The-3-Best-SUV-Nissan-Mazda-MG

รถในระดับ B-SUV ป้ายแดงยอดนิยม นับว่าเป็นรถที่ยอดฮิตมากในบ้านเรา มีราคาค่าตัวอยู่ที่ 6 แสน ไปจนถึง 1 ล้านบาท ที่ขับเคี่ยวแข่งขันกันในตลาดรถยนต์อย่างดุเดือดกันมาหลายปี ถ้าไม่ติดว่าเจอโควิด-19 มาเสียก่อน เพราะตลาดกลุ่มนี้ ถือว่าเป็นกลุ่มใหญ่พอสมควร จนค่ายรถหลายค่าย ต่างพยายามเต็มที่เพื่อเอาใจลูกค้ากลุ่มนี้ให้ได้ ซึ่งมีทั้งนักศึกษา คนวัยเริ่มต้นทำงาน ไปจนกระทั่งแม่บ้าน คนครอบครัวขนาดเล็ก เป็นต้น

CARRO Thailand จึงขอนำรถ B-SUV ยอดฮิตในหมู่คนไทย ที่เพิ่งเปิดตัวสดใหม่ช่วงต้นปี 2020 ด้วยกัน 3 แบรนด์ 3 รุ่น อย่าง Nissan Kicks (นิสสัน คิกส์) ที่วางแผนจะเปิดตัวกันในเดือนมีนาคม และในงาน Motor Show 2020 แต่โควิด-19 มา งานเลยล่มซะก่อน, Mazda CX-30 (มาสด้า ซีเอ็กซ์-30) และ MG ZS (เอ็มจี แซดเอส) พร้อมตารางราคา และอัตราดอกเบี้ย มาเปรียบเทียบกันให้เห็น แบบช้าๆ ชัดๆ!

หากใครสนใจรุ่นไหนอยู่ ลองคำนวณงบประมาณที่มี แล้วเลือกดูว่า จะผ่อนกันแบบไหนได้เลย 

ถ้าคุณอยากขายรถด่วน เพื่อไปซื้อรถคันใหม่ หรือรับเงินก้อนไปใช้ในช่วงโควิด-19 สามารถขายรถคันเก่า หรือตีราคารถกับทาง CARRO ได้ ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ CARRO Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check รับประกันพร้อมโอนทุกคัน

Nissan-Kicks-ePower-2020

Nissan Kicks e-Power 2020

ข้อดี : เป็นรถครอสโอเวอร์ไฮบริด ที่มาพร้อมจุดเด่นอย่างการใช้ระบบเครื่องยนต์สันดาปภายใน ไปปั่นกระแสไฟฟ้าให้กับแบตเตอรี่แบบลิเทียมไอออน และจ่ายไฟไปยังมอเตอร์ไฟฟ้าให้ขับเคลื่อนรถยนต์อีกที ซึ่งเป็นหลักการที่คล้ายกับรถยนต์ไฟฟ้า (BEV : Battery Electric Vehicle) แต่ไม่ต้องชาร์จไฟจากภายนอก เพิ่มความสะดวกในการใช้งาน เหมาะกับการขับรถทางไกล

ข้อด้อย : หลายคนอาจผิดหวังกับความประหยัด ว่าประหยัดได้เท่า Eco-Car และไม่มีระบบ Active Cooling ให้กับแบตเตอรี่รถยนต์ ซึ่งเมืองร้อน (มาก) อย่างบ้านเรา ควรจะเพิ่มระบบหล่อเย็นจุดนี้ แม้ว่าแบตเตอรี่จะถูกออกแบบมาให้ทนความร้อนได้สูงก็ตาม

รายละเอียดตัวรถ : เป็นรถแบบ SUV ที่นิสสันพัฒนามาจากรถต้นแบบอย่าง Nissan Kicks Concept โดยเปิดตัวตัวรถผลิตขายจริงมาตั้งแต่ช่วงปี 2016 เพื่อทำตลาดในอเมริกาใต้เป็นหลัก ตัวรถพัฒนาขึ้นบนแพลทฟอร์ม V แบบเดียวกับรถตระกูล Nissan Micra, Note, Pulsar หรือ Sylphy

ห้องโดยสารภายใน โดดเด่นด้วยการใช้สีทูโทนดำ – ส้ม (เฉพาะรุ่น VL) ด้วยแผงคอนโซล และเบาะหนัง พร้อมเชื่อมต่อกับโลกออนไลน์ได้ตลอดเวลา ด้วยเทคโนโลยีเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนเข้ากับหน้าจอเครื่องเสียง ผ่าน Apple CarPlay พร้อมระบบนำทาง Navigation System ผ่าน Google Map กับระบบสั่งงานด้วยเสียง Voice Recognition ที่ใช้งานง่าย

แถมพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายมีความจุมากถึง 432 ลิตร และยังมีความลึกของห้องเก็บสัมภาระที่มากถึง 900 มม. โดยที่ยังไม่พับเบาะหลัง

เวลาขับยังมีระบบอัจฉริยะ ช่วยให้คนขับมองเห็นพื้นที่ข้างรถได้รอบทิศทาง ผ่านกล้อง 4 จุดรอบคัน จับภาพขณะเคลื่อนไหวจริง และนำไปประมวลผล แล้วแสดงผลเป็นภาพจากมุมสูงผ่านหน้าจอวิทยุ และทำงานร่วมกับเทคโนโลยีเตือนวัตถุเคลื่อนไหวรอบคัน Moving Object Detection (MOD) ตรวจจับและส่งสัญญาณเตือน เมื่อตรวจพบบุคคล หรือวัตถุที่กล้องรอบคันจับการเคลื่อนไหวได้ เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่

Nissan-Kicks-ePower-2020

อุปกรณ์มาตรฐานเด่นๆ :

  • หน้าจอ TFT Digital Meter ขนาด 7 นิ้ว บนมาตรวัด
  • พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันทรง D-Shape
  • กุญแจรีโมทอัจฉริยะ Intelligent Key
  • ปุ่ม Push Start
  • กุญแจระบบ Immobilizer
  • ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ
  • กระจกไฟฟ้ารอบคัน พร้อมระบบป้องกันการหนีบ Anti-jam Protection ด้านผู้ขับ
  • ที่วางแก้วตอนหน้า 2 ตำแหน่ง
  • ช่องวางขวดน้ำบริเวณแผงประตูหน้า-หลัง 4 ตำแหน่ง
  • กล่องเก็บของด้านหน้า
  • ไฟอ่านแผนที่ด้านหน้า
  • ไฟห้องสัมภาระด้านท้าย
  • ระบบปัดน้ำฝนด้านหน้าแบบตั้งเวลาหน่วง
  • ระบบไล่ฝ้ากระจกหลังแบบตั้งเวลา
  • ชุดระบบอินโฟเทนเมนท์ Nissan Connect จอทัชสกรีนขนาด 8 นิ้ว ลำโพง 6 ตำแหน่ง Bluetooth, USB, AUX-in, ฟังก์ชั่น Apple CarPlay สำหรับ iOS (เฉพาะรุ่น V และ VL)
  • ชุดเครื่องเสียงมาตรฐาน วิทยุ AM/FM, Bluetooth, USB, AUX-in และลำโพง 4 ตำแหน่ง (เฉพาะรุ่น S และ E)
  • เทคโนโลยร One-Pedal คันเร่งอัจฉริยะ
  • ระบบ Intelligent Cruise Control ควบคุมความเร็วอัตโนมัติ แบบแปรผัน พร้อมฟังก์ชั่นชลอความเร็วและรักษาระยะห่างตามรถคันหน้า
  • ระบบ Intelligent Forward Collision Warning ช่วยเตือนก่อนการชนด้านหน้า
  • ระบบ Intelligent Emergency Braking ช่วยวิเคราะห์ระยะห่างและความเร็วของรถยนต์ด้านหน้า เพื่อชะลอความเร็วหรือหยุดรถ ลดความเสียหายที่อาจเกิดจากอุบัติเหตุ
  • ระบบ Blind Spot Warning เตือนจุดอับสายตา
  • ระบบ Rear Cross Traffic Alert ช่วยเตือนในขณะถอยออก
  • ระบบ Intelligent Around View Monitor กล้องอัจฉริยะรอบทิศทาง พร้อมเทคโนโลยีตรวจจับและส่งสัญญาณเตือนเมื่อพบวัตถุหรือบุคคลที่เคลื่อนไหวจากกล้องรอบคัน หรือ Moving Object Detection
  • ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวอัตโนมัติ Vehicle Dynamic Control
  • ระบบช่วยลดอาการโยนตัวบนทางขรุขระ Intelligent Ride Control
  • ระบบควบคุมเสถียรภาพขณะเข้าโค้ง Intelligent Trace Control
  • ถุงลมนิรภัย SRS 6 จุด ประกอบด้วยคู่หน้า, ข้าง และม่านข้างซ้าย-ขวา (รุ่น VL) และถุงลมนิรภัยคู่หน้า (ทุกรุ่น)
  • เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ Pretensioner and Load Limiter Seatbelts
  • จุดยึดเบาะนิรภัยสำหรับเด็กเด็กแบบ ISOFIX
  • ระบบเบรก ABS, EBD และ BA
  • กระจกมองหลังอัจฉริยะ Intelligent Rear View Mirror แสดงผลด้วยจอ LCD ที่แสดงภาพจากกล้องด้านหลังตัวรถ สามารถปรับเปลี่ยนการแสดงผลระหว่างจอแสดงภาพ หรือภาพสะท้อนแบบปกติจากกระจกได้
  • ระบบ Hill Start Assist ช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน

Nissan-Kicks-e-POWER-ECO-Sticker

ECO Sticker ของ Nissan Kicks e-POWER 2020

เครื่องยนต์ : เป็นแบบเบนซินขนาด 1.2 ลิตร รหัส HR12DE (แบบเดียวกับใน Note e-Power) แบบ 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว ให้แรงม้าสูงสุด  79 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 103 นิวตัน-เมตร ที่ 3,600-5,200 รอบ/นาที ทำหน้าที่ปั่นกระแสไฟฟ้าไปยังแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 1.57 กิโลวัตต์-ชั่วโมง (kWh)

จากนั้นจึงป้อนพลังไปขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ AC Synchronous Motor รหัส EM57 เป็นลูกเดียวกับที่อยู่ใน Nissan Leaf ให้กำลังสูงสุด 129 แรงม้า (95 กิโลวัตต์) ที่ 4,000-8,992 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 260 นิวตัน-เมตร ที่ 500-3,008 รอบ/นาที

หากรวมพลังทั้งหมด ให้แรงม้าสูงถึง 129 แรงม้า ที่ 4,000 – 8,992 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 260 นิวตันเมตร ที่ 500 – 3,008 รอบ/นาที และอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 23.8 กม./ลิตร (ตาม Eco Sticker) หรือ 4.2 ลิตร/100 กม.

มิติตัวรถ : ยาว 4,290 มม. กว้าง 1,760 มม. สูง 1,615 มม. ระยะฐานล้อ 2,615 มม.

ราคาจำหน่าย : (Update ล่าสุด เดือนพฤษภาคม 2563)

  • รุ่น S ราคา 889,000 บาท
  • รุ่น E ราคา 949,000 บาท
  • รุ่น V ราคา 999,000 บาท (ราคาหลังโปรโมชั่น 1,049,000 บาท ปรับขึ้น 50,000 บาท)
  • รุ่น VL ราคา 1,049,000 บาท (ราคาหลังโปรโมชั่น 1,103,900 บาท ปรับขึ้น 54,900 บาท)

Mazda-CX-30-2020

Mazda CX-30 2020

ข้อดี : รูปทรงใหญ่ เพราะเป็นรถที่ใช้พื้นฐานเดียวกันกับ Mazda3 เพิ่มทางเลือกระหว่างรุ่น CX-3 และ CX-5 แต่ในบ้านเราถูกจับรวมมาในกลุ่ม B-SUV ด้วย ภายในนั่งกัน 4 คนสบายๆ แต่เบาะหลังอาจจะต้องปรับหน่อย สำหรับผู้ที่สูง 170 ซม. ขึ้นไป การขับขี่ที่ง่าย ให้ความรู้สึกเหมือนขับ Mazda3 เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดกลาง หรือชอบที่ชื่นชอบรถ SUV แนวสปอร์ต

ความรู้สึกของการขับขี่ มีการเซ็ทช่วงล่างและโช๊คอัพ มาให้ใกล้เคียงกับใน Mazda3 นิ่มและนุ่ม ไม่ยวบไม่ยุบ (ถ้าไม่ใช้ความเร็วเข้าโค้งแรงๆ) แต่ว่าชิ้นส่วนชิ้นงานที่ใช้ไม่เหมือนกัน ยกเว้นระบบเบรก ที่ยกของ Mazda3 มาใช้ทั้งชุด แต่ปรับให้เหมาะสมกับความสูง และน้ำหนักของตัวรถมากกว่า พร้อมระบบ GVC Plus ที่ทำงานร่วมกันได้อย่างเหมาะสม

ผนวกกับพวงมาลัยให้น้ำหนักที่หนืดได้อย่างพอเหมาะ และประตูไฟฟ้าด้านหลัง ใช้งานได้อย่างดี เหมาะสำหรับขนจักรยานพับได้ พาลูกหลานไปปั่นกันในวันหยุด และมีที่เก็บสัมภาระด้านท้าย 430 ลิตร

ข้อด้อย : ความกว้างขวางอาจเป็นรอง เมื่อเทียบกับรถ SUV รุ่นอื่นๆ แต่นี่ก็ไม่ใช่ความคาดหวังของลูกค้าที่ซื้อ Mazda อยู่แล้ว กับเรื่องศูนยบริการ และราคาอะไหล่ในภายภาคหน้า และแอร์ด้านหลังไม่ค่อยเย็น หากขับรถขณะอากาศร้อนมาก ต้องเร่งแอร์ให้แรงขึ้น รวมถึงคนนั่งเบาะหลังอาจเวียนหัว หรือเมารถได้ เนื่องจากเบาะคู่หน้าขนาดใหญ่ ค่อนข้างทึบในมุมผู่นั่งด้านหลัง

รายละเอียดตัวรถ :All-New Mazda CX-30 เปิดตัวครั้งแรกในโลกเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2019 และเปิดตัวในไทยเมื่อ 6 มีนาคม 2563 ในช่วงที่โควิด-19 กำลังมา ซึ่งจะมาแทนที่เจ้า Mazda CX-3 นับเป็นเจเนอเรชั่นที่ 2 กับแนวคิด “Life’s Always On เติมชีวิตให้เต็มความหมาย” สง่างามด้วยดีไซน์จาก โคโดะ ออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ “Less is More” เรียบง่ายแต่งดงาม มาพร้อมระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง GVC PLUS

Mazda CX-30 มีให้เลือกด้วยกัน 3 รุ่นย่อย ได้แก่ 2.0 C, 2.0 S และ 2.0 SP กับสีที่มีให้เลือกทั้งหมด 7 สี ประกอบด้วย สีแดง โซล เรด คริสตัล (Soul Red Crystal), สีเทา แมชชีน เกรย์ (Machine Gray), สีเทา โพลีเมทัล เกรย์ (Polymetal Gray), สีขาว สโนว์เฟลก ไวท์ เพิร์ล (Snowflake White Pearl), สีเงิน โซนิค ซิลเวอร์ (Sonic Silver), สีดำ เจ็ท แบล็ก (Jet Black), สีน้ำเงิน ดีพ คริสตัล บลู (Deep Crystal Blue)

All-New-Mazda-CX-30-2020

อุปกรณ์มาตรฐานเด่นๆ :

  • ไฟหน้าโปรเจคเตอร์แบบ LED
  • ไฟส่องสว่างสําหรับการขับขี่เวลากลางวัน (Daytime Running Light) แบบ LED Signature
  • ระบบเสียง Premium Sound จาก BOSE รอบทิศทาง พร้อมลําโพง 12 ตําแหน่ง และ Sub-Woofer (เฉพาะรุ่น 2.0 SP)
  • หน้าจอกลาง Center Display ขนาด 8.8 นิ้ว รองรับระบบ Apple CarPlay และ Android Auto
  • ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ Dual Zone แยกอิสระซ้าย-ขวา พร้อมช่องแอร์ด้านหลัง
  • เบาะนั่งคนขับ ปรับด้วยไฟฟ้า 10 ทิศทาง (พร้อมปรับดันหลังไฟฟ้า Lumbar Support)
  • เบาะนั่งคนขับ พร้อมระบบบันทึกตำแหน่ง Memory Seat 2 ตำแหน่ง
  • ถุงลมนิรภัย 7 ตําแหน่ง (คู่หน้า 2 ตำแหน่ง, ด้านข้าง 2 ตำแหน่ง,ม่านนิรภัย 2 ตำแหน่ง และหัวเข่าคนขับ 1 ตำแหน่ง)
  • ประตูท้ายเปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟา
  • เซ็นเซอร์กะระยะ 4 จุด และกล้องมองหลัง
  • หลังคาซันรูฟแบบไฟฟ้า (เฉพาะรุ่น 2.0 SP)
  • ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (เฉพาะรุ่น 2.0 SP)
  • ระบบเบรกมือไฟฟ้า Electronic Parking Brake
  • ระบบ Auto Brake Hold
  • ระบบกุญแจ Smart Keyless Entry
  • ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ Push Start Button

และ … ระบบความปลอดภัย i-Activsense (เฉพาะรุ่น 2.0 SP)

  • ระบบแสดงภาพ 360 องศา รอบทิศทาง (360 ̊ View Monitor)
  • ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM (Advanced Blind Spot Monitoring)ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
  • ระบบควบคุมความเร็วรถอัตโนมัติ MRCC (Mazda Radar Cruise Control)
  • ระบบควบคุมความเร็วและพวงมาลัยตามรถคันหน้า CTS (Cruising & Traffic Support
  • ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติแบบ Advance หรือ Advanced SBS (Advanced Smart Brake Support)
  • ระบบช่วยเบรกและหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง SBS-R (Smart Brake Support-Reverse)
  • ระบบช่วยหยุดรถเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง SBS-RC (Smart Brake Support-Rear Crossing)
  • ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ ALH (Adaptive LED Headlamps)
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LAS (Lane-keep Assist System)
  • ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน LDWS (Lane Departure Warning System)
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่ DAA (Driver Attention Alert)

เครื่องยนต์ : เบนซินขนาด 2.0 ลิตร 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว SkyActiv-G ให้แรงม้าสูงสุด 165 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 213 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที ประหยัดน้ำมันสูงสุด 15.4 กม./ลิตร (ขับขี่โดยเฉลี่ย ในเมือง-นอกเมือง ประมาณ 10-12 กม./ลิตร)

ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ ตัวเดียวกับที่วางอยู่ใน Mazda3 สามารถใช้กับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ได้ ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีด รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.6 เมตร

มิติตัวรถ : ยาว 4,395 มม. กว้าง 1,795 มม. สูง 1,540 มม. ระยะฐานล้อ 2,655 มม. ระยะต่ำสุดจากพื้น 175 มม. ล้อแบบล้อแม็ก 16 นิ้ว และแบบ 18 นิ้ว

ราคาจำหน่าย : (Update ล่าสุด เดือนพฤษภาคม 2563)

  • รุ่น 2.0 C ราคา 989,000 บาท
  • รุ่น 2.0 S ราคา 1,099,000 บาท
  • รุ่น 2.0 SP ราคา 1,199,000 บาท

New-MG-ZS-2020

MG ZS 2020

ข้อดี : MG ZS 2020 เป็นรถในรูปแบบ B-SUV ที่มีราคาจำหน่าย ถูกที่สุดในตลาดไทยเวลานี้! นับตั้งแต่เปิดตัวมาในเดือนกันยายน 2560 เป็นต้นมา รวมไปถึงรุ่นที่ใช้พลังงานไฟฟ้าเพียวๆ อย่าง MG ZS EV (เอ็มจี แซดเอส อีวี) ที่เปิดจำหน่ายไปเมื่อ 20 มิถุนายน 2562 ก็คงไม่ต้องพูดว่ากระแสตอบรับดีแค่ไหน ดูได้จากยอดการผลิต ZS ที่มากถึง 30,000 คันเข้าไปแล้ว (ยอด ณ เดือนมกราคม 2563)

เป็นรถยอดนิยมมากของคนมีครอบครัวเล็กๆ พ่อบ้าน แม่บ้าน ใช้งานได้อเนกประสงค์ ด้วยรูปทรงที่สวย ใหญ่ สง่าเหมือนรถ SUV จากยุโรป ทั้งภายนอกและภายใน สวย นั่งสบาย เรียกได้ว่าออพชั่น คุ้มราคามากๆ วัสดุการประกอบภายในถือว่าใช้ได้ รวมถึงการแก้ปัญหาของศูนย์บริการ และบริการหลังการขายดีกว่าแต่ก่อนมาก

ข้อด้อย : เครื่องยนต์อาจแรงไม่ทันใจใครบางคน ให้อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ย เฉลี่ย​ 10-13​ กม./ลิตร กับชื่อเสียงของ MG ZS ของโฉมที่ผ่านมากับการมีปัญหา ต้องเคลมกันยกใหญ่ ขึ้นยานแม่กันหลายคัน ส่วนศูนย์บริการที่อาจจะยังไม่มาก การหาอะไหล่เทียบ (ในอนาคตที่ไม่ได้เข้าศูนย์บริการ) ก็ต้องรอดูกันต่อไป รวมไปถึงราคาขายต่อในตลาดรถมือสอง ที่ไม่ใช่รถตลาด ราคาอาจตกมากหน่อย

รายละเอียดตัวรถ : เป็นรถ MG ที่ใช้เทคโนโลยีการเชื่อมต่ออัจฉริยะใหม่ล่าสุด i-SMART ที่นับเป็นครั้งแรกของคนขับรถ สามารถควบคุมฟังก์ชั่นต่างๆ ภายในรถด้วยการสั่งการผ่านเสียงภาษาไทย รวมถึงรองรับการใช้งานได้ทุกรูปแบบ สอดคล้องกับยุคอินเตอร์เน็ตในทุกสรรพสิ่งหรือ IoT (Internet of Things)

พร้อมระบบ Emergency Call โทร-ส่งข้อความ-ระบุพิกัดรถไปยังเบอร์โทรที่ตั้งค่าไว้ เมื่อถุงลมนิรภัยทำงาน, ระบบ Smart Connect เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ท เพื่อใช้งานระบบอินโฟเทนเมนท์ รวมถึงระบบนำทางและรายงานการจราจรแบบ Real-Time และระบบ Smart Check ช่วยตรวจสอบสถานะของรถ และช่วยเตือนเมื่อมีสถานะผิดปกติ ล็อค-ปลดล็อคประตู ค้นหารถด้วยระบบ Find My Car ช่วยค้นหาศูนย์บริการ รวมถึงบันทึกการดูแลรักษารถตามระยะผ่าน MG Mobile Application เรียกได้ว่าเป็นจุดเด่นของรถรุ่นนี้ทีเดียว ซึ่งฟังก์ชั่นในราคารถหลักล้านเหล่านี้ เหมาะสำหรับคุณผู้หญิงมาก

มาพร้อมช่วงล่าง Euro Tuning Suspension ที่ให้การทรงตัวดีเยี่ยม ผสานกับระบบช่วงล่างหน้าแบบ MacPherson Strut พร้อมเหล็กกันโคลงและช่วงล่างหลังแบบ Torsion Beam ที่ช่วยให้การควบคุมขับขี่ได้ลงตัวมากขึ้น

New MG ZS มี 3 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น C+, D+ และรุ่นสูงสุดคือ X+ พร้อมสีตัวถังทั้งหมด 4 สี คือ สีขาว Arctic White, สีแดง Scarlet Red, สีเงิน Silver Metallic และ สีดำ Black Knight

New-MG-ZS-2020

อุปกรณ์มาตรฐานเด่นๆ :

  • กระจังหน้าปรับแบบใหม่
  • ชุดไฟหน้าแบบ LED Projector พร้อมฟังก์ชั่นเปิด-ปิดอัตโนมัติ (เฉพาะรุ่น X+)
  • ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน (Daytime Running Lights) ทรงใหม่
  • ไฟตัดหมอกหน้า (ยกเว้นรุ่น C+)
  • กระจกมองข้างพับ และปรับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว แบบพับอัตโนมัติ
  • ราวหลังคา (ยกเว้นรุ่น C+)
  • ล้ออัลลอยลายใหม่ ขนาด 17 นิ้ว (เฉพาะรุ่น X+)
  • หลังคา Panoramic Sunroof (เฉพาะรุ่น X+)
  • ภายในรถโทนสีดำ พร้อมเบาะผ้าสีดำ (เฉพาะรุ่น C+)
  • ภายในรถโทนสีน้ำตาล และดำ พร้อมเบาะหนังสังเคราะห์ (เฉพาะรุ่น D+ และ X+)
  • มาตรวัดดิจิทัลขนาด 7 นิ้วแบบ Digital Multi-Function Display แบบใหม่ (เฉพาะรุ่น D+ และ X+)
  • จอกลางแบบทัชสกรีนขนาด 10 นิ้ว จัดวางแบบกึ่งลอยตัว รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่าน Apple CarPlay พร้อมฟังก์ชั่น Smart Check, Smart Command และ Smart Connect
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) (ยกเว้นรุ่น C+)
  • ช่องต่อ USB สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง
  • ระบบปรับอากาศแบบดิจิทัล
  • ระบบกรองอากาศเพื่อกรองฝุ่นขนาดเล็กในระดับ PM 2.5
  • เบาะผู้ขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง (เฉพาะรุ่น X+)
  • กุญแจรีโมท Smart Key
  • ปุ่ม Push Start
  • กล้องมองภาพแสดงผล 360 องศา รอบคัน Around View Monitor (เฉพาะรุ่น X+), กล้องมองภาพถอยหลัง (เฉพาะรุ่น D+)
  • สัญญาณเตือนระยะถอยหลัง
  • เบรกมือไฟฟ้า Electronic Parking Brake
  • ระบบหน่วงเวลาการดับไฟหน้า เมื่อดับเครื่องยนต์ Follow Me Home Light
  • จุดยึดเบาะนิรภัยสำหรับเด็กแบบ ISOFIX
  • ถุงลมนิรภัยคู่หน้า, ถุงลมนิรภัยด้านข้าง (ยกเว้นรุ่น C+), ม่านถุงลมนิรภัย (เฉพาะรุ่น X+)
  • ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer
  • ระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัย FSF (Full Space Frame)
  • ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake)
  • ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH (Auto Vehicle Hold)
  • ระบบป้องกันล้อล็อก ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD
  • ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist)
  • ระบบควบคุมการทรงตัว SCS (Stability Control System)
  • ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC (Curve Brake Control)
  • ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System)
  • ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System)
  • ระบบควบคุมความเร็วรถขณะลงทางลาดชัน HDC (Hill Descent Control System)
  • ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System) (เฉพาะรุ่น X+)
  • ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal)
  • ระบบจำกัดความเร็ว ASL (Active Speed Limit) (ยกเว้นรุ่น C+)

เครื่องยนต์ : เบนซินขนาด 1.5 ลิตร รหัส 15S4C แบบ 4 DOHC สูบ 16 วาล์ว VTi – TECH ให้แรงม้าสูงสุด 114 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 150 นิวตัน-เมตร ที่ 4,500 รอบ/นาที

ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT 8 สปีด ทุกรุ่น ระบบพวงมาลัย แร็คแอนด์พิเนียน ควบคุมด้วยไฟฟ้า (EPS) สามารถปรับโหมดพวงมาลัยได้ถึง 3 โหมด คือ โหมด City สำหรับการขับขี่ในเมือง, โหมด Standard สำหรับการขับขี่ทั่วไป และโหมด Sport สำหรับการขับขี่สไตล์สปอร์ต ให้รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.6 เมตร

มิติตัวรถ : ยาว 4,323 มม. กว้าง 1,809 มม. สูง 1,628 มม. (รุ่น C+) 1,653 มม. (รุ่น D+ และ X+) ระยะฐานล้อ 2,585 มม. ล้อแบบอัลลอยขนาด 16 นิ้ว และ 17 นิ้ว (X+)

ราคาจำหน่าย : (Update ล่าสุด เดือนพฤษภาคม 2563)

  • รุ่น C+ ราคา 689,000 บาท
  • รุ่น D+ ราคา 739,000 บาท
  • รุ่น X+ ราคา 799,000 บาท

ตารางผ่อนดาวน์ Nissan Kicks e-POWER 2020 ใหม่

Nissan-Kicks-e-POWER-2020-ตารางผ่อนดาวน์

โปรโมชั่น Nissan Kicks e-POWER 2020 ใหม่

Nissan-Kicks-ePower-2020

All-New Nissan Kicks รุ่น V

  • ราคาช่วงเปิดตัว 999,000 บาท
  • อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.69%* (เงินดาวน์ 25%, ผ่อนนาน 48 เดือน)
  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี*
  • ฟรี รับประกันระบบ e-POWER 5 ปี รับประกันแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 10 ปี**
  • ฟรี ไส้กรองแอร์แบบพรีเมียม “Nissan Premium Air-Con filter”

* ข้อเสนอนี้สำหรับลูกค้าที่เช่าซื้อกับบริษัท นิสสัน ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด เท่านั้น

** รับประกันระบบรถยนต์ e-POWER เป็นระยะเวลา 5 ปี หรือ ระยะทาง 100,000 โลเมตร (นับตั้งแต่วันที่ส่งมอบ) แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน และ รับประกันแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน เป็นระยะเวลา 10 ปี หรือ ระยะทาง 200,000 กิโลเมตร (นับตั้งแต่วันที่ส่งมอบ) แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน โดยเป็นขยายการรับประกันแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนเพิ่มเติม ภายในปีที่ 6-10 จาก ปีที่ 5 โดยเพิ่มระยะทางจาก 100,000 กิโลเมตรเป็น 200,000 กิโลเมตร โดยลูกค้าสามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่เนื่องจากความเสียหาย ได้ 1 ครั้ง

All-New Nissan Kicks รุ่น VL

  • ราคาช่วงเปิดตัว 1,049,000 บาท
  • อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.69%* (เงินดาวน์ 25%, ผ่อนนาน 48 เดือน)
  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี*
  • ฟรี รับประกันระบบ e-POWER 5 ปี รับประกันแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 10 ปี**
  • ฟรี ไส้กรองแอร์แบบพรีเมียม “Nissan Premium Air-Con filter”

* ข้อเสนอนี้สำหรับลูกค้าที่เช่าซื้อกับบริษัท นิสสัน ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด เท่านั้น

** รับประกันระบบรถยนต์ e-POWER เป็นระยะเวลา 5 ปี หรือ ระยะทาง 100,000 โลเมตร (นับตั้งแต่วันที่ส่งมอบ) แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน และ รับประกันแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน เป็นระยะเวลา 10 ปี หรือ ระยะทาง 200,000 กิโลเมตร (นับตั้งแต่วันที่ส่งมอบ) แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน โดยเป็นขยายการรับประกันแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนเพิ่มเติม ภายในปีที่ 6-10 จาก ปีที่ 5 โดยเพิ่มระยะทางจาก 100,000 กิโลเมตรเป็น 200,000 กิโลเมตร โดยลูกค้าสามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่เนื่องจากความเสียหาย ได้ 1 ครั้ง

ตารางผ่อนดาวน์ Mazda CX-30 2020 ใหม่

Mazda-CX-30-2020-ตารางผ่อนดาวน์

ตารางผ่อนดาวน์ MG ZS 2020 ใหม่

MG-ZS-2020-ตารางผ่อนดาวน์

ในเวลานี้ ใครที่อยากขายรถ เพื่อซื้อรถใหม่ ต้อนรับปีใหม่นี้ ต้องนึกถึงเรา CARRO! เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand จ้า แค่นี้การเปลี่ยนรถใหม่ของคุณ ก็ง่ายขึ้นแล้ว