Carro-Sell-Car-In-Hatyai

จังหวัดสงขลา เป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดสงขลา เป็นที่ตั้งของเทศบาลนครหาดใหญ่ นับเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของไทย และเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของภาคใต้ โดยที่หาดใหญ่ เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในการท่องเที่ยว เป็นศูนย์รวมของสินค้าหลักในภาคใต้ และเป็นประตูผ่านไปยังประเทศเพื่อนบ้าน คือ มาเลเซีย และสิงคโปร์

ตัวเมืองหาดใหญ่ ที่นับว่าเจริญมาได้จนถึงทุกวันนี้ ส่วนหนึ่งเพราะมีการทางตัดทางรถไฟสายใต้ ต่อมามีผู้มองการณ์ไกลว่า บริเวณสถานีรถไฟหาดใหญ่นี้ ต่อไปจะต้องเจริญก้าวหน้าอย่างแน่นอน จึงได้มีการจับจองและซื้อที่ดินแปลงใหญ่จากราษฏรพื้นบ้าน สร้างอาคารบ้านเรือน พัฒนามาจนเป็นเมืองขนาดใหญ่ อย่างในทุกวันนี้

ในส่วนของอำเภอหาดใหญ่ รวมไปถึงในสงขลา พัทลุง สตูล หรือใน 3 จังหวัดชายแดนใต้นั้น ตลาดรถมือสองในตอนนี้อาจจะซบเซาไปบ้าง จากผลกระทบหลายๆ อย่าง ทั้งสินค้าราคาพืชผลทางการเกษตรที่ตกต่ำ ยางพาราที่จำหน่ายไม่ได้ราคาที่ต้องการ ค่อนข้างส่งผลกระทบอย่างมาก กับตลาดรถมือสองในหัวเมืองปักษ์ใต้ตอนนี้

เรามาดูกันว่า อยู่หาดใหญ่ สงขลา หรือ 3 จังหวัดชายแดนใต้ พี่บ่าวหรือสาวนุ้ย จะขายรถด้วยวิธีใด ได้แขบที่สุด ราคาดีหลายๆ …

Carro-Sell-Car-In-Hatyai

1. ประกาศขาย

ไม่ว่านายหัวจะประกาศขายรถในรูปแบบต่างๆ เช่น ตั้งขายจอดขายรถข้างทาง หรือขายในเว็บซื้อ-ขายรถมือสอง ในกลุ่ม Facebook นายหัวก็ต้องรอเวลา ว่าจะมีใครติดต่อกลับมานัดดูรถบ้าง หรือซื้อรถของเจ้าบ้าง อาจจะรอเป็นอาทิตย์ หรือนานเป็นเดือน ไม่ได้เร็วอย่างที่คิดเสมอไป

ยิ่งคนพื้นที่บางคนถ้าไม่ได้เล่นอินเตอร์เนต ก็อาจจะไม่ได้เห็นรถคุณด้วยซ้ำไป ทั้งที่เขาอาจจะกำลังมีเงินพร้อมซื้อด้วยก็ตาม

Carro-Sell-Car-In-Hatyai

2. ขายเต็นท์

ในหาดใหญ่ และในสงขลาเอง ก็มีเต็นท์รถอยู่หลากหลายที่ ทั้งในตัวเมือง และในอำเภอต่างๆ รอบๆ จังหวัด ซึ่งถ้าพี่บ่าว นายหัว หรือสาวนุ้ยขับรถตระเวนไปเช็กราคาแต่ละที่ ก็ต้องใช้เวลาอีก ซึ่งเต็นท์รถแต่ละที่ ก็ตั้งอยู่กันค่อนข้างห่างพอสมควร บางทีไปเสนอรถให้ทางเต็นท์แล้ว ราคาไม่ได้ดั่งใจก็มี

Carro-Sell-Car-In-Hatyai

3. ขายรถกับ CARRO หาดใหญ่ (สงขลา)

ถ้าพี่บ่าว นายหัว หรือสาวนุ้ยตัดสินใจมาขายรถที่ “CARRO หาดใหญ่” ซึ่ง CARRO Thailand หรือ คาร์โร เป็น Startup ผู้ให้บริการซื้อ-ขายรถมือสองออนไลน์ชั้นนำ ที่ได้มาตรฐานจากประเทศสิงคโปร์ ตั๋วจะขายออกได้ไว ได้ราคาดี สามารถปิดการขายได้ภายใน 24 ชั่วโมง ขั้นตอนลงขายง่าย อีกทั้งยัง “ฟรี!” ตั๋วไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ อีกด้วย รับรอง สบายใจหลาย และทาง CARRO ยังมีพนักงานคอยบริการ คอยติดต่อประสานงานผู้ขายกับผู้ซื้อให้ด้วย

Carro-Sell-Car-In-Hatyai

ออฟฟิศของ CARRO หาดใหญ่ ตั้งอยู่ที่ 377 ถ.นวลแก้วอุทิศ ต.คอหงษ์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา 90110

ถ้าพี่บ่าว นายหัว หรือสาวนุ้ยสนใจ สามารถเข้าไปเช็กราคาขายรถก่อนได้ โดยใส่ข้อมูลรถของคุณที่นี้ > https://th.carro.co/sell-car/express

นอกจากจะสามารถกรอกแบบฟอร์มตามข้างต้นแล้ว ยังสามารถติดต่อกับ CARRO ได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 1800-012-288, 02-508-8425 หรือจะ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

สำหรับเบอร์โทร “02” นั้น เชื่อว่าหลายคนอาจจะลังเลว่า เป็นเบอร์โทรที่ขายรถในพื้นที่ใช่หรือไม่? ไม่ต้องกังวลครับ เพราะเบอร์โทร 02 ของเรานั้น เป็นเบอร์ Call Center ที่ทางเราได้รับข้อมูลรายละเอียดรถของคุณล้ว ทางเราก็จะประสานงานไปยังเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ คอยติดตามดูแลการขายรถให้คุณครับ

อีกทั้งยังสามารถ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ครับ —> เพิ่มเพื่อน

Sell-Car-In-Khonkaen

จังหวัดขอนแก่น จัดเป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 6 ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (หรือภาคอีสาน) และมีประชากรมากเป็นอันดับ 3 ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นจังหวัดศูนย์ปฏิบัติการ ของกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลาง

สำหรับจังหวัดขอนแก่น นับเป็นอีกจังหวัดที่เจริญมากในภาคอีสาน เพราะมีทั้งหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ ตั้งกันอยู่มากมาย รวมไปถึงบริษัทเอกชน และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ทั้งยังเป็นจังหวัดที่มีผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือ GDP เป็นอันดับที่ 2 ของภาคอีสาน มีรายได้เฉลี่ยต่อคนต่อปีมากที่สุด คือ 107,607 บาท

สำหรับในจังหวัดขอนแก่นเองนั้น รถยนต์ที่นับว่ามียอดขายเยอะ ซึ่งนับได้ทั้งรถใหม่ และรถมือสอง โดยมากผู้คนที่นี่ มักนิยมรถยนต์ Eco-Car เพราะประหยัด นั่งได้หลายคน ขนของเล็กๆ น้อยๆ ได้ และรถกระบะรูปแบบต่างๆ ที่ใช้ในด้านการเกษตร ธุรกิจขนส่งต่างๆ รวมไปถึงใช้ในหน่วยงานราชการ เป็นต้น

เรามาดูกันว่า อยู่ขอนแก่น อ้ายหรือเอื้อย จะขายรถด้วยวิธีไส ได้ฟ่าวที่สุด ราคาดีคักๆ …

Carro-Sell-Car-In-Khonkaen

1. ประกาศขาย

ไม่ว่าเจ้าจะประกาศขายในที่ต่างๆ เช่น ตั้งขายจอดขายรถข้างทาง หรือขายในเว็บซื้อ-ขายรถมือสอง ในกลุ่ม Facebook เจ้าก็ต้องรอเวลา ว่าจะมีใครติดต่อกลับมานัดดูรถบ้าง หรือซื้อรถของเจ้าบ้าง อาจจะรอเป็นอาทิตย์ หรือนานเป็นเดือน ไม่ได้ฟ่าวอย่างที่คิดเสมอไป

Carro-Sell-Car-In-Khonkaen

2. ขายเต็นท์

ในขอนแก่นเองก็มีเต็นท์รถอยู่หลากหลายที่ ทั้งในตัวเมือง และในอำเภอต่างๆ รอบๆ จังหวัด ซึ่งถ้าอ้ายขับรถตระเวนไปเช็กราคาแต่ละที่ ก็ต้องใช้เวลาอีก บางทีไปเสนอรถให้ทางเต็นท์แล้ว ราคาไม่ได้ดั่งใจอ้ายก็มี

Carro-Sell-Car-In-Khonkaen

3. ขายรถกับ CARRO

ถ้าอ้ายหรือเอื้อยตัดสินใจมาขายรถที่ “CARRO” ซึ่ง Carro Thailand หรือ คาร์โร เป็น Startup ผู้ให้บริการซื้อ-ขายรถมือสองออนไลน์ชั้นนำ ที่ได้มาตรฐานจากประเทศสิงคโปร์ ตั๋วจะขายออกได้ไว ได้ราคาดี สามารถปิดการขายได้ภายใน 24 ชั่วโมง ขั้นตอนลงขายง่าย อีกทั้งยัง “ฟรี!” ตั๋วไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ อีกด้วย รับรอง สบายใจเด้อ และทาง CARRO ยังมีพนักงานคอยบริการ คอยติดต่อประสานงานผู้ขายกับผู้ซื้อให้ด้วย

Carro-Sell-Car-In-Khonkaen

ถ้าอ้ายหรือเอื้อยสนใจ สามารถเข้าไปเช็กราคาขายรถก่อนได้ โดยใส่ข้อมูลรถของคุณที่นี้ > https://th.carro.co/sell-car/express

นอกจากจะสามารถกรอกแบบฟอร์มตามข้างต้นแล้ว ยังสามารถติดต่อกับ CARRO ได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 1800-012-288, 02-508-8425 หรือจะ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

สำหรับเบอร์โทร “02” นั้น เชื่อว่าหลายคนอาจจะลังเลว่า เป็นเบอร์โทรที่ขายรถในพื้นที่ใช่หรือไม่? ไม่ต้องกังวลครับ เพราะเบอร์โทร 02 ของเรานั้น เป็นเบอร์ Call Center ที่ทางเราได้รับข้อมูลรายละเอียดรถของคุณล้ว ทางเราก็จะประสานงานไปยังเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ คอยติดตามดูแลการขายรถให้คุณครับ

อีกทั้งยังสามารถ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่เด้อ —> เพิ่มเพื่อน

Carro-Sell-Car-In-Chiangmai

จังหวัดเชียงใหม่ หรือในภาษาคำเมือง เรียกว่า “เจียงใหม่” เป็นจังหวัดทางภาคเหนือของประเทศไทย มีพื้นที่ประมาณ 20,107 ตร.กม. ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศ มีประชากรราว 1.76 ล้านคน มากเป็นอันดับ 5 ของประเทศ ในจำนวนนี้ เป็นประชากรที่อาศัยอยู่ในเขตเมืองและชานเมืองราว 960,000 คน

จังหวัดเชียงใหม่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน เคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรล้านนาแต่โบราณ มี “คำเมือง” เป็นภาษาท้องถิ่น มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวทั้งด้านประเพณีวัฒนธรรม และมีแหล่งท่องเที่ยวจำนวนมาก

ซึ่งในตอนนี้ จังหวัดเชียงใหม่ เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างมาก อาทิเช่น นักท่องเที่ยวชาวจีน ชาวยุโรป หรือชาวเอเชียชาติอื่นๆ ทำให้การจับจ่ายใช้สอยในท้องถิ่น ถือว่าค่อนข้างใช้ได้ เพราะมีรายได้จากการท่องเที่ยวมาช่วยไว้

เนื่องด้วยความเป็นเมืองท่องเที่ยว มีการจับจ่ายใช้สอยค่อนข้างดี (แต่ระบบขนส่งมวลชนยังไม่ค่อยดี) ทำให้ชาวเชียงใหม่ในปัจจุบันก็นิยมการใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นรถป้ายแดง หรือรถมือสอง ย่อมมีการเปลี่ยนรถใหม่ ขายรถคันเก่า กันอยู่เสมอๆ ทั้งการซื้อไปใช้เอง หรือการใช้ในหน่วยงานธุรกิจเอกชน ราชการ หรือรัฐวิสาหกิจก็ตาม

เรามาดูกันว่า อยู่เจียงใหม่ ตั๋วจะขายรถด้วยวิธีไหน ได้เร็วที่สุด หื่อราคาดีสุด …

arro-Sell-Car-In-Chiangmai

1. ประกาศขาย

ไม่ว่าตั๋วจะประกาศขายในที่ต่างๆ เช่น ตั้งขายจอดขายรถข้างทาง หรือขายในเว็บซื้อ-ขายรถมือสอง ในกลุ่ม Facebook ตั๋วก็ต้องรอเวลา ว่าจะมีใครติดต่อกลับมานัดดูรถบ้าง หรือซื้อรถของตั๋วบ้าง อาจจะต้องใช้เวลานานเป็นอาทิตย์ หรือนานเป็นเดือนเลยก็ได้

arro-Sell-Car-In-Chiangmai

ภาพจาก ลูกสามารถ แล้วไง‎

2. ขายเต็นท์

ในเจียงใหม่เองก็มีเต็นท์รถกระจายอยู่หลากหลายที่ หลากหลายสาขา ทั้งในตัวเมืองเชียงใหม่ และในอำเภอต่างๆ ซึ่งถ้าตั๋วขับรถตระเวนไปเช็กราคาแต่ละที่ ก็ต้องใช้เวลาอีก บางทีไปเสนอรถให้ทางเต็นท์แล้ว ราคาไม่ได้ดั่งใจตั๋วก็มี

arro-Sell-Car-In-Chiangmai

3. ขายรถกับ CARRO เจียงใหม่

ถ้าตั๋วตัดสินใจมาขายรถที่ “CARRO เชียงใหม่” ซึ่ง CARRO Thailand หรือ คาร์โร เป็น Startup ผู้ให้บริการซื้อ-ขายรถมือสองออนไลน์ชั้นนำ ที่ได้มาตรฐานจากประเทศสิงคโปร์ ตั๋วจะขายออกได้ไว ได้ราคาดี สามารถปิดการขายได้ภายใน 24 ชั่วโมง ขั้นตอนลงขายง่าย อีกทั้งยัง “ฟรี!” ตั๋วไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ อีกด้วย รับรอง ซว่างอกซว่างใจ๋ และทาง CARRO ยังมีพนักงานคอยบริการ คอยติดต่อประสานงานผู้ขายกับผู้ซื้อให้ด้วย

ออฟฟิศของ CARRO เชียงใหม่ ตั้งอยู่ที่ 230 บ้านช่างทอง หมู่ 7 ต.สุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ 50200

ถ้าตั๋วสนใจสามารถเข้าไปเช็กราคาขายรถก่อนได้ โดยใส่ข้อมูลรถของคุณที่นี้ > https://th.carro.co/sell-car/express

นอกจากจะสามารถกรอกแบบฟอร์มตามข้างต้นแล้ว ยังสามารถติดต่อกับ CARRO ได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 1800-012-288, 02-508-8425 หรือจะ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

สำหรับเบอร์โทร “02” นั้น เชื่อว่าหลายคนอาจจะลังเลว่า เป็นเบอร์โทรที่ขายรถในพื้นที่ใช่หรือไม่? ไม่ต้องกังวลครับ เพราะเบอร์โทร 02 ของเรานั้น เป็นเบอร์ Call Center ที่ทางเราได้รับข้อมูลรายละเอียดรถของคุณล้ว ทางเราก็จะประสานงานไปยังเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ คอยติดตามดูแลการขายรถให้คุณครับ

อีกทั้งยังสามารถ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่เน้อเจ้า —> เพิ่มเพื่อน

ร้อนเงิน!-อยากขายรถด่วน-ขายรถไว-ต้องที่-Carro!

การซื้อ-ขาย รถมือสอง ในปัจจุบัน ถือว่าง่ายกว่าในอดีตมากๆ อีกทั้งช่องทางการขาย ก็มีมากมายกว่าแต่ก่อน

แต่การขายรถมือสองแต่ละครั้งนั้น คุณอาจจะต้องเสียเวลาในการประกาศขาย และรอคนติดต่อมา หรือขับรถไปให้ตามเต็นท์รถต่างๆ ตีราคา ซึ่งโอกาสที่คุณจะได้ราคาที่พึงพอใจนั้น ก็อาจจะไม่มากก็น้อย

แต่ถ้าคุณเกิดร้อนเงิน! จะมีวิธีไหนบ้าง ที่จะขายรถมือสอง ได้แบบขายด่วนๆ ขายได้เร็ว ไว … CARRO Thailand ขอแนะนำ “CARRO Express” วิธีการขายรถในแบบยุคใหม่ ง่าย สะดวก รวดเร็ว ได้ราคา อีกทั้งยังลงขายได้ “ฟรี!” พร้อมรับเงินสดกลับบ้านทันที ภายใน 24 ชั่วโมง!

ปัจจุบันเว็บไซต์ที่มีให้ลงประกาศขายรถบ้านมือสองด้วยตัวเองนั้น มีจำนวนมาก มีทั้งแบบให้ลงฟรีๆ หรือแบบต้องจ่ายเงินรายเดือน ทำให้ผู้ที่ต้องการขายรถบ้าน มีทางเลือกใหม่ๆ มากมาย

หนึ่งในเว็บไซต์ที่ได้รับความเชื่อมั่นจากผู้ขายรถบ้านอย่างสูง ก็คือเว็บไซต์ CARRO (คาร์โร) ที่โดดเด่นในธุรกิจรถมือสองออนไลน์มายาวนาน เป็นบริษัท Startup ระดับยูนิคอร์นของสิงคโปร์ มีสาขาอยู่ทั้งในไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย และยังมีจำนวนรถบ้านมือสอง ลงประกาศขายอยู่บนเว็บไซต์จำนวนนับหลายพันคัน พร้อมนำเสนอรถมือสองคุณภาพเยี่ยมโดย CARRO Automall ที่มีให้คุณเลือกซื้อมากมาย

ทำให้ “คาร์โร” เป็นเว็บไซต์อันดับแรกๆ ที่หลายคนนึกถึง เพราะสามารถขายรถบ้าน ได้อย่างรวดเร็ว ขายได้ราคาดีที่สุด ไม่มีค่าธรรมเนียมการขาย และรับเงินสดกลับบ้านทันที ภายใน 24 ชั่วโมง! ทำให้ความกังวลหลายๆ ข้อ ของผู้ที่ต้องการประกาศขายรถบ้านมือสองหมดไป

CARRO ทำให้การประกาศขายรถมือสองของคุณด่วนๆ ได้อย่างไร?

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

คุณสามารถ “ขายรถด่วน” เพียงกรอกแบบฟอร์มลงประกาศขายรถ ซึ่งเราออกแบบมาให้ใช้งานง่าย และสะดวก (คลิกที่นี่) https://th.carro.co/sell-car/express

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

กรอกเบอร์โทรศัพท์ ที่สามารถติดต่อได้ และรายละเอียดรถ (เลือกยี่ห้อ/รุ่นรถ) และเลือกจุดนัดดูรถเสร็จ ให้กด “ดำเนินการต่อ”

ขั้นตอนต่อไป คือ อัพโหลดรูปภาพรถ ที่คุณต้องการลงประกาศขาย (รูปภาพที่แนะนำ คือ ด้านหน้าตรงของรถ, ด้านข้างตัวรถ, ด้านหลังตัวรถ, มุมเฉียงของตัวรถ, ห้องเครื่องยนต์, แผงคอนโซลด้านหน้า แผงหน้าปัด เบาะที่นั่ง และด้านในฝากระโปรงท้าย) เสร็จแล้วจากนั้นจึงกด “ยืนยันการขาย”

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

เมื่อคุณกด “ยืนยันการขาย” เรียบร้อยแล้ว ให้ยืนยันหมายเลขโทรศัพท์ของคุณด้วยรหัส OTP 6 หลัก อีกครั้ง เพื่อดำเนินการต่อ เมื่อเสร็จขั้นตอนจะปรากฎข้อความ “ขอบคุณที่ขายรถกับเรา”

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

โดยคุณสามารถนำเบอร์โทรศัพท์ที่ลงทะเบียนไว้ ไป Tracking เพื่อติดตามสถานะการขาย ได้ตาม Link นี้ https://th.carro.co/tracking

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

เมื่อเสร็จขั้นตอนเหล่านี้แล้ว จากนั้นเจ้าหน้าที่จากคาร์โร ก็จะติดต่อกลับมาหาคุณภายใน 24 ชั่วโมง เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หากรายละเอียดที่คุณส่งมายังมีไม่เพียงพอ ทางเจ้าหน้าที่ก็จะติดต่อคุณกลับไปอีกครั้ง

หรือขอรูปภาพรถยนต์ในมุมต่างๆ เพิ่มเติม เช่น ภาพน็อตยึดกระโปรงหน้า – ฝากระโปรงหลัง ชุดคานหน้า เบ้าโช๊คหน้า รอยปั้ม รอยอาร์ค หรือขอดูสภาพรถโดยรวม ฯลฯ เป็นต้น

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

ต่อมาเราจะนัดคุณเพื่อทำการเช็กรถของคุณ ว่าสภาพเป็นอย่างไรบ้าง แต่ในกรณีที่คุณอยู่ต่างจังหวัด ทางเราจะส่งทีมงานไปดูรถของคุณถึงที่ เพราะเรายังคง Concept ที่ว่า ต้องการเปลี่ยนให้การซื้อขายรถ เป็นเรื่องที่ง่ายสำหรับทุกคน

เมื่อทางดีลเลอร์ที่เข้าร่วมประมูลรถ สนใจรถของคุณ และเสนอราคารถของคุณได้สูงสุด ทาง CARRO ก็จะนัดคุณมาทำการตกลงระหว่างกันอีกที

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

เมื่อคุณขายรถกับทาง CARRO เมื่อตกลงราคากันได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ทำการเซ็นสัญญาซื้อขาย มอบเอกสารต่างๆ พร้อมปิดการขาย แล้วคุณก็รับเงินสดกลับบ้านไปได้เลย!

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

หากคุณสนใจอยากขายรถกับ CARRO นอกจากจะสามารถกรอกแบบฟอร์มตามข้างต้นแล้ว ยังสามารถติดต่อกับทาง CARRO ได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 02-508-8425 หรือจะ Inbox ขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ @Carrothailand คลิกที่นี่ครับ —> เพิ่มเพื่อน

3 สิ่ง ที่ผู้ซื้อห้ามพลาด เมื่อจะไปซื้อรถมือสอง รู้ไว้! จะได้ไม่โดนหลอก

เชื่อว่าทุกคนที่คลุกคลีอยู่ในแวดวงรถยนต์มือสองต้องเคยได้ยินปัญหาประเภท “รถสวมทะเบียน” “รถย้อมแมว” “รถตัดต่อ” หรือกรณีเลวร้ายสุดๆ อย่าง “รถขโมยมาขาย” มาก่อนแน่นอน ซึ่งใครที่ต้องประสบเหตุการณ์ทำนองนี้เข้ากับตัวเองก็คงเจ็บปวดใจไปตามๆ กัน เสียทั้งทรัพย์ ทั้งความรู้สึก แถมดีไม่ดียังต้องเสียเวลาไปขึ้นโรงขึ้นศาลอีกด้วย เพราะเหตุนี้เอง ภาพลักษณ์ของวงการรถมือสองจึงยังคงติดลบในสายตาของคนไทยจำนวนมาก ทั้งที่ผู้ประกอบการดีๆ ก็มีอยู่มากมาย

แต่เดี๋ยวนี้ช่องทางในการซื้อรถยนต์มือสองมีเพิ่มขึ้นมามากมาย แต่วิธีการดั้งเดิมที่ใช้กันมาตลอดก็คือ การซื้อจากคนขายโดยตรง หรือเลือกซื้อจากเต็นท์รถมือสองทั่วไป

ทางทีมงาน CARRO Thailand ได้ให้ความเห็นว่า “ในปัจจุบันนี้ผู้บริโภคจำนวนมากกว่า 80% เลือกหาข้อมูลรถมือสองผ่านช่องทางออนไลน์ โดยผ่านเว็บไซต์รถมือสองทั่วๆ ไป ซึ่งแต่ละเจ้าก็มีจุดเด่นที่ไม่เหมือนกัน แต่ทาง CARRO และ CARRO Automall ได้ให้ความสำคัญกับบริการที่แตกต่างจากเว็บไซต์รถยนต์ทั่วไป เพื่อให้ผู้ที่สนใจซื้อรถมือสอง ได้มีโอกาสได้ตรวจสอบความมั่นใจในด้านต่างๆ ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกหารถแต่ละคัน ซึ่งถือว่าเป็นจุดเด่นที่เหนือกว่าเว็บไซต์รถมือสองเจ้าอื่นๆ”

ดังนั้น CARRO ขอแนะนำให้ตรวจสอบเบื้องต้น 3 อย่างใหญ่ๆ คือ คนขาย, เล่มทะเบียน, สภาพรถยนต์ ที่หลายคนอาจมองข้ามไปก่อนการซื้อรถมือสองซักคัน ดังนี้

3-Trick-Before-Buy-Secondhand-Car

1. เช็คคนขาย

การเช็คคนขายแบบง่ายๆ เลยก็คือ ผู้ขายรถมือสองให้กับคุณอย่างน้อยต้องมีคุณสมบัติ 2 ข้อนี้

1.1 มีตัวตนจริง และเป็นเจ้าของรถตัวจริง
ซึ่งในจุดนี้ต้องมีหลักฐานยืนยัน ได้แก่ บัตรประจำตัวประชาชน (หรือสำเนาบัตรประชาชน ที่มีการเซ็นรับรองอย่างถูกต้อง กำกับว่าใช้ในกิจธุระใด) และสมุดเล่มทะเบียนรถ ซึ่งชื่อที่ปรากฎอยู่บนเล่มทะเบียนว่าเป็นผู้ครอบครองกรรมสิทธิ์รถเป็นคนล่าสุด จะต้องมีชื่อตรงกับในบัตรประชาชน

1.2 มีช่องทางที่สามารถติดต่อกับผู้ขายได้อย่างสะดวก
การติดต่อกับผู้ขายนั้นต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นระหว่างการตกลงซื้อขาย หรือแม้แต่เสร็จสิ้นกระบวนการซื้อและโอนไปแล้วก็ตาม จงตระหนักว่าคุณไม่มีทางรู้เลยว่าหลังจากซื้อรถยนต์ใช้แล้วมาขับขี่จะเกิดอะไรขึ้นต่อไปบ้าง ฉะนั้นจึงไม่ควรนิ่งนอนใจกับข้อมูลส่วนนี้

ด้วยเหตุนี้ ทาง CARRO Automall จึงพร้อมมอบความมั่นใจให้คุณด้วยการรับประกันคุณภาพรถถึง 2 ปี หรือ 20,000 กิโลเมตร ทันที! พร้อมการันตีความพึงพอใจ คืนรถได้ภายใน 5 วันอีกด้วย!

ต่อทะเบียนรถ ภาษีขาดเกิน 3 ปี

2. เช็คเล่มทะเบียนรถ

ก่อนจะเช็คเล่มทะเบียน อยากให้เข้าใจตรงกันก่อนว่า เล่มทะเบียนรถให้ข้อมูลอะไรกับคุณได้บ้าง ข้อมูลบนเล่มทะเบียนแบ่งเป็น 3 ส่วนหลักๆ ได้แก่ 

1. รายการจดทะเบียน ทำให้ทราบว่ารถจดทะเบียนตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่ไหน ให้ข้อมูลพื้นฐานของรถ (ยี่ห้อ/รุ่น/รุ่นย่อย/ปี/สี/เครื่องยนต์/เชื้อเพลิง ฯลฯ) รวมถึงข้อมูลเฉพาะอย่างเลขเครื่อง และเลขตัวถังด้วย 

2. เจ้าของรถ จะบอกได้ว่าใครเคยถือกรรมสิทธิ์รถคันนี้บ้างตามลำดับ 

3. รายการบันทึกของเจ้าหน้าที่ (มักจะอยู่ที่หน้า 18 ของเล่มทะเบียน) เป็นส่วนที่ทำให้รู้ว่ารถมีที่มาที่ไปอย่างไร และผ่านอะไรมาบ้าง เช่น จดทะเบียนที่จังหวัดไหน เป็นรถจดประกอบหรือไม่ เคยเปลี่ยนชนิดเชื้อเพลิง เปลี่ยนสี ติดแก๊ส ฯลฯ หรือไม่ เป็นต้น

ส่วนการตรวจสอบเล่มทะเบียนอย่างละเอียดด้วยตัวเอง มีขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้

2.1 เช็คข้อมูลในรายการบันทึกของเจ้าหน้าที่ก่อน ว่าตรงกับสิ่งที่คนขายบอกคุณหรือไม่ ถ้าไม่ตรง ขอเตือนไว้เลยว่า “อันตราย” แล้ว โดยเฉพาะเรื่องใหญ่ๆ อย่างการเปลี่ยนเครื่อง เปลี่ยนสี

2.2 หากรถคันนั้นมีประวัติการแจ้งจอด หรือเล่มเก่าชำรุด/สูญหาย ขอให้ขีดเส้นใต้ไว้ในใจเลยว่ามีความไม่ชอบมาพากล (แต่ไม่ได้แปลว่าคุณจะถูกหลอกเสมอไปหรอกนะ) โดยเฉพาะรถที่เคยแจ้งจอด ไม่ว่าจะชั่วคราวหรือถาวรก็ตาม มีความเป็นไปได้สูงว่ารถอาจมีปัญหาจนเจ้าของเดิมซ่อมไม่ไหว รวมถึงรถอาจไม่ได้รับการดูแล และการซ่อมบำรุง เพราะไม่ได้ถูกใช้งาน

ส่วนกรณีที่ผู้ขายเคยขอเล่มทะเบียนใหม่ เพราะเล่มเก่าชำรุด/สูญหายนั้น แม้จะมีโอกาสเกิดขึ้นได้จริง แต่ผู้ซื้อรถยนต์มือสองทุกคนควรรอบคอบไว้ก่อน หากชอบรถคันนั้นมากก็ควรไปโอนที่กรมขนส่งให้ถูกต้อง ทางที่ดีอย่าเพิ่งโอนเงินให้คนขายจนกว่ากระบวนการโอนรถจะสิ้นสุด

2.3 เช็คในหน้าเจ้าของรถ ส่วนนี้จะบอกลำดับผู้ถือกรรมสิทธิ์เรียงจากเก่าไปใหม่ตามวันที่ครอบครองรถ ทำให้ได้รู้ว่ารถผ่านมาอย่างน้อยกี่มือแล้ว และเคยเป็นกรรมสิทธิ์ของธนาคารหรือไม่ นอกจากนี้บางคนอาจจะมีเงื่อนไขของตัวเอง เช่น ไม่ชอบรถที่วัยรุ่นขับเพราะไม่ค่อยถนอมรถ เป็นต้น ซึ่งคุณสามารถตรวจสอบตรงส่วนนี้ได้

2.4 ตรวจสอบในหน้ารายการจดทะเบียน ควรเริ่มจากการเช็ควันจดทะเบียน (วัน/เดือน/พ.ศ.) ว่าจดในปีเดียวกันกับรุ่นปีของรถ (ค.ศ.) หรือไม่

ตัวอย่าง คุณสนใจโตโยต้าคัมรี่มือสองคันหนึ่ง รุ่นปีของรถคือปี 2010 (พ.ศ. 2553) แต่รถจดทะเบียนในปี 2554 (มักเกิดจากการที่เจ้าของเดิมใช้ป้ายแดงนานข้ามปี ลากจด) เท่ากับว่าปัจจุบันรถมีอายุการใช้งานมา 6 ปีแล้ว ไม่ใช่ 5 ปีตามวันจดทะเบียน ฉะนั้นก็บวกลบดูดีๆ ว่าค่าเสื่อมสภาพของรถจะเพิ่มขึ้นอีกเท่าไหร่

2.5 ตรวจเลขตัวถังรถว่ามีหมายเลขตรงกับในเล่มทะเบียนหรือไม่ เลขตัวถังรถจะระบุตำแหน่งอยู่ในเล่มทะเบียน เช่น ด้านในห้องเครื่องยนต์ บริเวณแผงคอนโซล บริเวณเสากลางตัวรถด้านคนนั่ง หรือคนขับ หรือบริเวณคานหน้า ฯลฯ เมื่อเจอเลขแล้วตรวจสอบให้ดีว่าตรงกับในเล่มหรือไม่

นอกจากนี้ควรสังเกตุด้วยว่าเวลาลูบแล้วขรุขระผิดปกติ และมีความคมผิดปกติ หรือมีร่องรอยการตัดแปะ หรือตอกตัวเลขมาใหม่หรือไม่ พึงระลึกไว้ว่ารถยนต์มือสองที่ใช้งานมาอย่างปกตินั้นจะไม่มีปัญหาในส่วนนี้เด็ดขาด (อย่างมากก็แค่ฝุ่นจับหรือเปรอะเปื้อนบ้างเท่านั้น)

2.6 ขั้นตอนปราบเซียนคือเช็คเลขเครื่องยนต์ เลขเครื่องยนต์จะอยู่ไม่ด้านซ้ายก็ขวาเครื่องยนต์ แต่ตัวเลขดูค่อนข้างยากสักหน่อย มักเป็นรอยขีดบาง ๆ อีกทั้งมักจะเปรอะด้วยคราบฝุ่นหนาหรือไม่ก็คราบน้ำมันเครื่อง ฉะนั้นควรเพ่งหาให้ดี ๆ จากนั้นก็เช็คว่าตรงกับเลขบนเล่มทะเบียนหรือเปล่า

ทั้งหมดที่กล่าวมานี้จะไม่เป็นปัญหาเลย หากคุณซื้อรถด้วยเงินสดแบบตกลงกันปุ๊บ ไปโอนที่กรมขนส่งฯ ปั๊บ เพื่อหลีกเลี่ยงการโอนลอยที่อาจมีปัญหาตามมาได้ ซึ่งในส่วนนี้ พนักงานกรมขนส่งฯ ก็จะตรวจสอบเลขเครื่องยนต์และเลขตัวรถให้อย่างละเอียด และมักไม่ค่อยมีปัญหาอะไรหลุดรอดไปได้

ในเรื่องรายละเอียดของเล่มทะเบียนและการจดทะเบียนรถนั้น คุณสามารถเข้าไปหาข้อมูลเพิ่มเติมหรือติดต่อสอบถามได้ที่ เว็บไซต์ของกรมขนส่งทางบก

3-Trick-Before-Buy-Secondhand-Car

3. เช็คสภาพรถ

หากคุณไม่ใช่คนที่เชี่ยวชาญด้านรถจริงๆ ในส่วนนี้คงต้องพึ่งช่างหรือผู้เชี่ยวชาญจะดีกว่า แต่หากไม่สะดวกให้ช่างมาเช็คให้ หรือเกรงใจคนขาย ไม่สะดวกจะออกปากขอนำรถไปตรวจ (หรือขอแล้วยึกยัก ไม่ยอม) จุดที่ควรเช็คอย่างละเอียดมีดังนี้

เช็คจุดที่รับแรงกระแทกเมื่อถูกชน (ชนคันอื่น + คันอื่นมาชน)

1. ตำแหน่งแรกคือฝากระโปรงหน้า ลองเปิดกระโปรงดูเครื่องภายในว่าหน้าตายังดูดีอยู่หรือไม่ ข้างในไม่ควรมีตำหนิประเภท รอยแตก รอยบิ่น รอยคดงอ หรือมีสีสันวาววับกว่าปกติ โดยส่วนมากรถยนต์มือสองทั่วไปที่อายุการใช้งานยังไม่มากนัก มักจะมีสติ๊กเกอร์ และตราปั๊มต่างๆ จากศูนย์อยู่ครบถ้วน ถ้าไม่มีร่องรอยอะไรทำนองนี้เหลืออยู่เลย ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าอาจถูกเปลี่ยนยกชุด

2. จุดที่ง่ายต่อการสังเกตคือคานหน้า เพราะรถที่ชนหนักๆ มานั้นคานต้องมีการบิดงอผิดรูปแน่ๆ ซึ่งในจุดนี้คนขายก็อาจจะไปให้อู่ทำมาให้อย่างสวยงาม หรือเปลี่ยนชุดคานหน้าใหม่ แต่อย่าลืมว่าของที่เสียหายไปแล้ว ซ่อมอย่างไรก็ไม่มีวันเหมือนเดิมได้ จุดสังเกตก็มีอยู่เช่น สีของคานไม่เสมอกัน สีเงาเป็นมัน (ปกติสีของคานมักจะเป็นสีด้านกว่าสีตัวถัง) สีมีรอยแตก โค้งไม่เท่ากันหรือโค้งไม่เป็นธรรมชาติ ฝั่งซ้ายกับฝั่งขวาหน้าตาไม่เหมือนกัน บิดงอเกินไปหรือเรียบเกินไป หรือสติ๊กเกอร์คำเตือนต่างๆ ที่ติดไว้ หรือตัวเลขที่ตอกไว้ ไม่มี เป็นต้น

3. ตำแหน่งถัดไปคือฝากระโปรงหลัง เปิดขึ้นมาเช็คขอบกระโปรงว่ามีร่องรอยหรือไม่ หากเคยชนหนักมา แม้จะผ่านการซ่อมมาแล้วก็มักจะมีรอยแตกรอยบิ่นอยู่ตามขอบกระโปรง ซึ่งพื้นของส่วนเก็บสัมภาระท้ายรถควรจะเรียบเสมอกัน ไม่มีรอยบุบ รอยนูนใดๆ (ควรเช็คใต้พรมด้วย แต่ทางที่ดีก็ควรขออนุญาตเจ้าของรถก่อน)

4. ตำแหน่งสุดท้ายคือขอบประตู และเสากลางตัวรถ หากรถที่ชนหนักมา ขอบประตูมักมีรอยเชื่อม ซึ่งการดูร่องรอยพวกนี้ได้ต้องดึงขอบยางออกก่อน (ซึ่งต้องขอคนขายก่อนตามมารยาทที่ดี) ตรงนี้จะเห็นได้ชัดเจนเลยว่าทำมาหรือไม่ เพราะขอบประตูปกติจะเรียบกริบ ไม่มีร่องรอยใดๆ แต่ถ้าผ่านมืออู่มาแล้วจะเห็นรอยเชื่อมเป็นจุด ๆ อย่างชัดเจน

ในส่วนของส่วนเสากลางประตูตัวรถนั้น ปกติถ้าเป็นรถมาจากโรงงาน หลายรุ่นมักจะใช้เป็นสีดำด้าน เพราะเป็นส่วนสัมผัสที่มักเผชิญกับรอยขูดขีดบ่อย จึงมักจะไม่ทำสีจุดนี้ (แต่รถหลายรุ่นก็ทำเป็นสีเดียวกับตัวรถ) แต่ถ้าคันใดทำสีเดียวกับตัวรถทับสีดำของเดิม ก็อาจจะเคยโดนชนมาได้ ต้องสังเกตดีๆ ว่ารถคันอื่นๆ ในรุ่นเดียวกัน สีผิดแผกไปจากรถที่เราดูหรือเปล่า

3-Trick-Before-Buy-Secondhand-Car

3 + 1. เช็คสี

การเช็คสี เป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากที่จะสังเกตด้วยตาเปล่า เพราะอู่บางแห่งก็เก็บงานได้เนียนกริ๊บ จนแทบไม่เหลือให้ผิดสังเกต แต่แบบที่เราสามารถมองเห็นแล้วบอกได้ว่า ชนหนักชัวร์ ก็คือรถที่สีแตกเป็นริ้วเป็นรอย (แบบที่เรียกว่าแตกลายงา) ซึ่งกรณีนี้แปลว่าทำมาไม่ดี อู่ฝีมือแย่

นอกจากนี้ก็คือการพิจารณาว่าสีมีความมันวาว และความหนาบางเสมอกันหรือไม่ หรืออาจจะลองเทียบกับรถรุ่นเดียวกัน แต่เป็นรถป้ายแดงก็จะง่ายขึ้นมาก ถ้าตรงไหนที่สีควรด้านแต่กลับเป็นเงามัน แปลว่าทำมาแน่นอน (ซึ่งอาจไม่ได้ชนหนักก็ได้ ควรพิจารณาหลายส่วนประกอบกันด้วย)

สุดท้ายใครไม่อยากพลาด หรือเสียเวลามาเช็คหรือตรวจสอบเอง แนะนำให้มาปรึกษา CARRO ตามช่องทางการติดต่อด้านล่างนี้ เพราะเราเชี่ยวชาญด้านรถยนต์มือสองเป็นอย่างดี เพียงแค่ไว้ใจให้เราบริการ คุณจะไม่มีวันผิดหวังอย่างแน่นอน

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

ส่วนใครที่กำลังมองหารถคันใหม่ ที่สภาพพร้อมต่อการใช้งานในตอนนี้ CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” สามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่งรถทุกคันของ CARRO Automall คุณไม่ต้องกังวลเลยในเรื่องของรถจมน้ำ รถน้ำท่วม หรือรถจมบาดาล เพราะเราไม่นำรถที่ถูกน้ำท่วมมาขายโดยเด็ดขาด และรถทุกคันยังผ่านการตรวจสภาพอย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 200 จุด อีกด้วย

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดในการดูรถเสมือนจริงผ่านระบบออนไลน์ เป็นรายแรกของธุรกิจรถมือสองในประเทศไทย คุณสามารถดูรูปรถทั้งภายนอก ภายใน กันได้แบบ 360 องศา รวมถึงยังสามารถฟังเสียงเครื่องยนต์จากรถคันที่คุณสนใจได้อีกด้วย!

เพราะเรามั่นใจในคุณของรถยนต์ทุกคัน เราจึงกล้ารับประกันคุณภาพรถนานถึง 2 ปี หรือ 20,000 กิโลเมตร! อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

Help-You-Choose-Secondhand-Cars

รถมือสองคันแรกของคุณ รุ่นไหนดี?? ให้  CARRO ช่วยคิด!!

จะซื้อรถมือสองคันแรก เอารุ่นไหนดี? ในยุคเศรษฐกิจไม่ดี แล้วเงินที่มีจะพอมั้ย? หลายคนอาจจะคิดไม่ตก ให้ CARRO ช่วยคิดดีกว่า!

หลักการเลือกซื้อรถมือสองคันแรกแบบ CARRO นั้นไม่ยุ่งยากอะไรเลย แค่ก่อนจะซื้อรถมือสอง ให้คุณถามตัวเองก่อนว่าซื้อรถคันนี้ไปเพื่ออะไร? ตัวคุณเองมีไลฟ์สไตล์แบบไหน? รวมถึงรถคันที่สนใจนั้นมีราคามือหนึ่งเท่าไหร่ โฉมอะไร อายุการใช้งาน และสภาพเป็นอย่างไร? และข้อสุดท้าย งบประมาณที่คุณตั้งไว้คือเท่าไหร่?

ยิ่งในตลาดรถมือสองปัจจุบัน มีรถให้เลือกมากมาย สำหรับการเลือกซื้อรถมือสอง CARRO ขอแบ่งไลฟ์สไตล์ของผู้ขับขี่รถออกเป็น 5 สาย ดังนี้ …

Nissan-Almera-มือสอง

1. สายเน้นคุ้ม มองหารถที่ใช้ในชีวิตประจำวัน

หากมองในแง่ซื้อแล้วคุ้ม ใช้ไปยาวๆ และใช้ได้หลายโอกาส รถซีดาน (รถเก๋ง 4 ประตู) น่าจะเป็นคำตอบที่ใช่ที่สุด และเมื่อพิจารณาจากความนิยมของคนส่วนใหญ่ ยอดขายรถซีดานของค่ายรถต่างๆ ในไทยก็ยังคงสูง ด้วยเหตุที่เป็นเช่นนี้ ก็เพราะรถซีดานโดยมากมีรูปร่างสมส่วนปราดเปรียว เหมาะกับชีวิตคนเมืองซึ่งต้องเผชิญภาวะรถติด และต้องซอกแซกตามซอกซอยแคบ

อีกทั้งข้อดีข้อสำคัญของรถซีดานทั่วๆ ไปก็คือ เสียภาษีน้อย เพราะมักเป็นรถที่มีเครื่องยนต์ขนาดเล็ก (ในกรณีนี้คือรถตลาดทั่วไป ไม่รวมถึงรถสมรรถนะสูงนะ) ไม่กินน้ำมัน หรือปล่อยมลพิษมากนัก

Honda-City-มือสอง

รถซีดานนั้นมีหลาย Segment ซึ่ง Segment ใหญ่ๆ ราคาก็ขยับขึ้นตามไปด้วย สำหรับสายเน้นคุ้ม เน้นใช้ขับขี่ประจำวันโดยไม่ได้ใช้งานฮาร์ดคอร์มาก CARRO ขอแนะนำรถในกลุ่ม Eco-Car, Sub-Compact Car, Compact Car เพราะรถกลุ่มนี้เป็นรถไซส์กำลังเหมาะสำหรับการขับขี่ในระยะไม่ไกลมาก ราคาไม่สูงเกินเอื้อม ทำให้ไม่สร้างภาระทางการเงินที่หนักเกินไป และถ้าบำรุงรักษาตามระยะ คุณจะสามารถใช้งานได้คุ้มค่าแน่นอน

ตัวอย่างรุ่นรถในกลุ่มนี้

Eco-Car : Nissan Almera / Suzuki Ciaz / Toyota Yaris ATIV / Mitsubishi Attrage

Sub-Compact Car : Toyota Vios / Mazda2 / Honda City

Compact Car : Honda Civic / Toyota Altis / Mitsubishi Lancer / Nissan Sylphy ฯลฯ

Isuzu-MU-X-มือสอง

2. สายรักครอบครัว ชอบรถไซส์ใหญ่ ขับเที่ยวก็ได้ ขับไปทำงานก็โก้!

สำหรับคนที่กำลังมองหารถครอบครัว หรือรถไซส์ใหญ่ที่ขับขี่ทางไกลได้อย่างไม่เป็นปัญหา รถ PPV (รถอเนกประสงค์พื้นฐานกระบะ) น่าจะเป็นคำตอบที่ใช่ของคุณ! เพราะมีความอึด ถึก ทน และแรงเยอะแบบกระบะ แต่ขณะเดียวกันก็มีพื้นที่ห้องโดยสารกว้างขวาง จุผู้โดยสารได้มาก และมีพื้นที่จุสัมภาระอย่างเหลือเฟือ!

รถ PPV เป็นรถที่เหมาะสำหรับการใช้ไปยาวๆ เช่นกัน เพราะ PPV หลายรุ่นในปัจจุบันก็ดีไซน์ออกมาอย่างโฉบเฉี่ยว เรียกว่าคนโสดขับขี่ได้โดยไม่เขิน คนมีครอบครัวก็ใช้แล้วคุ้มสุดๆ!

ตัวอย่างรุ่นรถในกลุ่มนี้

Toyota Fortuner / Mitsubishi Pajero Sport / Ford Everest / Isuzu MU-7 / Isuzu MU-X

Honda-CR-V-มือสอง

3. สายรักกิจกรรม รักการช็อป ชอบขับขี่ในเมืองใหญ่

สำหรับคนแอคทิวิตี้เยอะจัด หรือขาช็อปที่กลัวว่ารถซีดานจะมีที่จุของไม่พอ รถอเนกประสงค์ และอีโคคาร์ประเภท Hatchback น่าจะเป็นคำตอบที่ใช่ของคุณ เพราะเป็นรถที่ออกแบบมาให้สามารถใช้พื้นที่ห้องโดยสารได้คุ้มค่าที่สุด สามารถจุของได้มาก (บางรุ่นสามารถพับเก็บเบาะหลังเพื่อเพิ่มพื้นที่จุสัมภาระได้) หากคุณเน้นขับขี่ในเมืองใหญ่ อีโคคาร์ก็เพียงพอแล้วสำหรับความต้องการ แต่หากคุณเป็นสายกิจกรรม ต้องการบรรทุกสัมภาระมาก และออกท่องเที่ยวบ่อยๆ CARRO ขอแนะนำรถ Crossover SUV ตามด้านล่างเลย!

ตัวอย่างรุ่นรถในกลุ่มนี้

Sub-Compact Crossover SUV : Toyota C-HR / Honda HR-V / Nissan Juke / Mazda CX-3 / MG GS ฯลฯ

Compact Crossover SUV : Mazda CX-30 / Subaru XV / Honda CR-V / Nissan X-Trail / MG HS ฯลฯ

Hyundai-H-1-มือสอง

4. สายครอบครัวใหญ่ เพื่อนเยอะ รวมก๊วนถึงไหนถึงกัน!

ถ้าเน้นจุคนล่ะก็ ไม่มีอะไรจะตอบโจทย์ได้ดีกว่ารถตู้อีกแล้ว! รถตู้ที่เป็นที่นิยมกันในปัจจุบันก็มีหลายต่อหลายรุ่น เช่น Toyota Hiace, Toyota Commuter เป็นต้น หากมองหารถที่หรูหราขึ้นมาหน่อย รถแบบ MPV หรือ Minivan ก็ตอบโจทย์ได้ตรงเผงเลย! และรถรุ่นที่ขายดีมากๆ ในตลาดมือสองก็คือ Hyundai H-1, Toyota Alphard และ Toyota Vellfire นั่นเอง! รับรองว่า 3 รุ่นนี้หาซื้อได้ง่ายและมีหมุนเวียนในตลาดมือสองให้เลือกซื้อตามต้องการแน่นอน

ตัวอย่างรุ่นรถในกลุ่มนี้

รถ MPV ขนาดเล็ก – กลาง : Toyota Wish / Toyota Noah / Toyota Voxy / Toyota Estima / Nissan Serena / Honda Odyssey / Mitsubishi Delica D:5 ฯลฯ

รถ MPV ขนาดใหญ่ :  Hyundai H-1 – Grand Starex / Toyota Vellfire / Toyota Alphard / Nissan Elgrand / Volkswagen Caravelle – Multivan ฯลฯ

Isuzu-D-Max-มือสอง

5. สายเน้นประกอบอาชีพ พร้อมขับขี่ทุกสภาพถนน แถมบรรทุกสัมภาระได้มาก

เน้นประกอบอาชีพ และถึกทนทาน ต้องเลือกกระบะเลย! ปัญหาจุกจิกน้อย บรรทุกสินค้าได้ แถมบางรุ่นก็จัดออพชั่น ข้างในมาน้องๆ รถซีดานเลยทีเดียว หากใครยังติดภาพว่ารถกระบะนั่งไม่สบายอยู่ ขอให้คิดดูใหม่!

เป็นที่รู้กันว่า รถกระบะมีรุ่นย่อยให้เลือกตามขนาดเครื่องยนต์ (เริ่มต้นที่ 1.9 ลิตร ของ Isuzu D-Max) และความสะดวกสบาย (อีกนับหนึ่งคือจำนวนตอน/จำนวนประตู) นั่นเอง รุ่นพื้นฐานมักจะเป็นรุ่นตอนเดียว ไม่มีแค็บ เหมาะสำหรับการใช้ในเชิงพาณิชย์อย่างจริงจัง ไม่เหมาะจะขับขีในชีวิตประจำวันมากนัก แต่ถ้าเน้นความสะดวกสบาย บรรทุกของก็ได้ ขับประจำวันก็ชิล CARRO แนะนำแบบกระบะ 2 ตอน 4 ประตูเลย! แล้วคุณจะพบว่าห้องโดยสารของปิคอัพบางรุ่นนั้น สบายกว่าขับรถเก๋งบาง Segment เสียอีก!

ตัวอย่างรุ่นรถในกลุ่มนี้

Isuzu D-Max / Toyota Hilux Vigo – Revo / Nissan Navara / Mitsubishi Triton / Ford Ranger ฯลฯ

แต่ถ้าคุณอยากขายรถคันเดิม เพื่อไปซื้อรถคันใหม่ หรือรับเงินก้อนไปใช้ สามารถขายรถคันเก่ากับ CARRO ได้ ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ CARRO Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ครับ —> เพิ่มเพื่อน