5 วิธีป้องกันงูเข้าโรงรถ พร้อมวิธีไล่งู!

นี่ก็เข้าช่วงหน้าฝนอย่างเป็นทางการแล้ว ฝนตกกันแทบทุกวัน บรรดาสิงสาราสัตว์ทั้งหลาย เจอฝนตก น้ำท่วม ก็ต้องพากันเอาตัวรอด มาใช้สถานที่ในบ้านของคุณเป็นที่หลบฝน ไม่ว่าจะในโรงรถ ในรถยนต์ ใต้ถุนบ้าน มุมต้นไม้ครึ้มๆ ในหลังคาบ้าน หรือในโถส้วมก็ตาม โดยเฉพาะเด็กๆ ที่ต้องระวังกันเป็นพิเศษ ยิ่งเป็นงูมีพิษด้วยยิ่งน่ากลัวไปกันใหญ่

งู มักกินสัตว์เป็นอาหาร เช่น กบ, เขียด, ตุ๊กแก, หนู, จิ้งจก, ลูกไก่, กระต่าย, ปลา หรือแม้แต่งูด้วยกันเอง ฯลฯ ซึ่งตอนนี้ตัวเมืองได้ขยายออกไปชานเมืองเรื่อยๆ บวกกับจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น พื้นที่ทุ่งนา ป่า ที่เคยเป็นที่อยู่อาศัยของงู จึงกลายเป็นบ้านคน งู และสัตว์ประเภทอื่น จึงไม่มีที่อยู่และแหล่งอาหาร จึงต้องเข้ามาหากินในบ้านคนแทน

ในวันนี้ Mr.Carro จึงมี 5 วิธีป้องกันงูเข้าโรงรถอย่างปลอดภัย พร้อมวิธีไล่ มาเล่าสู่กันฟังครับ …

5 วิธีป้องกันงูเข้าโรงรถ พร้อมวิธีไล่งู!

ภาพจาก อาสากู้ภัยกาญจนบุรี”เขาใหญ่”

1. ปิดช่องทางการเข้าถึง

ตามปกติแล้ว งูจะชอบที่รก มืด อับ อบอุ่น มีอาหาร หรือที่สามารถซ่อนตัวได้ ไม่ว่าจะในโรงรถ ในรถ ใต้หลังคาบ้าน ในเครื่องยนต์รถ เพื่อวางไข่ หาความอบอุ่น หรือบ้านนั้นอาจจะมีหนูเยอะ ไม่มีหมาและแมว งูจึงชอบเข้ามาอยู่ เพราะไม่มีศัตรูมาก่อความรำคาญ

ยิ่งหน้าฝนแล้วล่ะก็ ที่แห้งๆ งูชอบเลยทีเดียว ลองสำรวจดูรอบโรงรถว่ามีช่องว่าง หรือของรกๆ ต้นไม้พงหญ้ารกๆ หรือไม่ ก็จัดแจงเคลียร์ ตัดแต่ง ซ่อมแซม ขึงตาข่าย มุ้งลวด ไม่ทิ้งเศษอาหารไว้ในที่จอดรถ รวมถึงทำความสะอาดให้เรียบร้อย เพื่อไม่ให้งูเข้าเลี้อยมาอยู่ในโรงรถ หรือในรถยนต์ของคุณได้

2. น้ำมันกลิ่นฉุนๆ

ธรรามชาติของงู เป็นสัตว์ที่ไม่ชอบกลิ่นแรงๆ เช่น น้ำมันเครื่อง น้ำมันก๊าด น้ำมันสน หรือน้ำมันรถ ใส่ผ้าชุบไว้ แล้ววางบริเวณรอบๆ โรงรถที่งูชอบเข้ามา ก็จะช่วยไล่งูให้หนีไปทางอื่นได้

5 วิธีป้องกันงูเข้าโรงรถ พร้อมวิธีไล่งู!

3. กำมะถัน กับ มะกรูด

กำมะถัน เป็นความรู้แบบภูมิปัญญาไทยๆ ที่มีคนนิยมใช้กันมาก เพราะเชื่อว่ากลิ่นฉุนของกำมะถันจะทำให้งูไม่เข้าใกล้ (รวมไปถึงแมลง และสัตว์เลี้อยคลานอื่นๆ) แต่เราก็ไม่แน่ใจว่า ใช้กันงูได้จริงทุกตัวหรือไม่

หลายบ้านก็นิยมใช้กำมะถันที่เป็นผง มาวางไว้ หรือผสมน้ำแล้วราดเอาไว้รอบๆ ที่จอดรถหรือรอบบ้าน เพื่อป้องกันงูเข้ามา แต่ช่วงหน้าฝนแบบนี้อาจต้องโรยบ่อยหน่อย เพราะฝนจะทำให้ที่โรยไว้เจือจางไป

ส่วนมะกรูด ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยไล่งูได้เช่นกัน เพียงนำมะกรูดผ่าซีกมาวางไว้รอบรอบๆ โรงรถ เนื่องจากกลิ่นมะกรูดมีความเป็นกรด ทำให้เมื่องูได้รับสารนี้แล้ว จะไม่อยากเข้าใกล้พื้นที่

4. เลี้ยงสุนัข

สัญชาตญาณของสุนัข มักจะไม่นิ่งเฉยกับสิ่งแปลกปลอมที่บุกรุกเข้ามาในบ้าน เมื่อหมาเจองูก็จะส่งเสียงเห่า ทำให้งูซึ่งเป็นสัตว์ขี้ตกใจอยู่แล้ว ต้องหนีออกไปเอง บางทีหมาไล่กัดงูด้วยซ้ำไป

แต่ถ้าเป็นงูตัวใหญ่ๆ หรืองูมีพิษ สุนัขเองก็อาจจะเป็นอันตรายได้เช่นกัน ทางที่ดี พยายามกันสุนัขให้ห่างเอาไว้ ก่อนที่จะมีผู้เชี่ยวชาญมาจับงู

5 วิธีป้องกันงูเข้าโรงรถ พร้อมวิธีไล่งู!

5. น้ำยาไล่งู

เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ง่าย และสะดวก เนื่องในท้องตลาดยุคนี้มีน้ำยาไล่งู สเปรย์ไล่งู หรือแบบผงก็มี ออกมาจำหน่ายกันสารพัดยี่ห้อ สำหรับฉีดรอบบริเวณนอกบ้าน หรือจุดที่ไม่ต้องการให้งูเข้ามา

กระป๋องหัวฉีด พ่นง่าย พ่นเฉพาะจุดได้ อาจจะต้องพ่นจุดเดิมติดต่อกัน 4-5 วัน หรือฉีดซ้ำบ้าง ทำให้กลิ่นติดแน่น ป้องกันงูกลับมา ไม่มีสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อผู้อยู่อาศัย และสัตว์เลี้ยง (แต่ตอนฉีด ก็ต้องระวังอย่าให้ละอองเข้าปาก ตา หรือจมูกนะครับ)

ถ้างูเข้าบ้านมาแล้ว ต้องทำอย่างไร …

5 วิธีป้องกันงูเข้าโรงรถ พร้อมวิธีไล่งู!

1. สังเกตประเภทของงู

พยายามตั้งสติก่อน แล้วสังเกตให้ดีว่า งูที่เลื้อยเข้ามาในโรงรถเป็นงูชนิดใด ลักษณะอย่างไร มีพิษหรือไม่ งูพิษที่พบบ่อย เช่น งูเห่า จะแผ่แม่เบี้ย, งูสามเหลี่ยม มีลำตัวเป็นรูปสามเหลี่ยม, งูเขียวหางไหม้ และงูกะปะ มีลักษณะแก้มป่อง ตัวสั้น มีเกล็ดละเอียด เป็นต้น

2. อยู่นิ่งๆ เคลื่อนไหวช้าๆ

สัญชาตญาณงู มักจะตกใจและเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ให้ยืนนิ่งๆ หรือค่อยๆ ขยับถอยหลังช้าๆ แล้วสังเกตความเคลื่อนไหวของงูเอาไว้ด้วย เพื่อกันการหนี และต้องเว้นระยะห่างให้ปลอดภัย เพราะงูอาจฉกเราได้

5 วิธีป้องกันงูเข้าโรงรถ พร้อมวิธีไล่งู!

ภาพจาก สยามรัฐ

3. อย่าไล่ อย่าตีงูด้วยตัวเอง

หากไม่มั่นใจว่าเป็นงูมีพิษหรือไม่ หรือไม่มีทักษะในการจับงูเอง อย่าทำ! เพราะถ้าไล่งูหรือทำร้ายงูแบบไม่ถูกวิธี งูอาจตกใจจนหนีไปซุกซ่อนอยู่ในมุมหลืบ ทำให้ตามจับได้ยากขึ้น หรืออาจพุ่งตัวฉกจนเกิดอันตรายได้

4. เรียกหน่วยกู้ภัย หน่วยดับเพลิง มาจับ

ทางที่ดีและปลอดภัยที่สุด คือ ขอความช่วยเหลือจากหน่วยกู้ภัย หรือหน่วยดับเพลิง โทร. 199 มาจับงู เพราะบรรดาชาวหน่วยกู้ภัย นักดับเพลิง มักมีการอบรมเกี่ยวกับวิธีการจับงูกันไว้อยู่แล้ว อีกทั้งยังมีอุปกรณ์เครื่องมือพร้อม ให้เป็นหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญจัดการดีที่สุดครับ

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่มาใช้ในช่วงนี้ มาขายรถกับทาง Carro Express สิ! คลิกเลยที่ https://th.carro.co/sell-car/express รับรองได้เงินเร็ว ไว ทันใจแน่นอน!

Carro Automall ตลาดรถ

ส่วนใครสนใจจะซื้อรถมือสอง Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

5 วิธี ฝึกน้องหมานั่งรถ เมื่อต้องไปด้วยกัน!

Mr.Carro เชื่อว่าหลายๆ คนที่กำลังอ่านบทความนี้อยู่ ต้องเป็นคนที่รักสัตว์เลี้ยงแน่ๆ ซึ่งหลายคนอาจจะเลี้ยงสุนัข (หมา) กันอยู่ หมาน่ารักถือได้ว่าเป็นเพื่อนยากของมนุษย์ ที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน ทั้งสายพันธุ์เล็กแบบหมากระเป๋า ไปจนถึงสายพันธุ์ใหญ่แบบหมานักล่าก็ตาม

แต่การเดินทางของคนและน้องหมานั้น ก็ต้องบอกว่ามีแน่นอน ไม่ว่าจะพาน้องหมาไปเที่ยวด้วยกันที่ต่างจังหวัด พาหมาไปเดินออกกำลังกาย หรือพาสุนัขไปหาหมอที่คลินิคสัตว์เลี้ยง ก็สุดแท้แต่ …

ปัญหาของทั้งคนและน้องหมา ก็มีอยู่เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นคนที่ไม่เคยนำหมา หรือสัตว์เลี้ยงติดรถไปด้วย ก็จะติดปัญหาว่า จะเตรียมตัวอย่างไรดี ไม่ให้หมานั้นซุกซน เห่าหนวกหู หรือทั้งฉี่ทั้งอึภายในรถ ส่วนตัวหมาเอง ก็ต้องดูว่า จะทำตัวอย่างไรดี ไม่ให้เจ้านายเขกกบาลระหว่างทาง …..

Mr.Carro ขอแนะนำ 5 วิธี สร้างความสุขให้คนและน้องหมา เวลาติดรถไปด้วยกันนั้น จะมีอะไรบ้าง …..

5 วิธี ฝึกน้องหมานั่งรถ เมื่อต้องไปด้วยกัน!

1. งดอาหาร (สุนัข) ล่วงหน้า

ก่อนที่คุณจะขับรถออกไปไหนมาไหน แล้วต้องเอาหมาติดรถไปด้วย ควรงดให้อาหารและน้ำหมาก่อน สักประมาณ 1-2 ชั่วโมง

5 วิธี ฝึกน้องหมานั่งรถ เมื่อต้องไปด้วยกัน!

2. สุนัขนั่งหลังดีกว่า

ตำแหน่งที่เหมาะสมเวลาให้หมานั่งไปกับรถของคุณ นั่นคือ เบาะด้านหลัง เพื่อที่จะทำให้คุณไม่เสียสมาธิเวลาขับรถ ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นมาได้ และควรฝึกให้หมานั่งนิ่งๆ

5 วิธี ฝึกน้องหมานั่งรถ เมื่อต้องไปด้วยกัน!

3. อย่าลืมสายจูง หรือสายนิรภัย

ขนาดคนนั่งภายในรถยนต์ ยังต้องคาดเข็มขัดนิรภัยเลย แล้วหมาก็ต้องมีสายรัดนิรภัยด้วยเช่นกัน เพื่อป้องกันอันตรายจากการตกหล่น หรือกระแทก เมื่อคุณเบรกกะทันหัน และยังเหมาะกับหมาที่มีนิสัยซุกซน ชอบปีนป่าย กระโดดโลดเต้น วิ่งไปวิ่งมา ถ้าไม่มีไว้คุณคงขับรถลำบากแน่นอน

5 วิธี ฝึกน้องหมานั่งรถ เมื่อต้องไปด้วยกัน!

4. อย่าลืมผ้าคลุมเบาะ

จริงๆ แล้ว ไม่ว่าเบาะรถยนต์นั่งของคุณ จะทำด้วยวัสดุอะไร เช่น สักหลาด กำมะหยี่ หนังไวนิล หรือหนังแท้ คุณก็ควรจะมีผ้าปูรองนั่ง หรือผ้าคลุมเบาะแยกต่างหาก เพราะการให้หมานั่งบนเบาะแบบเพียวๆ เลย มันไม่ดีเท่าไหร่นัก เพื่อป้องกันเล็บของหมา ไปขูดขีดบนเบาะ หรือน้ำลายหมา ที่อาจทำให้เบาะในรถของคุณสกปรก หรือมีกลิ่น อีกทั้งยังป้องกันขนหมาร่วงไปบริเวณอื่นๆ อีกด้วย

5 วิธี ฝึกน้องหมานั่งรถ เมื่อต้องไปด้วยกัน!

5. กระดาษชำระ X ถุงพลาสติก X ชามข้าวสุนัข

หลายคนสงสัย ทำให้ต้องเอากระดาษชำระ และถุงพลาสติกไปด้วย เพราะเราก็ไม่สามารถรู้ล่วงหน้าได้ว่า หมามันเกิดจะปวดขี้ หรือปวดเยี่ยว ขึ้นมาตอนไหนเมื่อไหร่ การมีกระดาษชำระ และถุงพลาสติกไว้ ก็ถือว่าดี ไม่สกปรกเลอะเทอะในรถด้วย และยังเอาใส้อ้วกของหมา กรณีที่หมาเมารถได้ด้วยเช่นกัน

สำหรับชามข้าวหมา เผื่อไว้สำหรับใครที่เดินทางไกลนานๆ ขนาดคนยังหิว หมาก็รู้สึกหิวด้วยเช่นกัน เอาไว้สำหรับใส่น้ำ ใส่อาหารให้หมากินระหว่างทางได้

หากหมาของใครที่ไม่คุ้นชินกับการเดินทางไกล หรือมีอาการลนลานเวลาอยู่ในรถ อาจจะนำของเล่นของหมา มาให้หมาเล่นระหว่างทางไปด้วย ถ้าเป็นแบบหมากระเป๋า ก็เอาผ้าห่ม เสื้อผ้าหมา (กรณีหมาขนสั้น ขี้หนาว) หรือที่นอนหมาไปด้วย เพื่อให้หมาอุ่นกาย อุ่นใจ และมีของเล่นที่คุ้นเคยหว่างทางครับผม

แค่นี้ คุณกับหมา ก็เดินทางไปด้วยกันอย่างมีความสุขแล้วครับ

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่มาใช้ในช่วงนี้ มาขายรถกับทาง Carro Express สิ! คลิกเลยที่ https://th.carro.co/sell-car/express รับรองได้เงินเร็ว ไว ทันใจแน่นอน!

CARRO Automall

ส่วนใครสนใจจะซื้อรถมือสอง Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

หลายคนอาจตกใจ เมื่อเห็นหัวข้อของบทความนี้ ทำไมตั้งซะดูโหดร้ายจังเลย โดยเฉพาะคนรักสุนัข คนรักสัตว์

แต่ก็เป็นที่ทราบกันดี เพราะปัญหาสุนัขจรจัด (หรือ หมาจรจัด) ก็ยังเป็นปัญหาที่แก้ไม่ตก และเป็นปัญหาที่เรื้อรังมาอย่างยาวนาน จากคนที่ไร้ความรับผิดชอบ หรือเลี้ยงไม่ไหว ก็มักจะแอบไปปล่อยตามวัด หรือตามซอยต่างๆ จนออกลูกหลานเต็มไปหมด

Human-and-Dog

คุณอาจจะเคยเห็นหมาที่นั่งๆ นอนๆ ตามหน้าร้านสะดวกซื้อ หรือตามสถานที่ต่างๆ ที่คนรักสัตว์ มักจะเอ็นดู ชื่นชอบและสงสาร คอยให้อาหารกันอยู่เป็นประจำ

แต่ในขณะเดียวกัน สุนัขเองก็มีไปสร้างความเดือดร้อน (ที่เวลาไปสร้างความเดือดร้อนให้ใคร ก็จะหาคนที่มารับผิดชอบได้ยาก หรือไม่มี) เช่น การขับถ่าย ขี้-เยี่ยว เรี่ยราด หรือไล่กัดชาวบ้านที่เดินไปมา บางทีจู่ๆ กัดกันเอง หรือตกใจเสียงดังอะไรสักอย่าง วิ่งเตลิดออกทำคนตกใจไปทั่วก็มี

Family-Driving

สมมติว่าคุณขับรถไปบนถนนเส้นหนึ่ง ด้วยความเร็วพอประมาณ อยู่ๆ ก็มีหมาที่วิ่งออกมาจากไหนก็ไม่รู้ ตัดหน้ารถกะทันหัน ถ้าเป็นคุณจะทำอย่างไร?

ในกรณีที่คุณตัดสินใจ “หักหลบเข้าข้างทาง” นั้น ถือว่าเป็นสิ่งที่ควรปฏิบัติ “แต่” ก็ต้องมี “สติ” และดูสถานการณ์รอบข้างด้วย ว่าไม่มีสิ่งกีดขวางอะไรใดๆ รอบด้าน หรือรถวิ่งสวนมาในมุมที่คุณจะหักหลบไป และดูความเร็วที่ใช้มาด้วย เพราะการหักหลบ อาจกลายเป็นเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน ก่อให้เกิดเรื่องมากกว่าที่คิด ไม่งั้น คุณอาจจะเจ็บตัวแทนหมาที่วิ่งตัดหน้ารถคุณแทน

แต่ถ้าหากคุณตัดสินใจ “ชนหมาทันที” นั้น ต้องเป็นเฉพาะเข้ามากระชั้นชิดจริงๆ แบบที่ไม่มีทางหลบได้แล้ว

เพราะการชนหมา ก็ทำให้รถคุณเกิดความเสียหายขึ้นแน่นอน และต้องจ่ายซ่อมรถเอง ยกเว้นว่ารถประกันภัยชั้น 1 ก็จะได้รับความคุ้มครองและดูแลความเสียหายเกี่ยวกับรถยนต์ และทรัพย์สินของบุคคลภายนอกตามที่ระบุไว้ตามกรมธรรม์

Car-Warning-System

แต่ถ้าคุณตัดสินใจ “เบรกอย่างรุนแรง” (หรือกระทืบเบรก) ถ้าคุณมองกระจกมองหลัง กระจกมองข้างในเสี้ยววินาทีแล้วว่า ไม่มีรถ หรือมอเตอร์ไซค์วิ่งตามหลังมา ก็เบรกได้เลย แต่คุณก็ต้องประคองรถให้ดีๆ ถึงแม้ว่ารถรุ่นใหม่ๆ แทบทุกรุ่น จะมีติดตั้งระบบเบรก ABS ป้องกันล้อล็อคตาย หรือระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ มาให้ก็ตาม

แต่ถ้าจะให้ดีที่สุด ถ้าคุณขับรถผ่านในที่ชุมชน อย่าขับเร็วมาก (ใช้ความเร็วประมาณ 30-50 กม./ชม. ก็เพียงพอแล้ว) และหมั่นสังเกตสองข้างทาง จะมีหมา (หรือคน) มีท่าทีจะวิ่งออกมาตัดหน้ารถเราหรือเปล่า กดแตรเตือนไปก่อน (ไม่ต้องกดแตรถี่ๆ เดี๋ยวจะกลายหมาเป็นตกใจขึ้นมาแทน) ก็ช่วยชีวิตมันได้แล้ว เพราะสัตว์ไม่เข้าใจ หรือกะในเรื่องความเร็วรถที่วิ่งมาได้หรอกครับ

เพราะหมามันก็รักชีวิต เท่ากับเราเหมือนกัน

Car-Accident

กรณีที่หมามีเจ้าของ แล้วเกิดเรื่องแบบนี้ ใครจะต้องรับผิดชอบ?

ตาม พ.ร.บ. จราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 111 ซึ่งบัญญัติห้ามมิให้ผู้ใดขี่ จูง ไล่ต้อนหรือปล่อยสัตว์ไปบนทางในลักษณะที่เป็นการกีดขวางการจราจรและไม่มีผู้ควบคุมเพียงพอ

เมื่อเจ้าของหมา ดูแลหมาไม่ได้ ก็ต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย และ พรบ. ป้องกันการทารุณกรรมสัตว์ฯ

ซึ่ง พ.ร.บ. ป้องกันทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ มาตรา 23 กล่าวว่า ด้วยการห้ามมิให้เจ้าของสัตว์ปล่อย ละทิ้ง หรือกระทําการใดๆ ให้สัตว์พ้นจากการดูแลของตนโดยไม่มีเหตุอันสมควร หากฝ่าฝืนต้องระวางโทษปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท

เจ้าของสัตว์จึงต้องรับผิด เว้นแต่คนขับรถจะขับรถประมาท ก็ต้องรับผิดตามสัดส่วน ว่าใครประมาท มากกว่ากัน

ส่วนใครที่อยากขายรถ หรือมีเพื่อนฝูงกำลังหาที่ขายรถอยู่ CARRO เรารับซื้อรถของคุณ สามารถเข้าไปเช็กราคา ตีราคาขายรถก่อนได้ โดยใส่ข้อมูลรถของคุณที่นี่เลย กับ CARRO Express > https://th.carro.co/sell-car/express หรือโทร. 02-508-8425

หรือใครจะ Inbox มาสอบถามก็ได้เช่นกัน ที่ Facebook CARRO Thailand หรือสะดวก Add Line ก็ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ครับ —> เพิ่มเพื่อน

ขอขอบคุณข้อมูลกฏหมายจาก

  • ทนายเกิดผล แก้วเกิด