Toyota-Vellfire

ได้เวลาปรับโฉม เพิ่มเติมความสดใหม่ ทั้ง Alphard และ Vellfire

Toyota Alphard (โตโยต้า อัลพาร์ด) เป็นรถตู้ขนาดใหญ่และหรูหรา ซึ่งออกมาตั้งแต่ปี 2002 และได้รับความนิยมอย่างสูงทั้งในญี่ปุ่นและในไทย โฉมปัจจุบันเปิดตัวในปี 2015 เป็นเจนเนอเรชั่นที่ 3 ส่วน Toyota Vellfire (โตโยต้า เวลไฟร์) ออกแบบให้มีภาพลักษณ์สปอร์ตกว่า โดยจำหน่ายมาตั้งแต่ปี 2015 เช่นกัน ซึ่งก็ถึงเวลาปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ต้อนรับปี 2018 นี้ มีรูปลักษณ์แตกต่างจากเดิมพอสมควร

Alphard-Timeline Vellfire-Timeline

วิวัฒนาการ จากรุ่นสู่รุ่น

จาก Clip VDO แสดงให้เห็นถึง Alphard และ Vellfire ไมเนอร์เชนจ์ มีการเปลี่ยนแปลงทั้งชุดไฟหน้าแบบ LED ดีไซน์ใหม่ รับกับกระจังหน้าที่ใหญ่และหนาขึ้นกว่าเดิม กันชนหน้าใหม่ ชุดไฟท้ายใหม่ และกันชนท้ายที่ปรับรูปแบบจากเดิมนิดหน่อย ดูหรูหรามากยิ่งขึ้น

Toyota-Alphard Toyota-Alphard Toyota-Alphard

ห้องโดยสารภายในของรุ่น Alphard มีให้เลือกทั้งแบบ 7 ที่นั่ง และ 8 ที่นั่ง ติดตั้งเบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง Nappa, หลังคาซันรูฟคู่ เปิด-ปิดได้ทั้งด้านหน้าและหลัง, สามารถเลือกติดตั้งเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสได้ทั้งขนาด 7 นิ้ว, 9 นิ้ว และ 10.5 นิ้ว พร้อมออพชั่นต่างๆ อีกเพียบ

Toyota-Vellfire Toyota-Vellfire Toyota-Vellfire

ขุมพลัง มีให้เลือกทั้งเบนซินและไฮบริด 3 แบบ ประกอบด้วย

– เครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.5 ลิตร รหัส 2AR-FE ให้แรงม้าสูงสุด 182 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 235 นิวตัน-เมตร ที่ 4,100 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i

– เครื่องยนต์เบนซินขนาด 3.5 ลิตร รหัส 2GR-FKS ให้แรงม้าสูงสุด 301 แรงม้า ที่ 6,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 361 นิวตัน-เมตร ที่ 4,600-4,700 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ Direct Shift 8 สปีด

– เครื่องยนต์เบนซินไฮบริดขนาด 2.5 ลิตร รหัส 2AR-FXE ให้แรงม้าสูงสุด 152 แรงม้า ที่ 5,700 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 206 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400-4,800 รอบ/นาที ทำงานคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าด้านหน้า ให้แรงม้าสูงสุด 143 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 270 นิวตัน-เมตร และมอเตอร์ด้านหลัง ให้แรงม้าสูงสุด 68 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 139 นิวตัน-เมตร

Toyota-Alphard

ส่วน Alphard และ Vellfire เวอร์ชั่นไทย คาดว่าจะเปิดตัวในไทยต้นปีหน้านี้ครับ

Free-Car-Check-New-Year-2018

ขับขี่ปลอดภัย ด้วยการตรวจเช็ครถยนต์ ก่อนออกเดินทาง

ช่วงเวลาปีใหม่ของทุกๆ ปี เป็นช่วงที่มีผู้คนเดินทางบนท้องถนนกันสูงมาก และตัวเลขของอุบัติเหตุบนท้องถนนก็สูงมากตามไปด้วย (จนกลายเป็นที่ 1 ของโลกไปแล้วในตอนนี้) เพื่อความพร้อมในการเดินทาง ลดปัญหาจากอุบัติเหตุ หรือปัญหารถเสียกลางทาง ทำได้ง่ายๆ ด้วยการนำรถไปตรวจสภาพก่อนออกเดินทาง

CARRO ขอรวบรวมข้อมูลตรวจเช็ครถฟรี ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2561 ที่กำลังจะมาถึงนี้ เพื่อให้ท่านผู้อ่านเลือกนำรถไปตรวจเช็คได้ตามความสะดวกเลยครับผม.

Toyota

Toyota-Car-Check-12-2017

โตโยต้า ส่งความสุข สำหรับลูกค้าโตโยต้าที่นำรถเข้ามารับบริการที่ศูนย์บริการโตโยต้าทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้ – 31 ธ.ค. 60

Honda

Honda-Car-Check-12-2017

ฮอนด้า จัดแคมเปญ “ปีใหม่ปลอดภัย เช็คก่อนใช้ กับบริการจากฮอนด้า” ตรวจเช็คสภาพรถยนต์ฟรี 25 รายการ พร้อมข้อเสนอแคมเปญผ่อนชำระค่าใช้จ่ายงานบริการ ส่วนลดอะไหล่และอัลติเมทแคร์ ตั้งแต่วันนี้ – 30 ธันวาคม 2560 เพื่อเตรียมความพร้อมและสร้างความมั่นใจในทุกการเดินทางก่อนช่วงเทศกาลวันหยุดปีใหม่

รายการตรวจสภาพรถยนต์ฟรี 25 รายการ

1. ตรวจวัดค่าแบตเตอรี่ด้วยเครื่องทดสอบโวลท์ / แอมแปร์ และตรวจเติมน้ำกลั่น
2. ตรวจเติมระดับน้ำในถังสำรองหม้อน้ำและถังเก็บน้ำล้างกระจก
3. ตรวจการรั่วซึมของท่อยางหม้อน้ำ บน / ล่าง
4. ตรวจทำความสะอาดไส้กรองอากาศ
5. ตรวจระดับน้ำมันเครื่อง
6. ตรวจระดับน้ำมันเบรก / คลัทช์ (สำหรับรุ่นที่มี)
7. ตรวจระดับน้ำมัน พวงมาลัยเพาเวอร์ (สำหรับรุ่นที่มี)
8. ตรวจระดับน้ำมันเกียร์
9. ตรวจสภาพสายพานขับด้านนอก
10. ตรวจสภาพยางปัดน้ำฝน
11. ตรวจระดับหัวฉีดน้ำล้างกระจก
12. ตรวจสภาพยาง วัดแรงดัน / เติมลมยาง 5 เส้น
13. ตรวจการทำงานของ ไฟสัญญาณ / ไฟส่องสว่าง
14. ตรวจการทำงานของ เข็มขัดนิรภัย
15. ตรวจการทำงานของ ระยะแป้นเบรก
16. ตรวจการทำงานของ ระยะยกคันโยกเบรกมือ
17. ตรวจการทำงานของ แม่ปั๊มเบรก และหม้อลมเบรก
18. ตรวจการทำงานของ ระบบปรับอากาศ (ความเย็น / ช่องทางลม)
19. ตรวจสภาพของ ท่ออ่อนเบรก 4 ล้อ
20. ตรวจลูกหมากและยางกันฝุ่นแร็คพวงมาลัย
21. ตรวจยางกันฝุ่นเพลาขับด้านซ้าย
22. ตรวจยางกันฝุ่นเพลาขับด้านขวา
23. ตรวจถังน้ำมันเชื้อเพลิง / ท่อ และข้อต่อท่อน้ำมันเชื้อเพลิง
24. ตรวจการทำงานของเครื่องยนต์ รอบเดินเบา / การรั่วซึม
25. ตรวจช่วงล่าง ลูกยาง และลูกหมากต่างๆ

Mazda

Mazda-Car-Check-12-2017

มาสด้าขอขอบคุณทุกความไว้ใจ ที่มอบให้ยนตรกรรม SKYACTIV พร้อมเดินทางเคียงข้างกันตลอดมา… เพียงนำรถมาสด้าเข้ารับบริการที่ศูนย์วันนี้ รับข้อเสนอสุดพิเศษ

  • ทุกสินค้าและบริการ ผ่อน 0% นานสูงสุด 10 เดือน
  • ส่วนลดค่าอะไหล่ที่เข้าร่วมรายการ สูงสุด 40%

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ได้มาสด้าสปีดไลน์ 02-030-5666 หรือที่โชว์รูมมาสด้าทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้ – 31 ธ.ค. 60 นี้เท่านั้น

Isuzu

Isuzu-Car-Check-12-2017

อีซูซุ และ กรมการขนส่งทางบก ร่วมรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุบนท้องถนนด้วยบริการจากใจ “ตรวจรถฟรี ขับขี่ปลอดภัย เทศกาลปีใหม่” ฟรี! ตรวจเช็กสภาพรถเบื้องต้น 19 รายการ ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2560 – 31 มกราคม 2561

– ตรวจเช็กการสตาร์ทเครื่องยนต์
– ตรวจเช็กระบบไฟส่องสว่างและไฟสัญญาณต่างๆ
– ตรวจเช็กการทำงานของแตร
– ตรวจเช็กการทำงานของระบบปรับอากาศ
– ตรวจเช็กระบบปัดน้ำฝน
– ตรวจเช็กการทำงานของเข็มขัดนิรภัยทุกจุด
– ตรวจเช็กระยะและการทำงานของเบรกมือ
– ตรวจเช็กระยะฟรีขาเบรกและการทำงานของเบรก
– ตรวจเช็กระยะฟรีขาคลัตช์และการทำงานของคลัตช์
– ตรวจเช็กสภาพยางและความดันลมยาง
– ตรวจเช็กสภาพและระดับน้ำมันเครื่อง
– ตรวจเช็กสภาพและระดับน้ำมันเบรก/น้ำมันคลัตช์
– ตรวจเช็กสภาพและระดับน้ำหล่อเย็นในถังน้ำพัก
– ตรวจเช็กสภาพและระดับน้ำกลั่นแบตเตอรี่
– ตรวจเช็กสภาพและระดับน้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์
– ตรวจเช็กสภาพและทำความสะอาดไส้กรองอากาศ
– ตรวจเช็กสภาพและความตึงของสายพานเครื่องยนต์ทุกเส้น
– ตรวจเช็กระบบช่วงล่าง บูชยาง ยางกันฝุ่นและลูกหมากต่างๆ
– ตรวจเช็กสภาพและการรั่วซึมของโช้กอัพ

Hyundai

Hyundai-Car-Check-12-2017

บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด ขอมอบความมั่นใจในการขับขี่อย่างปลอดภัยให้สมาชิกครอบครัวฮุนได ในโครงการ “New Year Campaign” “ปีใหม่นี้เดินทางอย่างอุ่นใจ” เตรียมความพร้อมก่อนการเดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่

โดยลูกค้าสามารถนำรถยนต์ฮุนไดเข้ารับบริการตรวจเช็คสภาพรถยนต์ฟรี 40 พร้อมรับส่วนลดพิเศษ 20% สำหรับ ผ้าเบรก ส่วนลดพิเศษ 15% สำหรับไส้กรองอากาศ, ไส้กรองอากาศในตู้แอร์, กรองน้ำมันเชื้อเพลิง, จานเบรก, ใบปัดน้ำฝนหน้าและหลัง, ยางใบปัดน้ำฝนหน้าและหลัง และส่วนลดพิเศษ 10% สำหรับน้ำมันเครื่องเชลล์ ภายในวันที่ 1 ธันวาคม 2560 ถึง 13 มกราคม 2561 (สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมจากศูนย์บริการ)

รายการตรวจเช็คสภาพรถยนต์ฟรี 40 รายการ มีดังต่อไปนี้

1. ตรวจเช็คสัญญาณไฟเตือนแบตเตอรี่ บนแผงมาตรวัดเรือนไมล์
2. ตรวจเช็คสัญญาณไฟเตือนน้ำมันเครื่อง บนแผงมาตรวัดเรือนไมล์
3. ตรวจเช็คสัญญาณไฟเตือนเครื่องยนต์ บนแผงมาตรวัดเรือนไมล์
4. ตรวจเช็คสัญญาณไฟเตือน ABS บนแผงมาตรวัดเรือนไมล์
5. ตรวจเช็คสัญญาณไฟเตือน AIR BAG บนแผงมาตรวัดเรือนไมล์
6. ตรวจเช็คสัญญาณไฟเตือนเบรคมือ บนแผงมาตรวัดเรือนไมล์
7. ตรวจเช็คสัญญาณบอกตำแหน่งเกียร์ออโต บนแผงมาตรวัดเรือนไมล์
8. ตรวจเช็คสัญญาณไฟเลี้ยว บนแผงมาตรวัดเรือนไมล์
9. ตรวจเช็คสัญญาณไฟฉุกเฉิน บนแผงมาตรวัดเรือนไมล์
10. ตรวจเช็คสัญญาณไฟหรี่ บนแผงมาตรวัดเรือนไมล์
11. ตรวจเช็คสัญญาณไฟสูง บนแผงมาตรวัดเรือนไมล์
12. ตรวจเช็คสัญญาณแตร
13. ตรวจเช็คการทำงานปัดน้ำฝนและการฉีดน้ำล้างกระจก
14. ตรวจการทำงานของกระจกประตูไฟฟ้า
15. ตรวจการทำงานของระบบล็อคประตูไฟฟ้า
16. ตรวจการทำงานของกระจกมองข้างไฟฟ้า
17. ตรวจการทำงานของเข็มขัดนิรภัย ด้านคนขับ
18. ตรวจการทำงานของระบบปรับอากาศ และกรองอากาศแอร์
19. ตรวจเช็คเบรคมือ จำนวนคลิก และระดับคันโยก
20. ตรวจการทำงานของเข็มขัดนิรภัย ด้านผู้โดยสาร
21. ตรวจเช็คแบตเตอรี่ (ที่ต้องเติมน้ำกลั่น), การหลวมของขั้วแบตเตอรี่
22. ตรวจเติมระดับน้ำในถังพักหม้อน้ำ
23. ตรวจเติมระดับน้ำในถังพักน้ำล้างกระจก
24. ตรวจทำความสะอาดไส้กรองอากาศ
25. ตรวจระดับน้ำมันเครื่อง
26. ตรวจระดับน้ำมันเบรค
27. ตรวจระดับน้ำมันคลัทช์หรือน้ำมันเกียร์ออโต้
28. ตรวจระดับน้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์
29. ตรวจสภาพของสายพานด้านหน้าเครื่องยนต์ (รอยแตก, ความตึง)
30. ตรวจสภาพยางปัดน้ำฝน
31. ตรวจเช็คสัญญาณของไฟหน้า สูง,ต่ำ รอบตัวถังรถ
32. ตรวจเช็คสัญญาณของไฟเลี้ยว ซ้าย,ขวา ไฟหรี่ รอบตัวถังรถ
33. ตรวจเช็คสัญญาณของไฟเบรค ไฟถอยหลัง รอบตัวถังรถ
34. ตรวจเช็คการหลวมคลอนและเสียหายของ ลูกหมากเหล็กกันโคลง
35. ตรวจเช็คการหลวมคลอนและเสียหายของ ลูกหมากคันชักคันส่ง
36. ตรวจเช็คการหลวมคลอนและเสียหายของ ปีกนกและบู๊ช
37. ตรวจเช็คการรั่วซึมของ โช๊คอัพ หน้าและหลัง
38. ตรวจเช็ครอยแตก ฉีกขาด ของยางหุ้มเพลาขับใน, นอก
39. ตรวจเช็ครอยแตก ฉีกขาด ของยางหุ้มแร็คพวงมาลัย
40. ตรวจเช็คการรั่วซึมของน้ำมันเครื่อง,น้ำมันเกียร์-เฟืองท้าย,น้ำมันเพาเวอร์

กรมการขนส่งทางบก ตรวจรถฟรีขับขี่ปลอดภัย และตั้งจุดให้บริการทั่วไทย

DLT-Free-Check-Car

กิจกรรม “ตรวจรถ “ฟรี” ขับขี่ปลอดภัย” กรมการขนส่งทางบก ร่วมกับภาคเอกชน สมาคม และหน่วยงานต่างๆ อาทิ บริษัทผู้ผลิตและศูนย์บริการตัวแทนจำหน่ายรถยนต์/รถจักรยานยนต์ ศูนย์บริการซ่อมบำรุงรักษารถ ศูนย์ซ่อมรถของบริษัทประกันภัย บริษัทติดตั้งแก๊ส NGV/LPG ในรถยนต์ บริษัทผลิตและศูนย์บริการจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิง สถานตรวจสภาพรถ (ตรอ.) สมาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมกว่า 2,000 แห่งทั่วประเทศ

ให้บริการเช็กความพร้อมรถยนต์และรถจักรยานยนต์โดยไม่คิดค่าบริการจำนวนกว่า 20 รายการ เช่น การตรวจระบบเบรก สภาพยาง อุปกรณ์ปัดน้ำฝน ระดับน้ำมันเครื่องและความสกปรกของน้ำมันเครื่อง ระดับน้ำมันเบรก การทำงานของไฟส่องสว่าง/ไฟสัญญาณต่างๆ เป็นต้น สามารถนำรถเข้ารับบริการฟรี ณ สถานประกอบการที่มีป้ายประชาสัมพันธ์ “ตรวจรถ “ฟรี” ขับขี่ปลอดภัย” ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2560 – 15 มกราคม 2561 ซึ่งจะให้บริการประชาชนทั้งช่วงก่อนการเดินทางเพื่อเตรียมความพร้อมรถ และครอบคลุมถึงช่วงการเดินทางกลับเพื่อตรวจบำรุงรักษารถหลังจากใช้รถทางไกลด้วย

เครือข่ายไหน ตรวจรถ “ฟรี” 20 รายการบ้าง ปักหมุดไว้เลย

-ราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ (ร.ย.ส.ท.)
-สมาคมผู้ประกอบการรถจักรยานยนต์ไทย
-สมาคมตรวจสภาพรถเอกชนไทย
-บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด
-บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด
-บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด
-บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด
-บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด
-บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด
-บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด
-บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด (MG)
-บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด
-บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด
-บริษัท คาวาซากิ มอเตอร์ เอ็นเตอร์ไพรส์ (ประเทศไทย) จำกัด
-บริษัท ไทยซูซูกิมอเตอร์ จำกัด
-บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด
-บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน)
-บริษัท เทเวศประกันภัย จำกัด (มหาชน)
-บริษัท สุวรรณภูมิ เซอร์วิส จำกัด
-บริษัท เอสซีจี ออโต้เซอร์วิส จำกัด
-บริษัท บี-ควิก จำกัด
-บริษัท ฟอร์ซเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด (ศูนย์บริการ AUTOQUIKS)
-บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
-บริษัท เชลส์แห่งประเทศไทย จำกัด
-บริษัท คาร์เวิลด์ คลับ จำกัด

ใกล้ที่ไหน ไปที่นั่น ขอบคุณทุกภาคส่วนที่มีส่วนช่วยในการลดอุบัติเหตุ

5-SUV-PPV-Secondhand-Cars

ขึ้นชื่อว่า “เศรษฐกิจ” ไทย ในเวลานี้แล้ว หลายคนบอกว่าแย่ หลายคนบอกว่าดี แต่ถ้าเราฟังตามเสียงส่วนใหญ่ของคนทั้งประเทศ เขาก็บอกว่าแย่กันทั้งนั้นล่ะ

แผนการที่จะคิดเปลี่ยนรถตอนนี้ บางคนอาจงดซื้อรถใหม่ป้ายแดงไปก่อน โดยอาจจะเลือกซื้อเป็นรถยนต์มือสอง หรือรถบ้านมือสอง แทน เนื่องจากช่วยลดค่างวดที่จะต้องผ่อนรถทุกเดือน และยังได้รถคุณภาพดี ในราคาที่คุ้มค่าสบายกระเป๋าอีกด้ว

สำหรับใครหลายๆ คน ที่ตอนนี้ อาจจะมีครอบครัว หรือมีลูกอยู่แล้ว 1-2 คน แต่ชื่นชอบการท่องเที่ยว ชอบออกไปต่างจังหวัดในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ หรือในช่วงเทศกาลหยุดยาว

Chevrolet-Captiva-2007

รถมือสองที่เหมาะสมกับการใช้งาน ก็คงจะหนีไม่พ้นรถแนว “SUV” (Sport Utility Vehicle) และ “PPV” (รถกระบะดัดแปลง PPV – Pickup Passenger Vehicle ที่กรมสรรพสามิตบ้านเรา สร้างศัพท์บัญญัติขึ้นมารายเดียวในโลก เพื่อใช้เรียกจัดเก็บภาษีรถแนวนี้) ที่ให้ความอเนกประสงค์ สะดวกสบาย ปรับรูปแบบการใช้งานได้หลากหลาย และใช้งานในเมืองก็ลงตัว

หากคุณกำลังตัดสินใจซื้อรถยนต์มือสองซักคัน ถือเป็นอีกตัวเลือกที่ดี เพื่อนำเงินส่วนที่เหลือ ไปผ่อนบ้าน หรือใช้จ่ายในครอบครัว จ่ายค่าเทอมลูก เป็นต้น (แต่คนโสดจะซื้อไปใช้ ก็ได้เช่นกันนะครับ)

MR.CARRO ขอแนะนำรถ SUV และ PPV ที่นั่งได้ตั้งแต่ 5-7 คน ใช้ขนของก็ได้ ไปได้กันทั้งครอบครัว ในราคาตัวรถที่ไม่เกิน 400,000 บาท มาให้ทุกท่านได้พิจารณากันครับ

Toyota-Sport-Rider-2000

1. Toyota Sport Rider

Toyota Sport Rider (โตโยต้า สปอร์ต ไรเดอร์) ในโฉมแรกใช้ชื่อว่า “Hilux Sport Rider” ถือเป็นรถยนต์ PPV แบบ 7 ที่นั่ง ยอดนิยมอีกรุ่นหนึ่งของโตโยต้า พัฒนามาจากรถกระบะรุ่น Hilux Tiger ชื่อรุ่นมาจากภาษาอังกฤษ มีความหมายตรงตัว “Sport Rider” (ผู้ขับสปอร์ต)

Toyota Sport Rider ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงนับตั้งแต่เปิดตัวในเดือนธันวาคม 2541 (และเป็นที่นิยมของขโมยในเวลานั้นด้วย) โดย โตโยต้า เป็นผู้บุกเบิกรถแนวนี้ในเมืองไทย (โดยผลิตที่โรงงาน Thai Auto Works – TAW) ยอดขายแซงรถ SUV แท้ๆ ซะอีก จนค่ายคู่แข่งต้องทำออกมาขายบ้าง มีรูปทรงที่สวยงาม ออกแบบได้อย่างลงตัว แม้ว่าบางมุมมองจะยังคงเหมือนรถกระบะก็ตาม ภายในยกชุดมาจาก Hilux Tiger เพิ่มเบาะนั่งแถวที่ 3

มีให้เลือกกันทั้งในแบบขับเคลื่อนล้อหลัง และแบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และอัตโนมัติ 4 สปีด ECT-i (เฉพาะรุ่นเครื่องยนต์ D-4D ขับเคลื่อนล้อหลัง) …

โฉมแรก เครื่องยนต์มี 2 แบบ ได้แก่ ดีเซลขนาด 3.0 ลิตร รหัส 5L ให้แรงม้าสูงสุด 97 แรงม้า และรหัส 5L-E แบบ 4 สูบ OHC ให้แรงม้าสูงสุด 105 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 20.3 กก.-ม. (200 นิวตัน-เมตร) ที่ 2,600 รอบ/นาที

กลางปี 2543 เพิ่มเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ ขนาด 3.0 ลิตร จากเครื่องยนต์ที่กำเนิดขึ้นเพื่อใช้ใน Off Road รุ่นใหญ่ อย่าง Land Cruiser Prado จนได้รับสมญานามว่า จ้าวแห่งเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ (King of Diesel Turbo Engine) รหัส 1KZ-TE แบบ 4 สูบ OHC ให้แรงม้าสูงสุด 125 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 32.1 กก.-ม. (315 นิวตัน-เมตร) ที่ 2,000 รอบ/นาที สามารถทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ด้วยเวลาเพียง 15.3 วินาที ทำความเร็วได้สูงสุด 160 กม./ชม.

Toyota-Sport-Rider-2002

ช่วงปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ในเดือนกันยายน 2545 ปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่ เทคโนโลยี D-4D มีดังนี้ …

เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ มีขนาด 2.5 ลิตร รหัส 2KD-FTV แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว D-4D ให้แรงม้าสูงสุด 102 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 26.5 กก.-ม. (260 นิวตัน-เมตร) ที่ 1,600-2,400 รอบ/นาที

เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ ขนาด 3.0 ลิตร รหัส 1KD-FTV แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว D-4D ให้แรงม้าสูงสุด 125 แรงม้า ที่ 3,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 32.1 กก.-ม. (315 นิวตัน-เมตร) ที่ 1,800-2,600 รอบ/นาที

โดย Toyota Sport Rider ในตลาดรถมือสอง (ในปี 2563) อยู่ที่ประมาณ 120,000 – 230,000 บาท

สำหรับราคาค่าตัวในเครื่อง 5L เวอร์ชั่นแรกนั้น ไม่แพงนักเมื่อเทียบกับตัวรถ เริ่มต้นประมาณ 1 แสนต้นๆ ส่วนตัวไมเนอร์เชนจ์หลังปี 2545 นั้น บล็อก D4-D อยู่ที่ประมาณ 1 แสนปลายๆ – 2 แสนกลางๆ ตามสภาพ

Isuzu-MU-7-2004

2. Isuzu MU-7

หลังจากที่ Isuzu เห็นรถค่ายคู่แข่งอย่าง … กอบโกยยอดขายรถแนว PPV ไปมากมายแล้ว จึงต้องนำ Isuzu D-Max มาพัฒนาเป็นรถยนต์อเนกประสงค์แบบ 7 ที่นั่ง จนได้ออกมาเป็น “Isuzu MU-7” (อีซูซุ มิว-เซเว่น) ในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2547 ซึ่งออกแบบผลิตและจำหน่ายในประเทศไทยเป็นที่แรกในโลก ตัวรถดัดแปลงได้ใกล้เคียงรถ SUV มาก จากการใช้ระบบส่งกำลังขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา การหดระยะฐานล้อ และปรับระบบรองรับด้านหลัง เป็นแบบคอยล์สปริง

แม้ตัวเลขยอดจำหน่ายจะตามหลังคู่แข่งอยู่พอสมควร แต่ มิว-7 ก็ยังขายได้ดี เพราะมีแบรนด์ Isuzu เป็นการันตี … สำหรับ MU-7 มีการปรับโฉมแทบทุกปี ตั้งแต่รุ่น Gold Series, Platinum Series รวมไปถึงรุ่นพิเศษอย่างรุ่น Limited, Executive, Groove หรือ Choiz เป็นต้น …

ใช้เครื่องยนต์ใหม่ “I-TEQ 3000 Ddi” ขนาด 3.0 ลิตร รหัส 4JJ1-TC แบบ 4 สูบ 16 วาล์ว Super Commonrail Turbo Intercooler ให้แรงม้าสูงสุด 146 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 294 นิวตัน-เมตร ที่ 1,400-3,400 รอบ/นาที ที่ถูกคิดค้นและพัฒนาใหม่หมด

ในโฉมไมเนอร์เชนจ์ เปลี่ยนเครื่องยนต์เป็นขนาด 3.0 ลิตร รหัส 4 JJ1-TCX 3000 Ddi เทอร์โบแปรผัน VGS Turbo และอินเตอร์คูลเลอร์ใหญ่ขึ้น ให้แรงม้าสูงสุด 163 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิด 34.0 กก.-ม. (333 นิวตัน-เมตร) ที่ 1,600-3,200 รอบ/นาที

โดย MU-7 ในตลาดรถมือสอง (ในปี 2563) อยู่ที่ประมาณ 250,000 – 400,000 บาท (หลังรุ่นปี 2009 ราคาจะขึ้นไปมากกว่า 400,000 บาท)

Mitsubishi-G-Wagon-2001

3. Mitsubishi Strada G-Wagon

มิตซูบิชิ เปิดตัว Mitsubishi Strada G-Wagon (มิตซูบิชิ สตราด้า จีวากอน) เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2544 ที่ในเวอร์ชั่นตลาดโลกใช้ชื่อว่า ชาเลนเจอร์ (Challenger) ตัวนี้ใช้พื้นฐานเดียวกับรถกระบะ Strada โดยปรับหน้าตาให้เหมือนกันกับ Strada ซึ่งรุ่นนี้มีการปรับโฉมหน้าตากันอีกหลายครั้ง (ปรับโฉมครั้งที่ 2 ประมาณกลางปี 2546 และสุดท้ายในปี 2548) มีรุ่นพิเศษออกมาเยอะแยะเช่นกัน อาทิเช่น Rally Master หรือ Euro Evolution เป็นต้น

ระยะแรกใช้เครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 2.8 ลิตร รหัส 4M40 แบบ 4 สูบ SOHC 16 วาล์ว ให้แรงม้าสูงสุด 96 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 20.2 กก.-ม. (199 นิวตัน-เมตร) ที่ 2,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด

ช่วงปี 2545 … Strada G-Wagon แนะนำเครื่องยนต์ดีเซลใหม่ ขนาด 2.5 ลิตร รหัส 4D56 แบบ 4 สูบ SOHC 16 วาล์ว VG Turbo Intercooler ให้แรงม้าสูงสุด 116 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 24.4 กก.-ม. (240 นิวตัน-เมตร) ที่ 2,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด

พอเวลาผ่านไป Mitsubishi ก็หันกลับมาใช้เครื่องยนต์รหัส 4M40 แต่เพิ่ม Turbo Intercooler เข้าไป สะใจขาลุย ให้แรงม้าสูงสุด 125 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 29.7 กก.-ม. (291 นิวตัน-เมตร) ที่ 2,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด

โดย Strada G-Wagon ในตลาดรถมือสอง (ในปี 2563) อยู่ที่ประมาณ 150,000 – 250,000 บาท

Honda-CR-V-2002-Thai

4. Honda CR-V (เจเนอเรชั่นที่ 2)

การมาของ “Honda CR-V” (ฮอนด้า ซีอาร์-วี) ที่ทำให้ตลาดรถยนต์ในกลุ่ม SUV ตื่นตัวขึ้นมากกว่าเดิมนับตั้งแต่ในรุ่นแรก โดยโฉมที่ Carro จะแนะนำในครั้งนี้ เป็น ซีอาร์-วี รุ่นที่ 2 ซึ่งเปิดตัวในบ้านเราในเดือนมกราคม 2545 มีให้เลือกทั้งแบบ 5 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง โครงสร้างตัวรถออกแบบขึ้นโดยมี Civic รุ่นที่ 7 เป็นต้นแบบ และได้นำเครื่องยนต์หัวฉีด i-VTEC มาใช้อย่างเต็มรูปแบบทุกรุ่นย่อย …

ใช้เครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร รหัส K20A แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว i-VTEC LEV ให้แรงม้าสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 19.4 กก.-ม. (191 นิวตัน-เมตร) ที่ 4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด

ในรุ่นปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ เปิดตัวไปในบ้านเราเมื่อธันวาคม 2547 … และได้เพิ่มเครื่องยนต์ 2.4 ลิตร เป็นตัวเลือกใหม่ รหัส K24A แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว i-VTEC LEV ให้แรงม้าสูงสุด 160 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 22.4 กก.-ม. (219 นิวตัน-เมตร) ที่ 3,600 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัตโนมัติใหม่ (Real Time 4WD)

โดย Honda CR-V (เจนเนอเรชั่นที่ 2) ในตลาดรถมือสอง (ในปี 2563) อยู่ที่ประมาณ 130,000 – 230,000 บาท

Chevrolet-Captiva-2007

5. Chevrolet Captiva 

Chevrolet Captiva (เชฟโรเลต แคปติวา) เปิดตัวเป็นครั้งแรกในไทยเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2550 เป็นรถ SUV แบบ 7 ที่นั่ง เบาะแถว 2 และ 3 สามารถพับเก็บได้ มีให้เลือกทั้งแบบขับเคลื่อนล้อหน้า และขับเคลื่อน 4 ล้อ ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด แบบ Tiptronic (ต่อมาปรับเป็น 6 สปีด) และถือเป็นรถที่ขายนานที่สุดอีกหนึ่งรุ่นของ Chevrolet

ในรุ่นเครื่อง 2.0 ลิตร จะเป็นเครื่องยนต์แบบดีเซล แบบ 4 สูบ SOHC 16 วาล์ว Turbo แบบแปรผัน ให้แรงม้าสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 32.6 กก.-ม. (320 นิวตันเมตร) ที่ 2,000 รอบ/นาที

ส่วนในรุ่น 2.4 ลิตร จะเป็นเครื่องยนต์เบนซิน แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว Flex Fuel รองรับเชื้อเพลิง E20 และ E85 ให้กำลังสูงสุด 136 แรงม้า ที่ 5,600 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 22.4 กก.-ม. (220 นิวตันเมตร) ที่ 2,200 รอบ/นาที

ภายหลังรุ่นเบนซิน 2.4 ลิตร เปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่ เป็นแบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว Double CVC ให้กำลังสูงสุด 165 แรงม้า ที่ 6,400 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 23.0 กก.-ม. (225 นิวตันเมตร) ที่ 4,600 รอบ/นาที

อีกหนึ่งจุดเด่นที่มาพร้อมกับความจุห้องโดยสารที่มาก เมื่อพับเบาะแถวที่ 3 ลงจะมีปริมาตรในการขนสัมภาระอยู่ที่ 465 ลิตร แต่ถ้าพับเบาะแถวที่ 2 ลงอีก ความจุก็จะเพิ่มเป็น 930 ลิตร

โดย Chevrolet Captiva (โฉมแรก) ในตลาดรถมือสอง (ในปี 2563) อยู่ที่ประมาณ 199,000 – 400,000 บาท (หลังรุ่นปี 2014 ราคาจะขึ้นไปมากกว่า 400,000 บาท)

Ford-Everest-2003

อันนี้แถมให้ครับ … Ford Everest

Ford เปิดตัว Everest (เอเวอเรสต์) PPV 7 ที่นั่งรุ่นแรก ในเดือนมีนาคม 2546 วาระเดียวกับการฉลองครบรอบ 100 ปี ของ ฟอร์ด ซึ่งดัดแปลงมาจากพื้นฐานของกระบะอย่าง “Ranger” โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิต ที่โรงงานออโต้อัลลายแอนซ์ ฟอร์ด ซึ่งใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศมากถึงร้อยละ 80 และตั้งความหวังไว้กับรถรุ่นนี้มาก โดยผลิตเพื่อป้อนตลาดภายในประเทศ และส่งออกไปยัง 50 ประเทศทั่วโลก

เอเวอเรสต์ รุ่นแรก มีให้เลือกทั้งแบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ เครื่องยนต์ยังไม่ใช่คอมมอนเรล แต่ใช้ดีเซลขนาด 2.5 ลิตร รหัส WLT แบบ 4 สูบ Turbo Intercooler ให้แรงม้าสูงสุด 121 แรงม้า ที่ 3,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 27.5 กก.-ม. (270 นิวตัน-เมตร) ที่ 2,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ซึ่งขึ้นชื่อว่าแรงที่สุดในเวลานั้น

หลังจากนั้นได้ปรับปรุงอุปกรณ์ตกแต่งอีกเป็นระยะ โดย Ford Everest (เจนเนอเรชั่นที่ 1) มีอายุรวมในตลาดไม่ถึง 4 ปีดี

โดย Everest (รุ่นก่อนปี 2007) ในตลาดรถมือสอง (ปี 2563) อยู่ที่ประมาณ 200,000 – 270,000 บาท

MR.CARRO หวังว่ารถ SUV และ PPV มือสอง ในราคาคุ้มค่า ไม่เกิน 4 แสนบาท ที่นำมาเสนอนั้น น่าจะถูกใจหลายๆ คนกันนะครับ

ส่วนใครที่อยากขายรถ หรือมีเพื่อนฝูงกำลังหาที่ขายรถอยู่ CARRO เรารับซื้อรถของคุณ สามารถเข้าไปเช็กราคา ตีราคาขายรถก่อนได้ โดยใส่ข้อมูลรถของคุณที่นี่เลย กับ CARRO Express > https://th.carro.co/sell-car/express หรือโทร. 02-508-8425

หรือใครจะ Inbox มาสอบถามก็ได้เช่นกัน ที่ Facebook CARRO Thailand หรือสะดวก Add Line ก็ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ครับ —> เพิ่มเพื่อน

Tips-Tricks-Take-Photo-Night-Portrait

เทคนิคถ่ายรูปไฟคริสต์มาสอย่างไรให้สวย

อย่างที่รู้กันดีว่าทุกปีในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ จะมีดวงไฟสีสันสวยงามประดับประดาอยู่มากมาย ตามหน้าห้างสรรพสินค้าหรือตามสถานที่ต่างๆ ทำให้อยากเก็บภาพบรรยากาศสวยๆ เหล่านี้ ไปอวดเพื่อนๆ ลง Facebook แต่ถ่ายออกมากี่ทีๆ ก็หน้ามืดบ้าง หลุดโฟกัสบ้าง

ซึ่งไม่ต้องกังวลไปเพราะวันนี้ CARRO จะมาบอกเทคนิคการถ่ายภาพกลางคืนกับไฟคริสต์มาส ไม่ให้หน้าไม่มืด แถมมีโบเก้ สวยๆ หลังละลายๆ มาให้คุณได้ทำตามไปพร้อมๆ กัน ไปเริ่มกันเลย

ถ่ายภาพไฟคริสต์มาส

Night Portrait คือ การถ่ายภาพคนในตอนกลางคืน ซึ่งกลางคืนนั้น แสงก็น้อยอยู่แล้ว ตัวที่สามารถช่วยเพิ่มแสงได้คือ แฟลช (Flash) แต่ถ้าใครไม่มีแฟลชแยก ใช้แฟลชหัวกล้องก็ได้

แฟลชหัวกล้อง

ส่วนในการเตรียมอุปกรณ์ ไม่ยากแค่เตรียม

  • กล้องอะไรก็ได้ของคุณ
  • เลนส์ที่มีค่า F น้อย เช่น F1.8 ,F1.4 ,F1.2 ที่เราแนะนำค่า F น้อยๆก็เพราะ ทำให้เห็นโบแก้เยอะๆ
  • แฟลชแยก (ถ้ามี)

ถ่ายภาพไฟคริสต์มาส

วิธี Set อุปกรณ์

  1. ปรับไปที่โหมด M (Manual) เพราะไม่อยากให้แสงสวิง ด้วยการถ่าย Night Portrait จุดต่างๆที่เราจะไปถ่าย อาจไปอยู่ในจุดที่แสงน้อยไปหรือแสงเยอะเกินไป
  2. วัดแสงเฉลี่ยทั้งภาพ
  3. เริ่มต้นการปรับ ISO 100 ก่อน หลังจากเราวัดแสงเสร็จค่อยมาปรับแก้ทีหลังได้
  4. เปิดค่า F ที่น้อยที่สุด เพื่อมีโบเก้ หลังละลายสวยๆ

ถ่ายภาพไฟคริสต์มาส

  1. Speed shutter 1/50 Speed shutter
  2. ตั้งกล้องไปที่ฉากหลัง วัดเรียก Scale วัดแสงขึ้นมาดูว่าแสงอันเดอร์หรือโอเวอร์เกินไปหรือไม่

เทคนิคการชดเชยแสง

  1. ปรับพลังแฟลชให้อยู่ในระดับปานกลาง และปรับมุมหัวแฟลชเป็นตัวสระอา (า) แต่ถ้าไม่มีไม่เป็นไรใช้แฟลชหัวกล้องแทน

แฟลช

แล้วเริ่มลองถ่ายภาพได้เลย สุดท้ายเรื่องที่อยากจะฝากคือ ถ้ากรณีที่ไม่ใช้แฟลชหรือไม่ได้พกมา ก็ต้องดูทิศทางของแสง พยายามหันหน้ารับแสงแบบเฉียงโดยประมาณ 45 องศา เพื่อให้หน้าดูมีมิติ และหาจุดที่มีแสงเพื่อช่วยให้หน้าไม่มืด ส่วนใครไม่อยากอ่าน หรืออยากเห็นภาพจริงว่าถ่ายออกมาเป็นอย่างไร คลิก ดูเป็นแบบวีดิโอได้เลย

ถ่ายภาพไฟคริสต์มาส

ขอขอบคุณข้อมูลจาก LoveToGoDotCOM

Nissan-Juke-Gran-Turismo-Sport

แฟนพันธุ์แท้เกมส์ PlayStation ต้องไม่พลาด! ซื้อ Nissan Juke GT Sport PlayStation แถม PS4 ฟรี! ด้วย

Nissan-Juke-GT-Sport-PlayStation-Head

Nissan Europe (นิสสัน ยุโรป) ร่วมกับ GT Sport เผยโฉม Nissan Juke GT Sport PlayStation (นิสสัน จู๊ค จีที สปอร์ต เพลย์สเตชั่น) รุ่นพิเศษ ต้อนรับการเปิดตัวเกมรถแข่งระดับโลกอย่าง GT Sport ภาคใหม่ล่าสุด สำหรับเครื่องเล่น PlayStation 4 ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 500 คันเท่านั้น

Nissan-Juke-Gran-Turismo-Sport

Nissan-Juke-Gran-Turismo-Sport

 

Nissan Juke GT Sport PlayStation มาพร้อมกับล้อแม็กสีดำ Tokyo Black ขนาด 18 นิ้ว,สติ๊กเกอร์ PlayStation บนตัวถัง, แผ่นรองขอบประตูแบบคาร์บอนไฟเบอร์, โลโก้ GT Sport, พรมปูพื้น และเสาอากาศแบบครีบฉลาม เป็นต้น ส่วนสีตัวถังมีให้เลือกทั้งสีน้ำเงิน Ultramarine Blue หรือ สีขาว Pearl White

Nissan-Juke-Gran-Turismo-Sport

Nissan-Juke-Gran-Turismo-Sport

ลูกค้าที่ซื้อรถ Nissan Juke GT Sport PlayStation รุ่นนี้ ยังได้เครื่องเล่นเกม PlayStation 4 (500GB) และแผ่นเกม GT Sport ไปฟรีๆ อีกด้วย โดยรุ่นพิเศษนี้ จำหน่ายเฉพาะในประเทศสเปน และ โปรตุเกส เท่านั้น ในราคา 22,228 ยูโร

Nissan-Juke-Gran-Turismo-Sport

Nissan-Juke-Gran-Turismo-Sport

สำหรับใครที่กำลังสนใจรถ Nissan Juke รุ่นนี้อยู่ สามารถคลิกเข้าไปดูต่อได้ที่ https://th.carro.co/buycar/Nissan-Juke ได้เลยครับผม

ยกเว้นค่าผ่านทางมอเตอร์เวย์

ครม.จึงเห็นชอบยกเว้นเก็บค่าผ่านทางมอเตอร์เวย์
ระหว่างวันที่ 28 ธ.ค.60 – 4 ม.ค.61

เส้นทางหลวงที่ยกเว้น ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2561 ได้แก่

  • ทางหลวงพิเศษ (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 7 (กรุงเทพฯ-ชลบุรี)
  • ทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 (วงแหวนตะวันออกจากบางปะอิน-บางนา)motorway

 

เริ่มตั้งแต่เวลา 00.01 น. ของวันที่ 28 ธ.ค.60 – 24.00 น. วันที่ 4 ม.ค. 61 รวม 8 วัน รวมรายได้ที่งดเว้นค่าธรรมเนียมเป็นเงินกว่า 156 ล้านบาท เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่

โดยคาดการณ์ว่าปีนี้จะมีปริมาณการจราจรทั้งขาเข้าและขาออกที่ด่านพานทองและทับช้างทั้งสิ้น 4,600,000 คัน หรือเฉลี่ยอยู่ที่ 660,628 คันต่อวัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเทศกาลปีใหม่ 60 ประมาณร้อยละ 0.5 แต่ปริมาณการจราจรภาพรวมปีที่แล้วคาดว่าจะสูงกว่า เนื่องจากงดเว้นค่าธรรมเนียมมากถึง 10 วัน

ด้าน นายสุทธิศักดิ์ วรรธนวินิจ รักษาราชการแทนผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ กทพ. มีมติเมื่อวันที่ 8 พ.ย. ที่ผ่านมา เห็นชอบยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษสายบูรพาวิถี หรือ ทางด่วนสายบางนา-ชลบุรี ในช่วงปีใหม่ 2561 เช่นเดียวกับกรมทางหลวง

ทั้งนี้ สำหรับปริมาณการจราจรได้คาดการณ์จากช่วงที่งดเว้น ค่าผ่านทางช่วงปีใหม่ 60 รวม 642,385 คัน คิดเป็นรายได้มากกว่า 25 ล้านบาท

 

motorway

เช็ครถ ก่อนเดินทาง

เช็กสภาพรถยนต์ของคุณ เพื่อความอุ่นใจ
ก่อนออกเดินทางไกล เที่ยวในวันหยุดยาว

ใกล้ถึงเทศกาลปีใหม่ 2562 แล้ว ปีนี้หยุดยาวได้ถึง 4 วันเต็มๆ หลายคนคงกำลังเก็บกระเป๋า เตรียมตัวเดินทางออกต่างจังหวัด แต่ก่อนออกเดินทางเราควรต้องตรวจเช็คสภาพรถกันเสียก่อน เพราะหากเกิดเหตุอะไรขึ้นมาระหว่าง การไปเที่ยวครั้งนี้คงต้องอดสนุกแน่ ๆ เลย

ฉะนั้นวันนี้ คาร์โร อยากจะแนะนำทริคการตรวจเช็กรถยนต์เบื้องต้น ก่อนออกไปเที่ยววันหยุดยาวกัน

1. เช็กสภาพรถยนต์ขั้นพื้นฐาน
ก่อนออกทริปไปเที่ยวสิ่งแรกที่ควรทำ คือ การตรวจสอบรถยนต์ขั้นพื้นฐานด้วยตัวเอง อย่างเช่น เช็กที่ปัดน้ำฝน ไฟหน้ารถ เช็คระดับน้ำ น้ำมันเครื่อง โช้คอัพ ฯลฯ หรือหากคุณไม่สันทัดในการตรวจเช็กเอง หรือไม่แน่ใจว่าตัวเองทำถูกไหม คุณก็สามารถเอารถไปเข้าศูนย์ที่ใกล้บ้านเพื่อตรวจเช็กระบบต่างๆ

2. การเช็กแบตเตอรี่รถยนต์

การตรวจสอบแบตเตอรี่รถยนต์นั้น ให้ตรวจดูว่าแบตเตอรี่อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานหรือไม่ ? ควรเปลี่ยนแบตเตอรี่แล้วหรือยัง ? มีรอยแตกร้าวหรือเปล่า ? เพราะหากมีรอยแตกร้าว อาจทำให้แบตเตอรี่ไม่เก็บประจุไฟฟ้า

3. ตรวจสอบยางรถยนต์

การตรวจสอบยางรถยนต์นั้นไม่ยาก แค่เช็คดูว่ายางรถพร้อมใช้งานหรือไม่ ? มีดอกยางลึกพอหรือเปล่า ? หากดอกยางตื้นมากแล้ว ควรเปลี่ยนใหม่ก่อนออกทริป ไม่เช่นนั้น หากฝนตก หรือขับลงเขาอาจทำให้เกิดไถลลื่นได้ จนเกิดอุบัติเหตุได้ และควรตรวจเช็คความดันลมยางด้วยนะ

 

เช็ครถ ก่อนเดินทาง

4. ตรวจสอบผ้าเบรก

การตรวจเช็คผ้าเบรกนสามารถทำได้ง่ายๆ โดยการดูความหนาของผ้าเบรกด้วยตาเปล่า ผ้าเบรกที่ดีนั้น ควรมีความหนาไม่น้อยกว่า 4 มิลลิเมตร หรือหากขับรถไปแล้ว มีเสียงดังที่บริเวณจานเบรกของล้อ ก็อาจเป็นสัญญาณว่าผ้าเบรกหมดนั่นเอง

5. เตรียมอุปกรณ์ต่างๆ

กรเตรียมอุปกรณ์ต่างๆ ก็เป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้การดูแลรถเลย ส่วนที่ควรเตรียมคือ ไฟฉาย ชุดปฐมพยาบาลเบื้องต้น ผ้าห่ม เครื่องมือซ่อมรถพื้นฐานให้พร้อม เพราะถ้าเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้นมา อุปกรณ์เหล่านี้สามารถช่วยให้คุณผ่านเหตุการณ์นี้ไปได้

6. เมมเบอร์โทรศัพท์ฉุกเฉิน

เผื่อเหตุการณ์ไม่คาดฝัน อย่างน้อยคุณควรจะมีเบอร์ของตำรวจทางหลวง (1193) ศูนย์อุบัติเหตุบนทางด่วน (1543) สถานีวิทยุ จส. 100 (1137) สถานีวิทยุสวพ. 91 (1644) แจ้งเหตุด่วนเหตุร้าย (191) ดูเบอร์ทั้งหมดต่อได้ที่ คลิกดูเลย

เช็ครถ ก่อนเดินทาง

สุดท้ายสิ่งที่อยากจะฝากคือ ไม่ควรประมาณ และคุณควรเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการขับรถ เพราะถ้าคนไม่พร้อมอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุ ดังนั้น หากตรวจเช็ครถยนต์แล้ว ก็อย่าลืมพักผ่อนให้เพียงพอก่อนการเดินทางด้วยนะคะ
LA-Auto-Show-2017

งานแสดงรถยนต์ยิ่งใหญ่ที่สุดในอเมริกาฝั่งตะวันตก “Los Angeles Auto Show 2017”

Acura-NSX

ประมวลภาพรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุด รถต้นแบบ และอื่นๆ ในงานมหกรรมยานยนต์ “Los Angeles Auto Show 2017” งานแสดงรถยนต์ที่ยิ่งใหญ่สุดในภาคตะวันตกของสหรัฐอเมริกา จัดต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 1907 ถึงปัจจุบัน … ที่แม้ว่างานจะจัดตรงกับงาน Motor Expo 2017 ในบ้านเรา จนข่าวคราวของงานนี้เงียบหายไปบ้าง …

โดยงานนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 – 10 ธันวาคม 2560 ณ LA Convention Center เมือง Los Angeles ประเทศสหรัฐอเมริกา … ทาง CARRO ขอเก็บตกภาพบรรยากาศ พร้อมรถเปิดตัวใหม่มาให้ชมกันครับ

BMW-i8-Roadster

BMW i8 Roadster

BMW-M3-CS

BMW M3 CS

Buick Regal Touring

Chevrolet-Corvette-ZR1-Convertible

Chevrolet Corvette ZR1 Convertible

GMC-Sierra-All-Mountain-Concept

GMC Sierra All Mountain Concept

Hyundai-Kona

Hyundai Kona

Infiniti-QX50

Infiniti QX50

Infiniti-QX80

Infiniti QX80

KIA-Sorento

KIA Sorento

Land-Rover-Range-Rover-SVAutobiography

Land-Rover Range Rover SVAutobiography

Lincoln-Nautilus

Lincoln Nautilus

Maserati-Levante-Nerissimo

Maserati Levante Nerissimo

Mazda6

Mazda6

Mercedes-Benz-CLS

Mercedes-Benz CLS

Nissan-Kicks

Nissan Kicks

Porsche-718-Boxster-GTS

Porsche 718 Boxster GTS

Porsche-718-Cayman-GTS

Porsche 718 Cayman GTS

Saleen-S1

Saleen S1

Subaru-Ascent

Subaru Ascent

Tesla-Model-3

Tesla Model 3

Toyota-FT-AC-Concept

Toyota FT-AC Concept

Volkswagen-I.D.Crozz-Concept

Volkswagen I.D.Crozz Concept

Volvo-XC40

Volvo XC40

ขอบคุณภาพจาก https://www.autoblog.com/

เมืองทอง-ธานี

รวม Event ตลอดเดือนธันวาคม
ย่านเมืองทองธานี

สำหรับใครที่ได้เดินทางไปแวะเวียนแถวเมืองทองธานี เชื่อว่าส่วนใหญ่คุณคงไปเพราะสินค้าลดราคาที่ยังไงก็ต้องไปซื้อให้ได้ หรือมีงานจัดแสดงต่างๆ ที่น่าสนใจในอิมแพค เมืองทอง แต่ไปงานเดียวก็ไม่คุ้มค่ารถ เราจึงได้รวบรวมทุกงาน Event ย่านเมืองทองธานี พร้อมทั้งภาพประกอบ และไฮไลท์ภายในงาน ไปดูกันเลยยยย

  1. งาน  Thailand International Motor Expo 2017 หรือ งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 34

motor expo

เป็นงานแสดงรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และอุปกรณ์ที่เกี่ยวเนื่องยิ่งใหญ่ส่งท้ายปลายปี ภาพรวมการจัดงานปีนี้ยังคงเน้นมาตรฐานการจัดงานระดับสากล ภายใต้แนวคิด “ยานยนต์ยุคใหม่ ฝันไกลที่กลายเป็นจริง” ซึ่งใช้พื้นที่จัดงานรวมทั้งสิ้น 60,000 ตารางเมตร สำหรับจัดแสดงรถยนต์ จักรยานยนต์ เครื่องเสียงรวมถึงจัดกิจกรรมอื่นๆ มากมาย

motor expo

motor Expo

สถานที่ : อาคาร IMPACT Challenger 1-3 เมืองทองธานี
วันจัดแสดง : วันนี์ – 11 ธันวาคม 2560
วันสำหรับบุคคลทั่วไป : วันธรรมดา 12.00 – 22.00 น. ,วันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดราชการ 11.00 – 22.00 น.
วิธีการเข้าชมงานฟรี คลิก

 

  1. งาน X´Mas Sale 2017 ต้อนรับ..วันแห่งการฉลองลด

XMas-Sale-2017

เป็นงานจัดแสดงรวมสินค้าหลากหลายประเภทที่ลดราคา ให้คุณสามารถเลือกช้อปได้อย่างจุใจ โดยแบ่งออกเป็นหมวดๆ ดังนี้

  • Furniture X´Mas Sale เป็นหมวดสินค้าของตกแต่งภายในบ้าน ทั้งเฟอร์นิเจอร์, ชุดรับแขก, ชุดห้องนอน และชุดรับประทานอาหารใหม่ๆ โดยเป็นการรวมสินค้ากว่า 100 โรงงานมาอยู่ที่งานนี้งานเดียว

XMas-Sale-2017

  • Electronics X´Mas Sale  เป็นหมวดเครื่องใช้ไฟฟ้า และเครื่องเสียงใหม่ๆ พร้อมโปรโมชั่นส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ทั้งราคาขายส่ง และราคาขายปลีก ลดถึง 10-80%
  • Fashion and Jewelry X´Mas Sale เป็นหมวดสินค้าแฟชั่น เช่น เสื้อผ้า, เครื่องหนัง, เครื่องประดับ และอัญมณี จิวเวลรี่
  • Wedding X´Mas Sale สำหรับใครที่มีแพลนจะแต่งงาน หมวดนี้เหมาะสุดเพื่อคู่รักคู่วิวาห์ ได้รวบรวมสตูดิโอเเต่งงานชั้นนำพร้อมแพ็คเกจแต่งงานในราคาสุดพิเศษ! ครบทุกความต้องการของคู่รัก คู่วิวาห์ เติมฝันให้เต็ม 100 คู่แรก ด้วยการรับโปรโมชั่นลดราคาสุดเซอร์ไพร์
  • ตลาดน้ำ ตำนานอร่อย ไปงานเดียวเหมือนเที่ยว 10 ตลาดน้ำ เพราะได้ยกมาครบทุกความอร่อย ของกินโบราณ ตำนานขนมไทย อาหารที่หารับประทานได้ยาก ในบรรยากาศย้อนยุค ย้อนสมัย ต้อนรับ..เทศการแห่งความสุข

XMas-Sale-2017 XMas-Sale-2017 XMas-Sale-2017

  • โซนของขวัญ Gifts คริสมาสต์นี้ เติมความสุขมอบสิ่งดีๆให้คนที่คุณรัก กับ สินค้าประเภทของขวัญ, ของที่ระลึก, ของตกแต่งต้อนรับเทศกาล และอื่นๆ
  • โซน DIY Your Street คุณสามารถเลือกซื้อและชมสินค้า ประเภทแฮนด์เมด DIY สุดเก๋ ไม่ว่าจะเป็น กระเป๋า เครื่องประดับ แฟชั่นน่ารักๆ อื่นๆ อีกมากมาย…สุขทั้งผู้ให้ สุขทั้งผู้รับ!

พิเศษ! เพลิดเพลินไปกับศิลปินนักร้องชื่อดัง มาสร้างความสุข สนุกสนาน พร้อมกิจกรรมบนเวที อาทิเช่น การแสดงย้อนยุคในแต่ละภาค, การละเล่นพื้นเมือง และอื่นๆ อีกมากมาย อัดแน่น ตลอด 9 วันเต็ม!

XMas-Sale-2017

สถานที่ :  อาคาร 5-7 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็คเมืองทองธานี
เวลา : 10:30 – 21.00น.
โปรโมชั่น : ช้อปมาก มีสิทธิ์ลุ้นมาก อาทิ ลุ้นรับ X’Mas Gift ของขวัญสุดพิเศษ เพื่อเป็นของขวัญให้กับผู้เข้าชมงาน ยิ่งไปกว่านั้น ! เพียงลงทะเบียนหน้างาน รับฟรี..ขวดน้ำสุดน่ารัก 3,000 ใบ

**เข้าชมฟรี ! ไม่มีค่าใช้จ่าย**

 

  1. Sports World Expo 2017

Sports World Expo 2017

ใครสายกีฬางานนี้ ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง ! เป็นงานมหกรรมลดราคาสินค้าประเภทกีฬา ยกขบวนหลากหลายแบรนด์ชื่อดังมาร่วมรายการมากมาย ลดกระหน่ำสูงสุดถึง 70% พร้อมกับสินค้าลดสุดพิเศษที่ให้สิทธิ์กับผู้ที่มาก่อน ลดตลอดทั้ง 9 วันที่จัดงาน

Sports World Expo 2017 Sports World Expo 2017 Sports World Expo 2017

สถานที่ : อิมแพ็ค เมืองทองธานี ฮอลล์ 4
เวลา : 10:30 – 21.00น. ปิดบริการทุกวัน
โปรโมชั่น : ใครถึงก่อนมีสิทธิ์ได้ซื้อสินค้าราคาที่สุดพิเศษ สามารถดูสินค้าลดราคาได้ ที่นี้

 

  1. เทศกาลกินดื่ม

Kin-Deum-Festival

งานเดียวที่รวบรวมเบียร์ และไวน์ชั้นดีมาจัดแสดงพร้อมจำหน่าย ให้คุณได้ดื่มด่ำความสุขครบรสจากเครื่องดื่มหลากหลายแบรนด์ทั้งไทย และต่างประเทศ รวมถึงสามารถซื้อเครื่องดื่มที่ชื่นชอบกลับบ้านได้ในราคาพิเศษ สำหรับอาหารพบกับเมนูทานคู่เครื่องดื่ม โดยการรังสรรค์ของเชฟออสเตรเลีย “แชรีน” เชฟใหญ่ประจำร้านบรีซ คาเฟ่ แอนด์ บาร์ ให้เลือกลิ้มลองทั้ง ชีส เนื้ออบ ขนมปัง อาหารทะเล ผักผลไม้สด แถมด้วยมุมอาหารแปลกใหม่จากบรรดาฟู้ดทรัคต่างๆ แล้วมาเพิ่มอรรถรสทางอารมณ์กับมุมดนตรีสด เพลงเพราะ ฟังสบายช่วยให้ผ่อนคลาย ปิดท้ายกับมุมช้อปปิ้งตลาดนัดเล็กๆ ที่นำอาหาร เครื่องดื่ม ของฝาก และผลิตภัณฑ์น่าสนใจ เช่น แก้วไวน์ ที่เปิดขวด เปิดไวน์ มาให้เลือกชมเลือกซื้อ ร่วมเพลิดเพลินกับเทศกาลกินดื่ม ในบรรยากาศสบายๆ รายล้อมด้วยทิวทัศน์อันงดงามของทะเลสาบเมืองทองธานี

IMPACT-LakeFron

สถานที่ : อิมแพ็ค เลคฟร้อนท์ ริมทะเลสาบ เมืองทองธานี
เวลา : 16.00-22.00 น. ระหว่างวันที่ 2-17 ธันวาคม 2560
สนใจโทร : 0-2833-5122

 

  1. SmartHeart presents Pet Variety

SmartHeart presents Pet Variety

งานรวมพลสัตว์เลี้ยงน้องใหม่ที่เอาใจคนรักสัตว์โดยเฉพาะ พร้อมต้อนรับพลพรรคคนรักสัตว์ด้วยสัตว์เลี้ยงแสนน่ารักนานาชนิดที่ยกขบวนมาอยู่ภายใต้หลังคาเดียวกัน ตื่นตาตื่นใจกับการประกวดและกิจกรรมสุดพิเศษที่จะโชว์ความสามารถพิเศษของสัตว์เลี้ยงชนิดต่างๆออกมาประชันกันอย่างที่คุณคาดไม่ถึง อีกทั้งเพลิดเพลินกับขบวนพาเหรดสินค้าราคาพิเศษสำหรับสัตว์เลี้ยงมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับที่มีสไตล์ เครื่องแต่งกายที่แสนน่ารัก รวมไปถึงสินค้าที่จะดูแลสุขภาพสัตว์เลี้ยง เชิญร่วมสัมผัสประสบการณ์งานสัตว์เลี้ยงที่สุดแสนจะเด็ดสะระตี่เฉพาะในงานนี้เท่านั้น

SmartHeart presents Pet Variety SmartHeart presents Pet Variety

สถานที่ : Hall 3-4 อิมแพ็ค เมืองทองธานี
เวลา : 10.00-22.00 น. ระหว่างวันที่ 14-17 ธันวาคม 2560
สนใจโทร : 0-2833-5349

Motor-Expo-2017-Booking

บริษัท สื่อสากล จำกัด เผยยอดจองรถยนต์ในงาน Motor Expo 2017 ที่ได้รับการตอบรับดีเยี่ยมเฉกเช่นทุกปี กับยอดจองรถของแต่ละค่ายที่น่าพึงพอใจ … มาดูยอดจองในงานของปีนี้กันเลยครับ

ยอดจองรถยนต์ วันที่ 29 พ.ย. – 11 ธ.ค. 2560 39,832 คัน

ยอดจองรถยนต์ วันที่ 30 พ.ย. – 12 ธ.ค. 2559 32,422 คัน

จากตัวเลขแสดงให้เห็นว่า ยอดจองรถยนต์ในงาน Motor Expo 2017 มีมากกว่าตัวเลขของปีที่แล้วพอสมควร ซึ่งมีแนวโน้มของผู้สนใจ และมีกำลังซื้อ มาจับจองรถยนต์ใหม่กันมากขึ้น

ราคาเฉลี่ยของรถที่ขายได้ในงานเพิ่มขึ้นเป็น 1,271,837 บาท (ปีก่อน 1,177,393 บาท) เงินหมุนเวียนภายในงานราว 52,000 ล้านบาท ผู้เข้าชมงานจำนวน 1,360,605 คน เพิ่มขึ้น 14.2%

Motor-Expo-2017

รถเก๋งได้รับความสนใจสูงสุด มีสัดส่วนยอดขาย 38.7% ลดลงจากปีก่อน (44.1%) แบ่งเป็นเก๋งซีดาน 25% และแฮทช์แบคท้ายลาด 13.7% โดย 5 อันดับแรก ได้แก่ Honda City, Honda Civic, Mazda2, Honda Jazz และ Nissan Note

ขณะที่รถกิจกรรมการแจ้ง (SUV) มีสัดส่วน 33.9% เพิ่มขึ้นจากปีก่อน (25.1%) 5 อันดับแรก ได้แก่ MG ZS, Mitsubishi Pajero Sport, Mazda CX-5, Ford Everest และ Honda HR-V

รถกระบะมีสัดส่วน 17.9% ลดลงจากปีก่อน (20.3%) 5 อันดับแรก ได้แก่ Ford Ranger, Isuzu D-Max, Toyota Hilux Revo, Mitsubishi Triton และ Nissan NP300 Navara

ในส่วนของยอดขายรถจักรยานยนต์ รวม 7,711 คัน สูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้เล็กน้อย อันดับ 1 ได้แก่ GPX 1,115 คัน อันดับ 2 Kawasaki 904 คัน อันดับ 3 Ryuka 831 คัน อันดับ 4 Yamaha 805 คัน และ อันดับ 5 Honda 741 คัน

ยอดจองรถยนต์ 10 อันดับแรกของ Motor Expo 2017 วันที่ 29 พ.ย. – 11 ธ.ค. 2560

1. Honda 6,488 คัน

Honda-Civic

2. Toyota 5,456 คัน

Toyota-Hilux-Revo-Rocco

3. Mazda 5,015 คัน

Mazda-CX-5

4. Isuzu 4,479 คัน

Isuzu-D-Max

5. Mercedes-Benz 2,701 คัน

Mercedes-AMG-GT-R

6, MG 2,366 คัน

MG-ZS

7. Nissan 2,275 คัน

Nissan-Navara

8. Mitsubishi 2,260 คัน

Mitsubishi-Triton-Athlete

9. Ford 2,253 คัน

Ford-Ecosport

10. Suzuki 1,361 คัน

Suzuki-Ciaz

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Motor Expo