การนำรถยนต์เข้าจอดตามสถานที่ต่างๆ เช่น อาคารชุด, สำนักงาน, ห้างสรรพสินค้า, โรงพยาบาล ฯลฯ ซึ่งในทางปฏิบัติ ทางฝ่ายอาคารสถานที่ มักมีบัตรจอดไว้ให้เสมอ และในบัตรฯ ก็มักมีข้อความที่สะดุดตาว่า “บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบในความเสียหาย สูญหายของทรัพย์สิน”

ข้อสงสัยที่เกิดกับเจ้าของรถยนต์ คือ หากทรัพย์สินและรถยนต์ที่จอดในอาคารสถานที่นั้นๆ เกิดสูญหายหรือเสียหาย จะสามารถเรียกร้องให้ทางฝ่ายอาคารสถานที่ ซึ่งให้บริการพื้นที่จอดรถยนต์แก่ผู้มาติดต่อธุระ รับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นได้หรือไม่ ในเมื่อมีการปฏิเสธเป็นข้อความชัดเจนไว้แล้วในบัตร

ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นต่อไปนี้ คงทำให้ผู้อ่านสามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ หากประสบเหตุการณ์ด้วยตนเอง

Car-Lost-In-Car-Park

เย็นวันหนึ่งหลังเลิกงาน วิรัชมีนัดทานอาหารมื้อค่ำกับเพื่อนที่โรงแรมแห่งหนึ่ง และนำรถยนต์เข้าจอดในสถานที่ซึ่งทางโรงแรมจัดไว้ให้ โดยพนักงานโรงแรมได้จดหมายเลขทะเบียนลงในบัตรจอดรถยนต์ของโรงแรม และได้ส่งมอบบัตรนั้นให้วิรัชเก็บไว้

ในทางปฏิบัติ โรงแรมนี้มีพนักงานตรวจหมายเลขทะเบียนรถยนต์ในบัตรจอด ให้ตรงกับรถยนต์ที่จะออกจากโรงแรม และมีป้ายติดไว้ในบริเวณที่จอด มีข้อความชัดเจนว่า “บริการจอดรถยนต์ฟรี แต่ทางโรงแรมจะไม่รับผิดในทรัพย์สินของผู้มาใช้บริการที่สูญหาย” ซึ่งวิรัชเองก็เห็นข้อความนี้แล้ว ขณะนำรถยนต์เข้าจอด

หลังจากเสร็จสิ้นอาหารมื้อค่ำ เขากลับมาที่รถยนต์เพื่อกลับบ้าน ปรากฎว่ารถยนต์หาย! สอบถามจากพนักงานโรงแรมพบว่า ผู้ตรวจสอบบัตรตอนขาออกบกพร่องในหน้าที่ ไม่ตรวจบัตรของคนร้ายที่ขับรถยนต์ของวิรัชออกไปจากโรงแรม

Car-Lost-In-Car-Park

กรณีนี้ศาลได้พิจารณาคดีแล้วได้ความว่า การที่โรงแรมเพียงแต่ยอมอนุญาตให้ผู้มาใช้บริการ นำรถยนต์เข้าจอดในที่จัดไว้ โดยมีพนักงานมอบบัตรตอนขาเข้าและตรวจบัตรตอนขาออก เพื่อช่วยรักษาความปลอดภัยให้ผู้มาใช้บริการเข้าจอดรถยนต์ดังกล่าว ไม่มีลักษณะเป็นการมอบการครอบครองรถยนต์ให้แก่ทางโรงแรม จึงไม่ใช่สัญญาฝากทรัพย์

ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 657 ที่วิรัชจะฟ้องเรียกค่าเสียหาย อันเนื่องจากผู้รับฝากไม่ใช้ความระมัดระวังสงวนทรัพย์สินซึ่งฝากนั้น ตามมาตรา 359 ดังนั้นวิรัชจึงไม่มีสิทธิฟ้องเรียกค่าเสียหายจากโรงแรม ฐานผิดสัญญาฝากทรัพย์ได้

แต่การที่ทางโรงแรมจัดที่จอดรถยนต์ให้แก่ผู้มาใช้บริการ โดยมีพนักงานจดหมายเลขทะเบียนรถยนต์ลงในบัตรจอด มอบให้ผู้มาใช้บริการที่นำรถยนต์เข้ามาจอด และมีพนักงานตรวจหมายเลขทะเบียนในบัตรจอดให้ตรงกันตอนขาออก เพื่อช่วยรักษาความปลอดภัยแก่ผู้มาใช้บริการ

ถือว่าโรงแรมมีหน้าที่ต้องระมัดระวังในการตรวจสอบผู้นำรถยนต์ออกจากที่จอดด้วย แม้ว่าบริเวณที่จอดของโรงแรมจะมีการปิดป้ายประกาศไว้ว่า “ไม่รับผิดชอบในทรัพย์สินของผู้มาใช้บริการที่สูญหาย” ก็ตาม ถือว่าไม่ใช่ข้อความที่ผู้มาใช้บริการซึ่งในที่นี้คือวิรัช ได้ตกลงด้วย โรงแรมจึงไม่ได้รับการยกเว้นให้พ้นความรับผิดชอบ

Car-Lost-In-Car-Park

เมื่อพนักงานโรงแรมได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ตรวจหมายเลขทะเบียนบนบัตรจอดของผู้มาใช้บริการตอนขาออก แต่ปฏิบัติหน้าที่บกพร่อง โดยงดเว้นไม่ตรวจบัตรตอนคนร้ายขับรถยนต์ของวิรัชออกไป อันเป็นการงดเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อป้องกันการโจรกรรมรถยนต์ เป็นผลโดยตรงทำให้รถยนต์ของวิรัชถูกลักไป และเป็นการกระทำโดยประมาทเลินเล่อ เป็นเหตุให้วิรัชได้รับความเสียหายแก่ทรัพย์สิน

จึงเป็นการทำละเมิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 420 และการที่พนักงานโรงแรมทำละเมิดต่อวิรัช ถือว่าพนักงานโรงแรมได้กระทำไปในทางการที่จ้างของโรงแรม

ดังนั้นโรงแรมในฐานะนายจ้าง จึงต้องร่วมรับผิดกับพนักงานโรงแรมซึ่งเป็นลูกจ้าง ในผลแห่งละเมิดนั้น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 425

เจ้าของรถยนต์ที่ได้รับความเสียหายหรือสูญหาย ต้องฟ้องเรื่องการงดเว้นการปฏิบัติหน้าที่ จึงจะมีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายได้

แหล่งที่มาจาก:

  • คุณ ศราวุธ สายเชื้อ จากนิตยสารไทยไดรฟ์เวอร์

ไฟไอติม-ไฟซิ่ง

รวมวิธีร้องเรียนไฟซิ่ง ​ไฟไอติม

ช่วงต้นเดือน ม.ค.61 มีประเด็นร้อนเรื่องเจ้าของรถยนต์ที่ทำไฟซิ่ง ออกมาท้าทายในโลกสังคมออนไลน์ ” กูติดไฟหรี่ไม่ได้ฆ่าคนตาย ” แม้ว่าจะมีคนอธิบาย ห้ามปราม ฝ่ายเจ้าของรถที่ดัดแปลงไฟส่วนใหญ่ก็ออกมาโต้เถียงอย่างดุเดือด

แต่จริง ๆ แล้ว การดัดแปลงสัญญาณไฟรถที่ไม่ใช่จากผู้ผลิต เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และก่อให้เกิดความรำคาญ รบกวนการขับรถ

เราจึงรวมวิธีร้องเรียนไฟซิ่ง ไฟไอติม ดัดแปลงสัญญาณไฟรถ ไฟรถหลากสี ต่อเจ้าหน้าที่ให้จัดการรวดเร็วที่สุด มีวิธีไหนบ้างมาดูกันเลย !

1. ร้อนเรียนได้ทางอีเมล์

สามารถส่งอีเมลไปได้ที่ [email protected] ใช้ภาพหลักฐานสำคัญ คือไฟที่ดัดแปลง และแผ่นป้ายทะเบียนอย่างชัดเจน

2. inbox ทางเฟซบุ๊ก

ไปที่เพจ 1584 ร้องเรียนรถโดยสารสาธารณะ ซึ่งมีแอดมินที่ดูแลคอยคัดกรอง และตอบกลับให้ทราบผลด้วย ใช้ภาพหลักฐานหรือวิดีโอเป็นสำคัญ เห็นไฟที่ดัดแปลงและแผ่นป้ายทะเบียนอย่างชัดเจน

3. ร้องเรียนผ่านทาง Line

สามารถเข้าของ กรมขนส่งทางบก Line ID : 1584กรมขนส่งทางบก ซึ่งจะมีผู้ดูแลที่คอยคัดกรอง และตอบกลับให้ทราบผลด้วย ใช้ภาพหลักฐานหรือวิดีโอเป็นสำคัญ เห็นไฟที่ดัดแปลง และแผ่นป้ายทะเบียนอย่างชัดเจน

4. แอพพลิเคชั่น DLT GPS

เข้าแอพพลิเคชั่น DLT GPS คลิกหัวข้อร้องเรียน เลือกเหตุการณ์ไปที่ “อื่น ๆ” จากนั้นกรอกข้อมูลและแนบภาพถ่ายที่เห็นไฟที่ดัดแปลงพร้อมกับแผ่นป้ายทะเบียนอย่างชัดเจน

ดาวน์โหลดสำหรับแอนดรอยด์
ดาวน์โหลดสำหรับ iOS


ทั้ง 4 ช่องทางนี้เป็นวิธีที่สะดวกสุดในการร้องเรียน และเจ้าหน้าที่สามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว เพราะสามารถแนบหลักฐานได้ง่าย ๆ จากโทรศัพท์มือถือเราได้ทันที หวังว่าเรื่องนี้คงเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้รถใช้ถนนทุกท่าน


ภาพจาก จส.100
ข้อมูลจาก car.kapook.com

บัตรประชาชน

เตือนภัย ! สำหรับคนที่ทำบัตรประชาชนหาย แต่ไม่ได้ไปแจ้งความ

ที่ผ่านมาได้มีข่าวใหญ่ออกมาว่า “นางสาวณิชา ได้ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีรับจ้างเปิดบัญชีให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แต่ได้อ้างว่าตัวเองทำบัตรประชาชนหาย ! และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์เลย”

ณิชา

เครดิตภาพจาก ไทยรัฐ

กลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต และยังมีสำนักข่าวบ้างราย ได้นำบัตรประชาชนของรุ่นพี่ที่แก่กว่านับสิบปี ลองแอบไปเปิดบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง ซึ่งสามารถเปิดบัญชีได้อย่างง่ายดาย

ทำให้วันนี้ คาร์โร จึงอยากออกมาเตือนภัยเรื่องใกล้ตัวของใครหลายคนที่ต้องระวังกันให้มากขึ้น และมาแชร์วิธีการป้องกันไม่ให้เกิดกรณีเดียวกันกับ “นางสาวณิชา” ไปดูกันเลย

อย่างแรก หากทำบัตรประชาชนหายก็สามารถไปทำใหม่ที่สำนักงานเขตหรือที่ว่าการอำเภอได้เลย โดยไม่ต้องมีใบแจ้งความจากตำรวจ

แต่ทว่า คุณก็สามารถไปแจ้งลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจได้ เพื่อป้องกันกรณีมิจฉาชีพนำบัตรประชาชนไปกระทำทุจริต เช่น นำไปเปิดบัญชีธนาคารหรือนำไปกระทำผิดโดยที่คุณไม่รู้เรื่อง ซึ่งอาจสร้างความเสียหายให้อย่างกรณี “นางสาวณิชา” ได้

ส่วนการขอทำบัตรใหม่ ต้องภายใน 60 วัน นับแต่วันที่บัตรหายหรือถูกทำลาย หากพ้นกำหนดจะต้องเสียค่าปรับไม่เกิน 100 บาท โดยเอกสารที่ต้องใช้ขอทำบัตรใหม่ คือ

  1. เอกสารที่มีรูปถ่ายของผู้ขอมีบัตรใหม่ที่ทางราชการออกให้ เช่น ใบอนุญาตขับขี่ หลักฐานการศึกษา หรือหนังสือเดินทาง เป็นต้น
  2. หากไม่มีหลักฐานตามข้อ 2 ให้นำเจ้าบ้านหรือบุคคลผู้น่าเชื่อถือมาให้การรับรอง

โดยเสียค่าธรรมเนียม 100 บาท และที่สำคัญต้องเช็กให้แน่ใจก่อนด้วยว่าบัตรประชาชนใบเก่าของคุณได้ทำการอายัดแล้วแน่นอน

อย่างที่ 2 วิธีการการป้องกันไม่ให้ใครสามารถแอบอ้าง หรือสวมสิทธิ์ปลอมแปลงตัวคุณได้ มีดังนี้

1. ไม่ควรมอบบัตรประชาชนไปให้บุคคลอื่นไปทำธุรกรรมแทน
2. การให้สำเนาบัตรประชาชนเพื่อการทำธุรกรรม ควรขีดคร่อมและเขียนวัตถุประสงค์ให้ชัดเจน
3. การยินยอมรับเปิดบัญชีเพื่อให้บุคคลอื่นใช้แทนเป็นเรื่องผิดกฎหมาย
4. หากบัตรประชาชนหาย ควรรีบไปขอทำบัตรทดแทนโดยเร็ว และต้องแจ้งความ

 

 

Spare-Parts-Knowledge

เรื่องรถยนต์กับอะไหล่นั้น ถือได้ว่าเป็นของคู่กันราวลิ้นกับฟันเลยทีเดียว เพราะการใช้งานรถยนต์ ชิ้นส่วนภายในย่อมมีการเสื่อมสภาพเป็นธรรมดา ดังนั้น เมื่อถึงคราวที่ต้องเปลี่ยนอะไหล่ชิ้นนั้นๆ ก็ยังให้มีเลือกทั้งอะไหล่แท้ อะไหล่เทียบ อะไหล่เทียม อีกต่างหาก

หลายคนมีมักเชื่อว่า อะไหล่แท้ คือของแท้ๆ ส่วน อะไหล่เทียบ อะไหล่เทียม ราคามักถูกกว่า และมักไม่ทนทาน หรือคุณภาพแย่ ซึ่งบางทีก็ไม่ถูกต้องนัก เพราะของแบบนี้ มันก็มีหลายเกรดให้เลือก ตามจำนวนเงินที่คุณจ่ายไป

MR.CARRO ขอแนะนำการเลือก อะไหล่แท้ อะไหล่เทียบ อะไหล่เทียม ให้กับผู้ใช้รถได้ทราบครับ.

Spare-Parts-Knowledge

อะไหล่แท้ คือ อะไหล่มาตรฐานจากบริษัทรถยนต์ยี่ห้อนั้นๆ มักจะมีคุณภาพสูงตามมาตรฐานของรถยี่ห้อนั้นๆ และราคาก็สูงด้วยเช่นกัน

อะไหล่เทียบ คืออะไหล่ที่สามารถใช้ร่วมกันได้กับรถยนต์หลายรุ่น หลายยี่ห้อ เช่น ผ้าเบรก ก้านปัดน้ำฝน ไส้กรองต่างๆ สายพานต่างๆ ตู้แอร์ คอมเพรสเซอร์แอร์ หม้อน้ำ ผ้าคลัทช์ หวีคลัทช์ ฟลายวีล ลูกหมาก โช้คอัพ เป็นต้น

อะไหล่เทียม คือ อะไหล่ที่ผลิตโดยโรงงานผลิตอะไหล่ออกมาขายในยี่ห้อของตนเอง ระดับคุณภาพจะมีทั้งคุณภาพต่ำ คุณภาพเทียบเท่าอะไหล่แท้ และคุณภาพสูงกว่าอะไหล่แท้ ซึ่งอะไหล่บางส่วน จะผลิตโดยโรงงานที่เป็น หรือเคยเป็นผู้ผลิตอะไหล่ส่งให้บริษัทรถยนต์ ถือว่าเทียบเท่ากับอะไหล่แท้เลยทีเดียว แต่เมื่อโรงงานผลิตขายเอง จึงต้องลบตรายี่ห้อสินค้านั้นๆ ออก และใช้เป็นยี่ห้อของตัวเอง สามารถทำราคาได้ถูกกว่าได้ เพราะไม่ต้องถูกบวกกำไรเพิ่มจากบริษัทรถยนต์

Spare-Parts-Knowledge

และ … อะไหล่ปลอม ที่ผลิตจากโรงงานเล็กๆ ปลอมสินค้าที่ติดตลาดได้รับการยอมรับจากลูกค้า เลียนแบบทั้งอะไหล่แท้ และอะไหล่เทียบ อะไหล่เทียมยี่ห้อดังๆ แต่คุณภาพไม่เทียบเท่า เพราะต้องการทำราคาให้ถูกมากที่สุด ซึ่งบริษัทรถยนต์หลายราย มักมีการแสดงข้อแตกต่างระหว่างอะไหล่ปลอม กับ อะไหล่ที่ทางบริษัทรถขาย ให้ผู้บริโภคได้ทราบเป็นความรู้

การซ่อมรถยนต์ ไม่จำเป็นต้องใช้อะไหล่แท้เท่านั้นถึงจะทนทาน เพราะยังมีอะไหล่อื่นให้เลือกใช้ได้ในราคาถูกกว่า อะไหล่แท้เชื่อถือได้ด้านคุณภาพ และบริษัทรถยนต์ให้การรับประกันชัดเจน แต่ไม่ได้เป็นทางเลือกเดียวสำหรับการเลือกใช้อะไหล่เทียบ หรือ อะไหล่เทียม ในกรณีที่รถเก่ามากๆ หรือเป็นรถนำเข้า ที่ทางยี่ห้อผู้ผลิต เลิก Support อะไหล่ขายแล้ว หรือไม่ได้สั่งรถรุ่นนั้นเข้ามาจำหน่าย

Spare-Parts-Knowledge

การผลิตรถยนต์ทุกรุ่น ต้องใช้ชิ้นส่วนประกอบมากมายหลายหมื่นชิ้น ถ้าผู้ผลิตรถยนต์จะผลิตเองทุกชิ้น ก็ต้องใช้เงินลงทุนมหาศาลในการตั้งโรงงานผลิตชิ้นส่วนต่างๆ และยังต้องลงทุนทำ R&D พัฒนาผลิตภัณฑ์อีกด้วย

Spare-Parts-Knowledge

การจ้างผู้ผลิตอะไหล่ (Supplier) ซึ่งเป็นผู้ผลิตที่มีความชำนาญเฉพาะทาง จึงเป็นทางออกที่ช่วยลดต้นทุนให้กับบริษัทรถได้ และสามารถควบคุมคุณภาพมาตรฐาน การทดสอบ ให้เป็นไปตามที่กำหนดได้ ยกเว้นอุปกรณ์บางอย่าง ที่เทคนิคการผลิตเป็นความลับของบริษัท หรือมีบริษัทในเครือผลิตอยู่แล้ว บริษัทรถยนต์จึงทำเอง

Spare-Parts-Knowledge

การเลือกซื้อ ในบางชิ้นต้องใช้สายตาและการสัมผัส เช่น ดูเนื้อของยางที่เป็นส่วนประกอบ แต่บางอย่างต้องหาข้อมูลก่อนตัดสินใจมากๆ เช่น สอบถามผู้ที่เคยใช้มาก่อน ดูจากยี่ห้อที่อยู่บนอะไหล่แท้ชิ้นเดิม

ขึ้นอยู่กับท่านผู้อ่านแล้วล่ะครับ ว่าจะเลือกใช้อะไหล่แบบไหน มีให้เลือกสารพัดยี่ห้อ ทั้งของแท้ ของเทียบ ของเทียม เผลอๆ มีของปลอมด้วยอีกต่างหาก ขึ้นอยู่ความพึงพอใจ หรืองบประมาณที่มี แต่ท้ายที่สุดแล้ว ทุกคนก็ต้องการของดีที่สุด ในราคาที่ถูกที่สุด ใช้งานแล้วคุ้มค่าที่สุด ครับ …

หากใครสนใจที่จะขายรถคันเก่า อยากขายรถ CARRO เรารับซื้อรถของคุณ สามารถเข้าไปเช็กราคา ตีราคาขายรถก่อนได้ โดยใส่ข้อมูลรถของคุณที่นี่เลย กับ CARRO Express > https://th.carro.co/sell-car/express

นอกจากจะสามารถกรอกแบบฟอร์มตามข้างต้นแล้ว ยังสามารถติดต่อกับ CARRO ได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 02-508-8425 หรือจะ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

อีกทั้งยังสามารถ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ครับ —> เพิ่มเพื่อน

เมื่อเจอ “รถพยาบาลฉุกเฉินขอทาง” ควรทำอย่างไร

หลายคนคงเคยตกอยู่ในสภาวะขับรถอยู่บนถนนแล้วเห็นรถพยาบาลฉุกเฉิน แต่ไม่รู้ว่าจะหลีกทางให้รถพยาบาลฉุกเฉินได้อย่างไร และบางคนเมื่อได้ยินเสียงสัญญาณของรถพยาบาลฉุกเฉินก็เกิดอาการตกใจจนไม่สามารถบังคับรถให้หลีกทางได้ คาร์โร จึงนำ 6 แนวทางการหลีกทางให้รถพยาบาลฉุกเฉินตามหลักปฏิบัติของสากล ที่เพื่อนๆสามารถทำตามได้ ดังนี้

1.เมื่อคุณเห็นสัญญาณไฟ และได้ยินเสียงสัญญาณไซเรน หลายคนอาจตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น และทำอะไรไม่ถูก ดังนั้นก่อนอื่นเลยผู้ขับขี่ควรตั้งสติ

2.พยายามมองกระจกหลังเพื่อเล็งระยะของรถพยาบาลที่กำลังจะวิ่งผ่านมา

3.ถ้าหากมองดูแล้วว่าพบว่าปริมาณรถทั้งซ้ายขวาที่อยู่ใกล้ ไม่มีอันตราย และเราสามารถเบี่ยงชิดซ้ายได้ ให้ผู้ขับขี่ลดความเร็วรถลง และเบี่ยงซ้ายเพื่อหลีกทางให้รถพยาบาลทันที

4.หากคุณไม่สามารถหลีกทางได้ อาจเพราะสภาพรถที่หนาแน่น และมีอันตรายก็ให้หยุดหรือชะลอรถเพื่อให้รถพยาบาลหาทางวิ่งผ่านไปให้ได้ก่อน

5.เมื่อรถพยาบาลวิ่งผ่านไปแล้วห้ามขับตามโดยเด็ดขาด !!

6.กรณีรถติดและรถพยาบาลอยู่ด้านหลังพอดีให้พิจารณาว่าควรชิดซ้ายหรือชิดขวาดี แต่ถ้าไม่มีใครหลีกทาง ให้คุณตัดสินใจเลือกว่าจะหลบทางไหนและเปิดไฟเลี้ยว เพื่อให้สัญญาณให้รถพยาบาล ได้แซงผ่านไปได้สะดวก

 

emergency-ambulanceการหลีกทางให้รถพยาบาลฉุกเฉินเป็นความดีง่ายๆ ที่เราสามารถทำร่วมกันได้นะคะ จึงอยากให้เพื่อน ๆ ทุกคนเวลาเจอหรือเห็นรถพยาบาลขอทางมา ควรรีบหลีกทางให้ เพราะวันหนึ่งคนที่อยู่บนรถคันนั้นอาจเป็นญาติหรือคนรู้จักของเราก็ได้ค่ะ 

และนี้คือ ตัวอย่างที่ไม่ดีและอย่าได้ทำตามเด็ดขาด !!

เครดิตวิดีโอ : ไทยรัฐ

Driving-License

สิ่งที่จำเป็นสำหรับคนขับรถยนต์ และคนขี่รถจักรยานยนต์ ที่ต้องมีพกติดตัวไว้ตลอดเวลาของการขับขี่ นั่นคือ “ใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ และรถจักรยานยนต์” ซึ่งใบขับขี่ ก็ยังแบ่งออกเป็นได้อีกหลายๆ ประเภท รวมไปถึงคุณสมบัติต่างๆ ที่สำคัญว่ามีอะไรบ้าง

สำหรับในอดีต กรมการขนส่งทางบก ยังได้มีการออกใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคลตลอดชีพให้ แต่ถูกยกเลิกไปเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2546 (ซึ่งหากใครที่มีใบขับขี่ประเภทตลอดชีพอยู่ สามารถไปเปลี่ยนบัตรเป็นแบบสมาร์ทการ์ดได้ โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงประเภทของใบขับขี่ใดๆ) จึงทำให้มีการต่ออายุใบอนุญาตขับขี่ส่วนบุคคลแบบปัจจุบัน คือ มีอายุครั้งละ 5 ปี บังคับใช้ทั้งในรถยนต์ส่วนบุคคล และรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล

ทาง CARRO ขอแนะนำวิธีการสอบใบขับขี่รถยนต์และรถจักรยานยนต์ ให้ทุกท่านได้อ่านและปฏิบัติกันครับ.

สอบใบขับขี่รถยนต์และรถจักรยานยนต์ ... ง่ายนิดเดียว

เริ่มแรก ไปทำใบขับขี่ที่สำนักงานขนส่งใกล้บ้านท่าน …

*สำหรับในเขตกรุงเทพฯ และปริมณทล มี 5 พื้นที่ ได้แก่

สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 5 (ถ.พหลโยธิน ตรงข้ามตลาดนัดจตุจักร)
โทร. 02-271-8888 ต่อ 4201-4 หรือ 1584

สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 (ถ.บางขุนเทียน-ชายทะเล)
โทร. 02-415-7337 ต่อ 204-205

สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 2 (ถ.สวนผัก ตลิ่งชัน)
โทร. 02-433-4773

สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 3 (ถ.สุขุมวิท ตรงข้าม ซ.สุขุมวิท 62/1)
โทร. 02-333-0035

สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 4 (ถ.สุวินทวงศ์ หนองจอก)
โทร. 02-543-5512

ผู้ที่ภูมิลำเนาอยู่ต่างจังหวัด ยื่นคำขอที่สำนักงานขนส่งจังหวัด หรือสำนักงานขนส่งจังหวัดสาขา หรือกรมการขนส่งทางบก หรือสำนักงานขนส่งเขตใดเขตหนึ่งก็ได้ (เพราะมีระบบออนไลน์ถึงกันหมด) สามารถค้นหารายละเอียดได้ที่ http://www.dlt.go.th

หรือ สอบใบขับขี่กับโรงเรียนสอนขับรถของเอกชน ที่ได้รับการรับรองจากกรมการขนส่งทางบก

สอบใบขับขี่รถยนต์และรถจักรยานยนต์ ... ง่ายนิดเดียว

1. การขอทำใบขับขี่รถยนต์ชั่วคราว หรือรถจักรยานยนต์ชั่วคราว (2 ปี)

– ผู้ขอทำใบขับขี่รถยนต์ ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์
– ผู้ขอทำใบขับขี่รถจักรยานยนต์ ไม่เกิน 90 ซีซี ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 15 ปีบริบูรณ์
– เป็นผู้ที่ไม่มีร่างกายบกพร่อง เช่น ตาบอด ตาบอดสี หรือหูหนวก เป็นต้น

หลักฐานเอกสารประกอบ เพื่อขอทำใบขับขี่รถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ชั่วคราว

1. บัตรประจำตัวประชาชนฉบับจริง
2. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน 1 ฉบับ (เซ็นสำเนาถูกต้อง พร้อมระบุเบอร์โทรศัพท์ติดต่อ)
3. ใบรับรองแพทย์ ซึ่งตรวจไว้ไม่เกิน 1 เดือน

จากนั้น ทำการยื่นคำขอพร้อมหลักฐานเอกสารประกอบให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบและลงทะเบียนรับ เสร็จแล้วรับคืนเอกสารฉบับจริง

สอบใบขับขี่รถยนต์และรถจักรยานยนต์ ... ง่ายนิดเดียว

ขั้นตอนอบรมและทดสอบ เพื่อขอทำใบขับขี่รถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ชั่วคราว

1. ทดสอบสมรรถภาพทางร่างกาย ได้แก่ ทดสอบการมองเห็นสีที่จำเป็นในขณะขับรถ ความลึกของการมองเห็น ลานกว้างของสายตา และทดสอบปฏิกิริยาตอบสนองเมื่อเห็นสีไฟจราจร
2. อบรมความรู้เกี่ยวกับกฎหมายจราจรทางบก เครื่องหมายพื้นทาง ป้ายบังคับ ป้ายเตือน ป้ายแนะนำ มารยาทและจิตสำนึก เทคนิคขับรถให้ปลอดภัย บำรุงรักษารถ การรับรู้สถานการณ์อันตรายและรูปภาพจราจรต่างๆ
3. สอบภาคทฤษฏี (ทดสอบข้อเขียน) ผ่านระบบคอมพิวเตอร์ (E-Exam) ซึ้งต้องผ่าน 90% จำนวนข้อสอบทั้งหมด 50 ข้อ ต้องให้ได้ 45 ขึ้นขึ้นไป เนื้อหาข้อสอบ ดูรายละเอียดได้ใน Link นี้ – http://apps.dlt.go.th/e_exam/
4. สอบภาคปฏิบัติ (ทดสอบขับรถ) ตามชนิดใบขับขี่ (รถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ชั่วคราว)
5. เสียค่าธรรมเนียมกรณีสอบผ่านทั้งภาคทฤษฏีและภาคปฏิบัติ (รถยนต์ชั่วคราว 2 ปี 205 บาท รถจักรยานยนต์ชั่วคราว 2 ปี 105 บาท)
6. ถ่ายรูป พิมพ์บัตร แล้วรอรับใบอนุญาตขับขี่

สอบใบขับขี่รถยนต์และรถจักรยานยนต์ ... ง่ายนิดเดียว

2. การขอทำใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคล หรือรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล (5 ปี)

ผู้ที่ขอทำใบขับขี่ส่วนบุคคล 5 ปี เป็นผู้ที่ได้รับใบขับขี่รถยนต์ชั่วคราว หรือรถจักรยานยนต์ชั่วคราว มาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี และสามารถยื่นก่อนใบขับขี่หมดอายุไม่เกิน 60 วัน

หลักฐานเอกสารประกอบ เพื่อขอทำใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคล หรือรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล (5 ปี)

1. ใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ชั่วคราว หรือรถจักรยานยนต์ชั่วคราว แล้วแต่กรณี ที่ยังไม่หมดอายุ
2. สำเนาใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ชั่วคราว หรือรถจักรยานยนต์ชั่วคราว แล้วแต่กรณี จำนวน 1 ฉบับ
3. บัตรประจำตัวประชาชน
4. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน 1 ฉบับ (เซ็นสำเนาถูกต้อง พร้อมระบุเบอร์โทรศัพท์ติดต่อ)
5. ใบรับรองแพทย์ ซึ่งตรวจไว้ไม่เกิน 1 เดือน

สอบใบขับขี่รถยนต์และรถจักรยานยนต์ ... ง่ายนิดเดียว

ขั้นตอนอบรมและทดสอบ เพื่อขอทำใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคล 5 ปี หรือรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล 5 ปี

1. ทดสอบสมรรถภาพทางร่างกาย ได้แก่ ทดสอบการมองเห็นสีที่จำเป็นในขณะขับรถ ความลึกของการมองเห็น ลานกว้างของสายตา และทดสอบปฏิกิริยาตอบสนองเมื่อเห็นสีไฟจราจร
2. เสียค่าธรรมเนียม (รถยนต์ส่วนบุคคล 5 ปี 505 บาท รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล 5 ปี 255 บาท)
3. ถ่ายรูป พิมพ์บัตร แล้วรอรับใบอนุญาตขับขี่

*กรณีเอกสารหลักฐานประกอบ ใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ชั่วคราว หรือรถจักรยานยนต์ชั่วคราว สิ้นอายุแล้วเกินกว่า 1 ปี แต่ไม่เกิน 3 ปี ต้องทดสอบสมรรถภาพทางร่างกายและทดสอบข้อเขียน ผ่านตามเกณฑ์ จึงสามารถรับใบอนุญาตขับขี่ส่วนบุคคล 5 ปีได้
**แต่ถ้าใบอนุญาตขับขี่ชนิดชั่วคราว สิ้นอายุแล้วเกินกว่า 3 ปี ต้องเข้ารับการอบรม ทดสอบสมรรถภาพร่างกาย ทดสอบข้อเขียนและทดสอบขับรถด้วย เหมือนกรณีมาขอทำใบขับขี่รถยนต์ชั่วคราว หรือรถจักรยานยนต์ชั่วคราว

สอบใบขับขี่รถยนต์และรถจักรยานยนต์ ... ง่ายนิดเดียว

3. การต่อใบอนุญาตขับขี่รถส่วนบุคคล 5 ปี

การต่อใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคลหรือใบอนุญาตขับขี่รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล ชนิด 5 ปี มาเป็น 5 ปี สามารถยื่นก่อนใบอนุญาตขับขี่สิ้นอายุไม่เกิน 3 เดือน

หลักฐานเอกสารประกอบ เพื่อต่อใบอนุญาตขับขี่รถส่วนบุคคล 5 ปี

1. ใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคลหรือใบขับขี่รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลเดิม แล้วแต่กรณี
2. บัตรประจำตัวประชาชน
3. ใบรับรองแพทย์

ขั้นตอนอบรมและทดสอบ เพื่อขอต่อใบอนุญาตขับขี่รถส่วนบุคคล 5 ปี

1. ทดสอบสมรรถภาพทางร่างกาย ได้แก่ ทดสอบการมองเห็นสีที่จำเป็นในขณะขับรถ ความลึกของการมองเห็น ลานกว้างของสายตา และทดสอบปฏิกิริยาตอบสนองเมื่อเห็นสีไฟจราจร
2. อบรม 1 ชั่วโมง
3. เสียค่าธรรมเนียม (รถยนต์ส่วนบุคคล 5 ปี 505 บาท รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล 5 ปี 255 บาท)
4. ถ่ายรูป พิมพ์บัตร แล้วรอรับใบอนุญาตขับขี่

*กรณีใบขับขี่เดิมสิ้นอายุเกิน 1 ปี แต่ไม่เกิน 3 ปี เพิ่มขั้นตอนการสอบข้อเขียน
**กรณีใบขับขี่เดิมสิ้นอายุเกิน 3 ปี ต้องทดสอบข้อเขียนและทดสอบขับรถ

Sign

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับรายละเอียดการทำใบขับขี่ที่ทาง CARRO นำมาให้ได้ศึกษากัน ในส่วนของใบขับขี่รถยนต์สาธารณะ หรือใบขับขี่ส่วนบุคคลชนิดที่ 2, 3 และ 4 (รถบรรทุก รถพ่วง) ทางเราจะนำมาเสนอในโอกาสต่อไปครับ

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่ มาขายรถกับทาง CARRO Express ได้ที่  https://th.carro.co/sell-car/express วิธีการขายรถในแบบยุคใหม่ ง่าย สะดวก รวดเร็ว ได้ราคา อีกทั้งยังลงขายได้ “ฟรี!” พร้อมรับเงินสดกลับบ้านทันที ภายใน 24 ชั่วโมง!

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

แต่ถ้าหากช่วงนี้ใครอยากเปลี่ยนรถคันใหม่ มาใช้แทนที่รถคันเดิม CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น!

รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check มากกว่า 200 จุด และยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ให้คุณเลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา พร้อมรับประกันคุณภาพรถนานถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร! อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! เรามีรถให้คุณเลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Official โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

5-SUV-PPV-Secondhand-Cars

ขึ้นชื่อว่า “เศรษฐกิจ” ไทย ในเวลานี้แล้ว หลายคนบอกว่าแย่ หลายคนบอกว่าดี แต่ถ้าเราฟังตามเสียงส่วนใหญ่ของคนทั้งประเทศ เขาก็บอกว่าแย่กันทั้งนั้นล่ะ

แผนการที่จะคิดเปลี่ยนรถตอนนี้ บางคนอาจงดซื้อรถใหม่ป้ายแดงไปก่อน โดยอาจจะเลือกซื้อเป็นรถยนต์มือสอง หรือรถบ้านมือสอง แทน เนื่องจากช่วยลดค่างวดที่จะต้องผ่อนรถทุกเดือน และยังได้รถคุณภาพดี ในราคาที่คุ้มค่าสบายกระเป๋าอีกด้ว

สำหรับใครหลายๆ คน ที่ตอนนี้ อาจจะมีครอบครัว หรือมีลูกอยู่แล้ว 1-2 คน แต่ชื่นชอบการท่องเที่ยว ชอบออกไปต่างจังหวัดในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ หรือในช่วงเทศกาลหยุดยาว

Chevrolet-Captiva-2007

รถมือสองที่เหมาะสมกับการใช้งาน ก็คงจะหนีไม่พ้นรถแนว “SUV” (Sport Utility Vehicle) และ “PPV” (รถกระบะดัดแปลง PPV – Pickup Passenger Vehicle ที่กรมสรรพสามิตบ้านเรา สร้างศัพท์บัญญัติขึ้นมารายเดียวในโลก เพื่อใช้เรียกจัดเก็บภาษีรถแนวนี้) ที่ให้ความอเนกประสงค์ สะดวกสบาย ปรับรูปแบบการใช้งานได้หลากหลาย และใช้งานในเมืองก็ลงตัว

หากคุณกำลังตัดสินใจซื้อรถยนต์มือสองซักคัน ถือเป็นอีกตัวเลือกที่ดี เพื่อนำเงินส่วนที่เหลือ ไปผ่อนบ้าน หรือใช้จ่ายในครอบครัว จ่ายค่าเทอมลูก เป็นต้น (แต่คนโสดจะซื้อไปใช้ ก็ได้เช่นกันนะครับ)

MR.CARRO ขอแนะนำรถ SUV และ PPV ที่นั่งได้ตั้งแต่ 5-7 คน ใช้ขนของก็ได้ ไปได้กันทั้งครอบครัว ในราคาตัวรถที่ไม่เกิน 400,000 บาท มาให้ทุกท่านได้พิจารณากันครับ

Toyota-Sport-Rider-2000

1. Toyota Sport Rider

Toyota Sport Rider (โตโยต้า สปอร์ต ไรเดอร์) ในโฉมแรกใช้ชื่อว่า “Hilux Sport Rider” ถือเป็นรถยนต์ PPV แบบ 7 ที่นั่ง ยอดนิยมอีกรุ่นหนึ่งของโตโยต้า พัฒนามาจากรถกระบะรุ่น Hilux Tiger ชื่อรุ่นมาจากภาษาอังกฤษ มีความหมายตรงตัว “Sport Rider” (ผู้ขับสปอร์ต)

Toyota Sport Rider ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงนับตั้งแต่เปิดตัวในเดือนธันวาคม 2541 (และเป็นที่นิยมของขโมยในเวลานั้นด้วย) โดย โตโยต้า เป็นผู้บุกเบิกรถแนวนี้ในเมืองไทย (โดยผลิตที่โรงงาน Thai Auto Works – TAW) ยอดขายแซงรถ SUV แท้ๆ ซะอีก จนค่ายคู่แข่งต้องทำออกมาขายบ้าง มีรูปทรงที่สวยงาม ออกแบบได้อย่างลงตัว แม้ว่าบางมุมมองจะยังคงเหมือนรถกระบะก็ตาม ภายในยกชุดมาจาก Hilux Tiger เพิ่มเบาะนั่งแถวที่ 3

มีให้เลือกกันทั้งในแบบขับเคลื่อนล้อหลัง และแบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และอัตโนมัติ 4 สปีด ECT-i (เฉพาะรุ่นเครื่องยนต์ D-4D ขับเคลื่อนล้อหลัง) …

โฉมแรก เครื่องยนต์มี 2 แบบ ได้แก่ ดีเซลขนาด 3.0 ลิตร รหัส 5L ให้แรงม้าสูงสุด 97 แรงม้า และรหัส 5L-E แบบ 4 สูบ OHC ให้แรงม้าสูงสุด 105 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 20.3 กก.-ม. (200 นิวตัน-เมตร) ที่ 2,600 รอบ/นาที

กลางปี 2543 เพิ่มเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ ขนาด 3.0 ลิตร จากเครื่องยนต์ที่กำเนิดขึ้นเพื่อใช้ใน Off Road รุ่นใหญ่ อย่าง Land Cruiser Prado จนได้รับสมญานามว่า จ้าวแห่งเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ (King of Diesel Turbo Engine) รหัส 1KZ-TE แบบ 4 สูบ OHC ให้แรงม้าสูงสุด 125 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 32.1 กก.-ม. (315 นิวตัน-เมตร) ที่ 2,000 รอบ/นาที สามารถทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ด้วยเวลาเพียง 15.3 วินาที ทำความเร็วได้สูงสุด 160 กม./ชม.

Toyota-Sport-Rider-2002

ช่วงปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ในเดือนกันยายน 2545 ปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่ เทคโนโลยี D-4D มีดังนี้ …

เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ มีขนาด 2.5 ลิตร รหัส 2KD-FTV แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว D-4D ให้แรงม้าสูงสุด 102 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 26.5 กก.-ม. (260 นิวตัน-เมตร) ที่ 1,600-2,400 รอบ/นาที

เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ ขนาด 3.0 ลิตร รหัส 1KD-FTV แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว D-4D ให้แรงม้าสูงสุด 125 แรงม้า ที่ 3,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 32.1 กก.-ม. (315 นิวตัน-เมตร) ที่ 1,800-2,600 รอบ/นาที

โดย Toyota Sport Rider ในตลาดรถมือสอง (ในปี 2563) อยู่ที่ประมาณ 120,000 – 230,000 บาท

สำหรับราคาค่าตัวในเครื่อง 5L เวอร์ชั่นแรกนั้น ไม่แพงนักเมื่อเทียบกับตัวรถ เริ่มต้นประมาณ 1 แสนต้นๆ ส่วนตัวไมเนอร์เชนจ์หลังปี 2545 นั้น บล็อก D4-D อยู่ที่ประมาณ 1 แสนปลายๆ – 2 แสนกลางๆ ตามสภาพ

Isuzu-MU-7-2004

2. Isuzu MU-7

หลังจากที่ Isuzu เห็นรถค่ายคู่แข่งอย่าง … กอบโกยยอดขายรถแนว PPV ไปมากมายแล้ว จึงต้องนำ Isuzu D-Max มาพัฒนาเป็นรถยนต์อเนกประสงค์แบบ 7 ที่นั่ง จนได้ออกมาเป็น “Isuzu MU-7” (อีซูซุ มิว-เซเว่น) ในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2547 ซึ่งออกแบบผลิตและจำหน่ายในประเทศไทยเป็นที่แรกในโลก ตัวรถดัดแปลงได้ใกล้เคียงรถ SUV มาก จากการใช้ระบบส่งกำลังขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา การหดระยะฐานล้อ และปรับระบบรองรับด้านหลัง เป็นแบบคอยล์สปริง

แม้ตัวเลขยอดจำหน่ายจะตามหลังคู่แข่งอยู่พอสมควร แต่ มิว-7 ก็ยังขายได้ดี เพราะมีแบรนด์ Isuzu เป็นการันตี … สำหรับ MU-7 มีการปรับโฉมแทบทุกปี ตั้งแต่รุ่น Gold Series, Platinum Series รวมไปถึงรุ่นพิเศษอย่างรุ่น Limited, Executive, Groove หรือ Choiz เป็นต้น …

ใช้เครื่องยนต์ใหม่ “I-TEQ 3000 Ddi” ขนาด 3.0 ลิตร รหัส 4JJ1-TC แบบ 4 สูบ 16 วาล์ว Super Commonrail Turbo Intercooler ให้แรงม้าสูงสุด 146 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 294 นิวตัน-เมตร ที่ 1,400-3,400 รอบ/นาที ที่ถูกคิดค้นและพัฒนาใหม่หมด

ในโฉมไมเนอร์เชนจ์ เปลี่ยนเครื่องยนต์เป็นขนาด 3.0 ลิตร รหัส 4 JJ1-TCX 3000 Ddi เทอร์โบแปรผัน VGS Turbo และอินเตอร์คูลเลอร์ใหญ่ขึ้น ให้แรงม้าสูงสุด 163 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิด 34.0 กก.-ม. (333 นิวตัน-เมตร) ที่ 1,600-3,200 รอบ/นาที

โดย MU-7 ในตลาดรถมือสอง (ในปี 2563) อยู่ที่ประมาณ 250,000 – 400,000 บาท (หลังรุ่นปี 2009 ราคาจะขึ้นไปมากกว่า 400,000 บาท)

Mitsubishi-G-Wagon-2001

3. Mitsubishi Strada G-Wagon

มิตซูบิชิ เปิดตัว Mitsubishi Strada G-Wagon (มิตซูบิชิ สตราด้า จีวากอน) เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2544 ที่ในเวอร์ชั่นตลาดโลกใช้ชื่อว่า ชาเลนเจอร์ (Challenger) ตัวนี้ใช้พื้นฐานเดียวกับรถกระบะ Strada โดยปรับหน้าตาให้เหมือนกันกับ Strada ซึ่งรุ่นนี้มีการปรับโฉมหน้าตากันอีกหลายครั้ง (ปรับโฉมครั้งที่ 2 ประมาณกลางปี 2546 และสุดท้ายในปี 2548) มีรุ่นพิเศษออกมาเยอะแยะเช่นกัน อาทิเช่น Rally Master หรือ Euro Evolution เป็นต้น

ระยะแรกใช้เครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 2.8 ลิตร รหัส 4M40 แบบ 4 สูบ SOHC 16 วาล์ว ให้แรงม้าสูงสุด 96 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 20.2 กก.-ม. (199 นิวตัน-เมตร) ที่ 2,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด

ช่วงปี 2545 … Strada G-Wagon แนะนำเครื่องยนต์ดีเซลใหม่ ขนาด 2.5 ลิตร รหัส 4D56 แบบ 4 สูบ SOHC 16 วาล์ว VG Turbo Intercooler ให้แรงม้าสูงสุด 116 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 24.4 กก.-ม. (240 นิวตัน-เมตร) ที่ 2,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด

พอเวลาผ่านไป Mitsubishi ก็หันกลับมาใช้เครื่องยนต์รหัส 4M40 แต่เพิ่ม Turbo Intercooler เข้าไป สะใจขาลุย ให้แรงม้าสูงสุด 125 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 29.7 กก.-ม. (291 นิวตัน-เมตร) ที่ 2,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด

โดย Strada G-Wagon ในตลาดรถมือสอง (ในปี 2563) อยู่ที่ประมาณ 150,000 – 250,000 บาท

Honda-CR-V-2002-Thai

4. Honda CR-V (เจเนอเรชั่นที่ 2)

การมาของ “Honda CR-V” (ฮอนด้า ซีอาร์-วี) ที่ทำให้ตลาดรถยนต์ในกลุ่ม SUV ตื่นตัวขึ้นมากกว่าเดิมนับตั้งแต่ในรุ่นแรก โดยโฉมที่ Carro จะแนะนำในครั้งนี้ เป็น ซีอาร์-วี รุ่นที่ 2 ซึ่งเปิดตัวในบ้านเราในเดือนมกราคม 2545 มีให้เลือกทั้งแบบ 5 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง โครงสร้างตัวรถออกแบบขึ้นโดยมี Civic รุ่นที่ 7 เป็นต้นแบบ และได้นำเครื่องยนต์หัวฉีด i-VTEC มาใช้อย่างเต็มรูปแบบทุกรุ่นย่อย …

ใช้เครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร รหัส K20A แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว i-VTEC LEV ให้แรงม้าสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 19.4 กก.-ม. (191 นิวตัน-เมตร) ที่ 4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด

ในรุ่นปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ เปิดตัวไปในบ้านเราเมื่อธันวาคม 2547 … และได้เพิ่มเครื่องยนต์ 2.4 ลิตร เป็นตัวเลือกใหม่ รหัส K24A แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว i-VTEC LEV ให้แรงม้าสูงสุด 160 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 22.4 กก.-ม. (219 นิวตัน-เมตร) ที่ 3,600 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัตโนมัติใหม่ (Real Time 4WD)

โดย Honda CR-V (เจนเนอเรชั่นที่ 2) ในตลาดรถมือสอง (ในปี 2563) อยู่ที่ประมาณ 130,000 – 230,000 บาท

Chevrolet-Captiva-2007

5. Chevrolet Captiva 

Chevrolet Captiva (เชฟโรเลต แคปติวา) เปิดตัวเป็นครั้งแรกในไทยเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2550 เป็นรถ SUV แบบ 7 ที่นั่ง เบาะแถว 2 และ 3 สามารถพับเก็บได้ มีให้เลือกทั้งแบบขับเคลื่อนล้อหน้า และขับเคลื่อน 4 ล้อ ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด แบบ Tiptronic (ต่อมาปรับเป็น 6 สปีด) และถือเป็นรถที่ขายนานที่สุดอีกหนึ่งรุ่นของ Chevrolet

ในรุ่นเครื่อง 2.0 ลิตร จะเป็นเครื่องยนต์แบบดีเซล แบบ 4 สูบ SOHC 16 วาล์ว Turbo แบบแปรผัน ให้แรงม้าสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 32.6 กก.-ม. (320 นิวตันเมตร) ที่ 2,000 รอบ/นาที

ส่วนในรุ่น 2.4 ลิตร จะเป็นเครื่องยนต์เบนซิน แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว Flex Fuel รองรับเชื้อเพลิง E20 และ E85 ให้กำลังสูงสุด 136 แรงม้า ที่ 5,600 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 22.4 กก.-ม. (220 นิวตันเมตร) ที่ 2,200 รอบ/นาที

ภายหลังรุ่นเบนซิน 2.4 ลิตร เปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่ เป็นแบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว Double CVC ให้กำลังสูงสุด 165 แรงม้า ที่ 6,400 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 23.0 กก.-ม. (225 นิวตันเมตร) ที่ 4,600 รอบ/นาที

อีกหนึ่งจุดเด่นที่มาพร้อมกับความจุห้องโดยสารที่มาก เมื่อพับเบาะแถวที่ 3 ลงจะมีปริมาตรในการขนสัมภาระอยู่ที่ 465 ลิตร แต่ถ้าพับเบาะแถวที่ 2 ลงอีก ความจุก็จะเพิ่มเป็น 930 ลิตร

โดย Chevrolet Captiva (โฉมแรก) ในตลาดรถมือสอง (ในปี 2563) อยู่ที่ประมาณ 199,000 – 400,000 บาท (หลังรุ่นปี 2014 ราคาจะขึ้นไปมากกว่า 400,000 บาท)

Ford-Everest-2003

อันนี้แถมให้ครับ … Ford Everest

Ford เปิดตัว Everest (เอเวอเรสต์) PPV 7 ที่นั่งรุ่นแรก ในเดือนมีนาคม 2546 วาระเดียวกับการฉลองครบรอบ 100 ปี ของ ฟอร์ด ซึ่งดัดแปลงมาจากพื้นฐานของกระบะอย่าง “Ranger” โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิต ที่โรงงานออโต้อัลลายแอนซ์ ฟอร์ด ซึ่งใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศมากถึงร้อยละ 80 และตั้งความหวังไว้กับรถรุ่นนี้มาก โดยผลิตเพื่อป้อนตลาดภายในประเทศ และส่งออกไปยัง 50 ประเทศทั่วโลก

เอเวอเรสต์ รุ่นแรก มีให้เลือกทั้งแบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ เครื่องยนต์ยังไม่ใช่คอมมอนเรล แต่ใช้ดีเซลขนาด 2.5 ลิตร รหัส WLT แบบ 4 สูบ Turbo Intercooler ให้แรงม้าสูงสุด 121 แรงม้า ที่ 3,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 27.5 กก.-ม. (270 นิวตัน-เมตร) ที่ 2,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ซึ่งขึ้นชื่อว่าแรงที่สุดในเวลานั้น

หลังจากนั้นได้ปรับปรุงอุปกรณ์ตกแต่งอีกเป็นระยะ โดย Ford Everest (เจนเนอเรชั่นที่ 1) มีอายุรวมในตลาดไม่ถึง 4 ปีดี

โดย Everest (รุ่นก่อนปี 2007) ในตลาดรถมือสอง (ปี 2563) อยู่ที่ประมาณ 200,000 – 270,000 บาท

MR.CARRO หวังว่ารถ SUV และ PPV มือสอง ในราคาคุ้มค่า ไม่เกิน 4 แสนบาท ที่นำมาเสนอนั้น น่าจะถูกใจหลายๆ คนกันนะครับ

ส่วนใครที่อยากขายรถ หรือมีเพื่อนฝูงกำลังหาที่ขายรถอยู่ CARRO เรารับซื้อรถของคุณ สามารถเข้าไปเช็กราคา ตีราคาขายรถก่อนได้ โดยใส่ข้อมูลรถของคุณที่นี่เลย กับ CARRO Express > https://th.carro.co/sell-car/express หรือโทร. 02-508-8425

หรือใครจะ Inbox มาสอบถามก็ได้เช่นกัน ที่ Facebook CARRO Thailand หรือสะดวก Add Line ก็ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ครับ —> เพิ่มเพื่อน

เช็ครถ ก่อนเดินทาง

เช็กสภาพรถยนต์ของคุณ เพื่อความอุ่นใจ
ก่อนออกเดินทางไกล เที่ยวในวันหยุดยาว

ใกล้ถึงเทศกาลปีใหม่ 2562 แล้ว ปีนี้หยุดยาวได้ถึง 4 วันเต็มๆ หลายคนคงกำลังเก็บกระเป๋า เตรียมตัวเดินทางออกต่างจังหวัด แต่ก่อนออกเดินทางเราควรต้องตรวจเช็คสภาพรถกันเสียก่อน เพราะหากเกิดเหตุอะไรขึ้นมาระหว่าง การไปเที่ยวครั้งนี้คงต้องอดสนุกแน่ ๆ เลย

ฉะนั้นวันนี้ คาร์โร อยากจะแนะนำทริคการตรวจเช็กรถยนต์เบื้องต้น ก่อนออกไปเที่ยววันหยุดยาวกัน

1. เช็กสภาพรถยนต์ขั้นพื้นฐาน
ก่อนออกทริปไปเที่ยวสิ่งแรกที่ควรทำ คือ การตรวจสอบรถยนต์ขั้นพื้นฐานด้วยตัวเอง อย่างเช่น เช็กที่ปัดน้ำฝน ไฟหน้ารถ เช็คระดับน้ำ น้ำมันเครื่อง โช้คอัพ ฯลฯ หรือหากคุณไม่สันทัดในการตรวจเช็กเอง หรือไม่แน่ใจว่าตัวเองทำถูกไหม คุณก็สามารถเอารถไปเข้าศูนย์ที่ใกล้บ้านเพื่อตรวจเช็กระบบต่างๆ

2. การเช็กแบตเตอรี่รถยนต์

การตรวจสอบแบตเตอรี่รถยนต์นั้น ให้ตรวจดูว่าแบตเตอรี่อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานหรือไม่ ? ควรเปลี่ยนแบตเตอรี่แล้วหรือยัง ? มีรอยแตกร้าวหรือเปล่า ? เพราะหากมีรอยแตกร้าว อาจทำให้แบตเตอรี่ไม่เก็บประจุไฟฟ้า

3. ตรวจสอบยางรถยนต์

การตรวจสอบยางรถยนต์นั้นไม่ยาก แค่เช็คดูว่ายางรถพร้อมใช้งานหรือไม่ ? มีดอกยางลึกพอหรือเปล่า ? หากดอกยางตื้นมากแล้ว ควรเปลี่ยนใหม่ก่อนออกทริป ไม่เช่นนั้น หากฝนตก หรือขับลงเขาอาจทำให้เกิดไถลลื่นได้ จนเกิดอุบัติเหตุได้ และควรตรวจเช็คความดันลมยางด้วยนะ

 

เช็ครถ ก่อนเดินทาง

4. ตรวจสอบผ้าเบรก

การตรวจเช็คผ้าเบรกนสามารถทำได้ง่ายๆ โดยการดูความหนาของผ้าเบรกด้วยตาเปล่า ผ้าเบรกที่ดีนั้น ควรมีความหนาไม่น้อยกว่า 4 มิลลิเมตร หรือหากขับรถไปแล้ว มีเสียงดังที่บริเวณจานเบรกของล้อ ก็อาจเป็นสัญญาณว่าผ้าเบรกหมดนั่นเอง

5. เตรียมอุปกรณ์ต่างๆ

กรเตรียมอุปกรณ์ต่างๆ ก็เป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้การดูแลรถเลย ส่วนที่ควรเตรียมคือ ไฟฉาย ชุดปฐมพยาบาลเบื้องต้น ผ้าห่ม เครื่องมือซ่อมรถพื้นฐานให้พร้อม เพราะถ้าเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้นมา อุปกรณ์เหล่านี้สามารถช่วยให้คุณผ่านเหตุการณ์นี้ไปได้

6. เมมเบอร์โทรศัพท์ฉุกเฉิน

เผื่อเหตุการณ์ไม่คาดฝัน อย่างน้อยคุณควรจะมีเบอร์ของตำรวจทางหลวง (1193) ศูนย์อุบัติเหตุบนทางด่วน (1543) สถานีวิทยุ จส. 100 (1137) สถานีวิทยุสวพ. 91 (1644) แจ้งเหตุด่วนเหตุร้าย (191) ดูเบอร์ทั้งหมดต่อได้ที่ คลิกดูเลย

เช็ครถ ก่อนเดินทาง

สุดท้ายสิ่งที่อยากจะฝากคือ ไม่ควรประมาณ และคุณควรเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการขับรถ เพราะถ้าคนไม่พร้อมอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุ ดังนั้น หากตรวจเช็ครถยนต์แล้ว ก็อย่าลืมพักผ่อนให้เพียงพอก่อนการเดินทางด้วยนะคะ
ECO-Sticker

เวลาดู “รถยนต์ใหม่” คุณสามารถสแกน “QR Code” ดูสเปคได้จาก “ECO Sticker”

BMW-i8-ECO-Sticker

หลายท่านที่ไปเดินดูรถในงาน Motor Expo 2017 แล้วอาจจะสังเกตว่า บริเวณกระจกรถทุกคันที่นำมาจัดแสดงภายในงาน จะมีติดกระดาษแผ่นหนึ่งไว้ มีรายละเอียดต่างๆ ของรถคันนั้น ระบุอยู่ หลายคนไม่ทราบว่ามันคืออะไร? ติดไว้เพื่ออะไร?

เพื่อความรู้และประโยชน์ของผู้บริโภค MR.CARRO ขออธิบายรายละเอียดของ “ECO Sticker” ให้ทุกท่านได้รับทราบครับ.

ระบบป้ายข้อมูลรถยนต์ตามมาตรฐานสากล (ECO Sticker)

Lexus-NX

จากมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2555 ได้อนุมัติในหลักการร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์ (ภาษี CO2) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ควบคู่ไปกับการมอบหมายให้กระทรวงอุตสาหกรรมกำหนดแนวทางให้ผู้ประกอบอุตสาหกรรมยานยนต์และผู้นำเข้า ต้องติดป้ายแสดงการประหยัดพลังงานและปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) หรือ ECO Sticker ที่จะนำมาใช้ดำเนินการควบคู่กัน

ECO-Sticker

กระทรวงอุตสาหกรรม (สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม และสถาบันยานยนต์) และกระทรวงการคลัง (กรมสรรพสามิต กรมศุลกากร) ได้ร่วมมือกันในการเตรียมระบบงานเพื่อรองรับการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี … ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านราคาจำหน่ายในรถยนต์หลากหลายรุ่น ตั้งแต่ในวันที่ 1 มกราคม 2559 เป็นต้นมา

ECO-Sticker

ECO-Sticker

และรถยนต์ต้องติดป้ายแสดงการประหยัดพลังงานและปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) หรือ ECO Sticker ซึ่งในหลายประเทศก็ใช้ระบบนี้เช่นกัน โดยฉลาก ECO Sticker ระบุถึงข้อมูลรายละเอียดทางเทคนิคเกี่ยวกับตัวรถ ซึ่งผู้บริโภคสามารถดูข้อมูลใช้ประกอบการตัดสินใจซื้อรถได้ อีกทั้งยังมีข้อมูลต่างๆ อาทิ รายละเอียดเครื่องยนต์ อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง, มาตรฐานระบบเบรก, การทดสอบชน และอุปกรณ์มาตรฐานที่ติดตั้งมาจากโรงงาน

ECO-Sticker

เมื่อสแกน QR Code แล้ว จะได้ข้อมูลแบบนี้ครับ

นอกจากนี้ยังมี QR Code หมายเลขทะเบียน (ECO Sticker ID) เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจในการเลือกซื้อรถยนต์ บนพื้นฐานข้อมูลที่ถูกต้อง แม่นยำ และสามารถตรวจสอบได้ทันที

โดยหากผู้ซื้อรถยนต์พบว่า คุณสมบัติของรถยนต์คันที่ซื้อ หรือ VIN บนรถยนต์นั้นไม่ตรงกับข้อมูลบน ECO Sticker ก็สามารถแจ้งตำแหน่งได้ นอกจากนี้ ยังทำให้ผู้ซื้อสามารถทราบข้อมูลรถยนต์อื่นๆ นอกเหนือจากที่ปรากฏบน ECO Sticker หรือดาวน์โหลดโบรชัวร์ของรถยนต์คันนั้น ค่าใช้จ่ายด้านพลังงานต่อเดือน และสามารถค้นหาและเปรียบเทียบรถยนต์คันนั้น กับรถยนต์คันอื่นๆ ในระบบได้

ขอขอบคุณข้อมูลจาก car.go.th

รวมราคารถใหม่

ผลพวงจากการปรับ ภาษีสรรพสามิตรถยนต์ใหม่ทั้งระบบในปี 2559 เริ่มส่งผลแล้ว กับราคารถใหม่ ป้ายแดงที่ทางค่ายผู้ผลิต หลายๆ ทยอยประกาศราคาใหม่ ในรุ่นที่ราคามีทั้งการปรับขึ้นและลดลง แต่จากที่เห็นราคาส่วนใหญ่จะปรับขึ้น หรือไม่ก็เท่าเดิม มาดูกันเลยว่าแต่ละค่ายรถยนต์ยอดนิยม ของเมืองไทย มีรุ่นไหน ที่ปรับเพิ่ม ลดลงกันบ้าง

“เจ้าตลาด ไม่สนใจ!! ภาษีขึ้น ราคาก็ต้องขึ้น (และขึ้นเยอะด้วย)”

Toyota 
เริ่มกันที่ค่ายขายดี ตลอดกาลอย่าง Toyota ในรุ่นที่อยู่ในประเภทของภาษีใหม่ลดลง คือรถประเภท Eco Car อย่าง Yaris แต่ราคายังไม่มีการประกาศปรับลดลง แต่อย่างใด ทางค่ายอาจรอเปิดตัว Minor Change เพื่อใส่ Option เพิ่มมาในรุ่นนี้และใช้เป็นข้ออ้างได้อย่างดี ที่จะไม่ลดราคาแม้ภาษีจะปรับลดลงก็ตาม

รุ่นที่เพิ่มขึ้นอย่างไม่แยแสคนซื้อรถป้ายแดงเลยก็คือ Toyota Fortuner ที่กระแสของรุ่นนี้ยังดีต่อเนื่องจากปีก่อนหน้า เห็นมากขึ้นตามท้องถนนแล้ว ราคาใหม่ในปีนี้ปรับขึ้นจากราคาปีที่แล้วอยู่ที่ระหว่าง  30,000 ถึง 100,000 บาท  wow………….

  รวมราคารถใหม่ 2016 นโยบายภาษีรถยนต์ส่งผลแค่ไหน |Carro

มาดูกันที่  Sedan กันบ้าง ไล่มาตั้งแต่ Toyota  ViosToyota Altis อันนี้ราคาเท่าเดิม ยังไม่มีประกาศเพิ่มราคาตามภาษีที่จัดเก็บมากขึ้น แต่รุ่นใหญ่ขึ้นมาอย่าง Toyota Camryจะมีการปรับราคาในรุ่นที่เป็นน้ำมันอย่างเดียว ขึ้นมาจากเดิมประมาณ  55,000 บาท ในรุ่นประเภท Hybrid ที่ตามภาษีใหม่นี้ที่เก็บค่าภาษีในรถประเภทนี้ลดลง ยังไม่ได้มีการประกาศแจ้งราคาใหม่ออกมา

** สรุปคือ ** รุ่นที่ขายดี ต้องรีบขึ้นราคา ส่วนรุ่นที่ยังไม่ประกาศราคาออกมา น่าจะรอเปิดตัวรุ่นใหม่ แล้วขึ้นราคาทีเดียว


*** อัพเดทล่าสุด 7-01-2015

รถโตโยต้ามือสองที่น่าสนใจ 

รถมือสองที่น่าสนใจ

Isuzu
ค่ายกระบะ ยอดนิยม ที่เพิ่งเปิดตัว D-MAX เครื่องยนต์ใหม่ ขนาดกระทัดรัด รับภาษีใหม่ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว
กับเครื่องยนต์ที่เล็กลง ทำให้ปริมาณการคายก๊าซเสียออกมาต่ำลง การเก็บภาษีของรุ่นนี้ก็ต่ำลง เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์รุ่นก่อนหน้า ยินดีด้วยกับผู้ที่สนใจในรถค่าย Isuzu ที่ราคาจะยังไม่มีการ ปรับขึ้น แต่คาดว่าทางค่ายอาจมีการเปิดตัวไมเนอร์เชนจ์เร็วๆ นี้ เพื่อใช้เป็นเหตุผลในการปรับราคาขึ้น

** สรุปคือ **  เจ้านี้จอมไมเนอร์เชนจ์อยู่แล้ว เดี๋ยวค่อยไปรอขึ้นราคาตอนเปิดตัวรุ่นใหม่ก็ได้ ไม่มีปัญหา


  รวมราคารถใหม่ 2016 นโยบายภาษีรถยนต์ส่งผลแค่ไหน |Trusteecar.com
*** อัพเดทล่าสุด 7-01-2015

รถอีซูสุมือสองที่น่าสนใจ 

รถมือสองที่น่าสนใจ

Honda 
ค่ายยอดฮิตอีกค่ายอย่าง Honda ยนตกรรมสีเขียว ก็ประกาศปรับราคารถยนต์ออกมาแล้ว ทางค่ายยืนยันอย่างชัดเจน ว่าภาษีปีที่ขึ้นใหม่นี้ เป็นหนึ่งในทิศทางที่สำคัญต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมยายนต์ มีการปรับขึ้นเพียง 3 รุ่นเท่านั้นได้แก่ Honda CR-V ปรับขึ้นจากเดิมระหว่าง 37,000-55,000 บาท


  รวมราคารถใหม่ 2016 นโยบายภาษีรถยนต์ส่งผลแค่ไหน |Carro

Honda HR-V และ Honda City CNG  ปรับขึ้นจากเดิม  20,000  บาท รุ่นอื่นๆ นอกจากนี้จะคงราคาเดิมไว้อยู่
แต่จากการประกาศของ Honda นี้ไม่มีรุ่นขายดีอย่าง Honda Civic และ Honda Accord คาดว่า 2 รุ่นนี้น่าจะมีการเปิดตัวรุ่นใหม่ในไม่ช้านี้ ทั้ง Honda Civic ที่ในต่างประเทศได้เปิดตัว Civic 2016 ไปแล้ว และยังมีภาพ Spy Short ที่ผู้ใช้รถแอบเห็นทาง Honda นำ Civic มาเริ่มวิ่งทดสอบกัน ส่วน Accord ก็น่าจะมีการเปิดตัวไมเนอร์เชนจ์เร็วๆ นี้ นั่นคือเหตุผลว่าทำไมการประกาศปรับราคาของ Honda ไม่มีชื่อของ 2 รุ่นนี้

** สรุปคือ ** ขึ้นราคาพอเป็นมารยาท รอดู Civic 2016 กันดีกว่าว่าราคาจะเปลี่ยนแปลงมากแค่ไหน


*** อัพเดทล่าสุด 7-01-2015

รถฮอนด้ามือสองที่น่าสนใจ 

รถมือสองที่น่าสนใจ

“ค่ายเล็กราคาลงมาหน่อย ยังดูเชิงกันอยู่หลายเจ้า”

Nissan
นิสสันเป็นอีกค่ายที่มีการประกาศปรับขึ้นราคาออกมาแล้ว แต่มีหลายรุ่นที่น่าแปลกใจ ที่ยังคงราคาเดิมไว้ เช่นภาษี Eco car ได้ปรับลดลงแต่ยังคงราคาเดิม เช่น Nissan March,Nissan Almera  งงปะ…?
ยังมีอีก 2 รุ่นจากค่ายที่ยังพอทำให้ชื่นใจอยู่บ้างที่ยังไม่ประกาศขึ้นราคา แม้ภาษีใหม่จะปรับขึ้นคือ Nissan Sylphy และ Nissan Juke


  รวมราคารถใหม่ 2016 นโยบายภาษีรถยนต์ส่งผลแค่ไหน |Carro

ที่ประกาศขึ้นไปแล้วก่อนเพื่อน  เป็นแค่เพียงรถ pickup ของค่าย Navara ได้ปรับขึ้นมาจากเดิมแล้วอยู่ระหว่าง 10,000 – 40,000 บาท ที่ต้องรีบประกาศอาจเป็นเพราะรุ่นนี้ยังขายดีอยู่ ส่วน Nissan Teana และ Nissan X-Trail คาดว่าจะขึ้นประมาณ 10% ของราคาเดิมตัวรถแต่ยังไงก็ต้องรอดูประกาศกับราคาใหม่จากทางค่ายที่จัดเจนอีกที

** สรุปคือ ** ECO car อดใจรอดูทรงว่าจะลดราคาไหม อดใจไม่ไหวก็ซื้อเลย เพราะคงลดไม่เยอะเท่าไร

*** อัพเดทล่าสุด 7-01-2015

รถนิสสันมือสองที่น่าสนใจ 

รถมือสองที่น่าสนใจ

Mitsubishi 
มิตซูบิชิที่ตอนนี้กำลังขายดิบขายดีกับ New Pajero Sport ก็ประกาศราคามาใหม่แล้วขึ้นมาจากราคาเดิมระหว่าง 19,000 – 29,000 บาทถือว่าขึ้นมาไม่เยอะเท่าไรพอรับได้ ทำให้คนที่กำลังสนใจรุ่นนี้อยู่ตัดสินใจง่ายขึ้นเยอะ

  รวมราคารถใหม่ 2016 นโยบายภาษีรถยนต์ส่งผลแค่ไหน |Carro

ทางกระบะ Triton ของทางค่ายมีการปรับราคาทั้งเพิ่มขึ้น และลดลงในบางรุ่น โดยรุ่นที่เพิ่มขึ้น สูงขึ้นถึง 41,000 บาทในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ Double Cab แต่ในรุ่นที่ลดราคาก็ลดเยอะอยู่เหมือนกันโดยถูกกว่าปีที่แล้วถึง 32,000 บาทในรุ่น Double Cab สี่ประตู

ส่วน Eco car อย่าง Mitsubishi Mirage ก็ไมเนอร์เชนจ์ไปเมื่อ Motor Expo ครั้งที่ผ่านมาทางค่ายก็ประกาศมาก่อนหน้านี้แล้วว่าราคาของรุ่นนี้ รวมไปถึง  Attrage ที่กำลังจะเปิดตัว ไมเนอร์เชนจ์เร็วๆ นี้ราคาจะมีการปรับขึ้น  5,000 – 9,000 บาท

รถซีดานตัวเดียวของค่ายอย่าง  Mitsubishi Lancer ก็ปรับขึ้นอยู่ที่ประมาณ 40,000 – 60,000 บาท เช่นกัน

** สรุปคือ ** ขึ้นราคาแล้วอย่างถ้วนหน้าทุกรุ่น มีกระบะบางรุ่นย่อยที่ลดราคา ลองดูรุ่นดีดี


*** อัพเดทล่าสุด 7-01-2015

รถมิตซูบิชิมือสองที่น่าสนใจ 

รถมือสองที่น่าสนใจ

Mazda 
น่ายินดีที่สุดคือค่ายนี้ที่ราคารถป้ายแดง ปรับลดมา จากเดิมในรุ่น Mazda 2 ทั้งดีเซลและเบนซิน ทาง
มาสด้าปรับลดราคาตามเงื่อนไขการปล่อยก๊าซเสีย ของรถประเภท Eco car เฟส 2 ซึ่งในรุ่นนี้อยู่ในโครงการ โดยราคาปรับลดมาจากเดิมที่  21,000 – 23,000 บาท ยินดีด้วยกับผู้ที่กำลังสนใจรถในประเภทนี้อยู่ !!

SUV ทั้งสองรุ่นของค่ายทั้ง  CX-3, CX-5 ยังไม่มีการปรับราคาขึ้นยังคงราคาเดิมไว้ สองรุ่นนี้กระแสยังแรงจากปีที่แล้ว การทำราคาไว้เท่าเดิมจากทางค่าย เอาใจคนที่กำลังดูสองรุ่นนี้ไว้อยู่จากปี่แล้ว ให้รีบตัดสินใจกันหน่อย กระบะของมาสด้า  BT-50 รุ่นนี้ยังไม่ประกาศขึ้นราคาแต่ น่าจะมีการปรับขึ้น เร็วๆ นี้ โดยราคาที่ขึ้นนี้จะเริ่มต้นที่ 15,000 บาท ต้องรอประกาศจากทางค่ายผู้ผลิตอีกที

                                                                                รวมราคารถใหม่ 2016 นโยบายภาษีรถยนต์ส่งผลแค่ไหน |Trusteecar.com

รุ่นเดียวที่ทางมาสด้าปรับขึ้นมาแล้วในปีนี้คือ  Mazda 3 ที่ปรับราคาขึ้นมาจากเดิมตั้งแต่ 5,000 – 14,000 บาท

** สรุปคือ ** ยังใจดีที่ลดราคา Eco car เพิ่งเห็นเจ้าแรกนะ มีเพียงรุ่นเดียวเท่านั้นที่ขึ้นราคาคือ Mazda 3 ใครชอบจริงๆ ก็ต้องกัดฟันซื้อหน่อยนะ


*** อัพเดทล่าสุด 7-01-2015

รถมาสด้ามือสองที่น่าสนใจ 

รถมือสองที่น่าสนใจ
480,000 ฿2014
Mazda Bt-50

Ford


  รวมราคารถใหม่ 2016 นโยบายภาษีรถยนต์ส่งผลแค่ไหน |Carro

Ford ค่ายนี้เพิ่งประกาศมา เพียงสองรุ่น  PPV ตัวเก่งจากทางค่าย  Everest และกระบะ Ranger ที่สองรุ่นนี้ราคาจะขึ้นอยู่ที่ระหว่าง  30,000 – 50,000  บาท ถือว่าเยอะเหมือนกันสำหรับรถ pickup ดัดแปลงและ picup ทั่วไปใครชอบกระบะจากค่ายนี้เป็นพิเศษ อาจพอรับได้

** สรุปคือ ** ต้องรีบขึ้นราคา 2 รุ่นนี้หน่อยเพราะน่าจะเป็นรุ่นที่ขายดีที่สุดของค่าย 


 *** อัพเดทล่าสุด 7-01-2015

รถมาสด้ามือสองที่น่าสนใจ 

รถมือสองที่น่าสนใจ

การที่เริ่มใช้จริงในปีนี้กับ โครงสร้างภาษีใหม่ ดูเหมือนว่าค่ายรถยนต์หลายๆ ค่ายจะฉวยโอกาสขึ้นราคารถป้ายแดงจนหน้าตกใจ รถบางรุ่นที่ภาษีเรียกเก็บลดลงแต่กำหนดราคาขายรถยังเท่าเดิม บางรุ่นออกไมเนอร์เชนจ์เพื่อใช้อ้างไปขึ้นราคา เรียกว่าขึ้นไม่สงสารผู้บริโภคกันเลย

รถบางรุ่นขึ้นราคาเป็นแสนทำให้ผู้ซื้อต้องไตร่ตรองกันให้มากขึ้นที่จะซื้อรถป้ายแดงราคาเป็นแสน จนไปถึงล้าน เงินไม่ได้หากันง่ายๆ  จะซื้อทั้งทีก็ต้องลองดูกันดี ๆ  ไม่ก็ลองหาทางเลือกอื่นดู