toyota-camry-esport

Review Toyota Camry Esport หล่อ…เข้ม…กระชากใจ!!

สารภาพว่าแว่บแรกที่ได้เห็นโตโยต้า คัมรี่ เอสสปอร์ต คันสี่แดงจอดโชว์อยู่….ถึงกะร้องว้าว!!!

ไม่น่าเชื่อว่ารถในกลุ่มนี้ เซ็กเมนต์นี้จะถูกแต่งองค์ทรงเครื่องจากหนุ่มใหญ่ มาเป็นหนุ่มน้อยได้ แถมดูเป็นหนุ่มเข้ม กระเป๋าหนัก กระชากใจสาวน้อย สาวใหญ่ได้ไม่ยาก !!

ถามว่าอะไรมาดึงดูดใจให้เพ้อพร่ำพรรณนาขนาดนี้ ก็เอาเป็นว่ารถคันนี้โดดเด่นตั้งแต่กระจังหน้า ที่ไม่เหมือนกับรุ่นคัมรี่ในรุ่นปกติ โดยกระจังหน้าโครเมียมรมดำดูดุเข้ม แบบ Sport Type ส่วนไฟหน้าโปรเจคเตอร์รมดำเช่นเดียวกัน และที่ดูสวยเฉี่ยวคือไฟ Daytime Running Lights แบบ LED ไล่เลียงมาด้านข้างจะเห็นล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว และเส้นสายการออกแบบที่ดูมีมิติ พอมาถึงบั้นท้ายก็จะเห็นไฟท้ายและสปอยเลอร์หลังแถมด้วยท่อไอเสียคู่ Dual Muffler ให้อารมณ์สปอร์ตสุดๆ

มาสำรวจภายในห้องโดยสารกันบ้าง แต่เดิมเมื่อเปิดประตูเข้ามาดูภายในของคัมรี่ในรุ่นปกติจะพบกับความหรูหรา สุขุม นุ่มลึก อะไรประมาณนั้น แต่พอมาเป็นคัมรี่ เอสสปอร์ต ก็แน่นอนว่ามันต้องสปอร์ต ดิบๆดุดัน ( แต่เอาจริงๆรู้สึกว่ามันกระด้างๆแข็งๆไม่สวยยังไงไม่รู้ ) โดยภายในของรถรุ่นนี้ที่โดดเด่นสุดคือเบาะหนังคู่หน้า ที่เป็นทูโทน ตะเข็บขาว ซึ่งตามปกติอะไรที่เป็นสปอร์ตๆเรามักจะเห็นตะเข็บด้ายแดง แต่รุ่นนี้เก๋กว่า ไม่เหมือนใครด้วยตะเข็บขาว!! ตัวเบาะเป็นหนังที่ออกแบบมาให้โอบกระชับ ไม่ลื่น นั่งสบาย มีระบบบันทึกตำแหน่งของผู้ขับขี่ พวงมาลัยปรับไฟฟ้าและกระจกมองข้าง ส่วนเบาะหลังก็กว้างขวาง นั่งสบาย และยังแยกพับ 60:40 ปรับใช้งานได้ใจชอบ

ความเป็นสปอร์ตของรถรุ่นนี้ยังไม่หมด โดยพวงมาลัยเป็นแบบหุ้มหนัง 3 ก้านทรงสปอร์ต  พร้อมสารพัดปุ่มควบคุม อาทิ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control  ,ปุ่มควบคุมเครื่องเสียง จอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ และระบบเชื่อมต่อ Hand-free ไร้สาย Bluetooth ,ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย Paddle Shift นอกจากนั้นแล้วชุดแป้นเหยียบคันเร่งและเบรกก็เป็นแบบสปอร์ตเช่นเดียวกัน

CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check รับประกันพร้อมโอนทุกคัน

ส่วนคอนโซลตรงกลางมีแอร์อัตโนมัติ อิสระแยกซ้าย-ขวา ไล่ลงมาจะเจอจอทัชสกรีน ขนาด 7 นิ้ว รองรับระบบนำทางและรองรับสมาร์ท จี บุ๊คของโตโยต้า นอกจากนั้นแล้วยังมีระบบเครื่องเสียงรองรับทั้งวิทยุ ซีดี ดีวีดี USB AUX Bluetooth และมีลำโพง 6 ตำแหน่ง ไม่เพียงเท่านั้นยังมี Wireless Charger ระบบชาร์จสมาร์ทโฟนแบบไร้สาย และที่เกือบจะลืมบอกไปในรุ่นนี้ก็คือ มีหลังคามูนรูฟเพิ่มความเก๋ไก๋เข้ามา

ถือเป็นข้อมูลแบบหอมปากหอมคอในแง่ของดีไซน์ ภายในภายนอก รวมไปถึงอุปกรณ์ต่างๆส่วนข้อมูลด้านสมรรถนะนั้น มาพร้อมกับรหัสเครื่องยนต์ 2AR-FE แบบ 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว Dual VVT-I ความจุกระบอกสูบ 2.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 184 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 235 นิวตัน-เมตร ที่ 4,100 รอบต่อนาทีและระบบส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดพร้อมSequential Shift  โดยมีให้เลือกเป็นเจ้าของ 7 สี ได้แก่ Red Mica Metallic,Light Blue Mica Metallic,Dark Blue Mica Metallic, Diamond White,Silver Metallic ,Gray Metallic และ Attitude Black Mica
สนนราคาตอนเปิดตัวอยู่ที่ 1.639 ล้านบาท (ราคาหลังวันที่ 1 ม.ค. 2559 อาจจะปรับตามภาษีใหม่ )

โดยสรุปหากพูดถึงดีไซน์การออกแบบรูปลักษณ์หน้าตาก็ต้องบอกว่าถูกใจ เพราะดูกระชากวัยลงมาจากหนุ่มใหญ่มาเป็นหนุ่มน้อย แถมยังนำเข้ามาจากออสเตรเลีย ยิ่งทำให้ผู้ที่เป็นเจ้าของดูพราว์ด เพราะเป็นลิมิเต็ด อิดิชั่นอะไรประมาณนั้น แต่ที่ไม่ค่อยถูกใจเท่าไรคือภายในที่ดูดิบกระด้างไปหน่อย แต่ในแง่ความสะดวกนั่งสบายก็ต้องยกให้ ส่วนสมรรถนะจะเป็นอย่างไร จะตอบสนองถูกใจหรือไม่ก็ต้องลองไปทดลองขับกันดูที่โชว์รูมโตโยต้า!!