Toyota เปิดตัว Toyota Century ใหม่ ในราคา 19.6 ล้านเยน!
รถสุดหรูอันดับ 1 ของญี่ปุ่น เปิดตัวโฉมใหม่อย่างเป็นทางการ ในรอบ 21 ปี
Toyota Century (โตโยต้า เซ็นจูรี่) ถือเป็นรถเรือธงของโตโยต้า นับตั้งแต่ปี 1967 เป็นที่สุดของความหรูหราในแบบฉบับญี่ปุ่น และถือเป็นสัญลักษณ์ของรถสุดหรูของญี่ปุ่นอีกหนึ่งรุ่น ชื่อรุ่นมาจากภาษาอังกฤษ ที่แปลว่า “ศตวรรษ” (100 ปี ของ Sakichi Toyoda ผู้ก่อตั้งบริษัท Toyota) และประกอบรถรุ่นนี้ด้วยมือ … ในไทยก็มีรถรุ่นนี้อยู่หลายคัน
https://www.youtube.com/watch?v=Ui_qVhaLip0
ออกจำหน่ายครั้งแรกในเดือนพฤศจิกายน 1967 ใช้เครื่องยนต์ V8 ขนาด 3.0 ลิตร พร้อมกับปรับโฉมเล็กน้อยอีกหลายครั้ง และเปลี่ยนเครื่องยนต์ V8 เป็นขนาด 3.4 ลิตร และ 4.0 ลิตร กระทั่งในเดือนเมษายน 1997 จึงออกเจเนอเรชั่นที่ 2 มา อัดเทคโนโลยีอันทันสมัยอย่างเต็มที่ พร้อมใช้เครื่องยนต์ V12 ขนาด 5.0 ลิตร และคงหน้าตาโบราณไว้เช่นเดิม มากว่า 2 ทศวรรษ …
หลังจากที่ได้เผยโฉม Toyota Century Concept ไปในงาน Tokyo Motor Show 2017 ที่ผ่านมา โตโยต้า ได้เวลาเตรียมนำเสนอ Century เจเนอเรชั่นที่ 3 ใหม่หมดจด ในเดือนนี้
ตัวรถออกแบบและตกแต่งสไตล์อนุรักษ์นิยม แสดงให้เห็นถึงงานฝีมือคุณภาพชั้นสูงของชาวญี่ปุ่น แต่แฝงไปด้วยเทคโนโลยีอันล้ำสมัยเต็มที่ อาทิเช่น ไฟหน้าแบบ Full LED พร้อมระบบปรับไฟหน้าอัตโนมัติ Adaptive High Beam System (AHS), พร้อมไฟ LED Daytime Running Lights, ชายล่างประดับด้วยแถบโครเมี่ยมรอบคัน และไฟท้ายแบบ LED เสริมขอบโครเมี่ยม ระบบช่วงล่างเป็นแบบถุงลมควบคุมด้วยไฟฟ้า พร้อมล้อแม็กขนาด 18 นิ้วและยางขนาด 225/55R18 98H
มิติตัวถัง ความยาว 5,335 มม. กว้าง 1,930 มม. สูง 1,505 มม. ระยะฐานล้อ 3,090 มม.
ออกแบบภายใต้หลักการ “Monozukuri” (“โมโนซุคุริ”) คือการออกแบบอย่างสร้างสรรค์ และประณีต ตามสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิม
ห้องโดยสารภายในยังหรูหรา มีพื้นที่ภายในที่กว้างกว่าเดิม คอนโซลหน้าตกแต่งด้วยลายไม้ชั้นดี เบาะนั่งภายในเลือกได้ 2 แบบ คือ เบาะผ้ากำมะหยี่สีเทาอ่อนคุณภาพสูง ทำจากขนสัตว์ 100% และยังมีเบาะหนังแท้ให้เลือก
ในส่วนของเบาะที่นั่งด้านหลังมีเพียง 2 ที่นั่ง มาพร้อมระบบอุ่นและนวดตัว มีระบบความบันเทิงด้วยหน้าจอขนาด 16 นิ้ว พร้อมระบบควบคุมผ่านจอ LCD ขนาด 7 นิ้ว รองรับระบบ T-Connect ตรงกลางคอนโซลหลัง สามารถควบคุมเครื่องปรับอากาศและที่นั่งได้ทุกที่นั่ง
เบาะหลังยังปรับได้ด้วยไฟฟ้า มีระบบนวด และม่านไฟฟ้า พร้อมโต๊ะเขียนหนังสือและไฟส่องแบบ LED กับระบบเครื่องเสียงพรีเมี่ยมพร้อมลำโพงอีก 20 ตัว และฝากระโปรงท้าย สามารถบรรทุกสัมภาระได้มากถึง 484 ลิตร (ตามการวัดของ VDA)
สำหรับเครื่องยนต์ถูกแทนที่ด้วยขุมพลังใหม่แบบ Hybrid ขนาด 5.0 ลิตร รหัส 2UR-FSE แบบ V8 DOHC 32 วาล์ว D4-S ที่ยกมาจาก Lexus LS600h โฉมที่แล้ว ให้แรงม้าสูงสุด 381 แรงม้า ที่ 6,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 510 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที พ่วงด้วยระบบไฮบริด Toyota Hybrid System II มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว 224 แรงม้า รวมแรงม้าสูงสุดถึง 431 แรงม้า อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงอยู่ที่ 13.6 กม./ลิตร
ระบบความปลอดภัย นอกจากโครงสร้างนิรภัยและระบบเก็บเสียงรบกวนจากภายนอก ก็มีการติดตั้งชุดระบบ “Toyota Safety Sense P” ประกอบด้วย ระบบป้องกันการชนด้านหน้า, ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลนโดยไม่ตั้งใจ, ระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผันอัตโนมัติ, ระบบไฟสูงอัตโนมัติ, ระบบเตือนมุมอับสายตา และระบบ HelpNet ที่โทรออกฉุกเฉินเพื่อรับการช่วยเหลือได้ ในกรณีถุงลมนิรภัยทำงาน เป็นต้น
มาพร้อมกับราคา 19,600,000 เยน (ประมาณ 5.8 ล้านบาท) พร้อมกับตั้งยอดขายไว้ที่ 50 คัน/เดือน จับกลุ่มลูกค้าผู้บริหารระดับสูง อายุ 50 ปีขึ้นไป
แม้ว่ารุ่นนี้จะทำตลาดเฉพาะในญี่ปุ่นเท่านั้น สำหรับในบ้านเรา คาดว่ามีนำเข้ามาโดย โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย นำเข้าตาม Order เฉกเช่นในอดีต ที่นำเข้ามาตามการสั่งของบริษัทญี่ปุ่นใหญ่ๆ ในไทย หรือสถานฑูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย เพื่อไว้ให้รองรับกับผู้บริหารระดับสูง ที่นิยมรถสไตล์อนุรักษ์นิยมแบบญี่ปุ่นแท้ๆ ที่มาทำงานในไทยครับ