Isuzu-D-Max-X-Series-2018

ในโอกาสก้าวสู่ปี 2561 นี้ อีซูซุ แนะนำยนตรกรรมใหม่ เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับลูกค้าชาวไทย

Isuzu-D-Max-Hi-Lander-4-DR-Front

“ใหม่! อีซูซุ เอ็กซ์-ซีรี่ส์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์” แรงขีดสุด…เต็มสปีดพันธุ์เอ็กซ์ ไลฟ์สไตล์ปิกอัพเพื่อคนสายพันธุ์สปอร์ต ปรับโฉมใหม่เพิ่มเอกลักษณ์ให้โดดเด่นยิ่งขึ้น ทั้งภายนอกและภายใน มีให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น Speed สปอร์ตเข้าถึงจิตวิญญาณชาวเรซซิ่ง

และครั้งแรกกับทางเลือก ใหม่! Speed Cab4 ปิกอัพสปอร์ต 4 ประตูของคนพันธุ์เท่ พร้อมด้วยรุ่น Hi-Lander สปอร์ตพรีเมี่ยม เท่ หรูหรามีสไตล์ดุจรถยนต์นั่ง ราคาจำหน่าย 742,000 – 966,000 บาท

“ใหม่! อีซูซุ เอ็กซ์-ซีรี่ส์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์” เริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ ศกนี้ ณ โชว์รูมอีซูซุทั่วประเทศ

Isuzu-X-Series-2018

“ใหม่! อีซูซุ เอ็กซ์-ซีรี่ส์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์” แรงสุดขีด…เต็มสปีดพันธุ์เอ็กซ์”

ไลฟ์สไตล์ปิกอัพ เพื่อคนสายพันธุ์สปอร์ต เพื่อการขับขี่แบบเรซซิ่งพันธุ์แท้ ภายนอกโดดเด่น สะกดทุกสายตา และดีไซน์ภายในสีดำ-แดง ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

– อีซูซุ เอ็กซ์-ซีรี่ส์ รุ่น Speed ตอบรับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ สู่อีกระดับของขุมพลังสปอร์ตที่ไร้ขีดจำกัด

Isuzu-D-Max-Speed-2-DR-Front

– ชุดแต่งดีไซน์ใหม่! ที่มาพร้อมกระจังหน้า ชุดแต่งสเกิร์ตรอบคัน และสติกเกอร์คาดหน้า-หลัง พร้อมสัญลักษณ์ X ดึงดุดทุกสายตาด้วยเส้น Red Line สีแดงสุดสปอร์ต ดีไซน์ต่อเนื่องรับกับไฟหน้าและเส้นสปีดสีแดงยาวรอบคัน พร้อมสัญลักษณ์ Isuzu สีแดง

– ใหม่! ไฟหน้าแบบ Bi-LED ปรับความสูงต่ำได้ 4 ระดับ พร้อม Multifunctional Daylight แบบ Built-in ดีไซน์ใหม่ เป็นทั้งไฟส่องสว่างเวลากลางวัน และไฟหรี่เวลากลางคืน

Isuzu-D-Max-Speed-2-DR

– ใหม่! เสาข้างประตูสีดํา Blackout Film ในรุ่น Speed Cab4

– ใหม่! ล้ออัลลอยดีไซน์ล่าสุด สีเทาดำ ขนาด 16 นิ้ว

Isuzu-D-Max-Int-Speed-2-DR

– ใหม่! เบาะนั่งสีดำแดง โอบกระชับ ดีไซน์สปอร์ต ลวดลาย Honeycomb พร้อมสัญลักษณ์ X ที่เบาะคู่หน้า

– ดีไซน์ห้องโดยสารใหม่! ด้วยชุดตกแต่งสีดำ Piano Black Style และผิวสัมผัส Soft Touch เดินด้ายสีแดงสุดสปอร์ต ลงตัวกับชุดโครเมี่ยมประดับช่องแอร์และที่เปิดประตูด้านใน พร้อมสัญลักษณ์ X-Series บนแถบสีแดงสุดเท่ที่คอนโซลหน้า และชุดตกแต่งแผงข้างประตูสีแดงลวดลาย Honeycomb สุดสปอร์ต

Isuzu-D-Max-Int-Speed-2-DR-คอนโซล

ชัดเจนด้วยหน้าปัด Super Vision ดีไซน์แบบ 3D Shape Point พร้อมหน้าจอ Color Display MID เทคโนโลยีล่าสุด และฟังก์ชั่นครบครัน พวงมาลัย Multifunction ดีไซน์หุ้มหนังเดินด้ายแดง พร้อมสัญลักษณ์ Isuzu สีแดง ควบคุมเครื่องเสียงและสั่งการจากบนพวงมาลัย ช่อง USB ชาร์จไฟ 2 จุด หน้า-หลัง ในรุ่น Speed Cab4 และ 1 จุดในรุ่น Speed ระบบ Bluetooth เชื่อมต่อระบบโทรศัพท์ พร้อมฟังก์ชั่น Bluetooth Audio กระหึ่มไปกับ Isuzu Surround Sound System ให้มิติเสียงสมจริงกระหึ่มรอบทิศทาง สูงสุดถึง 6 ลําโพง เติมมิติเสียงให้เต็มอารมณ์สปอร์ตยิ่งขึ้น

Isuzu-D-Max-Hi-Lander-2-DR--Front

– อีซูซุ เอ็กซ์-ซีรี่ส์ รุ่น Hi-Lander เติมไลฟ์สไตล์สปอร์ตให้เต็มพลัง ด้วยความหรูหรา เท่แบบมีสไตล์

– ชุดแต่งดีไซน์ใหม่! ที่มาพร้อมกระจังหน้าสุดสปอร์ต ออกแบบลงตัวรับกับสเกิร์ตหน้าดีไซน์เท่ ด้วยกันชนหน้าสีเทาดำ Front Bumper Garnish ที่ตัดรับกับเส้น Red Line สีแดงสุดสปอร์ต ดีไซน์ยาวต่อเนื่องรับกับไฟหน้าอย่างลงตัว มาพร้อมสติกเกอร์ดีไซน์เท่คาดหน้า-หลัง และสัญลักษณ์ Isuzu สีแดง

– ใหม่! ชุดไฟตัดหมอกสีเดียวกับตัวรถ พร้อมกรอบสีเทาดำ

Isuzu-D-Max-Hi-Lander-2-DR

– สปอร์ตบาร์ดีไซน์ใหม่! สีทูโทน

– ใหม่! ไฟหน้าแบบ Bi-LED ปรับความสูงต่ำได้ 4 ระดับ พร้อม Multifunctional Daylight แบบ Built-in ดีไซน์ใหม่ เป็นทั้งไฟส่องสว่างเวลากลางวัน และไฟหรี่เวลากลางคืน

– ใหม่! เสาข้างประตูสีดํา Blackout Film เสริมความพรีเมี่ยมในรุ่น 4 ประตู

– บันไดข้างดีไซน์ใหม่ แบบชิ้นเดียว พร้อมตกแต่งด้วยขอบสีเงิน

– ล้ออัลลอยทูโทนดีไซน์ใหม่! ขนาด 18 นิ้ว ในรุ่น 4 ประตู

Isuzu-D-Max-Int-Hi-Lander-4-DR---คอนโซล

– ใหม่! เบาะนั่งกึ่งหนังแท้ดีไซน์หรู แบบ Double Layer เดินด้ายสีแดงดูสปอร์ตพรีเมี่ยม พร้อมสัญลักษณ์ X-Series ที่เบาะคู่หน้า

– ดีไซน์ห้องโดยสารใหม่! ด้วยชุดตกแต่งสีดำ Piano Black Style และผิวสัมผัสใหม่ Soft Touch เดินด้านสีแดงสุดสปอร์ต หรูหราลงตัวกับชุดโครเมียมประดับช่องแอร์ และที่เปิดประตูด้านใน พร้อมสัญลักษณ์ X-Series ที่คอนโซลหน้า

Isuzu-D-Max-Int-Hi-Lander-4-DR

หน้าปัด Super Vision ดีไซน์แบบ 3D Shape Point พร้อมหน้าจอ Color Display MID ฟังก์ชั่นครบครัน พวงมาลัย Multifunction ดีไซน์หุ้มหนัง เดินด้ายแดง พร้อมสัญลักษณ์ Isuzu สีแดง ควบคุมเครื่องเสียงและสั่งการจากบนพวงมาลัย ในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control ที่สุดของความสะดวกสบายในทุกการเดินทาง Isuzu Media Solution หน้าจอระบบสัมผัสขนาดใหญ่ 7 นิ้ว เชื่อมต่ออุปกรณ์บันเทิงได้หลากหลาย พร้อมระบบบลูทูธ กระหึ่มไปกับ Isuzu Surround Sound System ให้มิติเสียงสมจริงกระหึ่มรอบทิศทาง สูงสุดถึง 8 ลําโพง เติมมิติเสียงให้เต็มอารมณ์สปอร์ตยิ่งขึ้นในรุ่น 4 ประตู

ทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมขุมพลังสปอร์ตสไตล์เอ็กซ์ เครื่องยนต์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ และระบบส่งกำลังสไตล์สปอร์ตโดยทั้งรุ่นเกียร์ออโตเมติก 6 สปีด แบบ Rev Tronic และรุ่นเกียร์ธรรมดา 6 สปีด มาพร้อมโอเวอร์ไดร์ฟ 2 ตำแหน่งที่เกียร์ 5 และ 6

รุ่น Speed และ Speed Cab4 มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ ใหม่! แดงเอทนา ไมก้า (Etna Mica Red) ขาวไซบีเรียน (Siberian White) และ ดำออสเตรเลียนโคล (Australian Coal Black) ส่วนรุ่น Hi-Lander 4 ประตู และ 2 ประตู มีให้เลือก 2 สี ขาวมุกเอเวอเรสต์ (Everest Pearl White) และ ดำออสเตรเลียนโคล (Australian Coal Black)

ราคา

Isuzu D-Max X-Series Speed 1.9 Ddi Blue Power 2 ประตู ราคา 742,000 บาท
Isuzu D-Max X-Series Speed 1.9 Ddi Blue Power Cab 4 ราคา 836,000 บาท

Isuzu D-Max X-Series Hi-Lander 1.9 Ddi Blue Power 2 ประตู รุ่น Z DVD ราคา 835,000 บาท
Isuzu D-Max X-Series Hi-Lander 1.9 Ddi Blue Power 4 ประตู รุ่น Z DVD ราคา 934,000 บาท
Isuzu D-Max X-Series Hi-Lander 1.9 Ddi Blue Power 4 ประตู รุ่น Z DVD A/T ราคา 959,000 บาท

Chevrolet-Colorado-2019

ดุดัน บึกบึน แข็งแกร่ง ตามสไตล์กระบะอเมริกันไซส์ยักษ์

2019-Chevrolet-Silverado-1500-Work-Truck

Chevrolet Silverado (เชฟโรเลต ซิลเวอร์ราโด) จัดเป็นรถกระบะขนาด Full-Size สไตล์อเมริกันพันธุ์แท้ ที่พัฒนามาเพื่อชนกับคู่ปรับตลอดกาลอย่าง Ford F-150 และ RAM 1500 เป็นต้น รวมไปถึงยังพัฒนามาเป็นคู่แฝดกับ GMC Sierra โดยในโฉมใหม่นี้ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่งาน Detroit Auto Show 2018 (NAIAS 2018)

แม้ว่า Chevrolet จะจัดพรีวิว Silverado ใหม่ ในงานจัดแสดงรถรุ่นพิเศษในกลุ่ม Centennial Edition ฉลอง 100 ปี การผลิตปิคอัพที่รัฐเท็กซัส วันที่ 16 ธันวาคมปีที่ผ่านมา แต่รายละเอียดหลักๆ ก็เพิ่งจะเผยโฉมในงานเมื่อไม่กี่วันมานี้นี่เอง

2019-Chevrolet-Silverado-1500

ในโฉมใหม่นี้ปรับรูปโฉมการออกแบบใหม่หมดจด ขยายตัวรถให้ใหญ่ขึ้น ความยาวตัวรถเพิ่มขึ้น 1.6 นิ้ว และระยะฐานล้อเพิ่มขึ้น 3.9 นิ้ว พัฒนาให้มีน้ำหนักเบาลงถึง 450 ปอนด์ (ประมาณ 204 กิโลกรัม) ด้านหน้าโดนเด่นด้วยชุดไฟหน้าแบบ LED แบ่งออกเป็น 2 ส่วน พร้อมกระจังหน้าที่ออกแบบใหม่ ดูรับกับชุดกันชนด้านล่าง พร้อมไฟตัดหมอก และตะขอลากจูงบริเวณด้านหน้า รับกับเส้นสายตัวรถด้านข้าง ชุดไฟท้ายแบบสี่เหลี่ยมสองก้อน ดูโดดเด่น และท่อไอเสียคู่

2019-Chevrolet-Silverado-Interior

ห้องโดยสารภายในเน้นความเหลี่ยมบึกบึนสไตล์อเมริกัน จัดปุ่มควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ ให้ใช้งานได้อย่างลงตัวและสะดวกสบาย

2019-Chevrolet-Silverado-Aero

Chevrolet Silverado ใหม่ มาพร้อมเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซล Duramax แบบ 6 สูบแถวเรียง ขนาด 3.0 ลิตรใหม่ พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ที่พัฒนาร่วมกับระหว่าง GM กับ Ford รวมไปถึงเครื่องยนต์เบนซิน V8 เจนเนอเรชั่นที่ 2 มีให้เลือกทั้งขนาด 5.3 ลิตร และ 6.2 ลิตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ซึ่งมีระบบ Dynamic Fuel Management System สามารถตัดการทำงานของลูกสูบถึง 7 ตัวได้ เมื่อไม่จำเป็น

2019-Chevrolet-Silverado-1500-Trail-Boss

Chevrolet Silverado ใหม่ นำเสนอในหลายรุ่นย่อย ทั้งแบบกระบะตอนเดียว กระบะแค็บ 2 ประตู กระบะ 4 ประตู โดยมีให้เลือกตั้งแต่กระบะบรรทุกธรรมดา จนไปถึงรุ่นสูงๆ อย่าง LT, RST, LTZ และรุ่น Top สุดอย่าง LT Trail Boss หรือ High Country รวมไปถึงรุ่นใหญ่ยักษ์อย่าง 4500HD หรือ 5500 Medium-Duty Trucks เป็นต้น

2019-Chevrolet-Silverado-1500-High-Country

สำหรับในบ้านเรา คงไม่ต้องลุ้นครับ เพราะไม่มีนำเข้ามาขายอยู่แล้วแน่นอน

Mugen-Civic

ชุดแต่งสุดแรง สำหรับ Civic Hatchback โดย MUGEN

Mugen-Civic-Hatchback Mugen-Civic-Hatchbackสำนักแต่ง Mugen เปิดตัวชุดแต่งสำหรับ Honda Civic Hatchback ในงาน Tokyo Auto Salon 2018 และพร้อมจำหน่ายจริงแล้ว ที่ญี่ปุ่น ซึ่งพาร์ทบางชิ้น สามารถใส่ร่วมกับ Civic Type R ได้ด้วยครับ

Mugen-Civic-Hatchback

Mugen-Civic-Hatchback

ชุดแต่ง Mugen ของ Civic Hatchback สำหรับตัวรถประกอบด้วย กระจังหน้าลายคาร์บอนเคฟลาร์, แผ่นตกแต่งกันชนหน้า, สปอยเลอร์ใต้กันชนหน้า, สเกิร์ตข้าง, สปอยเลอร์หลังแบบ 3 ชิ้น, สปอยเลอร์หลังคา โดยสามารถเลือกซื้อเป็นชุด 3 ชิ้น ประกอบด้วย สปอยเลอร์หน้า, สปอยเลอร์หลัง และสเกิร์ตข้าง ได้เช่นกัน และยังมีล้อแม็ก Mugen สีทูโทน รุ่น MDC ขนาด 19 นิ้ว หรือรุ่น MDA ขนาด 19 นิ้ว ให้เลือกซื้อไปใส่เพิ่มเติมอีกด้วย

Mugen-Civic-Hatchback

ห้องโดยสารภายใน มีเฉพาะปุ่มกดสตาร์ทเครื่องยนต์ Logo Mugen ภาษาญี่ปุ่น เพลทตกแต่งภายใน และชุดพรมปูพื้น ที่สำคัญ … ทาง Mugen เตรียมส่งพาร์ทเพิ่มสมรรถนะออกมาในเร็วๆ นี้ อาทิ ท่อไอเสียแบบสปอร์ต, ชุดเบรกแบบสปอร์ต รวมถึงด้ามเกียร์ธรรมดาแบบ Quick Shift และกระจกมองข้างตัดแสงอัตโนมัติ เป็นต้น

Mugen-Civic-Hatchback

โดยชุดแต่ง Honda Civic Hatchback 2018 จาก Mugen พร้อมส่งมอบถึงมือลูกค้าในญี่ปุ่น ณ เดือนมีนาคมนี้

Suzuki-Swift

Suzuki Swift ใหม่ มาพร้อม 4 รุ่นย่อย ในราคา 499,000 – 629,000 บาท

Suzuki-Swift-1

Suzuki เผยโฉม All New Suzuki SWIFT สไตล์เด่นบนเส้นทางที่แตกต่าง WE STANDOUT ด้วย Sport Compact Car มาตรฐานระดับโลก ชูจุดเด่นเทคโนโลยีเครื่องยนต์แบบ DUALJET และแพลตฟอร์มใหม่ HEARTECT พร้อมดีไซน์สปอร์ตคงเอกลักษณ์ DNA ของ SWIFT กับเทคโนโลยีอันทันสมัยช่วยในการขับขี่ และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน เจาะกลุ่มคนหนุ่มสาววัยทำงาน ตั้งเป้ายอดขายปีนี้ 15,700 คัน

Suzuki-Swift-Design

Suzuki-Swift-Design

Suzuki-Swift-Design

นับตั้งแต่เปิดตัว Swift เป็นครั้งแรกในปี 2004 สามารถสร้างยอดขายได้มากกว่า 5 ล้านคันในทั่วโลก เป็นตัวเลขการันตีได้ว่า Swift เป็นรถที่ประสบความสำเร็จด้านยอดขายของ ซูซูกิ อีกหนึ่งรุ่น โดยทีมงานต่างออกแบบเจ้า Swift ในมากกว่า 50 รูปแบบของการดีไซน์ ตั้งแต่วาดลงบนกระดาษ จนได้แบบที่ถูกใจ ก่อนนำไปปั้นเป็นโมเดล แล้วก็คัดเลือกรูปแบบจนถูกใจอีกรอบ นำไปสู่การทำตัวรถ Mock-Up ใน Scale 1:1 แก้ไขปรับปรุงรูปแบบกันจนสำเร็จ และเดินทางไปสู่ Swift ที่ผลิตจากสายการผลิตออกขายจริง …

Suzuki-Swift-2

Swift เป็นรถรุ่นสำคัญของซูซูกิในระดับโลก แสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญของซูซูกิด้านรถยนต์คอมแพคและความทุ่มเทในการสร้างสรรค์รถยนต์ที่มีทั้งดีไซน์สวยทันสมัยและความสนุกในการขับขี่

Suzuki-Swift

สำหรับรุ่นล่าสุดนี้ซึ่งเป็น เจเนอเรชั่นที่ 3 ของ Swift ยังเป็นรถยนต์หนึ่งเดียวที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติ RJC Car of the Year 2018 จากการคัดเลือกโดยสถาบันนักวิจัยและผู้สื่อข่าวยานยนต์แห่งญี่ปุ่น หลังจากที่ 2 เจเนอเรชั่น ก่อนได้รับรางวัลนี้มาแล้วในปี 2005 และ 2010 ตามลำดับ

Suzuki-Swift

นายมาซาโอะ โกโบริ หัวหน้าวิศวกร ซูซูกิ มอเตอร์ คอร์ปอเรชัน ประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า “รถรุ่นนี้พัฒนาขึ้นภายใต้ Concept “INNOVATION – Fun & Sporty” โดยออกแบบใหม่ทั้งหมดให้ All New Suzuki SWIFT มีความโดดเด่นทั้งรูปลักษณ์ภายนอกและสมรรถนะในการขับขี่ที่ดีเยี่ยม ในด้านการออกแบบภายนอกยังคงความโดดเด่นด้วยดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์แต่มีกลิ่นอายของรถยุโรปมากยิ่งขึ้น”

Suzuki-Swift

ด้วยมิติของตัวรถซึ่งความสูงอยู่ที่ 1,495 มม. และกว้างขึ้น 40 มม. ทำให้มีความสปอร์ตและดูปราดเปรียวมากขึ้น โดย All New Suzuki SWIFT มีภาพลักษณ์ที่ดูสปอร์ตดุดัน ด้วยเส้นสีแดงตัดกระจังหน้าสีดำ ไฟหน้า LED Projector และไฟหลัง LED ล้ออะลูมิเนียมอัลลอยขนาด 16 นิ้ว

Suzuki-Swift

Suzuki Swift มาพร้อมโครงสร้างใหม่ “Heartect” ที่มีน้ำหนักเบาลง แต่ให้ความแข็งแรงมากขึ้น ช่วยลดน้ำหนัก ภายในเพิ่มเนื้อที่ภายในห้องโดยสาร แผงคอนโซลกลางด้านหน้า เบนเข้าหาคนขับ เพื่อการใช้งานสะดวกยิ่งขึ้น

Suzuki-Swift

มาตรวัดสไตล์สปอร์ต ตกแต่งด้วยลายเส้นสีแดง พร้อมจอแสดงข้อมูลขับขี่แบบ LCD มาพร้อมกับจอสัมผัส Suzuki Smart Connect ขนาด 7 นิ้ว กับฟังก์ชั่นการเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือผ่าน Bluetooth พร้อมโปรแกรมสุดล้ำ Apple CarPlay สำหรับ iOS

Suzuki-Swift

รวมถึงพวงมาลัยที่ออกแบบใหม่เป็นรูปตัว D เพื่อเพิ่มพื้นที่วางเท้าระหว่างเบาะและพวงมาลัย

Suzuki-Swift-Performance

Swift ยังอัดระบบความปลอดภัยอีกเพียบ เช่น โครงสร้างตัวถังแบบ TECT พร้อมระบบกันการสั่นสะเทือน ระบบ TCS ช่วยควบคุมรถขณะขับขี่บนถนนลื่นหรือในทางโค้ง และยังเหมาะกับการขับในเมือง ด้วยระบบ Idling Stop ที่ช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันขณะรถหยุดนิ่ง ขับขี่อย่างมั่นใจในทุกเส้นทางด้วยระบบ Hill Hold Control ที่จะช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน และปลอดภัยมากขึ้นด้วยถุงลมนิรภัย SRS ถึง 6 ตำแหน่ง

Suzuki-Swift

มีมิติตัวรถ ยาว 3,840 มม. กว้าง 1,735 มม. สูง 1,495 มม. และระยะฐานล้อ 2,450 มม.

Suzuki-Swift-Engine

Suzuki Swift ใหม่ มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินใหม่ รหัส K12M ขนาด 1.2 ลิตร 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว VVT ชูจุดเด่นด้วยหัวฉีดคู่ “Dual Jet Engine” เพิ่มประสิทธิภาพในการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ให้แรงม้าสูงสุด 83 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 108 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที ระบบส่งกำลัง มีเฉพาะเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT 6 สปีด

Suzuki-Swift

กลุ่มเป้าหมาย ของ All New Suzuki Swift คือผู้ที่ซื้อรถเพื่อใช้งานเป็นรถคันแรก รายได้ระดับปานกลางขึ้นไป อายุตั้งแต่ 21-39 ปี ซึ่งเป็นวัยทำงานและเริ่มต้นสร้างครอบครัว โดยแบ่งออกเป็นกลุ่มอายุ 21-29 ปี ซึ่งให้ความสำคัญกับดีไซน์เพื่อสะท้อนถึงภาพลักษณ์ของตนเอง ชอบรถที่ขับสนุก ควบคุมง่าย และกลุ่มที่มีอายุ 30-39 ปี ซึ่งชอบรถที่มีดีไซน์ที่บอกถึงตัวตนและมาพร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่คุ้มค่า ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์

Suzuki-Swift

All New Suzuki SWIFT มีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ Ablaze Red Pearl, Star Silver Metallic, Mineral Gray Metallic, Super Black Pearl และ 2 สีใหม่ คือ Speedy Blue Metallic และ Pure White Pearl

โดยมีทั้งหมด 4 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ GA CVT, GL CVT, GLX CVT และ GLX-Navi CVT

ราคา Suzuki Swift ใหม่

รุ่น 1.2 GA CVT ราคา 499,000 บาท
รุ่น 1.2 GL CVT ราคา 536,000 บาท
รุ่น 1.2 GLX CVT ราคา 609,000 บาท
รุ่น 1.2 GLX-Navi CVT ราคา 629,000 บาท

*สีขาวต้องเพิ่มเงินอีก 5,000 บาท

Suzuki-Swift-Price

Cover-Detroit-Auto-Show-2018

รวมรถใหม่ รถต้นแบบ ในงาน “Detroit Auto Show 2018”

NAIAS-2018-Poster

ประมวลภาพรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุด รถต้นแบบ และอื่นๆ ในงานมหกรรมยานยนต์ “Detroit Auto Show 2018” งานแสดงรถแต่งที่ยิ่งใหญ่สุดในอเมริกาเหนือ จัดต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 1907 ถึงปัจจุบัน …

โดยงานนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 14 – 28 มกราคม 2561 ณ COBO Center เมืองดีทรอยต์ ประเทศสหรัฐอเมริกา … ทาง Carro ขอเก็บตกภาพบรรยากาศ พร้อมรถต้นแบบ รถใหม่ สวยๆ มาให้ชมกันครับ

2019-Ford-Edge-ST

Ford Edge ST

Ford-F-150-Diesel

Ford F-150 Diesel

2019-Honda-Insight-Prototype

Honda Insight Prototype

2019-Ford-Mustang-Bullitt

Ford Mustang Bullitt

Mini-Cooper-Hardtop

Mini Cooper Hardtop

2019-VW-Jetta

VW Jetta

Infiniti-Q-Inspiration-Concept

Infiniti Q Inspiration Concept

Lexus-LF-1-Limitless

Lexus LF 1 Limitless

2019-BMW-X2

BMW X2

2019-BMW-I8-Coupe

BMW I8 Coupe

ขอบคุณภาพจาก autoblog.com

Tokyo-Auto-Salon-2018

รวมรถใหม่ รถแต่ง รถซิ่ง ในงาน “Tokyo Auto Salon 2018”
 Tokyo-Auto-Salon-2018

ประมวลภาพรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุด รถต้นแบบ และอื่นๆ ในงานมหกรรมยานยนต์ “Tokyo Auto Salon 2018” งานแสดงรถแต่งที่ยิ่งใหญ่สุดในญี่ปุ่น จัดต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 1983 ถึงปัจจุบัน …

โดยงานนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 12 – 14 มกราคม 2561 ณ Makuhari Messe เมืองชิบะ ประเทศญี่ปุ่น … ทาง Carro ขอเก็บตกภาพบรรยากาศ พร้อมรถแต่ง รถซิ่ง สวยๆ มาให้ชมกันครับ

Tokyo-Auto-Salon-2018

Tokyo-Auto-Salon-2018 Tokyo-Auto-Salon-2018 Tokyo-Auto-Salon-2018 Tokyo-Auto-Salon-2018 Tokyo-Auto-Salon-2018 Tokyo-Auto-Salon-2018

Tokyo-Auto-Salon-2018

Tokyo-Auto-Salon-2018

Tokyo-Auto-Salon-2018

Tokyo-Auto-Salon-2018

Tokyo-Auto-Salon-2018

ขอบคุณภาพจาก Tokyo Auto Salon Fanpage

Toyota-C-HR-Price

Toyota C-HR ใหม่ ราคา 979,000 – 1,159,000 บาท ยอดจองกว่า 3 พันคันแล้ว!

Toyota-C-HR

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยราคาจำหน่ายของซับคอมแพคเอสยูวีรุ่นใหม่ Toyota C-HR (Coupe High Rider) โดยมีผลเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 12 มกราคม ศกนี้

นับตั้งแต่ Toyota C-HR ได้แนะนำสู่สาธารณชนในช่วงงาน Motor Expo 2017 ที่ผ่านมา ซึ่งมาพร้อมกับดีไซน์ที่ไร้ขีดจำกัด และเครื่องยนต์ให้เลือก 2 แบบ ทั้งเครื่องยนต์เบนซิน และ ไฮบริด

Toyota-C-HR

Toyota C-HR ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจนทำให้มียอดลงทะเบียนจองสิทธิ์ล่วงหน้ากว่า 3,000 คัน เกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 2,000 คัน* บัดนี้โตโยต้า พร้อมประกาศราคาจำหน่ายรถรุ่นดังกล่าว โดยมั่นใจว่าราคาที่นำเสนอนั้นเป็นราคาที่คุ้มค่า และทุกท่านสามารถจับจองเป็นเจ้าของได้ นอกจากนั้นเรายังพร้อมมอบข้อเสนอสุดพิเศษเพื่อเป็นการตอบแทนลูกค้า ดังนี้

– Custom Name Plate สำหรับลูกค้าที่ทำการจองรถตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2561
– ขยายเวลารับประกันคุณภาพรถใหม่เป็น 5 ปี หรือ 150,000 กม.
– พิเศษสำหรับรุ่นไฮบริด รับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี โดยไม่จำกัดระยะทาง

Toyota-C-HR

โดย Toyota C-HR มีเป้าหมายการขายในปี 2561 อยู่ที่ 2,000 คัน/เดือน สำหรับลูกค้าที่ลงทะเบียน จองสิทธิ์ล่วงหน้าตั้งแต่งาน Motor Expo 2017 ทางบริษัทฯ จะเริ่มส่งมอบรถให้แก่ลูกค้า ตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคมเป็นต้นไป”
*(ข้อมูลยอดลงทะเบียนจองสิทธิ์เป็นเจ้าของล่วงหน้า Toyota C-HR ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2560 – วันที่ 12 มกราคม 2561)

Toyota-C-HR

Toyota C-HR มาพร้อมแนวคิด “Live Alive…ออกไปใช้ชีวิต” ด้วยดีไซน์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรูปทรงของเพชร อีกทั้งการออกแบบที่แสดงให้เห็นถึงความแม่นยำ สะท้อนถึงรูปแบบพื้นผิวของอัญมณีที่มีความประณีตในการเจียระไน นอกจากนี้ยังเพียบพร้อมไปด้วย 4 เทคโนโลยีใหม่ อันได้แก่

– New Generation of Hybrid ระบบไฮบริดเจเนอเรชั่นใหม่ พัฒนาให้แบตเตอรี่มีขนาดเล็กลง แต่เก็บประจุไฟฟ้าได้มากขึ้น ทนทานและประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น โดยประหยัดน้ำมันสูงถึง 24.4 กม./ลิตร ด้วยการย้ายตำแหน่งของแบตเตอรี่ ทำให้สามารถระบายความร้อนได้ดีขึ้น

– โครงสร้าง TNGA (Toyota Global New Architecture) ถูกพัฒนาขึ้นโดยการออกแบบโครงสร้างตัวถังใหม่ให้แข็งแกร่ง (Body rigidity) และมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำลง (Low center of gravity) ลดการโคลงตัวของตัวถัง เข้าโค้งได้อย่างมั่นใจ โดดเด่นเรื่องประสิทธิภาพการเกาะถนน (Stablility) คล่องตัวในทุกจังหวะการขับขี่ (Agility) รวมถึงการออกแบบห้องโดยสาร เพิ่มทัศนวิสัยของผู้ขับขี่ให้กว้างขึ้นโดยลดจุดอับสายตา (Visibility) นอกจากนี้ Toyota C-HR มาพร้อมกับช่วงล่างด้านหลังแบบอิสระปีกนกคู่ (Double Wishbone Suspension) ที่นอกจากเพิ่มประสิทธิภาพในการเกาะถนนแล้วยังเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่อีกด้วย

Toyota-C-HR

– Toyota Safety Sense ระบบความปลอดภัยใหม่ของรถโตโยต้ามาตรฐานระดับโลกรวมเอาระบบความปลอดภัยขั้นสูงไว้ด้วยกัน อาทิ ระบบความปลอดภัยก่อนการชน (Pre-Collision System) ระบบควบคุมและปรับความเร็วอัตโนมัติ (Dynamic Radar Cruise Control) ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Automatic High Beams) ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลนพร้อมพวงมาลัยหน่วงอัตโนมัติ (Lane Departure Alert with Steering Assist)

Toyota T-Connect Telematics ระบบที่เชื่อมต่อผู้ขับขี่และรถยนต์ ผ่าน Smart phone และ Apple watch พร้อมทั้งเครือข่ายศูนย์ข้อมูลอัจฉริยะ เพื่อรับข้อมูลและความช่วยเหลือตลอดการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็น ระบบนำทาง T-Connect Telematics บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชม. ระบบตรวจสอบตำแหน่งรถยนต์และช่วยค้นหาพิกัดในกรณีที่รถถูกโจรกรรม สัญญาณ Wi-Fi ในรถยนต์ และการลดเบี้ยประกันด้วยโปรแกรม Pay As You Drive insurance เป็นต้น

Toyota-C-HR-Price

เลือกเป็นเจ้าของ Toyota C-HR 4 รุ่น 6 สี สำหรับเครื่องยนต์ไฮบริด
(Premium Red/Black Roof, Blue Metallic/Black Roof, Radiant Green Metallic/Black Roof, White Pearl Crystal, Metal Stream Metallic, Attitude Black Mica)
และ 3 สี สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน
(White Pearl Crystal, Metal Stream Metallic, Attitude Black Mica)

รุ่น 1.8 Entry ราคา 979,000 บาท**
รุ่น 1.8 Mid ราคา 1,039,000 บาท**
รุ่น HV Mid ราคา 1,069,000 บาท**
รุ่น HV Hi ราคา 1,159,000 บาท**

Toyota-C-HR

(สำหรับสีพิเศษได้แก่ Premium Red, Blue Metallic และ Radiant Green Metallic พร้อมหลังคาสีดำเพิ่ม 10,000 บาท สี White Pearl Crystal เพิ่ม 10,000 บาท)
**ราคาดังกล่าวเป็นราคารถยนต์พร้อมอุปกรณ์มาตรฐานที่ผลิตจากโรงงาน รวมราคาเครื่องปรับอากาศและภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว

Live-Alive-VibeSpace

พร้อมเปิดประสบการณ์ไปกับโตโยต้า “Live Alive Vibe Space”
พบกับยนตรกรรมใหม่ Toyota C-HR และ 4 เทคโนโลยีใหม่ที่จะทำให้ชีวิตของคุณไปได้ไกลกว่า ซึ่งจะยกขบวนไปพบกับลูกค้าโตโยต้าทั่วประเทศ

4-8 มกราคม 2561 เซ็นทรัลลาดพร้าว
19-23 มกราคม 2561 เซ็นทรัล โคราช
7-11 กุมภาพันธ์ 2561 เซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่
15-19 กุมภาพันธ์ 2561 เซ็นทรัล ภูเก็ต
23-27 กุมภาพันธ์ 2561 เซ็นทรัล ชลบุรี
7-11 มีนาคม 2561 เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพมหานคร

ข้อมูลผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมศึกษาได้ที่ http://www.toyota.co.th/model/c-hr/specification

Toyota-C-HR

สำหรับผู้ที่สนใจมองหาและซื้อ Toyota C-HR ใหม่ แต่ยังไม่รู้ว่า จะขายรถคันเดิมที่ไหนดี ให้ Carro เป็นผู้ช่วยมืออาชีพของคุณ “ซื้อ ขาย รีไฟแนนซ์ รถยนต์อย่างมืออาชีพกับ Carro Thailand” หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มได้ใน Fanpage “Carro Thailand” ครับผม

Cover-New-Car-2018-In-Thailand

รถใหม่หลากหลายรุ่น ทยอยเปิดตัวกันในทุกเดือน ของปี 2561

สวัสดีปีใหม่ 2561 ปีจอ กับรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่ทยอยเปิดตัวในปีนี้อย่างคับคั่ง เตรียมพร้อมให้ผู้บริโภค ผู้สนใจ ได้เลือกจับจองเป็นเจ้าของรถยนต์ใหม่ๆ กัน ส่วนรถคันเดิมของคุณ ที่ต้องการขายแล้ว แต่ไม่รู้จะขายได้ที่ไหน ก็ติดต่อมาที่ Carro Thailand ได้เลยครับ …

Carro คาดการณ์รถใหม่ที่เตรียมเปิดตัวในปี 2561 จะมียี่ห้อใด รุ่นใดบ้าง ติดตามได้ที่นี่ครับ.

Toyota C-HR – มาแน่

Toyota-C-HR

Toyota C-HR (โตโยต้า ซี-เอชอาร์) นี่ถือว่ามาขายในบ้านเราอย่างแน่นอนแล้ว เพียงแต่ว่ารอเวลาในการเปิดตัวในเดือนมีนาคม 2561 ครับ โดยมาพร้อมกับโครงสร้างแบบ TNGA (Toyota New Global Architecture) ออกแบบและพัฒนาเพื่อสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม และสมบูรณ์แบบทุกการขับเคลื่อนในทุกสภาพถนน พร้อมเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.8 ลิตร และเครื่องยนต์ไฮบริดขนาด 1.8 ลิตร ที่ให้การประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 24.4 กม./ลิตร ซึ่งนับว่าสูงที่สุดเมื่อเทียบกับรถยนต์ระดับเดียวกัน พร้อมรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี และระบบไฮบริด 5 ปี

โดยในรุ่น 1.8 Entry ราคาเริ่มต้นไม่เกิน 1 ล้านบาท ส่วนในรุ่น 1.8 MID และ Hybrid MID ราคา 1,050,000 บาท (+,- ไม่เกิน 20,000 บาท) และในรุ่น Hybrid Hi ราคาไม่เกิน 1.2 ล้านบาท

Toyota Camry

Toyota-Camry

แม้ว่ารถยนต์ 4 ประตู ขนาดกลางในตลาดโลก กำลังเข้าสู่ขาลงด้วยยอดขายที่ร่วงลงไปมาก แต่ Toyota ก็คงเตรียมแผนการเปิดตัว Toyota Camry (โตโยต้า คัมรี่) ในไทย ทั้งในรุ่นเครื่องยนนต์เบนซินธรรมดา และรุ่น Hybrid ช่วงประมาณกลางปี หรือปลายปี 2561 นี้ครับ

ส่วนเครื่องยนต์ คาดว่าจะใช้เครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 2.5 ลิตร แบบ 4 สูบ 16 วาล์ว VVT-ie พ่วงด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด

Nissan Terra

Nissan-Terra

Nissan เตรียมเปิดตัวรถ SUV 7 ที่นั่ง หลังจากที่มีภาพหลุดว่อนในเน็ตมานาน โดย Nissan Terra (นิสสัน เทอร่า) จะใช้พื้นฐานร่วมกับ Nissan Navara ซึ่งในจีนเตรียมเปิดตัวในกลางปีนี้ และในไทย ก็มีโอกาสได้ผลิตจำหน่ายในปีนี้ด้วย

ด้านขุมพลังนั้น ในเวอร์ชั่นจีนเป็นเครื่องยนต์เบนซิน รหัส QR25 ขนาด 2.5 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 184 แรงม้า (ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ตัวเดียวกับใน Navara เวอร์ชั่นจีน) มีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด ขับเคลื่อน 2 และ 4 ล้อ ส่วนในเวอร์ชั่นไทย คาดว่าเป็นเครื่องยนต์ตัวเดียวกับใน Navara ครับ

Suzuki Swift – มาแน่

Suzuki-Swift

Suzuki Swift ใหม่ แม้ว่าจะเปิดตัวในญี่ปุ่นตั้งแต่ปลายปี 2559 แล้ว แต่ในปีนี้ ชาวไทยได้ซื้อหามาใช้แน่นอน เก็บเงินซื้อกันได้เลย (หลังจากที่เห็นรถ Spy-Shot รุ่นนี้ พรางตัวเก็บข้อมูลในไทยนานแล้ว) สำหรับ Suzuki Swift (ซูซูกิ สวิฟท์) เจนเนอเรชั่นที่ 3 พัฒนาโครงสร้างตัวถังภายใต้ Platform “Heartect” น้ำหนักเบา โครงสร้างตัวถังแข็งแรงมากขึ้น มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ลิตร 4 สูบ Dualjet 91 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT

ส่วนในรุ่นเครื่องยนต์ Hybrid และรุ่น Sport ในไทยไม่มาแน่นอนเหมือนเดิมครับ สุดท้ายก็ต้องรอดูกันว่า ซูซูกิ จะตัดสินใจเปิดตัว Swift รุ่นใหม่นี้ตอนไหน อาจจะเป็นช่วงต้นปีนี้ก็เป็นไปได้ครับ

Ford Ranger Raptor – มาแน่

Ford-Ranger-Raptor

Ford Ranger Raptor (ฟอร์ด เรนเจอร์ แรพเตอร์) เตรียมเปิดตัวและจำหน่ายในประเทศไทยอย่างแน่นอน ในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ นี้

โดย Ford Ranger Raptor จะมาแทน Ranger Wildtrak ที่ขายอยู่ในปัจจุบัน ขุมพลังอาจเลือกใช้เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.0 ลิตร Ecoblue แบบ 4 สูบ VG Turbo หรืออาจใช้เครื่องดีเซลขนาด 2.2 ลิตร และ 3.2 ลิตร ที่อยู่ใน Ranger รุ่นปัจจุบัน

Mitsubishi Eclipse Cross

Mitsubishi-Eclipse-Cross

หลังจากที่ Mitsubishi ได้ถูกควบรวมกับ Nissan ก็ดูเหมือนสถานการณ์ของบริษัทจะดีขึ้นมาก โดยเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ในหลายประเทศ รวมถึงในไทย ซึ่งทาง Mitsubishi จะส่ง Mitsubishi Eclipse Cross (มิตซูบิชิ อีคลิปส์ ครอส) รถ SUV Crossover รุ่นใหม่ล่าสุด ที่เผยโฉมในงาน Geneva Motor Show เมื่อปีที่ผ่านมา เตรียมตัวเปิดตัวในไทยภายในปีนี้

Mitsubishi Xpander

Mitsubishi-Xpander

มิตซูบิชิ เปิดตัวยนตรกรรมชั้นนำระดับโลก Mitsubishi Xpander (มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์) รถ Crossover MPV ที่ อินโดนีเซีย เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา มีให้เลือกทั้งหมด 6 รุ่นย่อย ได้แก่ GLX MT, GLS MT, Exceed MT, Exceed AT, Sport AT และ Ultimate AT ซึ่งคาดว่าในปีนี้ ได้พบกับตัวจริงที่ไทยอย่างแน่นอน อาจจะเป็นในช่วงต้นปี หรือกลางปีนี้

Mitsubishi Xpander ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร MIVEC ให้กำลังสูงสุด 105 แรงม้า (PS) ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด มีให้เลือกเฉพาะระบบขับเคลื่อนล้อหน้าเท่านั้น

Nissan Note e-Power

Nissan-Note-e-Power

Nissan Note e-Power (นิสสัน โน๊ต อี-เพาเวอร์) รถ Hatchback ขุมพลังไฮบริด ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ใช้เครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.2 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 109 แรงม้า ที่ 3008-10,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 25.9 กก.-ม. ที่ 0-3,008 รอบ/นาที คู่กับชุดแบตเตอรี่ที่ติดตั้งบริเวณใต้เบาะคู่หน้า ส่งกำลังผ่านมอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนล้อคู่หน้า ประหยัดน้ำมันสูงสุด (ตามมาตรฐาน JC08) ที่ 34 กม./ลิตร

ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงยอดเยี่ยม สมรรถนะโดยรวมดีกว่ารถเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร โดยได้รับการตอบรับที่ดีมาก ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งในบ้านเรา ทางนิสสันเคยแจ้งว่า จะนำเข้ามาขายในปีนี้ หากทางภาครัฐอนุมัติแผนเพื่อรับอัตราภาษีใหม่ สำหรับ รถยนต์ไฟฟ้า EV / Hybrid

Nissan Leaf

Nissan-Leaf

“Nissan Leaf” (นิสสัน ลีฟ) รุ่นใหม่ล่าสุดจากญี่ปุ่น เพิ่งเปิดตัวและนำมาโชว์ในงาน Motor Expo 2017 ที่ผ่านมา ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า “100%” มีอัตราการปล่อยมลพิษเป็น “0” พร้อมชูจุดเด่นอย่าง “นิสสัน อินเทลลิเจนต์ โมบิลิตี้ (Nissan Intelligent Mobility)” มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าชุดใหม่ แบบ EM57 ที่ให้แรงม้าสูงสุด 150 แรงม้า (PS) (110 กิโลวัตต์) (แรงม้าเพิ่มขึ้น 38% จากรุ่นแรก) ที่ 3,283-9,795 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 32.6 กก.-ม. (320 นิวตันเมตร) ที่ 0-3,283 รอบ/นาที

เพียงชาร์จ 1 ครั้ง สามารถเดินทางได้ระยะทางมากถึง 400 กิโลเมตร! (ตามการทดสอบตามโหมด JC08 ของประเทศญี่ปุ่น) ซึ่งทางนิสสันเคยแจ้งว่า จะนำเข้ามาขายในปีนี้ หากทางภาครัฐอนุมัติแผนเพื่อรับอัตราภาษีใหม่ สำหรับ รถยนต์ไฟฟ้า EV / Hybrid แต่ราคาคงอยู่ที่หลักล้านครับ

Honda Accord

Honda-Accord

Honda Accord (ฮอนด้า แอคคอร์ด) เจนเนอเรชั่นที่ 10 มาพร้อมรูปร่างหน้าตา ที่ฉีกแนวจากเดิมหมด ดีกว่าเดิมทุกด้าน ทั้งระยะฐานล้อ 2,830 มม. (ยาวขึ้น 55 มม.) ความสูง 1,450 มม. (ลดลง 15 มม.) และความกว้างตัวรถ 1,860 มม. (กว้างกว่า 10 มม.) ไฟหน้าแบบ Full LED 9 ดวง ไฟตัดหมอกแบบ LED รวมไปถึงติดตั้งไฟท้าย LED รูปตัว C ภายในเน้นความหรูหรา แฝงอารมณ์สปอร์ต

คาดว่าจะมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.5 ลิตร Turbo 192 แรงม้า หรือเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 2.0 ลิตร Turbo 252 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด คาดว่าเปิดตัวในไทย ประมาณกลางปีนี้

Hiace-Relaxbase

รถตู้ Hiace จับมาแต่งในสไตล์ย้อนยุค โดยสำนักแต่งของโตโยต้า – Modellista

Toyota-Hiace-Relaxbase

หากจะกล่าวถึง Toyota Hiace (โตโยต้า ไฮเอช) รถตู้ที่ได้ชื่อว่า ขายดีที่สุดของโตโยต้า ในยุคแรกๆ ที่ออกมา ใช้ชื่อว่า “Hi-Ace” (สังเกตนะครับว่า สมัยก่อนยังมีขีดตรงกลางอยู่) เปิดตัวกันครั้งแรกในเดือนตุลาคม 1967 ผลิตและจำหน่ายส่งออกไปทั่วโลก พร้อมขายลิขสิทธิ์ในบริษัทรถในประเทศจีนไปผลิตด้วย และแตกไลน์ออกไปเป็นอีกหลายรุ่น ตั้งแต่ในอดีต (อาทิเช่น Commuter, Vertury หรือ RegiusAce เป็นต้น)

มีให้เลือกทั้งแบบรถตู้ทึบขนของ รถตู้นั่ง รถตู้นั่งแบบหรู หรือรถเพื่อการใช้งานเฉพาะ เช่น รถพยาบาล รถตำรวจ เป็นต้น (อ่อ ยุคแรกมีแบบกระบะบรรทุกด้วยครับ) ผลิตขายมาแล้วถึง 5 เจนเนอเรชั่น โดยที่แต่ละเจนเนอเรชั่นนั้น ก็มีอายุในตลาดยาวนานไม่ใช่ย่อย โดยชื่อนี้ใช้มานานถึง 50 ปี

Toyota-Hiace-Relaxbase

ทาง Modellista ซึ่งเป็นสำนักที่ออกแบบชุดแต่งให้กับรถรุ่นต่างๆ ของโตโยต้า เพื่อเป็นการฉลอง 50 ปีของ Hiace จึงได้ออกแบบชุดแต่งพิเศษให้กับ Hiace ในชื่อ “Relaxbase” เป็นชุดแต่งในสไตล์ย้อนยุคไปในยุค 60 ใน Concept “Neo Retro Fun Box” ซึ่งแลดูคล้ายกับรถตู้ยอดฮิตจากฝั่งยุโรปในอดีตมาก จะมีอะไรนั้น ไปชมกันครับ …

Toyota-Hiace-Relaxbase

รูปโฉมภายนอก เป็นการนำพื้นฐานของ Hiace รุ่น Super GL ตกแต่งมาในสไตล์วินเทจ มีให้เลือกทั้งในแบบของสีเบจ-ดำ, สีน้ำเงิน-ดำ และสีดำ มาพร้อมชุดกันชนหน้าพร้อมไฟตัดหมอก กระจกมองข้างโครเมียม ล้อกระทะเหล็กพร้อมขอบล้อ และฝาครอบดุมล้อพ่นสีขาว

Toyota-Hiace-Relaxbase

Toyota-Hiace-Relaxbase

หรือจะเลือกใส่ชุดแต่งเพิ่มเติมได้หลากหลายอย่าง อาทิิ ชุดกระจังหน้าแบบคลาสสิค พร้อมแผ่นสแตนเลสรูปตัววี ชุดแสตนเลสกันกระแทกที่กันชนหน้า แร็คหลังคา ชุดคิ้วขอบล้อสีขาว หรือบันไดหลังก็ได้ เป็นต้น

Toyota-Hiace-Relaxbase

Toyota-Hiace-Relaxbase

Toyota-Hiace-Relaxbase

ห้องโดยสารภายใน ตกแต่งในโทนเบาะสีเบจ และน้ำเงิน ดูอบอุ่น คลาสสิค รวมไปถึงแผงคอนโซลหน้า และที่วางแขนบริเวณประตู ตกแต่งด้วยลายไม้สีขาว อีกทั้งยังมีเตียงพับได้ ให้เลือกเป็นอุปกรณ์เสริม

Toyota-Hiace-Relaxbaseในส่วนของรุ่น Type II ตกแต่งพื้นห้องโดยสารพร้อมจุดยึด 16 จุด พร้อมกล่องเก็บของ และ Auxiliary Battery กำลังขับ 350 วัตต์ ให้กำลังไฟแรงถึง 100Ah สำหรับใช้จ่ายไฟให้อุปกรณ์ต่างๆ เป็นต้น

Toyota-Hiace-Relaxbase

สำหรับชุดแต่ง “Relaxbase” ในแบบ Type I และ Type II มีให้เลือกตกแต่งได้ทั้งในรุ่นเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตร และเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.8 ลิตร ในราคาตั้งแต่ 3,926,880 – 4,502,520 เยน (ราคาตัวรถรวมชุดแต่งแล้ว)

Hyundai-H-1-Starex

Hyundai H-1 / Grand Starex ปรับโฉมครั้งใหญ่ สวย หรู น่าใช้มากยิ่งขึ้น

Hyundai-H-1

Hyundai H-1 (ฮุนได เอช-วัน) หรือ Grand Starex (แกรนด์ สตาร์เร็กซ์) แม้ว่าโฉมนี้จะผลิตออกมาขายตั้งแต่ปี 2007 แล้ว แต่ก็ยังคงขายได้เรื่อยๆ ในหลายประเทศ ด้วยคุณสมบัติที่มากมาย ราคาที่ไม่แพงนักเมื่อเทียบกับรถประเภทเดียวกันยี่ห้ออื่น แถมคู่แข่งในตลาดก็มีไม่กี่เจ้า อย่างในประเทศไทย Hyundai H-1 ถือว่าสร้างชื่อเสียงให้กับ ฮุนได มาตลอด 10 ปี ที่กลับเข้ามาทำตลาดในไทยอีกครั้ง

Hyundai-H-1

Hyundai Grand Starex เวอร์ชั่นเกาหลี ถึงเวลาไมเนอร์เชนจ์ครั้งที่สอง ด้านหน้าปรับโฉมต่างไปจากเดิมมาก ด้วยไฟหน้าทรงเหลี่ยม กระจังหน้าโครเมียมดีไซน์ใหม่ กันชนหน้าใหม่ ล้อแม็กลายใหม่ โดยในรุ่น Top ใช้ชุดไฟท้ายแบบ LED และล้อแม็กขนาด 17 นิ้ว ให้ความหรูหราสง่างามมากยิ่งขึ้น

Hyundai-H-1

Hyundai-H-1

มิติตัวถังยาว 5,150 มม. กว้าง 1,920 มม. สูง 1,925 มม. ระยะฐานล้อ 3,200 มม.

Hyundai-H-1-Interior

Hyundai-H-1-Interior

ภายในห้องโดยสารเปลี่ยนชุดคอนโซลหน้าใหม่หมด พวงมาลัยแบบ 4 ก้าน หัวเกียร์ออกแบบใหม่ มีระบบ Infotainment ขนาด 8 นิ้ว หน้าจอทัชสกรีน อยู่กึ่งกลางคอนโซล และติดตั้งระบบแอร์ดิจิตอล พร้อมระบบถุงลมนิรภัยคู่หน้า และด้านข้าง

Hyundai-H-1

ขุมพลังเป็นแบบดีเซลขนาด 2.5 ลิตร แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว CRDi ให้แรงม้าสูงสุด 140 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที (ในรุ่นเกียร์ธรรมดา) และ 175 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที (ในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ) แรงบิดสูงสุด 36.0 กก.-ม. ที่ 1,500-2,500 รอบ/นาที (ในรุ่นเกียร์ธรรมดา) และ 46.0 กก.-ม. ที่ 2,000-2,250 รอบ/นาที (ในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ)

อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ย 9.4 กม./ลิตร (ในรุ่น 2WD) และ 8.9 กม./ลิตร (ในรุ่น 4WD)

ในตลาดเกาหลีใต้สามารถเลือกห้องโดยสารภายในได้ถึง 5 แบบ เช่น 3 ที่นั่ง, 5 ที่นั่ง, 9 ที่นั่ง, 11 ที่นั่ง และ 12 ที่นั่ง

Hyundai-H-1

ส่วนในตลาดบ้านเรา คงต้องรอดูในปีหน้านี้ ว่าทางอินโดนีเซีย ผู้ผลิต Hyundai H-1 / Grand Starex ส่งให้กับไทย จะเปิดตัวและพร้อมส่งออกกันเมื่อไหร่ครับ

ส่วนใครที่สนใจ Hyundai H-1 / Grand Starex มือสอง สามารถเข้าไปดูได้ที่ https://th.carro.co/buycar/Hyundai หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มได้ใน Fanpage “CARRO Thailand” ครับผม