พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมในกรุงเทพฯ ก่อนซื้อรถซื้อบ้าน ต้องรู้!

ขึ้นชื่อว่า “กรุงเทพฯ” เมืองหลวงของประเทศไทยแล้ว นับได้ว่าเป็นศูนย์รวมของทุกสิ่งมานานตั้งแต่หลายสิบปีก่อน ตั้งแต่มีทุ่งนา โรงงานอุตสาหกรรม ไปจนถึงมีบ้านเรือน หมู่บ้าน มีทางด่วน มีรถไฟฟ้า หรือมีชุมชนแออัดขนาดใหญ่ มีทั้งอยู่รวมกันและกระจายกัน ตั้งแต่ยุคก่อนที่จะมีผังเมืองด้วยซ้ำไป

พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมในกรุงเทพฯ ก่อนซื้อรถซื้อบ้าน ต้องรู้!

และปัญหายอดฮิตสุดๆ ของกรุงเทพฯ นั่นก็คือ “น้ำท่วม” นั่นเอง เพราะฝนตกหนักๆ หรือพายุเข้าทีไร เรื่องน้ำท่วมต้องมีบ้าง จะมากหรือน้อย ก็ขึ้นอยู่กับสภาพพื้นที่เดิม ว่าเป็นที่ราบลุ่ม เป็นโคก ดอน หนอง หรือบึง และระบบการบริหารจัดการน้ำ (เช่น เครื่องสูบน้ำเสีย หรือหากุญแจเครื่องสูบน้ำไม่เจอ) รวมไปถึงปัจจัยอื่นๆ เช่น ท่อระบายน้ำ ท่อตัน ไม่เคยลอกท่อ มีเศษขยะกีดขวางทางระบายน้ำ ฯลฯ

อ่านเพิ่มเติม >> ต้องรู้! วิธีดูรถน้ำท่วม จมน้ำ 5 จุด แบบง่ายๆ

อ่านเพิ่มเติม >> 3 วิธีเคลมประกันภัย เมื่อรถถูกน้ำท่วม

อ่านเพิ่มเติม >> 5 วิธีขับรถลุยน้ำท่วม ที่คุณต้องรู้!

ดังนั้น ก่อนที่คุณจะซื้อรถ ซื้อบ้าน ซื้อคอนโด ควรรู้ไว้หน่อยก็ดีว่าย่านไหนในกรุงเทพฯ เป็นพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม (หรือน้ำรอระบาย) เพื่อช่วยให้คุณเลือกรถได้ตรงกับลักษณะการใช้งาน หรือตกแต่งซ่อมแซมบ้าน ให้รับมือน้ำท่วมได้ทั้งปี

Mr.Carro รวบรวมข้อมูลพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมในกรุงเทพฯ มาให้อ่านกันครับ

พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมในกรุงเทพฯ ก่อนซื้อรถซื้อบ้าน ต้องรู้!

ภาพจาก Chairop Ch

เพราะอะไรกรุงเทพฯ ถึงน้ำท่วมบ่อย?

กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่ตั้งอยู่เหนืออ่าวไทยเพียง 30 กิโลเมตร ผู้เชี่ยวชาญคาดว่า ระดับน้ำทะเลในอ่าวไทยจะสูงขึ้น 19 – 29 ซม. ภายในปี 2050 เพราะโลกร้อนขึ้น

กรมทรัพยากรธรณี และสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย เคยทำสำรวจช่วงปี 2521-2524 พบว่า มีแผ่นดินทรุดตัวมากกว่าปีละ 10 ซม. ขณะที่ การสำรวจของกรมแผนที่ทหาร พบว่าตลอดระยะเวลา 30 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2521 – 2551 กรุงเทพมหานคร มีระดับการทรุดตัวสะสมมากกว่า 1 เมตร โดยมีการทรุดตัวสะสมประมาณปีละ 2-3 ซม.

ทำให้ระดับน้ำสูงขึ้น น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นแม่น้ำสายหลักผ่ากลางกรุงเทพฯ ก็สูงขึ้นตามไปด้วย รวมถึงการสูบน้ำบาดาลมาใช้ในอดีต ทำให้แผ่นดินทรุดลง และการถมคลองเป็นถนนจำนวนมาก จนไม่มีทางน้ำไหลออก

พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมในกรุงเทพฯ ก่อนซื้อรถซื้อบ้าน ต้องรู้!

ภาพจาก RT@Bbikinii

หลายคนที่ซื้อรถมาแล้ว แต่บ้านอยู่ในเขตพื้นที่ต่ำ หรือซอยที่เป็นหมู่บ้านยุคเก่า เจอถนนสายหลักสูงกว่าถนนในซอย ท่อระบายน้ำเล็ก แคบ หรือไม่เคยลอกท่อมานาน จนท่อตัน

และภัยธรรมชาติที่เกิดถี่ขึ้น รวมไปถึงที่ที่เคยเป็นพื้นที่รับน้ำ อย่างทุ่งนา ร่องสวน ป่า หายไป กลายเป็นป่าคอนกรีต (เช่น บ้าน และ คอนโดมิเนียม) แทน และส่วนมากโครงการที่สร้างใหม่ๆ ก็มักทำให้สูงกว่าถนน นี่ก็เป็นปัญหาหลักๆ ของน้ำท่วมในกรุงเทพฯ ที่ถนนต้องเป็นพื้นที่รับน้ำแทนนั่นเอง ….

พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมในกรุงเทพฯ ก่อนซื้อรถซื้อบ้าน ต้องรู้!

เลือกรถแบบไหน ลุยน้ำท่วมกรุงเทพฯ?

ตามปกติแล้ว รถ Eco-Car, รถเก๋ง, รถ Hatchback ที่เราๆ ท่านๆ ใช้งานกันเต็มบ้านเต็มเมือง จะมีระยะต่ำสุดจากพื้น (หรือ ความสูงใต้ท้องรถ) (Ground Clearance) อยู่ในระดับ 120 – 150 มม. (หรือ 12 – 15 ซม.) ซึ่งสามารถลุยน้ำได้ในระดับเกือบๆ ครึ่งล้อ หรือความลึกประมาณ 20 – 30 ซม. เท่านั้น แต่ถ้าลุยน้ำระดับสูงกว่านี้ ไม่ไหวแน่ๆ

สำหรับรถที่ลุยน้ำได้ ที่ดูเหมาะกับการใช้งานในพื้นที่ที่เสี่ยงน้ำท่วมบ่อย เราขอแนะนำรถประเภท รถกระบะ, รถ Crossover SUV หรือรถ SUV และ PPV ที่ออกแบบมาให้ยกสูงหน่อย ใช้ระบบขับเคลื่อนทั้ง 2 ล้อ และ 4 ล้อ ลุยน้ำได้ในระดับหนึ่ง เนื่องจากความอเนกประสงค์ในการใช้งานแล้ว ยังลุยน้ำท่วมได้ไหวอีกต่างหาก (แม้ว่ารถทุกคัน จะไม่ได้ออกแบบมาให้ลุยน้ำเป็นหลักก็ตาม)

โดยรถที่มีระยะต่ำสุดจากพื้น (หรือ ความสูงใต้ท้องรถ) (Ground Clearance) น้อยหรือมาก ก็มีผลต่อการลุยน้ำของรถรุ่นนั้นๆ ด้วย และรถที่ลุยน้ำได้ รวมไปถึงช่วงล่างหน้า เครื่องยนต์ ท่ออากาศ ไดชาร์จ และระบบไฟฟ้าที่ติดตั้งในห้องเครื่องยนต์ ล้วนมีผลต่อการลุยน้ำทั้งสิ้น

พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมในกรุงเทพฯ ก่อนซื้อรถซื้อบ้าน ต้องรู้!

ภาพจาก RT@Bee_Nidarat

รถกระบะ ที่เหมาะกับไว้ใช้ลุยน้ำท่วม อาทิ Toyota Hilux Revo (โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่), Nissan Navara (นิสสัน นาวาร่า), Isuzu D-Max (อีซูซุ ดีแม็คซ์), Mitsubishi Triton (มิตซูบิชิ ไทรทัน), Mazda BT-50 (มาสด้า บีที-50), Ford Ranger (ฟอร์ด เรนเตอร์), MG Extender (เอ็มจี เอ็กซ์เทนเดอร์) หรือ Chevrolet Colorado (เชฟโรเลต โคโรลาโด้) เป็นต้น

รถ PPV ที่เหมาะกับไว้ใช้ลุยน้ำท่วม อาทิ Toyota Fortuner (โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์), Nissan Terra (นิสสัน เทอร์ร่า), Mitsubishi Pajero Sport (มิตซูบิชิ ปาเจโร่ สปอร์ต), Isuzu MU-X (อีซูซุ มิวเอ็กซ์), Ford Everest (ฟอร์ด เอเวอเรสต์) หรือ Chevrolet Trailblazer (เชฟโรเลต เทรลเบลเซอร์) เป็นต้น

พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมในกรุงเทพฯ ก่อนซื้อรถซื้อบ้าน ต้องรู้!

ภาพจาก Tuddao Dao

รถ Crossover SUV ที่เหมาะกับไว้ใช้ลุยน้ำท่วม อาทิ Toyota Corolla Cross (โตโยต้า โคโรลล่า ครอส), Nissan X-Trail (นิสสัน เอ็กซ์เทรล), Honda HR-V (ฮอนด้า เอชอาร์วี), Honda CR-V (ฮอนด้า ซีอาร์วี), Mazda CX-3 (มาสด้า ซีเอ็กซ์-3), Mazda CX-30 (มาสด้า ซีเอ็กซ์-30), Mazda CX-5 (มาสด้า ซีเอ็กซ์-5), Mazda CX-8 (มาสด้า ซีเอ็กซ์-8), MG ZS (เอ็มจี แซดเอส), MG HS (เอ็มจี เอชเอส), Subaru XV (ซูบารุ เอ็กซ์วี), Subaru Forester (ซูบารุ ฟอเรสเตอร์), Haval Jolion Hybrid SUV (ฮาวาล โจไลอ้อน), DFSK Glory 560 (ดีเอฟเอสเค กลอรี่ 560) หรือ DFSK Glory i-Auto (ดีเอฟเอสเค กลอรี่ ไอ-ออโต้) เป็นต้น

ส่วน รถ MPV หรือ Crossover MPV ที่เหมาะกับไว้ใช้ลุยน้ำท่วมได้ อาทิ Toyota Avanza (โตโยต้า อแวนซ่า), Toyota Innova (โตโยต้า อินโนว่า), Honda BR-V (ฮอนด้า บีอาร์วี), Mitsubishi Xpander (มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์), Mitsubishi Xpander Cross (มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส), Suzuki Ertiga (ซูซูกิ เออร์ติก้า), Suzuki XL7 (ซูซูกิ เอ็กซ์แอล7) หรือ Chevrolet Spin (เชฟโรเลต สปิน) เป็นต้น

หรือจะเป็นรถ MPV, Crossover MPV หรือ SUV จากค่ายรถฝั่งยุโรปก็ได้เช่นกันครับ

พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมในกรุงเทพฯ ก่อนซื้อรถซื้อบ้าน ต้องรู้!

จุดไหนในกรุงเทพฯ น้ำท่วมอย่างบ่อย?

จากการสำรวจของสำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร พบว่า ในกรุงเทพฯ มีจุดเสี่ยงน้ำท่วมขัง จำนวน 12 จุด ในพื้นที่ 8 เขต ประกอบด้วย

พื้นที่ฝั่งพระนคร จำนวน 9 จุดใน 6 เขต

  • เขตจตุจักร ถนนรัชดาภิเษก บริเวณหน้าธนาคารกรุงเทพ
  • เขตบางซื่อ ถนนประชาราษฎร์สาย 2 บริเวณแยกเตาปูน
  • เขตหลักสี่ ถนนแจ้งวัฒนะ ช่วงจากคลองประปา ถึงคลองเปรมประชากร
  • เขตดุสิต ถนนราชวิถี บริเวณหน้าราชภัฏสวนดุสิตและเชิงสะพานกรุงธนบุรี
  • เขตราชเทวี ถนนพญาไท บริเวณหน้ากรมปศุสัตว์
  • เขตราชเทวี ถนนศรีอยุธยา บริเวณหน้า สน.พญาไท
  • เขตสาทร ถนนจันทน์ ช่วงจากซอยบำเพ็ญกุศล ถึงที่ทำการไปรษณีย์ยานนาวา
  • เขตสาทร ถนนสวนพลู ช่วงจากถนนสาทรใต้ ถึงถนนนางลิ้นจี่
  • เขตสาทร ถนนสาธุประดิษฐ์ บริเวณแยกตัดถนนจันทน์

พื้นที่ฝั่งธนบุรี จำนวน 3 จุดใน 2 เขต

  • เขตบางขุนเทียน ถนนบางขุนเทียน-ชายทะเล ช่วงจากถนนพระรามที่ 2 ถึงคลองสะแกงาม
  • เขตบางแค ถนนเพชรเกษม ช่วงจากคลองทวีวัฒนา ถึงคลองราชมนตรี
  • เขตบางแค ถนนหมู่บ้านเศรษฐกิจ ช่วงจากถนนเพชรเกษม ถึงวงเวียนกาญจนาภิเษก

พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมในกรุงเทพฯ ก่อนซื้อรถซื้อบ้าน ต้องรู้!

ส่วนจุดอื่นๆ ที่ไม่มีในการสำรวจของสำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร ฝนตกหนักๆ มักเกิดน้ำท่วม (น้ำรอการระบาย) ที่มีทั้งพื้นที่สาธารณะ ซอย ถนน และพื้นที่หมู่บ้าน หรือที่ส่วนบุคคล)

  • เขตห้วยขวาง ถนนสุทธิสารวินิจฉัย, ถนนประชาสุข, ถนนเทียมร่วมมิตร, ซอยทวีมิตร (พระราม 9 ซอย 7), ซอยศูนย์วิจัย
  • เขตคลองเตย ซอยสุขุมวิท 16, ซอยสุขุมวิท 22, ซอยสุขุมวิท 26, ซอยสุขุมวิท 38, ถนนพระรามที่ 4
  • เขตวัฒนา ถนนสุขุมวิท 21, ซอยสุขุมวิท 39, ซอยพร้อมศรี, ถนนสุขุมวิท 55, ถนนสุขุมวิท 63, ซอยสุขุมวิท 69, ถนนสุขุมวิท 71
  • เขตพระโขนง ซอยสุขุมวิท 62, ถนนสุขุมวิท 101/1, ถนนสุขุมวิท 103 (อุดมสุข)
  • เขตสวนหลวง ถนนสุขุมวิท 77, ซอยอ่อนนุช 39, ถนนพัฒนาการ, ซอยพัฒนาการ 28, ซอยพัฒนาการ 30
  • เขตประเวศ ซอยพัฒนาการ 69, ถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9
  • เขตดินแดง ซอยโพธิ์ปั้น
  • เขตจตุจักร ถนนพหลโยธิน (แยกรัชโยธิน-ลาดพร้าว), ถนนรัชดาภิเษก, ซอยรัชดาภิเษก 36, ซอยเสือใหญ่อุทิศ
  • เขตลาดพร้าว ถนนสุคนธ์สวัสดิ์
  • เขตบางกะปิ ถนนรามคำแหง, ซอยรามคำแหง 24, ซอยรามคำแหง 60, ถนนศรีนครินทร์
  • เขตวังทองหลาง ซอยลาดพร้าว 64
  • เขตบางนา ถนนศรีนครินทร์, ถนนสุขุมวิท 107
  • เขตบางเขน ถนนพหลโยธิน
  • เขตหลักสี่ ถนนวิภาวดีรังสิต, ถนนแจ้งวัฒนะ ช่วงหน้าศูนย์ราชการฯ กทม. – ห้าแยกปากเกร็ด
  • เขตบางกอกน้อย ถนนสมเด็จพระปิ่นเกล้า ช่วงแยกบรมราชชนนี – หน้าห้างพาต้า

หากท่านใดมีข้อมูลเพิ่มเติม สามารถนำเสนอมาได้ครับ

พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมในกรุงเทพฯ ก่อนซื้อรถซื้อบ้าน ต้องรู้!

ภาพจาก RT@SuwitKittitien

จากข้อมูลของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย ได้เก็บข้อมูลตลอด 9 ปี (พ.ศ. 2548-2556) พบว่า หลายพื้นที่ในกรุงเทพฯ มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่รอบนอก โดยมีรายละเอียดดังนี้

พื้นที่เสี่ยงอุทกภัยระดับ 1 พื้นที่ที่เกิดน้ำท่วมซ้ำซาก 7-9 ปี และพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยระดับ 2 พื้นที่ที่เกิดน้ำท่วมซ้ำซาก 5-6 ปี ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่รอบนอกกรุงเทพฯ ได้แก่

  • หนองจอก
  • คลองสามวา
  • ลาดกระบัง
  • มีนบุรี

และบางส่วนในเขต

  • สายไหม
  • บางเขน
  • คันนายาว

เอาเป็นว่า ไม่ว่าใครจะซื้อรถ หรือซื้อบ้านในกรุงเทพฯ ข้างต้น ก็ต้องพิจารณาเลือกทั้งบ้านทั้งรถดูกันละกันนะครับ

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่ให้เหมาะกับบ้านของคุณ มาขายรถกับทาง Carro Express สิ! คลิกเลยที่ https://th.carro.co/sell-car/express รับรองได้เงินเร็ว ไว ทันใจแน่นอน!

Carro Automall ตลาดรถ

ส่วนใครสนใจจะซื้อรถมือสอง Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

แหล่งที่มาบางส่วนจาก:

10 ทางม้าลายอันตรายใน กทม. ที่ต้องระวัง!

หลายท่านคงได้เห็นกับข่าวอันน่าเศร้าลสดกันไปแล้ว ที่ ส.ต.ต. นรวิชญ์ บัวดก ขี่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ชนคุณหมอกระต่าย หรือ พญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล ขณะเดินข้ามถนนตรงทางม้าลายจนถึงแก่ความตายบนถนนพญาไท ที่สร้างความสูญเสียอย่างไม่สามารถประเมินค่าได้ สร้างความสะเทือนใจให้คนไทยทั้งประเทศ

จนกลายเป็นที่พูดถึงในสังคมไทยอย่างมาก ถึงเรื่องที่ผู้บังคับใช้กฎหมาย ทำผิดกฎหมายหลายอย่างเสียเอง รวมไปถึงการบังคับใช้กฎหมายอันย่อหย่อน และอีกหลายๆ ปัญหาที่ตามมามากมาย รวมไปถึงประสบการณ์ของผู้ที่ใช้ทางม้าลาย

ถึงแม้ว่าทาง กทม. และบางจังหวัด ได้รีบรับฟังเสียงประชาชน (หรือรีบผักชีโรยหน้า?) ปรับปรุงลักษณะทางกายภาพของทางม้าลายในแต่ละจุดกันใหญ่ ตั้งแต่ทาสีขาว ทาสีแดงให้สังเกตง่ายขึ้น ตัดต้นไม้ที่ขึ้นรก ปรับปรุงสัญญาณไฟ หรือไฟกระพริบ ไฟส่องสว่าง หรือทาสีเพิ่มลูกระนาด ให้รถวิ่งมาแล้วรู้สึกสะเทือนก่อนจะถึงทางม้าลาย เป็นต้น

10 ทางม้าลายอันตรายในกรุงเทพ คนข้ามถนน ต้องระวัง! / ถนนพญาไท

แต่เท่าที่พบ หลายสี่แยกไฟแดง รถจักรยานยนต์ก็ยังคงจอดทับทางม้าลาย หรือรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ ไม่ยอมจอดให้คนข้ามทางม้าหลายเช่นเคย หรือฝ่าฝืนกฎจราจรจำนวนมาก จนเกิดอุบัติเหตุซ้ำแล้วซ้ำเล่า เช่น แยกอโศกมนตรี ถึงแม้จะนำกล้อง AI มาใช้ในพื้นที่จับปรับบริเวณทางม้าลาย ก็ยังพบคนทำผิดกฎจราจรมากกว่า 25,000 ครั้ง

แม้ว่าในบางครั้ง คนข้ามถนน และถนน อาจจะเป็นต้นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุเพิ่มขึ้นด้วยก็ตาม เช่น เล่นโทรศัพท์มือถือระหว่างเดินข้ามถนน หรือคิดจะข้ามก็รีบวิ่งตัดหน้ารถเลย หรือขับรถมาในเลนขวาสุด แต่มีรถเลนกลางบังคนข้ามถนนในมุมซ้ายอยู่ เป็นต้น

เรามาดูกันดีกว่า ว่า 10 ทางม้าลายอันตรายในกรุงเทพ ที่คนข้ามทางม้าลายข้ามได้ยากเย็น จะมีถนนเส้นไหนบ้าง ทั้งจากประสบการณ์ตรง และจากชาวโซเชียลเล่ากันมา ไปอ่านและระวังตอนข้ามถนนได้เลยครับ

10 ทางม้าลายอันตรายในกรุงเทพ คนข้ามถนน ต้องระวัง! / ถนนอโศกมนตรี

1. ถนนอโศกมนตรี

ถนนอโศกมนตรี จัดได้ว่าเป็นถนนที่มีรถยนต์วิ่งจอแจมากที่สุดสายหนึ่งของกรุงเทพฯ ทั้งรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ อีกทั้งช่วงกลางถนน ไม่มีพื้นที่สำหรับให้คนข้ามได้ยืนหยุดรอรถอีกฝั่ง ทำให้ข้ามถนนได้ลำบากอีกหนึ่งเส้น

เฉกเช่นเดียวกับที่เราเห็นคลิปแชร์ในสังคมออนไลน์ ที่เจอทั้งรถบีบแตรไล่ รวมถึงต้องระวังหลังอีกต่างหาก แถมยังมีรถทะลึ่ง ใช้ทางม้าลายเป็นที่กลับรถอีกต่างหาก

ซึ่งหากย้อนไปเมื่อปี 2557 บริเวณถนนอโศกมนตรี ก็เกิดเหตุรถฝ่าไฟแดงพุ่งชนพนักงานสาวแกรมมี่ ขณะข้ามทางม้าลายจนเสียชีวิต บริเวณหน้าตึกแกรมมี่มาแล้ว

ยิ่งในเวลากลางคืน ช่วงนี้ถนนอโศกมนตรีค่อนข้างโล่ง เนื่องจากผับบาร์รอบๆ ยังปิดอยู่เยอะ ทำให้รถสามารถใช้ความเร็วได้มาก หลายคันไม่หยุดให้คนข้ามทางม้าลาย ขับผ่านเลย แม้ว่าสัญญาณไฟข้ามถนนจะเป็นสีเขียวก็ตาม!

10 ทางม้าลายอันตรายในกรุงเทพ คนข้ามถนน ต้องระวัง! / ถนนประดิษฐ์มนูธรรม

2. ถนนประดิษฐ์มนูธรรม

ถ้าใครเคยขับรถบนถนนประดิษฐ์มนูธรรม ตั้งแต่ช่วงลาดพร้าว ไปจนถึงรามอินทรา จะสังเกตได้เลยว่าทางม้าลายสำหรับให้คนข้ามถนน มีน้อยมาก และสะพานลอยสำหรับให้คนข้าม ก็มีน้อยมากเช่นกัน

ซึ่งคนข้ามถนนเส้นเลียบด่วนนี้ ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันเลยว่า อันตรายและรอนานมาก และมีรถยนต์วิ่งมาตลอด หรือวิ่งมาอย่างเร็ว จนหาช่วงข้ามได้ลำบากมาก ต้องวัดใจกันเลยทีเดียว

10 ทางม้าลายอันตรายในกรุงเทพ คนข้ามถนน ต้องระวัง! / ถนนราชดำริ

3. ถนนราชดำริ

ถนนราชดำริ สถานที่ยอดฮิตของนักท่องเที่ยว เพราะเป็นย่านที่มีศูนย์การค้า และโรงแรมรวมตัวอยู่มากมาย รวมถึงอยู่ใกล้สถานที่ค้าส่งสินค้าอย่างประตูน้ำอีกด้วย จึงมีผู้คนจอแจมากเป็นพิเศษ

แม้ว่าตรงสี่แยกราชประสงค์ จะมีทางเดินแบบ Skywalk แล้ว ช่วงหน้าห้างเซ็นทรัลเวิล์ด เชื่อมต่อกับ เกษรพลาซ่า และ Big C ราชดำริ ก็มีสะพานลอยข้ามถนนอยู่แล้วถึงสองจุด จึงไม่ค่อยมีปัญหาจากคนเดินข้ามถนนเท่าไหร่ แต่ก็ข้ามได้ลำบาก เพราะไม่มีทางม้าลาย และถนนหลายเลนข้ามลำบาก

แต่จุดที่คนชอบข้ามถนนกันมาก นั่นก็คือ ช่วงสี่แยกประตูน้ำ ตรงสะพานเฉลิมโลก ซึ่งก่อนหน้านั้นจุดนี้ไม่มีทางม้าลายสำหรับข้าม ต้องข้ามถนนแบบเสี่ยงตาย มีรถวิ่งมาตลอดทั้งสองฝั่ง ฝั่งนึงหยุด ฝั่งนึงก็พุ่งมา หลายครั้งที่รถยนต์, รถจักรยานยนต์ ไม่หยุดจอดให้คนข้าม จนมีข่าวเกิดอุบัติเหตุหลายต่อหลายครั้ง

จนต้องทำทางม้าลายขึ้นมาถาวร แต่ก็ต้องข้ามถนนแบบเสี่ยงตายเหมือนเดิม

10 ทางม้าลายอันตรายในกรุงเทพ คนข้ามถนน ต้องระวัง! / ถนนเพลินจิต

4. ถนนเพลินจิต

จุดนี้ก็จัดเป็นย่านท่องเที่ยวเช่นกัน มีทั้งศูนย์การค้า อาคารสำนักงาน รวมไปถึงโรงพยาบาล ก็ขึ้นชื่อเรื่องข้ามถนนลำบาก แม้ว่าจะมีสัญญาณไฟข้ามถนนอยู่รอบด้าน

ด้วยสภาพความจอแจของรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ทำให้คนข้ามถนนที่จอแจมาก ต้องเสียเวลายืนรอข้ามกันนานมาก ยิ่งเป็นจุดข้ามถนนฝั่งเกษรพลาซ่า เมื่อมีสัญญานไฟเขียวให้คนข้ามถนนได้ ก็ดันเป็นจังหวะของรถที่มาจากถนนราชดำริ ได้ไฟเขียวให้เลี้ยวซ้ายได้วิ่งมาตรงนี้พอดี

ทำให้การข้ามถนนโดยมีสัญญานให้คนข้าม ก็ดูไม่มีความปลอดภัยเลย หลายครั้งที่มีคนข้ามถนน แล้วถูกรถชนตรงนี้!

10 ทางม้าลายอันตรายในกรุงเทพ คนข้ามถนน ต้องระวัง! / ถนนชิดลม

5. ถนนชิดลม

ใครจะไปคิดล่ะว่า ถนนเส้นเล็กๆ คั่นกลางระหว่างถนนราชดำริ กับถนนวิทยุ อย่าง “ถนนชิดลม” นี้ จะมีปัญหาเรื่องการข้ามถนนเหมือนกัน!

ปกติ ถ้าเป็นช่วงรถติดแหง็กๆ ตอนเช้า ตอนเย็น ก็พอจะเดินข้ามถนนได้อย่างไม่ยากเย็นนัก แต่ขณะที่รถโล่งๆ ทีนี้ล่ะลำบากหน่อย เพราะรถยนต์ที่วิ่งลงมาจากสะพานชิดลม มักใช้ความเร็วสูง และไม่ยอมชะลอหรือเบรกให้คนข้ามถนนอยู่เป็นประจำ

10 ทางม้าลายอันตรายในกรุงเทพ คนข้ามถนน ต้องระวัง! / ถนนราชปรารภ

6. ถนนราชปรารภ

ถนนราชปรารภ ในย่านประตูน้ำ ก็จัดว่าเป็นถนนที่มีคนใช้รถเป็นจำนวนมาก รวมไปถึงนักท่องเที่ยว พ่อค้าแม่ค้าที่จอแจด้วยเช่นกัน

แต่ถนนสายนี้ ก็มีจุดที่ข้ามถนนได้ยากอยู่หลายจุด นับตั้งแต่ช่วงแยกจตุรทิศ ที่จะมีรถมากันอยู่ตลอดเวลา หรือแม้แต่จะข้ามถนนในยุดอื่นก็ลำบาก เพราะไม่มีเกาะกลางถนนให้ยืนรอรถอีกฝั่งนั่นเอง หรือช่วงมุมถนนรางน้ำ เป็นต้น

10 ทางม้าลายอันตรายในกรุงเทพ คนข้ามถนน ต้องระวัง! / ถนนพระรามที่ 4

7. ถนนพระรามที่ 4

ถนนพระรามที่ 4 มีหลายช่วงอยู่เหมือนกันที่ข้ามถนนได้ลำบาก อาทิ ช่วงตลาดคลองเตย ที่คนนิยมข้ามถนน สะดวกกว่าข้ามสะพานลอย โดยเฉพาะคนที่ต้องหิ้วของเยอะๆ ออกมาจากตลาดคลองเตย เห็นได้ประจำ

และช่วงแยกเกษมราษฏร์ ที่ตำรวจมักจะปล่อยไฟเขียวกับถนนพระรามที่ 4 ขาไปพระโขนงนานมาก รวมถึงปล่อยให้ไฟเขียวรถเลี้ยวขวาเข้าถนนเกษมราษฏร์ด้วย

ทำให้คนที่จะข้ามถนน ต้องไปยืนคาอยู่ที่บริเวณเกาะกลางถนนนานพอสมควร และยังมีพุ่มไม้ที่ค่อนข้างสูง บังคนที่จะข้ามถนนอีกด้วย

10 ทางม้าลายอันตรายในกรุงเทพ คนข้ามถนน ต้องระวัง! / ถนนลาดพร้าว

8. ถนนลาดพร้าว

ถนนลาดพร้าว อันนี้ก็จัดเป็นถนนที่มีรถยนต์คับคั่งเหมือนกัน แต่บางจุดก็ขึ้นชื่อว่าข้ามถนนได้ยาก และอันตรายอยู่ …

ถนนลาดพร้าวตอนต้น ช่วงตั้งแต่ห้าแยกลาดพร้าว – สี่แยกรัชดา-ลาดพร้าว เมื่อรถที่วิ่งลงมาจากสะพานตรงห้าแยกลาดพร้าว มักใช้ความเร็วสูงหากรถโล่ง ทำให้คนเดินข้ามถนนได้ลำบาก ยิ่งสะพานลอยแต่ละจุดที่อยู่ค่อนข้างห่างกันพอสมควร และไม่มีทางม้าลายบนถนนด้วย ตอนข้ามต้องวัดใจกันเลยทีเดียว

10 ทางม้าลายอันตรายในกรุงเทพ คนข้ามถนน ต้องระวัง! / ถนนราชดำเนินกลาง

9. ถนนราชดำเนินกลาง

ถนนที่จัดได้ว่าสวยที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ อย่าง ถนนราชดำเนินกลาง ก็จะไม่ใช่ว่าไม่มีปัญหาเรื่องคนข้ามถนนตรงทางม้าลาย แต่จุดนี้กลับเป็นจุดที่ไฟเขียวให้คนข้ามถนนได้ และไฟเขียวให้รถข้ามมาได้ด้วย!

ทางม้าลายบริเวณแยกอนุสรณ์สถาน​ 14​ ตุลา​ หากต้องการข้ามไปฝั่งหอสมุดเมืองกรุงเทพมหานคร​ พบว่า​ เมื่อสัญญาณไฟคนข้ามเป็นสีเขียว แต่ก็ยังข้ามไม่ได้​ เพราะมีรถเลี้ยวซ้ายจาก​ ถ.ตะนาว​ มาตลอดเวลา​!

แถมเมื่อถึงเกาะกลางแล้วยังต้องระวังรถด้านซ้ายมือด้วย เนื่องจากสัญญาณไฟบนถนนราชดำเนินกลาง ไฟเขียวให้รถเลี้ยวขวาเข้าถนนตะนาวได้ ช่างลำบากยากเย็น

10 ทางม้าลายอันตรายในกรุงเทพ คนข้ามถนน ต้องระวัง! / ถนนราชวิถี

10. ถนนราชวิถี

ถนนราชวิถี จัดเป็นถนนที่มีรถค่อนข้างเยอะแทบจะตลอดทั้งวัน อีกทั้งยังเป็นย่านที่มีคนป่วย หรือผู้สูงอายุมากันเยอะ เพราะมีโรงพยาบาลใหญ่ๆ อยู่หลายโรงพยาบาล

และทางม้าลายหลายจุด เช่น หน้าโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า มักจะมีผู้สูงอายุข้ามกันอยู่เสมอ ทำให้คนขับรถหลายคนมักหงุดหงิด หรือรอคนข้ามถนนช้าจนรถติด จึงไม่ค่อยยอมจอดให้คนข้ามถนนไป

เป็นอย่างไรบ้างครับ ใครที่เคยมีโอกาสข้ามถนนใน 10 เส้นทางนี้ มาบอกเล่าประสบการณ์กันได้นะครับ

ถ้าจะให้ทางม้าลายในไทยใช้แล้วปลอดภัย คงต้องทำไม้กั้นแบบทางรถไฟครับ

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

แต่ถ้าใครอยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์ไฟฟ้าคันใหม่ มาขายรถกับทาง CARRO Express ได้ที่  https://th.carro.co/sell-car/express หรือถ้าหากต้องการซื้อรถคุณภาพเยี่ยม CARRO เราก็มีพร้อมให้คุณเลือกอย่างมากมายด้วยเช่นกัน พร้อมรับประกันสูงสุดถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร กับ CARRO Automall ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://th.carro.co/taladrod/

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

หากใครอยากซื้อรถมือสองสภาพเยี่ยม ราคาสบายๆ และมั่นใจได้ในเรื่องของความสะอาดทุกคัน CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ ตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลา 1 นาที!

ซึ่งรถของ CARRO Automall เรามีให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพอย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 200 จุด รวมไปถึงการการปรับสภาพ (Car Reconditioning) ด้วยทีมช่างมืออาชีพ ที่ผ่านการผึกอบรมตามมาตรฐานคาร์โรกว่า 40 คน พร้อมให้บริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว กว่า 20 คัน/วัน

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์

เรารับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร! (CARRO Quality Assurance) อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม กับ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

รวมอัตราค่าที่จอดรถห้างสรรพสินค้า 10 ย่านดังในกรุงเทพฯ

อีกหนึ่งข้อสงสัยที่คนเมืองกรุงโดยเฉพาะสาวๆ ต้องคิดคำนวณกันแบบไม่ตก ในระหว่างการเดินทางไปทำธุระบางอย่าง หรือเลือกช้อปสินค้าต่างๆ ที่ห้างสรรพสินค้า ว่าการคิดค่าที่จอดรถของแต่ละที่นั้น มีอัตราเท่าไร มีค่าธรรมเนียมต่างหากหรือไม่ จอดห้างไหนที่ใกล้ๆ กัน แต่มีอัตราค่าจอดที่ถูกกว่า

ซึ่งแค่สำหรับการวนหาที่จอดรถนั้นเหมือนดั่งหาขุมทรัพย์แล้ว เราต้องช้อปให้ถึงเท่าไร หรือใช้บริการอะไร ถึงจะได้จอดฟรี!

วันนี้ Carro จึงได้รวบรวมมาให้คุณที่นี้แล้ว สำหรับ 10 ย่านดัง กับค่าที่จอดรถในห้างสรรพสินค้ายอดนิยม รวมถึง Community Mall ยอดนิยมในกรุงเทพฯ ประจำปี 2565 จะมีที่ไหนบ้าง ไปดูกัน

Ladprao-Area

1. ลาดพร้าว

มาเริ่มกันที่ย่านแรกอย่าง “ลาดพร้าว” ซึ่งย่านนี้มีห้างสรรพสินค้าดังคือ CentralPlaza Lardprao, Union Mall มีอัตราอัตราค่าที่จอดรถ ดังนี้

  • CentralPlaza Lardprao (เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว) เรทสตาร์ท 1 ชั่วโมงแรกฟรี 3 ชั่วโมงต่อมาคิด 20 บาท, 4 ชั่วโมงเป็นต้นไป คิด 50 บาท แต่คุณสามารถแสตมป์บัตรได้ โดยนำใบเสร็จสินค้าราคา 2,000 บาท เป็นส่วนลดค่าบริการจอดรถ 3 ชั่วโมงแรก (มูลค่า 20 บาท), ใบเสร็จสินค้าราคา 4,000 บาท ส่วนลดค่าบริการจอดรถ 4 ชั่วโมงแรก (มูลค่า 40 บาท) และใบเสร็จสินค้าราคา 7,000 บาท เป็นส่วนลดค่าบริการจอดรถ 6 ชั่วโมงแรก (มูลค่า 60 บาท)
  • ส่วนบริการ Quick Parking บริการที่จอดรถแบบเร่งด่วน ชั้น G จอดฟรี!! 2 ชั่วโมงแรก ชั่วโมงถัดไป 50 บาท สำหรับลูกค้าที่ใช้บริการไม่เกิน 2 ชม. สามารถจอดรถได้ที่ชั้น G
  • และตั้งแต่ 4 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป จอดฟรี!! 60 นาทีแรก ชั่วโมงถัดไป 50 บาท สามารถจอดรถได้ที่ชั้น G (ทางเข้าลานจอดรถป้อม 1, ป้อม 2)
  • Union Mall (ยูเนี่ยน มอลล์) ศูนย์การค้ายูเนี่ยน มอลล์ บริการจอดรถฟรี 3 ชั่วโมงแรก (*หลังจากนั้นคิดค่าบริการตามอัตราปกติ หากจอดรถค้างคืน เหมาจ่าย 500 บาท) มีผลตั้งแต่วันที่ 3 กันยายน 2564 เป็นต้นไป
  • Big C Extra ลาดพร้าว 2 (บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า ลาดพร้าว 2) บริการจอดรถฟรี 3 ชั่วโมงแรก หากเกิน 2 ชั่วโมง คิดค่าบริการชั่วโมงละ 20 บาท
  • Central Festival Eastville (เซ็นทรัล เฟสติวัล อีสต์วิลล์) จอดฟรีตลอดวัน ยกเว้น QUICK PARKING จอดรถฟรี 2 ชั่วโมงแรก หากเกิน 2 ชั่วโมง คิดค่าบริการ 50 บาท ทุกๆ 1 ชั่วโมง (เศษของนาทีคิดเป็น 1 ชั่วโมง)
  • The Mall บางกะปิ (เดอะมอลล์ บางกะปิ) จอดรถฟรีทั้งวัน ตั้งแต่เวลา 6.00-23.00 น. ตั้งแต่วันที่ 3 กันยายน 2564

Siam-Area

2. สยาม

ส่วนย่านที่สองคือ “สยาม” เป็นอีกหนึ่งย่านที่ใครหลายคนคงคิดว่ามีราคาอัตราค่าที่จอดรถที่ค่อนข้างแพง แต่ทว่าหากคุณลองเทียบกันดูแล้ว ก็จะพบว่ามันไม่ได้แพงอย่างที่คุณคิดสักเท่าไร

  • Siam Paragon (สยามพารากอน) และ Siam Car Park คิดอัตราเดียวกัน คือ
    – จอดรถฟรี 2 ชั่วโมงแรก ชั่วโมงต่อไปเริ่มที่ 30 บาท / ชั่วโมงที่ 7 เป็นต้นไป ชั่วโมงละ 60 บาท (ลูกค้าบัตร One siam จอดรถฟรี 6 ชั่วโมง)
    – จอดฟรี 3 ชั่วโมงแรก : เมื่อดูหนังที่ Paragon Cineplex, เข้าชม Sea Life Bangkok Ocean World หรือเล่น Fitness First Platinum Siam Paragon
    – จอดฟรี 4 ชั่วโมงแรก : เมื่อแสดงใบเสร็จ 800 บาทขึ้นไป
    – จอดฟรี 6 ชั่วโมงแรก : เมื่อแสดงใบเสร็จ 3,000 บาทขึ้นไป หรือใช้บริการที่ KidZania Bangkok
    – จอดฟรี 8 ชั่วโมงแรก : เมื่อแสดงใบเสร็จ 6,000 บาทขึ้นไป
  • Siam Center (สยามเซ็นเตอร์) ,Siam Discovery (สยามดิสคัพเวอรี่) จอดรถฟรี 2 ชั่วโมงแรก (เฉพาะเสาร์-อาทิตย์) ชั่วโมงต่อไปชั่วโมงละ 30 บาท แต่หากจอดเกิน 6 ชั่วโมงคิดชั่วโมงละ 60 บาท ซึ่งคุณสามารถลดค่าจอดด้วยการซื้อสินค้าครบตามกำหนดดังนี้ 800 บาท ฟรี 2 ชั่วโมง, 3,000 บาท ฟรี 4 ชั่วโมง

แต่ในปี 2564 นี้ Siam Discovery , Siam Center และ Siam Paragon ให้จอดรถฟรีตั้งแต่ 18.00 – 22.00 น.!

  • Siam Square One (สยามสแควร์วัน) ฟรีแค่ 15 นาทีแรก ชั่วโมงถัดไปคิดชั่วโมงละ 20 บาท ไม่มีการแสตมป์ส่วนลดของบัตรจอดรถ
  • Siam Square (สยามสแควร์) หรือฝั่งตึกสยามสแควร์ เริ่มจอดฟรี 15 นาที ชั่วโมงแรก 10 บาท ส่วนชั่วโมงที่ 2-4 ชั่วโมงละ 20 บาท และชั่วโมงที่ 5 เป็นต้นไปชั่วโมงละ 30 บาท
  • อาคารวิทยกิตต์ (ศูนย์หนังสือจุฬา) 4 ชั่วโมงแรก ชั่วโมงละ 10 บาท ชั่วโมงที่ 5 ขึ้นไป ชั่วโมงละ 20 บาท
  • MBK Center (มาบุญครอง) 4 ชั่วโมงแรก เหมาจ่าย 40 บาท หลังจากนั้นชั่วโมงละ 20 บาท
  • หอศิลป์กรุงเทพฯ 15 นาทีแรกจอดฟรี 15 นาที ถึง 2 ชั่วโมง 20 บาท หากชั่วโมงที่ 3-4 ชั่วโมงละ 30 บาท และ 5 ชั่วโมงขึ้นไป ชั่วโมงละ 40 บาท หากชมนิทรรศการ สาารถประทับตราบัตรจอดรถฟรี 2 ชั่วโมง ที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ชั้น 5

Samyan-Area

3. สามย่าน

ส่วนย่านที่สามคือ “สามย่าน” เป็นอีกหนึ่งย่านที่พัฒนาจากตึกแถวเก่า ให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว และศูนย์กลางการเรียนรู้ หรือ Edutainment Center ที่ขยายออกมาจากฝั่งสยาม เอาใจคนที่อยู่ในฝั่งสี่พระยา ถนนพระรามที่ 4 ให้มาเจอะเจอกัน มีทั้งแหล่งชิม แหล่งช้อป พร้อมโซนให้บริการ 24 ชั่วโมง และอุโมงค์ สามย่านมิตรทาวน์ ที่หลายคนชอบมาถ่ายรูปกัน

Ratchaprasong-Area

4. ราชประสงค์ – ชิดลม – เพลินจิต

ขึ้นชื่อว่า “ราชประสงค์” ในย่านนี้จัดว่าเป็นศูนย์รวมห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ และร้านค้าดังๆ เอาไว้มากมายนานหลายสิบปี รวมไปถึงยังเป็นย่านธุรกิจ โรงแรม โรงพยาบาล และยังเป็นที่ชุมนุมทางการเมืองอีกด้วย เป็นย่านที่เรียกได้ว่าคึกคักที่สุดในกรุงเทพฯ รวมไปถึงรถติดที่สุดในกรุงเทพฯ อีกจุดด้วย

  • CentralWorld (เซ็นทรัลเวิลด์) จอดรถฟรี 2 ชั่วโมงแรก และเมื่อซื้อสินค้าหรือบริการตั้งแต่ 500 บาทขึ้นไป นำไปประทับตราที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ รับฟรีเพิ่มอีก 5 ชม. ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป
  • Amarin Plaza (อัมรินทร์พลาซ่า) ค่าจอดรถ 3 ชั่วโมง 10 บาท เพียง Shopping ในอัมรินทร์ พลาซ่า และนำไป Stamp ที่ประชาสัมพันธ์ได้ค่ะ
  • Gaysorn Village (เกสรวิลเลจ) จอดฟรี 30 นาทีแรก ชั่วโมงต่อไปคิดชั่วโมงละ 30 บาท ซื้อสินค้าครบตั้งแต่ 500 บาท รับสิทธิ์จอดฟรี 4 ชั่วโมง
  • บิ๊กซี ราชดําริ จอดฟรี 1 ชั่วโมง
  • The Market Bangkok จอดฟรี 2 ชั่วโมง ชั่วโมงที่ 3-7 ชั่วโมงละ 20 บาท ชั่วโมงที่ 8 เป็นต้นไป ชั่วโมงละ 50 บาท
  • Central Chidlom (เซ็นทรัลชิดลม) จอดฟรี 2 ชั่วโมงแรก ชั่วโมงที่ 3-5 ชั่วโมงละ 30 บาท ชั่วโมงที่ 6 ขึ้นไป คิดชั่วโมงละ 60 บาท
  • Central Embassy (เซ็นทรัลเอ็มบาสซี) จอดฟรี 2 ชั่วโมงแรก ชั่วโมงที่ 3-5 ชั่วโมงละ 30 บาท ตั้งแต่ชั่วโมงที่ 6 คิดชั่วโมงละ 60 บาท – ใช้จ่ายครบ 800 บาทขึ้นไป ฟรี 4 ชั่วโมงแรก ใช้จ่ายครบ 3,000 ฟรี 6 ชั่วโมงแรก ใช้จ่ายครบ 6,000 ฟรี 8 ชั่วโมงแรก
  • The Mercury Ville @Chidlom (เดอะเมอร์คิวรี่ วิลล์ แอท ชิดลม) จอดฟรี 15 นาทีแรก เกิน 15 นาที นับเป็น 1 ชั่วโมง คิดอัตราค่าจอด 50 บาท/ชั่วโมง ส่วนวันเสาร์ – อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ จอดฟรี! 3 ชั่วโมง

Pratunam-Area

5. ประตูน้ำ

ย่านค้าส่งสินค้าเสื้อผ้า และของประดับที่เก่าแก่ในกรุงเทพฯ มาพร้อมความคับคั่งของรถที่ติดขัดแทบทุกวัน

Sukhumvit-Area

6. สุขุมวิท

ย่านสุขุมวิท จัดว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวและย่านธุรกิจอันดับต้นๆ ของกรุงเทพฯ เลย เป็นศูนย์รวมของชาวต่างประเทศ โดยเฉพาะญี่ปุ่น และยังมีผับ บาร์ ต่างๆ มากมาย ที่จอดรถย่านนี้อาจหายากหน่อย มาดูกันว่าค่าจอดรถแต่ละที่ แพงเท่าไหร่กัน

  • Korean Town (โคเรียนทาวน์) เข้าไปก็จ่ายก่อนเลย 30 บาท ถ้าเกิน 2 ชั่วโมง จ่ายเพิ่มอีกชั่วโมงละ 20 บาท
  • Terminal21 Asok Shopping Mall (เทอร์มินอล 21) ชั่วโมงที่ 1 – 3 จอดฟรี ชั่วโมงที่ 4 – 6 ชั่วโมงละ 20 บาท ชั่วโมงที่ 7 ชั่วโมงละ 20 บาท ตั้งแต่ชั่วโมงที่ 8 ชั่วโมงละ 50 บาท หากซื้อสินค้าครบ 500 บาท จอดฟรี 6 ชั่วโมง
  • The Emporium / The EmQuertier (ดิ เอ็มโพเรียม และ ดิ เอ็มควอเทียร์) จอดฟรี 2 ชั่วโมงแรก เมื่อซื้อสินค้าและบริการครบ 500 บาท จอดฟรี 4 ชั่วโมง (รวม 2 ชั่วโมงแรก) ชั่วโมงถัดไป ชั่วโมงละ 50 บาท (สำหรับลูกค้าบัตร SCB M จอดรถฟรี 4 ชั่วโมง)
  • Rain Hill Sukhumvit 47 (เรน ฮิลล์ สุขุมวิท 47) 30 นาทีแรกจอดฟรี!!! ซื้อสินค้า/บริการต่อวัน 200 บาทขึ้นไป จอดฟรี 2 ชั่วโมง ชั่วโมงถัดไปชั่วโมงละ 20 บาท เฉพาะโรงเรียนสอนพิเศษ จอดฟรี 4 ชั่วโมง ชั่วโมงถัดไปชั่วโมงละ 20 บาท แสตมป์บัตรได้ที่ เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ชั้น L1
  • J Avenue Thonglor (เจ อเวนิว ทองหล่อ) ค่าที่จอดรถ 3 ชั่วโมงแรก 20 บาท ชั่วโมงต่อไป ชั่วโมงละ 40 บาท
  • Gateway Ekamai (เกทเวย์ เอกมัย) จอดฟรี 2 ชั่วโมงแรก ชั่วโมงที่ 3-6 ชั่วโมงละ 20 บาท ชั่วโมงที่ 7 เป็นต้นไป ชั่วโมงละ 50 บาท
  • Fifty Fifth Thonglor (55 ทองหล่อ) 3 ชั่วโมงแรก 20 บาท ชั่วโมงที่ 4 ชั่วโมงละ 30 บาท ชั่วโมงที่ 5 ขึ้นไป ชั่วโมงละ 100 บาท
  • Park Lane Bangkok Ekamai (พาร์ค เลน เอกมัย) ปั้มบัตรจอดรถ จอดฟรี 3 ชั่วโมง
  • DONKI Mall Thonglor (ดองกิ มอลล์ ทองหล่อ) เปิดทุกวัน 8.00 – 24,00 น. ซื้อของครบ 100 บาท แล้วไปแสตมป์ค่าจอดรถ 3 ชั่วโมงแรกเหมาจ่าย 20 บาท ชั่วโมงที่ 4-5 ชั่วโมงละ 20 บาท ชั่วโมงที่ 6 ชั่วโมงละ 50 บาท
  • Big C Ekamai (บิ๊กซี เอกมัย) จอดฟรี 15 นาทีแรก ไม่มีตราประทับร้านค้า ชั่วโมงละ 30 บาท มีตราประทับร้านค้า 2 ชั่วโมงแรก ฟรี
  • W District (ดับเบิ้ลยู ดิสทริค) ตึก E88 จอดฟรี 1 ชั่วโมง (เมื่อมีตราประทับของ W District) หลังจากนั้นคิดค่าจอดชั่วโมงละ 20 บาท สำหรับลูกค้างานสัมมนาหรือ Event จอดฟรี 10 ชั่วโมง (เมื่อมีตราประทับของ W District)
  • Summer Hill @ BTS Phrakhanong (ซัมเมอร์ฮิลล์ @ BTS พระโขนง) ค่าจอดรถ ชั่วโมงละ 40 บาท
  • Habito Mall (ฮามิโตะ มอลล์) จอดฟรี 30 นาทีแรก จอดฟรี 1 ชั่วโมงแรก (เมื่อมีใบเสร็จ 100 บาทขึ้นไป หรือมีตราประทับ) จอดฟรีเพิ่ม 1 ชั่วโมง (ทุกยอดใบเสร็จ 200 บาท) กรณีไม่มีใบเสร็จ รถยนต์ชั่วโมงละ 20 บาท
  • MaxValu สุขุมวิท 71 จอดฟรี 2 ชั่วโมงแรก
  • Big C Extra อ่อนนุช (บิ๊กซี อ่อนนุช) จอดฟรี 3 ชั่วโมงแรก วันเสาร์-อาทิตย์ จอดฟรีตลอดวัน
  • Century The Movie Plaza อ่อนนุช (เซ็นจูรี่ เดอะมูฟวี่พลาซ่า) จอดฟรี 2 ชั่วโมงแรก ชั่วโมงต่อไปคิดชั่วโมงละ 40 บาท
  • Lotus’s อ่อนนุช (โลตัส อ่อนนุช) จอดฟรี 3 ชั่วโมงแรก
  • The Phyll Sukhumvit 54 (เดอะฟิลล์ สุขุมวิท 54) จอดฟรี 2 ชั่วโมงแรก ชั่วโมงที่ 3 และ 4 ค่าบริการชั่วโมงละ 20 บาท ตั้งแต่ชั่วโมงที่ 5 ขึ้นไป คิดค่าบริการชั่วโมงละ 40 บาท
  • One Udomsuk (โครงการวันอุดมสุข) ชั่วโมงละ 30 บาท

Khlongtoei-Area

7. คลองเตย

ย่านคลองเตย นอกจากจะเป็นแหล่งชุมชนขนาดใหญ่แล้ว ยังเป็นแหล่งธุรกิจ ท่าเรือ และมีสำนักงานต่างๆ เป็นจำนวนมากด้วย

  • K Village (เค วิลเลจ สุขุมวิท 26) 20 นาทีแรกจอดฟรี อัตราค่าที่จอดรถปกติ ชั่วโมงละ 20 บาท (กรณีไม่มีประทับตรา E-Stamp)
  • Suanplern Market (สวนเพลิน มาร์เก็ต) ประทับตราร้าน จอดฟรี 3 ชั่วโมง
  • Big C พระราม 4 (บิ๊กซี พระราม 4) จอดฟรี 3 ชั่วโมงแรก
  • Lotus’s พระราม 4 (โลตัส พระราม 4) จอดฟรี 3 ชั่วโมงแรก

Pinklao-Area

8. ปิ่นเกล้า

มาสู่ย่านเมืองเก่าอย่าง ย่านปิ่นเกล้า ที่รวมแหล่งท่องเที่ยวและสถานที่สำคัญต่างๆ ไว้โดยรอบ

Ratchadapisek-Area

9. รัชดา – พระรามเก้า

ย่าน รัชดา-พระรามเก้า เป็นอีกย่านที่คึกคักทั้งเวลากลางวันและกลางคืน ด้วยมีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย ตลาดนัดทั้งเล็กและใหญ่ รวมไปถึงห้างสรรพค้าหลากหลายรูปแบบ ที่ให้คุณได้เลือกช้อปสินค้าได้อย่างจุใจ จะมีค่าที่จอดในอัตราเท่าไหร่ มาดูกัน

  • Esplanade Ratchadaphisek (เอสพลานาด รัชดาภิเษก) จอดฟรีใน 30 นาทีแรก ชั่วโมงต่อไปคิดเป็นชั่วโมงละ 70 บาท หากคุณซื้อสินค้าหรือบริการครบ 500 บาท ให้นำใบเสร็จไปประทับตรา ใช้เป็นส่วนลดค่าจอดรถ 4 ชั่วโมงแรก 20 บาท ถ้าซื้อสินค้าหรือบริการครบ 1,500 บาท ให้นำใบเสร็จไปประทับตรา ใช้เป็นส่วนลดค่าจอดรถ 5 ชั่วโมงแรก 20 บาท ส่วนลูกค้าที่ใช้บริการโรงภาพยนตร์ หรือ Blu-O ประทับตราจอดรถได้ 5 ชั่วโมงแรก 20 บาท
  • Big C Extra Ratchadaphisek (บิ๊กซี รัชดาภิเษก) จอดฟรี 3 ชั่วโมง ชั่วโมงต่อไปชั่วโมงละ 50 บาท
  • The Street Ratchada (เดอะ สตรีท รัชดา) รถยนต์ จอดฟรี 2 ชั่วโมงแรก ชั่วโมงที่ 3 ชั่วโมงละ 20 บาท ส่วนชั่วโมงที่ 4 ชั่วโมงละ 30 บาท มีใบเสร็จมูลค่า 500 บาทขึ้นไป จอดฟรีเพิ่ม 2 ชั่วโมง ส่วนรถจักรยานยนต์ ฟรี 3 ชั่วโมงแรก ชั่วโมงถัดไปคิดชั่วโมงละ 20 บาท
  • CentralPlaza Grand Rama IX (เซ็นทรัลพระราม 9) จอดฟรี 2 ชั่วโมงแรก ทุกชั่วโมงถัดไป 20 บาท/ชั่วโมง หากซื้อสินค้า หรือบริการจากร้านค้าในศูนย์การค้า (และจากอาคาร G Tower เฉพาะวันหยุด, เสาร์ และอาทิตย์) 500 บาท ขึ้นไป เพิ่มเวลาจอดรถฟรี อีก 2 ชั่วโมง และ 1,500 บาท ขึ้นไป เพื่อเพิ่มเวลาจอดรถฟรี อีก 4 ชั่วโมง
  • Fortune Town (ฟอร์จูนทาวน์) วันจันทร์-ศุกร์ คิดค่าที่จอดรถเริ่มต้นที่ จอดรถฟรี 1 ชั่วโมง ส่วนในชั่วโมงที่ 2-4 คิดค่าบริการชั่วโมงละ 20 บาท เศษของชั่วโมงคิดเป็น 1 ชั่วโมง และในวันเสาร์, วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ จอดรถฟรี 3 ชั่วโมงแรก ชั่วโมงถัดไปคิดค่าบริการชั่วโมงละ 20 บาท เศษของชั่วโมงคิดเป็น 1 ชั่วโมง
  • CW Tower (ซีดับเบิลยู ทาวเวอร์) จอดฟรี 30 นาทีแรก หากสแกนบัตร จอดฟรี 1 ชั่วโมง จากนั้นชั่วโมงละ 30 บาท

Rangsit-Area

10. รังสิต

จบท้ายด้วย ย่านที่ไม่ได้อยู่ในตัวเมืองกรุงเทพฯ เท่าไหร่ แต่ด้วยความเจริญทำให้เราไม่พูดถึงคงไม่ได้อย่างย่าน รังสิต ที่มีห้างสรรพสินค้ายักษ์ใหญ่อย่าง Future Park Rangsit และ Zpell อีกทั้งยังมี Big C, Tesco lotus และ Zeer Rangsit

  • Future Park Rangsit (ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต) + Zpell (สเปลล์) จอดรถฟรี 4 ชั่วโมง ชั่วโมงถัดไป ชั่วโมงละ 10 บาท ซื้อสินค้าภายในศูนย์การค้าครบ 500 บาทขึ้นไป รับสิทธิ์จอดฟรี เพิ่มอีก 4 ชั่วโมง ส่วนลูกค้ากลุ่มโรงเรียน ให้ Stamp จอดฟรีเพิ่ม 8 ชั่วโมง ในวันที่มีเรียนได้ *สิทธิ์บัตร Member / บัตรสมาชิก และสิทธิพิเศษอื่นๆ สอบถามได้ที่ เคาเตอร์ประชาสัมพันธ์ หากจอดก่อน 7.00 สามารถจอดชั้น B (มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม)
  • Big C Rangsit (บิ๊กซี รังสิต) จอดฟรีตลอดทั้งวัน
  • Lotus Rangsit (โลตัส รังสิต) จอดฟรี 3 ชั่วโมงแรก ชั่วโมงถัดไปคิดชั่วโมงละ 50 บาท
  • Zeer Rangsit (เซียร์ รังสิต) จอดรถฟรี 3 ชั่วโมง ชั่วโมงต่อไปชั่วโมงละ 20 บาท

โดยรวมแล้วระบบการคิดอัตราค่าที่จอดรถของแต่ละห้างสรรพสินค้ายอดนิยมในย่านดังต่างๆ ในกรุงเทพฯ ค่อนข้างที่จะหลากหลายพอสมควร ซึ่งหากคุณลองบวกลบกันดูนั้นจะพบว่า หากไม่จอดแช่เกิน 5-6 ชั่วโมง ก็คุ้มค่าพอที่จะเสียเงิน โดยที่ไม่ประทับตราหรือแสตมป์บัตรอะไร

ซึ่งนอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับธุระของคุณอีกด้วย เพราะหากมีการซื้อสินค้าและใช้บริการอะไรบ้าง ตามกำหนดของแต่ละห้างสรรพสินค้า คุณก็ได้จอดฟรีแบบไม่ต้องเสียเงิน ทำให้คุ้มค่าโดยไม่ต้องเสียเงินซ้ำซ้อนค่ะ

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่ มาขายรถกับทาง Carro Express สิ! คลิกเลยที่ https://th.carro.co/sell-car/express รับรองได้เงินเร็ว ไว ทันใจแน่นอน!

Carro Automall ตลาดรถ

ส่วนใครสนใจจะซื้อรถมือสอง Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

หมายเหตุ : *ข้อมูลอัตราค่าที่จอดรถห้างสรรพสินค้า 10 ย่านดังในกรุงเทพฯ ข้างต้นนี้ เป็นข้อมูลที่ Update ณ เดือนสิงหาคม 2565 เมื่อเวลาผ่านไปอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ โปรดสอบถามรายละเอียดหรืออัตราค่าจอดรถ ที่ห้างสรรพสินค้านั้นๆ อีกครั้ง

Beer-Garden-Event-In-Bangkok

เดือน “ธันวาคม” นี้ ในเดือนที่มีวันหยุดเพียบ แม้ว่าอากาศจะหนาวบ้าง ร้อนบ้าง แต่ถ้าจะพูดถึงวันสุดสัปดาห์ของการทำงาน (เช่น วันศุกร์ หรือวันเสาร์) เหล่ามนุษย์เงินเดือนอย่างเราๆ ในวัยทำงาน มักนิยมหาแหล่งพบปะสังสรรค์กับเพื่อนๆ

และยิ่งใกล้ช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ แล้วล่ะก็ เชื่อว่าหลายคนต้องนึกถึงลานเบียร์ เพื่อนั่งดื่มเบียร์ ดื่มด่ำกับบรรยากาศชิลล์ๆ แน่นอน บรรดาค่ายเบียร์ยักษ์ใหญ่ จึงต้องจัดงานแบบดาวกระจายไปหลายๆ ที่ในกรุงเทพฯ

ทาง CARRO จึงรวมแหล่งลานเบียร์ ที่เหมาะสังสรรค์ยามราตรีในกรุงเทพฯ และลานเบียร์ใหญ่ๆ ในกรุงเทพฯ ที่ให้เพื่อนๆ ไปพักผ่อนหลังเลิกงาน และได้สนุกสนานกันอย่างเต็มที่ แต่จะมีที่ไหนกันบ้าง ไปอ่านกันได้เลย

Beer-Garden-Event-In-Bangkok

1. Parc Paragon @ Siam Paragon

ลาน Parc Paragon (พาร์ค พารากอน) อีกหนึ่งย่านใจกลางเมืองที่หลายคนชอบเดินช้อปปิ้ง มีลานเบียร์ที่เปิดให้บริการกันทุกปลายปี ซึ่งก็เป็นยี่ห้อของค่ายสีเขียว แต่ถ้าใครไม่ติดอะไร ก็ดื่มกันได้ และเป็นอีกย่านที่สะดวกทั้งการเดินทาง หรือไปเที่ยวที่อื่นต่อ

การเดินทาง : รถเมล์สาย 15, 16, 25, 40, 48, 54, 73, 73ก, 79, 204, 501, 508 / BTS สยาม  / Maps
เวลาทำการ (ลานเบียร์) : 17.00 น. – 00.00 น.

Beer-Garden-Event-In-Bangkok

2. Sathorn Square

เวลาเดินทางหรือแวะมาเยือนย่านสาทร หลายๆ คน คงนึกถึงตึก Sathorn Square (สาทรสแควร์) เป็นอันดับต้นๆ เพราะเป็นแหล่งที่รวมคนทำงานออฟฟิศที่เยอะสุดเลยก็ว่าได้ และใครที่เหนื่อยล้าจากงาน อยากจะสังสรรค์ผ่อนคลายก็มาได้ที่ลาน Sathorn Square ได้ทุกค่ำคืนเลยช่วงนี้

การเดินทาง : รถเมล์สาย 17, 77, 149 / BRT สาทร / BTS ช่องนนทรี / Maps
เวลาทำการ (ลานเบียร์) : 17.00 น. – 00.00 น.

Beer-Garden-Event-In-Bangkok

3. Asiatique The Riverfront

ใครที่อยากดื่มดั่มกับรรยากาศชิลล์ๆ แนะนำให้มาที่นี่เลย Asiatique The Riverfront (เอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟร้อนท์) เพราะด้วยเป็นแลนด์มาร์คสุดอลังการ อีกทั้งมีบรรยากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยาสุดโรแมนติก ไม่มีที่ไหนให้ได้แบบนี้อีกแล้ว

การเดินทาง : รถเมล์สาย 1, 15, 17, 75, 504, 547 / รถสองแถวสาย 1273 / BTS สะพานตากสิน และต่อด้วย Shuttle Boat / Maps
เวลาทำการ (ลานเบียร์) : 17.00 น. – 00.00 น.

Beer-Garden-Event-In-Bangkok

4. Mega Bangna

ใครที่อยู่แถวพัฒนาการ ศรีนครินทร์ บางนา ลาดกระบัง และสมุทรปราการ คงคุ้นเคยกับห้าง Mega Bangna (เมกาบางนา) กันเป็นอย่างดี เพราะเป็นห้างที่รวมแหล่งสาธารณูปโภคทุกสิ่งทุกอย่างเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งถ้าใครต้องการไปลานเบียร์นั่งชิลล์ๆ ย่านชานเมืองกรุงเทพฯ สามารถมาที่นี่ได้เลย ลองแวะเวียนไปกันดูนะ

การเดินทาง : รถเมล์สาย 2, 23, 145, 180, 207 / BTS สถานีอุดมสุข แล้วต่อ Shuttle Bus ฟรี / Maps
เวลาทำการ (ลานเบียร์) : 17.00 น. – 00.00 น.

Beer-Garden-Event-In-Bangkok

5. The Street Ratchada

ห้างใจกลางเมืองกรุงเทพฯ ย่านรัชดา อย่าง The Street Ratchada (เดอะสตรีท รัชดา) เป็นแหล่ง Hang Out สุดชิคที่สามารถกิน ดื่ม ช้อปได้ 24 ชั่วโมง เหมาะสำหรับวัยรุ่นและวัยทำงานที่ไม่ยึดติดกับเวลา ทำให้ที่นี้เป็นอีกที่หนึ่งที่ไม่ควรพลาด

การเดินทาง : รถเมล์สาย 36, 54, 73, 73ก, 136, 137, 179, 185, 206, 514, 517 / MRT  ศูนย์วัฒนธรรม  / Maps
เวลาทำการ (ลานเบียร์) : 17.00 น. – 00.00 น.

Groove-CentralWorld

6. Groove @ CentralWorld

แม้ว่าลานหน้าเซ็นทรัลเวิล์ด ที่จะเคยเป็นลานเบียร์ในตำนานอีกแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ ที่ไม่ได้ถูกจัดแล้ว แต่ในอาณาบริเวณเดียวกันอย่าง Groove @ CentralWorld (กรูฟ @ เซ็นทรัลเวิลด์) ที่เป็น Lifestyle Dining & Gastro Bar นานาชาติ มีร้านอาหารแบรนด์ดังระดับโลกมารวมกัน ที่ภายนอกตกแต่งสไตล์ Futuristic แต่ข้างในตกแต่งด้วยวัสดุธรรมชาติอย่างไม้และต้นไม้ช่วยเพิ่มความร่มรื่น ซึ่งมีหลายร้านให้คุณได้นั่งดื่มเบียร์ชิวๆ พร้อมอาหารคอกเทลสุดอร่อย

การเดินทาง : รถเมล์สาย 15, 25, 40, 48, 54, 73, 73ก, 79, 204, 501, 508 / BTS สยาม – ชิดลม / Maps
เวลาทำการ (ลานเบียร์) : 10.00 น. – 00.00 น.

La-Villa-Aree

7. La Villa อารีย์

ในย่านตอนต้นของถนนพหลโยธิน แม้ว่าบางส่วนจะเป็นย่านธุรกิจ ที่พักอาศัย และเขตทหาร ที่นี่ยังมีแหล่งความบันเทิง หรือ Community Mall อีกด้วย ซึ่งในช่วงหน้าหนาวแบบนี้ บริเวณด้านหน้าของ La Villa (ลาวิลล่า) ก็จะถูกเนรมิตพื้นที่เป็นลานเบียร์ ให้คนมานั่งดื่มหลังเลิกงาน กินเบียร์ชิวๆ ดูบอลกัน หรือจะไปนั่งต่อในร้านอาหาร หรือบาร์ในย่านนี้ต่อก็ได้

การเดินทาง : รถเมล์สาย 8, 26, 27, 28, 29, 34, 39, 59, 63, 74, 77, 97, 157, 204, 502, 503, 509, 510 / BTS อารีย์ / Maps
เวลาทำการ (ลานเบียร์) : 17.00 น. – 00.00 น.

Major-Cineplex-Ratchayothin

ภาพจาก Oversupar Whiteswan

8. Major Cineplex Ratchayothin (เมเจอร์รัชโยธิน)

Major Cineplex Ratchayothin (เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน) จุดนี้ถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยว ช็อปปิ้ง ดูหนัง และเขตธุรกิจ ของคนที่อยู่ในละแวกย่านรัชดา-ลาดพร้าว ซึ่งในย่านนี้ยังเป็นแหล่งรวมร้านอาหารดังๆ รวมไปถึงร้านอาหารแบบกลางแจ้ง พร้อมกับลานเบียร์ทั้งบริเวณด้านหน้า และบนดาดฟ้าอีกด้วย

การเดินทาง : รถเมล์สาย 24, 26, 34, 39, 59, 63, 104, 107, 126, 129, 178, 206, 502, 503, 524, 543 / BTS รัชโยธิน / Maps
เวลาทำการ (ลานเบียร์) : 17.00 น. – 00.00 น.

Crystal-Design-Center-CDC

ภาพจาก มิว รักเฟซบุ๊ก

9. Crystal Design Center (CDC)

บนเส้นถนนเลียบด่วนเอกมัย-รามอินทรา หรือถนนประดิษฐ์มนูธรรม ถ้าคนไม่มีรถยนต์ส่วนตัวอาจจะไปลำบากสักหน่อย แต่ถ้าคุณเป็นคนที่บ้านอยู่ย่านนี้ หรือทำงานอยู่ย่านนี้ อยากจะหาที่นั่งดื่มเบียร์ชิวๆ ในหน้าหนาว ไม่อยากฝ่ารถติดเข้าไปในเมือง ก็มาชิวกันได้ที่ คริสตัลดีไซน์เซ็นเตอร์ (CDC) ได้ เพราะที่นี่มีลานเบียร์ของค่ายใหญ่มาเปิดกันอยู่ทุกปี อีกทั้งมีดนตรีสดด้วย

การเดินทาง : รถเมล์สาย 26 (เอกมัย) / รถสองแถวสาย 1526 / Maps
เวลาทำการ (ลานเบียร์) : 17.00 น. – 00.00 น.

W-District-Phrakhanong

ภาพจาก OneStep4Ward

10. W District พระโขนง

สำหรับลานเบียร์ในย่านสุขุมวิท แม้ว่าจะมีอยู่ด้วยกันในหลายที่ แต่ที่ W District (ดับบลิว ดิสทริค) เหมาะสำหรับคนที่ชอบการดื่มเบียร์ ในบรรยากาศที่มีคนต่างชาติเยอะๆ ทั้งฝรั่ง แขก หรือญี่ปุ่น พร้อมกับทานอาหารชิวๆ ในช่วงอากาศเย็นๆ ซึ่งบางวันมีดนตรีสดให้ดูกันด้วย

การเดินทาง : รถเมล์สาย 2, 22, 23, 25, 38, 40, 48, 71, 98, 133, 501, 508, 511 / BTS พระโขนง / Maps
เวลาทำการ (ลานเบียร์) : 17.00 น. – 00.00 น.

อย่างไรก็ตาม คาร์โร มีบางอย่างที่อยากจะฝากไว้นิดนึง คือ เมาแล้วไม่ขับนะคะ ถ้าคิดว่าไปแล้วตัวเองต้องดื่มแน่นอน อย่าได้นำรถของท่านไปเลยจะดีกว่า เดี๋ยวมันจะไม่คุ้มเสียเอาได้นะ …

ส่วนถ้าใครเบื่อละ อยากขายรถคันเดิม เพื่อไปดาวน์รถคันใหม่ ซื้อรถใหม่มาขับ ก็สามารถมาขายรถ หรือตีราคารถ ที่ CARRO ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ CARRO Express คลิกที่นี่ค่ะ https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothai หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

10-Intersection-Traffic-Bad-In-Bangkok

จากสภาวะของกรุงเทพฯ ประเทศไทย ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่รถติดเป็นอันดับ 1 ของโลก ณ ขณะนี้ รวมไปถึงที่ประเทศ ปัญหาอุบัติเหตุที่มากเป็นอันดับ 1 ของโลก และปัญหาของมลพิษที่มากติดอันดับโลก เนื่องจากจำนวนรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่มีในกรุงเทพฯ นับล้านคันบนถนน และระบบขนส่งมวลชน เช่น รถเมล์ ที่มีสภาพย่ำแย่มาก ที่รวมกันสร้างปัญหารถติด และปัญหามลพิษ

อีกทั้งผังเมืองที่ไม่ได้วางอย่างเป็นระบบระเบียบ ถนนไม่มีการเชื่อมต่อกันอย่างเป็นระบบ ทำให้เกิดปัญหาในการปล่อยรถตามแยกต่างๆ ที่บางแยกได้ชื่อเป็นแยกที่มีรถติดนานมากๆ ในช่วงเวลาเร่งด่วน เพราะตำรวจปล่อยรถไม่สัมพันธ์กัน ผนวกกับรถยนต์บนถนนที่มากขึ้นเรื่อยๆ

CARRO ขอรวบรวมข้อมูล 10 แยกไฟแดงรถติดนรกที่สุด ติดได้ ติดดี ติดทุกวัน มาให้ทุกท่านได้ชมกันครับ.

Asoke-Sukhumvit

แยกอโศก-สุขุมวิท

จัดเป็นแยกที่รถติดนรกอันดับต้นๆ ของกรุงเทพฯ เลยก็ว่าได้ เป็นย่านที่มีแต่ความสับสนวุ่นสาย และไร้ระเบียบมาก เนื่องจากปริมาณรถบนถนนสุขุมวิท และถนนรัชดาภิเษก ที่มากจนเกินจะรับไหว ทำให้ตำรวจต้องกักรถอีกฝั่ง เพื่อที่จะปล่อยรถอีกฝั่งให้นานกว่าปกติเป็นการระบายรถ จนทำให้ฝั่งที่ติดไฟแดง รถจะติดกันอย่างมาก แทบทั้งวันในทุกวัน

Pratunam

แยกประตูน้ำ

แยกนี้ ก็ถือเป็นอีกแยกหนึ่งที่เรียกได้ว่ารถติดหนักมากที่สุดในกรุงเทพฯ เลยก็ว่าได้ โดยติดกันแทบทั้งวันทั้งคืน ไม่ว่าจะเป็นรถที่มาจากทางถนนราชดำริ ถนนเพชรบุรี ถนนราชปรารภ และยังเป็นย่านที่มีนักท่องเที่ยวขยันข้ามถนน มีรถตุ๊กๆ กับรถแท็กซี่ ที่จอดเกะกะอยู่หน้าห้างสรรพสินค้าเพื่อรอผู้โดยสาร ทำให้เสียช่องทางจราจรไป 1 ช่อง โดยที่ตำรวจไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้ และตำรวจมักปล่อยรถเฉพาะฝั่งถนนราชดำริมากกว่า เลยทำให้ถนนเพชรบุรี และ ราชปรารภ มีรถติดกันยาวมาก

Chidlom

แยกชิดลม

เนื่องจากปัญหาของแยกประตูน้ำ ที่ส่งผลกระทบมายังถนนเพลินจิตด้วย ในช่วงเวลาเร่งด่วน แยกชิดลมรถนี่ก็ถือว่ารถติดหนักทีเดียว แต่ช่วงดึกๆ ไป ไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไหร่ ซึ่งตำรวจประจำป้อม จะปล่อยรถทางถนนเพลินจิต และถนนชิดลมอย่างสม่ำเสมอก็ตาม แต่ปัญหาที่เกิดจากแยกอื่น และจากรถของผู้ปกครองที่ชอบจอดหน้าโรงเรียนแห่งหนึ่ง ตามมาเป็นลูกโซ่ และรถที่หนีจากถนนเพชรบุรีมาเข้าถนนชิดลมจำนวนมาก บางทีไฟแดงนาน หรือฝนตกหนัก จึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีรถติดหนัก

Nana

แยกนานา

อีกแยกหนึ่งที่มีรถติดสุดๆ ในกรุงเทพฯ นั่นคือ แยกนานา คือแยกที่ซอยสุขุมวิท 3 (นานาเหนือ) ตัดกับซอยสุขุมวิท 4 (นานาใต้) เป็นแยกที่ค่อนข้างจอแจที่สุดอีกแห่งหนึ่ง และมีทั้งรถแท็กซี่ รถตุ๊กๆ หาบเร่แผงลอย นักท่องเที่ยวที่เดินกันเยอะ กินพื้นที่ถนนบางช่วงหายไป 1 เลน โดยรถที่มาจากทางด่วนและมาจากทางราชปรารภ มักชอบเข้ามาในซอยนานา เพื่อลัดไปออกทางถนนวิทยุ รถจึงค่อนข้างติดมาก และตำรวจที่เน้นปล่อยรถถนนสุขุมวิทมากกว่า จึงทำให้แยกนานารถติดหนัก

Phrakhanong

แยกพระโขนง

ปัญหาที่เกิดจากการตัดถนนพระรามที่ 4 (ส่วนต่อขยาย) จากคลองเตยมายังพระโขนง บรรจบกับถนนสุขุมวิท ตั้งแต่เมื่อประมาณ 70 ปีที่แล้ว ที่ถนนไม่ได้ไปบรรจบกับซอยสุขุมวิท 71 ที่ต่อมาคือ ถนนพระโขนง-คลองตัน (หรือชื่อปัจจุบันคือ ถนน ปรีดี พนมยงค์) ทำให้การปล่อยรถ ตำรวจชอบปล่อยรถทางถนนสุขุมวิทที่มีรถติดหนักอยู่แล้ว มากกว่าฝั่งถนนพระรามที่ 4 และถนนสุขุมวิท 71 จึงทำให้แยกพระโขนงนี้ มีรถติดหนักมาก บางทีเปิดไฟเขียว 30 วินาที แต่ให้ไฟแดงเกือบ 10 นาทีก็มี

Sang-Hi

แยกซังฮี้

แยกนี้ เมื่อคุณขับรถมาจากทางถนนราชวิถี ถ้าเป็นช่วงเวลาปิดเทอม รถก็จะไม่ติดเท่าไหร่ แต่พอเวลาเปิดเทอมของโรงเรียนดัง และมหาวิทยาลัยชื่อดังในย่านนั้นแล้วล่ะก็ รถติดนรกเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นรถที่มาจากทางถนนสามเสน ที่มากอยู่แล้ว กับจำนวนรถที่ลงมาจากทางสะพานกรุงธนเพิ่มอีก จึกให้แยกซังฮี้ โดยเฉพาะเส้นถนนราชวิถี ต้องรับรถติดไปเต็มๆ

Ratchada-Ladphrao

แยกรัชดา-ลาดพร้าว

แยกรถติดนรกแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ แมหว่าถนนรัชดาภิเษก จะมีสะพานข้ามแยกก็ตาม แต่รถที่มาจากทางถนนรัชดาภิเษก ที่ต้องการเลี้ยวไปยังถนนลาดพร้าว และรถจากถนนลาดพร้าว จะเลี้ยวไปยังถนนรัชดาภิเษก มีมากเหลือเกิน จึงทำให้ตำรวจต้องเฉลี่ยปล่อยรถในแต่ละฝั่ง แต่รถมีจำนวนมาก และช่วงปากซอยลาดพร้าว 23 ที่มีรถชอบเลี้ยวเข้า-ออก เป็นประจำ ทำให้กีดขวางทางจราจรเข้าไปอีก

Ratchada-Ratchapruek

แยกรัชดา-ราชพฤกษ์

เป็นแยกหนึ่งในย่านฝั่งธนบุรี ที่มีรถติดมากนับตั้งแต่มีถนนราชพฤกษ์เกิดขึ้นมา โดยรถที่มาจากทางถนนจริญสนิทวงศ์ มักจะมากองรวมกันอยู่บริเวณนี้ และใกล้แยกนี้ยังมีย่านตึกแถว ตลาดนัด ป้ายรถเมล์ที่รถเมล์ชอบจอดแช่ และมีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ตั้งอยู่ ทำให้มีรถเข้า-ออก กันตลอดเวลา จึงทำให้แยกนี้เลี่ยงรถติดได้ยาก

Lam-Sali

แยกลำสาลี

หลายคนถึงกับเปลี่ยนชื่อแยกนี้ให้เป็นแยก “ลำสาหัส” เลยทีเดียว เป็นแยกที่ถนนรามคำแหง ตัดกับถนนศรีนครินทร์ แม้ว่าจะมีสะพานลอยข้ามแยก แต่จำนวนรถที่มาจากทางถนนลาดพร้าว ถนนนวมินทร์ ถนนเสรีไทย ส่วนใหญ่มักจะมากองรวมกันอยู่บรเวณบางกะปิ แยกนี้จึงต้องรับรถไปเต็มๆ อย่างเลี่ยงไม่ได้ แม้ว่าตำรวจจะปล่อยรถแต่ละฝั่งเป็นเวลาที่นานขึ้นก็ตาม

Khae-Rai

แยกแคราย

แยกรถติดสุดโหดของชาวนนทบุรี เพราะติดกันแทบทั้งวันทั้งคืน ซึ่งแต่เดิมนั้นเป็นแค่เพียงสามแยกแคราย ของถนนงามวงศ์วาน ตัดกับถนนติวานนท์ ภายหลังจากการตัดถนนรัตนาธิเบศร์ บวกกับจำนวนรถที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ตามจำนวนของคนที่ย้ายออกไปซื้อบ้านอยู่ชานเมือง แล้วเข้ามาทำงานในเมือง ถึงจะมีรถไฟฟ้าสายสีม่วงแล้ว ก็ยังไม่สามารถช่วยให้แยกนี้รถติดน้อยลงได้ บางวัน รถติดจากแยกแครายยาวไปจนถึงอุโมงค์เกษตร เลยทีเดียวครับ

จริงๆ แล้ว แยกที่รถติดสุดโหด ยังมีมากกว่านี้ เชื่อได้ว่าหากใครที่ไม่จำเป็นแล้วล่ะก็ อย่าขับรถไปตามแยกเหล่านี้เลยครับ …

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่ มาขายรถกับทาง CARRO Express ได้ที่  https://th.carro.co/sell-car/express หรือถ้าหากต้องการซื้อรถคุณภาพเยี่ยม CARRO เราก็มีพร้อมให้คุณเลือกอย่างมากมายด้วยเช่นกัน พร้อมรับประกันสูงสุดถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร กับ CARRO Automall ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://th.carro.co/taladrod/

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

หากใครอยากซื้อรถมือสองสภาพเยี่ยม ราคาสบายๆ และมั่นใจได้ในเรื่องคุณภาพทุกคัน CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ ตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลา 1 นาที!

ซึ่งรถของ CARRO Automall เรามีให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพอย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 200 จุด รวมไปถึงการการปรับสภาพ (Car Reconditioning) ด้วยทีมช่างมืออาชีพ ที่ผ่านการผึกอบรมตามมาตรฐานคาร์โรกว่า 40 คน พร้อมให้บริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว กว่า 20 คัน/วัน

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์

เรารับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร! (CARRO Quality Assurance) อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม กับ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

Speed-Limit-8-Road-In-Bangkok

ห้ามขับรถเร็วเกิน 50 กม./ชม. ในถนน 8 สาย ของกรุงเทพฯ

Bangkok-Road

ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ข้อบังคับเจ้าพนักงานจราจรในเขตกรุงเทพมหานคร ว่าด้วยการกำหนดอัตราความเร็วของรถ พ.ศ. 2561 โดยมีสาระสำคัญ คือ การกำหนดความเร็วของรถไม่เกิน 50 กม./ชม. ใน 8 ถนนหลัก มีผลบังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศ (ประกาศ 14 ก.พ. มีผล 15 ก.พ.) เพื่อลดอุบัติเหตุในพื้นที่แหล่งชุมชน มีสถานศึกษา และสถานที่สำคัญที่มีนักท่องเที่ยวเข้าชมจำนวนมาก

ทั้งนี้ 8 ถนนหลัก ที่ห้ามขับรถเร็วเกิน 50 กม./ชม. มีดังนี้

1. ถ.นครราชสีมา ตั้งแต่แยกสวนรื่น ถึงแยกวังแดง

2. ถ.ราชวิถี ตั้งแต่แยกอภัยเจษฎุทิศ ถึงแยกเชิงสะพานกรุงธน

3. ถ.สามเสน ตั้งแต่แยกบางกระบือ ถึงแยกสี่เสาเทเวศน์

4. ถ.อู่ทองนอก ตั้งแต่แยกอู่ทองนอก ถึงแยกท่าวาสุกรี

5. ถ.สุโขทัย ต้ังแต่แยกสวนรื่น ถึงแยกสุโขทัย

6. ถ.ศรีอยุธยา ตั้งแต่แยกกองพลที่ 1 ถึงแยกเสาวนีย์

7. ถ.พระราม 5 ตั้งแต่แยกพาณิชย์ ถึงแยกสุโขทัย

8. ถ.สวรรคโลก ตั้งแต่แยกยมราช ถึงแยกสวรรคโลก

ที่เที่ยวในกรุงเทพ

ที่เที่ยวทั้งกลางวัน กลางคืน ในกรุงเทพ
ตามมา check in กันได้เลย

“ ถ้ามีรถอยู่หนึ่งคัน สามารถเที่ยวที่ไหนในกรุงเทพได้บ้าง ” เป็นคำถามของกลุ่มคนเมืองที่มีรถยนต์อยากออกไปทำกิจกรรม หรือหาสถานที่ท่องเที่ยวในวันหยุดสุดสัปดาห์ ในวันที่ว่างจากงานแต่จะให้ขับรถออกต่างจังหวัด เวลาก็ไม่พอที่จะไป และก็ไม่อยากไปที่คนพลุกพล่านอย่างตามห้างสรรพสินค้า เลยอยากที่จะขับรถไปในสถานที่ท่องเที่ยวในกรุงเทพ

ซึ่งวันนี้ Carro ได้รวมไฮไลท์สถานที่ต่างๆ ทั้งที่เที่ยวในกรุงเทพเวลากลางวัน  และที่เที่ยวในเวลากลางคืนที่ทำให้รู้ว่ากรุงเทพเป็นเมืองไม่เคยหลับ

 

ที่เที่ยวในกรุงเทพ กลางวัน

MOCA Bangkok

พิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัย ( MOCA Bangkok ) 

เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแบบพิพิธภัณฑ์ที่เกิดขึ้นจากแรงบันดาลใจในความรักศิลปะของ นายบุณชัย เบญจรงคกุล และด้วยการสำนึกพระกรุณาธิคุณ บวกกับเฉลิมพระเกียรติในหลวงรัชกาลที่ 9  อีกทั้งเพื่อเชิดชู บิดาแห่งศิลปะร่วมสมัยอย่าง ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี โดยได้เก็บรวบรวมผลงานศิลปะไทยแขนงทัศนศิลป์ของศิลปินมากมาย  และตัวอาคารเป็นสถาปัตยกรรมโดยนำแนวคิดของหินก้อนนำมาแกะสลักเป็นรูปทรงก้านมะลิซึ่งสื่อถึงศิลปะไทย และระหว่างช่องว่างให้แสงเงาสวยงามที่แตกต่างกันในแต่ละช่วงเวลาของวันอีกด้วย

 

ไปรษณีย์กลางบางรัก

ไปรษณีย์กลางบางรัก

เป็นที่ทำการของไปรษณีย์กลางที่ตกแต่งภายในสวยคลาสสิค อีกทั้งรวบรวมเรื่องราวความเป็นมาของการไปรษณีย์ไทยแต่แรกเริ่ม ซึ่งตัวอาคารใหญ่โตอลังการ และมีรูปทรงสวยสง่า โดดเด่นด้วยสไตล์นีโอ สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยของล้นเกล้ารัชกาลที่ 8 ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ อีกทั้งมีการประกาศของกรมศิลปากรว่าเป็นอาคารสวยที่สุดในกรุงเทพ ติดอันดับ 1 ใน 80 อันดับ ที่ตั้งอยู่บนถนนเจริญกรุง ไปชมเรื่องราวความเป็นมาและถ่ายรูปสวย ๆ ในมุมเก๋ ๆ ของสถานที่ และเลือกซื้อของที่ระลึกกลับบ้านกัน

 

ท่ามหาราช 

ท่ามหาราช 

อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวแบบคอมมูนิตี้ มอลล์ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ด้วยบรรยากาศชิลๆที่ลงตัว ประกอบไปด้วยโซนสำหรับนั่งเล่น ถ่ายรูป ซึ่งตรงข้ามวัดมหาธตุยุวราชรังสรรค์ อีกทั้งพบกับความร่วมสมัยของการตกแต่งสถานที่ นอกจากนี้ยังมีร้านกาแฟ เก๋ ๆ ร้านอาหารสวย ๆ หลายร้านให้เลือกนั่งมากมาย

 

ที่เที่ยวในกรุงเทพ กลางคืน

ตลาดนัดรถไฟ

ตลาดนัดรถไฟ

ตลาดนัดขนาดใหญ่ที่ขายของสารพัดทุกความต้องการ ซึ่ง “ตลาดนัดรถไฟ” ที่มาของชื่อคือ เดิมเป็นตลาดนัดที่ตั้งอยู่ตรงบริเวณสวนรถไฟเขตจตุจักร ด้วยชื่อเสียงและเป็นที่ชื่นชอบทั้งของเหล่าวัยรุ่นและคนทำงาน ทำให้แม้ว่าตอนนี้ย้ายสถานที่มาที่ใหม่นานแล้ว คนก็ยังติดตามไปในสองทำเลใหม่ คือ ถนนศรีนครินทร์ จะเรียกว่า ตลาดนัดรถไฟเลียบด่วนรามอินทรา ส่วนอีกที่อยู่ถนนรัชดาภิเษก หลังห้างสรรพสินค้าเอสพลานาด ซึ่งความน่าสนใจอยู่ที่องค์ประกอบอย่าง เสียงดนตรีสดทรงเสน่ห์ แหล่งรวมสินค้าแนวใหม่ๆ ที่ไม่ใช่แค่เสื้อผ้า  แม้แต่ของกินก็นานาชนิดก็ไม่แพ้ที่ใดในกรุงเทพ  การตกแต่งสถานที่ที่ดูเหมือนโกดังเก่าๆ และความเป็นเรโทรของบรรยากาศ ที่เดินได้ไม่รู้เบื่อ

 

The Knack market

ตลาดกลางคืน The Knack market

เป็นสถานที่ท่องเที่ยวขนาดเล็กย่านคลองสารที่มีกลิ่นไอของอดีต ปัจจุบันและอนาคต เชื่อมโยง  โดยตลาดตั้งอยู่ในโครงการ เดอะแจม แฟทอรี่ ถนนเจริญนคร เปิดทุกวันเสาร์และอาทิตย์ปลายเดือนเท่านั้น  มาลองลิ้มรสอาหารแนว สตรีทฟู้ด ท่ามกลางความรื่นรมย์ของต้นไม้สีเขียว และสินค้าวินเทจ แฮนด์เมด  ของออกแบบไอเดียเก๋ สินค้าอาหารคลีน  หนังสือมือสองหายาก เสื้อผ้าแนวอินดี้วินเทจ  มีกิจกรรมให้ร่วมเพลิดเพลินทั้งการแสดงดนตรี โยคะและการละเล่นมากมาย

นอกจากการเดินเที่ยวตลาดนัดกลางคืนแล้ว กรุงเทพยังมีสถานที่ท่องเที่ยวให้ได้ท่องราตรีกันอีก เช่น ล่องเรือในแม่น้ำเจ้าพระยายามค่ำ ชมวิวสองฝั่งฟาก อย่างวัดอรุณยามกลางคืนที่มีแสงไฟประดับ หรือชมวิวที่มีแสงสีของเมือง เช่น บริเวณถนนราชดำเนิน พระบรมมาราชวัง ริมน้ำเจ้าพระยา หรือแม้แต่บนตึกสูงๆ หลายๆ แห่งที่เปิดเป็นร้านอาหารให้ได้ชมวิวรอบเมืองกรุง อีกทั้งแวะเพลินเพลินกับแหล่งช็อปปิ้ง ทานอาหาร ที่ท่าเรือเอเชียทีคก่อนขับรถกลับบ้าน

 

Source : mumeaw.com , pantip.com

มารยาทในการขับรถบนท้องถนน ที่คุณควรรู้

ปัจจุบันการคมนาคมมีหลายรูปแบบให้เลือกมากขึ้น แต่การเดินทางด้วยรถยนต์ถือเป็นสิ่งที่อำนวยความสะดวกสบายที่สุดในการเดินทางบนถนนสาธารณะ โดยเฉพาะในช่วงเวลาเร่งด่วนที่ผู้ใช้รถใช้ถนนมักขับรถด้วยความเร่งรีบ และอาจขาดความระมัดระวัง จึงกลายเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ สร้างความเสียหายทั้งชีวิตและทรัทย์สิน หรืออาจเกิดการทะเลาะวิวาทบนท้องถนน

ที่เรามักพบเห็นจากวีดิโอที่ถ่ายโดยบุคคล การนำเสนอข่าว หรือการตั้งกระทู้ต่างๆ ยกตัวอย่างกระทู้จากพันทิป เช่น “นอกจากขับช้าแช่ขวา ที่ทำให้หงุดหงิด ก็ยังมีขับทิ้งช่วงห่างระหว่างคันหน้า ที่ทำให้หงุดหงิดเหมือนกัน” , “ผิดถึงกับต้องทำร้ายร่างกายกันเลยเหรอ แค่ขี่ช้ามาอยู่ข้างหน้า แล้วคุณขี่เร็วกว่า” เป็นต้น

จึงทำให้รู้ว่ามารยาทในการขับรถบนท้องถนนควรเป็นเรื่องที่ต้องร่วมกันรณรงค์ ไม่ใช่แค่ปฏิบัติตามกฏจราจรเท่านั้น เพราะฉะนั้นทาง CARRO ขอเป็นส่วนหนึ่งในการรณรงค์ ด้วยการนำเสนอมารยาทในการขับรถเบื้องต้นที่ผู้ใช้รถใช้ถนนสามารถปฏิบัติได้ดังนี้

มารยาทในการขับรถบนท้องถนน

1. ไม่ขับแช่ขวา

แม้ว่าเราจะขับรถตามความเร็วที่กฏหมายกำหนด แต่เราไม่ควรขับรถแช่เลนทางขวา เพราะหลายครั้งที่บนท้องถนนมีสภาพการจราจรติดขัด เคลื่อนตัวไปอย่างช้าๆ อาจเป็นเพราะมีรถที่ขับแช่เลนขวาด้วยความเร็วคงที่ ทำให้รถด้านหลังไม่สามารถไปก่อนได้

ซึ่งสามารถสังเกตุได้ว่า หากคุณขับรถวิ่งเลนขวา และมีรถมาจ่อท้ายเมื่อไหร่ นั่นแสดงว่าคุณขับรถช้าไป โดยมารยาทแล้วคุณต้องเปิดไฟเลี้ยวซ้าย และหลบให้ทางรถที่มาข้างหลัง เพื่อให้รถที่มีความเร็วสูงกว่ารถของคุณแซงขึ้นไปอย่างปลอดภัย

2. ไม่ขับจี้ท้ายรถ หรือขับทิ้งช่วงห่างระหว่างคันหน้า

ความพอดี ไม่น้อยเกินไป ไม่มากเกินไป จนต้องเบียดเบียนตนเองและผู้อื่น เป็นคำกล่าวที่สามารถใช้ได้กับทุกเรื่อง และในเรื่องขับรถก็เช่นเดียวกัน เพราะการเกิดอุบัติเหตุชนท้ายในบ้านเรา ส่วนมากเกิดครั้งละหลายคันติดกัน และมักพบได้บ่อยครั้ง ดังนั้น การขับรถตามหลังควรต้องเว้นระยะห่างจากคันหน้า ให้เพียงพอที่จะหยุดได้อย่างปลอดภัย หากคันหน้าเกิดอุบัติเหตุ หรือหยุดกระทันหัน

นอกจากขับแช่ขวาแล้วนี่เป็นอีกเรื่องที่ทำให้คันหลังอาจเกิดหงุดหงิดจนถึงขั้นมีเรื่องของการวิวาทบนท้องถนนได้ เพราะด้วยการขับทิ้งช่วงห่างระหว่างคันหน้า ยกตัวอย่างเช่น ในกรุงเทพมักมีวินาทีไฟเขียวที่เร็วกว่าวินาทีไฟแดง ถ้าหากคุณทิ้งระยะห่างมากเกินไปจะทำให้คันหลังไม่สามารถขับต่อไปได้ ทำให้อาจติดไฟแดงอีกครั้ง ซึ่งกลายเป็นเรื่องที่เสียเวลามาก  

มารยาทในการขับรถบนท้องถนน

3. การขับรถแซง

ผู้ขับควรให้สัญญาณไฟก่อนแซง และเร่งความเร็วรถเพื่อที่จะแซงขึ้นไป อีกทั้งต้องเว้นระยะห่างก่อนให้สัญญาณไฟเพื่อที่จะขอกลับเข้าช่องจราจรเดิม นอกจากนี้ควรเร่งความเร็วให้เหมาะสมกับรถคันที่อยู่ด้านหน้า การแซงรถคันหน้าได้แล้วปาดหน้าชิดซ้ายทันที เป็นการแซงที่ไม่ปลอดภัยและแสดงถึงความไม่มีมารยาทของผู้ขับขี่รถ

ส่วนอีกหนึ่งการแซงที่แสดงถึงการไร้มารยาท คือ แซงขวาในเลนที่รถวิ่งสวนมาอีกทาง เป็นการกระทำที่ไม่ควรทำอย่างมาก อีกทั้งยังผิดกฏจราจรอีกด้วย

4. รักษาเลนของตัวเองเวลาเลี้ยว

ปัญหาเหล่านี้มักพบบ่อยครั้ง เช่น บางครั้งเราขับรถอยู่ในเลนขวาสุด เมื่อเราต้องการเลี้ยวขวาแล้วก็ต้องรักษาช่องทางขวาเอาไว้ แต่ถ้าคุณมาเลนที่สองจากขวา เมื่อเริ่มเลี้ยวก็ต้องรักษาช่องทางเดิม จนเลี้ยวขวาเสร็จก็ต้องรักษาเลนที่สองจากขวาไว้ ซึ่งหลายครั้งเจอคนที่ไม่รู้ หลังจากเลี้ยวเสร็จไม่รักษาเลนของตัวเองไว้ เช่น จากเลนที่สองจากขวาเมื่อเลี้ยวแล้วก็ปาดมาขวาสุดทันใด ทำให้เกิดการเบียดเสียดกลางแยก รถไปได้ช้า หลายครั้งก็ทำให้เกิดอุบัติเหตุด้วย และที่สำคัญก่อนเลี้ยวควรเปิดไฟเลี้ยวทิ้งไว้ก่อนเลี้ยวสักระยะหนึ่ง ไม่ควรเปิดก่อนเลี้ยวแบบทันที

มารยาทในการขับรถบนท้องถนน

5. ไม่ควรเปิดไฟสูงขณะรถสวนกัน

หรือเวลาขับตามหลังรถคันอื่นไม่ควรเปิดไฟเพื่อไล่รถคันหน้า เพราะการกระทำแบบนี้จะทำให้ไฟส่องเข้าตาผู้ขับคันหน้า เกิดการมองไม่เห็นถนน หรืออาจตกใจขับรถเปลี่ยนเลน หรือเร่งเครื่องหนี ซึ่งอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้

ส่วนการใช้ไฟสูงที่ถูกต้องและไม่เสียมารยาท ควรเปิดไฟสูงเพื่อตรวจสอบสภาพถนนและริมถนน เฉพาะเส้นทางที่มืดมาก และไม่มีรถวิ่งอยู่ด้านหน้าหรือสวนทาง หลังจากนั้นให้ปิดไฟสูงทันที

6. หยุดรถทางม้าลาย

เมื่อเห็นคนยืนบนทางเท้า และมีการแสดงท่าทีที่จะเดินข้ามถนนตรงทางม้าลาย ผู้ขับรถควรแตะเบรกเตือนหรือเปิดไฟขอทาง เพื่อให้รถคันหลังเห็นสัญญาณไฟ และรู้ว่าคุณกำลังหยุดรถตรงทางม้าลาย จนกระทั่งคนข้ามถนนเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงค่อยออกตัวรถ และขับต่อไป

มารยาทในการขับรถบนท้องถนน

ทั้งหมดที่ได้กล่าวมานั้นเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของมารยาททางสังคมในการขับรถบนท้องถนนที่ผู้ใช้รถใช้ถนนควรยึดมั่นเท่านั้น ซึ่งนอกจากกฎระเบียบและมารยาท ผู้ขับขี่ทุกท่าน ควรมีสติ ไม่ใจร้อน รู้จักใจเย็น ปล่อยวาง และให้อภัยซึ่งกันและกัน จะได้สามารถคิด แก้ไขปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี และอย่างน้อยก็เพื่อเป็นการป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น จากการไม่มีมารยาทของผู้ขับขี่

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม มาขายรถคันเดิมกับ CARRO Express สิ! Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

แต่ถ้าหากช่วงนี้ใครอยากเปลี่ยนรถคันใหม่ มาใช้แทนที่รถคันเดิม CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น!

รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check มากกว่า 200 จุด และยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ให้คุณเลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา พร้อมรับประกันคุณภาพรถนานถึง 2 ปี หรือ 20,000 กิโลเมตร! อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! เรามีรถให้คุณเลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Thailand  โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

ขอบคุณแหล่งที่มาจาก:

รถติด เลี่ยงได้ด้วยแอพพลิเคชัน

อยากรู้สภาพการจราจรแบบ Real time เช็กด้วย แอพพลิเคชันเหล่านี้

ปัญหารถติดในกรุงเทพ หรือติดในช่วงที่มีเทศกาลวันหยุดยาว กลายเป็นปัญหาที่ผ่านมากี่ปีก็ไม่สามารถแก้ไขให้ได้ลงตัวสักที อีกทั้งมันยังได้กลายเป็นเรื่องที่ปกติไปเสียแล้วสำหรับปัจจุบัน

ทำให้วันนี้ Carro อยากจะนำเสนอตัวช่วย ด้วยแอพฯที่สามารถบอกข้อมูลเส้นทางจราจรในสมาร์ทโฟนของคุณ เพราะเราอยู่ในยุคที่มีเทคโนโลยีกลายเป็นตัวช่วยให้ชีวิตสะดวกสบายมากขึ้น ซึ่งแอพฯเหล่านี้จะช่วยให้คุณได้วางแผนก่อนการเดินทาง และหลีกเลี่ยงเส้นทางการจราจรที่มีความหนาแน่นอีกด้วย

 

Google maps

รถติด เลี่ยงได้ด้วยแอพพลิเคชัน google maps

แอพพลิเคชันที่ครบครันด้วยเครื่องมือที่อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้ เช่น แนะนำเส้นทางเวลาขับรถผ่าน GPS ด้วยเสียง รายงานสดการจราจรบนท้องถนน ดูแผนที่เสมือนจริงแบบ Street View อย่าง ภาพสถานที่จุดหมายปลายทาง นอกจากนี้ยังรองรับทั้งรถยนต์ จักรยาน และการเดินเท้า

ซึ่งทาง Google เองก็พัฒนาฟังก์ชั่นอื่นๆ มาเพิ่มเติมเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็น การใช้แผนที่แบบออฟไลน์ได้ รวมไปจนถึงการจองโรงแรม ตั๋วเครื่องบิน แม้กระทั่งร้านอาหาร และอีกมากมาย ที่ทำมาเพื่อช่วยทั้งคนขับรถและคนทั่วไปใช้งานแผนที่ได้สะดวกขึ้น

ดาวน์โหลดแอพฯได้ที่ App Store และ Google play

สวพ91BKK หรือ FM91BKK

รถติด เลี่ยงได้ด้วยแอพพลิเคชัน FM91BKK

แอพพลิเคชันที่คอยบอกข่าวสาร การจราจร รวมถึงอุบัติเหตุต่างๆ บนท้องถนน ซึ่งช่วยให้ผู้ขับขี่รู้ได้ทันทีว่าสาเหตุของรถติดเกิดจากอะไร หรือมีอุบัติเหตุข้างหน้าหรือไม่ และอีกหนึ่งความสามารถพิเศษ คือเราสามารถเลือกรับฟังข่าวสารในจุดใกล้เคียงหรือเฉพาะจุดที่เรากำลังอยู่

อีกทั้งสามารถดูสภาพการจราจรได้ผ่านกล้อง CCTV ทั่วกรุงเทพ รวมถึงการแจ้งเหตุเตือนภัยด้วยตัวเอง พร้อมมีเบอร์โทรฉุกเฉินให้เลือกโทรออกได้ทันทีที่เจอเหตุฉุกเฉินต่างๆ

ดาวน์โหลดแอพฯได้ที่ App Store และ Google play

 

TSquare Traffic

รถติด เลี่ยงได้ด้วยแอพพลิเคชัน TSquare Traffic

ถือเป็นอีกหนึ่งแอพพลิเคชันที่เหมาะสำหรับนักทาน นักชิม เพราะข้อมูลมีการเชื่อมโยงจากแหล่งที่มาอื่นๆ อย่างเช่น รายละเอียดร้านอาหารจากแอพฯ วงใน และไม่ได้มีดีแค่นี้ แต่ยังสามารถรายงานสภาพจราจรได้แบบสดๆ ด้วยข้อมูลที่ถูกติดตั้งไว้กับรถแท็กซี่ที่วิ่งอยู่บนท้องถนนจำนวนหลายร้อยคัน บวกกับดูข้อมูลสถานที่ใกล้เคียงจาก Wiki Places ช่วยให้คุณได้เตรียมพร้อมทั้งการเดินทาง และความอิ่มอร่อยไปได้พร้อมๆกัน

ดาวน์โหลดแอพฯได้ที่ App Store และ Google play

 

Highway Police Thai

รถติด เลี่ยงได้ด้วยแอพพลิเคชัน Highway Police Thai

เป็นแอพพลิเคชันของกรมตำรวจทางหลวง ซึ่งจะเหมาะกับการใช้งานสำหรับการเดินทางออกต่างจังหวัด ประกอบไปด้วยทั้งแผนที่เพื่อช่วยเหลือในการเดินทาง พร้อมสรรพด้วยข้อมูลโรงพยาบาล ประกันภัย รถยก หรือมูลนิธิต่างๆ ทั้งยังแสดงที่ตั้งของสถานีตำรวจทางหลวง และหน่วยให้บริการประชาชนต่างๆ ที่พร้อมเข้าช่วยเหลือคุณทุกเมื่อ หากเกิดเหตุฉุกเฉิน หรืออุบัติเหตุได้ทั่วประเทศ

ดาวน์โหลดแอพฯได้ที่ Google play

 

Norstra

รถติด เลี่ยงได้ด้วยแอพพลิเคชัน Highway Police Thai

นอกจากคุณสมบัติในการแนะนำเส้นทางที่ดีแล้ว แอพพลิเคชันนี้ยังมีข้อมูลที่จำเป็นในเรื่องการเดินทางเชิงท่องเที่ยวอีกเพียบเลย ทั้งร้านอาหาร เส้นทางจักรยาน รวมไปถึงตู้เอทีเอ็ม ห้องน้ำสะอาด ปั๊มน้ำมัน โรงแรม สถานีตำรวจ ฯลฯ ถือว่าข้อมูลค่อนข้างจะละเอียด ซึ่งอยากไปไหนก็ลองหาเส้นทางและข้อมูล คุณจะได้ข้อมูลที่รวดเร็วทันใจ อีกทั้งข้อมูลต่างๆนั้นได้มาจาก ททท. ที่จะมีข้อมูลสำหรับการท่องเที่ยวอยู่แล้ว หรือ Wongnai ที่เป็นรีวิวร้านอาหารนั่นเอง ทำให้ได้ข้อมูลทั้งสถานที่ เมนูแนะนำ และอื่นๆ ไปด้วยในตัว

ดาวน์โหลดแอพฯได้ที่ App Store และ Google play

 

TVIS

เป็นแอพพลิเคชันที่รายงานการจราจรจาก NECTEC และสามารถบอกเส้นทางลัด ที่ดูภาพได้จากกล้องวงจรปิด CCTV ที่ติดตั้งทั่วกรุงเทพ ซึ่งกล้อง CCTV จะแสดงภาพจากตำแหน่งที่เราอยู่ปัจจุบัน อีกทั้งสามารถแสดงข้อมูลสภาพฝน ว่ามีฝนตกหนักบริเวณจุดใดบ้าง ซึ่งดูภาพเคลื่อนไหวด้วยเรดาร์น้ำฝนนั้นเอง

นอกจากนี้ยังมีจุดเด่น นั้นคือ เราสามารถพูดถามชื่อถนนนั้นๆ ที่ต้องการทราบข้อมูลจราจรเพื่อจะได้ไม่ต้องเสียเวลาในการพิมพ์ชื่อ ซึ่งบางครั้ง ไม่สะดวกที่จะพิมพ์ หรือพิมพ์ชื่อไม่ถูก และเมื่อพูดชื่อถนน แอพฯนี้ก็จะแสดงสภาพจราจรของถนนนั้นๆ ที่เราพูดเข้าไปได้ทันที

ดาวน์โหลดแอพฯได้ที่ App Store และ Google play

 

Source :
thairath.co.th
kapook.com
rabbit.co.th