MG ZS EV 2022 โฉมใหม่! ชูแบตเตอรี่วิ่งได้ไกลขึ้นถึง 403 กิโลเมตร

บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย ประเดิมเปิดตัว New MG ZS EV (เอ็มจี แซดเอส อีวี) รถยนต์ไฟฟ้า 100% โฉมใหม่ ที่มาพร้อมกับ Concept “Truly Easy” พร้อมด้วย MG EV Ecosystem หรือระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าที่แข็งแกร่งของเอ็มจี โดยมีเครือข่าย MG Super Charge ที่ครอบคลุมและรองรับการเดินทางได้ทั่วประเทศ

พร้อมมอบข้อเสนอพิเศษ เงินจองจำนวน 10,000 บาท จะมีมูลค่าเป็น 20,000 บาท เพื่อใช้หักจากราคาจำหน่ายเมื่อมีการส่งมอบรถอย่างเป็นทางการ และอุปกรณ์เชื่อมต่อกระแสไฟ V2L มูลค่า 10,000 บาท เฉพาะผู้ที่จองผ่าน mgcars.com ในระหว่างวันที่ 11-21 มีนาคม และรับรถภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2565 เท่านั้น

มีให้เลือกทั้งหมด 2 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น D และรุ่น X  โดยจะประกาศราคาอย่างเป็นทางการในงาน Motor Show 2022 (งานมอเตอร์โชว์ 2022) วันที่ 22 มีนาคมนี้ และจะจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการใน 58 โชว์รูม ซึ่งสามารถตรวจสอบรายชื่อโชว์รูมได้ที่ www.mgcars.com

MG ZS EV 2022 โฉมใหม่! ชูแบตเตอรี่วิ่งได้ไกลขึ้นถึง 403 กิโลเมตร

MG (เอ็มจี) แนะนำ MG ZS EV รถยนต์ไฟฟ้า 100% รุ่นแรกเข้าสู่ตลาดรถยนต์เมืองไทยเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ด้วยแนวคิดหรือ Concept “Easy” เพื่อทำให้ผู้บริโภคเห็นว่า การใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าเป็นเรื่อง “ง่าย” ทั้งในด้านของการใช้งาน การดูแลรักษา การชาร์จพลังงาน และการเป็นเจ้าของ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าคนไทยและทำให้ตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศเติบโตอย่างก้าวกระโดด

ทั้งนี้ก่อนการเปิดตัว New MG ZS EV บริษัทฯ ยังได้ทดสอบสมรรถนะและการใช้งานอย่างครอบคลุมของรถรุ่นนี้ภายใต้โปรเจค EV Marathon โดยเป็นการวิ่งทดสอบทั่วประเทศบนระยะทางกว่า 4,880 กิโลเมตร เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่ารถยนต์พลังงานไฟฟ้ามีสมรรถนะที่เพียงพอสามารถใช้งานได้ในชีวิตประจำวัน มีศักยภาพรองรับการใช้งานวิ่งระยะไกลได้อย่างสะดวกสบายเหมือนรถยนต์ทั่วไป ด้วยความพร้อมของสถานีชาร์จที่ครอบคลุมทั่วประเทศ

MG ZS EV 2022 โฉมใหม่! ชูแบตเตอรี่วิ่งได้ไกลขึ้นถึง 403 กิโลเมตร

New MG ZS EV รถพลังงานไฟฟ้า 100% ในรูปแบบ SUV ที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์ “TRULY EASY” ยนตรกรรมที่จะทำให้ชีวิตของคุณ “ง่าย” ขึ้นอย่างแท้จริง ด้วยดีไซน์โดดเด่นสะดุดตา ภายนอกเรียบหรู ล้ำสมัยภายใต้แนวคิด BRIT DYNAMIC ลงตัวสมบูรณ์แบบในทุกด้าน ทั้งสมรรถนะ (PERFORMANCE) การควบคุม (HANDING) การออกแบบ (DESIGN) และความปลอดภัย (SAFETY) ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ทันสมัย ขับขี่ง่าย มั่นใจในทุกเส้นทาง

MG ZS EV 2022 โฉมใหม่! ชูแบตเตอรี่วิ่งได้ไกลขึ้นถึง 403 กิโลเมตร

EASY & STYLISH – EXTERIOR DESIGN: ดีไซน์ภายนอกล้ำสมัย

New MG ZS EV มาพร้อมกับรูปลักษณ์ภายนอกที่โดดเด่นตามแบบฉบับรถ SUV ของ MG เรียบง่ายแต่แฝงด้วยความสปอร์ต ผสานเข้ากับเส้นสายที่ทันสมัย ลงตัวในทุกรายละเอียด พร้อมกระจังหน้าและกันชนหน้าดีไซน์ใหม่สะท้อนภาพลักษณ์รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% มากยิ่งขึ้น

  • มิติตัวถังยาว 4,323 มม. กว้าง 1,809 มม. สูง มม. ระยะฐานล้อ 2,585 มม.
  • กระจังหน้า และกันชนหน้าแบบ GRILLE-LESS DESIGN
  • ไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ตอนกลางวัน (Daytime Running Lights)
  • ไฟท้ายแบบ และไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED
  • สปอยเลอร์หลังพร้อมราวหลังคา
  • ล้ออัลลอยด์ ดีไซน์ใหม่ ขนาด 17 นิ้ว พร้อมฝาครอบล้อแบบ Aero Wheel Cover

MG ZS EV 2022 โฉมใหม่! ชูแบตเตอรี่วิ่งได้ไกลขึ้นถึง 403 กิโลเมตร

EASY & CONVENIENT – INTERIOR DESIGN: ดีไซน์ภายใน เพื่อการใช้งานที่ “ง่าย” และ สบาย ยิ่งขึ้น

New MG ZS EV ได้รับการออกแบบให้มีพื้นที่ภายในกว้างขวาง มาพร้อมดีไซน์เรียบหรู แฝงความสปอร์ตพรีเมี่ยมด้วยคอนโซลหน้าลายคาร์บอนไฟเบอร์ และเบาะหนังดำเดินด้ายแดง พร้อมวัสดุบุนุ่มแบบ Soft Touch และฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน

MG ZS EV 2022 โฉมใหม่! ชูแบตเตอรี่วิ่งได้ไกลขึ้นถึง 403 กิโลเมตร

  • ระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย (Wireless Charger)
  • พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น ควบคุมเครื่องเสียงพร้อมปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์
  • หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะแบบดิจิตอล ขนาด 7 นิ้ว
  • หน้าจอสีระบบสัมผัสดีไซน์ใหม่ ขนาด 10 นิ้ว
  • หลังคาซันรูฟแบบพาโนรามา (Panoramic Sunroof)
  • เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง เบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับ 4 ทิศทาง
  • พื้นที่เก็บสัมภาระปรับได้ 2 ระดับ
  • ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ พร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
  • กระจกมองหลังตัดแสง
  • ระบบกรองอากาศ PM 2.5
  • ลำโพง 6 ตำแหน่ง
  • ระบบเชื่อมต่อมัลติมิเดีย Apple CarPlay และสมาร์ทโฟนระบบ Android

MG ZS EV 2022 โฉมใหม่! ชูแบตเตอรี่วิ่งได้ไกลขึ้นถึง 403 กิโลเมตร

EASY DRIVE: สมรรถนะเพื่อการขับขี่ที่ง่าย มั่นใจ และปลอดภัยยิ่งขึ้น

New MG ZS EV เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุด 177 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. อยู่ที่ 8.6 วินาที

และด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่มีความจุ 50.3 kWh ทำให้สามารถขับขี่ได้ระยะทางสูงสุดถึง 403 กิโลเมตร* ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC พร้อมมีระบบ Liquid Cooling System ช่วยระบายความร้อนให้ทั้งมอเตอร์ไฟฟ้า และแบตเตอรี่ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

  • มอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor
  • แบตเตอรี่ Lithium-Ion ขนาด 50.3 kWh
  • แบตเตอรี่มาตรฐานความปลอดภัย IP67 ในการป้องกันน้ำและฝุ่น
  • ระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) 3 ระดับ
  • โหมดการขับขี่ 3 รูปแบบ ได้แก่ โหมด Eco โหมด Normal และโหมด Sport
  • ระบบพวงมาลัย Rack and Pinion ควบคุมด้วยไฟฟ้า (EPS)
  • ดิสก์เบรก 4 ล้อ พร้อมระบบช่วงล่างหน้า MacPherson Strut พร้อมเหล็กกันโคลง และระบบช่วงล่างหลัง Torsion Beam

*ทดสอบตามมาตรฐานความประหยัดพลังงาน NEW EUROPEAN DRIVING CYCLE (NEDC)

MG ZS EV 2022 โฉมใหม่! ชูแบตเตอรี่วิ่งได้ไกลขึ้นถึง 403 กิโลเมตร

New MG ZS EV มาพร้อมระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัย FSF (Full Space Frame) ปรับแต่งระบบช่วงล่างแบบ EURO TUNING SUSPENSION และมีการติดตั้งระบบความปลอดภัยรอบคัน ด้วยระบบความปลอดภัยมาตรฐาน Advanced Synchronized Protection System 20 ระบบ ได้แก่

  • ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Braking)
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนพร้อมปรับองศาพวงมาลัยหากออกนอกเลน ELK (Emergency Lane Keeping System) ถือเป็นระบบใหม่ที่เพิ่มเติมเข้ามาเป็นครั้งแรก โดยผสานรวมระบบ LDP (Lane Departure Prevention) และ LKA (Lane Keep Assist) เข้าไว้ด้วยกัน
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning)
  • ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection)
  • ระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA (Lane Change Assist)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist)
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning)
  • ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-beam control)

MG ZS EV 2022 โฉมใหม่! ชูแบตเตอรี่วิ่งได้ไกลขึ้นถึง 403 กิโลเมตร

นอกจากนี้ยังเสริมอุปกรณ์ความปลอดภัย อาทิ จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ (Speed Sensing Door Lock) เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย กล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ (3D Around View Monitor) พร้อมสัญญาณเตือนระยะถอยหลัง ระบบกุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง และระบบไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่อง

MG ZS EV 2022 โฉมใหม่! ชูแบตเตอรี่วิ่งได้ไกลขึ้นถึง 403 กิโลเมตร

EASY CHARGE: ง่าย สะดวกสบาย ทุกการชาร์จ ด้วยสถานีชาร์จที่ครอบคลุม

New MG ZS EV ทำให้การใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าเป็นเรื่องง่ายและสะดวกสบาย ด้วยระบบการชาร์จ 2 รูปแบบรองรับทั้งแบบ Quick Charge และ Normal Charge พร้อมสถานีอัดประจุไฟฟ้าของเอ็มจี MG Super Charge ที่ติดตั้งแล้วกว่า 120 แห่งทั่วประเทศ

  • ชาร์จแบบเร็ว Quick Charge ชาร์จไฟฟ้าจาก 30% – 80% ใช้เวลาประมาณ 30 นาที*
  • ชาร์จแบบธรรมดา Normal Charge ผ่าน MG HOME CHARGER 0% – 100% ใช้เวลาประมาณ 7 ชั่วโมง 15 นาที
  • ล่าสุด กับระบบจ่ายกระแสไฟ V2L (Vehicle to Load) จ่ายพลังงานจากรถสู่อุปกรณ์ไฟฟ้าอื่น

*ระยะเวลาในการชาร์จ ขึ้นอยู่กับระดับแบตเตอรี่คงเหลือและกำลังของเครื่องอัดประจุไฟฟ้า

MG ZS EV 2022 โฉมใหม่! ชูแบตเตอรี่วิ่งได้ไกลขึ้นถึง 403 กิโลเมตร

EASY CONNECT: ด้วยเทคโนโลยีการเชื่อมต่ออัจฉริยะที่ทำให้การใช้งานง่ายและสะดวกสบายอย่างแท้จริง

New MG ZS EV มาพร้อมระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART ที่พร้อมทำให้ทุกการเชื่อมต่อในรถมีความง่ายและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ เชื่อมให้ผู้ใช้งานและรถเป็นหนึ่งเดียวกัน

Smart Check

  • ระบบตรวจสอบสถานะรถยนต์ และระบบเตือนความผิดปกติของรถยนต์
  • ระบบขอบเขตอิเล็กทรอนิกส์
  • ระบบสั่งการ และระบบค้นหารถ Find My Car
  • ระบบตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่ การชาร์จ และสถานีชาร์จ
  • ระบบช่วยค้นหาศูนย์บริการ นัดหมาย และบันทึกการดูแลรักษารถยนต์ตามระยะ

Smart Command

  • กุญแจดิจิตอล
  • ระบบสั่งการผ่านเสียงภาษาไทย
  • ระบบควบคุมการทำงานของระบบปรับอากาศผ่านทางสมาร์ทโฟน
  • ระบบวางแผนการเดินทาง Travel Plan และตั้งค่าการเดินทางแบบ Team Travel
  • ระบบโทรออก – รับสายกรณีฉุกเฉิน
  • ระบบโทรอัตโนมัติกรณีฉุกเฉิน Emergency Call
  • ระบบเลขาส่วนตัว MG Call Centre
  • ระบบสั่งการชาร์จ สถานี MG Super Charge ผ่านทางสมาร์ทโฟน

Smart Connect

  • ระบบนำทาง Navigation พร้อมรายงานการจราจรแบบ Real Time
  • ระบบช่วยค้นหาร้านอาหาร และที่พักบนแผนที่นำทาง
  • ระบบเล่นเพลงออนไลน์แบบสตรีมมิ่ง
  • ระบบเรียกดูข้อมูลข่าวสาร เหตุการณ์ปัจจุบัน และอัพเดทข้อมูลพยากรณ์อากาศ
  • อัพเกรดระบบต่าง ๆ ผ่านออนไลน์ (FOTA)

MG ZS EV 2022 โฉมใหม่! ชูแบตเตอรี่วิ่งได้ไกลขึ้นถึง 403 กิโลเมตร

New MG ZS EV มีให้เลือกทั้งหมด 2 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น D และรุ่น X พร้อมสีตัวถังทั้งหมด 5 สี ได้แก่ ได้แก่ สีน้ำเงิน (Como Blue) สีเงิน (Cosmic Silver) สีแดง (Scarlet Red) สีดำ (Black Knight) และสีขาว (Arctic White)

สำหรับผู้จอง New MG ZS EV ในช่องทางออนไลน์ผ่าน www.mgcars.com ระหว่างวันที่ 11-21 มีนาคมนี้ และรับรถภายในวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2565 จะได้รับข้อเสนอสุดพิเศษจากทางเอ็มจี ประกอบด้วย

  • เงินจอง 10,000 บาท จะมีมูลค่าเป็น 20,000 บาท เพื่อใช้หักออกจากราคาจำหน่าย NEW MG ZS EV เมื่อมีการส่งมอบรถอย่างเป็นทางการ
  • รับประกับแบตเตอรี่นาน 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร
  • รับประกันคุณภาพรถยนต์นาน 4 ปี หรือ 120,000 กิโลเมตร
  • ฟรี! MG Home Charger พร้อมค่าติดตั้ง
  • ประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี
  • ฟรี! อุปกรณ์เชื่อมต่อกระแสไฟ V2L มูลค่า 10,000 บาท

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่ มาขายรถกับทาง CARRO Express ได้ที่  https://th.carro.co/sell-car/express วิธีการขายรถในแบบยุคใหม่ ง่าย สะดวก รวดเร็ว ได้ราคา อีกทั้งยังลงขายได้ “ฟรี!” พร้อมรับเงินสดกลับบ้านทันที ภายใน 24 ชั่วโมง!

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

แต่ถ้าหากช่วงนี้ใครอยากเปลี่ยนรถคันใหม่ มาใช้แทนที่รถคันเดิม CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น!

รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด และยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ให้คุณเลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา พร้อมรับประกันคุณภาพรถนานถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร! อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! เรามีรถให้คุณเลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Official โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

MG ZS EV 2022 โฉมใหม่! ชูแบตเตอรี่วิ่งได้ไกลขึ้นถึง 439 กิโลเมตร

นับตั้งแต่ MG ZS (เอ็มจี แซดเอส) ไดทำการปรับเปลี่ยนโฉมไปในช่วงกลางปี 2563 ที่ผ่านมา ก็ยังคงสร้างปรากฎการณ์เป็นรถ SUV แบบ Crossover ที่ขายดีในบ้านเราอยู่อย่างต่อเนื่อง

แต่ทว่าคู่แฝดที่เป็นรถยนต์ไฟฟ้า อย่าง MG ZS EV (เอ็มจี แซดเอส อีวี) ที่ดูเหมือนจะเงียบๆ หายไปในบ้านเรา ตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา

อ่านเพิ่มเติม >> เจาะลึก MG ZS EV ใหม่ รถ SUV พลังไฟฟ้า 100% ในราคา 1,190,000 บาท

ซึ่งหลายคนอาจจะไม่ทราบว่า ในต่างประเทศแถบยุโรปและอังกฤษตอนนี้ MG ZS EV 2022 ปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ พร้อมขายกันแล้วจ้า เชื่อว่าคนชื่นชอบรถยนต์ไฟฟ้า MG รอเก็บตังค์ซื้อกันเลย ไม่ว่าจะกี่ล้านก็ตาม …

MG ZS EV 2022 โฉมใหม่! ชูแบตเตอรี่วิ่งได้ไกลขึ้นถึง 439 กิโลเมตร

สำหรับรูปโฉมดีไซน์ภายนอกของ MG ZS EV 2022 หน้าตาดูใกล้เคียงกับ MG ZS รุ่นไมเนอร์เชนจ์ แต่ปรับปรุงหน้าตาใหม่ด้วยการใช้กันชนและกระจังหน้าแบบทึบ สไตล์รถยนต์ไฟฟ้า พร้อมออกแบบให้ฝาปิดช่องชาร์จไฟบริเวณกระจังหน้าให้สังเกตได้ง่ายขึ้น พร้อมชุดไฟท้ายและกันชนท้ายออกแบบใหม่ และล้ออัลลอยสีทูโทนขนาด 17 นิ้ว

MG ZS EV 2022 โฉมใหม่! ชูแบตเตอรี่วิ่งได้ไกลขึ้นถึง 439 กิโลเมตร

ห้องโดยสารภายใน ติดตั้งหน้าจออินโฟเทนเมนท์ขนาด 10.1 นิ้ว รองรับการใช้งาน Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมทั้งมาตรวัดแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 7 นิ้ว อีกทั้งยังมีระบบชาร์จสมาร์ทโฟนแบบไร้สายมาให้ด้วย

MG ZS EV 2022 โฉมใหม่! ชูแบตเตอรี่วิ่งได้ไกลขึ้นถึง 439 กิโลเมตร

ส่วนระบบความปลอดภัย ยังคงจัดหนักจัดเต็มไปกับระบบ Advanced Synchronized Protection System เหมือนในโฉมแรกเช่นเคย ทั้งโครงสร้างตัวถังนิรภัย (FSF) ระบบความปลอดภัย Synchronized Protection System ทั้งหมด 9 ระบบ และระบบเสริมความปลอดภัยในขณะขับขี่ Advanced Driver-Assistance Systems ได้แก่

  • ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-Beam Control)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist)
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning)
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning)
  • ระบบช่วยควบคุมรถเมื่อรถออกนอกเลน LDP (Lane Departure Prevention)
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA (Lane Keep Assist)
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA (Lane Change Assist)
  • ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection)
  • ระบบเตือนขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)

MG ZS EV 2022 โฉมใหม่! ชูแบตเตอรี่วิ่งได้ไกลขึ้นถึง 439 กิโลเมตร

สำหรับมอเตอร์ไฟฟ้าของรุ่น Standard Range ให้กำลังสูงสุด 130 กิโลวัตต์ (178 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 280 นิวตัน-เมตร ส่วนรุ่น Long Range เพิ่มกำลังมอเตอร์ไฟฟ้าเป็น 150 กิโลวัตต์ (204 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 280 นิวตัน-เมตร เมื่อเทียบกับรุ่นปัจจุบัน ที่ให้กำลังสูงสุด 110 กิโลวัตต์ หรือ 150 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร

MG ZS EV 2022 โฉมใหม่! ชูแบตเตอรี่วิ่งได้ไกลขึ้นถึง 439 กิโลเมตร

แต่อีกจุดเด่นของ MG ZS EV 2022 ที่ไม่พูดไม่ได้ก็คงจะเป็นชุดแบตเตอรี่ แบบ Lithium-ion ความจุ 44.5 kWh ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเป็นความจุ 51 kWh ที่ชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ให้ระยะทางวิ่งได้ถึง 318 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน WLTP)

อีกทั้งยังมีแบตเตอรี่แบบ Long Range ขนาด 72 kWh ที่ชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ให้ระยะทางวิ่งได้ถึง 439 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน WLTP) และรองรับการชาร์จด่วนตามจุด EV Charger ด้วยกำลังไฟมากขึ้นถึง 76 กิโลวัตต์ ส่งผลให้ประหยัดเวลาชาร์จ จาก 0-100% ลงเหลือ 42 นาทีเท่านั้น (หากชาร์จไฟบ้านปกติแบบ AC ขนาด 7kW ใช้เวลาราว 10.5 ชั่วโมง)

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่ มาขายรถกับทาง CARRO Express ได้ที่  https://th.carro.co/sell-car/express วิธีการขายรถในแบบยุคใหม่ ง่าย สะดวก รวดเร็ว ได้ราคา อีกทั้งยังลงขายได้ “ฟรี!” พร้อมรับเงินสดกลับบ้านทันที ภายใน 24 ชั่วโมง!

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

แต่ถ้าหากช่วงนี้ใครอยากเปลี่ยนรถคันใหม่ มาใช้แทนที่รถคันเดิม CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น!

รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check มากกว่า 200 จุด และยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ให้คุณเลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา พร้อมรับประกันคุณภาพรถนานถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร! อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! เรามีรถให้คุณเลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Official โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

The-3-Best-SUV-Nissan-Mazda-MG

รถในระดับ B-SUV ป้ายแดงยอดนิยม นับว่าเป็นรถที่ยอดฮิตมากในบ้านเรา มีราคาค่าตัวอยู่ที่ 6 แสน ไปจนถึง 1 ล้านบาท ที่ขับเคี่ยวแข่งขันกันในตลาดรถยนต์อย่างดุเดือดกันมาหลายปี ถ้าไม่ติดว่าเจอโควิด-19 มาเสียก่อน เพราะตลาดกลุ่มนี้ ถือว่าเป็นกลุ่มใหญ่พอสมควร จนค่ายรถหลายค่าย ต่างพยายามเต็มที่เพื่อเอาใจลูกค้ากลุ่มนี้ให้ได้ ซึ่งมีทั้งนักศึกษา คนวัยเริ่มต้นทำงาน ไปจนกระทั่งแม่บ้าน คนครอบครัวขนาดเล็ก เป็นต้น

CARRO Thailand จึงขอนำรถ B-SUV ยอดฮิตในหมู่คนไทย ที่เพิ่งเปิดตัวสดใหม่ช่วงต้นปี 2020 ด้วยกัน 3 แบรนด์ 3 รุ่น อย่าง Nissan Kicks (นิสสัน คิกส์) ที่วางแผนจะเปิดตัวกันในเดือนมีนาคม และในงาน Motor Show 2020 แต่โควิด-19 มา งานเลยล่มซะก่อน, Mazda CX-30 (มาสด้า ซีเอ็กซ์-30) และ MG ZS (เอ็มจี แซดเอส) พร้อมตารางราคา และอัตราดอกเบี้ย มาเปรียบเทียบกันให้เห็น แบบช้าๆ ชัดๆ!

หากใครสนใจรุ่นไหนอยู่ ลองคำนวณงบประมาณที่มี แล้วเลือกดูว่า จะผ่อนกันแบบไหนได้เลย 

ถ้าคุณอยากขายรถด่วน เพื่อไปซื้อรถคันใหม่ หรือรับเงินก้อนไปใช้ในช่วงโควิด-19 สามารถขายรถคันเก่า หรือตีราคารถกับทาง CARRO ได้ ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ CARRO Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

Nissan-Kicks-ePower-2020

Nissan Kicks e-Power 2020

ข้อดี : เป็นรถครอสโอเวอร์ไฮบริด ที่มาพร้อมจุดเด่นอย่างการใช้ระบบเครื่องยนต์สันดาปภายใน ไปปั่นกระแสไฟฟ้าให้กับแบตเตอรี่แบบลิเทียมไอออน และจ่ายไฟไปยังมอเตอร์ไฟฟ้าให้ขับเคลื่อนรถยนต์อีกที ซึ่งเป็นหลักการที่คล้ายกับรถยนต์ไฟฟ้า (BEV : Battery Electric Vehicle) แต่ไม่ต้องชาร์จไฟจากภายนอก เพิ่มความสะดวกในการใช้งาน เหมาะกับการขับรถทางไกล

ข้อด้อย : หลายคนอาจผิดหวังกับความประหยัด ว่าประหยัดได้เท่า Eco-Car และไม่มีระบบ Active Cooling ให้กับแบตเตอรี่รถยนต์ ซึ่งเมืองร้อน (มาก) อย่างบ้านเรา ควรจะเพิ่มระบบหล่อเย็นจุดนี้ แม้ว่าแบตเตอรี่จะถูกออกแบบมาให้ทนความร้อนได้สูงก็ตาม

รายละเอียดตัวรถ : เป็นรถแบบ SUV ที่นิสสันพัฒนามาจากรถต้นแบบอย่าง Nissan Kicks Concept โดยเปิดตัวตัวรถผลิตขายจริงมาตั้งแต่ช่วงปี 2016 เพื่อทำตลาดในอเมริกาใต้เป็นหลัก ตัวรถพัฒนาขึ้นบนแพลทฟอร์ม V แบบเดียวกับรถตระกูล Nissan Micra, Note, Pulsar หรือ Sylphy

ห้องโดยสารภายใน โดดเด่นด้วยการใช้สีทูโทนดำ – ส้ม (เฉพาะรุ่น VL) ด้วยแผงคอนโซล และเบาะหนัง พร้อมเชื่อมต่อกับโลกออนไลน์ได้ตลอดเวลา ด้วยเทคโนโลยีเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนเข้ากับหน้าจอเครื่องเสียง ผ่าน Apple CarPlay พร้อมระบบนำทาง Navigation System ผ่าน Google Map กับระบบสั่งงานด้วยเสียง Voice Recognition ที่ใช้งานง่าย

แถมพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายมีความจุมากถึง 432 ลิตร และยังมีความลึกของห้องเก็บสัมภาระที่มากถึง 900 มม. โดยที่ยังไม่พับเบาะหลัง

เวลาขับยังมีระบบอัจฉริยะ ช่วยให้คนขับมองเห็นพื้นที่ข้างรถได้รอบทิศทาง ผ่านกล้อง 4 จุดรอบคัน จับภาพขณะเคลื่อนไหวจริง และนำไปประมวลผล แล้วแสดงผลเป็นภาพจากมุมสูงผ่านหน้าจอวิทยุ และทำงานร่วมกับเทคโนโลยีเตือนวัตถุเคลื่อนไหวรอบคัน Moving Object Detection (MOD) ตรวจจับและส่งสัญญาณเตือน เมื่อตรวจพบบุคคล หรือวัตถุที่กล้องรอบคันจับการเคลื่อนไหวได้ เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่

Nissan-Kicks-ePower-2020

อุปกรณ์มาตรฐานเด่นๆ :

  • หน้าจอ TFT Digital Meter ขนาด 7 นิ้ว บนมาตรวัด
  • พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันทรง D-Shape
  • กุญแจรีโมทอัจฉริยะ Intelligent Key
  • ปุ่ม Push Start
  • กุญแจระบบ Immobilizer
  • ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ
  • กระจกไฟฟ้ารอบคัน พร้อมระบบป้องกันการหนีบ Anti-jam Protection ด้านผู้ขับ
  • ที่วางแก้วตอนหน้า 2 ตำแหน่ง
  • ช่องวางขวดน้ำบริเวณแผงประตูหน้า-หลัง 4 ตำแหน่ง
  • กล่องเก็บของด้านหน้า
  • ไฟอ่านแผนที่ด้านหน้า
  • ไฟห้องสัมภาระด้านท้าย
  • ระบบปัดน้ำฝนด้านหน้าแบบตั้งเวลาหน่วง
  • ระบบไล่ฝ้ากระจกหลังแบบตั้งเวลา
  • ชุดระบบอินโฟเทนเมนท์ Nissan Connect จอทัชสกรีนขนาด 8 นิ้ว ลำโพง 6 ตำแหน่ง Bluetooth, USB, AUX-in, ฟังก์ชั่น Apple CarPlay สำหรับ iOS (เฉพาะรุ่น V และ VL)
  • ชุดเครื่องเสียงมาตรฐาน วิทยุ AM/FM, Bluetooth, USB, AUX-in และลำโพง 4 ตำแหน่ง (เฉพาะรุ่น S และ E)
  • เทคโนโลยร One-Pedal คันเร่งอัจฉริยะ
  • ระบบ Intelligent Cruise Control ควบคุมความเร็วอัตโนมัติ แบบแปรผัน พร้อมฟังก์ชั่นชลอความเร็วและรักษาระยะห่างตามรถคันหน้า
  • ระบบ Intelligent Forward Collision Warning ช่วยเตือนก่อนการชนด้านหน้า
  • ระบบ Intelligent Emergency Braking ช่วยวิเคราะห์ระยะห่างและความเร็วของรถยนต์ด้านหน้า เพื่อชะลอความเร็วหรือหยุดรถ ลดความเสียหายที่อาจเกิดจากอุบัติเหตุ
  • ระบบ Blind Spot Warning เตือนจุดอับสายตา
  • ระบบ Rear Cross Traffic Alert ช่วยเตือนในขณะถอยออก
  • ระบบ Intelligent Around View Monitor กล้องอัจฉริยะรอบทิศทาง พร้อมเทคโนโลยีตรวจจับและส่งสัญญาณเตือนเมื่อพบวัตถุหรือบุคคลที่เคลื่อนไหวจากกล้องรอบคัน หรือ Moving Object Detection
  • ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวอัตโนมัติ Vehicle Dynamic Control
  • ระบบช่วยลดอาการโยนตัวบนทางขรุขระ Intelligent Ride Control
  • ระบบควบคุมเสถียรภาพขณะเข้าโค้ง Intelligent Trace Control
  • ถุงลมนิรภัย SRS 6 จุด ประกอบด้วยคู่หน้า, ข้าง และม่านข้างซ้าย-ขวา (รุ่น VL) และถุงลมนิรภัยคู่หน้า (ทุกรุ่น)
  • เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ Pretensioner and Load Limiter Seatbelts
  • จุดยึดเบาะนิรภัยสำหรับเด็กเด็กแบบ ISOFIX
  • ระบบเบรก ABS, EBD และ BA
  • กระจกมองหลังอัจฉริยะ Intelligent Rear View Mirror แสดงผลด้วยจอ LCD ที่แสดงภาพจากกล้องด้านหลังตัวรถ สามารถปรับเปลี่ยนการแสดงผลระหว่างจอแสดงภาพ หรือภาพสะท้อนแบบปกติจากกระจกได้
  • ระบบ Hill Start Assist ช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน

Nissan-Kicks-e-POWER-ECO-Sticker

ECO Sticker ของ Nissan Kicks e-POWER 2020

เครื่องยนต์ : เป็นแบบเบนซินขนาด 1.2 ลิตร รหัส HR12DE (แบบเดียวกับใน Note e-Power) แบบ 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว ให้แรงม้าสูงสุด  79 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 103 นิวตัน-เมตร ที่ 3,600-5,200 รอบ/นาที ทำหน้าที่ปั่นกระแสไฟฟ้าไปยังแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 1.57 กิโลวัตต์-ชั่วโมง (kWh)

จากนั้นจึงป้อนพลังไปขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ AC Synchronous Motor รหัส EM57 เป็นลูกเดียวกับที่อยู่ใน Nissan Leaf ให้กำลังสูงสุด 129 แรงม้า (95 กิโลวัตต์) ที่ 4,000-8,992 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 260 นิวตัน-เมตร ที่ 500-3,008 รอบ/นาที

หากรวมพลังทั้งหมด ให้แรงม้าสูงถึง 129 แรงม้า ที่ 4,000 – 8,992 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 260 นิวตันเมตร ที่ 500 – 3,008 รอบ/นาที และอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 23.8 กม./ลิตร (ตาม Eco Sticker) หรือ 4.2 ลิตร/100 กม.

มิติตัวรถ : ยาว 4,290 มม. กว้าง 1,760 มม. สูง 1,615 มม. ระยะฐานล้อ 2,615 มม.

ราคาจำหน่าย : (Update ล่าสุด เดือนพฤษภาคม 2563)

  • รุ่น S ราคา 889,000 บาท
  • รุ่น E ราคา 949,000 บาท
  • รุ่น V ราคา 999,000 บาท (ราคาหลังโปรโมชั่น 1,049,000 บาท ปรับขึ้น 50,000 บาท)
  • รุ่น VL ราคา 1,049,000 บาท (ราคาหลังโปรโมชั่น 1,103,900 บาท ปรับขึ้น 54,900 บาท)

Mazda-CX-30-2020

Mazda CX-30 2020

ข้อดี : รูปทรงใหญ่ เพราะเป็นรถที่ใช้พื้นฐานเดียวกันกับ Mazda3 เพิ่มทางเลือกระหว่างรุ่น CX-3 และ CX-5 แต่ในบ้านเราถูกจับรวมมาในกลุ่ม B-SUV ด้วย ภายในนั่งกัน 4 คนสบายๆ แต่เบาะหลังอาจจะต้องปรับหน่อย สำหรับผู้ที่สูง 170 ซม. ขึ้นไป การขับขี่ที่ง่าย ให้ความรู้สึกเหมือนขับ Mazda3 เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดกลาง หรือชอบที่ชื่นชอบรถ SUV แนวสปอร์ต

ความรู้สึกของการขับขี่ มีการเซ็ทช่วงล่างและโช๊คอัพ มาให้ใกล้เคียงกับใน Mazda3 นิ่มและนุ่ม ไม่ยวบไม่ยุบ (ถ้าไม่ใช้ความเร็วเข้าโค้งแรงๆ) แต่ว่าชิ้นส่วนชิ้นงานที่ใช้ไม่เหมือนกัน ยกเว้นระบบเบรก ที่ยกของ Mazda3 มาใช้ทั้งชุด แต่ปรับให้เหมาะสมกับความสูง และน้ำหนักของตัวรถมากกว่า พร้อมระบบ GVC Plus ที่ทำงานร่วมกันได้อย่างเหมาะสม

ผนวกกับพวงมาลัยให้น้ำหนักที่หนืดได้อย่างพอเหมาะ และประตูไฟฟ้าด้านหลัง ใช้งานได้อย่างดี เหมาะสำหรับขนจักรยานพับได้ พาลูกหลานไปปั่นกันในวันหยุด และมีที่เก็บสัมภาระด้านท้าย 430 ลิตร

ข้อด้อย : ความกว้างขวางอาจเป็นรอง เมื่อเทียบกับรถ SUV รุ่นอื่นๆ แต่นี่ก็ไม่ใช่ความคาดหวังของลูกค้าที่ซื้อ Mazda อยู่แล้ว กับเรื่องศูนยบริการ และราคาอะไหล่ในภายภาคหน้า และแอร์ด้านหลังไม่ค่อยเย็น หากขับรถขณะอากาศร้อนมาก ต้องเร่งแอร์ให้แรงขึ้น รวมถึงคนนั่งเบาะหลังอาจเวียนหัว หรือเมารถได้ เนื่องจากเบาะคู่หน้าขนาดใหญ่ ค่อนข้างทึบในมุมผู่นั่งด้านหลัง

รายละเอียดตัวรถ :All-New Mazda CX-30 เปิดตัวครั้งแรกในโลกเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2019 และเปิดตัวในไทยเมื่อ 6 มีนาคม 2563 ในช่วงที่โควิด-19 กำลังมา ซึ่งจะมาแทนที่เจ้า Mazda CX-3 นับเป็นเจเนอเรชั่นที่ 2 กับแนวคิด “Life’s Always On เติมชีวิตให้เต็มความหมาย” สง่างามด้วยดีไซน์จาก โคโดะ ออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ “Less is More” เรียบง่ายแต่งดงาม มาพร้อมระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง GVC PLUS

Mazda CX-30 มีให้เลือกด้วยกัน 3 รุ่นย่อย ได้แก่ 2.0 C, 2.0 S และ 2.0 SP กับสีที่มีให้เลือกทั้งหมด 7 สี ประกอบด้วย สีแดง โซล เรด คริสตัล (Soul Red Crystal), สีเทา แมชชีน เกรย์ (Machine Gray), สีเทา โพลีเมทัล เกรย์ (Polymetal Gray), สีขาว สโนว์เฟลก ไวท์ เพิร์ล (Snowflake White Pearl), สีเงิน โซนิค ซิลเวอร์ (Sonic Silver), สีดำ เจ็ท แบล็ก (Jet Black), สีน้ำเงิน ดีพ คริสตัล บลู (Deep Crystal Blue)

All-New-Mazda-CX-30-2020

อุปกรณ์มาตรฐานเด่นๆ :

  • ไฟหน้าโปรเจคเตอร์แบบ LED
  • ไฟส่องสว่างสําหรับการขับขี่เวลากลางวัน (Daytime Running Light) แบบ LED Signature
  • ระบบเสียง Premium Sound จาก BOSE รอบทิศทาง พร้อมลําโพง 12 ตําแหน่ง และ Sub-Woofer (เฉพาะรุ่น 2.0 SP)
  • หน้าจอกลาง Center Display ขนาด 8.8 นิ้ว รองรับระบบ Apple CarPlay และ Android Auto
  • ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ Dual Zone แยกอิสระซ้าย-ขวา พร้อมช่องแอร์ด้านหลัง
  • เบาะนั่งคนขับ ปรับด้วยไฟฟ้า 10 ทิศทาง (พร้อมปรับดันหลังไฟฟ้า Lumbar Support)
  • เบาะนั่งคนขับ พร้อมระบบบันทึกตำแหน่ง Memory Seat 2 ตำแหน่ง
  • ถุงลมนิรภัย 7 ตําแหน่ง (คู่หน้า 2 ตำแหน่ง, ด้านข้าง 2 ตำแหน่ง,ม่านนิรภัย 2 ตำแหน่ง และหัวเข่าคนขับ 1 ตำแหน่ง)
  • ประตูท้ายเปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟา
  • เซ็นเซอร์กะระยะ 4 จุด และกล้องมองหลัง
  • หลังคาซันรูฟแบบไฟฟ้า (เฉพาะรุ่น 2.0 SP)
  • ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (เฉพาะรุ่น 2.0 SP)
  • ระบบเบรกมือไฟฟ้า Electronic Parking Brake
  • ระบบ Auto Brake Hold
  • ระบบกุญแจ Smart Keyless Entry
  • ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ Push Start Button

และ … ระบบความปลอดภัย i-Activsense (เฉพาะรุ่น 2.0 SP)

  • ระบบแสดงภาพ 360 องศา รอบทิศทาง (360 ̊ View Monitor)
  • ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM (Advanced Blind Spot Monitoring)ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
  • ระบบควบคุมความเร็วรถอัตโนมัติ MRCC (Mazda Radar Cruise Control)
  • ระบบควบคุมความเร็วและพวงมาลัยตามรถคันหน้า CTS (Cruising & Traffic Support
  • ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติแบบ Advance หรือ Advanced SBS (Advanced Smart Brake Support)
  • ระบบช่วยเบรกและหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง SBS-R (Smart Brake Support-Reverse)
  • ระบบช่วยหยุดรถเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง SBS-RC (Smart Brake Support-Rear Crossing)
  • ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ ALH (Adaptive LED Headlamps)
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LAS (Lane-keep Assist System)
  • ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน LDWS (Lane Departure Warning System)
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่ DAA (Driver Attention Alert)

เครื่องยนต์ : เบนซินขนาด 2.0 ลิตร 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว SkyActiv-G ให้แรงม้าสูงสุด 165 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 213 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที ประหยัดน้ำมันสูงสุด 15.4 กม./ลิตร (ขับขี่โดยเฉลี่ย ในเมือง-นอกเมือง ประมาณ 10-12 กม./ลิตร)

ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ ตัวเดียวกับที่วางอยู่ใน Mazda3 สามารถใช้กับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ได้ ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีด รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.6 เมตร

มิติตัวรถ : ยาว 4,395 มม. กว้าง 1,795 มม. สูง 1,540 มม. ระยะฐานล้อ 2,655 มม. ระยะต่ำสุดจากพื้น 175 มม. ล้อแบบล้อแม็ก 16 นิ้ว และแบบ 18 นิ้ว

ราคาจำหน่าย : (Update ล่าสุด เดือนพฤษภาคม 2563)

  • รุ่น 2.0 C ราคา 989,000 บาท
  • รุ่น 2.0 S ราคา 1,099,000 บาท
  • รุ่น 2.0 SP ราคา 1,199,000 บาท

New-MG-ZS-2020

MG ZS 2020

ข้อดี : MG ZS 2020 เป็นรถในรูปแบบ B-SUV ที่มีราคาจำหน่าย ถูกที่สุดในตลาดไทยเวลานี้! นับตั้งแต่เปิดตัวมาในเดือนกันยายน 2560 เป็นต้นมา รวมไปถึงรุ่นที่ใช้พลังงานไฟฟ้าเพียวๆ อย่าง MG ZS EV (เอ็มจี แซดเอส อีวี) ที่เปิดจำหน่ายไปเมื่อ 20 มิถุนายน 2562 ก็คงไม่ต้องพูดว่ากระแสตอบรับดีแค่ไหน ดูได้จากยอดการผลิต ZS ที่มากถึง 30,000 คันเข้าไปแล้ว (ยอด ณ เดือนมกราคม 2563)

เป็นรถยอดนิยมมากของคนมีครอบครัวเล็กๆ พ่อบ้าน แม่บ้าน ใช้งานได้อเนกประสงค์ ด้วยรูปทรงที่สวย ใหญ่ สง่าเหมือนรถ SUV จากยุโรป ทั้งภายนอกและภายใน สวย นั่งสบาย เรียกได้ว่าออพชั่น คุ้มราคามากๆ วัสดุการประกอบภายในถือว่าใช้ได้ รวมถึงการแก้ปัญหาของศูนย์บริการ และบริการหลังการขายดีกว่าแต่ก่อนมาก

ข้อด้อย : เครื่องยนต์อาจแรงไม่ทันใจใครบางคน ให้อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ย เฉลี่ย​ 10-13​ กม./ลิตร กับชื่อเสียงของ MG ZS ของโฉมที่ผ่านมากับการมีปัญหา ต้องเคลมกันยกใหญ่ ขึ้นยานแม่กันหลายคัน ส่วนศูนย์บริการที่อาจจะยังไม่มาก การหาอะไหล่เทียบ (ในอนาคตที่ไม่ได้เข้าศูนย์บริการ) ก็ต้องรอดูกันต่อไป รวมไปถึงราคาขายต่อในตลาดรถมือสอง ที่ไม่ใช่รถตลาด ราคาอาจตกมากหน่อย

รายละเอียดตัวรถ : เป็นรถ MG ที่ใช้เทคโนโลยีการเชื่อมต่ออัจฉริยะใหม่ล่าสุด i-SMART ที่นับเป็นครั้งแรกของคนขับรถ สามารถควบคุมฟังก์ชั่นต่างๆ ภายในรถด้วยการสั่งการผ่านเสียงภาษาไทย รวมถึงรองรับการใช้งานได้ทุกรูปแบบ สอดคล้องกับยุคอินเตอร์เน็ตในทุกสรรพสิ่งหรือ IoT (Internet of Things)

พร้อมระบบ Emergency Call โทร-ส่งข้อความ-ระบุพิกัดรถไปยังเบอร์โทรที่ตั้งค่าไว้ เมื่อถุงลมนิรภัยทำงาน, ระบบ Smart Connect เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ท เพื่อใช้งานระบบอินโฟเทนเมนท์ รวมถึงระบบนำทางและรายงานการจราจรแบบ Real-Time และระบบ Smart Check ช่วยตรวจสอบสถานะของรถ และช่วยเตือนเมื่อมีสถานะผิดปกติ ล็อค-ปลดล็อคประตู ค้นหารถด้วยระบบ Find My Car ช่วยค้นหาศูนย์บริการ รวมถึงบันทึกการดูแลรักษารถตามระยะผ่าน MG Mobile Application เรียกได้ว่าเป็นจุดเด่นของรถรุ่นนี้ทีเดียว ซึ่งฟังก์ชั่นในราคารถหลักล้านเหล่านี้ เหมาะสำหรับคุณผู้หญิงมาก

มาพร้อมช่วงล่าง Euro Tuning Suspension ที่ให้การทรงตัวดีเยี่ยม ผสานกับระบบช่วงล่างหน้าแบบ MacPherson Strut พร้อมเหล็กกันโคลงและช่วงล่างหลังแบบ Torsion Beam ที่ช่วยให้การควบคุมขับขี่ได้ลงตัวมากขึ้น

New MG ZS มี 3 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น C+, D+ และรุ่นสูงสุดคือ X+ พร้อมสีตัวถังทั้งหมด 4 สี คือ สีขาว Arctic White, สีแดง Scarlet Red, สีเงิน Silver Metallic และ สีดำ Black Knight

New-MG-ZS-2020

อุปกรณ์มาตรฐานเด่นๆ :

  • กระจังหน้าปรับแบบใหม่
  • ชุดไฟหน้าแบบ LED Projector พร้อมฟังก์ชั่นเปิด-ปิดอัตโนมัติ (เฉพาะรุ่น X+)
  • ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน (Daytime Running Lights) ทรงใหม่
  • ไฟตัดหมอกหน้า (ยกเว้นรุ่น C+)
  • กระจกมองข้างพับ และปรับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว แบบพับอัตโนมัติ
  • ราวหลังคา (ยกเว้นรุ่น C+)
  • ล้ออัลลอยลายใหม่ ขนาด 17 นิ้ว (เฉพาะรุ่น X+)
  • หลังคา Panoramic Sunroof (เฉพาะรุ่น X+)
  • ภายในรถโทนสีดำ พร้อมเบาะผ้าสีดำ (เฉพาะรุ่น C+)
  • ภายในรถโทนสีน้ำตาล และดำ พร้อมเบาะหนังสังเคราะห์ (เฉพาะรุ่น D+ และ X+)
  • มาตรวัดดิจิทัลขนาด 7 นิ้วแบบ Digital Multi-Function Display แบบใหม่ (เฉพาะรุ่น D+ และ X+)
  • จอกลางแบบทัชสกรีนขนาด 10 นิ้ว จัดวางแบบกึ่งลอยตัว รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่าน Apple CarPlay พร้อมฟังก์ชั่น Smart Check, Smart Command และ Smart Connect
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) (ยกเว้นรุ่น C+)
  • ช่องต่อ USB สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง
  • ระบบปรับอากาศแบบดิจิทัล
  • ระบบกรองอากาศเพื่อกรองฝุ่นขนาดเล็กในระดับ PM 2.5
  • เบาะผู้ขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง (เฉพาะรุ่น X+)
  • กุญแจรีโมท Smart Key
  • ปุ่ม Push Start
  • กล้องมองภาพแสดงผล 360 องศา รอบคัน Around View Monitor (เฉพาะรุ่น X+), กล้องมองภาพถอยหลัง (เฉพาะรุ่น D+)
  • สัญญาณเตือนระยะถอยหลัง
  • เบรกมือไฟฟ้า Electronic Parking Brake
  • ระบบหน่วงเวลาการดับไฟหน้า เมื่อดับเครื่องยนต์ Follow Me Home Light
  • จุดยึดเบาะนิรภัยสำหรับเด็กแบบ ISOFIX
  • ถุงลมนิรภัยคู่หน้า, ถุงลมนิรภัยด้านข้าง (ยกเว้นรุ่น C+), ม่านถุงลมนิรภัย (เฉพาะรุ่น X+)
  • ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer
  • ระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัย FSF (Full Space Frame)
  • ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake)
  • ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH (Auto Vehicle Hold)
  • ระบบป้องกันล้อล็อก ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD
  • ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist)
  • ระบบควบคุมการทรงตัว SCS (Stability Control System)
  • ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC (Curve Brake Control)
  • ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System)
  • ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System)
  • ระบบควบคุมความเร็วรถขณะลงทางลาดชัน HDC (Hill Descent Control System)
  • ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System) (เฉพาะรุ่น X+)
  • ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal)
  • ระบบจำกัดความเร็ว ASL (Active Speed Limit) (ยกเว้นรุ่น C+)

เครื่องยนต์ : เบนซินขนาด 1.5 ลิตร รหัส 15S4C แบบ 4 DOHC สูบ 16 วาล์ว VTi – TECH ให้แรงม้าสูงสุด 114 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 150 นิวตัน-เมตร ที่ 4,500 รอบ/นาที

ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT 8 สปีด ทุกรุ่น ระบบพวงมาลัย แร็คแอนด์พิเนียน ควบคุมด้วยไฟฟ้า (EPS) สามารถปรับโหมดพวงมาลัยได้ถึง 3 โหมด คือ โหมด City สำหรับการขับขี่ในเมือง, โหมด Standard สำหรับการขับขี่ทั่วไป และโหมด Sport สำหรับการขับขี่สไตล์สปอร์ต ให้รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.6 เมตร

มิติตัวรถ : ยาว 4,323 มม. กว้าง 1,809 มม. สูง 1,628 มม. (รุ่น C+) 1,653 มม. (รุ่น D+ และ X+) ระยะฐานล้อ 2,585 มม. ล้อแบบอัลลอยขนาด 16 นิ้ว และ 17 นิ้ว (X+)

ราคาจำหน่าย : (Update ล่าสุด เดือนพฤษภาคม 2563)

  • รุ่น C+ ราคา 689,000 บาท
  • รุ่น D+ ราคา 739,000 บาท
  • รุ่น X+ ราคา 799,000 บาท

ตารางผ่อนดาวน์ Nissan Kicks e-POWER 2020 ใหม่

Nissan-Kicks-e-POWER-2020-ตารางผ่อนดาวน์

โปรโมชั่น Nissan Kicks e-POWER 2020 ใหม่

Nissan-Kicks-ePower-2020

All-New Nissan Kicks รุ่น V

  • ราคาช่วงเปิดตัว 999,000 บาท
  • อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.69%* (เงินดาวน์ 25%, ผ่อนนาน 48 เดือน)
  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี*
  • ฟรี รับประกันระบบ e-POWER 5 ปี รับประกันแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 10 ปี**
  • ฟรี ไส้กรองแอร์แบบพรีเมียม “Nissan Premium Air-Con filter”

* ข้อเสนอนี้สำหรับลูกค้าที่เช่าซื้อกับบริษัท นิสสัน ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด เท่านั้น

** รับประกันระบบรถยนต์ e-POWER เป็นระยะเวลา 5 ปี หรือ ระยะทาง 100,000 โลเมตร (นับตั้งแต่วันที่ส่งมอบ) แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน และ รับประกันแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน เป็นระยะเวลา 10 ปี หรือ ระยะทาง 200,000 กิโลเมตร (นับตั้งแต่วันที่ส่งมอบ) แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน โดยเป็นขยายการรับประกันแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนเพิ่มเติม ภายในปีที่ 6-10 จาก ปีที่ 5 โดยเพิ่มระยะทางจาก 100,000 กิโลเมตรเป็น 200,000 กิโลเมตร โดยลูกค้าสามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่เนื่องจากความเสียหาย ได้ 1 ครั้ง

All-New Nissan Kicks รุ่น VL

  • ราคาช่วงเปิดตัว 1,049,000 บาท
  • อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.69%* (เงินดาวน์ 25%, ผ่อนนาน 48 เดือน)
  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี*
  • ฟรี รับประกันระบบ e-POWER 5 ปี รับประกันแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 10 ปี**
  • ฟรี ไส้กรองแอร์แบบพรีเมียม “Nissan Premium Air-Con filter”

* ข้อเสนอนี้สำหรับลูกค้าที่เช่าซื้อกับบริษัท นิสสัน ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด เท่านั้น

** รับประกันระบบรถยนต์ e-POWER เป็นระยะเวลา 5 ปี หรือ ระยะทาง 100,000 โลเมตร (นับตั้งแต่วันที่ส่งมอบ) แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน และ รับประกันแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน เป็นระยะเวลา 10 ปี หรือ ระยะทาง 200,000 กิโลเมตร (นับตั้งแต่วันที่ส่งมอบ) แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน โดยเป็นขยายการรับประกันแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนเพิ่มเติม ภายในปีที่ 6-10 จาก ปีที่ 5 โดยเพิ่มระยะทางจาก 100,000 กิโลเมตรเป็น 200,000 กิโลเมตร โดยลูกค้าสามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่เนื่องจากความเสียหาย ได้ 1 ครั้ง

ตารางผ่อนดาวน์ Mazda CX-30 2020 ใหม่

Mazda-CX-30-2020-ตารางผ่อนดาวน์

ตารางผ่อนดาวน์ MG ZS 2020 ใหม่

MG-ZS-2020-ตารางผ่อนดาวน์

ในเวลานี้ ใครที่อยากขายรถ เพื่อซื้อรถใหม่ ต้อนรับปีใหม่นี้ ต้องนึกถึงเรา CARRO! เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand จ้า แค่นี้การเปลี่ยนรถใหม่ของคุณ ก็ง่ายขึ้นแล้ว

New-MG-ZS-2020

บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัว New MG ZS (เอ็มจี แซดเอส) โฉมใหม่อย่างเป็นทางการ ตอกย้ำการเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดเอสยูวี ด้วยอีกขั้นของยนตรกรรมภายใต้นิยาม “SMART UP” ยกระดับ สู่การเป็น “สมาร์ทเอสยูวี ที่เหมาะกับชีวิตสมาร์ทของทุกคน” ในราคา 689,000 – 799,000 บาท!

พร้อมดึงนักแสดงวัยรุ่นชื่อดัง “เจเจ – กฤษณภูมิ พิบูลสงคราม” เป็นพรีเซนเตอร์คนแรก ที่จะมาถ่ายทอดดีเอ็นเอของความสมาร์ทได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยมีแผนเผยโฉมสู่สาธารณชน ณ โชว์รูมเอ็มจีทั่วประเทศ ในวันที่ 3 – 5 เมษายนนี้

สรุปอย่างเร็ว จุดเด่นของ MG ZS ใหม่ มีอะไรเปลี่ยนใหม่บ้าง?

  • ไฟหน้า LED Projector – ไฟท้ายแบบ LED
  • กระจังหน้าใหม่
  • ล้อแม็กขอบ 17 นิ้ว ลายใหม่
  • มาตรวัดใหม่ แบบ Digital Multi-Function Display ขนาด 7 นิ้ว
  • กล้องมองรอบคัน 360 องศา พร้อมหน้าจอ Infotainment ขนาด 10 นิ้ว แบบสัมผัส
  • ห้องโดยสารภายในสีทูโทน
  • เกียร์อัตโนมัติแบบ CVT 8 สปีด

New-MG-ZS-2020

นับตั้งแต่ปี 2560 MG ได้แนะนำรถเอสยูวีรุ่น MG ZS สู่ตลาดในประเทศไทยเป็นครั้งแรก ด้วยแนวคิดที่ต้องการพัฒนารถยนต์อัจฉริยะ หรือ สมาร์ทคาร์ โดยสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวงการรถยนต์ ในเมืองไทยจากการติดตั้งระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART ซึ่งเป็นระบบการเชื่อมต่ออัจฉริยะระบบแรก และระบบเดียวในโลกที่รองรับการสั่งการในรถด้วยเสียงภาษาไทย พร้อมดีไซน์ที่ล้ำสมัย และระบบความปลอดภัยที่ครบครัน ในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย

จึงก้าวสู่ความหนึ่งในผู้นำของกลุ่มรถอเนกประสงค์ขนาดเล็ก หรือ B-SUV ด้วยยอดขายสะสมมากกว่า 30,000 คัน ภายในเวลาเพียง 2 ปีครึ่ง!

New-MG-ZS-2020

New MG GS ด้านหน้าและท้ายรถ ดีไซน์ใหม่ให้ดูโฉบเฉี่ยว เสริมความสปอร์ตและแฝงความหรูหราที่มากขึ้น New MG ZS ยังมาพร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT 8 สปีด ซึ่งทำให้การตอบสนองต่อการขับขี่ มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

รวมไปถึงระบบปฎิบัติการอัจฉริยะ i-SMART ที่มาพร้อมฟังก์ชั่นใหม่ Emergency Call ซึ่งจะช่วยให้ผู้ขับขี่ได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีเมื่อถุงลมนิรภัยในรถทำงาน ด้วยการโทรและส่งข้อความระบุพิกัดรถไปยังเบอร์โทรที่ได้มีการตั้งค่าไว้ เพิ่มโอกาสการรับความช่วยเหลือในเวลาฉุกเฉิน รวมทั้งมีระบบความปลอดภัยที่ให้มากกว่าเดิมทั้งกล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา (Around View Monitor) และระบบความปลอดภัยอื่นๆ อย่างครบครัน

New-MG-ZS-2020

“New MG ZS” : SMART UP สมาร์ท SUV ที่เหมาะกับชีวิตสมาร์ทของทุกคน

“NEW MG ZS” อีกขั้นของยนตกรรม SUV ที่มาพร้อมนิยาม “SMART UP สมาร์ทเอสยูวี ที่เหมาะกับชีวิตสมาร์ทของทุกคน” ด้วยการออกแบบภายใต้แนวคิด BRIT DYNAMIC ให้ความสปอร์ต หรูหรา ตามแบบฉบับยนตรกรรมอังกฤษที่ได้รับการอัพเกรดขึ้นอีกขั้น ทั้งในด้านสมรรถนะ (PERFORMANCE) การควบคุม (Handing) การออกแบบ (Design) ความสะดวกสบาย (Comfort) และความปลอดภัย (Safety)

New-MG-ZS-2020

SMART UP – EXTERIOR DESIGN ขั้นกว่าของดีไซน์ที่บ่งบอกความเป็นตัวคุณ

New MG ZS โฉบเฉี่ยวมากยิ่งขึ้นด้วยกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ และการออกแบบเส้นสายด้านข้างแบบ British Shoulder Line ด้วยความโค้งมนที่เป็นเอกลักษณ์ของเอ็มจี เพิ่มความสมาร์ทด้วยไฟหน้าแบบ LED Projector ที่ควบคุมการเปิด-ปิดอัตโนมัติ ไฟส่องสว่างสำหรับขับขี่เวลากลางวัน (Daytime Running Light) และไฟท้ายแบบ LED พร้อมเสริมความดุดันด้วยล้ออัลลอยด์ดีไซน์ใหม่ขนาด 17 นิ้ว

New-MG-ZS-2020

New-MG-ZS-2020

SMART UP – INTERIOR DESIGN & COMFORT ความลงตัวของงานออกแบบพร้อมฟังก์ชั่นการใช้งาน

New MG ZS ออกแบบภายในอย่างพิถีพิถันด้วยห้องโดยสารแบบสปอร์ตสีทูโทน และการใช้วัสดุ Soft Touch ในการตกแต่ง โดดเด่นขึ้นอีกขั้น ด้วยพวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่นและหน้าจอแสดงผลอัจฉริยะขนาด 7 นิ้วดีไซน์ใหม่ (Digital Multi-Function Display) และหน้าจอ Touch Screen ขนาดใหญ่ 10 นิ้ว ซึ่งรองรับทั้งระบบปฏิบัติการ Apple CarPlay และระบบเชื่อมต่อมัลติมีเดียกับสมาร์ทโฟนระบบ Android พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง ระบบปรับอากาศแบบดิจิตอลที่มีระบบกรองอากาศเพื่อกรองฝุ่นขนาดเล็ก PM 2.5

อีกทั้งยังเพิ่มความสะดวกสบาย ด้วยเบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้าได้ 6 ทิศทาง พร้อมที่พักแขนด้านหน้า รวมไปถึงระบบกุญแจรีโมทอัจฉริยะ (Smart Key) พร้อมสตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยปุ่ม Push Start และยังคงสุนทรียภาพในการขับขี่ด้วยหลังคาซันรูฟขนาดใหญ่แบบพาโนรามา (Panoramic Sunroof)

New-MG-ZS-2020

SMART UP – PERFORMANCE บทพิสูจน์แห่งยนตรกรรมที่มาพร้อมขุมพลังที่ให้สมรรถนะเต็มประสิทธิภาพ

New MG ZS ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว ให้แรงม้าสูงสุด 114 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 150 นิวตันเมตร ที่ 4,500 รอบ/นาที ผสานการทำงานกับระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ใหม่ 8 สปีด และสามารถปรับโหมดพวงมาลัยได้ถึง 3 โหมด คือ

  • โหมด City สำหรับการขับขี่ในเมือง
  • โหมด Standard สำหรับการขับขี่ทั่วไป และ
  • โหมด Sport สำหรับการขับขี่สไตล์สปอร์ต

มาพร้อมช่วงล่างตามแบบ Euro Tuning Suspension ที่ให้การทรงตัวอย่างดีเยี่ยม ผสานกับระบบช่วงล่างหน้าแบบ MacPherson Strut พร้อมเหล็กกันโคลงและช่วงล่างหลังแบบ Torsion Beam ที่จะทำให้การควบคุมในการขับขี่ลงตัวมากขึ้น

New-MG-ZS-2020

SMART UP – SAFETY สัมผัสประสบการณ์การขับขี่ด้วยที่สุดแห่งเทคโนโลยีความปลอดภัย

New MG ZS จัดเต็มระบบความปลอดภัย ให้มาแบบคุ้มค่ามากๆ อีกทั้งตัวรถใช้โครงสร้างตัวถังนิรภัย FSF (Full Space Frame) พร้อมระบบความปลอดภัยมาตรฐานยุโรป Synchronized Protection System อาทิเช่น ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake) ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH (Auto Vehicle Hold) กล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา (Around View Monitor) พร้อมสัญญาณเตือนถอยหลัง ไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่องยนต์ (Follow Me Home Light) ถุงลมนิรภัยด้านหน้าและด้านข้างรวม 6 จุด และระบบกุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer

New MG ZS มี 3 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น C+ D+ และรุ่นสูงสุดคือ X+ พร้อมสีตัวถังทั้งหมด 4 สี คือ สีขาว Arctic White สีแดง Scarlet Red สีเงิน Silver Metallic และ สีดำ Black Knight โดยมีราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ แบ่งตามรุ่นย่อย ดังนี้

รุ่นรถยนต์ ราคาจำหน่าย

(บาท)

 

New MG ZS รุ่น C+

 

 

689,000

 

 

New MG ZS รุ่น D+

 

 

739,000

 

 

New MG ZS รุ่น X+

 

 

799,000

 

New MG ZS มาพร้อมโปรโมชั่นและแคมเปญสุดพิเศษ เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของลูกค้า ในสถานการณ์ไวรัส COVID-19 ระบาด โดยลูกค้าที่จองและรับรถภายในเดือนเมษายนนี้ จะได้รับข้อเสนอสุดพิเศษ ดังนี้

  • ซื้อรถ NEW MG ZS วันนี้ “ขับฟรี 3 เดือน”*
  • ดอกเบี้ยพิเศษ เพียง 1.89%*
  • ฟรี! ประกันภัยชั้นหนึ่ง พร้อม พ.ร.บ. นาน 1 ปี

*ภายใต้เงื่อนไขของสถาบันการเงินที่กำหนด

ส่วนใครที่อยากได้ MG ZS ใหม่ แต่เงินสดมีไม่เพียง ถ้าใช้รถคันเดิมอยู่ สามารถนำมาขายกับทาง CARRO ได้ แม้ว่ารถจะติดไฟแนนซ์ เราก็พร้อมปิดไฟแนนซ์ให้ และยินดีรับซื้อรถของคุณ สามารถเข้าไปเช็กราคา ตีราคาขายรถก่อนได้ โดยใส่ข้อมูลรถของคุณที่นี่เลย กับ CARRO Express > https://th.carro.co/sell-car/express หรือโทร. 02-508-8425

หรือใครจะ Inbox มาสอบถามก็ได้เช่นกัน ที่ Facebook CARRO Thailand หรือสะดวก Add Line ก็ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ครับ —> เพิ่มเพื่อน

MG-With-Consumer-And-Towed-Car

หลายปีมาแล้ว กับกระแสในโซเชียลมีเดีย ซึ่งมีทั้งตามกลุ่ม Facebook ต่างๆ หรือบรรดาเพจอวย เพจแซะ หรือเพจรวมปัญหาของรถต่างๆ ที่ออกมาพูดถึงรถยนต์หลายยี่ห้อ ที่มีปัญหากันไม่รู้จักจบสิ้น จนไปถึงการรวมตัวของผู้ใช้รถ ไปประท้วงกันถึงหน้าสำนักงานของผู้ผลิตกันเลยทีเดียว

ซึ่งหลายต่อหลายคน อุตส่าห์ขายรถคันเดิม หรือเก็บเงินซื้อรถป้ายแดง เพื่อหวังจะได้ขับรถใหม่ ไม่ต้องซ่อมอะไรมากมาย เป็นความภาคภูมิใจที่กว่าจะเก็บเงินซื้อมาได้ แต่กลับกลายเป็นว่า รถมือหนึ่งแท้ๆ กลับมีปัญหาความบกพร่องของตัวรถมาก จนแทบอยากจะขายรถกันอีกรอบ

ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ “MG” (เอ็มจี) รถน้องใหม่มาแรงเชื้อชาติอังกฤษ สัญชาติจีน (ภายใต้การกุมบังเหียนของ SAIC-CP ในขณะนี้) ที่ได้ชื่อว่าเป็น “ขวัญใจรถยก” ซึ่งแลดูขัดกับความขายดีของ MG ZS ในขณะนี้ ที่ราคาตัวรถ ความสวยงามของตัวรถ กับออพชั่นของรถ ที่คุ้มค่าคุ้มราคามากๆ

แต่ทำไมผู้บริโภคถึงว่างั้น? เราไปดูกัน …

โดยปกติแล้ว ปัญหาใหญ่ๆ ของรถป้ายแดง ส่วนมากจะมากับเหตุผลของคุณภาพ หรือหลุด QC ซึ่งมีเป็นกันแทบทุกค่าย เป็นเรื่องปกติ ขึ้นอยู่กับว่าการรับมือของแต่ละค่าย จะทำได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งจะขอแบ่งออกเป็น 3 ข้อหลักๆ ครับ

MG-With-Consumer-And-Towed-Car

ขอขอบคุณภาพจากคุณ Hanny Man

ปัญหาตัวรถ และการขับขี่

เนื่องจากเป็นแบรนด์น้องใหม่ เพิ่งทำตลาดจริงๆ จังๆ ในบ้านเราได้ไม่กี่ปี การรับมือในด้านคุณภาพการผลิต อะไหล่ บริการหลังการขาย แม้ว่าจะทำอย่างสุดความสามารถแล้วก็ตาม แต่ก็ยังพบกับความบกพร่องของตัวรถ ซึ่งอาจจะทำให้ผู้บริโภคเกิดความไม่สบายใจ

หลายปัญหาที่ “ผู้บริโภค” หลายคนมักพูดถึง รู้สึกกังวล หรือกลัว ในหลากหลายอาการ เช่นในตัว MG ZS อาทิ

MG-With-Consumer-And-Towed-Car

ขอขอบคุณภาพจากคุณ Yui Kio

  • มีฝ้า หรือหยดน้ำในไฟหน้า หลังจากขับรถฝ่าฝนตก

การแก้ไขปัญหา : เข้าศูนย์บริการ เพื่อใส่ซองกันชื้นในโคมไฟ แต่ถ้าแก้ไขด้วยวิธีการใส่ซองกันชื้นแล้วยังไม่ได้ผล ทางศูนย์บริการ จะทำการเคลมไฟหน้าใหม่ให้ และใส่ซองกันชื้นเพิ่มเติมให้เช่นกัน

วิธีการเคลม : ถ่าย Clip VDO ตอนขึ้นฝ้า และถ่ายให้เห็นป้ายทะเบียน พร้อมภาพถ่ายนิ่งไฟหน้าที่ขึ้นฝ้า แล้วนำเข้าศูนย์ เพื่อให้ศูนย์แก้ไข

  • เหยียบเบรกแล้วรอบเครื่องยนต์พุ่งเอง ขณะเข้าเกียร์ D และจังหวะชลอรถ

การแก้ไขปัญหา : เข้าศูนย์บริการเพื่อปิด ระบบ Idle Boost หรือการทำงานของระบบชดเชยรอบเครื่องยนต์ เมื่อรอบเครื่องเดินเบา

  • อาการอืด ในช่วงความเร็ว 50-70 กม./ชม.

การแก้ไขปัญหา : เข้าศูนย์บริการ เพื่อทำการ Update แก้ไข ECM (Engine Control Module) หรือ กล่อง ECU นั่นเอง ทั้งนี้หลังจากการแก้ไขเสร็จสิ้น ปัญหาในการออกตัวดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

  • ไฟเตือนเบรคมือ, รถลื่นไถล, พวงมาลัยมีน้ำหนักมากขึ้น อย่างเห็นได้ชัด

การแก้ไขปัญหา : ปัญหานี้เกิดจาก Ground (กราวด์) หลวม (Ground คือ สายไฟที่เชื่อมต่อระบบไฟฟ้าภายในรถยนต์ทั้งหมด)

เข้าศูนย์บริการเพื่อแก้ไขให้ Ground ขันให้แน่น ทั้งนี้จากข้อมูลพบว่า มีผู้ใช้บางรายเกิดปัญหาขึ้นอีก หลังจากการแก้ไขปัญหาในครั้งแรกได้เช่นกัน

  • ขึ้นสัญลักษณ์เบรคมือ, และรถลื่นไถล และมีอาการขณะเข้าเกียร์แล้ว รถเดินสะดุดร่วมด้วย

การแก้ไขปัญหา : ปัญหานี้เกิดระบบไฟฟ้าในรถลัดวงจร (ถอดปลั๊กอุปกรณ์ภายในรถที่มีไฟเลี้ยงอยู่อย่างกระทันหัน) แล้วกระทบกระเทือนไปถึงกล่อง ECU จึงเกิดการอ่านค่าบางอย่างผิดเพื้ยนไป ทำให้กล่อง ECU เกิด Code Error ต้องเข้าศูนย์บริการเพื่อลบ Code ที่มีปัญหาดังกล่าว (ข้อมูลจากผู้ใช้บางรายแจ้งว่า ECU หาระบบ ABS ไม่เจอ)

  • พวงมาลัยมีเสียงเกิดขึ้นขณะเลี้ยว

การแก้ไขปัญหา : เข้าศูนย์บริการ แจ้งเครมแกนพวงมาลัย จากข้อมูลผู้ใช้ล่าสุด หลังจากผู้ใช้บางรายเข้าไปเปลี่ยนแกนพวงมาลัยมาแล้วนั้นพบว่าปัญหาดังกล่าวได้เกิดขึ้นอีก ปัญหาจึงไปตกอยู่ที่ Supplier อะไหล่ของชิ้นนี้อาจมีปัญหา

ดังนั้น อาจจะต้องทำเดินเรื่องเครมอะไหล่ชิ้นนี้หลายครั้ง จนกว่าทางบริษัท MG Thailand จะดำเนินการแก้ปัญหาการผลิตอะไหล่ชิ้นนี้ ให้มีคุณภาพที่ดีขึ้น

MG-With-Consumer-And-Towed-Car

ขอขอบคุณภาพจากคุณ Boonyaratdit Boonyarat

  • เมื่อหักพวงมาลัยโดยรถไม่เคลื่อนที่ มีเสียงดัง

สาเหตุปัญหาจากผู้ใช้งานจริง

ตอนออกจากปากซอย จะมีเนินเล็กๆ ระบบจะทำการล็อคล้อให้เพื่อให้รถไหล แต่ก็มีหักพวงมาลัยรอไว้แล้ว พอได้จังหวะก็เร่งเครื่องยนต์เพื่อออกรถ ระบบมันก็จะคลายล็อค หลังจากนั้นมาก็เจอปัญหาว่า พอหักพวงมาลัยโดยไม่เคลื่อนรถ จะมีเสียงดังกึก ดังมาก

การแก้ไขปัญหา : นำรถเข้าศูนย์บริการ ช่างทำการอัดจารบีให้ในจุดที่มีปัญหา (เครดิต @ลูกเจี๊ยบน้อย)

  • ปิดประตูรถยาก หรือใช้แรงมากกว่าปรกติ

สาเหตุ และการแก้ไขปัญหา : จากข้อมูลพบว่ารถที่ผลิตในบางล็อต อาจมีการเสื่อมสภาพของลูกยางตามขอบประตู ก่อนระยะเวลาที่ควรจะเป็น หรือเป็นปัญหาของคุณภาพยางที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือผิดสเป็คไป แก้ไขได้ด้วยการนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อเปลี่ยนใหม่

  • คอมเพรสเซอร์แอร์เสีย, ตัดการทำงาน, แอร์ไม่เย็น

การแก้ไขปัญหา : เข้าศูนย์บริการ เพื่อใส่ชิ้นส่วนที่เรียกว่า ไดโอด เพื่อทำหน้าที่เรียงกระแสไฟ และกันไฟย้อน กระชาก ทำให้ยืดอายุการใช้งานของคอมเพรสเซอร์แอร์

สำหรับปัญหาของรถ MG ดังกล่าวนี้ หากรถคุณมีปัญหา สามารถนำรถเข้าแก้ไขที่ศูนย์บริการได้ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ (แต่อาจจะเสียเวลาหน่อย) เพราะเป็นปัญหาที่เกิดจากการผลิตรถยนต์ หรือชิ้นส่วนของ Supplier ที่ส่งให้กับทาง MG อีกที

MG-With-Consumer-And-Towed-Car

ปัญหาอะไหล่

หลายต่อหลายเคส ที่ผู้ใช้ MG ขับไปประสบอุบัติเหตุมา จะชนอะไรก็แล้วแต่ หรือการรอเปลี่ยนอะไหล่ชิ้นส่วนที่บกพร่อง เมื่อนำรถเข้าศูนย์บริการแล้ว กลับต้องใช้เวลารอนานกว่ารถตลาดทั่วไป นานกันไปจนถึงตั้งแต่ 1-3 เดือนเลยก็มี จนลูกค้าบางท่าน โทรไปจี้ทุกฝ่าย สอบถามตั้งแต่เซลล์ บริษัทประกัน และอู่ซ่อมรถ ก็ยังต้องรอ …

ซึ่งอะไหล่หลายอย่างที่ไม่มีผลิตในไทย อาจจะต้องรอนำเข้าจากต่างประเทศ การรออะไหล่นานหลายสัปดาห์ในปัจจุบันก็อาจจะเป็นเรื่องที่ “ผู้บริโภค” ไม่ประทับใจนัก หรืออาจจะเป็นความผิดพลาดทางการประสานงาน เช่น บริษัทประกันภัยอนุมัติช้า กว่าอู่จะทำเรื่องมาที่ศูนย์ ศูนย์เบิกของล่าช้า ช้าไปช้ามา เลยต้องรอหลายเดือน

MG-With-Consumer-And-Towed-Car

ปัญหาศูนย์บริการ

ปัญหาการซ่อมของศูนย์บริการ ซ่อมไม่จบ มีบ้างครับ เหมือนช่างไม่เก่ง หาสาเหตุไม่เจอ

ก่อนหน้านั้น MG จะมีปัญหาเรื่องศูนย์บริการที่น้อย แต่รถมีปัญหาหลายคันมาก ทำให้รถรับบริการเป็นจำนวนมากและต้องรอคิดยาว แต่ปัจจุบัน ศูนย์บริการ MG มีมากขึ้นในหลายๆ พื้นที่ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด อาจจะแก้ปัญหาเรื่องศูนย์บริการน้อยลงไปได้บ้าง

ซึ่งศูนย์บริการที่ลูกค้าชม มีอยู่หลายที่ที่ให้บริการดี แต่ศูนย์บริการหลายที่ก็มีปัญหา มีลูกค้าด่ากันอยู่บ่อยๆ ถ้าอยากรู้ว่าศูนย์ไหน ก็คงต้องเข้ากลุ่ม Facebook ไปติดตามกันดู

สำหรับปัญหาต่างๆ ที่รวบรวมมาในครั้งนี้ มิได้เป็นการโจมตีรถแต่อย่างใด แต่เป็นเสียงของ “ผู้บริโภค” ที่ให้ความเชื่อมั่นและความไว้วางใจในการใช้รถ MG ทั้งนี้ ก็เป็นการรวบรวมปัญหา เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถแก้ปัญหาได้เองไปก่อนเฉพาะหน้า ไม่ต้องเป็น “ขวัญใจรถยก” กันเสมอไป

ก็ได้แต่หวังว่า ทาง MG Thailand ก็คงจะมีมาตรการในการรับมือ และแก้ปัญหา กันต่อไป ให้สมกับการรับประกันคุณภาพ 4 ปี/120,000 กม. ครับผม!

MG-With-Consumer-And-Towed-Car

ถ้าคุณตัดสินใจอยากขายรถคันเดิม เพื่อไปซื้อรถคันใหม่ หรือรับเป็นเงินก้อนไปใช้ สามารถขายรถคันเดิมกับ Carro ได้ ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ Carro Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook Carro Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ครับ —> เพิ่มเพื่อน

แหล่งที่มา:

New-MG-GS

มิติใหม่ของการดีไซน์ภายใต้แนวคิด “Brit Dynamic” และมาพร้อมระบบอัจฉริยะ “i-SMART”

MG-ZS-Blue

บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัว “New MG ZS” รถเอสยูวีเพื่อชีวิตที่ไร้ขีดจำกัด ตอกย้ำความเป็นผู้นำเทคโนโลยีสมาร์ทคาร์ด้วยการติดตั้งระบบอัจฉริยะ i-SMART สามารถรองรับการสั่งการด้วยเสียงภาษาไทยครั้งแรกในโลก รูปลักษณ์โดดเด่นสไตล์ บริท ไดนามิค (Brit Dynamic) ที่ให้ความหรูหราทันสมัยและสปอร์ตยิ่งขึ้น ห้องโดยสารเพียบพร้อมความสะดวกสบาย กว้างขวาง พร้อมระบบความปลอดภัย Synchronized Protection System 9 ระบบ ในราคา 679,000 – 789,000 บาท

MG-GS

เป้าหมายหลักของการพัฒนา New MG ZS คือการนำเสนอ ‘สมาร์ทคาร์’ หรือ ‘รถยนต์อัจฉริยะ’ สร้างมาตรฐานใหม่ในแบบที่ไม่เคยมีบริษัทรถยนต์รายใดเคยทำมาก่อน โดยคาดการว่า New MG ZS จะมียอดจำหน่ายมากกว่า 12,000 คัน/ปี

MG-ZS-Red

New MG ZS คือรถยนต์รุ่นแรกของเอ็มจี ที่มาพร้อมกับระบบอัจฉริยะ i-SMART ซึ่งเพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ระบบสามารถควบคุมสั่งการได้ 3 วิธี คือ สั่งการผ่านระบบ Voice command ภาษาไทย สั่งการผ่านหน้าจอทัชสกรีนภายในรถ และการสั่งการผ่านไอสมาร์ทแอปพลิเคชั่น (i-SMART application) จากสมาร์ทโฟนซึ่งผู้ขับขี่สามารถเปิดระบบการทำงานของระบบปรับอากาศผ่านแอปพลิเคชั่นในสมาร์ทโฟน ค้นหาจุดหมายอาทิสถานที่ท่องเที่ยว โรงแรม หรือร้านอาหาร ด้วยสมาร์ทเนวิเกเตอร์ รวมถึงตรวจสอบสภาพการจราจรได้แบบเรียลไทม์

นอกจากนี้ระบบยังสามารถเรียนรู้พฤติกรรมของผู้ขับขี่ และพัฒนาความสามารถให้ดีขึ้นด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) สอดคล้องกับยุคอินเตอร์เน็ตในทุกสรรพสิ่งหรือ IoT (Internet of Things)

นอกจากนี้ ระบบ i-SMART ยังรวบรวมข้อมูลที่มีความสำคัญและแจ้งต่อผู้ขับได้ตลอดเวลา อาทิ ระดับน้ำมันเชื้อเพลิง สภาพการทำงานของแบตเตอรี่ เครื่องยนต์ และระบบเบรก ผ่านสมาร์ทโฟน พร้อมกับช่วยแจ้งเตือนการเคลื่อนที่ของรถที่ผิดปกติซึ่งอาจเกิดจากการโจรกรรม ซึ่งช่วยเพิ่มความปลอดภัยได้อีกระดับ

MG-GS

รูปลักษณ์ของ New MG ZS ได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิดบริท ไดนามิค (Brit Dynamic) ที่มีความทันสมัยมากขึ้นและสปอร์ตยิ่งกว่าเดิม ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบความคล่องตัวและยังคงเอกลักษณ์แบบอังกฤษของเอ็มจี

MG-ZS-Panoramic-Sunroof

โดดเด่นด้วยกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ขนาดใหญ่ ที่นำสายตาสู่เส้นสายบนฝากระโปรด้านท้าย ไฟท้ายแบบ LED Tube พร้อม Panoramic Sunroof ส่วนด้านข้างเน้นความปราดเปรียวกับเส้นสายชัดเจน และโดดเด่นด้วยล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ แบบ Bi-Colour ขนาด 17 นิ้ว

มิติตัวถังยาว 4,314 มม. กว้าง 1,809 มม. สูง 1,624 มม. ระยะฐานล้อ 2,585 มม.

MG-ZS-Interior

MG-GS

ภายในห้องโดยสารเน้นความหรูหราและความสปอร์ตสไตล์รถยุโรป ตกแต่งด้วยสีทูโทน และวัสดุ Soft Touch ที่บริเวณแผงประตู และแผงคอนโซล มาพร้อมช่องแอร์ดีไซน์ Jet Turbine ที่ฝั่งซ้าย-ขวา แบบสปอร์ต มาตรวัดเรืองแสงพร้อมหน้าจอแสดงผล เบาะที่นั่งด้านหลังพับแบบ 60:40 พื้นที่เก็บสัมภาระส่วนท้ายปรับได้สองระดับโดยปรับระดับเพิ่มขึ้นได้อีก 10 ซม. เพิ่มความอเนกประสงค์

MG-ZS-Trunk

นอกเหนือจากระบบการเชื่อมต่ออัจฉริยะ i-SMART ที่แสดงผลผ่านหน้าจอสีระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว New MG ZS ยังเพียบไปด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายที่ครบครันที่สุดในระดับเดียวกัน ทั้งระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นแบบสปอร์ต ควบคุมเครื่องเสียง และปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์ด้วยปลายนิ้วสัมผัส ปุ่มสตาร์ท และยังสามารถรองรับการเชื่อมต่อไร้สายผ่านบลูทูธ พร้อม USB ช่องจ่ายไฟ 12V และกล้องมองหลังและเซ็นเซอร์ถอยหลัง

Engine-MG-ZS

New MG ZS ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซินรุ่นใหม่ รหัส 15S4C ขนาด 1.5 ลิตร แบบ 4 สูบ DOHC VTi-TECH ให้แรงม้าสูงสุด 114 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 150 นิวตันเมตร ที่ 4,500 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด พร้อม Manual Mode

เอ็มจี ให้ความสำคัญสูงสุดกับระบบความปลอดภัยเช่นเดียวกับรถยนต์รุ่นอื่นๆ ด้วยระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัย FSF (Full Space Frame) เทคโนโลยีปกป้องทุกชีวิตในห้องโดยสาร และระบบ Synchronized Protection System 9 ระบบ ประกอบด้วย ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS (Anti-lock Braking System) พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake Force Distribution) ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist)

ระบบควบคุมการทรงตัว SCS (Stability Control System) ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC (Curve Brake Control) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System) ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System) ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System) ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือนเมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal) ตลอดจนถุงลมนิรภัยคู่หน้า ถุงลมนิรภัยด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัยรวมทั้งหมด 6 จุด รวมถึงกล้องมองหลังและเซ็นเซอร์

New MG ZS มีสีให้เลือก ทั้งหมด 5 สี ได้แก่ …

– สีแดงสกาเลตต์เรด (Scarlet Red)
– สีฟ้ามารีน่าบลู (Marina Blue)
– สีเงินซิลเวอร์เมทัลลิก (Silver Metallic)
– สีขาวอาร์คติคไวท์ (Arctic White)
และ สีดำแบล็คไนท์ (Black Knight)

MG-GS

ราคา เอ็มจี แซดเอ็กซ์ ใหม่ / The All-New MG ZS Price. Shown in Thai Baht.

– รุ่น C ราคา 679,000 บาท
– รุ่น D ราคา 729,000 บาท
– รุ่น X ราคา 789,000 บาท