Tesla-Top-Sales-In-China-2020

สมาคมรถยนต์นั่งส่วนบุคคลประเทศจีน (CPCA – China Passenger Car Association) เปิดเผยเมื่อวันที่ 9 เมษายน ว่า Tesla มียอดขายรถยนต์ในประเทศจีนเมื่อเดือนมีนาคม 2020 มากถึง 10,160 คัน! ซึ่งถือว่าเป็นยอดขายสูงสุด ทำเอา Elon Musk (อีลอน มัสก์) ต้องดีใจกันอีกรอบ!

ในเวลานี้ Tesla (เทสลา) มีแผนที่จะผลิตรถ Tesla Model 3 ทั้งหมด 150,000 คัน ในโรงงานที่เซี่ยงไฮ้มูลค่า 2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ นับเป็นยอดขายราวๆ 30% ของรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดที่ผลิตขายในจีน ซึ่ง Cui Dongshu เลขาธิการของ China Passenger Car Association เป็นผู้ให้ข้อมูลเพิ่มเติม

Tesla-Top-Sales-In-China

จากข้อมูลข้างต้น CPCA แม้ว่ายอดขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลในภาพรวมทั้งหมดของเดือนมีนาคม จะลดลง 40.8% เมื่อเทียบจากปี 2019 อีกทั้ง CPCA ยังเผยถึงยอดขายรถของ Tesla ในเดือนกุมภาพันธ์ มียอดขายประมาณ 3,900 คันที่เพิ่มจากเดือนมกราคมถึง 2,620 คัน โดยการนับที่แตกต่างจากยอดการส่งมอบรถยนต์ของ Tesla

แม้ว่าในช่วงที่ไวรัสโควิด-19 (COVID-19) ระบาดอย่างหนักในทั่วโลก กระทบถึงยอดขายรถใหม่และอุตสาหกรรมยานยนต์เป็นแถวๆ แต่ Tesla กลับสร้างความตะลึงให้กับวงการรถยนต์ทั่วโลก ด้วยการทำยอดขายในจีนได้สูงเป็นประวัติการณ์ ที่ในอนาคต ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า Tesla ในจีนต้องมากกว่านี้แน่นอน!

ส่วนใครที่อยากขายรถ เพื่อนำเงินไปใช้ในช่วงโควิด-19 ระบาด CARRO เรารับซื้อรถของคุณ สามารถเข้าไปเช็กราคา ตีราคาขายรถก่อนได้ โดยใส่ข้อมูลรถของคุณที่นี่เลย กับ CARRO Express > https://th.carro.co/sell-car/express หรือโทร. 02-508-8425

หรือใครจะ Inbox มาสอบถามก็ได้เช่นกัน ที่ Facebook CARRO Thailand หรือสะดวก Add Line ก็ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ครับ —> เพิ่มเพื่อน

แหล่งที่มาจาก:

The-All-New-Bentley-Flying-Spur-2020

บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส ผู้แทนจัดจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลีย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในเมืองไทย จัดงานเปิดตัวที่สุดแห่งแกรนด์ทัวริ่งซีดาน 4 ประตู สุดหรูสัญชาติอังกฤษ คงความหรูหราพร้อมการตกแต่งสุดร่วมสมัย อย่าง The All New Flying Spur (ดิออล์นิว ฟลายอิ้ง สเปอร์) ในงาน Private Preview of The New Flying Spur ในวันที่ 15-16 เมษายน 2563 ณ โชว์รูมเบนท์ลีย์ CTI Tower ถนนรัชดาภิเษก

แบรนด์เบนท์ลีย์นั้น ขยายความเข้มแข็งและเติบโต ในส่วนของ Brand Positioning ในเมืองไทยเป็นอย่างมาก โดยมีการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง ในส่วนของปีนี้โมเดลรุ่นล่าสุดนี้ได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากลูกค้าเป็นอย่างมาก โดยมียอดสั่งจองเข้ามาต่อเนื่องก่อนการเปิดตัวในประเทศไทย และคาดการณ์ว่า จะมีผู้ที่สนใจมายลโฉมในงานกันแบบเอ็กซ์คลูซีฟอย่างแน่นอน

สำหรับฟลายอิ้ง สเปอร์ เจ้าของวิวัฒนาการขุมพลังใหม่ 6 ลิตร เครื่องยนต์ทวิน เทอร์โบชาร์จ W12 นี้พร้อมแล้วสำหรับทุกการสั่งจอง โดยเบนท์ลีย์ แบงค็อก สนนราคาเริ่มต้นที่ 25.99 ล้านบาท

The-All-New-Bentley-Flying-Spur-2020

The All New Flying Spur

เป็นที่รู้กันเป็นอย่างดีกับสัญลักษณ์แห่งที่สุดในโลกแห่งยนตกรรมอย่าง Flying B มาสคอตของเบนท์ลีย์ ซึ่งจะถูกนำมาเพิ่มความหรูหราและผสานความร่วมสมัยเป็นครั้งแรกให้กับ The All New Flying Spur แกรน ทัวเรอร์ 4 ประตู สุดหรูสัญชาติอังกฤษ

Flying B มาสคอตของ Bentley ซึ่งจะถูกนำมาเพิ่มความหรูหราและผสานความร่วมสมัยเป็นครั้งแรกให้กับ The All New Flying Spur แกรน ทัวเรอร์ 4 ประตู ด้วยดีไซน์สุดล้ำสมัยตอบรับทศวรรษหน้า Flying B ออกแบบมาให้ฝังอยู่ภายใต้โลโก้ปีกนกของ Bentley บริเวณฝาประโปรงหน้า และสามารถปรับขึ้นมาเหนือฝากระโปรงได้

The-All-New-Bentley-Flying-Spur-2020

ในส่วนอนาคตของต้นแบบยนตกรรมหรู Flying B ได้ถูกนำมาใช้กับ Concept Car อย่าง EXP 100 GT ซึ่งถือเป็นไอคอนสุดอัจฉริยะ ด้วยฟังก์ชันเรืองแสง โดยสามารถปรับแสงตั้งแต่งกระจังหน้ารถ ผ่านตัวมาสคอต Flying B ตลอดจนตัวถังถึงห้องโดยสาร

Flying B ได้ถูกนำมาใช้ครั้งแรกเมื่อเกือบ 90 กว่าปีที่แล้ว กับโมเดลเครื่อง 8 ลิตร ปี 1930 ตัว Mascot ไม่ได้ถูกใช้ให้เป็นมาตรฐานในสมัยนั้น เพียงแต่เป็นทางเลือกให้กับลูกค้าเท่านั้น

Mascot แบบดั้งเดิมเป็นตัวอักษร B ประกบด้วยปีกนก และมีลักษณะแบนเรียบ ถือกำเนิดโดย W.O. Bentley ผู้ก่อตั้งบริษัท Bentley Motor ในปี 1919 ซึ่งเป็นเวลากว่า 100 ปี

เนื่องในโอกาสครบรอบ 100 ปี Mascot ได้ออกแบบใหม่ให้สามารถควบคุมและปรับแสงด้วยระบบไฟฟ้า ซึ่งเชื่อมกับ Welcome Lighting และระบบกุญแจอัจฉริยะ เมื่อผู้ขับเข้าใกล้ตัวรถ

The-All-New-Bentley-Flying-Spur-2020

The All New Flying Spur รวมเอาความโฉบเฉี่ยวของสปอร์ตซีดาน และนิยามใหม่ของความหรูหราแบบร่วมสมัยเข้าด้วยกัน ซึ่งการออกแบบ การประกอบและวางระบบ รวมถึงงานฝีมือได้ถูกดำเนินการในประเทศอังกฤษ ประเทศที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่มีเทคโนโลยีขั้นสูง ในการผลิตรถแกรนทัวร์เรอร์อันดับต้นๆ ของโลก

The-All-New-Bentley-Flying-Spur-2020

The-All-New-Bentley-Flying-Spur-2020

ประตูขนาดใหญ่ เปิด-ปิด ได้อย่างนุ่มนวล พร้อมระบบดูดอัตโนมัติ และ Welcome Light ส่องไปที่พื้น

The All New Flying Spur นั้นได้ถูกสรรค์สร้างมาให้นำเสนอดีไซน์ดั่งการแกะสลัก แต่คงไว้ซึ่งความทันสมัย และมีสัดส่วนโครงสร้างที่แข็งแรง ที่เป็นความโดดเด่น โครงสร้างของไฟหน้า LED ได้แรงบันดาลใจจากแก้วคริสตัล และล้อมไปด้วยแผ่นโลหะเคลือบโครเมียม พร้อมไฟท้ายแบบใหม่ถูกออกแบบมาเป็นรูป ตัวอักษร B อีกทั้งล้อใหม่ขนาด 22 นิ้ว

The-All-New-Bentley-Flying-Spur-2020

หัวใจหลักของเครื่องยนต์ The All New Flying Spur นั้นได้ใช้ระบบขับเคลื่อนใช้ขุมพลัง W12 สูบ ขนาด 6.0 ลิตร Twin Turbocharged ระบบเกียร์ดูโอคลัช 8 สปีด ให้พละกำลัง 635 แรงม้า แรงบิด 900 นิวตันเมตร

ทำความเร็วที่ 0-100 กม./ชม. ที่ 3.8 วินาที และ ทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 333 กม./ชม.

ในส่วนของช่วงล้อนั้น The All New Flying Spur ได้เพิ่มความยาวขึ้น 130 มม. ส่งผลให้มีห้องโดยสารกว้างขึ้น

The-All-New-Bentley-Flying-Spur-2020

นอกจากนั้น ยังมีความวิจิตรบรรจง จากการตกแต่งโดยแผ่นไม้วีเนียร์ ทั้งแบบสีเดียว และแบบทูโทนให้เลือก โดยในส่วนออฟชั่นนั้น ยังรวมไปถึง การปักของเบาะหนัง Mulliner Driving Specification ในรูปแบบของเพชรอีกด้วย ซึ่งเป็นครั้งแรกในโลกที่มีการปักลวดลายเพชร 3 ชั้นในส่วนประตูข้าง

ความโดดเด่นของเทคโนโลยี นั้น The All New Flying Spur ก็ไม่เป็นสองรองใคร ฝีมืออันประณีตบรรจงทีมวิศวกรรมชั้นครูก็ยังผสานความสบายและสนุกของผู้โดยสาร

ด้วยการรังสรรค์ หน้าจอดิจิตอลแบบทัชสกรีน (HD Digital) พร้อมกับหน้าปัดแบบ Rotating display ที่คอลโซลกลาง ขนาด 12.3 นิ้ว อันประดับไปด้วยไม้วีเนียร์ พร้อมไปด้วย รีโมตคอนโทรล ของหน้าจอทัชสกรีนที่ควบคุมคำสั่งได้จากผู้โดยสารด้านหลัง ภายในยังสามารถเลือกหลังคาแก้ว แบบพาโนรามิครูฟ ซึ่งมีความยาวตลอดหลังคารถได้อีกด้วย

The-All-New-Bentley-Flying-Spur-2020

แดชบอร์ดออกแบบให้ยาวและดูพลิ้วไหว คล้ายโลโก้รูปปีกนกของเบนท์ลีย์ ยังมีให้เลือก พร้อมสีที่สวยงดงามสง่า ที่เชื่อมต่อระหว่างด้านหน้าและด้านหลัง อีกทั้งยังมีออฟชั่นใหม่ล่าสุด Mood Lighting ที่สามารถเลือกสีไฟภายในสร้างบรรยากาศได้ถึง 7 สีด้วยกัน

พร้อมกับระบบช่วยเหลือการมองยามค่ำคืนที่เพิ่ม Head Up Display ที่ช่วยให้ผู้ขับสามารถโฟกัสถนนข้างหน้า Top View Camera กล้องติดรถคุณภาพสูง ไม่ว่าจะเป็นขณะขับขี่โดยรอบหรือจอดรถ และระบบถอยจอดรถอัตโนมัติอีกด้วย

The-All-New-Bentley-Flying-Spur-2020

เก้าอี้ใหม่ยังมีระบบฟังก์ชั่นต่างๆ อาทิ ระบบทำความร้อน, ระบบระบายอากาศ, ระบบเก้าอี้นวด ระบบปรับเบาะเอียงด้านบน ซึ่งมาพร้อมกับตัวเลือกของ Mulliner Driving Specification ที่ละเมียดละไมไปด้วย การปักและถักทอของปรมาจารย์ชั้นครูจากเบนท์ลีย์

The-All-New-Bentley-Flying-Spur-2020

ฃ่วงล่างของ The All New Flying Spur นั้น ถูกพัฒนาให้ใช้ระบบแอร์สปริงแบบสามห้อง ที่ประกอบไปด้วยลมกว่า 60% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ระบบนี้ส่งผลให้รถ สามารถเน้นการทำงานในระบบสปอร์ตได้ดีขึ้น เกาะพื้นถนนได้ดี ตามโหมดการทำงานที่ผู้ขับได้เลือก ในรุ่นใหม่นี้ยังเพิ่มในระบบฟีเจอร์ CDC (Continuous Damping Control) ที่ลดการสั่นสะเทือนของเครื่องยนต์อีกด้วย

ระบบเซ็นเซอร์รอบคัน ที่สามารถวัดระยะระหว่างแกนกลางกับตัวรถ ในกรณีที่ระบบจับความแตกต่างในระดับความสูงปรกติ ระบบอากาศ ในสปริงจะถูกฟื้นฟูให้เหมาะกับระดับปรกติอย่างสมบูรณ์

ระบบ Bentley Dynamic Ride System ได้ถูกออกแบบและพัฒนาระบบการทรงตัว และ ความนุ่มสบายมากขึ้น มาพร้อมกับการควบคุมของกระแสไฟ 48 โวลต์ โดยจัดการความหนึบแน่น ของเหล็กกันโคลงเพิ่มการเกาะตัวของรถ ตามคำสั่งของการเข้าโค้ง และปรับให้เสถียรเช่นเดิม

The-All-New-Bentley-Flying-Spur-2020

สำหรับท่านใดอยากขายรถ ในยุคที่ COVID-19 กำลังระบาด เพื่อลดความเสี่ยงในการพบปะผู้คนเวลาไปตีราคารถภายนอก สามารถขายคันเก่ากับ CARRO Express ได้ เรายินดีรับซื้อรถของคุณ ได้เงินไว เร็ว พร้อมปิดการขายได้ทันที แค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรืออยากตีราคารถก่อน สามารถ Inbox สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

ประเมินราคารถ ขายออกไว สำหรับคนอยากขายรถ CARRO

“การตีราคารถ” หรือ “การประเมินราคารถ” นี่ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญที่คนอยากขายรถควรรู้ไว้ เพื่อที่คุณจะได้ตั้งราคารถได้ หากเวลาต้องการขายรถ เนื่องจากถ้าคุณตั้งราคาได้อย่างสมเหตุสมผล นอกจากคุณจะขายรถได้ไวแล้ว ยังได้มูลค่าที่เหมาะสมกับราคาประเมินในเวลานั้นอีกด้วย

แต่ก็ยังมีคำถามมากมายเข้ามาอยู่เรื่อย ว่า ทำไมรถผมตั้งราคาแบบนี้ ถึงขายไม่ออกสักที? หรือทำไมเต็นท์รถ ดีลเลอร์รถมือสอง ถึงไม่ให้ราคาตามที่ใกล้เคียงกับที่เขาขาย?

MR.CARRO จะมาแนะนำการประเมินราคาง่ายๆ ให้สำหรับคนที่กำลังต้องการขายรถ ทำอย่างไรให้ขายรถได้ไว ได้ราคาดี จะได้มีไว้เป็นเกณฑ์ในการตั้งราคาครับ

Carro-Appraisal-Secondhand-Car

1. หาราคากลางของตลาด

ก่อนคุณจะขายรถสักรุ่นใดรุ่นหนึ่ง ลองเปรียบเทียบกับราคากลางในตลาดดูก่อน ว่ารถยี่ห้อ-รุ่น ปีเดียวกับรถคุณ ราคาประมาณเท่าไหร่? เพราะรถมือสอง ช่วง 1-2 ปีแรก ราคาจะตกไวมาก ถ้าไม่ใช่รถที่เป็นแบรนด์ยอดนิยม ราคาก็จะยิ่งตกมากกว่ารถแบรนด์ตลาด หรือแบรนด์ญี่ปุ่น โดยมาแล้ว รถมือสองอายุ 4-5 ปี ราคาจะตกไปประมาณครึ่งหนึ่ง ของมูลค่าตอนออกป้ายแดง

ถ้าหากเป็นรถอายุมากกว่า 10 ปีขึ้นไป ราคาก็จะตกเริ่มค่อยๆ น้อยลงเรื่อยๆ 5-10% จนไปถึงจุดที่ค่อนข้างคงที่แล้ว ในรถที่อายุมากกว่า 20 ปีขึ้นไป

ส่วนประเภทรถ … มีผลครับ รถแบบ Eco-Car, Sub-Compact Car และ Compact Car ราคาจะตกน้อยกว่ารถเก๋งประเภท Mid-Size Car หรือ Full-Size Car ส่วนรถ MPV และ SUV (บางรุ่น) ราคาจะตกมากกว่ารถกระบะ ถ้าเป็นรถคลาสสิค รถซูเปอร์คาร์ ราคากลางนั้นอาจจะไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจระหว่างผู้ซื้อ-ผู้ขาย มากกว่า

กรณีถ้ารีบ ร้อนเงิน ช่วงนี้จำเป็นต้องใช้เงินด่วน ก็ตั้งราคาให้ต่ำกว่าราคาตลาดหน่อย เพื่อที่จะได้ดึงดูดใจผู้ซื้อ และสามารถปล่อยรถออกได้ไว

กรณีไม่รีบร้อน อาจจะขายรถด้วยเหตุที่ไม่ใช่เรื่องร้อนเงิน ก็อาจจะตั้งราคาไม่พอๆ กับราคากลางในเวลานั้นก็ได้ แต่ถ้ามั่นใจว่าสภาพรถดีจริง มีประวัติครบๆ รวมถึง Book Service เช็คศูนย์ครบทุกครั้งจากศูนย์บริการ สามารถตรวจสอบประวัติรถย้อนหลังได้ ก็ตั้งราคาไว้สูงหน่อยได้

แต่ถ้าจะขายรถแบบผ่อนไม่หมด ผ่อนไม่ไหว (ยิ่งช่วงนี้หาเงินลำบาก กรณีผ่อนรถไม่ไหวมีเยอะมาก) ก็อาจจะต้องยอมขายแบบขาดทุน เข้าเนื้อ ด้วยการขายดาวน์ และนำสัญญาผ่อนไปทำการรีไฟแนนซ์ ให้คนที่ซื้อไปเป็นคนจัดการไปผ่อนต่อแทน

หรือกรณีในที่นำรถไปตีราคาที่เต็นท์รถ หรือดีลเลอร์รถ มัก “เสนอราคา” มาให้คุณเท่านี้ๆ แล้ว (ซึ่งอาจจะต่ำกว่าราคากลาง 10-30% เพราะการทำธุรกิจก็ต้องมีค่าใช้จ่าย และกำไรเพื่อความอยู่รอด รถที่ขายได้ไว ดอกเบี้ยก็จ่ายน้อย แต่ถ้ารถคนไม่นิยม ใช้เวลานานกว่าจะขายออก ดอกเบี้ยเดินตลอด ต้องแบกต้นทุนสูง ราคารถก็จะถูกกดมากขึ้น) ถ้าคุณไม่พึงพอใจ ก็อาจจะขอเพิ่มก็ได้ หรือถ้าไม่พึงพอใจอีก ก็ต้องตระเวนนำรถไปตีราคากลางหลายๆ ที่ จนกว่าจะพอใจ

Carro-Appraisal-Secondhand-Car

2. คำนวณราคารถด้วยตัวเอง

ถ้าเกิดราคารถมือสองที่ทางเต็นท์รถ หรือดีลเลอร์รถ เสนอมาให้คุณแล้วรู้สึกไม่ถูกใจ ไม่พึงพอใจ ก็ลองคำนวณราคารถด้วยตัวเองกันก่อน ตามข้อมูลด้านล่างนี้

การคำนวณราคารถด้วยตัวเอง ราคาขึ้นอยู่กับการจัดของไฟแนนซ์ช่วงนั้นๆ เช่น …

ราคาไฟแนนซ์เสนอมา X 0.7 (รถสวยสภาพเยี่ยม คุณด้วย 0.7) ก็จะตีราคาได้สูงขึ้นมาหน่อย

ตอนนี้ ราคาไฟแนนซ์มา X 0.6 (ตอนนี้ คูณด้วย 0.6)

กรณีที่คุณต้องการขายรถคันเดิม สมมติ ราคารถตอนซื้อมาป้ายแเดง 1 ล้านบาท

หักค่าเสื่อมราคา 25% ก็จะเหลือ 750,000 บาท ภาษี VAT 7% ประมาณ 52,500 บาท รวมก็ 825,000 บาท

ถ้าคุณต้องการขายแบบได้ส่วนต่างเพิ่มประมาณ 10% หรือ 82,500 บาท ก็จะตั้งขาย 900,000 บาท บวกลบ ซึ่งขึ้นอยู่กับปีรถ ยี่ห้อรถ รุ่นรถ และสภาพรถด้วย เพราะบางทีถ้าตั้งราคานี้ ก็อาจจะขายออกได้ช้า ในช่วงสภาพเศรษฐกิจแบบนี้ หรือความนิยมในรถรุ่นที่คุณใช้ นิยมกันมากหรือน้อย

การคำนวณยังมีแบบอื่นๆ แบ่งออกได้เป็น 3 แบบ

1. แบบทางบัญชีทั่วไป คิด ลดลงเท่ากันทุกปี จนปีสุดท้ายเหลือมูลค่า 1 บาท เป็นราคาซาก

เช่น รถ ราคา 5 แสนบาท มีอายุใช้งาน 5 ปี

ค่าเสื่อม ปีที่ 1 = 100,000 // ปีที่ 2 = 100,000 // ปีที่ 3 = 100,000 // ปีที่ 4 = 100,000 // ปีที่ 5 = 99,999 เหลือค่าทางบัญชี 1 บาท

ถ้าขายได้มากกว่า 1 บาท ถือเป็นกำไร

2. คิดแบบเชิงบัญชีบริหาร จะคิดโดยอ้างอิงราคาตลาด หรือ Flat Rate ก็ได้ แต่มูลค่าสุดท้ายจะเท่ากับมูลค่าที่คาดว่าจะขายได้

เช่น รถ ราคา 5 แสนบาท มีอายุใช้งาน 5 ปี เมื่อสิ้นปีที่ 5 จะขายซากได้ในราคา 30% ของราคาที่ซื้อในปีแรก

ดังนั้น ค่าเสื่อมระหว่างปีที่ 1 ถึงปีที่ 5 = ราคาซื้อ – ราคาขายซาก = 500,000 – (500,000 * 30%) = 350,000 บาท

คิดค่าเสื่อม แบบเส้นตรง 5 ปี

ค่าเสื่อม ปีที่ 1 = 70,000 // ปีที่ 2 = 70,000 // ปีที่ 3 = 70,000 // ปีที่ 4 = 70,000 // ปีที่ 5 = 70,000 เหลือค่าซาก 150,000 บาท

แบบที่ 3 คิดตามราคาตลาด

เช่นจากข้อมูลทางสถิติ พบว่า ราคาขายต่อรถยนต์เมื่อสิ้นปีที่ 1 – 5 เมื่อเทียบกับราคารถใหม่ พบว่ามีมูลค่า 70%, 65%, 50%, 40%, 30% ของราคารถที่ซื้อในปีปัจจุบันตามลำดับ

ดังนั้น ค่าซากในปีที่ i = ราคาค่าซากเมื่อสิ้นปีก่อนหน้า – ราคาค่าซากเมื่อสิ้นปีปัจจุบัน
ราคาค่าซากเมื่อสิ้นปีที่ 1, 2, 3, 4, 5 = 350,000 // 325,000 // 250,000 // 200,000 // 150,000

ดังนั้น ค่าเสื่อม ปีที่ 1 = 150,000 // ปีที่ 2 = 25,000 // ปีที่ 3 = 75,000 // ปีที่ 4 = 50,000 // ปีที่ 5 = 50,000 เหลือค่าซาก 150,000 บาท

แต่ต้องจำไว้ว่า ค่าเสื่อมราคา ในรถแต่ละยี่ห้อ และรุ่น ก็ต่างกันไปนะครับ

อยากขายรถมือสอง มาตีราคา เช็คราคารถกันได้ที่นี่

3. เช็คราคากับ CARRO

อีกวิธีการตรวจเช็กราคาที่ง่าย สะดวกสบาย เชื่อถือได้ ต้อง “CARRO” เพราะถ้าหากคุณนึกตัดสินใจอยากขายรถคันเดิมเมื่อไหร่ สามารถกรอกชื่อ-นามสกุล เบอร์โทรติดต่อได้ รูปรถ รายละเอียดต่างๆ และเลขไมล์ของรถของคุณ และราคาที่คุณต้องการ มาเช็กราคารถได้ที่ CARRO ได้เลย ตาม Link นี้ https://th.carro.co/sell-car/express/check-car-price เราพร้อมให้บริการ

หากคุณกรอกรายละเอียดไม่ครบ เจ้าหน้าที่จากคาร์โร ก็จะติดต่อกลับมาหาคุณภายใน 24 ชม. เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หลังจากนั้นเราจะเสนอราคารถของคุณโดยคร่าวๆ ถ้าหากคุณตกลง เราก็จะนัดคุณเพื่อทำการตรวจสภาพรถทั่วประเทศ ก่อนจะตกลงราคาสุดท้ายกันอีกครั้ง

เมื่อตกลงราคากันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็เซ็นสัญญาซื้อขาย พร้อมปิดการขาย คุณสามารถรับเงินสดกลับบ้านไปได้เลย!

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม มาขายรถคันเดิมกับ CARRO Express สิ! Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

แต่ถ้าหากช่วงนี้ใครอยากเปลี่ยนรถคันใหม่ มาใช้แทนที่รถคันเดิม CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น!

รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check มากกว่า 200 จุด และยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ให้คุณเลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา พร้อมรับประกันคุณภาพรถนานถึง 2 ปี หรือ 20,000 กิโลเมตร! อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! เรามีรถให้คุณเลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

สูตรคำนวณราคารถจาก:

Carro-And-Doctor-Car-Prevent-Covid-19

การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 (COVID-19) ในขณะนี้ นอกจากจะส่งผลกระทบนอกต่อบุคคลทั่วไปแล้ว ยังส่งผลต่อผู้ที่ต้องเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชน ที่จัดว่าอยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูงกว่าบุคคลทั่วไป ที่เดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวอย่างมาก

“CARRO” หรือ “คาร์โร” สตาร์ทอัพด้านตลาดรถยนต์จากประเทศสิงคโปร์ จึงขอเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคม ส่งมอบความปรารถนาดี ช่วยเหลือคนไทย ผ่านแคมเปญ “พ่นน้ำยา ด้วยน้ำใจ สู้ภัยโควิด” อาสาดูแลรถตู้โดยสารปรับอากาศ ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ พ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ ลดความเสี่ยง COVID-19

Carro-And-Doctor-Car-Prevent-Covid-19

นางสาวฐปณีย์ จ๋วงพานิช ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท คาร์โร (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “เนื่องจากคาร์โร คือผู้ประกอบการด้านตลาดรถยนต์มือสองแพลตฟอร์มออนไลน์ เราเข้าใจดีถึงผลกระทบจาก COVID- 19 ที่ทุกคนกำลังเจอในทุกรูปแบบ รวมถึงในระบบขนส่งสาธารณะ เนื่องจากมีประชาชนเป็นจำนวนมาก ที่ยังต้องเดินทางโดยรถขนส่งสาธารณะ ซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยที่ต้องอยู่ใกล้ชิดกัน รวมถึงรถตู้สาธารณะ ใน 1 วัน มีผู้ใช้บริการจำนวนมาก

เราจึงตั้งใจทำแคมเปญ “พ่นน้ำยา ด้วยน้ำใจ สู้ภัยโควิด” เพื่ออาสา พ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ ให้แก่รถตู้โดยสารปรับอากาศ ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ เพื่อลดความเสี่ยง COVID-19 และคาร์โรขอเป็นกำลังใจ ให้เราทุกคนร่วมกันผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้อย่างดีที่สุด”

Carro-And-Doctor-Car-Prevent-Covid-19

โดยแคมเปญ “พ่นน้ำยา ด้วยน้ำใจ สู้ภัยโควิด” คาร์โร ยังได้รับการสนับสนุนจาก เฟซบุ๊กแฟนเพจ Doctor Car ที่มีผู้ติดตามมากกว่า 260,000 คน ร่วมสนับสนุนงบประมาณในการพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ COVID-19 ในครั้งนี้ด้วย

เราคนไทยทุกคน สามารถมีส่วนช่วยเหลือสังคมให้ก้าวผ่านวิกฤตในครั้งนี้ได้ แค่ร่วมมือกันเราจะก้าวผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากไปด้วยกันได้อย่างแน่นอน

ส่วนใครที่อยากขายรถ หรือมีเพื่อนฝูงกำลังหาที่ขายรถอยู่ CARRO เรารับซื้อรถของคุณ สามารถเข้าไปเช็กราคา ตีราคาขายรถก่อนได้ โดยใส่ข้อมูลรถของคุณที่นี่เลย กับ CARRO Express > https://th.carro.co/sell-car/express หรือโทร. 02-508-8425

หรือใครจะ Inbox มาสอบถามก็ได้เช่นกัน ที่ Facebook CARRO Thailand หรือสะดวก Add Line ก็ที่ @Carrothai หรือคลิกที่นี่ครับ —> เพิ่มเพื่อน

Carro-Roojai-Prevent-Air-Your-Car-From-Virus

ว่าด้วยเรื่องของการดูแล แอร์รถยนต์ ให้สะอาดสดชื่น นับเป็นอีกหนึ่งข้อสำคัญที่ผู้ใช้รถหลาย ๆ คนละเลย ทั้งที่ความจริงแล้วด้วยระบบปิดของห้องโดยสาร ส่วนของแอร์นี่แหละคือปัจจัยหลักในเรื่องความสะอาดของอากาศภายในรถที่คนในรถต้องสูดเข้าไป และคงไม่ดีแน่ถ้าในส่วนนี้สกปรก สูดฝุ่นละอองเข้าไปทุกวันๆ

Roojai.com อยากชวนให้ทุกคนมาดูแลอากาศในรถให้ดีขึ้น ยิ่งในปัจจุบันอากาศภายนอกต่างล้อมรอบด้วยมหันตภัยมากมายในอากาศ ไม่ว่าจะมาจากฝุ่น PM2.5 หรือแม้กระทั้ง ไวรัสโควิด-19 และเมื่อการอยู่ในรถอาจจะปลอดภัยกว่าด้วยซ้ำ รู้อย่างนี้แล้วก็มาทำให้อากาศในรถคุณน่าอยู่ขึ้นด้วยแอร์รถยนต์ที่สะอาดมากขึ้นกันดีกว่า

อากาศสะอาดของ แอร์รถยนต์ เริ่มต้นได้ง่าย ๆ ด้วยเรื่องของ “กรองแอร์”

ระบบแอร์รถยนต์ จะมีส่วนของกรองแอร์ฯ หรือที่เรียกว่า “Car air filter” อยู่ในส่วนของระบบแอร์ ทำหน้าที่กรองลมแอร์ที่ออกมาจากระบบให้สะอาดที่สุด ช่วยกรองเศษฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกต่าง ๆ ขนาดเล็กที่อาจหลุดเข้ามาจากระบบทำความเย็น ไม่ให้ออกไปถึงในห้องโดยสารผ่านช่องลมแอร์ และคุณต้องสูดมันเข้าไป

Prevent-Air-Your-Car-From-Virus

อย่างไรก็ตามเมื่อรถผ่านการใช้งาน กรองแอร์ทำหน้าที่กรองเศษฝุ่นทุกวัน แน่นอนว่าย่อมมีเศษสิ่งสกปรกตกค้างอยู่ในส่วนของกรองแอร์สะสมเป็นจำนวนมาก และเมื่อมากขึ้น ความสามารถในการดักจับฝุ่นของตัวกรองก็จะลดลงตามไป จนสุดท้ายเศษฝุ่นสกปรกเหล่านั้นก็จะหลุดเข้าไปในห้องโดยสารในท้ายที่สุด อีกทั้งยังเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้ลมแอร์ไม่แรง แอร์รถยนต์ไม่เย็น ได้ด้วยจากสาเหตุที่เศษสิ่งสกปรกไปบังลมแอร์ให้ผ่านออกมาได้ยากกว่าปกตินั่นเอง

อาจจะมีคำถามว่า กรองแอร์ ควรเปลี่ยนตอนไหนดี ต้องบอกเลยว่า ส่วนของกรองแอร์ไม่สามารถทำความสะอาดได้ แต่ข่าวดีก็คือ มันสามารถถอดเปลี่ยนใหม่ได้เลย ราคาไม่กี่บาท ในรถทั่วไปจะเปลี่ยนกรองแอร์ทุก ๆ 20,000 กิโลเมตร แต่ตัวเลขนี้ไม่ได้การันตีตายตัว เพราะคุณสามารถเปลี่ยนมันก่อนได้โดยเฉพาะรถบางคันที่ต้องใช้เส้นทางที่มีฝุ่นควันหรือถนนลูกรังบ่อย ๆ ซึ่งเป็นเหตุทำให้ตัวกรองแอร์สกปรกหรือตันเร็วกว่า

Prevent-Air-Your-Car-From-Virus

วิธีที่จะช่วยให้อากาศในรถสะอาดและสดชื่นมากขึ้น

หลังจากที่ทำให้จุดเริ่มต้นของอากาศภายในห้องโดยสารสะอาดแล้ว ยังมีอีกหลาย ๆ วิธีที่จะช่วยให้ในรถคุณสดชื่นและสะอาดขึ้นได้อีก ดังนี้

ติดตั้ง เครื่องฟอกอากาศ ในรถ

บางทีฝุ่นหรือสิ่งสกปรกทางอากาศไม่ได้มาจากทางช่องแอร์เพียงอย่างเดียว การเปิดกระจกหรือเปิดประตูบางจังหวะก็ทำให้สิ่งสกปรกและฝุ่นควันเข้าไปได้แล้ว การมีเครื่องฟอกอากาศในรถติดไว้ก็จะช่วยทำให้อากาศในรถสะอาดได้ อีกทั้งเครื่องฟอกอากาศบางรุ่นก็ยังสามารถฆ่าเชื้อไวรัสที่เป็นอันตรายต่อคนได้ด้วย หาซื้อมาติดไว้ในรถของคุณ ยังไงก็มีแต่ข้อดี

Prevent-Air-Your-Car-From-Virus

ทำความสะอาดภายในห้องโดยสารอยู่เสมอ

ง่าย ๆ ไม่ยุ่งยาก เพียงนำผ้าชุบน้ำบิดหมาด ๆ หมั่นคอยลูบฝุ่นที่ติดอยู่ตามส่วนต่าง ๆ ของรถอยู่เสมอ ทั้งเบาะนั่ง คอนโซลหน้า แผงประตู และดูดฝุ่นพรมพื้นรถร่วมด้วย เพียงแค่นี้ก็จะช่วยให้อากาศในรถที่คุณสูดหายใจเข้าไปสะอาดขึ้นอย่างรู้สึกได้แน่นอน

เปิดประตูจอดรถตากแดดไล่กลิ่นอับ

กลิ่นอับสะสมตลอดการใช้รถมาอย่างยาวนาน สะอาดขึ้นได้ง่าย ๆ แค่จอดรถเปิดประตูทิ้งไว้กลางแดด วิธีพื้นฐานง่าย ๆ ว่าด้วยความร้อนช่วยฆ่าเชื้อรา และถ้ารถของคุณไม่เคยทำมันเลยก็ควรลองทำสักหน่อย เพื่อบรรยากาศที่ดีกว่าในรถของคุณเอง

Prevent-Air-Your-Car-From-Virus

ล้างแอร์รถยนต์

ในส่วนของตู้แอร์รถยนต์ แม้จะไม่ใช่ปัจจัยหลักในเรื่องของความสะอาดของสภาพอากาศภายในห้องโดยสาร แต่ก็มีผลทำให้ฝุ่นละอองเล็ดลอดเข้ามาในห้องโดยสารได้ ดังนั้น การล้างแอร์รถยนต์ ตามระยะที่ใช้รถก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่คุณมองข้ามไม่ได้

อย่าเปิดกระจก หรือเปิดประตูไว้นาน ๆ

การเปิดกระจกหรือเปิดประตูเพียงไม่นานก็ทำให้ฝุ่นควันต่าง ๆ เข้ามาในรถของคุณได้อย่างรวดเร็ว เลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยงที่จะเปิดทั้งกระจกหรือประตูรถทิ้งไว้ ยิ่งถ้าไปจอดเปิดประตูหรือเปิดกระจกขับรถย่านที่มีฝุ่นมาก ๆ จะสังเกตเห็นได้เลยว่าในรถของคุณจะมีฝุ่นเกาะเต็มในทันที นี่แค่ที่ตาเห็นนะ ไม่นับรวมที่ยังมองไม่เห็นอีก

เพียงเท่านี้ แอร์รถยนต์ ของคุณก็จะช่วยมอบอากาศที่บริสุทธิ์ให้กับรถคุณได้แล้ว ดูแลกรองแอร์ของรถให้ดีพร้อมกับนำเทคนิคที่จะช่วยให้อากาศในรถของคุณสะอาดขึ้นไปใช้ แค่นี้สภาพอากาศในรถคุณก็ดีขึ้นได้แล้ว มาดูแลพื้นที่ส่วนตัวอย่างบนรถของคุณให้ปลอดภัยที่สุดกันดีกว่า

ยิ่งในตอนนี้อากาศที่ไหนก็ไว้ใจไม่ได้ด้วย ยิ่งต้องระวังเป็นพิเศษ เหมือนกับอุบัติเหตุที่ไม่รู้จะเกิดขึ้นกับรถคุณเมื่อไร เลือกทำประกันก็ต้องดูที่น่าเชื่อถือ มั่นใจได้ในคุณภาพบริการ เลือกใช้ประกันรถออนไลน์จาก Roojai.com รู้ใจกว่า ประหยัดกว่า เช็คราคาออนไลน์ได้ตลอด 24 ชม. และหากใครสนใจประกันโควิดออนไลน์ ราคาดี คุ้มครองสูง คลิกดูข้อมูลได้เลย https://www.roojai.com/covid/

Tesla-Quarterly-Vehicle-Production-Deliveries

แม้ว่าไวรัสโควิด-19 (COVID-19) จะสร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับเหล่าอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลก ที่ต้องหยุดการผลิตรถชั่วคราวไปกันเป็นแถวๆ แม้แต่ตัวบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าชื่อดังอย่าง Tesla (เทสลา) ก็โดนไปด้วยเช่นกัน แม้ว่า Tesla จะเคยเผชิญกับการขาดทุนรัวๆ ของบริษัท ไปเมื่อปีก่อนๆ มูลค่านับหลายร้อยล้านดอลล่าร์แล้ว เรื่องนี้ก็ถือว่ารับได้สบายๆ

Tesla-Factory

แต่เมื่อวันที่ 2 เมษายน ที่ผ่านมา Tesla ได้ประกาศว่าในไตรมาสแรกของปี 2020 ที่สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2020 ทาง Tesla สามารถผลิตรถยนต์ได้มากถึง! 102,672 คัน นับว่าเป็นไตรมาสแรกที่ดีที่สุดของบริษัท นับตั้งแต่การก่อตั้งแบรนด์มาเลยทีเดียว

โดยทาง Tesla ส่งมอบรถยนต์ให้กับลูกค้า พร้อมกับโอนรถและเอกสารทั้งหมดได้ 88,400 คัน ซึ่งตามจริงแล้วยอดการส่งมอบสุดท้ายอาจจะสูงกว่านั้น แต่เผอิญทาง Tesla ก็ต้องเผชิญเจ้าโควิด-19 เฉกเช่นเดียวกับค่ายรถอื่นๆ ด้วยเช่นกัน โดยโรงงานของ Tesla ที่ฟรีมอนต์ แคลิฟอร์เนีย และเซี่ยงไฮ้ ต้องชะลอการผลิต และใช้โรงงาน Gigafactory ในนิวยอร์ก เป็นที่ผลิตเครื่องช่วยหายใจไปก่อน

Tesla-Factory

ทาง Tesla ให้ข้อมูลว่ารถยนต์ Tesla Model S/X ผลิตได้ 15,390 คัน ส่งมอบให้ลูกค้าแล้ว 12,200 คัน และในส่วนของรถยนต์ Tesla Model 3/Y ที่เพิ่งเริ่มผลิตในเดือนมกราคม และส่งมอบในเดือนมีนาคม ผลิตได้ 87,282 คัน ส่งมอบแล้ว 76,200 คัน

เมื่อเทียบกับตัวเลขการส่งมอบรถยนต์ของ Tesla เมื่อปี 2019 นั้นอยู่ที่ 367,500 คัน เติบโตขึ้น 50% (จากปี 2018) และหากดูจากยอดการผลิตในปี 2020 นี้ ก็คาดเดาได้ว่าอาจจะสูงขึ้นกว่าเดิมอย่างแน่นอน ถ้าไม่เจอเจ้าโควิด-19 มาอยู่ยาว คอยขัดขาเอาซะก่อน!

แหล่งที่มาจาก:

Carro-Wholesale-Application

ในยุคที่การประมูลรถ การซื้อขายรถมือสอง ซื้อขายรถบ้าน เป็นเรื่องที่ง่ายๆ เพียงแค่ปลายนิ้วสำหรับโลกออนไลน์ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ซื้อรถขายรถบ้าน และประมูลรถไม่ยุ่งยากอีกต่อไป หรือจะซื้อรถในภูมิภาคก็ได้ และยังได้ราคาดีอีกด้วย ยิ่งในยุคที่ COVID-19 กำลังระบาด การออกไปข้างนอกย่อมไม่สะดวกอยู่แล้ว สู้อยู่บ้านประมูลรถออนไลน์ดีกว่า ไม่ต้องไปถึงงานประมูลรถ ปลอดภัยกว่ากันเยอะ

สำหรับทาง CARRO สตาร์ทอัพรถมือสองชื่อดังจากสิงคโปร์ เริ่มรุกตลาด B2B (หรือ Business-to-Business) อย่างจริงจัง มีความยินดีที่จะแนะนำให้รู้จักกับ Application “CARRO Wholesale” ซึ่งจะช่วยให้การซื้อขายรถ และประมูลรถของคุณง่ายขึ้น และยังมีจำนวนผู้ซื้อ-ขาย มากกว่า 5,000 รายในไทยอีกด้วย

แต่หลายคนยังมีคำถาม ว่าขั้นตอนการใช้งานยุ่งยากหรือไม่? การประมูลเป็นแบบไหน ดาวน์โหลด App อย่างไร ถ้าใครอ่านแล้วยังไม่เข้าใจ MR.CARRO จะอธิบายให้ฟัง …

Carro-Agent-Rewards

CARRO Wholesale คืออะไร?

CARRO Wholesale เป็น Application ขายรถมือสอง ประมูลรถมือสอง มาพร้อมจุดเด่น ที่ช่วยให้การซื้อ-ขาย รถ ครั้งละมากๆ ของคุณ (เช่น บริษัทของคุณ มีรถยนต์ใช้งานในรูปแบบ Fleet คือ มีหลายคัน หรือจำนวนหลายสิบคัน และต้องการขายรถชุดเดิมทั้งหมด เพื่อเปลี่ยนรถใหม่ยกล็อต)

คุณสามารถลงขายรถผ่าน Application CARRO Wholesale ได้เลย เรียกได้ว่าเป็นแอปพลิเคชัน ซื้อ-ขาย รถยนต์มือสองแห่งแรกในของไทย ที่ครบวงจรที่สุดในตอนนี้เลยก็ว่าได้ โดยเราจะเรียกผู้ขายว่า “Agent” และผู้ซื้อคือ “Dealer” สามารถซื้อ-ขายรถ หรือประมูลรถข้ามจังหวัด หรือข้ามภาคได้อีกด้วย

สำหรับใครที่สนใจ อยากจะมาสมัครเป็นเอเจ้นท์กับเรา ทาง CARRO ก็มีวิธีการสมัครง่ายๆ พร้อมใช้งานได้เลย ตามรายละเอียดดังด้านล่าง …

How-To-Use-Carro-Wholesale-Agent

1. เมื่อเปิดตัว Application ขึ้นมาแล้ว ให้เข้าสู่ระบบ ด้วยหมายเลขโทรศัพท์ของคุณ จากนั้นระบบจะส่งหมายเลข OTP ไปให้ทาง SMS (กรณีไม่ได้รับรหัส สามารถกด “ฉันยังไม่ได้รับรหัส”)

How-To-Use-Carro-Wholesale-Agent

2. เมื่อเข้าสู่หน้าหลักได้แล้ว ให้กด “สมัครเป็นเซลส์ / นายหน้าขายรถ” พร้อมกรอกข้อมูลเพื่อยืนยันตัวตน (*กรณีที่พนักงาน CARRO แนะนำ สามารถขอหมายเลขผู้แนะนำได้จากพนักงานได้โดยตรง)

How-To-Use-Carro-Wholesale-Agent

3. อย่าลืมข้อมูลสำคัญ เช่น รถมีประกันภัย มี พรบ. หรือไม่ หรือติดไฟแนนซ์หรือไม่ ถ้าติดไฟแนนซือยู่ ควรระบุว่าเหลืออีกกี่งวด จำนวนเงินเท่าไหร่ สามารถระบุได้ที่ “คำอธิบายเพิ่มเติม” (โปรดอย่าใส่ข้อมูลการติดต่อส่วนตัวของผู้ขาย เพื่อป้องกันการติดต่อซ้ำซ้อน และความไม่โปร่งใสในการซื้อ-ขาย)

How-To-Use-Carro-Wholesale-Agent

4. อย่าลืมใส่ราคาที่ต้องการในช่องตั้งราคา เพื่อให้รถที่ลงขายน่าสนใจมากขึ้น เมื่อลงข้อมูลครบถ้วนแล้ว สามารถกด สร้างรายการประมูล ได้

How-To-Use-Carro-Wholesale-Agent

5. Upload ภาพรถในมุมต่างๆ รวมถึงหน้าปัดเลขไมล์ และเอกสารเล่มทะเบียนรถ จากนั้น กด บันทึก & ออก เป็นการจบการลงขาย

How-To-Use-Carro-Wholesale-Agent

5. สำหรับรอบการประมูลรถ เรามีทุกวัน วันละ 4 รอบ เวลาดำเนินการตามนี้

  1. 10.00 – 11.00 น.
  2. 13.00 – 14.00 น.
  3. 15.00 – 16.00 น.
  4. 17.00 – 18.00 น.

How-To-Use-Carro-Wholesale-Agent

6. ถ้าหากรถคุณมีผู้เสนอราคาให้สูงสุด ระบบก็จะทำการนัดให้เจอรถกัน สามารถปิดการซื้อ-ขาย ได้ภายใน 24 ชั่วโมง

และสำหรับใครที่สนใจอยากสมัยเป็นดีลเลอร์กับเรา อยากซื้อรถ ประมูลรถกับเรา อ่านรายละเอียดด้านล่างนี้ได้เลย …

วิธีการสมัครเป็นผู้ซื้อรถ หรือประมูลรถกับทาง CARRO Wholesale

Carro-Dealer-Apply

ประมูลรถยนต์ คืออะไร? ประมูลรถยนต์นั้นหมายถึง การขายรถยนต์ที่ยึดได้มาจากสถาบันการเงิน ลีสซิ่ง ไฟแนนซ์ ที่ปล่อยสินเชื่อรถยนต์ หรือรถเช่า รถจากบริษัทเอกชนที่นำมาฝากขาย โดยการตั้งราคาขั้นต่ำไว้ แล้วให้ผู้ที่สนใจเข้าสู้ราคากัน ซึ่งใครเสนอให้ได้สูงสุด ก็จะได้รถคันนั้นไป

การประมูลรถยนต์นั้น ในปัจจุบันก็มีผู้รับจัดประมูลรถ (Pramoonrod) อยู่หลายเจ้า เช่น สหการประมูล, ประมูลแอพเพิล, แอปเปิ้ลการประมูลบางนา, ธนชาตประมูลรถ, ประมูลรถ SIA (Siam Inter Auction), ศูนย์ประมูลรถยนต์ธนาคารเกียรตินาคิน หรือ ฐิติกร ประมูลรถคลอง 4 เป็นต้น

ซึ่งรถทั้งหมด ไม่มีการรับประกันสภาพรถ (ก็คือรถตามสภาพนั่นล่ะครับ) เช่น ตัวถัง, เครื่องยนต์, ระบบเกียร์, ระบบไฟฟ้า, ระบบไฮบลิด, ระบบเชื้อเพลิง, อุปกรณ์ส่วนควบ หรืออุปกรณ์ตกแต่ง ฯลฯ

การประมูลรถ ตามปกติก็ต้องมีการวางเงินประกันหมายเลข (ค่ามัดจำป้าย) ผู้ประมูลไว้ก่อน 20,000 บาท (หากไม่ได้ประมูล ประมูลไม่ได้ ก็สามารถรับเงินมัดจำคืนได้ทันที โดยไม่มีการหักค่าใช้จ่ายใดๆ) แล้วผู้ประมูลก็ต้องไปตรวจดูสภาพรถคันที่ตัวเองต้องการ ก่อนจะยกป้าย สู้กับคู่แข่งที่เสนอราคา

ในการประมูลรถตามที่ต่างๆ เช่น ที่สหการประมูล, ประมูลแอพเพิล, แอปเปิ้ลการประมูลบางนา, ธนชาตประมูลรถ, ประมูลรถ SIA (Siam Inter Auction), ศูนย์ประมูลรถยนต์ธนาคารเกียรตินาคิน หรือ ฐิติกร ประมูลรถคลอง 4 โดยมากแล้วก็จะใช้โฆษกในการประมูล ถ้าเป็นรถยนต์ 4 ล้อ ปกติจะปรับราคาขึ้นครั้งละ 2,000 บาท หรือตามที่โฆษกประกาศ กรณีที่ราคารถเริ่มต้นต่ำกว่า 1 ล้านบาท

และจะปรับราคาขึ้นครั้งละ 10,000 บาท กรณีที่ราคารถเริ่มต้นตั้งแต่ 1,000,000 บาทขึ้นไป ซึ่งถ้าใครสามารถเสนอราคาได้สูงสุด ก็จ่ายเงินค่าตัวรถ (อันนี้จะแบ่งชำระเงิน หรือจ่ายทั้งหมดเลยก็ได้) จ่ายภาษี 7% จ่ายค่าดำเนินการ และค่าใช้จ่ายอื่นๆ แล้วรับรถคันนั้นไป พร้อมกับมารับเล่มทะเบียนเอกสารของรถคันนั้น ภายใน 30 วัน

แต่ในสถานการณ์โควิด-19 ระบาด แบบนี้ การประมูลรถยนต์ออนไลน์ผ่าน App CARRO Wholesale น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เพราะสะดวก ง่าย ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก อีกทั้งไม่ต้องเสี่ยงกับการออกไปนอกสถานที่ เจอคนหมู่มากด้วย

เริ่มแรก ให้ดาวน์โหลด Application “CARRO Wholesale” จากใน iOS หรือใน Google Play ก่อน

หากท่านใดยังไม่มี App นี้ สามารถดาวน์โหลด Application “CARRO Wholesale” จากใน iOS และ Android สามารถคลิก Download ที่ Link นี้ได้เลย Link นี้เลย —> icon_ios icon_android

How-To-Use-Carro-Wholesale-Application

1. เมื่อเปิด Application ขึ้นมาแล้ว ให้เข้าสู่ระบบ ด้วยหมายเลขโทรศัพท์ของคุณ จากนั้นระบบจะส่งหมายเลข OTP ไปให้ทาง SMS (กรณีไม่ได้รับรหัส สามารถกด “ฉันยังไม่ได้รับรหัส”)

How-To-Use-Carro-Wholesale-Application

2. เข้าสู่หน้าหลักได้แล้ว ให้กด “สมัครเป็นดีลเลอร์” พร้อมกรอกข้อมูลเพื่อยืนยันตัวตน

How-To-Use-Carro-Wholesale-Application

3 .เมื่อทำตามขั้นตอนด้านบนเรียบร้อยแล้ว คุณจะได้สถานะเป็นดีลเลอร์ ซึ่งมีสิทธิ์ในการเสนอราคารถได้ โดยสามารถเข้าไปเลือกรถคันที่คุณสนใจได้

How-To-Use-Carro-Wholesale-Application

4. โดยคุณอาจจะตรวจสอบความต้องการต่างๆ เช่น ยี่ห้อ รุ่น สี ปีรถ เลขไมล์ ออพชั่นต่างๆ เบื้องต้นดูก่อนได้ และถ้าคุณเกิดอยากได้รถคันนี้ ก็สามารถกดปุ่ม “เสนอราคา” ได้เลย

How-To-Use-Carro-Wholesale-Application

5. สำหรับค่าดำเนินการตามราคาของรถต่อคัน สามารถดูได้ในตารางด้านล่างนี้ครับ

กรณีคุณสามารถประมูลรถได้ในราคาสูงสุด คุณจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าธรรมเนียมต่างๆ ค่าภาษีต่างๆ, ค่าจดทะเบียนรถใหม่ (กรณีรถคันนั้นแจ้งจอด หรือทะเบียนถูกระงับไว้) และเงินเพิ่มภาษีนิติบุคคล และค่าใช้จ่ายในการจดทะเบียนรถ หรือโอนรถให้ผู้อื่น

How-To-Use-Carro-Wholesale-Application

กด “ยืนยัน” เมื่อต้องการเสนอราคา และเมื่อหมดเวลา ระบบจะประกาศ ผู้เสนอราคาได้-ผู้เสนอราคาไม่ได้ กับคุณในรถคันที่คุณได้ประมูลไป

วิธีการใช้งาน CARRO Wholesale

How-To-Use-Carro-Wholesale-Application

1. ในหน้าหลัก จะมีการแนะนำรายละเอียดต่างๆ ว่ามีรถคันไหนเข้ามาใหม่บ้าง ซึ่งคุณสามารถกดเข้าไปดูรายละเอียดรถรุ่นต่างๆ ที่มีในคลังรถเวลานั้นได้

How-To-Use-Carro-Wholesale-Application

2. ระบบการเสนอราคา ถ้าเป็นระบบเปิด รถจะโชว์ราคาที่มีผู้เสนอสูงสุด แต่ถ้าเป็นระบบปิด จะได้แสดงราคาที่เสนอ

สำหรับระบบแจ้งเตือนนั้น จะขึ้นในกรณีของการยืนยันตัวตน, แสดงผลการประมูลแพ้-ชนะ หรือจะเป็นการติดตามการเสนอราคาแบบ Real-Time และประวัติรถที่คุณเคยเสนอราคาไปแล้ว เป็นต้น

โดย Application CARRO Wholesale นี้ สามารถตรวจสอบการทำงานได้ทุกขั้นตอน อาทิ ราคาสูงสุด-ต่ำสุด จำนวนการบิด หรือการประมูล และจำนวนดีลเลอร์ที่เข้ามาดูรถ หรือประมูลรถ เป็นต้น

หากมีข้อสงสัยประการใด สามารถ Inbox มาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand หรือโทร. 02-508-8425 ในเวลาทำการ (จันทร์-ศุกร์ 9.30 – 18.30 น.) หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

Lamborghini-Produce-Surgical-Mask-And-Face-Shield-Covid19

เป็นที่ทราบกันว่า วิกฤตโควิด-19 กำลังรุมเร้าผ้คนในยุโรปอย่างหนัก หนึ่งในนั้นคือประเทศอิตาลี ที่เกิดปัญหากับระบบสาธารณสุขอย่างหนักจนมีผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตนับพันคน แม้แต่ธุรกิจต่างๆ ก็ได้ผลกระทบอย่างย่อยยับ

Lamborghini-Produce-Surgical-Mask-And-Face-Shield-Covid19

ไม่เว้นแม้แต่บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ Supercar อย่าง Lamborghini (ลัมโบร์กีนี) ที่มีโรงงานอยู่ใน Sant’Agata เมืองโบโลญญ่า (Bologna) ประเทศอิตาลี ก็ยังได้รับผลกระทบเข้าไปเต็มๆ จน Stefano Domenicali CEO ของ Lamborghini ต้องยุติสายการผลิตรถชั่วคราว แล้วหันมาผลิตหน้ากากอนามัยแทน นอกจากนี้ยังผลิต Face Shield เพื่อมอบให้โรงพยาบาล Sant’Orsola-Malpighi ในโบโลญญ่า ไว้ให้แพทย์และพยาบาลสู้กับวิกฤติไวรัสโควิด-19 อีกด้วย

Lamborghini-Produce-Surgical-Mask-And-Face-Shield-Covid19

Lamborghini-Produce-Surgical-Mask-And-Face-Shield-Covid19

โดยให้พนักงานที่เคยทำงานตัดเย็บเบาะนั่งในห้องโดยสารรถซูเปอร์คาร์ Lamborghini ใช้ทักษะและความเชี่ยวชาญในการผลิตหน้ากากอนามัยได้ประมาณ 1,000 ชิ้นต่อวัน และ Face Shield ที่ผลิตจาก Plexiglass อีก 200 ชิ้นต่อวัน เพื่อที่ทางหน่วยงานสาธารณสุขของอิตาลี จะได้มีอุปกรณ์ไว้ป้องกันตัวกันมากขึ้น

Lamborghini-Produce-Surgical-Mask-And-Face-Shield-Covid19

ส่วนถ้าใครอยากขายรถ เพื่อนำเงินไปใช้จ่ายในยุค COVID-19 ระบาด สามารถขายคันเก่ากับ CARRO Express ได้ เรายินดีรับซื้อรถของคุณ ได้เงินไว เร็ว พร้อมปิดการขายได้ทันที แค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรืออยากตีราคารถก่อน สามารถ Inbox สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

แหล่งที่มาจาก:

5-Popular-Ambulance-Cars-In-Thailand

ในยุคที่โควิด-19 (COVID-19) กำลังระบาดหนักทั่วโลกในขณะนี้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณสุขแลระบบเศรษฐกิจในตอนนี้ โดยอุปกรณ์ทางการแพทย์ต่างๆ นับว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับแพทย์และพยาบาล เพื่อช่วยเหลือชีวิตผู้ป่วยให้ได้ดีที่สุด อุปกรณ์ทางการแพทย์ จึงต้องควรมีไว้ให้พร้อมทุกสถานการณ์

แต่นอกจากนั้น หากมีผู้ป่วยอยู่นอกสถานที่ล่ะ จะได้อย่างไร คำตอบคือ ต้องมี “รถพยาบาล” ที่มีอุปกรณ์ทางการแพทย์พร้อม และเครื่องมือเวชภัณฑ์ต่างๆ ที่พร้อมใช้งานุกสถานการณ์ ดังนั้น หากเรามีรถพยาบาลที่มีคุณภาพดี พร้อมปฏิบัติทุกภารกิจของระบบการแพทย์ฉุกเฉินเป็นไปอย่างเต็มประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด

มาดูกันว่า ในบ้านเรา ทั้งหน่วยงานสาธารณสุขและโรงพยาบาล นิยมใช้รถพยาบาลรุ่นไหนกันนั้น MR.CARRO จะขอยกตัวอย่างรถพยาบาลที่น่าสนใจ มาเล่าให้ฟัง 5 รุ่นด้วยกัน …

Volkswagen-Type-2-Ambulance-Car

1. Volkswagen Type 2

Volkswagen Type 2 (โฟล์คสวาเกน ที1 หรือ โฟล์ค ตู้) รุ่นแรก T1 หรือ “โฟล์คตู้หน้าวี” ใช้กระจกรถรอบคันแบบ Split Windows อยู่ในสายการผลิตตั้งแต่ปี 1950-1967 ได้ถูกนำเข้ามาในไทยด้วยกันหลายรูปแบบ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็รวมไปถึงรถพยาบาลด้วย

Volkswagen-Type-2-Ambulance-Car

ซึ่งจุดเด่นของรถพยาบาลรุ่นนี้คือ เป็นรถที่ผลิตขึ้นมาเป็นพิเศษ ด้านบนหลังคาจะมีไฟสัญลักษณ์พยาบาล พร้อมไซเรน และสัญลักษณ์ตราพยาบาลข้างตัวรถ มีกระจกกั้นระหว่างห้องโดยสารกับคนขับ มีเก้าอี้สำหรับพยาบาล และเตียงพยาบาลพร้อม

ความสำเร็จของรถพยาบาล Volkswagen Type 2 รุ่นแรก T1 นี้ ทำให้หลังจากนั้น ในบ้านเราจึงมีการนำเข้า และดัดแปลงรถพยาบาลของ Volkswagen มาใช้กันอีกตั้งแต่รหัสรุ่น T2, T3, T4 และรุ่นปัจจุบันอย่าง T5

Volvo-960-Ambulance-Car

2. Volvo 960

ด้านค่าย Volvo ในอดีตมาพร้อมสโลแกน “ทุกชีวิตปลอดภัยในวอลโว่” ก็เริ่มรุกตลาดรถพยาบาลในบ้านเราด้วย Volvo 245 GL Station Wagon เครื่องยนต์ขนาด 1.9 ลิตร โดยโรงพยาบาลที่สั่งรถรุ่นนี้มาใช้ มักจะเป็นโรงพยาบาลของ “คริสเตียน” ต่างๆ ทำให้รถรุ่นนี้จึงไม่ค่อยมีให้เห็นนัก

ต่อมาก็จะเป็นรถยอดนิยมของโรงพยาบาลหน่อย อย่าง Volvo 960 (วอลโว่ 960) ที่ดัดแปลงจากรุ่น Station Wagon ขยายฐานล้อยาวเป็นพิเศษ ทำเป็นรถพยาบาลโดย Nilsson ประเทศสวีเดน จัดซื้อโดยกระทรวงสาธารณสุข จากโครงการเงินกู้ ระหว่างกระทรวงการคลัง กับธนาคาร Skandinaviska Enskilda Banken ของสวีเดน เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของสถานบริการสาธารณสุขทั่วประเทศ เมื่อปี 2538-2539 ทั้งหมด 98 คัน

ภายในมีอุปกรณ์การแพทย์ครบครัน มีชุดทำคลอด 1 ชุด เพื่อใช้ทำคลอดฉุกเฉิน มีห้องพยาบาลกว้างขวางยืนได้ บุคลากรปฏิบัติงานได้สะดวกมาก มีระบบกันกระเทือนและความปลอดภัยสูงมาก จำนวน 98 คัน ที่ใช้งานไปได้ไม่นาน สุดท้ายก็ปลดระวางหมด

Honda-Stepwgn-Spada-Ambulance-Car

3. Honda Stepwgn Spada

หลายคนคงงงว่า Honda (ฮอนด้า) มีรถพยาบาลด้วยหรือเนี่ย! คำตอบก็คือ “มีครับ” โดยเป็นการนำ Honda Stepwgn Spada (ฮอนด้า สเตปแวกอน สปาด้า) ที่ดัดแปลงเป็นรถพยาบาล จำนวน 10 คัน โดย กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย ภายใต้มูลนิธิฮอนด้าประเทศไทย โดย บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด พร้อมมอบให้กับสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2555

สำหรับ Honda Stepwgn Spada มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร i-VTEC 150 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ CVT

Toyota-Hilux-Revo-Ambulance-Car

4. Toyota Hilux Vigo / Hilux Revo

Toyota Hilux Vigo และ Toyota Hilux Revo (โตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้ และ โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่) นับว่าเป็นรถพยาบาลที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายมาก โดยเฉพาะรถกู้ภัย อาสากู้ภัย ต่างนิยมใช้งานกันเป็นอย่างยิ่ง

Toyota-Hilux-Revo-Ambulance-Car

ทั้งในด้านความทนทาน แข็งแรง ราคาไม่แพง สามารถซื้อเครื่องมือปฐมพยาบาลติดรถได้

Toyota-Commuter-Ambulance-Car

5. Toyota Commuter

Toyota Commuter (โตโยต้า คอมมิวเตอร์) เป็นรถพยาบาลที่ได้รับความนิยมตลอดกาล จากโรงพยาบาลชั้นนำหลายๆ แห่ง รวมไปถึงโรงพยาบาลของรัฐ ต่างนิยมใช้งานกันเป็นอย่างยิ่ง ทั้งในด้านความทนทาน แข็งแรง อะไหล่หาง่าย ซ่อมง่าย และสามารถติดตั้งเครื่องมือพร้อมเวชภัณฑ์ต่างๆ ที่จำเป็นในเหตุฉุกเฉินได้มาก ซึ่งก็มีบริษัทและอู่หลายแห่ง ที่รับดัดแปลงรถตู้รุ่นนี้เป็นรถพยาบาลโดยเฉพาะ

สำหรับช่วงนี้ หากใครที่เกิดอาการฉุกเฉินวิกฤต บาดเจ็บ ป่วยฉุกเฉิน หรือ ผู้ป่วยโควิด-19 รอเตียงอยู่ที่บ้าน สายด่วนไม่มีคนรับสาย รถพยาบาลมารับช้า สามารถโทรไปขอความช่วยเหลือได้ที่ สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) เบอร์โทรสายด่วน 1669 ศูนย์เอราวัณ นะครับผม ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น พร้อมช่วยหาเตียงสำหรับผู้ป่วยโควิด-19 ฉุกเฉิน เฉพาะเคสเร่งด่วน เพื่อให้บริการได้ทันเวลา

ส่วนเคสโควิด-19 ที่ยังไม่แสดงอาการ หรืออาการไม่รุนแรง ขอความร่วมมือแจ้งเรื่องได้ที่สายด่วน 1330 และ 1668 ซึ่งจะให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19 ทุกกรณีเช่นกัน

ส่วนถ้าใครอยากขายรถ เพื่อนำเงินไปใช้จ่ายในยุค COVID-19 ระบาด สามารถขายคันเก่ากับ CARRO Express ได้ เรายินดีรับซื้อรถของคุณ ได้เงินไว เร็ว พร้อมปิดการขายได้ทันที แค่คลิก -> https://th.carro.co/sell-car/express หรือจะ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

และอีกหนึ่งบริการใหม่! CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check รับประกันพร้อมโอนทุกคัน ฟรี! ค่าจัดโอน มีให้เลือกชมเพียบ ซื้อรถ คลิก -> https://th.carro.co/taladrod/allcar/carro 

หรือสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่หาไม่ได้ สามารถสั่งตามออเดอร์ได้ที่นี้ > https://th.carro.co/buy-car หรือโทร. 02-508-8690 อีกทั้งยัง Inbox เข้ามาสอบถามก็ได้เช่นกันได้ที่ Facebook -> CARRO Automall – รถบ้านมือสอง หรือทาง Line เชิญเลยครับที่ @carroautomall

แหล่งที่มาจาก:

Carro-Rabbit-Finance-How-To-Choose-City-Car

สำหรับพนักงานเงินเดือน หรือผู้ที่ต้องใช้ชีวิตในเมืองใหญ่ๆ บางครั้งการเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะอาจจะไม่ตอบโจทย์เสมอไป การมีรถยนต์ไว้ใช้ส่วนตัวในบางครั้งอาจจะตอบโจทย์มากกว่า แล้วจะเลือกรถยนต์ขับในเมืองยังไงดีล่ะ? วันนี้เรามีคำตอบ

ขับรถยนต์ในเมือง

1. เลือกเครื่องยนต์ไม่ใหญ่ หรือเน้นแบบไฮบริด

โดยปรกติแล้ว การขับรถในเมืองจะไม่มีโอกาสขับด้วยความเร็วมากนัก ดังนั้นการเลือกรถยนต์ที่มีเครื่องยนต์ขนาด 1.5-2.0 ลิตร ก็ถือว่ากำลังพอเหมาะแล้ว อีกทั้งยังช่วยในเรื่องของการประหยัดน้ำมันได้อีกด้วย หรือถ้างบถึง อาจจะเลือกเครื่องยนต์แบบไฮริด ที่ให้ระบบการตอบสนองที่ดีกว่า ช่วยเรื่องในการออกตัวเพราะใช้มอเตอร์ไฟฟ้าช่วยขับเคลื่อนในความเร็วต่ำ และยังขับเคลื่อนได้แม้ดับเครื่องยนต์

ขนาดรถก็สำคัญ

สำหรับขนาดรถที่พอเหมาะที่จะขับในเมือง เราจะแนะนำขนาดที่ไม่เกิน 4.6 เมตร เพราะการใช้งานรถที่มีขนาดตัวรถใหญ่เกินไป คุณอาจพบปัญหาเรื่องการเข้าออกลานจอดรถลำบาก จะกลับรถทำอะไรก็ไม่สะดวก ดังนั้นการเลือกขนาดรถที่กะทัดรัดจะช่วยแก้ปัญหาเรื่องนี้ และช่วยให้เกิดความคล่องตัวในการขับขี่มากกว่านะ

2. เช็กฟังก์ชั่นรถก่อนซื้อเสมอ

ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าทุกวันนี้ฟังก์ชั่นรถนั้นพัฒนาไปมาก ดังนั้นการเลือกฟังก์ชั่นให้เหมาะสมจึงจำเป็นมาก เช่น เทคโนโลยีความบันเทิง ระบบการเชื่อมต่อทางไกลเพื่อช่วยเหลือยามขับขี่ ฟังก์ชั่นช่วยฟอกอากาศสำหรับวิกฤตฝุ่น PM2.5 หรือแม้แต่ที่นั่งในห้องโดยสารที่มีการออกแบบให้นั่งสบายมากขึ้นแม้มีพื้นที่จำกัด รวมไปถึงระบบความปลอดภัยที่ครบถ้วนให้คุณอุ่นใจได้ทุกการเดินทาง ในราคาที่เหมาะสม คุ้มค่าและน่าใช้งาน

ขับรถยนต์ในเมือง

3. ระบบความปลอดภัยครอบคลุม

อุบัติเหตุอาจไม่สามารถเลี่ยงได้ในการขับขี่ โดยเฉพาะกับในเมืองที่เต็มไปด้วยรถยนต์คันอื่นๆ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุทั้งจากคุณเผอเรอ หรือเหตุสุดวิสัย การเลือกรถยนต์ที่มีความอัจฉริยะของระบบความปลอดภัยขั้นสูง เช่น เบรกหยุดเองอัตโนมัติ, ถุงลมนิรภัยที่ทำงานได้ตามสถานการณ์จริง หรือมีฟังก์ชั่นต่างๆ ที่ช่วยในการขับขี่ อย่าง การส่งเสียงร้องเมื่อท้ายรถใกล้ขนกับกำแพง หรือมองหลังรถได้จากกล้องหลังรถ ก็นับว่าจำเป็นมากสำหรับยุคนี้

4. คนไม่เยอะ 5 ที่นั่งก็พอ

การเลือกซื้อรถขนาด 7 ที่นั่ง จะเหมาะในกรณีที่คุณมีครอบครัวใหญ่ แต่ถ้าไม่ใช่ นอกจากจะตัวรถอาจจะเทอะทะโดยไม่จำเป็นแล้ว ยังเสี่ยงที่จะทำให้คุณพกของไว้ท้ายรถเกินความจำเป็น เป็นที่มาของการเปลืองน้ำมันอีกด้วยนะ

ซื้อรถใหม่ ขับในเมืองทั้งที ไม่ใช่แค่เช็กรถก่อนซื้อเท่านั้น แต่การเลือก เช็กราคาประกันรถยนต์ ก็สำคัญไม่แตกต่างกัน และใครที่มองหาการเปรียบเทียบ เช็กราคาประกันรถยนต์ต่างๆ สามารถติดต่อ rabbit finance ได้เลย