รถสตาร์ทไม่ติด

ปัญหายอดนิยมของผู้ใช้รถที่สามารถเกิดขึ้นกับรถใครก็ได้ วันนี้ CARRO จะมาบอกถึงสาเหตุและวิธีการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า

1. แบตฯ เสื่อมไม่เก็บไฟ

แบตเตอรี่มีอายุการใช้งานอยู่ที่ระหว่าง 1-2 ปี หลังจากนั้นจะเริ่มเสื่อม ถ้าหากแบตไม่มีน้ำกลั่นก็จะทำให้ความสามารถในการเก็บไฟของแบตเตอรี่ต่ำลงด้วย อาการของรถเมื่อบิดกุญแจแล้วรถนิ่ง ไม่มีปฎิกริยาใด ๆ ขึ้นกับรถ หน้าปัดนิ่งสนิท เกิดจากเมื่อไฟที่มีอยู่ในแบตเตอรี่ต่ำ ก็จะส่งผลทำให้แบตฯ ไม่สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพให้กับรถของคุณ แต่อาการของแบตเตอรี่อ่อนนี้จะเตือนคุณจากไฟของระบบรถไม่ค่อยสว่างหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ต้องใช้ไฟฟ้าที่ให้ไฟได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ นั่นแสดงว่าแบตเตอรี่กำลังมีปัญหาแล้ว

รถสตารท์ไม่ติด

2. ชาร์จแค่ไหนก็ไร้ผล

ไดชาร์จเสียหรือเสื่อมก็อาจจะเป็นเหตุผลอีกข้อหนึ่งที่ทำให้รถสตาร์ทไม่ติด เนื่องจากไดชาร์จมีหน้าที่ปั่นไฟในขณะเครื่องยนต์กำลังทำงานเข้าไปเก็บไว้ในแบตเตอรี่ ถ้าไดชาร์จมีปัญหา ไม่ได้ทำการชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่ ในแบตเตอรี่ก็จะไม่มีไฟสำหรับมาใช้ในการสตาร์ทรถ อาการก็คือจะสามารถดูได้จากหน้าปัดรถที่มีไฟรูปแบบเตอรี่โชว์ ถ้าหากมีไฟขึ้นค้างไว้ตลอด ก็ต้องพ่วงแบตฯ กับรถคันอื่นๆ เพื่อให้รถสตาร์ทติดแต่ห้ามดับเครื่องเด็ดขาด เพราะถ้าดับรถก็จะสตาร์ทไม่ติดอีกเพราะไม่มีไฟสำหรับสตาร์ท

3.เปิดอุปกรณ์ในรถทิ้งไว้ จนไฟหมดเกลี้ยง

เชื่อว่าหลายๆ คนอาจจะเคยเปิดไฟในรถทิ้งไว้แล้วลืมปิด หรือจอดรถทิ้งไว้ทั้งคืนมาตอนเช้ารถสตาร์ทไม่ติด เพราะว่าไฟที่ส่องสว่างนั้นได้ดึงไฟฟ้าจากแบตเตอรี่มาใช้ไปจนหมด เมื่อแบตเตอรรี่ไม่ได้มีการชาร์จไฟเพิ่มจากไดชาร์จ แน่นอนว่าไฟในแบตฯ ก็ต้องหมด ส่งผลให้รถไม่มีไฟเพียงพอในการสตาร์ทนั่นเอง อาการคือเมื่อไฟจากแบตฯ ถูกใช้จนหมดหรือแบตฯ อ่อน อาจจะยังเหลือไฟอยู่บ้าง หน้าปัดหรือไฟส่งในรถอาจจะติดแต่ติดแบบอ่อนๆ เหมือนไฟไม่พอ และมันก็ยังไม่เพียงพอสำหรับในการสตาร์ทให้เครื่องยนต์ติดได้ด้วย

4.หรือว่าเสี่ยงระบบไฟ (ของรถ) มีปัญหา

ถ้าระบบไฟของรถสาเหตุที่ทำให้รถสตาร์ทไม่ติด ในส่วนนี้เจ้าของอาจจะทำอะไรไม่ได้ นอกเสียจากการต้องให้ช่างผู้ชำนาญมาดู เพื่อตรวจสอบความผิดปกติของระบบไฟโดยรวมของรถ

วิธีการแก้ปัญหาของการสตาร์ทไม่ติดเบื้องต้น !! สามารถทำได้ดังนี้

ที่ต้องบอกว่าเบื้องต้น เพราะเป็นเหมือนเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน แนะนำให้ลองพ่วงแบตฯ กับรถคันอื่นๆ เพื่อสตาร์ทดู แล้วสตาร์ททิ้งไว้ เพื่อทำการชาร์จไฟเข้าตัวแบตฯ ถ้ามั่นใจว่ารถไม่ได้มีปัญหาเรื่อง ไดชาร์จเสีย และระบบไฟของรถก็ปกติดี รวมไปถึงการเช็คว่าน้ำกลั่นไม่ขาด และแบตเตอรี่ก็มีไฟสามารถกลับมาใช้งานได้ตามปกติ แต่ถ้ารถมีปัญหาตามที่กล่าวไปนั้นก็จำเป็นที่ต้องพึ่งช่างให้มาดูหาวิธีแก้ไขต่อไป

รถสตารท์ไม่ติด

ปัญหารถสตาร์ทไม่ติดเกิดขึ้นได้กับรถทุกคัน ไม่ว่าจะเป็นรถใหม่หรือ รถมือสอง ถ้าอายุการใช้งานของอุปกรณ์ของรถหมดลง ก็ต้องเปลี่ยนอุปกรณ์นั้นตามระยะเวลาของมัน ดังนั้นในการขับขี่รถทุกครั้ง ควรมีการสังเกต อาการผิดปกติของตัวรถในด้านต่างๆ ทั้งช่วงล่าง ระบบไฟ เครื่องยนต์ว่ามีอาการผิดปกติหรือไม่ เพื่อที่จะสังเกตความผิดแปลก ก็จะได้นำรถเข้าไปตรวจสอบก่อนที่จะมีปัญหาสตาร์ทไม่ติดได้ กลางทาง!!