10 เขื่อนสวย วิวดี ขับรถเที่ยวได้

“เขื่อน” หรือในภาษาอังกฤษเรียกว่า “Dam” จุดประสงค์คือการสร้างที่ปิดกั้นลำน้ำธรรมชาติ ระหว่างหุบเขา หรือเนินสูง เพื่อกั้นน้ำนอกจากใช้เป็นแหล่งน้ำในหน้าแล้ง เก็บน้ำในฤดูฝน โดยยังใช้เอามาโครงการชลประทาน ผลิตไฟฟ้าก็ได้ บางพื้นที่เรียกว่าอ่างเก็บน้ำก็มี

เขื่อนในประเทศไทย นอกจากจะถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นประโยชน์แก่พื้นที่นั้นๆ ยังนำมาทำเป็นสถานที่ท่องเที่ยวประจำจังหวัดได้ด้วย หรือพักผ่อนหย่อนใจ ให้คนมาเที่ยว ถ่ายรูปสวยๆ อีกด้วย

มาดูกันว่า 10 เขื่อนในประเทศไทย จะมีเขื่อนไหนที่น่าขับรถไปเที่ยว ไปทำกิจกรรมสนุกๆ กันบ้าง …

10 เขื่อนสวยในไทย ขับรถไปเที่ยวได้

ภาพจาก Thailand Tourism Directory

1. อ่างเก็บน้ำกะทูน (เขื่อนกะทูน) จังหวัดนครศรีธรรมราช

อ่างเก็บน้ำกะทูน อยู่ใน ต.กะทูน อ.พิปูน จ.นครศรีธรรมราช ได้รับการขนานนามว่า เป็นสวิสเซอร์แลนด์แดนใต้ เพราะมีทิวทัศน์ของทะเลสาบและขุนเขาที่สวยงาม เป็นฉากหลังนั่นเองครับ

CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check รับประกันพร้อมโอนทุกคัน

หนึ่งในโครงการพระราชดำริของรัชกาลที่ 9 ที่พระองค์ทรงเล็งเห็นถึงความทุกข์ยากของชาวบ้าน ซึ่งประสบเหตุการณ์อุทกภัยเมื่อปี 2531 จึงทรงมีพระราชดำริให้กรมชลประทานสร้างอ่างเก็บน้ำขึ้น จนแล้วเสร็จในปี 2540 ครอบคลุมพื้นที่ 12,500 ไร่ นับว่าเป็นอ่างเก็บน้ำที่มีขนาดใหญ่มาก และใต้อ่างเก็บน้ำในอดีตก็คือหมู่บ้านกะทูนในอดีตนั่นเอง

สำหรับกิจกรรมยอดนิยมของนักท่องเที่ยว คือ การได้มาชมวิวทะเลสาบเหนืออ่างเก็บน้ำแห่งนี้ มีฉากหลังเป็นขุนเขาที่สวยงาม พร้อมกับอิ่มอร่อยไปกับร้านอาหารที่ตั้งอยู่เรียงรายบริเวณริมอ่างเก็บน้ำ ตามถนนเส้นคลองกะทูนใต้ หรือจะล่องเรือชมภูมิทัศน์และรับฟังประวัติชุมชนก็ได้

โดยเฉพาะในระหว่างเดือนธันวาคม-เมษายน ถือเป็นช่วงที่สวยที่สุด เพราะนอกจากชมทะเลหมอกยามเช้า ยังจะได้ชื่นชมกับนกนางนวลแกลบ ที่อพยพมาอยู่ที่นี่เป็นจำนวนมาก และเดินป่าท่องไพรไปชมน้ำตกหนานน้ำฟุ้ง ซึ่งว่ากันว่ามีความงดงามมาก

ระยะทางจากกรุงเทพฯ (สุขุมวิท-อโศก) ไปอ่างเก็บน้ำกะทูน : ประมาณ 710 กิโลเมตร

10 เขื่อนสวยในไทย ขับรถได้ - เขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก

ภาพจาก การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย

2. เขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก

เขื่อนภูมิพล หรือในอดีตมีชื่อว่า เขื่อนยันฮี (ตามชื่อหุบเขาย่านรี แต่เรียกไปเรียกมา กลายเป็นยันฮีซะงั้น) อยู่ที่ อ.สามเงา จ.ตาก เป็นเขื่อนเอนกประสงค์แห่งแรกในไทย สร้างเป็นเขื่อนคอนกรีตรูปโค้งขนาดใหญ่ที่สูงที่สุดในไทย และเอเชียอาคเนย์ จัดอยู่ในอันดับ 8 ของโลก มีความสูงจากฐานถึงสันเขื่อน 154 เมตร ความกว้างของสันเขื่อน 6 เมตร อ่างเก็บน้ำมีความจุสูงสุด 13,462 ล้าน ลบ.ม.

ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 รัฐบาลในขณะนั้นมีแนวคิดจะสร้างโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าพลังน้ำ จึงจัดตั้ง “คณะกรรมการพิจารณาสร้างโรงไฟฟ้าทั่วราชอาณาจักร” เพื่อสำรวจพื้นที่สร้างโรงไฟฟ้าทั่วประเทศ พบว่าในลำน้ำปิง บริเวณหุบเขาย่านรีหรือยันฮี มีความเหมาะสมต่อการสร้างเขื่อนเป็นอย่างยิ่ง

จึงนำมาสู่การสำรวจ “เขื่อนยันฮี” ในปี พ.ศ. 2496 เริ่มสร้างในปี พ.ศ. 2500 – 2507 และในปีเดียวกันนี้เอง ก็มีการตั้ง “การไฟฟ้ายันฮี” (กฟย.) เพื่อรับผิดชอบการสร้างเขื่อน และผลิตไฟฟ้าให้กับภาคกลางและภาคเหนือ แล้วเสร็จทำพิธีเปิดเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2507

รัชกาลที่ 9 ได้พระราชทานพระปรมาภิไธยให้ชื่อเขื่อนว่า เขื่อนภูมิพล เมื่อ 25 กรกฎาคม 2500 ซึ่งเขื่อนภูมิพลแห่งนี้ นอกเหนือจากการผลิตกระแสไฟฟ้าแล้ว ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดตากอีกด้วย

ระยะทางจากกรุงเทพฯ (สุขุมวิท-อโศก) ไปเขื่อนภูมิพล : ประมาณ 480 กิโลเมตร

10 เขื่อนสวยในไทย ขับรถไปเที่ยวได้ - เขื่อนขุนด่านปราการชล จังหวัดนครนายก

ภาพจาก เขื่อนขุนด่านปราการชล – Khun Dan Prakarnchon Dam

3. เขื่อนขุนด่านปราการชล จังหวัดนครนายก

เขื่อนขุนด่านปราการชล เดิมชื่อ เขื่อนคลองท่าด่าน ตั้งอยู่ที่บ้านท่าด่าน ต.หินตั้ง อ.เมืองนครนายก เป็นเขื่อนคอนกรีตอัดบดยาวที่สุดในโลก ก่อสร้างระหว่างปี 2540 – 2546 มีความยาวรวม 2,720 เมตร ความสูงจุดสูงสุด 93 เมตร ความจุน้ำมากถึง 224 ล้าน ลบ.ม.

เขื่อนขุนด่านปราการชลนี้ เป็นเขื่อนซึ่งรองรับน้ำมาจากด้านบนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ทางน้ำตกเหวนรก ก่อนเก็บกักและผันระบายลงสู่แม่น้ำนครนายก โดยอดีตก่อนจะสร้างเขื่อนขนาดใหญ่ มีเขื่อนเดิมขนาดเล็กที่ชื่อเขื่อนคลองท่าด่าน แต่ไม่สามารถหยุดยั้งปัญหาน้ำท่วมได้ กระทั่งมีการสร้างเขื่อนใหม่ทับของเก่า กลายเป็นเขื่อนขุนด่านปราการชลนี่เอง

การมาเที่ยวประกอบด้วยสองจุดใหญ่ อย่างแรกคือการชมวิวบนสันเขื่อน ซึ่งให้ภาพอ่างเก็บน้ำมุมสูงที่โอบล้อมด้วยภูเขาสวยงาม ขณะที่ฝั่งมองกลับไปยังตัวเมือง ก็เป็นภาพพาโนรามาสุดอลังการ ยามพระอาทิตย์ตกยิ่งสวยงามมาก ถนนเส้นขึ้นสันเขื่อนยังเป็นที่นิยมของการปั่นจักรยานกันอีกต่างหาก

อย่างต่อมาคือการเที่ยวเล่นน้ำด้านล่างของเขื่อน โดยนอกจากจะทำการระบายน้ำตามฤดูกาล ในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ หรือเทศกาลต่างๆ จะมีการผันน้ำเพื่อให้ประชาชนได้เล่นกันอย่างสนุกสนานด้วย มีการจัดทำที่จอดรถ ซุ้มเพิงพักผ่อนหย่อนใจ ไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวและครอบครัวที่มาเที่ยวพักผ่อน

ระยะทางจากกรุงเทพฯ (สุขุมวิท-อโศก) ไปเขื่อนขุนด่านปราการชล : ประมาณ 125 กิโลเมตร

10 เขื่อนสวยในไทย ขับรถไปเที่ยวได้ - เขื่อนศรีนครินทร์ จังหวัดกาญจนบุรี

ภาพจาก การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย

4. เขื่อนศรีนครินทร์ จังหวัดกาญจนบุรี

เขื่อนศรีนครินทร์ เป็นเขื่อนอเนกประสงค์แห่งแรกของโครงการพัฒนาลุ่มน้ำแม่กลอง สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 2516 – 2523 บนแม่น้ำแควใหญ่ บริเวณบ้านเจ้าเณร ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี นับเป็นเขื่อนแห่งที่ 8 ในจำนวน 17 แห่ง ที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) สร้างขึ้นเพื่ออำนวยประโยชน์ทางด้านต่างๆ ตลอดจนพัฒนาชีวิต ความเป็นอยู่ของราษฎร และส่งเสริมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงาม

เป็นเขื่อนประเภทหินถมแกนดินเหนียวที่ใหญ่ที่สุดในไทย มีความสูงจากฐานราก 140 เมตร สันเขื่อนยาว 610 เมตร กว้าง 15 เมตร พื้นที่อ่างเก็บน้ำ 419 ตร.กม. มีความจุมากเป็นอันดับหนึ่งคือ 17,745 ล้าน ลบ.ม.

เขื่อนศรีนครินทร์ นับเป็นแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี ให้ทั้งความรู้และความเพลิดเพลินแก่ผู้มาเที่ยวชม ก่อให้เกิดการท่องเที่ยวรอบๆ เขื่อน ไปด้วยอย่างกว้างขวาง เช่น แพท่องเที่ยวในอ่างเก็บน้ำ สวนเวลารำลึก สะพานข้ามแม่น้ำแคว น้ำตกเอราวัณ ถ้ำพระธาตุ หรือน้ำตกศรีนครินทร์ (น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น) เป็นต้น

ระยะทางจากกรุงเทพฯ (สุขุมวิท-อโศก) ไปเขื่อนศรีนครินทร์ : ประมาณ 205 กิโลเมตร

10 เขื่อนสวยในไทย ขับรถไปเที่ยวได้ - เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี

ภาพจาก กรมประชาสัมพันธ์

5. เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี

เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เป็นโครงการตามพระราชดำริของ รัชกาลที่ 9 นับเป็นเขื่อนดินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ตั้งอยู่ที่ บ้านหนองบัว ต.หนองบัว อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี และบ้านคำพราน ต.คำพราน อ.วังม่วง จ.สระบุรี ใช้เวลาตั้งแต่ 2 ธันวาคม 2537 ถึง 30 กันยายน 2542 มีความจุน้ำ 756 ล้าน ลบ.ม.

โดยรัชกาลที่ 9 พระราชทานนามว่า “เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์” และเสด็จทรงเปิดเขื่อนฯ เมื่อ 25 พฤศจิกายน 2542 นอกจากจะแก้ปัญหาน้ำท่วมในบริเวณลุ่มแม่น้ำป่าสักในฤดูน้ำหลาก และน้ำแล้งในช่วงฤดูร้อน ซึ่งสามารถแก้ปัญหาได้ทั้งบริเวณลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่าง และบริเวณกรุงเทพมหานคร และปริมณฑลอีกด้วย

เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จะทำการกักเก็บน้ำแล้ว ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของลพบุรี ซึ่งทางด้านสถานที่ท่องเที่ยวในบริเวณเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีตั้งแต่จุดนั่งชมวิวริมอ่างเก็บน้ำ หอคอยเฉลิมพระเกียรติ สันเขื่อน หรือพระพุทธรัตนมณีมหาบพิตรชลสิทธิ์มงคลชัย (หลวงปู่ใหญ่ป่าสัก) อยู่บริเวณท้ายเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์

และที่หยุดรถไฟเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เป็นที่หยุดรถไฟของการรถไฟแห่งประเทศไทย ตั้งอยู่บริเวณทางเข้าเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี อยู่ในเขตทางรถไฟสายตะวันออกเฉียงเหนือ โดยที่หยุดรถนี้จะมีรถไฟสายพิเศษเพื่อการท่องเที่ยว คือ กรุงเทพ – เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ให้บริการช่วงเทศกาลท่องเที่ยว ระหว่างเดือนพฤศจิกายน – มกราคม ทุกปี

ระยะทางจากกรุงเทพฯ (สุขุมวิท-อโศก) ไปเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ : ประมาณ 160 กิโลเมตร

10 เขื่อนสวยในไทย ขับรถไปเที่ยวได้ - เขื่อนพระรามหก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ภาพจาก สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

6. เขื่อนพระรามหก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

เขื่อนพระราม 6 ตั้งอยู่ที่หมู่ 10 ต.ท่าหลวง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นเขื่อนทดน้ำแห่งแรกของสยาม ใช้กั้นแม่น้ำป่าสักเพื่อเก็บน้ำไว้ใช้ในการเกษตร สร้างขึ้นสมัยรัชกาลที่ 6 ในปี 2467 เดิมชื่อ เขื่อนพระเฑียรฆราชา ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็นเขื่อนพระราม 6 ปัจจุบันอยู่ในความดูแลของกรมชลประทาน นับว่าถูกใจคนชอบแหล่งท่องเที่ยวแนวย้อนยุคใกล้ๆ กรุง

ลักษณะของเขื่อนเป็นบานเหล็กจำนวน 5 ช่องทำหน้าที่เป็นประตูระบายน้ำขนาดใหญ่ สามารถส่งน้ำให้พื้นที่เพาะปลูกกว่า 680,000 ไร่ นักท่องเที่ยวสามารถพักผ่อนหย่อนใจ สูดอากาศบริสุทธิ์ริมเขื่อนอันเงียบสงบ และยังเป็นสถานที่เหมาะถ่ายภาพพระอาทิตย์ตกดินเช่นเดียวกัน

นอกจากนี้บริเวณริมเขื่อน มีศูนย์จำหน่ายสินค้า OTOP ให้นักท่องเที่ยวได้แวะซื้อกลับไปเป็นของฝาก เช่น ผลิตภัณฑ์จากมะพร้าว ดอกไม้ประดิษฐ์จากกระดาษสา เป็นต้น แลอยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ของพระนครศรีอยุธยา เช่น วัดสะตือ และวัดไก่แจ้ เป็นต้น จึงเป็นแหล่งแวะพักผ่อนที่ดีก่อนออกเดินทางต่อ

ระยะทางจากกรุงเทพฯ (สุขุมวิท-อโศก) ไปเขื่อนพระรามหก : ประมาณ 111 กิโลเมตร

10 เขื่อนสวยในไทย ขับรถไปเที่ยวได้ - เขื่อนแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี

ภาพจาก การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย

7. เขื่อนแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี

เขื่อนแก่งกระจาน เป็นเขื่อนดินแห่งแรกของไทย ตัวเขื่อนเริ่มการก่อสร้างในปี 2504 – 2509 โดยรัชกาลที่ 9 ได้เสด็จพระราชดำเนินมาทรงเปิดเขื่อนเมื่อ 22 พฤษภาคม 2509 ซึ่งเป็นเขื่อนดินสูง 58 เมตร สันเขื่อนยาว 760 เมตร กว้าง 8 เมตร ระดับสันเขื่อน +106 เมตร รทก.

นอกจากนี้ยังมีเขื่อนดินปิดเขาต่ำทางขวางเขื่อนอีก 2 แห่ง คือ แห่งแรกสูง 36 เมตร สันเขื่อนยาว 305 เมตร แห่งที่ 2 สูง 24 เมตร สันเขื่อนยาว 255 เมตร อ่างเก็บน้ำมีพื้นที่ 46.5 ตร.กม. ความจุ 710 ล้านลบ.ม. เพื่อไว้ใช้ในการผลิตไฟฟ้า และชลประทานบริเวณที่ราบ จ.เพชรบุรี และจังหวัดใกล้เคียง รวมทั้งยังให้ประโยชน์ด้านการประมง การคมนาคมทางน้ำ และการพักผ่อนหย่อนใจ

นอกจากนี้ ยังอยู่ใกล้กับ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ห่างจากที่ว่าการอำเภอแก่งกระจานประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีพื้นที่มากที่สุดในไทย มีสภาพป่าที่อุดมสมบูรณ์ เป็นป่าต้นน้ำของแม่น้ำเพชรบุรีและแม่น้ำปราณบุรี และมีลักษณะเด่นทางธรรมชาติที่สำคัญหลายแห่ง เช่น ทะเลสาบ น้ำตก ถ้ำ หน้าผาที่สวยงาม ส่วนใหญ่จะเป็นที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เช่น นั่งเรือชมทิวทัศน์รอบอ่างเก็บน้ำเขื่อนแก่งกระจาน กางเต็นท์พักแรมริมอ่างเก็บน้ำ พายเรือคายักเที่ยวเล่นชมวิว เดินข้ามสะพานแขวนไปชมเกาะกลางน้ำ ชมอุทยานวังมัจฉา น้ำตกทอทิพย์ ทะเลหมอก ดูนก ผีเสื้อ เป็นต้น

ระยะทางจากกรุงเทพฯ (สุขุมวิท-อโศก) ไปเขื่อนแก่งกระจาน : ประมาณ 170 กิโลเมตร

10 เขื่อนสวยในไทย ขับรถไปเที่ยวได้ - เขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์

ภาพจาก การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย

8. เขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์

เขื่อนสิริกิติ์ เป็นเขื่อนดินที่ใหญ่ที่สุดในไทยก่อสร้างขึ้น ตามโครงการพัฒนาลุ่มน้ำน่าน เดิมชื่อ “เขื่อนผาซ่อม” เริ่มสร้างตั้งแต่ปี 2506 – 2515 ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น “เขื่อนสิริกิติ์” เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2511 ก่อสร้างขึ้น ปิดกั้นแม่น้ำน่าน ณ บริเวณเขาผาซ่อม ต.ผาเลือด อ.ท่าปลา จ.อุตรดิตถ์ อยู่ห่างจากตัวเมืองอุตรดิตถ์ไปทางทิศตะวันออกประมาณ 58 กิโลเมตร

เป็นเขื่อนดินมีแกนเป็นดินเหนียว สูงจากท้องน้ำ 113.60 เมตร สันเขื่อนอยู่สูงกว่าน้ำทะเลปานกลาง 169 เมตร กว้าง 12 เมตร โดยมีฐานตอนกว้างสุด 630 เมตร การก่อสร้างเขื่อนสิริกิติ์ ทำให้เกิดอ่างเก็บขนาดใหญ่ เหนือเขื่อนมีเนื้อที่ 260 ตร.กม. กักน้ำได้ 9,510 ล้าน ลบ.ม.

เขื่อนสิริกิติ์ จัดเป็นเขื่อนอเนกประสงค์ ประโยชน์ที่ได้จากเขื่อนนี้มีอย่าง คือ การชลประทาน การบรรเทาอุทกภัย การผลิตกระแสไฟฟ้า การประมง การคมนาคมทางน้ำ และมีทิวทัศน์ที่สวยงามโดยเฉพาะในฤดูหนาว ความเงียบสงบของบรรยากาศ ประกอบกับพืชพันธุ์ไม้ที่งามสะพรั่ง มีทั้งสระบัว ลานประติมากรรม ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของสวน ชื่อ “ประติมากรรมสู่แสงสว่าง” ลานอเนกประสงค์ และลานสุขภาพ

ระยะทางจากกรุงเทพฯ (สุขุมวิท-อโศก) ไปเขื่อนแก่งกระจาน : ประมาณ 520 กิโลเมตร

10 เขื่อนสวยในไทย ขับรถไปเที่ยวได้ - เขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น

ภาพจาก การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย

9. เขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น

เขื่อนอุบลรัตน์ ตั้งอยู่ ต.เขื่อนอุบลรัตน์ อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น เป็นเขื่อนหินทิ้งแกนดินเหนียว เป็นเขื่อนอเนกประสงค์แห่งที่สองของไทย ซึ่งสร้างขึ้นถัดจากเขื่อนภูมิพล

เป็นเขื่อนผลิตไฟฟ้าพลังน้ำแห่งแรกในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สร้างปิดกั้นแม่น้ำพอง ตรงบริเวณที่เรียกว่า “พองหนีบ” ต.โคกสูง อ.น้ำพอง (ปัจจุบันเป็น อ.อุบลรัตน์) จ.ขอนแก่น โดยเริ่มก่อสร้างเมื่อปี 2507 – 2509

โดยในตัวของเขื่อนอุบลรัตน์เอง กลายเป็นทะเลสาบกว้างใหญ่ที่โอบล้อมด้วยขุนเขา ได้ชื่อว่าเป็นชายหาดบางแสนสอง ทำให้เกิดแพขายอาหารและแพท่องเที่ยว พร้อมทั้งบริการเรือลากกล้วย หรือ บาบาน่าโบ๊ต มีผู้นิยมมาใช้บริการเป็นจำนวนมาก และยังมี่เดินชมสวนไม้ในวรรณคดี สวนประติมากรรมไดโนเสาร์ รวมถึงสนามกอล์ฟขนาด 18 หลุม อีกด้วย

ระยะทางจากกรุงเทพฯ (สุขุมวิท-อโศก) ไปเขื่อนอุบลรัตน์ : ประมาณ 500 กิโลเมตร

10 เขื่อนสวยในไทย ขับรถไปเที่ยวได้ - เขื่อนรัชชประภา จังหวัดสุราษฏร์ธานี

ภาพจาก การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย

10. เขื่อนรัชชประภา จังหวัดสุราษฏร์ธานี

เขื่อนรัชชประภา เดิมเรียกว่า เขื่อนเชี่ยวหลาน เป็นเขื่อนอเนกประสงค์แห่งที่สองของภาคใต้ ที่คนไทยมักเรียกกันว่า กุ้ยหลินเมืองไทย สร้างปิดกั้นลำน้ำคลองแสง ที่บ้านเชี่ยวหลาน ต.เขาพัง อ.บ้านตาขุน จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อก่อสร้างเสร็จ รัชกาลที่ 9 พระราชทานนามใหม่ว่า “เขื่อนรัชชประภา” แปลว่า “Light of the Kingdom”

เป็นเขื่อนหินถมแกนดินเหนียว สูง 94 เมตร ความยาวสันเขื่อน 761 เมตร และมีเขื่อนปิดกั้นช่องเขาขาดอีก 5 แห่ง มีความจุ 5,639 ล้าน ลบ.ม. พื้นที่อ่างเก็บน้ำ 185 ตร.กม. ปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเฉลี่ยปีละ 3,057 ล้าน ลบ.ม. และยังมีโรงไฟฟ้าตั้งอยู่บนฝั่งขวาของแม่น้ำ

เขื่อนแห่งนี้สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อส่งมายังชุมชนต่างๆ และที่สำคัญเขื่อนรัชชประภาแห่งนี้ ติดอันดับสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิต ทัศนียภาพโดยรอบบริเวณเขื่อนและอ่างเก็บน้ำ สวยสดงดงาม สงบร่มรื่น ภายในอ่างเก็บน้ำมีแพที่พักของอุทยานแห่งชาติเขาสก และแพเอกชนอีกหลายแห่ง ซึ่งคุณสามารถเข้าไปนอนแพได้ด้วย

คุณสามารถเช่าเรือหางยาวล่องชมความงามของเทือกเขาหินปูนเหนืออ่างเก็บน้ำ หรือเดินป่าเที่ยวถ้ำน้ำทะลุได้ จุดชมวิวสันเขื่อน มีพระพุทธสิริสัตตราช (หลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์) ให้สักการะด้วย

ระยะทางจากกรุงเทพฯ (สุขุมวิท-อโศก) ไปเขื่อนรัชชประภา : ประมาณ 690 กิโลเมตร

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์มาใช้ในช่วงนี้ มาขายรถกับทาง Carro Express สิ! คลิกเลยที่ https://th.carro.co/sell-car/express รับรองได้เงินเร็ว ไว ทันใจแน่นอน!

CARRO Automall

ส่วนใครสนใจจะซื้อรถมือสอง Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carrothai

แหล่งที่มาบางส่วนจาก:

  • การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
  • การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
  • Wikipedia