5 สิ่งต้องจำเมื่อขึ้นแท็กซี่ ถ้าลืมของ จะได้ตามได้

หากใครที่มีโอกาสได้เปิดฟังคลื่นวิทยุที่เกี่ยวกับการรายงานสภาพจราจร เช่น สวพ.91 หรือ จส.100 จะสังเกตได้ว่า ในวันๆ หนึ่ง มีผู้คนที่โทรเข้ามาแจ้งเรื่องลืมของในรถแท็กซี่กันเยอะมาก โดยสิ่งของที่ยอดฮิตของคนขี้ลืม ได้แก่ กระเป๋าสตางค์, โทรศัพท์มือถือ, แท็บเล็ต, กระเป๋าต่างๆ, กล้องถ่ายรูป, ซองเอกสาร, ร่ม หรือกุญแจต่างๆ เป็นต้น

10-อันดับ-ลืมของบนรถแท็กซี่-สวพ.91

ภาพจาก สวพ.91

ซึ่งบางคน อาจจะจำได้แค่บางอย่าง แต่บางคน ก็จำอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง (เพราะอาจจะขึ้น Taxi ตอนกลางคืน หรือเมาด้วยล่ะ) ทำให้ยากต่อการติดตาม ของหายแล้วไม่ได้คืน

Mr.Carro ขอแนะนำ 5 สิ่งที่ควรจำ เมื่อขึ้นรถแท็กซี่ เวลาลืมของ จะได้ตามได้ ครับ …

5 สิ่งต้องจำเมื่อขึ้นแท็กซี่ ถ้าลืมของ จะได้ตามได้

ภาพจาก แท็กซี่แวนไทยแลนด์

1. เวลา และสถานที่ขึ้น-ลง

อันนี้ถือว่าสำคัญ หากคุณไม่ได้เรียกแท็กซี่จากในโรงแรม หรือบางสถานที่ ที่มีการจดเลขทะเบียน หรือมีภาพจากในกล้องวงจรปิดบันทึกไว้ การจดจำเวลา และสถานที่ขึ้น-ลง ถือว่าสำคัญ เพราะรถแท็กซี่ส่วนใหญ่ มักแบ่งกันขับกันเป็นกะ จะได้ตามตัวคนขับได้ถูก

5 สิ่งต้องจำเมื่อขึ้นแท็กซี่ ถ้าลืมของ จะได้ตามได้

ภาพจาก แท็กซี่เกรดเอ อ้วนรังสิต

2. สีรถ

อันนี้ก็ถือว่าสำคัญ เพราะปัจจุบันนี้ แท็กซี่บ้านเรามีสารพัดสีมาก จนได้ชื่อว่า “รถสีลูกกวาด” เลยทีเดียว ซึ่งก็มีตั้งแต่รถส่วนบุคคล เขียว-เหลือง, รถแท็กซี่รุ่นเก่า เหลือง-ดำ ส่วนรถสหกรณ์ก็มีหลากหลายสี ตั้งแต่สีเหลืองทั้งคัน สีเขียวทั้งคัน สีฟ้า สีชมพู โดยบางคันอาจจะมี 2 สี ซึ่งคาดแถบสีขาวไว้ด้านข้างตัวรถด้วย ต้องสังเกตดีๆ

5 สิ่งต้องจำเมื่อขึ้นแท็กซี่ ถ้าลืมของ จะได้ตามได้

3. ป้ายทะเบียนรถ

ทะเบียนรถ ถือว่าสำคัญที่สุดในการตามหาตัวรถ นอกจากดูนอกตัวรถแล้ว บริเวณภายในประตูรถทั้งเบาะหน้า และเบาะหลัง ก็มีเลขทะเบียนติดเอาไว้ และมีอักษรเทียบระหว่างภาษาไทยเป็นภาษาอังกฤษ เช่น ถ้าเป็นทะเบียน มฎ 1234 ภายในจะเป็น AA 1234 เพื่อให้ชาวต่างชาติจำได้ง่ายขึ้น ขึ้นรถมาแล้วกลัวลืม ก็หยิบมือถือมาถ่ายรูปไว้ก่อนเลย

4. ชื่อ-สกุล รหัส ของคนขับ / รูปพรรณของคนขับ

ชื่อ-สกุล รหัส ของคนขับบริเวณด้านหน้ารถ ควรสังเกตให้ละเอียด รวมถึงสังเกตดูว่า คนขับ มีรูปร่างอย่างไร อ้วน ผอม หนุ่ม แก่ หัวล้าน ผมยาว ใส่แว่น มีไฝ รอยสัก ฯลฯ เพราะบางครั้ง บัตรประจำตัวคนขับที่แสดงไว้ อาจะเป็นคนละคนกับคนขับ

5 สิ่งต้องจำเมื่อขึ้นแท็กซี่ ถ้าลืมของ จะได้ตามได้

5. คนขับฟังวิทยุ หรือดูอะไรอยู่ตอนนั้น

นี่ก็สำคัญ! หากขณะนั่งในรถ คนขับแท็กซี่ เปิดฟังรายการวิทยุอะไร คลื่นไหน หากนึกขึ้นได้ ให้ลองรีบโทรเข้าไปในรายการนั้นๆ ดูทันที หากรายการนั้นเป็นรายการสด หรือกำลังดู Live สด เพจอะไรอยู่ เผื่อคนขับรถได้ยินได้ฟังได้เห็นแล้ว โอกาสที่คุณจะได้ของคืน มีมากขึ้นครับ

แต่ถ้าคนขับ เปิดเพลงจาก USB/มือถือ หรือ ปิดวิทยุ … ก็ตัดข้อนี้ไปได้ครับ

ทางที่ดี ก่อนลงแท็กซี่ ควรตรวจสอบให้เรียบร้อย ว่าลืมสิ่งของอะไรไว้บนเบาะ หรือในฝากระโปรงท้ายหรือไม่ เพราะโอกาสที่จะได้คืนนั้น บอกได้เลยว่าน้อย … ฉะนั้น ต้องรอบคอบก่อน กันไว้ดีกว่าแก้ครับ

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่มาขับแทนนั่งแท็กซี่ มาขายรถกับทาง Carro Express สิ! คลิกเลยที่ https://th.carro.co/sell-car/express รับรองได้เงินเร็ว ไว ทันใจแน่นอน!

Carro Automall ตลาดรถ

ส่วนใครสนใจจะซื้อรถมือสอง Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

Taximeter-Extended-Lifetime

กรมการขนส่งทางบก รับลูก ครม. อนุมัติขยายอายุการใช้งานรถแท็กซี่จากเดิม 9 ปี เป็น 12 ปี โดยต้องเป็นรถที่จดทะเบียน “ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2563” และผ่านการตรวจสภาพตามเกณฑ์ที่กำหนด มีความมั่นคง แข็งแรง ปลอดภัยต่อการให้บริการ

ที่สำคัญ ต้องผ่านเกณฑ์การตรวจสภาพ ที่กรมการขนส่งทางบก และกรมควบคุมมลพิษร่วมกันกำหนดขึ้น เพื่อให้มีมาตรฐานสมรรถนะ ความมั่นคงแข็งแรง และความปลอดภัยในการใช้งาน มีคุณภาพและความเรียบร้อยในการรับจ้างจนสิ้นอายุการใช้งาน

ทั้งนี้ รถแท็กซี่ที่ได้รับการขยายอายุการใช้งานต้องผ่านการตรวจสภาพและเกณฑ์การวินิจฉัยการตรวจสภาพรถตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ พ.ศ. 2555 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และระเบียนกรมการขนส่งทางบกว่าด้วยการตรวจสภาพรถยนต์รับจ้างบรรทุกผู้โดยสารไม่เกินเจ็ดคนเพื่อขยายอายุการใช้งานจาก 9 ปี เป็น 12 ปี ในปี 2564 จะมีรายการที่ต้องตรวจสภาพเพิ่มเติม ดังนี้

1. ตรวจก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์และก๊าซไฮโดรคาร์บอนจากท่อไอเสีย โดยใช้เครื่องวิเคราะห์ก๊าซในขณะที่เครื่องยนต์อยู่ในรอบเดินเบาและไม่มีภาระ และให้ตรวจทุกชนิดเชื้อเพลิงในกรณีมีการใช้เชื้อเพลิงมากกว่า 1 ชนิด โดยค่าก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ต้องไม่เกินร้อยละ 0.5 โดยปริมาตร และค่าก๊าซไฮโดรคาร์บอนต้องไม่เกิน 100 ส่วนในล้านส่วน

2. โครงสร้างและตัวถังรถ ต้องมีความมั่นคงแข็งแรงสามารถรองรับการทำงานของรถขณะมีน้ำหนักเต็มอัตราบรรทุกได้ในทุกสภาพการใช้งาน ไม่ชำรุด ผุกร่อน จนมีผลกระทบต่อความมั่นคงแข็งแรงของรถ เป็นต้น

3. ประตูและพื้นรถ ต้องไม่ชำรุด ผุกร่อน จนมีผลกระทบต่อความมั่นคงแข็งแรงของรถและความปลอดภัยในการใช้งาน สะอาด ไม่มีคราบเปื้อน คราบสกปรก หรือขยะ

4. ที่นั่งผู้ขับรถ ที่นั่งคนโดยสารและพนักพิงศีรษะ ไม่ชำรุดทรุดโทรมหรือเสียหาย ที่นั่งต้องยึดติดกับโครงสร้างรถและตัวถังรถอย่างมั่นคงแข็งแรง

5. ตรวจเข็มขัดนิรภัยและจุดยึดเข็มขัดนิรภัย รวมถึงตรวจการล็อกและปลดล็อกของเข็มขัดนิรภัยโดยการกระตุกหรือกระชากต้องทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ

6. สีรถ ภายนอกตัวรถ ไม่มีรอยแตกร้าว รอยด่าง คราบสนิม หรือรอยหลุดลอกชำรุดจำนวนมากหรือขนาดใหญ่ และสีรถถูกต้องตามเอกสารหลักฐานหรือเป็นไปตามเงื่อนไขที่ทางราชการกำหนด

7. เครื่องปรับอากาศ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสามารถปรับอากาศภายในรถและภายในห้องโดยสารได้ที่อุณหภูมิต่ำกว่า 25 องศาเซลเซียส ปรับทิศทางและแรงลมได้ ไม่มีน้ำรั่วซึมออกจากระบบปรับอากาศภายในรถหรือภายในห้องโดยสาร ไม่มีเสียงดังรบกวน มีกลิ่นเหม็น หรือกลิ่นอับชื้น

8. ที่เก็บสัมภาระท้ายรถสำหรับผู้โดยสารต้องมีสภาพดี ไม่ชำรุดหรือเสียหาย ผนังทุกด้านปิดทึบมั่นคงแข็งแรงและถาวร รวมถึงมีความสะอาด เรียบร้อย ไม่มีสิ่งของที่จะเป็นอุปสรรคในการวางสัมภาระของผู้โดยสาร

https://dlt.go.th/web-upload/m_news/172/2810/file_photo/a96a53a8d171efa4a5f342fc8cb2109f.jpg

เจ้าของรถที่มีความประสงค์จะขยายอายุการใช้งานรถแท็กซี่สามารถติดต่อได้ที่สำนักงานการขนส่งผู้โดยสาร กรมการขนส่งทางบก ส่วนรถที่จดทะเบียนต่างจังหวัดยื่นความประสงค์ได้ที่กลุ่มวิชาการ สำนักงานขนส่งแต่ละจังหวัด

หลักฐานประกอบการดำเนินการ ได้แก่ใบคู่มือจดทะเบียนหรือภาพถ่าย หลักฐานประจำตัวเจ้าของรถ ใบอนุญาตขับรถสาธารณะหรือใบอนุญาตขับรถตามกฎหมายในประเภทที่ใช้แทนกันได้ที่ยังไม่สิ้นอายุ หลักฐานการจัดให้มีประกันภัยคุ้มครองบุคคลที่ 3 และประกันภัยเพิ่มเติมที่ให้การคุ้มครองความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัย ในวงเงินไม่ต่ำกว่า 50,000 บาท สำหรับการชดใช้ค่าเสียหายต่อคนในแต่ละครั้ง และความเสียหายต่อทรัพย์สินในวงเงินไม่ต่ำกว่า 200,000 บาท สำหรับการชดใช้ค่าเสียหายในแต่ละครั้ง

รถแท็กซี่ที่ได้รับการขยายอายุการใช้งานจาก 9 ปี เป็น 12 ปี จะต้องเข้ารับการตรวจสภาพระหว่างการใช้งานปีละ 4 ครั้ง เพื่อให้รถมีสภาพมั่นคงแข็งแรงและปลอดภัยเพียงต่อการให้บริการ

นอกจากนี้ ยังมีการกำหนดให้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบรายเดือนแทนการใช้วิทยุสื่อสารได้ โดยต้องแสดงหมายเลขโทรศัพท์ไว้ภายในห้องโดยสารที่ผู้โดยสารสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน และบริเวณประตูตอนหลังด้านนอกทั้งสองด้าน และด้านบนของกระจกบังลมหน้ารถด้วย

แหล่งที่มา :

Taximeter-Baggage-Fees

เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่อง กำหนดอัตราค่าบริการอื่น กรณีการจ้างโดยมีบริการพิเศษสำหรับรถแท็กซี่มิเตอร์ (Taxi-Meter) ที่จดทะเบียนในเขตกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2563 โดยที่เป็นการแก้ไขปรับปรุงอัตราค่าบริการอื่น ให้มีความเหมาะสมมากยิ่งขึ้น

ซึ่งมีการปรับค่าบริการอื่นกรณีการจ้างโดยมีบริการพิเศษดังนี้

1. การจ้างที่มีการบรรทุกสัมภาระที่มีขนาดความกว้าง ความยาว หรือความสูงด้านใดด้านหนึ่งเกินกว่า 26 นิ้ว ขึ้นไป ให้เรียกเก็บค่าบริการในอัตราชิ้นละไม่เกิน 20 บาท

2. การจ้างที่มีการบรรทุกสัมภาระที่มีขนาดความกว้าง ความยาว หรือความสูงด้านใด ด้านหนึ่งไม่เกิน 26 นิ้ว เกินกว่าสองชิ้น ให้เรียกเก็บค่าบริการตั้งแต่ชิ้นที่สามขึ้นไป ในอัตราชิ้นละไม่เกิน 20 บาท ทั้งนี้ ไม่นับรวมกับสัมภาระตามข้อ 1

3. การจ้างที่มีการบรรทุกสัมภาระเป็นอุปกรณ์การกีฬาจำพวก ถุงกอล์ฟ รถจักรยาน วินด์เซิร์ฟ หรือเครื่องดนตรี ซึ่งมีขนาดตั้งแต่ 50 นิ้ว ขึ้นไป ให้เรียกเก็บค่าบริการในอัตราชิ้นละไม่เกิน 100 บาท

4. การจ้างที่มีการบรรทุกสัมภาระเป็นสินค้า สิ่งของ อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ ที่บรรจุกล่อง และที่มิได้มีการบรรจุกล่อง แต่มีการมัดรวมหรือหีบห่อรวมกันไว้ ซึ่งมีขนาดตั้งแต่ 50 นิ้ว ขึ้นไป ให้เรียกเก็บค่าบริการในอัตราที่บรรจุกล่อง มัดรวมหรือหีบห่อชิ้นละไม่เกิน 100 บาท

*สัมภาระ ในที่นี้หมายถึง สิ่งของหรืออุปกรณ์ต่างๆ ที่นำติดตัวมาด้วย แต่มิได้หมายความรวมถึงรถวีลแชร์ ไม้เท้า หรืออุปกรณ์สำหรับคนพิการ

แหล่งที่มาจาก: