Motor-Expo-2017-Booking

บริษัท สื่อสากล จำกัด เผยยอดจองรถยนต์ในงาน Motor Expo 2017 ที่ได้รับการตอบรับดีเยี่ยมเฉกเช่นทุกปี กับยอดจองรถของแต่ละค่ายที่น่าพึงพอใจ … มาดูยอดจองในงานของปีนี้กันเลยครับ

ยอดจองรถยนต์ วันที่ 29 พ.ย. – 11 ธ.ค. 2560 39,832 คัน

ยอดจองรถยนต์ วันที่ 30 พ.ย. – 12 ธ.ค. 2559 32,422 คัน

จากตัวเลขแสดงให้เห็นว่า ยอดจองรถยนต์ในงาน Motor Expo 2017 มีมากกว่าตัวเลขของปีที่แล้วพอสมควร ซึ่งมีแนวโน้มของผู้สนใจ และมีกำลังซื้อ มาจับจองรถยนต์ใหม่กันมากขึ้น

ราคาเฉลี่ยของรถที่ขายได้ในงานเพิ่มขึ้นเป็น 1,271,837 บาท (ปีก่อน 1,177,393 บาท) เงินหมุนเวียนภายในงานราว 52,000 ล้านบาท ผู้เข้าชมงานจำนวน 1,360,605 คน เพิ่มขึ้น 14.2%

Motor-Expo-2017

รถเก๋งได้รับความสนใจสูงสุด มีสัดส่วนยอดขาย 38.7% ลดลงจากปีก่อน (44.1%) แบ่งเป็นเก๋งซีดาน 25% และแฮทช์แบคท้ายลาด 13.7% โดย 5 อันดับแรก ได้แก่ Honda City, Honda Civic, Mazda2, Honda Jazz และ Nissan Note

ขณะที่รถกิจกรรมการแจ้ง (SUV) มีสัดส่วน 33.9% เพิ่มขึ้นจากปีก่อน (25.1%) 5 อันดับแรก ได้แก่ MG ZS, Mitsubishi Pajero Sport, Mazda CX-5, Ford Everest และ Honda HR-V

รถกระบะมีสัดส่วน 17.9% ลดลงจากปีก่อน (20.3%) 5 อันดับแรก ได้แก่ Ford Ranger, Isuzu D-Max, Toyota Hilux Revo, Mitsubishi Triton และ Nissan NP300 Navara

ในส่วนของยอดขายรถจักรยานยนต์ รวม 7,711 คัน สูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้เล็กน้อย อันดับ 1 ได้แก่ GPX 1,115 คัน อันดับ 2 Kawasaki 904 คัน อันดับ 3 Ryuka 831 คัน อันดับ 4 Yamaha 805 คัน และ อันดับ 5 Honda 741 คัน

ยอดจองรถยนต์ 10 อันดับแรกของ Motor Expo 2017 วันที่ 29 พ.ย. – 11 ธ.ค. 2560

1. Honda 6,488 คัน

Honda-Civic

2. Toyota 5,456 คัน

Toyota-Hilux-Revo-Rocco

3. Mazda 5,015 คัน

Mazda-CX-5

4. Isuzu 4,479 คัน

Isuzu-D-Max

5. Mercedes-Benz 2,701 คัน

Mercedes-AMG-GT-R

6, MG 2,366 คัน

MG-ZS

7. Nissan 2,275 คัน

Nissan-Navara

8. Mitsubishi 2,260 คัน

Mitsubishi-Triton-Athlete

9. Ford 2,253 คัน

Ford-Ecosport

10. Suzuki 1,361 คัน

Suzuki-Ciaz

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Motor Expo

ECO-Sticker

เวลาดู “รถยนต์ใหม่” คุณสามารถสแกน “QR Code” ดูสเปคได้จาก “ECO Sticker”

BMW-i8-ECO-Sticker

หลายท่านที่ไปเดินดูรถในงาน Motor Expo 2017 แล้วอาจจะสังเกตว่า บริเวณกระจกรถทุกคันที่นำมาจัดแสดงภายในงาน จะมีติดกระดาษแผ่นหนึ่งไว้ มีรายละเอียดต่างๆ ของรถคันนั้น ระบุอยู่ หลายคนไม่ทราบว่ามันคืออะไร? ติดไว้เพื่ออะไร?

เพื่อความรู้และประโยชน์ของผู้บริโภค MR.CARRO ขออธิบายรายละเอียดของ “ECO Sticker” ให้ทุกท่านได้รับทราบครับ.

ระบบป้ายข้อมูลรถยนต์ตามมาตรฐานสากล (ECO Sticker)

Lexus-NX

จากมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2555 ได้อนุมัติในหลักการร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์ (ภาษี CO2) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ควบคู่ไปกับการมอบหมายให้กระทรวงอุตสาหกรรมกำหนดแนวทางให้ผู้ประกอบอุตสาหกรรมยานยนต์และผู้นำเข้า ต้องติดป้ายแสดงการประหยัดพลังงานและปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) หรือ ECO Sticker ที่จะนำมาใช้ดำเนินการควบคู่กัน

ECO-Sticker

กระทรวงอุตสาหกรรม (สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม และสถาบันยานยนต์) และกระทรวงการคลัง (กรมสรรพสามิต กรมศุลกากร) ได้ร่วมมือกันในการเตรียมระบบงานเพื่อรองรับการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี … ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านราคาจำหน่ายในรถยนต์หลากหลายรุ่น ตั้งแต่ในวันที่ 1 มกราคม 2559 เป็นต้นมา

ECO-Sticker

ECO-Sticker

และรถยนต์ต้องติดป้ายแสดงการประหยัดพลังงานและปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) หรือ ECO Sticker ซึ่งในหลายประเทศก็ใช้ระบบนี้เช่นกัน โดยฉลาก ECO Sticker ระบุถึงข้อมูลรายละเอียดทางเทคนิคเกี่ยวกับตัวรถ ซึ่งผู้บริโภคสามารถดูข้อมูลใช้ประกอบการตัดสินใจซื้อรถได้ อีกทั้งยังมีข้อมูลต่างๆ อาทิ รายละเอียดเครื่องยนต์ อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง, มาตรฐานระบบเบรก, การทดสอบชน และอุปกรณ์มาตรฐานที่ติดตั้งมาจากโรงงาน

ECO-Sticker

เมื่อสแกน QR Code แล้ว จะได้ข้อมูลแบบนี้ครับ

นอกจากนี้ยังมี QR Code หมายเลขทะเบียน (ECO Sticker ID) เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจในการเลือกซื้อรถยนต์ บนพื้นฐานข้อมูลที่ถูกต้อง แม่นยำ และสามารถตรวจสอบได้ทันที

โดยหากผู้ซื้อรถยนต์พบว่า คุณสมบัติของรถยนต์คันที่ซื้อ หรือ VIN บนรถยนต์นั้นไม่ตรงกับข้อมูลบน ECO Sticker ก็สามารถแจ้งตำแหน่งได้ นอกจากนี้ ยังทำให้ผู้ซื้อสามารถทราบข้อมูลรถยนต์อื่นๆ นอกเหนือจากที่ปรากฏบน ECO Sticker หรือดาวน์โหลดโบรชัวร์ของรถยนต์คันนั้น ค่าใช้จ่ายด้านพลังงานต่อเดือน และสามารถค้นหาและเปรียบเทียบรถยนต์คันนั้น กับรถยนต์คันอื่นๆ ในระบบได้

ขอขอบคุณข้อมูลจาก car.go.th

Pretty-Motor-Expo-2017

“พริตตี้” สีสันที่ขาดไม่ได้ ของงานโชว์รถในบ้านเรา …

Pretty-Motor-Expo-2017

งาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 34” หรือ “Motor Expo 2017” นอกจากจะมีการนำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่ๆ รถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ๆ รถมือสอง รวมไปถึงอุปกรณ์เกี่ยวเนื่อง อุปกรณ์ตกแต่ง โปรโมชั่น แล้วนั้น

สิ่งที่เป็นสีสันของงาน และขาดไม่ได้เลยสำหรับค่ายรถยนต์ทุกเจ้าในปัจจุบัน นั่นคือ “พริตตี้” ที่หนุ่มๆ หลายคน ต่างชื่นชอบในความสาวสวยน่ารัก แต่งตัวเซ็กซี่ และความสามารถในการ Presentation ข้อมูลรถยนต์หรือข้อมูลสินค้าของแต่ละคน ที่ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว

ซึ่งในปีนี้ พริตตี้ในงานส่วนใหญ่ ยังคงไว้ซึ่งค่านิยมของความเรียบร้อยน่ารัก แต่งตัวรัดกุม ดูสวยงามน่าประทับใจ เฉกเช่นเดียวกับในปีที่แล้ว

ทาง CARRO ขอรวบรวม Pretty สุดสวย สุดน่ารัก ในงาน Motor Expo 2017 มาให้ทุกท่านได้รับชมกันครับผม

Pretty-Motor-Expo-2017

Pretty-Motor-Expo-2017

Pretty-Motor-Expo-2017

Pretty-Motor-Expo-2017

Pretty-Motor-Expo-2017

Pretty-Motor-Expo-2017

Pretty-Motor-Expo-2017

Pretty-Motor-Expo-2017

Pretty-Motor-Expo-2017

Pretty-Motor-Expo-2017

Pretty-Motor-Expo-2017

Pretty-Motor-Expo-2017

Pretty-Motor-Expo-2017

The-10-Best-in-Motor-Expo

10 “ที่สุด” ในงาน Motor Expo ที่คุณยังไม่รู้ หรืออาจจะคาดไม่ถึง!

งาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 34” หรือ “Motor Expo 2017” นอกจากจะมีการนำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่ๆ รถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ๆ รถมือสอง รวมไปถึงอุปกรณ์เกี่ยวเนื่อง อุปกรณ์ตกแต่ง โปรโมชั่น และพริตตี้สาวสวยที่หลายๆ คนชื่นชอบนั้น …

ภายในงานยังถือได้ว่ามีเรื่องราว “ที่สุด” ที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ทั้งหลายที่นำมาโชว์ด้วย Carro ขอรวบรวม 10 ที่สุด ที่เกี่ยวกับรถยนต์ในงาน “Motor Expo 2017” มาให้ทุกท่านได้รับทราบกันครับผม

ถูกที่สุด

TATA-Super-Ace-Mint

รถที่ “ถูก” ที่สุดในงาน Motor Expo 2017 ครั้งนี้ต้องยกให้ “TATA Super Ace Mint” (ทาทา ซูเปอร์ เอช มินท์) รถกระบะขนาดเล็กของแดนภารตะ ที่มาในราคาเพียง 365,000 บาท มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 1.4 ลิตร แบบ 4 สูบ คอมมอนเรล Di Turbo Intercooler ให้แรงม้าสูงสุด 70 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 140 นิวตัน-เมตร ที่ 1,400-2,750 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด

แพงที่สุด

Rolls-Royce-Dawn

รถที่ขึ้นชื่อว่า “แพง” ที่สุดในงาน Motor Expo 2017 ครั้งนี้คือ “Rolls-Royce Dawn” (โรลส์-รอยซ์ ดอว์น) รถคูเป้เปิดประทุน 4 ที่นั่งสุดหรูจากโรลส์-รอยซ์ ในราคา 34,900,000 บาท! มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 6.6 ลิตร แบบ V12 Turbo ให้แรงม้าสูงสุด 563 แรงม้า ที่ 5,250 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุดที่ 780 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500 รอบ/นาที สามารถทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ภายในเวลาเพียง 4.9 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 250 กม./ชม.

เร็วที่สุด

Bentley-Flying-Spur-W12

เร็วที่สุดในงาน Motor Expo 2017 ต้องยกให้ “Bentley Flying Spur W12” (เบนท์ลี่ย์ ฟลายอิ้ง สเปอร์ ดับบลิว 12) ที่ได้ผสมผสานรูปลักษณ์ความเป็นเบนท์ลี่ย์แบบดั้งเดิมเข้ากับความเป็นรถสปอร์ต และรายละเอียดของความร่วมสมัยไว้ได้สมบูรณ์แบบที่สุด มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 6 ลิตร Twin-Turbo ที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ ให้แรงม้าสูงสุดถึง 616 แรงม้า แรงบิดสูงสุดถึง 800 นิวตัน-เมตร ผสมผสานเข้ากับระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ถือได้ว่าเบนท์ลี่ย์ 4 ประตู ในสายการผลิตที่ทรงพลังมากที่สุดตั้งแต่มีมา ทำความเร็วได้สูงสุด 322 กม./ชม.

ประหยัดที่สุด

Nissan-Leaf

สำหรับ นิสสัน ผู้บุกเบิกในยานยนต์ไฟฟ้า นำ “Nissan Leaf” (นิสสัน ลีฟ) รุ่นใหม่ล่าสุดจากญี่ปุ่น มาโชว์ในงาน Motor Expo 2017 ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า “100%” มีอัตราการปล่อยมลพิษเป็น “0” พร้อมชูจุดเด่นอย่าง “นิสสัน อินเทลลิเจนต์ โมบิลิตี้ (Nissan Intelligent Mobility)” มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าชุดใหม่ แบบ EM57 ที่ให้แรงม้าสูงสุด 150 แรงม้า (PS) (110 กิโลวัตต์) (แรงม้าเพิ่มขึ้น 38% จากรุ่นแรก) ที่ 3,283-9,795 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 32.6 กก.-ม. (320 นิวตันเมตร) ที่ 0-3,283 รอบ/นาที

เพียงชาร์จ 1 ครั้ง สามารถเดินทางได้ระยะทางมากถึง 400 กิโลเมตร! (ตามการทดสอบตามโหมด JC08 ของประเทศญี่ปุ่น)

เก่าที่สุด

Black

รถเก่าที่สุดในงาน อยู่ที่บูธ สมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย นั่นคือ “Black” รุ่นปี 1904 ผลิตโดย Black Manufacturing Company แห่งชิคาโก อิลลินอยส์ จำหน่ายโดย Sear, Roebuck & Company ระหว่างปี 1904-1912 เป็นรถรุ่นบรรพบุรุษในยุคเริ่มแรก รูปทรง และที่นั่งคนขับ พัฒนาจากรถเทียมม้าแบบดั้งเดิม จึงได้ชื่อว่าเป็น “เกวียนยนต์” หรือ “Horseless Carriage” เครื่องยนต์ 2 สูบนอน 852 ซีซี ให้แรงม้าสูงสุด 18 แรงม้า ถ้านับจนถึงปัจจุบัน รถคันนี้มีอายุ 113 ปีครับ

ใหญ่ที่สุด

Foton-Auman-EST

ไม่มีใครใหญ่ไปกว่านี้แล้วในงาน Motor Expo 2017 ครั้งนี้ ต้องยกให้ “Foton Auman EST” (โฟตอน อูแมน อีเอสที) รถบรรทุกหัวลากระดับไฮเอนด์ที่ผลิตโดย Foton Daimler Automotive Co., Ltd โดยมีมาตรฐานสากลครบถ้วน เหมาะสำหรับการขนส่งและโลจิสติกส์ระยะไกล ใช้ขุมพลัง Cummins ISG ขนาด 11.8 ลิตร แบบ 6 สูบ มีทั้งรุ่น 380 แรงม้า และ 430 แรงม้า

คนสนใจเยอะสุด

Toyota-C-HR

ในงาน Motor Expo 2017 รถที่ดึงดูดคนให้เข้ามาดูได้เยอะที่สุด เห็นทีต้องยกให้ “Toyota C-HR” (โตโยต้า ซี-เอชอาร์) ที่ไม่ว่าจะเดินผ่านไปเวลาไหน ก็ต้องเห็นคนรุมยืนดูด้วยความสนใจ เข้าไปทดลองนั่งดูบ้าง ตลอดเวลา

รถ SUV แพงที่สุด

Bentley-Bentayga-W12

รถ SUV แพงที่สุด ต้องยกให้ “Bentley Bentayga W12” (เบนท์ลี่ย์ เบนเทย์ก้า ดับบลิว12) ที่สุดแห่งความเร็ว ทรงพลัง จากเบนท์ลี่ย์ ผสมผสานความหรูหรากับสมรรถนะแบบสปอร์ต และแบบ Off-road อย่างลงตัว มาพร้อมกับเครื่องยนต์ W12 ขนาด 6.0 ลิตร เทอร์โบคู่ ให้แรงม้าสูงสุด 608 แรงม้า แรงบิด 900 นิวตันเมตร ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 4.1 วินาที ทำความเร็วได้สูงสุด 301 กม./ชม. และราคาก็สูงสุดที่ 24,500,000 บาท

รถมอเตอร์ไซค์แพงที่สุด

Harley-Davidson-CVO-Limited

รถมอเตอร์ไซค์แพงที่สุดในงาน Motor Expo 2017 ต้องยกให้ “Harley-Davidson CVO Limited” (ฮาร์เลย์-เดวิดสัน ซีวีโอ ลิมิเต็ด) ในราคา 3,124,000 บาท

รถมอเตอร์ไซค์ถูกที่สุด

Lifan-Vintage

รถมอเตอร์ไซค์ถูกที่สุดในงาน Motor Expo 2017 นั่นคือ “Lifan Vintage” (ลี่ฟาน วินเทจ) ในราคา 29,900 บาท

Pickup-Motor-Expo-2017

ส่งท้ายปี 2560 กับรถกระบะเปิดตัวใหม่หลายรุ่นในงาน Motor Expo 2017

รถกระบะ ถือเป็นรถที่ยอดนิยมอย่างยิ่งของชาวไทยมานานนับหลายสิบปี ที่มาพร้อมเทคโนโลยี ออพชั่น และกำลังเครื่องยนต์ที่มากขึ้นเรื่อยๆ และยอดขายยังเป็นปัจจัยที่แสดงให้เห็นถึงสภาวะเศรษฐกิจได้อีกทางหนึ่ง เป็นรถสารพัดประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ ใช้งานได้ทั้งในเมือง ในที่ทุรกันดาร ขนของ ขนสัตว์ ใช้รับจ้างหาเงิน ทำเป็นรถสองแถวก็ได้ หรือใช้งานส่วนตัวก็ดี ฯลฯ

ในงาน Motor Expo 2017 นี้ ผู้ผลิตรถกระบะหลายเจ้าอย่าง โตโยต้า, อีซูซุ, มิตซูบิชิ หรือเชฟโรเลต ต่างรีบแต่งหน้าทาปากรถกระบะของตัวเองกันใหม่ หรือผลิตรุ่นพิเศษออกมาเพื่อกระตุ้นตลาด เพื่อช่วงชิงยอดจองและยอดขาย ซึ่งในงาน Motor Expo 2017 จะมีรุ่นใดมาโชว์นั้น CARRO ขอนำเสนอข้อมูลให้ทุกท่านดูกันได้เลยครับ …

Toyota Hilux Revo (Minorchange)

Toyota-Hilux-Revo-Rocco

Toyota นำเสนอ “Hilux Revo รุ่นปรับโฉมใหม่” ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด “ตัวตนของคนจริง” ด้วยดีไซน์ใหม่ของกันชนหน้า กระจังหน้าแบบโครเมียมและสีดำเงา และกรอบไฟตัดหมอกสีดำเงา สอดรับกับสีภายในห้องโดยสารใหม่โทนสีดำ ตลอดจนอุปกรณ์มาตรฐานต่างๆ ที่มีการปรับเพิ่มให้ครอบคลุมทุกการใช้งาน

และยังมี Hilux Revo Rocco (ไฮลักซ์ รีโว่ ร็อคโค่) ใหม่! รุ่นตกแต่งพิเศษ เปิดตัวในงานนี้ด้วย ถูกพัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด “แกร่งเกินนิยาม” โดยมาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 2.8 ลิตร รหัส 1GD-FTV แบบ 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC VN Turbo Intercooler ให้แรงม้าสูงสุด 177 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 420 นิวตัน-เมตร ที่ 1,400-2,600 รอบ/นาที

ราคาของ Toyota Hilux Minorchange ใหม่ อยู่ที่ 523,000 – 1,154,500 บาท

Isuzu D-Max (Minorchange)

Isuzu-D-Max

Isuzu (อีซูซุ) ฉลองครบรอบ 60 ปีในไทย พร้อมกับมีเซอร์ไพรส์ กับการเปิดตัว Isuzu D-Max Minorchange (อีซูซุ ดีแม็คซ์ ไมเนอร์เชนจ์) ภายนอกดีไซน์ล้ำสมัย เร้าใจ สไตล์สปอร์ต กระจังหน้าใหม่ เพิ่มออพชั่นหลายอย่าง สานต่อความแรงของ “ปรากฏการณ์ อีซูซุบลูเพาเวอร์” โดยชูจุดเด่นใหม่ๆ เช่น ไฟหน้าใหม่แบบ Bi-LED พร้อม Multifunctional Daylight ปรับระดับสูง-ต่ำของไฟหน้าได้ถึง 4 ระดับ
ภายในเสนอความบันเทิงเหนือระดับกับ ใหม่! Isuzu iConnect พร้อม Built-in Navigator และใหม่ล่าสุด “อีซูซุอินไซท์” (Isuzu Insight) ที่สามารถดาวน์โหลดข้อมูลผ่าน Smartphone ได้

และรุ่นไฮไลท์อย่าง “Isuzu D-Max V-Cross MAX 4×4” สปอร์ต ออฟโรด ดีไซน์ภายนอกใหม่! พร้อมชุดแต่ง MAX 4×4 สีเทาดำรอบคัน ผสานความแกร่งและสปอร์ตเป็นหนึ่งเดียว ดุดัน บึกบึนเต็มขั้น ด้วยโทนสีเทาดำ สไตล์สปอร์ตออฟโรดตัวจริง

สำหรับในรุ่น Spark, Spacecab, Cab4 และ Hi-Rider มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.9 ลิตร รหัส RZ4E-TC แบบ 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC Commonrail Di พร้อม VGS Turbo Intercooler ให้แรงม้าสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800-2,600 รอบ/นาที

ส่วนเครื่องยนต์ขนาด 3.0 ลิตร รหัส 4JJ1-TCX แบบ 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC Commonrail Di พร้อม VGS Turbo Intercooler ให้แรงม้าสูงสุด 177 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 380 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800-2,800 รอบ/นาที

ราคาของ Isuzu D-Max Minorchange ใหม่ อยู่ที่ 497,000 – 1,099,000 บาท

Nissan Navara (MY2018)

Nissan-Navara

ครั้งแรกในรถปิคอัพ ที่มาพร้อมเทคโนโลยีขับเคลื่อนอัจฉริยะ ใน Nissan NP300 Navara (นิสสัน เอ็นพี 300 นาวารา) ใหม่ กับกล้องมองภาพรอบทิศทาง AVM (Around View Monitor) 360 องศา มองเห็นภาพภายนอกได้รอบคัน และเพิ่มถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่งรอบคัน (เฉพาะรุ่น Top)

มาพร้อมเครื่องยนต์ให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่ขนาด 2.5 ลิตร รหัส YD25DDTi แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว VGS Turbo Intercooler ให้แรงม้าสูงสุด 163 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 403 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 รอบ/นาที

ส่วนในรุ่น 4WD รหัส YD25DDTi แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว VGS Turbo Intercooler ให้แรงม้าสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 รอบ/นาที

ราคาของ Nissan NP300 Navara อยู่ที่ 549,500 – 1,106,000 บาท

Mitsubishi Triton Athlete

Mitsubishi-Triton-Athlete

Mitsubishi (มิตซูบิชิ) เปิดตัว Triton รุ่นพิเศษ “Triton Athlete” (ไทรทัน แอทลีท) สปอร์ต พันธุ์เข้ม เร้าใจทุกมุมมองด้วยชุดแต่งพิเศษรอบคันจากโรงงาน มีสีให้เลือก 3 สี ได้แก่สีขาว, สีเทา และสีดำ ตกแต่งภายในด้วยโทนสีดำ-ส้ม พร้อมสัญลักษณ์ Athlete เครืองเสียงแบบหน้าจอสัมผัสพร้อมรองรับระบบ Apple CarPlay เป็นต้น

มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร รหัส 4N15 แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว VG Turbo ให้แรงม้าสูงสุด 181 แรงม้า ที่ 3,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร ที่ 2,500 รอบ/นาที

ราคาของ Mitsubishi Triton อยู่ที่ 522,000 – 1,111,000 บาท

Chevrolet Colorado Centennial Edition

Chevrolet-Colorado-Centennial-Edition

Chevrolet (เชฟโรเลต) ฉลองครบรอบ 100 ปี กระบะอเมริกันพันธุ์แกร่ง สร้างมาเพื่ออนาคต กับ Chevolet Colorado Centennial Edition (เชฟโรเลต โคโลราโด เซนเทนเนียล อิดิชั่น) รุ่นฉลองครบรอบกระบะ 100 ปี จำนวนจำกัดเพียง 100 คัน เท่านั้น มาพร้อม สติกเกอร์สีดำด้านที่กระโปรงหน้า ตราสัญลักษณ์ฉลองครบรอบกระบะ 100 ปี ล้ออัลลอยสีดำ 18 นิ้ว ชุดแต่งซุ้มล้อ ด้านหน้า และหลัง สปอร์ตบาร์ และมือจับที่เปิดประตูท้ายโครเมียม พร้อมตราสัญลักษณ์ฉลองครบรอบกระบะ 100 ปี เป็นต้นน

ใช้เครื่องยนต์ดูราแมกซ์ ดีเซล คอมมอนเรล ไดเรคอินเจคชั่น ขนาด 2.5 ลิตร แบบ 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC พร้อมเทอร์โบแปรผัน (VGT-Variable Geometry Turbocharger) และอินเตอร์คูลเลอร์ ให้แรงม้าสูงสุด 180 แรงม้า ที่ 3,600รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 รอบ/นาที

ราคาของ Chevrolet Colorado อยู่ที่ 594,000 – 1,103,000 บาท

สำหรับผู้ที่สนใจซื้อรถใหม่ในงาน Motor Expo 2017 แต่ยังหนักใจว่าจะขายรถคันเดิมที่ไหนดี ให้ CARRO เป็นผู้ช่วยมืออาชีพของคุณ “ซื้อ ขาย รีไฟแนนซ์ รถยนต์อย่างมืออาชีพกับ CARRO Thailand” หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มได้ใน Fanpage “CARRO Thailand” ครับผม

Motor-Expo-Accessories

Motor Expo 2017 จัดเต็มทั้งอุปกรณ์ตกแต่ง รถแต่งสวยแต่งซิ่ง และเครื่องเสียงติดรถ

Motor-Expo-2017-Accessories-View

งาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 34” หรือ The 34th Thailand International Motor Expo 2017 ภายใต้แนวคิด “ยานยนต์ยุคใหม่ ฝันไกลที่กลายเป็นจริง” หรือ “New Age Vehicles … A Distant Dream Come True” เป็นงานแล้วอย่างยิ่งใหญ่ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน – 11 ธันวาคม 2560 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ 1-3 เมืองทองธานี

นอกจากรถยนต์ที่ร่วมงานจำนวนมากถึง 35 แบรนด์ จาก 9 ประเทศ และรถจักรยานยนต์อีก 20 แบรนด์ จาก 10 ประเทศ

ภายในงานมีการออกงานของผู้จำหน่ายอุปกรณ์ประดับยนต์ กล้องติดรถยนต์ ฟิล์มกรองแสง ล้อแม็ก ยางรถยนต์ เครื่องเสียงติดรถ หมวกกันน็อค หรืออุปกรณ์ทำความสะอาดรถ ที่มาพร้อมโปรโมชั่นพิเศษมากมาย พร้อมกิจกรรมต่างๆ ให้ผู้ที่มาเดินเที่ยวชมงานได้เลือกซื้อ ติดไม้ติดมือกลับบ้าน …

ทาง CARRO อยากให้คนรักรถทุกท่าน หาโอกาสไปเดินเที่ยวกันจริงๆ ครับ … เชิญชมกับภาพบรรยากาศของ รถแต่ง ของแต่งรถ และเครื่องเสียงติดรถ ในงาน Motor Expo 2017 กันได้เลย

Auto

มุมรถแต่ง

Auto

มุมรถแต่ง

Helmet

หมวกกันน็อค

Hi-Fi-Car-

ชุดลำโพง (ตู้ซับเบส) ติดรถยนต์

Hi-Fi-Car-

ชุดลำโพง (ตู้ซับเบส) ติดรถยนต์

Honda-Beat

Honda Beat

Momo

พวงมาลัย Momo

Tire

ยางผ่อน 0%

Nissan-Skyline-R33

Nissan Skyline (R33)

Nissan-Skyline-R34

Nissan Skyline (R34)

Toyota-Hilux-Revo

Toyota Hilux Revo แต่ง

Wheels

ล้อแม็กติดรถ

Yaris-DJ-Booth

Toyota Yaris DJ Booth

Audio

มุมเครื่องเสียง และลำโพง

สำหรับผู้ที่สนใจซื้อรถใหม่ในงาน Motor Expo 2017 แต่ยังหนักใจว่าจะขายรถคันเดิมที่ไหนดี ให้ CARRO เป็นผู้ช่วยมืออาชีพของคุณ “ซื้อ ขาย รีไฟแนนซ์ รถยนต์อย่างมืออาชีพกับ CARRO Thailand” หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มได้ใน Fanpage “CARRO Thailand” ครับผม

Motor-Expo-2017-Car

Motor Expo 2017 จัดเต็มทั้งรถต้นแบบ รถใหม่ รถแต่ง นวัตกรรมยานยนต์ และพริตตี้สาวสวย

Motor-Expo-2017-View

งาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 34” หรือ The 34th Thailand International Motor Expo 2017 ภายใต้แนวคิด “ยานยนต์ยุคใหม่ ฝันไกลที่กลายเป็นจริง” หรือ “New Age Vehicles … A Distant Dream Come True” เป็นงานแล้วอย่างยิ่งใหญ่ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน – 11 ธันวาคม 2560 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ 1-3 เมืองทองธานี

เชิญพบกับรถยนต์ที่ร่วมงานจำนวนมากถึง 35 แบรนด์ จาก 9 ประเทศ และรถจักรยานยนต์อีก 20 แบรนด์ จาก 10 ประเทศ

ภายในงานมีการจัดแสดงรถต้นแบบ 2 คัน รถยนต์เปิดตัวรถใหม่อีก 20 กว่ารุ่น และมีโปรโมชั่นพิเศษมากมาย พร้อมกิจกรรมมอบโชคคืนกำไรให้แก่ผู้ชมงาน โดยปีนี้ยังคงแจกรถยนต์ 3 คัน และจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ 1 คัน รวมถึงลุ้นชิงรางวัลอื่นๆ จากการซื้อสินค้าอีกมากมาย และยังมีรถ Shuttle Bus รับ-ส่ง ฟรี! จาก 4 จุดในกรุงเทพฯ และที่รังสิต ให้คุณเดินทางมาชมงานได้อย่างสะดวกสบาย

ทาง CARRO อยากให้คนรักรถทุกท่าน หาโอกาสไปเดินเที่ยวกันจริงๆ ครับ … เชิญชมกับภาพบรรยากาศภายในงาน Motor Expo 2017 กันได้เลย

Subaru-XV

Subaru XV

Mini-JCW-Countryman

Mini JCW Countryman

Lexus-LC500

Lexus LC 500

Toyota-C-HR

Toyota C-HR

Toyota-Hilux-Revo-Rocco

Toyota Hilux Revo Rocco

Bentley-Bentayga

Bentley Bentayga

KIA-Stinger

KIA Stinger

Audi-A5-Sportback

Audi A5 Sportback

Toyota-Coaster

Toyota Coaster

Honda-Civic

Honda Civic RED

Hyundai-Ioniq

Hyundai Ioniq

Hyundai-RN30-Concept

Hyundai RN30 Concept

Jaguar-F-Type

Jaguar F-Type

Mercedes-Maybach-S-560

Mercedes-Maybach S 560

BMW-X3

BMW X3

Porsche-Cayenne

Porsche Cayenne

Mitsubishi-Triton-Athlete

Mitsubishi Triton Athlete

Isuzu-D-Max

Isuzu D-Max V-Cross

Nissan-Leaf

Nissan Leaf

MG-ZS

MG ZS

สำหรับผู้ที่สนใจซื้อรถใหม่ในงาน Motor Expo 2017 แต่ยังหนักใจว่าจะขายรถคันเดิมที่ไหนดี ให้ CARRO เป็นผู้ช่วยมืออาชีพของคุณ “ซื้อ ขาย รถยนต์อย่างมืออาชีพกับ Carro Thailand” หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มได้ใน Fanpage “CARRO Thailand” ครับผม

SUV-Crossover-Motor-Expo-2017

พบกับรถ SUV และ Crossover รุ่นใหม่ จากงาน Motor Expo 2017 ได้ที่นี่

ในยุคปัจจุบัน ถ้าจะให้พูดถึงรถยนต์อเนกประสงค์ หรือ รถยนต์ในรูปแบบ SUV, PPV หรือ Crossover นั้น เป็นที่นิยมมากขึ้นทุกปี (ดูได้จากยอดขายรถประเภทนี้ ย้อนหลังไป 6-7 ปีที่ผ่านมา) เพราะเป็นรถที่สามารถใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะไว้วิ่งในเมือง ไว้ออกต่างจังหวัด ลุยน้ำท่วม ขนสัมภาระมากมาย หรือเดินทางไปกับครอบครัวหลายคนก็ตาม

ในงาน Motor Expo 2017 (มอเตอร์เอ็กซ์โป 2017) นี้ บรรดาผู้ผลิตรถยนต์ที่มีไลน์การผลิตรถแนว SUV, PPV หรือ Crossover ต่างรีบนำผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ของตนออกสู่ตลาดโดยเร็ว เพื่อช่วงชิงยอดจองและยอดขาย ซึ่งในงาน Motor Expo 2017 จะมีรุ่นใดมาโชว์นั้น CARRO ขอนำเสนอข้อมูลให้ทุกท่านดูกันได้เลยครับ …

Toyota C-HR

Toyota-C-HR

Toyota C-HR (โตโยต้า ซี-เฮชอาร์) รถ Crossover อเนกประสงค์ ที่ทาง Toyota นำมาโชว์ ถือว่าได้รับความสนใจอย่างล้มหลามเลยทีเดียว แม้ทาง Toyota จะยังไม่เผยสเปคออกมาชัดเจน รวมถึงรุ่นย่อยทั้ง 4 รุ่นย่อย

ซึ่ง Toyota C-HR ในรุ่นเครื่องยนต์ไฮบริดขนาด 1.8 ลิตร รหัส 2ZR-FXE ที่ยกชุดมาจากในตัว Prius รุ่นล่าสุด ชูจุดเด่นเรื่องความประหยัดน้ำมันแน่นอน นอกจากนี้ยังติดตั้งระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense และมีระบบ Toyota T-Connect Telematics เชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือได้สะดวกและง่ายดาย

พิเศษ! สำหรับผู้จองสิทธิ์เป็นเจ้าของ C-HR ตอนนี้ รับฟรี Cusotm Name Plate เลือกดีไซน์ชื่อได้ตามสไตล์คุณ ตั้งแต่วันนี้ – 28 ก.พ. 2561

ราคาของ Toyota C-HR ใหม่

– รุ่น 1.8 Entry ราคาไม่เกิน 1,000,000 บาท
– รุ่น 1.8 Mid ราคา 1,050,000 บาท (+,- ไม่เกิน 20,000 บาท)
– รุ่น Hybrid Mid ราคา 1,050,000 บาท (+,- ไม่เกิน 20,000 บาท)
– รุ่น Hybrid Hi ราคาไม่เกิน 1,200,000 บาท

Mazda CX-5

Mazda-CX-5

Mazda (มาสด้า) เปิดตัว Crossover SUV รุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง “Mazda CX-5” ใหม่ มาพร้อมรูปทรงการออกแบบอันสง่างามทั้งภายนอกและภายใน ที่ได้แรงบันดาลใจจากสุนทรียศาสตร์ของงานศิลปะญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม ตามแนวทางการออกแบบ “Less is more” ภายนอกดูเรียบง่าย แต่สุขุม และยังคงให้ความสปอร์ตโฉบเฉี่ยวในแบบฉบับใหม่ อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีเจนเนอเรชั่นใหม่ล่าสุด

Mazda CX-5 มาพร้อมเครื่องยนต์ SKYACTIV-G ขนาด 2.0 ลิตร ให้แรงม้า 165 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 210 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที ประหยัดน้ำมันสูงสุด 13.9 กม./ลิตร

และเครื่องยนต์คลีนดีเซล SKYACTIV-D ขนาด 2.2 ลิตร ให้แรงม้า 175 แรงม้า ที่ 4,500 รอบ/นาที แรงบิดสูง 420 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 รอบ/นาที ประหยัดสูงสุด 17.5 กม./ลิตร

ราคา Mazda CX-5 ใหม่

– รุ่น 2.0 C ราคา 1,290,000 บาท
– รุ่น 2.0 S ราคา 1,400,000 บาท
– รุ่น 2.0 SP ราคา 1,530,000 บาท
– รุ่น 2.2 XD ราคา 1,560,000 บาท
– รุ่น 2.2 XDL ราคา 1,770,000 บาท

Lexus NX

Lexus-NX

Lexus NX (เลกซัส เอ็นเอ็กซ์) รุ่นไมเนอร์เชนจ์ มาภายใต้แนวคิด “The urbaNXplorer” ตอบโจทย์ความต้องการของคนเมืองยุคใหม่ ที่มีวิถีชีวิตไม่ซ้ำใคร ถือเป็นรถ Lexus รุ่นที่ขายดีที่สุดของเลกซัสในประเทศไทย นับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2557 จนถึงปัจจุบัน ด้วยยอดจำหน่ายรวมภายในประเทศกว่า 1,400 คัน พร้อมการันตีถึงความนิยมด้วยยอดจำหน่ายสะสมทั่วโลก กว่า 400,000 คัน

มาพร้อมกับระบบเครื่องยนต์ 2 ทางเลือก ไม่ว่าจะเป็น ระบบ Hybrid ขนาด 2.5 ลิตร ในรุ่น NX300h เต็มสมรรถนะและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยระบบ Lexus Hybrid Drive อัจฉริยะ และขุมพลังเครื่องยนต์ Turbo 4 สูบแถวเรียง ขนาด 2.0 ลิตร ในรุ่น NX300 ให้สมรรถนะแรงเต็มพลังในทุกระดับความเร็ว

ราคาของ Lexus NX ใหม่

NX300
– รุ่น F Sport แบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ราคา 4,450,000 บาท
– รุ่น Grand Luxury ราคา 3,440,000 บาท

NX300h
– รุ่น F Sport ราคา 4,050,000 บาท
– รุ่น Premium ราคา 3,550,000 บาท
– รุ่น Grand Luxury ราคา 3,140,000 บาท
– รุ่น Luxury ราคา 2,930,000 บาท

Subaru XV

Subaru-XV

Subaru XV (ซูบารุ เอ็กซ์วี) รถ Crossover ที่เคยสร้างกระแสความนิยมในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และสร้างยอดขายให้กับ Motorimage ผู้นำเข้ารถยนต์ซูบารุในบ้านเราได้มากพอสมควร ถึงเวลาเปลี่ยนโฉมใหม่ตามญี่ปุ่น พัฒนาขึ้นบนแพล็ตฟอร์มล่าสุด “Subaru Global Platform” ร่วมกันกับ Impreza ใหม่ คาดว่ามาพร้อมเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ส่งกำลังผ่านเกียร์ CVT แบบ 7 สปีด เตรียมเปิดตัวในงาน Motor Expo 2017 นี้

Subaru XV ใหม่ ใช้เครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร รหัส FB20 แบบ Boxer 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว พัฒนาขึ้นใหม่กว่า 80% เพิ่มกำลังอัดเป็น 12.5:1 (จากเดิม 10.5:1) ให้แรงม้าสูงสุด 156 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 196 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT แบบ 7 สปีด พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Symmetrical AWD และระบบ X-Mode สำหรับส่งถ่ายกำลังขับเคลื่อน 4 ล้อ

ราคาของ Subaru XV ใหม่

– รุ่น 2.0i ราคา 1,159,000 บาท
– รุ่น 2.0i-P ราคา 1,259,000 บาท

MG ZS

MG-ZS

MG (เอ็มจี) ประเทศไทย เปิดตัว MG ZS (เอ็มจี แซดเอส) รูปลักษณ์ของ New MG ZS ได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิดบริท ไดนามิค (Brit Dynamic) ที่มีความทันสมัยมากขึ้นและสปอร์ตยิ่งกว่าเดิม พร้อมชูจุดเด่นรถยนต์รุ่นแรกของเอ็มจี ที่มาพร้อมกับระบบอัจฉริยะ i-SMART มีระบบ Voice Command ภาษาไทย

New MG ZS ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซินรุ่นใหม่ รหัส 15S4C ขนาด 1.5 ลิตร แบบ 4 สูบ DOHC VTi-TECH ให้แรงม้าสูงสุด 114 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 150 นิวตันเมตร ที่ 4,500 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด พร้อม Manual Mode

ราคาของ MG ZS ใหม่

– รุ่น C ราคา 679,000 บาท
– รุ่น D ราคา 729,000 บาท
– รุ่น X ราคา 789,000 บาท

BMW X3

BMW-X3

BMW X3 (บีเอ็มดับบลิว เอ็กซ์3) ใหม่ เป็นเจเนอเรชั่นที่สาม รูปลักษณ์แข็งแกร่งแบบออฟโรดเข้ากับความสปอร์ต ออกแบบเพื่อรองรับการกระจายน้ำหนักแบบ 50:50 ระหว่างเพลาหน้าและหลังเป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบ

BMW X3 ใหม่ มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ BMW TwinPower Turbo ทำงานประสานเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด Streponic เครื่องยนต์ให้แรงม้าสูงสุด 190 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ส่งให้ BMW X3 xDrive20d xLine ใหม่ เร่งเครื่องจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 8 วินาที ก่อนที่จะพุ่งทะยานทำความเร็วสูงสุดที่ 213 กม./ชม. ด้านอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงอยู่ที่ 17.6 กม./ลิตร และอัตราการปล่อย CO2 ที่ 150 กรัม/กม.

BMW X3 xDrive20d xLine ใหม่ ราคา 3,699,000 บาท

Volvo XC60

Volvo-XC60

Volvo XC60 (วอลโว่ เอ็กซ์ซี60) รถ SUV พรีเมี่ยมขนาดกลาง มาพร้อมไฟหน้า LED รูปทรง Thor’s Hammer เอกลักษณ์ของวอลโว่ พร้อมโลโก้ Iron Mark บนกระจังหน้า ชุดไฟหน้ามาพร้อมระบบ Active High Beam ปรับระดับและลดความสว่างของไฟหน้าลงอัตโนมัติเมื่อมีรถสวนมา ที่ปัดน้ำฝนแบบใหม่พร้อมที่ฉีดน้ำในก้านปัด หลังคาแบบ Panoramic ประตูท้ายเปิด-ปิดโดยไม่ต้องใช้มือเปิด ที่เก็บสัมภาระพร้อม Private Locking และกล้องช่วยจอด 360 องศา เป็นต้น

เครื่องยนต์ของ Volvo XC60 ใช้เครื่องยนต์ T8 Twin Engine AWD Plug-in Hybrid ทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบชาร์จและซุปเปอร์ชาร์จ พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า ให้แรงม้าสูงสุด 407 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 640 นิวตัน-เมตร สามารถวิ่งด้วยไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว (Pure Mode) ได้ระยะทางถึง 44.92 กิโลเมตร

นอกจากนี้ ยังมีเครื่องยนต์ดีเซล D4 AWD ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 4,250 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ที่ 1,750-2,500 รอบ/นาที อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 8.4 วินาที อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 17.9 กม./ลิตร

ราคาของ Volvo XC60 ใหม่

– D4 AWD Momentum ราคา 3,090,000 บาท
– T8 AWD Momentum ราคา 3,290,000 บาท
– T8 AWD R-Design ราคา 3,590,000 บาท

Daihatsu-Hijet-Atrai-Wagon

Daihatsu-Hijet-Cargo

Daihatsu-Atrai-Wagon

“Daihatsu Hijet Cargo” (ไดฮัทสุ ไฮเจ็ท คาร์โก้) และ “Daihatsu Atrai Wagon” (ไดฮัทสุ อาไตรย์ แวกอน) ถึงเวลาปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ใหญ่ ขวัญใจคนรักรถตู้เล็ก โดยเปิดตัวไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ที่ญี่ปุ่น รวมไปถึงคู่แฝดอย่าง Toyota Pixis Van ก็ปรับโฉมตามไปด้วยเช่นกัน

Daihatsu-Hijet-Cargo

สำหรับ “Daihatsu Hijet Cargo” (S321/S331) เจเนอเรชั่นที่ 10 นี้ แม้ว่าจะผลิตขายกันตั้งแต่เดือนธันวาคม 2004 แล้ว ถึงเวลาพลิกโฉมครั้งใหญ่ทั้งภายนอกและภายใน ให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้น และ “Daihatsu Atrai Wagon” (S321G/S331G) เจเนอเรชั่นที่ 5 ก็พร้อมเปลี่ยนโฉมไปด้วยพร้อมกัน

Daihatsu-Hijet-Cargo

ภายนอกของรุ่น Hijet Cargo

Daihatsu-Atrai-Wagon

ภายนอกของรุ่น Atrai Wagon

Daihatsu-Hijet-Cargo

ทั้ง 2 รุ่น มาพร้อมบุคลิกหน้าตาที่ดูคล้ายกับหุ่นยนต์ ชุดไฟหน้าพร้อมไฟแบบ LED คู่ไปกันชุดกันชนหน้าที่ออกแบบใหม่เป็น 3 ส่วน เพื่อสะดวกในการเปลี่ยนเวลาชนถูกเฉพาะจุด และไฟตัดหมอกขนาดเล็กติดตั้งด้านล่าง พร้อมชุดไฟท้ายปรับรูปแบบใหม่เล็กน้อย

Daihatsu-Hijet-Cargo

Daihatsu-Hijet-Cargo

ภายในของรุ่น Hijet Cargo

Daihatsu-Atrai-Wagon

Daihatsu-Atrai-Wagon

ภายในของรุ่น Atrai Wagon

ห้องโดยสารภายใน ปรับปรุงแผงคอนโซลหน้าให้ดูเหลี่ยมขึ้น ปรับปรุงจุดเก็บของต่างๆ ให้ดูอเนกประสงค์และสะดวกต่อการใช้งานมากยิ่งขึ้น ในรุ่น Hijet Cargo เน้นการใช้งานเป็นหลัก ส่วนในรุ่น Atrai มาพร้อมความหรูหราเต็มที่ เพิ่มระบบแอร์ดิจิตอล หน้าปัดแสดงผลแบบแพรวพราว

Daihatsu-Hijet-Cargo Daihatsu-Hijet-Cargo

ในส่วนของระบบความปลอดภัย ถือเป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ ที่ ไดฮัทสุ ได้เพิ่มระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ Smart Assist III เข้ามาใน Hijet Cargo และใน Atrai Wagon ประกอบไปด้วย ระบบ Autonomous Emergency Braking หยุดรถอัตโนมัติในกรณีที่อาจเกิดการชน ทำงานร่วมกับระบบ Pedestrian Detection ตรวจจับคนเดินถนนโดยอาศัยกล้องหน้าแบบ 3 มิติหรือ Stereo Camera เข้ามาช่วย, ระบบ Lane Departure Warning เตือนเมื่อรถออกนอกเลนโดยไม่ตั้งใจ, ระบบ False Start Suppression Control ป้องกันการเข้าเกียร์เดินหน้า-ถอยหลัง ผิด ขณะออกตัว, ระบบ Automatic High Beam ลดไฟสูงอัตโนมัติ และระบบ Vehicle Start Warning ส่งสัญญาณเตือนผู้ขับเมื่อรถด้านหน้าออกตัวหลังจากได้รับสัญญาณไฟเขียวโดยเพิ่มความสามารถในการหลีกเลี่ยงการชนคนเดินเท้า เป็นต้น

Daihatsu-Hijet-Cargo-Engine

สำหรับเครื่องยนต์ … มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 660 ซีซี รหัส KF แบบ 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว ให้แรงม้าสูงสุด 53 แรงม้า (PS) ที่ 7,200 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 6.1 กก.-ม. (60 นิวตันเมตร) ที่ 4,000 รอบ/นาที ให้อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง (ตามโหมด JC08) สูงสุด 18.8 กม./ลิตร ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด

ในส่วนของแบบ Turbo เครื่องยนต์เป็นแบบ 660 ซีซี รหัส KF แบบ 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว Turbo ให้แรงม้าสูงสุด 64 แรงม้า (PS) ที่ 5,700 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 9.3 กก.-ม. (91 นิวตันเมตร) ที่ 2,800 รอบ/นาที ให้อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง (ตามโหมด JC08) เพียงแค่ 17.8 กม./ลิตร ในรุ่น 2WD และ 16.6 กม./ลิตร ในรุ่น 4WD ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด

และรุ่น Atrai เครื่องยนต์เป็นแบบ 660 ซีซี รหัส KF แบบ 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว Turbo ให้แรงม้าสูงสุด 64 แรงม้า (PS) ที่ 5,700 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 9.3 กก.-ม. (91 นิวตันเมตร) ที่ 2,800 รอบ/นาที ให้อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง (ตามโหมด JC08) เพียงแค่ 15.2 กม./ลิตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด เท่านั้น

Daihatsu-Hijet-Cargo

มีให้เลือกใน 10 รุ่นย่อย ได้แก่ Special, Special “SA III”, Special Clean, Special Clean “SA III”, Deluxe, Deluxe “SA III”, Cruise, Cruise “SA III”, Cruise Turbo และ Cruise Turbo “SA III” ในราคาตั้งแต่ 934,200 – 1,522,800 เยน

Daihatsu-Atrai-Wagon

และในส่วนของ Atrai มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย ได้แก่ Custom Turbo RS “Limited SA III” และ Custom Turbo RS “SA III” โดยมีให้เลือกทั้งในแบบรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า และรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ ในราคาตั้งแต่ 1,533,600 – 1,814,400 เยน

Daihatsu-Atrai-Wagon

ส่วนในไทย โอกาสที่จะนำเข้ามาขายนั้น คงบอกได้แต่เพียงว่า ต้องพึ่งผู้นำเข้าอิสระอย่างเดียว แต่จะใครซื้อหรือไม่ อันนี้ไม่รู้ครับ เพราะราคารวมภาษีแล้ว คงเกือบหนึ่งล้านบาท ในรุ่น Hijet Cargo และราคาประมาณหนึ่งล้านกว่าบาท สำหรับในรุ่น Atrai …

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก http://www.daihatsu.co.jp/

Lexus-LS

Lexus-LS

Lexus LS (เลกซัส แอลเอส) ใหม่ นับเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 5 พัฒนาขึ้นโดยผสมผสานรูปลักษณ์และเสน่ห์แห่งยนตกรรมแถวหน้าที่หรูหรา ผ่านมาตรฐานฝีมือการผลิต และความเอาใจใส่ขั้นสูงแบบญี่ปุ่น ที่ขึ้นชื่อถึงความปราณีต และพิถีพิถัน (Takumi Craftsmanship) จึงสะท้อนถึงขนบธรรมเนียมในการต้อนรับ และการบริการแบบญี่ปุ่นที่เรียกว่า “Omotenashi” ด้วยการทำให้ทุกรายละเอียดของยนตกรรมนี้ นำมาซึ่งบรรยากาศแห่งความสงบและผ่อนคลาย ในราคาเริ่มต้นที่ 11,530,000 บาท สำหรับ LS 350 รุ่น Luxury …

Lexus LS ได้รับการแนะนำเข้าสู่ตลาดรถยนต์ระดับหรูครั้งแรกในประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อปี 2532 ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า โดยเลกซัส LS เป็นที่ยอมรับด้านคุณภาพจากทั่วโลก และเด่นชัดด้วยยอดขายรวมจนถึงปัจจุบันกว่า 570,000 คัน* ในประเทศสหรัฐอเมริกา และมากกว่า 800,000 คัน* ทั่วโลก (ข้อมูล ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2560)

เลกซัส LS ใหม่ เผยโฉมเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนมกราคม 2560 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา และสำหรับประเทศไทย ถือเป็นประเทศแรกใน ASEAN ที่เปิดตัว เลกซัส LS ใหม่ ให้ลูกค้าชาวไทยได้สัมผัส

Lexus-LS

“Lexus LS400 เปิดตัวสู่ตลาดในประเทศไทยเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2535 ณ เวลานั้น เลกซัสดึงความสนใจจากกลุ่มลูกค้าชาวไทยที่มีมุมมองในการแสวงหาความแตกต่างเพื่อรถระดับหรูที่ดีที่สุดท่ามกลางตัวเลือกอื่น ปัจจุบัน เลกซัส ได้รับความไว้วางใจและเป็นที่รักของกลุ่มคนไทยที่รับรู้ถึงความน่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์ ถือว่าเป็น “แฟนพันธุ์แท้ของเลกซัส LS” ซึ่งปัจจุบันมีมากกว่า 700 คน

Lexus-LS

เลกซัส LS เจนเนอเรขั่นที่ 5 พัฒนาขึ้น เพื่อสร้างนิยามใหม่แห่งความหรูหรา โดยคงไว้ซึ่ง DNA ของเลกซัส LS รุ่นแรก และได้ให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับสุนทรียภาพการขับขี่อันยอดเยี่ยม ด้วยการออกแบบให้คงความเป็น LS แบบดั้งเดิม แต่เพิ่มความประทับใจในการออกแบบด้านอารมณ์ความรู้สึกเพื่อกระตุ้นทุกโสตสัมผัส โดยเลกซัส LS นับเป็นรุ่นเรือธงที่รวมนวัตกรรมด้านยานยนต์ของเลกซัส เป็นตัวตนที่เหนือกว่ายานยนต์ระดับหรูแบบเดิมอย่างสิ้นเชิง ภายใต้หลักการพัฒนา 4 จุดหลัก ดังนี้

Lexus-LS

“การออกแบบที่กล้าจะแตกต่าง” (Brave Design): โดดเด่นด้วยการออกแบบภายนอกที่เร่งเร้าและดุดัน มาพร้อมเส้นสายโฉบเฉี่ยวเฉพาะตัว ห้องโดยสารภายในหรูหราเหนือระดับ ให้ความ สำคัญสูงสุดสำหรับความสะดวกสบายของผู้โดยสารตอนหลัง
“ความปราณีตและความพิถีพิถัน” (Takumi Craftsmanship): สะท้อนผ่านการออกแบบที่ผสานความงดงามแห่งศิลปะดั้งเดิมของญี่ปุ่นกับเทคโนโลยีการผลิตอันก้าวล้ำ ละเมียดละไมในทุกรายละเอียดประดุจงานหัตถศิลป์ชั้นสูง
“สมรรถนะที่เร้าใจ” (Exhilarating Performance): แรงเต็มสมรรถนะด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ 3 รูปแบบ อัตราเร่งนุ่มนวลตอบสนองความรู้สึกผู้ขับขี่ ควบคุมการทรงตัวได้อย่างมั่นใจ และตัวถังรถพัฒนาอย่างสมบูรณ์ เพื่อการขับขี่ที่รื่นรมย์
“เทคโนโลยีแห่งอนาคต” (Imaginative Technology): ครบครันและล้ำหน้าด้วยเทคโนโลยีระดับสูง เติมเต็มสุนทรียภาพความบันเทิงด้วยเครื่องเสียง Mark Levinson และมั่นใจสูงสุดด้วยระบบความปลอดภัย Lexus Safety System Plus

Lexus-LS

Lexus LS เจนเนอเรชั่นที่ 5 มาพร้อมกับระบบเครื่องยนต์ 3 ทางเลือก ไม่ว่าจะเป็น ระบบไฮบริด เครื่องยนต์ V6 ขนาด 3.5 ลิตร ในรุ่น LS 500h ให้แรงม้าสูงสุด 299 แรงม้า เต็มสมรรถนะยิ่งขึ้นและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่มาพร้อมกับชุดเกียร์ใหม่ Lexus Multi Stage Hybrid สุดยอดนวัตกรรมที่จะทำให้เครื่องไฮบริดขับสนุกเร้าใจยิ่งขึ้น

อีกทั้งเครื่องยนต์ใหม่แบบเทอร์โบชาร์จคู่ V6 ขนาด 3.5 ลิตร ในรุ่น LS 500 ให้แรงม้าสูงสุด 421 แรงม้า มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ Direct Shift 10 ระดับ ตอบสนองสุนทรียะด้านการขับขี่สูงสุด

และ เครื่องยนต์ V6 ขนาด 3.5 ลิตร ในรุ่น LS 350 ให้แรงม้าสูงสุด 315 แรงม้า ให้ความนุ่มนวลตลอดการขับขี่

เลกซัส LS ใหม่ จะจัดแสดงและเปิดตัวอย่างเป็นทางการภายในงาน ไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ เอ็กซ์โป ครั้งที่ 34 ซึ่งผู้ที่จอง LS ใหม่ภายในงาน จะได้รับสิทธิ์เข้าร่วมทริป Lexus Test Drive The World และเนื่องด้วยเลกซัส LS คือต้นกำเนิดของประวัติศาสตร์เลกซัสด้วย

Lexus-LS

สำหรับกลยุทธ์ที่ 2 คือ การสร้างความประทับใจที่เหนือความคาดหมายให้กับลูกค้าคนสำคัญของเรา โดยหากลูกค้าท่านใดที่สนใจซื้อ LS ใหม่ เราจะมีบริการให้ทดลองขับส่งตรงถึงหน้าบ้าน ทั้งนี้ เลกซัสยังคงไว้ซึ่งการต้อนรับและบริการที่อบอุ่นแบบญี่ปุ่น หรือ Omotenashi โดยใส่ใจในรายละเอียดของการดูแลลูกค้าอย่างพิถีพิถัน อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเลกซัส และทำให้เลกซัสแตกต่างจากแบรนด์รถหรูทั่วๆไป

Lexus-LS

Lexus LS ใหม่ มีสีภายนอกให้เลือกมากถึง 11 สี พร้อมสีใหม่ 2 สี ได้แก่ สี Manganese Luster และ สี Sonic Agate ด้วยทั้งหมดที่กล่าวมาทำให้เลกซัส LS เจเนอเรชั่นที่ 5 คือยานยนต์ที่บ่งบอกตัวตนที่แตกต่างและยากจะเทียบเทียมของผู้ครอบครอง จึงเป็นที่มาของการสื่อสารภายใต้แนวคิด Amazing Statement

เลือกเป็นเจ้าของความหรูหรา สมบูรณ์แบบ…ของ เลกซัส LS ใหม่
สีภายนอก
– Sonic Quartz
– Sonic Silver
– Sonic Titanium
– Manganese Luster สีใหม่
– Black
– Graphite Black Glass Flake
– Red Mica Crystal Shine
– Sonic Agate สีใหม่
– Sleek Ecru Metallic
– Amber Crystal Shine
– Deep Blue Mica

Lexus-LS

สีภายในห้องโดยสาร
LS500h รุ่น Executive Pleat
– Black with Kiriko (Cut Glass)
– Crimson & Black with Kiriko (Cut Glass)

LS500h รุ่น Executive
– Black with Art wood (Organic)
– Crimson & Black with Art wood (Herringbone)

LS350 รุ่น Luxury
– Black with Shimamoku
– Topaz Brown with Walnut (Open Pore)

วัสดุแผงข้างประตู
– Kiriko (Cut Glass)
– Art wood (Organic)
– Art wood (Herringbone)
– Shimamoku
– Walnut (Open Pore)

ราคา เลกซัส LS ใหม่ ทั้ง 4 รุ่น / Lexus LS Price, Shown in Thai Baht.

– LS500h รุ่น Executive Pleat ราคา 15,830,000 บาท
– LS500h รุ่น Executive ราคา 14,500,000 บาท
– LS500 รุ่น Executive ราคา 13,080,000 บาท
– LS350 รุ่น Luxury ราคา 11,530,000 บาท

Lexus-LS