Carro แนะนำ Isuzu MU-X เพื่อสายลุย!

ในสังเวียนของรถยนต์แบบ SUV ที่ใช้พื้นฐานเดียวกันกับรถกระบะ หรือมีแชสซีส์เป็นพื้นฐานที่บ้านเรามักเรียกว่า รถ PPV (หรือ Pick-Up Passenger Vehicle = รถอเนกประสงค์ที่มีพื้นฐานมาจากรถกระบะ) นับได้ว่าเป็นสมรภูมิการแข่งขันที่ดุเดือด มีให้เลือกหลายยี่ห้อ ไม่ว่าจะในตลาดรถใหม่ หรือในตลาดรถมือสองก็ตาม

สำหรับรถยนต์ประเภทนี้ ถือได้ว่ามีบทบาทสำหรับคนใช้รถในไทยมานาน ทั้งตอบโจทย์ความอเนกประสงค์ในการใช้งาน การบรรทุกสัมภาระ ยิ่งคนมีครอบครัวใหญ่ มีลูกหลานหลายคน ใช้รถเดินทางไปเที่ยวหรือไปเยี่ยมญาติได้ลงตัว โดยรถรุ่นใหม่ๆ ต่างออกแบบมาใช้ขับง่าย ใช้งานง่าย ออฟชั่นเพียบ และเพิ่มความหรูหรามากกว่าในอดีตเป็นเท่าตัว

และในวันนี้ Carro จะขอพาทุกท่านมารู้จักกับ รถอเนกประสงค์ยอดฮิตในไทยอีกรุ่นหนึ่ง ซึ่งเป็นรถที่ทนทาน ซื้อง่ายขายคล่อง ราคาตกน้อย และการดูแลรักษา อะไหล่หาง่าย นั่นก็คือ Isuzu MU-X มือสอง (อีซูซุ มิว-เอ็กซ์ มือสอง) เป็นรุ่นที่สานต่อความสำเร็จมาจาก Isuzu MU-7 นั่นเองครับ

CARRO Automall แนะนำ Isuzu MU-X

สำหรับ Isuzu MU-X (อีซูซุ มิว-เอ็กซ์) หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่า ที่มาของชื่อ “MU-X” นั้น มาจากคำว่า “MU” (มิว) ซึ่งเคยเป็นชื่อที่ใช้ในรถ Isuzu เมื่อครั้งตั้งแต่ในยุค 90 โดยย่อมาจากคำว่า Mysterious Utility หมายถึง ความอเนกประสงค์ที่คาดไม่ถึง ส่วน “X” เป็นตัวอักษรที่อีซูซุเลือกใช้ในการสื่อความหมายของการมีชีวิตเหนือระดับที่ไร้ขีดจำกัด เช่น Exemplary, Extraordinary, Exotic ฯลฯ เพื่อให้เป็นยนตรกรรมสำหรับกลุ่มผู้ใช้รถรุ่นใหม่ ที่พร้อมจะค้นหาสิ่งใหม่ๆ ให้กับตัวเอง

CARRO Automall แนะนำ Isuzu MU-X

Isuzu MU-X เปิดตัวครั้งแรกในโลกที่เมืองไทย เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2556 มาพร้อมสโลแกน “เอกสิทธิ์แห่งผู้นำ” (PRIVILEGE of the LEADER) พร้อมให้ความคล่องตัวสูงสำหรับการใช้งานในเมืองใหญ่ ด้วยความยาวตัวรถ 4.825 เมตร และวงเลี้ยวแคบสุดเพียง 5.7 เมตร หรือเทียบเท่ารถยนต์นั่งขนาดกลาง

CARRO Automall แนะนำ Isuzu MU-X

โดดเด่นด้วยรูปทรงลู่ลม ด้วยค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศ (Cd) เพียง 0.40 ดีสุดในรถระดับเดียวกัน โดดเด่นด้วยไฟหน้าแบบ Projector กระจังหน้าแบบ 3-Dimension ไฟท้ายแบบ ARC-Dimension ด้านหลังติดตั้งกล้องแบบ Built-In เสาอากาศ Dual Function แบบครีบ รับได้ทั้งสัญญาณวิทยุและระบบนำทาง ราวหลังคาออกแบบใหม่ ปรับตำแหน่งยึดรูฟแร็คได้อิสระ ส่วนล้อแม็กมีขนาด 17 นิ้ว

CARRO Automall แนะนำ Isuzu MU-X

สำหรับการออกแบบภายในหรูหราสไตล์ยุโรป ด้วยแนวคิด “Premium & Exclusive” เบาะนั่งกึ่งหนังแท้สี Ivory เบาะผู้ขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง เข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุดครบทั้ง 7 ที่นั่ง แผงหน้าปัดตกแต่งด้วยลายไม้แบบ Nature Touch มาตรวัดเป็นไฟเรืองแสงสีขาวพร้อมตัวเลขสีขาว พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น ระบบอินโฟเทนเมนท์ Isuzu Media Solutions พร้อมระบบนำทาง i-Genii ทำงานผ่านจอทัชสกรีน 7 นิ้ว เสริมด้วยมอนิเตอร์บนเพดาน Built-In ขนาด 10.5 นิ้ว ระบบเสียง Surround Sound ลำโพง 8 ทิศทาง

ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ ให้ความเย็นทุกที่นั่งผ่านช่องแอร์ทั้ง 3 ตอน พร้อมปุ่มควบคุมแยกตอนหน้า-หลัง ระบบปรับ/พับเบาะแบบ One Action ปรับเปลี่ยนพื้นที่ใช้สอยภายในได้หลากหลาย พร้อมกุญแจอัจฉริยะ Genius Entry ควบคุมการเปิด-ปิด และล็อกประตูได้ทุกบาน รวมถึงการสตาร์ทรถ พร้อมสวิตช์เปิด-ปิด ที่ประตูท้าย

ด้านขุมพลัง แรงเร้าใจกับเครื่องยนต์ Isuzu Ddi Super Commonrail สองทางเลือกกับขนาด 3.0 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 177 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 380 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800-2,800 รอบ/นาที

และเครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 136 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 320 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800-2,800 รอบ/นาที พร้อมเทอร์โบแปรผัน VGS Turbo ใหม่ล่าสุดแบบ Zero GAP ลดช่องว่างระหว่างใบพัดกับเสื้อเทอร์โบ เพิ่มประสิทธิภาพการอัดอากาศเข้าสู่ห้องเผาไหม้ได้ดียิ่งขึ้น พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด แบบ REV Tronic มีให้เลือกทั้งระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และขับเคลื่อน 4 ล้อ

มีให้เลือก 4 รุ่นย่อย ได้แก่ 2.5 2WD CD, 2.5 2WD DVD, 3.0 2WD DVD NAVI และ 3.0 4WD DVD NAVI

CARRO Automall แนะนำ Isuzu MU-X

ต่อมาในวันที่ 30 ตุลาคม 2557 Isuzu จัดงานฉลองครบครบ 1 ปี Isuzu MU-X อย่างยิ่งใหญ่ กับยอดขายมากถึง 20,000 คัน พร้อมเสนอทางเลือกใหม่ อีซูซุมิว-เอ็กซ์” รุ่น 2.5 Ddi VGS Turbo DVD Navi ทั้งแบบเกียร์ธรรมดา และเกียร์ออโตเมติก รวมทั้งได้เพิ่มปุ่ม Push Start ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์อัจฉริยะ เป็นอุปกรณ์มาตรฐานเฉพาะรุ่นอีกด้วย

CARRO Automall แนะนำ Isuzu MU-X

ต่อมา … ในเดือนมีนาคม 2559 Isuzu ก็ได้ส่ง “Isuzu MU-X 1.9 Ddi Blue Power” (อีซูซุ มิว-เอ็กซ์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์) ใหม่ สู่ตลาดไทยครั้งแรกในโลก ในเจนเนอเรชั่นใหม่นี้ ถูกออกแบบภายใต้นิยาม “Signature of Privilege เอกลักษณ์แห่งเอกสิทธิ์” ปรับโฉมใหม่ ด้วยกระจังหน้าแบบ 3 มิติ ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน Super Daylight และไฟท้ายแบบพิเศษ Arc-Dimension พร้อมล้ออัลลอยลายใหม่ Dynamic Black

ภายในหรูหราเฉียบคมสไตล์ Modern Art Deco ด้วยโทนสีเข้มและตกแต่งด้วยวัสดุแบบ Hi-Gloss Black กับแถบโครเมียม มีกระจกมองหลังแบบตัดแสงอัตโนมัติ พร้อม Built-in Safety Camera สามารถบันทึกวิดีโอขณะขับขี่ ส่วนระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control มีเฉพาะรุ่นเครื่องยนต์ 3.0 Ddi Blue Power เท่านั้น

CARRO Automall แนะนำ Isuzu MU-X

เดือนกุมภาพันธ์ 2560 ครบรอบ 60 ปี Isuzu ในไทย เจ้า Isuzu MU-X ก็ถูกปรับโฉมใหม่ ด้วยกระจังหน้า Sport 3D ชุดไฟหน้า Bi-LED ปรับระดับสูง-ต่ำอัตโนมัติ มีไฟ Daylight ปรับกันชนหน้า-หลังใหม่ ไฟท้าย LED ใหม่แบบ Sharp Horizon ล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 18 นิ้ว Cross Star และเสริมสปอยเลอร์หลังคา

CARRO Automall แนะนำ Isuzu MU-X

ห้องโดยสารใช้สีทูโทน Sandstone Beige ตัดด้วยสีดำ มาตรวัดใหม่ เบาะกึ่งหนังแท้ เพิ่มผิวสัมผัสแบบ Soft Touch ที่คอนโซลหน้า แผงประตู และที่พักแขน เพิ่มการตกแต่งคอนโซลหน้า หัวเกียร์ และแผงข้างประตูด้วยลายไม้ Fine Walnut คอนโซลกลางตกแต่งด้วยวัสดุสีดำ Piano Black สะดวกด้วยชุดระบบ Infotainment พร้อม iConnect ผ่านจอขนาด 8 นิ้ว โดยมีระบบ Air Mirroring รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน พร้อมช่อง USB

มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ขนาด 1.9 ลิตร 150 แรงม้า หรือขนาด 3.0 ลิตร Ddi Blue Power 177 แรงม้า ส่งกำลังผ่านชุดเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด หรือ ชุดเกียร์ธรรมดาแบบ 6 สปีด และระบบขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ หรือ 2 ล้อ

CARRO Automall แนะนำ Isuzu MU-X

เดือนกุมภาพันธ์ 2561 เพิ่มรุ่นแต่งพิเศษ Isuzu MU-X The Iconic (อีซูซุ มิว-เอ็กซ์ ดิ ไอคอนนิค) งดงามทุกรายละเอียด มาพร้อมกับไฟหน้า Bi-LED พร้อมไฟ Daylight ในโคมและเส้นนำแสง LED Guiding Light, สปอยเลอร์หลังคาด้านหลัง และล้ออัลลอย 18 นิ้ว Iconic Cross มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ 1.9 และ 3.0 Ddi Blue Power เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด

อ่านเพิ่มเติม >> Isuzu เปิดตัวรุ่นพิเศษ! “Isuzu MU-X The Iconic” จัดเต็มชุดแต่งสปอร์ตเท่รอบคัน

ภายในห้องโดยสารโทนสีดำ ใช้เบาะกึ่งหนังแท้ Lava Black ติดตั้งเครื่องเล่น DVD, Digital TV Tuner, จอทัชสกรีนขนาด 8 นิ้ว มี iConnect พร้อม Built-in Navigator, ตกแต่งภายในด้วยลายไม้ Fine Walnut, ชุดตกแต่ง Piano Black และโครเมียม, พอร์ทสำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้า AC220 โวลต์ และ USB ที่คอนโซลกลาง และกระจกมองหลังแบบปรับลดแสงอัตโนมัติ พร้อมกล้องบันทึกภาพด้านหน้ารถ (DVR)

CARRO Automall แนะนำ Isuzu MU-X

เดือนกุมภาพันธ์ 2562 เปิดตัว MU-X รุ่นพิเศษ Isuzu MU-X The Onyx (อีซูซุ มิว-เอ็กซ์ ดิ ออนิกซ์) ปรับโฉมใหม่ จุดประกายความรู้สึกใหม่ในตัวคุณ (New Sensation Ignited) ด้วยชุดแต่งแบบ Onyx Design Edition มีชุดกันชนหน้า/หลังใหม่ สเกิร์ทใหม่ กระจังหน้าใหม่แบบ Sport 3D โป่งล้อสีดำด้าน ไฟท้าย LED โคมรมดำ ล้ออัลลอยลายใหม่ Flash Black Design ขนาด 18 นิ้ว และ Roof Rail แบบสปอร์ตเฉพาะรุ่น ออกแบบให้เข้ากับตัวรถ ส่วนห้องโดยสารเพิ่มเบาะกึ่งหนังแท้สีดำ และมีไฟ Ambient Light สำหรับช่วยบรรยากาศในขณะขับ

Isuzu MU-X The Onyx มีเฉพาะรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ พร้อมเครื่องยนต์ดีเซล 1.9 ลิตร หรือ 3.0 ลิตร Ddi Blue Power ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ตัวรถได้รับการเพิ่มความปลอดภัยด้วยการติดตั้งระบบ BOS (Brake Override System) ช่วยลดกำลังเครื่องยนต์เพื่อเป็นการช่วยเบรก และ Airbag เพิ่มเป็น 6 ใบ และมีระบบ Infotainment พร้อม Built-in Navigator และ Digital TV Tuner

และสำหรับ Carro ในเดือนกรกฎาคม 2565 เรามี Isuzu MU-X รีวิวรถคุณภาพเยี่ยม มาแนะนำให้คุณผู้อ่านรู้จักกัน 8 คันครับ ได้แก่ …..

ISUZU MU-X 3.0 (DVD Navi) 2017 น้ำตาล

ISUZU MU-X 3.0 (DVD Navi) 2017 น้ำตาล

1. Isuzu MU-X 3.0 DVD Navi ปี 2017 เลขไมล์ 75,686 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 799,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/isuzu-mu-x-2017-E47K0Z.html

ISUZU MU-X 1.9 DVD 2017 เทา

ISUZU MU-X 1.9 DVD 2017 เทา

2. Isuzu MU-X 1.9 DVD ปี 2017 เลขไมล์ 138,819 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 749,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/isuzu-mu-x-2017-E47K31.html

ISUZU MU-X 1.9 DA DVD 2016 เทา

ISUZU MU-X 1.9 DA DVD 2016 เทา

3. Isuzu MU-X 3.0 DA DVD ปี 2016 เลขไมล์ 127,294 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 749,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/isuzu-mu-x-2016-ENMKYN.html

ISUZU MU-X 1.9 (DVD) 2016 ดำ

ISUZU MU-X 1.9 (DVD) 2016 ดำ

4. Isuzu MU-X 1.9 DVD ปี 2016 เลขไมล์ 141,968 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 739,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/isuzu-mu-x-2016-DON052.html

ISUZU MU-X 1.9 (DVD) 2016 เทา

ISUZU MU-X 1.9 (DVD) 2016 เทา

5. Isuzu MU-X 1.9 DVD ปี 2016 เลขไมล์ 110,762 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 739,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/isuzu-mu-x-2016-EW8VK2.html

ISUZU MU-X 1.9 (DVD Navi) 2017 ขาว

ISUZU MU-X 1.9 (DVD Navi) 2017 ขาว

6. Isuzu MU-X 1.9 DVD Navi ปี 2017 เลขไมล์ 81,829 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 819,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/isuzu-mu-x-2017-GY7NPZ.html

ISUZU MU-X 1.9 DA DVD 2017 เทา

ISUZU MU-X 1.9 DA DVD 2017 เทา

7. Isuzu MU-X 1.9 DA DVD ปี 2017 เลขไมล์ 146,086 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 749,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/isuzu-mu-x-2017-E17MMV.html

ISUZU MU-X 3.0 DVD NAVI 2016 เทา

ISUZU MU-X 3.0 DVD NAVI 2016 เทา

8. Isuzu MU-X 1.9 DVD ปี 2016 เลขไมล์ 133,409 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 729,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/isuzu-mu-x-2016-EKJ8YQ.html

Carro Automall ตลาดรถ

ถ้าใครที่กำลังมองหา Isuzu MU-X มือสอง (อีซูซุ มิวเอ็กซ์ มือสอง) แล้วรู้สึกสนใจอยากเป็นเจ้าของขึ้นมา Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

หมายเหตุ: ข้อมูลรถแนะนำจาก Carro เป็นข้อมูลรถยนต์ที่มีจำหน่ายในเดือนกรกฎาคม 2565 / เลขกิโลเมตร ณ วันตรวจสภาพรถ / ราคานี้ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม

Isuzu (อีซูซุ) เดินหน้าลุยตลาดรถช่วงปลายปี โชว์ศักยภาพ “ใหม่! พลานุภาพ…ไร้ขีดจำกัด” เผยโฉมรถรุ่นใหม่ครบทุกรุ่น เข้มขึ้น ดุขึ้น นำโดย “ใหม่! Isuzu D-Max (อีซูซุ ดีแมคซ์)” ตอกย้ำตัวตนใหม่ภายใต้แนวคิด “MY NEW ID..MY NEW ISUZU D-MAX” ขับเคลื่อนความสมบูรณ์แบบในทุกองศา มาพร้อมเอกลักษณ์ สีเทาโอเพคใหม่! (Islay Gray Opaque) เทรนด์สีใหม่ของวงการยานยนต์โลก และ “ใหม่! Isuzu X-Series (อีซูซุเอ็กซ์-ซีรี่ส์)” แรงทะลุไมล์…เร้าใจสไตล์เอ็กซ์ ปรับเพิ่มลุคสปอร์ตยิ่งขึ้น

Isuzu เปิดตัว Isuzu D-Max 2022 ใหม่! พร้อม Isuzu MU-X 2022 ใหม่!

พร้อมเปิดตัวรถอเนกประสงค์สุดหรู “(All-New Isuzu MU-X) ออลนิว อีซูซุมิว-เอ็กซ์” ที่เติมเต็มฟังก์ชั่นความปลอดภัยใหม่ในระบบ ADAS โดย “ใหม่! อีซูซุดีแมคซ์” และ “ใหม่! อีซูซุเอ็กซ์-ซีรี่ส์” เปิดตัวตนใหม่ครั้งแรกตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคมศกนี้ และ “ออลนิว อีซูซุมิว-เอ็กซ์” ตั้งแต่วันที่ 18 ตุลาคมศกนี้ เป็นต้นไป ณ โชว์รูมอีซูซุทั่วประเทศ

Isuzu เปิดตัว Isuzu D-Max 2022 ใหม่! พร้อม Isuzu MU-X 2022 ใหม่!

สำหรับ อีซูซุ ดีแมคซ์ ยอดยนตรกรรมปิกอัพระดับ Top Class ที่ประสบความสำเร็จทั้งในไทยและต่างประเทศ และยังคงกระแส “ดีแมคซ์ฟีเวอร์” ตั้งแต่การเปิดตัวครั้งแรกในโลกที่เมืองไทยเมื่อปลายปี 2562 หรือแม้แต่ปัจจุบันที่ตลาดรถยนต์หดตัวลงจากสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 ส่งผลให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อรถยากขึ้น อีซูซุดีแมคซ์ก็ยังคงเป็นที่ต้องการของผู้ใช้รถในเมืองไทย เนื่องจากความโดดเด่นในเรื่องของสมรรถนะ ความคุ้มค่าเงินสูงสุด และภาพลักษณ์ใหม่ซึ่งดูทันสมัย

Isuzu เปิดตัว Isuzu D-Max 2022 ใหม่! พร้อม Isuzu MU-X 2022 ใหม่!

สำหรับรถปิกอัพรุ่นล่าสุด “ใหม่! อีซูซุดีแมคซ์ พลานุภาพ…ไร้ขีดจำกัด” สร้างสรรค์ภายใต้แนวคิด “MY NEW ID..MY NEW ISUZU D-MAX” ตัวตนใหม่ที่เป็นคุณ โดยมาพร้อมสีเทาโอเพคใหม่! (Islay Gray Opaque) เทรนด์สีใหม่ของวงการยานยนต์โลก ที่มีคุณสมบัติพิเศษให้มุมมองสีหลากหลายมิติ ไล่ระดับจากเทาประกายมุกจรดเทาเข้ม ซึ่งสีพิเศษนี้มีให้เลือกใน “ใหม่! อีซูซุดีแมคซ์” ทุกรุ่น

Isuzu เปิดตัว Isuzu D-Max 2022 ใหม่! พร้อม Isuzu MU-X 2022 ใหม่!

นอกจากนี้ยังมี “ใหม่! อีซูซุเอ็กซ์-ซีรี่ส์” ปิกอัพสไตล์สปอร์ตเท่ที่มาพร้อมชุดแต่งจัดเต็ม ซึ่งครั้งนี้ได้เพิ่มความสปอร์ตให้โดดเด่นยิ่งขึ้นอีก ทั้งในรุ่น Speed ให้อารมณ์เรซซิ่งสุดร้อนแรง และรุ่น Hi-Lander สปอร์ตพรีเมี่ยม แฝงเรซซิ่งสปิริตภายใต้ความเรียบหรู สะดวกสบาย

และ “ออลนิว อีซูซุมิว-เอ็กซ์” ที่เปิดตัวเมื่อปลายปีที่แล้ว โดยมาพร้อมระบบความปลอดภัยที่เหนือชั้น ตลอดจนระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS (Advanced Driver Assistance Systems) โดยเพิ่มเติมฟังก์ชั่นความปลอดภัย ใหม่! Turn Assist with AEB ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติเมื่อมีรถสวนทางขณะเลี้ยวขวา อีกขั้นของความมั่นใจในทุกการเดินทาง โดยรถแต่ละรุ่นจะเปิดตัวต่อเนื่องตลอดเดือนตุลาคม”

นอกจากนี้ ยังมีจุดปรับเปลี่ยนพิเศษในแต่ละรุ่น ได้แก่

Isuzu เปิดตัว Isuzu D-Max 2022 ใหม่! พร้อม Isuzu MU-X 2022 ใหม่!

  • รถธงรุ่นล่าสุด ใหม่! อีซูซุวี-ครอส 4×4 (NEW! ISUZU V-CROSS 4×4) พรีเมี่ยมสปอร์ตออฟโรดที่มาพร้อมความแรงจัด ขับสนุกเร้าใจของเครื่องยนต์ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ เติมเต็มความเข้มดุสไตล์สปอร์ตทรงพลังในทุกมิติของรถด้วย ใหม่! กระจังหน้าแบบ Double Dimensions ดีไซน์แบบทูโทน สีเทาดำ และ Black Chrome พร้อมไฟท้าย ดีไซน์โทนสีเข้ม ใหม่! Front Bumper Guard สีทูโทน พร้อมชุดแต่งสีเทาดำรอบคันที่กระจกมองข้าง ราวหลังคา มือจับประตู บันไดข้าง Fender Lip, Robust Extender เพิ่มความดุดัน ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ดีไซน์ใหม่! แบบ Robust Radius สี Matte Black

Isuzu เปิดตัว Isuzu D-Max 2022 ใหม่! พร้อม Isuzu MU-X 2022 ใหม่!

  • ห้องโดยสารอารมณ์ใหม่ เท่ สปอร์ต และหรูหรา ด้วยดีไซน์ High-Class & Sporty เน้นสีแบบทูโทน ดำ-น้ำตาล คอนโซลหน้าสีดำ เบาะคู่หน้าดีไซน์ใหม่ เดินด้ายสีน้ำตาลอย่างพิถีพิถัน และพวงมาลัยสัมผัสใหม่ สีทูโทน พร้อมออกแบบให้มิติห้องโดยสารกว้างขวาง โอ่อ่า แบบ Sharp Horizontal Layers คมเข้ม เล่นระดับกับแผงข้างประตู ที่เติมเต็มอารมณ์ด้วยวัสดุตกแต่งพรีเมี่ยม สี Brown Cafe และ Satin Silver สปอร์ตหรูเหนือระดับไปอีกขั้น และจัดวางสิ่งอำนวยสะดวกสบายตามหลัก Usability Design เน้นการใช้งานที่หลากหลาย พร้อมระบบความบันเทิงสมบูรณ์แบบของ Isuzu Ultimate Entertainment ในราคา …….. บาท

Isuzu เปิดตัว Isuzu D-Max 2022 ใหม่! พร้อม Isuzu MU-X 2022 ใหม่!

  • ใหม่! อีซูซุดีแมคซ์ (New! Isuzu D-Max) รุ่น Cab 4, Hi-Lander และ Spacecab หรูหรา สะดวกสบาย ตอบรับทุกเป้าหมาย ทุกการใช้งานในทุกด้านของชีวิต เท่ เต็มอารมณ์สปอร์ตด้วย ใหม่! กระจังหน้าแบบ Double Dimensions ดีไซน์แบบทูโทน สี Chrome และ Dark Gray Metallic พร้อมไฟท้ายดีไซน์โทนสีเข้ม และ ใหม่! ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว สีทูโทนดีไซน์แบบ Robust Radius ในรุ่น Hi-Lander

Isuzu เปิดตัว Isuzu D-Max 2022 ใหม่! พร้อม Isuzu MU-X 2022 ใหม่!

  • ยกระดับการออกแบบภายใน ใช้วัสดุพรีเมี่ยม เติมเต็มความหรูด้วย Piano Black และ Satin Chrome พร้อมพื้นที่ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง โอ่อ่า แบบ Sharp Horizontal Layers คมเข้ม เล่นระดับกับแผงข้างประตู เบาะนั่งดีไซน์ใหม่ โอบกระชับ พร้อมเทคโนโลยี Coolmax ลดการสะสมความร้อน เบาะนั่งคู่หน้าเทคโนโลยี AVEC (Anti Vibration Elastic Comfort) ซับแรงสั่นสะเทือน ลดความเมื่อยล้า เบาะปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางในตำแหน่งที่นั่งคนขับ และ ใหม่! เกียร์อัตโนมัติ ใน Hi-Lander และ Cab 4 ในรุ่น LDA
  • รุ่น Spark, Spacecab และ Cab 4 ราคา 515,000 – 845,000 บาท ส่วนรุ่น Hi-Lander ราคา 728,000 – 1,064,000 บาท

Isuzu เปิดตัว Isuzu D-Max 2022 ใหม่! พร้อม Isuzu MU-X 2022 ใหม่!

สำหรับ ใหม่! อีซูซุเอ็กซ์-ซีรี่ส์ (New! Isuzu X-Series) ยนตรกรรมดีไซน์เท่ แรงทะลุไมล์…เร้าใจสไตล์เอ็กซ์ (INFINITE X-LIFE) ขีดสุดความเร้าใจสไตล์สปอร์ต ที่มาพร้อมชุดแต่งจัดเต็ม แรงจัดด้วยขุมพลังเครื่องยนต์อีซูซุ 1.9 Ddi Blue Power Gen 2 เติมเต็มพลังเรซซิ่งแบบไม่ต้องมีลิมิต! โดยมาพร้อม ใหม่! กระจังหน้าแบบ Double Dimensions ดีไซน์แบบทูโทนสีดำ Glossy Black ผสานสีแดงเข้ม Garnet Red พร้อมไฟท้ายโทนสีเข้ม พร้อมสัญลักษณ์ Isuzu สีแดง ในราคา 728,000 – 977,000 บาท

  • รุ่น Speed สติกเกอร์คาดหน้า-หลัง สีเทาพร้อมขอบแดงใหม่ Garnet Red คมเข้มสะดุดตา พร้อมสัญลักษณ์ X ที่ด้านหน้า

Isuzu เปิดตัว Isuzu D-Max 2022 ใหม่! พร้อม Isuzu MU-X 2022 ใหม่!

  • รุ่น Hi-Lander สติกเกอร์คาดหน้า-หลัง พร้อมสัญลักษณ์ X ที่ด้านหน้าตกแต่งขอบด้วยสีเงิน Silver-Gray ในรุ่นสีขาว / ตกแต่งขอบด้วยสีทอง Light Gold-Silver ในรุ่นสีดำ ใหม่! ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว สีดำ Glossy Black ดีไซน์เท่แบบ Robust Radius เสริมความสปอร์ตพรีเมี่ยม โดดเด่นด้วยสัญลักษณ์ Isuzu สีแดง เข้มเต็มอารมณ์

และ “ออลนิว อีซูซุมิว-เอ็กซ์” (All-New Isuzu MU-X) …ความสำเร็จใหม่ที่คุณกำหนด ยอดยนตรกรรมอเนกประสงค์ระดับหรู เพิ่มความมั่นใจด้วยเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยที่เหนือกว่า ล่าสุดเพิ่ม ใหม่! Turn Assist with AEB ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติเมื่อมีรถสวนทางขณะเลี้ยวขวา ในระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS (Advanced Driver Assistance Systems) เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยล้ำหน้าล่าสุด เพิ่มความมั่นใจในทุกการเดินทาง ในราคา 1,119,000 – 1,599,000 บาท

นอกจากนี้ ในรถอีซูซุทุกรุ่นยังได้เพิ่มฟังก์ชั่นใหม่ “เตือนการรับบริการ” เพื่อความสะดวกสบายของลูกค้าในการเข้ารับบริการหลังการขายจากอีซูซุ

Isuzu เปิดตัว Isuzu D-Max 2022 ใหม่! พร้อม Isuzu MU-X 2022 ใหม่!

พบกับ “ใหม่! อีซูซุดีแมคซ์ พลานุภาพ…ไร้ขีดจำกัด” “ใหม่! อีซูซุเอ็กซ์-ซีรี่ส์ แรงทะลุไมล์…เร้าใจสไตล์เอ็กซ์” พร้อมเผยโฉม ณ โชว์รูมอีซูซุทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคม ศกนี้ เป็นต้นไป และ “ออลนิว อีซูซุมิว-เอ็กซ์ ความสำเร็จใหม่ที่คุณกำหนด” เริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 18 ตุลาคม ศกนี้ เป็นต้นไป

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

สำหรับใครที่อยากซื้อรถใหม่ แต่ถ้าหากว่างบไม่พอ มาขายรถคันเดิมกับ CARRO Express สิ! Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

และอีกหนึ่งบริการใหม่! CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น!

รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check และยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ให้คุณเลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา พร้อมรับประกันคุณภาพรถนานถึง 2 ปี หรือ 20,000 กิโลเมตร! อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! เรามีรถให้คุณเลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

Compare-MU-X-Fortuner-Terra-Pajero-Sport-Everest

ถ้าพูดถึงรถ SUV ที่ถือว่าเป็นตลาดใหญ่ในกลุ่มรถบ้านเราเวลานี้ ด้วยการใช้งานที่สารพัดประโยชน์ และลุยน้ำท่วมได้ บวกกับตัวรถที่พัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในตลาดรถยนต์ไทย ก็ยังมีรถประเภท SUV อีกแบบหนึ่ง ที่ในไทยมักเรียกกันว่ารถ “PPV” (Pick-Up Passenger Vehicle = รถอเนกประสงค์ที่มีพื้นฐานมาจากรถกระบะ) ซึ่งก็มียอดขายที่สูงมากด้วยเช่นกัน โดยมากแล้วจะมี 7 ที่นั่ง ในราคาค่าตัวอยู่ที่ 1 ล้านบาท ไปจนถึงเกือบๆ 2 ล้านบาท

ซึ่งผู้ผลิตรายแรกที่ผลิตรถในรูปแบบ PPV ขึ้นมา นั่นคือ ที่ขับเคี่ยวแข่งขันกันในตลาดรถยนต์อย่างดุเดือดกันมานานถึง 20 ปีได้

CARRO Thailand จึงขอนำรถ PPV ยอดฮิตในหมู่คนไทย ที่เพิ่งเปิดตัวสดใหม่ และมีขายอยู่แล้วในตลาดด้วยกัน 5 แบรนด์ 5 รุ่น อย่าง All-New Isuzu MU-X (ออลนิว อีซูซุมิว-เอ็กซ์), Toyota Fortuner (โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์), Mitsubishi Pajero Sport (มิตซูบิชิ ปาเจโร่ สปอร์ต), Nissan Terra (นิสสัน เทอร์ร่า) และ Ford Everest (ฟอร์ด เอเวอเรสต์) มาเปรียบเทียบกันให้เห็น ว่าแต่ละรุ่น มีข้อเสียข้อเสีย น่าใช้หรือไม่อย่างไร!

หากใครสนใจรุ่นไหนอยู่ ลองคำนวณงบประมาณที่มี แล้วเลือกดูว่า จะผ่อนกันแบบไหนได้เลย 

ถ้าคุณอยากขายรถด่วน เพื่อไปซื้อรถคันใหม่ หรือรับเงินก้อนไปใช้สามารถขายรถคันเก่า หรือตีราคารถกับทาง CARRO ได้ ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ CARRO Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothai หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

Isuzu-MU-X-Motor-Expo-2020

All-New Isuzu MU-X 2020

ข้อดี : พัฒนาตัวรถใหม่หมด (แต่บางคนก็บอกว่า ยังสลัดคราบของ D-Max ออกไม่หมดก็ตาม) แต่ก็ดูหรูหราขึ้น ช่วงล่างนุ่ม เกาะถนนได้มากขึ้น รุ่น 1.9 ลิตร เหมาะสำหรับคนชอบความประหยัด หรือใช้งานในเมือง ส่วนรุ่น 3.0 ลิตร เหมาะสำหรับใช้งานทางไกล สายซิ่ง ให้ความฉับไวในการออกตัวและเร่งแซง ขับขี่สบายมากขึ้น และยังเป็นรถมือสอง ที่ซื้อง่ายขายคล่องอีกด้วย

ข้อด้อย : รุ่น 1.9 ลิตร ตัวเครื่องยนต์ต้องแบกน้ำหนักตัวรถมาก การออกตัวให้อัตราเร่งช้าไปบ้าง แต่วิ่งสัก 80 กม./ชม. ขึ้นไป ก็ถือว่าดีขึ้นมาก และพวงมาลัยอาจคืนตัวช้าไปบ้าง

รายละเอียดตัวรถ : เป็นรถที่ออกแบบภายใต้แนวคิด Emotional & Solid ผสานความหนักแน่นและพลิ้วไหวเข้าไว้ด้วยกันตลอดทั้งคัน อาทิ กระจังหน้าแบบ World Cross Flow, ไฟหน้า Bi-LED Projector ดีไซน์แบบ Arrow Signature สอดรับกับเส้นสายด้านข้างอันเป็นเอกลักษณ์ ทอดยาวสู่ไฟท้าย LED ดีไซน์แบบ Winglet Signature

โครงสร้างแพลทฟอร์มใหม่ ช่วงล่างใหม่ ออกแบบตามแนวคิด ISUZU Symmetric Mobility ให้โครงสร้างตัวถัง แชสซีส์ การวางตำแหน่งเครื่องยนต์ และช่วงล่างทำงานร่วมกันได้ลงตัว ช่วงล่างหน้าแบบอิสระปีกนก 2 ชั้น Double Wishbone ออกแบบจุดยึดปีกนกด้านบนใหม่ พร้อมคอยล์สปริง โช้คอัพแก๊สและเหล็กกันโคลงขนาดใหญ่ ช่วงล่างด้านหลังแบบ 5-Link Suspension ออกแบบจุดยึดคานใหม่และเหล็กกันโคลงให้ยาวขึ้น พร้อมคอยล์สปริงและโช้คอัพแก๊ส

ภายในห้องโดยสาร แนวคิดการออกแบบ Fine, Rich & Impressive Craftsmanship ด้วยวิธีการออกแบบ Integrated Cockpit ให้คอนโซลหน้าเชื่อมต่อเป็นหนึ่งเดียวกับคอนโซลกลาง จัดวางเรียบหรู ด้วยเบาะนั่งสามแถว สี Saddle Brown ตัดเย็บด้วยวัสดุพิเศษ เดินด้ายแบบเครื่องหนังชั้นหรู พร้อมเทคโนโลยี COOLMAX ช่วยลดการสะสมความร้อน ออกแบบให้นั่งสบายทั้ง 7 ที่นั่ง และเบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า

ระบบความบันเทิง ISUZU Ultimate Entertainment หน้าจอ Infotainment Display ขนาดใหญ่ 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay แบบไร้สาย และ Android Auto พร้อมลำโพง 8 จุด ให้มิติเสียงรอบทิศทาง

ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone แยกอิสระซ้าย-ขวา พร้อมฟิลเตอร์กรองฝุ่น PM 2.5 Charging Station รองรับการใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้าหลากหลาย ทั้ง USB Fast Charger ช่องต่อ AC Power Socket 220V และช่องต่อ DC 12V

และกุญแจ ISUZU Genius Entry สตาร์ทเครื่องยนต์ด้วย Remote Engine Start ใช้เปิด-ปิดประตูท้ายไฟฟ้าได้ด้วย

มีให้เลือกถึง 6 สี ได้แก่ น้ำตาลมาราเกซ (Marrakesh Brown) ขาวมุกโดโลไมท์ (Dolomite Pearl White) แดงเอทนา (Etna Red) ดำบาวาเรียน ไมก้า (Bavarian Black Mica) เงินไอซ์เบิร์ก (Iceberg Silver) และเงินโบฮีเมียน เมทัลลิค (Bohemian Silver Metallic)

All-New-Isuzu-MU-X-2020

อุปกรณ์มาตรฐานเด่นๆ :

  • ไฟหน้า Bi-LED Projector ดีไซน์แบบ Arrow Signature
  • ไฟท้าย LED ดีไซน์แบบ Winglet Signature
  • กล้องหน้าคู่ 3D Imaging Stereo Camera
  • ระบบเปิด-ปิด ไฟหน้าอัตโนมัติ
  • ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ
  • กระจกบังลมหน้าแบบ IR Cut
  • ล้ออัลลอยขนาดใหญ่ Dynamic Design
  • กุญแจ ISUZU Genius Entry
  • ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone แยกอิสระซ้าย-ขวา พร้อมฟิลเตอร์กรองฝุ่น PM 2.5
  • Charging Station รองรับการใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้าหลากหลาย
  • หน้าจอ Infotainment Display ขนาดใหญ่ 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay แบบไร้สาย และ Android Auto
  • เบรกมือไฟฟ้า
  • ระบบ Auto Brake Hold ระบบช่วยหยุดอยู่กับที่โดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้างไว้
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ
  • ระบบเปิด-ปิดประตูท้ายด้วยไฟฟ้า Power Tailgate พร้อม Jam Protection
  • ACC (Full Speed Range Adaptive Cruise Control) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมฟังก์ชัน Stop and Go
  • FCW (Forward Collision Warning) ระบบแจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้า
  • AEB (Autonomous Emergency Braking) ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ
  • LDW (Lane Departure Warning) ระบบแจ้งเตือนออกนอกเลน
  • AHB (Automatic High Beam) ระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมติ
  • PMM (Pedal Misapplication Mitigation) ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์เมื่อเหยียบคันเร่งผิดพลาด
  • MSL (Manual Speed Limiter) ระบบตั้งค่าจำกัดความเร็วสูงสุดด้วยตัวเอง
  • BSM (Blind Spot Monitoring) ระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตา
  • RCTA (Rear Cross Traffic Alert) ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถยนต์
  • Parking Aid System ระบบเซ็นเซอร์ช่วยจอดรถยนต์
  • MCB (Multi-Collision Brake) ระบบเบรกอัตโนมัติหลังการเกิดอุบัติเหตุ ช่วยลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน

All-New-Isuzu-MU-X-2020

เครื่องยนต์ : ดีเซลขนาด 1.9 ลิตร รหัส RZ4E-TC แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว Commonrail Direct Injection VGS Turbo ให้แรงม้าสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800 – 2,600 รอบ/นาที ประหยัดน้ำมัน 14.9 กม./ลิตร (ตาม Eco Sticker)

และดีเซลขนาด 3.0 ลิตร รหัส 4JJ3-TCX แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว Commonrail Direct Injection VGS Turbo ให้แรงม้าสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600 – 2,600 รอบ/นาที ประหยัดน้ำมัน 13.3 กม./ลิตร (ตาม Eco Sticker)

ทั้ง 2 เครื่องยนต์ สามารถใช้กับน้ำมันดีเซล B20 ได้ ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และอัตโนมัติแบบ 6 สปีด พร้อม REV Tronic รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.6 เมตร น้ำหนักรถ 1,950 – 2,165 กิโลกรัม

มิติตัวรถ : ยาว 4,850 มม. กว้าง 1,870 มม. สูง 1,815 มม. (รุ่น Active) 1,825 มม. (รุ่น Luxury) 1,875 มม. (รุ่น Elegant / Ultimate) ระยะฐานล้อ 2,855 มม. ระยะต่ำสุดจากพื้น 235 มม.

ราคาจำหน่าย : (Update ล่าสุด เดือนธันวาคม 2563)

  • 1.9 Ddi Active A/T ราคา 1,121,000 บาท
  • 1.9 Ddi Luxury M/T ราคา 1,266,000 บาท
  • 1.9 Ddi Luxury A/T ราคา 1,304,000 บาท
  • 1.9 Ddi Elegant A/T ราคา 1,349,000 บาท
  • 1.9 Ddi Ultimate A/T ราคา 1,434,000 บาท
  • 3.0 Ddi Ultimate A/T ราคา 1,479,000 บาท
  • 3.0 Ddi 4X4 Ultimate A/T ราคา 1,579,000 บาท

Toyota-Fortuner-Legender

Toyota Fortuner 2020

ข้อดี : โฉมนี้ถือว่าปรับปรุงหลายอย่าง นอกจากหน้าและออพชั่นใหม่ๆ แล้ว ดูสวยและดุดันขึ้น เหมาะสำหรับกลุ่มลูกค้าที่มีครอบครัว มองหารถที่ใหญ่ขึ้น ส่วนรุ่น เหมาะสำหรับกลุ่มลูกค้านักธุรกิจรุ่นใหม่ เครื่องยนต์ 2.8 แรงกว่ารถในระดับเดียวกัน โดดเด่นด้วยล้อแม็กขนาด 20 นิ้ว ตัวรถยังติดตั้ง Balance Shaft เพื่อลดเสียงและการสั่นสะเทือน พร้อมโหมดการขับแบบ Sport ปรับการตอบสนองของคันเร่งและพวงมาลัย ตัวเกียร์ตอบสนองได้ดี ไม่มีช่วงวูบหรือย้วยขณะเปลี่ยนเกียร์ขึ้นสูง เพิ่มความมั่นใจเมื่อใช้ความเร็วสูง

ระบบกันสะเทือนให้ความรู้สึกนุ่มนวล และหนักแน่นขึ้น ส่วนห้องโดยสารเก็บเสียง และการดูดซับแรงสั่นสะเทือนได้ดี แทบไม่รู้สึกถึงการกระแทก พวงมาลัยนิ่งแน่น ไม่สะท้านมือ

ในโหมดออฟโรด ปรับรอบเดินเบาจาก 850 เหลือ 680 รอบต่อนาที เพื่อให้ควบคุมคันเร่งได้ง่ายขึ้น และสามารถบรรทุกของได้เยอะ อีกทั้งเวลาเป็นรถมือสอง ก็ซื้อง่ายขายคล่อง

ข้อด้อย : อาจจะเป็นในเรื่องของราคา ที่แพงกว่ารถในระดับเดียวกันครับ

รายละเอียดตัวรถ : Toyota Fortuner นับตั้งแต่การเปิดตัวเมื่อ 15 ปีก่อน ก็จัดเป็นรถอเนกประสงค์ ที่ได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้า และครองอันดับ 1 ในตลาดรถอเนกประสงค์ ประเภท PPV มาอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นที่มาของการสื่อสารทางการตลาด ภายใต้สโลแกน “Wisdom of a Leader” หรือ “สัญลักษณ์แห่งความสำเร็จ”

โดยรุ่นมาตรฐานนี้ได้ปรับปรุงเครื่องยนต์ 2.4 GD Super Power ให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้นกว่าเดิม และตอบสนองทุกการขับขี่ด้วยระบบบังคับเลี้ยวแบบ VFC (Variable Flow Control) ทำให้น้ำหนักพวงมาลัยแปรผันตามความเร็ว ควบคุมรถได้แม่นยำและมั่นใจมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับระบบ Cruise Control และสัญญาณกะระยะ 6 ตำแหน่ง พร้อมกับระบบ Apple Carplay ที่จะเชื่อมต่อคุณและความบันเทิงได้อย่างอิสระ

ส่วนรุ่น Legender มาพร้อมกับดีไซน์หรูหรา โฉบเฉี่ยว ด้วยกระจังหน้าและกันชนหลังดีไซน์ใหม่ และเครื่องยนต์ 2.8 GD Super Power ใหม่ เพิ่มสมรรถนะการขับขี่แรงขึ้นกว่าเดิม 15% ด้วยกำลังสูงสุด 204 แรงม้า และฟังก์ชัน Sport Mode

เพิ่มกล้องมองรอบคัน แท่นชาร์จไฟแบบไร้สาย และ ระบบประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า พร้อม Kick Sensor และยังเป็นครั้งแรกในรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ที่ติดตั้งระบบ Toyota Safety Sense อีกด้วย

มีให้เลือกถึง 6 สี ได้แก่ สีขาวมุก White Pearl CS, สีแดง Emotional Red, สีเงิน Silver Metallic, สีน้ำเงิน Dark Blue Mica, สีเทา Dark Grey Metallic และสีดำ Attitude Black Mica

New-Toyota-Fortuner-Legender-2020

อุปกรณ์มาตรฐานเด่นๆ :

  • ไฟหน้าแบบเลนส์ LED Dual Projector พร้อมไฟเลี้ยวหน้า-หลัง LED แบบ Sequential
  • ระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ พร้อมระบบ Follow-me-home
  • ไฟท้าย LED แบบ Light Guiding
  • กระจกมองข้าง ระบบ Welcome Light
  • ประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมระบบป้องกันการหนีบ
  • พวงมาลัยปรับได้ทั้ง สูง-ต่ำ และเข้า-ออก (Tilt & Telescopic)
  • เบาะหุ้มหนังแบบ Soft Touch เดินด้ายสีแดง หรือเทา พร้อมลายไม้แบบ Galaxy Black และแถบสีเงิน
  • สวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียง โทรศัพท์ และ MID ที่พวงมาลัย
  • อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger)
  • หัวเกียร์หุ้มหนัง พร้อมแถบสีเงิน ส่วนฐานเกียร์ลายไม้แบบ Galaxy Black พร้อมแถบสีเงิน
  • มาตรวัดเรืองแสง Optitron
  • ฟังก์ชั่นแสดงสถานะการเลี้บวของล้อหน้า (Tire Turning Angle)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control
  • เครื่องเสียงจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับ Bluetooth/USB
  • ชุดเครื่องเสียง Premium Audio พาวเวอร์แอมป์ และลำโพง JBL
  • กล้องมองรอบคัน (PVM) พร้อมมุมมองแบบ 3D View
  • ระบบป้องกันล้อล็อก ABS, ระบบกระจายแรงเบรก EBD และระบบเสริมแรงเบรก BA
  • ระบบควบคุมการทรงตัว VSC
  • ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC
  • ระบบควบคุมการส่ายของส่วนพ่วงท้าย TSC
  • ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC
  • ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน DAC
  • ระบบควบคุมเฟืองท้าย (Auto Limited Slip Differential)
  • ระบบบังคับเลี้ยวแบบ VFC (Variable Flow Control) ควบคุมพวงมาลัยแปรผันตามระดับความเร็ว
  • ระบบถุงลมเสริมความปลอดภัย SRS ด้านผู้ขับ ผู้โดยสาร และหัวเข่าผู้ขับ
  • ระบบถุงลมเสริมความปลอดภัย SRS ด้านข้าง และม่านนิรภัย
  • ระบบความปลอดภัยก่อนการชน PCS
  • ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน พร้อมเบรกหน่วงกลับอัตโนมัติ LDA
  • ระบบ Stop and Start พร้อม Evaporator เก็บความเย็น สำหรับระบบปรับอากาศ

เครื่องยนต์ : ดีเซลขนาด 2.4 ลิตร รหัส 2KD-FTV (High) แบบ 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว VN Turbo และ Intercooler ให้แรงม้าสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600 – 2,000 รอบ/นาที

และดีเซลขนาด 2.8 ลิตร รหัส 1KD-FTV (High) แบบ 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว VN Turbo และ Intercooler ให้แรงม้าสูงสุด 204 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600 – 2,800 รอบ/นาที

สามารถใช้กับน้ำมันดีเซล B20 ได้ ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีด พร้อม Sequential Shift และ Paddle Shift รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.8 เมตร

มิติตัวรถ : ยาว 4,795 มม. กว้าง 1,855 มม. สูง 1,835 มม. ระยะฐานล้อ 2,750 มม. ระยะต่ำสุดจากพื้น 193 มม.

ราคาจำหน่าย : (Update ล่าสุด เดือนธันวาคม 2563)

  • 2.4 G 2WD ราคา 1,349,000 บาท
  • 2.4 V 2WD ราคา 1,454,000 บาท
  • 2.4 V 4WD ราคา 1,524,000 บาท
  • 2.4 Legender 2WD ราคา 1,557,000 บาท ราคาอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ 7,000 บาท ราคารวม 1,564,000 บาท
  • 2.4 Legender 4WD ราคา 1,627,000 บาท ราคาอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ 7,000 บาท ราคารวม 1,634,000 บาท
  • 2.8 Legender 2WD ราคา 1,762,000 บาท ราคาอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ 7,000 บาท ราคารวม 1,769,000 บาท
  • 2.8 Legender 4WD ราคา 1,832,000 บาท ราคาอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ 7,000 บาท ราคารวม 1,839,000 บาท

*สำหรับรุ่นธรรมดา สีพิเศษ White Pearl CS และ Emotional Red เพิ่ม 12,000 บาท

**สำหรับรุ่น Legender สีพิเศษ White Pearl CS และ Emotional Red เพิ่ม 20,000 บาท

Mitsubishi-Pajero-Sport-Elite-Edition

Mitsubishi Pajero Sport 2020

ข้อดี : Mitsubishi จัดเต็มด้วยออพชั่นที่มีมาให้กับ Pajero Sport กับจุดเด่นที่ช่วงล่าง ถ้าใช้งานในเมืองเป็นหลัก ก็เลือกรุ่น 2WD ช่วยประหยัดค่าบำรุงรักษาได้มาก น้ำหนักรถเบากว่า ประหยัดน้ำมันกว่า แต่ถ้าชอบวิถีชีวิตลุยๆ ชอบการเดินทาง ต้องขึ้นเขา ลงห้วย กางเต๊นท์ หรือฝ่าสายฝนบ่อยๆ ก็เลือกรุ่น 4WD ได้เลย ค่าใช้จ่ายใในการดูแลรักษา ก็ไม่ต่างจากรถคู่แข่งนัก

ข้อด้อย : การออกตัวอาจอืดหน่อย พวงมาลัยหนักนิดๆ ส่วนช่วงล่างจะโคลงหน่อย เพราะพื้นฐานมาจากกระบะ Triton แต่ก็ถือว่าเกาะถนนพอตัว ส่วนเรื่องเบาะนั่งแถวที่ 3 ค่อนข้างเล็ก ก็ถือเป็นเรื่องที่แทบจะเป็นกันทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ

รายละเอียดตัวรถ : ยังคงเป็นรถ PPV รุ่นขายดีของ Mitsubishi ภายใต้แนวคิด “ความสำเร็จที่เป็นคุณ” ซึ่งเวลานี้มีให้เลือกทั้งรุ่นธรรมดา และรุ่นพิเศษ Elite Edition … ดีไซน์ใหม่ โฉบเฉี่ยว สไตล์สปอร์ต โดดเด่นทุกมุมมอง พร้อมการออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์ด้วย Advanced Dynamic Shield Design สะกดทุกสายตาด้วยไฟหน้าโปรเจคเตอร์ แบบ Bi-LED ปรับระดับลำแสงอัตโนมัติ และไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ Spectrum LED

สะดวกสบายยิ่งขึ้น ด้วยระบบเปิด-ปิดประตูท้ายด้วยไฟฟ้า พร้อมระบบแฮนด์ฟรีและปุ่มปิดฝาท้ายพร้อมล็อกรถ (ทำงานคู่กับระบบกุญแจอัจฉริยะ KOS)

ห้องโดยสารกว้างขวางสะดวกสบาย ตกแต่งสีเงิน และเปียโนแบล็ค พร้อมด้วยฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน เชื่อมต่อความบันเทิงด้วย Apple CarPlay เพียงเชื่อมต่อ iPhone ในรถมิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต สามารถรับสายโทรเข้า-โทรออก และรับ-ส่งข้อความ พร้อมฟังเพลงได้อย่างง่ายดาย

มอบความสมบูรณ์แบบในการขับขี่ เพิ่มความมั่นใจในทุกสภาพถนน ด้วยเทคโนโลยีขับเคลื่อน 4 ล้อ เอกลักษณ์เฉพาะของมิตซูบิชิ ให้คุณสามารถเปลี่ยนโหมดจากระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ (2H) เป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (4H) แบบ Full-Time All Wheel Control เพื่อเพิ่มความปลอดภัยบนถนนลื่น และเมื่อต้องการขับขี่บนเส้นทางแบบ Off-Road คุณยังสามารถเปลี่ยนระบบขับเคลื่อนเป็น 4HLc หรือ 4LLc ได้ตามความต้องการ

มีให้เลือกถึง 5 สี ได้แก่ สีขาวมุก White Diamond, สีเงิน Sterling Silver, สีเทา Graphite Grey, สีดำ Jet Black Mica และสีน้ำตาล Deep Bronze

New-Mitsubishi-Pajero-Sport-2019

อุปกรณ์มาตรฐานเด่นๆ :

  • ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย
  • ระบบเบรกแบบ ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ EBD
  • ประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า พร้อมระบบแฮนด์ฟรี และปุ่มปิดฝาท้ายพร้อมล็อกรถ
  • ถุงลมนิรภัยคู่หน้า พร้อมสวิตช์เปิด-ปิด และไฟแสดงผล สำหรับด้านผู้โดยสาร
  • ถุงลมนิรภัยด้านข้าง, บริเวณหัวเข่าด้านคนขับ และม่านถุงลมนิรภัย
  • ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะ เมื่อเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงและรวดเร็ว
  • ระบบลดกำลังเครื่องยนต์ เพื่อช่วยเบรก
  • ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว
  • ระบบ Brake Auto Hold
  • ระบบเบรกมือควบคุมด้วยไฟฟ้าอัตโนมัติ
  • ระบบเสริมแรงเบรก BA
  • ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว พร้อมระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล
  • ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน
  • ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน
  • ระบบสัญญาณเตือนจุดอับสายตา
  • ระบบเตือนขณะเปลี่ยนเลน
  • ระบบเตือนด้านหลังขณะถอยออกจากช่องจอด
  • สวิตช์ควบคุมฟังก์ชันต่างๆ ที่พวงมาลัย
  • จอแสดงข้อมูลการขับขี่ พร้อมเมนูภาษาไทย แบบ LCD ขนาด 8 นิ้ว
  • กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ
  • ระบบล็อกความเร็วบนพวงมาลัยแบบแปรผันอัตโนมัติ
  • กล้องมองภาพรอบคัน พร้อมเส้นกะระยะ และเส้นแสดงทิศทางการเคลื่อนที่ของรถ
  • ระบบปรับอากาศ แบบปรับอุณหภูมิอัตโนมัติ แบบแยกปรับอุณหภูมิซ้าย-ขวา
  • ระบบกรองอากาศภายในห้องโดยสารนาโนอิ
  • หน้าจอระบบสัมผัส 8 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อผ่านสมาร์ทโฟน SDA พร้อมระบบนำทางในรถยนต์
  • รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto
  • ช่องต่ออุปกรณ์ HDMI
  • ระบบเชื่อมต่อบลูทูธ แบบ A2DP
  • ระบบ Hands-Free และ Voice Command
  • จอภาพแบบ Wide Screen ขนาด 12.1 นิ้ว พร้อมรีโมท เชื่อมต่อ HDMI และ USB สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
  • หูฟังอินฟราเรด 2 ชุด สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
  • รองรับการเชื่อมต่อระบบ M-Connect
  • ระบบสั่งการทำงานผ่านสมาร์ทโฟนในระยะสัญญาณบลูทูธ
  • ระบบไฟสว่างอัตโนมัติเมื่อปลดล็อก ทำงานร่วมกับระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ และระบบไฟนำทางหลังดับเครื่องยนต์

เครื่องยนต์ : ดีเซลขนาด 2.4 ลิตร รหัส 4N15 แบบ 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว MIVEC VG Turbo Intercooler ให้แรงม้าสูงสุด 181 แรงม้า ที่ 3,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 430 นิวตัน-เมตร ที่ 2,500 รอบ/นาที

สามารถใช้กับน้ำมันดีเซล B20 ได้ ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ 8 สปีด พร้อม Sport Mode และระบบ INC (Idle Neutral Control) และ G-Sensor รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.6 เมตร น้ำหนักรถ 1,940 – 2,075 กิโลกรัม

มิติตัวรถ : ยาว 4,885 มม. กว้าง 1,865 มม. สูง 1,835 มม. ระยะฐานล้อ 2,800 มม. ระยะต่ำสุดจากพื้น 218 มม.

ราคาจำหน่าย : (Update ล่าสุด เดือนธันวาคม 2563)

  • 2.4D GT 2WD ราคา 1,299,000 บาท
  • 2.4D GT Plus 2WD ราคา 1,349,000 บาท
  • 2.4D GT-Premium 2WD ราคา 1,469,000 บาท
  • 2.4D GT-Premium 4WD ราคา 1,599,000 บาท
  • 2.4D GT-Premium 2WD Elite Edition ราคา 1,524,000 บาท
  • 2.4D GT-Premium 4WD Elite Edition ราคา 1,629,000 บาท

*หมายเหตุ : สีขาวมุก White Diamond เพิ่ม 15,000 บาท, สีขาวมุก รุ่น Elite Edition เพิ่ม 20,000 บาท

Nissan-Terra-2019

Nissan Terra 2020

ข้อดี : ช่วงล่างนิ่ม ไม่ย้วย ขับสนุก ห้องโดยสารเก็บเสียงได้ดี แถมจุดเด่นอย่างกล้องติดรถรอบคัน 360 องศา ส่วนเครื่องยนต์มีจุดเด่น อย่างระบบน้ำมัน ปั๊มหัวฉีด หัวฉีด ราง ทั้งระบบทำโดย Continental และค่าบำรุงรักษาที่ไม่แพง

ข้อด้อย : การออกตัวอาจจะหน่วงไปบ้าง และเวลาถอยหลัง ช่องมองภาพจะอยู่บริเวณกระจกมองหลังแทน ซึ่งหลายคนอาจไม่ถนัด และอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่มากหน่อย

รายละเอียดตัวรถ : รูปโฉมภายนอกของ Nissan Terra มาพร้อมไฟหน้าและไฟท้ายแบบบูมเมอร์แรง กระจังหน้าแบบ V-Motion ส่วนชุดประตูหน้านั้นเหมือน Navara และด้านท้ายถูกออกแบบใหม่หมด ไฟท้ายเป็นแบบ LED มาพร้อมล้อแม็กขนาด 18 นิ้ว พร้อมยางขนาด 255/60 R18

ห้องโดยสารภายในยกชุดมาจาก Navara แต่ตกแต่งให้หรูหราขึ้น ด้วยโทนสีดำตัดด้วยสีเงิน แบบ Gliding Wing 7 ที่นั่ง กว้างขวาง และเงียบ มีเครื่องเสียงระบบหน้าจอสัมผัส, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 2 โซน, กุญแจ Keyless Entry พร้อมปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง เบาะนั่งแถว 2 มีระบบพับอัตโนมัติแบบแบนราบ ระบบแอร์เพดานแยกส่วนกระจายทั่วห้องโดยสาร พร้อมระบบความบันเทิงด้วยจอมอนิเตอร์ ขนาด 11 นิ้ว สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง เป็นต้น

ระบบพวงมาลัย แร็คแอนด์พิเนียน ควบคุมด้วยไฟฟ้า (EPS) สามารถปรับโหมดพวงมาลัยได้ถึง 3 โหมด คือ โหมด City สำหรับการขับขี่ในเมือง, โหมด Standard สำหรับการขับขี่ทั่วไป และโหมด Sport สำหรับการขับขี่สไตล์สปอร์ต พร้อมเทคโนโลยีขับเคลื่อนอัจฉริยะของนิสสัน Nissan Intelligent Mobility

มีให้เลือก 5 สี ได้แก่ สีน้ำตาล Earth Brown, สีดำ Black Star, สีขาว White Pearl, สีเงิน Brilliant Silver และ สีเทา Twilight Gray

อุปกรณ์มาตรฐานเด่นๆ :

  • ไฟหน้า LED โปรเจคเตอร์ , ไฟหรี่แบบ LED เปิด-ปิดอัตโนมัติ
  • ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน (Daytime Running Light)
  • ไฟตัดหมอกหน้า พร้อมตกแต่งด้วยโครเมียม
  • บันไดข้าง
  • ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารแถว 2 และแถว 3 แบบอัตโนมัติ แยกซ้าย-ขวา และระบบควบคุมความเร็วพัดลมเบาะตอนหลัง
  • เครื่องเสียง พร้อมวิทยุ FM/AM Apple CarPlay / Android Auto พร้อม จอ Touch Screen 8 นิ้ว
  • ระบบนำทาง
  • จอภาพสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
  • พวงมาลัยพาวเวอร์ปรับระดับได้ ชนิดหุ้มหนัง 3 ก้าน พร้อมตกแต่งสีเงิน ปุ่มควบคุมเครื่องเสียง การสั่งงานด้วยเสียง
  • มาตรวัดแสดงข้อมูลการขับขี่ TFT 5 นิ้ว และ Off Road Meter
  • รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth
  • เบาะนั่งแถวที่ 1 ฝั่งผู้ขับขี่ปรับไฟฟ้าได้ 8 ทิศทาง พร้อมที่ดันหลังปรับไฟฟ้า ฝั่งผู้โดยสารปรับได้ 4 ทิศทาง พร้อมหมอนรองศีรษะ
  • เบาะนั่งแถวที่ 2 ชนิด แบบแยก 60:40 ปรับระดับได้ เลื่อนตำแหน่งหน้า-หลัง, ปรับเอนและพับได้จากตำแหน่งคนขับ พร้อมหมอนรองศีรษะสำหรับ 2 ที่นั่ง
  • เบาะนั่งแถวที่ 3 ชนิดแบบแยก 50:50 ปรับระดับได้ ปรับแบนราบกับพื้นห้องโดยสารได้ พร้อมหมอนรองศีรษะสำหรับ 2 ที่นั่ง
  • กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงสะท้อนพร้อมกล้องส่องภาพจากภายนอก (Smart rear view mirror)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control
  • ระบบ Push Start
  • ระบบเบรก ABS พร้อม EBD และ BA
  • ถุงลม 6 จุด คู่หน้า / ด้านข้าง / และม่านถุงลม
  • ระบบลิมิเต็ดสลิป B-LSD
  • ระบบควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ Vehicle Dynamic Control (VDC)
  • ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน Hill Descent Control (HDC)
  • ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน Hill Start Assist (HSA)
  • ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกทาง Lane Departure Warning (LDW)
  • ระบบเตือนจุดอับสายตา Blind Spot Warning (BSW)
  • กระจกบังลมหน้าแบบป้องกันเสียงรบกวน (Acoustic Glass) แบบอัดซ้อนนิรภัย (Laminated Glass)
  • กุญแจรีโมทพร้อม Immobilizer และสัญญาณกันขโมย
  • กล้องมองหลัง
  • กล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง Intelligent Around View Monitor (iAVM)
  • ระบบตรวจจับและส่งเตือนวัตถุ และบุคคลที่เคลื่อนไหวจากกล้องรอบคัน Moving Object Detection (MOD)
  • สัญญาณเตือนระยะจอดด้านหลัง 4 จุด
  • ระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง

เครื่องยนต์ : ดีเซลขนาด 2.3 ลิตร รหัส YS23DDTT แบบ 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว Twin Turbo Intercooler ให้แรงม้าสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 440 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500 รอบ/นาที

ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT 7 สปีด ทุกรุ่น ให้รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.7 เมตร

มิติตัวรถ : ยาว 4,885 มม. กว้าง 1,865 มม. สูง 1,835 มม. ระยะฐานล้อ 2,850 มม. ระยะต่ำสุดจากพื้น 225 มม.

ราคาจำหน่าย : (Update ล่าสุด เดือนธันวาคม 2563)

  • 2.3 V 2WD ราคา 1,299,000 บาท
  • 2.3 VL 2WD ราคา 1,349,000 บาท
  • 2.3 VL 4WD ราคา 1,459,000 บาท

*หมายเหตุ : สีขาวมุก เพิ่มเงิน 12,000 บาท

Ford-Everest-2021

Ford Everest 2020

ข้อดี : โฉมนี้มาพร้อมเครื่องยนต์ใหม่ ที่มีขนาดเล็กลง แต่ให้กำลังมากขึ้น พร้อมชุดเกียร์ใหม่ พร้อมแก้ปัญหาต่างๆ ของตัวรถที่เคยได้รับเสียงตำหนิมาจากผู้บริโภคก่อนหน้า เช่น ปัญหาคราบน้ำมันเครื่องบริเวณฝาครอบหน้าเครื่องยนต์ เป็นต้น ทาง Ford ได้ปรับปรุงซีลหน้าเครื่องให้มิดชิด เฟืองปั้มเกียร์ที่แข็งแรงขึ้น ผนังลูกสูบที่เรียบลื่นขึ้น และ Torque Converter ที่แน่นหนากว่าเดิม

ข้อด้อย : เบาะนั่งในแถวที่สาม นั่งค่อนข้างยากสำหรับผู้ใหญ่ แต่ในโฉมนี้ก็ได้ชดเชยด้วยระบบปรับพับด้วยไฟฟ้ามาให้ กับปัญหาของตัวรถ ที่ต้องลุ้นกันต่อว่าจะมีหรือไม่

รายละเอียดตัวรถ : สำหรับ Ford Everest แม้ว่าจะขายกันมานานหลายปีได้ ในโฉมปี 2020 – 2021 ได้ตกแต่งชุดกระจังหน้าใหม่, ตัวอักษร Everest บนฝากระโปรงหน้าแบบนูนต่ำ, มือเปิดประตูโครเมียม, กระจกมองข้างโครเมียม, บันไดข้างสีดำ และชุดตกแต่งสีเงิน เป็นต้น

มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่สุดล้ำ และเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ของฟอร์ด การทำงานของเทอร์โบทั้งสองเครื่องที่อิสระจากกัน มาพร้อมเครื่องยนต์อันทรงพลังถึง 213 แรงม้า (PS) และแรงบิดสูงสุดถึง 500 นิวตันเมตร ช่วยเพิ่มความแรง และความเร็วได้ดั่งใจคุณต้องการ อีกทั้งยังประหยัดน้ำมัน

ผสานความสะดวกสบายระดับพรีเมี่ยม ให้ทุกรายละเอียดของห้องโดยสารภายใน ไม่ว่าจะเป็นเบาะนั่งหุ้มหนัง 7 ที่นั่งที่เดินเส้นปักแบบใหม่ หัวเกียร์ที่ออกแบบใหม่ เทคโนโลยีการตัดเสียงรบกวนอัจฉริยะ และหลังคา Panoramic Moonroof แบบปรับไฟฟ้า พร้อมระบบประตูไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรี ทำให้ชีวิตคุณง่ายขึ้น

แถมทุกรุ่นมาพร้อมข้อเสนอพิเศษ โปรแกรมรับประกันเครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง 10 ปี หรือ 150,000 กม. ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง ฟรีชุดอุปกรณ์ตกแต่งไฟฟ้า (Electric Pack) มูลค่า 11,350 บาท

มีให้เลือกถึง 7 สี ได้แก่ สีขาวมุก Snowflake White Pearl, สีขาว Artic White, สีแดง Sunset Metallic, สีเงิน Aluminum Metallic, สีฟ้า Reflex Blue, สีน้ำเงิน Deep Crystal Blue และสีดำ Absolute Black Metallic

อุปกรณ์มาตรฐานเด่นๆ :

  • กุญแจอัจฉริยะและปุ่มสตาร์ท
  • หน้าจอ Multi-Touch ขนาด 8 นิ้ว
  • ระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC 3 ภาษาไทยพร้อมการเชื่อมต่อ Bluetooth และ Wi-fi
  • ประตูท้ายเปิด-ปิด ด้วยไฟฟ้าแบบ Hands Free
  • หลังคา Panoramic Moonroof
  • ไฟวิ่งกลางวันแบบ LED
  • ชุดชายบันไดสแตนเลสแบบ LED
  • ปลั๊กไฟบ้าน AC 230 V
  • ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ
  • ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย-ขวาล
  • เบาะนั่งปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง พร้อมปรับดันหลัง 2 ทิศทาง ด้านคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า
  • เบาะแถวที่ 3 พับไฟฟ้า
  • ระบบช่วยโทรฉุกเฉิน
  • ระบบตรวจจับรถในจุดบอด
  • ระบบป้องกันล้อหมุน TC และระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP
  • ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางชัน
  • ระบบช่วยออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน HLA
  • จำนวนถุงลมนิรภัย ถุงลมนิรภัย 7 จุด คู่หน้า / ด้านข้าง / หัวเข่าฝั่งคนขับ / และม่านถุงลมนิรภัย

เครื่องยนต์ : ดีเซลขนาด 2.0 ลิตร แบบ 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว Turbo Intercooler ให้แรงม้าสูงสุด 180 แรงม้า ที่ 3,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 420 นิวตัน-เมตร ที่ 1,750 – 2,500 รอบ/นาที

และดีเซลขนาด 2.0 ลิตร แบบ 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว Bi-Turbo Intercooler ให้แรงม้าสูงสุด 213 แรงม้า ที่ 3,750 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตัน-เมตร ที่ 1,750 – 2,000 รอบ/นาที

สามารถใช้กับน้ำมันดีเซล B20 ได้ ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ 10 สปีด พร้อม Selection Shift

มิติตัวรถ : ยาว 4,903 มม. กว้าง 1,869 มม. สูง 1,837 มม. ระยะฐานล้อ 2,850 มม. ระยะต่ำสุดจากพื้น 225 มม.

ราคาจำหน่าย : (Update ล่าสุด เดือนธันวาคม 2563)

  • Trend 2.0L Turbo 2WD ราคา 1,299,000 บาท
  • Titanium 2.0L Turbo 2WD ราคา 1,399,000 บาท
  • Titanium (Sport) 2.0L Turbo 2WD ราคา 1,429,000 บาท
  • Titanium+ 2.0L Turbo 2WD ราคา 1,599,000 บาท
  • Titanium+ 2.0L Bi-Turbo 4WD ราคา 1,799,000 บาท

อย่างไรก็ตาม ขอให้บทความนี้เป็นเครื่องมือช่วยให้ทุกท่าน เลือกรถคู่ใจได้ตามความต้องการ และตามงบที่มี เพราะการเลือกซื้อรถแต่ละคัน แต่ละคนย่อมมีรสนิยม ความชอบ ความพึงพอใจ ในหลายองค์ประกอบไม่เหมือนกัน

รวมไปถึงความเชื่อมั่นในแบรนด์ด้วย ที่ต่างคนก็ต่างมีประสบการณ์ในการเจอที่ปรึกษาการขาย เจอดีลเลอร์ เจอการซ่อม การเคลม หรือราคาอะไหล่ที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้น การที่คุณเลือกรถใช้แบรนด์ต่างจากคนอื่น ไม่ใช่เรื่องผิดแต่ประการใดจ้า

All-New-Isuzu-MU-X-2020

Isuzu (อีซูซุ) เปิดตัว “All-New Isuzu MU-X (ออลนิว อีซูซุมิว-เอ็กซ์)” ยนตรกรรมอเนกประสงค์รุ่นใหม่หมดระดับ Masterpiece รุ่นล่าสุด ภายใต้นิยาม “เหนือทุกความเชื่อ…เหนือทุกความสำเร็จ (Originality Redefined)” พลิกโฉมใหม่ทั้งภายนอกจรดภายใน ด้วยดีไซน์ที่หรูหรา สะดวกสบาย ประณีตในทุกรายละเอียด

พร้อมเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยสุดล้ำ Isuzu Matrix Safety Intelligence ที่ครบครัน และเหนือกว่าด้วยระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS ที่มาพร้อมนวัตกรรมกล้องหน้าคู่อัจฉริยะ รวมทั้งพัฒนาสมรรถนะการขับขี่ให้นุ่มนวล มั่นคง ปลอดภัยยิ่งขึ้น ความโดดเด่นที่แตกต่างอย่างมีเอกลักษณ์

All-New-Isuzu-MU-X-2020

ซึ่ง All-New Isuzu MU-X พร้อมแล้วกับการเปิดตัวครั้งแรกในโลกที่เมืองไทย เพื่อเป็นรถธงคันใหม่ของ “อีซูซุ” ที่พร้อมจะสร้างปรากฏการณ์ “Next Normal” ให้กับวงการรถอเนกประสงค์ของไทย นอกจากนี้อีซูซุยังภูมิใจที่จะประกาศให้ทราบว่า มียอดการผลิตรถอีซูซุทุกรุ่นในประเทศไทยครบ 5 ล้านคันแล้วในเดือนตุลาคม

โดดเด่นที่แตกต่างอย่างมีเอกลักษณ์ สะท้อนตัวตนของ “ออลนิว อีซูซุมิว-เอ็กซ์” ประกอบด้วยหลักใหญ่ ๆ ดังนี้

All-New-Isuzu-MU-X-2020

REFLECT YOUR UNIQUE SUCCESS นิยามใหม่แห่งดีไซน์สมบูรณ์แบบ เพื่อความโดดเด่นที่แตกต่าง

อีกระดับแห่งภาพลักษณ์หรู ล้ำสไตล์ สง่างาม โฉบเฉี่ยวเร้าอารมณ์ ภายใต้แนวคิด Emotional & Solid ผสานความหนักแน่นและพลิ้วไหวเข้าไว้ด้วยกันตลอดทั้งคัน อาทิ กระจังหน้าแบบ World Cross Flow, ไฟหน้า Bi-LED Projector ดีไซน์แบบ Arrow Signature สอดรับกับเส้นสายด้านข้างอันเป็นเอกลักษณ์ ทอดยาวสู่ไฟท้าย LED ดีไซน์แบบ Winglet Signature เพิ่มมิติมุมมองให้โดดเด่นด้วยโคมไฟ 3-Line LED

ล้ออัลลอยขนาดใหญ่ Dynamic Design คมเข้ม ดุดัน ขนาด 20″ ในรุ่น Ultimate ขนาด 18″ ในรุ่น Elegant และ Luxury และขนาด 17″ ในรุ่น Active

All-New-Isuzu-MU-X-2020

EMBRACE YOUR EXQUISITE LUXURY เดินทางไปกับนิยามใหม่แห่งความหรูหราของห้องโดยสาร

กว้างขวาง โอ่อ่า ด้วยแนวคิดการออกแบบ Fine, Rich & Impressive Craftsmanship ด้วยวิธีการออกแบบ Integrated Cockpit คอนโซลหน้าเชื่อมต่อเป็นหนึ่งเดียวกับคอนโซลกลาง จัดวางเรียบหรู พร้อมเบรกมือไฟฟ้า และระบบ Auto Brake Hold ระบบช่วยหยุดอยู่กับที่โดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้างไว้ และปลดเบรกอัตโนมัติเมื่อแตะคันเร่ง

All-New-Isuzu-MU-X-2020

เบาะนั่งดีไซน์หรูสี Saddle Brown ตัดเย็บด้วยวัสดุพิเศษ เดินด้ายแบบเครื่องหนังชั้นหรู พร้อมเทคโนโลยี COOLMAX ช่วยลดการสะสมความร้อน พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน พร้อม Sequential Paddle Shift เปลี่ยนเกียร์ได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส

All-New-Isuzu-MU-X-2020

All-New-Isuzu-MU-X-2020

ระบบเปิด-ปิดประตูท้ายด้วยไฟฟ้า Power Tailgate ปลอดภัยด้วยระบบ Jam Protection พร้อมเทคโนโลยีความบันเทิงและความสะดวกสบายครบครัน โดยมี Ambient Light และ Dome Light ช่วยให้บรรยากาศหรูมีระดับ

All-New-Isuzu-MU-X-2020

PROTECT YOUR EXCLUSIVE SERENITY ก้าวล้ำสู่อีกขั้นแห่งความมั่นใจที่ครบครันกว่า

ด้วยเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยล้ำหน้าล่าสุด Isuzu Matrix Safety Intelligence พัฒนาให้ระบบเพื่อความปลอดภัยทุกระบบทำงานร่วมกันเป็นหนึ่งเดียวอย่างมีประสิทธิภาพ ล้ำหน้าไปอีกขั้นกับเทคโนโลยี ADAS (Advanced Driver Assistance Systems) ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ช่วยสอดส่อง เฝ้าระวัง ด้วยนวัตกรรมกล้องหน้าคู่ 3D Imaging Stereo Camera แม่นยำกว่ากล้องเดี่ยวแบบ Mono Camera ทั่วไป ช่วยตรวจจับเส้นถนนและวัตถุด้านหน้ารถแบบ Real Time ด้วยมิติที่ชัดเจน พร้อมเรดาร์ 2 จุด และเซ็นเซอร์ 8 จุดรอบคัน

ควบคู่ไปกับระบบความปลอดภัยพื้นฐานครบครันทุกรุ่น อาทิ ABS, EBD, BA, BOS, ESC, TCS, HSA, HDC และ TSC เพื่อส่งมอบความมั่นใจและอุ่นใจเหนือระดับยามขับขี่

All-New-Isuzu-MU-X-2020

เทคโนโลยี ADAS ที่รวมไว้ใน “ออลนิว อีซูซุมิว-เอ็กซ์” ได้แก่

  • ACC (Full Speed Range Adaptive Cruise Control) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมฟังก์ชัน Stop and Go
  • FCW (Forward Collision Warning) ระบบแจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้า
  • AEB (Autonomous Emergency Braking) ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ
  • LDW (Lane Departure Warning) ระบบแจ้งเตือนออกนอกเลน
  • AHB (Automatic High Beam) ระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมติ
  • PMM (Pedal Misapplication Mitigation) ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์เมื่อเหยียบคันเร่งผิดพลาด
  • MSL (Manual Speed Limiter) ระบบตั้งค่าจำกัดความเร็วสูงสุดด้วยตัวเอง
  • BSM (Blind Spot Monitoring) ระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตา
  • RCTA (Rear Cross Traffic Alert) ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถยนต์
  • Parking Aid System ระบบเซ็นเซอร์ช่วยจอดรถยนต์
  • MCB (Multi-Collision Brake) ระบบเบรกอัตโนมัติหลังการเกิดอุบัติเหตุ ช่วยลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน

All-New-Isuzu-MU-X-2020

DEFY YOUR ENDLESS POSSIBILITY ดุลยภาพแห่งความเร้าใจ เสถียรภาพใหม่แห่งการขับขี่

โครงสร้างแพลทฟอร์มใหม่ ช่วงล่างใหม่ ออกแบบตามแนวคิด ISUZU Symmetric Mobility ให้โครงสร้างตัวถัง แชสซีส์ การวางตำแหน่งเครื่องยนต์ และช่วงล่างทำงานร่วมกันได้ลงตัว ช่วงล่างหน้าแบบอิสระปีกนก 2 ชั้น Double Wishbone ออกแบบจุดยึดปีกนกด้านบนใหม่ พร้อมคอยล์สปริง โช้คอัพแก๊สและเหล็กกันโคลงขนาดใหญ่ ช่วงล่างด้านหลังแบบ 5-Link Suspension อันเลื่องชื่อที่พัฒนาไปอีกขั้น ออกแบบจุดยึดคานใหม่และเหล็กกันโคลงให้ยาวขึ้น พร้อมคอยล์สปริงและโช้คอัพแก๊ส

All-New-Isuzu-MU-X-2020

เพื่อสร้างประสบการณ์ และสมรรถนะการขับขี่ที่ดีที่สุดแบบ 3S ได้แก่

  • ความนิ่งและมั่นคง (Stability)
  • ความนุ่มนวลนั่งสบาย (Softness)
  • ความปลอดภัยและการเกาะถนน (Safety and Road Holding)

All-New-Isuzu-MU-X-2020

CRAFT YOUR ULTIMATE PLEASURE สัมผัสใหม่แห่งความสะดวกสบายที่เชื่อมต่อทุกไลฟ์สไตล์ได้อย่างลงตัว

ครบครันด้วยเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกสุดล้ำทั้งคัน ด้วยเบาะนั่งสามแถว ออกแบบให้นั่งสบายทั้ง 7 ที่นั่ง เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า ระบบความบันเทิง ISUZU Ultimate Entertainment หน้าจอ Infotainment Display ขนาดใหญ่ 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay แบบไร้สาย และ Android Auto พร้อมลำโพง 8 จุด ให้มิติเสียงรอบทิศทาง

ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone แยกอิสระซ้าย-ขวา พร้อมฟิลเตอร์กรองฝุ่น PM 2.5 Charging Station รองรับการใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้าหลากหลาย ทั้ง USB Fast Charger ช่องต่อ AC Power Socket 220V และช่องต่อ DC 12V

และกุญแจ ISUZU Genius Entry สตาร์ทเครื่องยนต์ด้วย Remote Engine Start ใช้เปิด-ปิดประตูท้ายไฟฟ้าได้ด้วย

All-New-Isuzu-MU-X-2020

FULFIL YOUR DISTINCTIVE DESIRE เลือกตัวตนที่บ่งบอกตัวคุณ

“ออลนิว อีซูซุมิว-เอ็กซ์” มีให้เลือกครบครันด้วยสไตล์ที่หลากหลายรวม 4 รุ่น ได้แก่ Ultimate, Elegant, Luxury และ Active
เครื่องยนต์ 3.0 Ddi Blue Power และ 1.9 Ddi Blue Power Gen 2 พร้อมทางเลือกทั้งเกียร์อัตโนมัติ และเกียร์ธรรมดาแบบ 6 สปีด มีให้เลือกทั้งระบบขับเคลื่อน 2 ล้อและ 4 ล้อ พร้อมระบบขับเคลื่อน Rough Terrain Mode ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ โดยทำงานได้ทั้ง 2H, 4H และ 4L

อีกทั้งมีให้เลือกถึง 6 สี ได้แก่ น้ำตาลมาราเกซ (Marrakesh Brown) ขาวมุกโดโลไมท์ (Dolomite Pearl White) แดงเอทนา (Etna Red) ดำบาวาเรียน ไมก้า (Bavarian Black Mica) เงินไอซ์เบิร์ก (Iceberg Silver) และเงินโบฮีเมียน เมทัลลิค (Bohemian Silver Metallic)

All-New-Isuzu-MU-X-2020

All-New Isuzu MU-X 2021 ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 7 รุ่น ดังนี้

  • 1.9 Ddi Active A/T ราคา 1,121,000 บาท (ราคาช่วงแนะนำ 1,109,000 บาท)
  • 1.9 Ddi Luxury M/T ราคา 1,266,000 บาท (ราคาช่วงแนะนำ 1,254,000 บาท)
  • 1.9 Ddi Luxury A/T ราคา 1,304,000 บาท
  • 1.9 Ddi Elegant A/T ราคา 1,349,000 บาท
  • 1.9 Ddi Ultimate A/T ราคา 1,434,000 บาท
  • 3.0 Ddi Ultimate A/T ราคา 1,479,000 บาท
  • 3.0 Ddi 4X4 Ultimate A/T ราคา 1,579,000 บาท

Promotion All-New Isuzu MU-X ดูได้ที่นี่ – https://th.carro.co/blog/isuzu-car-price-list/

เชิญพบกับรถยนต์นั่งอเนกประสงค์รุ่นใหม่หมด “All-New Isuzu MU-X” ได้ที่โชว์รูมอีซูซุทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 12 พฤศจิกายน ศกนี้

ส่วนใครที่อยากได้ All-New Isuzu MU-X ใหม่ แต่เงินสดมีไม่เพียงพอ ถ้าใช้รถคันเดิมอยู่ สามารถนำมาขายกับทาง CARRO ได้ แม้ว่ารถจะติดไฟแนนซ์ เราก็พร้อมปิดไฟแนนซ์ให้ และยินดีรับซื้อรถของคุณ สามารถเข้าไปเช็กราคา ตีราคาขายรถก่อนได้ โดยใส่ข้อมูลรถของคุณที่นี่เลย กับ CARRO Express > https://th.carro.co/sell-car/express หรือโทร. 02-508-8425

หรือใครจะ Inbox มาสอบถามก็ได้เช่นกัน ที่ Facebook CARRO Thailand หรือสะดวก Add Line ก็ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ครับ —> เพิ่มเพื่อน