักคืออาหาร หลักโภชนาการ และสุขลักษณะที่ดีขึ้น อายุขัยเฉลี่ยของชาวอังกฤษเพิ่มขึ้นถึง 30 ปี ในช่วงปี 1990 ถึง 2010 จำนวนชาวอังกฤษที่มีชีวิตอยู่และได้รับบัตรอวยพรจากสมเด็จพระราชินีนาถในโอกาสวันเกิดครบ 100 ปีของพวกเขาสูงขึ้นถึง 50 เปอร์เซ็นต์ แต่นอกเหนือจากปัจจัยเหล่านี้ยังมีรูปแบบการใช้ชีวิตบางอย่างเป็นที่รู้กันว่าช่วยให้ชาวอังกฤษอายุยืนด้วยเช่นกัน

1.ปริมาณกิจกรรม

คนแข็งแรงที่เดินวันละ 30 นาที อายุยืนกว่าคนที่เดินน้อยกว่า ไม่ว่าจะมีไขมันสะสมในร่างกายมากน้อยเพียงใด แม้แต่คนที่น้ำหนักเกินก็มีหัวใจที่แข็งแรงขึ้นได้ด้วยการเดินให้มากขึ้นแค่สิบนาทีเพิ่มจากกิจวัตรประจำวัน ไม่จำเป็นต้องเข้ายิม แค่เคลื่อนไหวให้ได้ครึ่งชั่วโมงทุก ๆ วันก็เหลือเฟือแล้ว

2.ขาและลำตัวที่แกร่ง

ร่างกายช่วงล่างที่แข็งแกร่งทำให้เกิดสมดุล ความยืดหยุ่น และความทนทาน เมื่อแก่ตัวลงคุณสมบัตินี้คือ กุญแจลดความเสี่ยงการหกล้ม กระดูกสะโพกแตก/ร้าว หรืออาการบาดเจ็บอื่นๆ ที่นำไปสู่สุขภาพที่อ่อนแอเรื้อรัง ราว 1 ใน 5 ของคนทั่วโลกที่กระดูกสะโพกแตก/ร้าว กลายเป็นคนที่สุขภาพถดถอยและเสียชีวิตด้วยโรคแทรกซ้อน

3.ความมีวินัย

คนที่มองตัวเองว่าเป็นคนมีวินัย มีระเบียบ และบรรลุเป้าเสมอ จะมีแนวโน้มอายุยืนและมีความเสี่ยงโรคอัลไซเมอร์น้อยกว่าคนรุ่นราวคราวเดียวกัน นี่เป็นข้อสรุปของงานวิจัยที่ใช้เวลาถึง 12 ปีโดยศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยรัช ในชิคาโก ซึ่งพบว่าคนที่ตั้งสมาธิจดจ่อได้เก่งกว่าต้องออกกำลังสมองมากกว่า เพราะเหตุนี้แม้คุณจะเกษียณแล้วจงทำตัวให้ยุ่งเข้าไว้ ลองทำสิ่งใหม่ๆ เพื่อกระตุ้นสมอง

เคล็ดลับ-อายุยืน

4.น้ำหนักตัว

ไม่ใช่เรื่องใหม่อีกต่อไป น้ำหนักตัวเกินทำให้อายุสั้นได้จริง เพราะการแบกรับน้ำหนักที่เกินตัวสร้างความเสี่ยงทั้งต่อโรคเบาหวานชนิดที่ 2 โรคมะเร็งบางชนิด และโรคหัวใจ

5.การบริโภคเนื้อแดง

การกินเนื้อแดง (เช่น เนื้อวัว) หรือเนื้อสัตว์แปรรูปเพิ่มความเสี่ยงโรคมะเร็งลำไส้ ซึ่งเป็นมะเร็งที่พบมากอันดับที่สี่ คิดเป็นร้อยละ 42 ตามข้อมูลงานวิจัยใหม่ชิ้นหนึ่ง เนื้อสัตว์แปรรูปที่โดนโจมตีหนักคือ ฮอทด็อกและเบคอน ที่พบว่ากินเพียงแค่ 2 ออนซ์/ 50 กรัม ต่อวัน ซึ่งเท่ากับไส้กรอกแค่หนึ่งชิ้นก็เพิ่มโอกาสเป็นมะเร็งลำไส้ถึง 18 เปอร์เซ็นต์ ตามรายงานขององค์การอนามัยโลก

6.การมีเพื่อนฝูง

เพื่อนนั้นดีต่อสุขภาพ เพราะมิตรภาพที่อบอุ่นและเหนียวแน่นช่วยลดความเครียด ความเครียดเรื้อรังคือ บ่อนทำลายระบบภูมิคุ้มกัน แถมทำให้เซลล์แก่เร็ว สุดท้ายส่งผลให้ชีวิตเราสั้นลงได้ราวๆ 4-8 ปี

เพื่อนที่ดีต่อสุขภาพมากที่สุดคือคนที่ฟังคุณได้ทุกเรื่องโดยไม่ตัดสินคุณ ควรมีเพื่อนที่ร่างกายแข็งแรงด้วย เพราะมีงานศึกษาตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์นิวอิงแลนด์เผยว่า เมื่อเพื่อนๆ หรือครอบครัวคุณน้ำหนักเพิ่ม คุณมีแนวโน้มที่จะเป็นไปตามพวกเขา ดังนั้น พยายามอยู่ในวงล้อมของคนที่ฟิตเฟิร์ม มีความสุข ไม่ตัดสินคนอื่น ชอบออกกำลังกาย และสนุกกับชีวิตเข้าไว้ แล้วคุณจะทำแบบเดียวกัน

เคล็ดลับ-อายุยืน

7.เครื่องดื่มน้ำตาลสูง

นักวิทยาศาสตร์ที่วิทยาลัยสาธารสุขฮาร์วาร์ดได้วิเคราะห์งานวิจัย 11 ชิ้นโดยมุ่งมองที่ความเชื่อมโยงของการบริโภคเครื่องดื่มน้ำตาลสูง (ส่วนใหญ่เป็นน้ำอัดลม) กับโรคบางโรค ได้ข้อสรุปว่าการดื่มเครื่องดื่มน้ำตาลสูงวันละครั้งขึ้นไปเพิ่มความเสี่ยงภาวะหัวใจวาย 20 เปอร์เซ็นต์ และความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ถึง 26 เปอร์เซ็นต์ เทียบกันคนที่ดื่มเครื่องดื่มดังกล่าวไม่ถึง 1 ครั้งต่อเดือน คาดกันว่าการกระตุ้นต่อมรับรสด้วยความหวาน (จะจากธรรมชาติหรือสังเคราะห์) อยู่เป็นประจำ ทำให้แฟนๆ น้ำอัดลมติดอาหารรสหวานไปด้วย ซึ่งเป็นเหตุเพิ่มน้ำหนักตัว

8.การทำความสะอาดบ้าน

ไม่ใช่เรื่องความสะอาด แต่มันคือการ ‘ชะล้าง’ ร่างกาย การดูดฝุ่น กวาดพื้น หรือล้างหน้าต่างหนึ่งชั่วโมงช่วยเผาผลาญได้ถึงราวๆ 285 แคลอรี ลดความเสี่ยงการเสียชีวิตไปได้ 30 เปอร์เซ็นต์ ตามข้อมูลของงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ทำกับกลุ่มคนอายุ 70-80 กว่าปี

9.การคิดบวกอยู่เสมอ

ผู้คนที่มองชีวิตด้านบวก มีเป้าหมายในชีวิต และรู้สึกมีส่วนร่วมในสังคมนั้น มีสุขภาพดีกว่าผู้ใหญ่ที่ไม่ได้รู้สึกดีกับตัวเอง งานวิจัยหลายชิ้นที่ศึกษากลุ่มชนที่อายุยืนที่สุดในโลก (เช่น ชาวเมืองโอกินาวา ในญี่ปุ่น และบนเกาะอิคาเรีย ในกรีซ) พบว่าคนกลุ่มดังกล่าวเหมือนกันตรงการให้ความสำคัญอย่างมากกับครอบครัว เพื่อนฝูง และเพื่อนบ้าน พอๆ การทุ่มเททำงานหนัก

เคล็ดลับ-อายุยืน

เป็นอย่างไรกันบ้าง กับ 9 ข้อที่เราได้กล่าวมานี้เป็นเคล็ดลับง่ายๆใกล้ตัว ที่ยิ่งรู้ก็ยิ่งทำให้สุขภาพดีมีชีวิตยืนยาวแน่นอน รับรอง !!

 

เครดิต : hellomagazinethailand.com

 

20-สิ่งทำก่อน-40

วางแผน 20 สิ่งที่คุณควรเริ่มทำก่อนที่อายุจะ 40

ทุกวันนี้คุณเคยถามตัวเองกันบ้างไหม ? ว่าคุณอยากวางแผนชีวิตในอนาคตข้างหน้าไว้อย่างไร หรือเราอยากจะเริ่มแก่ไปเป็นแบบไหน ถ้าใครที่ยังไม่เริ่มต้นมองชีวิตในระยะยาวต้องรีบวางแผนกันได้แล้วนะ และถ้าชีวิตของคุณยังขาดสีสัน ควรลุกขึ้นมาทำอะไรสักอย่าง ก่อนที่คุณจะแก่เกินทำเรื่องอะไรพวกนี้แล้วก็ได้ ไปดูกันเลยดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง ที่จะทำให้คุณใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขยิ่งขึ้น

  1. ออกเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ

    20-สิ่งทำก่อน-40

  2. เลิกใช้บัตรเครดิต 20-สิ่งทำก่อน-40

  3. ลองเป็นอาสาสมัคร 20-สิ่งทำก่อน-40

  4. อ่านหนังสือดีๆ 20-สิ่งทำก่อน-40

  5. ออกกำลังกาย
    20-สิ่งทำก่อน-40

  6. เล่นดนตรี

    20 สิ่งทำก่อน 40

  7. หากิจกรรมที่ช่วยกระตุ้นอะดรีนาลีน เช่น เล่นเกม ปีนเขา โดดร่ม 20 สิ่งทำก่อน 40

  8. หาอะไรใหม่ๆที่ยังไม่เคยกิน และหาอาหารที่ดีต่อสุขภาพทาน 20 สิ่งทำก่อน 40

  9. ปลูกต้นไม้

    20 สิ่งทำก่อน 40

  10. เรียนดำน้ำ และออกไปดำน้ำในทะเลจริงๆ 20 สิ่งทำก่อน 40

  11. เป็นผู้ให้มากกว่าผู้รับ 

  12. ออกไปเที่ยวที่เคยอยากไปแต่ไม่ได้ไป

  13. ให้เวลากับตัวเอง

  14. เรียนหรืออบรมเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งที่ตนเองเคยสนใจแต่ยังไม่เคยลองเรียน

  15. ลองเรียนภาษาใหม่ๆ

  16. เล่นกีฬาที่ไม่เคยลอง

  17. พูดคุยกับครอบครัวให้มากขึ้น

  18. หาบทเรียน เพิ่มประสบการณ์ชีวิต

  19. วางแผนการเงิน

  20. คิดถึงเรื่องราวในอดีตที่ผ่านมา ทั้งดีและไม่ดี

 

ทั้ง 20 สิ่งที่กล่าวมาทั้งหมด เป็นการบอกให้คุณได้เตรียมตัว ก่อนจะเข้าวัยที่ไม่เหมือนเดิม เตรียมทั้งเรื่องของร่างกาย จิตใจ และพร้อมจะเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตที่แตกต่างไปจากเดิม

สุดท้าย เราหวังว่าอย่างน้อยสักครั้งหนึ่ง ให้คุณได้ทำบางอย่างในชีวิตที่อาจเคยคิดจะทำแต่ไม่มีเวลา ดังนั้น ตอนนี้ล่ะ ! เริ่มเลย !  เพราะเวลามันเคยรอใคร ออกไปใช้ชีวิตให้คุ้มกันเถอะ ! อย่างให้มาคิดเสียดายทีหลังว่าทำไมตอนนั้นไม่ได้ทำ

ท่าออกำลังกาย ขณะรถติด

มาออกกำลังกายกันเถอะ ด้วย 7 ท่าที่ทำได้แม้รถติด

ขณะที่คุณกำลังนั่งเบื่อหน่ายอยู่ในรถที่ติดนานๆ ทำได้แค่มองโน้นนี้นั้นไปเรื่อยๆ และหาอะไรทำเรื่อยเปื่อย รถก็ยังติดอยู่ที่เดิม ลองหันมาออกกำลังกายเบาๆ ภายในรถยนต์ของคุณดูสิ ด้วยท่าง่ายๆ ที่คุณสามารถทำได้ อีกทั้งยังทำให้คุณเกิดความเพลิดเพลิน และช่วยให้กล้ามเนื้อ Fit & Firm ขึ้นอีกด้วย คุณจะได้ไม่เสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์

 

1.ท่าออกกำลังกายบริหารกล้ามเนื้อขา

ยกขาซ้ายขึ้นจากพื้นและจากเก้าอี้ ในลักษณะที่เข่างอเล็กน้อย ยกค้างไว้ นับ 1-8 แล้ววางขาลงช้าๆ ถ้ารถยังไม่เขยื้อน ทำขาขวาต่อเลย ทำแบบนี้สลับไปมาสัก 4-5 รอบ ( มากกว่านี้ก็ได้ )

 

2.ท่าออกกำลังกายบริหารหน้าท้อง

ผ่อน หรือ คลายลมหายใจออก ช้าๆเต็มที่ ท้องแฟบเกร็งหน้าท้อง นับในใจ 1-8 แล้วสูดลมหายใจเข้าสึกๆ ช้าๆ นะ อย่ารีบ ท้องป่อง เกร็งหน้าท้องนับในใจ 1-8 แล้วคลายลมหายใจออกอีก ทำสลับกัน 4-5 รอบ ( มากกว่านี้ก็ได้ )

 

3.ท่าออกกำลังกายบริหารแขนและหน้าอก

วางมือทั้งสองข้างบนพวงมาลัยรถ วางมือซ้ายที่ตำแหน่ง 9 นาฬิกา และมือขวาที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกา เหยียดแขนทั้งสองข้างให้ตึง แล้วออกแรงผลักพวงมาลัยไปข้างหน้าช้าๆ ( ถ้ารถเคลื่อนให้ดึงเบรกมือไว้ชั่วคราว ) แล้หยุดนับ 1-8 แล้วเปลี่ยนทิศทางการออกแรง เป็นดึงพวงมาลัยเข้ามาหาตัวทำคล้ายๆกับเบรกรถจนตัวโก่งนั้นล่ะ แล้วหยุด นับ 1-8 ทำแบบนี้กลับไปกลับมา 4-5 รอบ ( มากกว่านี้ก็ได้ )

 

4.ท่าออกกำลังกายบริหารข้อศอก

ตั้งข้อศอกซ้ายทำมุม 90 องศากับลำตัว กำหมัดให้หมัดของคุณอยู่บริเวณแถวสะดือ ดันข้อศอกซ้ายเข้ากับพนักเก้าอี้ข้างๆนับ 1-8 แล้วสลับทำแบบเดียวกันกับข้อศอกขวา แต่ให้ดันข้อศอกขวาเข้ากับประตู ( อย่าลืมล็อคประตูรถก่อนนะ ) ทำแบบนี้กลับไปกลับมา 4-5 รอบ ( มากกว่านี้ก็ได้ )

 

5.ท่าออกกำลังกายบริหารสะโพก

ใช้มือทั้งสองข้างจับเนื้อสะโพก ( ถ้าทำมากๆได้ก็ให้ทำลงไปถึงแก้มก้นได้เลย ) บีบให้แน่น แน่นอนก้นของท่านจะทับมือ นับ 1-8 แล้วคลาย ( ทำเหมือนกับนวดกล้ามเนื้ออื่นๆ ) ทำซ้ำ 4-5 รอบ ( มากกว่านี้ก็ได้ )

 

6.ท่าออกกำลังกายบริหารหัวไหล่

ยกไหล่ขึ้นให้สูงที่สุด สูงจนรู้สึกคอหดเลยแล้วยกค้างไว้ 1-8 แล้วหมุนหัวไหล่ โดยหมุนไปด้านหลังก่อน แล้วหมุนควงหัวไหล่กลับมาด้านหน้า หมุนควงหัวไหล่ไปด้านหลัง แล้วหมุนควงหัวไหล่ไปด้านหน้า ถ้าทำผิดทางก็ไม่เป็นไร ทำอันไหนก่อนหลังก็มีค่าเท่ากันลดไหล่ลงตามปกติ แล้วก็ยกไหล่ขึ้นทำแบบเดิมซ้ำอีก ทำ 4-5 รอบ ( มากกว่านี้ก็ได้ )

 

7.ท่าออกกำลังกายบริหารกล้ามเนื้อหน้า

ท่านี้ต้องอาศัยความสามารถทางการแสดงเล็กน้อย โดยให้คุณทำหน้าทำตาแสดงอารมณ์ต่างๆ เช่น ตกใจ,เสียใจ,ดีใจ,และโกรธ ทำแต่ละท่าแล้วค้างไว้นับ 1-8 แล้วเริ่มแสดงหน้าตาท่าใหม่หมุนเวียนกันไป เพื่อบริหารกล้ามเนื้อแต่ละส่วนบนใบหน้า ( แต่ระวังอย่าไปทำใกล้ๆกระจก เดี๋ยวรถข้างๆเขาจะเข้าใจผิด )

 

หมายเหตุ : การออกกำลังกายในรถ จะเลือกทำท่าไหนก่อนก็ได้ แต่ควรพยายามทำสับเปลี่ยนหมุนเวียนให้ครบทุกท่านะจ๊ะ !

 

Source :
วารสารโรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน
siamca.com

ขับรถอย่าเล่นมือถือ

ขับรถอย่าเล่นมือถือ !!

เชื่อเถอะว่า หลายๆโครงการในประเทศไทยพยายามรณรงค์เรื่องนี้ และพูดอะไรทำนองมานานแล้ว แต่ก็ยังมีคนจำนวนมากที่เล่นมือถือไปขับรถไป เพราะประมาท และย่ามใจว่าคงไม่เกิดอุบัติเหตุขึ้นกับตัวเองแน่ๆ CARRO ไม่ขอพูดอะไรซ้ำซาก แต่จะขอหยิบยก 5 กรณีตัวอย่างนี้ เพื่อให้เหตุผล 5 ข้อกับคุณ มาเริ่มกันเลย

เล่นมือถือ ขับรถ ผิดกฎหมาย

1. Selfie อาจเปลี่ยนชีวิต!

เหตุการณ์เกิดขึ้นที่รัฐเท็กซัส ขณะที่สาวน้อยวัย 19 ปีกำลัง Selfie เพื่อส่งรูปถ่าย Sexy ของตัวเองให้แฟนหนุ่ม รถของเธอก็ชนท้ายรถตำรวจเข้าอย่างจัง!

ความพีคของเรื่องนี้คือขณะที่เกิดอุบัติเหตุ เธอกำลัง Selfie แบบ Topless (เปลือยท่อนบน) อยู่!

หลังจากตำรวจ (ซึ่งเป็นคู่กรณี) ลงจากรถมาสอบถามก็ต้องตะลึงกับสภาพเปลือยครึ่งท่อนของสาวคนขับ แถมยังพบว่าเบาะข้างคนขับมีไวน์ที่เปิดขวดแล้ววางอยู่ โดยสาวคนขับได้ให้การว่า เธอกำลัง Selfie และส่งรูปถ่ายลับๆ ให้กับหนุ่มคนรักขณะที่ีรถติดไฟแดง แต่พลาดอย่างไรก็ไม่ทราบ รถได้เลื่อนไปชนท้ายรถตำรวจซึ่งจอดติดไฟแดงอยู่ข้างหน้าอย่างเต็มเปา!

สุดท้ายสาวน้อยนางนี้ก็ถูกปรับด้วยข้อหาเมาแล้วขับ เป็นเงินจำนวน 2,000 ดอลลาร์สหรัฐ (คิดเป็นเงินไทยราว 70,000 บาท) แถมยังเป็นที่กล่าวขานในสังคมออนไลน์ไปอีกนาน

เล่นมือถือ ขับรถ ผิดกฎหมาย

2. เปลี่ยนเพลง 1 ที ฆ่า 4 ศพ!

เรื่องเกิดขึ้นเมื่อคนขับรถบรรทุกก้มมองสมาร์ทโฟนของตัวเองเป็นเวลา 45 วินาทีเพื่อเลื่อนเปลี่ยนเพลง จากนั้นรถของเขาก็ชนเข้ากับรถ SUV ของคุณแม่ลูกสามอย่างรุนแรง!

อุบัติเหตุนี้ไม่เพียงแต่ทำให้เทรซี่ คุณแม่ซึ่งกำลังขับรถเสียชีวิตทันทีเท่านั้น แต่ยังทำให้อีธาน จอช และเอมี่ ลูกทั้ง 3 ของเทรซี่เสียชีวิตหมดทุกคน!

ภาพจากกล้องวงจรปิดและกล้องที่ติดตั้งอยู่หน้ารถได้แสดงให้เห็นว่า ชายขับรถบรรทุกทำความผิดจริงด้วยการก้มหน้าก้มตาเลือกเพลงจากสมาร์ทโฟน จนต้องละสายตาจากถนนนานเกือบหนึ่งนาที และ 0.75 วินาทีหลังจากการชนเกิดขึ้น กล้องได้จับสีหน้าตื่นตกใจสุดชีวิตของเขาเอาไว้ได้ แต่ขณะนั้นมันสายเกินกว่าจะแก้ไขอะไรได้อีกแล้ว

ล่าสุดคนขับรถบรรทุกถูกตัดสินจำคุก 10 ปี ส่วนสามีของคุณแม่ที่เสียชีวิต (คุณพ่อของเด็กๆ) ต้องจัดงานศพให้กับสมาชิกครอบครัวที่จากไปพร้อมกันถึง 4 คน

เล่นมือถือ-ขับรถ-ผิดกฎหมาย

3. รถพังยับเพราะรีบกดรับอั่งเปา

ถือเป็นเรื่องซวยรับวันตรุษจีนเลยทีเดียว เมื่อหนุ่มชาวจีนมัวแต่รีบกดชิงอั่งเปาจากแอพฯ Wechat รู้ตัวอีกทีรถก็วิ่งเลยไปถึงสี่แยกและประสานงาเข้ากับรถอีกคันอย่างจัง!

อั่งเปาที่ว่านี้เป็นอั่งเปาออนไลน์ที่แจกกันในห้องสนทนากลุ่มของ Wechat ซึ่งอำนวยความสะดวกให้บรรดาผู้หลักผู้ใหญ่ไม่ต้องแจกอั่งเปาเป็นกระดาษในวันตรุษจีนอีกต่อไป แถมยังมีกติกา “มาก่อนได้ก่อน” ให้ลูกหลานได้สนุกสนานจากการแย่งชิงอั่งเปากันอีกด้วย

แต่การรีบกดรับอั่งเปาขณะขับรถก็ส่งผลน่ากลัวแบบนี้เอง แม้จะไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ แต่รถของหนุ่มชาวจีนผู้โชคร้ายก็ได้รับการประเมินค่าเสียหายราว 10,000 หยวน (ราวๆ 50,000 บาท) ซึ่งไม่รู้ว่าจะคุ้มกับเงินอั่งเปาที่ได้มาหรือไม่

เล่นมือถือ ขับรถ ผิดกฎหมาย

4. แค่คุยโทรศัพท์ทำรถชนยับ 10 คันรวด!

สาว 17 คุยโทรศัพท์ขณะขับรถแล้วเสียสมาธิจนเผลอขับรถฝ่าไฟแดง ส่งผลให้รถชนกัน 10 คันรวดบริเวณ 4 แยก!โชคดีที่เหตุการณ์นี้ไม่ได้ทำให้ใครต้องบาดเจ็บสาหัส แม้ว่าเรื่องราวจะแสนอลหม่านและเลอะเทอะเปรอะเปื้อน เพราะรถของเด็กสาวไปตัดหน้ารถขนดิน ทำให้รถขนดินพลิกคว่ำจนดินกองท่วมถนน อีกทั้งยังทำให้การจราจรติดขัดยาวเหยียด!

ผลจากเหตุการณ์นี้ทำให้เด็กสาวที่คุยโทรศัพท์ขณะขับรถถูกปรับเป็นเงิน 500 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 17,500 บาท) ด้วยข้อหาฝ่าสัญญาณไฟจราจร และใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ

เล่นมือถือ ขับรถ ผิดกฎหมาย

5. เล่นมือถือมือซ้าย ขี่มอเตอร์ไซค์มือขวา ชนท้ายรถข้างหน้าเต็มๆ!

เหตุการณ์ท้ายสุดนี้เกิดขึ้นที่ประเทศไทยของเรานี่เอง เมื่อหนุ่มเมืองนครศรีธรรมราชเล่นมือถือไปขับมอเตอร์ไซค์ไปจนลืมดูทาง แล้วชนเข้ากับรถปิคอัพซึ่งจอดอยู่ข้างทางอย่างจัง!

แม้ว่าเหตุการณ์นี้ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหนัก และไม่มีความเสียหายมากนัก แต่มันก็ทำให้ทั้งคนขับมอเตอร์ไซค์และเจ้าของรถปิคอัพเสียอารมณ์ไปตามๆ กัน!

นี่คือ 5 ตัวอย่างที่คุณไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง! และเป็น 5 เหตุผลที่ชัดเจนมากที่ควรจะเลิกเล่นมือถือขณะขับรถ จะเห็นได้ว่าไม่มีข้อไหนที่มีจุดจบอย่างสวยงามเลย แถมยังนำมาซึ่งการสูญเสีย ตั้งแต่ความรู้สึก ทรัพย์สินเงินทอง ไปจนถึงชีวิต

และอย่าลืมว่า การใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับขี่ยานพาหนะใดๆ โดยไม่มีอุปกรณ์เสริมช่วยในการสนทนา ตามกฎหมายถือว่ามีโทษปรับถึง 400 – 1,000 บาท ต่อให้ไม่เกิดอุบัติเหตุใดๆ มันก็ยังผิดกฎหมายอยู่ดี !

เอาเป็นว่าควรขับขี่อย่างไม่ประมาท ไม่เล่นโทรศัพท์มือถือหรืออุปกรณ์ใดๆ ขณะขับรถ เชื่อ CARRO เถอะ! เราจะได้อยู่ด้วยกันไปอีกนานๆ

7-11-Fuel-Cell-Truck

เซเว่น อีเลฟเว่น ญี่ปุ่น หรือที่รู้จักกันดีในนาม “7-11” ร้านสะดวกซื่อที่มีสาขามากที่สุดในญี่ปุ่น (มากถึง 19,638 สาขาทั่วประเทศ) และมีสาขาอยู่ไปทั่วโลก และมีอยู่แทบทุกซอยในบ้านเรา

ได้จับมือกับ โตโยต้า ในการใช้รถบรรทุกแบบ Fuel Cell Truck ที่ใช้พลังไฮโดรเจนเป็นเชื้อเพลิงในการขับเคลื่อน ขนส่งผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในอนาคต เพื่อต้อนรับสู่สังคม Low Carbon Society โดยลงนามในสัญญาไปแล้วเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2560 ที่ผ่านมา

7-11-Toyota-Full-Cell-Truck

7-Eleven และ Toyota Full Cell Truck

ทั้งนี้ ทางโตโยต้า ได้นำเสนอรถบรรทุก ฮีโน่ เอฟซี (Hino FC = Fuel Cell) พื้นฐานจาก Hino Dutro พร้อมระบบขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฮโดรเจน (FC Generators) ขนาด 600 ลิตร (3 ถัง) น้ำหนักรวม 7 กิโลกรัม และมอเตอร์ไฟฟ้า ให้แรงม้าสูงสุด 155 แรงม้า สามารถวิ่งได้ระยะทางมากถึง 200 กิโลเมตร ต่อการเติมหนึ่งครั้ง เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

7-11-Toyota-Full-Cell-Truck-Energy

แหล่งที่มาของพลังงาน

พร้อมใช้พลังงานจาก Power Supply ในการจ่ายกระแสไฟให้ระบบทำความเย็น และตู้แช่แข็งภายในรถ สำหรับขนส่งของสดและอาหาร พร้อมพัฒนาระบบแบตเตอรี่แบบชาร์จไฟได้ และสามารถใช้เป็นแบตเตอรี่ฉุกเฉินได้ กรณีเกิดภัยพิบัติ

7-11-Delivery-Hijet-Truck

รถขายของเคลื่อนที่ ของ 7-11 ในญี่ปุ่น

จากแหล่งข่าวของ Nihon Keizai ได้รายงานว่า ทางเซเว่นฯ มุ่งดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการลดการสร้างมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมนำรถบรรทุกที่ใช้ระบบ Hybrid มาใช้งานในการขนส่งของบริษัทฯ มากขึ้น จากในปัจจุบันที่ 15% เป็น 20% ในปี 2020

7-11-EV-Car-Delivery
“COMS” by Toyota Auto Body รถพลังงานไฟฟ้าขนาดเล็ก ที่ 7-11 นำมาใช้ก่อนหน้า

สังคมคาร์บอนต่ำ (Low Carbon Society) เป็นการสรรสร้างสังคมของการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในทุกรูปแบบ หรือในกิจกรรมต่างๆ ที่เกิดจากการดำรงชีวิตปกติของมนุษย์ จากกระบวนการผลิตของโรงงานหรือภาคอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อจะได้อยู่ร่วมกันในสังคมที่มีคุณภาพชีวิตที่ดี

โดยเน้นให้ผู้คนในสังคมมีการเลือกใช้เทคโนโลยีหรือการพัฒนาเทคโนโลยีให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ทำให้เกิดค่าใช้จ่ายเพิ่ม

แหล่งที่มา :