ราคาตก-กดราคา

นี้คือความจริง! ของราคารถมือสอง

ทุกครั้งที่มีคนพูดถึงการกดราคารถยนต์มือสอง เต็นท์รถมักจะกลุ่มแรกๆ ที่ถูกโจมตี ทั้งที่ความจริงแล้ว สาเหตุที่ทำให้รถมือสองบางคันขายได้ราคาไม่ดีนั้น ไม่ได้เป็นเพราะเต็นท์รถกดราคากับคนขาย อย่างที่หลายคนชอบกล่าวหาแต่อย่างใด

ความเป็นจริงอาจจะแสลงใจเจ้าของรถมือสองที่นำรถมาประกาศขายอยู่บ้าง แต่ต้องยอมรับว่ารถมือสองหลายรุ่นนั้นราคาตกรวดเร็วมากโดยไม่ได้มีใครไปกดราคาเพื่อหาผลประโยชน์ใดๆ

คำว่า “ราคาตก” ในที่นี้ต่างกับคำว่า “กดราคา” เพราะการกดราคาก็เท่ากับว่า รถมือสองคันที่ขายมีมูลค่าจริงสูงกว่า แต่ถูกซื้อด้วยราคาที่ต่ำกว่าจริง แต่ราคาตก แปลว่า มูลค่าของรถมือสองนั้นลดลงด้วยปัจจัยหลายประการ และมีกลไกการตลาดมาเกี่ยวข้องด้วย

สำหรับเหตุผลทำให้รถมือสองบางคันราคาตกนั้น Carro ได้เคยวิเคราะห์ปัจจัยสำคัญที่ทำให้รถยนต์มือสองได้ราคาไม่ดีเท่าที่ควรไว้ 10 ประการ ซึ่งในบทความนี้จะขอยกมาอธิบายเป็นข้อๆ ดังนี้ค่ะ

  1. ความนิยมต่อแบรนด์

ตอนซื้อรถมือหนึ่ง คนซื้อมักคิดว่าชอบแบรนด์ไหน รุ่นอะไรก็ซื้อคันนั้น แต่เมื่อนำมาขายต่อเป็นรถยนต์มือสองแล้ว ความนิยมที่ผู้คนมีต่อแบรนด์นั้นๆ จะส่งผลโดยตรงต่อราคาที่ขายได้ จะเห็นได้ว่ารถตลาดอย่าง Honda , Toyota รถมักจะขายต่อได้ไว และราคาไม่ตกมากนัก แต่หากเป็นยี่ห้อที่คนไทยไม่คุ้นหู (แม้จะดังระดับโลกก็ตาม) การขายต่อก็จะยากกว่าเดิม และราคาก็จะตกลงมากด้วย

ตัวอย่าง หากคุณซื้อรถ Honda City และ MG6 พร้อมกันในวันนี้ อีก 1 ปีข้างหน้า Honda City อาจจะราคาตกลงไป 30% แต่ MG6 อาจจะราคาตกลงไป 50% หรือมากกว่านั้น!

สาเหตุก็เป็นเพราะคนไทยรู้จัก Honda ดีมาก ต่างกับ MG ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ยังไม่ติดหูคนไทยมากนัก มีการสำรวจความคิดเห็นโดย Carro ที่พบว่า คนไทยมักจะรู้สึกดีกับรถตลาดมากกว่า ไม่ใช่เพราะความชื่นชอบในตัวแบรนด์เท่านั้น แต่รวมถึงเรื่องความสะดวกในการซ่อมบำรุง เช่น มีศูนย์เยอะ เข้าถึงง่าย หาอะไหล่ได้ง่าย เป็นต้น ซึ่งรถตลาดมักจะตอบโจทย์ในข้อนี้ได้ดีกว่า

 

  1. อายุของรถ

ปกติแล้วรถยิ่งใหม่ก็ยิ่งมีโอกาสจะขายได้ไว และในทางกลับกัน รถยิ่งมีอายุการใช้งานมากก็ยิ่งส่งต่อยาก เพราะผู้ซื้อมีความกังวลว่ารถอาจชำรุดหรือมีอุปกรณ์สึกหรอ ทำให้ต้องรับภาระในการซ่อมบำรุงต่อไป

อีกเหตุผลหนึ่งคือ การซื้อรถยนต์ที่มีอายุมากมักจะขอจัดไฟแนนซ์ได้ยาก เพราะรถที่สถาบันการเงินจะอนุมัติวงเงินกู้ให้นั้นจะต้องเป็นรถที่มีอายุไม่เกิน 10 ปี

ฉะนั้นกลุ่มผู้ซื้อก็จะยิ่งแคบลงอีก คือต้องเป็นกลุ่มที่ไม่มีปัญหากับการซ่อมบำรุงในอนาคต ขณะเดียวกันก็ต้องไม่มีปัญหากับการวางเงินดาวน์สูงๆ หรือสามารถซื้อสดได้ เป็นเหตุให้ราคารถที่อายุการใช้งานมากตกลงนั่นเอง

 

  1. สภาพรถ

รถยิ่งสภาพดียิ่งขายได้ไว! แต่หากรถผ่านอุบัติเหตุหนักมาก่อน หรือมีการชำรุดที่โครงสร้างสำคัญ รถจะขายออกได้ยากมาก และทำให้ราคาดิ่งลงมากด้วยเช่นกัน เนื่องจากสภาพรถมีผลโดยตรงต่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่ คนส่วนใหญ่ยินดีจะซื้อรถที่มีอายุการใช้งานมาก ดีกว่าซื้อรถที่ถอยป้ายแดงออกมาจากศูนย์ไม่ได้นาน แต่เพิ่งไปชนหนักมา

 

  1. เคยเกิดอุบัติเหตุ หรือ มีประวัติความเป็นมาที่ชวนให้ไม่สบายใจ

อีกสิ่งหนึ่งที่คนไทยมักกังวลคือ “สิ่งลี้ลับ” ฉะนั้น รถคันไหนมีประวัติความเป็นมาชวนให้กังวล (เช่น เจ้าของรถคนก่อนเสียชีวิตในรถ เคยชนคน ฯลฯ) ผู้ซื้อก็จะหลีกเลี่ยงไว้ก่อน ทำให้รถคันนั้นราคาตก

ราคาตก กดราคา

  1. ไมล์

แม้ว่าจะเป็นที่กังขาว่าไมล์สามารถเชื่อถือได้มากน้อยแค่ไหน เพราะไมล์รถสามารถกรอได้ แต่ไมล์ก็มักจะถูกนำมาพิจารณาเป็นอันดับต้นๆ ในการเลือกซื้อรถยนต์มือสองเสมอ เพราะเป็นจุดที่จะบอกว่ารถคันดังกล่าวผ่านการใช้งานมามากหรือน้อย และรถมีแนวโน้มที่จะเสื่อมสภาพมากน้อยแค่ไหน

ตัวอย่าง รถ Toyota Altis ของนาย A อายุการใช้งาน 1 ปี วิ่งมาแล้ว 80,000 กม. กับรถ Toyota Altis ของนาย B อายุการใช้งาน 3 ปี วิ่งมาแล้ว 40,000 กม. ในสายตาของคนที่สนใจซื้อ Toyota Altis มือสอง รถของนาย B จะน่าสนใจมากกว่าและได้ราคาดีกว่า เพราะรถที่ใช้งานมาน้อยก็จะเยินน้อย ในขณะที่รถของนาย A แม้จะเป็นรถใหม่แต่เจ้าของรถใช้งานอย่างสมบุกสมบันมาก รถก็จะเยินมากกว่า และราคาตกมาก

 

  1. รุ่นย่อย

รุ่นย่อยของรถก็มีผลต่อความสูง – ต่ำของราคาที่ขายได้เช่นกัน ปกติแล้วรถรุ่นท็อปจะขายได้ราคาดีกว่ารถรุ่นพื้นฐาน (รุ่นที่ราคาถูกที่สุด) เพราะรุ่นท็อปจะมาพร้อมกับออฟชั่นต่างๆ ที่ครบครัน รวมถึงมาพร้อมกับข้าวของที่ได้รับการลดแลกแจกแถมมาจากเซลส์ที่ศูนย์ตอนออกป้ายแดงอีกด้วย

ส่วนรถรุ่นพื้นฐานนั้น ในเมื่อซื้อป้ายแดงมาราคาถูกกว่า ขายต่อมือสองก็ย่อมขายได้ในราคาต่ำกว่าอยู่แล้ว อีกทั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ก็มีให้ไม่มากนัก

ผู้ซื้อรถยนต์มือสองจำนวนมากจึงสนใจรุ่นท็อปมากกว่า เป็นเหตุให้รถรุ่นพื้นฐานไม่ว่าของแบรนด์ใดก็ตามมักจะมีราคาตกลง เมื่อเอาไปเทียบกับรถรุ่นที่สูงขึ้นมา ปีเดียวกัน สภาพใกล้เคียงกัน ก็จะเห็นความแตกต่างได้ชัด

 

  1. รถแต่ง / รถซิ่ง

ปกติแล้วรถมือสองที่ขายได้ราคาดีคือรถที่คงสภาพไว้ใกล้เคียงวันที่ถอยป้ายแดงออกมาจากศูนย์มากที่สุด แม้ว่าคุณจะเอารถไปแต่งมาอย่างสวยงาม หมดเงินค่าแต่งรถไปเป็นหลักล้าน แต่มูลค่ารถเมื่อนำไปขายต่อก็จะไม่เพิ่มขึ้นแต่อย่างใด (ในบางกรณีควรเปลี่ยนกลับเป็นแบบเดิมก่อนขายต่อด้วยซ้ำ)

ส่วนรถซิ่งนั้น หากเป็นรถที่ได้รับความนิยมในกลุ่มนักซิ่งอย่างจริงจัง (เช่น รถ Mitsubishi Evolution เป็นต้น) ราคาก็จะไม่ตก และจะยิ่งพุ่งสูงขึ้นไปอีกในประเภทที่เลิกผลิตแล้วหรือหาได้ยาก แต่หากเป็นรถตลาดอย่าง Toyota Vios Honda Civic ฯลฯ ที่ผ่านการแต่งซิ่งมา ราคาจะดิ่งลงเหวและขายต่อยากอย่างแน่นอน เพราะรถซิ่งต่างๆ มักถูกรีดเค้นสมรรถนะเครื่องยนต์อย่างหนัก รวมถึงมีการเปลี่ยนนั่นเติมนี่อยู่บ่อยๆ

 

  1. รถติดแก๊ส

รถที่ติดแก๊สนั้น แม้จะเป็นรุ่นเดียวกัน ปีเดียวกัน ไมล์ไม่ต่างกัน แต่ราคาจะต่ำกว่ารถที่ไม่ติดแก๊สอย่างแน่นอน เพราะคนส่วนใหญ่มักกังวลว่าการติดแก๊สจะส่งผลต่อการทำงานของเครื่องยนต์ อีกทั้งยังส่งผลด้านความรู้สึกอีกด้วย เพราะคนซื้อมักคิดว่ารถที่ติดแก๊สมา คือรถที่เจ้าของใช้งานมาเยอะ จึงรู้สึกกังวลว่าสภาพรถอาจแย่กว่ารถที่ไม่ติดแก๊ส

 

  1. สี

ปกติแล้วสีรถยอดนิยมของคนไทยคือ สีดำ สีขาว สีบรอนซ์ สีเทา ด้วยความเป็นสียอดนิยม รถที่มีสีเหล่านี้ก็จะขายต่อง่าย ได้ราคาดี ขณะเดียวกัน รถที่สีไม่ค่อยได้รับความนิยมจากคนส่วนใหญ่ เช่น สีแดง สีเหลือง จึงมักจะขายต่อได้ในราคาที่ต่ำกว่า

 

  1. Book service

คือ สมุดพกที่ศูนย์มอบให้เจ้าของรถตั้งแต่วันที่ซื้อ (หรือวันที่เข้าศูนย์ครั้งแรก) นั่นเอง ใน Book Service จะมีข้อมูลการใช้รถ ข้อมูลการซ่อมบำรุง ซึ่งจะบ่งบอกถึงสภาพรถ และความทะนุถนอมของเจ้าของรถ เช่น มีการนำรถเข้าศูนย์ตามระยะหรือไม่ เคยประสบอุบัติเหตุแล้วส่งเข้าศูนย์มากี่ครั้ง เป็นต้น

รถที่มีบุ๊กเซอร์วิส และมีประวัติการซ่อมบำรุงดีมาตลอดจึงมักจะขายได้ราคาดี ในขณะเดียวกัน หากไม่มีบุ๊กเซอร์วิส หรือข้อมูลในบุ๊กบอกความไม่เอาใจใส่ ไม่เข้าศูนย์ตามระยะ ราคาที่ขายได้ก็จะลดลง

ในการซื้อ – ขายรถยนต์มือสองนั้น ทางที่ดีควรจะตกลงขายในราคาที่ผู้ซื้อและผู้ขายรู้สึกพึงพอใจกันทั้งสองฝ่าย แต่ก็มีโอกาสที่รถยนต์มือสองดีๆ อาจจะขายได้ราคาต่ำกว่าที่ควร เพราะผู้ซื้อรู้สึกว่าราคาที่ผู้ขายตั้งไว้ไม่คุ้มค่ากับสิ่งที่ผู้ซื้อจะได้รับจึงขอต่อรองราคาลงมา (แต่ก็มีผู้ซื้อประเภทที่ไม่ว่ายังไงก็ขอต่อไว้ก่อนเช่นกัน) ซึ่งในกรณีนี้ ผู้ขายจะตัดสินใจไม่ขายก็ได้ หากรู้สึกว่าราคาที่ได้ไม่ยุติธรรมกับตนเอง

อย่างไรก็ตาม มีผู้ขายบางคนที่มีความต้องการใช้เงินอย่างเร่งด่วนจึงยอมขายรถแม้จะได้ราคาต่ำ แต่กรณีแบบนี้เรียกว่า “กดราคา” (แถมคนขายยอมให้กดด้วย) ไม่ใช่ “ราคาตก”

ราคาตก กดราคา

หลายคนอาจจะกังวลว่า แล้วจะขายรถมือสองอย่างไรให้ราคาไม่ตก และไม่ถูกกดราคา ? ในส่วนนี้เว็บไซต์ Carro ของเรามีบริการขายรถแบบด่วนอย่าง Carro Express ที่สามารถขายออกได้จริง รวดเร็ว ภายใน 1 วันเท่านั้น ซึ่งมีไม่กี่เจ้าที่หลังจากปิดการขายได้รับเงินสดทันที แต่หากคุณกำลังกังวลว่าขายด่วนอาจโดนกดราคา ทาง Carro ขอยืนยันว่าคุณจะได้ราคาดีไม่ถูกกดราคาอย่างแน่นอน

5 วิธีง่ายๆ ถ่ายรูปรถให้สวย

ไม่มีกล้องโปร ก็ถ่ายรูปรถสวยได้

ในปัจจุบันการขายรถออนไลน์เริ่มเป็นที่ยอมรับมากขึ้น และสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือ รูปถ่ายของรถคันนั้นๆ วันนี้ คาร์โร จะพาไปดูว่าควรจะเตรียมรถให้พร้อมสำหรับการถ่ายรูป ลองไปดูกันเลย!!

1) ทำความสะอาดรถยนต์

5 วิธีง่ายๆ ถ่ายรูปรถให้สวย

Source: redhawkcarwash.com

เริ่มกันก่อนเลยคือ การทำความสะอาดรถ ควรทำความสะอาดรถยนต์ทั้งด้านนอก ด้านในให้สะอาด และจัดเก็บสิ่งของต่างๆในรถให้เรียบร้อยและดูน่าใช้ คงไม่มีใครชอบรถที่ไม่สะอาด เช่นเดียวกันรูปรถที่ไม่สะอาดจะทำให้คนให้ความสนใจรถคันนั้นน้อยลง และทำให้ขายได้ยากขึ้น รู้แบบนี้แล้วก่อนเริ่มถ่ายรูปรถ เราก็ควรเริ่มจากการทำความสะอาดกันก่อนเลย

2) เลือกสถานที่ถ่ายรูป

5 วิธีง่ายๆ ถ่ายรูปรถให้สวย

สถานที่ถ่ายรูปเป็นเรื่องที่สำคัญไม่ว่าจะถ่ายรูปอะไรก็ตาม ยิ่งเป็นรถแล้ว การหาสถานที่เหมาะสมก็เป็นไปได้ยากขึ้น

  • ไม่แนะนำ ให้ถ่ายรูปในหรือหน้าบ้าน เพราะอาจจะทำให้รูปส่วนตัวที่หลุดไปให้คนแปลกหน้าเห็นได้
  • แนะนำให้ ไปถ่ายรูปที่ตามสถานที่สาธารณะ เช่น สวนสาธารณะหรือลานจอดรถ ถ้าหากมีต้นไม้หรือน้ำเป็นองค์ประกอบในรูปจะทำให้รถของคุณเด่นขึ้นและสวยขึ้นมาเลยทีเดียว

สรุปคือควรเลือกสถานที่ที่ทำให้รถยนต์เด่นและมีองค์ประกอบอื่นให้น้อยที่สุด เพื่อให้คนซื้อสนใจแต่รถของคุณ

3) ช่วงเวลา

5 วิธีง่ายๆ ถ่ายรูปรถให้สวย

 

ควรหลีกเลี่ยงการถ่ายรูปตอนกลางคืนหรือในช่วงที่ฝนตก เพราะจะทำให้รูปรถไม่ชัดเจน ควรเลือกวันที่แดดออกและควรให้พระอาทิตย์อยู่ด้านหลังคุณเวลาถ่ายรูป เพื่อเวลาถ่ายรูปจะไม่ย้อนแสง ทำให้ถ่ายรูปง่ายขึ้นและเห็นรถของคุณอย่างชัดเจนด้วย

4) มุมถ่ายรูป

5 วิธีง่ายๆ ถ่ายรูปรถให้สวย

มุมถ่ายรูปเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะจะทำให้คนซื้อเห็นรถของคุณอย่างครบถ้วนทำให้ตัดสินใจซื้อรถได้ง่ายขึ้น ควรถ่ายรูปให้ได้มากที่สุดที่สามารถลงขายได้ การถ่ายรูปควรเริ่มจากการถ่ายด้านนอกรถ โดยเริ่มจากการถ่ายประมาณ 3/4 ของหน้ารถ, หน้ารถเต็ม และหมุนไปเรื่อยๆจนรอบคัน

จากนั้นให้ถ่ายด้านในรถ ควรถ่ายรูปจากประตูคนขับเข้าไป และหน้าปัดรถยนต์ โดยทริคการถ่ายรูปหน้าปัดคือนั่งที่เบาะหลังและถ่ายเข้าไปที่หน้าปัดในรูปเดียว จากนั้นให้ถ่ายรูปเครื่องยนต์และข้างในกระโปรงหลัง ถ้าหากรถของคุณมีฟังก์ชั่นพิเศษควรถ่ายมาเพิ่มเช่นกัน โดยรวมๆจะได้ประมาณ 10-20 รูป ไปลองหามุมถ่ายกันเลย

5) กล้องถ่ายรูป

5 วิธีง่ายๆ ถ่ายรูปรถให้สวย

Source:CNET

ถ้าหากเป็นเมื่อหลายปีก่อน ก็คงแนะนำให้ใช้กล้องถ่ายรูปดิจิตอลและขาตั้งกล้อง เพื่อให้ได้รูปที่ชัดเจน แต่กล้องมือถือในปัจจุบันก็พัฒนาขึ้นมามาก จนสามารถใช้ถ่ายรูปรถยนต์ได้ค่อนข้างชัดเจนและสวยงามกันเลยทีเดียว

ข้อควรระวังหลักคือเรื่องแสงและการสั่นของภาพ เพราะภาพที่ไม่ชัดเจนจะทำให้คนสนใจรถคุณน้อยลงอย่างเห็นได้ชัดเลยทีเดียว และไม่แนะนำให้อัพโหลดรูปขึ้นจากมือถือเลย ควรตรวจดูจากคอมพิวเตอร์ก่อน เพื่อให้ได้รูปที่คมชัดและแสงสีดีที่สุด

เป็นอย่างไรกันบ้าง 5 วิธีที่จะช่วยให้คุณถ่ายรูปรถยนต์ให้สวยงาม รูปยิ่งสวย คนก็จะยิ่งให้ความสนใจมาก และทำให้รถขายได้ง่ายขึ้นอีกด้วย ลองไปใช้กันดูนะ ซึ่งถ้าใครถ่ายรูปรถเสร็จแล้วกำลังมองหาที่ลงขายรถ สามารถมาขายรถกับที่คาร์โรได้นะ ให้ราคาดี ไม่กดราคา รวดเร็วทันใจ ได้รับเงินสดทันที คลิกที่ลิงค์เลย > th.carro.co/sell-car/express