10-Secondhand-SUV-MPV-In-Price-500000-Baht

ตลาดรถป้ายแดง หรือรถมือสองในบ้านเราตอนนี้ ถ้าจะพูดรถที่ได้รับความนิยมมากๆ จากผู้ใช้รถ คงต้องยกให้ รถ “SUV” และ “MPV” ที่ใช้งานได้สารพัดรูปแบบ นั่งได้หลายคน รับกับไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ ลุยน้ำได้ ผู้สูงวัยนั่งด้านหลังได้สบายๆ หรือจะขนสัมภาระมากๆ ก็ได้

แต่ถ้าคุณมีงบประมาณซื้อจำกัดล่ะ? สมมติว่า งบคุณมีอยู่ 5 แสนบาท จะตัดสินใจเลือกรุ่นไหนที่คุณคิดว่าโดนใจ และซื้อมาใช้ น่าจะคุ้มค่าลงตัวที่สุด รวมถึงกันเงินส่วนหนึ่ง ใช้ซ่อมแซมตัวรถด้วย

CARRO ขอรวบรวมข้อมูลรถ 7 ที่นั่ง มือสอง 10 รุ่น มีทั้งแบบ SUV และ MPV ในงบไม่เกิน “5 แสนบาท” ว่าจะมีรุ่นไหนน่าสนใจบ้าง ไปอ่านได้เลยครับ.

Toyota-Wish-2005

1. Toyota Wish

ราคามือสอง (ปี 2563) : 180,000 – 300,000 บาท

Toyota Wish (โตโยต้า วิช) เป็นรุ่นแรก และรุ่นเดียวที่ขายในไทย ถือเป็นรถ MPV ขนาด 6-7 ที่นั่งที่ขายดีมากในช่วงเปิดตัว ตัวรถดีไซน์ออกไปในทางสปอร์ต ภายในโทนสีดำดูหรูหรา ช่วงล่างแน่นหนึบแบบสปอร์ต แต่ข้อเสียก็อาจจะมีตรงที่ไม่มีแอร์ที่นั่งแถวที่ 3 และช่วงล่างที่กระด้างไปหน่อย

CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check รับประกันพร้อมโอนทุกคัน

Toyota Wish มีจุดเด่นตรงที่ใช้เครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร รหัส 1AZ-FE แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว VVT-i แบบเดียวกับในรุ่น Camry ให้แรงม้าสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 19.6 กก.-ม. (192 นิวตัน-เมตร) ที่ 4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด Super ECT + Sport Sequential

Toyota-Innova-2009

2. Toyota Innova

ราคามือสอง (ปี 2563) : 200,000 – 500,000 บาท

Toyota Innova (โตโยต้า อินโนวา) เป็นรถ MPV แบบ 7 และ 8 ที่นั่ง ที่ได้รับความนิยมในตลาดพอสมควร มีข้อดีคือใช้โครงสร้างพื้นฐานเดียวกับกระบะ Hilux Vigo ใช้อะไหล่เครื่องยนต์ และอะไหล่ตัวรถบางชิ้นร่วมกันได้ ห้องโดยสารกว้างขวางนั่งสบาย เหมาะสำหรับคนที่มีครอบครัว มีลูก 2-3 คน และเบาะแถวสามมีช่องแอร์มาให้ ส่วนข้อเสียคือ ถ้านั่งกันมากๆ รุ่นเครื่องยนต์เบนซินจะกินน้ำมันมากหน่อย และค่อนข้างอืด (แต่ไปติดแก๊ส LPG ได้)

มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตร รหัส 1TR-FE แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว VVT-i ให้แรงม้าสูงสุด 136 แรงม้า ที่ 5,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 18.6 กก.-ม. (182 นิวตัน-เมตร) ที่ 4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด

และเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.5 ลิตร รหัส 2KD-FTV แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว D4-D Turbo ให้แรงม้าสูงสุด 102 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 26.5 กก.-ม. (260 นิวตัน-เมตร) ที่ 1,600-2,400 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด

Toyota-Fortuner-2008

3. Toyota Fortuner

ราคามือสอง (ปี 2563) : 320,000 – 500,000 บาท +

Toyota Fortuner (โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์) ถือเป็นรถมือสองราคาขายต่อดีสุดรุ่นหนึ่งสำหรับรถประเภทนี้ เครื่องยนต์ดีเซลแรงดี เบาะนั่งแถวที่ 3 นั่งสบาย ผู้ใหญ่นั่งได้ อะไหล่หาง่าย ศูนย์บริการมีเยอะ ถ้าอยากได้รุ่นนี้ ในงบไม่เกิน 5 แสนบาท +- อาจจะได้รถที่ปีเก่าหน่อย สภาพอาจจะมีช้ำบ้าง

โฉมแรก มีให้เลือก 3 รุ่น คือดีเซล 1KD-FTV เกียร์ธรรมดา / เกียร์ออโต้ และ เบนซิน 2.7 ลิตร รหัส 2TR-FE เกียร์ออโต้ ช่วงประมาณปี 2555 ได้เปลี่ยนเกียร์อัตโนมัติลูกใหม่ เฉพาะรุ่นดีเซลเปลี่ยนจากเดิม 4 สปีด เป็น 5 สปีด

Fortuner มีเครื่องยนต์ให้เลือก ดังนี้ ….. ดีเซลขนาด 3.0 ลิตร รหัส 1KD-FTV แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว VN Turbo Intercooler Commonrail ให้แรงม้าสูงสุด 163 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 343 นิวตัน-เมตร ที่ 1,400 – 3,200 รอบ/นาที (รุ่นปี 2554 ปรับแรงม้าขึ้นเป็น 171 แรงม้า)

ดีเซลขนาด 2.5 ลิตร รหัส 2KD-FTV แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว VN Turbo Intercooler Commonrail ให้แรงม้าสูงสุด 144 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 343 นิวตัน-เมตร ที่ 3,800 รอบ/นาที (มาในปลายปี 2552) (รุ่นปี 2554 ขยับแรงบิดขึ้นเป็น 1,600 – 2,800 รอบ/นาที)

และเบนซินขนาด 2.7 ลิตร รหัส 2TR-FE แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว VVT-i ให้แรงม้าสูงสุด 160 แรงม้า ที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 241 นิวตัน-เมตร ที่ 3,800 รอบ/นาที

Honda-Mobilio-2014

4. Honda Mobilio

ราคามือสอง (ปี 2563) : 350,000 – 500,000 บาท +

Honda Mobilio (ฮอนด้า โมบิลิโอ) รถแบบ Sub-Compact SUV ที่พัฒนาจากพื้นฐานของ Brio ยืดระยะฐานล้อให้ยาวขึ้น จัดเป็นรถอเนกประสงค์ของ Honda รุ่นแรก ที่ผลิตในประเทศไทย และเปิดตัวในปี 2557 ชูจุดเด่นห้องโดยสารกว้างสะดวกสบาย กับเบาะนั่ง 3 แถว 7 ที่นั่ง แต่บางคนก็อาจจะไม่ชอบรูปทรง ไม่ชอบแผงคอนโซลภายใน ดูแล้วเหมาะกับคนวัย 30+ ซื้อมาใช้มากกว่า ก็ว่ากันไป …

มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร จากในรุ่น City และ Jazz แบบ SOHC 4 สูบ 16 วาล์ว i-VTEC พ่วงด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT ใหม่ ให้แรงม้าสูงสุด 120 แรงม้า ที่ 6,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 145 นิวตัน-เมตร ที่ 4,600 รอบ/นาที ให้สมรรถนะดี ประหยัดน้ำมัน และเครื่องยนต์ที่ให้แรงม้ามากที่สุดในกลุ่มด้วย

Honda-Freed-2009

5. Honda Freed

ราคามือสอง (ปี 2563) : 370,000 – 500,000 บาท +

Honda Freed (ฮอนด้า ฟรีด) เป็นรถแบบ Minivan MPV เกิดจากการที่ Honda ได้นำเข้า Honda Freed จากอินโดนีเซียเข้ามาลุยตลาดนี้ ในช่วงปลายปี 2552 มาพร้อมกับจุดเด่นที่ประตูด้านข้างแบบบานเลื่อน ซึ่งเหมาะมากๆ กับการให้เด็ก และผู้สูงอายุ ขึ้น-ลง จากรถ ภายในห้องโดยสารดูอบอุ่น ชุดคอนโซลแบบ Open Cafe แบบ 2 ชั้น กว้าง ใช้งานได้หลากหลาย จะวางอาหาร หรือเครื่องดื่มก็ได้ เบาะปรับได้อย่างอิสระ นั่งได้สบายๆ พร้อมแอร์แถวที่ 3 และที่วางสัมภาระท้ายพื้นเรียบแบบ Flat Floor

ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร แบบ 4 สูบ SOHC 16 วาล์ว i-VTEC ให้แรงม้าสูงสุด 118 แรงม้า ที่ 6,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 144 นิวตัน-เมตร ที่ 4,800 รอบ/นาที ซึ่งเป็นเครื่องยนต์เดียวกันกับ City และ Jazz แต่เครื่องยนต์ให้แรงบิดสูงกว่า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด

Mitsubishi-Space-Wagon-2011

6. Mitsubishi Space Wagon

ราคามือสอง (ปี 2563) : 230,000 – 350,000 บาท

Mitsubishi Space Wagon (มิตซูบิชิ สเปซแวกอน) เกิดมาในช่วงที่ตลาดรถ MPV บ้านเรากำลังคึกคัก ในช่วงปลายปี 2547 เป็น Mid-Size Minivan ที่ใหญ่กว่าคู่แข่ง ซึ่งก็ทำให้เบาะนั่งแถวที่ 3 นั่งสบายมากกว่าอีกด้วย และเครื่องยนต์ก็โตกว่าอีกด้วย แต่ข้อเสียก็อาจจะเป็นที่กินน้ำมันมาก

ใช้เครื่องยนต์ขนาด 2.4 ลิตร รหัส 4G69 แบบ 4 สูบ SOHC 16 วาล์ว MIVEC ให้แรงม้าสูงสุด 165 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 22.1 กก.-ม. (224 นิวตัน-เมตร) ที่ 4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด INVECS-II

Mitsubishi-Pajero-Sport-2011

7. Mitsubishi Pajero Sport

ราคามือสอง (ปี 2563) : 330,000 – 500,000 บาท +

Mitsubishi Pajero Sport (มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต) เป็นอีกหนึ่งรถ PPV ยอดนิยมอีกหนึ่งรุ่น แต่ถ้าพูดถึงในงบไม่เกิน 5 แสนบาท ก็จะได้รถปีเก่าๆ หน่อย (เพราะราคาเริ่มต้นก็อยู่ที่ประมาณ 4 แสนกลางๆ แล้ว) เปิดตัวมาในปี 2551 ด้วยรูปโฉมครึ่งหน้าที่ดูคล้ายกับ Triton มีจุดเด่นอยู่ที่ช่วงล่างแน่น เครื่องยนต์แรง ห้องโดยสารภายในกว้างขวาง

สำหรับเครื่องยนต์ มีให้เลือกทั้งแบบเบนซิน และดีเซล โดยแบบเบนซินขนาด 2.4 ลิตร รหัส 4G64 แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ให้แรงม้าสูงสุด 128 แรงม้า ที่ 5,250 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 194 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด

และแบบดีเซลขนาด 2.5 ลิตร รหัส 4D56 แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว VG Turbo Intercooler ให้แรงม้าสูงสุด 178 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800 – 3,500 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด

ส่วนรุ่นใหญ่อย่าง V6 ขนาด 3.0 ลิตร รหัส 6B31 แบบ V6 SOHC 24 วาล์ว ให้แรงม้าสูงสุด 219 แรงม้า ที่ 6,250 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 281 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด (เฉพาะรุ่น 2.4 ลิตร) และเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด Invecs-II

Isuzu-MU-7-2004

8. Isuzu MU-7

ราคามือสอง (ปี 2563) : 220,000 – 500,000 บาท

Isuzu MU-7 (อีซูซุ มิว-เซเว่น) รูปทรงภายนอก อาจจะดูเหมือน D-Max ซะมาก แต่ MU-7 ก็ขยันปรับโฉมกันแทบทุกปี ตั้งแต่รุ่น Gold Series, Platinum Series รวมไปถึงรุ่นพิเศษอย่างรุ่น Limited, Executive, Groove หรือ Choiz เป็นต้น

จุดเด่นอยู่ที่ห้องโดยสารกว้างขวาง เครื่องยนต์ทนทาน ประหยัด และศูนย์บริการดี แต่ข้อเสียก็มีตรงอะไหล่มือสองบางอย่าง ไม่แพร่หลายนัก เบาะแถว 3 ที่เด็กนั่งน่าจะเหมาะกว่า (ผู้ใหญ่นั่งแล้วเหมือนยกขา) กับคานค้ำหลังคากระจกหน้าด้านคนขับขวามือ เป็นมุมอับเวลาเลี้ยว เป็นต้น

ใช้เครื่องยนต์ I-TEQ 3000 Ddi ขนาด 3.0 ลิตร รหัส 4JJ1-TC แบบ 4 สูบ 16 วาล์ว Super Commonrail Turbo Intercooler ให้แรงม้าสูงสุด 146 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 294 นิวตัน-เมตร ที่ 1,400-3,400 รอบ/นาที

ต่อมา เปลี่ยนเครื่องยนต์เป็นขนาด 3.0 ลิตร รหัส 4 JJ1-TCX 3000 Ddi เทอร์โบแปรผัน VGS Turbo และอินเตอร์คูลเลอร์ใหญ่ขึ้น ให้แรงม้าสูงสุด 163 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิด 34.0 กก.-ม. (333 นิวตัน-เมตร) ที่ 1,600-3,200 รอบ/นาที

Suzuki-Ertiga-2013

9. Suzuki Ertiga

ราคามือสอง (ปี 2563) : 270,000 – 400,000 บาท

Suzuki Ertiga (ซูซูกิ เออร์ติกา) เปิดตัวในบ้านเราเมื่อเดือนมีนาคม 2556 เป็นรถอเนกประสงค์แบบ MPV 7 ที่นั่ง นำเข้ามาจากประเทศอินโดนีเซีย มาพร้อมความกว้างขวาง (แต่เบาะนั่งแถวที่ 3 ก็คงคล้ายกันในทุกยี่ห้อ คือแคบหน่อย) ตกแต่งภายในได้สมราคา ส่วนข้อเสียก็อาจจะเป็นตอนออกตัวค่อนข้างอืด เนื่องจากเครื่องยนต์ขนาดเล็ก กับศูนย์บริการในต่างจังหวัดที่ไม่มาก

มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.4 ลิตร รหัส K14B แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว VVT ให้แรงม้าสูงสุด 92 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 130 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และอัตโนมัติ 4 สปีด รองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20

Chevrolet-Captiva-2007

10. Chevrolet Captiva

ราคามือสอง (ปี 2563) : 190,000 – 500,000 บาท +

Chevrolet Captiva (เชฟโรเลต แคปติวา) นี่ก็จัดเป็นรถ Compact SUV 7 ที่นั่งในตลาดเพียงรุ่นเดียว ที่ขายมาอย่างยาวนานมาก … นับถึงวันนี้ในตลาดบ้านเราก็ 12 ปีละ ปรับปรุงหน้าตากันไปก็หลายครั้ง มีจุดเด่นที่ความนุ่มนวล ความหนึบของช่วงล่าง รวมไปถึงพลังเครื่องยนต์ (ดีเซล) ที่เหลือเฟือ แต่เบาะนั่งแถวที่ 3 อาจนั่งไม่สบายนัก

มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.0 ลิตร แบบ 4 สูบ SOHC 16 วาล์ว Turbo แบบแปรผัน ให้แรงม้าสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตร ที่ 2,000 รอบ/นาที

ส่วนเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.4 ลิตร แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว Flex Fuel รองรับเชื้อเพลิง E20 และ E85 ทั้ง ให้กำลังสูงสุด 136 แรงม้า ที่ 5,600 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 220 นิวตันเมตร ที่ 2,200 รอบ/นาที

ภายหลังรุ่นเบนซิน 2.4 ลิตร เปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่ เป็นแบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว Double CVC ให้กำลังสูงสุด 165 แรงม้า ที่ 6,400 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 23.0 กก.-ม. (225 นิวตันเมตร) ที่ 4,600 รอบ/นาที

ใครที่กำลังมองหารถ SUV และรถ MPV สภาพดีๆ ในราคาที่ไม่เกิน 5 แสนบาท ก็ลองเข้ามาเลือกดูกันได้ครับ …

ส่วนใครที่อยากขายรถ เพื่ออยากลองรถยนต์ไฟฟ้าคันใหม่มาใช้ดูบ้าง CARRO เรารับซื้อรถของคุณ สามารถเข้าไปเช็คราคา ตีราคาขายรถก่อนได้ โดยใส่ข้อมูลรถของคุณที่นี่เลย กับ CARRO Express > https://th.carro.co/sell-car/express หรือโทร. 02-508-8425

หรือใครจะ Inbox มาสอบถามก็ได้เช่นกัน ที่ Facebook CARRO Thailand หรือสะดวก Add Line ก็ที่ @carrothai หรือคลิกที่นี่ครับ —> เพิ่มเพื่อน