Forecast-Volume-Car-Sales-In-Thailand-2021

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินตลาดรถยนต์ในประเทศปี 2564 ทิศทางยอดขายมีโอกาสกลับมาขยายตัวได้ดีอีกครั้ง หากภาวะเศรษฐกิจในประเทศเริ่มทยอยฟื้นตัวดีขึ้น กับภาวะโควิด-19 ที่กลับมาระบาดระลอกใหม่ในปีนี้ รัฐบาลสามารถหยุดยังได้ทัน และไม่ล็อกดาวน์อีกครั้งเสียก่อน

ประกอบกับในปี 2021 หลายประเทศทั่วโลก รวมทั้งไทย จะได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 (COVID-19) ซึ่งจะกลายมาเป็นปัจจัยช่วยฟื้นเศรษฐกิจไทย เมื่อการท่องเที่ยว การลงทุน และการค้าขายระหว่างประเทศกลับมาคึกคักขึ้นอีกครั้ง แม้จะยังไม่กลับสู่ระดับปกติ

“ปัจจัยเหล่านี้ ผนวกกับการออกแคมเปญแข่งขันกันของค่ายรถ จึงมีผลโดยตรงต่อทิศทางยอดขายรถยนต์ในประเทศปี 2564 ซึ่งศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าจะขยายตัวได้ 7-11% คิดเป็นยอดขายที่เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 825,000 – 855,000 คัน” บทวิเคราะห์ระบุ

Hyundai-Kona-Electric-Motor-Expo-2020

อย่างไรก็ตาม การคาดการณ์ดังกล่าว ตั้งอยู่บนสมมติฐานที่ว่า ภาครัฐ ไม่มีความจำเป็นต้องใช้มาตรการล็อกดาวน์ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อีกครั้ง ซึ่งในปี 2564 คาดว่ารถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า หรือรถยนต์กลุ่ม xEV ซึ่งประกอบด้วยรถยนต์ไฮบริด (HEV) รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) และรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (BEV) จะเป็นกลุ่มที่มีการขยายตัวได้อย่างก้าวกระโดด

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ประเทศไทยมีแนวโน้มการเข้าสู่ยุคแห่งรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเช่นเดียวกับตลาดโลก แม้ว่าจะยังเป็นตัวเลขที่น้อยกว่ามาก เนื่องจากไทยยังนับเป็นตลาดเกิดใหม่ของกลุ่มรถยนต์ xEV แต่เมื่อพิจารณาจากสภาพตลาดรถยนต์กลุ่ม xEV ในประเทศที่แม้จะยังไม่มีมาตรการกระตุ้นตลาดอย่างชัดเจนจากทางภาครัฐเข้ามา จะมีก็เพียงแต่มาตรการส่งเสริมการลงทุนในปัจจุบัน แต่เมื่อเทียบกับรถยนต์ประเภทอื่นแล้ว ตลาดรถยนต์กลุ่ม xEV ในประเทศกลับเติบโตรุดหน้าสวนทางตลาด เนื่องจากผู้บริโภคหลักเป็นกลุ่มที่ไม่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจมากนัก

“คาดว่าในปี 2564 ถ้าการแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศยังอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ ยอดขายรถยนต์กลุ่มนี้ในไทยน่าจะยิ่งเร่งตัวขึ้น หลังการเข้ามาแข่งขันของค่ายรถที่ทวีความดุเดือดขึ้น โดยเฉพาะเมื่อรถยนต์หลายรุ่นกลุ่ม xEV เริ่มเข้ามารุกตลาดกลุ่มราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเปิดตลาดสู่กลุ่มผู้บริโภคขนาดใหญ่ขึ้น” บทวิเคราะห์ระบุ

Mitsubishi-Outlander-PHEV-2020

สำหรับคาดการณ์ยอดขายของรถยนต์แต่ละประเภทในปีหน้า มีรายละเอียดดังนี้

  • สำหรับรถยนต์กลุ่ม HEV และ PHEV ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า ปี 2564 นี้ ค่ายรถจะเริ่มดันให้รถยนต์รุ่น HEV และ PHEV กลายมาเป็นโมเดลมาตรฐานของแต่ละค่ายรถมากขึ้น ซึ่งจะเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้จำนวนยอดขายรถยนต์ในกลุ่มนี้ปรับเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าจะมีประมาณ 48,000-50,000 คัน หรือขยายตัว 10-23% ขยายตัวต่อเนื่องจากปี 2563 ที่คาดว่าจะขยายตัว 17% คิดเป็นยอดขาย 31,000 คัน
  • สำหรับรถยนต์ BEV ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า ปี 2564 นี้ มีโอกาสเติบโตจากการเข้ามาบุกตลาดของรถยนต์ BEV สัญชาติจีนได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI และยังได้สิทธิ์ภาษีนำเข้า 0% ผ่านข้อตกลงการค้าเสรีไทย-จีน ทำให้สามารถนำเข้ามาจำหน่ายในช่วงแรกได้ด้วยระดับราคาไม่สูงนัก ก่อนจะผลิตเพื่อทำตลาดในประเทศในอนาคต ขณะที่ค่ายรถหรูยุโรปที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอก็จะเริ่มรุกตลาดรถยนต์ BEV ในปีนี้เช่นเดียวกัน ทำให้มีโอกาสจะขยายตัวได้สูง แต่ตัวเลขยอดขายอาจจะยังไม่สูงนักเนื่องจากยังเป็นตลาด niche โดยน่าจะมียอดขายประมาณ 4,000-5,000 คัน ขยายตัว 176-245% และเป็นการขยายตัวต่อเนื่องจากปีนี้ที่คาดว่าจะขยายตัว 102% คิดเป็นยอดขาย 1,450 คัน

MG-ZS-EV-Motor-Expo-2020

“ปัจจัยสนับสนุนหลักของตลาด BEV ในอนาคต คือ การที่ภาครัฐและเอกชนจะสามารถเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับตลาดซึ่งมีกำลังซื้อพร้อม แต่ยังขาดความมั่นใจในเรื่องของการวางเครือข่ายสถานีชาร์จไฟฟ้าที่ทั่วถึง เมื่อเทคโนโลยีรถยนต์ BEV ปัจจุบันยังมีข้อจำกัดในเรื่องระยะทางวิ่งอยู่” บทวิเคราะห์ระบุ

ส่วนรถยนต์ในกลุ่ม ICE ในปี 2564 ถ้าการแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19ยังอยู่ในระดับที่ควบคุมได้และไม่ทำให้รัฐบาลต้องออกมาใช้มาตรการล็อกดาวน์อีกครั้ง ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่ามีโอกาสที่จะขยายตัวได้ดีนอกจากจะเป็นเพราะฐานที่ต่ำในปี 2563 แล้ว การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยที่คาดว่าจะทยอยเกิดขึ้นตลอดช่วงปีหน้าก็คาดว่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายรถยนต์ ICE เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์ที่ขยายตัวตามเทรนด์ตลาดปัจจุบัน และรถปิกอัพที่คาดว่าจะเติบโตตามทิศทางการลงทุนในอุตสาหกรรมต่างๆ ส่งผลให้ยอดขายรถยนต์ ICE รวมน่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 773,000 – 800,000 คันได้ หรือขยายตัว 5-8% จากปีนี้ที่คาดว่าจะหดตัวอย่างรุนแรงถึง 24.8% คิดเป็นยอดขายเพียง 737,550 คัน

Mini-Electric-2020

ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่าปริมาณการผลิตรถยนต์กลุ่ม xEV ในประเทศปี 2564 น่าจะทำได้ 72,000 – 80,000 คัน ขยายตัว 60-78% จากที่คาดว่าจะผลิตประมาณ 45,000 คันในปี 2563 และปริมาณการผลิตรถยนต์รวมของประเทศน่าจะทำได้ 1,550,000 ถึง 1,620,000 คัน ขยายตัว 10-15% จากปีนี้ที่คาดว่าจะผลิตได้ 1,410,000 คัน หดตัว -30% จากปีก่อน ในกรณีที่ไม่พบการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่รุนแรงจนส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจให้ชะลอลงกว่าที่คาด

สำหรับมาตรการกระตุ้นตลาด “รถเก่าแลกใหม่” ที่แม้ตอนนี้จะถูกดึงกลับไปพิจารณาถึงผลกระทบต่อภาคส่วนต่างๆ อีกครั้งนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า หากมีการผลักดันนำเข้ามาใหม่ด้วยมาตรการที่ชัดเจนและเหมาะสม ก็คาดว่าจะน่าจะช่วยเร่งให้ตลาดรถยนต์กลุ่ม xEV เติบโตได้อย่างรวดเร็ว ปัจจัยเร่งสำคัญที่ภาคส่วนต่างๆ ควรพิจารณาด้วย คือ การเพิ่มสถานีชาร์จไฟฟ้าให้ครอบคลุมทั่วประเทศเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ซื้อ หากมีเป้าหมายต้องการเร่งตลาด BEV และ PHEV ให้กลายเป็นรถรุ่นมาตรฐานดังเช่นหลายตลาดหลักของโลกในอนาคต

ส่วนถ้าหากใครกำลังอยากขายรถคันเดิมในเวลานี้ หรือกำลังตัดสินใจจะซื้อรถป้ายแดงอยู่พอดี แต่งบไม่พอ! ขายรถคันเดิมของคุณกับทาง CARRO ดูได้ ลงประกาศขายรถฟรี โดยได้ราคาที่คุณพอใจ พร้อมปิดการขายภายใน 24 ชั่วโมง! กับ CARRO Express แค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือจะ Inbox สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @Carrothai คลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

ขอบคุณแหล่งที่มาจาก:

Fastest-Way-To-Selling-Used-Cars

เป็นที่ทราบกันดีว่าปีนี้ เป็นปีที่ประเทศไทยเจอมรสุมจริงๆ นับตั้งแต่เปิดปี 2563 เป็นต้นมา เจอทั้งเรื่องเศรษฐกิจแย่มาตั้งแต่ปีที่แล้ว หรือกระทั่งเรื่องจากภายนอกประเทศ อย่างโควิด-19 ที่ระบาดและสร้างความเสียหายมหาศาลไปทั่วโลก ที่กระทบทุกภาคส่วนไปทั่ว ส่งผลกระทบต่อยอดขายรถปี 2563 ยิ่งร่วงลดหนักลงกว่าเดิมอีก! ทั้งในตลาดรถใหม่ และในตลาดรถมือสอง

ผลกระทบจากเศรษฐกิจและสภาพสังคมแบบนี้ ย่อมส่งผลต่อปากท้องของคนหาเช้ากินค่ำ อย่างเลี่ยงไม่ได้ การเก็บสะสมทรัพย์สินอะไรบางอย่างเอาไว้ ก็ต้องจำเป็นเอาของมาขาย เพื่อนำเงินมาใช้จ่ายประทังชีวิต เสริมสภาพคล่อง เริ่มต้นกันที่ขายของชิ้นเล็กๆ ราคาหลักร้อยหลักพัน

ไปจนถึงของชิ้น “ใหญ่” ราคาหลักหมื่นหลักแสน (หรือหลักล้าน) อันดับต้นๆ ที่คนมักจะนิยมขายในยามเศรษฐกิจแย่ นั่นก็คือ “รถยนต์” เพราะมีราคาซื้อ-ขาย ที่ไม่สูงมากเกินไปแบบอสังหาริมทรัพย์ และสามารถซื้อขาย ขอไฟแนนซ์ ยื่นกู้ได้ง่ายกว่า

ถ้าคุณนึกสงสัยขึ้นมาว่า ขายรถที่ไหนดี ขายรถที่ไหนได้ราคาดี ราคาสูง หรือขายรถมือสองที่ไหนดี บทความนี้เราจะมาแนะนำกัน..

Fastest-Way-To-Selling-Used-Cars

1. ลงประกาศขายรถเอง ต้องรอได้

การจะขายรถสักคัน ถ้าคุณไม่รีบร้อน ใจเย็นๆ หาเว็บไซต์ขายรถมือสองที่ในตอนนี้ก็มีทั้งแบบขายฟรี และขายไม่ฟรี (นั่นคือ ต้องเสียเงินลงประกาศขาย) ดูเว็บที่มีลูกค้ามารีวิวหน่อยก็ได้ ลองลงประกาศไว้

ถ้ารถคุณสภาพดี เป็นรถตลาด (หมายถึง รถยี่ห้อและรุ่นที่คนนิยมเล่นกัน อะไหล่หาง่าย ไม่แพง ซ่อมง่าย ไม่ใช่รถรักเจ้าของ หรือรถคนเล่าเฉพาะกลุ่ม) ตั้งราคาไม่สูงมาก เผลอๆ วันเดียวก็ขายได้แล้ว แต่ถ้าสภาพรถไม่ค่อยดี ต้องซ่อมเยอะ แต่ดันตั้งราคาซะสูง ลงประกาศขายครึ่งปี ยังขายไม่ได้ก็มี

Fastest-Way-To-Selling-Used-Cars

2. ฝากขาย ต้อง “ถูก” และ “เอกสารถูกต้อง” ไว้ก่อน!

ถ้ามีคนรู้จัก หรือเพื่อที่ทำธุรกิจเกี่ยวข้องกับรถ หรือเป็นเต็นท์รถมือสอง คุณอาจจะฝากขายก็ได้ เพราะอาจจะ (ย้ำ “อาจจะ”) ได้ราคาสูงกว่าขายเต็นท์หน่อย แต่ก็ต้องแบ่ง % เป็นค่าฝากขายกับคน หรือเต็นท์ที่คุณเอารถไปฝากขาย ซึ่งก็ไม่มีหลักประกันว่า เมื่อไหร่รถคุณจะขายออกไปได้ และได้รับเงินสดจริงๆ เพราะอาจจะเจอคนนัดมาดูรถ ต่อรองราคาจนเบื่อซะก่อน

แต่ถ้าอยากขายได้ไว ต้องเอา “ถูก” และ “เอกสารถูกต้อง” ไว้ก่อน!

Fastest-Way-To-Selling-Used-Cars

3. ขายรถผ่านเต็นท์รถ เร็ว! ได้เงินแน่นอน แต่น้อยกว่าขายเอง

ขายรถผ่านเต็นท์รถ ในปัจจุบันก็มีเต็นท์มากมายตามย่านต่างๆ ในกรุงเทพฯ หรือในหัวเมืองใหญ่ๆ ที่พร้อมรับซื้อรถของคุณทันที แต่คุณก็ต้องมีเวลาว่างมากพอ ขับรถไปตระเวนตามเต็นท์ ให้เขาตีราคารถคุณก่อน เพราะบางที่โทรไปแล้ว ไม่ตีราคาให้ก็มี เพราะมองไม่เห็นสภาพรถคุณ

แต่ก็ต้องทำใจอยู่อย่าง เพราะเต็นท์รถส่วนใหญ่ มักจะกดราคารถคุณต่ำกว่าตลาดอยู่แล้ว เพราะเต็นท์รถก็ต้องมีต้นทุนการทำธุรกิจ เช่นเดียวกับธุรกิจอื่นๆ เช่น การเก็บงานปรับสภาพรถของคุณ ซึ่งบางอย่างมันอาจจะใกล้เสีย หรือเสีย ซ่อมหรือเปลี่ยนอะไหล่ใหม่ให้ใช้งานได้ปกติ ไหนจะค่าเช่าสถานที่ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าช่างซ่อมรถ ค่าคนดูแลรถ ฯลฯ ซึ่งทำให้ราคาที่รับซื้อเข้าของคุณ ไม่สูงเท่ากับการลงประกาศขายเอง

Fastest-Way-To-Selling-Used-Cars

4. ขายรถผ่านผู้รับซื้อรถ

ถ้าคุณไม่มีเวลามากพอที่จะนำรถไปตระเวนตามเต็นท์ต่างๆ ได้ หรือลงประกาศขายรถได้หลายๆ เดือน ได้ ร้อนเงินขึ้นมาเมื่อไหร่ ลองมาขายรถออนไลน์ดูสิ เพราะในยุคออนไลน์ สามารถช่วยให้คุณสะดวกสบายได้ทุกสิ่ง

ซึ่งในปัจจุบัน การขายรถออนไลน์ก็มีให้บริการกันหลายเจ้า ด้าน CARRO เอง เราพร้อมรับซื้อรถของคุณด้วยเช่นกัน อีกทั้งสามารถปิดการขายได้ภายใน 24 ชั่วโมง ขั้นตอนลงขายก็ง่าย และ ฟรี!” ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย หรือค่าดำเนินการใดๆ อีกด้วย และรถใครที่ยังติดไฟแนนซ์อยู่ เราก็พร้อมปิดไฟแนนซ์ให้ด้วย และ CARRO ยังมีพนักงานคอยให้บริการ ติดต่อประสานงานผู้ขายกับผู้ซื้อให้เรียบร้อย

การขายรถผ่าน CARRO แตกต่างไปจากผู้การขายแบบอื่นๆ อย่างไร สามารถศึกษาได้จากตารางเปรียบเทียบด้านล่าง

CARRO บริษัท A บริษัท B
การบริการ รับเช็กราคา ตีราคารถ รับเช็กราคา ตีราคารถ รับซื้อรถเฉพาะยี่ห้อ และรุ่น
มีพื้นที่ขายรถฟรีในเว็บไซต์ มีการรับซื้อรถไว้เอง มีพื้นที่ขายรถในเว็บไซต์
มีการประมูลรถ มีการประมูลรถ มีการรับซื้อรถไว้เอง
มีบริการโอนรถ มีบริการโอนรถ มีบริการรีไฟแนนซ์รถ
มีบริการปิดไฟแนนซ์รถ มีบริการปิดไฟแนนซ์รถ มีบริการรับจัดไฟแนนซ์รถ
รับเงินสดทันทีหลังปิดการขาย รับเงินสดทันทีหลังปิดการขาย บริการตรวจสภาพรถ
ขายได้ง่าย ปลอดภัย มีบริการตรวจสภาพรถยนต์ มีบริการโอนรถ
มีระบบ Tracking ติดตามสถานะการขายรถ ต้องสมัครสมาชิกก่อนใช้งาน
มีบริการตรวจสภาพรถยนต์
มีบริการรับซื้อรถจำนวนมาก หรือรถ Fleet
ราคารถ ราคาตามสภาพรถปัจจุบัน ราคาตามสภาพรถปัจจุบัน ประเมินจากราคากลาง
ค่าใช้จ่าย ฟรี ฟรี ค่าตรวจสภาพรถ 1,500 บาท
รู้ผลภายใน 1-2 ชั่วโมง 24 ชั่วโมง
พร้อมปิดการขาย-รับเงิน ภายในระยะเวลา ภายใน 24 ชั่วโมง ภายใน 24 ชั่วโมง ภายใน 24 ชั่วโมง (กรณีขายรถให้กับทางบริษัท)
ช่องทางการติดต่อ Website, Facebook, IG, Line@ Website, Facebook, IG Website, Facebook, IG, Line@
สาขา ทั่วประเทศ กรุงเทพฯ และปริมณฑล กรุงเทพฯ และปริมณฑล

หากใครสนใจอยากขายรถ หรืออยากขายรถได้ราคาสูง สามารถเข้าไปตีราคาขายรถก่อนได้ โดยใส่ข้อมูลรถของคุณที่นี้ > https://th.carro.co/sell-car/express

หากมีข้อสงสัยประการใด สามารถ Inbox มาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand หรือโทร. 02-508-8425 ในเวลาทำการ (จันทร์-ศุกร์ 9.30 – 18.30 น.)

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ครับ —> เพิ่มเพื่อน