Toyota-Vios-Laos

โฉมเดียวกับ Yaris ATIV ในไทย แต่เป็น Vios ในลาว

Toyota Vios (โตโยต้า วีออส) ใหม่ เปิดตัวแล้วในประเทศลาว โฉมเดียวกับ Yaris ATIV (ยาริส เอทีฟ) ในไทย มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.3 ลิตร ราคาขายเริ่มต้น 160 ล้านกีบ (631,000 บาท) มีตัวถังสีฟ้าอ่อน Greyish Blue Metallic ซึ่งไม่มีจำหน่ายในบ้านเรา ให้เลือกด้วย

Toyota-Vios-Laos

Yaris ATIV ใหม่ เมื่อนำไปขายในประเทศลาว ได้ใช้ชื่อรุ่น “Vios” แทนที่รุ่นเดิม มีให้เลือกทั้งหมด 2 รุ่นย่อย นั่นคือ 1.3E เกียร์ธรรมดา และ 1.3G เกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ขายควบคู่ไปกับ Yaris 5 ประตู ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.3 ลิตร เช่นกัน

Toyota-Vios-Laos

Toyota-Vios-Laos

Toyota-Vios-Laos

ในรุ่น 1.3G CVT เพิ่มไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ + ไฟ Daytime Running Light แบบ LED, ไฟท้ายแบบ LED, กระจกมองข้างปรับ-พับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว, เสาอากาศแบบครีบฉลาม และล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว

Toyota-Vios-Laos

Toyota-Vios-Laos

ภายในห้องโดยสารมีออพชั่นให้มาครบครัน ไม่ต่างจากเวอร์ชั่นไทย อาทิเช่น พวงมาลัยและหัวเกียร์หุ้มหนัง, มาตรวัดเรืองแสง Optitron, เครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 6.8″ ทุกรุ่นย่อย และดูภาพจากกล้องมองหลังได้, ช่องเชื่อมต่อ USB/AUX, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติพร้อม Heater, กุญแจ Keyless Entry พร้อมปุ่ม Push Start, ถุงลมนิรภัยรอบคัน 7 จุด เป็นต้น

Vios เวอร์ชั่นลาว มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.3 ลิตร รหัส 1NR-FE แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว VVT-i ให้แรงม้าสูงสุด 99 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 12.5 กก.-ม. (123 นิวตัน-เมตร) ที่ 4,200 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ CVT

Toyota-Vios-Laos

ราคาจำหน่าย Toyota Vios ใหม่ ในประเทศลาว ราคาเริ่มต้นที่ 160 ล้านกีบ เมื่อคิดเป็นเงินไทยอยู่ระหว่าง 631,000 – 706,000 บาท (หรือ 19,300 – 21,600 ดอลล่าร์สหรัฐฯ)

Suzuki-Spacia

2 บุคลิก 2 สไตล์ เหมาะสำหรับวัยรุ่น และคุณแม่บ้านไว้ขับรถไปรับลูก หรือจ่ายตลาด

“Suzuki Spacia” (ซูซูกิ สปาเซีย) และ “Suzuki Spacia Custom” (ซูซูกิ สปาเซีย คัสตอม) ถึงเวลาปรับโฉมโมเดลเชนจ์ ขวัญใจคนรักรถ K-Car โดยเปิดตัวไปตั้งแต่ในงาน Tokyo Motor Show 2017 ที่ผ่านมา และทุกแบบยังเป็นเครื่องยนต์ Hybrid เอาใจคนรักความประหยัดด้วย

Suzuki-Spacia-Styling

Suzuki-Spacia-Styling

หากย้อนไปดูที่มาของ “Suzuki Spacia” ตั้งแต่เจเนอเรชั่นแรก เริ่มผลิตขายกันตั้งแต่เดือนมีนาคม 2013 โดยมาแทนที่รุ่น Palette ที่เลิกจำหน่ายไป จนถึงเจเนอเรชั่นที่ 2 (MK53S) นี้ ออกแบบใหม่ทั้งภายนอกและภายใน ประตูข้างแบบบานเลื่อนด้วยไฟฟ้า โดย Spacia หน้าตามาแนวน่ารักสดใส เหมาะสำหรับคุณผู้หญิงและคนที่มีครอบครัว

Suzuki-Spacia-Custom-Styling

Suzuki-Spacia-Custom-Styling

ส่วน “Spacia Custom” หน้าตาดุดัน มีการใช้สีดำตัดกระจกมองข้างและหลังคา เอาใจวัยรุ่น หรือคนวัยทำงานที่ชอบรถขนาดเล็ก

Suzuki-Spacia-Interior

ห้องโดยสารภายใน แผงคอนโซลหน้าดูเหลี่ยมๆ แต่แฝงไปด้วยออพชั่นทันสมัยเพียบ ใช้วัสดุดูแพง ปรับปรุงจุดเก็บของต่างๆ ให้ดูอเนกประสงค์และสะดวกต่อการใช้งานมากยิ่งขึ้น โดย Spacia มีให้เลือกทั้งโทนสีเบจ และโทนสีเทา-ดำ ส่วน Spacia Custom มีเฉพาะโทนสีดำเท่านั้น

Suzuki-Spacia-Custom-Interior

Suzuki-Spacia-Custom-Interior

ในส่วนของระบบความปลอดภัย บอกได้คำเดียวว่าจัดเต็ม ซูซูกิ ให้มาทั้ง ระบบเตือนและป้องกันการชนด้านหน้า Dual Sensor Brake Support, ระบบหลีกเลี่ยงการปะทะทั้งหน้า-หลัง ระบบป้องกันการชนด้านหลังขณะถอยหลัง Back-up Brake Support ที่ติดตั้งเป็นครั้งแรกในรถยนต์ K-Car แถมติดตั้งกล้องมองภาพรอบคัน และระบบ Head-Up Display เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

Suzuki-Spacia-Safety

Suzuki-Spacia-Safety

Suzuki-Spacia-Safetyสำหรับเครื่องยนต์ … มาพร้อมเครื่องยนต์ Hybrid ขนาด 660 ซีซี รหัส R06A แบบ 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว VVT ให้แรงม้าสูงสุด 52 แรงม้า (PS) ที่ 6,500 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 5.1 กก.-ม. (50 นิวตันเมตร) ที่ 4,000 รอบ/นาที ให้อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง (ตามโหมด JC08) สูงสุด 28.2 กม./ลิตร

Suzuki-Spacia-Engine

ในส่วนของแบบ Custom มีเครื่องยนต์เป็น Hybrid Turbo ให้เลือกเพิ่ม แบบ 660 ซีซี รหัส R06A แบบ 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว VVT Turbo ให้แรงม้าสูงสุด 64 แรงม้า (PS) ที่ 6,500 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 6.1 กก.-ม. (60 นิวตันเมตร) ที่ 4,000 รอบ/นาที ให้อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง (ตามโหมด JC08) สูงสุด 25.6 กม./ลิตร

ทั้ง 2 รุ่น ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า WA05A ให้แรงม้าสูงสุด 3.1 แรงม้า ที่ 1,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 50 นิวตันเมตร ที่ 100 รอบ/นาที (Mild Hybrid) พร้อมแบตเตอรี่ Lithium-Ion ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ CVT และระบบขับเคลื่อนที่มีทั้งล้อหน้า และขับเคลื่อน 4 ล้อ

Suzuki-Spacia-Safety

มีให้เลือกใน 3 รุ่นย่อย ได้แก่ Hybrid X, Custom Hybrid XS และ Custom Hybrid XS Turbo ในราคาตั้งแต่ 1,409,400 – 1,908,360 เยน

ส่วนในไทย โอกาสที่จะนำเข้ามาขายนั้น คงบอกได้แต่เพียงว่า ต้องพึ่งผู้นำเข้าอิสระอย่างเดียว แต่จะใครซื้อหรือไม่ อันนี้ไม่รู้ครับ เพราะราคารวมภาษีแล้ว ราคาประมาณหนึ่งล้านกว่าบาท

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก http://www.suzuki.co.jp/

Toyota-Vellfire

ได้เวลาปรับโฉม เพิ่มเติมความสดใหม่ ทั้ง Alphard และ Vellfire

Toyota Alphard (โตโยต้า อัลพาร์ด) เป็นรถตู้ขนาดใหญ่และหรูหรา ซึ่งออกมาตั้งแต่ปี 2002 และได้รับความนิยมอย่างสูงทั้งในญี่ปุ่นและในไทย โฉมปัจจุบันเปิดตัวในปี 2015 เป็นเจนเนอเรชั่นที่ 3 ส่วน Toyota Vellfire (โตโยต้า เวลไฟร์) ออกแบบให้มีภาพลักษณ์สปอร์ตกว่า โดยจำหน่ายมาตั้งแต่ปี 2015 เช่นกัน ซึ่งก็ถึงเวลาปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ต้อนรับปี 2018 นี้ มีรูปลักษณ์แตกต่างจากเดิมพอสมควร

Alphard-Timeline Vellfire-Timeline

วิวัฒนาการ จากรุ่นสู่รุ่น

จาก Clip VDO แสดงให้เห็นถึง Alphard และ Vellfire ไมเนอร์เชนจ์ มีการเปลี่ยนแปลงทั้งชุดไฟหน้าแบบ LED ดีไซน์ใหม่ รับกับกระจังหน้าที่ใหญ่และหนาขึ้นกว่าเดิม กันชนหน้าใหม่ ชุดไฟท้ายใหม่ และกันชนท้ายที่ปรับรูปแบบจากเดิมนิดหน่อย ดูหรูหรามากยิ่งขึ้น

Toyota-Alphard Toyota-Alphard Toyota-Alphard

ห้องโดยสารภายในของรุ่น Alphard มีให้เลือกทั้งแบบ 7 ที่นั่ง และ 8 ที่นั่ง ติดตั้งเบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง Nappa, หลังคาซันรูฟคู่ เปิด-ปิดได้ทั้งด้านหน้าและหลัง, สามารถเลือกติดตั้งเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสได้ทั้งขนาด 7 นิ้ว, 9 นิ้ว และ 10.5 นิ้ว พร้อมออพชั่นต่างๆ อีกเพียบ

Toyota-Vellfire Toyota-Vellfire Toyota-Vellfire

ขุมพลัง มีให้เลือกทั้งเบนซินและไฮบริด 3 แบบ ประกอบด้วย

– เครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.5 ลิตร รหัส 2AR-FE ให้แรงม้าสูงสุด 182 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 235 นิวตัน-เมตร ที่ 4,100 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i

– เครื่องยนต์เบนซินขนาด 3.5 ลิตร รหัส 2GR-FKS ให้แรงม้าสูงสุด 301 แรงม้า ที่ 6,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 361 นิวตัน-เมตร ที่ 4,600-4,700 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ Direct Shift 8 สปีด

– เครื่องยนต์เบนซินไฮบริดขนาด 2.5 ลิตร รหัส 2AR-FXE ให้แรงม้าสูงสุด 152 แรงม้า ที่ 5,700 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 206 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400-4,800 รอบ/นาที ทำงานคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าด้านหน้า ให้แรงม้าสูงสุด 143 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 270 นิวตัน-เมตร และมอเตอร์ด้านหลัง ให้แรงม้าสูงสุด 68 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 139 นิวตัน-เมตร

Toyota-Alphard

ส่วน Alphard และ Vellfire เวอร์ชั่นไทย คาดว่าจะเปิดตัวในไทยต้นปีหน้านี้ครับ

Nissan-Juke-Gran-Turismo-Sport

แฟนพันธุ์แท้เกมส์ PlayStation ต้องไม่พลาด! ซื้อ Nissan Juke GT Sport PlayStation แถม PS4 ฟรี! ด้วย

Nissan-Juke-GT-Sport-PlayStation-Head

Nissan Europe (นิสสัน ยุโรป) ร่วมกับ GT Sport เผยโฉม Nissan Juke GT Sport PlayStation (นิสสัน จู๊ค จีที สปอร์ต เพลย์สเตชั่น) รุ่นพิเศษ ต้อนรับการเปิดตัวเกมรถแข่งระดับโลกอย่าง GT Sport ภาคใหม่ล่าสุด สำหรับเครื่องเล่น PlayStation 4 ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 500 คันเท่านั้น

Nissan-Juke-Gran-Turismo-Sport

Nissan-Juke-Gran-Turismo-Sport

 

Nissan Juke GT Sport PlayStation มาพร้อมกับล้อแม็กสีดำ Tokyo Black ขนาด 18 นิ้ว,สติ๊กเกอร์ PlayStation บนตัวถัง, แผ่นรองขอบประตูแบบคาร์บอนไฟเบอร์, โลโก้ GT Sport, พรมปูพื้น และเสาอากาศแบบครีบฉลาม เป็นต้น ส่วนสีตัวถังมีให้เลือกทั้งสีน้ำเงิน Ultramarine Blue หรือ สีขาว Pearl White

Nissan-Juke-Gran-Turismo-Sport

Nissan-Juke-Gran-Turismo-Sport

ลูกค้าที่ซื้อรถ Nissan Juke GT Sport PlayStation รุ่นนี้ ยังได้เครื่องเล่นเกม PlayStation 4 (500GB) และแผ่นเกม GT Sport ไปฟรีๆ อีกด้วย โดยรุ่นพิเศษนี้ จำหน่ายเฉพาะในประเทศสเปน และ โปรตุเกส เท่านั้น ในราคา 22,228 ยูโร

Nissan-Juke-Gran-Turismo-Sport

Nissan-Juke-Gran-Turismo-Sport

สำหรับใครที่กำลังสนใจรถ Nissan Juke รุ่นนี้อยู่ สามารถคลิกเข้าไปดูต่อได้ที่ https://th.carro.co/buycar/Nissan-Juke ได้เลยครับผม

LA-Auto-Show-2017

งานแสดงรถยนต์ยิ่งใหญ่ที่สุดในอเมริกาฝั่งตะวันตก “Los Angeles Auto Show 2017”

Acura-NSX

ประมวลภาพรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุด รถต้นแบบ และอื่นๆ ในงานมหกรรมยานยนต์ “Los Angeles Auto Show 2017” งานแสดงรถยนต์ที่ยิ่งใหญ่สุดในภาคตะวันตกของสหรัฐอเมริกา จัดต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 1907 ถึงปัจจุบัน … ที่แม้ว่างานจะจัดตรงกับงาน Motor Expo 2017 ในบ้านเรา จนข่าวคราวของงานนี้เงียบหายไปบ้าง …

โดยงานนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 – 10 ธันวาคม 2560 ณ LA Convention Center เมือง Los Angeles ประเทศสหรัฐอเมริกา … ทาง CARRO ขอเก็บตกภาพบรรยากาศ พร้อมรถเปิดตัวใหม่มาให้ชมกันครับ

BMW-i8-Roadster

BMW i8 Roadster

BMW-M3-CS

BMW M3 CS

Buick Regal Touring

Chevrolet-Corvette-ZR1-Convertible

Chevrolet Corvette ZR1 Convertible

GMC-Sierra-All-Mountain-Concept

GMC Sierra All Mountain Concept

Hyundai-Kona

Hyundai Kona

Infiniti-QX50

Infiniti QX50

Infiniti-QX80

Infiniti QX80

KIA-Sorento

KIA Sorento

Land-Rover-Range-Rover-SVAutobiography

Land-Rover Range Rover SVAutobiography

Lincoln-Nautilus

Lincoln Nautilus

Maserati-Levante-Nerissimo

Maserati Levante Nerissimo

Mazda6

Mazda6

Mercedes-Benz-CLS

Mercedes-Benz CLS

Nissan-Kicks

Nissan Kicks

Porsche-718-Boxster-GTS

Porsche 718 Boxster GTS

Porsche-718-Cayman-GTS

Porsche 718 Cayman GTS

Saleen-S1

Saleen S1

Subaru-Ascent

Subaru Ascent

Tesla-Model-3

Tesla Model 3

Toyota-FT-AC-Concept

Toyota FT-AC Concept

Volkswagen-I.D.Crozz-Concept

Volkswagen I.D.Crozz Concept

Volvo-XC40

Volvo XC40

ขอบคุณภาพจาก https://www.autoblog.com/

Pickup-Motor-Expo-2017

ส่งท้ายปี 2560 กับรถกระบะเปิดตัวใหม่หลายรุ่นในงาน Motor Expo 2017

รถกระบะ ถือเป็นรถที่ยอดนิยมอย่างยิ่งของชาวไทยมานานนับหลายสิบปี ที่มาพร้อมเทคโนโลยี ออพชั่น และกำลังเครื่องยนต์ที่มากขึ้นเรื่อยๆ และยอดขายยังเป็นปัจจัยที่แสดงให้เห็นถึงสภาวะเศรษฐกิจได้อีกทางหนึ่ง เป็นรถสารพัดประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ ใช้งานได้ทั้งในเมือง ในที่ทุรกันดาร ขนของ ขนสัตว์ ใช้รับจ้างหาเงิน ทำเป็นรถสองแถวก็ได้ หรือใช้งานส่วนตัวก็ดี ฯลฯ

ในงาน Motor Expo 2017 นี้ ผู้ผลิตรถกระบะหลายเจ้าอย่าง โตโยต้า, อีซูซุ, มิตซูบิชิ หรือเชฟโรเลต ต่างรีบแต่งหน้าทาปากรถกระบะของตัวเองกันใหม่ หรือผลิตรุ่นพิเศษออกมาเพื่อกระตุ้นตลาด เพื่อช่วงชิงยอดจองและยอดขาย ซึ่งในงาน Motor Expo 2017 จะมีรุ่นใดมาโชว์นั้น CARRO ขอนำเสนอข้อมูลให้ทุกท่านดูกันได้เลยครับ …

Toyota Hilux Revo (Minorchange)

Toyota-Hilux-Revo-Rocco

Toyota นำเสนอ “Hilux Revo รุ่นปรับโฉมใหม่” ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด “ตัวตนของคนจริง” ด้วยดีไซน์ใหม่ของกันชนหน้า กระจังหน้าแบบโครเมียมและสีดำเงา และกรอบไฟตัดหมอกสีดำเงา สอดรับกับสีภายในห้องโดยสารใหม่โทนสีดำ ตลอดจนอุปกรณ์มาตรฐานต่างๆ ที่มีการปรับเพิ่มให้ครอบคลุมทุกการใช้งาน

และยังมี Hilux Revo Rocco (ไฮลักซ์ รีโว่ ร็อคโค่) ใหม่! รุ่นตกแต่งพิเศษ เปิดตัวในงานนี้ด้วย ถูกพัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด “แกร่งเกินนิยาม” โดยมาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 2.8 ลิตร รหัส 1GD-FTV แบบ 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC VN Turbo Intercooler ให้แรงม้าสูงสุด 177 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 420 นิวตัน-เมตร ที่ 1,400-2,600 รอบ/นาที

ราคาของ Toyota Hilux Minorchange ใหม่ อยู่ที่ 523,000 – 1,154,500 บาท

Isuzu D-Max (Minorchange)

Isuzu-D-Max

Isuzu (อีซูซุ) ฉลองครบรอบ 60 ปีในไทย พร้อมกับมีเซอร์ไพรส์ กับการเปิดตัว Isuzu D-Max Minorchange (อีซูซุ ดีแม็คซ์ ไมเนอร์เชนจ์) ภายนอกดีไซน์ล้ำสมัย เร้าใจ สไตล์สปอร์ต กระจังหน้าใหม่ เพิ่มออพชั่นหลายอย่าง สานต่อความแรงของ “ปรากฏการณ์ อีซูซุบลูเพาเวอร์” โดยชูจุดเด่นใหม่ๆ เช่น ไฟหน้าใหม่แบบ Bi-LED พร้อม Multifunctional Daylight ปรับระดับสูง-ต่ำของไฟหน้าได้ถึง 4 ระดับ
ภายในเสนอความบันเทิงเหนือระดับกับ ใหม่! Isuzu iConnect พร้อม Built-in Navigator และใหม่ล่าสุด “อีซูซุอินไซท์” (Isuzu Insight) ที่สามารถดาวน์โหลดข้อมูลผ่าน Smartphone ได้

และรุ่นไฮไลท์อย่าง “Isuzu D-Max V-Cross MAX 4×4” สปอร์ต ออฟโรด ดีไซน์ภายนอกใหม่! พร้อมชุดแต่ง MAX 4×4 สีเทาดำรอบคัน ผสานความแกร่งและสปอร์ตเป็นหนึ่งเดียว ดุดัน บึกบึนเต็มขั้น ด้วยโทนสีเทาดำ สไตล์สปอร์ตออฟโรดตัวจริง

สำหรับในรุ่น Spark, Spacecab, Cab4 และ Hi-Rider มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.9 ลิตร รหัส RZ4E-TC แบบ 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC Commonrail Di พร้อม VGS Turbo Intercooler ให้แรงม้าสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800-2,600 รอบ/นาที

ส่วนเครื่องยนต์ขนาด 3.0 ลิตร รหัส 4JJ1-TCX แบบ 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC Commonrail Di พร้อม VGS Turbo Intercooler ให้แรงม้าสูงสุด 177 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 380 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800-2,800 รอบ/นาที

ราคาของ Isuzu D-Max Minorchange ใหม่ อยู่ที่ 497,000 – 1,099,000 บาท

Nissan Navara (MY2018)

Nissan-Navara

ครั้งแรกในรถปิคอัพ ที่มาพร้อมเทคโนโลยีขับเคลื่อนอัจฉริยะ ใน Nissan NP300 Navara (นิสสัน เอ็นพี 300 นาวารา) ใหม่ กับกล้องมองภาพรอบทิศทาง AVM (Around View Monitor) 360 องศา มองเห็นภาพภายนอกได้รอบคัน และเพิ่มถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่งรอบคัน (เฉพาะรุ่น Top)

มาพร้อมเครื่องยนต์ให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่ขนาด 2.5 ลิตร รหัส YD25DDTi แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว VGS Turbo Intercooler ให้แรงม้าสูงสุด 163 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 403 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 รอบ/นาที

ส่วนในรุ่น 4WD รหัส YD25DDTi แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว VGS Turbo Intercooler ให้แรงม้าสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 รอบ/นาที

ราคาของ Nissan NP300 Navara อยู่ที่ 549,500 – 1,106,000 บาท

Mitsubishi Triton Athlete

Mitsubishi-Triton-Athlete

Mitsubishi (มิตซูบิชิ) เปิดตัว Triton รุ่นพิเศษ “Triton Athlete” (ไทรทัน แอทลีท) สปอร์ต พันธุ์เข้ม เร้าใจทุกมุมมองด้วยชุดแต่งพิเศษรอบคันจากโรงงาน มีสีให้เลือก 3 สี ได้แก่สีขาว, สีเทา และสีดำ ตกแต่งภายในด้วยโทนสีดำ-ส้ม พร้อมสัญลักษณ์ Athlete เครืองเสียงแบบหน้าจอสัมผัสพร้อมรองรับระบบ Apple CarPlay เป็นต้น

มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร รหัส 4N15 แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว VG Turbo ให้แรงม้าสูงสุด 181 แรงม้า ที่ 3,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร ที่ 2,500 รอบ/นาที

ราคาของ Mitsubishi Triton อยู่ที่ 522,000 – 1,111,000 บาท

Chevrolet Colorado Centennial Edition

Chevrolet-Colorado-Centennial-Edition

Chevrolet (เชฟโรเลต) ฉลองครบรอบ 100 ปี กระบะอเมริกันพันธุ์แกร่ง สร้างมาเพื่ออนาคต กับ Chevolet Colorado Centennial Edition (เชฟโรเลต โคโลราโด เซนเทนเนียล อิดิชั่น) รุ่นฉลองครบรอบกระบะ 100 ปี จำนวนจำกัดเพียง 100 คัน เท่านั้น มาพร้อม สติกเกอร์สีดำด้านที่กระโปรงหน้า ตราสัญลักษณ์ฉลองครบรอบกระบะ 100 ปี ล้ออัลลอยสีดำ 18 นิ้ว ชุดแต่งซุ้มล้อ ด้านหน้า และหลัง สปอร์ตบาร์ และมือจับที่เปิดประตูท้ายโครเมียม พร้อมตราสัญลักษณ์ฉลองครบรอบกระบะ 100 ปี เป็นต้นน

ใช้เครื่องยนต์ดูราแมกซ์ ดีเซล คอมมอนเรล ไดเรคอินเจคชั่น ขนาด 2.5 ลิตร แบบ 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC พร้อมเทอร์โบแปรผัน (VGT-Variable Geometry Turbocharger) และอินเตอร์คูลเลอร์ ให้แรงม้าสูงสุด 180 แรงม้า ที่ 3,600รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 รอบ/นาที

ราคาของ Chevrolet Colorado อยู่ที่ 594,000 – 1,103,000 บาท

สำหรับผู้ที่สนใจซื้อรถใหม่ในงาน Motor Expo 2017 แต่ยังหนักใจว่าจะขายรถคันเดิมที่ไหนดี ให้ CARRO เป็นผู้ช่วยมืออาชีพของคุณ “ซื้อ ขาย รีไฟแนนซ์ รถยนต์อย่างมืออาชีพกับ CARRO Thailand” หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มได้ใน Fanpage “CARRO Thailand” ครับผม

Start motor show

เริ่มแล้วกับงานแสดงรถที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย กับงาน บางกอก มอเตอร์โชว์ 2016 หรืองาน Bangkok International Motorshow 2016

ซึ่งในครั้งนี้ก็เป็นงานครั้งที่ 37 โดยทาง CARRO ได้นำภาพบรรยากาศในงาน ที่ได้จัดในรอบสื่อมวลชนมาให้ชมกันก่อน และรถเด่นในงานนี้เรานำมาให้ดูแบบไม่ต้องคาดเดากันอีกต่อไป ไปดูกันว่ามีรุ่นอะไรบ้าง และกองทัพพริตตี้ สาวสวยมีมาให้ชมกันมากแค่ไหน

MG GS

SUV จากค่าย MG ที่สร้างความฮือฮาได้มากพอสมควรกับรูปลักษณ์และ ฟังก์ชั่น
ที่พร้อมจะเป็นคู่ต่อกรได้กับ Honad Cr-VSubaru XVMazda Cx-5 ฟังก์ชั่นเด่นได้แก่ ระบบอินทราเนทในรถ พร้อมใช้งานไวไฟฟรี 1 ปี ระบบขับเคลื่อน 2,4 ล้อ

All New Honda Civic 2016

Civic รุ่นที่ 10 หรือเรียกสั้นๆ ว่า Civic FC เปิดตัวครั้งแรกแล้ว และน่าจะเป็นรุ่นที่ประชาชนชาวไทยหลายคนกำลังรอคอย ที่จะจับจองมากที่สุดโดยจุดเด่นๆ ของรุ่นนี้คือ เครื่องยนต์ขนาด 1.5L และเทอร์โบ หน้าปัดแบบ LED ได้อารมณ์รถยุโรปเต็มรูปแบบจริงๆ

All New Benz E-Class 220d

All New E-Class กับการปรับโฉมเพื่อไล่ระดับความสวยให้เทียบเท่ารุ่นพี่อย่าง S-Class ตอนนี้มาแล้วที่ประเทศไทย ที่พร้อมจะมอบความหรูหรามีระดับ ให้กับผู้ขับขี่ จุดเด่นที่คือเครื่องยนต์ ดีเซลสุดแกร่งและประหยัดและรูปลักษณ์ทั้งภายในและภายนอก ปรับเปลี่ยนใหม่หมด ดูคล้ายรุ่นพี่อย่าง S-Class

Ford Focus 2016 

กับการปรับเสริมเติมแต่งในรูปแบบ ไมเนอร์เชนจ์ ที่หน้าตาจะแปลกตาจากเดิมไปสักหน่อย แต่จุดเด่นหลักๆ ของรุ่นนี้คงหนีไม่พ้นกับเครื่องยนต์แบบ EcoBoost 1.5L แม้อาจจะดูไม่ตูมตามเท่ากับ Honda Civic มากนักแต่เชื่อเถอะว่าเครื่องยนต์ EcoBoost น่าสนใจจริงๆ

Isuzu Mu-X 2016

กับเครื่องยนต์ใหม่ Ddi 1.9 BluePower ที่จะนำมาแทoที่รุ่น 2.5L แต่ยังคงมีตัวเครื่องยนต์ 3.0L อยู่ ซึ่งทาง Isuzu ได้ลองเปิดตัวเครื่องยนต์ใหม่ตัวใหม่นี้กับกระบะตัวเก่งของค่าย นั่นคือ D-Max ไปแล้ว และได้เสียงตอบรับจากทางแฟนคลับ ของค่ายนี้เป็นอย่างดี จนทาง Isuzu ต้องนำเครื่องยนต์ใหม่นี้มาใช้งานในรถ SUV บ้างเพื่อหวังกระตุ้นยอดขายกับรถประเภท SUV PPV เผื่อจะได้ไปสู้กับ Fortuner, Pajero บ้าง

BMW M2 Coupe

M Coupe แคชื่อนี้สำหรับใครที่เป็นสาวกค่ายใบพัดสีฟ้า BMW  ที่นำมาเปิดตัวและจำหน่ายในไทย ด้วยสเปคสุดโหดเครื่องยนต์ M แท้ๆ จากโรงงาน จะแรงกว่าเครื่องยนต์ปกติทั่วไป  375 แรงม้า ถ้าให้เทียบก็ใกล้เคียงกับรุ่น M3 ในรุ่นก่อนๆ
อุปกรณ์ต่างๆ ที่จัดเพิ่มสมรรถนะที่เพิ่มขึ้นจากรุ่นธรรมดา ทั้งระบบเบรค เกียร์ ระบบความปลอดภัยเรียกว่าถ้าต้องการความแรง ที่แรงมากจากโรงงานแล้วละก็ BMW M2 (F87) ใจถึงพึ่งได้แน่นอน

นอกจาก 6 รุ่นนี้ ยังมีอีกหลายรุ่นที่ น่าสนใจไม่แพ้กันกับงาน มอเตอร์โชว์ 2016 ครั้งที่ 37 นี้ถามว่า “งานมอเตอร์โชว์ 2016 มีวันไหน” บ้าง โดยงาน มอเตอร์โชว์ 2016 จะมีตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม – 3 เมษายน 2559  ที่ ชาเลนเจอร์ฮอล์ ณ อิมแพค เมืองทองธานี เปิดตั้งแต่เที่ยง เดินได้เพลินๆ จนถึง 22.00 ไปเลย

Mercedes-benz เปิดตัวต่อเนื่อง C-Class 2016 Cabriolet รุ่นเปิดประทุนสุดหรู ครั้งแรกในงาน Geneva มอเตอร์โชว์ 2016

หลังจาก Mercedes-benz เปิดตัว C-Class Coupe 2016 ไปอย่างเป็นที่ฮือฮา แถมยังเข้าไทยด้วย ความเซอร์ไพรส์ยังไม่หมดแค่นั้น เมื่อเบนซ์ได้เปิดตัวรุ่นเปิดประทุน ‘C-Class 2016 Cabriolet’ มาแบบติดๆ โดยได้ออกมาโชว์ตัวครั้งแรกให้คนทั่วโลกชื่นชมที่งาน ‘Geneva มอเตอร์โชว์ 2016’ ที่จัดขึ้น ณ กรุงเจนีวา ประเทศสวิสเซอร์แลนด์

จะไม่ให้ตื่นเต้นอย่างไรไหว ในเมื่อครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เบนซ์ได้ทำรุ่นเปิดประทุนสำหรับ C-Class ออกมาเป็นครั้งแรก เพราะในเจเนอเรชั่นแรกมีแค่ตัว 4 ประตูเท่านั้น แต่พอมาในปีนี้ เบนซ์ได้เพิ่มรุ่น 2 ประตู (C-Class Coupe 2016) และรุ่นเปิดประทุน (C-Class 2016 Convertible) โดยมีการปรับเปลี่ยนดีไซน์ให้มีความหรูหรา โฉบเฉี่ยว ทันสมัย และล้ำหน้าด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ มากยิ่งขึ้น

ในส่วนของการดีไซน์เรียกได้ว่าเหมือนกันแทบจะทุกอย่างกับรุ่นคูเป้ แต่สิ่งที่แตกต่างก็คือตัวนี้จะถูกโหลดให้เตี้ยลงกว่าเดิม 15 มิลลิเมตร และในส่วนของหลังคาจะถูกหดลงมา 0.2 นิ้ว

จุดเด่นของ C-Class Cabriolet 2016 ตัวนี้คือ
– ตัวถังรุ่น W205 เพื่อออกแบบมาให้รองรับตัวเปิดประทุนตั้งแต่ต้น เนื่องจากมันสามารถทนต่อแรงกดเวลาที่ถอดหลังคาได้เป็นอย่างดีมากกว่าตัวอื่น
– หลังคาเป็นผ้าสีเบสิกคือสีดำ แต่สามารถเลือกเปลี่ยนสีได้ตามใจชอบ  โดยมีสีให้เลือกคือ สีแดงเข้ม สีน้ำตาลเข้ม และสีน้ำเงินเข้ม
– ในส่วนของวัสดุยังใช้ ‘อลูมินั่มอัลลอย’ เหมือนกับรุ่นคูเป้ กับส่วนถังด้านข้าง และด้านหน้า เพื่อทำให้รถมีน้ำหนักเบา และสามารถลู่ลมได้ดี ส่วนกระจังหน้าเป็นทรง Diamond
– หลังคาผ้าสามารถเปิด-ปิด ได้ภายในเวลา 20 วินาที ในขณะที่รถเคลื่อนที่ความเร็วไม่เกิน 50 กิโลเมตร/ชม.
– C-Class เปิดประทุนทุกรุ่นจะมีระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ
– ระบบ AIRCAP ที่สามารถป้องกันลมมาหมุนเวียนภายในห้องโดยสารเมื่อเปิดหลังคา
– ระบบ ATRSCARF ระบบเป่าลมร้อนบริเวณต้นคอ เมื่อเปิดหลังคาในขณะที่อุณหภูมิต่ำ
– ระบบ Air Suspension มาพร้อมกับเพลาขับเคลื่อนหน้า-หลัง ที่สามารถเลือกปรับมุมได้

C-Class Coupe Cabriolet 2016‘ มีให้เลือกทั้งหมด 6 รุ่น คือ
– C220d เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 2.2L 172 แรงม้า ความเร็วสูงสุด 231 กิโลเมตร/ชม.
– C250d เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 2.2L 207 แรงม้า ความเร็วสูงสุด 243 กิโลเมตร/ชม.
– C180 เครื่องยนต์เบนซิล 4 สูบ 1.6L 158 แรงม้า ความเร็วสูงสุด 222 กิโลเมตร/ชม.
– C200 เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0L 187 แรงม้า ความเร็วสูงสุด 235 กิโลเมตร/ชม.
– C250 เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0L 214 แรงม้า ความเร็วสูงสุด 244 กิโลเมตร/ชม.
– C300 เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0L 248 แรงม้า ความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตร/ชม.
– C400 4Matic เครื่องยนต์เบนซิน V6 3.0L 388 แรงม้า ความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตร/ชม.
– C43 4Matic เครื่องยนต์เบนซิน V6 3.0L 372 แรงม้า ความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตร/ชม.

แต่น่าเสียดายที่เบนซ์ ซี-คลาส เปิดประทุนคันนี้ไม่ได้เข้าไทย ซึ่งถ้าใครอยากเห็นของจริงก็สามารถตามไปดูได้ที่งาน Geneva มอเตอร์โชว์ 2016 ระหว่างวันที่ 3 – 13 มีนาคม 2559 นี้

SUV-Crossover-Motor-Expo-2017

พบกับรถ SUV และ Crossover รุ่นใหม่ จากงาน Motor Expo 2017 ได้ที่นี่

ในยุคปัจจุบัน ถ้าจะให้พูดถึงรถยนต์อเนกประสงค์ หรือ รถยนต์ในรูปแบบ SUV, PPV หรือ Crossover นั้น เป็นที่นิยมมากขึ้นทุกปี (ดูได้จากยอดขายรถประเภทนี้ ย้อนหลังไป 6-7 ปีที่ผ่านมา) เพราะเป็นรถที่สามารถใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะไว้วิ่งในเมือง ไว้ออกต่างจังหวัด ลุยน้ำท่วม ขนสัมภาระมากมาย หรือเดินทางไปกับครอบครัวหลายคนก็ตาม

ในงาน Motor Expo 2017 (มอเตอร์เอ็กซ์โป 2017) นี้ บรรดาผู้ผลิตรถยนต์ที่มีไลน์การผลิตรถแนว SUV, PPV หรือ Crossover ต่างรีบนำผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ของตนออกสู่ตลาดโดยเร็ว เพื่อช่วงชิงยอดจองและยอดขาย ซึ่งในงาน Motor Expo 2017 จะมีรุ่นใดมาโชว์นั้น CARRO ขอนำเสนอข้อมูลให้ทุกท่านดูกันได้เลยครับ …

Toyota C-HR

Toyota-C-HR

Toyota C-HR (โตโยต้า ซี-เฮชอาร์) รถ Crossover อเนกประสงค์ ที่ทาง Toyota นำมาโชว์ ถือว่าได้รับความสนใจอย่างล้มหลามเลยทีเดียว แม้ทาง Toyota จะยังไม่เผยสเปคออกมาชัดเจน รวมถึงรุ่นย่อยทั้ง 4 รุ่นย่อย

ซึ่ง Toyota C-HR ในรุ่นเครื่องยนต์ไฮบริดขนาด 1.8 ลิตร รหัส 2ZR-FXE ที่ยกชุดมาจากในตัว Prius รุ่นล่าสุด ชูจุดเด่นเรื่องความประหยัดน้ำมันแน่นอน นอกจากนี้ยังติดตั้งระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense และมีระบบ Toyota T-Connect Telematics เชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือได้สะดวกและง่ายดาย

พิเศษ! สำหรับผู้จองสิทธิ์เป็นเจ้าของ C-HR ตอนนี้ รับฟรี Cusotm Name Plate เลือกดีไซน์ชื่อได้ตามสไตล์คุณ ตั้งแต่วันนี้ – 28 ก.พ. 2561

ราคาของ Toyota C-HR ใหม่

– รุ่น 1.8 Entry ราคาไม่เกิน 1,000,000 บาท
– รุ่น 1.8 Mid ราคา 1,050,000 บาท (+,- ไม่เกิน 20,000 บาท)
– รุ่น Hybrid Mid ราคา 1,050,000 บาท (+,- ไม่เกิน 20,000 บาท)
– รุ่น Hybrid Hi ราคาไม่เกิน 1,200,000 บาท

Mazda CX-5

Mazda-CX-5

Mazda (มาสด้า) เปิดตัว Crossover SUV รุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง “Mazda CX-5” ใหม่ มาพร้อมรูปทรงการออกแบบอันสง่างามทั้งภายนอกและภายใน ที่ได้แรงบันดาลใจจากสุนทรียศาสตร์ของงานศิลปะญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม ตามแนวทางการออกแบบ “Less is more” ภายนอกดูเรียบง่าย แต่สุขุม และยังคงให้ความสปอร์ตโฉบเฉี่ยวในแบบฉบับใหม่ อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีเจนเนอเรชั่นใหม่ล่าสุด

Mazda CX-5 มาพร้อมเครื่องยนต์ SKYACTIV-G ขนาด 2.0 ลิตร ให้แรงม้า 165 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 210 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที ประหยัดน้ำมันสูงสุด 13.9 กม./ลิตร

และเครื่องยนต์คลีนดีเซล SKYACTIV-D ขนาด 2.2 ลิตร ให้แรงม้า 175 แรงม้า ที่ 4,500 รอบ/นาที แรงบิดสูง 420 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 รอบ/นาที ประหยัดสูงสุด 17.5 กม./ลิตร

ราคา Mazda CX-5 ใหม่

– รุ่น 2.0 C ราคา 1,290,000 บาท
– รุ่น 2.0 S ราคา 1,400,000 บาท
– รุ่น 2.0 SP ราคา 1,530,000 บาท
– รุ่น 2.2 XD ราคา 1,560,000 บาท
– รุ่น 2.2 XDL ราคา 1,770,000 บาท

Lexus NX

Lexus-NX

Lexus NX (เลกซัส เอ็นเอ็กซ์) รุ่นไมเนอร์เชนจ์ มาภายใต้แนวคิด “The urbaNXplorer” ตอบโจทย์ความต้องการของคนเมืองยุคใหม่ ที่มีวิถีชีวิตไม่ซ้ำใคร ถือเป็นรถ Lexus รุ่นที่ขายดีที่สุดของเลกซัสในประเทศไทย นับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2557 จนถึงปัจจุบัน ด้วยยอดจำหน่ายรวมภายในประเทศกว่า 1,400 คัน พร้อมการันตีถึงความนิยมด้วยยอดจำหน่ายสะสมทั่วโลก กว่า 400,000 คัน

มาพร้อมกับระบบเครื่องยนต์ 2 ทางเลือก ไม่ว่าจะเป็น ระบบ Hybrid ขนาด 2.5 ลิตร ในรุ่น NX300h เต็มสมรรถนะและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยระบบ Lexus Hybrid Drive อัจฉริยะ และขุมพลังเครื่องยนต์ Turbo 4 สูบแถวเรียง ขนาด 2.0 ลิตร ในรุ่น NX300 ให้สมรรถนะแรงเต็มพลังในทุกระดับความเร็ว

ราคาของ Lexus NX ใหม่

NX300
– รุ่น F Sport แบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ราคา 4,450,000 บาท
– รุ่น Grand Luxury ราคา 3,440,000 บาท

NX300h
– รุ่น F Sport ราคา 4,050,000 บาท
– รุ่น Premium ราคา 3,550,000 บาท
– รุ่น Grand Luxury ราคา 3,140,000 บาท
– รุ่น Luxury ราคา 2,930,000 บาท

Subaru XV

Subaru-XV

Subaru XV (ซูบารุ เอ็กซ์วี) รถ Crossover ที่เคยสร้างกระแสความนิยมในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และสร้างยอดขายให้กับ Motorimage ผู้นำเข้ารถยนต์ซูบารุในบ้านเราได้มากพอสมควร ถึงเวลาเปลี่ยนโฉมใหม่ตามญี่ปุ่น พัฒนาขึ้นบนแพล็ตฟอร์มล่าสุด “Subaru Global Platform” ร่วมกันกับ Impreza ใหม่ คาดว่ามาพร้อมเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ส่งกำลังผ่านเกียร์ CVT แบบ 7 สปีด เตรียมเปิดตัวในงาน Motor Expo 2017 นี้

Subaru XV ใหม่ ใช้เครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร รหัส FB20 แบบ Boxer 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว พัฒนาขึ้นใหม่กว่า 80% เพิ่มกำลังอัดเป็น 12.5:1 (จากเดิม 10.5:1) ให้แรงม้าสูงสุด 156 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 196 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT แบบ 7 สปีด พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Symmetrical AWD และระบบ X-Mode สำหรับส่งถ่ายกำลังขับเคลื่อน 4 ล้อ

ราคาของ Subaru XV ใหม่

– รุ่น 2.0i ราคา 1,159,000 บาท
– รุ่น 2.0i-P ราคา 1,259,000 บาท

MG ZS

MG-ZS

MG (เอ็มจี) ประเทศไทย เปิดตัว MG ZS (เอ็มจี แซดเอส) รูปลักษณ์ของ New MG ZS ได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิดบริท ไดนามิค (Brit Dynamic) ที่มีความทันสมัยมากขึ้นและสปอร์ตยิ่งกว่าเดิม พร้อมชูจุดเด่นรถยนต์รุ่นแรกของเอ็มจี ที่มาพร้อมกับระบบอัจฉริยะ i-SMART มีระบบ Voice Command ภาษาไทย

New MG ZS ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซินรุ่นใหม่ รหัส 15S4C ขนาด 1.5 ลิตร แบบ 4 สูบ DOHC VTi-TECH ให้แรงม้าสูงสุด 114 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 150 นิวตันเมตร ที่ 4,500 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด พร้อม Manual Mode

ราคาของ MG ZS ใหม่

– รุ่น C ราคา 679,000 บาท
– รุ่น D ราคา 729,000 บาท
– รุ่น X ราคา 789,000 บาท

BMW X3

BMW-X3

BMW X3 (บีเอ็มดับบลิว เอ็กซ์3) ใหม่ เป็นเจเนอเรชั่นที่สาม รูปลักษณ์แข็งแกร่งแบบออฟโรดเข้ากับความสปอร์ต ออกแบบเพื่อรองรับการกระจายน้ำหนักแบบ 50:50 ระหว่างเพลาหน้าและหลังเป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบ

BMW X3 ใหม่ มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ BMW TwinPower Turbo ทำงานประสานเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด Streponic เครื่องยนต์ให้แรงม้าสูงสุด 190 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ส่งให้ BMW X3 xDrive20d xLine ใหม่ เร่งเครื่องจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 8 วินาที ก่อนที่จะพุ่งทะยานทำความเร็วสูงสุดที่ 213 กม./ชม. ด้านอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงอยู่ที่ 17.6 กม./ลิตร และอัตราการปล่อย CO2 ที่ 150 กรัม/กม.

BMW X3 xDrive20d xLine ใหม่ ราคา 3,699,000 บาท

Volvo XC60

Volvo-XC60

Volvo XC60 (วอลโว่ เอ็กซ์ซี60) รถ SUV พรีเมี่ยมขนาดกลาง มาพร้อมไฟหน้า LED รูปทรง Thor’s Hammer เอกลักษณ์ของวอลโว่ พร้อมโลโก้ Iron Mark บนกระจังหน้า ชุดไฟหน้ามาพร้อมระบบ Active High Beam ปรับระดับและลดความสว่างของไฟหน้าลงอัตโนมัติเมื่อมีรถสวนมา ที่ปัดน้ำฝนแบบใหม่พร้อมที่ฉีดน้ำในก้านปัด หลังคาแบบ Panoramic ประตูท้ายเปิด-ปิดโดยไม่ต้องใช้มือเปิด ที่เก็บสัมภาระพร้อม Private Locking และกล้องช่วยจอด 360 องศา เป็นต้น

เครื่องยนต์ของ Volvo XC60 ใช้เครื่องยนต์ T8 Twin Engine AWD Plug-in Hybrid ทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบชาร์จและซุปเปอร์ชาร์จ พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า ให้แรงม้าสูงสุด 407 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 640 นิวตัน-เมตร สามารถวิ่งด้วยไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว (Pure Mode) ได้ระยะทางถึง 44.92 กิโลเมตร

นอกจากนี้ ยังมีเครื่องยนต์ดีเซล D4 AWD ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 4,250 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ที่ 1,750-2,500 รอบ/นาที อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 8.4 วินาที อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 17.9 กม./ลิตร

ราคาของ Volvo XC60 ใหม่

– D4 AWD Momentum ราคา 3,090,000 บาท
– T8 AWD Momentum ราคา 3,290,000 บาท
– T8 AWD R-Design ราคา 3,590,000 บาท

Daihatsu-Hijet-Atrai-Wagon

Daihatsu-Hijet-Cargo

Daihatsu-Atrai-Wagon

“Daihatsu Hijet Cargo” (ไดฮัทสุ ไฮเจ็ท คาร์โก้) และ “Daihatsu Atrai Wagon” (ไดฮัทสุ อาไตรย์ แวกอน) ถึงเวลาปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ใหญ่ ขวัญใจคนรักรถตู้เล็ก โดยเปิดตัวไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ที่ญี่ปุ่น รวมไปถึงคู่แฝดอย่าง Toyota Pixis Van ก็ปรับโฉมตามไปด้วยเช่นกัน

Daihatsu-Hijet-Cargo

สำหรับ “Daihatsu Hijet Cargo” (S321/S331) เจเนอเรชั่นที่ 10 นี้ แม้ว่าจะผลิตขายกันตั้งแต่เดือนธันวาคม 2004 แล้ว ถึงเวลาพลิกโฉมครั้งใหญ่ทั้งภายนอกและภายใน ให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้น และ “Daihatsu Atrai Wagon” (S321G/S331G) เจเนอเรชั่นที่ 5 ก็พร้อมเปลี่ยนโฉมไปด้วยพร้อมกัน

Daihatsu-Hijet-Cargo

ภายนอกของรุ่น Hijet Cargo

Daihatsu-Atrai-Wagon

ภายนอกของรุ่น Atrai Wagon

Daihatsu-Hijet-Cargo

ทั้ง 2 รุ่น มาพร้อมบุคลิกหน้าตาที่ดูคล้ายกับหุ่นยนต์ ชุดไฟหน้าพร้อมไฟแบบ LED คู่ไปกันชุดกันชนหน้าที่ออกแบบใหม่เป็น 3 ส่วน เพื่อสะดวกในการเปลี่ยนเวลาชนถูกเฉพาะจุด และไฟตัดหมอกขนาดเล็กติดตั้งด้านล่าง พร้อมชุดไฟท้ายปรับรูปแบบใหม่เล็กน้อย

Daihatsu-Hijet-Cargo

Daihatsu-Hijet-Cargo

ภายในของรุ่น Hijet Cargo

Daihatsu-Atrai-Wagon

Daihatsu-Atrai-Wagon

ภายในของรุ่น Atrai Wagon

ห้องโดยสารภายใน ปรับปรุงแผงคอนโซลหน้าให้ดูเหลี่ยมขึ้น ปรับปรุงจุดเก็บของต่างๆ ให้ดูอเนกประสงค์และสะดวกต่อการใช้งานมากยิ่งขึ้น ในรุ่น Hijet Cargo เน้นการใช้งานเป็นหลัก ส่วนในรุ่น Atrai มาพร้อมความหรูหราเต็มที่ เพิ่มระบบแอร์ดิจิตอล หน้าปัดแสดงผลแบบแพรวพราว

Daihatsu-Hijet-Cargo Daihatsu-Hijet-Cargo

ในส่วนของระบบความปลอดภัย ถือเป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ ที่ ไดฮัทสุ ได้เพิ่มระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ Smart Assist III เข้ามาใน Hijet Cargo และใน Atrai Wagon ประกอบไปด้วย ระบบ Autonomous Emergency Braking หยุดรถอัตโนมัติในกรณีที่อาจเกิดการชน ทำงานร่วมกับระบบ Pedestrian Detection ตรวจจับคนเดินถนนโดยอาศัยกล้องหน้าแบบ 3 มิติหรือ Stereo Camera เข้ามาช่วย, ระบบ Lane Departure Warning เตือนเมื่อรถออกนอกเลนโดยไม่ตั้งใจ, ระบบ False Start Suppression Control ป้องกันการเข้าเกียร์เดินหน้า-ถอยหลัง ผิด ขณะออกตัว, ระบบ Automatic High Beam ลดไฟสูงอัตโนมัติ และระบบ Vehicle Start Warning ส่งสัญญาณเตือนผู้ขับเมื่อรถด้านหน้าออกตัวหลังจากได้รับสัญญาณไฟเขียวโดยเพิ่มความสามารถในการหลีกเลี่ยงการชนคนเดินเท้า เป็นต้น

Daihatsu-Hijet-Cargo-Engine

สำหรับเครื่องยนต์ … มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 660 ซีซี รหัส KF แบบ 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว ให้แรงม้าสูงสุด 53 แรงม้า (PS) ที่ 7,200 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 6.1 กก.-ม. (60 นิวตันเมตร) ที่ 4,000 รอบ/นาที ให้อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง (ตามโหมด JC08) สูงสุด 18.8 กม./ลิตร ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด

ในส่วนของแบบ Turbo เครื่องยนต์เป็นแบบ 660 ซีซี รหัส KF แบบ 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว Turbo ให้แรงม้าสูงสุด 64 แรงม้า (PS) ที่ 5,700 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 9.3 กก.-ม. (91 นิวตันเมตร) ที่ 2,800 รอบ/นาที ให้อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง (ตามโหมด JC08) เพียงแค่ 17.8 กม./ลิตร ในรุ่น 2WD และ 16.6 กม./ลิตร ในรุ่น 4WD ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด

และรุ่น Atrai เครื่องยนต์เป็นแบบ 660 ซีซี รหัส KF แบบ 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว Turbo ให้แรงม้าสูงสุด 64 แรงม้า (PS) ที่ 5,700 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 9.3 กก.-ม. (91 นิวตันเมตร) ที่ 2,800 รอบ/นาที ให้อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง (ตามโหมด JC08) เพียงแค่ 15.2 กม./ลิตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด เท่านั้น

Daihatsu-Hijet-Cargo

มีให้เลือกใน 10 รุ่นย่อย ได้แก่ Special, Special “SA III”, Special Clean, Special Clean “SA III”, Deluxe, Deluxe “SA III”, Cruise, Cruise “SA III”, Cruise Turbo และ Cruise Turbo “SA III” ในราคาตั้งแต่ 934,200 – 1,522,800 เยน

Daihatsu-Atrai-Wagon

และในส่วนของ Atrai มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย ได้แก่ Custom Turbo RS “Limited SA III” และ Custom Turbo RS “SA III” โดยมีให้เลือกทั้งในแบบรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า และรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ ในราคาตั้งแต่ 1,533,600 – 1,814,400 เยน

Daihatsu-Atrai-Wagon

ส่วนในไทย โอกาสที่จะนำเข้ามาขายนั้น คงบอกได้แต่เพียงว่า ต้องพึ่งผู้นำเข้าอิสระอย่างเดียว แต่จะใครซื้อหรือไม่ อันนี้ไม่รู้ครับ เพราะราคารวมภาษีแล้ว คงเกือบหนึ่งล้านบาท ในรุ่น Hijet Cargo และราคาประมาณหนึ่งล้านกว่าบาท สำหรับในรุ่น Atrai …

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก http://www.daihatsu.co.jp/