5-Methods-To-Prevent-COVID-19

ในช่วงปี 2563 – 2564 มานี้ ประเทศไทยต้องเผชิญกับวิกฤตใหญ่ ที่เกิดขึ้นในประเทศจีน แล้วแพร่หลายไปทั่วโลกอย่าง “โคโรนาไวรัส” หรือ “โควิด-19” สร้างความเสียหายให้กับสุขภาพ ทรัพย์สิน เศรษฐกิจ ไปอย่างมหาศาลในทั่วโลก ซึ่งทุกคนก็อย่าลืมดูแลรักษาสุขภาพกันด้วยนะครับ อย่าลืม Social Distrancing เว้นระยะห่างทางสังคม รวมถึง “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” กันนะครับ

แต่สำหรับหลายอาชีพที่เลี่ยงไม่ได้ ต้องใช้รถยนต์ทำงานทุกวัน (เช่น รถบริษัทส่งของ ส่งอาหาร) หรือรถยนต์สาธารณะอย่าง รถเมล์ รถตู้สาธารณะ แท็กซี่มิเตอร์ รถโรงแรม หรือรถที่วิ่งรับคนผ่าน App จะมีวิธีป้องกันเชื้อโรค และไวรัสต่างๆ ได้อย่างไร?

MR.CARRO จะมาแนะนำวิธีป้องกัน “โควิด-19” ให้ปลอดภัยทั้งคนขับและผู้โดยสารครับ.

5-Methods-To-Prevent-Coronavirus

1. เจลล้างมือ น้ำยาฆ่าเชื้อโรค

ถ้ารถของคุณเป็นรถที่ต้องใช้งานกันหลายๆ มือ หรือเป็นรถสาธารณะ ที่ต้องเน้นความสะอาดเป็นหลัก ก็ควรจะซื้อเจลล้างมือ หรือผ้าเช็ดมือ ติดรถไว้สักหน่อย เพื่อความสะอาดทั้งของคนขับเอง และทั้งมือของผู้โดยสารอีกด้วย พร้อมน้ำยาฆ่าเชื้อโรค ไว้สำหรับเช็ดในจุดที่ต้องสัมผัสบ่อยๆ

2. เน้นทำความสะอาด

ช่วงนี้อาจจะต้องฟิตทำความสะอาดรถยนต์สักนิดนึง ถ้าหากว่ารถของคุณ เบาะนั่งเป็นแบบผ้าสักหลาด หรือแบบผ้ากำมะหยี่ และพรมปูพื้นที่ชอบอมฝุ่น ก็ให้ใช้เครื่องดูดฝุ่น ดูดตามซอกตามมุมต่างๆ ที่เข้าถึงได้ยาก หรือใช้เทปกาวเหนียวๆ แปะไปตามจุดต่างๆ ของเบาะนั่ง หรือพรม แล้วก็ดึงขึ้นมา หรือจะใช้ลูกกลิ้งกำจัดขน หรือแปรงปัดขนก็ย่อมได้

แต่ถ้าเป็นเบาะแบบหนังเทียม (เบาะไวนิล) หรือเบาะหนังแท้ ก็ให้เตรียมแปรงสีฟัน ผ้าขนหนู กับน้ำหรือผสมสบู่เหลวใส่ลงไปหน่อยก็ได้ พร้อมสเตคลีน หรือน้ำยาทำความสะอาดเบาะหนัง (กรณีสกปรกมาก) บรรจงเช็ดลงบนเบาะให้สะอาด ก่อนจะซักผ้าที่เช็ด แล้วใช้น้ำยาฆ่าเชื้อโรคเช็ดซ้ำลงไปอีกรอบ

5-Methods-To-Prevent-Coronavirus

3. หน้ากากอนามัย

เนื่องจากรถยนต์ที่ใช้งานหลายคน หรือรถสาธารณะ มีการเปิดประตูเข้า-ออก หรือเปิดกระจกกันบ่อยๆ โอกาสที่ฝุ่นจากภายนอกรถ พร้อมเชื้อโรคก็มีโอกาสเข้ามาในรถได้เรื่อยๆ การติดหน้ากากอนามัยไว้ในรถ (และต้องใส่ให้ถูกวิธี ต้องให้ด้านที่เป็นสีอยู่ด้านนอก ให้บริเวณโครงลวดอยู่ด้านบนสันจมูก เพื่อปรับรูปหน้ากากให้เข้ากับใบหน้า)

นับเป็นเรื่องที่ดีกว่าไม่มี ซึ่งการใช้หน้ากากอนามัยทั่วไป ก็สามารถป้องกันเชื้อโคโรนาไวรัสได้แล้ว แต่เมื่อใส่แล้วก็ควรใส่ตลอด หากมีการถอดก็ควรเปลี่ยนชิ้นใหม่

4. เครื่องฟอกอากาศ

แม้ว่าระบบปรับอากาศในรถจะมีตัวกรองอากาศ หรือระบบฟอกอากาศต่างๆ ติดมาให้ แต่ในรถยนต์รุ่นเก่าๆ หรือรถรุ่นธรรมดา ระบบฟอกอากาศยังคงเป็นสิ่งที่ต้องติดตั้งเพิ่มเอง ซึ่งเหมาะมากสำหรับคนที่ต้องขับรถกันทั้งวัน

ในตลาดปัจจุบัน ก็มีเครื่องฟอกอากาศแบบพกพาจำหน่ายกันอยู่หลายเจ้า ซึ่งเครื่องฟอกอากาศที่มีคุณสมบัติน่าใช้งาน จะต้องกรองฝุ่นที่มีอนุภาคขนาดเล็ก หรือแบบพลาสม่าคลัสเตอร์ ที่คายประจุลบได้ นอกจากนี้ยังรวมไปถึงเชื้อโรค แบคทีเรีย เชื้อรา เชื้อไวรัส ที่ลอยอยู่ในอากาศ สารประกอบอินทรีย์ระเหย รวมไปถึงควันบุหรี่ และละอองจากเกสรดอกไม้ได้ เป็นต้น

5-Methods-To-Prevent-Coronavirus

5. จอดรถตากแดด

อีกวิธีหนึ่งที่ช่วยฆ่าเชื้อโรคได้เร็วขึ้น ในสภาวะอุณหภูมิปกติ นั่นคือการ “จอดรถตากแดด” เพราะบ้านเราเป็นเมืองที่ร้อนกันตลอดทั้งปี การใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ช่วยฆ่าเชื้อโรค ก็เป็นทางเลือกที่ดี

แต่ก็อย่าตากแดดกันทั้งวัน เพราะแทนที่จะฆ่าเชื้อโรค กลับกลายเป็นทำให้สีรถ หรือวัสดุภายในต่างๆ เสื่อม กรอบ หรือซีดเร็วขึ้น

เป็นอันว่า เมื่ออ่านจบแล้ว อย่าลืมนำไปลองปฏิบัติตามกันดูนะครับผม ส่วนใครที่กำลังมองหาที่รับซื้อรถมือสอง หรืออยากขายรถมือสอง อย่าลืมนึกถึง CARRO กันนะครับ

ในช่วง COVID-19 ระบาด ใครที่อยากขายรถ แต่ไม่อยากออกจากบ้าน นำรถไปตีราคาหลายๆ ที่ CARRO เรายินดีรับซื้อรถของคุณ พร้อมปิดการขายภายใน 24 ชั่วโมง! กับ CARRO Express แค่คลิก -> https://th.carro.co/sell-car/express หรือจะ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

และอีกหนึ่งบริการใหม่! CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check รับประกันพร้อมโอนทุกคัน ฟรี! ค่าจัดโอน มีให้เลือกชมเพียบ ซื้อรถ คลิก -> https://th.carro.co/taladrod/allcar/carro 

หรือสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่หาไม่ได้ สามารถสั่งตามออเดอร์ได้ที่นี้ > https://th.carro.co/buy-car หรือโทร. 02-508-8690 อีกทั้งยัง Inbox เข้ามาสอบถามก็ได้เช่นกันได้ที่ Facebook -> CARRO Automall – รถบ้านมือสอง หรือทาง Line เชิญเลยครับที่ @carroautomall

Chinese-New-Year

วันตรุษจีน 2564 นี้ อีกหนึ่งเทศกาลที่สำคัญ สำหรับชาวไทยเชื้อสายจีนและชาวจีนในเมืองไทย หลายคนมีแพลนเตรียมตัวทำความสะอาดบ้านก่อนปีใหม่ ไปซื้อของไหว้เจ้า ทั้งปลา เป็ด ไก่ ผลไม้ เตรียมแจกแต๊ะเอีย แจกอั่งเปาให้เด็กๆ และคนรู้จัก พร้อมไหว้เจ้าขอให้สุขภาพแข็งแรง ร่ำรวยเงินทอง ทำมาค้าขายรุ่งเรือง เพื่อความเป็นสิริมงคลตลอดปี 2564

ซึ่งเทศกาลตรุษจีนในประเทศจีนนั้น มีการฉลองและหยุดกันอย่างยาวนานนับอาทิตย์เลยทีเดียว MR.CARRO ก็ขอให้ทุกท่านโชคดี สมปรารถนาตลอดปี 2564 นะครับ

Chinese-New-Year

ปกติแล้ว ในช่วงเทศกาลตรุษจีน จะประกอบไปด้วย 3 วัน นั่นคือ

  • 10 กุมภาพันธ์ วันจ่าย
  • 11 กุมภาพันธ์ วันไหว้
  • 12 กุมภาพันธ์ วันเที่ยว (หรือวันขึ้นปีใหม่)

แต่วันที่คนชาวไทยเชื้อสายจีน และคนจีนทั่วโลก ให้ความสำคัญ นั่นคือ “วันไหว้” เพราะคนจีนส่วนใหญ่มักมีอาชีพค้าขายเป็นหลัก จึงมีความเชื่อเกี่ยวกับเทพและเรื่องโชคลาภ

โดยในวันตรุษจีนของแต่ละปี ชาวจีนก็จะนิยมตั้งโต๊ะไหว้เทพเจ้าแห่งโชคลาภ (ไฉ่ซิงเอี้ย) กันทุกปี ตามความเชื่อที่ว่าองค์เทพไฉ่ซิงเอี้ยจะดลบันดาลให้ทำมาค้าขายดี เงินทองไหลมาเทมา

สำหรับการไหว้ในช่วงวันไหว้นั้น สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ครั้งหลักๆ เตรียมตั้งโต๊ะไหว้เจ้ากันได้เลย …

Chinese-New-Year

1. ช่วงเช้ามืด ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์

ช่วงเช้ามืด เริ่มต้นไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ (ไป๊เล่าเอี๊ย) ประมาณ 6.00 – 7.00 น. เพื่อขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือเทพเทวดาผู้คุ้มครองบ้านเรือน หลังจากไหว้เสร็จ ค่อยเผากระดาษเงินกระดาษทองตามประเพณี

แต่ช่วงนี้ ไม่เผากระดาษก็ได้ หรือเผากระดาษแค่เล็กน้อยก็พอ เพื่อป้องกันฝุ่นพิษ PM2.5 และอย่าลืมใส่หน้ากากผ้า หรือหน้ากากอนามัย ป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ไปในตัว และเป็นผลดีต่อสุขภาพคุณ โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้ป่วยโรคระบบหัวใจและหลอดเลือด โรคระบบทางเดินหายใจ และผู้ป่วยโรคเรื้อรังอื่นๆ

ของไหว้ : เนื้อสัตว์ต้มสุก (ซาแซ) 3 อย่าง หรือ 5 อย่าง (โหงวแซ) เช่น ไก่ เป็ด หมู ฯลฯ ต่อด้วยผลไม้มงคล 5-7 อย่าง เหล้า น้ำชา และกระดาษเงินกระดาษทอง ใช้ธูปในการไหว้ 5 ดอก

Chinese-New-Year

2. ช่วงสาย ไหว้บรรพบุรุษ

ตอนสายๆ ไหว้บรรพบุรุษ (ไป๊เป้บ๊อ) ระลึกถึงญาติพี่น้องที่ถึงแก่กรรมไปแล้ว เป็นการแสดงความกตัญญูตามความเชื่อของชาวจีน ช่วงเวลาประมาณ 10.00 – 11.00 น. ไม่เกินเที่ยง จากนั้นทุกคนในครอบครัว ก็จะนำของไหว้มารับประทานร่วมกัน พร้อมแจกอั่งเปา แจกแต๊ะเอียไปด้วยเลยก็ได้ ซึ่งเงินที่ใส่ในซองอั่งเปานั้น มักจะมีจำนวนเป็นเลขนำโชคของจีน นั่นคือเลข 8

ของไหว้ : เนื้อสัตว์ต้มสุก 3-5 อย่าง (ซาแซ หรือ โหงวแซ) เหมือนการไหว้ช่วงเช้า แต่เพิ่มอาหารอื่นๆ ที่บรรพบุรุษชอบ หรืออาหารที่มีความหมายมงคล หรือขนมมงคล เช่น ขนมเข่ง ขนมเทียน ซาลาเปา ฯลฯ พร้อมผลไม้มงคล เช่น ส้ม  และกระดาษเงินกระดาษทอง ใช้ธูปในการไหว้ 3 ดอก

ข้อควรระวัง : คนจีนไม่นำเต้าหู้ขาวมาไหว้วันตรุษจีน เนื่องจากสีขาวเป็นสีแห่งความโศกเศร้า และของไหว้ไม่ควรเป็นอาหารที่มีรสเผ็ด รสขม และผลไม้ที่มีหนาม เพราะทำให้ชีวิตมีอุปสรรคขวากหนาม ไม่ราบรื่น

3. ช่วงบ่าย ไหว้สัมภเวสี

การไหว้ผีไม่มีญาติหรือสัมภเวสี (ไป๊ฮ้อเฮียตี๋) เพื่อทำบญทำทาน จะไหว้ช่วงประมาณ 14.00 – 16.00 น. พอไหว้เสร็จ ค่อยจุดประทัดเพื่อไล่สิ่งชั่วร้าย และเพื่อความเป็นสิริมงคลต้อนรับตรุษจีน

ของไหว้ : อาหารต่างๆ ที่เหลือจากการไหว้รอบเช้า และรอบสาย ข้าวสวย ขนมต่างๆ เช่น ขนมเข่ง ขนมเทียน เผือกเชื่อมน้ำตาล และกระดาษเงินกระดาษทอง ใช้ธูปไหว้เพียง 1 ดอกเท่านั้น

Chinese-New-Year

4. ช่วงดึก ไหว้ “ไฉ่ซิงเอี้ย” เทพแห่งโชคลาภ

ตอนดึกคุณสามารถตั้งโต๊ะไหว้เทพเจ้าแห่งโชคลาภได้ เพื่อความเป็นสิริมงคล มีฤกษ์ในการไหว้คือช่วงกลางดึกของคืนวันสิ้นปี ก่อนจะเข้าสู่วันตรุษจีน ระหว่างเวลา 03.00-04.59 น. ของเช้ามืดในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2564 โดยตั้งโต๊ะไหว้หันหน้าไปทาง “ทิศตะวันออก” เพราะปีนี้เชื่อว่า เทพจะเสด็จมาในทิศตะวันออก

ของไหว้ : รูปภาพหรือรูปปั้นขององค์ไฉ่ซิงเอี้ย, แจกันดอกไม้สด 1 คู่, เทียนแดง 1 คู่, กระถางธูปและธูปสำหรับไหว้, น้ำชา 5 ถ้วย, ขนมอี้ (สาคูแดง) 5 ถ้วย หรือข้าวสวย 5 ถ้วย, ขนมจันอับ, น้ำชา 5 ถ้วยเล็ก, ผลไม้มงคล 5 อย่าง เช่น ส้ม แอปเปิ้ลแดง องุ่นแดง กล้วยหอมทอง สับปะรด ฯลฯ, เจไฉ่ 5 อย่าง เช่น ดอกไม้จีน ฟองเต้าหู้ วุ้นเส้น เห็ดหอม เห็ดหูหนู และกระดาษเงินกระดาษทอง (กิมหงิ่งเต้า)

วิธีการไหว้ : ให้ผู้ไหว้หันหน้าไปทางทิศตะวันตก จุดธูป 3 ดอก 5 ดอก 9 ดอก หรือ 12 ดอกก็ได้ แล้วกล่าวคำสวดมนต์ไหว้สักการะ ดังนี้ “นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ” (3 จบ) จากนั้นสวดบทสักการะว่า “โอม ชัมภาลา จาเลนไน เยโซฮา” (สวด 3 จบ 5 จบ 9 จบ หรือ 12 จบก็ได้) จากนั้นกล่าวชื่อ-นามสกุล ของตัวเอง และเรื่องที่จะขอพร

จากนั้นนำกระดาษเงินกระดาษทองไปเผา แล้วให้ผู้ใหญ่ในบ้านถือรูปภาพหรือรูปปั้นไฉ่ซิงเอี้ยพร้อมกระถางธูปเข้าบ้าน เป็นการเชิญเทพเข้าบ้าน และของไหว้ก็ห้ามทิ้ง เพราะถือเป็นของมงคล ให้นำไปแบ่งกันรับประทาน

เพียงแค่ไหว้เจ้าตามนี้ คุณก็สุขกายสบายใจ พร้อมรับสิริมงคลไปตลอดทั้งปี 2564 แล้วครับ

หากช่วงนี้ใครต้องการซื้อรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพได้มาตรฐาน รับประกันพร้อมโอนทุกคัน หรือหารถมือสองรุ่นที่ต้องการ สามารถเข้ามาดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ CARRO Automall > https://th.carro.co/buy-car หรือโทร. 02-508-8690 หรือจะ Inbox มาสอบถามก็ได้เช่นกัน ที่ Facebook CARRO Automall – รถบ้านมือสอง ถ้าสะดวก Add Line ก็ที่ @carroautomall

ส่วนใครที่อยากขายรถ หรือมีเพื่อนฝูงกำลังหาที่ขายรถอยู่ CARRO เรารับซื้อรถของคุณ สามารถเข้าไปเช็กราคา ตีราคาขายรถก่อนได้ โดยใส่ข้อมูลรถของคุณที่นี่เลย กับ CARRO Express > https://th.carro.co/sell-car/express หรือโทร. 02-508-8425

หรือใครจะ Inbox มาสอบถามก็ได้เช่นกัน ที่ Facebook CARRO Thailand หรือสะดวก Add Line ก็ที่ @Carrothai หรือคลิกที่นี่ครับ —> เพิ่มเพื่อน

ข้อมูลแหล่งที่มาจาก:

10-Bridges-From-Surname-In-Thailand

คุณเคยสังเกตหรือไม่ว่า เวลาขับรถไปไหนมาไหน มักจะมีชื่อถนน ชื่อสะพาน ที่หลายคนอาจสงสัย ว่ามันมีที่มาอย่างไร?

นับตั้งแต่ในอดีตที่บ้านเราเริ่มจะสร้างถนน สร้างสะพานข้ามคลองต่างๆ กันอย่างจริงจังในรัชกาลที่ 4, รัชกาลที่ 5 มาจนถึงปัจจุบัน ก็จะมีการใช้พระนาม นาม หรือชื่อ-นามสกุล ของสามัญชน หรือบุคคลสำคัญ ที่อาจจะเป็นผู้บริจาคที่ดินอุทิศให้ หรือบริจาคเงินอุทิศให้ เพื่อประโยชน์ของประชาชนโดยทั่วไปในการสัญจร หรือดำรงอยู่ในตำแหน่งหน่วยงานที่รับผิดชอบในการสร้าง

หากใครที่อยากขายรถคันเดิม แบบได้เงินเร็วไว ไม่ต้องเสียเวลาประเมินราคาขายเอง หรือต้องรอจนกว่าจะมีคนมาซื้อรถได้ Carro ขอแนะนำ Carro Express เรารับซื้อรถทุกแบบ ได้ที่ Link นี้ครับ https://th.carro.co/sell-car/express หรืออยากตีราคารถอีกครั้ง สามารถ Inbox สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

เวลาผ่านไปยาวนาน จนอาจทำให้คนลืมเลือนไปถึงที่มาที่ไปได้ Mr.Carro ขอนำความรู้ใหม่ๆ มาฝากกัน

สะพานเนาวจำเนียร

1. สะพานเนาวจำเนียร

สะพานเนาวจำเนียร เป็นสะพานข้ามคลองบางหลวงในทางหลวงแผ่นดินสายกรุงเทพฯ-นครปฐม (ปัจจุบัน คือ ช่วงถนนอินทรพิทักษ์ บรรจบกับถนนเพชรเกษม) ตั้งชื่อตามนามสกุลของนายมงคล เนาวจำเนียร ซึ่งเป็นผู้อำนวยการก่อสร้างสะพานนี้

นายมงคล เนาวจำเนียร (2447 – 2533) สำเร็จการศึกษาวิชาวิศวกรรมโยธาจากประเทศอังกฤษ เดิมนายมงคลรับราชการในกรมรถไฟ ต่อมาย้ายไปปฏิบัติราชการที่กรมทางหลวง และได้เป็นผู้อำนวยการก่อสร้างสะพานนี้

สะพานภาณุพันธุ์

2. สะพานภาณุพันธุ์

สะพานภาณุพันธุ์ เป็นสะพานที่อยู่ในย่าน Chinatown เป็นสะพานที่ข้ามคลองรอบกรุง ช่วงคลองโอ่งอ่างหรือคลองบางลำพู ตั้งอยู่ปลายสุดของถนนเยาวราช ตัดกับถนนพีระพงษ์ ถนนจักรเพชร และถนนมหาไชย

สร้างขึ้นเมื่อปี 2442 โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานนามให้ว่า “สะพานภาณุพันธุ์” เพื่อเป็นเกียรติแก่สมเด็จพระราชปิตุลาบรมพงศาภิมุข เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช องค์ผู้ทรงเป็นสมเด็จพระอนุชา อันเนื่องจากพระองค์ทรงประทับอยู่ ณ วังบูรพาภิรมย์ ที่อยู่ใกล้เคียง และเป็นต้นราชสกุล “ภาณุพันธุ์”

โดยระยะแรกเป็นสะพานโครงเหล็กเช่นเดียวกับสะพานในยุคนั้น ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้โปรดเกล้าฯ ให้สร้างสะพานขึ้นใหม่ โดยมีโครงสร้างของคอนกรีตเสริมเข้าไป แต่ยังคงชื่อเดิมไว้

ปัจจุบัน ได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานระดับชาติ โดยอยู่ในความดูแลของกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่ปี 2547

สะพานเดชาติวงศ์

3. สะพานเดชาติวงศ์

สะพานเดชาติวงศ์ เป็นสะพานที่ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา เชื่อมถนนพหลโยธิน ที่หลักกิโลเมตรที่ 340 ก่อนเข้าสู่ใจกลางเมืองนครสวรรค์ ซึ่งกรมทางหลวงได้เริ่มก่อสร้างในปี 2485 และเปิดให้ใช้งานครั้งแรกในปี 2493

ซึ่งชื่อของสะพานนั้น มาจากนามสกุลของ พันตรี หม่อมหลวงกรี เดชาติวงศ์ อธิบดีกรมทางหลวงในสมัยนั้น

ในปัจจุบัน สะพานเดชาติวงศ์จะเปิดใช้งานเพียง 2 สะพาน คือ สะพานเดชาติวงศ์ 2 และ 3 ส่วนสะพานเดชาติวงศ์ 1 ทางจังหวัดนครสวรรค์เปิดไว้เป็น สะพานประวัติศาสตร์ ใช้ในการจัดงานต่างๆ ของจังหวัด หรือเปิดให้ใช้งานได้ในกรณีฉุกเฉิน เป็นต้น

สะพานธนะรัชต์

4. สะพานธนะรัชต์

สำหรับสะพานธนรัชต์ มาจากนามสกุลของ จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ อดีตนายกรัฐมนตรี สร้างขึ้นเมื่อปี 2503 หลังจากเกิดไฟไหม้เมืองราชบุรี ซึ่งเคยเกิดเหตุไฟไหม้ใหญ่ด้วยกันถึง 2 ครั้ง ในปี 2499 และปี 2503

จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ จึงมีคำสั่งให้สร้างสะพานธนะรัชต์ขึ้น และเปิดใช้ในปี 2504 เนื่องจากตอนที่เกิดเหตุไฟไหม้ รถดับเพลิงเข้าไปยังพื้นที่ได้ลำบาก ไม่สามารถเข้าดับไฟได้ทันที รวมถึงเรือดับเพลิงซึ่งลอยลำเรืออยู่ริมแม่น้ำแม่กลอง ก็ไกลจากที่เกิดเหตุ

สะพานติณสูลานนท์

5. สะพานติณสูลานนท์

สะพานติณสูลานนท์ เป็นสะพานคอนกรีตที่ยาวที่สุดในประเทศไทย มีความยาวของสะพาน 2 ช่วงแรก 940 เมตร และ 1,700 เมตร ตามลำดับ รวมเป็น 2,640 เมตร ก่อสร้างขึ้นในสมัย ฯพณฯ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

ในปี 2524 โดยรัฐบาลในยุคนั้น มีนโยบายพัฒนาจังหวัดสงขลา และ อำเภอหาดใหญ่ ให้เป็นเมืองหลัก โดยกรมทางหลวงเป็นเจ้าของโครงการ และบริษัทจากประเทศไต้หวัน เป็นผู้ก่อสร้าง เปิดใช้เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2527

ตัวสะพานอยู่ใน อ.เมืองสงขลา และ อ.สิงหนคร โดยเชื่อมเกาะยอ 2 ด้าน ระหว่างฝั่งบ้านน้ำกระจาย อ.เมืองสงขลา และบ้านเขาเขียว อ.สิงหนคร ถือเป็นส่วนหนึ่งของทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 408 ซึ่งเชื่อมต่อระหว่างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 414 กับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 407 (สงขลา-หาดใหญ่) ชาวจังหวัดสงขลานิยมเรียกสะพานนี้ติดปากว่า “สะพานป๋าเปรม” “สะพานติณ” หรือ “สะพานเปรม” นับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งที่ขึ้นชื่อของจังหวัด

สะพานสารสิน

6. สะพานสารสิน

สะพานสารสิน เป็นสะพานที่เชื่อมระหว่างจังหวัดพังงากับจังหวัดภูเก็ต ตั้งชื่อตามนามสกุลของ นายพจน์ สารสิน ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการกระทรวงพัฒนาการแห่งชาติ เริ่มสร้างครั้งแรกตั้งแต่ปี 2494 โดยให้บริษัทรับเหมาก่อสร้างมาสร้าง แต่มีปัญหาจึงหยุดไป

ต่อมาในปี 2508 จึงได้เริ่มลงมือก่อสร้างอีกครั้งโดยบริษัท Christiani & Nielsen (Thailand) Ltd. มีความยาวทั้งหมด 660 เมตร เปิดใช้งานได้ในวันที่ 7 กรกฎาคม 2510 ใช้งบประมาณทั้งหมด 28,770,000 บาท

สะพานวุฒิกุล

7. สะพานวุฒิกุล

สะพานวุฒิกุล เป็นสะพานข้ามแม่น้ำปิง ที่ อ.วังเจ้า จังหวัดตาก ในเส้นทางหลวงหมายเลข 104 ต่อเชื่อมทางหลวงหมายเลข 1 ตั้งเพื่อเป็นเกียรติแก่ นายอุทัย วุฒิกุล อธิบดีกรมทางหลวงท่านที่ 10 เป็นนายช่างใหญ่ผู้ควบคุมงาน

ตัวสะพานได้รับการสร้างใหม่อีกครั้งในปี 2496 โดยใช้สะพานโค้งคอนกรีตเสริมเหล็กแบบเดิม ช่วงประมาณ 50 เมตรเช่นเดิม เป็นแต่ว่าตัวตอม่อได้รับการออกแบบใหม่ เป็นตอม่อวางอยู่บนกลุ่มเสาเข็มแทน

ส่วนการก่อสร้างสะพานโค้งช่วง 50 เมตร มีเทคนิคพิเศษโดยการอัดแรงดันที่ยอดโค้ง ซึ่งก็เป็นวิธีช่วยลดแรงถีบของโค้งและบิดตัวพื้นสะพานให้โก่งขึ้น ช่วยให้คานรับพื้นสะพานรับน้ำหนักน้อยลง

สะพานพิบูลสงคราม

8. สะพานพิบูลสงคราม

สะพานพิบูลสงคราม แน่นอนเลยว่ามาจาก จอมพล ป.พิบูลสงคราม อดีตนายกรัฐมนตรีของไทยแน่นอน เป็นสะพานข้ามคลองบางซื่อ บนถนนประชาราษฏร์สาย 1 ซึ่งคาดว่าถือกำเนิดขึ้นพร้อมๆ กับถนนสายนี้

สำหรับสะพานแห่งนี้ ตั้งอยู่ใกล้กับอดีตที่ทำงานของ จอมพล ป.พิบูลสงคราม ที่เคยสังกัดอยู่ นั่นคือ กองพลทหารปีนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน (หรือ กรม ปตอ.)

สะพานเปี่ยมพงศ์สานต์

9. สะพานเปี่ยมพงศ์สานต์

สะพานเปี่ยมพงษ์สานต์ เป็นสะพานคอนกรีต ที่สร้างข้ามแม่น้ำระยองใกล้ๆ กับสะพานไม้ รถยนต์สามารถแล่นไปมาได้ เริ่มสร้างประมาณปี 2495 – 2497

ผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างสะพานนี้ก็คือ นายเสวตร เปี่ยมพงศ์สานต์ ในขณะนั้นดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรจังหวัดระยอง เพื่อเป็นเกียรติแก่ นายเสวตร เปี่ยมพงศ์สานต์ จึงตั้งชื่อสะพานนี้ว่า “สะพานเปี่ยมพงศ์สานต์”

สะพานเกิ๊ทเช

10. สะพานเกิ๊ทเช (Gottsche)

หลายคนงงแน่ ทำไมในไทย ถึงมีชื่อสะพานแปลกๆ แบบนี้ด้วย?

สะพานเกิ๊ทเช อยู่บนถนนทางรถไฟสายเก่าปากน้ำ ตรงแยกปากซอยถนนศิริราษฎร์ศรัทธา ซอย 1 ที่คอสะพานทั้งฝั่งซ้าย-ขวา จะมีแผ่นป้ายโลหะเล็กๆ (วงกลมในภาพ) ฝั่งซ้ายสลักอักษรไทยว่า ที.เอ. เกิ๊ทเช / 14-5-2425 / 1-1-2474 ส่วนที่ฝั่งขวา สลักเป็นอักษรอังกฤษว่า T.A. GOTTSCHE / 14-8-1882 / 1-4-1931

ย้อนไปเมื่อครั้งเริ่มมีการเดินรถไฟสายปากน้ำเมื่อ ร.ศ.112 หรือปี 2436 มีนายกลผู้ควบคุมรถไฟคนแรก เป็นชาวเดนมาร์ก ชื่อ T.A. Gottsche เป็นอดีตนายทหารคุมป้อมผีเสื้อสมุทร ได้เริ่มเข้าทำงานในบ้านเราเมื่อ 14-5-2425 และเกษียณอายุเมื่อ 1-1-2474 เป็นเวลาที่ทำงานในประเทศไทย 50 ปีเต็ม มีภรรยาเป็นคนไทยชาวปากน้ำ

ต่อมาได้รับพระราชทานชื่อและตำแหน่งเป็น ขุนบริพัตรโภคกิจ และได้รับนามสกุลพระราชทานเป็น คเชศะนันทน์ เนื่องจากคุณความดีที่ท่านทำไว้ให้ชาวปากน้ำ

เหล่าชาวบ้านจึงร่วมแรงร่วมใจกันสร้างสะพานเล็กๆ บริเวณใกล้ๆ บ้านพักของท่าน แล้วเรียกสะพานนี้ว่า สะพานเกิ๊ทเช

บางคนเห็นเวลาบนแผ่นโลหะระหว่างเวลาไทย กับเวลาฝรั่ง มันไม่ตรงกัน คือ เวลาที่เริ่มเข้ามาทำงาน ของไทยสลักว่า 14-5-2425 แต่ของฝรั่งสลักว่า 14-8-1882

ส่วนเวลาที่เกษียณของไทยสลักว่า 1-1-2474 ส่วนของฝรั่งสลักว่า 1-4-1931 จะเห็นว่าตรงตัวเลขหลักกลางที่เป็นตำแหน่งของเดือนมันไม่ตรงกัน นั่นเป็นเพราะแต่ก่อนเรานับเอาเดือนเมษายน (เดือนที่ 4) เป็นเดือนแรกของปีไทย เดือนที่สลักของไทยกับของฝรั่งก็เลยเหลื่อมกันอยู่ จริงแล้วมันคือเดือนเดียวกั

อันนี้แถมให้ …

สะพานพรหมโยธี

11. สะพานพรหมโยธี

สะพานแห่งนี้หลายคนลืมเลือนกันไปหมดแล้ว สำหรับ “สะพานพรหมโยธี” เป็นสะพานข้ามคลองสามเสน อยู่ช่วงระหว่างถนนราชวิถี และถนนดินแดง เป็นสะพานที่คาดว่าน่าจะมีในช่วงที่ จอมพล ป. พิบูลสงคราม สร้างทางด้วยดินลูกรังจากปลายถนนราชวิถีตัดกับถนนราชปรารภ ไปตามถนนดินแดง และสร้างต่อไปจนถึงบริเวณโรงเรียนพร้อมพรรณในปัจจุบัน

มีที่มาจากนามสกุลของ หลวงพรหมโยธี หรือ มังกร พรหมโยธี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และอดีตรัฐมนตรี

สะพานปรีดี-ธำรง

12. สะพานปรีดี-ธำรง

สะพานแห่งนี้ เป็นการนำชื่อ และ นามสกุล ของ 2 บุคคลมารวมกัน โดยเป็นสะพานคอนกรีตข้ามแม่น้ำป่าสัก เข้าเกาะเมืองอยุธยา แห่งแรก สร้างขึ้นเมื่อปี 2483 สะพานยาว 168.60 เมตร สร้างเสร็จและเปิดใช้เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2486 ซึ่งตรงกับวันเกิดของ จอมพล.ป พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น

โดยมอบหมายให้นาวาเอก ถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมมาเป็นประธานพิธีเปิดสะพาน นายกรัฐมนตรีให้ชื่อสะพานนี้ว่า “สะพานปรีดี-ธำรง” เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่ชาวอยุธยา ที่ได้เป็นผู้บริหารประเทศทั้งสองคน คือ นายปรีดี พนมยงค์ และพลเรือตรี หลวงธำรงนาวาสวัสดิ์

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่มาใช้ในช่วงนี้ มาขายรถกับทาง Carro Express สิ! คลิกเลยที่ https://th.carro.co/sell-car/express รับรองได้เงินเร็ว ไว ทันใจแน่นอน!

CARRO Automall

ส่วนใครสนใจจะซื้อรถมือสอง Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

แหล่งที่มาบางส่วนจาก:

Keep-Plastic-Bottle-In-Car-Good-Or-Not

เรื่องนี้แม้ว่าจะเป็นเรื่องเก่าแล้ว แต่ก็ยังมีคนพูดถึงกันอยู่เรื่อยๆ เป็นประจำ กับการที่ต้องเก็บขวดน้ำดื่มไว้ในรถ แล้วต้องจอดรถตากแดดทั้งวัน เจออากาศร้อนๆ อบเข้าไป …

ยิ่งมีข่าวจากเว็บ Clickbait คอยโพสกันอยู่เรื่อยว่าเมื่ออากาศร้อนมากๆ หรืออุณหภูมิสูงๆ จะมีสาร BPA (Bisphenol A) หรือสาร Dioxin ในพลาสติกจะออกมาปนเปื้อนกับในน้ำ เมื่อดื่มเข้าไปบ่อยๆ ส่งผลต่อความผิดปกติของพันธุกรรม และยังเสี่ยงต่อการเกิดเป็นโรคมะเร็งได้

ซึ่งไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด! ในปัจจุบันก็ยังไม่มีการยืนยันที่แน่ชัด เกี่ยวกับสารเคมีต่างๆ ที่ละลายออกมาจากขวดพลาสติกที่ใส่น้ำ แต่จะมีอะไรบ้างนั้น MR.CARRO จะมาเล่าให้ฟัง

Keep-Plastic-Bottle-In-Car-Good-Or-Not

ปัจจุบัน ขวดน้ำพลาสติก นิยมทำจากพลาสติก 2 ชนิด ที่มีคุณสมบัติทนทาน มีน้ำหนักเบา เวลาขนส่งไม่แตกได้ง่าย คือ ขวดพลาสติกแบบ PE หรือ Polyethylene (โพลีเอทิลีน) ซึ่งจะมีสีขาวขุ่น

ส่วนขวดพลาสติกแบบไม่มีสี หรือขวด PET (Polyethylene Terephthalate) ซึ่งเป็นที่นิยมใช้มากกว่า ที่คนไทยรู้จักดีนั้น สามารถเก็บน้ำและวางไว้ในรถได้ แม้จะตากแดดร้อนๆ ก็ตาม …

โดยมีงานวิจัยจาก กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ทดลองโดยซื้อตัวอย่างน้ำดื่มที่บรรจุในขวดพลาสติกชนิด Polyethylene, Polyethylene Terephthalate, Polyethylene Polycarbonate และ Polyvinyl Chloride ที่จําหน่ายในตลาดสดและซุปเปอร์มาเก็ต จํานวน 18 ยี่ห้อ และนําไปวางในรถที่จอดกลางแดดเป็นเวลา 1 วัน และ 7 วัน

จากนั้นตรวจวิเคราะห์สารประกอบกลุ่ม Dionxin จํานวน 17 ตัว และ PCB จํานวน 18 ตัว โดยใช้เทคนิคขั้นสูง Isotope Dilution และวัดปริมาณด้วยเครื่องมือ High Resolution Gas Chromatography/High Resolution Mass Spectrometry ผลการวิเคราะห์สรุปว่า ตรวจไม่พบ สารประกอบกลุ่ม Dionxin และ PCB ในทุกตัวอย่าง

Keep-Plastic-Bottle-In-Car-Good-Or-Not

สรุปว่า ขวดน้ำพลาสติกที่เก็บในรถตอนแดดร้อนๆ นั้น ไม่ได้อันตรายหรือเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง เพราะขวด PET ก็สามารถเก็บน้ำไว้ได้นาน (แต่ไม่ใช่ตากแดดทั้งวันเป็นปีนะ) โดยมาตรฐานของขวด PET ทางกระทรวงสาธารณสุข ได้กำหนดไว้ว่าต้องทนต่อความร้อนจัด ตั้งแต่ 60’C ถึง 95’C

ซึ่งการออกแบบขวดน้ำพลาสติกเหล่านี้ แม้ว่าจุดประสงค์หลักคือการใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้งก็ตาม ถ้าหากจะใช้ซ้ำต้องล้างให้สะอาด แล้วผึ่งให้แห้ง ก่อนนำมาใช้งานใหม่ได้ แต่การล้างปากขวดนั้นถือเป็นสิ่งสำคัญ เพราะการใช้หลายๆ ครั้ง ถ้าล้างปากขวดไม่สะอาดอาจกลายเป็นที่สะสมเชื้อโรคได้!

แหล่งที่มาจาก:

Childrens-Day-2020

หลังจากที่มีการจัดงานรื่นเริงในวันปีใหม่แล้ว ต้องต่อด้วยทุกวันเสาร์ที่สองของเดือนมกราคมอย่าง “วันเด็ก” ซึ่งในวันเด็กทุกๆ ปีเป็นวันที่หลากหลายองค์กรได้ร่วมกันจัดกิจกรรมต่างๆ ขึ้นเพื่อสร้างความสุขให้กับเด็กๆ

ส่วนคำขวัญวันเด็กในี 2563 นี้ ได้แก่ … เด็กไทยยุคใหม่ รู้รักสามัคคี รู้หน้าที่พลเมืองไทย”

ดังนั้น CARRO จึงรวบรวม 10 สถานที่ยอดฮิต ทั้งของหน่วยงานภาครัฐและเอกชน กับกิจกรรมอันน่าสนุกและตื่นเต้น ของเหล่าคุณหนูๆ ในวันที่ 11 มกราคม 2563 นี้ มาให้คุณพ่อ คุณแม่ ได้เลือกพาลูกหลานไปเที่ยวกัน และสิ่งที่ต้องเจอ รวมถึงวิธีแก้ปัญหาเด็กหายในระหว่างการเที่ยววันเด็กครับ

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ วันเด็ก 2563 Thai Wonder Land

1. ทำเนียบรัฐบาล

สถานที่ยอดฮิตตลอดกาลอีกแห่งหนึ่งของเด็กไทย ที่มีความไฝฝั่นอยากจะเป็นนักการเมือง อยากเป็นรัฐมนตรี และอยากเป็นนายกรัฐมนตรี!!! เตรียมจัดงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2563 ภายใต้แนวคิด “เด็กไทย มีวินัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม” ในวันเสาร์ที่ 11 มกราคม 2563 ระหว่างเวลา 8.00 – 15.00 น. ที่บริเวณทำเนียบรัฐบาล

พร้อมเปิดโอกาสให้เด็กได้นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี เยี่ยมชมตึกไทยคู่ฟ้า ห้องทำงานนายกรัฐมนตรี และตึกภักดีบดินทร์

และกิจกรรมสร้างสรรค์ที่น่าสนใจ และการเล่นเกมส์ในกิจกรรมต่างๆ เช่น กิจกรรมให้ความรู้เรื่องสัตว์ ไดโนเสาร์ การสร้างจิตสำนึกส่งเสริมการรักษาสิ่งแวดล้อมโดยการนำขยะ ขวด กระป๋อง มาแลกสิ่งของ การระบายสีถุงผ้าลดโลกร้อน จัด “ห้องแล็บ” เพื่อให้เด็กได้ทำการทดลองและทดสอบด้านวิทยาศาสตร์ กิจกรรมส่งเสริมการออม การประกวดคัดลายมืออาลักษณ์ เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์เครื่องราชอิสริยาภรณ์ การถ่ายภาพร่วมกับรถจักรยานยนต์นำขบวน การจัดแสดงรถโบราณของเจษฎาเทคนิคมิวเชียม

นอกจากนี้ ยังเปิดศูนย์ข่าวทำเนียบรัฐบาล ตึกนารีสโมสร จำลองเป็นสถานีโทรทัศน์ เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนได้แสดงออกและทดลองอ่านข่าวอีกด้วย

 

2. กองบัญชาการกองทัพไทย

กองบัญชาการกองทัพไทย จัดงานวันเด็กแห่งชาติ 2563 ในวันเสาร์ที่ 11 มกราคม 2563 ตั้งแต่เวลา 7.00 น. ถึง 14.00 น. ณ ลานอเนกประสงค์ กองบัญชาการกองทัพไทย ถนนแจ้งวัฒนะ จัดกิจกรรมการเรียนรู้ซึ่งใช้แนวคิด Edutainment (ความรู้คู่บันเทิง) มุ่งเน้นความสําคัญกับเรื่องสิ่งแวดล้อม ภายใต้แนวความคิด “เด็กไทย…รักษ์โลก” (Kids Save to the world)

โดยมีรูปแบบการจัดพื้นที่การเรียนรู้ แบ่งเป็น 4 พื้นที่ ประกอบด้วย

  • พื้นที่การเรียนรู้ที่ 1 “ศาสตร์แห่งองค์พระราชา”
  • พื้นที่การเรียนรู้ที่ 2 “การเรียนรู้สู่นวัตกรรม”
  • พื้นที่การเรียนรู้ที่ 3 “มหัศจรรย์พลังสามัคคี”
  • และพื้นที่การเรียนรู้ที่ 4 “หนูน้อยนักพัฒนา”

ภายในงาน มีการฝึกหัดขับรถจักรยานยนต์ที่ถูกต้องตามกฎระเบียบ การแสดงขบวนพาเหรด การแสดงท่าอาวุธประกอบดนตรีของนักเรียนเตรียมทหาร และการแสดงของเหล่าทัพ มีการจัดบริการสวนสนุกบ้านลม ม้าหมุน และรถไฟราง เป็นต้น

 

3. กองทัพบก

ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพบก Army PR Center จัด “กิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2563” ณ กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2 รอ.) ถ.พหลโยธิน ในวันเสาร์ที่ 11 ม.ค. 2563 ตั้งแต่ 8.00 – 16.00 น. ชมนิทรรศการโครงการจิตอาสาพระราชทาน และการแสดงยุทโธปกรณ์ทางทหาร ได้แก่ อาวุธประจำกาย ปืนใหญ่ เรือพลังงานลม ยานยนต์ล้อสายพาน รถถัง และอากาศยาน

  • ร่วมเล่นเกมส์ เพื่อรับของรางวัล จากซุ้มบริษัทเอกชนต่างๆ มากมาย
  • รับอาหาร ขนม เครื่องดื่ม ตลอดทั้งวัน
  • ชมการแสดงดนตรีของ รร.สารสาสน์วิเทศน์ฯ และวงชีส เบอร์เกอร์ ฮิลล์
  • มอบประกาศนียบัตร ให้กับผู้แทน รร.สารสาสน์วิเทศน์ฯ
  • มอบทุนการศึกษา จำนวน ๔ ทุน ให้กับเด็กและเยาวชน จาก จชต. ในโครงการ Million Gifts Million Smiles
  • จับรางวัลพิเศษ จำนวน ๓ รางวัล

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ กองทัพอากาศ วันเด็ก 2563

4. กองทัพอากาศ

เวลามีงานวันเด็กแห่งชาติทีไร กองทัพอากาศ ก็ถือเป็นสถานที่ยอดฮิตตลอดกาลของ เด็กๆ (และผู้ใหญ่) ที่ชื่นชอบเครื่องบินรบเป็นขีวิตจิตใจ เพราะจะได้มาดูการแสดงโชว์ของเครื่องบินรบรุ่นต่างๆ และโชว์การบินต่อสู้ในอากาศ และการโจมตีทางอากาศ อันน่าตื่นเต้น!

กองทัพอากาศ ขอเชิญร่วมกิจกรรมงานวันเด็กแห่งชาติ กองทัพอากาศ ประจำปี 2563 ในวันเสาร์ที่ 11 มกราคม 2563 ตั้งแต่เวลา 08.15 – 14.50 น. ณ ฝูงบิน 601 กองบิน 6, พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศและการบินแห่งชาติ สนามกีฬาสำนักงานผู้บังคับทหารอากาศดอนเมือง, สนามบินเล็กกองทัพอากาศ ทุ่งสีกัน, โรงเรียนการบิน และกองบินต่างจังหวัดทั่วประเทศ

ชมการแสดงบนเวที ร่วมสนุกเกมชิงรางวัล การแสดงการบิน และตั้งแสดงอาวุธยุทโทปกรณ์ต่างๆ และการแสดงภาคอากาศของอากาศยานประเภทต่างๆ รวมทั้ง F-16 และ Gripen

 

5. ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ

ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา และศูนย์สร้างสรรค์เยาวชน (กระจ่าง บริรักษ์นิติเกษตร) จัดงานวันเด็กแห่งชาติ ภายใต้แนวคิด “Smart Kids วิทย์วันเด็ก” โดยเน้นกิจกรรมสำหรับครอบครัว สร้างความสัมพันธ์อันอบอุ่น เสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรม ความรัก ความใส่ใจต่อกัน เน้นให้พ่อ แม่ ลูก ร่วมปฏิบัติกิจกรรมด้วยกัน และส่งเสริมการเรียนรู้บูรณาการวิทยาศาสตร์หลากหลายสาขา

ในวันเสาร์ที่ 11 มกราคม 2562 เวลา 8.30 -16.30 น. ณ ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา (ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ) และ ศูนย์สร้างสรรค์เยาวชน (กระจ่าง บริรักษ์นิติเกษตร)

 

6. กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม

กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตร ได้แก่ สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม กรมทรัพยากรธรณี และศูนย์พัฒนาอาชีพคนตาบอด จัดกิจกรรมด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์และความตระหนักด้านวิทยาศาสตร์ ส่งเสริมการเรียนรู้ให้กับเด็กไทย ได้เรียนรู้และสัมผัสอย่างใกล้ชิด

ซึ่งประกอบด้วยกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีในแขนงต่างๆ ในชื่องาน “ถนนสายวิทยาศาสตร์ รับวันเด็กแห่งชาติ ปี 2563”

วัน เวลา และสถานที่จัดงาน

บริเวณกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ถนนโยธี ถนนพระรามที่หก พิพิธภัณฑ์แร่-หิน กรมทรัพยากรธรณี
วันที่ : 9-11 มกราคม 2563 เวลา 9.00 -17.00 น

คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
วันที่ : 9 และ 11 มกราคม 2563 เวลา 9.00 -17.00 น.

อพวช. : คลองห้า ปทุมธานี
วันที่ : 11 มกราคม 2563

 

7. กระทรวงศึกษาธิการ

กระทรวงศึกษาธิการ จัดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติ ปี 2563 ในวันเสาร์ที่ 11 มกราคม 2563 ณ กระทรวงศึกษาธิการ ตั้งแต่เวลา 7.00 – 17.00 น. ภายใต้แนวคิด Wonderful Kids “สุดยอดเด็กไทย” โดยแบ่งกิจกรรมออกเป็น 3 โซน คือ

  • โซนที่ 1: Citizen Kids: พลเมืองเด็ก (บริเวณสนามหญ้าและในกระทรวงศึกษาธิการ) ประกอบด้วย กิจกรรมเวทีกลาง, กิจกรรมเสริมสร้างความสามัคคี, บูธเกมเด็กไทยรู้หน้าที่, สวนมหาสนุก และการแจกของรางวัลจากหน่วยงานต่างๆ
  • โซนที่ 2: Digital Kids: เด็กยุคดิจิทัล (บริเวณถนนราชดำเนินนอก) เป็นกิจกรรมแสดงถึงความทันสมัย การรู้จักใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อการเรียนรู้และการใช้ชีวิตประจำวัน ประกอบด้วย กิจกรรมสนุกกับ MOE Coding, เพลิดเพลินในโลกดิจิทัล กับขบวนรถดูดาว กศน. เป็นต้น
  • และโซนที่ 3: Environmental Kids: เด็กรักษ์สิ่งแวดล้อม (บริเวณถนนลูกหลวง) เป็นกิจกรรมสร้างจิตสำนึกในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมและโลกของเราให้น่าอยู่ ประกอบด้วย กิจกรรม “เก็บ แยก แลกยิ้ม”, ปณิธานเด็กไทยรักษ์โลก เป็นต้น

 

8. TK Park

TK Alive เนรมิตพื้นที่ให้เป็นดินแดนแห่งความสนุกสนานสำหรับทุกคนในครอบครัว เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ 2563 เข้าร่วมกิจกรรมฟรี วันเสาร์ที่ 11 มกราคม 2563 เวลา 10.30 – 17.00 น. ณ TK Alive ชั้น 6 ด้านหน้าโซนจีเนียสแพลนเน็ต ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ให้เด็กๆ ได้เพลิดเพลินกับกิจกรรม “All About Games” ที่จัดหนักจัดเต็มยกทัพเกมสร้างสรรค์หลากหลายรูปแบบทั้งออนไลน์และออฟไลน์ให้น้องๆ ได้สนุกสุดเหวี่ยงเต็มอิ่มตลอดทั้งวัน พร้อมรับของที่ระลึกสุดพิเศษมากมาย

  • Brain Game by TK Park แอปพลิเคชันใหม่จากสถาบันอุทยานการเรียนรู้ TK Park ที่จะทดสอบความจำ ฝึกคำนวณ การวิเคราะห์จำแนกแยกแยะ และเสริมสร้างจินตนาการ
  • TK Board Game Club พบกับบอร์ดเกมท้าทายความสามารถที่ยกขบวนมาร่วมสนุกตลอดวันจากค่าย Siam Board Games และ Monkole Toy Studio
  • การแข่งขันบอร์ดเกมชิงรางวัล รับสมัครอายุระหว่าง 8 – 15 ปี ร่วมแข่งขันกับบอร์ดเกมสุดมัน
  • ประเภทเดี่ยว เกม “Davinci Code”
  • ประเภททีม 2 คน เกม “เมืองในฝัน” จาก Siam Board Games

(รับสมัครจำนวนจำกัดในวันงานเท่านั้น)

 

9. อสมท.

“พัทโตะ – พัทธ์ ชนภัณฑารักษ์ และ เพียว-กิติพัฒน์ พิมพ์เกษมโสภณ” 2 พิธีกรสุดเฮฮาขวัญใจเด็กๆ จากรายการ “9 การ์ตูน” ทางช่อง 9MCOT HD ชวนน้องๆ หนูๆ เที่ยวงานวันเด็ก ปี 2563 “Wonder kids Thailand” โดย บมจ. อสมท. ร่วมกับแฟชั่น ไอส์แลนด์ มอบความสนุก 3 วันเต็ม 10 – 12 ม.ค. 63 เวลา 10.30 น. – 19.00 น. ณ ชั้น 3 ไอส์แลนด์ ฮอลล์ ศูนย์การค้าแฟชั่น ไอส์แลนด์

เตรียมกระทบไหล่ “น้องมิลค์” สาวน้อย ชาวไทยวัย 12 ป้องกันแชมป์โลกโดรนเรซซิ่ง รายการ “2019 FAI WORLD DRONE RACING CHAMPIONSHIP GRAND FINAL” คว้าแชมป์โลกเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน, โชว์เต้นฮิปฮอป สุดเจ๋งจากทีมออซัม จูเนียร์ (Awesome Junior) ดีกรีแชมป์ฮิปฮอประดับโลก 2 สมัยซ้อน (ปี 2018-2019)

ทดลองเป็นผู้ประกาศข่าว และเป็นดีเจตัวน้อย พร้อมใกล้ชิดเหล่าคาแร็คเตอร์การ์ตูนดังมากที่สุด ลุ้นรับของรางวัลฟรีตลอดงาน

 

10. สภากาชาดไทย กรุงเทพฯ

งานวันเด็กกับสภากาชาดไทย วันที่ 11 มกราคม 2563 ตั้งแต่เวลา 8.30 – 15.30 น. จัดขึ้น ณ พิพิธภัณฑ์สภากาชาดไทย บริเวณสถานเสาวภา ปีนี้จัดขึ้นในธีม “Green Children’s Day” ลด ละ แยก ขยะ มาร่วมรักษ์โลก และร่วมเล่นเกมสนุก ๆ แลกของรางวัลเพียบ! แถมมีของรางวัลใหญ่บนเวทีอีกด้วย หรือหากเด็กน้อยนำภาชนะมาใส่น้ำ/ขนมเอง รับไปเลยของขวัญสุดพิเศษ

พร้อมทั้งชมสวนงู และการแสดงสาธิตการจับงู และดยมีกิจกรรมที่ให้ความรู้ สนุก ๆ รับของรางวัลเพียบ!!! ร่วมลุ้นรางวัลใหญ่บนเวที จักรยาน ทุนการศึกษา ของเล่น ของขวัญ ฯลฯ

 

ด้านองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้สนับสนุนและร่วมฉลองวันเด็กแห่งชาติ 2563 โดยให้เด็กและเยาวชน ที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปี ได้รับสิทธิยกเว้นค่าโดยสาร เมื่อใช้บริการรถโดยสารธรรมดา และรถโดยสารปรับอากาศของ ขสมก. ในวันดังกล่าว

 

ด้านรถไฟฟ้า BTS, MRT และ ARL ยกขบวนให้บริการฟรี ในวันเด็กแห่งชาติ 2563

ทางรถไฟฟ้า BTS ให้เด็กๆ ที่มีอายุไม่เกิน 14 ปี โดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอสฟรีตลอดทุกเส้นทาง ทั้งในส่วนต่อขยายสายสุขุมวิท และสายสีลม รวมถึงรถโดยสารด่วนพิเศษบีอาร์ที ตั้งแต่เวลา 6.00 น. ถึง 24.00 น.

ขณะเดียวกัน บริษัทฯ จะจัดกิจกรรมส่งความสุขให้กับเด็กๆ อาทิ ซุ้มเกมส์หรรษา ซุ้มเกมส์ตอบปัญหา พร้อมรับของรางวัล และของแจกมากมายเป็นที่ระลึก ณ บริเวณสถานีหมอชิต ในช่วงเวลา 7.30 น. – 10.30 น.

ด้านการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ร่วมกับ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BEM) ใจดีส่งมอบความสุขวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2563 ด้วยการโดยสารรถไฟฟ้า MRT ฟรี ทั้ง 2 สาย สายเฉลิมรัชมงคล (สายสีน้ำเงินและสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย) และสายฉลองรัชธรรม (สายสีม่วง) สำหรับเด็กที่มีอายุไม่เกิน 14 ปี และมีความสูงไม่เกิน 140 ซม.

เพียงแสดงตัวที่ห้องออกบัตรโดยสารเพื่อรับคูปองโดยสารรถไฟฟ้าฟรี ตลอดระยะเวลาการให้บริการ

รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ให้เด็กความสูงไม่เกิน 140 ซม.ขึ้นฟรี พร้อมแจกไอศกรีม และของขวัญตลอดวันทุกสถานีเนื่องในวันเด็กแห่งชาติ 2563 ตั้งแต่เวลา 05.30 น.– 24.00 น. พร้อมทั้งจัดกิจกรรมแจกไอศครีมให้แก่เด็กๆที่รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ทุกสถานี ตั้งแต่เวลา 8.00 น. เป็นต้นไป รวมทั้งส่งคาราวานมาสคอตตัวการ์ตูนออกแจกขนม และของขวัญบนขบวนรถไฟฟ้า

อย่างไรก็ตาม ในวันเด็กนั้นมักมีเด็ก ๆ ที่ออกจากบ้านแบบพร้อมเพรียงกัน ทำให้อาจเกิดความวุ่นวายเล็กน้อย ซึ่งตามสถานที่ต่างๆ อยากให้ผู้ปกครองควรระวังลูกหลานของท่านด้วย เพราะเด็กมักสนใจแต่สิ่งรอบตัวหรือสนุกสนานกับกิจกรรม จนลืมดูทางและอาจทำให้เกิดการหลงทางกันระหว่างผู้ปกครองกับตัวเด็ก จากจะเป็นวันที่ทำให้เด็กๆ มีความสุข อาจกลายเป็นวันที่เสียใจแทน

วิธีป้องกันและแก้ปัญหาเด็กหาย

  1. หาเชือกหรือสายอะไรก็ได้ ผูกข้อมือไว้ระหว่างผู้ปกครองกับตัวเด็ก
  2. เขียนเบอร์โทรติดต่อ รวมทั้งชื่อ-นามสกุล ใส่ป้ายบัตรให้เด็กนำไปคล้องคอ หรือนำใส่กระเป๋า
  3. พูกกำชับกับลูกหลานของท่านไว้ก่อนออกเดินทาง ว่าถ้าหลงทางกันและหากันไม่เจอให้ไปที่ไหน หรือบอกเบอร์ติดต่อกับผู้ใหญ่ที่ไว้ใจได้ เช่น ตำรวจ ให้โทรหาเบอร์คุณพ่อหรือคุณแม่ที่ได้จดไว้
  4. แต่ถ้าไม่ได้จด หรือคิดว่าลูกหลานของท่านจำไม่ได้ ให้อยู่ที่เดิมที่หลงทางกัน และโทรแจ้งความ หรือโทร 1300 ศูนย์ประชาบดี หรือขอคำปรึกษาและแจ้งผ่าน ศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา โทร 02-9732236-7

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่ มาขายรถกับทาง Carro Express สิ! คลิกเลยที่ https://th.carro.co/sell-car/express รับรองได้เงินเร็ว ไว ทันใจแน่นอน!

Carro Automall ตลาดรถ

ส่วนใครสนใจจะซื้อรถมือสอง Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2563 หลายคนตอนนี้อาจวางแผนการเดินทางท่องเที่ยวกันไว้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการเที่ยวในประเทศ หรือเที่ยวต่างประเทศ ทาง CARRO Thailand ก็ขอให้ทุกท่านเดินทางโดยสวัสดิภาพนะครับ

ส่วนใครที่อาจไม่ได้เดินทางกลับต่างจังหวัด หรือเป็นคนกรุงเทพฯ สายบุญ อยากเข้าวัดไหว้พระ ทำบุญ หรือจะสวดมนต์ข้ามปี ก็ได้เช่นกัน ตามวิถีชาวพุทธ

ทาง CARRO Thailand ได้รวบรวม 10 สถานที่จัดงานสวดมนต์ข้ามปี 2563 มาให้ทุกท่าน ได้เดินทางไปร่วมไหว้พระสวดมนต์กันได้ตามสะดวกแล้วครับ จะมีที่ไหนบ้าง ไปดูกันเลย

สวดมนต์ข้ามปี-2563-สนามหลวง

1. สวดมนต์ข้ามปี มณฑลพิธีท้องสนามหลวง

กระทรวงวัฒนธรรม จัดงาน กิจกรรม “สวดมนต์ข้ามปี” ระหว่างวันที่ 30 ธ.ค. 2562 – 1 ม.ค. 2563

โดยในวันที่ 30 ธันวาคม 2562 มีพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุจากพระบรมมหาราชวังไปประดิษฐาน ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง เพื่อให้ประชาชนสักการะ

ส่วนวันที่ 31 ธ.ค. 2562 จะมีกิจกรรมแสดงธรรม สวดมนต์ พิธีถวายพระพรชัยมงคล และพอถึงช่วงเวลา 23.40 – 00.10 น. หรือช่วงข้ามศักราชใหม่ พระสงฆ์จะประกอบพิธีเจริญพุทธมนต์และสวดบทชัยมงคลคาถา วัดทั่วประเทศลั่นฆ้องชัยจำนวน 9 ครั้ง และเช้า วันที่ 1 ม.ค. 2563 มีพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ ณ ท้องสนามหลวง และวัดทั่วประเทศ

กิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี ณ มณฑลท้องสนามหลวง จะเริ่มกิจกรรมตั้งแต่เวลา 18.00-24.00 น. ในวันที่ 31 ธันวาคม 2562 และ วันที่ 1 มกราคม 2563 โดยมีกำหนดการต่างๆ ดังนี้

18.00-20.00 น. : วันที่ 31 ธ.ค. ชมการแสดงทางศิลปวัฒนธรรมไทย

20.00-23.30 น. : สวดบทธัมมจักรกัปปวัตนสูตร

23.40 น. : พิธีถวายพระพรชัยมงคล

23.45-23.50 น. : สวดมนต์ส่งท้ายปีเก่า
– นะโม 3 จบ
– บทสรรเสริญคุณพระรัตนตรัย (อิติปิ โส ภะคะวา)
– บทพุทธชัยมงคลคาถา (พาหุง)

24.00 น. : จุดไฟพระฤกษ์(ไฟประทานจากสมเด็จพระสังฆราช)
– ลั่นฆ้องชัย 9 ครั้ง
– บทชัยมงคลคาถา (ชยันโต)

7.00 น. : วันที่ 1 ม.ค. ทำบุญตักบาตร เพื่อความเป็นสิริมงคล

สวดมนต์ข้ามปี-2563-พุทธมณฑล

2. สวดมนต์ข้ามปี ณ ลานพุทธมณฑล

“พุทธมณฑล” เป็นสถานที่ทางศาสนาอีกแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้กับกรุงเทพฯ มาก และไปมาสะดวก ซึ่งทางพุทธมณฑลเอง ได้จัดกิจกรรม “สวดมนต์ข้ามปี” ที่ลานรอบองค์พระประธานพุทธมณฑล จ.นครปฐม โดยมีสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี กรรมการมหาเถรสมาคม พร้อมด้วยพระเถราจารย์ ร่วมในการสวดมนต์และแผ่เมตตาแก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมพุทธวิถี เสริมบารมี

ซึ่งจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2562 เวลา 17.19 น. เป็นต้นไป และเมื่อเสร็จพิธี รับของมงคลที่ระลึก

สวดมนต์ข้ามปี-2563-เสาชิงช้า

3. สวดมนต์ข้ามปี ลานคนเมือง (เสาชิงช้า)

กรุงเทพมหานคร จัดกิจกรรม “สวดมนต์ข้ามปี” ประจำปี 2563 ระหว่างวันที่ 31 ธ.ค. 2562 – 1 ม.ค. 2563 ณ ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) เพื่อเริ่มต้นปีใหม่แบบวิถีไทยๆ พร้อมความเป็นสิริมงคลแก่พี่น้องประชาชน

เริ่มต้นในวันที่ 31 ธ.ค. 2562 กรุงเทพมหานคร จะอัญเชิญพระพุทธนวราชบพิตร จากหอพระภายในศาลาว่าการ กทม. ไปตามเส้นทางต่างๆ บริเวณเกาะรัตนโกสินทร์ เพื่อให้ประชาชนได้กราบสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล จากนั้นจะอัญเชิญประดิษฐานบริเวณลานคนเมืองซึ่งเป็นจุดที่ใช้จัดกิจกรรม “สวดมนต์ข้ามปี” นอกจากนี้ภายในงานจะมีกิจกรรมการแสดงศิลปวัฒนธรรม กิจกรรมสาธิตและการเรียนรู้ทางด้านวัฒนธรรมต่างๆ อีกด้วย

กำหนดการในงาน คือ ในช่วงค่ำเวลาประมาณ 20.00 น. จะได้ชมการแสดงทางวัฒนธรรมต่างๆ จากนั้นในช่วงดึกจะเริ่มพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และต่อกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี ยาวไปจนข้ามสู่ศักราชใหม่

โดย กทม. จะจัดพิมพ์หนังสือสวดมนต์สำหรับแจกจ่ายให้กับประชาชนที่เดินทางมาในพิธีด้วย ส่วนในช่วงเช้าของวันที่ 1 ม.ค. 2563 เวลา 7.00 น. มีพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์เนื่องในวันขึ้นปีใหม่

สวดมนต์ข้ามปี-2563-วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม

4. สวดมนต์ข้ามปี วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม

ด้านวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม ก็ได้มีการจัดงาน “สวดมนต์ข้ามปี” ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ เช่นเดียวกัน ตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม 2562 – 1 มกราคม 2563 โดยมีกำหนดการดังต่อไปนี้ :

เวลา 19.00 น. ทำวัตรเย็นแปล ณ พระอุโบสถวัดเบญจมบพิตร

เวลา 21.00 น. พิธีสืบชาตา เสริมชะตาราศี เป็นสิริมงคลแก่ชีวิตในศักราชใหม่
– ประธานจุดเทียนชัย
– ไหว้พระ/อาราธนาศีล/รับศีล/อาราธนาพระปริตร
– สะเดาะเคราะห์ เรียกขวัญ แบบล้านนา
– ผู้เข้าร่วมพิธีทุกท่านนำด้ายสายสิญจน์ครอบศีรษะ
– พระสงฆ์ เจริญพระพุทธมนต์ สวดสืบชาตา ตามประเพณีโบราณ
– ถวายตุงมหาเศรษฐีรุ่งเรื่อง/ พระสงฆ์ทั้งนั้นอนุโมทนา

เวลา 23.00 น. อธิษฐานเปลี่ยนแปลงชีวิตต้อนรับศักราชใหม่ พิธีสวดมนต์ข้ามคืน
– ประธานจุดเทียนบูชาพระรัตนตรัย
– พระสงฆ์ ประชาชน ร่วมสวดมนต์

เวลา 0.01 ลั่นฆ้องชัย ต้อนรับศักราชใหม่
– พระสงฆ์สวดบท ชัยยมงคลกถา ประพรมน้ำพระพุทธมนต์

สวดมนต์ข้ามปี-2563-วัดปทุมวนาราม

5. สวดมนต์ข้ามปี วัดปทุมวนาราม

สำหรับใครที่อยากฉลองปีใหม่แบบสนุกสุดเหวี่ยง ไปกับแสงสีและดนตรี แต่ก็อยากรู้สึกแว๊บๆ เข้ามาในโลกแห่งทางธรรมบ้าง ก็สามารถมาร่วมงาน “สวดมนต์ข้ามปี” กันได้ที่วัดปทุมวนาราม ใจกลางเมืองแห่งนี้ได้เลย

ร่วมสวดมนต์ข้ามปีเพื่อความสวัสดิมงคล ส่งท้ายปีเก่า-ต้อนรับปีใหม่ พุทธศักราช 2562 – 2563 ได้ตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2562 – 1 มกราคม 2563

สวดมนต์ข้ามปี-2563-วัดธาตุทอง

6. สวดมนต์ข้ามปี วัดธาตุทอง พระอารามหลวง

วัดธาตุทอง เป็นอีกวันหนึ่งที่อยู่ในย่านถนนสุขุมวิท ที่มีผู้คนมาทำุญไหว้พระกันอยู่เป็นประจำ ก็มีจัดงาน “สวดมนต์ข้ามปี” ด้วยเช่นเดียวกัน สำหรับในปีนี้ ทางวัดธาตุทอง ได้จัดงานสวดมนต์ข้ามปี สืบดวงชะตา เสริมบารมี กันในวันที่ 31 ธันวาคม 2562 ตั้งแต่เวลา 22.00 น. เป็นต้นไป

สวดมนต์ข้ามปี-2563-สวนโมกข์กรุงเทพ

7. สวดมนต์ข้ามปี สวนโมกข์กรุงเทพฯ

สำหรับสวนโมกข์กรุงเทพฯ ก็มีการจัดงาน “สวดมนต์ข้ามปี” กับงาน “เทศกาลเจริญสติ สวดมนต์ภาวนาข้ามปี พุทธศักราช 2563” ปีใหม่ชีวิตใหม่ ปีแห่งการเติมธรรมะลงในชีวิต ในระหว่างวันที่ 31 ธ.ค. 2562 – 1 ม.ค. 2563 ณ หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ โดยแบ่งกิจกรรมออกเป็น 6 ช่วง ได้แก่

ช่วง 1 ยามเช้า : 31 ธ.ค. ตักบาตรสาธิต สมาทานศีล ฟังธรรม และสมาธิภาวนา ณ โถงกิจกรรม ชั้น 1

ช่วง 2 ยามบ่าย : สมาธิภาวนา และกิจกรรมต่างๆ

ช่วง 3 ยามเย็น : ทำวัตร ฟังธรรม เติมธรรมะลงในชีวิต ณ สวนพุทธธรรม ชั้น 1

ช่วงที่ 4 ยามข้ามปี : สวดมนต์ภาวนา รับศักราชใหม่

ช่วงที่ 5 ภาวนารับปีใหม่ : สวดมนต์ภาวนา

ช่วงที่ 6 ทำวัตรเช้า : 1 ม.ค. ทำบุญตักบาตรและรับพรปีใหม่

สวดมนต์ข้ามปี 2563

นอกจากนี้ กิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีที่มีอยู่ในข้างต้นแล้ว ทางกระทรวงวัฒนธรรม ยังได้ร่วมกับ กทม. และ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จัดกิจกรรมตามวัดต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ อีกจำนวนมากถึง 58 แห่ง ได้แก่

1. สมาคมส่งเสริมความดีสากล

2. วัดทุ่งลานนา เขตประเวศ กทม.

3. วัดยานนาวา เขตสาทร

4. วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร เขตป้อมปราบฯ

5. วัดภาษี เขตวัฒนา กทม.

6. วัดราชโอรสารามราชวรวิหาร เขตบางขุนเทียน

7. วัดชัยพฤกษ์มาลา เขตตลิ่งชัน

8. วัดสุวรรณประสิทธิ์ เขตบึงกุ่ม

9. วัดพรหมวงศาราม เขตดินแดง

10. วัดเทพลีลา เขตบางกะปิ

11. วัดพระศรีมหาธาตุ เขตบางเขน

12. วัดเจริญธรรมาราม เขตสายไหม

13. วัดราชาธิวาสราชวรวิหาร เขตดุสิต

14. วัดชนะสงครามราชวรมหาวิหาร เขตพระนคร

15. วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร เขตพระนคร

16. วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ เขตพระนคร

17. วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เขตสัมพันธวงศ์

18. วัดปทุมคงคาราชวรวิหาร เขตสัมพันธวงศ์

19. วัดบางเตย เขตบึงกุ่ม

20. วัดชัยชนะสงครามราชวรมหาวิหาร เขตพระนคร

21. วัดมหรรณพารามวรวิหาร เขตดุสิต

22. วัดพิชัยญาติการามวรวิหาร เขตบางกอกน้อย

23. วัดอุดมรังสี เขตหนองแขม

24. วัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก เขตห้วยขวาง

25. วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร เขตป้อมปราบฯ

26. วัดศิริพงษ์ธรรมนิมิต เขตบางเขน

27. วัดราชสิงขร บางคอแหลม

28. วัดดาวดึงษ์ เขตบางพลัด

29. วัดมหาพฤฒารามวรวิหาร เขตบางรัก

30. วัดธรรมมงคล เขตพระโขนง

31. วัดหัวลำโพง เขตบางรัก

32. วัดบางโพโอมาวาส เขตบางซื่อ

33. วัดสร้อยทอง เขตบางซื่อ

34. วัดบวรนิเวศวิหาร เขตพระนคร

35. วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เขตพระนคร

36. วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม เขตดุสิต

37. วัดสามพระยาวรวิหาร

38. วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ

39. วัดคลองเตยใน เขตคลองเตย

40. วัดประยุรวงศาวาส เขตธนบุรี

41. วัดกัลยาณมิตร เขตธนบุรี

42. วัดราชคฤห์ เขตธนบุรี

43. วัดจันทร์ประดิษฐาราม เขตตลิ่งชัน

44. วัดราชสิทธาราม เขตบางกอกใหญ่

45. วัดนาคกลาง เขตบางกอกใหญ่

43. วัดใหม่พิเรนท์ เขตบางกอกใหญ่

46. วัดสุวรรณคีรี เขตบางกอกน้อย

47. วัดเทพนารี เขตบางพลัด

48. วัดดอนเมือง เขตดอนเมือง

49. วัดเวฬุวนาราม เขตดอนเมือง

50. วัดราชโอรสาราม เขตจอมทอง

51. วัดนางนอง เขตจอมทอง

52. วัดทองนพคุณ เขตคลองสาน

53. วัดบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ

54. วัดบุณยประดิษฐ์ เขตบางแค

55. วัดหนองจอก เขตหนองจอก

56. วัดอัปสรสวรรค์ เขตภาษีเจริญ

57. วัดอุดมรังสี เขตหนองแขม

58. วัดคู้บอน เขตคลองสามวา

ท่านใดสะดวกวัดไหน แถวไหน สามารถไปร่วมงานกันได้ตามสะดวก รับรอง อิ่มบุญ (ได้สวดมนต์ ไหว้พระ ตักบาตรตอนเช้า) อิ่มใจ (ได้นั่งสมาธิ ฟังพระอบรมเทศนา) และอิ่มท้อง (เพราะหลายๆ วัด มีข้าวปลาอาหาร ให้ทานกันได้ไม่อั้น) แน่นอน!

แหล่งที่มาบางส่วนจาก:

รวม 10 จุด "เคาท์ดาวน์ปีใหม่ 2020" ทั่วกรุงเทพฯ ที่คุณไม่ควรพลาด!

ช่วงนี้ก็ล่วงเข้าสู่ปลายเดือนธันวาคมกันแล้ว ก่อนถึงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2563 นี้ ถ้าคุณกำลังมองหาสถานที่เคาท์ดาวน์ รอนับถอยหลัง 5 4 3 2 1 กับครอบครัวหรือเพื่อนฝูงอยู่ Carro ขอเสนองาน “เคาท์ดาวน์ปีใหม่” (Countdown 2020) ที่มีศิลปินชื่อดังมาร่วมแสดงกันอย่างคับคั่ง พร้อมมองพลุหลากสีสันที่ยิงขึ้นฟ้าด้วยบรรยากาศสนุกสนาน

ส่วนใครที่จะขายรถเก่าเพื่อซื้อรถยนต์คันใหม่ ฉลองเทศกาลปีใหม่ 2563 นี้ ทาง Carro ก็มีความยินดีที่พร้อมรับซื้อรถของคุณ ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ Carro Express คลิกที่นี่ https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook Carro Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothai หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

คนกรุงเทพฯ ถ้าไม่สะดวกไปต่างจังหวัด หรือที่ไกลๆ ช่วงปีใหม่ 2563 ลองเปลี่ยนบรรยากาศมานับเคาท์ดาวน์ในกรุงเทพฯ ดู เพราะที่เที่ยวสำหรับเคาท์ดาวน์ในกรุงเทพฯ มีมากมายให้เลือก ตามไปดูกันเลย

Countdown-In-Bangkok-2020

1. ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ (Central World)

เริ่มต้นด้วยที่แรก กับสถานที่ “เคาท์ดาวน์ปีใหม่” สุดฮิตในตำนานอย่าง Central World ที่เป็นจุด Countdown ยอดฮิตมานาน กับงาน “AIS Bangkok Countdown 2020” ณ ลานด้านหน้าห้างศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ การันตีด้วยเวทีใหญ่ที่สุด 220 เมตร ย้ำความเป็น World of Best Entertainment Countdown จุดเคาท์ดาวน์ที่ดีที่สุด มันส์ที่สุด และแฮปปี้ที่สุดตลอดกาล

พร้อมด้วยตำแหน่งไทม์สแควร์แห่งเอเชีย และเป็นสถานที่เคาท์ดาวน์ติดอันดับโลก จาก CNN เพราะมีการจัดแสดงที่อลังการ โดยจัดแสดงพลุ ดอกไม้ไฟ ให้คุณสนุกไปกับเหล่าดารา ศิลปินชื่อดังมากมาย ที่มาร้องเพลงร่วมส่งท้ายปีเก่าไปกับคุณ

ส่วนถ้าใครไม่สะดวกที่จะมาร่วมงาน ในปีนี้ ทางเซ็นทรัล ยังได้จัดพร้อมกันอีก 11 สาขาทั่วประเทศ ที่เซ็นทรัลพลาซา และเซ็นทรัล เฟสติวัล และ เซ็นทรัล ภูเก็ต

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่: Central World

Countdown-In-Bangkok-2020

2. ASIATIQUE The Riverfront

ถ้าคุณกำลังหาสถานที่ “เคาท์ดาวน์ปีใหม่” ในกรุงเทพฯ บวกกับบรรยากาศสุดโรแมนติกริมแม่น้ำเจ้าพระยา “เอเชียทีค” เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวที่เหมาะมากเลยทีเดียว และปีนี้ ASIATIQUE Thailand Countdown 2020 มาในคอนเซปต์ “Boost Your Energy Up” ในวันที่ 31 ธันวาคม 2562 นี้ 17.00 น. เป็นต้นไป เตรียมชาร์ทความสนุก รับปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง ท่ามกลางบรรยากาศมันส์ๆ ตื่นตาไปกับเวที แสง สี เสียง สนุกสุดเหวี่ยงไปกับมหกรรมคอนเสิร์ต จากศิลปินแถวหน้าของเมืองไทย

และพลาดไม่ได้กับการการแสดงพลุจากทีม PYRO 2000 แชมป์โลกจากประเทศอังกฤษ ที่กวาดแชมป์มาแล้วทั่วโลก บินตรงเพื่อมาออกแบบโชว์พลุสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่เอเชียทีคโดยเฉพาะ โดยแบ่งเป็น 5 โชว์พลุประสารทพรให้กับทุกคน ได้แก่ รื่นรมย์ Pleasant, รุ่งเรือง Prosperity, สุขเกษมเปรมปรีย์ Happiness, โชคดีมีชัย Lucky และสดชื่นเบิกบานใจ Blissful and Blossom

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่: Asiatique

Countdown-In-Bangkok-2020

3. Iconsiam

สำหรับ Iconsiam แหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตริมแม่น้ำเจ้าพระยา ทั้งคนไทยและชาวต่างประเทศ ก็จัดงาน “เคาท์ดาวน์ปีใหม่” อย่างยิ่งใหญ่ โดยร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และพันธมิตรสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา สร้างมหาปรากฏการณ์ “Amazing Thailand Countdown 2020” เฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ สุดยิ่งใหญ่ตระการตา ภายใต้แนวคิด มหัศจรรย์พร 7 ประการ ในวันที่ 31 ธันวาคม 2562 ตั้งแต่ 17.00 น. ณ ริเวอร์พาร์ค ไอคอนสยาม

เพื่อตอกย้ำให้แม่น้ำเจ้าพระยาสายประวัติศาสตร์ เป็นจุดหมายปลายทางสำคัญแห่งการท่องเที่ยว และเป็นแลนด์มาร์คของการเฉลิมฉลองค่ำคืนส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ให้ที่มีชื่อเสียงไปในระดับโลก

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่: Iconsiam

Countdown-In-Bangkok-2020

4. Future Park & Zpell

สำหรับคนที่บ้านอยู่ชานเมือง เลยกรุงเทพฯ ไปนิดหน่อย แค่ปทุมธานี หากไม่อยากฝ่าเข้ามาเบียดเสียดฝูงชนย่านใจกลางเมือง ก็มาร่วม “เคาท์ดาวน์ปีใหม่” กันได้ที่ “Future Park & Zpell Countdown 2020” ระเบิดสีสันความสุข กับคอนเสิร์ตยิ่งใหญ่ข้ามปี!!

พบศิลปินเบอร์ Top ของเมืองไทย

19.00 น. YOUNGOHM
20.00 น. LAZYLOXY & OG-ANIC
21.00 น. 25 HOURS
22.00 น. MODERN DOG
23.20 น. COCKTAIL

พบกันวันสิ้นปี 31 ธันวาคม 2562 ตั้งแต่เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป ที่ Short Stay ลานจอดรถด้านหน้าศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่: Future Park & Zpell

Countdown-In-Bangkok-2020

5. Crystal Design Center (CDC)

สำหรับคนที่อยู่ในย่านเลียบทางด่วน เอกมัย-รามอินทรา สามารถมาชิคๆ ชิวๆ “เคาท์ดาวน์ปีใหม่” กันได้ที่ CDC Countdown 2020ฟรีคอนเสิร์ตเคาท์ดาวน์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี!!! ยกทัพศิลปิน Joeyboy, Paradox, Cocktail, Zeal และ นิวจิ๋ว

รับบัตรเข้างานฟรี! พร้อมเครื่องดื่ม และลุ้นรับ iPhone 11 คลิก https://bit.ly/35DjDUK

มาร่วมมันส์ไปด้วยกัน วันอังคารที่ 31 ธันวาคม นี้ 17.00 น. เป็นต้นไป ที่ Crystal Arena CDC เลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา ขอบอก งานนี้มีรถ Shuttle Bus รับ-ส่ง ฟรีด้วยนะ!

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่: Crystal Design Center

Countdown-In-Bangkok-2020

6. Mega Bangna

อันนี้แม้จะเลยเขตกรุงเทพฯ เข้าไปเขตจังหวัดสมุทรปราการนิดหน่อย แต่ก็ถือว่าอยู่ใกล้ๆ กรุงเทพฯ ละกัน ในการร่วมนับถอยหลังข้ามปี “เคาท์ดาวน์ปีใหม่” กับงาน “The Forestias by MQDC Presents Mega Countdown 2020” สนุกมันส์ข้ามปีกับคอนเสิร์ตยิ่งใหญ่เต็มรูปแบบจากศิลปินดัง ตอกย้ำแลนด์มาร์คงานเคาท์ดาวน์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด แห่งกรุงเทพตะวันออก

พบกับศิลปินดัง ได้แก่ นนท์-ธนนท์, วง Getsunova, วงโปเตโต้, วงสล็อต แมชชีน, Poly Cat, UR Boy TJ และ กอล์ฟ ฟักกลิ้ง ฮีโร่ ในวันอังคารที่ 31 ธันวาคมนี้ ตั้งแต่เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป ณ ศูนย์การค้าเมกาบางนา

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่: Mega Bangna

Countdown-In-Bangkok-2020

7. คิง เพาเวอร์ มหานคร

สำหรับใครที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศ ไป “เคาท์ดาวน์ปีใหม่” แบบสูงๆ แบบหรูๆ ดูบ้าง ก็เชิญไปได้ที่ “คิง เพาเวอร์ มหานคร” มาร่วมนับถอยหลังสู่ปีใหม่บนรูฟท็อปบาร์ที่สูงที่สุดในประเทศไทย พร้อมชมการแสดงพลุจากทั่วกรุงเทพฯ ในแบบ 360 องศา บนชั้น 78 ของคิง เพาเวอร์ มหานคร

และสนุกไปกับแชมเปญปาร์ตี้และการแสดงการเหล่าศิลปินชั้นนำ ตั้งแต่เวลา 21.00 – 01.30 น. พร้อมฟรีโฟลว์แชมเปญ และหอยนางรมแบบไม่จำกัด บัตรราคาเริ่มต้นที่ 25,000++ บาท/ท่าน

และสำหรับท่านที่ต้องการเก็บความประทับใจ กับพระอาติทย์ตกสุดท้ายของปี บนรูฟท็อปบาร์ที่สูงที่สุดในประเทศไทย ระหว่างเวลา 17.00-19.30 น. สามารถซื้อบัตรเข้าชมได้ในราคา 4,500++ บาท/ท่าน (สำหรับผู้ใหญ่) พร้อมรับแชมเปญ 1 แก้ว

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่: King Power Mahanakhon

Countdown-In-Bangkok-2020

8. Seacon Square

มหกรรมฟรีคอนเสิร์ต! เต็มรูปแบบ จากศิลปินดังที่จะทำให้คุณต้องกรี๊ดกันแบบสุดเสียง เต้นกันให้สุดแรง เติมเต็มความสุขสนุกสุดมันส์แบบไร้ขีดจำกัด กับงาน “SEACON Countdown Concert 2020” ต้อนรับ “เคาท์ดาวน์ปีใหม่” ตลอด 3 คืนเต็ม 29-31 ธ.ค. 2562 ลานหน้าซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ ตั้งแต่ 20.30 – 00.00 น.

อาทิตย์ที่ 29 ธ.ค. 2562 เปิดเวทีความมันส์กับวง “Cocktail” วงร็อกนักร้องเสียงเอกลักษณ์ และ “ปาล์มมี่” ศิลปินฮิปปี้สุดเซอร์ที่มีเสน่ห์เฉพาะตัวแบบไม่เหมือนใคร

จันทร์ที่ 30 ธ.ค. 2562 สนุกไปกับดนตรีแนวอัลเทอร์เนทีฟร็อก วงร็อกหัวใจวัยรุ่นผงาดง้ำค้ำวงการเพลง กับวง “Paradox” ตอกย้ำความมันส์อย่างต่อเนื่องกับ “Clash” ร็อกระดับตำนาน

อังคารที่ 31 ธ.ค. 2562 สนุกส่งท้ายในคืนข้ามปีไปกับวง “ETC” ที่ขนเพลงฮิตให้อินและฟินไปพร้อมกัน แล้วมาเคาท์ดาวน์รับศักราชใหม่ไปพร้อมกับวง “Mild” ที่มาในแนวดนตรีป็อป ผสมผสานกับฮิปฮอปอย่างลงตัว

ยินดีต้อนรับทุก “ธีมมันส์” ของการแต่งตัว โดดเด่นสะดุดตาผู้คน รับรางวัลเด็ดไปเลย!

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่: Seacon Square

https://www.brandbuffet.in.th/wp-content/uploads/2015/12/TheStreetRachada_Countdown.jpg

9. The Street Ratchada

ศูนย์การค้าเดอะสตรีท รัชดา เตรียมกิจกรรม “เคานท์ดาวน์ปีใหม่” กับงาน “The Street Countdown 2020” สุดอลังการและยิ่งใหญ่ที่สุดในย่านรัชดา และปาร์ตี้กับศิลปินสุดคูลล์ ที่มาสร้างความสนุกภายในงาน อาทิ ACTART, VARINZ, Z TRIP, KANOM, NONNY9, เต-นิว

พร้อมชมพลุฉลองการปีใหม่ ในวันที่ 31 ธ.ค. 2562 ตั้งแต่เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป ณ ลานด้านหน้า เดอะ สตรีท รัชดา

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่: The Street Ratchada

Countdown-In-Bangkok-2020

10. ตึกใบหยก 2

ส่วนใครที่อยาก “เคาท์ดาวน์ปีใหม่” แบบแข่งกันกินไปด้วย ก็ต้องไปที่ Baiyoke Marathon Rally Buffet Count Down Party 2020 บุฟเฟ่ต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบปี ทานได้ไม่จำกัด (แต่ไม่ฟรี ราคาเริ่มต้น 2,900 บาท ที่นั่งมีจำนวนจำกัด) เริ่มตั้งแต่เวลา 19.30 น. จนถึงเคาท์ดาวน์ ซึ่งใครเก็บ RC ครบ 10 RC ลุ้นชิงรางวัลรวมกว่า 200,000 บาท

ร่วมชมพลุ ชมวิวแบบ 360 องศา ระหว่างเก็บ RC แวะนวดผ่อนคลาย ความเหนื่อยล้า พร้อมชมวิวสุดชิลของกรุงเทพฯ Sky Relax ชั้น 69 และเคาท์ดาวน์แบบสูงที่สุด ดาดฟ้าพื้นหมุน ชั้น 84

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่: Baiyoke Sky Hotel

เอาล่ะ ใครที่สะดวกจะไปเคาท์ดาวน์ที่ไหน ก็เตรียมตัววางแผนกันได้ตั้งแต่เนิ่นๆ เลยนะครับผม …

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่ มาขายรถกับทาง Carro Express สิ! คลิกเลยที่ https://th.carro.co/sell-car/express รับรองได้เงินเร็ว ไว ทันใจแน่นอน!

Carro Automall ตลาดรถ

ส่วนใครสนใจจะซื้อรถมือสอง Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

9-Tourist-Attractions-Near-Bangkok-At-Winter

ขับรถเล่น รับลมหนาวกับ 9 ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ

1. ยอดเขาเทวดา อุทยานแห่งชาติพุเตย จังหวัดสุพรรณบุรี

ความเย็นยะเยือกรับลมหนาว ทะเลหมอกบนยอดเขาที่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,123 เมตร ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยว มีพื้นที่เกือบ 2 แสนไร่ เหมาะกับนักเดินทางขาลุย ที่ชื่นชอบธรรมชาติมีครบทั้งป่าไผ่ น้ำตก ไร่ข้าวโพด และข้าวไร่

เที่ยวหน้าหนาว-ยอดเขาเทวดา

2. วังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา

เจ้าของฉายา สวิตเซอร์แลนด์แดนอีสาน ซึ่งได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 7 แหล่งโอโซนบริสุทธิ์ของโลก ยังมีอากาศเย็นสบายตลอดปี มีทิวทัศน์สวยงามรายล้อม และที่เที่ยวน่าสนใจอีกมากมาย เที่ยวได้ทั้งครอบครัว

เที่ยวหน้าหนาว-วังน้ำเขียว

3. เขาพะเนินทุ่ง อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี

อีกหนึ่งแหล่งชมทะเลหมอกใกล้กรุงเทพฯ ที่นี่มีทะเลหมอกปกคลุมเหนือยอดเขาทั้งปี ทำให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสได้ในยามเช้า ซึ่งสามารถเลือกชมทะเลหมอกได้ 2 จุด คือ จุดชมวิวกิโลเมตรที่ 30 และ 36 บอกเลยว่าเย็นสบายเว่อร์

เที่ยวหน้าหนาว-เขาพะเนินทุ่ง

4. ทุ่งทานตะวัน เขาจีนแล จังหวัดลพบุรี

ช่วงอากาศหนาวจะมีนักเที่ยวแวะเวียนเพื่อมาชมดอกทานตะวันเป็นจำนวน เพราะที่นี่เป็นทุ่งทานตะวันที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และมีกิจกรรมต่าง ๆ ให้ได้ร่วมสนุกมากมาย เช่น ปั่นจักรยานชมทุ่งทานตะวัน นั่งรถไฟชมทุ่ง ขี่ม้า และถ่ายรูปกับดอกทานตะวันยักษ์ เป็นต้น

เที่ยวหน้าหนาว-ทุ่งทานตะวัน

5. ไร่องุ่น อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี

มีไร่องุ่นจำนวนมาก และมีผลิตภัณฑ์จากองุ่นที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นองุ่นสด ไวน์ น้ำองุ่น หรือแยมองุ่น ฉะนั้นหน้าหนาวนี้ไปเที่ยวเด็ดองุ่นจากต้นชิมกันสด ๆ ที่ไร่องุ่นมวกเหล็ก ใกล้ ๆ กรุงเทพฯ เดินทางไม่ไกล สามารถไปเช้ากลับเย็นได้แบบชิล ๆ เลยล่ะ

เที่ยวหน้าหนาว-ไร่องุ่น

6. อัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม

เมื่อเข้าฤดูหนาวก็เป็นช่วงบรรยากาศสุดแสนจะโรแมนติก โดยเฉพาะถ้าได้พักรีสอร์ทริมน้ำ อากาศเย็น ๆ มีลดพัดสบาย นอกจากนี้ยังได้สัมผัสกับบรรยากาศของตลาดน้ำ ล่องเรือไหว้พระ ชิมอาหาร และผลไม้อร่อย ๆ จากชาวสวนอัมพวา เหมาะจะเป็นสถานที่พักผ่อนในวันหยุดสั้น ๆ

เที่ยวหน้าหนาว-อัมพวา

7. เที่ยวเมืองเก่า จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

เที่ยวในช่วงฤดูหนาวจะได้บรรยากาศที่แสนจะเย็นสบายไม่ร้อน การเดินชมเมืองเก่าและวัดโบราณต่างๆ ทำให้เกิดความเพลิดเพลิน โดยเฉพาะวัดไชยวัฒนารามในยามเย็นจะสวยงามมาก ๆ จนหลายคนต้องตกตะลึงเลยล่ะค่ะ

เที่ยวหน้าหนาว-อยุธยา

8. เขื่อนขุนด่านปราการชล จังหวัดนครนายก

เป็นเมืองแห่งน้ำตก ที่ในหน้าหนาวจะได้สัมผัสกับสายน้ำอันเยือกเย็น การเดินทางนั้นถือว่าสะดวก และง่ายเพราะใกล้กับกรุงเทพฯ เหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมแอดเวนเจอร์ เพราะมีทั้ง ล่องแพ ล่องแก่ง ขับรถ ATV เป็นต้น

เที่ยวหน้าหนาว-เขากระโจม

9. เขากระโจม จังหวัดราชบุรี

อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวช่วงหน้าหนาว เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบเดินทางแบบสมบุกสมบัน เพราะเป็นเทือกเขาที่มีความสลับซับซ้อน แต่มีความสูงชันไม่มาก และเมื่อได้ไปถึงบนยอด จะได้พบกับวิวธรรมชาติที่เป็นทะเลหมอกตรงหน้า

เที่ยวหน้าหนาว-วังน้ำเขียว

ประกันภัยรถยนต์ตัวช่วยเพิ่มความปลอดภัย

ไม่ว่าจะเดินทางใกล้หรือไกล มือใหม่หัดขับ หรือขับรถมานานแล้ว สิ่งหนึ่งที่สร้างความอุ่นใจในขณะขับรถได้ตลอดทุกเส้นทาง นั้นคือ ประกันภัยรถยนต์ ซึ่งมีให้เลือกหลากหลายแตกต่างกันออกไป ราคาประกันชั้น 1 ก็จะมีความแตกต่างจากชั้น 2 , ชั้น 2+ , ชั้น 3 และชั้น 3+ ซึ่งก่อนการเลือกซื้อประกันรถยนต์อาจพิจารณาได้ดังนี้

  • ควรเลือกซื้อกับตัวแทนหรือบริษัทที่มีใบอนุญาตเพื่อความปลอดภัย
  • ควรมีเบี้ยราคาประกัน 1 , ชั้น 2 , ชั้น 2+ , ชั้น 3 และชั้น 3+ ให้ได้เปรียบเทียบ
  • การทำธุรกรรมทางการเงิน ควรมีหลากหลายช่องทางให้ได้ชำระ
  • เป็นระบบโบรกเกอร์ประกันภัยที่มีศูนย์รวมบริการประกันแบบครบครัน
  • มีข้อเสนอพิเศษก่อนจะตัดสินใจซื้อที่ไหนดีควรจะเช็คโปรโมชั่นเสียก่อน

สนใจทำประกันรถยนต์ชั้น 1 กับ rabbit finance คลิกเข้ามาตอนนี้คุณจะได้รับการเปรียบเทียบจาก 30 บริษัทชั้นนำ และลูกค้าใหม่ยังได้ส่วนลดสูงสุด 15% หรือหากมีข้อสงสัย เราก็มีเจ้าหน้าที่เฉพาะด้านที่คอยให้คำปรึกษาลูกค้าอย่างใกล้ชิด

King-Rama-10-Royal-Barge-Procession

การเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร โดยริ้วกระบวน “พยุหยาตราทางชลมารค” เป็นอีกพิธีในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกพุทธศักราช 2562 โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มีขึ้นในวันที่ 12 ธันวาคม 2562 ซึ่งจัดขึ้นตามโบราณราชประเพณี เพื่อให้พสกนิกรได้เฝ้าฯ ถวายพระพรชัยมงคล

พิธีการขบวน “พยุหยาตราทางชลมารค” จะใช้เรือจำนวน 52 ลำ โดยเรือพระที่นั่งใช้ 4 ลำใหญ่ เรือนำ คือ เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช เชิญพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ ซึ่งเป็นพระมงคลที่นำขบวนทุกครั้งในประเทศไทย ลำที่ 2 คือ เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ เป็นเรือที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ลำที่ 3 คือ เรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ เป็นของสมเด็จพระบรมวงศ์ และลำที่ 4 คือ เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ เป็นเรือพระที่นั่งสำรอง

จากนั้นเป็นเรือดั้ง เรือแซง เรือรูปสัตว์ และเรือมีชื่อต่างๆ ทั้งหมด 52 ลำ เรียกว่า ขบวนพยุหยาตราใหญ่

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดขบวนราบเพิ่ม กล่าวคือเดิมเมื่อขบวนเรือมาถึงท่าราชวรดิฐ จะเสด็จเข้าประทับที่พระที่นั่งราชกิจวินิจฉัย แล้วขึ้นรถยนต์พระที่นั่งเสด็จกลับพระที่นั่งอัมพรสถาน แต่ได้เปลี่ยนแปลงเพิ่มเติม โดยเมื่อเรือมาถึงท่าราชวรดิฐ จะเสด็จฯ ขึ้นที่พลับพลา ก่อนเสด็จฯ ไปยังพระที่นั่งราชกิจวินิจฉัย

จากนั้นจะมีขบวนราบ ซึ่งมีลักษณะคล้ายขบวน “พยุหยาตราทางสถลมารค” แต่มีขนาดย่อมกว่าโดยขบวนราบจะเริ่มจากท่าราชวรดิฐ มาตามถนนมหาราช ก่อนเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนพระลาน แล้วเลี้ยวขวาเข้าพระบรมมหาราชวังที่ประตูวิเศษไชยศรี แล้วเสด็จไปสู่พระที่นั่งอาภรณ์ภิโมกข์ เพื่อเปลี่ยนฉลองพระองค์ แล้วเสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งกลับพระที่นั่งอัมพรสถาน

ทาง CARRO รวบรวมวิธีการเดินทาง สำหรับทุกท่านที่อยากไปร่วมงานชมขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ด้วยระบบขนส่งมวลชนกันครับ ซึ่งหลายภาคส่วนร่วมอำนวยความสะดวก และไม่เก็บค่าบริการ

การเดินทางโดยรถเมล์

BMTA-Free-Shuttle-Bus-12-Dec-2019

เดินทางด้วยรถเมล์ เป็นวิธีเดินทางสำหรับที่ไม่รีบร้อนและมีเวลา จัดเดินรถโดยสารให้บริการฟรี จำนวน 19 เส้นทาง ในวันที่ 12 ธันวาคม 2562 ตั้งแต่เวลา 9.00 – 22.00 น. หรือจนกว่าจะส่งประชาชนออกจากพื้นที่หมด แบ่งเป็น

1. จัดรถโดยสารปรับอากาศชานต่ำ ใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) และรถโดยสารปรับอากาศยูโรทู วิ่งในเส้นทางเดินรถเฉพาะกิจ (จอดรับ – ส่งทุกป้าย) จำนวน 6 เส้นทาง โดยมีรายละเอียดดังนี้

  • เส้นทางที่ 1 อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ – สนามหลวง จอดรับ – ส่ง บริเวณหน้าร้านอาหารสกายไฮ
  • เส้นทางที่ 2 สถานีขนส่งกรุงเทพ (จตุจักร) – สนามหลวง จอดรับ – ส่ง บริเวณใต้สะพานพระราม 8 (ฝั่งพระนคร)
  • เส้นทางที่ 3 วงเวียนใหญ่ – สนามหลวง จอดรับ – ส่ง บริเวณสถานีรถไฟธนบุรี และบริเวณหน้าวัดกัลยาณมิตร
  • เส้นทางที่ 4 สนามศุภชลาศัย – สนามหลวง จอดรับ – ส่ง บริเวณ ม.เทคโนโลยีราชมงคลพระนคร วิทยาเขตเทเวศร์
  • เส้นทางที่ 5 สถานีขนส่งกรุงเทพ (สายใต้ใหม่) – สนามหลวง จอดรับ – ส่ง บริเวณใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า (ฝั่งธนบุรี)
  • เส้นทางที่ 6 สถานีรถไฟหัวลำโพง – สนามหลวง จอดรับ – ส่ง บริเวณใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า (ฝั่งพระนคร)

2. จัดรถโดยสารปรับอากาศชานต่ำ ใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) และรถโดยสารปรับอากาศยูโรทู
วิ่งในเส้นทางเดินรถ Shuttle Bus (รับจากจุดจอด – จุดส่ง) จำนวน 11 เส้นทาง โดยมีรายละเอียด ดังนี้

  • เส้นทางที่ 1 เมืองทองธานี, ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ – สนามหลวง จอดรับ – ส่ง บริเวณใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า (ฝั่งพระนคร)
  • เส้นทางที่ 2 สโมสรตำรวจ, ม.เกษตรศาสตร์ – สนามหลวง จอดรับ – ส่ง บริเวณใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า (ฝั่งพระนคร)
  • เส้นทางที่ 3 สโมสรทหารบก, กทม.2 – สนามหลวง จอดรับ – ส่ง บริเวณ ม.เทคโนโลยีราชมงคลพระนคร วิทยาเขตเทเวศร์
  • เส้นทางที่ 4 ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต – สนามหลวง จอดรับ – ส่ง บริเวณ ม.เทคโนโลยีราชมงคลพระนคร วิทยาเขตเทเวศร์
  • เส้นทางที่ 5 ที่จอดรถ MRT สำนักงานใหญ่, MRT ลาดพร้าว, ศาลอาญา, จอดรับ – ส่ง บริเวณ ม.เทคโนโลยี สำนักงานอัยการสูงสุด, SCB สำนักงานใหญ่ – สนามหลวง ราชมงคลพระนคร วิทยาเขตเทเวศร์
  • เส้นทางที่ 6 อีเกีย, เมกาบางนา, ไบเทคบางนา – สนามหลวง จอดรับ – ส่ง บริเวณ ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์
  • เส้นทางที่ 7 ท่าเรือคลองเตย, โรงงานยาสูบ, จอดรับ – ส่ง บริเวณ ม.ธรรมศาสตร์ แอร์พอร์ต เรลลิ้งก์ มักกะสัน – สนามหลวง ท่าพระจันทร์
  • เส้นทางที่ 8 สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า จอดรับ – ส่ง บริเวณ เจ้าคุณทหารลาดกระบัง – สนามหลวง หน้าร้านอาหารสกายไฮ
  • เส้นทางที่ 9 เซ็นทรัลพระราม 2, โรงเรียนบางมดวิทยา – สนามหลวง จอดรับ – ส่ง บริเวณท่าเตียน
  • เส้นทางที่ 10 พุทธมณฑลสาย 4, เซ็นทรัลศาลายา, อู่บรมราชชนนี, จอดรับ – ส่ง บริเวณใต้สะพาน วิทยาลัยทองสุข – สนามหลวง พระราม 8 (ฝั่งธนบุรี)
  • เส้นทางที่ 11 เซ็นทรัลเวสเกต – สนามหลวง จอดรับ – ส่ง บริเวณใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า (ฝั่งธนบุรี)

BMTA-Free-Shuttle-Bus-12-Dec-2019

3. จัดรถโดยสารธรรมดา วิ่งในเส้นทางเดินรถ Shuttle Bus แทนเรือข้ามฟาก (รับจากจุดจอด – จุดส่ง) จำนวน 2 เส้นทาง โดยมีรายละเอียด ดังนี้

  • เส้นทางที่ 1 สะพานกรุงธน (หน้าโรงเรียนเขมะสิริอนุสรณ์) – สนามหลวง จอดรับ – ส่ง บริเวณใต้สะพานพระพุทธยอดฟ้า (ฝั่งพระนคร)
  • เส้นทางที่ 2 สะพานกรุงธน (หน้าสถานีดับเพลิงสามเสน) – สนามหลวง จอดรับ – ส่ง บริเวณใต้สะพานพระพุทธยอดฟ้า (ฝั่งพระนคร)

การเดินทางโดยรถไฟฟ้า BTS / รถโดยสารด่วนพิเศษ BRT

https://btsapp1.bts.co.th/WebApplication/storage_file/files/%E0%B9%91%E0%B9%92%20%E0%B8%98%E0%B8%84%20Banner%20web-06.jpg

รถไฟฟ้า BTS อำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่จะเข้าเฝ้าฯ รับเสด็จ และเข้าชมพระราชพิธีในการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ในวันที่ 12 ธันวาคม 2562

โดยประชาชน สามารถเดินทางรถไฟฟ้า BTS ฟรีตลอดเส้นทาง ในวันพฤหัสบดีที่ 12 ธันวาคม 2562 ตั้งแต่เวลา 06.00 – 24.00 น. สายสุขุมวิท ตั้งแต่สถานีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ถึงสถานีเคหะฯ และสายสีลม ตั้งแต่สถานีสนามกีฬาแห่งชาติ ถึงสถานีบางหว้า และรถโดยสารด่วนพิเศษ BRT

โดยผู้โดยสารรถไฟฟ้า BTS และรถโดยสารด่วนพิเศษ BRT สามารถกดรับบัตรโดยสารฟรีได้ทุกสถานี หรือรับบัตรฟรีที่ห้องจำหน่ายตั๋ว สำหรับผู้ใช้บัตรแรบบิทแบบเติมเงิน ระบบจะไม่ตัดเงินในวันดังกล่าว

ส่วนผู้โดยสารที่ใช้บัตรแรบบิทประเภทเติมจำนวนเที่ยว ต้องกดรับบัตรโดยสารเที่ยวเดียวจากตู้จำหน่ายบัตร หรือรับบัตรฟรีที่ห้องจำหน่ายตั๋วทุกสถานี

การเดินทางโดยรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT

https://admin.bemplc.co.th/Upload/FreeRide01_45343633_1575633046..jpg

รถไฟฟ้า MRT ให้บริการรถไฟฟ้า MRT สายเฉลิมรัชมงคล (สายสีน้ำเงิน) และรถไฟฟ้า MRT สายฉลองรัชธรรม (สายสีม่วง) ยกเว้นค่าโดยสารรถไฟฟ้าในวันพฤหัสบดีที่ 12 ธันวาคม 2562 ตลอดระยะเวลาการเปิดให้บริการ

นอกจากนี้ รฟม. ได้จัดให้บริการที่จอดรถฟรีทุกอาคารและลานจอดรถ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนที่จะเดินทางเข้าร่วมงานในวันดังกล่าว ได้แก่ MRT สายสีน้ำเงิน อาคารจอดแล้วจร จำนวน 4 แห่ง บริเวณสถานีลาดพร้าว, สถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย, สถานีหลักสอง และลานจอดแล้วจร จำนวน 9 แห่ง บริเวณสถานีรัชดาภิเษก, สถานีห้วยขวาง, สถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย, สถานีพระราม 9, สถานีเพชรบุรี, สถานีศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์, และสถานีสามย่าน

รถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง จำนวน 4 แห่ง บริเวณสถานีคลองบางไผ่, สถานีสามแยกบางใหญ่, สถานีบางรักน้อยท่าอิฐ และสถานีแยกนนทบุรี 1

การเดินทางโดยรถไฟฟ้า ARL (แอร์พอร์ต เรล ลิงค์)

Airport-Rail-Link-Free-12-Dec-2019

รถไฟฟ้า Airport Rail Link อำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชนที่จะเข้าร่วมงานพระราชพิธี เปิดให้โดยสารฟรีในวันที่ 12 ธันวาคม 2562 ตั้งแต่เวลา 05.30 – 24.00 น. โดยประชาชนสามารถขอรับคูปองเดินทางฟรีได้ที่เจ้าหน้าที่ประจำสถานีบริเวณห้องจำหน่ายตั๋วทุกสถานี

การโดยสารด้วยเรือโดยสารสาธารณะ

Chaophraya-Boat-Free-12-Dec-2019

กรมเจ้าท่า ร่วมกับบริษัทเอกชนต่างๆ จัดเรือบริการฟรี วันที่ 12 ธันวาคม 2562

1. บริษัทเรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด และบริษัท วรรณงามนาวา จำกัด จัดเรือบริการฟรี

  • ด้านเหนือ ให้บริการเรือ ตั้งแต่ ท่าเรือนนทบุรี – ท่าเรือซังฮี้ เวลา 12.00 น. – 18.00 น. ในทุกๆ 1 ชั่วโมง
  • ด้านใต้ ให้บริการเรือ ตั้งแต่ ท่าเรือสาทร – ท่าเรือสะพานพุทธฯ เวลา 7.00 น. – 18.00 น. ในทุกๆ 1 ชั่วโมง

SanSaab-Boat-Free-12-Dec-2019

2. บริษัท ครอบครัวขนส่ง 2002 จำกัด จัดบริการเรือฟรี

ให้บริการเรือ ตั้งแต่ ท่าเรือประตูน้ำ – ท่าเรือผ่านฟ้าลีลาศ เวลา 7.00 น. – 20.00 น. ให้บริการทุกๆ 10 นาที

การเดินทางโดยรถไฟ รฟท.

SRT-Train-Free-12-Dec-2019

รฟท. จัดเดินขบวนรถไฟพิเศษ ในโอกาสเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ในวันที่ 12 ธันวาคม 2562 เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสาร ใน 4 เส้นทางหลัก คือ อยุธยา นครปฐม ฉะเชิงเทรา และมหาชัย โดยไม่เสียค่าโดยสาร (บริการฟรี) ประกอบด้วย
  • เส้นทางที่ 1 อยุธยา – กรุงเทพ ขบวนที่ 320 (09.30-11.00 น.) กรุงเทพ – อยุธยา ขบวนที่ 321 (20.15-21.50 น.)
  • เส้นทางที่ 2 นครปฐม – ธนบุรี ขบวนที่ 322 (09.55-10.50 น.) ธนบุรี – นครปฐม ขบวนที่ 333 (20.00-21.00 น.)
  • เส้นทางที่ 3 ฉะเชิงเทรา – กรุงเทพ ขบวนที่ 326 (09.20 – 10.45 น.) กรุงเทพ – ฉะเชิงเทรา ขบวนที่ 325 (20.05 – 21.25 น.)
  • เส้นทางที่ 4 มหาชัย – วงเวียนใหญ่ ขบวนที่ 4322 (09.35 – 10.30 น.) วงเวียนใหญ่ – มหาชัย ขบวนที่ 4347 (20.10 – 21.00 น.)

ผู้โดยสาร สามารถขอรับตั๋วโดยสารขบวนรถดังกล่าวฟรี ที่สถานีต้นทาง และสถานีที่ขบวนรถผ่าน โดยแสดงบัตรประชาชนต่อเจ้าหน้าที่เพื่อทำการออกตั๋วโดยสาร หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน Call Center 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง

ขอขอบคุณเนื้อข่าวจาก สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ และ phralan.in.th/

Pretty-Motor-Expo-2019

“พริตตี้” สีสันที่ขาดไม่ได้ ของงานโชว์รถในบ้านเรา …

สำหรับงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 36” หรือ “Motor Expo 2019” อีกหนึ่งที่ต้องเรียกได้ว่าเป็นสีสันของงาน และขาดไม่ได้เลยสำหรับค่ายรถยนต์เกือบทุกเจ้า นั่นคือ “พริตตี้” ที่หนุ่มๆ หลายคนชื่นชอบในความสวยน่ารัก แต่งตัวสง่างาม และความสามารถในการ Presentation ข้อมูลรถยนต์ หรือข้อมูลสินค้าของแต่ละคน ที่ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว

ถ้าคุณอยากขายรถด่วน เพื่อไปซื้อรถคันใหม่ หรือรับเงินก้อนไปใช้ สามารถขายรถคันเก่า หรือตีราคารถกับทาง CARRO ได้ ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ CARRO Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

ซึ่งในปีนี้ พริตตี้ในงานส่วนใหญ่ ยังคงแต่งตัวเรียบร้อย สวยงาม ไม่โป๊มาก เฉกเช่นเดียวกับในปีที่แล้วมา … ทาง CARRO ขอรวบรวม Pretty สุดสวย สุดน่ารัก ในงาน Motor Expo 2019 มาให้ทุกท่านได้รับชมกันครับผม

Pretty-Motor-Expo-2019

Pretty-Motor-Expo-2019

Pretty-Motor-Expo-2019

Pretty-Motor-Expo-2019

Pretty-Motor-Expo-2019

Pretty-Motor-Expo-2019

Pretty-Motor-Expo-2019

Pretty-Motor-Expo-2019

Pretty-Motor-Expo-2019

Pretty-Motor-Expo-2019

Pretty-Motor-Expo-2019

Pretty-Motor-Expo-2019